รักใสปิ๊ง
พิเศษ บ้านออมรัก ((ไทม์♥ออน))
ห้องนอนภายในบ้านของไทม์ หนุ่มวัยทำงานเช่นไทม์กำลังแต่งตัวเพื่องานสำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ สีหน้าของเขาดูอิ่มเอมเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มบางๆแตะแต้มริมฝีปากอยู่ไม่คลายเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้าไม่นานนี้ งานแต่งของเขากับนีออน
“กูก็อยากแต่งกับน้องเซียนของกูบ้างเหมือนกันนะเนี่ย”
แอมที่อยู่ในห้องด้วยเปรยขึ้นมา ไทม์ที่กำลังติดกระดุมเสื้อหันมามองเพื่อนยิ้มๆ ภายในห้องนอนของไทม์นอกจากแอมแล้วยังมีอีกสองหนุ่ม คือน้ำกับวินเซนต์ตัวแสบ ทั้งสามหนุ่มแต่งหล่อกันเต็มที่เพราะจะไปเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานแต่งงานของไทม์ แอมนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงนอนของเพื่อน ขณะที่น้ำยืนพิงกรอบหน้าต่างมองเพื่อนไทม์เงียบๆ วินเซนต์ที่จัดแต่งผมตนเองอยู่หน้ากระจกข้างๆไทม์เหลือบมามองเพื่อนแอมก่อนว่า
“กูว่าแทนที่มึงจะได้ร่วมหอลงโรงกับน้องมัน มึงจะได้ลงโลงเพราะลูกปืนท่านนายพลก่อนมากกว่าว่ะแอม”
เมื่อวินเซนต์ว่ามาแบบนั้น อีกสองหนุ่มก็หลุดขำเพราะเห็นด้วย แอมมองเพื่อนที่หัวเราะขำตนเองอย่างไม่สบอารมณ์ ทำไมล่ะ เขาอยากแต่งกับน้องเซียนบ้างนี่มันน่าตลกตรงไหน ชิ!
วินเซนต์ที่แต่งผมจนพอใจแล้วเดินมานั่งลงข้างแอม ก่อนเยาะเย้ยเพื่อนต่อ “มึงลองเดินเข้าไปบอกท่านให้ไปขอผู้ชายให้ดิ รับรองโป้งเดียว! มึงได้นอนโลงชัวร์”
“ห่าวิน เล่นถึงพ่อกู!”
แอมขยำผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดีของเพื่อนวินตัวแสบ วินเซนต์ร้องว้ากก่อนรีบลุกมาหลบอยู่ข้างน้ำที่กอดอกมองเพื่อนซี้ทั้งสอง ไทม์ที่แต่งตัวเสร็จแล้วตรวจดูความเรียบร้อยของตนเองอีกครั้ง ไม่ได้เสียอารมณ์กับความวุ่นวายของเพื่อนสนิท
“แล้วนี่มึงคิดยังไงอยากแต่งอย่างไอ้ไทม์ขึ้นมาวะ?” น้ำเอ่ยถามเพื่อนคาสโนว่า
“กูอยากทำให้น้องมันมั่นใจในตัวกูบ้าง จนป่านนี้แล้วน้องมันยังระแวงว่ากูจะแอบนอกใจมันไม่หาย ถึงมันไม่พูดแต่กูก็รู้ว่ามันไม่สนิทใจ” พูดแล้วแอมก็ถอนใจ
“มึงทำตัวเองว่ะแอม” วินเซนต์ซ้ำเติม
“ตอกย้ำกู”
แอมมองเพื่อนตาขวาง วินเซนต์เบ้ปาก ยักไหล่กวนๆ เขาแค่พูดความจริงเองน่า
“ความไว้ใจน่ะ พอมันเสียไปแล้วเอากลับคืนมามันยาก ต้องบอกว่ามันโคตรยากเลยดีกว่า แล้วมึงดู น้ำหน้าอย่างมึงใครเขาจะไปเชื่อ”
“ทำไม หน้าอย่างกูมันทำไม?” แอมถามท่าทางหาเรื่อง
“หน้าอุปกรณ์ทำครัวอย่างมึงมันไม่มีความน่าเชื่อถือหรอกเชี่ยแอม”
น้ำแทบอยากจะปรบมือให้วินเซนต์ที่พูดถูกใจ แอมลุกขึ้นจะไล่เตะเพื่อนวิน แต่พอนึกได้ว่าตัวเองแต่งตัวมาเสียดูดีขนาดนี้ แต่มาวิ่งไล่เพื่อนมันคงดูไม่ดีเท่าไหร่ แอมจึงยืดตัวตรง ขยับเสื้อเล็กน้อยอย่างมีมาด ก่อนเดินกลับไปนั่งที่เดิม ไทม์ส่ายหน้าขำกับความวุ่นวายของสองสหาย ก่อนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งคู่กำลังถกกันอยู่
“มึงคงต้องพิสูจน์ตัวเองไปตลอดชีวิตของมึงนั่นล่ะแอม”
“กูไม่กลัวหรอกว่ามันจะต้องใช้เวลาตลอดชีวิต เพราะยังไงกูก็ไม่คิดจะไปไหนอีกแล้ว แค่อยากให้น้องมันมั่นใจบ้างว่าที่กูทำอยู่ทุกวันนี้มันมาจากใจกูจริงๆ และกูก็มีแต่มันจริงๆ” แอมเอ่ยบอก ไม่ได้มีแววล้อเล่นอย่างที่เคยเป็น ท่าทางหนุ่มคาสโนว่าจะเครียดจริง
“บอกพวกกูไปก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์ สู้บอกเจ้าตัวเลยดีกว่าไหม?”
น้ำว่ายิ้มๆ แอมเลิกคิ้วไม่เข้าใจ ก่อนจะชะงักไปเมื่อเซียนโผล่มาที่หน้าประตูห้องไทม์ เขาเป็นคนพาน้องมาที่นี่เอง ทั้งที่น้องอยากอยู่กับนีออนมากกว่า ก็เพราะแรงยุ หรือ จะเรียกว่าเป่าหูจากวินเซนต์เพื่อนซี้ที่ว่าให้เซียนไปอยู่กับนีออนแบบนี้เดี๋ยวถ่านไฟเก่าได้คุกันกลางงานแต่ง ทีแรกแอมไม่คิดบ้าบอตามวินเซนต์สักนิด เพราะถึงเซียนจะเคยชอบนีออน แต่ตอนนี้น้องเซียนก็เป็นของเขา จนวินเซนต์เป่าหูหนักเข้าแอมถึงได้ลากน้องเซียนมาที่บ้านไทม์ด้วยกัน
“แม่พี่ไทม์ให้ขึ้นมาตาม บอกว่าได้เวลาแล้ว”
เซียนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องเอ่ยบอกรวมๆ พยายามไม่มองหน้าไอ้พี่แอมที่นั่งเงียบเมื่อเห็นเขาโผล่มา ไทม์ยิ้มให้เพื่อนสนิทนีออนน้อย
“อ้อ ครับ เดี๋ยวพี่ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ... ป่ะ พวกมึง”
ไทม์หันมาชวนเพื่อน ทุกคนขยับก้าวเดินตามไทม์ออกไป แอมที่ลุกจากที่นอนเพื่อนแล้วเดินตามมา หนุ่มคาสโนว่าหยุดเท้ายืนอยู่ข้างเซียน เซียนเงยมองแล้วว่าลอยๆ
“เครียดอะไรไม่เข้าท่า”
ว่าแล้วเซียนก็เดินตามพี่ๆไปบ้าง แอมรีบก้าวตามน้องในทันที
“ก็ใครล่ะที่ทำให้เครียด” หนุ่มคาสโนว่าพูดลอยๆแบบไม่เจาะจงบ้าง
“โทษผม?”
“เปล๊า”
แอมเสียงสูง น้องเซียนหยุดมองหน้าพี่ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้น่าหมั่นไส้ก่อนก้าวเดินต่อ แอมก้าวให้ทันน้อง โอบแขนเกี่ยวเอวน้องเซียนมาชิดแล้วหอมแก้มฟอดหนึ่ง
“ไว้พี่จะให้แม่ไปขอ” พี่แอมว่ายิ้มๆ
“กล้าเหรอ?”
“อย่าท้านะ เดี๋ยวพาขบวนขันหมากไปรอหน้าบ้านแล้วจะหนาว~~” แอมบีบจมูกน้องที่ลอยหน้ากวน
“โอ๊ยยย อยากหนาว~~”
“หึ หึ”
เซียนลากเสียงทะเล้นทำให้พี่แอมหัวเราะหึๆในลำคอ ไม่ยอมเขาเล้ย ให้ตายเถอะ เมียใครเนี่ยยยย
ด้านหลังเขาคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งอยู่สองคน อีกสองคนที่เดินอยู่ด้านหน้าก็แอบซุบซิบกันบ้าง
“มึงว่ามันสิ้นลายจริงป่ะวะ?” วินเซนต์กระซิบกระซาบ
“แล้วมึงคิดว่าไง?”
น้ำเหลือบไปมองเพื่อนคาสโนว่าที่เดินตามหลังมายิ้มๆ พอสองหนุ่มวิน-น้ำหันมามองหน้ากันก็หัวเราะออกมา หมดแล้วคาสโนว่าแอม เจอเซียนปราบจนสิ้นท่าไปไม่เป็นแล้ว
----------------
งานแต่งของไทม์กับนีออนน้อยที่ถูกจัดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้มีการแห่ขบวนขันหมากกันเอิกเกริก เพราะใช่ว่าจะมีคนเข้าใจตรงกันอย่างที่คนในครอบครัวเข้าใจ งานจึงถูกจัดขึ้นโดยเชิญเพียงคนสนิทเท่านั้น มีพ่อแม่ของไทม์กับน้อง และญาติผู้ใหญ่เช่น ปู่ ย่าตา ยาย ของทั้งสองคนมาเป็นสักขีพยานและอำนวยอวยพรด้วย
ไทม์ในชุดเสื้อสีขาวกับกางเกงสีครีมนวลตาก้าวขึ้นบ้านน้องนีออนพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่ คุณปู่กับคุณย่า และคุณตากับคุณยายของไทม์กับน้องอยู่พร้อมหน้ากันบนบ้านแล้ว เมื่อตอนเช้าตรู่ครอบครัวของเขาและนีออนได้ร่วมทำบุญตอนเช้าด้วยกัน เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวก่อนเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ตอนนี้จึงถึงเวลาที่จะได้ทำพิธีการต่างๆตามสมควร
ยกพื้นบ้านถูกจัดให้ดูเรียบร้อยสวยงาม เบาะนั่งสำหรับญาติผู้ใหญ่ถูกวางไว้ให้นั่ง ไทม์คลานเข่าเข้าไปนั่งด้านหนึ่งใกล้ๆกับที่คุณแม่ของตนนั่งอยู่ นีออนน้อยในชุดสีขาวเหมือนพี่เดินออกมาพร้อมคุณพ่อ ไทม์ยิ้มให้น้องที่วันนี้ช่างดูน่ารัก หนุ่มน้อยคลานเข่ามานั่งใกล้พี่ เมื่อทั้งสองคนมาพร้อมหน้ากันแล้วคุณปู่ของไทม์ที่เป็นผู้อาวุโสสุดจึงเป็นผู้กล่าวนำ ให้สองหนุ่มสวมแหวนให้แก่กันและกัน ก่อนที่คุณพ่อ คุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ทุกคนจะผูกข้อไม้ข้อมือให้ พร้อมกับอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน นีออนร้องไห้เมื่อพ่อกับแม่อวยพรและสอนสั่ง พลอยทำให้คุณแม่น้ำตาซึมไปด้วย
อุ้มรักที่นั่งมองพี่ชายอยู่ปาดน้ำตาป้อยๆ หนุ่มน้อยตัวกลมหันมองพี่น้ำที่นั่งอยู่ข้างกัน พี่น้ำยิ้มเอ็นดูก่อนยื่นผ้าเช็ดหน้าให้น้อง อุ้มรักเอ่ยขอบคุณก่อนรับผ้าเช็ดหน้าจากพี่มาเช็ด น้ำเลื่อนมือมากุมมือน้อง อุ้มรักเงยมองหน้าพี่ก่อนยิ้มออกมา แล้วกุมมือพี่ตอบ มองพี่ชายฝาแฝดของตนเองมีความสุขแล้วอุ้มรักก็พลอยอิ่มใจไปด้วย ถึงแม้น้องอุ้มตัวกลมกับพี่น้ำจะไม่ได้ตบแต่งเหมือนนีออนน้อยกับพี่ไทม์ แต่การใช้ชีวิตร่วมกันกับพี่น้ำแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้อุ้มรักก็มีความสุขดี อาจจะเรียบง่ายจนเรียบเรื่อยไปสักนิด แต่นั่นก็มีความสุขเพียงพอแล้วสำหรับทั้งคู่
เมื่อพิธีการง่ายๆแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจผ่านพ้นไปแล้ว คุณแม่น้องแฝดก็ได้เชิญแขกเหรื่อให้ร่วมรับประทานอาหารหวานคาวที่ตระเตรียมไว้ต้อนรับด้วยกัน พี่ตันหยงกับพี่อุ่นรักคอยช่วยดูแลในเรื่องอาหารการกินพร้อมสรรพ ในขณะที่ทิมเป็นแผนกเสิร์ฟร่วมกับทิวากรที่รัก หวินกับปิงแล้วก็แสตมป์เข้ามาช่วยเพื่อน เมื่อเสิร์ฟอาหารให้ผู้ใหญ่เสร็จแล้วเด็กหนุ่มทั้งขบวนก็แยกย้ายไปหาอะไรทานบ้าง
“กร”
“หืม?”
“อ่ะ อ้าม~~”
ทิมจิ้มของทานเล่นในจานที่ตักมาทานกันยื่นให้กร ทิวากรอ้าปากงับอย่างว่าง่าย แต่ก็แอบค้อนเพื่อนรักที่มองมายิ้มๆ ก่อนจะต่อว่าเบาๆด้วยความเขินที่ทิมมาหวานใส่
“ไอ้บ้า อายคนเขา”
กรว่า เมื่อในครัวไม่ได้มีเพียงตนเองกับทิมสองคน ยังมีพี่อุ่นรักกับพี่แบงค์ แล้วไหนจะพี่ตันหยงกับอีกสามหนุ่ม หวิน ปิง แสตมป์ที่อยู่ในนี้ด้วย
“อายทำไมเล่า ไม่ได้ขอเขากินสักหน่อย” ทิมว่าอย่างไม่แคร์
“นายนี่นะ เดี๋ยวเขาก็ได้คิดว่าบ้านนายเป็นเกย์กันทั้งบ้าน”
“มันคือความจริง” ทิมยักไหล่
“โอ้ย ไม่พูดด้วยแล้ว!” ท่าทางไม่ใส่ใจของทิมทำให้ทิวากรหมั่นไส้เหลือหลาย เด็กหนุ่มเดินออกไปจากครัวที่ตนเองประจำการอยู่
“ไปไหนอ่ะ?” ทิมเอ่ยถามยิ้มๆ
“ไม่ต้องตามมา!”
ทิวากรหันมาตอบแล้วเดินลิ่วๆไปหานีออนเพื่อนรักที่เป็นเจ้าบ่าวหมาดๆในวันนี้ ทิมส่ายหน้าช้าๆ รอยยิ้มยังเกลื่อนใบหน้าเมื่อมองตามที่รักของตนเอง ก่อนที่เด็กหนุ่มจะก้าวตามทิวากรสุดที่รักออกไป
“หยงมาทานข้าวก่อนมา”
ไอรักโผล่เข้ามาในครัวเมื่อสองหนุ่มตัว ท. พากันเดินออกไปแล้ว ตันหยงที่มัววุ่นอยู่ในครัวตามประสาสะใภ้ใหญ่ เอ้ย! ตามประสาเพื่อนสนิทของลูกชายคนโตบ้านนี้หันมาตามเสียงเรียก ไอรักจูงมือตันหยงพาออกไปที่โต๊ะของพ่อกับแม่ ก่อนสองหนุ่มจะนั่งลงข้างกัน คุณแม่น้องแฝดยิ้มให้ตันหยงก่อนเอ่ย
“ขอบใจมากนะหยง”
“ไม่เป็นไรครับแม่”
ตันหยงยิ้มให้ท่าน เขาไม่ได้ทำอะไรที่มันหนักหนามากมาย ช่วยกันได้เขาก็อยากจะช่วย คุณพ่อน้องแฝดเอ่ยชวนตันหยงให้ทานข้าวกัน ตันหยงรับคำก่อนพากันลงมือทานข้าว
หลังจากที่เลี้ยงอาหารญาติสนิทและมิตรสหายของทั้งคู่ไปแล้ว เพื่อนๆของไทม์กับนีออนก็เข้ามาอวยพรให้รักกันนานๆก่อนพากันกลับ ก่อนคุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่จะมาส่งตัวกันที่บ้านของพี่ไทม์ บ้านที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง บ้านที่รอต้อนรับนีออนน้อยมาเป็นส่วนหนึ่งร่วมกัน... บ้านออมรัก
ไทม์ตั้งชื่อนี้เพื่อน้อง และพ่อกับแม่ของเขาก็เห็นด้วยเพราะชื่อฟังดูมีความสุข ออมรัก... ประคับประคอง ทะนุถนอม ออมรัก
-------------------
ตกค่ำ ณ บ้านออมรัก
ภายในบ้านเงียบสนิท มีเพียงแสงไฟที่เปิดเอาไว้ให้ความสว่างในบางจุดที่ส่องลอดออกมาจากในตัวบ้าน ภายในห้องนอนก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของผู้อาศัย แต่เสียงน้ำดังจ๋อมแจ๋มในห้องอาบน้ำก็พอจะทำให้รู้ได้ว่าเจ้าของบ้านหนุ่มทั้งสองคนหายไปไหนกัน
น้ำอุ่นๆในอ่างอาบน้ำกับผิวกายขาวเนียนที่อิงแอบแนบชิดอยู่ด้านหน้านั้นทำให้ไทม์เป็นสุขลึกๆ การอาบน้ำร่วมกันกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ชีวิตของเขาแล้วนั้นมันทำให้ข้างในอกรู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก ไทม์กดจูบต้นคอขาวๆของน้องเล่นแผ่วเบา หนุ่มน้อยน่ารักหดคอหนีแล้วหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้ มือเรียวคว้าขวดสบู่เหลวมาเทลงในอ่างอาบน้ำที่ตนเองกับพี่แช่อยู่ ก่อนจะตีจนเกิดฟองแล้วขยับลุกหันหน้ามาหาพี่ ช้อนฟองสบู่ที่ลอยฟ่องมาโปะบนตัวพี่ไทม์ แล้วลูบฟองสบู่นั้นบนอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ลูบวนเล่นแล้วนีออนก็หัวเราะชอบใจ
ไทม์วักน้ำฟองสบู่มาลูบไหล่แล้วอ้อมไปลูบแผ่นหลังให้น้องบ้าง นีออนขยับยุกยิกเพราะจั๊กจี้จากมือของพี่ ไทม์ลูบมือลงมาตามสีข้าง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่สะโพกแน่นตึง สบสายตาน้องอย่างยั่วเย้า มือพี่ลูบไล้วกมาที่ต้นขาด้านหน้า นีออนรีบตะปบหมับ หนุ่มน้อยอมยิ้มนิดๆแล้วชูนิ้วชี้กระดิกไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ไทม์เลยยอมละมือไม่ทำอะไรน้องในตอนนี้
ทั้งคู่อาบน้ำให้กันจนสะอาดเรียบร้อย นีออนห่มผ้าเช็ดตัวคลุมตัวมิดชิดเหมือนดักแด้ตัวกลม ไทม์จับดักแด้น้อยอุ้มขึ้นมา นีออนหัวเราะเสียงดังเมื่อถูกพี่อุ้ม ก่อนจะเงียบเสียงลงเมื่อพี่มอบจูบแสนหวานให้
ไทม์วางน้องลงบนที่นอน รั้งปลายผ้าขนหนูที่พันกายน้องแล้วดึงออกพ้นกาย นีออนบิดขาชันเข่าแนบสนิทเมื่อไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มร่างกายแล้ว สายตาพี่โลมไล้ไปทั่วทั้งร่างขาวเนียนกระจ่างตา ไทม์จับเข่าน้องก่อนรั้งให้แยกออกแล้วแทรกกายเข้าไปอยู่ตรงกลาง มองสบสายตาน้องให้ตรึงนิ่งไม่ละไปไหน มือหนาลูบปอยผมที่หน้าผากขึ้นก่อนกดจูบหน้าผากนูน
ไทม์เลื่อนมาจูบริมฝีปากนุ่ม ระเรื่อยมาที่แก้มขาวและซุกไซ้ซอกคอ ผ้าขนหนูที่เอวคลายปมเมื่อเขาขยับกายเสียดสีกับน้อง นีออนหนีบขากับสะโพกพี่ที่ขยับไหว หนุ่มน้อยกัดปากสีหน้าดูยวนยั่ว ไทม์ไล้ปลายลิ้นกับปากน้องที่กัดเอาไว้ นีออนคลายปากเผยอรับการสอดลิ้นเข้าเชยชิมของพี่ สองหนุ่มมอบจุมพิตดูดดื่มจนแทบลืมเวลา
มือของไทม์เลื่อนมากำผ้ากระตุกออกจากเอวสอบ คว้าเจลมาเตรียมความพร้อมให้น้อง เล้าโลมให้น้องคล้อยตาม ไม่ละริมฝีปากจากร่างกายของน้องแม้สักนิดขณะที่แทรกกายเข้าหาเชื่องช้า นีออนเกร็งตัวเล็กน้อยเมื่อพี่ผลักดันความแข็งแกร่งนั้นเข้ามา ก่อนที่จะผ่อนอาการเกร็งตัวลง
หนุ่มน้อยยกสะโพกขึ้นอีกนิด แยกขาอำนวยความสะดวกให้พี่มากขึ้น ไทม์หยุดนิ่งเมื่อฝากฝังตัวตนเข้าไปจนหมดสิ้น โน้มลงจูบซับน้ำตาที่ไหลซึมตรงหางตาให้น้อง ก่อนขยับกายเชื่องช้าระเรื่อยไปตามจังหวะของเพลงรักในแบบของตนเอง ความรู้สึกที่ได้ครอบครอง ได้เป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วบนตัวน้องมันช่างสุขล้ำ เพราะไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่เขาได้ครอบครอง หัวใจของน้องก็อยู่ใกล้หัวใจของเขาเพียงเท่านี้เอง
บทบรรเลงเพลงรักในวันเข้าหอค่อยดำเนินไปตามครรลอง ต่างมอบกายถ่ายทอดความรักแสนร้อนแรงให้แก่กันไม่จบสิ้น...
------------------
เมื่อนีออนกับไทม์ได้เริ่มใช้ชีวิตคูร่วมกัน ทั้งคู่ที่เคยอยู่ด้วยกันมาเมื่อครั้งเรียนอยู่นั้นมันก็เป็นเวลาหลายปีทีเดียว จึงทำให้การอยู่ร่วมกันในฐานะคู่ชีวิตไม่ได้มีความยุ่งยากใดเกิดขึ้น เมื่อทั้งสองคนได้เรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันได้เป็นอย่างดีแล้ว เวลาที่ผ่านเลยไปในแต่ละวัน จากวันเป็นเดือน และเพิ่มมาเป็นปี ชีวิตรักของนีออนน้อยกับพี่ไทม์ก็ยังยืนหยัดมั่นคงอยู่ในบ้านออมรักหลังนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง
พื้นที่ข้างตัวบ้านที่มีบริเวณที่ว่างอยู่ เมื่อวันหยุดจากการทำงานมาถึงนีออนน้อยจึงชวนพี่ไทม์มาปลุกผักเล็กๆน้อยๆ ก่อนเสนอความคิดที่จะพาพี่ไปซื้อดอกไม้สวยๆมาปลูกเพิ่มจากที่มีอยู่เรียงรายตรงหน้าบ้าน ไทม์ลงมือช่วยน้องขุดแปลงผัก นีออนเป็นคนยอดเมล็ด เมื่อช่วยกันปลูกเสร็จเรียบร้อยสองหนุ่มจึงย้ายไปทำความสะอาดบ้านต่อ ก่อนจะพากันไปอาบน้ำแล้วมานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านหลังน้อยแสนอบอุ่นนี้
ช่วงบ่ายนีออนน้อยกับพี่ไทม์พากันออกไปซื้อของที่ตลาด วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศทำอาหารทานเองบ้าง เมื่อได้ของครบแล้วไทม์จึงพาน้องไปที่ร้านขนมของน้ำ เจออุ้มรักอยู่กับพี่น้ำด้วยนีออนเลยอยู่คุย พี่ไทม์ขอไปธุระสักประเดี๋ยว นีออนจึงอยู่รอที่ร้านขนมพี่น้ำ น้องนิ้งเอาขนมทานเล่นกับน้ำสมุนไพรเย็นๆมาให้ หนุ่มน้อยเอ่ยขอบคุณน้องสาวพี่น้ำก่อนยกน้ำสมุนไพรขึ้นดื่มให้ชื่นใจ
“อ่ะ นี่ออนเอากลับไปทานที่บ้านด้วยนะ”
อุ้มรักถือถุงขนมมาให้พี่ชายฝาแฝดที่นั่งรอพี่ไทม์อยู่ที่โต๊ะข้างเคาน์เตอร์คิดเงินที่น้ำประจำการอยู่
“หืม เท่าไหร่อ่ะ?” นีออนรับถุงขนมมาดูขณะที่เอ่ยถามน้องชาย
“ไม่ต้องหรอก อันนี้อุ้มจ่ายเอง” อุ้มรักนั่งลงฝั่งตรงข้ามพี่ชายแล้วเอ่ยบอก
“ไม่เอาสิอุ้ม ทำการค้าการขายแบบนี้มาให้ฟรีได้ไง” นีออนติงน้องที่ใจดีแจกฟรีแบบนี้ เดี๋ยวขาดทุนแย่
“เฮ้ย แต่ออนเป็นพี่อุ้มนะ” แฝดน้องเอ่ยแย้ง
“ไม่รู้อ่ะ ออนจะซื้อ เท่าไหร่ว่ามาเลยพี่น้ำ” นีออนหันไปหาพี่น้ำที่มองสองพี่น้องคุยกันอยู่หลังเคาน์เตอร์
“ดีเนอะ ให้ฟรีไม่เอา”
พี่น้ำว่า น้องบังอรยักคิ้วให้กวนๆ น้ำจึงเอาถุงขนมที่อุ้มรักเอาไปให้พี่ชายฝาแฝดมาดูแล้วคิดเงินให้เสร็จสรรพ นีออนรับถุงขนมกลับมาเมื่อพี่น้ำคิดเงินเสร็จแล้ว ก่อนเอ่ยบอกหน้าตาเฉย
“เดี๋ยวรอพี่ไทม์มาจ่ายตังค์”
“ว่าโน่น ว่านี่ สุดท้ายก็ใช้ตังค์พี่ไทม์อยู่ดีแหละ” แฝดน้องตัวกลมว่า
“ใครบอก ตังค์ออนหรอก ฝากพี่ไทม์ไว้” แฝดพี่เอ่ยแก้
“จริงเร้อ~”
“จริ๊ง~~”
นีออนเสียงสูง อุ้มรักยิ้มขำคนทำเฉไฉ ก่อนบอกให้แฝดพี่ทานขนมต่อ นีออนยกน้ำสมุนไพรขึ้นดื่ม ท่าทางจะถูกใจในรสชาติที่เย็นชุ่มคอ ว่าจะขอสูตรน้องนิ้งไปทำแต่ก็กลัวมันจะกินไม่ได้ เลยบอกว่าวันหลังจะมาทานใหม่ อุ้มรักแกะขนมที่ห่อใบตองชิ้นเล็กๆให้พี่ชายชิม บอกว่ามันคือขนมเทียนสลัดงา เป็นสินค้าใหม่ของร้านที่น้องนิ้งเป็นคนทำเอง นีออนชิมแล้วชมเปาะว่าน้องนิ้งฝีมือดี กลิ่นหอมๆของใบเตยที่ผสมในแป้งกับความหวานมันเคี้ยวกรุบๆของไส้ที่เป็นมะพร้าวทึนทึกขูด แถมตัวขนมยังคลุกงาทำให้ได้ความหอมขึ้นจมูกและอร่อยเพิ่มขึ้นอีก
นั่งทานขนมไปคุยกับแฝดน้องไปพี่น้ำก็มาบอกว่าพี่ไทม์ให้ไปรอหน้าตลาด เดี๋ยวตนเองจะถือของไปส่ง ไทม์คงวนรถมารับกลับ นีออนบอกไปเองได้เพราะถุงขนมก็ใช่ว่าจะหนักอะไร แต่อุ้มรักบอกให้พี่น้ำไปส่งดีแล้ว ไม่ต้องเกรงใจ นีออนน้อยจึงยอมตามใจแฝดน้องกับพี่น้ำ
“เออ แล้วค่าขนม…” นีออนเอ่ยถามอย่างนึกขึ้นได้
“เอาไว้ก่อนเถอะน่า เดี๋ยวค่อยมาจ่ายก็ได้” อุ้มรักส่ายหน้าขำ ดู๊ ยังจะห่วงค่าขนมอีก ก็บอกแล้วว่าให้ฟรีๆ นีออนหนิ
“ฝากหอมแก้มแม่ด้วยนะอุ้ม แล้วบอกพ่อกับแม่ด้วยนะว่าคิดถึง คิดถึงพี่อุ่นกับพี่ไอด้วย จุ๊บๆ” นีออนจุ๊บแก้มน้องเป็นการฝากฝัง
“ไม่ไปบอกเองเลยล่ะ?”
“เสาร์-อาทิตย์นี้ออนกับพี่ไทม์เก็บกวาดบ้านขนานใหญ่ ไว้วันหยุดคราวหน้าจะไปเยี่ยม”
หนุ่มน้อยยิ้มแฉ่ง ก่อนบ๊ายบายน้องชายฝาแฝดแล้วเดินตามพี่น้ำที่ถือถุงขนมนำหน้าไปแล้ว
ต่อด้านล่างค่ะ