: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]  (อ่าน 228356 ครั้ง)

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1




kagehana : ความรักของพี่เดฟน้องปันลงตัวไป(บ้าง)แล้ว ฝากลุ้นคู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อด้วยนะคะ อิอิ






-28-







เปิดเทอมใหม่เริ่มขึ้นแล้ว



เช้าที่ต้องตื่นไปทำงานทุกวันคงไม่ใช่เช้าที่แสนดีนัก แต่เพราะข้ออ้างของการเปิดเทอมคือการได้ไปส่งไอ้เจ้าตัวกวนหน้ามุ่ยพร้อมกับได้แกล้งนิดๆหน่อยๆยามเช้าบนรถก็ทำให้ความรู้สึกน่าเบื่อจางลงไปเยอะ



“ทำหน้าดีๆหน่อยดิ่ปัน อย่างกับเมาขี้ตาอ่ะ” ชายหนุ่มลูกครึ่งทักคนรักที่ดูยังไม่ตื่นดี ปัณวิทย์นั่งคอเอนพับอยู่ตรงเบาะข้างคนขับด้วยใบหน้าบู้บี้



“ง่วง... มีไรปะ” คนตอบไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสบตาชยางกูรเลยแม้แต่น้อย วันแรกของเปิดเทอมสำหรับเขานั้นไม่มีอะไรน่าสนใจนัก จะมีก็เพื่อนตัวยุ่งทั้งสองที่ไม่ได้เจอหน้าเท่านั้น



“สดชื่นหน่อย เปิดเทอมวันแรกมีอะไรให้ทำตั้งเยอะ” ถึงจะบ่นแต่คนขับก็เอื้อมมือมาลูบหัวเบาๆ



หลังจากทริปภูเก็ต ดูเหมือนพ่อของเขาจะดูอ่อนลงและเงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พลภัทรไม่พูดถ้อยคำแรงๆกับใคร กระทั่งเขาขันอาสามาส่งปัณวิทย์ก็ไม่ขัดข้อง ทุกอย่างดูราบรื่นและสงบสุขจนอดนึกไม่ได้ว่าพลภัทรได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้ว



“ให้้ไอ้สองตัวนั่นได้พูดสิว่าไปฮันนีมูน” แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขยับศีรษะหนีฝ่ามือใหญ่แต่อย่างใด



“ขับรถสองมือสิ”



“เก่ง ขับมือเดียวได้” ว่าแล้วคนพูดก็โน้มตัวไปขโมยหอมเอาดื้อๆ



“แล้วซายน์แข่งรอบจังหวัดยัง”



“กำลัง ต้องไปเชียร์มันด้วย เดี๋ยวน้อยใจหาว่าเห่อแฟน” ปัณวิทย์ผลักหน้าอีกฝ่ายกลับไปโดยไม่ออมแรงนัก



“รถชนแล้วจะขำ”



“ไม่เอาแล้วนะรถชนน่ะ ขี้เกียจร้องไห้หาเด็กแถวนี้อีก” ชยางกูรเปิดไฟเลี้ยวเข้าชิดขวา เตรียมตัวจะเข้าโรงเรียน



“ถึงแล้ว..มาเช้าไปป่ะเนี่ย”



“ไม่หรอก ไอ้ซายน์มีซ้อมแต่เช้า เดี๋ยวไปหามันที่โรงยิม” เขาหันตัวปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วหยิบกระเป๋ามาสะพายไว้ รอให้รถจอดสนิท



“ตั้งใจเรียนนะ...อ้าว ไง อัสซี่” ชยางกูรมองเห็นเด็กหนุ่มหน้าตี๋แว้บๆเลยอดทักไม่ได้



“มาเช้าเหมือนกันนะเรา”



“มาเฝ้าแฟนครับพี่เด-!?” ...ชิบหายแล้วไอ้อัส



“เฮ้่ย มึงมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่บอกกูวะ” ปัณวิทย์ที่ลงจากรถรีบเดินมากอดคอเพื่อนของตนไว้



“มีแฟนแล้วเลยมาเช้านี่เอง พี่ไปก่อนนะอัสซี่ ไปก่อนนะปัน” ชยางกูรขับรถถอยช้าๆก่อนจะเร่งเครื่องจากไป



“ไอ้อัส มึงอย่าเงียบ บอกกูมาเลย” มือคว้าคอเสื้อเพื่อนได้ก็ดึงให้หันมาสนใจ



“เฮ้ย เชี่ยปัน เจอกันวันแรกทำร้ายกูเลยนะ” หนุ่มหน้าตี๋ยิ้มแหยพยายามเบี่ยงประเด็น



“ฮันนีมูนสนุกมั้ยมึง”



“ไม่ต้องเนียนไอ้ห่า ว่าไงมึง” ปัณวิทย์ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหลุดไปง่ายๆ



“ก็...ไม่มีไรเว้ย กูพูดเล่น ยังไม่มีเว้ย” ตี๋หนุ่มตอบเสียงฉิวพลางหลบตา



“ตลกแดก หลบตากูเนี่ย ไม่มี ไอ้ตี๋เตี้ย มึงบอกกูดีๆเลย”



“กูบอกไม่มีก็ไม่มีสิวะ หล่อๆอย่างกูต้องเก็บไว้ให้สาวหลงอีกนาน กูมีแฟนเดี๋ยวสาวร้องไห้กันหมด” เด็กหนุ่มตาตี่ยิ้มกว้างพลางยักไหล่



“ไอ้ซายน์ซ้อมอยู่โรงยิม ไปหามันป่ะ”



“เออ เอาดิ มันต้องบอกกูแน่”





////////////////////////////////////






“เฮ้ยไอ้ซายน์ ไอ้ตี๋เตี้ยแม่งมีแฟนเมื่อไหร่วะ” ปัณวิทย์เดินเข้าโรงยิมไปเห็นเพื่อนซี้อีกคนก็ส่งเสียงถามทันที



ศิวะที่ถือลูกบอลค้างไว้หันไปมองเพื่อนตัวเตี้ย นัยน์ตาใต้กรอบแว่นถลึงใส่นิดหน่อย เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วโยนลูกบอลลงตะกร้าเหล็ก



“ปัน...ไอ้..เอ่อ อัสครับ ตามมานี่มา” มือใหญ่ของนักกีฬาหนุ่มคว้ามือเพื่อนทั้งสองคนละข้างแล้วลากออกมานอกโรงยิม



“อะไรของพวกมึงวะ ทำไมต้องทำลับๆล่อๆ” กระต่ายป่าขมวดคิ้วกับท่าทีของศิวะ



“กูกับมัน” ปลายนิ้วชี้มาที่ตัวเองก่อนจะชี้ไปทางอาธิป “เป็นแฟนกันตอนนี้”



“มุขนี้ไม่ซื้อได้ปะวะ”



“เรื่องจริงว่ะ กูคบกับมันแล้ว” ศิวะแกล้งโอบไหล่แล้วขยี้หัวคนเตี้ยกว่าเบาๆ “คบตั้งแต่มึงไปฮันนีมูนกับพี่เดฟ”



“พวกมึงเอากันเองเหรอวะ ไอ้อัส มึงเลิกชอบหญิงแล้วเหรอวะ นมอะ”



“เหี้ย เพราะไอ้ศิวะลึงค์เนี่ยล่ะ กูเปล่า” เขารีบปัดความผิดให้พ้นตัวโดยโยนไปให้เพื่อนตัวดี



“ห่า กูอยากได้มึงนักแหละ เรื่องมันอย่างงี้เว้ยปัน มึงจำน้องแพนได้ป่ะ” ศิวะถอนหายใจเฮือกเมื่อนึกถึงหน้าเด็กหนุ่มตัวเล็ก



“เออ ที่มาชอบมึง ทำไมวะ” ปัณวิทย์กันอาธิปที่ดูจะคอยขัดคอออก



“ก็ไม่เลิกเว้ย กูก็ไม่อยากให้เด็กเสียใจเลยบอกไปว่ามีแฟนแล้ว ทีนี้ก็ไม่รู้เอาใครมาอ้างดี พอดีไอ้อัสซี่ตี๋น้อยมันว่างแถมไม่มีปัญญาหาแฟน กูเลยเอามันมาเป็นแฟนแก้ขัดไปก่อน แต่แม่งก็ให้กูเลี้ยงจนจะหมดตัวอยู่แล้ว”



“แล้วพวกมึงจะเลิกกันเมื่อไหร่” ปัณวิทย์ส่ายหัวกับวิธีแก้ปัญหาของเพื่อน



“ถามไอ้เหี้ยนี่ดิวะ กูถามมันไม่เคยตอบกูซะ”



“กูไม่รู้ว่ะปัน จนกว่าไอ้เตี้ยนี่จะมีแฟนจริงๆมั้ง” ศิวะตอบอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าสักแต่จะใช้งานเพื่อน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ขออยู่อย่างนี้ไปก่อน..ขี้เกียจจะยุ่งยากใจอีก



“มึงมีแฟนเมื่อไหร่บอกกูแล้วกัน เดี๋ยวกูเลิกให้” มือใหญ่แตะลงที่กลางหัวแล้วตบเบาๆเหมือนลูบหัวสุนัข



“ไอ้ห่า แม่งเอาแต่ได้ กำไรอยู่คนเดียว ชีวิตมึงสบาย สาวเห็นกูอยู่กะมึง ใครจะอยากได้กูวะ” อาธิปโยกศีรษะหนีฝ่ามือของเพื่อนรักอย่างไม่ไยดี



“เสือกเกิดมาไม่หล่อเท่ากูเอง ได้กูเป็นแฟนก็บุญแล้วเหอะ” ศิวะย้อนกลับไม่ไว้หน้า



“บุญเหี้ยไร บาปกู กรรมเวรกู” เขาผลักเพื่อนของตัวเองออกเต็มแรง



“บุญปากมึงไงไอ้เตี้ย แดกฟรีทั้งชาตินะเว้ยเป็นแฟนกูน่ะ”



อาธิปไม่อาจปฏิเสธได้ว่านั่นเป็นเรื่องจริง แต่ถึงอย่างนั้น ก็อยากจะเลิกการเป็นแฟนปลอมๆแบบนี้เสียที



“ก็กูไม่อยากแล้ว เหี้ย เดี๋ยวมึงหลงรักกูขึ้นมาจริงๆ”



“สำคัญตัวผิดแล้วมึง หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ....กูเอาไอ้ปันยังดีกว่า” ศิวะบุ้ยหน้าไปทางคนกลางก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ



“เอาน่า จนกว่ามึงจะเจอคนที่รักจริงๆ ช่วยเป็นแฟนกูไปก่อนนะครับอัสซี่คนดี”



“............ เป็นแฟนไอ้ปันดิวะ จะได้สมจริง” พอเห็นปัณวิทย์ไม่ได้ตอบโต้กับสิ่งที่เพื่อนตัวแสบพูด อาธิปก็เสนอทางออกให้ตัวเองอีกครั้ง



“สัด แดกของกูฟรีไปเยอะห้ามเบี้ยว” เด็กหนุ่มมองลอดแว่นอย่างเป็นต่อแล้วคว้าคอดึงตัวมาใกล้



“กูจะเอามึงนี่แหละ จบ ห้ามมีปัญหาไม่งั้นกูแช่งให้ซิงตลอดชีวิต”






///////////////////////







เปิดเทอมผ่านพ้นไปร่วมอาทิตย์ กิจวัตรประจำวันหลังเลิกเรียนของอาธิปยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน นั่นก็คือการมาเฝ้า 'แฟนปลอมๆ' ของตัวเองซ้อมบาส



...ซวยเพื่อนตลอดจริงๆ...



...เมื่อไหร่จะมีใครมาสนกูมั่งวะ...



ร่างบอบบางในชุดนักเรียนที่ยืนจดจ้องอยู่นานค่อยๆเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างสนามบาส เด็กสาวกระพริบตาครั้งหนึ่งก่อนจะยิ้มทักทายด้วยใบหน้าเขินอาย



“อัสซี่...ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะ” เสียงหวานเอ่ยกล้าๆกลัวๆ



...โป๊ะเชะเลย!



...คิวกูแล้วแน่ๆครับ...



เด็กหนุ่มหน้าตี๋ยิ้มกว้างให้ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยไม่สนใจหน้าที่ของตัวเอง



“ว่ายังไงครับ... มีอะไรให้อัสซี่ช่วยเหรอ”



...หรือจะมาแบบเดิมวะ...



...ชอบไอ้ซายน์...



...มาบอกกู...



“คือ...ชื่อมีนนะคะ.....” น้ำเสียงเล็กๆแทบจะหายไปในลำคอ เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตาอาธิปด้วยใบหน้าระเรื่อ



“ขอโทษนะคะ..มีนรู้ว่าไม่ดี...แต่ว่า....” นัยน์ตาสุกใสสบตาพลางหลบช้าๆ



“อัสซี่...มีแฟนหรือยังคะ”



...เฮ้ย!!!!!!!



...กูเหรอ...



“ยังไม่มีครับ มีน... ใช่ไหม อัสซี่โสดตลอดครับ มีเพื่อนหล่อหนักใจ”



“ถ้าอย่างงั้น...จะเป็นอะไรมั้ยคะถ้าเราจะเป็นเพื่อนกัน” มีน...มีนายิ้มหวาน มือเรียวส่งถุงคุกกี้ใบเตยที่ซ่อนไว้ข้างหลังให้



“มีนทำมาฝากค่ะ...อยากรู้จักอัสซี่มานานแล้ว ขอโทษที่ไม่กล้าทักนะคะ”



อาธิปไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะรู้สึกดีได้ขนาดนี้กับการที่มีใครสักคนมาทำแบบนี้ด้วย แบบนี้จะได้ไปหัวเราะเยาะใส่ไอ้เพื่อนแสนดีที่ให้บังคับเป็นแฟนหลอกๆ



...กูก็มีคนสนเหมือนกันเว้ย...



“ไม่เป็นไรครับมีน นี่น่ากินมากเลย อัสซี่จะกินให้หมดเลยนะครับ”



“ถ้าวันหลัง...มีนทำมาให้อีก...ได้ไหมคะ” มีนาก้มหน้างุดทันทีที่หลุดปากออกไป



“ได้ครับ ยินดีกินเลย คุกกี้จากคนน่ารัก ชอบครับ” อาธิปยิ้มกว้างส่งให้ดวงตาโค้งจนแทบจะเป็นเส้นเดียว



นักกีฬาหนุ่มที่แอบมองอยู่นานพอเห็นรอยยิ้มกว้างหวานเลี่ยนของเพื่อนที่ยืนอยู่กับสาวน้อยก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ศิวะเดินเข้ามาหาก่อนจะยิ้มทักทั้งคู่



“ทำไรครับอัฐ...แล้วนี่....” เด็กหนุ่มเว้นเสียงทำท่าสนใจ เขาลอบมองกิริยาเขินอายของคนตรงหน้าอีกครั้งพลางสรุปในใจ



...ชัวร์...



...พวกแผนสูงแหง...



“ชื่อมีน ทำคุกกี้มาให้ น่ารักไหม” อาธิปสงบปากสงบคำแม้จะอยากให้เพื่อนตัวดีออกไปพ้นๆ ก่อนที่ความสนใจของมีนาจะถูกเบนไปที่ไอ้รูปหล่อนักบาสข้างๆ



“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...” เด็กสาวทักทายด้วยเสียงเบาๆ



“ซายน์ครับ แล้วมีนรู้จักกับอัฐมาก่อนเหรอ” แม้จะถามเด็กสาวแต่สายตากลับมองไปที่อาธิป



“ไม่รู้จักกันมาก่อนค่ะ แต่มีนมอง...เอ่อ...อยากรู้จัก..มานานแล้ว”



อาธิปยิ่งฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพูดต่อเสียงอ่อน



“ตอนนี้้รู้จักกันแล้วนะครับ”



“ค่ะ...มีนไปก่อนนะคะ แล้วเจอกัน” มีนาโบกมือให้ก่อนจะวิ่งจากไป



ศิวะมองตามหลัง เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่เขาไม่เคยเห็น...เขาเคยเห็นเธอคนนี้มองมาหลายครั้ง และแน่ใจด้วยว่าคนที่ถูกมองไม่ใช่ไอ้ตี๋เตี้ยที่ยืนยิ้มกริ่มมองถุงขนมน้ำลายหยดตรงนี้แน่



“สนใจเหรอวะ” กระแทกเสียงถามฉุนเฉียว แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฉุน



“ทำไมกูจะไม่สนวะ สาวมาสนกู ต้องสนดิ” ไม่พูดเปล่า แต่อาธิปยังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพลางเดินถือถุงคุกกี้ออกไปจากโรงยิม



“หมดหน้าที่กูแล้วนะ ตามสัญญา” เขาหันมาหาเพื่อนตัวดีที่เดินตามมา



“เขายังไม่ได้อะไรกะมึงเลย ยกเลิกห่าไรวะ” ศิวะดึงชายเสื้อนักเรียนรั้งเอาไว้



“มึงดูไปก่อน อย่าเพิ่งไปอะไรมาก...มีนเขาอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”



“ไม่ใช่อย่างที่กูคิดอะไรวะ เอาคุกกี้มาให้กู บอกว่าอยากรู้จักกู ไม่ได้เอาแต่มองมึงเหมือนคนอื่นด้วย อย่าขัดสุขเพื่อนดิวะ” ตี๋ที่ยิ้มกว้างเมื่อครู่กลายเป็นตี๋อารมณ์เสียทันทีที่ถูกพูดแบบนั้น



“ระวังจะโดนหลอกเหอะ ยิ่งโง่ๆอยู่” ศิวะไม่กล้าบอกเรื่องมีนาเพราะส่วนหนึ่งยังไม่แน่ใจเท่าไหร่...เขาไม่อยากจะตัดสินใจอะไรไปเอง เพียงแต่ยังอดห่วงไอ้เตี้ยที่กำลังเคลิ้มอยู่นี่ไม่ได้



“กูบอกดูไปก่อนก็ดูไปก่อน ไม่เคยมีแฟนอย่าเสือกรู้ดีเข้าใจ๊”



“ทำไมวะ กูไม่ได้เสือกรู้ดี มึงเป็นเพื่อนกูมึงมีหน้าที่สนับสนุนกูสิวะ” เขาปัดมือที่ยังจับชายเสื้อเอาไว้ออก



...จะให้กูสนับสนุนกับคนที่ท่าทางจะหลอกมึงเหรอวะ ถึงจะคิดอย่างงั้นแต่ศิวะก็ไม่ได้พูดออกมา



“กูไม่สนับสนุนมึงจะทำไม “



“งั้นกูก็ไม่สนับสนุนให้มึงเป็นแฟนกูหลอกๆเหมือนกัน แทนที่จะกล้าไปบอกน้องเขาตรงๆ แมนเหี้ยๆ” อาธิปไม่คิดว่าตัวเองจะพูดแบบนี้ใส่อีกฝ่ายได้ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าตัวเองกำลังโมโหกับเพื่อนที่ไม่ให้ความร่วมมือคนนี้



...ทั้งๆที่กูยังช่วยมึง...



“มึงไม่ใช่กูมึงไม่เข้าใจหรอก” ตอบด้วยความโมโหไปก็อดนึกไม่ได้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมเลิกเป็นแฟนหลอกๆเสียที...ทั้งที่พชรก็ดูจะไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว



“กูเตือนมึงในฐานะเพื่อน มึงไม่เคยมีแฟนพอมีสาวมาดีเข้าหน่อยมึงก็ดีใจหางตั้ง มึงต้องเผื่อใจไว้บ้างว่าอะไรๆอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิด ส่วนเรื่องน้องแพนมันไม่เกี่ยวกันเว้ย มึงรับปากกูแล้วต้องช่วยกู”



“เออ งั้นวันนี้เป็นวันแฟนทะเลาะกัน กูกลับบ้านแล้ว ไม่ต้องง้อ ไม่ต้องตาม” พูดจบอาธิปก็หันเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่



“กูไม่ง้อมึงหรอก ไอ้เตี้ย” ศิวะพูดพึมพำไล่หลังในลำคอ แววตาภายใต้กรอบแว่นมองตามไปช้าๆจนลับสายตา



...แม่งเอ๊ย...



...ไม่ห่วงไม่พูดหรอกนะเว้ย...



“พวกพี่ทะเลาะกันเหรอ” พชรที่ยืนมองอยู่ไกลๆเดินเข้ามาหา ตอนแรกได้ยินจากคนอื่นๆในทีมว่าอาธิปกับศิวะทะเลาะกัน แม้จะอยากรู้ว่าเรื่องอะไร แต่เขาก็ข่มใจตัวเองไม่เดินออกมา รอจนอาธิปเป็นฝ่ายจากไป ถึงได้ตัดสินใจเข้ามาถาม



...เชี่ยแล้วไง...



เด็กหนุ่มนักกีฬาหันไปหาผู้จัดการทีม ศิวะยิ้มจางๆให้น้องเล็กก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่



“นิดหน่อยน่ะ...อัฐมันงี่เง่า”



“ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะแพนใช่ไหม” ใบหน้าหวานมีร่องรอยแห่งความกังวลฉายอยู่อย่างเห็นได้ชัด



“เปล่าหรอกแพน” ศิวะวางมือบนศีรษะทุยแล้วขยี้เบาๆ



“ก็แพนเข้าใจพี่แล้วนี่ ใช่มั้ย”



“... แพน ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจก่อนหน้านี้... แต่ว่าพี่ซายน์อย่าเพิ่งบอกใครได้ไหม... ว่าแพนจะคบกับพี่กอล์ฟ รู้แบบนี้แล้ว พี่ซายน์จะได้ไม่ต้องห่วง... นะ”



ข้อความที่ออกจากปากพชรทำเอาอึ้งไปพักใหญ่ ในหัวคิดแต่เรื่องของอีกคนที่เพิ่งจากไป เพราะถ้าพชรมีแฟนแล้ว...ข้ออ้างในการเป็นแฟนของเขากับมันก็คงต้องหยุดเสียที



...นั่นสิ ควรพอได้แล้ว...



“แพนชอบพี่กอล์ฟแล้วเหรอ ดีจังนะ” เขาลูบศีรษะเล็กๆอีกครั้งแล้วละมือออก “มีความสุขมากๆนะ”



“... ตอนนี้แพนยังไม่ได้ชอบพี่กอล์ฟเหมือนที่ชอบพี่หรอก แต่ในอนาคต แพนก็จะชอบพี่เขา แล้วก็จะมีความสุข... ล่ะ” พชรยิ้มให้อีกฝ่ายหลังจากพูดจบ



“พี่ซายน์ก็... ไปง้อพี่อัสซี่ด้วยนะ...”



“ไม่ค่อยอยากง้อมันว่ะแพน แม่งงี่เง่า”



“ก็พวกพี่รักกันไม่ใช่เหรอ... ทะเลาะกันก็ต้องยอมกันหน่อยสิ... นะ” แม้จะยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ที่ต้องพูดออกไป แต่พชรก็เชื่อว่าเขาจะต้องมีความสุขได้แน่นอน เพราะอย่างนั้น ก็อยากจะให้ศิวะ ยิ้มมากกว่าจะทำหน้าแบบนี้



“ปกติแพนเห็นพี่ออกจะแฮปปี้... ถ้าพี่ทำหน้าแบบนี้ ตามไปง้อไม่ดีกว่าเหรอ”



ทำหน้าแบบนี้...มันแบบไหนวะ



“แพนเห็นว่าพี่กับอัฐแฮปปี้เหรอ...ทำไมล่ะ” เขาลองเสี่ยงถามดูอีกครั้ง...อยากจะรู้ว่าความรู้สึกจริงๆของตัวเองคืออะไร



“ก็ปกติ พี่ซายน์ใจดีกับทุกคนใช่ไหม แต่ก็เห็นว่ากับพี่อัสซี่ พี่ดู... เป็นธรรมชาติน่ะ”



ก็เพราะคบเป็นเพื่อนกันมาต่างหากล่ะ...



หากแต่พอจะอ้าปากตอบไปอย่างงั้น ในหัวก็แวบนึกขึ้นไปถึงคำยืนยันว่ารักจากปากไอ้เตี้ยเพื่อนสนิท ไม่รู้ว่าทำไมพอฟังอย่างงั้นแล้วหัวใจมันแกว่งพิกล



อาธิปไม่เหมือนปัณวิทย์ ถึงจะสนิทเหมือนกันแต่ก็ไม่เหมือน...



“ก็เริ่มมาจากการเป็นเพื่อนมั้งแพน พี่ก็ยัง...พี่...ไม่รู้ดิ” พอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ก็เหมือนหัวสมองจะประมวลผลช้าลงไปอีก



...แม่งเอ๊ย อะไรนักวะกู...



“ก็ง้อก่อน พี่อัสซี่เดี๋ยวก็หาย... ไม่ใช่เหรอ” พชรยิ้มให้ เพราะอยากจะเป็นกำลังใจให้กับรุ่นพี่ที่รักมาก



“ถ้าเลิกกัน เดี๋ยวผม ตัดใจไม่ได้นะ”



“อ้าว งี่พี่ก็ต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิตอ่ะดิ่” ศิวะนึกเอ็นดูผู้จัดการตัวเล็กเลยเขย่าหัวเบาๆแทน



“อย่าชอบพี่เลย เนอะ...พี่กอล์ฟดีกว่าพี่เยอะ”



“......” แม้เจ้าตัวจะเป็นคนพูด แต่เขาก็ยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้อยู่ดี



“... ดีกันเร็วๆนะ....” พชรพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหันหลังให้ แล้วเดินหนีออกไป ซ่อนใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มพลางก้าวให้เร็วขึ้น



...แพนอยากให้พี่มีความสุข...



...เพราะงั้นพี่ต้องมีความสุข...



...ไม่งั้น แพนก็จะเลิกรักพี่ไม่ได้...













To Be Continued.....

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อัชชี่ไม่หวั่นไหวกับซายน์เลยเนาะ  น่าสงสารนะเนี่ยะ
อยากอ่านถึงตอนพ่อของพี่เดฟกับน้องปันเร็ว ๆ จัง
อยากรู้ว่ายอมรับน้องปันได้หรือยัง

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อัสซี่ระวังโดนชะนีหลอกนะจ๊ะ  o18

ซายน์จัดไปเลย ให้รู้ว่าอัสซี่น่ะของใคร  :z2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16
สงสารแพน ดูท่าปัญหาชีวิตรักจะมีอีกพักใหญ่

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
สงสารน้องซายน์อะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
รวบหัวรวบหางไปเลย ซายน์  :haun4:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มันคลึ้มๆ รึว่าอยู่ในช่วงฤดูฝน
ตกลงเป็นแฟนกันเร็วๆ นะ อัสซี่ + ซายน์ อยากมีความสุขด้วย
ขอบคุณคนเขียนครับ

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แพนมาซะดราม่าเลย :really2: :really2:

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
เอาชะนีไปเก็บซะนะ น่าสงสารน้องแพนจริงๆ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1



Kagehana : ลงคืนกำไรคู่ซายน์อัส(เอ๊ะ??) เมื่อซายน์เริ่มรู้ตัวจะรุกก็ไม่ได้จะถอยก็ยากซะแล้ว







-29-







ทำไมกูมายืนตรงนี้วะ....



ศิวะถามตัวเองเป็นรอบที่สิบในชั่วระยะเวลาแค่ไม่กี่นาที ในตอนแรกแค่คิดว่าจะปล่อยไอ้คนขี้งอนทิ้งเอาไว้ แต่รู้ตัวอีกทีก็ดันมายืนตากยุงอยู่หน้าบ้านมันแล้ว



“เอาไงเอากันวะ” เด็กหนุ่มกดกริ่งหน้าบ้าน รอให้ม๊า..หรือใครก็ได้ลงมาเปิดให้เหมือนทุกครั้ง



ก็ม๊าของไอ้เตี้ยรักเขาจะตาย มาเยี่ยมเยียนคงไม่แปลกเนอะ



ไม่รอนานนัก แม่บ้านวัยกลางคนที่คุ้นเคยกันก็มาเปิดประตูให้อย่างเคย



“น้องอัฐไม่เห็นได้บอกว่าน้องซายน์จะมา... เลยต้องให้ยืนรอเลย ขอโทษทีนะจ๊ะ”



“ไม่เป็นไรครับ ผมมาเซอร์ไพรส์มัน” ศิวะยิ้มหวานให้แม่บ้าน แหงล่ะ...ที่บ้านนี้เขาก็เป็นคนโปรดใครหลายๆคนเหมือนเคย



เด็กหนุ่มร่างสูงเดินเข้าไปทักทายป๊ากับม๊าแล้วเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงซึ่งเจ้าของห้องไปอาบน้ำอยู่อย่างหน้าตาเฉย



อาธิปที่อาบน้ำเสร็จเดินผิวปากออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเจอคนที่ตัวเองกำลัง “ทะเลาะด้วย” มานั่งอยู่บนเตียงของตนหน้าตาเฉย



“เหี้ย ใครให้มึงเข้ามาวะ”



“ป้านวลเปิดให้ ทักทายป๊ากับม๊ามึงแล้ว เขาบอกให้มารอที่ห้องมึง” ศิวะถอดแว่นออกวางบนโต๊ะข้างเตียง



“เอาผ้าเช็ดตัวให้กูด้วย จะอาบน้ำ”



“กูไม่ให้ มีไรปะ” เจ้าของห้องทำหน้ายียวนกวนอวัยวะเบื้องล่างอย่างเต็มที่



“ไม่ได้เชิญ กลับไปเลยห่า”



“กูจะนอนที่นี่ มึงไม่ต้องเชิญ” ศิวะยักคิ้วกวนกลับ “งอนเหรอมึง....ทำตัวเป็นสาวซึนหรือไง”



“สาวซึนพ่อมึงเดะ” เขาคว้าเอาหมอนใบเล็กปาใส่คนที่ทำหน้าไม่เดือดร้อนเอาเสียเลย



คนที่นั่งอยู่หยิบหมอนปาคืนแล้วลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาเอง



“ไม่บริการแฟนเลยนะมึง มาง้อถึงที่เนี่ย”



พอได้ยินคำว่าง้อ อาธิปถึงหยุดไม่ปาหมอนกลับ



“ง้อกูเหรอ จริงปะ”



“ไม่มั้งมึง มานั่งถึงที่เนี่ย” ศิวะดึงข้อมือคนที่ยืนอยู่ให้เข้ามาใกล้ กลิ่นสบู่หอมๆที่ออกมาจากตัวคนอาบน้ำใหม่ชวนให้ใจเต้นพิลึก



หอมผิดที่ผิดทาง...หอมผิดปกตินะมึง



“ง้อนะครับ คุณแฟน” นัยน์ตาสีเข้มทอแววพราวระยับด้วยเพราะกลั้นหัวเราะไปในตัว



“เหี้ย เออ กูจะอ้วก” เขายกแขนขึ้นโอบคอเพื่อนของตัวเองเอาไว้



“มึงให้กูมีความทรงจำวัยรุ่นกับเค้ามั่งดิวะ”



“ก็กับกูไง” ท่อนแขนแข็งแรงรั้งไอ้ตี๋เตี้ยที่โอบคอเขาอยู่เข้ามากอดเบาๆ...



ไม่ใช่ว่าเขากับมันไม่เคยกอดกัน แต่กอดคราวนี้แม่ง....ไม่เหมือนเดิมสักนิด



ศิวะเงยหน้ามองใบหน้าขาวที่อยู่ใกล้ๆ ตาตี่ๆของมันดูจะโตขึ้นเพราะอาการตกใจ..ยังไม่นับไอ้หน้าแดงๆที่วิ่งแล่นไปทั้งหน้ามันอีก



“กูเป็นห่วงมึง เข้าใจป่ะ”



“เออ กูรู้ แต่เค้าไม่ได้มองมึงเลยสักนิดเดียวนี่หว่า...” เขาต้องยอมรับว่าการเป็นแฟนปลอมๆทำให้เขารู้สึกแปลกๆกับไอ้คนที่อยู่ข้างๆ



“มึงมัน.....” ...โง่ แหงล่ะ ถ้าพูดออกไปหมดไอ้ง้อๆนี่ไม่รอดแน่



ศิวะกอดไอ้ตัวหอมๆแน่นขึ้น แม่ง ไอ้เชี่ยนี่มันน่ากอดดีแท้ หอมๆเย็นๆเหมือนเด็กเล็กๆเลย



“อย่าเพิ่งเลิกเป็นแฟนกูนะ เข้าใจป่ะอัฐ” ไม่ใช่ไอ้เตี้ย ไอ้ตี๋ หรือกระทั่งอัสซี่....แต่เป็นชื่อเล่นจริงๆที่มักเรียกในยามที่เป็นการเป็นงาน



“... ทำไมวะ น้องแพนยังไม่ตัดใจอีกเหรอ มันนานแล้วนะมึง” เขาหันไปจ้องหน้าคนที่กอดตัวเองเอาไว้ ถามด้วยความไม่เข้าใจว่าเด็กคนนั้นจะตื๊อเพื่อนตัวเองไปถึงไหน



คำถามนั้นกระแทกใจคนกอดจนพูดอะไรไม่ออก...มันไม่มีเหตุผลที่จะรั้งไอ้เพื่อนบ้านี่ไว้เป็นแฟนแล้วเพราะพชรเองก็กำลังจะคบกับกัปตันคนใหม่ ในหัวตัวเองก็ดันสับสนจนไม่รู้จะอธิบายยังไง



...ราวกับเพื่อนจะไม่ใช่เพื่อนอีกแล้ว...



“ก็คบไปเรื่อยๆ กินตังค์กูไปเรื่อยๆ มึงกับมีนยังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย ซ้อมกับกูไปพลางๆก็ได้ กูจูบเก่งนะมึง” ศิวะคลายกอดออกแล้วดึงเอาผ้าขนหนูของอาธิปที่เจ้าตัวพาดบ่าไว้มาถือ



“ขำไม่ออกอีกแล้ว มึงจูบเก่งแล้วมึงจะสอนกูยังไง กูไม่เรียนภาคปฏิบัติกับมึงแน่ๆ” หนุ่มตี๋รีบโวยวายเสียงดังพลางยึดเอาชายผ้าขนหนูมาถือไ้ว้



“ดึงไปทำไมวะ”



...ล้อเล่นแรงขึ้นทุกวันไอ้เหี้ยศิวะลึงค์นี่...



“ห่า ก็กูขอยืมผ้ามึงนี่แหละอาบน้ำ จะได้ไม่เปลืองผ้า”



“ใช้แล้ว มึงจะเอาไปทำไม ยังเปียกอยู่เลย เอาอันใหม่ดิวะ ของมึงใช้ป้านวลเก็บไว้ให้ในกล่องนู่นแล้ว ห่า ไม่ย้ายสำมะโนครัวมาเลยวะ” พูดไปก็เดินไปหยิบเอากล่องที่ว่าออกมาเปิดให้ดู ข้างในมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอยู่ครบทุกอย่าง ตั้งแต่แปรงสีฟันไปจนถึงชุดนอน



“รักมึงเหลือเกิน คนบ้านกู”



“มึงด้วยป่ะ” พูดจบก็ต้องเอนตัวหลบผ้าขนหนูที่ปลิวมาตามแรงคนปา ศิวะหัวเราะลั่นแล้วหยิบผ้ามาถือไว้



“รักกูหรือเปล่าครับ น้องอัฐ”



“มึงไม่ขนลุกมั่งเหรอวะ เออ รักเว้ยรัก ไปอาบน้ำได้แล้ว เอากล่องน้องซายน์ของป้านวลไปด้วยมึง เดี๋ยวป้าเสียใจ” อาธิปยื่นกล่องไปให้เพื่อนตัวดีของตัวเองเสียเต็มแรงโดยหวังว่าจะกระแทกกับท้องให้เจ็บบ้าง



กล่องน้องซายน์....ศิวะก้มลงมองในมือ กล่องพลาสติกเล็กๆที่ใส่เสื้อผ้า ของใช้ที่ป้านวลแม่บ้านเตรียมไว้ให้ เขารู้ว่าทุกๆคนในบ้านนี้เอ็นดูน้องซายน์เพื่อนน้องอัฐทุกคน ก็แหง...เด็กเรียนดีกีฬาเด่นอย่างเขาไปไหนใครก็เอ็นดู



“น้องซายน์ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ร่างสูงพูดล้อเลียนแล้วดีดตัวลุกเอากล่องเข้าห้องอาบน้ำไป



“ไอ้อัฐ มึงทำไรในห้องน้ำวะ คราบเต็มไปหมดเลย” เสียงทุ้มแกล้งตะโกนออกมาจากห้องน้ำ



“ฟุ้งซ่านนะมึง เด็กซิงก็เงี้ย ไม่มีที่ระบายอ่ะดิ่”



“คราบเหี้ยไรวะ ไม่มีเว้ย ไอ้บ้า เดี๋ยวพ่อแม่กูเข้าใจผิด! ล็อคขังลืมไว้ในห้องน้ำแม่งเลยดีไหม ห่า” อาธิปทำเสียงโวยวายคืน เขารู้ดีว่าโวยวายไปก็เท่านั้น ไม่เห็นเคยทำอะไรชนะไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้ได้เลยสักครั้งเดียว แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรเพราะค่าที่ว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่จำความได้ คำว่ามิตรภาพมันก็เลยดูจะสำคัญมากไปจนไม่อยากให้เรื่องเล็กๆน้อยๆมาทำให้ต้องขัดใจกัน



ที่วันนี้โมโหมากเกินไปก็เป็นเพราะว่า แต่ไหนแต่ไร เขาก็สนับสนุนเพื่อนของตัวเองเสมอ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมศิวะต้องทำตัวไม่เข้าเรื่อง ขัดคอเขาที่กำลังน่าจะได้มีความสุข



ศิวะอาบน้ำหลักสูตรเร่งรัดแล้วออกมาพร้อมหัวเปียกแฉะกับเสื้อนอนที่แขวนไว้ในมือ แอร์เย็นๆกระทบผิวกายเปลือยเปล่าท่อนบนทำเอารู้สึกหนาวไม่น้อย เขาเดินมานั่งข้างๆอาธิปแล้วเอาหัวเปียกๆเบียดไหล่ไว้



“หนาวชิบ” บ่นแต่ก็ไม่ได้ใส่เสื้อ ค่าที่อยากจะเช็ดผมให้แห้งก่อน



“ทำหน้าอย่างงี้อยากเช็ดหัวให้กูเหรอคุณแฟน”



“น้องแพนด้าไม่อยู่ กูจะเช็ดทำไมวะ” ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มผลักหัวเปียกแฉะของเพื่อนของจากไหล่ของตัวเองทันที



ศิวะยอมถอยออกมาเช็ดหัวเองแต่โดยดี เขาขยับผ้าในมือไปมาจนเส้นผมเริ่มหมาดชื้น เด็กหนุ่มดึงผ้าหมาดๆฟาดไปบนตัวขาวๆที่ตัดกับชุดนอนสีเข้มเบาๆ



เออวุ้ย...สบู่แชมพูก็อันเดียวกันแต่ไม่รู้ทำไมว่าอยู่บนตัวไอ้เตี้ยนี่ถึงได้หอม...เป็นพิเศษ



“หายโกรธกูยังครับ น้องอัฐของกู”



“กูไม่หายก็ตอนมึงฟาดผ้าลงมาเนี่ยล่ะศิวะลึงค์” ไม่ตอบเฉยๆ แถมค้อนและศอกให้พร้อมกับตาขวางๆ



“กูจะนอนแล้ว ง่วง”



“ก็นอน แบ่งครึ่งเหมือนเดิม” พูดจบศิวะก็ทิ้งตัวลงนอนโดยไม่ให้เจ้าของได้ทักท้วง การแบ่งครึ่งของเขาคือตัวเองนอนสามส่วนสี่...ส่วนไอ้เตี้ยเบียดได้เท่าไหร่ก็นอนไป



“ตลอด ตลอดเลยมึง ไม่ให้ครับคุณแฟน เป็นแฟนต้องดูแล ไสออกไปให้กูนอนเยอะๆเลย” อาธิปทักท้วงบ้างโดยยกเอาข้ออ้างที่อีกฝ่ายชอบใช้มาบ้าง



“คุณแฟนก็เบียดเอาดิ่วะ มึงเบียดมากก็ได้นอนมาก แต่กูจะนอนอย่างงี้มีไรมะ” ศิวะดึงผ้าห่มนุ่มๆขึ้นมาคลุมตัวแล้วใช้เท้าถีบก้นไอ้ตัวขาวยันจะให้ตกเตียง



“เป็นแฟนกูต้องอดทน ไม่อยากเบียดก็นอนพื้น”



“งั้้นกูไม่เป็นแล้ว แฟนมึงอะ ห่า มีอย่างที่ไหนวะ” เขาออกแรงดึงผ้าห่มทั้งหมดออกมาจากอีกคน



“โอ๋ๆ งอนๆ มานี่มา” พูดจบคนที่นอนอยู่ก็คว้าทั้งคนทั้งผ้าห่มเข้ามากอด เขาเขยิบแบ่งครึ่งให้แล้วใช้ขาก่ายทับไว้ เพื่อนที่ตัวเล็กกว่าตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาทั้งที่มีเพียงผ้าห่มกั้น



ศิวะเขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้...อีกนิด....เพียงแค่นิดเดียวก็จะสัมผัสกัน



“กูไม่ใช่หมอนข้างนะ ปล่อยเว้ย” อาธิปทั้งเตะทั้งยันเพื่อนที่กอดไว้จนแน่น



“ทีมึงก่ายกูไม่เคยบ่น” ....เชี่ยแม่ง หมดอารมณ์



ศิวะถอยตัวออกแล้วปล่อยอาธิปออกจากวงแขน ความลับหนึ่งที่เขาจะกดเอาไว้ไม่ให้ใครรู้....ความลับที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้



...เมื่อกี้เขาเกือบเผลอจะจูบเพื่อนคนนี้เข้าไปแล้ว...



“นอนได้แล้ว ฝันดีมึง” หนุ่มตี๋เอี้ยวตัวมาแบ่งผ้าห่มให้อีกคนโดยออกแรงคลี่แล้วสะบัดให้คลุมร่างเอาไว้



“เดี๋ยวหนาวแล้วผิดกู”



และความลับข้อที่สองก็ตามมาติดๆ...



...เขาเกือบจะกอดไอ้เพื่อนบ้านี่อีกแล้ว...



ศิวะปิดเปลือกตาตัวเอง พยายามข่มตาให้หลับ..ทั้งที่ก็รู้ดีว่าคืนนี้ไม่มีทางหลับลงแน่ๆ



“ขอบใจนะมึง” เพราะมึงครับ...ทำกูนอนไม่หลับแน่ๆไอ้เตี้ย







///////////////////////////////////////////////






เช้าแล้ว....



ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงถอนหายใจเบาๆ...นัยน์ตาเข้มเหลือบมองไปยังปลิงสัญชาติลิงที่นอนเกาะแถมซุกเข้าหายึดแขนกับขาเขาเป็นหมอนข้าง ศิวะอยากจะเขกหัวหรือถีบตกเตียงสักทีเหมือนทุกครั้ง แต่เพราะวันนี้อะไรๆดูจะไม่เข้าที่เข้าทาง....เลยได้แต่นอนไม่หลับมองอยู่อย่างงี้ทั้งคืน



เพื่อน...หรืออะไร?



ศิวะยกมือลูบหัวเบาๆ และเป็นฝ่ายอาธิปที่ครางงึมงำในลำคออย่างขัดใจ



"หลับสบายเชียวนะมึง"



"อือ..." คนที่น่าจะยังไม่ตื่นดียกมือปัดมือของศิวะข้างที่ลูบหัวออกโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็คว้าเอาแขนข้างนั้นมากอดเอาไว้แทน



พ่องมึง!



คนโดนกอดอุทานในใจ จะยกขาถีบก็เกรงใจ จะเนียนกอดก็ไม่เคย เลยได้แต่นอนนิ่งมองตาปริบๆ



"เตี้ย ตื่นได้แล้วมึง" ปลุกเบาๆอีกครั้ง...แล้วก็ไม่เป็นผล



"ไอ้เชี่ยเตี้ย นอนแดกคอนกรีตเหรอวะ ตื่นโว้ย"



เสียงปลุกของศิวะคราวนี้ดูจะได้ผล เจ้าของห้องและเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมามองคนที่อยู่ใกล้พลางกระพริบตาปริบๆสองสามที



"หา... เชี่ย... ตื่นเช้าเชียวมึง..." อาธิปคลายแขนที่กอดเอาไว้ออกแล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ



"ง่วงเหี้ย"



กูไม่ได้นอนครับ..มึงนอนกอดกูสบายอยู่คนเดียวครับ ศิวะพูดในใจ



"เดี๋ยวสายแล้วโดนป๊าม๊าด่านะมึง เดี๋ยวกูหลุดตำแหน่งลูกรักม๊ามึง"



"เออๆ กูรู้แล้ว มึงลงไปอาบน้ำห้องแขกดิวะ จะได้รีบไป" เจ้าของห้องลงจากเตียงพลางเอี้ยวตัวซ้ายขวายืดเส้นยืดสายอีกครั้งหนึ่ง



"วันนี้จะได้กินคุกกี้ใบเตยอีกไหมน้า" พูดไปนัยน์ตาเรียวยาวก็ทำหน้าช่างฝันเพ้อตามแบบฉบับของเจ้าตัวไป



"เพ้อแล้วมึงอ่ะ" ศิวะลุกขึ้นอย่างแรงแล้วดึงผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์



..ไม่รู้ทำไมต้องหงุดหงิด แต่แม่งหงุดหงิด หงุดหงิดโว้ย!



"อะไรของแม่งวะ นอนไม่พอหรือไง" อาธิปที่มองตามท่าทางของเพื่อนแล้วส่ายศีรษะช้าๆ ก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำของตัวเองไปบ้างเหมือนกัน โดยที่ในใจนั้นคิดไปถึงคุกกี้ใบเตยรสชาติกลมกล่อมจากสาวน้อยคนนั้น



...ถ้าได้กินอีก ก็แปลว่าถึงตากูแล้วล่ะวะ



แล้วก็เป็นอย่างที่อาธิปฝันเอาไว้ ในตอนเย็น มีนามาหาเขาที่โรงยิมเพื่อชวนคุยแล้วนำขนมทำเองมาให้ วันแล้ว วันเล่า จนทำให้เจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะยิ้มจนแก้มแทบปริทุกครั้ง



ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่สาวๆพวกนี้จะเข้ามาหา แล้วจะเริ่มฝากของไปให้ศิวะ ถามถึงศิวะ หรือกระทั่งขอให้ช่วยเรื่องศิวะ แต่มีนาเข้ามาเพื่อจะคุยกับเขา ทำขนมมาให้เขา-- ต่อให้ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองก็ต้องคิด



เทียบเท่ากับความสุขของอาธิป อาการหงุดหงิดของศิวะกลับเพิ่มขึ้นในทุกๆวันที่เห็นเพื่อนตัวเองคุยกับสาวน้อยคนนั้น ศิวะสาบานได้ว่าเขาไม่เคยนึกชอบมีนา...แต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าคิดกับเพื่อนคนเดิม..ไปมากแค่ไหน



หลังจากชู้ตไม่ลงเป็นรอบที่สามและหงุดหงิดจนโดนกรวิทย์สั่งให้ไปพัก เด็กหนุ่มที่มองไปเห็นอาธิปกับมีนาคุยกันก็เลือกที่จะเดินหนีไปอีกทาง ศิวะกดโทรศัพท์หาเพื่อนอีกคนที่ยังไม่น่าจะไปไหนไกล



"ฮัลโหล ไอ้ปัน อยู่ไหนวะ"



-รอพี่เดฟอยู่ มีไรวะ-



"กูมีเรื่องอยากปรึกษาว่ะ" ศิวะพูดไปก็คว้ากระเป๋าเป้ไป ยัดของลวกๆใส่แล้วยกพาดบ่า



"มึง.....กูไม่ไหวแล้ว...กูสับสน"



-มาเจอกูหน้าโรงเรียนมา แล้วคุยกัน ไอ้อัฐล่ะ-



"ช่างแม่ง เดี๋ยวกูไปหา" ศิวะกดตัดสายแล้วเดินออกมาจากโรงยิ้มทั้งที่ยังทิ้งคุณแฟน...ไว้กับสาวน้อยหน้าหวาน



เด็กหนุ่มเดินมาถึงที่จอดรถหน้าโรงเรียน เขายกมือไหว้ชยางกูรที่ลงมายืนกับปัณวิทย์ ชยางกูรรับไหว้แล้วยิ้มทักทาย



"พี่่เดฟเฝ้ารถไปนะ ไอ้ซายน์ มึงขึ้นรถกะกู" ปัณวิทย์เปิดประตูรถแล้วรอให้เพื่อนขึ้นตามมา พอปิดประตูรถได้ ก็ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรก่อน



"มีอะไร ทิ้งไอ้ตี๋ไว้กับยัยนั่นอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวน้องแพนก็คิดว่าพวกมึงเลิกกันแล้วหรอก"



"เหี้ยแม่ง ตอนนี้กูเป็นอะไรไม่รู้ว่ะปัน กูหงุดหงิดตลอดเลยเวลากูเห็นมันอยู่กับมีน" ศิวะโพล่งความคิดในหัวออกมาทันทีที่โดนจี้ถูกจุด เครื่องปรับอากาศในรถไม่ได้ทำให้อารมณ์เย็นลงเลยแม้แต่น้อย



...งานเข้าแล้วมึง



ปัณวิทย์มองเพื่อนของตัวเองที่มักจะดูใจเย็นกว่าใครเพื่อน กลับดูโมโหได้ขนาดนี้ แถมยังเป็นเพราะเพื่อนอีกคนไปอยู่กับสาวตลอดเวลา...



"... มึง... มึงคิดจริงๆจังๆกับไอ้เตี้ยเหรอวะ"



"ไอ้เชี่ยปัน ไอ้อัฐน่ะมันเพื่อน...." ไม่ทันได้พูดจบศิวะก็ต้องหยุด...และทบทวนกับคำพูดที่ได้ฟัง



"มันเป็นเพื่อน....เป็นเพื่อนกูมานานนะปัน แต่กูก็ไม่รู้ทำไมว่ะ กูแค่....หงุดหงิด ไม่อยากให้มีนมายุ่งกับมัน"



...มาบอกกู...



"แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไม มันก็งี้ เดี๋ยวถึงเวลาก็อกหักมาตามสูตร แล้วจะเป็นไรวะ"



"ก็เพราะงี้ไงกูถึงหงุดหงิด กูไม่รู้ว่ากูหงุดหงิดทำไม แต่กูก็เป็น...ทำไมกูถึงไม่ยินดีถ้ามันจะมีแฟนวะ.........." ศิวะถอนใจยาวแล้วเอนหลังพิงเบาะ



"กูกลัว....กลัวจนในหัวกูไม่กล้าคิดเลยว่ะว่ากูรู้สึกยังไงกับมันจริงๆ"



"........ ยังไงสักวันมันก็ต้องมีแฟน ไม่ใช่มีน ก็ต้องมีล่ะวะ สมมติเข้ามหาลัยไปเงี้ย มึงยังจะไปตามหงุดหงิดมันอีกเหรอวะ" ปัณวิทย์มองใบหน้าของเพื่อนแล้วก็ต้องส่ายศีรษะช้าๆ



...กูว่าแม่งจริงจัง



"ไม่รู้ว่ะ กูถึงสับสนอยู่นี่ไง ปัน....กูพูดตรงๆว่ะ กูกลัวว่า...กูอาจจะชอบมัน" นักกีฬาหนุ่มยอมรับอย่างหมดท่า



"กูไม่เข้าใจตัวเองว่ะ เป็นเพื่อนกันมา อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน...แล้วทำไมอยู่ๆวันนึงแม่ง...กูดันชอบมันเข้าไปแล้ว"



".... กูจะรู้ไหมวะ สำคัญคือมึงชอบมันจริงๆหรือแค่ติดลมไปเพราะเล่นเป็นแฟนหลอกๆ มึงเข้าใจกูใช่ไหม" ปัณวิทย์เอนหลังพิงกับเบาะรถบ้างพลางถอนหายใจออกมา



"ก็เลิกเล่นเป็นแฟนสักพัก แล้วดูว่ายังคิดไหม"



"มันแม่งน่ากลัวกว่าตรงที่กูไม่อยากเลิกนี่แหละ" ศิวะลุกขึ้นนั่งแล้วหันมามองเพื่อนที่นั่งอยู่ติดกัน



"ขอกูกอดมึงที" ไม่รอคำขออนุญาต ศิวะรวบร่างเล็กบางกว่าตัวเองเข้ามากอดแน่นทันที



"เฮ้ย ไม่ขำ" ปัณวิทย์ตัวแข็งขึ้นมาทันทีด้วยความไม่คุ้นเคย



"ไม่เหมือน...." ศิวะยอมปล่อยง่ายๆ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดยิ่งไปกว่าเดิม



"กอดกับมึง...ไม่เหมือนกอดไอ้อัฐตอนนี้ว่ะ มันไม่ใช่....ไม่ใช่ว่ะปัน"



"ไม่ใช่ยังไงวะ บอกกูดิ๊" เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปัดๆตามเนื้อตัว



"จะได้เข้าใจ"



"กูไม่ใจเต้นกับมึง....แต่กูกันใจเต้นกับไอ้เตี้ย...." เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆแล้วหลับตาลงช้าๆ.....ถึงไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนตอนนี้ เพื่อนเตี้ยปากหมาที่ก่นด่าทุกวันจะกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่ทำให้เขารู้สึกลึกซึ้งกว่าคำว่าเพื่อนไปแล้ว



"ตอนมึงชอบพี่เดฟ...มึงรู้สึกไงวะ ทำไมอยู่ๆมึงถึงไปชอบผู้ชาย"



"แม่งปล้ำกูไง" พูดจบก็หันไปมองคนที่ยังยืนอยู่นอกรถ



"... แต่แม่งรักกู อยู่ด้วย... แล้วทำให้กูรู้สึกมีค่า..." พอเห็นอีกฝ่ายมองมาเขาก็รีบหันหน้ากลับมามองเพื่อน



"อย่าบอกพี่เดฟนะเว้ย"



"สรุปว่ามึงโดนพี่เดฟปล้ำ แต่พี่เดฟดีกับมึงมากๆ...มึงเลยรักเขาเหรอวะ ตรรกะเสื่อมทั้งมึงทั้งพี่เดฟเลยว่ะ" ศิวะหยอกกลับ...แค่ดูก็รู้ว่าพี่เดฟกับไอ้ปันรักกันแค่ไหน



"ถ้าเป็นแบบมึง กูไม่ต้องไปปล้ำไอ้เตี้ยเหรอวะ"



ปัณวิทย์ก้มหน้าลงเพราะรู้สึกว่าใบหน้าร้อนขึ้น



"ไม่ได้ตรรกะเสื่อม พี่เขาทำให้กูรู้ ว่าเป็นยังไงเวลาคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นมาก่อนตัวเอง รัก... รักน่ะมึง เข้าใจปะ" เขามองตาสีเข้มของเพื่อนตัวเองอย่างจริงจัง



"ถ้ามึงปล้ำไอ้อัฐ มึงเสียเพื่อนแน่..."



"กูไม่ทำหรอก" รับคำเสร็จ นัยน์ตาใต้กรอบแว่นก็มองออกไปนอกกระจกรถ ชยางกูรยังยืนอยู่ไม่ไกล...และมองมาที่เพื่อนของเขาด้วยแววตาที่บ่งบอกทุกสิ่งในใจ



"แล้วมึงคิดว่าระหว่างกูถอยออกมาจากมันให้มันคบกับมีนไป กับบอกมันไปตรงๆว่ากูชอบมัน อันไหนดีกว่ากันวะ หรือกูควรถอยออกมาแล้วดูความรู้สึกตัวเองก่อนดี"



"มึงถอยออกมาก่อนก็ดี เอาให้ชัวร์ แล้วค่อยว่ากันอีกที" เขาตบบ่าเพื่อนรักของตัวเองแรงๆสองสามที



"ขอบใจว่ะปัน" ศิวะพูดอย่างจริงจัง



"กูจะลองถอยมาก่อน ถ้ามีน...เป็นคนดีจริงๆ กูก็ควรให้ไอ้อัฐมันมีความสุขไปสินะ เอาเหอะ...กูไปล่ะ เดี๋ยวพี่เดฟหงุดหงิดแดกหัวกู" นักกีฬาหนุ่มยิ้มอีกครั้งแล้วเปิดประตูรถลงไป



"เสร็จแล้วครับพี่เดฟ ไปก่อนนะครับ" เขายกมือไหว้แล้วเดินจากไป



"คุยอะไรกันน่ะปัน" ชยางกูรถามคนที่เปิดประตูตามลงมาจากด้านหลังรถ



"ไม่บอก... ได้ไหม" ปัณวิทย์เดินมาเปิดประตูที่นั่งด้านคนขับแล้วกระโดดขึ้น



"ขี้งก เห็นนะว่าซายน์แอบกอดปันน่ะ" ชยางกูรพูดขำๆ ไม่คิดอะไรกับภาพเพื่อนกอดกันที่เห็น



"การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ขับรถไปเลย" ไม่พูดเปล่า แต่ยังสั่งซ้ำพลางทำเสียงดุใส่ จนเมื่อชยางกูรออกรถมาแล้ว เขาถึงได้หันมามองหน้าคนขับรถประจำตัวก่อนจะเอนศีรษะพิงเข้ากับต้นแขนซ้ายเบาๆ



"ขับรถไป ไม่ต้องหันมา ไม่ต้องถาม เงียบๆเลย" กระต่ายตัวโตพูดดักคอเสียงเข้ม



"เป็นอะไรหรือเปล่า เราน่ะ" ถึงสายตาจะจ้องไปที่ท้องถนนแต่เขาก็รู้ว่าคนที่พิงอยู่ทำหน้ายังไง



"กังวลนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร..." ปัณวิทย์หลับตาลงช้าๆก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา



"... พี่เดฟ..." เสียงที่เข้มๆในทีแรกนั้นฟังดูอ่อนลงก่อนที่ประโยคต่อไปจะแผ่วเบาจนเหมือนเสียงกระซิบ



"อย่าทิ้งปันนะ..."



ชยางกูรเหลือบมองคนข้างๆก่อนจะหักรถตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง ท่อนแขนแข็งแรงดึงคนรักเข้ามากอดไว้แนบอก เขากดปลายคางลงบนกระหม่อมเล็กๆ....กอดแน่นเช่นเดียวกับความรักและผูกพัน



"ไม่มีวันหรอกปัน....พี่ไม่มีวันทิ้งปันแน่นอน" ให้สัญญาด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี



"....... อืม... รัก......... นะ" ร่างบางที่ถูกกอดไว้แน่นเอ่ยพึมพำกับแผ่นอกกว้าง



"รักปันนะ" เสียงทุ้มกระซิบแผ่ว...จบท้ายด้วยจุมพิตหวาน...อุ่นซ่านไปถึงหัวใจ



จะให้พรุ่งนี้เป็นยังไงก็ช่าง....



ขอแค่วันนี้มีคนๆนี้ในอ้อมกอด....ก็เพียงพอ














To be continued...














To be continued...

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ได้กลิ่นมาม่าโชยมารำไร  ม่ายนะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ชามพร้อม เส้นพร้อม รอน้ำร้อนมาเติม  o9

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
อัสซี่ไม่รู้สึกไรกะซายน์เลย จริงหรอออออ :monkeysad:

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16
จะถึงคราวแล้วรึ บรรยากาศหวานมักมาด้วยเรื่องเศร้า

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ถ้าอัสซี่คบกับมีน มีมาม่าแน่เลย

น้องอัสไม่รู้สึกอะไรกับน้องซายน์บ้างเลยหรอ น้องซายน์รู้ใจตัวเองไวไวน้า แล้วลุยเต็มที่เลย เชียร์ให้รุกไวไว

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
หอมอะไร หอมหมูสับบบบ
โอ๊ยยยกลิ่นมาม่าโชยมาเชียวค่ะ
ชอบตอนที่บอกอย่าทิ้งปันนะ
กับเวลาที่ปันเรียก "พี่เดฟ"
ให้ความรู้สึกเหมือนถูกอ้อนเลยค่ะ
เอาเลยยยยพร้อมแล้ว เตรียมรอาม่านะคะ

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เห็นด้วยที่ถอยออกมาเพื่อสำรวจความรู้สึก ถ้าแน่ใจแล้วก็ดับเครื่องชนไปเลยค่ะ


ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
สู้ๆ นะ ซายน์  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ปันปันน่ารักมากก

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
อยากกินมาม่า :serius2:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
หลังจากมาม่าคู่หลักไปแล้ว สงสัยได้กินมาม่าคู่เพื่อนต่อ  :z3:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
จะมาลงอีกเมื่อไรค่ะ ร้องให้ไปหลายตอน แอบลุ้นคู่เพื่อนนะค่ะ

pumpkinJack

  • บุคคลทั่วไป
ท่าทางเราจะได้กินมาม่า 2 ชามโต OMG

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

Kagehana : น้องซายน์เริ่มเอาจริงแล้ว จากเพื่อนสนิทชักจะกลายเป็นอื่น ฮิ







-30-






“ซายน์... มึง เป็นไงมั่งวะ” ปัณวิทย์ถือกล่องนมสตรอว์เบอร์รี่ก้าวขาเข้ามานั่งข้างๆเพื่อนของตัวเองที่เพิ่งจัดการมื้อกลางวันของตัวเองเรียบร้อย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่เหมือนเดิม


สมัยเขาคบกับไอลดา ก็ยังคงมาทานข้าวร่วมกับเพื่อนทั้งสองไม่เคยเว้น-- ผิดกับไอ้ตี๋บางตัว


“กูไม่เป็นไง” คนไม่เป็นไงกระแทกกระป๋องน้ำอัดลมลงกับพื้นโต๊ะ นัยน์ตาที่ปกติจะยิ้มเป็นนิตย์เปลี่ยนไปเป็นคนละคน... ยิ่งนับวันยิ่งเหมือนหมาบ้าเข้าไปทุกที


“ไอ้เตี้ยแม่งหายหัวไปกับสาว... ติดหญิง เห็นหญิงดีกว่าเพื่อน” ศิวะรู้....เพราะไม่ได้คิดแค่เพื่อนถึงต้องมานั่งโมโหอยู่อย่างงี้


“นี่ ไอ้ซายน์... บอกกูดิ๊ว่ามึงถอยแล้ว....” เขาหันมามองหน้าตาบูดเบี้ยวของเพื่อนด้วยความเหนื่อยใจ


“กูถอยอยู่ กูถอยแล้วเว้ยไอ้ปัน” ศิวะถอนหายใจเฮือกใหญ่พยายามจะสงบตัวเองลง


จะโมโหใส่ไอ้ปันทำไม ในเมื่อแม่งก็ไม่ใช่คนที่อยากโมโหใส่ที่สุดอยู่ดี


“โทษทีว่ะปัน กูหงุดหงิดไปหน่อย......โทษทีที่ดันไปลงกะมึง”


“ไม่เป็นไร... ตอนนู้นกูก็ลงพวกมึงไว้เยอะ... แต่มองยังไงกูไม่เห็นมึงถอยเลยไอ้ซายน์ ตามึงคอยแต่มองหามัน นี่มึงพยายามแล้วเหรอวะ” ปัณวิทย์พาดตัวลงกับโต๊ะไม้พลางถอนหายใจอีกครา


“ผ่านมาร่วมเดือนแล้วนะมึง”


“กูถอยแล้ว แต่ยิ่งถอยกูก็ยิ่งรู้ชัดขึ้นว่ามันไม่ใช่บรรยากาศพาไปว่ะปัน กูไม่ได้คิดว่ากูชอบมัน.... แต่กูชอบมันเข้าไปแล้ว มึงว่าแปลกป่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานเสือกไม่รู้ตัว แต่ดันมารู้ตัวตอนที่แม่งมีหญิงไปแล้ว” ศิวะพูดพึมพำแล้วยกกระป๋องปาลงไปในถังขยะ


“กูไม่อยากเห็นมันกับมีนเลยว่ะ แต่กูก็ยังอยากให้มันมีความสุข......” ทำไมจะไม่รู้ว่าอาธิปรอเวลาที่จะมีแฟนคนแรกมานานแค่ไหน ไอ้ตี๋เตี้ยดีแต่ปากจีบหญิงไปวันๆ... แต่ไม่เคยคบใครคนนี้


“ถ้าพวกมึงไม่เล่นเป็นแฟนกัน จะเป็นงี้รึเปล่าวะ” ปัณวิทย์ถามต่อ ไม่ใช่เพราะอยากจะบอกว่าเหตุการณ์พาไป แต่เพราะอยากจะยืนยันให้แน่ใจจริงๆ


“แล้วทำไมต้องเป็นไอ้อัฐ มึงไม่ชอบผู้ชาย ทำไมต้องเอาไอ้อัฐมาเป็นแฟนเพื่อไล่น้องแพน อะไรพวกนี้ มึงเคยคิดหาคำตอบบ้างไหมวะ”


ศิวะนิ่งคิด.... เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าทำไมถึงต้องเป็นอาธิปที่ต้องมาเป็นแฟนจำเป็นให้ เขาเคยคบแต่ผู้หญิง....แต่ก็มีความสุขมากกว่าถ้าได้อยู่กับเพื่อนคนนี้


บางที....ความผูกพันมันคงจะเปลี่ยนรูปร่างได้


...และกลายเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว...


“ตอนแรกกูก็คิดแค่ว่าสะดวกดี...แต่มันไม่ใช่แค่นั้นว่ะ เล่นเป็นแฟนกันมันก็อาจจะใช่ แต่ความรู้สึก...มีความสุขของกู ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่” คิ้วเข้มขมวดแน่นแล้วคลายออก...กิริยาที่ทำทุกครั้งที่คิดไม่ตก


“กูเกือบจะจูบมันไปแล้วด้วยซ้ำเหอะ ตอนที่กูไปง้อมันน่ะ”


“.......... เฮ้อ เอาไงก็เอา กูอยู่ข้างมึง แม่งยิ่งหัวช้าๆอยู่ ดูท่าทีไปอีกนิดนะมึง” เขาเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ เพื่อย้ำถึงกำลังใจของตัวเอง


“หัวช้าจนโง่เลยมันน่ะ” แม้ปากจะว่าแต่คนพูดกลับยิ้มน้อยๆแทน


“ตอนนี้กูชักเข้าใจความรู้สึกของมึงแล้วว่ะ การยอมรับตัวเองว่าชอบผู้ชายนี่แม่งไม่ง่ายเลย มึงเข้มแข็งมาก...แต่คงเพราะมึงมีพี่เดฟด้วยล่ะนะ”


“... ไม่สนุกเลยล่ะ กูจะบอกให้... แล้วมึงลองคิด ถ้าคุณเขารู้ กูคงโดนเฉดหัวออกจากบ้าน” พูดจบก็นึกถึงสถานการณ์ของตัวเอง เพราะกำลังมีความสุข ถึงได้ไม่อยากจะนึกถึงความจริงข้อนั้น


...วันที่พลภัทรจะรู้ความจริง...


...จะมาถึงเมื่อไหร่กัน...


“... ส่วนมึง... ก็ดูไปก่อน กูไม่รู้หรอกว่ะว่าไอ้เตี้ยคิดยังไงบ้าง แต่มันโง่ คิดอะไรซับซ้อนไม่เป็น... ค่อยๆดูไปก็อาจจะเวิร์ค”


“เออ มีมึงนี่แหละที่กูปรึกษาได้” ศิวะตบบ่าแทนคำขอบคุณ


“ไม่เป็นไร ก็ต้องช่วยกันดิวะ” ปัณวิทย์รับคำขอบคุณด้วยการตบบ่ากอดคอเพื่อนเช่นกัน


“กูยังคิดอยู่เลยว่าถ้าคนที่กูชอบไม่ใช่มัน...ไม่ใช่เพื่อนที่กูคบมาตั้งแต่อนุบาล กูคงไม่ลำบากใจไม่ลังเลที่จะพูดบอกมันไปตรงๆแน่ แต่พอเป็นมัน...กูรู้สึกเสียดายความสัมพันธ์ว่ะ กูรู้นะเว้ย ว่าถ้ากูพูดออกมายังไงมันก็ไม่มีทางเหมือนเดิม กูรู้ว่าไอ้อัฐไม่มีทางชอบกู แต่กูก็เสือกโง่ไปชอบมัน” ศิวะระบายคำพูดยาวเหยียดด้วยความรู้สึกอัดอั้น


“ไม่พูด...ดีกว่าใช่มั้ยวะปัน”


“.... ดูไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที ดีกว่า... กูไม่อยากบอกว่าให้มึงตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ เพราะทรมานมึง แล้วมึงก็ทำไม่ได้” ปัณวิทย์ได้แต่พูดให้กำลังใจโดยที่ไม่อาจคิดได้เลยด้วยซ้ำว่าถ้าพูดออกไปจริงๆ อาธิปจะเป็นยังไง


“อยากแดกเบียร์แก้เครียดโว้ย” เด็กหนุ่มบ่นแล้วถอนใจยาว


“ชวนพี่เดฟไปแดกเบียร์กันมั้ยมึง”


“ได้ เอาปะ เดี๋ยวกูโทรบอก” ไม่พูดเปล่า แต่มือของเขายังเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาทันที


ศิวะพยักหน้ารับ เขารอฟังเสียงปัณวิทย์คุยกับชยางกูร ถึงแม้จะไม่ได้พูดหวานแต่ก็รับรู้ถึงความเอื้ออาทรที่ส่งผ่าน...และใบหน้ามีความสุขของเพื่อนคนนี้


“เดี๋ยวเย็นนี้พี่เดฟมารับ แล้วมึงเอาไง แฟนปลอมๆของมึงน่ะ เอาไปด้วยปะ” ปัณวิทย์เก็บโทรศัพท์ของตัวเองลงกระเป๋าหลังจากจัดแจงนัดแนะที่ทานอาหารเย็นของวันนี้กับคนรักเสร็จ


“มึงให้มันไปป่ะล่ะ ถ้าให้เดี๋ยวกูไปลากมันจากมีนเอง ไปแดกไหนอ่ะมึง”


“ร้านพี่เดฟเคยไป จะชวนมันไปก็ชวน กูไม่ว่าไรอยู่แล้วมึง” เขาตบบ่าศิวะอีกทีเพื่อให้กำลังใจ ถ้าเอาเพื่อนตัวดีมาด้วย จะมีได้เสียกันเพราะมอมเหล้าไหมก็ไม่อาจรู้ได้


“เออ ชวนก็ชวน” ศิวะยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาอาธิป พอเจ้าตัวกดรับก็รีบถามทันที


“ไปแดกเบียร์กันไอ้อัฐ”


-เออ ได้ ที่ไหนวะ- ปลายสายตอบด้วยเสียงเริงร่า


“ร้านเพื่อนพี่เดฟมั้ง บ้านไอ้ปันไปทั้งผัวทั้งเมีย แล้วก็กูกับมึง” ศิวะตอบกลับ...หมั่นไส้โว้ย เสียงแม่งระรื่นจริง


-โอเค กูถามมีนได้ไหมวะ ว่าเขาอยากมาด้วยป่าว- เจ้าของเสียงระรื่นถามต่อเมื่อนึกถึงเด็กสาวที่น่ารักคนนั้น


“ไปกันแต่ผู้ชาย เขามาด้วยไม่สนุกหรอก ไม่ต้องเอามาเข้าใจป่ะ”


-อะไรวะ ทีเมื่อก่อนมึงกับไอ้ปันยังเอาแฟนไปได้เลย โคตรไม่แฟร์กับกู- หนุ่มตี๋ทำเสียงขุ่นใส่


“ถ้ามึงจะพามาก็ไม่ต้องไป...เชี่ยติดแฟน” ศิวะดันโทรศัพท์เข้าไปหาปัณวิทย์แล้วถอนหายใจหงุดหงิด


“มึงคุยกะมันหน่อยปัน แม่ง....ของจะขึ้น”


“ทำไมวะอัฐ มึงมีไร”


-ถามไอ้ศิวะลึงค์ดิวะว่ามีห่าอะไร กูแค่บอกว่าจะเอาน้องมีนไปด้วย เหมือนที่พวกมึงเคยเอาแฟนไป แม่งไม่ให้-


ปัณวิทย์ถอนหายใจพลางมองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย


“เออ ก็ไม่ต้องเอาไป พี่เดฟเค้าไปด้วย เดี๋ยวน้องมีนอะไรของมึงเปลี่ยนใจนะ”


...ลองเปลี่ยนมาจริงๆกูก็ไม่ให้หรอก


-จริงด้วย พี่เดฟหล่อเหี้ยๆ โอเคๆ งั้นกูไม่เอาไป เจอกันมึง บอกศิวะลึงค์ว่าเลิกโมโหได้ละ- จบประโยค อาธิปก็กดตัดปลายสายไป


“เอ้า โทรศัพท์มึง... เก็บอาการเก่งเหี้ยๆเลยครับ” เด็กหนุ่มร่างบางหันมายื่นส่งโทรศัพท์ให้


“เก่งเหี้ยเลยเนี่ยกู” ศิวะก้มหน้าลงแล้วเอามือขยี้หัวตัวเอง


“เซ็งวะ ชอบใครไม่ชอบเสือกชอบไอ้เตี้ยโง่ๆที่ไม่ได้รู้อะไรใครแม่งเลย”


“เอาน่ามึง เดี๋ยวไปกินเหล้าก็หาย” เขาเอื้อมมือมาตบไหล่ศิวะเบาๆก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากเก้าอี้


“ไป เข้าเรียน”







//////////////////////////////////////////////////






“แล้วไงนะ น้องมีนก็เลยมาหาทุกวัน” เสียงที่ถามเป็นของเจ้าของเรือนผมสีทองที่พยายามทำบรรยากาศให้ดูสบายๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่เพื่อนรุ่นเดียวกันสักนิด


ชยางกูรลอบมองตาปัณวิทย์ที่นั่งคุมเชิงอยู่กับอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบสาดเบียร์เข้าปาก


...ไม่ช่วยแฟนเลยนะปัน...


“ช่าย น่ารักโคตรๆเลยนะพี่เดฟ นี่ อัสซี่มีรูปให้ดู อย่าจีบนะ คนนี้ของผม” คนที่ดูยังไงก็รู้ว่าเมาไปถึงไหนแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแล้วกดเปิดภาพของมีนาอวดคนตรงข้ามดู


“นี่ น่ารักป่าว”


หญิงสาวในรูปดูเรียบร้อยน่ารัก ไม่ถึงขั้นว่าเห็นแล้วติดตาติดใจแต่ก็ดูแปลกกว่าเด็กสาวทั่วไปที่มักจะโหมประโคมกันจนเกินความจริง


“ก็น่ารักดีแต่พี่มีแฟนแล้ว...เนอะปัน”


“ขี้เห่อ!” คนที่นั่งนิ่งอยู่นานคว้าโทรศัพท์ของเพื่อนมาดูแล้วหัวเราะเบาๆ


“ก็ดี...จืดๆเหมาะกับมึงไง” ศิวะกดจะลบ....แต่ก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของเพื่อน


...กูแม่งแย่...


“ปากเหี้ยตลอดนะมึง อิจฉากูอะเด้” เขาเอื้อมดึงเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองคืนแล้วยิ้มเรี่ยราดตามประสาคนเมา


“เค้าทำขนมทำเค้กมาให้กินบ่อยๆ โคตรมีความสุขอะพี่”


“เอาโทสับมึงมา” ศิวะเอื้อมคว้าโทรศัพท์ในมือคนเมาคืนมาแล้วเปิดโหมดถ่ายรูป เขากดถ่ายรูปชยางกูร


“นี่ผัวเพื่อน” หันมากดถ่ายปัณวิทย์ “เพื่อนมึงนี่เมียพี่เดฟ”


“แล้วนี่กู.....” เด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายตัวเอง เงาสะท้อนในกล้องเห็นถึงเด็กหนุ่มที่เกือบจะโตเป็นชายหนุ่มหากแต่ใบหน้าบูดบึ้ง


“.....แฟนมึง คนที่อยู่กับมึงมาทั้งชีวิตแต่เสือกไม่มีรูปในมือถือมึงเลยไอ้เตี้ย”


“ทั้งชีวิตอะไรของมึงวะ เอามือถือกูคืนมา” เขาเอื้อมไปพยายามคว้าเอาคืน แต่ด้วยฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไปทำให้โลกมันหมุนง่ายกว่าปกติจนต้องใช้แขนยันโต๊ะเอาไว้


“เป็นแฟนกันหลอกๆ ทำไมต้องมีวะ” คนที่ตาปกติก็ไม่ได้โตอยู่แล้ว พอตอนเมายิ่งทำให้ดวงตาหรี่ปรือหนักกว่าเดิมจนแทบจะมองไม่เห็น


เหี้ย....


เจ็บเหี้ยๆ....


ศิวะแทบจะเอามือถือหย่อนลงในถ้วยซุปแต่ยังดีที่ถูกชยางกูรใช้สายตาห้ามไว้ เขายื่นโทรศัพท์คืนอาธิปแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มจนหมด


“ซายน์...ใจเย็น” ชยางกูรลอบปราม “อย่าถือคนเมา”


“ขอโทษครับพี่เดฟ ไอ้ปัน..มึงจะกลับยัง”


“กูไงก็ได้ มากะพี่เดฟ พ่อเลิกด่ากูแล้ว ไอ้ตี๋นี่เอาไง” เขาหันมามองคนที่ดูคล้ายจะหลับไม่หลับแหล่แล้วก็ถอนหายใจออกมา


“ให้กูกะพี่เดฟไปส่งไหม”


“ทิ้งแม่งไว้นี่แหละ” ปากจะพูดอย่างไรแต่การกระทำกลับตรงข้าม ศิวะเอื้อมมือไปลูบไหล่ของคนที่ฟุบหน้าสะอึกอยู่บนโต๊ะ


“คออ่อนยังกินเข้าไปอีก มึงนะมึง... ภาระเพื่อน”


“เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านอัฐก็ได้ เนอะปันเนอะ”


“ไม่อ่ะพี่ เดี๋ยวม๊ามันด่า เมาเป็นหมาอย่างงี้ลากมันไปทิ้งไว้คอนโดผมดีกว่า มึงว่าไงปัน”


“... คอนโดมึงเลยนะ อย่าทำอะไรพิเรนทร์อย่างคนแถวนี้ล่ะมึง” เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้งกับความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสอง


...คนนึงก็รักเหี้ยๆ อีกคนแม่งควาย...


“เออ กูไม่.....” ศิวะมองหน้าชยางกูรแล้วยิ้มแหย..ตัวการนั่งอยู่ตรงนี้ใครจะกล้าพูดวะ


“เอาเป็นว่าเอาไปทิ้งคอนโดกูแล้วกัน”


















To be continued...

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อ่านตอนนี้แล้วสงสารน้องซายน์มากกกกก

ช่วยเขี่ยมีนออกไปทีค่ะ ไม่ไหวแล้ว

ส่วนน้องอัฐ ปากหน้าตีมาก พูดจาทำร้ายจิตใจน้องซายน์สุดๆ น้องซายน์มาให้เค้ากอดปลอบหน่อยมาม่ะ

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากรู้จังว่าชายน์จะสมหวังไหมนะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อัสซี่ ก็ยังเป็นควายโดนชะนีหลอกเหมือนเดิม  :เฮ้อ:

ซายน์ ยอมเปลืองตัวลงไปเล่นเกมส์หลอกล่อชะนีให้เผยธาตุแท้ซะหน่อยสิ  o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด