ฉบับรีไรท์แล้ว ตามที่จะลงในหนังสือทั้งหมด
ตอนที่ 4
ตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่ร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศโคตรดี ดีมากๆ มากกกกกกกก มากจนผมกินอะไรไม่ลง ไอ้ฟาวส์กับพี่ชายมันทะเลาะกันหรอวะ ต่างคนต่างเงียบ คนอื่นเลยมันส์ไม่ออก พี่ชายผมนั่งเขี่ยข้าวเล่นส่วนไอ้ฟาวส์นั่งกระดกเหล้าไม่หยุด
“ฟาวส์พอๆ มึงจะเมาแต่หัววันเลยไง มาเที่ยวนะเว่ย มึงด้วยเฮซเสือกหงอยแดกไรตอนนี้” ไอ้พี่จิมที่ทนไม่ไหวก็โวยออกมา พี่ชายผมเลยเริ่มกินข้าว ส่วนไอ้ฟาวส์ก็วางแก้ว นั่งจ้องพี่ชาย ไอ้เห็ดแบบกระผมก็ก้มหน้าก้มตากิน
“อ่ะ ปลาหมึกอร่อยนะเห็ด” ไอ้เซอร์ยังคงลัลล๊าไม่แคร์สถานการณ์ตักนั่นตักนี่ให้ผม
“มึงกินไปเหอะ กูตักเองได้น่า”
“ถุ้ย หวานเอาโล่หรอคร๊าบบบ” ไอ้พี่จิมยังคงกวนตีนกลับมา ทีไอ้มิวมันแทบจะป้อนพี่คิวอยู่ละไม่เห็นแซว แม่งเอ้ย
“อิ่มว่ะกูไปเดินซื้อของก่อนนะ” พี่ชายวางช้อนที่กินไปได้คำเดียว ลุกเดินออกไป ไอ้ฟาวส์ก็วางแก้วเดินตามไป บรรยากาศเลยเริ่มดีขึ้นหน่อย ค่อยเจริญอาหารขึ้นมั่ง
“สวัสดีครับแขกทุกท่าน วันนี้อากาศดีหวังว่าทุกท่านจะอิ่มเอมกับบรรยากาศและรสชาติอาหารของร้านเรา ก่อนอื่นเรามาฟังเพลงเพราะๆ เศร้าๆกันดีกว่าครับ “ เสียงนิ่มๆของผู้ชายดังขึ้นจากเวทีเล็กๆ เค้าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่งทีเดียว เขาหยิบกีต้าร์โปร่งขึ้นมา ก่อนจะเริ่มลีดเพลงๆหนึ่ง
‘ ไม่อยากเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว
ที่ไปรักใครง่ายดายเหลือเกิน
ที่ไปรักเธอไม่ทันจะรู้ตัว
ส่วนหนึ่งในใจของฉันก็กลัว
บอกกับหัวใจตัวเองทุกที
บอกมันทุกวันให้มันหยุดรักเธอ
รักแล้วก็ช้ำเปล่าๆ
ฉันรู้และพอเข้าใจ
เตือนตัวเองเอาไว้ห้ามตัวเองเอาไว้
ไม่ให้แสดงออกมา
อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว
ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย
สั่งหัวใจให้เมินเฉย
ไม่รู้ต้องทำยังไง
ใกล้เธอทำไมทุกครั้งในมันสั่นๆ
จิตใจของฉันนั้นวุ่นวาย
ตัวของฉันควบคุมไม่ได้
เมื่อสุดท้ายหัวใจมันรักเธอ ’
“โห ขนาดเพลงผู้หญิงเสียงยังโคตรดี” ผมพูดออกมาแต่คงเสียงดังไป เพราะทุกคนหันมามองผมกันหมด แม้แต่นักร้องคนนั้น
“ขอบคุณครับ ขอเพลงได้นะครับ ฮะๆ” เค้าโค้งหัวให้ผม เขินว่ะ
“เหอะ เสียงไม่เห็นจะดี รอฟังกูนี่” ไอ้เซอร์ตบหัวผมทีนึง ก่อนจะลุกไปคุยกับนักร้องคนนั้น แล้วมันก็ได้ร้องเพลง
“ครับ ก็ขอร้องเพลงๆหนึ่ง ให้น้องเห็ดน้อยของผมนะครับ ก่อนอื่นขอบอกน้องเห็ดที่รักของผมว่า อย่าหลงคนอื่นนอกจากกูได้มั้ย เดี๋ยวกูคันตีนอยากกระทืบทั้งมึงและมันหรอกครับสัส หึหึ” เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านกึ่งผับ มันเลยมีแต่วัยรุ่น คำหยาบเลยไม่ได้มีใครคิดมากอะไร แล้วเสียงลีดก็ดังขึ้นพร้อมเสียงนุ่มๆเป็นเอกลักษณ์ของไอ้เซอร์
‘ ใจหนึ่งใจ จะต้องการอะไร
ให้มันมากมาย ให้มันวุ่นวาย
เพียงเธอนั้น ใส่ใจกันเบาเบา
พอให้สองเรา ได้ทำอะไรมากมายในตอนนี้
บางเวลาไม่เป็นไร ถ้าเธออยู่ไกล
บางเวลาฉันเข้าใจ เธอลืมกันไป
บางเวลาไม่เป็นใจ ก็ไม่ต้องเสียดาย
ปล่อยมันไปก่อนนะ
คิดถึงฉันสักครั้ง เมื่อไม่ได้คิดถึงใคร
ทำตัวตามสบาย แล้วเจอกันในความฝัน
มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง
ไม่มากเกินไป ดังนั้นค่อยๆ รักกันเบาเบา ‘
ร้องไปมันก็มองมาที่ผม เขินกว่าเดิมอีกว่ะ แม่ง ผมเลยได้แต่ก้มหน้างุดกินข้าว
“เพื่อนผมคร๊าบบ เพื่อนผม วู้ๆๆๆ” ไอ้พี่จิมพี่ซูม เคาะแก้ว เป่าปากกันเรียกเสียงฮาจากคนในร้าน
“มันเป็นเกย์ด้วยคร๊าบบบ ก๊ากกกก” ไอ้มิวก็ร่วมตะโกนอีกคน
“สัส พวกมึงเงียบปากไปเลยไป” ไอ้เซอร์ด่าผ่านไมค์ขำๆ ก่อนจะส่งกีตาร์ให้นักร้องเดินกลับมาที่โต๊ะ
“เป็นลูกค้าที่เสียงดีมากเลยนะครับ ฮะๆ ใครอยากได้เพลงอะไรรีเควสกันได้ครับ” แล้วเขาก็ร้องเพลงไปเรื่อยๆ ซึ่งไอ้เซอร์ก็รีเควสแต่เพลงแปลกๆ แต่มันก็ร้องได้ ไอ้เซอร์เลยอารมณ์เสียนั่งกินเหล้าเซ็งๆ สักพักก็มีนักร้องผู้หญิงอีกคนมาร้องแทน ไอ้หล่อเลยเดินมาโต๊ะผม
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ” เสียงนุ่มๆดังขึ้น ไม่รอคำตอบมันก็นั่งลงข้างไอ้เซอร์ ที่ส่งสายตาอาฆาตให้มัน แค่ผมชมมันว่าร้องเพลงเพราะแค่นี้ ง้องแง้งว่ะ
“ใครเชิญมึง ออกไปเลยไป”
“ก็ผมสนใจหนุ่มน้อยตรงนั้นนี่ครับ” มันส่งสายตาหวานเชื่อมมามองผม ผมเลยส่งสายตา งงๆประมาณว่า กูเหรอ ไรงี้
“เมียกูสัส อย่าลามปามไปไกลๆตีนไป”
“คบได้เลิกได้ครับ” ไอ้หล่อยักคิ้วกวนส้นตีนใส่ไอ้เซอร์ที่แทบจะถลาเข้าไปต่อยมัน
“มึงอย่ามาทำตัวสันดานเหิ้ยแถวนี้ ออกไปก่อนที่กูจะเรียกผู้จัดการร้าน”
“ไม่ต้องเรียกครับ ผมนี่แหละเจ้าของร้าน ฮะๆ” ไอ้หล่อเอาแก้วเปล่ามารินเหล้าเองก่อนจะกระดกรวดเดียวหมด
“ไม่มีปัญญาหาเองเลยต้องเอาของคนอื่นรึไง” ไอ่เซอร์เริ่มขึ้น ทั้งโต๊ะเงียบหมดรอดูท่าทีไอ้หล่อกับไอ้เซอร์
“เอ่อ ใจเย็นๆกินข้าวต่อเหอะยังไม่อิ่มเลยว่ะ” ผมเลยพูดขัดออกไปแต่ดันเป็นชนวนทำศึกกว่าเดิม
“กินเยอะๆครับ โต๊ะนี้ฟรีถือว่าผมเลี้ยงให้น้องน้อยนะครับ” มันส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ผม
“ยังไม่เลิกฟุ้งซ่านอีกหรอวะ” ผมเดินไปหาไอ้เซอร์ที่ ยืนสาปแช่งกับลมกับฟ้า เตะทรายปลิวว่อน บ้าบอคอแตก
“มันหยาม หยามกันชัดๆ ไอ้สัสซี แม่งเอ้ยยยย” ซีก็คือเจ้าของร้านเมื่อกี๊ไง
‘ผมชื่อซีนะครับ ^^’
‘ ใครอยากรู้จังมึง ไอ้หน้าอ่อน ’ ไอ้เซอร์บ้าไม่เลิก
‘ แนะนำให้ว่าที่แฟนน่ะครับ ฮะๆ ’ ไอ้นี่ก็รีบไปไหนวะ
‘ สาส ต่อยกับกูเลยมา ’ ไอ้เซอร์ถลาจะเข้าไปต่อย ดีที่พวกพี่จิมดึงไว้
‘ พอเว้ยย กลับ ’ ผมเลยตะโกนแม่ง แล้วลากคอไอ้เซอร์กลับ
จนมันมานั่งเตะทราย บ้าบอนี่แหละ เหิ้ยจริงเลยว่ะ
“งั้นมึงบ้าต่อไป กูไปนอนละ”
หมับ ! มันจับแขนผมไว้ แล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น
“ห้ามไปชอบมันนะ ไม่สิ ห้ามชอบคนอื่นนะเห็ด” เฮ้อออออ ไอ้บ้าเอ้ย
“เดี๋ยวกลับกรุงเทพก็ไม่ได้เจอมันแล้ว อย่าไปซีเรียสมากเลยมันแค่พูดเล่นๆว่ะ โตๆกันแล้วมาคิดมากไรแค่นี้วะมึง” ผมก็โอบแขนรอบเอวมัน แหงนหน้าขึ้นมองคนตัวสูง ที่ก้มลงจ้องผมเช่นกัน สายตาคมคู่นั้นฉายความไม่แน่ใจ ลังเล … มันน่ารัก …. แวบหนึ่งในห้วงคิด บ้าแล้วเรา จะน่ารักได้ยังไงวะ ตัวอย่างกับควาย ฟุ้งแล้วกู
“หวงนะครับน้องเห็ด” คนตัวสูงก้มหน้าลงมาก่อนจะเชยคางผมขึ้นรับสัมผัสผ่านริมฝีปากที่แนบชิดกัน … จูบเบาๆ เนิบนาบ แต่หวานชะมัดในความรู้สึกผม .. ติดใจจูบมันแหงแซะเลยว่ะ แล้วแบบนี้จะขาดได้มั้ยว๊า ตายแน่กู
“อื้อ ..” ผมทุบไหล่มันบอกให้รู้ ว่ากูจะขาดอากาศตายคาอกมึงละ มันก็ผละออกเล็กน้อยๆ พอผมสูดหายใจเข้ามันก็จูบลงมาอีก ผมก็ยกแขนโอบคอมัน ยิ่งจูบยิ่งมัวเมา … ยิ่งเย้ายวน … แทบจะจมดิ่งลงไปในความหอมหวานราวกับลุ่มหลง ..
“กลัวทำมากกว่าจูบชะมัด” มันค่อยๆผละออกก่อนจะพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้เห็ดก็เขินสิครับ ยิ่งหลงๆมันอยู่ แต่อย่าให้มันรู้เชียว เดี๋ยวแม่งได้ใจ ฮ่าๆๆๆ เฮ้ยอะไรมันยุบยิบๆวะ ผมก้มลงไปมองขาตัวเอง เฮ้ย !
ไอ้สาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส !!
กูเหยียบรังมดแดงอยู่
“ฮะ เฮ้ยๆๆๆๆๆ” ผมตะโกนลั่น เตะรังหมดแดง ไปไกลๆ
“สัสสส มดมาจากไหนวะ อ๊ากกก” ไอ้เซอร์ก็มดไต่เต็มขา มันแบกผมขึ้นพาดบ่าวิ่งลงทะเล
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” สองเสียงผสานกัน ลอยคออยู่ในน้ำ แบบไม่แคร์โลก แม่งกัดกูซะเจ็บเลยมดเลวววว
“คันๆๆๆๆ คันว้อยยยย” ไอ้เซอร์ถอดเสื้อบ้าบอลุยน้ำลงไปไกล ผมจะบ่นเลยไม่ได้บ่น ฮ่าๆ มันแต่ขำมัน ไอ้บ้าเอ้ย แค่มด ตัวโตซะเปล่า ไม่ไหวเลยว่ะ
“พวกมึงทำเหิ้ยไรกันวะ” ไอ้ฟาวส์เดินมายืนริมหาด ถามผม เอือมๆ
“ฟาวส์ๆ มึงรีบหนีเร็ว” ผมมองเห็นกองทัพมดแดงกำลังขึ้นมาจากทราย ข้างรองเท้าไอ้ฟาวส์
“อะไรของมึงวะ หะ เห้ยยยย เหิ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย” แล้วกองทัพมดแดงมันก็ขึ้นไต่ขาไอ้ฟาวส์ มันวิ่งลงน้ำตามไอ้เซอร์ไป ไปไกลกว่าไอ้เซอร์อีก กูบอกมึงแล้วนะฟาวส์เอ้ยยยยย
“เห็ดๆๆๆ ยืมยืมยาสีฟันหน่อยสิ” ไอ้ซิมวิ่งมายืนอยู่ตรงฝูงมดแดง
“ซิมวิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
“อะไร วิ่ง อะ เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย” มันกระโดดลงน้ำลงมา เออสรุป ทุกคนจะลงน้ำให้มันฮากันหมดรึไงวะ หลังจากปล่อยพวกแม่งล้างตัว พวกเราก็เดินหลบเลี่ยงฝูงมด กลับไปที่เต็นท์ ไอ้พี่ซูมพี่จิม ที่นั่งลีดกีตาร์กันอยู่ ก็ขำก๊าก พอกูเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เฮ้อออ มดเหิ้ยไรมาอยู่ในทรายวะ !!
“ว่าแต่ … พี่ชายหายไปไหนอ่ะ” ผมหันไปถามฟาวส์ที่มันเงียบกริบ แล้วเดินหนี
“ฟาวส์ พี่ชายหายไปไหน”
“มันไปกับคนของมันแล้ว” ไอ้ฟาวส์ตอบมาเสียงเย็นชา
“คนของมัน คนของมันอะไร ก็มึงตามพี่ชายไปไม่ใช่หรอ” ผมเริ่มโวยวาย เดินไปหามันแล้วดึงแขนให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน ไอ้เซอร์รีบเดินมายืนข้างๆผม
“ใช่ ตามไป แล้วก็โดนมันไล่กลับมาไง เพราะมันเจอคนของมันแล้ว ชัดมั้ย” สีหน้าไอ้ฟาวส์เจ็บปวด .. เหมือนอยากจะร้องไห้ แต่ต้องกลั้นไว้ ไอ้คนกร่างๆแบบมันมีมุมนี้ด้วยหรอวะ
“แต่พี่ชายยังไม่กลับมา …. คนที่ว่านั้นเป็นใครมันทำอะไรพี่ชายหรือเปล่า”
“พี่มึงยินยอมไปกับมันเอง กูจะรู้มั้ยว่ามันจะทำอะไรรึเปล่า”
“ไม่โดนทำอะไรหรอก ไผ่เขาเป็นคนดีพอว่ะ” เสียงพี่ชายผมดังขึ้น เดินลงจากรถเก๋งมาพร้อมผู้ชายหน้าตาหล่อมาก ถึงมากที่สุด
“นั่นใครอ่ะพี่ชาย”
“ชื่อไผ่ครับน้องเห็ด” ผู้ชายคนนั้นยิ้มหล่อๆให้ผม ไอ้เซอร์นี่เริ่มไม่พอใจอีกละ
“เออๆ เอาเป็นว่าไปนอนกันเหอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“งั้นเราไปก่อนนะเฮซ อย่าคิดมากล่ะมีไรโทรหาไผ่นะ” คนชื่อไผ่ขยี้หัวพี่ชายผมแรงๆ ก่อนจะขับรถจากไป
“หึ ไม่ไปนอนกกกันซะเลยล่ะ” ฟาวส์แค่นเสียงออกมา
“กูไม่ได้นิสัยแบบมึงว่ะ” พี่ชายผมพูดเรียบๆก่อนจะเดินเข้าเต็นท์ไป แน่นอนว่าผมก็วิ่งด๊อกแด๊กตามไปชัวร์ๆ
“กลับบ้านกันเหอะว่ะ” พี่ชายพูดออกมาตอนกินอาหารเช้ากัน
“มาได้คืนเดียวเองเนี่ยนะ” พี่ซูมทำเสียงประหลาดใจ ผมก็งงๆ อะไรวะ ยังเล่นน้ำไม่เต็มอิ่มเลย แง่งง
“ไม่พอใจไรก็พูดตรงๆดิ” ไอ้ฟาวส์เริ่มขึ้นเสียง เอาแล้ว มวยคู่เอก เริ่มแล้วไง แล้วเห็ดแบบกูควรทำเช่นไร นอกจากเขยิบ ขยับ ออกไปไกลๆรัศมี
“ไม่มีไร แค่ไม่อยากอยู่ต่อ กูจะกลับ พวกมึงจะอยู่ก็ได้ เดี๋ยวกูกลับเอง” พี่ชายลุกขึ้น จะเดินกลับเต็นท์
“อยากไปหามันก็บอกตรงๆก็ได้ อย่ามาอ้างเหอะ”
“สัส มึงจะเอาไงกะกูอีกวะ” พี่ชายผมเดินเข้ามากระชากคือเสื้อไอ้ฟาวส์
“ทำไม ไม่พอใจรึไง หรือว่าแทงใจดำ”
“มึงทำลายชีวิตกูแค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรอ หึ หรือต้องให้กูตายต่อหน้ามึง มึงถึงจะพอใจ” พี่ชายผมผลักไอ้ฟาวส์แรงๆ สายตาฟาวส์มีแต่คำว่าเสียใจ ซึ่งไม่ต่างอะไร … กับสายตาพี่ชายเช่นกัน
Ver. Haze
“มึงทำลายชีวิตกูแค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรอ หึ หรือต้องให้กูตายต่อหน้ามึง มึงถึงจะพอใจ” คำพูดที่ผมอยากบอกมันมานาน
“เฮซ….”
“ทำไม มีอะไร ตอนนี้มึงจะพูดเหิ้ยไรอีก มึงจำไม่ได้รึไง ทำเองกับมือแท้ๆ ทำเหมือนกูเป็นสิ่งของ หึ ยกให้คนอื่นเค้าเอง เสือกอยากจะได้คืนเอาตัวสั่นตอนนี้รึไง”
“มึงเคยฟังกูพูดสักอย่างมั้ยล่ะ กูตามไปจะเคลียกับมึง มึงก็ไม่คุยกับกู แล้วไหนจะ….”
“มึงทำไว้งามหน้าขนาดนั้น คิดว่ากูจะยอมคุยกับมึงมั้ย ขนาดควายมันยังรู้เลยเรื่องแค่นี้ ไม่สิ ตอนนั้นกูโง่กว่าควายอีก”
“ไปใหญ่ละ ถ้ามึงฟังกู มึงถามกูสิ เรื่องมันก็จบไปนานแล้วไง”
“กูผิดงั้นหรอเรื่องนี้ ? กูผิดใช่มั้ย ที่ไม่ฟังมึง ที่ไม่ยอมคุยกับมึง เรื่องนี้กูผิดสินะ”
“ไม่ใช่ แต่….”
“มึงเคยโทษตัวเองมั่งมั้ย ว่าที่กูเป็นอย่างนี้เพราะใคร แล้วตอนมึงทำทำไมไม่ถามกูบ้าง ว่ากูต้องการมั้ยล่ะ ไปนอนในทะเลให้ปลาการ์ตูนมันตอดมึงจนพรุนเหอะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึงว่ะ” ผมเดินหนีมันออกมา แต่มันกระชากแขนผม แล้วลากลงทะเล ผ่านไอ้พวกเพื่อนๆน้องๆที่ไปยืนหลบมุมๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่ง
“สัส ปล่อยกูมึงจะทำเหิ้ยไรอีก ไอ้เหิ้ยยยยย” มันลากผมลุยน้ำลงไปเรื่อยๆ แล้วเหวี่ยงแขนผม แน่นอนว่ามันแรงควายจนผมล้มกระแทกลงไปเปียกทั้งตัว
“ลงน้ำซะ มึงจะได้เย็นลง”
“เรื่องนี้คือกูใจร้อนใช่มั้ย ? ทั้งๆที่กูเสียหาย ทั้งๆที่กูโดนมึงเอาไปใช้เป็นของเดิมพัน”
“กูไม่ได้อยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมึงเข้าใจมั้ย” มันตะโกนใส่ผมดังลั่น
“แต่มันเกิดไปแล้วไง เพราะมึงไง มึงทำของมึงเอง” เอาสิ ผมก็ตะโกนกลับ ให้มันตายไปข้างแหละวันนี้
“กูไปรอมึงหน้าบ้านอยู่เป็นเดือนๆ เพื่อจะคุยกับมึง มึงก็ไม่ยอมคุยกับกู เห็นกูก็วิ่งหนี แล้วมึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูจะทำมั้ยล่ะ”
“ไม่เข้าใจ ไม่อยากเข้าใจ กูรู้แต่ว่ามึงเหยียบย่ำความรู้สึกของกู และกูทนไม่ได้ มึงได้ยินชัดยัง” ผมลุกขึ้นยืน สู้หน้ามัน
“ทำไม .. ทำไมไม่ฟังกูบ้าง .. ทำไมไม่เชื่อใจกูบ้าง ทั้งๆที่กูรักมึงขนาดนี้” คำพูดในโทนเสียงที่อ่อนลง เสียงที่เจือด้วยความเจ็บช้ำ … หวั่นไหว .. อีกแล้ว ..
“มึงรักแต่ตัวเองเท่านั้นแหละ ปล่อยกูไปเหอะ มันจบมาสองปีแล้ว อย่ามาทำให้มันเริ่มใหม่เลย กูไม่อยากเจออะไรแบบนี้อีก” ทั้งๆที่อยากบอก … ว่ารัก ยังรัก และ ยังจะรัก ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้กัน … เหตุผลที่ยังไม่อยากรู้ … มันเจ็บเกินไป มันเป็นแค่ข้ออ้าง หรือ เรื่องจริง มันหมดศรัทธาไปแล้ว ..
“เฮซ แต่กูขาดมึงไม่ได้” มันรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น กดหัวผมลงกับไหล่ แปลก…ที่ผมยอมยืนเฉยๆ น้ำตา … ที่ยังคงไหลให้กับเรื่องเดิมๆ ยังคงเอ่อล้นเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนไป และเขา … ก็ร้องไห้เช่นกัน …
คนสองคนที่รักกัน ยืนร้องไห้ให้กับเรื่องเดียวกัน …
หนึ่งคน .. เป็นฝ่ายทำร้าย
แต่… รักคงมั่น
หนึ่งคน … ถูกทำร้าย
แต่ … รักมั่นคง
คำว่าเหตุผล …
ที่คนหนึ่งอยากอธิบาย
แต่อีกคน ….
กลัวการจะรับฟัง …
หนึ่งคน … เฝ้ารอ
หนึ่งคน … หลีกหนี
เพียงเพราะ …
เรื่องในอดีต …
ที่จบลงพร้อมน้ำตา
ตัวแปร …
คือสิ่งใดกัน …