“ รักคืนรัง ”
ตอนที่ 16
“ธรณ์อยากรุกพี่เหรอครับ” ถ้อยคำถามหลุดออกมาจากริมฝีปากหยัก ดวงตาคมพราวระยับท่ามกลางความมืด ที่มีเพียงแสงสีส้มอ่อนจากโคมดวงเล็กส่องมาบริเวณระเบียง
นอกจากคำถามจะฟังดูกวนโมโห ดวงตาพราวระยับนั่นยังทำเอาธรณ์ อิสรพัฒน์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อย ประสบการณ์อันโชกโชนที่ผ่านมาของตนเองแทบจะกลายเป็นติดลบ ยามเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเขตแดน เกียรติณรงค์ ผู้ชายที่ธรณ์เคยนึกค่อนขอดว่าคงจะทำแต่งานจนเป็นสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
เขตแดนปลดมือธรณ์ที่จับคางเขาอยู่ออก แล้วก็ปล่อยมือของธรณ์เป็นอิสระ ดวงตาคมทอดมองธรณ์อย่างนึกเอ็นดู อดีตเพลย์บอยตัวฉกาจสำหรับคนอื่น ยามอยู่ต่อหน้าเขาก็เหมือนแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดา ที่บางทีก็น่าเอ็นดู แต่บางทีก็...
“อื๊อ...”
เขตแดนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อจู่ๆเพลย์บอยตัวฉกาจก็เคลื่อนหน้าเข้ามาจนชิด ก่อนจะฉกริมฝีปากลงมาด้วยความรวดเร็ว ริมฝีปากของธรณ์ประกบแนบแน่นอยู่กับริมฝีปากเขา รับรู้ถึงความนุ่มนวลที่เฝ้าคิดถึงอยู่เสมอ คนที่ริอาจเดินเกมส์รุกขบเม้มจนคนอายุมากกว่าต้องยอมเผยอปากออก แล้วสัมผัสอุ่นร้อนก็สอดแทรกเข้ามาไล่ต้อนเขาเสียเกือบจนมุม
เขตแดนยอมรับเลยว่า...ธรณ์จูบเก่งจนน่ากลัว!! วูบหนึ่งที่เขตแดนรู้สึกหงุดหงิด เมื่อต้องมาคิดหาคำตอบว่า ริมฝีปากที่กำลังแนบสนิทชิดกับริมฝีปากของเขา เคยผ่านริมฝีปากคนอื่นมากี่คนแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดจนอยากจะลบทุกร่องรอย ลบทุกสัมผัส ลบเลือนทุกภาพความทรงจำของธรณ์กับคนอื่น
เขตแดนดึงธรณ์เข้ามาชิด จนรับรู้ถึงแรงสะท้อนที่แผ่นอก เขาช่วงชิงจังหวะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมส์ บดริมฝีปากลงกับปากของธรณ์แนบแน่น จนรู้สึกถึงแรงทุบที่หน้าอกเพราะอีกคนจวนเจียนจะขาดใจ ถึงยอมผละออกมามองตากันคล้ายจะหยั่งเชิง ก่อนที่เขตแดนจะแกล้งถามซ้ำ
“จะรุกพี่เหรอครับ...”
ธรณ์กำลังจะพยักหน้า แต่พอเหลือบตาดูเห็นสภาพของตนเองก็ต้องเบิกตากว้าง ตอนแรกเขาเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเขตแดนก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขากำลังถูกเขตแดนกอดอยู่ ธรณ์ขยับจะดันตัวเองออกจากอ้อมแขนของเขตแดน แต่อ้อมกอดที่เห็นว่าหลวมๆ กลับแข็งแรงเสียจนเขาต้องยอมจำนนอยู่ที่เดิม
“พี่เขตต์...” ธรณ์เรียกชื่อคนที่นั่งทำตาพราวเสียงขุ่น
“ครับ?”
“ไหนบอกว่าจะให้ผมเป็นฝ่ายรุกยังไงล่ะ”
“อย่ามาตู่ครับธรณ์ พี่แค่ถามว่าอยากรุกพี่เหรอ ไม่ได้แปลว่าจะให้ธรณ์รุกพี่”
คราวนี้คนที่ถูกกอดเอาไว้เลยดันเจ้าของอ้อมกอดออกเต็มแรง แต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน ก็ถูกเขตแดนรั้งกลับเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดหลวมๆเหมือนเดิม ปลายนิ้วของเขตแดนไล้ไปตามเรียวปากที่แดงเจ่ออย่างอ่อนโยน แม้จะเป็นสัมผัสที่แผ่วเบา แต่ก็ทำเอาหัวใจของใครบางคนสะท้านด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น
ริมฝีปากหยักทาบทับลงมาอีกรอบ ไม่รีบร้อน ไม่เร่งเร้า มีแต่ความนุ่มนวลและอ่อนโยน จนธรณ์เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เขตแดนมอบให้ ได้แต่ปล่อยตัวอยู่ในอ้อมกอดที่โหยหามาตลอดอย่างเต็มใจ ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะนึกถึงอะไรอีก ขอแค่นี้...แค่อ้อมกอดที่เป็นของเขา
“ให้พี่ดูแลธรณ์นะ...”
ธรณ์กระชับอ้อมกอดแน่นแทนคำตอบ ซึมซับทุกความอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดผ่านมาทางอ้อมกอดของเขตแดน ไม่ใช่อ้อมกอดของพี่เขตต์คนเก่า เพราะพี่เขตต์คนนี้ไม่ได้เห็นธรณ์เป็นแค่น้องชายอีกต่อไป อ้อมกอดที่มีให้จึงอุ่นกว่าเดิม อุ่น...จนไม่อยากให้ปล่อย
ไม่รู้ว่าทุกอย่างระหว่างเราสองคน...เปลี่ยนไปเมื่อไหร่
แต่รู้ว่ากลายเป็นความสุขที่เข้ามา...อยู่แทนความเหงาในหัวใจ
เมื่อก่อนฉันยังเคยค้นหาคำตอบ...ว่าจะมีบางคนเกิดมาเพื่อฉันไหม
แล้วก็ได้เข้าใจ...วันนี้เมื่อฉันมีเธอ
[คำตอบของหัวใจ - Potato]
====================
หลังจากนอนกอดกันจนหลับปุ๋ย ธรณ์ก็งัวเงียตื่นมาอีกทีตอนสาย ตื่นมาก็เหมือนเช้าวันก่อน เขตแดนที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วกำลังจัดของอยู่ พอหันมาเห็นคนที่นั่งหัวฟูอยู่บนเตียง รอยยิ้มก็ปรากฏอยู่บนดวงหน้าคมด้วยความเอ็นดู ก่อนจะถือวิสาสะเดินมาจูบปากคนที่เพิ่งตื่นเบาๆ เรียกอาการตาสว่างจากคนที่กำลังงัวเงียทันที
“ฮื๊อ...พี่เขตต์...”
ถึงจะอยากประท้วงก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนที่อุกอาจมาขโมยจูบแรกของวัน เดินกลับไปเก็บของต่อแถมยังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จนคนถูกปล้นจูบแต่เช้านึกหมั่นไส้ โยนหมอนตามหลังไป แล้วก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำก่อนที่อีกคนจะทันเดินมาเอาคืน
ตอนที่ธรณ์เดินออกมาจากห้องน้ำ เขตแดนก็กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ข้าวของน้อยนิดที่มาแวะซื้อเอาระหว่างทางก็เก็บเรียบร้อยแล้ว ธรณ์เหลือบตามองคนที่ทำเป็นวางมาดอ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ย่นจมูก เห็นมาดนิ่งๆ วันๆเอาแต่นั่งทำงาน ใครเลยจะรู้ว่าความจริงแล้วเจ้าเล่ห์ขนาดไหน
เมื่อคืนทำเขาอายไม่พอ ตื่นเช้ามาก็ยังทำเขาอายอีก อย่านะ...อย่าให้ใครมาเห็นธรณ์ อิสรพัฒน์ตอนนี้เลย ให้เขตแดนได้เห็นคนเดียวเถอะ ธรณ์ที่ไร้เขี้ยวเล็บและพิษสงแบบนี้ คิดๆแล้ว เพลย์บอยหนุ่มก็นึกอยากเอาคืนคนที่ทำเป็นนั่งเก๊กอยู่เหมือนกัน
“ตกลงพี่เขตต์เป็นเกย์จริงๆด้วยสินะ”
คำถามจากคนที่ยืนเช็ดผมอยู่ ทำเอาเขตแดนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ต้องรีบเงยหน้ามามอง เห็นแววตาของคนถามก็รู้ทันทีว่าอีกคนอยากจะเอาคืน
“ก็เป็นกับธรณ์คนเดียวนั่นแหล่ะ”
นอกจากลูกกระสุนดอกแรกที่ยิงออกไปจะไม่เข้าเป้า ยังถูกยิงสวนกลับมาให้ธรณ์ไปต่อไม่ถูก พอคลำหาลิ้นของตัวเองเจอแล้ว เลยต้องรีบสวนกลับทันควันก่อนที่เขตแดนจะทำคะแนนนำ
“ก็ว่าแล้ว...เห็นไม่เคยมีแฟน ไม่เคยยุ่งกับใคร ที่แท้ก็เป็นเกย์นี่เอง”
“ไม่รู้ว่าจะเรียกเกย์ได้หรือเปล่านะ เพราะบังเอิญว่าผู้ชายที่พี่ชอบดันมีแค่ธรณ์คนเดียวน่ะสิ” ถ้ากระสุนลูกแรกถูกยิงสวนกลับมา ลูกที่สองคงเรียกว่าทะลุเข้ากลางอกของธรณ์ ให้ได้เกิดอาการโลหิตสูบฉีดทั่วหน้า นี่ใช่ไหมที่เขาว่ากันว่า พวกนิ่งๆมักจะหมัดหนัก แทบจะทำเขาน็อคเลยทีเดียว แต่คนอย่างธรณ์ อิสรพัฒน์เสียอย่าง ลองส่งกระสุนออกไปอีกซักลูกจะเป็นไรไป
“อย่าบอกนะว่าผมเป็นคนทำให้พี่เขตต์เป็นเกย์”
“ไม่รู้เหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆก็ชอบวิ่งตาม โตมาก็ชอบเรียกร้องความสนใจ รู้สึกตัวอีกที...ก็ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้แล้ว ทำให้พี่เป็นเกย์แล้ว รับผิดชอบด้วยนะครับ”
คราวนี้โดนเต็มๆเลย ดวงตาวิบวับของเขตแดนที่บอกให้ธรณ์รับผิดชอบ มันสื่อความนัยมากมายซะจนคนที่ตั้งใจว่าจะเอาคืน ต้องเป็นฝ่ายกระดากอายเสียเอง ไม่ต้องเสียเวลาตีความ ไม่ต้องคิดไปเอง แค่มองตาคนที่พูดน้อยต่อยหนัก ธรณ์ก็รู้ซึ้งถึงความหมายที่อีกคนต้องการบอกเป็นอย่างดี สุดท้ายเมื่อไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไร ก็ต้องใช้ลูกไม้เก่าๆ
“ผมหิวแล้ว ไปกินข้าวดีกว่า”
เขตแดนเองก็ไม่คิดจะรั้งคนที่อ้างว่าหิว แค่เห็นหน้าขาวๆนั่นซับสีเลือด ก็พลอยทำให้เขาอารมณ์ดีได้ตลอดวันแล้ว ถ้ารู้ว่าเวลาธรณ์เขินแล้วจะน่ามองขนาดนี้ เขตแดนอยากจะทำให้ธรณ์เขินซักวันละร้อยรอบ
====================
ทางโรงแรมเตรียมบุฟเฟ่ต์แบบอเมริกันเอาไว้สำหรับแขกที่มาพัก คนที่ไม่พิสมัยอาหารฝรั่งอย่างเขตแดนเลยนั่งจิบกาแฟกับขนมปัง ผิดกับธรณ์ที่เจริญอาหารเป็นปกติ จนคนร่วมโต๊ะนั่งมองเพลิน ตักมากี่อย่างต่อกี่อย่างก็หายวับเข้าปากธรณ์เสียหมด เหมือนคนถูกมองเองก็จะรู้ตัว เลยเอ่ยปากถามแก้กระดาก
“พี่เขตต์กินแค่ขนมปังกับกาแฟอยู่ท้องเหรอ เอาอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวผมไปตักมาเผื่อก็ได้”
เขตแดนก็อยากจะตอบรับไมตรีของธรณ์ แต่ไม่ได้รู้สึกอยากกินอะไรจริงๆจังๆ เลยต้องส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอก พี่ไม่ค่อยชอบอาหารฝรั่ง นั่งดูธรณ์กินก็อิ่มแล้ว กินซะอร่อยเชียว”
“เดี๋ยวก็หิวกลางทางหรอก”
“ไม่เป็นไร ยังไงเดี๋ยวเราก็ต้องแวะตลาดหนองมนกันอยู่แล้ว รู้จักหรือเปล่า...ข้าวหลามหนองมนน่ะ ของโปรดธรณ์เลยนะ”
พอพูดถึงข้าวหลาม คนที่นั่งกินข้าวอยู่ก็ถึงกับวางช้อนทำตาวาวทันที นอกจากจะดีใจที่จะได้กินข้าวหลามของโปรดแล้ว ยังดีใจที่เขตแดนยังจำได้ว่าธรณ์ชอบกินข้าวหลามมากแค่ไหน แถมคนความจำดียังอุตส่าห์ย้ำให้ธรณ์ดีใจเพิ่มว่า...
“สมัยก่อนนะ เด็กบางคนชอบกินแต่กะทิ แล้ววิ่งเอาข้าวเหนียวมาให้พี่กิน ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังเป็นอยู่หรือเปล่า”
ธรณ์เกาหัวแก้เก้อทันที รู้สึกว่าความจำของเขตแดนจะดีเกินไปแล้ว ไม่อยากจะบอกหรอกว่า ถึงเดี๋ยวนี้เขาก็ยังชอบกินแต่กะทิอยู่ดี สมัยก่อนตอนเป็นเด็ก คุณสงครามมักจะเตรียมข้าวหลามเอาไว้ให้ธรณ์เสมอ เพราะรู้ดีว่าเด็กชายธรณ์โปรดปรานมากแค่ไหน แต่ปัญหามันดันอยู่ที่ว่า เด็กชายธรณ์เขาชอบกินแต่กะทิ พอตักกะทิเข้าปากจนหมด ก็หอบกระบอกข้าวหลามที่เหลือ วิ่งโร่เอาข้าวเหนียวไปให้พี่เขตต์รับผิดชอบ
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าซื้อข้าวหลามมาพี่เขตต์ต้องช่วยผมกินข้าวเหนียวด้วยนะ”
“แล้วพี่เคยไม่ตามใจธรณ์ด้วยเหรอ”
คำตอบคือไม่เลย ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ถึงเด็กชายเขตแดนจะบ่นเรื่องข้าวหลามที่เหลือแต่ข้าวเหนียว แต่ธรณ์ก็เห็นอีกฝ่ายจ้วงเข้าปากจนหมดกระบอก จนบางทีธรณ์ยังนึกว่า พี่เขตต์คงจะชอบกินข้าวเหนียวน่าดู หารู้ไม่ว่าเขตแดนไม่ได้ชอบกินข้าวเหนียว แต่ไม่อยากเห็นเด็กบางคนทำหน้าเบะ เพราะอยากกินกะทิ แต่ไม่มีคนกินข้าวเหนียวให้ แล้วถ้ากินกะทิเพียงอย่างเดียว ก็ไม่พ้นว่าจะต้องถูกผู้เป็นพ่อดุเอาแน่ๆ
“เดี๋ยวผมจะซื้อเยอะๆเลย อยากรู้ว่าจะตามใจกี่กระบอก”
เขตแดนหัวเราะออกมาก่อนจะลูบหัวธรณ์เบาๆ ต่างคนต่างก็รู้ดีว่าความสุขที่ไขว่คว้าหามานาน สุดท้ายกลับอยู่ใกล้ๆ...เพียงแค่หยุดเอื้อม ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายให้ลำบาก
เขตแดนนั่งรอให้ธรณ์ไปตักอาหารจานสุดท้ายมา พอธรณ์มาถึงเขาก็เลยลุกขึ้น เห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยความสงสัยเลยต้องรีบเฉลยออกมา
“เดี๋ยวพี่ไปจัดการเช็คเอาท์ห้องพักก่อน ถ้ากินเสร็จแล้วก็ตามมาที่รถเลยนะ เราจะได้ไม่เสียเวลา”
ลับร่างของเขตแดนแล้ว ธรณ์ก็หันมาสาละวนกับอาหารที่เพิ่งตักมาพูนจาน กินเสร็จก็จะได้รีบตามเขตแดนไปที่รถ ไม่อยากจะกินเยอะเท่าไหร่ เพราะยังไงก็ต้องเก็บท้องไว้สำหรับข้าวหลามของโปรดอีก
คนที่กำลังนั่งกินอาหารเช้าอย่างอารมณ์ดีไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ภาพความสนิทสนมระหว่างเขากับเขตแดนเมื่อครู่ ไม่สิ! ต้องเรียกว่าตั้งแต่เข้าพักถึงจะถูก ได้ตกอยู่ในสายตาของใครบางคนตลอด
“คุณเขตแดนกับคุณธรณ์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯวันนี้ครับ ตอนนี้คุณเขตแดนกำลังทำเรื่องเช็คเอาท์อยู่ คุณผู้หญิงจะกลับเลยไหมครับ”
ดวงตาเรียวหลังแว่นกันแดดสีเข้มปรายตามองคนพูดคล้ายจะตำหนิ
“กลับสิ! ลูกชายฉันไม่อยู่ แล้วฉันจะอยู่ไปทำไม”
“ครับ เดี๋ยวผมจะบอกให้คนของเราเตรียมรถไว้ครับ”
“เดี๋ยวก่อน! คอยดูแลสองคนนั้นอย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาดเลยนะ”
ร่างระหงของสตรีที่ดูสาวสะพรั่งกว่าอายุจริง แต่งกายด้วยชุดเดรสลายดอกสีสด สวมหมวกปีกกว้างกับแว่นกันแดดจนดูกลมกลืนกับบรรดานักท่องเที่ยว ดวงตาหลังแว่นกันแดดสีเข้มยังคงจับจ้องไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตามลำพัง
ที่กลับมาเหยียบประเทศไทย ก็เพราะธุระส่วนตัว แต่กลับมาเจอลูกชายคนเดียวเข้า ตอนแรกก็ไม่คิดว่าลูกชายคนเดียวจะมีรสนิยมที่ผิดปกติ แต่เท่าที่คอยจับตามองและยังส่งคนคอยตาม ดูยังไงก็ไม่ผิดแน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่มีให้กัน ยังไงก็ไม่มีทางเป็นแค่พี่น้อง
...เพราะคงไม่มีพี่น้องคนไหนจูบกัน...====================
พอขับรถออกมาจากรีสอร์ท เขตแดนก็พาธรณ์มาแวะที่ตลาดหนองมนตามที่บอก และจากประสบการณ์ที่เคยพาธรณ์เที่ยวตลาดน้ำแล้ว เขตแดนก็พอจะคาดเดาเหตุการณ์ได้เลาๆ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ไม่ผิดไปจากที่เขตแดนคาดคิดซักเท่าไหร่
ธรณ์ดูตื่นตาตื่นใจกับของที่วางขาย ตามประสาคนที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปไหน เห็นอะไรก็อยากซื้ออยากได้ไปเสียหมด ยิ่งเจอกลยุทธ์การขายข้าวหลามของแม่ค้า ที่บางเจ้าก็บอกว่า 4 กระบอกแถม 1 กระบอกบ้างล่ะ บ้างเจ้าก็บอกว่า 7 กระบอก แถม 2 กระบอกบ้างล่ะ รู้ตัวอีกทีเขตแดนก็ต้องรีบเบรกธรณ์ ก่อนที่จะถือของกันไม่หวาดไม่ไหว
“พอได้แล้วมั้ง ที่มีอยู่ก็กินแทบจะไม่หมดแล้ว” ไม่พูดเปล่า เขตแดนยังชูสองมือที่มีแต่ถุงบรรจุกระบอกข้าวหลามให้ธรณ์ดู
“เอาน่าพี่เขตต์ ธรณ์ไม่ได้กินคนเดียวซะหน่อย เดี๋ยวฝากป้าอุ่น ฝากชิน ฝากคุณเวธน์ ฝาก...” ธรณ์ร่ายชื่อยาวจนเขตแดนต้องยกมือยอมแพ้ แต่ไม่วายแอบกัดนิดๆ
“ฝากข้าวหลามนะ ไม่ใช่ข้าวเหนียว”
“รู้แล้วครับ ข้าวเหนียวน่ะ ผมเก็บไว้ให้พี่เขตต์กินคนเดียวเลย”
เขตแดนส่ายหน้าเบาๆอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ธรณ์ก็ยิ้มแป้น รอบข้างก็มีเสียงแม่ค้าพ่อค้าตะโกนเรียกลูกค้าเป็นระยะ ดูท่าแล้วเดี๋ยวธรณ์คงจะได้ซื้อต่อแน่ๆ
“จะซื้อต่อก็ตามใจ แต่เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บที่รถก่อน ถือไม่ไหวแล้ว”
“ให้ผมไปด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก ธรณ์รออยู่ตรงนี้แหล่ะ พี่ไปแปบเดียวเอง”
ธรณ์ยิ้มรับ แล้วก็เลิกสนใจเขตแดน เพราะของกินตรงหน้ามันน่าสนใจกว่าอีก ข้าวหลามซื้อไปแล้ว พวกของแห้งก็ดูน่าสนใจเหมือนกัน ยิ่งแม่ค้าตะโกนเรียกว่า...
“พ่อรูปหล่อ เอาปลาหมึกกับกุ้งแห้งไหมลูก เดี๋ยวป้าลดให้”
ไหนๆป้าแกก็อุตส่าห์ชม จะปฏิเสธให้ป้าแกเสียน้ำใจก็ใช่เรื่อง ธรณ์เลยชะโงกหน้าเข้าไปดูที่แผงของป้าแก ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า พอเขตแดนกลับมาอีกทีเขาก็แทบอยากจะเอามือก่ายหน้าผาก
“อะไรเนี่ย!” เขตแดนอุทานออกมา ก่อนจะมองถุงในมือธรณ์เป็นเชิงถาม
“ปลาหมึกหนึ่งกิโล กุ้งแห้งครึ่งกิโล แล้วก็กล้วยฉาบอีกหนึ่งกิโลครับ”
“รู้แล้ว แต่ซื้อมาทำไมเยอะแยะล่ะ”
“ป้าเขาบอกว่าเก็บไว้ได้นาน เดี๋ยวผมให้ป้าอุ่นเอาไปทำยำปลาหมึกกับยำกุ้งแห้งก็ได้ ชิมไหม...อร่อยนะ” กุ้งแห้งตัวเล็กถูกยื่นมาจ่อปากให้เขตแดนอ้าปากรับไปเคี้ยวงับๆ
กุ้งแห้งมันก็อร่อยจริงอย่างที่ธรณ์บอก โดยเฉพาะตอนที่มีคนมาป้อนถึงปาก แต่ให้ตายเถอะ...เขตแดนยังไม่รู้ว่าป้าอุ่นเรือนจะต้องทำยำปลาหมึกกับยำกุ้งแห้งกี่จานกัน กว่าปลาหมึกกับกุ้งแห้งที่ธรณ์ซื้อมาถึงจะหมด เผลอๆหน้าเขากับธรณ์อาจจะกลายเป็นปลาหมึกกับกุ้งแห้งไปก่อนแน่ๆ แต่เห็นหน้าคนช่างซื้อแล้วก็โกรธไม่ลง
ขึ้นรถมา ธรณ์ก็แกะกล้วยฉาบมากิน ป้อนตัวเองบ้างป้อนเขตแดนบ้าง จนเขตแดนอดคิดไม่ได้ว่า กล้วยฉาบที่กินอยู่มันดูหวานกว่าปกติหรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากจะแซวให้อีกคนอาย เดี๋ยวจะได้นั่งขับรถปากว่างๆ เพราะคนป้อนไม่ยอมป้อนต่อ
ถ้าถามว่ามีความสุขไหม เขตแดนตอบได้เลยว่าความสุขมาก มากจนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้นานๆ เหลือบตามองคนที่กำลังมีความสุขกับกล้วยฉาบก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาบางๆ
อยากให้ความสุข...อยู่กับเราสองคนตลอดไป====================
[มีต่อนะคะ]