9
"พ..พี่ออกไซด์!"
ผมผงะอย่างตกใจเมื่อมือกว้างกระชากผมเข้าไปใกล้จนเซไปด้านหน้าปะทะกับอกกว้าง
"โอ้ยย หัวผม"
"ขอโทษครับๆ เจ็บมากไหม"
"นิดหน่อยฮะ เอ้ย พี่ออกไซด์...ทำไมถึงตื่นล่ะครับ แล้วหมอ อ่อ หมอผมเรียกหมอให้นะครับ"
คนเจ้าเล่ห์บนเตียงส่งสายตาวิบวับมาให้ผมแทนคำตอบพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ห่วงพี่มากเลยเหรอครับ"
"ก็แน่ล่ะสิ พี่ออกไซด์ไม่ตื่นมาหลายวัน ทุกคนใจหายหมดแล้ว อ้ะ ผมไปเรียกคุณแม่กับคนอื่นมาก่อนดีกว่า"
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับ มือกว้างก็คว้ามือทั้งสองข้างของผมไว้แล้วถอดหน้ากากออกซิเจนออกอย่างหงุดหงิดก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมา
"พี่หมายถึงว่า 'แสบซน เป็นห่วง ออกไซด์' ใช่ไหมครับ"
ตาคมมองไม่สิ จ้องมายังตาของผมอย่างหวานเชื่อมจนผมต้องเบนหน้าหนี
"...ครับ..นี่พี่ตื่นตั้งแต่ตอนไหนครับ"
"เอ่อ..ก็เมื่อกี้ไงครับ"
"เอาความจริง"
"แหะๆ ได้สักพักแล้วครับ ก็พี่อยากฟังใครบางครสารภาพนี่..."
"แสดงว่าที่พวกแม่ร้องไห้นั่นก็..."
"ตัวช่วยนิดหน่อยนะครับ..."
ผมตวัดตามองใบหน้าคมกับรอยยิ้มแหยๆนั่นอย่างขุ่นเคือง ให้ตายสิ พี่เค้าวางแผนไว้สินะว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เจ้าเล่ห์ ล้อเล่นกับความรู้สึกนี่ของถนัดเลยใช่ไหม ไอ้พี่ออกไซด์บ้า
"พี่ออกไซด์! ไอ้พี่บ้า ทำไมไม่ตายๆไปเลยฮะ"
ผมสะบัดมือออกจากมือกว้างแล้วทุุบรัวไปยังหน้าออกของคนป่วยอย่างแรงตามความโกรธ
"โอ้ย ซนๆ พี่ขอโทษ โอ้ย เจ็บ"
"ขอโทษเหรอ ใช่สิ พี่จะทำอะไรได้ดีไปกว่าขอโทษ พี่มัน...ฮึ่ย รู้ไหม รู้บ้างไหมว่าผมเจ็บแค่ไหน รู้บ้างไหนฮะ"
"ซน ซนครับ พี่รู้แล้ว พี่ทำให้ซนเจ็บ พี่อยากให้ซนรู้ว่าพี่ก็เจ็บไม่ต่างกันเลยนะครับ"
มือกว้างที่มีบาดแผลเล็กน้อยลูบหัวผมช้าๆอย่างอ่อนโยน ราวกับต้องการให้ผมรู้ว่าพี่เค้าก็เจ็บเมื่อผมเจ็บจริงๆ
"......ซนขออยู่เงียบๆสักพักนะครับ..."
ผมค่อยๆผละออกมาจากอกกว้างแล้วพยายามเข็นรถเข็นออกจากห้องไปด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด
.......ซะเมื่อไหร่กันเล่า
หึหึ
พี่ออกไซด์ ตาผมแกล้งกลับบ้างล่ะ
ผมยิ้มออกมาอย่างสนุกเมื่อคิดแผนการแกล้งพี่ออกไซด์ให้รู้สึกผิดได้สำเร็จ ด้านนอกมีคุณแม่กับพ่อ และไฮร์ยืนอออยู่หน้าห้อง ทั้งสามผงะก่อนจะยิ้มแห้งๆเมื่อเห็นผมเข็นรถออกมา
"ทั้งสามคนครับ..."
"เอ่อ ฟังแม่ก่อนนะลูก"
"พี่ไซด์ให้เราทำนะซนไม่เกี่ยวกับเรา"
"ฟังพ่อก่อนนะลูก"
"ผมจะให้อภัยทุกคน....ก็ต่อเมื่อทุกคนจะช่วยผมในแผนต่อไปนี้......"
Oxide's talk
ผมรู้สึกเหมือนโดนสาปให้แข็งเมื่อร่างบางนั่งรถเข็นด้วยในหน้าเศร้าๆออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองผมสักนิด
อยากจะรั้ง......
แต่แขนขาเหมือนไร้แรง.......
ไม่มีแรงจะขยับ.....
ตาหวานเศร้าที่มองมาที่ผมเหมือนเชือดผมทั้งเป็น....ตอนที่ผมทำร้ายซน ซนก็คงเจ็บไม่ต่างกับผมเลยสักนิด
ห้าวันผ่านไปกับการรอคอยที่จะเห็นร่างบางที่คุ้นเคยเข้ามาเยี่ยมผมบ้าง...แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งไปเมื่อคนที่เปิดประตู้เข้า้มากลับไม่ใช่ร่างบางเลยแม้แต่สักครั้ง
เวลาผมเข้าไปเยี่ยมห้องของแสบซน ซนก็ไม่เคยตื่นเลยสักครั้ง เหมือนจะตั้งเวลาหลับอัตโนมัติเวลาผมเข้าไป
เฮ้อ
แสบซนออกจากโรงพยาบาลวันนี้แล้ว.....สิ่งที่ผมกลัวที่สุดอาจจะเกิดขึ้น...ผมกลัวซนจะหนีไป หนีไปอีกครั้งโดยไม่บอกอะไรผมอีก
.......ถ้าซนหนี ผมก็จะตาม ไม่ว่าจะไปที่ไหน ผมก็จะตามให้เจอ ผมจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปเป็นสิบปีอย่างนี้อีกแล้ว...........
ดูอย่างวันนี้ ซนยังไม่มารับผมออกจากโรงพยาบาลเลย
เวรกรรมที่ต้องชดใช้จริงๆไอ้ออกไซด์เอ้ย
"พ่อครับ เดี๋ยวพ่อช่วยพาผมไปเอาของที่ห้าง....หน่อยได้ไหมครับ"
"อ่อ ได้ๆ แล้วจะเอาอะไรล่ะลูก"
"พอดีผมสั่งทำของไว้น่ะครับ..."
Saeb-son's talk
ผมนั่งถอนหายใจในห้องนอนขณะที่นั่งมองรูปถ่ายของผมและพี่ออกไซด์ที่พึ่งหยิบมาดู วันนี้พี่ออกไซด์ออกจากโรงพยาบาล
ผมเสียใจเล็กน้อยที่วางแผนแก้แค้นพี่ออกไซด์เพราะคุณแม่บอกว่าสภาพพี่ออกไซด์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นั่งมองประตูรอให้ผมเข้ามาตลอดเวลา หลายครั้งที่พี่เค้าเข้ามานั่งกับผมในห้องทั้งๆที่ผมไม่ได้หลับแต่ผมก็แกล้งหลับ อยากรู้ว่าพี่ออกไซด์จะทำยังไง ก็เหมือนเดิมทุกๆครั้ง พี่ออกไซด์ไม่เคยปลุกผมหรือกระชากออกมาจากเตียงให้มานั่งคุยกันดีๆ ที่มากสุดก็แค่ลูบแก้มผมแล้วพึมพัมแต่คำขอโทษ
"เฮ้อ ถ้าผมบอกความจริงว่าผมแค่แกล้งเล่นเอาคืนพี่ พี่จะโกรธผมอีกไหมครับ"
ผมถามออกไซด์ตัวน้อยที่ยิ้มอย่างร่าเริงให้กับกล้องในรูปภาพที่มีแหวนดอกหญ้าหน้าตาบูดๆเบี้ยวๆอยู่ในมือ
"ไม่โกรธครับ แต่พี่จะโกรธถ้าคนดีไม่ยอมมาพูดกับพี่ตรงๆเนี่ยล่ะ"
ผมตกใจจนทำภาพในมือร่วงเมื่อได้ยินเสียงคมเข้มดังมาทางประตู
พี่ออกไซด์ยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าพิงสบายๆ มือข้างนึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าใบหน้าหล่อเหลายังมีแผลอยู่เล็กน้อยแต่ก็เกือบหายสนิท
" คือ ผมขอโทษนะฮะ คือผมแค่อยากแกล้งพี่ออกไซด์บ้าง"
"รู้ไหมพี่กลัวมากแค่ไหนว่าเราจะหนีพี่ไปอีก"
เสียงคมดังขึ้นมาใกล้ๆตัวทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เจอใบหน้าคมอยู่ห่างจากผมไม่มากนัก
"...ผม..."
"แต่สิ่งที่ซนทำไป มันไม่ร้ายกาจเท่าสิ่งที่พี่ทำไปเลยสักนิด พี่น่ะควรเป็นฝ่ายที่ต้องขอโทษเรามากกว่า"
".....”
“พี่รู้ว่าสิ่งที่ทำมันให้อภัยยากมาก แต่ พี่มีคำถามนึงอยากจะถามซนหน่อย...”
พี่ออกไซด์พูดด้วยเสียงเครียดจนผมใจหาย พี่ไซด์ค่อยๆทรุดตัวลงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผมจนผมตกใจรีบขยับจะให้พี่เขาลุกขึ้นมาถ้าไม่ติดกับคำถามที่พี่ออกไซด์พูดออกมา
“แสบซน.....”
“......”
“.............เป็นภรรยาพี่ได้ไหมครับ”
“........”
“........”
ผมถึงกับอึ้งในสิ่งที่พี่ออกไซด์ถามออกมา มือกว้างนำของที่แอบอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มถูกเปิดออกช้าๆ ข้างในเป็นแหวนเงินสองวงที่ดูเรียบง่ายแต่ก็ถูกสั่งทำมาอย่างดี รอบๆแหวนเป็นเส้นเงินเล็กๆขดรอบๆและขดบางที่ให้เป็นทรงดอกไม้สวย
“พี่สั่งทำไว้นานแล้วล่ะ แต่กว่าจะได้แบบที่ถูกใจก็นานพอควรเหมือนกัน พี่อยากให้มันเหมือนแหวนวงแรกที่ซนให้พี่มากที่สุด”
“...ผม...”
“...มันเร็วไปใช่ไหมครับ ไม่เป็นไร พี่ไม่กดดันเราหรอก แต่เราพร้อมเมื่อไหร่ต้องให้คำตอบพี่นะ”
ตาคมวูบไหวลงด้วยความเศร้าก่อนจะยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนมาให้ผม
10 ปี มันมากพอแล้วใช่ไหมครับที่จะรอ
มันนานพอแล้วใช่ไหมครับสำหรับบททดสอบของเราสองคน......
.........
ผมคว้ามือกว้างของพี่ออกไซด์ไว้ก่อนที่เจ้าของใบหน้าคมจะเลิกคิ้วมองผมอย่างสงสัยและมีความหวัง
“...ครับ”
“หืม...เราว่าไงนะ”
“ผมบอกว่าครับ ได้ครับ”
“ฮึๆ พี่ได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกแล้วล่ะครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นจะไปต่อว่าคนเจ้าเล่ห์แต่ก็ไม่สามารถทำได้เมื่อปากเป็นกระจับแดงได้รูปของพี่ออกไซด์ทาบลงมาที่ปากผมพร้อมสอดลิ้นเข้ามาอย่างนุ่มนวล
หอมหวานและเต็มไปด้วยความรัก.....
ไม่ใช่จูบที่รุนแรงและเต็มไปด้วยการแก้แค้น....
ผมเย็นวาบที่นิ้วนางเมื่อมองดูก็พบแหวนที่นิ้วที่คนเอาแต่ใจสวมไว้ตอนจูบเรียบร้อยแล้ว
“จูบมัดจำ”
เสียงทุ้มกระซิบที่หูผมเบาๆพร้อมอ้อมแขนกว้างที่กอดรัดผมเอาไว้
“เป็นของพี่แล้วหนีพี่ไปไหนอีกไม่ได้แล้วนะรู้ไว้ด้วยเลยแสบซนจอมดื้อ”
“ไม่แล้วครับ ไม่หนีแล้ว”
“ถึงหนีพี่ก็จะตาม คราวนี้จะเอามาผูกติดกับเตียงเลยทีเดียวล่ะ”
“ครับ พี่ออกไซด์ก็อย่าไร้เหตุผลมากนักนะครับ”
“ฮ่าๆ คร้าบๆ ยอมเมียหมดแล้วเนี่ย”
“บ้า ยังไม่เป็นสักหน่อย”
“หึๆ รอดไม่นานหรอกเรานะ ......พี่รักเรานะ รักมากจริงๆ”
“ครับ...ผมก็รักพี่”
ความรักที่คอยมานานนับปีของพวกผมได้จบลงแล้วครับ แต่สำหรับใครคนอื่นอาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นก็ได้ ผมหวังให้ทุกคนได้เจอรักแบบผมนะครับ เต็มไปด้วยน้ำตา แต่ก็จบลงด้วยความรักและให้อภัย อ่า ผมพูดน้ำเน่าจัง แต่ทำไงได้ล่ะ นี่นิยายของแสบซนกับออกไซด์นะครับ!
END.
……………………………..
อย่างที่แสบซนบอก สำหรับคนอื่นแล้ว ความสนุกมันเพิ่งเริ้มต้นเท่านั้น!
ประเทศอเมริกาไม่กี่วันก่อนหน้านี้
“บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้!”
“นี่พวกคุณ บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จะถามอีกพันครั้งหรือเอาปืนมาระเบิดกบาลผมพวกคุณก็ไม่ได้คำตอบหรอก”
“หึ แล้วฉันจะเชื่อได้ไงว่านายไม่โกหก”
“มันขึ้นอยู่กับคุณ แต่ถ้าคุณไม่โง่นะ ผมแนะนำให้เอาเงินเยอะๆที่คุณมีไปสืบเถอะ ไม่ใช่จับผมมานั่งตากแอร์แล้วพูดจาวนไปวนมาแบบนี้”
บอร์ดีการ์ดหนุ่มนับสิบชักปืนออกมาเล็งไปที่ร่าสูงเพรียวที่พูดจาต่อปากต่อคำกับเจ้านายของตนอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
“....”
“โอเค ผมรู้ว่าคุณอารมณ์เสีย แทนที่จะเจอสาวน้อยฮาเล็มคนใหม่แต่เป็นไอ้หน้าโง่อย่างผมที่ไม่มีใครแล แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“.....ได้สิ”
“คุณจะให้ผมทำอะไรล่ะงั้น คงไม่เอาผมไปเป็นฮาเล็มของคุณหรอกนะ”
ชายหน่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมหล่อร้ายหาตัวจับยากมองร่างบางแบบประเมิณเล็กน้อย
...ฮึ น่าสนุกดี เป็นเด็กที่ใจเย็นดีแท้....
“ต้องผิดหวังหน่อยเพราะฉันไม่นิยมคนประเภทนาย....สิ่งที่นายทำได้ก็แค่ใช้หนี้แทนเจ้าหนี้คนที่พานายมาที่นี่”
“ใช้หนี้แทนเหรอ แล้วผมจะมีที่อยู่ไหม”
“มี แต่นายต้องทำงานหนักหน่อย ทำได้รึเปล่าล่ะ”
“โอ้ย ชิวๆ ดีจัง ผมจะมีที่อยู่แล้ว ขอบคุณคุณมากๆ”
ร่างเล็กทำหน้าดีใจจนบอร์ดีการ์ดข้างตัวเจ้านายใหญ่แอบนึกขำเล็กน้อย
...เด็กน้อยเอ้ย เข้ามาที่นี่น่ะชีวิตถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะเขตของคุณเดธทามไม่มีคำว่าสวรรค์ทุกที่มีแต่นรก......
เจ้านายหนุ่มผู้มีสักเป็นนักธุรกิจที่ทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เบื้องหลังคือมาเฟียมองรอยยิ้มซื่อของร่างเล็กแล้วคิดอะไรเงียบๆคนเดียวก่อนจะเอ่ยถามออกมาอีกระลอก
“นายชื่ออะไร”
“อ๋อ ลืมบอกไปเลย ผมชื่อเบรฟไนท์ฮะ คุณเจ้านาย”
รอยยิ้มซื่อๆยิ้มออกมาอีกครั้งโดยไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“หึ ฉันทาม เดธทาม”
......อย่างที่บอก มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น!.................