เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์
{32}
“อาพอร์ชจ๋าน้องซนขอขี่หลังหน่อย…เมื่อย” เสียงร้องเรียกจากหลานชายคนโปรด
ของคนรักทำเอาพอร์ชถึงกลับผวาเฮือก เพราะตั้งแต่ตื่นนอนมา นอกจากเจ้าตัวแสบมันจะ
ออดอ้อนอาโซ่สุดที่รักของมันแล้ว เจ้าตัวก็ยังร้องเรียกหาเขาอย่างไม่ขาดสาย แต่อย่าเข้าใจผิด
คิดว่าไอ้เด็กฝรั่งดองนี่มันพิศวาสเขาหรอกนะ แต่มันคือการแก้แค้น เรื่องที่เจ้าตัวมันตื่นมาเจอ
อาโซ่สุดที่รักของตัวเองนอนกอดอยู่กับเขาที่พื้นแทนที่จะอยู่บนเตียงให้มันกอดต่างหากล่ะ!
มันถึงได้ตีหน้าซื่อทำหน้าอ้อนจิกหัวหลอกใช้เขาอย่างที่เห็น แต่จะว่ามันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้
ในเมื่อเขาเองก็เคลิ้มทำตามคำสั่งมันไปเสียทุกที แต่อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเขาพิศวาสมันใน
เชิงชู้สาวนะ…ขนลุก! ทว่าไอ้เด็กแสบจอมซนนี่มันมีอะไรบางอย่างทำให้เขาปฏิเสธมันไม่ลง
ไม่รู้สิ…เขาอาจจะคิดมากหรือดูผิดไปก็ได้ถึงได้มองว่าไอ้เด็กฝรั่งดองจอมแสบนี่น่าสงสาร
ทั้งที่มันเองก็เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม มีครบทุกอย่าง พี่ป้าน้าอารักใคร่ แต่วูบหนึ่ง
ในแววตาแป๋วแหว๋วของมันกำลังร้องบอกกับเขาว่ามันไม่ได้มีความสุขอย่างที่มันแสดงออก
มาแม้แต่นิดเดียว
“มาขี่หลังอาก็ได้” โซ่เอ่ยเรียกพร้อมทั้งตั้งท่ารอรับหลานชายเมื่อเห็นว่าเอาแต่ยืน
จ้องหน้าหลานชายของตนเองอยู่พักใหญ่ เลยเข้าใจผิดคิดขึ้นมาได้ว่าพอร์ชอาจจะกำลัง
หงุดหงิดหรืออารมณ์ไม่ดีที่โดนจอมซนกวนใจมาตั้งแต่เช้า
“อาพอร์ชไม่ชอบน้องซนหรอฮะ?” เจ้าตัวแสบเอียงคอถามด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“มาสิ…จะพาไปลอดอุโมงค์ดูปลาตรงโน้น” พอร์ชไม่ตอบคำถาม แต่หันหลังย่อตัว
ดึงเอาร่างเบาหวิวของหลานชายมาขึ้นหลังแล้วพาไปลอดอุโมงค์ดูปลาน้ำจืดซึ่งเป็นไฮไลท์
ของอควาเรียมหรือชื่อเต็มๆก็คือ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ ๘๐
พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดนครสวรรค์ที่
โซ่ตัดสินใจพาคนรักกับหลานชายมาเที่ยวในวันนี้นั่นเอง
“ฮู้ว…ปลาฉลาม! นั่นๆ อาพอร์ชดูปลาฉลาม! น้องซนเห็นปลาฉลามด้วยล่ะอาโซ่”
ตบไหล่พอร์ชปุๆแล้วหันไปพูดอวดกับอาโซ่สุดที่รักอย่างร่าเริง เมื่อเห็นฝูงปลาตัวใหญ่ยักษ์
ว่ายวนอวดลำตัวสีเงินสวยอยู่เหนือศีรษะของตนเอง
“นั่นมันปลาบึก” แล้วก็เป็นพอร์ชที่ช่วยพูดแก้ไขความเข้าใจผิดให้หลานชาย
“ปลาบึก?” ฝรั่งน้อยเอียงหัวกรอกตามองท้องปลาที่ว่ายวนอยู่เหนือศีรษะของตนเอง
อย่างใช้ความคิดเมื่อได้ยินชื่อสายพันธุ์ปลาที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก
“ปลาบึกเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ ไร้เกล็ด ไม่มีฟันและเกือบไม่มีหนวด ตาอยู่ต่ำกว่า
มุมปาก เมื่อมองจากด้านหน้าตรงๆจะไม่เห็น แสดงถึงการหากินตามพื้นน้ำ ปลาบึกสามารถเติบโต
ได้ถึง 3 เมตรและหนัก 150-200 กิโลกรัม ใน 5 ปี” โซ่ช่วยอธิบายขยายความให้หลานเข้าใจ
“โหว…ตัวใหญ่จังเลยฮะอาโซ่”
“ทำไมเก่งจังวะ?” พอร์ชหรี่มองโซ่อย่างจับผิด คิดสงสัยในความฉลาดของคนรัก
“ไม่ได้เก่ง…แต่กูไม่โง่”โซ่กระตุกยิ้มเคาะนิ้วลงบนแผ่นพับในมือที่ได้รับมาตอนซื้อบัตร
เข้าชม ตรงหน้าที่อธิบายถึงลักษณะของสายพันธุ์ปลาน้ำจืดทั้งหมดที่ถูกจัดโชว์อยู่ในอาคาร
แสดงพันธุ์สัตว์แห่งนี้
“มึงไม่โง่งั้น…กูก็โง่? มึงเล่นกูอีกแล้วนะเมีย!” กว่าจะรู้ตัวว่าถูกคนรักหลอกด่า โซ่ก็เดิน
หนีไปไกลแล้ว พอร์ชก็เลยได้แต่วิ่งแบกหลานตามไปติดๆ กว่าจะไล่ตามทันก็เล่นเอาเหนื่อย
“โอ้ย!เล่นอะไรของมึงเนี่ยไอ้หมาพอร์ช” โซ่ร้องเสียงหลงเมื่อถูกพอร์ชล็อคคอจาก
ทางด้านหลังตอนทีเผลอ
จุ๊บ! ฟอด…
“ลงโทษเมียดื้อ!”พอร์ชอาศัยจังหวะช่วงที่ไม่มีคนคว้าคอคนรักเข้ามาจูบขมับแล้ว
หอมแก้มเป็นการลงโทษคนปากจัดที่ชอบจิกกัดหัวหน้าครอบครัว(ในนาม)อย่างเขา
ปึก!
“อุก!”
“สมน้ำหน้าไอ้หมาหื่น!”
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดว่าโซ่ไม่ยอมเสียตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบคนเดียวแน่นอน เจ้าตัว
ถึงได้ตอบแทนคนรักด้วยหมัดฮุกตรงชายโครงด้านซ้ายทันทีที่ตั้งตัวได้
“อูย…เล่นแรงนะเมีย”พอร์ชร้องโอดโอยด้วยความจุกเสียด แต่ก็พยายามที่จะ
ทรงตัวยืดกายตั้งหลักให้มั่นคง เพราะยังมีลูกลิงจอมซนเกาะอยู่บนหลัง
“สมน้ำหน้า ชอบเล่นไม่รู้เรื่อง” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ยังยื่นมือเข้าไป
ช่วยพยุงตัวคนรักเอาไว้ ไม่ให้ล้มหงายลงไป
แต่ในขณะที่คู่รักฮาร์ดคอร์ประสานสายตา ส่งกระแสจิตสู้กันอย่างเอาเป็นเอา
ตายอยู่นั้น เจ้าจอมซนตัวแสบก็…
“อาโซ่สู้ๆอาพอร์ชสู้ๆน้องซนไม่สู้” โยกตัวส่งเสียงตะโกนร้องเชียร์ออกมาด้วย
ท่าทางสนุกสนานร่าเริงเสียจนคู่รักฮาร์ดคอร์ที่กำลังจ้องหน้าท้าทายกันอยู่อดไม่ได้ที่จะ
หลุดหัวเราะออกมาเพราะท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของหลานชายจอมซนที่มีแค่ตัวเท่านั้นที่
โตเกินอายุ แต่ความสดใสร่าเริงยังคงเป็นไปตามวัย เปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดให้
ผ่อนคลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
“ดูโชว์จบแล้วไปหาข้าวกินกัน…ซนอยากกินอะไร? กินข้าวเสร็จแล้วอาจะพาไป
ถ้ำค้างคาวไปให้อาหารลิงต่อ”โซ่ถามในขณะที่กำลังดูโชว์จระเข้รอบสุดท้ายของช่วงเช้า
“ไปๆ น้องซนอยากไปให้อาหารลิง น้องซนอยากกินมิมิกับน้ำแตงโมปั่นร้านนั้น
ฮึ่ย…คุณจระเข้น่ากลัวจังเลยฮะอาโซ่…ฟันแหลมมาก”พูดโต้ตอบกับคุณอาสุดที่รัก
แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่แต่กับโชว์จระเข้ในบ่อกว้าง ทำปากยื่นปากยาวบ่นว่ากลัว
แต่ก็ยังชะโงกตัวลงไปมองจนหัวแทบทิ่ม
“มิมิอะไรของมันวะ?” พอร์ชอดไม่ได้ที่จะพูดถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
ไอ้เมนูมิมิที่หลานว่าคืออะไร
“เดี๋ยวตก” ยังไม่ทันได้ไขข้อข้องใจให้กับคนรัก โซ่ก็จำต้องหันไปปรามหลาน
ชายเสียก่อน เมื่อเจ้าตัวแสบกระโดดตบมือเหย่งๆให้กับนักแสดงที่ร่วมโชว์อยู่กับจระเข้
ในบ่อ หลังจากที่นักแสดงชายคนนั้นเอื้อมมือเข้าไปหยิบเงินในปากจระเข้ ทั้งเอาหัวมุด
เข้าไปโพสท่าถ่ายรูปให้เป็นของแถมสำหรับคนดูเป็นการจบการแสดงชุดแรกได้อย่างหวาดเสียว
พูดยังไม่ทันขาดคำ…
“จอมซน/ระวัง”
พอร์ชโซ่โผเข้าคว้าชายเสื้อหลานไว้แทบไม่ทัน เมื่อเด็กแสบจอมซนพลาดสะดุดขา
ตัวเองจนเกือบจะหัวทิ่มลงบ่อจระเข้ไป ทำเอาคุณอาทั้งสองใจหายไปตามๆกัน
“แฮ่…ตกใจหมดเลย” เจ้าเด็กแสบหันมายิ้มแหยให้คุณอาทั้งสองด้วยสีหน้า
ซีดเชียว เพราะยังรู้สึกตกใจไม่หาย
“ไม่ต้องดูแล้ว เดี๋ยวอาพาไปกินซาชิมิ”
ในที่สุดพอร์ชก็ได้รู้แล้วว่า ไอ้เมนูมิมิที่หลานชายอยากทานแท้จริงแล้วก็คือ
ซาชิมิหรือเมนูปลาดิบนี่เอง…เรียกของเขาซะเสียเลยนะไอ้ฝรั่งดองเอ้ย!
“อาโซ่มาโอๆกัน ใครแพ้จ่ายค่ามิมิ” เด็กแสบจอมซนเสนอความคิดขึ้นมาอย่าง
นึกสนุก หลังจากนั่งเบื่อเพราะติดไฟแดงมาหลายนาที
“ภาษาอะไรอีกวะ…อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย ตัวก็ออกจะโตแต่พูดห่าไรไม่เคยรู้เรื่อง
เลย” พอร์ชละอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา เมื่อเห็นว่าจอมซนพูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว
เจ้าตัวแสบกรอกตาชูมือขึ้นมานับนิ้ว ก่อนที่จะตอบออกมาว่า…
“แปดขวบฮะ…น้องซนแปดขวบ”
ห๊ะ? พอร์ชตกใจอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยินเพราะมันช่างแตกต่างกับที่เขาคำนวณ
ไว้มากนัก แบบ…ที่คิดไว้ว่ายังไงก็ต้องมีสิบสองสิบสามขึ้นอ่ะ ถ้าวัดจากความสูงที่ตาเห็น
แต่ไหงไอ้เด็กแสบนี่มันยังไม่พ้นสิบขวบเลยล่ะ?
“หึๆ แปลกตรงไหน ก็แค่ลูกครึ่งที่มีแม่เป็นคนอเมริกันแท้ๆ ส่วนพ่อก็สูงเกินร้อยเก้าสิบ
ถ้าลูกจะเกิดมาแขนขายาวกว่าเด็กทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องผิด ส่วนเรื่องพูดไม่ค่อยชัด ไม่เต็มคำนั้นก็
ตัดไปได้เลย เพราะต่อให้เป็นมึง แต่ถ้าเกิดและเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมรอบที่เต็มไปด้วยผู้คน
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร จะได้คุยเรียนรู้ภาษาไทยก็ตอนที่พ่อโทรไปคุยด้วย
วันละแค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงแล้วแต่เวลาจะเอื้ออำนวย…พูดได้เท่านี้ก็เก่งแล้ว” โซ่อดไม่ได้ที่จะ
หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นสีหน้าและท่าทางของคนรัก ก่อนที่จะอธิบายให้ฟังว่าด้วยเหตุอันใด
หลานรักถึงได้มีรูปร่างสูงโปร่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน แล้วทำไมเจ้าตัวถึงพูดภาษาไทยชัด แต่ก็ขาดๆ
เกินๆ ไม่ก็ประดิฐษ์คำแปลกออกมาพูดอย่างที่เห็น
“แม่เป็นนางแบบ?” ตอนนี้พอร์ชไม่สนใจอะไรไปมากกว่าคุณแม่ของหลานชายคนรักหรอก
เพียงเพราะได้ยินคำว่านางแบบหัวใจก็เต้นตึงตัง รู้สึกตื่นเต้นตามประสาผู้ชายที่ชอบของสวยๆ งามๆ
เป็นอาจิณ
“อื้อ! ที่รักของน้องซนเป็นนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ตส๊วยสวยด้วยล่ะอาพอร์ช!” คราวนี้ไม่ใช่
โซ่ที่เป็นคนตอบ แต่เจ้าแสบที่ภูมิใจในตัวคนเป็นแม่พูดอวดออกมาบ้าง ทำเอาพอร์ชตาโตมากขึ้น
กว่าเดิม เพราะยังไม่เคยเห็นหน้าตาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของจอมซนสักคน เพราะเจ้าตัวแสบบอกว่าแม่
ติดงานที่กรุงเทพฯ เลยขอมาหาอาม่าก่อน ส่วนคนเป็นพ่อก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ลูกไปมากไป
กว่าการเห็นหน้ากันทางโทรศัพท์หรือไม่ก็หน้าจอคอมฯอย่างที่ทำมาตลอดตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลก
เพราะข้อตกลงทางกฏหมายที่เขียนกันไว้…ตามคำบอกเล่าจากโซ่อะนะ
“ขี้โม้” โซ่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากหลานชายให้กลับไปนั่งที่เดิม หลังจากที่เจ้าตัวพยายามที่จะ
ชะโงกหน้าเข้ามาคุยกับเขาและพอร์ชทั้งที่นั่งรัดเข็มขัดอย่างแน่นหนาอยู่ทางเบาะหลัง
“ไม่โม้น้า~ ที่รักของน้องซนสวยที่สุด ปีเตอร์ยังบอกเลย” เจ้าตัวเล็กจ้อไม่หยุดในขณะที่
โซ่เริ่มนั่งนิ่ง ไม่ยิ้มแย้มอย่างก่อนหน้า ทำเอาพอร์ชที่จับความรู้สึกได้เป็นคนแรกจึงเอ่ยถามออกมาว่า…
“เป็นไร? โกรธหรอ? ไม่ต้องโกรธหรอกน้า ต่อให้เป็นนางฟ้ามาจากสวรรค์พี่ก็แค่มอง
เพราะทั้งตัวและหัวใจของพี่ให้ซอโซ่คนดีไปหมดแล้ว” เพราะไม่รู้ว่าคนรักมีความกังวลด้วยเรื่องใด
พอร์ชเลยหยิบยกเรื่องที่ตนเองสนใจอาชีพนางแบบของหลานชายขึ้นมาพูดหยอด เพื่อหวังจะช่วย
ให้คิ้วผูกโบว์ของคนรักคลายออกจากกัน
“เรื่องนั้นกูรู้ดีอยู่แล้วว่ามึงยังอยากตายดีตามอายุขัย ไม่ใช่ตายทรมานเพราะโดนกูแทง
แต่ที่กูสงสัยคือ…ปีเตอร์เป็นเพื่อนน้องซนหรอ?” ประโยคแรกชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
ของคนรักให้ได้ยินกันแค่สองคน ส่วนประโยคสุดท้ายเขาหันมาพูดกับหลานชายด้วยน้ำเสียงปกติให้ได้ยินทั่วกัน
“ไม่ใช่ฮะ! ปีเตอร์ไม่ใช่เพื่อนน้องซน แต่ปีเตอร์เป็นบอยเฟรนด์กับที่รัก” เจ้าตัวแสบรีบ
แก้ไขความเข้าใจผิดให้คุณอาสุดที่รักได้เข้าใจ
“แฟน? คนรัก?” โซ่เปลี่ยนประโยคคำพูดอีกครั้งเมื่อหลานชายกรอกตาทำหน้าเหมือน
ว่าไม่เข้าใจคำว่าแฟนในภาษาไทย
“อื้อ! ปีเตอร์เป็นคนรักของที่รัก แล้วก็บอกว่าจะมาเป็นป๊ะป๋าให้น้องซน แต่น้องซนไม่เอา
เพราะน้องซนมีป๊ะป๋าอยู่แล้ว ปีเตอร์ก็เลยไม่คุยกับน้องซนอีก เพราะน้องซนเป็นเด็กดื้อ” ก็พยายาม
จะเรียบเรียงคำพูดเป็นภาษาไทยให้คุณอาสุดที่รักเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ได้แต่พูดวกไปวนมาตาม
ความเข้าใจของตนเองที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว
“ซนมาอยู่ไทยกับอาไหม? อาจะลองคุยกับสเตฟดู” นี่ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่โซ่คิด
เรื่องของหลานชายมาสักพักแล้ว หลังจากที่ได้คุยกับพี่ชายหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพ่อของจอมซน
ครั้งล่าสุดว่าเจ้าตัวสงสัยว่าสเตฟหรือสเตฟานี่แม่ของหลานชายดูเหมือนว่าจะปลูกรักใหม่กับนาย
แบบรุ่นน้องมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะพาเข้ามาผัวพันกับหลานชายมากขนาดนี้
“อยากฮะ น้องซนอยากอยู่กับอาโซ่ อยากอยู่กับอาพอร์ช อยากอยู่กับอาม่า อยากอยู่
กับป๊ะป๋า แต่ที่รักบอกว่าไม่ได้ เพราะป๊ะป๋ามีแสนดีกับมัมใหม่แล้ว…น้องซนจะเป็นส่วนเกิน” พูด
ออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่หยาดน้ำตาคลออยู่เต็มหน่วย ซึ่งดูก็รู้ว่าเจ้าตัวฝืนเอาไว้
“เอาตามที่น้องซนต้องการเลย อยากอยู่กับใครก็พูดมา แล้วอาจะให้ทุกอย่างที่น้องซน
ต้องการ ขอแค่ที่ตรงนั้นเป็นความสุขจริงๆของเรา” โซ่หันมาพูดบอกกับหลานชายด้วยน้ำเสียงและ
แววตาที่มั่นคง ทำเอาเด็กชายที่ฉาบหน้าตัวเองด้วยความสดใสร่าเริงมาตลอดชีวิตแปดปีเต็มตั้งแต่
จำความได้ และแยกแยะความรู้สึกเป็นสะท้านในอก ปล่อยโฮออกมาสุดเสียง หลังจากที่สะกดกลั้น
มาหลายนาที แล้วรีบโผเข้ากอดทันทีเมื่อโซ่อาศัยจังหวะที่รถจอดติดไฟแดงข้ามไปนั่งข้างกันที่
เบาะหลัง ทำให้พอร์ชกลายเป็นคนขับรถไปโดยสมบูรณ์แบบ
“น้องซนไม่อยากอยู่กับที่รักแล้วฮะ…ที่รักกำลังจะมีน้องใหม่กับปีเตอร์ เพื่อนที่โรงเรียน
บอกว่าน้องซนก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า…ฮึก…ไม่มีใครรัก”
โซ่กำหมัดหลับตาแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะทุกสิ่งที่จอมซนพูดมา เขาผ่านมาหมดแล้ว
ถึงได้รู้ว่าเจ็บปวดแล้วทรมานขนาดไหน แต่ที่ไม่รู้เลยคือ…ความแข็งแกร่งของหลานชายที่ส่งผ่าน
มาทางเสียหัวเราะและสีหน้าที่ร่าเริงทั้งที่ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความบอบช้ำ
“มีสิ…ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกันแต่อาก็ชอบน้องซนนะ และอาก็มั่นใจว่าถ้าเรามีเวลาได้อยู่
ด้วยกันมากกว่านี้อีกนิดความชอบที่อามีจะกลายเป็นความรัก” พอร์ชพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากที่
ฟังแบบปิดปากเงียบๆอยู่นาน ตั้งแต่ต้นจนจบ
“จริงหรอฮะ?” สูดน้ำมูกเข้าไปฟืดใหญ่แล้วชะโงกหน้าออกมาถาม หลังจากที่ซุกหน้า
ร้องไห้อยู่กับแผ่นอกของคุณอาสุดที่รักอยู่หลายนาที
“จริงสิ…ซนจะมาอยู่กับอาก็ได้ ถ้าเรานอนคนเดียวหรือไม่ก็นอนกับพี่มณีได้ เพราะอาโซ่
เป็นของอา เลยต้องนอน ‘กอด’ กับอาทุกคืน” พูดจบก็ยักคิ้วส่งให้จึกหนึ่งเป็นการส่งท้ายด้วย
สีหน้ากวนสุดติ่ง
“งื้อ~ อาพอร์ชนิสัยไม่ดี!”
โซ่เกือบจะฉีกยิ้มหวานเป็นการขอบคุณอยู่แล้วเชียวที่คนรักช่วยพูดปลอบใจหลานชาย
หลังจากที่หาเรื่องแหย่กันมาเกือบครึ่งวัน แต่พอได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายเท่านั้นแหละ เขาก็
รีบปิดตาหลานแล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างชูนิ้วกลางเป็นการของคุณมันแทบไม่ทัน…กวนตีนดีนัก!
TBC.
(จอมซน อายุแปดขวบ ลูกครึ่ง ไทย(เชื้อสายจีน) - อเมริกัน)
" งื้อ~ อาพอร์ชแกล้งน้องซน! "