FC ที่ 26 อ้อมกอดที่แสนคิดถึง ผมมายืนอยู่หน้าสถานที่ที่ผมเคยสัญญากับเด็กๆ ไว้ ว่าผมจะกลับมา มันก็คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผมเคยมานั่นเอง ผมเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม มันเป็นที่ที่สงบจริงๆ ดูร่มรื่นและอบอุ่นเหมือนที่มาครั้งก่อน และเมื่อเด็กๆ เห็นผม ก็ต่างกรูกันเข้ามาหาผม เหมือนลูกหมาน้อยที่รอเจ้าของ
" พี่มินมาแล้ว "
" เย้ๆ "
" นี่พวกเราจำพี่ได้ด้วยเหรอ " ผมถามอย่างสงสัยใคร่รู้ เด็กๆ พวกนี้หลอกไม่ได้เลยแฮะ
" จำได้สิคะ ไม่ค่อยมีใครมาหาพวกเราหรอกค่ะ " เด็กหญิงตัวน้อยพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา แต่ทำเอาผมรู้สึกเศร้าใจจัง
" มีแค่พี่มิน กับพี่ไอ แล้วก็พี่พริ้นที่มา " ผมเลิกคิ้วด้วยความฉงน พี่พริ้นเนี่ยนะ
" พี่ไอใจดีที่หนึ่งเลยครับ ชอบมาเล่นกับพวกเราบ่อยๆ เลย " เด็กชายตัวน้อยพูดถึงพี่ไออย่างรักใคร่
" แล้วพี่พริ้นละครับ " ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
" พี่พริ้นขี้แกล้ง นิสัยไม่ดีเลย แต่พี่เค้าก็ชอบมากับพี่ไอ แต่ไม่ยอมเล่นกับพวกเราเลย " เป็นความรู้ใหม่แฮะ พี่พริ้นนี่นิสัยขัดกับท่าทางที่แสดงออกมาจริงๆ สินะ
" เอาล่ะ วันนี้มาเล่นอะไรกันดีครับ พี่จะเล่นด้วยนะ "
" เล่นไล่จับกันค่ะ " ผมยิ้มให้กับเด็กๆ อย่างรักใคร่ เด็กน้อยพวกนี้นั้น ช่างน่าสงสารเหลือเกิน การไม่ได้รับความรักและความใส่ใจเป็นยังไงผมรู้ดี เพราะฉะนั้น ผมถึงปล่อยพวกเด็กๆ เอาไว้แบบนี้ไม่ได้
" โอนี่จัง " เด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่น ไปหาบุคคลที่มาใหม่ด้วยความตื่นเต้น จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่พวกเด็กๆ ที่ตื่นเต้นหรอกครับ หัวใจของผมแทบจะหลุดออกมาจากอกเลยล่ะ
ผมยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าพูดและไม่กล้าเดินเข้าไปหา เอาไงดี เอาไงดี ผมจะพูดอะไรดีไหมนะ พี่ไอที่ถูกเด็กๆ ล้อมรอบอยู่ตอนนี้ กลับมองผมด้วยสายตาหาเรื่อง น่ากลัวอ่ะ เด็กๆ ค่อยๆ ลากพี่ไอที่ยืนหน้าบูดอยู่ตรงนั้นให้ค่อยๆ เดินมาหาผมอย่างช้าๆ
" มาทำไม " พี่ไอพูดด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก
" ผมมาหาเด็กๆ ทำไมล่ะ ไม่ได้เหรอ ไม่เห็นมีป้ายห้ามตรงไหน " ไอ้มินเอ๋ย แกจะกวนทีนพี่เขาทำม๊าย ผมกรีดร้องห้ามตัวเองในใจ
" เหอะ ทำไมไม่ไปอยู่กับพี่พริ้นล่ะ " คนตรงหน้ายังคงประชดถากถางเสียงแข็ง
" ไม่อ่ะ อยากอยู่นี่มากกว่า " ผมนั่งลงวาดรูปให้เด็กๆ ดู พี่ไอนั่งยองๆ ลงตามผม และยังคงจ้องผมไม่วางตา
" ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย " พี่ไอจ้องมองผม นี่ถือเป็นคำชมสินะ ผมก้มหน้าลงต่ำกว่าเก่า อมยิ้มน้อยๆ บังคับไม่ให้ตัวเองยิ้มกว้างเกินไป
" ยิ้มทำไม ไม่ได้ชมซะหน่อย " ผมเงยหน้าขึ้นมาจ้องพี่ไอเขม็ง เชอะ ไอ้คนใจร้าย
แต่อยู่ดีๆ ผมก็ต้องตกใจ เพราะว่าพี่ไอเอามือทั้งสองข้างมาล็อคหน้าผมเอาไว้ และจ้องมองหน้าผมแบบที่ห่างแค่ไม่กี่คืบเท่านั้น ทำเอาผมหน้าแดงแบบที่เลือดทั้งตัวมากองรวมที่หน้าเลยทีเดียว
" ถ้ามีโอกาสได้โตขึ้นมา ก็คงคล้ายๆ แบบนี้สินะ " ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของพี่ไอ โตงั้นเหรอ พี่พูดถึงใครกัน
พี่ไอปล่อยมือออกจากหน้าของผมแล้วทำหน้าเศร้า มองไปบนท้องฟ้า พี่กำลังคิดถึงใครอยู่กันนะ ผมจะสามารถเป็นคนที่พี่กำลังคิดถึงได้ไหม ผมจ้องมองพี่ไอที่กำลังมองไปบนท้องฟ้าอย่างเลื่อนลอย
" คุณพ่อหรือคุณแม่นายเหรอที่เป็นคนญี่ปุ่น " ผมอยากรู้เรื่องของคนคนนี้จัง ทุกๆ อย่าง
" ยุ่งไม่เข้าเรื่อง " พี่ไอหันกลับมามองหน้าผมอย่างรำคาญใจ
" คุณแม่ " ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมบอกแฮะ ผมยิ้มให้คำตอบของพี่ไอด้วยความดีใจ
" ถ้างั้นตอนนี้ก็อยู่กับคุณแม่เหรอ "
" เปล่า ถึงจะอยากอยู่ แต่ก็ไม่ได้ " พี่ไอพูดพร้อมส่งยิ้มเศร้าๆ ออกมา
" ท่านอยู่ที่ญี่ปุ่นน่ะ "
" อ๋อ งั้นก็ไปเยี่ยมท่านบ่อยๆ สินะ " พี่ไอมองหน้าผมอีกครั้งแล้วส่ายหน้าเบาๆ ผมไม่เข้าใจเลย แต่ไม่ถามเรื่องนี้อีกจะดีกว่า ผมไม่อยากให้พี่ทำหน้าแบบนี้
"นาย เอ่อคือ เคยไปเกาหลีหรือเปล่า " ผมพยายามถามแบบไม่ให้น่าสงสัยสุดๆ เพราะผมสงสัยเหลือเกินว่าพี่ไอกับพี่พริ้น ไปที่นั่นทำไม
" เคยสิ " ผมใจเต้นแรงเพราะคำตอบนั้น
" ไปถ่ายงาน ไปบ่อยมาก " ผมซึ่งใจเต้นตึกตักบัดนี้ช่างห่อเหี่ยวเหลือเกิน
ผมกับพี่ไออยู่เล่นกับพวกเด็กๆ จนใกล้ค่ำแล้ว จึงบอกลาเด็กๆ และเตรียมตัวกลับ ผมบอกลาพี่ไอ และรีบเดินหนีออกมาเพราะผมไม่กล้ารบกวนให้พี่เค้าไปส่งหรอกฮะ
' บรี๊น ปรี๊น! '
เสียงแตรรถที่ขับตามหลัง พร้อมเจ้าของรถที่เปิดหน้าต่างลงมา ภาพนี้เหมือนผมเคยเห็นมันมาก่อนแฮะ
" ขึ้นรถ " คำสั่งแนวข่มขู่ยังคงเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ผมไม่เล่นตัวหรอกฮะ มีหรือจะพลาด ผมวิ่งขึ้นรถเร็วจี๋ เพราะกลัวเจ้าของรถจะเปลี่ยนใจ ผมนี่ก็ไม่เบานะ ฮ่าๆ
ผมขึ้นมานั่งยิ้มแฉ่งอยู่ในรถ ด้วยความดีใจที่ปิดไม่มิด ในรถยังเหมือนเดิม บรรยากาศเดิม หนุ่มหล่อที่กำลังทำหน้าบูดคนเดิม และผมหวังว่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นเหมือนเดิม แฮร่
" หิวจังเลยน้า " ผมพูดพลางลูบท้องไปมาเหลือบมอง คนข้างๆ หวังให้คนที่ได้ยินอยากพาผมไปกินข้าวแทนที่จะส่งบ้าน
' ตุบ ' ขวดน้ำหวานถูกโยนใส่หัวของผมอย่างไร้ความปราณี หึ่ยยย คนเค้าอ่อยอยู่ ก็สนบ้างสิเฟ้ย
" รองท้อง " ผมยิ้มกว้าง พร้อมเปิดขวดขึ้นดื่ม เอ๊ะ มันถูกดื่มไปแล้วครึ่งนึงครับ นี่มันนน!! จูบทางอ้อม ถุยย ผมคิดอีกทีจะไปอ้อมทำไมกันละครับ ก็จูบกันมาสองรอบแล้ว ทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้กู
" นายชอบฉันเหรอ "
' พรวดดดด! '
ผมพ่นละอองน้ำพุออกมาอีกแล้ว อยู่ดีๆ ก็เข้าประเด็นสำคัญเลยซะงั้นเนอะพ่อคุณ
" ไอ้เดือนก่อนนั่นมันอะไร มาจูบฉันทำไม " ผมที่ตอนนี้หน้าก็แดงอยู่แล้วยิ่งแดงไปใหญ่ ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว โอ้ยย
" เหอะ พูดเหมือนตัวเองไม่เคยจูบผมก่อน " ผมพูดพลางหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างแก้เขิน
" อยากโดนอีกว่างั้น " หึ่ยยย รู้ได้ไง เอ้ยย บ้าไปแล้วใครจะไปอยากโดนอีกกัน
" หลงตัวเองตามเคย ชิ "
" งั้นก็ตอบมาสิ " พี่ไอยังคงเร่งเอาคำตอบ
" ทีนายยังไม่ยอมบอกเลย แล้วเรื่องอะไรผมจะ.. "
" ฉันชอบ " ผมที่ยังไม่ทันได้พูดจบ อ้าปากค้างไว้อย่างนั้นด้วยความตกใจ
" ช..ชอบผมงั้นเหรอ " ผมซึ่งติดอ่างไปเรียบร้อย กำลังช็อคกับการสารภาพรักอัน เอ่อ ทำไมพี่แกดูไม่ตื่นเต้นเลยฟะ
ผมที่นั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก จะหายใจยังไม่กล้า เรียกเสียงหัวเราะให้แก่พี่ไอ ที่ตอนนี้หัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี
" จะเกร็งทำไม ไม่จับปล้ำหรอก " ไอ้คนพูดยังคงหัวเราะหึหึ อย่างชอบใจ
" เอ๊ะ แต่ในรถก็น่าตื่นเต้นดีนะ " พี่ไอพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ฮยองงงช่วยผมด้วยยย งืออ ผมตอนนี้นั่งเอี้ยวตัวหนี ทำตัวลีบติดประตูฝั่งที่ผมนั่งไปเรียบร้อย
" ปากดี ดีแต่ปาก " เอ้า ทำไมไปพูดอย่างนั้นเล่าตัวกู การท้าทายแบบนี้มักจบไม่สวย ผมได้แต่อยากตบปากตัวเองในใจ
นั่นไงกูว่าแล้ว พี่ไอเปิดไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง จอดรถพร้อมปิดไฟทั้งรถ ทำให้พวกเราอยู่ในความมืด เพราะท้องฟ้าตอนนี้มืดสนิทแล้ว ทำเอาผมเกาะที่เปิดประตูรถด้วยหัวใจอันสั่นไหว ผมจะโดนอีกแล้วใช่ม๊ายย
" อย่าไปใกล้พริ้นอีกได้ไหม " พี่ไอที่ทำหน้าเศร้าและพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ผมมองหน้าพี่ไอด้วยความหนักใจ ผมจะทำยังไงดีนะ
ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ค่อยๆ ขยับโน้มตัวยื่นหน้าเข้าไปหาพี่ไออย่างช้าๆ เหมือนพวกเรามีแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างประหลาด พี่ไอที่รู้ตัวก็เริ่มขยับตาม ฝ่ามือหนายื่นประคองที่ข้างแก้มของผมอย่างแผ่วเบา ผมค่อยๆ หลับตาลง สัมผัสความรู้สึกที่นุ่มนิ่มอ่อนโยนของริมฝีปากที่ค่อยๆ เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
ผมลืมตาตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อปลายลิ้นของคนตรงหน้าที่พยายามดุนดันเข้ามาสำรวจภายในปากเล็กๆ นี้จนสำเร็จ เข้ามาลิ้มรสความหวาน หยอกล้อกับลิ้นน้อยอย่างร้อนแรง ผมรู้สึกราวกับกำลังถูกเผาไหม้ไปด้วยแรงแห่งความปรารถนา มันทำให้รู้สึกวาบหวามและร่างกายเริ่มอ่อนแรง เป็นเวลาหลายนาทีที่เราดึงดูดกันไปมา ทำให้ผมเริ่มที่จะขาดอากาศหายใจ
" อื้อ..อ..อ หาย..ใจ.ม..ไม่.อื้อ..อ.ออก " ดูเหมือนผมจะไปกดสวิตส์อะไรของพี่ไอเข้าให้แล้ว คนตรงหน้ายังไม่ยอมปล่อยริมฝีปากของผมให้เป็นอิสระ ถึงแม้ว่าผมจะเริ่มออกแรงทุบและดันอกแกร่งนั่นออกไป ยิ่งดันออก คนตรงหน้าก็ยิ่งกอดรัดผมรุนแรงขึ้นเท่านั้น
จนในที่สุดผมก็หลุดรอดเงื้อมือมารจอมหื่นออกมาจนได้ ผมหอบหายใจอยู่นานเป็นพักก่อนจะได้พูดอะไรออกไป คนตรงหน้าแค่ผละออกและจ้องหน้าผมนิ่งๆ
" ไอบ้า ไอหื่น เกือบตายแล้วไหมเนี่ย " พระเจ้า นึกว่าจะตายซะแล้ว
" ด่าตัวเองก็เป็น เริ่มก่อนเองแท้ๆ " คำพูดของไอ้พี่ไอทำเอาผมถลึงตาหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลยทีเดียว
พี่ไอเงียบไปสักพัก และจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าหมองเศร้าลงอีกแล้ว
" ขอกอดหน่อยได้ไหม " ผมมองหน้าคนที่เหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ พี่เป็นอะไรงั้นเหรอครับ พี่คง ไม่ได้เห็นใครในตัวผมใช่ไหม
ผมไม่พูดอะไร แต่ค่อยๆ ชันเข่าแล้วหันหน้าไปหาพี่ไอ เพื่อที่จะได้กอดกันถนัด แต่มันติดเกียร์รถนี่สิ พี่ไอที่เห็นแบบนั้น จึงกอดเอวผมและลากผมข้ามฝั่งไปทั้งตัว ให้ผมนั่งลงที่หว่างขาของพี่หรือจะเรียกว่านั่งตักเลยก็ว่าได้ และกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง
ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะ อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนี้ ทั้งๆ ที่เป็นครั้งแรกแท้ๆ แต่กลับ รู้สึกถึงความเศร้า ความเหงา ความคิดถึง และถวิลหา หยาดน้ำตาไหลลงอย่างช้าๆ ที่แก้มของผมอย่างไม่มีเหตุผล พี่ไอกอดผมแน่นพร้อมเอาหน้าซุกที่หลังของผม พี่คงเหนื่อยมามากใช่ไหมครับ พี่คงต้องร้องไห้เพื่อใครเหมือนกันสินะ
ผมกอดแขนพี่ไอ ที่กำลังกอดตัวผมอยู่ลูบไปมา เพื่อให้พี่ไอคลายความเศร้า พี่ไอซึ่งตอนนี้ย้ายหน้าจากแผ่นหลังของผม เอาคางเทินบนไหล่ผมเบาๆ จนแก้มเราสองคนแนบชิดกัน ผมเหลือบมองแก้มของพี่ไอ ซึ่งตอนนี้อยู่ใกล้ซะเหลือเกิน
" อยากจะหอมก็เอาเลยสิ " รู้สึกคุ้นๆ กับอะไรแบบนี้แฮะ ผมเลยบีบจมูกพี่ไอแล้วดึงซะเลย
" โอ้ยย ซาดิสม์เหรอ " พี่ไอที่ตอนนี้คลำจมูกตัวเองป้อยๆ เริ่มหายซึมและเปลี่ยนเป็นอารมณ์หื่นแทนอีกแล้ว อ้ากก
" มือน่ะ คิดว่าจับอยู่ตรงไหนครับ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ " ผมคว้ามือพี่ไอที่เริ่มล้วงเข้าไปตรงชายเสื้อเชิ๊ตของผมที่หลุดออกมา
" หอมจัง " พี่ไอเริ่มซุกไซร้หอมคอผมไปมา ทำให้ผมขนลุกชูชันทั้งตัว
" มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ " ผมเริ่มหัวเราะแล้วดิ้นไปมา นี่คนหรือปลาหมึกฟะเนี่ย พี่ไอเริ่มหอมตัวผม และใช้ปลายจมูกโด่งนั่นไล้ไปมาทั่วแผ่นหลังบนเสื้อเชิ๊ตตัวบางนั่น ไล่ขึ้นมายังซอกคอช้าๆ และขบเม้มที่ใบหูของผม
แย่ละสิ แย่แน่ๆ ถ้ายังไม่หยุด ผมที่ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต เริ่มเกร็งตัวด้วยความกลัวอีกแล้ว นี่ยังไงผมก็ต้องเป็นเบี้ยล่างสินะ ฮืออ แต่จะให้ผมกดคนคนนี้ก็คงไม่ไหวละนะ
มือหนาเลื่อนไปมา ไปตามหน้าขา เอว หน้าท้อง ลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปจนพาดผ่านยอดอกที่เป็นจุดอ่อนไหว ผมกลั้นเสียงเอาไว้ เม้มปากแน่น และเกร็งตัวมากขึ้นไปอีก
ผมต้องหยุดพี่ไอเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นละ เอ่อ เดี๋ยวๆๆๆ ผมรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างใต้ก้นน้อยๆ ของผม ตายละ กูไม่รอดแน่ ไม่ใช่ไม่รอดอย่างเดียว แต่หนักเลยล่ะ ถ้าสัมผัสโฟกัสที่ขนาดด้วยแล้ว ผมนึกถึงคำพูดไอ้เกลียวเลยทีเดียว ' เพื่อนกู มีผัวแน่นอน ' หึ่ยย เห็นใจกันหน่อยเถอะ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายมาตั้งแต่แรกนะ จะไปแบบว่า เอ่อ แบบนั้นผมก็ยังทำใจไม่ได้หรอกฮะ ฮยองช่วยหนูด้วยยยย งือออ
" คือว่าา " ผมตัดสินใจทำลายความเงียน เอ้ย เงียบนี้เบาๆ พี่ไอที่ตอนนี้อารมณ์ครุกรุ่น เอี้ยวตัวมามองด้านข้างของผมแล้วทำท่ากลั้นขำซะอย่างนั้น
" อะไร กลัวเหรอ " ผมไม่พูดแต่พยักหน้าน้อยๆ หนึ่งทีเป็นคำตอบ
" ฮ่าๆๆ " พี่ไอหัวเราะลั่นแบบขำซะเหลือเกิน ทำเอาผมหน้าจ๋อยไปเลยเพราะความอาย ชิ ไอคนบ้ากาม ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะหนุ่มน้อยไร้ประสบการณ์อีก
" ไปโรงแรมกัน "
" เย้ยยย ไม่ไป๊ " ผมเสียงสูงแบบปิดไม่มิด
" อะไร ก็ไปกินข้าวไง มีร้านนึงอยู่ในโรงแรม บรรยากาศดี " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำเอาพี่ไอขำก๊ากอีกรอบ แต่ผมดีใจนะที่พี่ยิ้มได้แล้ว ซึ่งหายากมาก
ผมอมยิ้มก่อนหอมแก้มพี่ไอหนึ่งทีด้วยความไวเหนือแสง แล้วรีบปีนกลับไปนั่งอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ทำให้พี่ไอมองหน้าผมอย่างตกใจ
" หึ ติดไว้ก่อนนะ เอาคืนดับเบิ้ล " พี่ไอพูดพร้อมส่งรอยยิ้มหื่นกระหายมาให้ หึ่ยย ดับเบิ้ล เลยหร๊า ขอทริบเบิ้ล ได้ไหม ถุยย ฮ่ะๆ
ผมมองไปที่นอกกระจก ยิ้มให้กับเงาสะท้อนของคนข้างๆ อย่างสุขใจ
ผมอยากให้คนคนนี้ ยิ้มแย้มอยู่ข้างๆ ผมตลอดไป