ทนไม่ไหว ขออัพตอนสุดท้ายของซีซั่นแรกเลยแล้วกันนะครับบบบบบ ตอนแรกกะรออีกสองวัน แต่ทนไม่ไหวแล้ว ขอปล่อยเลย แล้วหลังจากนี้ขอพักเบรกอีกแปบนึง แล้วจะมาต่อใหม่นะครับก๊อกๆๆผมเดินไปเปิดประตูห้องผม
“Surprise!!!” ไอ้ต่อ ไอ้แจ๊ส และไอ้ทรายโผล่หน้าเข้ามาในห้องผมพร้อมๆกัน
“อ้าว พวกมึงเองเหรอ” ผมพูดอย่างไม่ได้สนใจอะไรขณะหลีกทางให้พวกมันเข้ามาในห้องอันแสนรกสกปรกของผม
“เฮ้ยยยยย นี่คริสต์มาสทั้งทีนะมึง! เก็บตัวอยู่ในนี้ทำไมวะ” ไอ้ทรายมองหน้าอันซีดเซียวของผม
“ใช่ แล้วหนวดน่ะ โกนซะมั่งดิ่” ไอ้ต่อเสริม
“ไอ้พริก กูเข้าใจนะว่ามึงเศร้าที่แอนนี่กลับไปเมืองนอก แต่ถ้ามึงอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะเว่ย” ไอ้แจ๊สตบบ่าผม
“จะให้ทำยังไงวะ กูพยายามติดต่อ ทั้งเฟสบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม สไกป์ หรือแม้แต่อีเมล์ ก็ติดต่อไม่ได้ซักทาง”
“พยายามหาต่อไปสิมึง แล้วที่สำคัญ ดูแลตัวเองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองโทรมแบบนี้”
“กูจะโทรมหรือจะดูดี ยังไงแอนนี่มันก็คงเกลียดกูไปแล้วอยู่ดีแหละ”
“พริก กูไม่รู้นะว่ามึงกับแอนนี่ทะเลาะกันรุนแรงขนาดไหน เพราะมึงไม่ยอมเล่ารายละเอียดให้พวกกูฟัง แต่บางทีแอนนี่แค่อยากหนีไปหาที่เงียบๆคนเดียว แค่ซักพักก็ได้”
“ไม่หรอก เพราะกูทำผิดกับแอนนี่ไว้ ยังไงมันคงไม่ให้อภัยกูแน่นอน” ผมตอบขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมา ผมต้องพยายามกลั้นไว้ ทั้งน้ำตา และความรู้สึกเสียใจที่คอยหลอกหลอนผมตั้งแต่วันที่แอนนี่เดินออกจากห้องผมไป
“เฮ้ออออ” ทุกคนถอนหายใจพร้อมกัน แล้วบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบ
“ยังไงก็เถอะ! ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจะพามึงออกไปสูดอากาศข้างนอกซะบ้าง” ไอ้แจ๊สยิ้ม
“มึงจะได้ลืมความทุกซะ” ไอ้ต่อเสริม แหม่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากปากของคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่นาน
“เพราะงั้น เราจะพามึงไปเดินเล่น เซ็นทรัลเวิร์ลกัน ไอ้ทรายทำท่าตื่นเต้น
“กูไม่ไปไม่ได้เหรอวะ”
“ไม่ได้!” ทุกคนพูดพร้อมกันก่อนจะลากผมไปแต่งตัว
**********************************************************************************
โอเคครับ ท่านผู้อ่าน รายละเอียดต่อจากตรงนี้ไป ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการบอกเล่าของมิวกับต้นแล้ว ผมก็พอจะนึกๆภาพตามออก ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง
“มึงนัดกูมาที่นี่ทำไมวะ” ต้นถามมิวขณะเดินไปรอบๆข้างเซ็นทรัลเวิร์ลซึ่งประดับประดาไปด้วยไฟระยิบระยับ “กูต้องเลื่อนเดทกับยูกิเลยนะเว่ย”
“สรุปว่ามึงสองคนคบกันจริงๆใช่มั้ย”
“ก็... เราดูๆกันอยู่น่ะ ยังไงก็เหอะ มึงลากกูมาที่นี่ทำไมเนี่ยะ”
“มาพบกับคนคนนึงที่กูดันไปรู้ข่าวมาว่ายังติดต่อกับแอนนี่น่ะสิ” ดูเหมือนว่าไอ้ฝรั่งเองก็จะไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนสนิทของตัวเองนะครับ
“ตั้งแต่ไอ้แอนนี่หายตัวไปเลย ยังมีคนติดต่อกับมันได้อีกเหรอ”
“ใช่” มิวยิ้มอย่างมั่นใจและหันมาอธิบายให้ต้นฟัง “กูเห็นคนคนนี้ลับๆล่อๆคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้เมื่อหลายวันก่อน พอกูแอบฟัง ก็เลยได้ยินว่ากำลังคุยกับแอนนี่”
“เช้ดโด้! มิว! มึงควรไปเป็นนักข่าวว่ะ ตอนแรกมึงก็เห็นกูกับยูกิจับมือกัน แล้วตอนนี้ยังเห็นใครซักคนนี่คุยกับแอนนี่อีก”
“แล้วสรุปว่า มึงกับยูกินี่ดูๆกันถึงขั้นไหนแล้ว”
“มากกว่าเพื่อน..... โอ้ย! อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องดิ่ แล้วสรุปว่าคนที่ยังติดต่อกับแอนนี่อยู่คือใครวะ”
“มึงลองคิดดูนะต้น แอนนี่บอกพวกเราก่อนจะกลับอเมริกาว่า ‘กูคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว กูไม่อยากเจอหน้าไอ้พริกอีก’”
“อ่า โอเค มึงไม่ต้องดัดเสียงให้เหมือนแอนนี่ก็ได้”
“ยังไงก็เหอะ ถึงจะไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่กูรู้สึกได้ว่า แอนนี่กับพี่พริกต้องมีเรื่องอะไรกันบางอย่างที่... ใหญ่โตมาก จนทำให้แอนนี่มันถึงกับหนีกลับอเมริกาไป... กูสัมผัสได้“
“แล้วยังไงต่อวะ”
“เพราะงั้น ที่แอนนี่มันไม่ติดต่อกับเรา เงียบหายไป เพราะว่า พวกเรายังมีความเกี่ยวเนื่องกับพี่พริกอยู่ พี่ต่อ พี่ของมึงสนิทกับพี่พริก เพราะงั้นถ้าแอนนี่มันติดต่อกูหรือมึง มันคงกลัวว่าต้องโดนพวกกลุ่มพี่พริกเค้นคอหาที่อยู่แน่ แล้วบวกกับกูที่มีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น มันคงคิดว่ากูคงต้องช่วยพี่พริกแน่ๆ”
“เอ่อออออ มึงก็ไม่ได้ชอบช่วยเหลือผู้อื่นขนาดนั้น และอีกอย่าง กูว่ามึงลืมความสัมพันธ์ระหว่างมึงกับพี่แจ๊สที่ดูมีซัมติงไปรึเปล่า”
“เรื่องนั้นกูไม่นับ เพราะฉะนั้น คนเดียวที่ไอ้แอนนี่มันพอจะสนิทด้วย แล้วยังติดต่อสารทุกสุขดิบของพวกเราได้บ้างก็คือ...”
“ยูกิ เหรอ?”
“ถุยยยยยย!!!! แอนนี่มันเคยคุยกับยูกิอยู่แค่ประโยคเดียว ซึ่งก็คือ ‘ชอบสีผมของเธอจัง’ ซึ่งกูไม่เห็นว่ามันจะสนิทกันตรงไหน”
“อ่ะเหรอ เอ่ออออ... คนที่แอนนี่มันสนิทด้วย นอกจากพวกเรา กลุ่มพี่พริกแล้วก็มี....” แล้วต้นก็นึกออกทันที “หรือว่า!!”
“นึกออกแล้วใช่มั้ย พี่เค้าน่ะแหละ ที่ยังติดต่อกับแอนนี่อยู่”
“น้องมิว น้องต้น” เสียงเจ้าตัวที่รู้เบอร์ติดต่อกับแอนนี่ทักมาแต่ไกล
“อ้าว พี่ชาย มาเร็วจังเลยนะพี่”
“มีธุระอะไรเหรอ เรียกพี่ออกมาข้างนอกเนี่ยะ”
“ก็มีนิดหน่อยอ่ะครับ” มิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เราอยากจะถามพี่ชายเรื่องที่อยู่ของแอนนี่น่ะพี่” ต้นถามไปตรงๆ ซึ่งเล่นเอาไอ้ชั่วถึงกับทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว
Chapter 19: แอนนี่“พี่บอกไม่ได้หรอกว่าตอนนี้แอนนี่ใช้เบอร์หรือ user อะไรอยู่ พี่สัญญากับเค้าไว้แล้ว” ไอ้ชั่วเดินเร็วๆ พยายามจะสลัดสองสหายของแอนนี่ให้พ้น แต่ก็สลัดไม่หลุดซะที
“แต่นี่พวกผมเป็นเพื่อนมันนะพี่ พวกผมก็อยากคุยกับมันบ้าง”
“พี่เข้าใจ แต่แอนนี่เค้าไม่อยากบอกเราสองคนนี่”
“ทำไมเหรอครับ” มิวถามด้วยสีหน้าตึงเครียด
“ก็... ต้นมีพี่ชายเป็นเพื่อนสนิทกับพริก เพราะงั้นถ้ารู้อะไรก็อาจจะถูกบีบให้บอกไป ส่วนมิวเอง แอนนี่ก็รู้นิสัย ว่าชอบช่วยเหลือคนอื่น เพราะงั้นก็อาจจะช่วยพริกก็ได้”
“อ่ะ แน่นอน ผมชอบช่วยเหลือคนอื่น”
“มิว มันใช่เวลามั้ยเนี่ยะ” ต้นมองมิวด้วยความเอือมระอา
“อะแฮ่ม เอ่อ... แต่ถึงอย่างงั้นพวกผมก็อยากติดต่อกับแอนนี่อยู่ดีนะพี่”
“แต่ถ้าพี่บอกไป แอนนี่ต้องโกรธพี่แน่ๆ”
“พี่ชาย แอนนี่เป็นเพื่อนพวกผมนะ พี่จะยึดเค้าไว้คนเดียวไม่ได้”
“พี่ไม่ได้ยึดเค้าไว้ แต่เค้ายังไม่อยากติดต่อใครในตอนนี้โดยเฉพาะพริก”
“พี่ก็เลยจะติดต่อกับเค้าแค่คนเดียวเหรอพี่” ต้นเริ่มอารมณ์ขึ้น “พี่ชาย ผมรู้นะว่าพี่คิดอะไรกับแอนนี่ แต่พี่จะยึดเค้าไว้คนเดียวไม่ได้”
“เรารู้เหรอ”
“พี่ครับ มีแต่ไอ้แอนนี่เท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าพี่คิดยังไงกับมัน” มิวบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แล้วพี่ก็น่าจะรู้นะว่า แอนนี่มันเลือกใคร... ถึงแม้ตอนนี้มันอาจจะปิดกั้นความรู้สึกนั้นไปแล้วก็ตาม”
“พี่รู้ มิว และอันที่จริง แอนนี่เองก็รู้ความรู้สึกตัวเองแล้ว”
“งั้นเหรอครับ!?” ต้นมีท่าทีตื่นเต้น
“ใช่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง วันต่อมา แอนนี่ก็มาบอกพี่ว่า ‘ทุกอย่าง มันจบแล้วครับพี่ ยังไงผมก็จะกลับอเมริกา แต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ยังไงผมก็จะติดต่อกับพี่เหมือนเดิม’ ประมาณนี้แหละ”
“โอเค พี่ชายครับ ไม่ต้องเลียนเสียงแอนนี่อีกคนก็ได้” ต้นยกมือปรามไว้
“ยังไงพี่ก็ขอโทษด้วยนะ พี่คงให้เราติดต่อกับแอนนี่ในตอนนี้ไม่ได้”
“เมื่อกี้มึงบอกว่าติดต่อกับแอนนี่เหรอ?” เสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังไอ้ชั่ว
“!!!!” ทุกคนหันมามองคนคนนั้นอย่างตกใจ ขณะที่คนคนนั้นกระชากคอเสื้อไอ้ชั่วขึ้นด้วยความโมโห
“กูถามว่า มึงติดต่อกับแอนนี่เหรอ!?” ผมพยายามกดเสียงตัวเองไม่ให้คำรามท่ามกลางผู้คนในเซ็นทรัลเวิร์ล ใช่ครับ คนคนนั้นคือผมเอง ผมที่เดินมากับเพื่อน ทันได้ยินประโยคสุดท้ายที่ไอ้ชั่วพูดกับมิวและต้นเมื่อกี้นี้ “มิว! ต้น! นี่เราก็ติดต่อแอนนี่ด้วยเหรอ? ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ!”
“พี่พริก ใจเย็นก่อนพี่ พวกผมก็กำลังถามพี่ชายอยู่เหมือนกันว่าติดต่อแอนนี่ได้ยังไง” ต้นอธิบาย
“เหรอ!!” ผมหันมากัดกรามมองไอ้ชั่วพร้อมจะฆ่ามันทุกวินาที “มึงบอกมา จะเบอร์ จะเมล์ จะไลน์ จะเหี้ยอะไรก็ได้! แอนนี่อยู่ไหน!!”
“เฮ้ยๆ พริกมึงใจเย็นก่อน คนเริ่มมองกันเยอะแล้ว” ไอ้ต่อเข้ามาห้าม แต่ก็ถูกผมสะบัดมือออกไป
“ผมบอกคุณไม่ได้หรอก แอนนี่เค้าไม่อยากคุยกับคุณ”
“แต่กูต้องคุยกับแอนนี่ กูต้องคุยกับแอนนี่ให้ได้!”
“เลิกงี่เง่าซะทีเถอะพริก! ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณทำอะไรที่ทำให้แอนนี่โกรธจนต้องหนีคุณกลับอเมริกาน่ะ! แต่อยู่ๆ คุณจะมาเรียกร้อง โวยวายให้คนที่คุณทำอะไรเค้าไว้ กลับมาคุยกับคุณเนี่ยนะ!! มันไม่เหี้ยไม่หน่อยเหรอครับ!!”
ปั้ก!!!ฟิวส์ผมขาดทันที ผมต่อยไอ้ชั่วลงไปนอนกับพื้นพร้อมกระโจนเข้าไปเตรียมอัดมันซ้ำครั้งที่สองกับสาม เพื่อนๆของผม รวมถึงมิวและต้น เข้ามาห้ามไว้ เวลาเดียวกับที่รปภ.เข้ามาลากตัวผม ที่คุมสติตัวเองไม่อยู่ ออกจากห้างไป
“พี่ชาย เป็นไงมั่งพี่” มิวที่อยู่รั้งท้ายเข้ามาช่วยพยุงไอ้ชั่วขึ้น
“ไอ้พริกเนี่ยะ หมัดหนักเป็นบ้าเลยแหะ ขอบใจมากนะ มิว”
“ไม่เป็นไรพี่ ถึงยังไง ผมก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว”
“หึๆ ทำเป็นภูมิใจไปนะ”
“ว่าแต่... พี่ชายล่ะครับ”
“หือ?”
“ไม่อยากช่วยเหลือคนอื่นบ้างเหรอ”
“มิว...”
“ลองคิดดูนะพี่ พี่ก็รู้ว่าแอนนี่มันเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ถึงมันจะบอกว่าไม่อยากเจอพี่พริกก็เถอะ แต่เชื่อผมสิ จริงๆแล้วลึกๆ มันก็อยากให้พี่พริกติดต่อกับมันนะ”
“เฮ้ออออ นั่นสินะ... จริงๆอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวลึกๆของพี่เอง ที่อยากให้แอนนี่หันมาคิดกับพี่แบบนั้นบ้าง แต่รู้มั้ย ทุกครั้งที่แอนนี่ติดต่อพี่มา คำถามแรกที่เค้าถามคืออะไร”
“อะไรเหรอครับ”
“เค้าจะถามเสมอว่า พริกเป็นไงมั่ง แล้วก็ค่อยถามถึงเรา ถึงต้น แล้วก็ค่อยถามถึงพี่” ไอ้ชั่วพูดด้วยสีหน้าปลง “นั่นสินะ ถ้าแอนนี่โกรธพริกจริง ก็คงไม่ถามถึงเค้าหรอก....... บางทีพี่ควรจะทำใจซะที”
“ครับพี่ ทำใจ แล้วเริ่มต้นใหม่” มิวยิ้มให้กับไอ้ชั่ว
“ชอบใจนะ มิว”
“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว”
“นี่เราเป็นคนขี้อวดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ”
“ฮ่ะๆๆๆๆ”
**********************************************************************************
โป๊ก!!“โอ๊ย!!!” ผมร้องเสียงหลงทันทีที่หัวโขกพื้น เป็นครั้งแรกที่โดนยามหามออกมานอกห้าง ไม่สิครับ ที่ถูกแล้ว ต้องบอกว่า โดนเขวี้ยงออกมามากกว่า “ไม่ต้องโยนก็ได้มั้งพี่ เจ็บนะโว่ย!!!”
“เฮ้ยๆๆ มึงใจเย็นๆก่อน” เพื่อนๆของผมเข้ามาสมทบทันที
“แม่งเอ๊ย อยากเข้าไปตั๊นหน้าไอ้ห่านั่นอีกหน่อย รู้ว่าติดต่อกับแอนนี่ยังไงเสือกไม่บอก อะโถ่! จะเก็บไว้จีบอะดิ่ไอ้สัส!!!” แม่ง พูดแล้วขึ้นว่ะ พับผ่า!
“เฮ้ยๆ พี่พริก สงบสติก่อน” ต้นเขย่าตัวผม “พี่ ผมเข้าใจนะว่าพี่ชายทำไม่ถูก แต่ไปต่อยเค้าอย่างงั้น ผมว่าไม่ได้ประโยชน์ว่ะพี่ แล้วก็ เรื่องของพี่กับแอนนี่อ่ะ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงมายังไงนะ แต่พี่ต้องคุมสติตัวเองหน่อยดิ่ครับ พี่อยากขอโทษมันไม่ใช่เหรอ สติเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอย่างงี้ แทนที่จะไปขอโทษ เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกอ่ะพี่”
“ต้นพูดถูกนะพริก ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ มึงเองจะพาลทำให้เรื่องเสียเข้าไปอีกนะเว่ย” ไอ้ทรายเสริม
“ใจเย็นพี่ ผมว่า ยังไง ไอ้แอนนี่ ลึกๆมันก็ยังอยากคุยกับพี่อยู่แหละ ไอ้นี่มันปากไม่ตรงกับใจ”
“งั้นจะทำไงล่ะ” ผมถาม เพราะตอนนี้มันหมดหวังเหลือเกิน
“ถ้าติดต่อทางนี้ไม่ได้ ก็ไปหาที่นู่นเลยดิ่พี่” เออออเว้ย เป็นคำแนะนำที่ดีที่... ทำไมกูไม่คิดมาก่อนวะ โง่ชิบหาย
“เออว่ะ ไอเดียดีๆ!!” แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า “แต่อเมริกามันไม่ใช่เล็กๆนะเห้ย! จะเริ่มจากที่ไหนล่ะวะ!!”
“พอร์ตแลนด์ โอเรกอน” เสียงไอ้ชั่วดังขึ้น ผมลุกขึ้นทำท่าจะไปต่อยมันอีกรอบแต่ทุกคนก็ห้ามไว้
“อะไรมึง อยากต่อยกันตรงนี้รึไง ไม่มียามแล้วนะเว่ย!”
“ใจเย็นก่อนครับพี่ พี่ชายไม่ได้จะมาหาเรื่องครับ” มิวที่เดินตามไอ้ชั่วมา ปรามไว้
“ไม่ได้ยินเหรอพริก ผมบอกว่า พอร์ตแลนด์ โอเรกอนไง”
“คืออะไรวะ” งงว่ะครับ พูดเหี้ยอะไรของมัน
“นึกออกแล้ว!! ชื่อเมืองในอเมริกาใช่มะ” ไอ้ต่อดีดนิ้วอย่างตื่นเต้น
“ครับ แอนนี่กลับไปอยู่กับญาติที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน”
“เจ๋ง! งั้นก็ไปเลยดิ่พี่!” ไอ้เจ้าต้นเชียร์ใหญ่
“เดี๋ยวก่อน... อยู่ดีๆมึงมาบอกกู ต้องการอะไรรึเปล่า...” ผมไม่ไว้ใจไอ้เจ้านี่จริงๆ
“............... ขอคุยด้วยสองต่อสองได้มั้ย” มันพูดแล้วเดินนำผมให้ห่างจากคนอื่นไป
“มีอะไรว่ามา” ผมถามเมื่อมันหยุดเดิน ขณะนี้ผมอยู่ห่างจากเพื่อนๆผมไกลมาก..... มันจะเอาปืนยิงผมมั้ยเนี่ยะ
“เอานี่ไป” มันยื่นกระดาษใบนึงให้ผม
“อะไร?” ผมรับไว้แล้วนั่งดู รายละเอียดทั้งเบอร์ ชื่อ user ต่างๆ
“นี่คือเบอร์โทรซัพท์ user ต่างๆทั้งในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม Line ID และสไกป์ ยังไงซะ ก่อนไปหาเจ้าตัวที่นู่นก็ลองพยายามติดต่อเค้าไปก่อนก็ดี”
“หึ ถ้าเจ้าตัวเห็นว่าใครติดต่อมา มันคงบล็อกไปเลยรึเปล่า”
“พริก...”
“หือ”
ปั้ก!!!อื้อหือออออ!! หมัดไอ้ชั่วนี่ หนักไม่แพ้หมัดผมเลยเว้ย
“มึงต่อกูอ่อ!!”
“อย่างเมื่อกี้ เค้าเรียกว่าป้อนอาหารละมั้งครับ”
“มึง!”
“ผมแค่อยากเตือนสติคุณซะหน่อย”
“เตือนสติ?”
“ใช่ แอนนี่น่ะ เค้าเลือกคุณมาตั้งนานแล้ว ไม่งั้นเค้าจะยอมให้คุณจูบเป็นนาทีๆบนเวทีนั้นเหรอ”
“.....”
“คนเรา บางคนกว่าจะรับหัวใจตัวเองได้ ก็นานจะตาย แล้วยิ่งทั้งคุณทั้งแอนนี่เป็นผู้ชายทั้งคู่ แอนนี่ไม่เคยนะพริก แล้วเค้าก็ใช้เวลาปฏิเสธอยู่นาน แต่สุดท้ายเค้าก็ยอมรับตัวเองได้”
“......”
“ผมไม่รู้ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นนะพริก แต่เห็นได้ชัดว่า ความพยายามที่แอนนี่จะบอกรักคุณมันล้มเหลว” .....อะไรนะ
“เมื่อกี้บอกว่าอะไรนะ”
“แอนนี่ คิดจะบอกรักคุณวันนั้น” เชี่ยเอ๊ย!!!!
“เชี่ย... นี่.... กูทำอะไรลงไปเนี่ยะ...”
“ไม่ว่าคุณจะทำอะไรลงไป แอนนี่กำลังรอให้คุณขอโทษอยู่... ผมก็หวังว่าเค้าจะกลับมาเลือกผมบ้าง แต่เปล่าเลย จนถึงตอนนี้เค้าก็ยังเลือกคุณอยู่” พระเจ้า!! นี่ผมทำร้ายมัน ทั้งๆที่มันกำลังจะบอกรักผมเหรอ ไอ้เชี่ยพริก ทำไมมึงมันเหี้ยอย่างงี้!! ต่อจากนี้ไปลูกช้างจะไม่กินเหล้าจนเมาขาดสติอีกแล้วครับ!!
“งั้นเหรอ...” ผมพยายามกลั้นน้ำตา แล้วยิ้มตอบไอ้ชั่วไป “...อย่างงี้นี่เอง ....ขอบคุณมาก”
“ไม่เป็นไร ฝากดูแลแอนนี่ด้วย” ไอ้ชั่วยิ้ม แล้วเดินจากไป ก่อนจะหยุดแล้วหันมาพูดกับผม “ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย”
“หือ?”
“เวลาจะบรรยายตัวผมน่ะ ช่วยอย่าเรียกว่าไอ้ชั่วได้มั้ย”
“เห?” ไอ้ชั่วมันรู้ได้ไงวะครับ
“ใช้ว่าไอ้ชั่วอีกแล้วนะ” โอเค กูเรียกมึงว่าไอ้ชายก็ได้ “ขอบคุณครับ”
“อ่าฮะ...” เฮ้ย มันรู้ได้ไงวะ!! เดี๋ยวก่อนๆ ช่างเหอะ ยังไงตอนนี้กระดาษในมือที่ไอ้ชายให้มาสำคัญกว่า
ผมรีบวิ่งไปหาทุกคนที่รออยู่ทันที แล้วคว้ากระเป๋าของผมก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป
“เฮ้ย! ไอ้พริกไปไหนวะ ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย” ไอ้ทรายตะโกนถามไล่หลังมา
“กูมีธุระด่วนว่ะ! โทษที ต้องไปง้อเมีย!!” ตอบเสร็จ ผมก็รีบติดจรวดกลับห้องผมทันที และผมรู้วิธีที่จะติดต่อกับมันที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้แล้ว
ผมรีบเปิดคอม สมัครสมาชิกสไกป์ account ใหม่เพื่อไม่ให้มันจำได้ รีบแอด user มันทันที และ....
Anthony Bi-atch is onlineบิงโก!!! เอาล่ะ ต่อไปก็แค่คลิกวิดิโอแชท แล้ว invite มันมาเล่น และก็ รอ......
..........................................................
............................................
..............................
..................
.........
...
.
“Who’s that?” ในที่สุด!!! มันก็ยอมวิดิโอแชทกับผม ไอ้ฝรั่งเปลี่ยนทรงผม ตัดผมสั้นๆแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ยะ เดี๋ยวๆ ไม่ใช่เวลามาดูความน่ารักของมันนะ แล้วไหงหน้าจอผมดับล่ะ.... “I said who’s that?”
เอ่อ.... ดูเหมือนผมจะลืมเปิดกล้องแหะ เอาล่ะ ขอเวลาเปิดก่อนนะ.... โอเค เปิดและ!
“!!! …..Prick!?” มันตกใจทันทีที่เห็นผมบนหน้าจอ
“เฮ้....”
Anthony Bi-atch is offline………………………………….หมดกันครับ ทันทีที่มันเห็นหน้าผม มันก็ล็อคออฟทันที นี่สรุปมันคงเกลียดผมจริงๆ ไม่ใช่ว่าปากไม่ตรงกับใจแล้วหล่ะครับ
“เฮ้ออออ” ผมถอนหายใจ แล้วลากสังขารอันหมดความหวังของผมไปที่โซฟา อยู่ดีๆ น้ำตาของผมมันก็เริ่มไหลออกมาเองอีกแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่อยากจะฝืนกลั้นมันอีกต่อไปแล้วครับ ผมอยากร้องไห้ออกมาจนกว่าผมจะไม่มีแรงให้ร้องอีกแล้ว “แอนนี่ กูขอโทษ..... กูขอโทษ....”
กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ
ปิ๊งป่องเสียง notification ดังขึ้นมาจากคอมของผม ผมปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นไปดูที่คอมเพื่อพบว่า
Anthony Bi-atch is video callingAnswer DeclineAnswer สิวะ จะ Decline หาพ่อง
ทันทีที่ผมกดรับสาย หน้าจอก็ปรากฏไอ้ฝรั่งกับทรงผมสั้นสุดน่ารักอีกครั้ง ส่วนผม... โอ้โห นี่กูร้องไห้จนตาบวมเลยเหรอเนี่ยะ
“ว่าไงไอ้ตี๋” ไอ้ฝรั่งยิ้มตอบผม “...นี่มึงร้องไห้เหรอเนี่ยะ”
“ไง ไอ้ฝรั่ง” ผมตอบด้วยเสียงแหบแห้ง เดี๋ยวก่อนนะ... “เฮ้ย!!! มึงพูดไทย!!!”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ตกใจใช่มั้ยล่ะ กลับมานี่กูก็ให้แม่กูสอนพูดไทย แล้วก็หัดคุยกันเป็นภาษาไทยจนถึงตอนนี้แหละ”
“สุดยอด You speak Thai fluently!”
“Thanks! And it seems that you speak English fluently, too. Congratulations!”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ขอบใจนะ”
“สรุปว่า... มึงร้องไห้จริงๆเหรอ ขี้แยว่ะมึง!!! มึงควรจะแมนกว่ากูหน่อยสิ!!!”
“หยุดพูดเลยมึงง่ะ!! ใครใช้ให้มึงปิดสไกป์ไปเมื่อกี้วะ คนเค้าอุตส่าห์พยายามติดต่อแทบตายนะเว่ย!!”
“ก็ – ก็กู... ไปเซ็ตผมมานี่ ตอนแรกหัวกูฟูชิบหาย ใครจะ... อยากให้มึงเห็นเล่า”
“งั้นเหรอ” ผมพูดกลั้วหัวเราะขณะปาดน้ำตา “ทรงนี้ก็... น่ารักดีนะ”
“อ – เออ ขอบใจ” แม่งหน้าแดงด้วย น่ารักว่ะ
“แล้วคุณนาตาชาเป็นไงมั่ง ตอนมึงกลับไป กูไม่ได้ลาท่านเลย”
“แม่สบายดี ตอนแรกแม่ก็ตกใจที่เห็นสภาพกูใน... เอ่อ วันนั้น... กูบอกแม่ไปว่า มึงเมาแล้วทับตัวกูหลายรอบมาก... ก็เลยเป็นแบบนี้” ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ ผมรู้สึกจุกๆแปลกๆทันที “ซึ่งในทางเทคนิค... มึงก็ทับกูหลายรอบมากจริงๆ”
“แอนนี่ เรื่องนั้นน่ะ...” ผมพยายามจะพูดต่อ แต่สุดท้าย ผมก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว “แอนนี่ กูขอโทษ กูขอโทษจริงๆ กูขาดสติ แล้วตอนนั้นกู... แม่งเอ๊ย!”
“พริก ใจเย็นๆ กูเข้าใจแล้วว่ามึงเมา มึงขาดสติ และกูก็เข้าใจว่ามึงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และกูก็ให้อภัยมึง”
“จริงเหรอ! มึงพูดจริงๆใช่มั้ย!”
“อื้ม วันนี้วันคริสต์มาส เป็นวันดี กูควรให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนี้ พอกูกลับมาที่พอร์ตแลนด์นี่ แล้วได้มีเวลาอยู่เงียบๆคนเดียว มันทำให้กูคิดได้ว่า กูเองก็เป็นคนที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้” ไอ้ฝรั่งยิ้มตอบ แต่น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือเหมือนกัน มันเองก็ร้องไห้ “กูเองก็ต้องขอโทษมึงด้วยนะ... ที่กูทิ้งมึง หายไปจากชีวิตมึงแบบนี้... แต่กูแค่ต้องการเวลาทบทวนเรื่องทั้งหมด และพอมาถึงตอนนี้... แม่งเอ๊ย!... กูคิดถึงมึงเหี้ยๆอ่ะ”
“กูก็คิดถึงมึง...” ร้องไห้น้ำตาท่วมจอกันทั้งคู่ครับตอนนี้ “แอนนี่... กลับมาเถอะนะ ทุกคนรอมึงอยู่ นะ... กูขอร้อง”
“ฮ่ะๆๆๆๆ” แอนนี่หัวเราะขณะปาดน้ำตาออก “นั่นสินะ... แต่คงกลับตอนนี้ไม่ได้หรอก”
“...ทำไมล่ะ”
“คงต้องรอหลังปีใหม่น่ะ ที่บ้านกูตอนนี้จัดงานฉลองกันใหญ่เลย”
“แต่มึงกลับมาแน่ๆใช่มั้ย”
“อื้ม... กูจะกลับไป”
“เยส! เมียกูจะกลับมาแล้ว”
“เมียพ่องดิ่! เดี๋ยวกูก็ไม่กลับหรอกสัส!”
“โอ๋ๆๆๆๆๆ กูขอโทษๆๆ”
“ลามปามนักนะมึง” แม่ง หายไปแป๊บเดียว กลับมานอกจากจะพูดไทยคล่องแล้ว เสือกด่าเก่งอีกแหะ
[Annie!!! Come over here!! I need help!!] เสียงคุณนาตาชาลอดผ่านมาจากนอกห้องแอนนี่
“In A minute, mom!!” ไอ้ฝรั่งหันไปบอกแม่แล้วหันมาตอบผม “เฮ้ย กูต้องไปแล้ว เดี๋ยวไว้คุยกันนะ เดี๋ยวกูส่งเบอร์ส่งอะไรไปให้”
“เดี๋ยวก่อนๆๆๆ แอนนี่”
“หือ”
“ก่อนมึงจะไป... กูมีคำถามอยากจะถามมึงหน่อย” เอาว่ะ! มันถึงเวลาแล้ว!
ตึก ตึก“โอเค... ขอเร็วๆนะมึง แม่กูเรียก”
ตึก ตึก“แอนนี่... กูรักมึงนะ”
ตึก ตึก “รักมากกว่าอะไร... ในโลกนี้อีก...”
ตึก ตึก“อืม... กูรู้...” มันตอบพร้อมหน้าที่แดงก่ำ
ตึก ตึก “ก- กูเอง... กูก็รักมึง... เหมือนกัน...”
ตึก ตึกตึก ตึก“ง – งั้น... มึง... กับกู...”
ตึก ตึก”เรามา... เป็นแฟนกันมั้ย...”
ตึก ตึกตึก ตึกแอนนี่ชะงักและหน้าแดงไปอีกซะพัก ก่อนจะยิ้มออกมา
ตึก ตึกตึก ตึกวินาทีนั้นทุกอย่างรอบตัวผมหยุดเคลื่อนไหว ยกเว้นหัวใจผมที่เต้นแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ผมแทบอยากจะกระโจนผ่านจอคอมพิวเตอร์ไปหามันถ้าทำได้ แอนนี่ยังคงยิ้ม ทุกอย่างล้วนผ่านไปรวดเร็ว แต่กลับดูช้ามากในความรู้สึกของผม
ตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก ตึกแอนนี่ค่อยๆอ้าปากออก แล้วพูดว่า....
End of Season 1
Season 2 Coming soon
ปล. อย่าฆ่าคนเขียนนะครับบบ