Tsundere Boy เมื่อหนุ่มซึนมาหลงรัก ตอนที่ 36.2
“บอกหน่อยสิน้ำ ว่าไอ้แผนสลับตัวเจ้าสาวเนี่ย ใครเป็นคนคิด” เขื่อนถามขึ้นมาขณะที่กำลังนอนคลอเคลียกันอยู่ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาจากหลังคากระจก
“มะนาวกับผมช่วยกันคิด ผมน่ะ แค่อยากร้องเพลง แต่มะนาวอยากทำให้เขื่อนไขว้เขว”
“คนอย่างฉันมั่งคงยิ่งกว่าภูเขา..” เขื่อนซุกจมูกลงบนหัวไหล่ที่มีครีมทาผิวกลิ่นหอมละมุนอยู่จางๆ
“ผมก็ว่างั้นแหละ..” น้ำหยิบขวดโลชั่นมายื่นให้เขื่อนและถกเสื้อด้านหลังของตัวเองขึ้น เขื่อนรับขวดมาจากน้ำและบีบโลชั่นลงที่แผ่นหลังขาวเนียนนั้น เปลวเทียววูบไหวทำให้บรรยากาศยิ่งดูโรแมนติก
“เขื่อนรู้มั้ย ว่าเขื่อนสำคัญกับผมขนาดไหน”
“ขนาดไหนละ..”
“ถ้าผมรู้จะถามเขื่อนเหรอ ผมให้เขื่อนตอบผมนะ ไม่ใช่ให้ถามกลับ” เขื่อนหัวเราะเบาๆในลำคอพลางจูบลงไปที่แผ่นหลังนั้น คนถูกจูบเริ่มยุกยิกเพราะไม่ได้ดั่งใจ
“เขื่อนตอบผมมาก่อนสิ” น้ำขืนตัวออกจากแรงดึงของเขื่อน แต่สุดท้ายก็ถูกหิ้วมานอนบนตัวเขื่อนจนได้ มือใหญ่ล็อกสะโพกของน้ำไว้แน่นหนา
“ไม่รู้สิน้ำ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าฉันก็รักนายเท่าที่นายรักฉัน และความรักของฉัน หากให้นิยาม ก็คงเหมือนกับเพลงที่นายร้อง”
“ท่อนไหนละครับ”
“ตรงที่เวลาฉันตื่นมาทุกเช้าและได้รับรู้ว่านายยังนอนเคียงข้างฉันเสมอ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีแรงที่จะดำเนินชีวิตไปได้อีก”
“...งั้นก็เหมือนผมสินะ...” ใบหน้าหวานยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบจึงจรดริมฝีปากของตัวเองกับคนด้านล่าง ที่จูบตอบกลับมาอย่างดูดดื่ม
“เมื่อคืนฉันนอนคนเดียว คิดถึงนายเหลือเกิน” เขื่อนไล้จมูกไปทั่วทั้งแก้มเนียน กลิ่นโลชั่นที่เขาคุ้นเคยจนเหมือนกับว่ามันจะกลายเป็นกลิ่นประจำตัวเขาไปด้วย ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดมาทางผิวหนังทำให้รู้ได้ว่าไม่ได้โดดเดี่ยว ยังมีคนที่คอยเคียงข้างเขาเสมอ คนที่จะคอยปลอบใจเวลาที่เขาไม่มีความสุข คนที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา คนที่เขามอบหัวใจให้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ
“ฉันรักนายที่สุด,น้ำตาล รักมาจนคิดว่ามอบชีวิตให้นายได้” เขื่อนสบตากับคนบนตัวเขาเนิ่นนาน ใบหน้าหวาน ผิวเนียน ดวงตาสดใส เขารักทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นน้ำตาลของเขา
“...” น้ำไม่ตอบอะไร มีเพียงสัมผัสจากมือเรียวที่ลูบประคองแก้มของเขื่อนอย่างอ่อนโยน ความรักที่ถูกถ่ายทอดผ่านฝ่ามือมายังแก้มช่างมากล้นจนน้ำบรรยายไม่ถูก มีเพียงแววตาอ่อนหวานน้ำตาคลอ ที่บ่งบอกว่ารักเขื่อนเหลือเกิน...
“อืม..” จูบที่คนด้านล่างบดเบียดคลึงเคล้าลงมาทำให้น้ำกลั้นเสียงไม่อยู่ ริมฝีปากไล้เลียรสชาติของน้ำอย่างเพลิดเพลินก่อนจะผละออกและกดปลายจมูกโด่งลงที่ซอกคอและฝังจมูกเข้าหาอย่างรุนแรง
“เขื่อน...อย่าทำแบบนี้..อะ”
“หึหึ ขอฉันดูหน่อยสิ ว่านายรู้สึกแค่ไหนแล้ว” ใบหน้าคมยิ้มยั่วเย้า ฝ่ามือร้อนรุ่มค่อย ๆ ระเรื่อยลงมาที่จุดกึ่งกลางของร่างกายของคนที่นอนเกร็งตัวแข็งทื่อ มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกางเกงขายาวผ้าคอตต้อนและลูบไล้ปัดไปมาโดยไม่ให้โดนจุดสำคัญ
“อยากให้ฉันแตะตรงไหน นายอยากให้แตะตรงไหน หืม...” น้ำเสียงหอบกระเส่าที่กระซิบแผ่วที่ข้างหู ฝ่ามือที่ลูบไล้ไปมาที่หน้าท้องนวลเนียน
“อยาก...อยากให้เขื่อนแตะทั้งตัวเลย...ทั้งตัวเลยนะ...นะครับ” ใบหน้าหวานร้องขอเสียงสั่น เขื่อนยิ้มมุมปากแล้วออกแรงดึงน้ำให้มานอนด้านล่างตัวเองแทน
“อื้อ..อะ..” จูบร้อนแรงบดเบียดคลึงเคล้าโดยไม่ให้พักหายใจ ความรู้สึกทุกอย่างกำลังละลายไปกับจูบเพียงจูบเดียว จูบที่รวมทุกความรู้สึกเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน
หวาน...
ขม...
เผ็ดร้อน...
ทุกสิ่งที่ผ่านมาได้ถูกกาลเวลาหลอมรวมจนมาเป็นจูบนี้
“ขะ..เขื่อน อื๊อ...” ปลายลิ้นนุ่มชื้นตอบรับพัวพันกระหวัดแนบแน่นกับร่างสูงที่ถ่ายทอดความเร่าร้อนส่งมาให้ผ่านริมฝีปาก
รสจูบที่ทำให้น้ำมึนเมาจนต้องใช้แขนสองข้างเหนี่ยวคอเขื่อนเอาไว้
“นายยังหวาน...หวานเสมอต้นเสมอปลาย เพียงแค่ความหวานของนายก็ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงขนาดนี้” เขื่อนผละออกห่างและดึงน้ำให้ลุกขึ้นมานั่งตรงหน้า
“!?!” สิ่งใหญ่โตตรงหน้าทำให้น้ำเบิกตาโพลง เขื่อนเอนตัวนั่งเอาหลังพิงหมอน เรียวขาแกร่งเปิดทางให้น้ำสามารถเข้าไปได้ใกล้กว่าเดิม
“เลียสิ..น้ำตาล..” เสียงทุ้มแสนทรงอำนาจทำให้น้ำรู้สึกว่าไม่อาจปฏิเสธมันได้เลย ร่างบางโน้มตัวลงช้าๆ ใบหน้าหวานจดจ้องๆไม่ยอมเข้าไปใกล้ จนถูกมือใหญ่นั้นรั้งศีรษะเข้ามาจนชิดและส่งแก่นกายที่ร้อนระอุเข้าไปในโพรงปากชุ่มชื้นด้วยตนเอง
“อา...น้ำ...” เสียงใหญ่กัดฟันครางต่ำ สัมผัสนุ่มลื่นจากริมฝีปากและลิ้นเล็กๆนั้นทำให้ต้องเกร็งร่างกายไม่ให้ทำตามใจตัวเองไปมากกว่านี้ เพราะเวลาสนุกยังมีอีกเยอะ...
ริมฝีปากบางผละออกและจรดลิ้นลงไปที่ส่วนปลาย สัมผัสได้ถึงข้นเหนอะจากส่วนปลายที่ตั้งชันเพราะความรู้สึกที่อยากปลดปล่อย ก่อนจะครอบครองทั้งหมดนั้นเข้าไปและดูดเม้มจนร่างสูงต้องร้องคราง
“พอ..” เขื่อนออกแรงดันไหล่ของน้ำออก เกือบไป...เจ้าหน้าหวานเกือบจะทำให้เขาเสร็จคาปาก เรื่องอะไรล่ะ...
“เขื่อน ทำไมละครั-” ถามยังไม่ทันจบประโยคก็ถูกดันถอยหลังไปพร้อมกับขาเรียวที่ถูกแยกออกกว้าง ตามมาด้วยการที่ร่างทั้งร่างถูกกดลงกับฟูกนอน
ช่องทางปิดสนิทถูกสอดแทรกด้วยปลายนิ้วที่ชโลมความเย็นชื้นจนทั่วและแทรกเข้าไปภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว
“เขื่อน..อ๊ะ..เอาเจลมาตอนไหน อ๊ะ..” เสียงหวานครางหนัก แต่ก็ยังไม่วายสงสัยว่าร่างสูงไปเตรียมอุปกรณ์มาตอนไหน
“จะสนทำไมละ นายสนแค่ว่าจะร้องครางยังไงให้ถูกใจฉันดีกว่านะ แต่เอ...ไม่ว่านายจะครางแบบไหนฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย?”
“ฮืม...เขื่อน ..อะ ไอ้โรคจิต...” เสียงหวานก่นด่าแต่กลับแอ่นสะโพกเข้าหาปลายนิ้ว
“หึหึ ขอเอาให้หายคิดถึงเถอะ นายอยากหายหัวไปทำไมตั้งสองสัปดาห์ คอร์สเจ้าสาวบ้าบออะไรก็ไม่รู้” เขื่อนกัดฟันกรอดด้วยความโมโหเมื่อนึกถึงที่แม่ของเขาลากน้ำไปเข้าคอร์สเจ้าสาวโดยบอกว่าห้ามเจอกันหนึ่งเดือน ขับรถไปวนเวียนก็แล้ว โทรหาก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้แม้แต่จะเห็นซีกหน้า อย่างดีก็แค่คุยนิดๆหน่อยๆ
“อ๊ะ..ชะ ..ช้าๆหน่อย อะ..” น้ำผวาร่างกายขึ้นเกร็งแน่นและโอบเรียวแขนรัดรอบแผ่นหลังกว้างของคนด้านบนที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรุนแรง สะโพกหนาดันร่างเข้ามาได้เพียงทีละน้อยแล้วก็ต้องหยุดเป็นระยะ ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ไม่ได้ทำกันเป็นเดือน รู้สึกคิดถึงจัง..”
“คิดถึงอะไร... ผม หรือร่างกายของผม..” น้ำกลั้นใจถาม ความอึดอัดที่เบื้องล่างทำให้น้ำรู้สึกว่าการเอ่ยปากพูดนั้นยากขึ้นมาอีกเท่าตัว
“นายนี่ถามอะไรงอแงอีกแล้วนะ ฉันก็คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มาประกอบกันเป็นนายน่ะสิ ต่อให้ฉันได้นอนกอดนายแบบนี้ แต่หัวใจของนายไม่ได้เป็นของฉัน ฉันก็ไม่รู้สึกดีหรอก” เขื่อนตอบน้ำด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผมก็เหมือนกัน... อ๊ะ อ๊า บะ เบาๆครับ มันแน่น” ยังซึ่งได้ไม่เท่าไร ร่างสูงนั้นก็เริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง
“อือ อย่ามัวเสียเวลาเลยน่า คืนนี้ยังอีกยาวนาน เรามาทำลูกกันเถอะนะ” ใบหน้าหล่อที่เริ่มมีเหงื่อมาเกาะทำสีหน้ายั่วเย้าพร้อมกับเร่งความเร็วของสะโพกมากขึ้น
“อะ..อย่ามาโรคจิต ผมจะมีลูกได้ยังไง อ๊า..” มือเรียวกำหมัดทุบไปที่หน้าอกแกร่ง แต่ก็ไม่คณาแรงควายที่กำลังคึกได้
“ถ้าทีเดียวยังไม่มี งั้นก็ทำหลายๆที เผื่อมันจะฟลุ้คนะน้ำ”
“ปัญหามันไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนครั้งนะ ผมเป็นผู้ชาย มีลูกไม่ได้ อื๊อ...”
“ไม่เอาแล้ว ฉันไม่คุยกับนายแล้ว เสียเวลาชะมัด อา..” ขาสองข้างของน้ำถูกยกมาพาดขึ้นที่บ่ากว้าง ส่งผลให้เขื่อนดันตัวเข้ามาได้ลึกมากกว่าเดิม
“อื๊อ...เขื่อน...อะ..” เสียงหวานสั่นระริกเพราะความอึดอัดที่แทรกตัวเข้ามาจนสุด
“น้ำ อืม... ดูสิ เหมือนเรากำลังรวมร่างกันเลยนะ...” น้ำเหลือบตามองไปเบื้องล่าง ร่างกายของเขื่อนแนบสนิทอยู่กับตัวของเขา ใบหน้าหวานแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“อะ.. เขื่อน...เขื่อนต้องทำแบบนี้กับผมคนเดียวนะ..นะ อื้อ..” น้ำอ้อนวอนพลางเอามือลูบใบหน้าของคนด้านบนที่มีเม็ดเหงื่อใสๆ เกาะพราวร่างกายเหมือนเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก แต่ภายในที่ตอดรัดอย่างรุนแรงกลับยิ่งเร่งเร้าให้ไม่สามารถหยุดพักได้
"แค่นายคนเดียวก็เกินพอแล้ว อะ..ฉันไม่เหลือใจให้ใครแล้วละ.." จังหวะร่างกายของคนที่ต้องรับความแข็งแกร่งถูกเร่งเร้ามากขึ้น มือใหญ่กอบกุมและรูดรั้งส่วนที่แข็งขืนของน้ำให้อย่างรุนแรง จนร่างบางแอ่นกายขึ้นสูงอีกครั้งเพราะถูกกระแทกบดเบียดคลึงเคล้นเข้าหา
"เขื่อน.. อื้อ เขื่อน อ๊ะ.." เสียงหวานที่พร่ำเรียกเพียงชื่อของเขื่อนทำให้ยิ่งฮึกเหิม ในความคิดของเขื่อนมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
‘อยากจะรักน้ำมากที่สุด รักน้ำให้มากๆ..’
เสียงร้องครางของคนที่ถูกบดเบียดร่างกายยิ่งช่วยเร่งเร้าแรงอารมณ์ให้โหมกระพือ เขื่อนใส่แรงเคลื่อนไหวให้มากขึ้นมากขึ้น จวบจนรับรู้ได้ถึงหยาดน้ำอุ่นๆที่กระเด็นมาตรงหน้าท้องของตัวเอง และร่างบางนั้นก็อ่อนระโหยโรยแรงทำตาปรือเซ็กซี่ใส่เขา นนั่นยิ่งทำให้เขื่อนรู้สึกว่าเรี่ยวแรงยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว
“เขื่อน..เหนื่อย...อะ อือ อ๊ะ” เสียงหวานเร่งเร้าพาให้เขื่อนต้องรีบพาตัวเองไปให้ถึงฝั่งเร็วๆ เพื่อที่จะได้ทำต่ออีกหลายๆรอบ!!
เมื่อตื่นมาในตอนเช้า สิ่งเดียวที่น้ำจำได้ก็คือเสียงที่พร่ำบอกรักข้างหูเขาจนหลับไป หันไปมองคนข้างๆที่ยังคงอยู่ในห้วงนิทราและหายใจอย่างสม่ำเสมอ
“เขื่อน...ตื่นเถอะครับ..” น้ำยกมือขึ้นลูบไล้แผงอกแกร่งนั้นด้วยความรู้สึกรักที่อัดแน่นอยู่ในอก
“อืม...อยากได้รอบเช้าเหรอ...” เสียงทุ้มแหบพร่าตอบพร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาโอบเอวน้ำไว้
“ฮื้อ ทำจนผมสลบยังไม่พออีกเหรอครับ..” ใช้เล็บจิกเบาๆที่ยอดอกสีชมพูอ่อนเพราะหมั่นไส้ ตื่นมาก็ลามกได้ทันที
“หึหึ ถ้าเลือกได้ ฉันอยากจะร่วมรักกับนายไปทั้งชีวิต”
“งั้นก็ตื่นมากินข้าวเอาแรงก่อนเถอะครับ ผมหิวแล้ว”
“อืม..” ปากพูดรับรู้ แต่ดวงตาคมก็ปิดลงอีกครั้ง น้ำส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ กลางคืนไม่ยอมหลับ พอเช้ามาก็ไม่ยอมลุก ไม่เคยเปลี่ยนเล้ย...
“แต่มันจะยากอะไร แค่เรายอมหลับต่อ แล้วค่อยตื่นมาพร้อมกันอีกทีก็ได้นี่นา..” ว่าแล้วน้ำก็ยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะเอนกายลงนอนพิงกับท่อนแขนแกร่งที่ขยับมาโอบไหล่ของเขาไว้พร้อมกับคำพูดที่ออกมาจากปากของคนสลึมสลือ
“ฉันจะกอดนายไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ...”
-- The End --
จบแล้วแหละ
จบจริงๆนะคะ
ขอเวลาอีกสักหน่อย ปั่นเรื่องใหม่ให้ได้สักสิบตอน แล้วจะเอามาลงต่อเลย (แอบแย้มนิดนึงว่าเขียนได้ 2 ตอนแล้ว)
ใจหายเหมือนกัน เพราะว่ารู้สึกผูกพันกับไอ้หื่นเขื่อนและหนูน้ำมากๆ
แต่สิ่งสำคัญที่เขียนมาได้ขนาดนี้
เพราะกำลังใจจากผู้อ่านที่รักทุกคน
ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนนะคะ
แม้จะไม่ค่อยได้มาพูดคุย ไม่ค่อยตอบกระทู้
แต่ขอตอบแทนทุกกำลังใจด้วยการพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นแทนนะคะ
พบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ
ปล.มีตอนพิเศษดีมั้ยนะ ?