ชอบตัวนี้อ่ะ กวนดี...........
ตอนที่ 21 : กลับบ้าน ............
หลังจากวันที่ไอ้เอกมันไม่ยอมให้ผมรับงานถ่ายแบบ ผมเองยังรู้สึกไม่พอใจลึกๆ อย่างหาเหตุผลไม่เจอ
แต่ไอ้ตัวดีมันรื่นเริงเหมือนโลกนี้เป็นของมันคนเดียวเหมือนเคย
"ก็แน่ล่ะสิทุกอย่างได้ดังใจมันหมดนี่" ผมด่ามันในใจ
แม้ว่าเรื่องบนเตียง นอกเตียงมันปรนเปรอให้ผมจนล้นปรี่ แต่ทำไมผมยังรู้สึกไม่พอใจนะ
หรือผมคาดหวังกับอะไรอยู่เหรอ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
.......
"ว่าไงหนุ่มฮอต คู่ดูโอไปไหนล่ะ" ไอ้ชายเดินมาทักผม
"มันไปซื้อน้ำ แล้วน้องดาของมึงไปไหนล่ะ"
"กลับบ้านไปแล้ว กูพึ่งไปส่งที่สนามบินเมื่อคืน ว่าแต่มึงสิไม่กลับบ้านเหรอปิดเทอมนี้"
"กลับพรุ่งนี้เช้า กูไม่ชอบเดินทางกลางคืน มึงล่ะ"
"กลับไม่ได้ ต้องทำมาหากิน หาเงินไว้ใช้เทอมหน้า"
ไอ้ชายมันเป็นคนขยันทำงานพิเศษตั้งหลายที่ เพื่อส่งตัวเองเรียนผมล่ะนับถือมันจริงๆ
"อืม เข้าใจเดี๋ยวกูจะไปเยี่ยมพ่อแม่มึง ให้ไม่ต้องห่วง" ผมรู้ว่าไอ้ชายมันรักพ่อแม่มากแค่ไหน
"ขอบใจมากว่ะเพื่อน เปิดเทอมมึงอย่าลืมพกน้ำพริกมาเยอะๆ นะเว้ย กูล่ะคิดถึง"
"เดี๋ยวจัดให้ 5555 " ผมขำในความเห็นแก่กินของมัน
.......
ผมตื่นนานแล้วแต่ยังไม่อยากลุกจากเตียงไปไหน
จ้องมองใบหน้าหล่อคมเข้มของคนที่กอดผมมาทั้งคืนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ไม่คิดเลยว่าจากคนที่เขม่นกันมาเป็นปีด้วยเบียร์เพียงขวดเดียวพลิกผันให้ต้องมาอยู่นอนอยู่เตียงเดียวกัน
นี่ก็ย่างเข้าครึ่งปีแล้ว ความรู้สึก และการกระทำของซุปเปอร์แฟนของผมคนนี้ที่ให้ผมไม่มีน้อยลง
มีแต่จะเพิ่มขึ้นและมากกว่าที่ผมคาดคิดด้วยซ้ำ
"เอก นายรู้ใหม่ ตั้งแต่เกิดมาผมมีความสุขที่สุด ก็ตอนมีนายเคียงข้างนี่แหละ" ผมกระซิบบอกหัวใจตัวเองเบาๆ
ก่อนจะจูบริมฝีปากที่แสนรุ่มร้อนนั้นเบาๆ
"เฮ้อ แล้วเดือนนึงนี่จะคึดถึงนายมากแค่ไหนนะ" ผมได้แต่ถอดใจก่อนจะลุกไปอาบน้ำ
.......
"กูจะกลับบ้าน ที่เชียงใหม่วันนี้" ผมเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทานอาหารเช้าอยู่
"อือ" ไอ้เอกตอบ สั้นๆ มันทำให้ผมน้อยใจนิดๆ รู้สึกอิ่มเอาดื้อๆ
"งั้นกูไปเก็บของล่ะ" ที่จริงผมเก็บของเสร็จแล้วแต่เมื่อคืน
แต่ไอ้บ้านั่นมันทำให้ผมเซ็งๆ
"จะแกล้งอาลัยอาวรณ์กันสักนิดก็ไม่มี" ผมบ่นพึมพำ
หนึ่งเดือนเชียวนะ ที่ผ่านมาถ้าผมกับมันห่างกันเกินสาบสิบนาทีเป็นยังทำท่าจะเป็นจะตาย
แต่นี่หนึ่งเดือน มันทำเหมือนไม่สนใจมิน่าล่ะแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
เพราะทุกเช้าผมจะตื่นขึ้นเพราะความซุกซนของมัน แต่เมื่อเช้าไม่มีอะไรเลย
หรือคงถึงเวลาเริ่มเบื่อกันแล้วสินะ
ผมรู้สึกหม่นหมองจนไม่มีแรงจะทำอะไร
ก่อนที่ไอ้เอกมันจะมาเห็นผมในสภาพนี้ผมกัดฟันลุกขึ้นลากกระเป๋าออกจากห้อง
ยังไงก็ไปให้พ้นคอนโดก่อนเถอะ ผมเห็นไอ้เอกยังอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดชุดเดิมก็เข้าใจทันที
"มันไม่คิดแม้จะไปส่งกูเลยเหรอนี่" ในใจผมคิดอย่างนั้นแต่ผมกลับส่งยิ้มให้มัน "ไปละ"
"อือ" มันยิ้มตอบแล้วเดินมาลากกระเป๋าและจับมือผมลากเข้าไปในลิฟท์
"ยังดีที่มีแก่ใจไปส่งกูหน้าคอนโด"ผมคิดในใจผมห่อหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
ไม่อยากรับรู้อะไร ไม่อยากสนใจสิ่งรอบตัว
"มันจะเอากูไปทิ้งไหนก็ตามใจเถอะว่ะ" ผมบอกตัวเอง
แต่สิ่งที่ผมทำก็คือเกาะมือไอ้เอกแน่นไม่ยอมปล่อยแล้วหลับตาลงปล่อยให้มันจูงผมไป
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อเสียงไอ้เอกมากระซิบเบาๆ ที่หู "คิดถึงบ้านมากเหรอ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงไม่ใช่เหรอ"
"อือ" ผมมองหน้าคนพูดที่ส่งสายตาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยมาให้
"ถึงสนามบินละ ป่ะอย่ามัวแต่ใจลอยสิ ไม่กี่ชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึง"
ผมเริ่มสังเกตสิ่งรอบตัว เฮ้ย นี่หมายความว่าไง
คนขับรถของไอ้เอกลากกระเป๋านับสิบใบมาจากไหนไม่รู้นำเราไปช่องทางเข้าสนามบิน
กว่าผมจะมั่นใจว่าไอ้เอกจะไปบ้านผมก็ต่อเมื่อมันนั่งอยู่ข้างผมบนเครื่องบินและมืออันซุกซนของมันก็เข้าไปอยู่ในกระเป๋ากางเกงผม
"ซักวันหนึ่งเราทำกันกลางอากาศนะ" มันกระซิบเสียงกระเส่าข้างหูผม
"ไม่ทำตอนนี้เลยล่ะ" ผมกระซิบข้างหูมันเบาๆ
ขอให้มีมึงอยู่ข้างๆ มึงจะลามกกะกูยังไงกูก็ยอม ผมนึกในใจ
.........
ผลพวงจากการยอมให้ไอ้เอกลามกด้วยในห้องน้ำบนเครื่องบิน
คือไอ้เอกมันมีกำลังม้าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ถ้ามันอุ้มผมได้ไม่กลัวผมอายผู้คนมันคงทำแล้วมัง
"ภูมิผมมีความสุขจัง คืนนี้เราไม่ต้องนอนดีไหม" น่านเอากับมันสิ ในหัวมันมีแต่เรื่องเสียวอย่างเดียวจริงๆ
"จะให้ผมบอกพ่อแม่นายไหมว่าเราเป็นแฟนกัน" จู่ๆ มันก็เอ่ยขึ้นมาระหว่างขึ้นแท็กซี่กลับบ้านผม
"อยากตายก็พูดสิ" ผมพูดประชด
"ถ้าเอกตายภูมิก็เป็นม่ายสิ" ผมอายคนขับแท็กซี่ เลยทำเป็นเฉยๆไปก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากก็คือ นอกจากบรรดาของฝากที่ไอ้เอกมันซื้อมาฝากพ่อแม่ผมจนล้นบ้านแล้ว
มันยังซื้อนาฬิกามาให้พ่อและแม่ผมคนละเรือน
ผมเองไม่รู้เรื่องนาฬิกาเท่าไหร่ เห็นก็นึกว่าเออสวยดีราคาคงไม่กี่พัน
และพ่อกับแม่ผมเหมือนจะชอบใจ ขอบอกขอบใจไอ้เอกยกใหญ่
แต่ผมดันมารู้ทีหลังว่าราคานาฬิกาสองเรือนนั้นร่วมสองล้านกว่าบาท (ซึ่งผมก็ทำไรไม่ได้แล้วเพราะพ่อแม่ผมใส่มันทุกวัน)
หลังทานข้าวเย็นเสร็จ พ่อ ผม และไอ้เอกก็ตั้งวงดื่มสาโทที่พ่อหมักเอง พ่อผมทำสวนชอบหมักเหล้าดื่มเองเป็นประจำ
ส่วนแม่ขอตัวไปช่วยงานแต่งงานลูกสาวเพื่อนครูที่ทำงานโรงเรียนเดียวกัน
ไอ้เอกมันคุยกับพ่อผมอย่างถูกอกถูกคอผิดไปจากไอ้หน้าเฉยชาที่ผมเคยรู้จักลิบลับ
สงสัยอากาศเปลี่ยนมังมันจึงร่าเริง อ้อนคนนั้นคนนี้ไม่มีหยุด
"พ่อครับ ไอ้ภูมิหล่อขนาดนี้แสดงว่า ตอนพ่อเป็นหนุ่มคงเสน่ห์แรงไม่ใช่เล่น"
พ่อผมหัวเราะชอบใจโม้เรื่องวัยหนุ่มให้ฟังยาวเหยียด
"พ่อครับ ผมกับไอ้ภูมิพักอยู่ด้วยกันนะครับมีอะไรให้ผมรับใช้ บอกผ่านไอ้ภูมิได้เลยนะครับ"
"เออ ขอบใจลูก ดีๆ จะได้ดูแลกัน" น่าน สงสัยพ่อผมเริ่มเมา
หลังดื่มไปอีกสักพักไอ้เอกก็ลุกขึ้นไปคุกเข่าต่อหน้าพ่อผมก้มหัวพร้อมพูดเสียงดัง
"พ่อครับ กรุณารับผมเป็นลูกชายด้วยนะครับ" พ่อผมถูกอกถูกใจรับปากรับคำยกใหญ่ เหล้านี่มันเปลี่ยนคนได้จริงๆ
แล้วผมก็ต้องสะดุ้งโยงเมื่อไอ้เอกมันพูดต่อว่า
"พ่อครับ กรุณายกไอ้ภูมิให้ผมดูแลด้วยนะครับ"
"ได้สิไอ้ลูกชาย ฝากไอ้ภูมิด้วยนะ มันขี้งอนมาตั้งแต่เด็กอย่าถือสามัน"
"ขอบคุณครับพ่อ ผมจะรักไอ้ภูมิเหมือนที่พ่อรักมันครับ" ว่าแล้วขี้เมาทั้งสองก็ชนแก้วกันต่อ
ปล่อยให้ผมนั่งอ้าปากค้างในความกล้าบ้าบิ่นของคนทั้งคู่
"สาโทนี่มันแรงจริงๆ" ผมได้แต่นึกในใจ
จบตอนที่ 21