★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 166693 ครั้ง)

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :pig4: อ่านตอนกลางคืนคือต้องหยุดอ่านแล้วมาอ่าสต่อตอนเช้า

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สายกินของแท้เลยยยย พ่อกับแฟนสปอล์ยหนักเวอร์​กว่าจะจบเรื่องพยู ปิงต้องอ้วนเอาเท่าไหร่55555

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ขอให้การทำพิธีส่งดวงวิญญาณของน้องพยูและคุณพ่อสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะ

พ่อกับแม่ของพี่สิงมาแล้ว ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมกันสักที เดี๋ยวพอได้มาเจอกับครอบครัวของปิงคงจะเข้ากันได้ดีเชียว

ปล.ปีกไก่และขนมจีนน้ำยาน่ากินมาก

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
จะผ่านไปด้วยดีใช่มั้ยเนี่ย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
สิงกับปิงน่ารักมากค่ะ แอบหวานนิดๆ :o8:

สงสารน้องกับพ่อ ขอให้ทำพิธีสำเร็จด้วยเถอะค่ะ :monkeysad:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอให้น้องพยูกับพ่อหลุดพ้นจากตรงนี้หวังว่าทุกคนจะมาถูกทาง / เอ็นดูเจ้าเด็กกินขนมจีนจังจากครึ่งจับผักเยอะจนไม่เห็นเส้นเลยตักเพิ่มลูกเอ้ยยย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอให้น้องพยูกับคุณพ่อพ้นทุกข์เร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สงสารสองพ่อลูกจิงๆ​ ขอให้ช่วยได้​  ชวินจะได้สบายใจซะที

ออฟไลน์ baka_bunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
พออ่านมาถึงตอนท้ายที่บอกว่าใกล้จบแล้วใจหายเลยรู้สึกว่าเพิ่งอ่านไปเองนะคะ แล้วพอย้อนกลับไปดูตอนอ้าวววเราอ่านมา 19 ตอนแล้วหรอเนี้ยเร็วจัง   :a5:

นี่ก็หวังว่าน้องพยูและพ่อจะไปสู่สูขตินะคะ  :sad11:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
อ่านไปอ่านมาสงสารน้องพยูจัง
กลายเป็นลุ้นเรื่องน้องพยู มากกว่าลุ้นเรื่องสิงปิงไปแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :katai5: มารอจ้ะ

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/



20. ครอบครัว


เมืองหลวงของประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องรถติด ติดไปทุกหนแห่ง ซอยเล็กซอยน้อย ถนนสองเลนสี่เลน แม้แต่ทางด่วนก็ยังติด สิงหาที่มีคนขับรถให้จนเริ่มชินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องมาขับเอง แต่มากกว่านั้นก็กังวลถึงผู้โดยสารอีกสองคนที่นั่งอุดอู้มากว่าชั่วโมงแล้ว

“จากไปตั้งนาน กลับมาก็ยังติดเหมือนเดิม” แม่สิงหานั่งที่เบาะหลังคนขับบ่นออกมา มองไปด้านนอกก็มีแต่รถและรถ คนอยู่กับต้นไม้ดอกไม้มานานแบบเธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยชิน ไม่รู้สามีเธอจะโอเคกับที่นี่หรือเปล่า

“หิวข้าวกันรึยังครับ แวะหาอะไรกินแถวนี้ก่อนดีไหมแม่” สิงหาสบตาแม่ในกระจกมองหลัง เดิมทีเขาอยากพาพ่อแม่กลับไปพักผ่อนที่คอนโดฯ เลย นั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงจะได้ผ่อนคลาย แต่แม่อยากไปบ้านเก่า ไปไหว้อัฐิตายายที่ยังเก็บไว้ในห้องพระที่นั่น

“ที่รักว่าไงคะ หิวรึยัง” เธอเอื้อมมือแตะไหล่สามีที่อมยิ้มมองรอบตัวอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว

“หาอะไรกินแถวๆ นี้ก็ได้สิง แม่ลูกเป็นไข้ ต้องกินยานะ” ลีโอจับมืออุ่นๆ ของภรรยาแล้วถือโอกาสฟ้องลูกชาย

“อ้าว แม่ทำไมไม่บอกผมก่อน ก็ว่าตัวอุ่นๆ งั้นกินข้าวแล้วกลับคอนโดฯ เลยนะ วันหลังค่อยไปบ้านเก่า”

“แม่อยากไปไหว้ตายายที่บ้านก่อน นะคะลีโอ”

“ไปได้สิง แม่เป็นไข้นิดเดียว เดี๋ยวกินข้าวกินยาแล้วมานอนพักบนรถนะ รถน่าจะเป็นแบบนี้นาน จะได้นอนนิ่งๆ สักตื่น” สุดท้ายเขาก็ใจอ่อนตามเคย แถมยังต้องกล่อมลูกให้ตามใจแม่ไปอีกคน

“โธ่ พ่อครับ ตอนนี้มันเวลาไปทำงาน รถมันเลยติด สายหน่อยถนนก็โล่งขึ้น ไม่ติดแบบนี้ทั้งวันหรอก” สิงหาอยากบ่นแต่เขารู้ดี ถ้าแม่อ้อนพ่อเมื่อไร เขากลายเป็นหมาหัวเน่าทุกที

“พ่อเคยมาล่าสุดตอนสิงเรียนจบ มันก็ติดแบบนี้ กี่ปีมาแล้วนะ” ลีโอนึกถึงความทรงจำครั้งล่าสุดในประเทศนี้ เขาจำได้ว่ามาวันเรียนจบปริญญาของลูก แต่คนเยอะมาก ตอนนั้นลูกเขาดังมาก ต้องถ่ายรูปกับทุกคนจนเกือบหมดวัน ดีที่สิงหาให้ช่างภาพเก็บรูปครอบครัวไว้ก่อนแล้ว เขาเลยมีรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเซตใหญ่ที่ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

“สิบปีได้แล้วครับ” สิงหายิ้มให้พ่อเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ ตอนนั้นเขาต้องให้ตากล้องที่จ้างมาเก็บภาพครอบครัวก่อนเข้าไปในห้องประชุมเพื่อรับพระราชทานปริญญาบัตร พอออกมาก็โดนเพื่อนในวงการและแฟนคลับรุม จำได้ว่าตอนหันไปเห็นพ่อแม่นั่งเฝ้าของขวัญอยู่ที่โต๊ะ แม่นั่งยิ้มปลื้มมองตรงมาที่เขาสลับกับหันไปลูบไหล่ปลอบพ่อที่มองใบปริญญาของเขาแล้วก้มหน้าร้องไห้ ตลอดชีวิตในช่วงการร่ำเรียนของเขาไม่เคยมีพ่อมาร่วมงานเลยสักครั้ง ครั้งแรกและครั้งเดียวคือวันรับปริญญาครั้งนั้น

“มีร้านข้าวต้มปลาแถวบ้านเก่าอร่อยมาก ที่ผมเคยเล่าให้พ่อฟังว่าไปกินหลายชามแล้วเพิ่งรู้ว่าลืมเอาเงินไป จำได้ไหมครับ”

“ที่ว่าเขาจะเรียกตำรวจมาใช่ไหม”

“ใช่ๆ นั่นแหละครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว อร่อยมาก พ่อต้องลอง” สิงหาชวนพ่อคุยตลอดทาง ส่วนแม่เขาก็โทรคุยกับน้าฉลวยเพื่อนสนิท นัดแนะกันเรียบร้อยว่าจะไปหากันวันไหน ให้ทำเมนูไหนรอ

สิงหาขับรถต่อถึงร้านข้าวต้ม เฮียเจ้าของร้านยังจำลูกค้าขาประจำได้ สามคนพ่อแม่ลูกเต็มอิ่มกับมื้อนี้เต็มที่ก่อนมุ่งหน้ากลับบ้านหลังเก่า แม่พาพ่อฝรั่งร่างใหญ่ไปไหว้ตายายในห้องพระ ใช้เวลาอยู่ข้างในอยู่นานจนลีโอขอตัวออกมาก่อน สองพ่อลูกเดินไปดูของในตู้คอนเทรนเนอร์ตู้ล่าสุดที่ส่งมาเก็บไว้ ด้านในเป็นสินค้าสำหรับขาย มีบางส่วนสิงหาไม่เคยเห็น ลีโอเล่าให้ลูกฟังว่าชิ้นไหนได้มาอย่างไร วางแผนจะซ่อมแซมกันเรียบร้อยแม่ก็เดินออกมาชวนกลับคอนโดฯ



ห้องเช่าที่กลายเป็นที่อยู่หลักในทุกวันมีสองห้องนอน สามห้องน้ำ ผังห้องเหมือนกับห้องของสิงหา ต่างกันแค่การตกแต่งกับวิวของห้องที่มีด้านหนึ่งมองออกไปเห็นตึกจอดรถเพราะอยู่เพียงชั้นแปด ห้องนี้จึงมีราคาถูกกว่านิดหน่อย พ่อและแม่เดินสำรวจห้องก่อนที่จะโดนลูกชายไล่ให้ไปนอนพักผ่อนเมื่อเห็นทั้งคู่หาวกันไม่หยุด

สิงหาใช้เวลาว่างลงมาหาโจที่ด้านล่างเพื่อปรึกษาเรื่องวันทำพิธี คืนนั้นต้องมีการรื้อตู้หนังสือในห้องทำงานซึ่งน่าจะมีเสียงดัง เขาไม่มั่นใจว่าเสียงจะรบกวนห้องอื่นหรือไม่จึงต้องมาพูดคุยกันก่อน โจรับเรื่องเอาไว้ ปัญหานี้เขาตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องแจ้งไปทางผู้จัดการก่อน ปกติยามวิกาลจะไม่อนุญาตให้มีการปรับปรุงซ่อมแซมห้องแม้ว่าผนังของห้องจะแยกส่วนกับห้องอื่นก็ตาม แต่ครั้งนี้น่าจะยกเว้นเพราะมีเหตุจำเป็นจริงๆ ปัญหาคือจะต้องแจ้งห้องอื่นในชั้นที่ติดกันหรือไม่ ถ้าจะแจ้งจะแจ้งว่าอะไร

“นานแล้วนะไม่ได้กินแกงส้มแบบนี้เลย ทำเองก็มือไม่ถึงทุกที” แม่สิงหาตักน้ำแกงซดติดกันหลายครั้ง อาการอ่อนเพลียยังมีอยู่บ้าง รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาแต่สามีและลูกชายก็ปลุกให้ตื่นตอนบ่ายสาม ถ้านอนนานกว่านี้คืนนี้จะนอนไม่หลับ ต้องฝืนตัวเองเพื่อปรับเวลานอน

“ชอบก็กินเยอะๆ ครับ ช่วงนี้เขาฮิตกินยำกัน พ่อลองดูครับ ไม่เผ็ดมาก มีปลาร้านิดหน่อยแต่ไม่เหม็น” สิงหาตักกุ้งลวกในยำใส่จานพ่อที่ไม่ค่อยกล้าตัก ด้วยสีสันของพริกดูน่ากลัวแต่พริกสดเม็ดใหญ่ๆ แบบนี้เผ็ดน้อยกว่าพริกแห้งหรือพริกขี้หนูเยอะ ฝรั่งแบบพ่อเขากินได้สบาย

“แม่เห็นคลิปรีวิวแล้วอยากเหมือนกัน แต่กินดิบไม่ไหว ดีแล้วที่สั่งมาแบบสุกๆ” แม่เพลิดเพลินกับการเอาเส้นขนมจีนคลุกน้ำยำมาก กินขนมจีนแบบสำเร็จมานาน เส้นไม่เหนียวนุ่มเท่าขนมจีนเส้นสดแบบนี้เลย

“แม่ปิงก็ทำกับข้าวอร่อยนะครับ สิงฝากท้องไว้ประจำ ไว้คราวหน้าผมจะพาไปฝากท้องบ้านปิงสักมื้อ” เขาเพิ่งบอกยกเลิกปิ่นโตกับแม่คนรัก แม้จะเสียดายและเกรงใจแต่ก็กลัวแม่ตัวเองน้อยใจเช่นกัน อาหารรสมือแม่ดีที่สุด แต่ถ้าแม่ขี้เกียจทำมื้อไหนค่อยไปฝากท้องที่บ้านแฟน

“เกรงใจเขาลูก ชวนออกไปหาอะไรกินดีกว่า”

“งานยากเลยครับ แม่ปิงเหมือนกับน้าฉลวยเลย อยากกินอะไรให้บอก เดี๋ยวแม่ทำให้ ปิงเลยไม่ค่อยชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน”

“อย่างงี้แหละลูก นิสัยแม่ครัวเป็นอย่างนี้หมด ซื้อเขากินมันไม่ถูกปากเท่าทำเอง แต่แม่ขี้เกียจคอยเก็บล้าง ถ้ากินมื้อใหญ่ไปนั่งตามร้านง่ายกว่า”

“อยากให้พ่อแม่เจอปิงเร็วๆ จังเลยครับ ตอนนี้น่าจะมาทำงานแล้ว” สิงหามองดูเวลา ตอนนี้สี่โมงเย็นแล้ว น่านนทีคงมาถึงตั้งแต่บ่ายสาม แต่รายนั้นส่งข้อความมาย้ำว่าอย่าพาพ่อแม่ลงไปหา บอกว่าตัวเองเป็นเด็ก พบกันครั้งแรกต้องเป็นฝ่ายขึ้นมาหาจะเหมาะกว่า เสียดายที่วันนี้นั่งทำงานคนเดียวเลยปลีกตัวมาไม่ได้

“อวดจริงๆ เลยนะคนนี้น่ะ” เธอสะกิดสามีให้มองรู้ชายที่ยิ้มแก้มปริเวลาพูดถึงคนรัก

“นั่นสิ นานๆ จะเห็นสิงยิ้มตลอดเวลาแบบนี้” ลีโอสังเกตตั้งแต่มาถึงแล้วว่าสิงหาพูดถึงคนรักบ่อยมาก อยากพามาให้เจอแต่อีกฝ่ายขอเตรียมตัวเตรียมใจก่อน

“น่ารักมากครับพ่อ ดีใจที่เขาเป็นคนไม่ค่อยเที่ยว ชอบอยู่บ้าน ไม่งั้นคงไม่โสดมาถึงผม”

“จ้าๆ ยิ้มจนปากจะฉีกแล้ว ตกลงพรุ่งนี้ลูกทำงานใช่ไหม แม่จะได้ไปหาน้าฉลวยเอง”

“ครับ ติดถ่ายหนังอีกสี่วันก็หมดคิวแล้ว แต่ผมให้พี่เก่งมาคอยขับรถให้พ่อแม่นะ ตอนเช้าไปส่งผมที่กองถ่ายแล้วก็กลับมาที่นี่เลย เลิกกองเดี๋ยวผมกลับเอง”

“พ่อว่าจะชวนแม่ไปดูรถสักคัน อยากได้คันใหญ่ๆ พวกรถตู้ก็ได้ นั่งสบายๆ หน่อย แม่เขาบอกเมื่อก่อนลูกนอนในรถตู้เวลาไปทำงานใช่ไหม พ่ออยากได้แบบนั้นล่ะ” ลีโอพูดเรื่องที่คุยกับภรรยาก่อนมาแล้ว สิงหามีงานเยอะ ขนาดไม่ค่อยได้รับงานในวงการแต่ก็มีธุระยุ่ง จะใช้รถคันเดียวกันก็ไม่สะดวก แล้วรถสิงหาก็คันเล็ก นั่งไม่สบาย

“ผมก็ดูๆ ไว้เหมือนกันแต่อยากรอพ่อแม่มาช่วยเลือกเลยยังไม่ได้จอง” เขาเคยใช้เวลาว่างชวนน่านนทีไปดูรถที่โชว์รูมเป็นเพื่อน รายนั้นแอบบ่นตลอดว่าอยากซื้อรถไว้ให้พ่อแม่ใช้บ้าง แต่พ่อแม่ไม่ยอมท่าเดียว แถมยังอวดรวยใส่ลูกอีกว่าถ้าอยากได้ซื้อเองไปนานแล้ว คนแก้มนิ่มเลยออกอาการน้อยใจพ่อไปสองมื้อแล้วถูกง้อด้วยฮ่อยจ๊อปูของโปรด

“สิงไปดูคันไหนไว้ ให้คนขับรถพาพ่อไปได้ไหม ถ้าชอบเหมือนกันเดี๋ยวพ่อซื้อให้เอง”

“พูดอย่างนี้อยากได้สปอร์ตสักคันเลย” สิงหารู้ตัวว่าหลุดพูดเรื่องที่แม่ไม่ชอบ แน่นอนว่าโดนบ่นทันที

“เอามาทำไม นั่งได้สองคน ปล่อยพ่อแม่นั่งเหงาอยู่บ้านเหรอ รถชวนตายอย่างนั้นอย่าซื้อเชียวนะ”

“รู้แล้วครับ แม่ก็ห้ามผมตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ผมเคยอยากได้หรือไง”

“ถ้าอยากได้ก็ซื้อ แต่ขับระวังๆ หน่อย” ลีโออยากตามใจลูกชาย สิงหาขับรถเก่ง ไม่ขับเร็ว ถ้าลูกชอบก็น่าซื้อเก็บไว้สักคัน เลือกดีๆ ราคาก็ไม่ตก ถือเป็นการลงทุน

“ลีโอคะ”

“ที่นี่รถมันติดจะตาย จะขับเร็วได้สักเท่าไรกันเชียว สิงหาโตแล้ว เขาไม่เคยทำให้เราผิดหวังไม่ใช่เหรอ”

“ไม่เป็นไรครับพ่อ ผมแค่หยอกเล่นเฉยๆ ไม่ชอบนั่งรถแบบนั้นเหมือนกัน ชอบรถครอบครัวคันใหญ่ๆ เก็บของได้เยอะๆ มากกว่า ถ้าพ่อไปดูรถแล้วให้พี่เก่งช่วยคุยกับเซลล์นะครับ วันนั้นเขาบอกจะลดจะแถมอะไรเต็มไปหมดผมจำไม่ได้แล้วแต่พี่เก่งจำได้ เรื่องเครื่องยนต์เขาก็มีความรู้ดีกว่าผมด้วย” สิงหากลับมาคุยเรื่องรถที่ได้ไปดูเอาไว้บ้างแล้วสองรุ่น เรื่องเงินเขาไม่ขัดพ่อที่จะซื้ออะไรราคาเท่าไร เพราะรู้ว่าพ่อมีเงินเก็บค่อนข้างมากเพียงแต่ไม่ค่อยชอบใช้เงินพร่ำเพรื่อ ข้อนี้เขาคล้ายพ่อมาก ถ้าเราจะจ่าย มักจะจ่ายเพื่ออะไรที่เป็นความต้องการจริงๆ ราคาไม่เกี่ยง อย่างการที่พ่ออยู่ว่างจนซื้อบ้านเก่ามารีโนเวตนี่ก็คือการใช้เงินแบบหนึ่ง แถมยังก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก ทุกวันนี้เลยไม่ค่อยมีรายจ่ายสักเท่าไร



วันรุ่งขึ้นสิงหาไปกองถ่ายแต่เช้า ลีโอก็ตื่นเช้าเช่นกัน เขาช่วยปิ้งขนมปังทาแยมที่ภรรยานำมาด้วยทำแซนด์วิชง่ายๆ ให้ลูกชายเป็นมื้อเช้าง่ายๆ

“ขอบคุณครับพ่อ อย่าพากันเที่ยวทั้งวันนะครับ กลับมาพักผ่อนบ้าง ที่นี่มีห้องสมุดที่ชั้นสอง มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ถ้าอยากไปพ่อโทรไปถามคอนเซียซข้างล่างได้เลยครับ”

“พ่อจำได้แล้ว ไปทำงานเถอะ”

“ไปนะครับ รักพ่อนะ เจอกันตอนเย็นครับ” สิงหาเดินมาสวมกอดพ่อแน่นๆ แล้วรีบถือแก้วกาแฟกับแซนวิชไปกินบนรถ ระหว่างทางไปทำงานเขาบอกพี่เก่งคนขับรถเอาแล้วว่าให้พาพ่อแม่ไปทำธุระที่ไหนบ้าง ส่วนตอนเย็นเขากลับเอง ไม่ต้องไปรับ



ช่วงพักกองรอเข้าฉากสิงหาใช้เวลาว่างในการโทรหาน่านนที นัดเวลาพาไปพบครอบครัวบนห้องที่คอนโดฯ คืนนี้

“ปิงตื่นเต้นจังเลย ไม่เคยพบพ่อแม่แฟน ปิงต้องทำยังไงบ้าง นี่ปิงบอกแม่ให้ทำปลาทูต้มเค็มกับสะตอผัดกุ้งไว้ให้ แม่คุณสิงชอบแน่นะ” น่านนทีไม่อยากบอกคนรักเลยว่าเขาโดนแม่ดุเมื่อวานที่ไม่ยอมไปพบพ่อแม่สิงหาที่ห้อง ให้ผู้ใหญ่คอยตัวเองว่างเป็นเด็กไม่มีมารยาท ทำงานอยู่ข้างล่างแต่ไม่ยอมขึ้นไปหา เขาอุตส่าห์จะลงมาเพราะอยากเจอแฟนลูกชายแต่กลับเล่นตัว น่านนทีก็พยายามจะเถียงแล้วว่าไม่ได้เล่นตัว แต่มันตื่นเต้น แม่ก็ไม่ยอมฟัง หยิกพุงเขาไปสองที คราวนี้พ่อไม่ช่วยด้วย แปรพักตร์เป็นแฟนคลับสิงหากันไปหมด

“ชอบมากครับ อยู่โน่นไม่ได้กินเลย แม่บ่นก่อนกลับมาเองว่าอยากกิน วันนี้ไปร้านเพื่อนแม่เขาก็ขายอาหารเหนือ คงไม่มีสะตอหรอกครับ”

“เฮ้อ...ตื่นเต้นๆๆ ใจเต้นตุบๆๆ เลยเนี่ย” คนตื่นเต้นจนตื่นนอนผิดเวลาเดินซอยเท้ากลับไปกลับมาในห้อง มือทุบอกตัวเองเบาๆ

“ฮ่าๆๆ เพิ่งเที่ยงเอง หยุดตื่นเต้นก่อน ค่ำๆ ค่อยตื่นเต้นใหม่”

“ฮือออ จะร้องแล้วนะ”

“โธ่ ปิงครับ ไม่งอแงนะ พ่อแม่ผมใจดีมาก ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ตอนผมไปคุยกับบ้านปิงยังน่ากลัวกว่าอีก”

“พ่อแม่ปิงตลกจะตาย ไม่เห็นน่ากลัว” น่านนทีเดินกลับมานั่งบนเตียง ยู่ปากใส่คนปลายสายอย่างไม่เห็นด้วย

“พ่อกับพี่หวงลูกชายขนาดนั้นยังบอกไม่น่ากลัว”

“คนมันน่ารักอะนะ ใครๆ ก็หวงเป็นธรรมดา” น่านนทีแกล้งชมตัวเองแต่ลึกๆ ก็เชื่อว่าเป็นความคิดที่ถูก เขาน่ารักที่สุดในบ้านแล้ว

“ครับๆ คนน่ารัก ผมไปกินข้าวก่อนนะ เดี๋ยวต้องเข้าฉากละ” สิงหามองเห็นอาตู่ผู้กำกับกวักมือเรียกที่โต๊ะอาหารก็รีบบอกลาปลายสาย

“โอเค สู้ๆ” น่านนทีให้กำลังใจอีกฝ่าย หลังจากวางสายใบหน้ายิ้มแย้มเริ่มสลดลง ใจเต้นตุบๆ ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล เขารู้ว่าพ่อแม่สิงหาต้องดีแน่ๆ ไม่มีปัญหาเรื่องรับไม่ได้ที่ลูกคบผู้ชายอะไรแบบนั้น แต่มันเป็นความกังวลว่าจะพลาดทำอะไรผิดหรือเปล่า กลัวอีกฝ่ายไม่ประทับใจหรือผิดหวัง กังวลมากกว่าตอนตัดสินใจคบกับดาราอีก



แม้จะอยากให้เวลาหมุนไปช้าๆ ซึ่งมันทำไม่ได้ เวลายังคงเดินตามปกติและตอนนี้น่านนทีอยู่ในลิฟต์เตรียมขึ้นไปพบพ่อแม่คนรักบนห้อง ออมที่อุตส่าห์ย้ายเวลาทำงานมาคู่กับเขาให้กำลังใจก่อนสิงหาจะลงมารับ มือใหญ่ที่กุมมือเอาไว้อบอุ่นเหมือนทุกที ต่างจากมือเขาที่เย็นและชื้นไปด้วยเหงื่อ

“ไหวไหมเนี่ย ปิงกลัวอะไรครับ ไม่คิดมากสิ นะ” สิงหามองใบหน้าเหยเก คิ้วขมวดตลอดเวลาของคนรักก็เริ่มสงสาร

“กลัวพ่อแม่คุณสิงไม่ชอบปิงอะ ฮืออออ กลัวอะ ปิงเอ๋อๆ กินเก่งไปวันๆ เองนะ กลัวจังเลย”

“ไม่คิดมากครับ ถึงห้องละ ใจเย็นๆ อย่าร้องไห้นะ โธ่...ทำไงดีละ” สิงหารวบคนขี้กลัวมากอดปลอบ โยกตัวเบาๆ ให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย

“เดี๋ยวนะ ขอฮึบก่อน....ฮึบ....ฮู่วๆ” น่านนทีส่งเสียงฮึบๆ ระงับอาการตัวเอง วิ่งกระโดดดึ๋งๆ อยู่บริเวณโถงหน้าลิฟต์จนสิงหาต้องแอบหัวเราะ คนที่กระโดดจนเหนื่อยเดินมายืนหอบอยู่ข้างหน้า พยักหน้าให้ด้วยสายตามุ่งมั่น

“พร้อมแล้ว โกๆๆ”

สิงหาอมยิ้ม ลูบผมคนรักเบาๆ ก่อนแตะคีย์การ์ดเปิดประตู เดินนำอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน โทรทัศน์ภายในห้องกำลังส่งเสียงรายการข่าวประจำวันช่วงค่ำ ถอดรองเท้าไว้ที่ตู้หน้าประตู เดินเข้ามาถึงห้องรับแขก ชายหญิงสูงวัยคู่หนึ่งนั่งอิงแอบกันบนโซฟาตัวใหญ่ น่านนทีสบตาผู้ใหญ่ที่ส่งรอยยิ้มนำมาให้ เขาค่อยๆ ยกมือไหว้ทั้งคู่แล้วมอบรอยยิ้มตอบกลับ เสียงสิงหาแนะนำตัวให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดจากชายหญิงคู่นั้น

“ยินดีที่ได้เจอ สิงอวดไว้เยอะมาก”

“ดีใจที่ได้เจอกันสักทีนะลูก ขอบใจสำหรับมื้อค่ำนะคะ ฝากขอบคุณพ่อแม่หนูด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ ปกติแม่ปิงก็ชอบทำอาหารให้คุณสิงบ่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าอยากกินอะไรบอกปิงได้เลยนะครับ”

“จ๊ะ ท่าทางกินเก่งอย่างที่สิงเขาว่าจริงๆ”

“ดีแล้วๆ กินเยอะๆ แข็งแรง” ลีโอชม แต่เป็นคำชมที่ชวนให้คนฟังเขินอาย ไม่รู้ว่าสิงหาไปเล่าอะไรให้พ่อแม่ตัวเองฟังบ้าง ทำไมทั้งคู่ถึงรู้ว่าเขากินเก่ง

สิงหาเพิ่งกลับมาจากกองถ่าย ยังไม่ได้กินมื้อเย็น พ่อแม่เองก็หิ้วท้องรอ น่านนทีเลยช่วยนำอาหารไปอุ่นแล้วจัดโต๊ะให้ สิงหาห่ออาหารกองถ่ายกลับมาด้วย กับข้าวมื้อนี้เลยอุดมสมบูรณ์มากกว่าปกติ

“คุณพ่อพูดไทยชัดมากเลยนะครับ พูดเก่งมากด้วย คุณสิงเคยบอกว่าพ่อพูดไทยได้แต่ปิงไม่คิดว่าจะชัดแบบนี้” น่านนทีแปลกใจกับลีโอมากที่สุด ฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่ แม้จะอายุเยอะและไม่ได้หุ่นดีแต่ดูออกว่าสมัยหนุ่มน่าจะมีกล้ามใหญ่กว่าลูกชายแน่ๆ หน้าตาไม่ได้ดูใจดีแต่ทุกครั้งที่พูดแววตาเหมือนส่องประกายออกมา...เป็นพ่อลูกที่เหมือนกันมาก

“จีบสาวไทยต้องหัดภาษาไทย หัดกินอาหารไทย พอมีลูกก็เลยยิ่งต้องเรียน จ้างครูมาสอน” ลีโอเล่าถึงความพยายามของเขา ใครว่าจีบสาวไทยง่าย ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้หญิงไทยคนนี้

“เก่งมากๆ เลยครับ ภาษาไทยยากมาก” น่านนทีพูดในฐานะคนที่เคยต้องสอบซ่อมภาษาไทยสมัยเรียนมัธยม

“ใช่ ยากมากๆ แต่สนุกมากๆ มีเสียงวรรณยุกต์ด้วย” ลีโอเล่าเรื่องตลกสมัยหัดเรียนภาษาไทยใหม่ๆ พูดผิดพูดถูก ผันเสียงผิดเพี้ยนประจำ เคยเกือบทะเลาะกับภรรยาเพราะออกเสียงผิดจากคำชมเป็นคำด่ามาแล้ว น่านนทีนั่งหัวเราะร่วน ความกังวลหายไปสิ้น ไม่แปลกใจที่สิงหาจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่นใจดีแบบนี้ เพราะได้พ่อแม่แบบนี้เลี้ยงดู คนที่แค่ได้พูดคุยก็รู้ถึงความจริงใจในแววตา รอยยิ้ม นึกภาพสมัยพ่อสิงหาเป็นทหารถืออาวุธสู้รบกับคนอื่นไม่ออกเลยจริงๆ






ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/





ความกังวลของน่านนทีหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง แม้แต่วันที่นัดรวมกันทั้งสองครอบครัวที่ร้านอาหารของเฌอแฟนนักรบ น่านนทีก็เป็นตัวตั้งตัวตีโทรนัดเวลากับแม่ของสิงหาเอง ทำหน้าที่แนะนำสองครอบครัวให้รู้จักกัน และทั้งสี่คนก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วๆ เหมือนคุ้นเคยกันมานาน ในห้องอาหารส่วนตัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพูดคุย ความเกร็งของพ่อแม่น่านนทีตอนแรกที่เห็นฝรั่งตัวใหญ่หมดไปเมื่อได้ยินลีโอทักทายเป็นภาษาไทย นักรบแอบเข้ามาเสิร์ฟอาหารด้วยตัวเองเพื่อดูหน้าแฟนของเพื่อนที่ไม่พามาเปิดตัวสักที


พรึ่บ


“ไฟดับเหรอ” สิงหาเอ่ยขึ้น จู่ๆ ไฟในห้องอาหารก็ดับสนิท เขาหันไปมองทางประตูเห็นแสงไฟจากด้านนอกลอดเข้ามา เสียงเพลงในร้านยังคงดังแต่ในห้องไฟกลับดับสนิท มองเงาตะคุ่มที่ข้างประตู พยายามมองให้ชัดว่าเป็นใครเพราะน่านนทีเพิ่งลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ดูจากรูปร่างไม่น่าจะใช่

Happy Birthday to you. Happy Birthday….” เสียงร้องเพลงดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด น่านนทีถือเค้กวันเกิดเดินนำผองเพื่อนสนิทสิงหาเข้ามาด้านในทีละคน รอยยิ้มกว้างปนเขินอายของคนลืมวันเกิดตัวเองทำให้คนรอบข้างหัวเราะ แม่เดินมากอดเอวลูกชายเอาไว้ พ่อกอดไหล่ขนาบอีกข้าง คนทั้งคู่กังวลว่าจะมาไม่ทันวันเกิดลูกชาย แต่เจ้าของวันเกิดกลับลืมวันเกิดตัวเองเสียสนิท งานวันนี้จัดขึ้นด้วยความร่วมมือของทุกคนโดยมีน่านนทีเป็นแกนนำ

“...Happy Birthday to youuu” เสียงร้องเพลงจบลง สิงหาหลับตาอธิษฐานในใจก่อนเป่าเทียนบนเค้กก้อนสวยตรงหน้า ไฟในห้องสว่างพรึ่บด้วยฝีมือเจ้าของร้านที่แอบเดินเข้ามาปิดเอง คำอวยพร ของขวัญ คำหยอกล้อของทุกคนทำให้สิงหามีความสุขในวันนี้มากกว่าทุกปี หลายปีแล้วที่เขาฉลองกันเล็กๆ แค่สามคนพ่อแม่ลูก อาจมีญาติฝั่งพ่อมาร่วมบ้างแต่ไม่เคยมีบรรยากาศอบอุ่นใจ พร้อมหน้าพร้อมตาเช่นวันนี้

“ขอบคุณนะครับแม่ รักแม่นะ” สิงหาก้มกราบแนบอกผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิต กอดแน่นๆ กระซิบบอกรักข้างหู แถมด้วยหอมแก้มอีกหนึ่งที

“ขอให้มีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะลูก แม่รักลูกเสมอนะครับ” แม่หอมแก้มลูกชายซ้ายขวา ลูกที่เธอรักและภูมิใจที่สุด หลายคนชมเธอเสมอว่าเลี้ยงลูกเก่ง ลูกชายนิสัยดีมาก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เธอก็เหมือนแม่คนอื่นๆ ที่ต้องทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ลูกในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สิงหาเคยเกเร เคยทำสิ่งผิดพลาด สองคนแม่ลูกต่างลองผิดลองถูกมาก่อน ต่างเป็นคนสอนกันและกันเรื่องการใช้ชีวิต ถ้าเธอเก่งที่เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี สิงหาก็เก่งที่ทำให้แม่กลายเป็นแม่ที่ดี

“ขอบคุณนะครับพ่อ รักพ่อนะครับ” สิงหาทำแบบเดียวกันกับลีโอ กราบแนบอก หอมแก้มฟอดใหญ่ ตบท้ายด้วยอ้อมกอดแน่นๆ ของผู้เป็นพ่อ

“รักลูกที่สุด ลูกคือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตพ่อเสมอ” ลีโอกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น หอมขมับลูกชายแรงๆ ในชีวิตทหาร เขาเคยเห็นจุดต่ำสุดของมนุษย์ ผ่านสมรภูมิที่ขัดต่อมโนธรรมในใจ ไม่มีคำว่าดีเลว ถูกผิด มีเพียงทำตามคำสั่ง ความกดดันบีบคั้นจนสะสมเป็นอาการป่วย สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวให้เขาอยากอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่ภรรยาที่เขารัก แต่คือลูกชายที่เขาคิดถึงสุดหัวใจ เขายึดลูกไว้เป็นโลกทั้งใบ อยากเข้มแข็งเพื่อคอยปกป้องดูแลแม้ลูกจะโตมากแล้ว อยากโอบกอดให้ความอบอุ่นในวันที่ลูกเหนื่อยล้าจากปัญหาที่รุมเร้า ให้กำลังใจกันและกัน จับมือเดินไปด้วยกัน จนถึงวันที่ลูกเข้มแข็งและกลับมายืนอย่างสง่างามเช่นวันนี้

“พ่อก็คือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตผมเหมือนกัน...ที่สุดจริงๆ”



ยามค่ำคืนในย่านที่พักอาศัยค่อนข้างเงียบสงบ แม้จะได้ยินเสียงรถตามท้องถนนแต่ก็ไม่รบกวนพักผ่อนของผู้คนแถวนี้ น่านนทีอยู่ที่นี่มานานจนชินกับการนอนฟังเสียงรถ มันอาจจะต่างจากบนตึกสูงของสิงหาที่เงียบสงบและมีวิวสวยๆ สบายตา แต่ขาดความอบอุ่น เขาเคยคิดว่าสิงหาต้องรู้สึกเหงาแน่ๆ ที่ต้องอยู่คนเดียวทุกคืน หลายๆ ครั้งที่อีกฝ่ายมักจะโทรมาหาเขาก่อนนอน ตอนนี้ดีแล้ว...ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว

“ยิ้มอะไรครับ”

“ก็...แค่คิดว่าดีจังที่ได้จัดงานวันเกิดให้คุณสิง วันนี้คุณยิ้มกว้างที่สุดเลยรู้ไหม” น่านนทีหันไปฉีกยิ้มกว้างให้คนที่ขับรถมาส่งครอบครัวเขาแล้วโอ้เอ้ไม่ยอมกลับบ้านตัวเอง ตอนนี้เลยนั่งเล่นคุยกันที่หน้าโทรทัศน์บนชั้นสอง ส่วนพ่อแม่ขอตัวไปนอนก่อนแล้ว

“ขอบคุณนะครับ ความจริงอายุขนาดนี้แล้วก็ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องงานวันเกิดหรอก แทบจะเลิกจัดงานวันเกิดตั้งแต่เรียนจบมัธยมแล้วด้วยซ้ำ ส่วนมากก็แค่ไปทำบุญกับแม่ ไปกินข้าวกันสองคน นอกนั้นคือมีเพื่อนๆ ในวงการจัดให้ แต่พอไปอยู่กับพ่อมาหลายปี พ่อผมจัดให้ทุกปีเลยนะ เข้าครัวช่วยแม่ทำของโปรดให้ผมตลอด”

“พ่อดูรักคุณสิงม๊ากมากนะครับ ไม่เคยเห็นคุณสิงโหมดขี้อ้อนแบบนี้เลย” เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นลูกช่างอ้อนแล้วนะ แต่เจอโหมดสิงหาอ้อนแล้วต้องยอมแพ้เลย เดี๋ยวก็หอมแก้มแม่ เดี๋ยวก็กอดพ่อโอบพ่อ

“ครอบครัวผมไม่ได้อบอุ่นมาตั้งแต่เด็กนะ เราเพิ่งสนิทกันตอนผมโตแล้ว ตอนนี้ก็เลยยังอยู่ในช่วงเห่อพ่ออยู่” สิงหาอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เรื่องครอบครัวเคยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากสำหรับเขา ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้มาก่อน

“เหรอครับ ปิงไม่รู้เลย แต่ก็ดูรักกันมากๆ เลยนะ”

“เอาไว้ว่างๆ ผมเล่าเรื่องพ่อแม่ให้ฟังนะ”

“ได้ครับ เมื่อไรก็ได้ แต่ตอนนี้คุณสิงต้องกลับแล้วล่ะ ดึกมากแล้วนะ จะได้รีบกลับไปนอน”

“ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากลับมาอยู่ไทยเกือบปีแล้วนะเนี่ย จำได้ว่าฉลองวันเกิดปีที่แล้วเสร็จปุ๊บ ไม่กี่วันก็บินมาที่นี่เลย เร็วเหมือนกันนะ หนึ่งปีแล้ว เรารู้จักกันมาหนึ่งปีแล้วนะเนี่ย”

“แล้วคบกันมากี่เดือนแล้ว จำได้เปล่า”

“....ผมเริ่มง่วงๆ ละ คงต้องกลับแล้วล่ะ” สิงหาลุกขึ้นเดินนำคนรักลงมาชั้นล่าง พยายามนึกว่าวันที่ขอคบคือวันอะไรเดือนอะไรแต่จำไม่ค่อยได้ จำได้แค่ว่าหึงและหวงมากก็เลยคิดว่าถึงเวลาแล้ว ต้องคบจริงจังแล้วเอ่ยปากออกไป

“โห คนเราน้า บอกคิดถึงอย่างนั้น อยากอยู่ใกล้อย่างนี้ แต่วันขอเป็นแฟนดันจำไม่ได้ จะงอนแล้วนะเนี่ย”

“ขอโทษนะครับ วันเกิดตัวเองสามสิบกว่าปียังจำไม่ได้เลย ผมไม่ใช่คนโรแมนติกเท่าไร ไม่โกรธนะ”

“.....”

“โกรธเหรอ”

“ฮ่าๆๆ อยากให้คุณสิงเห็นหน้าตัวเองจัง ฮ่าๆๆ ปิงก็จำไม่ได้ เอาจริงๆ วันเกิดคุณสิงเนี่ยปิงก็ไม่รู้หรอก พอดีพี่ฝ้ายมาถามเพราะแฟนคลับคุณสิงอยากจัดเซอร์ไพรส์ให้แต่มาขอคำแนะนำว่าจัดที่ไหนดี อ๊ะ! ปิงหลุดบอกไปแล้ว ทำไงดีล่ะ คุณสิงต้องเล่นเนียนๆ นะ อย่าให้คนอื่นรู้นะว่าปิงหลุดปากบอก” คนหลุดปากบอกความลับเริ่มเครียด แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาเป็นคนหลุดบอก

“ผมใจหายหมด กลัวปิงคิดมาก บอกไว้ก่อนนะว่าเรื่องนี้ผมห่วยมาก ถ้าปิงซีเรียสผมจะบันทึกเตือนความจำไว้ แต่ให้จำเองนี่บอกเลยว่ายากมาก”

“ไม่เป็นไรหรอก ปิงไม่ซีเรียส วันอะไรก็ไม่สำคัญหรอก ขอแค่คุณสิงยังเหมือนเดิมก็พอ”

“ตกลงครับ ผมจะเป็นคนเดิมของปิงเสมอนะ” เขาโอบเอวน่านนทีเข้ามากอดไว้ กดจูบเบาๆ ข้างขมับ นานๆ ทีน่านนทีจะพูดอะไรหวานๆ ปกติร้องหาแต่ของหวานเป็นอย่างเดียว

“ขอบคุณนะครับ ไปครับ ปิงออกไปส่งที่รถ ดึกแล้ว คุณสิงต้องกลับแล้วจริงๆ ห้ามโอ้เอ้”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเดินไปเอง ปิงปิดบ้านอยู่ข้างในก็พอ”

“โอเคๆ ขับรถดีๆ นะ ถึงแล้วส่งข้อความมาบอกด้วย”

“แล้วตกลงวันทำพิธีปิงจะไม่ไปด้วยจริงเหรอ” ก่อนจากกันคืนนี้สิงหาไม่วายหันมาแกล้งอีกฝ่ายเล่น แล้วก็ได้ผลทุกครั้ง

“ม่ายยยยย” น่านนทีส่ายหน้าจนผมยุ่ง แก้มกลมๆ สั่นกระเพื่อมน่าหยิก

“ไหนๆ ก็เคยเจอ ไม่ไปส่งหน่อยเหรอ”

“ไม่เอา เดี๋ยวปิงจุดธูปที่บ้านก็พอ คุณสิงอะ ห้ามพูดนะ ห้ามบอกด้วยว่าทำพิธีวันไหน เผื่อปิงเข้ากะดึกพอดี เดี๋ยวหลอน”

“ครับๆ ล็อกบ้านเลย เดี๋ยวผมยืนรอ” สิงหาไม่แกล้งแหย่คนรักอีก เขายืนรอจนน่านนทีปิดประตูบ้านเรียบร้อยถึงเดินไปขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านตัวเองบ้าง ใช่แล้ว ที่นั่นคือบ้าน ที่ที่มีครอบครัวของเขารออยู่


ความอบอุ่นจากงานวันเกิดหลายคืนก่อนยังไม่ทันจางหาย ข่าวร้ายก็มาเยือนชีวิตสิงหาอีกครั้ง เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิง ชีวิตก็ไม่มีคำว่าส่วนตัวอีกต่อไป มีคนลงรูปเขาวันที่ไปรับพ่อแม่ที่สนามบินหลายคน คนที่เห็นรูปในโซเชียลต่างเข้ามาชื่นชมแต่มีเพียงไม่กี่คนที่สร้างกระแสขึ้นมาในแง่ลบ


ตื่นเต้นมากกกกก ไปรอแฟนแล้วเจอพอดี ไม่หยิ่งเลย ตัวจริงขาวมากกกก
โอ๊ยยยย อิจฉา อยากถ่ายรูปบ้าง พี่สิงไม่ค่อยออกอีเวนต์เลย เจอตัวยากมาก เป็นของแรร์ไปแล้ว
สิงหาไปต่างประเทศเหรอ หล่อกว่ารูปหลุดตอนนั้นตั้งเยอะ ไม่โทรมด้วย
ตัวจริงหล่อมาก เราก็เห็น กลับมาไฟลต์เช้าพอดี เดินออกมาเจอสิงหามารอรับเราด้วยยยย
อย่ามโนจ้า พี่สิงเขามารับพ่อแม่เขาต่างหาก เราแอบถ่ายมานิดนึง น่ารักมากกก พ่อพี่สิงหล่อมากกกกกกก อยากเรียกแดดดี๊
อยากได้สิงหาเป็นพ่อของลูกมากค่ะ ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าแก่ไปก็ยังหล่อ คุณพ่อขาาาาา
ใครเคยติดตามดาราคนนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนจะจำได้ว่าผู้หญิงในรูปคือแม่สิงหา แต่ฝรั่งข้างๆ นั่นไม่ใช่พ่อแท้ๆ นะจ๊ะ อย่ามโน
สิงหาเป็นลูกกำพร้าจ้า ใครไม่เชื่อค้นรูปครอบครัวมายืนยันได้เลย มีแต่แม่นะจ๊ะขอบอก
อย่ามโนนะจ๊ะพวกแฟนคลับ หล่อได้พ่ออะไรยะ ฝรั่งในรูปคือพ่อใหม่มัน หน้าไม่ได้เหมือนกันเลย ใครๆ ก็รู้ว่าแม่สิงหาเป็นเมียเก็บฝรั่งมาก่อน นี่ผัวใหม่แม่จ้า ไม่ใช่พ่อ









ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/



ข่าวลือทุกครั้งมาแบบไม่ทันตั้งตัวเสมอ แต่ครั้งนี้รุนแรงและเลวร้ายที่สุด สิงหาทราบข่าวจากฝ้ายที่โทรมาบอกยามดึก เธอเล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนค่ำแอดมินในเพจบ้านหลักของสิงหาโทรมาบอก สิงหาฝากขอบคุณไปเรียบร้อย พร้อมเร่งให้นัดวันรวมตัวจะได้จัดมีตติ้งสักที

“แล้วคุณสิงจะทำยังไงต่อคะ ให้ฝ้ายติดต่อนักข่าวหรือรายการเดิมดีไหม”

“ตอนนี้มีรายการไหนเล่นประเด็นนี้หรือยังครับ”

“เท่าที่เช็กสื่อใหญ่ๆ ยังไม่มีนะคะ มีแต่พวกเพจซุบซิบดาราเจ้าเดิมนั่นล่ะที่ขยี้อยู่ที่เดียว”

“ฝ้ายคอยตามข่าวทางทีวีให้ผมหน่อยนะ ถ้ามีที่ไหนเสนอข่าวก็เก็บๆ คลิปไว้ให้ด้วย แล้วติดต่อทนายไว้เลย”

“ได้ค่ะ คุณสิงจะคุยกับทนายเลยหรือให้ฝ้ายคุย”

“ฝ้ายโทรไปเล่าให้เขาฟังก่อนก็ได้ ให้เขาช่วยเราเก็บหลักฐานรวมกับครั้งก่อนเลย ผมเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดิมนั่นล่ะ ให้เขาลองตรวจสอบอีกทีแล้วพรุ่งนี้ผมจะโทรไปคุยอีกที”

“ได้ค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ ฝ้ายโทรหาทนายก่อน”

“ครับ รบกวนด้วยนะ” สิงหากดวางสายท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จ้องมองด้วยความสนใจ

“มีอะไรวะ” คนแรกที่ทนไม่ไหวคือชวิน หลังจากเตรียมตัวกันมานานในที่สุดก็ถึงวันทำพิธีช่วยพยูกับพ่อ ขบวนการช่วยเหลือผีจึงมารวมตัวกันที่ห้องเช่าของสิงหา ข้าวของเครื่องใช้เตรียมไว้พร้อม ตอนค่ำมีการลงไปจุดธูปที่ศาลของคอนโดฯ บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งขออนุญาตและขอความคุ้มครองเรียบร้อย พ่อแม่สิงหาที่เพิ่งรู้เรื่องก็ตกใจไม่น้อย แน่นอนว่าสิงหาคนแสนดีโดนแม่ดุไปตามระเบียบที่มีอะไรไม่ยอมบอก ที่สำคัญคือแม่เคยเห็นผีพยูตอนวิดีโอคุยกับสิงหาด้วย

“มีคนถ่ายรูปพ่อแม่ที่สนามบิน แล้วก็ปล่อยข่าวลือแย่ๆ พ่อแม่ไม่ต้องสนใจนะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

“อืม แม่ไม่สนใจหรอก แม่สนพิธีคืนนี้มากกว่า” ความสนใจของพ่อแม่มีมากขนาดที่ว่าเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อเช้าก็รีบไปซื้อชุดขาวมาใส่ร่วมพิธีคืนนี้ สิงหาไม่อยากให้ทั้งคู่ไปด้วยเพราะเป็นห่วง แต่แม่ยืนยันว่าอยากไป อย่างน้อยครั้งหนึ่งแม่ก็เคยเห็นพยูในห้องเหมือนที่ชวินเคยเห็น ส่วนพ่อของเขานั้นไม่เคยเห็นพิธีแบบนี้มาก่อน สมัยที่ชอบซื้อบ้านมารีโนเวตกันก็เคยมีเรื่องแปลกๆ ในบ้านบ้าง แต่เราไม่ได้สนใจ พอตกแต่งใหม่เสร็จก็ขายต่อ ไม่เคยต้องมานั่งแก้ปัญหาแบบนี้


พิธีวันนี้แบ่งเป็นสองสาย สายแรกที่ปัญหาน่าจะหนักกว่านำขบวนโดยอาวุฒิที่จะไปทำพิธีเรียกวิญญาณของทั้งลุงโพนที่โรงพยาบาล เหตุการณ์คืนนั้นมีขั้นตอนการกู้ชีพลุงโพนในรถพยาบาล แม้สัญญาณชีพจะกลับมาหนึ่งครั้งแต่ก็ดับไปในรถก่อนถึงโรงพยาบาล อาวุฒิเลยจะย้อนเส้นทางเรียกวิญญาณของลุงโพนจากโรงพยาบาลกลับไปที่โกดัง พิธีที่นั่นมีอาวุฒิ กฤษณะของพ่อชวิน ลุงโชคและคนงาน ส่วนสายที่สองคือห้องของสิงหา คนทำพิธีคืออาป้อง ลูกศิษย์อีกคนที่พระอาจารย์ให้มาช่วยเหลือ อายุมากกว่าพวกสิงหาไม่ถึงสิบปี แต่การันตีที่จำนวนพรรษาว่าเคยบวชเรียนตั้งแต่ประถมจนเรียนจบปริญญา กลุ่มของสิงหาทั้งสี่คน ทวีลูกชายลุงโชคและคนงานที่มาช่วยรื้อตู้ พิธีเรียกวิญญาณคนตายกลับบ้านไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนทั่วไป หากมีคนเสียชีวิตก่อนรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธก็จะมีการเรียกวิญญาณในที่ที่คนนั้นเสียชีวิตให้กลับบ้าน หรือวัด แต่พิธีวันนี้ไม่ใช่แบบนั้น อาวุฒิใช้คำว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ คนทำพิธีของเพียงมีศีลธรรมเพียงพอก็พอ

จากการคาดเดาเวลาตายของลุงโพนจะเกิดก่อนพยู เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทางฝั่งของอาวุฒิก็เริ่มทำพิธี จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง ขบวนของสิงหาก็เริ่มเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบน...ห้องของสิงหา


ติ๊ง


เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของสิงหาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในลิฟต์โดยสาร สายตาทุกคนในลิฟต์ตวัดมองด้วยความตกใจ บางคนเช่นชวินถึงกับสะดุ้ง ปากขยับด่าแบบไม่มีเสียงทันที

“ขอโทษครับ ลืมปิดเสียง” สิงหาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปิดเสียง เห็นมีรูปส่งมาจากน่านนทีเลยกดเข้าไปดูสักหน่อย เสียดายน่านนทีไม่ให้บอกว่าทำพิธีวันไหน วันนี้เขาเลยไม่ได้ขอกำลังใจจากคนรักเลย


ปิงรู้เรื่องข่าวลือแล้ว พี่ฝ้ายบอกคุณยุ่งอยู่ปิงเลยไม่โทรมา แต่ถ้าอยากคุยก็โทรมาหาปิงได้นะ ถึงจะหลับก็จะรีบตื่นมาคุยด้วยทันที อย่าคิดมากนะครับ ปิงรู้ว่าคุณสิงรับมือได้แต่ถ้าเหนื่อยอยากพัก ปิงอยู่ตรงนี้เสมอนะ แล้วก็ Happy Anniversary สุขสันต์วันครบรอบหนึ่งปีที่รู้จักกันนะครับเจอหน้ากันครั้งแรกก็ประทับใจมาก ปีต่อๆ ไปอาจจำไม่ได้แต่ความรู้สึกยังเหมือนเดิมนะ

พรุ่งนี้จะหิ้วปิ่นโตไปฝาก ลงมาเอาด้วยนะ
ฝันดีนะครับ



สิงหายืนอมยิ้มกับรูปคนรัก หน้าง่วงๆ แก้มป่องๆ ทำนิ้วเป็นรูปหัวใจดวงเล็ก เขาเองก็จำได้ถึงวันแรกที่ได้เจอกันในสถานการณ์ไม่ปกติเท่าไร แต่ก็สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น คนแก้มป่องที่จริงจังกับทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องกิน

“มึงยิ้มอะไรวะ” เต้พยายามชะโงกหน้ามาอ่านแต่สิงหาเก็บโทรศัพท์ไปเสียก่อน

“ปิงส่งมาวันครบรอบที่รู้จักกันครั้งแรก” สิงหายิ้มอวดเพื่อน แอบเขินคนอื่นในลิฟต์นิดหน่อย

“วันนี้เนี่ยนะ” โบ้ถามย้ำ

“เออ”

“ไอ้เหี้ย วันนี้จริงๆ อะ” ชวินด่าเมื่อสิงหาตอบแบบไม่รู้สึกรู้สา ตรงข้ามกับคนอื่นที่ตาแทบเหลือกกันหมดเมื่อได้ยิน

“....เออ...เหี้ย...” เขาสะดุ้งวาบในใจเมื่อรู้แล้วว่าเพื่อนถามทำไม

“ใช่ เหี้ยเลย ครบรอบวันตายผีในห้องด้วย ฉลองเลยไหมล่ะ” ชวินด่าประชดพ่อคนชิวประจำกลุ่ม ยังมีหน้ายืนยิ้มในลิฟต์ สมน้ำหน้ามัน

“.....มึง...กูเพิ่งนึกออก...” สิงหาอ้ำอึ้ง อยากพูดแต่ก็กลัวทำให้บรรยากาศเลวร้ายลงไป วันนั้นเขาคิดว่ามีคนแอบเข้าห้องเลยโทรไปให้น่านนทีช่วย เขาจำได้ว่าตัวเองนั่งจัดของในห้องทำงาน แล้วได้ยินเสียง...ประตูห้อง เสียงที่ไม่ได้มาจากห้องอื่น แต่เป็นเสียงประตูหน้าห้อง ประตูที่พยูไม่เคยยุ่งเกี่ยวเลย....แล้ววันนั้น...ใครเปิด

“....ถึงแล้ว” ประตูลิฟต์เปิดออก สิงหาเลือกที่จะไม่พูดเรื่องที่เพิ่งคิดได้ออกไปให้คนอื่นกังวล ชวินดันให้เขาเดินนำออกมาจากลิฟต์ แปดชีวิตยืนเบียดกันหน้าประตูห้องโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ด้านใน



ห้องพักที่ไม่มีคนอาศัยมานาน แม้จะสวยหรูแค่ไหนก็ทำให้ทุกคนขนลุก คนใหม่ที่ไม่เคยมาเดินตามอย่างกังวล พวกเขาพอจะได้ฟังวีรกรรมของพยูมาบ้าง บอกได้เลยว่าน้อยกว่าคนพ่อเยอะ ทวีและคนงานค่อนข้างสงสารมากกว่ากลัว พวกเขาถือเป็นผู้โชคดีที่ได้มาร่วมขบวนนี้ ดีกว่าไปเจอคนพ่อ ส่วนแก๊งล่าผีดั้งเดิมทั้งสี่ จากที่เคยสงสารก็ถูกปัดทิ้งเมื่อเข้ามาอยู่ในบรรยากาศเดิม สิงหากับโบ้ช่วยกันเดินเปิดไฟในห้องนั่งเล่นและห้องครัว สำรับอาหารคาวหวานที่จัดใส่จานมาจากข้างล่างอยู่ในมือของสิงหา โบ้และเต้ ส่วนชวินถือถุงของเล่นที่นำมาให้พยูโดยเฉพาะ ทวีและคนงานถือเครื่องมือสำหรับรื้อตู้และอาป้องมีดอกไม้ธูปเทียนทำสำหรับทำพิธี ของทุกอย่างเตรียมพร้อมอยู่ในมือ...จุดหมายคือห้องทำงาน



อาป้องรู้ดีว่าถึงจุดนี้ไม่มีใครกล้านำหน้าแล้วจึงเป็นคนนำแทน เขาเดินไปเปิดประตูห้องทำงานอย่างสงบนิ่ง ด้านในห้องมืดสนิท กดเปิดสวิทช์ไฟข้างประตูจนมองเห็นภายในห้องชัดเจน เดินนำมาถึงกลางห้อง ทุกคนเกาะกลุ่มเดินตามไม่ห่าง ความกลัวที่กลุ่มของสิงหาแสดงออกมาเริ่มส่งผลต่อกลุ่มทวีด้วย ทั้งสองกลุ่มเกาะติดกันทุกย่างก้าว สำรับอาหารถูกวางไว้บนโต๊ะทำงาน อาป้องจุดธูปหนึ่งดอกปักลงในถ้วยใส่ข้าวสาร ชวินหยิบของเล่นในถุงออกมาวางทีละชิ้น มีบล็อกตัวต่อ  รถบังคับแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ เกมตกปลา สุดท้ายคือลูกฟุตบอลสำหรับเด็ก ของเล่นที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเล่นด้วยกัน

“ตั้งสติ จิตใจหนักแน่น อย่ายึดติด อย่าใจอ่อน เดี๋ยวจิตตก” อาป้องพูดเตือนสติชวินที่เริ่มเหม่อลอย เต้รีบประกบเพื่อน ทุกคนเตือนแล้วว่าชวินน่าเป็นห่วงที่สุด หนึ่งคือเป็นคนใจอ่อน สองคือความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพยู พิธีเรียกวิญญาณก็คือการเรียกด้วยความเชื่อล้วนๆ เหมือนเวลาที่พ่อแม่ไปรับลูกที่ห้องเรียน เมื่อครูเรียกชื่อ ไม่ใช่แค่เจ้าของชื่อเท่านั้นที่ได้ยิน...พิธีนี้ก็เช่นเดียวกัน

“ตั้งใจนะทุกคน ปักธูปคนละดอก เรียกพยูให้ออกมากินข้าว บอกเขาดีๆ ว่าเราจะพาไปหาพ่อ พ่อเขาชื่ออะไรนะ”

“ชื่อโพนครับ” สิงหาตอบ

“บอกว่าจะพาไปหาพ่อโพน ไม่ต้องบอกว่าพากลับบ้านนะ เดี๋ยวเขาตามไปบ้านด้วย บอกเขาไปหาพ่อโพน เราจะรื้อตู้ อย่าตกใจ พาไปหาพ่อโพน ใครกลัวพูดในใจก็ได้ ใจนิ่งๆ สงบเข้าไว้ ตู้นี้ใหญ่กว่าที่อาคิด ตอนรื้อออกเลื่อยแผ่นใหญ่ๆ ให้เล็กลงก็ได้จะได้ขนง่ายๆ ใครเห็นหรือได้ยินอะไรอย่าร้อง หลับตาสวดมนต์ไป อาจะสวดพระอภิธรรมแล้วนะ” อาป้องเริ่มนั่งลงที่พื้น ทุกคนขยับหาที่นั่งลงเบียดๆ กันแล้วพนมมือ สงบจิตใจตัวเอง คนที่รู้จักบทสวดก็สวดตาม คนที่ไม่รู้ก็กล่าวคำบอกกล่าวถึงพยูในใจ


แอดดดดดด





ทุกคนสะดุ้งตกใจเมื่อบานตู้ตรงหน้าค่อยๆ เปิด อาป้องแม้จะสะดุ้งเช่นกันแต่ก็ยังมีสติดีอยู่ บทสวดยังต่อเนื่อง สี่หนุ่มและกลุ่มช่างขยับเบียดจนแทบนั่งเกยกัน จากที่เคยนั่งให้ชิดอาป้องมากที่สุดก็เริ่มขยับออกห่าง ชวินตัวสั่นอย่างไม่ตั้งใจ แม้จะสงสารแค่ไหน แต่ความกลัวหยั่งรากฝังลึกไปแล้ว พยู...ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง

เสียงบทสวดยังดำเนินต่อไป คลอไปด้วยเสียงก๊อกแก๊กด้านหลังของทุกคน ทุกคนเดาได้ว่าเสียงน่าจะมาจากบล็อกตัวต่อไม้ จากนั้น...

ตุบ ตุบ ตุบ


ลูกฟุตบอลลอยลงจากด้านบนตกลงบนพื้นที่ว่างข้างหน้าชวิน บอลเด้งเรียดพื้นไปชนขอบตู้แล้วเด้งกลับมา....แรงส่งจากสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้บอลเด้งกลับไปชนขอบตู้ซ้ำอีกครั้ง...และอีกครั้ง

“....พอๆ กับพ่อมันเลย” เสียงคนงานพูดขึ้น

“น้องพยู....อย่าเพิ่งเล่นนะ กินข้าวก่อนนะ....พวกพี่เอาของกินมาให้เต็มเลย” สิงหากล่าวกับสิ่งที่มองไม่เห็น เต้และโบ้เริ่มพูดตาม

“ใช่ๆ น้องพยูกินข้าวกินขนมดีกว่านะ อร่อยๆ ทั้งนั้น”

“แม่ง...เล่นไม่หยุดเลยว่ะ”

“มึงลองพูดดิ เผื่อน้องฟังมึง” สิงหาบอกชวินที่ยังนั่งก้มหน้าหลับตาอยู่คนเดียว

“.....พยู” ชวินปรือตามองแวบหนึ่งก่อนรีบหันหน้าหนี

กึก!

ลูกฟุตบอลหยุดทันที ทุกคนพร้อมใจกันบอกให้ชวินพูดต่อไป “พูดต่อๆ”

“...พะ..พยู...กินข้าวก่อนนะ อย่าเพิ่งเล่น” ชวินเอ่ยเสียงสั่น เขาพยายามมองหัวเข่าตัวเอง ไม่สนใจลูกฟุตบอลที่หยุดนิ่งข้างหน้า ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรในห้องนอกจากเสียงบทสวด

สถานการณ์กลับมาสู่ปกติ อาป้องส่งสัญญาณให้คนงานเริ่มรื้อตู้ ทุกคนลุกขึ้นช่วยกันขนของในตู้ไปวางไปบนโต๊ะทำงานบ้าง บนพื้นบ้าง ไม่นานก็เคลียร์จนโล่ง คนงานเริ่มใช้เครื่องมือสำหรับรื้อถอน กลุ่มสิงหาและอาป้องถอยไปยืนรวมกันที่หน้าประตูเพื่อให้มีพื้นที่ทำงานมากขึ้น

“อย่ากลัว เขามาดี มีอะไรก็บอกเขาดีๆ ให้เขากินเยอะๆ อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพากลับไปหาพ่อ คิดมากกลัวมาก สงสารมาก ทำให้จิตเราดิ่งลง ไม่ดี ทำใจให้นิ่ง” อาป้องสวดจบแล้วก็มายืนบีบมือให้กำลังใจชวินที่ยืนท่ามกลางวงล้อมเพื่อน มือชื้นไปด้วยเหงื่อ ร่างกายสั่นเทาและสะดุ้งเป็นระยะจนทุกคนเป็นห่วง

“อาครับ...ขะ...เขา...”

“อารู้ๆ ใจเย็นๆ เขามาดี เขารู้”



ปัง!!




เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนในห้องหยุดชะงัก คนงานที่กำลังรื้อตู้ผงะห่างออกจากตู้แต่ชั่วครู่ก็รู้ว่าเสียงไม่ได้มาจากที่นี่ สายตาทุกคนมองไปตามทิศทางของเสียง...นอกห้อง

“ไม่เป็นไรๆ ทำงานต่อไป เขาคงออกไปเล่นข้างนอก ทำต่อเร็วๆ” อาป้องขมวดคิ้วคอยฟังเสียงด้านนอก กลุ่มสิงหาที่ยืนใกล้ประตูที่สุดเริ่มถอยห่างจากประตูแล้วมองหน้ากันอย่างสับสน...ประตูห้องไม่ได้เปิดออกเหมือนทุกครั้ง หรือว่าพยูจะเดินทะลุประตูออกไป

“ชวินเขยิบมานี่” โบ้ดึงมือเพื่อนให้เดินตามแต่เพื่อนยืนก้มหน้านิ่ง สิงหาคิดว่าชวินคงกลัวจนก้าวขาไม่ออกเลยโอบไหล่เพื่อนดันให้เดินไปข้างหน้าแต่อีกฝ่ายขืนตัวต้านไว้

“ห่างๆ ประตูหน่อยดีกว่า ไปยืนมุมโน้นกัน” สิงหาปลอบเสียงเบา ไม่อยากให้เพื่อนกลัวจนช็อกแบบคราวก่อน คนงานเร่งมือเต็มที่ แต่สายตากวาดมองไปรอบๆ สลับกับกระซิบถามกันเองตลอดเวลา ทวีมองมาที่กลุ่มเจ้าของห้อง เห็นทุกคนแสดงความเป็นห่วงชวินก็รู้สึกระแวงมากกว่าเดิม พวกเขาคิดว่าลุงโพนดุแล้ว...พยูดุกว่าอีกเหรอ

“...พะ..พวกมึง....” ชวินปากสั่น เขาพยายามจะบอกเพื่อนถึงบางสิ่ง....


ปัง!!!

เพล้ง!





“เหี้ย! ตกใจหมด” คนงานที่กำลังงัดไม้จากผนังตกใจจนค้นเกือบหลุดมือ

“ทำไมคราวนี้น้องทำเสียงดังจังเลย เหมือนได้ยินเสียงอะไรแตกด้วย” สิงหาเงี่ยหูฟังความเป็นไปด้านนอก พยายามนึกว่ามีอะไรข้างนอกที่สามารถแตกได้บ้างในตำแหน่งนั้น

“คงไม่ชอบให้รื้อบ้านเขามั้ง พยายามบอกเขาว่าเราทำอะไรอยู่ เรามาดี” อาป้องปลอบทุกคนไม่ให้กลัว พี่วุฒิบอกเขาว่าวันนี้ต้องทำพิธีพร้อมกันสองที่ แต่ที่นี่ไม่น่าจะร้ายแรงเท่าอีกที่ ให้เลือกระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ เขาก็เลือกมาที่เด็ก แต่ไม่เห็นบอกกันก่อนว่าเด็กคนนี้จะอารมณ์ร้ายแบบนี้

“พยู ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวรื้อตู้เสร็จจะพาไปหาพ่อโพน เอาตู้ไปด้วย” โบ้หันไปพูดกับสิ่งที่มองไม่เห็นนอกห้อง หวังว่าจะได้ยินแล้วหยุดทำเสียงปึงปังสักที

“ใช่ๆ ใจเย็นๆ อย่าซนนะ เดี๋ยวพาไปหาพ่อโพน” เต้ช่วยกล่อมแบบกล้าๆ กลัวๆ

“....อะ...อาป้อง....ผมว่า....ข้างนอกไม่ใช่พยู” ชวินเอ่ยบอกเสียงเบาแต่ทุกคนรอบตัวได้ยินชัดเจน แม้กระทั่งทีมรื้อตู้ก็ยังเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ

“ทำไมครับ ชวินรู้เหรอ” เขาถามคนที่สีหน้าซีดเซียวมากที่สุดในห้อง คนที่ถูกกำชับให้คอยดูแลเป็นพิเศษอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ

“....พะ...พยู....ยังจับมือผมอยู่เลย” ชวินก้มมองมือข้างขวาตัวเอง ความเย็นรอบฝ่ามือเหมือนกันวันนั้นในห้องน้ำไม่มีผิด เพื่อนสามคนที่กึ่งดึงกึ่งลากเมื่อครู่ผงะออกห่าง เว้นที่ว่างให้สิ่งที่มองไม่เห็นข้างๆ ชวิน ทวีและเหล่าคนงานหยุดมืออีกครั้ง สายตาจับจ้องที่มือคนพูด เสียงด้านนอกที่ได้ยินสร้างความหวาดหวั่นเป็นระยะ แต่ด้านในกลับมีสิ่งที่มองไม่เห็นสร้างความหวาดกลัวมากกว่า...นึกว่าออกไปเล่นข้างนอก สรุปคืออยู่ในนี้มาตลอดสินะ

“ทำงานต่อไป ไม่ต้องสนใจ ใครไม่สบายใจก็สวดมนต์ไป ยึดพระธรรมไว้ในใจ ความตั้งใจดีจะปกป้องตัวเอง” อาป้องปลุกปลอบใจทุกคนอีกครั้ง เสียงสวดมนต์ของเหล่าคนงานดังคลอเบาๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่สงบข้างนอกและเหมือนจะดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ

สิงหาเจ้าของห้องฟังเสียงต่างๆ พลางขมวดคิ้ว เขาเดาว่าเสียงแรกคือเสียงประตูหน้า ต่อมาน่าจะเสียงประตูห้องนอนหรือระเบียง อาจจะมีแก้วหรือแจกันตกแตก เสียงเหล่านั้นดึงความทรงจำที่ลืมไปแล้วกลับมา ครั้งแรกที่ได้พบน่านนทีเพราะเขาคิดว่ามีคนแอบเข้าห้อง ได้ยินเสียงประตู เห็นเงาคนวิ่งออกไปจึงวิ่งตามไปถึงหน้าลิฟต์...ต่อมาก็คิดไปว่าครั้งนั้นคือพยู โดยลืมไปว่าพยูไม่เคยยุ่งกับประตูหน้าห้อง ไม่เคยพยายามออกไปข้างนอก...ครบรอบหนึ่งปีที่เขากลับมา ตรงกับวันครบรอบวันตายของพยูและ...ลุงโพน


“ผมว่าข้างนอกน่าจะเป็นลุงโพน” สิงหาพูดในเรื่องที่ค่อนข้างมั่นใจ

“ไหนบอกว่าเขาไม่เคยมาที่นี่” อาป้องถามย้ำ ข้อมูลที่ได้มาคือที่นี่มีแต่วิญญาณเด็ก

“ตอนแรกก็คิดอย่างนั้นครับอา เพิ่งนึกออกว่าวันแรกที่ผมมาอยู่ห้องนี้ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู เหมือนเห็นเงาคนในห้องวิ่งออกไปข้างนอก เสียงประตูดังแบบนี้เลย...ผมว่านั่นไม่น่าใช่พยู”

“เวร...” หัวหน้าขบวนแบบเขาแทบกุมขมับ ถึงจะไม่ได้เตรียมใจมาก่อนแต่มาถึงตอนนี้ก็ถอยไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะหนึ่งหรือสอง ขั้นตอนทุกอย่างก็เหมือนกัน ขอแค่ทุกคนมีจิตใจตั้งมั่นอยู่ที่การช่วยเหลือสองพ่อลูกก็พอ

“แล้วเอาไงต่อดี ต้องไปคุยกับ...ข้างนอกไหม” โบ้ลังเลว่าจะทำอะไรต่อ ทุกคนก็เช่นกัน

“เราให้พ่อลูกเขาเจอกันที่นี่เลยสิ ไหนๆ ก็มาแล้ว” ทวีเสนอ ในเมื่อพ่อลูกอยู่พร้อมหน้าแล้วก็น่าจะง่ายขึ้น

“.....มันไม่ง่ายอย่างนั้น อาคิดว่านะ พี่วุฒิเคยพูดให้ฟังเรื่องจิตขณะตายไหม ยึดติดอะไรก็จะติดอยู่ที่นั่น ต่อให้โผล่มาให้เราเจอพร้อมๆ กัน แต่ในโลกของคนตายอาจไม่ใช่ที่เดียวกันก็ได้” อาป้องพูดถึงเรื่องที่มีการถกเถียงกันเสมอในกลุ่มคนที่สนใจเรื่องนี้ ตามที่รุ่นพี่พูดถึงกรณีนี้ คนพ่อก่อนตายน่าจะยึดติดกับลูกมาก ขณะตายถูกทำร้ายสาหัส วิญญาณอาจมีการกระจัดกระจายจึงต้องช่วยทำพิธีเรียกให้รวมกันให้มากที่สุด เสี้ยวหนึ่งอาจมาโผล่ที่นี่เพราะยึดติดกับลูก เขาอาจไม่รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่โกดัง อาจตามตู้มาเหมือนพยู หรือตามพยูมา ไม่มีใครตอบได้

“แล้วเราต้องทำยังไงต่อ” สิงหาถาม

“ทำตามแผนเดิม ต้องไปรวมกันที่โกดังที่เกิดเหตุ รื้อตู้ให้เร็วขึ้นอีก ช่วยๆ กัน” อาป้องพูดจบ สิงหากับโบ้ก้าวเข้าไปช่วยทีมรื้อตู้

“มึงโอเคใช่ไหม” เต้เดินมายืนข้างมือที่ไม่ได้เกร็งอยู่ของชวิน บีบไหล่ให้กำลังใจเพื่อนที่เจอหนักกว่าคนอื่นเสมอ

“อืม.....ยังจับมือกูอยู่เลย”

“เหี้ย....ย”


ตู้ไม้ถูกรื้อเป็นชิ้นๆ ชิ้นใหญ่มีเชือกรัดรวมกันเพื่อให้ยกง่าย ชิ้นเล็กมีถุงใบใหญ่ใส่เรียบร้อย สิงหาโทรบอกโจที่นั่งทำงานด้านล่างว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว โจมีหน้าที่ขึ้นมาช่วยเปิดประตูลิฟต์ขนของหน้าห้องสิงหา ลิฟต์มีขนาดใหญ่ขนย้ายสะดวกกว่าและไม่ต้องขึ้นลงห้องนี้หลายรอบ

“เสียงเงียบไปนานแล้ว ไม่มีอะไรแล้วมั้ง” เต้เงี่ยหูฟังข้างนอกมาสักพักเอ่ยขึ้น

“น้องยังอยู่กับชวินไหม” อาป้องถามชวินที่เลิกยืนตัวแข็งมาสักพัก ช่วยเก็บไม้ใส่ถุง เก็บของเล่นที่เอามาใส่ถุงไปทำพิธีต่อที่โกดัง

“….!!.....เอ่อ....ยังเย็นๆ มืออยู่ครับ” ชวินลืมไปเสียสนิท พอถูกทักเท่านั้นล่ะ....ยังอยู่!

“งั้นเดี๋ยวอานำออกไปก่อน ชวินเดินต่ออา อย่าเดินห่างกันมาก พวกแบกไม้ไหวไหม”

“ไหวครับพี่ แต่เดินช้าๆ นะ ตอนขนผ่านประตูนี่น่าจะติดนิดหน่อย” คนงานพยักหน้าแข็งขัน ไม่มีเสียงดังแปลกๆ กำลังใจก็เริ่มกลับมา

“งั้นพวกขนไม้มาก่อนเลย เอาออกจากห้องนี้ได้แล้วคนอื่นค่อยตาม ชวินมานี่” อาป้องจัดขบวนเตรียมออกจากห้องโดยมีตัวเองนำ ตามด้วยชวินและคนงานสองคนที่แบกไม้แผ่นใหญ่ ทวีและคนงานอีกคนขนไม้แผ่นเล็กลงมาหน่อยแต่ขนาดยาวแม้จะเลื่อยหั่นครึ่งแล้วก็ตาม กลุ่มสิงหาอีกสามคนประกอบท้าย หิ้วไม้ชิ้นเล็กที่อัดอยู่ในถุงหลายใบ ส่วนเครื่องมือช่างต่างๆ ทิ้งไว้ที่นี่ก่อน


แอดดดดดดด



ผู้นำขบวนเปิดประตูห้องทำงานเดินออกไปอย่างเยือกเย็น เขาเดินไปจนถึงห้องนั่งเล่น พบกรอบรูปตกแตกอยู่บนพื้นทางใกล้ห้องครัว หันกลับมามองคนงานและชวินที่ยังไม่ก้าวเท้าออกจากห้อง พยักหน้าให้สัญญาณเดินตาม ชวินขยับหนึ่งก้าว...มือยังเย็นอยู่ เขาก้าวอีกสองก้าว...พ้นประตูห้องทำงานแล้ว...มือข้างขวาก็ยังเย็นอยู่ ความรู้สึกที่มือตอนนี้นอกจากความเย็นคือน้ำหนักจากสิ่งที่มองไม่เห็น เขาเดินแข็งๆ กลั้นใจก้าวไปยืนชิดอาป้อง มืออีกข้างที่ว่างจับชายเสื้ออีกฝ่ายแน่น ขณะที่คนงานกำลังขยับหาเหลี่ยมหามุมเอาไม้แผ่นใหญ่ออกให้พ้นประตู ชวินยืนหลับตา ไม่กล้ามองอะไรทั้งสิ้น

ทีมของทวีและคนงานช่วยกันจนแผ่นไม้ผ่านประตูออกมาได้ เต้ โบ้และสิงหาเดินตามออกมาติดๆ อาป้องดูความพร้อมของทุกคนก่อนเคลื่อนขบวนต่อ เขาดึงมือชวินออกจากชายเสื้อมาจับไว้แทน ในใจท่องบทสวดพร้อมอธิษฐานของให้สิ่งศักดิ์คุ้มครอง บอกกล่าววิญญาณสองพ่อลูกให้ติดตามไปที่โกดัง บอกว่าเขาและคณะมีเจตนาดี ไม่ได้คิดมุ่งร้ายทำลาย ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยการภาวนาด้วยกุศลจิตจนถึงประตูหน้า


แกร๊ก

............เสียงลูกบิดประตูดังท่ามกลางความเงียบสงัด...

แกร๊ก แกร๊ก


เขาพยายามบิดลง ดึง บิดแล้วดึง แต่ประตูเปิดไม่ออก สิงหาชะโงกมองจากด้านหลังแล้วแหวกขอทางมาเปิดเองในฐานะเจ้าของห้อง

แกร๊กๆๆ
กึงๆๆ
แกร๊กๆ


“.....ไม่ได้ล็อก.....เราโดนขัง” สิงหาหันมาบอกข่าวร้ายกับทุกคน สี่หนุ่มแก๊งล่าผีที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้วขยับเบียดตัวแทรกมาอยู่ท่ามกลางคนอื่น ชวินที่หลับตาเดินมานานรีบลืมตาแย่งตำแหน่งที่ดีที่สุดคือระหว่างอาป้องและสิงหา สายตามองช่องว่างระหว่างคนทั้งคู่ที่หน้าประตู ขาก้าวไปยืนกึ่งกลาง หันหลังแนบประตูห้อง สายตาหันกลับไปมองเพื่อนๆ และผู้ร่วมขบวนทั้งหมด


สุดสายตาที่ห่างออกไปไม่ไกล...

.....กลางห้องนั่งเล่น....

.........มีอีกคนกำลังยืนอยู่...





—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—



Fanpage : Gwa.Novel           Twitter   : Gwa_Novel






ออฟไลน์ imhiddenreader

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ครึ่งแรกอ่านไปยิ้มไป  ครึ่งหลังอ่านไปขนลุกไป

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
โอ้ยยยย อ่านไปใจเต้นตึกตักไป กลัวมากกก ทำไมตอนนี้มันหลอนขนาดนี้  :ling3: แต่อยากอ่านต่อมากค้างงงงง

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :a5: ครึ่งหลังนี่อ่านไปคือ ท่อง อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา ..​.ไปในใจด้วย คือคิดว่าเราสวดให้ชวินกับพี่สิงและเดอะแก๊ง ...ให้ผ่านคืนนี้ไปได้ ฮืออออ ...​ขนลุกไปหมดเลยอ่ะค่ะ พ่อโพน ..เค้ามาด้วย     o22

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
O-M-G หลอนสุดๆเลยอ่าาาาา ดีแล้วที่หนูปิง ไม่มาด้วย  ยังไงหล่ะทีนี้ ลุงโพนขาโหดมาเองเลย  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :katai1:  เราก็อุตส่าห์รอตอนหวานๆ  กลับมาเจอตอนหลอนๆ  ไม่หลอนธรรมดานะคะ  หลอนมากกกกก แล้ววันนี้สามีไปนอนเวรด้วยฮือๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ๋อย ฉันลุ้นและฉันหลอน

หวังว่าผีลุงโพนคงไม่ได้เข้าสิงโจ

แล้วมาเข้าห้องสิงหาหรอกนะ

หึ่ยยยยยย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :katai1: โอ๊ยยยยยย

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โหตอนนี้อย่างโหด :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เสี่ยววูบ​ หันซ้ายหันขวาเลย

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น อีกสิ่งหนึ่งคืออะไร คือใคร

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อั้ยยะ มีหลอน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ครอบครัวสมชื่อตอน TT

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ทำไมชื่อตอนชื่อครอบครัวล่ะจ้ะ  :katai1:

ออฟไลน์ kikie26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :ling3:

ยังมีใครอีกกกกกก แงงงงง

ครึ่งแรก น่ารัก อบอุ่น ครึ่งหลังเย็นจนขนลุกเลย ลุ้นมากกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด