XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย {ตอนที่ 15 เปลี่ยนแปลงแต่ไม่เปลี่ยนไป - ตอนจบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย {ตอนที่ 15 เปลี่ยนแปลงแต่ไม่เปลี่ยนไป - ตอนจบ}  (อ่าน 13093 ครั้ง)

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


║█║▌║█║▌│║▌║▌█║


โอม ♥ ปิ๊ก


ให้อาหารหมาอยู่ดีๆ ก็มีลูกหมาหลงทางเข้ามาขออาหารกิน
จะปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ก็ดูใจร้ายเกินไป แต่การรับเด็กนั่นมาอยู่ด้วยก็เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางเหลือเกิน
ท่องเอาไว้ 'โอม' เด็กนั่นกินไม่ได้


เนื้อหา 15%
NC 55%
ความน่ารักของปิ๊ก 20%
ความหื่นของพี่โอม 10%

:: คำเตือน ::
'พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี โดยที่ผู้เยาว์นั้นเต็มใจมีเพศสัมพันธ์ด้วย
ชายมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี ปรับ 4,000-20,000 บาท'



:: หมายเหตุ ::
นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

ขอบคุณค่า :)
 :mew1:

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2018 20:18:34 โดย แจซอล »

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #1 เมื่อ14-01-2018 14:10:13 »


ตอนที่ 1 :: เด็กน้อยที่หลงทางมา


ชีวิตคนเราไม่แน่นอน

เมื่อวานมีงานทำ วันนี้ตกงานแล้ว

เมื่อวานอยู่คนเดียว วันนี้มีเพื่อนร่วมห้องเฉยเลย







โอม

ชื่อของผมคือโอม มีอาชีพเป็นครูพละอัตราจ้าง สัญญาจบลงเมื่อวาน วันนี้ผมกลายเป็นคนว่างงานโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

ผมอาศัยอยู่ลำพังในห้องเช่าเล็กๆ ไม่มีครอบครัว ถึงไม่ค่อยสุขกายแต่ก็สบายใจดี







เมื่อวาน

ขณะเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างถนน

"พี่ฮะ" ผมที่กำลังป้อนลูกชิ้นให้หมาข้างถนนที่เคยทำเป็นประจำเงยหน้าขึ้นแล้วชี้หน้าตัวเอง

"ฉันเหรอ"

"อื้อ" เจ้าของใบหน้าใสซื่อ เนื้อตัวมอมแมม ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วอายุน่าจะไม่เกิน 15 ปีพยักหน้าทว่าดวงตาคู่สวยกลับกำลังจับจ้องที่ถุงลูกชิ้นในมือผม

"อะไร จะแย่งหมารึไง" ผมว่าพลางดึงถุงลูกชิ้นไปซ่อนไว้ข้างหลัง

"กินด้วยไม่ได้เหรอ" ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากเมื่อขอ

"นี่มันของหมา"

"พี่ก็คิดว่าผมเป็นหมาสิ"

"จะคิดอย่างนั้นได้ยังไง ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอเป็นคน"

ใบหน้าน่ารักถูกแต้มด้วยความสงสัย เสียงท้องร้องดังขึ้นขณะดวงตาหม่นก้มมองหมาที่นั่งอยู่บนพื้นตรงหน้าผมและเขาก็ทำในสิ่งไม่คาดคิด

ร่างบอบบางในเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนนั่งลงบนพื้น เขาช้อนสายตามองผมแล้ววางมือลงบนตก

ผมทำอะไรไม่ถูก มองเขาด้วยความตกตะลึงอยู่ครู่จึงยื่นลูกชิ้นไม้สุดท้ายให้เจ้าสีน้ำตาลที่เพิ่งเดินมา

เด็กน้อยที่ทำตัวเลียนแบบหมาเบะปาก ดวงตาปริ่มน้ำคล้ายจะร้องไห้

"ใจร้าย ผมอุตส่าห์ ฮึก"

แล้วก็ร้องออกมาจนได้

"เธอเป็นใคร" ผมไม่ซื้ออาหารให้คนแปลกหน้า หมาจรจัดที่ผมให้อาหารอยู่นี้ก็รู้จักกันดีทั้งนั้น

"ผมไม่รู้" ทว่าเด็กน้อยกลับตอบคำที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยิน

"หมายความว่ายังไง"

"ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ผมไม่รู้ ผมหิว" คนหิวสะอื้นฮักจนตัวโยนให้ผมต้องเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมานั่งข้างๆ บนเก้าอี้ยาวในสวนสาธารณะที่ทั้งเงียบและมืด

"เอาล่ะๆ" ผมลูบหลังเขาแผ่วเบา พยายามปลอบโยนทั้งที่ตัวเองไม่ถนัด

"ผมหิว"

"หยุดร้องแล้วนั่งรอตรงนี้" ผมบอกแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นทว่ากลับถูกมือเล็กรั้งชายเสื้อเอาไว้

"พี่จะทิ้งผม"

"ไม่ทิ้ง"

"ไม่เชื่อ พี่จะทิ้งผม" เขายังย้ำคำเดิมให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ

"แล้วจะให้ทำยังไง"

"พาผมไปด้วย" เรื่องเยอะจริง

กระนั้นผมก็ยอมให้เขาตามมา เด็กนั่นจับชายเสื้อผมไว้ไม่ยอมปล่อย กระทั่งตอนนั่งกินข้าว เขาก็นั่งข้างๆ จับเสื้อผมไม่ยอมปล่อยเช่นเดิม

หลังกินข้าวเสร็จ ผมพาเขาไปสถานีตำรวจ ผมคิดว่าจะส่งเขาที่นั่นแล้วค่อยกลับบ้าน

แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดหมดเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากชายเสื้อของผมเลย

"พี่จะทิ้งผม"

ย้ำคำเดิมแล้วก็ร้องไห้

"เธอต้องอยู่ที่นี่" ผมบอกพยายามแกะมือเล็กออก

"ผมอยู่กับพี่ไม่ได้เหรอ" ดวงตากลมฉ่ำด้วยน้ำที่คล้ายจะไหลออกมาเมื่อใดก็ได้

"ไม่ได้" ผมย้ำหนักแน่น

ไม่ใช่ไร้น้ำใจแต่ผม...

ผมเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย ยิ่งกว่านั้นผมแพ้เด็ก ผมกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะห้ามความต้องการที่ซ่อนลึกในหัวใจไม่ได้

ไม่ได้เด็ดขาด อย่างไรผมก็ไม่มีทางให้เด็กนี่อยู่กับผมเด็ดขาด







"ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น"

ผมบอกเมื่อส่งผ้าขนหนูให้เขา

เด็กชายที่ผมไม่รู้แม้กระทั่งชื่อลังเลที่จะรับจนผมต้องเป็นฝ่ายยัดใส่มือเล็กเสียเอง

"พี่โกรธผมเหรอครับ" เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาหากดวงตากลมไม่ละจากใบหน้าของผมสักเสี้ยววินาที

เพิ่งสังเกตชัดๆ ว่าเจ้าเด็กนี่นอกจากมีเส้นผมสีทองเหมือนฝรั่งแล้วสีตาก็แตกต่างจากชาวเอเชียโดยสิ้นเชิง ถ้าเขาตัวใหญ่กว่านี้ผมคงมั่นใจว่าเขาเป็นฝรั่งแน่ๆ แต่นี่มันไม่ใช่ หรือถ้าใช่ก็คงเป็นฝรั่งแคระ

“มองหน้าทำไม” มองหน้าก็ไม่ได้ด้วย ผมขำเบาๆ ก่อนถอนสายตาจากเขาและปฏิเสธ


"เปล่า"

"พี่โกหก"

"ไม่ได้มองและไม่โกรธด้วย"

"ถ้าพี่ไม่โกรธ พี่ขึ้นเสียงใส่ผมทำไม"

"ฉัน..."

โอ๊ะ! ไอ้เด็กนี่

"ห้องน้ำพี่แคบจัง" มือเล็กเปิดประตูห้องน้ำ ปากก็วิจารณ์

"จะใช้หรือไม่ใช่ ถ้าไม่ใช้ก็ไปอยู่ที่อื่น"

"พี่โกรธผมอีกแล้ว"

ประตูห้องน้ำเปิดค้างไว้ เด็กน้อยก้าวเข้ามาตรงหน้าผม

"ไม่โกรธนะฮะ"

ตัวผมแข็งทื่อเมื่อถูกสวมกอด ใบหน้าน่ารักซุกซบที่แผ่นอกแล้วช้อนตามอง

"หายโกรธนะฮะ"

น้ำเสียงอ้อนๆ นี้อีก จะฆ่ากันหรือไงวะ

"ต้องทำยังไงพี่ถึงจะหายโกรธ"

เด็กความจำเสื่อมนี่คงเป็นเด็กขี้อ้อนน่าดู ทั้งการกระทำและคำพูดของเขาทำผมอ่อนยวบไปหมด ยกเว้นก็แต่...

"ไปอาบน้ำแล้วจะไม่โกรธ"

"จริงนะฮะ" น้ำเสียงร่าเริงขึ้นมาเชียว

ผมพยักหน้าแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาผละออกห่าง

เมื่อร่างบอบบางวิ่งหายเข้าไปห้องน้ำผมจึงนั่งลงบนพื้น มือคว้ารีโมทกดเปิดทีวี

เสียงที่ดังจากลำโพงทีวีเป็นเสียงเดียวที่ดังภายในห้องพักเล็กๆ

แปลกจังแฮะ

"น้อง !!" ผมร้องเรียกคนที่หายเข้าห้องน้ำไปแล้วเงียบจนน่าใจหาย

เขาไม่ตอบ ผมจึงพรวดพราดไปที่หน้าห้องน้ำและพบว่าประตูถูกแง้มไว้

เจ้าของร่างเปลือยหันมามองผมแล้วเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้

"น้ำเย็นจังเลย"

น้ำเย็นแล้วไงวะ

"พี่น้ำเย็นมาก ผมหนาว" เจ้าของร่างเปลือยก้าวเข้ามาใกล้ให้เห็นเรือนร่างขาวผ่องเต็มตา

ใจเย็นไว้ไอ้โอม นี่มันเด็กแถมยังเป็นคนแปลกหน้าอีกต่างหาก

"แล้วจะไม่อาบรึไง"

"ผมหนาว" เขายังย้ำคำเดิม

"หนาวก็ต้องอาบ ถ้าไม่อาบก็ออกไปนอนหน้าห้อง"

ผมยื่นคำขาด เด็กน้อยหน้าง้ำงอ เขาปล่อยมือจากชายเสื้อผมแล้วหันหลังให้

มือเรียวเอื้อมเปิดฝักบัวให้น้ำไหลรดร่างกายของเขา

เสียงพึมพำว่าหนาวๆ ยังคงดังอย่างต่อเนื่องกระทั่งผมปิดประตูแล้วก้าวออกมานั่งสงบจิตใจ

ตัวเล็ก ผิวขาว หน้าตาจิ้มลิ้ม เวลาหน้างอหน่อยๆ โคตรน่ารัก ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ตรงสเป็กผมได้ยังไงวะ

แกร็ก!

เสียงประตูห้องน้ำดึงสายตาให้ผมเหลือบมอง

ร่างบอบบางก้าวออกมาในสภาพเกือบเปลือย ผ้าที่ควรจะพันเอวไว้เพื่อปกปิดท่อนล่าง เขากลับใช้มันคลุมไหล่ซะอย่างนั้น

"ขอเสื้อหน่อยผมหนาว"

ร่างเล็กกอดตัวเองแน่น ผมจึงเขวี้ยงเสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ให้เขา

"พี่โกรธผมเหรอ"

"ฉันดูเหมือนโกรธตลอดเวลารึไง"

"อื้อ"

เด็กน้อยกดหน้าลงพร้อมกับเก็บเสื้อที่กองตรงปลายเท้าขึ้นมา

"เก่าจัง"

"เรื่องมากจังนะเรา จะใส่หรือไม่ใส่" พอผมขึ้นเสียงเด็กน้อยก็หน้าง้ำงอ

ดวงตากลมจับจ้องที่ใบหน้าของผมพลางสวมเสื้อ

"ตัวใหญ่จัง"

"เธอตัวเล็กต่างหาก"

"กางเกงก็ตัวใหญ่" กางเกงบอลที่ผมซื้อมาแล้วมันคับตูดเมื่อไปอยู่ในเรือนกายบอบบางนั่นกลับดูตัวใหญ่ขึ้นถนัดตา

มองคนที่กำเอวยางยืดของกางเกงที่พร้อมจะหลุดเมื่อปล่อยแล้วก็นึกขำ

"มานี่มา"

เขาไม่ลังเลที่จะก้าวเข้ามาหาผมสักนิด

"สูงเท่าไหร่น่ะเรา"

เขาสูงแค่ระดับอกผมเท่านั้นเอง"

"150 ได้มั้ย"

"ผมไม่รู้" เขาซบหน้าลงบนแผ่นอกของผม "พี่โอม ผมชื่ออะไรเหรอ"

นั่นสิ ชื่ออะไรล่ะ ขนาดเจ้าตัวยังไม่รู้แล้วผมจะรู้ได้อย่างไร

"จำไม่ได้เหรอว่าตัวเองชื่ออะไร"

เด็กน้อยยู่หน้าอย่างที่ชอบทำ

น่าฟัดฉิบหาย

"ลองคิดดูดีๆ"

"คิดแล้วแต่คิดไม่ออก"

"งั้น..." ผมกวาดมองใบหน้าน่ารัก จมูกโด่งรั้น ดวงตากลมโต ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ แก้มขาวใส พลางคิดว่าหน้าตาน่ารักแบบนี้ควรชื่ออะไรดี "อืม...ชื่อปิ๊กดีมั้ย"

"ทำไมต้องปิ๊ก"

"ไม่อยากชื่อปิ๊กเหรอ"

"ไม่ค่อยชอบหรอกแต่ถ้าพี่โอมว่าดีปิ๊กก็โอเค"

แม้จะขี้สงสัยในบางครั้ง แต่บางทีก็น่ารักเหมือนกัน


[T B C]

ฝากติดตามน้องกับพี่โอมด้วยนะคะ
นิยายก็จะออกแนวพี่โอมหื่นๆ หน่อย
ชอบไม่ชอบบอกกันนะ :)
คุยกันในแท็กที่ทวิตก็ได้ #ไม่ใช่_พี่ชาย


ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #2 เมื่อ14-01-2018 17:03:32 »

น้องความจำเสื่อมเหรอ หรืออะไรรร

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ตอนที่ 2 :: เด็กชายไร้ความทรงจำ


"พี่โอม ดูนี่"

เมื่อประตูเปิดออกในช่วงบ่ายปิ๊กก็เข้ามาลากผมในสภาพร่างกายชุ่มเหงื่อเข้าไปในห้อง

เขาชี้ไปยังฟูกนอนที่ถูกพับมั่วๆ ไม่เรียบร้อยนักด้วยท่าทีตื่นเต้น

ปิ๊กอยู่กับผมมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว

เขาทำอะไรไม่เป็นสักอย่างและนั่นก็ทำให้ผมเหนื่อยมาก

ผมซึ่งตอนนี้อยู่ในสถานะคนว่างงานกำลังพยายามหางาน แต่ตลอด 1 สัปดาห์ไม่มีที่ไหนติดต่อให้ผมไปเริ่มงานเลย และเงินเก็บก็ใกล้จะหมดลงแล้วเช่นกัน

"พี่โอมดื่มน้ำ"

ปิ๊กที่ผละออกไปเมื่อครู่กลับมาพร้อมแก้วน้ำใบหนึ่ง เขายิ้มกว้างเมื่อส่งให้ น้ำที่ได้รับมาไม่ได้พิเศษอะไรแต่ดื่มแล้วชื่นใจมาก อาจเพราะผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานเกินไป พอมีปิ๊กอยู่ใกล้ๆ ผมจึงรู้สึกดีมาก

บางครั้งเด็กน้อยยิ้มสวยตรงหน้าผมก็เหมือนเครื่องดื่มชูกำลัง รอยยิ้มของเขามีพลังปัดเป่าความเหนื่อยล้า

"วันนี้จำอะไรได้บ้าง เล่าให้พี่ฟังหน่อยซิ" ผมบอกให้ปิ๊กใช้เวลาทบทวนหาความทรงจำของตนเอง แต่ตลอดสัปดาห์นี้ก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรซักอย่าง

ผมนั่งลง ปิ๊กนั่งลงข้างๆ

เด็กน้อยก้มหน้านิ่งแล้วส่ายหัวเบาๆ อย่างทุกวัน

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร" ผมลูบไล้เส้นผมของเขาเพื่อปลอบประโลม เส้นผมของเด็กน้อยนุ่มสวยเมื่อลองก้มหน้าลงใช้ปลายจมูกคลอเคลียก็พบว่ามันให้ความรู้สึกที่ดี กลิ่นแชมพูก็หอมจนเผลอสูดดมอยู่นานสองนาน

"พี่โอม หรือว่าบางทีปิ๊กอาจจะไม่มีความทรงจำ" เด็กน้อยว่าอย่างสิ้นหวัง

"ไม่มีใครไม่มีความทรงจำหรอก"

"แต่ปิ๊กจำอะไรไม่ได้เลย"

เมื่อพูดถึงความทรงจำคนที่เคยร่าเริงก็ถูกความเศร้าเข้าครอบงำ ซึ่งผมไม่ชอบเลย

"ยิ้มหน่อย" ผมเอื้อมมือไปหยิกแก้มใสก่อนรื้อกองเอกสารไม่คุ้นตา "นี่อะไรน่ะ"

"ปิ๊กออกไปเดินเล่นหน้าตึก"

คงไปดึงมากจากเสาไฟฟ้ากับตู้รับเอกสารหน้าตึก

"พี่โอมโกรธปิ๊กมั้ย"

"ถามอีกแล้ว เดี๋ยวก็โกรธจริงๆ ซะหรอก" ผมว่าเสียงเข้มขณะไล่สายตาอ่านข้อความในกระดาษคร่าวๆ

"พี่โอมบอกไม่ให้ปิ๊กออกไปข้างนอก"

"พี่เป็นห่วง ถ้าเกิดหลงทางจะทำยังไง จำทางกลับบ้านได้เหรอ" เด็กน้อยส่ายหน้า

"รู้สึกดีจังฮะ" ดวงตากลมโตเปล่งประกาย

เรานอนเล่นอยู่ในห้องเงียบๆ เหมือนคนเลื่อนลอย ที่จริงสภาพผมตอนนี้ก็ใช่แหละ

ล่องลอยไม่มีงานทำ คิดแล้วก็อนาถตัวเอง

"พี่โอมอันนี้เขาเขียนว่าอะไร"

ใบปลิวถูกยกขึ้นในระดับสายตาก่อนคนข้างๆ จะพลิกตัวนอนตะแคงมองหน้าผม

"อ่านหนังสือไม่ออกเหรอเรา"

"ปิ๊กอ่านไม่ได้เลย"

อาการของปิ๊กแปลกมาก นอกจากจำอะไรไม่ได้แล้วเขายังไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้

"ฟิตเนสเปิดใหม่ สมัครวันนี้ลดทันที 50%" ผมอ่านออกเสียงให้เด็กน้อยข้างๆ ฟัง "ทำไม อยากเล่นฟิตเนสรึไง พี่ไม่มีเงินหรอกนะ"

"คนนี้" นิ้วเรียวชี้พรีเซนเตอร์หนุ่มหล่อในใบปลิว "หุ่นเหมือนพี่โอมเลย"

คำพูดของปิ๊กทำให้ผมนึกบางอย่างได้







ผมได้งานที่ฟิตเนสเปิดใหม่แห่งนั้น นี่ก็เริ่มงานมาได้เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว เพราะเป็นงานที่ถนัดผมจึงรู้สึกสนุกกับมันมากๆ

"ปิ๊กหิว" เด็กน้อยว่าขณะมองอาหารที่ผมซื้อมาด้วยดวงตาเป็นประกาย

ผมไม่อยากคิดเลย แต่ปิ๊กตอนนี้เหมือนหมาตัวน้อยๆ ที่ผมเลี้ยงเอาไว้

"โห น่ากินจัง"

ก็ไม่ได้น่ากินเป็นพิเศษหรอก เพียงแค่มันดูต่างจากปกติมากกว่า

ตอนผมตกงานเราสองคนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไข่ต้มทุกวัน แต่ปิ๊กเองก็ไม่บ่นแถมยังดูมีความสุขกับการได้ลุ้นรสชาติของบะหมี่ที่เปลี่ยนไปในทุกๆ วันอีกต่างหาก

"กินเยอะๆ นะ" ผมยื่นช้อนให้ปิ๊กรับไป

"ไม่เกรงใจแล้วนะคร้าบ"

มื้อเย็นหมดลงอย่างรวดเร็ว ปิ๊กดูมีความสุขเป็นพิเศษที่ได้กินอาหารดีๆ

"อร่อยมากเลยฮะพี่โอม"

เด็กน้อยยิ้มแก้มปริขณะเก็บขวดน้ำเข้าตู้เย็น

"วันหลังขอแบบนี้อีกได้มั้ยฮะ"

ผมเงียบไม่ตอบ คนถามจึงคอตกอย่างหมดหวัง

"ปิ๊กคงขอมากไปใช่มั้ยฮะ"

"ไปอาบน้ำได้แล้ว"

เด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

ผมทิ้งตัวลงบนพื้นเย็นๆ คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อบอกกับบางคนว่าอาหารที่เขาซื้อมาฝากอร่อยมาก หมาน้อยที่บ้านกินมันจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว

ผมพบเขาที่ฟิตเนสเมื่อ 2 วันก่อน เขาเป็นลูกค้าที่หน้าตาโดดเด่นมาก ตัวเล็ก ผิวขาว สเป็กผมเลย

เขาเป็นฝ่ายเข้าหาผมก่อน เราแลกเบอร์กัน และกำลังสานสัมพันธ์อันตราย

'พรุ่งนี้เลิกงานเราไปหาโอมได้มั้ย'

"แฟนไม่ว่าเหรอ"

'พูดแต่เรื่องของเราไม่ได้เหรอ’ แม้ไม่ได้ยินเสียงแต่ก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังงอน

"พรุ่งนี้ไอซ์อยากไปไหน"

'ไปห้องโอมได้มั้ย'

เขายังย้ำคำเดิมให้นิ้วมือของผมชะงักค้างที่คีย์บอร์ด ก็อยากให้มาอยู่หรอกแต่ติดตรงที่...

"พี่โอม น้ำเย็นมากเลย"

นี่ไงปัญหา

ผมเหลือบมองปิ๊กด้วยหางตาแล้วกลับมามองหน้าจอมือถืออีกครั้ง

'เงียบทำไมอะ ซ่อนใครไว้ที่ห้องเหรอ'

"โอมอยู่กับน้องชาย"

'ก็ให้น้องชายโอมไปที่อื่นก่อนสิ นะโอม'

เขาส่งสติ๊กเกอร์มาอ้อน ผมควรทำยังไงดี







ผมนัดปิ๊กออกมาเจอที่สนามเด็กเล่นหน้าปากซอย

เด็กน้อยนั่งแกว่งชิงช้าเพียงลำพังขณะทอดสายตามองภาพข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย

ตลอดหลายสัปดาห์มานี้ ยังไม่มีวี่แววว่าความทรงจำของเขาจะกลับมาเลย

ผมก้าวช้าๆ เข้าไปหยุดตรงหน้าเด็กน้อย ปิ๊กเงยหน้ามองผมแล้วยิ้มสดใส

"ชอบที่นี่รึเปล่า" ผมหยุดชิงช้าด้วยมือที่ยื่นไปจับสายเหล็กทั้ง 2 เส้น

เจ้าตัวน้อยมองผมตาแป๋วก่อนจะพนักหน้ารับ

"อยากกินไอติมกับขนมมั้ย”

เขาพยักหน้าอีกครั้ง "ปิ๊กชอบกินไอติม"

"เดี๋ยวเราไปซื้อไอติมกัน"

ผมจูงมือปิ๊กไปที่ร้านสะดวกซื้อ ให้เขาเลือกขนมตามต้องการด้วยงบ 100 บาท

ปิ๊กเลือกขนมไม่กี่อย่างกับไอศกรีมรสสตรอเบอรี่แท่งหนึ่ง

ผมพาปิ๊กที่เอาแต่ดูดเลียไอศกรีมกลับมาที่ชิงช้าในสวนอีกครั้ง จับไหล่ให้เด็กน้อยนั่งลงก่อนจะนั่งยองๆ ลงตรงหน้า

"ปิ๊กรอพี่อยู่ตรงนี้จนกว่าพี่จะกลับมารับได้มั้ย"

"ทำไมฮะ"

ดวงตากลมจ้องมองผม ลิ้นเล็กยังคงเลียไอศกรีมในมือจนสุดความยาว ท่าทางของปิ๊กดูใสซื่อมากแต่ผมกลับมีอารมณ์เพราะท่าทางการดูดเลียไอศกรีมของเขา

"ปิ๊กรอพี่นะ"

"ก็ได้ฮะ แต่พี่โอมต้องรีบกลับมารับปิ๊กนะ"

เมื่อผมพยักหน้ารับใบหน้าที่ถูกแต้มด้วยความสงสัยก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

ผมเดินเร็วๆ กลับมาที่ร้านกาแฟหน้าปากซอย ไม่ต้องเดินเข้าไปคนที่รอผมอยู่แล้วก็เดินออกมาหา

"วันนี้ไปเรียนมาเหรอ"

ไอซ์ที่อยู่ในชุดนักศึกษาพยักหน้ารับ

ผมไม่สนใจหรอกว่าเขาเรียนคณะอะไรที่มหา'ลัยไหน รู้แค่ว่าเขาตรงสเป็กและเรามีความปรารถนาเดียวกันก็พอ

"ห้องเล็กหน่อยนะ"

ผมบอกเมื่อเราออกเดิน

ปิ๊กยังคงนั่งกินขนมอยู่ที่เดิมในตอนที่ผมเดินผ่านสวน

"เก็บเสียงมั้ย"

"ไม่รู้สิ ไม่มั้ง"

"ไม่เคยพาใครไปนอนที่ห้องเหรอ"

"ก็เคยนะ แต่ก็ทำเบาๆ อะ"

"คราวหน้าไปทำที่ห้องไอซ์ดีกว่า"

"ได้เหรอ แฟนล่ะ"

"อย่าพูดถึงได้มั้ย"

เมื่อไอซ์พูดจบเราก็มาหยุดที่หน้าห้องพักของผมพอดี

เพียงประตูเปิดออกร่างเล็กก็ดันหลังผมเข้าไปข้างใน และเป็นเขาที่ใช้เท้าผลักประตูให้ปิดลง

ไอซ์ประกบจูบผมราวกับโหยหา เขาเบียดริมฝีปากลงมาบดขยี้ก่อนจะส่งลิ้นชื้นเข้ามาในโพรงปากของผม

มือเล็กๆ ถลกถอดเสื้อของผมออกแล้วโยนทิ้งอย่างไร้ทิศทาง

เขาดูดลิ้นของผมจนต้องครางฮือในลำคอด้วยความซ่านสยิว ก่อนริมฝีปากอิ่ม จะไล่จูบลงมายังลำคอให้ผมแหงนเงยใบหน้าสูดปาก

"อื้อ ไอซ์ใจร้อนจัง"

"ไอซ์อยากกินโอมนี่"

เขาช้อนสายตาขึ้นมองเมื่อลิ้นชื้นปาดเลียที่หัวนมของผมให้เสียวซี้ดไปทั้งตัว

"อ๊า กินอีกสิ กินโอมเท่าที่ไอซ์ต้องการเลย"

ผมลูบเส้นผมนุ่มมือเมื่อไอซ์ดูดสลับเลียและกัดยอดอกของผมซ้ำๆ

โคตรเสียวเลยว่ะ

"อ๊า"

ผมร้องเมื่อลิ้นชื้นเลียระเรื่อยลงไปที่หน้าท้อง

"น่ากิน"

ไอซ์ช้อนตามองผมทุกครั้งที่พูด

ลิ้นเล็กไล้เลียกล้ามเนื้อหน้าท้องของผมซ้ำๆ บ้างก็กัด บ้างทีก็ดูด ถ้าผมผิวขาวกว่านี้คงได้เห็นรอยชัดแน่ๆ

กางเกงวอร์มถูกดึงรั้งให้พ้นสะโพก

ไอซ์แนบแก้มลงบนเนื้อผ้าที่ขวางกั้นระหว่างแก่นกายของผมกับโลกภายนอก

มือเล็กรั้งมันลง ผมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนชั้นในลงไปกองที่พื้น

ไอซ์มองกลางกายของผมด้วยดวงตาเป็นประกาย

เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากราวกับต้องการจะกิน

"อ๊า ไอซ์ อื้อ" กว่าจะรู้ตัวก็เผลอครางออกมาซะแล้ว

ลิ้นเล็กก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

เขาค่อยๆ แตะที่ส่วนปลาย ก่อนปากเล็กจะอ้าออกแล้วครอบลงมา

มือบางรูดรั้งที่ส่วนโคน

กลุ่มเส้นผมสีอ่อนขยับขึ้นลงที่แก่นกายของผม

ซ่านเสียวสุดใจจนต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นซี้ดปาก ‘อ๊า โคตรเสียว’

ผมวางมือลงบนไหล่บอบบาง บีบเบาๆ แล้วเลื่อนขึ้นมาที่ท้ายทอย ลูบไล้ให้อีกฝ่ายรูดรั้งด้วยจังหวะที่หนักหน่วงกว่าเดิม

"ดีมาก ไอซ์ เสียว อื้อ แรงอีกครับ คนเก่ง ดูดแรงๆ"

จังหวะลิ้นตวัดเลียหนักหน่วงขึ้นเมื่อผมเอ่ยชม ลิ้นเล็กรุกเร้าที่ส่วนปลายจนผมแทบปริแตก

"ฮ้า อะ ไอซ์"

ซ่านเสียวจนทนไม่ไหว

ผมเลื่อนมือลงมาลูบไล้กรอบใบหน้าน่ารัก บังคับให้แหงนเงยขึ้นแล้วดันแกนกายเข้าลึก

ดวงตากลมปริ่มน้ำตา ทว่าก็ยังไม่หยุดไล้เลียของๆ ผม

"สุดยอดเลยไอซ์"

ผมเอ่ยชม ลูบไล้เส้นผมเขา ดันกายเข้าแล้วชักออกอย่างที่ใจต้องการ

มือเล็กวางลงบนหน้าขาของผม เลื่อนขึ้นมากอบกุมที่บั้นท้าย

"อะ ไอซ์ แตกในปากได้มั้ย"

ความซ่านเสียววิ่งพล่านไปทั้งกาย ลาวาร้อนปริ่มๆ ที่ส่วนยอด

"อ๊า!!"

เพียงลิ้นชื้นกดย้ำที่ส่วนหัวผมก็ปริแตกออกมาในโพรงปากเขา

น้ำขาวขุ่นไหลเลอะขอบปาก ส่วนหนึ่งถูกกลืนกิน

ไอซ์ยังคงสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้นแต่ท่าทางของเขาตอนนี้โคตรอีโรติก

ความเป็นชายของผมแข็งตั้งอีกครั้งเมื่อปากบางจูบที่ส่วนปลายเบาๆ

ไม่ไหวแล้วว่ะ

"แป๊บนึงนะไอซ์ โอมปูที่นอนก่อน"

"ไม่ปูก็ได้" ว่าแล้วก็กดจูบลงบนหน้าขาของผม

"เอางั้นเหรอ ไหวแน่นะ"

"ไอซ์รอไม่ไหวแล้ว" เขายังคงจูบที่แก่นกายของผมเพื่อย้ำความปรารถนา

ทว่า...

"พี่โอมฝนตกหนักมากเลย โอ๊ะ!!"

ประตูห้องเปิดออกให้ผมละสายตาจากกลุ่มเส้นผมตรงระหว่างขา

ปิ๊กในสภาพเปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนนิ่งตรงหน้าประตู เขามองผมด้วยสายตาตื่นตกใจก่อนจะทรุดนั่งลง

"พี่โอม ปิ๊กหนาว"

"อื้อ" ไอซ์ผละจากแก่นกาย เขาช้อนสายตามองผมด้วยแววตาขุ่นเคือง

"ให้หยุดมั้ย"

"แป๊บนึงนะไอซ์" ไอซ์ผุดลุกขึ้นเต็มความสูง

ผมดึงกางเกงที่ยังคงคาตรงข้อเท้าขึ้นมาสวมด้วยอารมณ์หงุดหงิด

"พี่บอกให้รอทำไมไม่รอ"

"ฝนตก ปิ๊กหนาว"

ปิ๊กกอดตัวเองแน่น เขาช้อนมองผมด้วยดวงตาฉ่ำน้ำตา

แม่งเอ้ย!

ผมไม่รู้ควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้กระทั่งไอซ์เดินเข้ามาหยุดข้างๆ

"ไว้ต่อวันหลังก็ได้โอม"

ทั้งที่ก่อนหน้าดูเหมือนอยากมากเหลือเกินแต่กลับหยุดง่ายๆ อย่างนี้น่ะเหรอ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกแต่เมื่อเหลือบมองในมือของเขาก็พบว่ามือถือในมือไอซ์กระพริบอยู่

"แฟนโทรมา"

บอกผมอย่างนั้นแล้วก็ออกจากห้องไป

พูดง่ายหรอก แต่ทำได้เหรอ ในเมื่ออารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมายังไม่ทันได้ปลดปล่อยเลย

ผมถูกทิ้งไว้ในห้องกับหมาน้อยตัวเปียกและอารมณ์ที่คั่งค้าง

ให้ตายเถอะ นี่มันฝันร้ายชัดๆ

"ปิ๊กลุกขึ้นมา แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า"

เด็กน้อยลุกขึ้นตามคำบอก

"เพราะคนนั้นมาพี่โอมเลยให้ปิ๊กออกไปรอข้างนอกเหรอ" ปิ๊กถามผมด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

"แล้วไง นี่ห้องพี่ มันเป็นสิทธิ์ของพี่”

"พี่โอมโกรธปิ๊กอีกแล้ว"

"โกรธ" เป็นครั้งแรกที่ผมยอมรับว่าโกรธ

"ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ"

"ถอดเสื้อผ้าสิ"



[T B C]


พี่โอมไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่อย่าเพิ่งเกลียดพี่เขาเลยนะ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วย :)
 :pig4:

ออฟไลน์ dolooh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #4 เมื่อ10-02-2018 16:48:28 »

 o22

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #5 เมื่อ10-02-2018 20:37:13 »

อย่าทำน้องงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #6 เมื่อ12-02-2018 00:59:02 »

น้องปิ๊กของป้าน่าสงสาร

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #7 เมื่อ12-02-2018 01:06:33 »

อีพี่นิสัยหื่นจริงๆ น้องก็ไม่เว้น  o12

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: XBrother :: ไม่ใช่พี่ชาย
«ตอบ #8 เมื่อ12-02-2018 07:56:51 »

หือออออ เอาอย่างนี้จริงสิพี่โอม

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ตอนที่ 3 ปิ๊กคือของหวาน


การบอกให้เด็กน้อยถอดเสื้อผ้าเป็นเรื่องผิดพลาดที่สุด

ผิวขาวผุดผ่องเผยให้เห็นทันทีที่เสื้อยืดตัวเก่าถูกรั้งพ้นศีรษะ

กางเกงขาสั้นคือปราการด่านต่อไปที่ถูกถอดออก

"ปิ๊ก"

"ครับ"

ผมกดสายตามองกึ่งกลางกายที่ซุกตัวภายใต้กางเกงตัวจิ๋ว

"โอเคมั้ย"

"ปิ๊กหนาวและเจ็บ"

ท้ายประโยคดวงตากลมหลุบมองที่ระหว่างกายตนก่อนจะมองมายังผมที่ยังคง 'แข็ง' อยู่

"แล้วพี่โอมเจ็บมั้ยฮะ"

"มานี่สิ" เพียงผมกวักมือเรียกเด็กน้อยก็ก้าวเข้ามาหาอย่างว่าง่าย

"พี่โอมจะทำอะไรฮะ" ผมอ้าแขนออก

"พี่จะช่วยให้ตัวอุ่นขึ้นไงครับ"

เด็กน้อยในอ้อมกอดของผมตัวสั่นเหมือนลูกนก ใบหน้าน่ารักซุกซบที่แผ่นอก แขนเล็กยกขึ้นโอบลำตัวของผม

อารมณ์ที่คั่งค้างทำให้ความผิดชอบชั่วดีหายไปกว่าครึ่งหนึ่ง

เด็กแล้วไง ดูจากลักษณะทางกายภาพแล้วถึงปิ๊กจะตัวเล็กไปหน่อย อายุอาจจะยังไม่ถึง 18 แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 15

ผมกระชับกอดให้ร่างกายแนบชิด

ไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังบอบบาง ผิวเนียนทำให้สติของผมกระเจิดกระเจิง

คนตัวเล็กในอ้อมกอดสั่นสะท้าน

ผมจูบที่กลางศีรษะเปียกชื้น ไล้มือลงไปกอบกุมบั้นท้ายพอดีมือ

สุดยอดเลย ถ้าได้สัมผัสผิวนุ่มเนียนภายใต้กางเกงตัวจิ๋วนี้มันต้องสุดยอดจนผมห้ามใจไม่ได้แน่

"อุ่นขึ้นมั้ย"

เด็กน้อยช้อนตามองแล้วส่ายหน้า

"ตรงนี้" เขาละมือจากร่างกายผมแล้วกุมที่กลางกายตน "เจ็บ"

"ให้พี่ช่วยมั้ย"

"ช่วยยังไงฮะ" ใบหน้าน่ารักถูกแต้มด้วยความสงสัย

ผมยิ้มให้เขา จูบที่แก้มให้เด็กน้อยร้อง 'อื้อ' แต่ก็ไม่ได้กระถดตัวออกห่าง

ผมลงน้ำหนักมือที่บั้นท้ายก่อนจะเลื่อนมากุมส่วนแข็งขืนที่กลางกายคนตัวเล็ก

"อ๊ะ พี่โอม" เขาร้องเมื่อผมคลึง

"พี่จะช่วยให้หายเจ็บไงครับ"

ผมบอกเหนือศีรษะ อยากกระซิบที่หูแต่ปิ๊กตัวเล็กแค่ไหล่ผมเอง

"ฮือ มันรู้สึกแปลกๆ"

"แป๊บเดียวครับคนเก่ง"

"อ๊ะ พี่โอม" ความซ่านเสียวเมื่อผมกดนิ้วที่ส่วนปลายส่งผลให้เด็กน้อยกอดผมแน่น เขี้ยวแหลมฝังลงบนอกผมเต็มแรง

เจ็บแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันดีเหลือเกิน

"กัดพี่เหรอ หืม"

"ก็มัน อ๊า" ผมลูบไล้ทั้งความยาวที่ไม่ถึงครึ่งของผมให้เด็กน้อยครางออกมาแทนคำพูด

"หืม ว่าอะไรนะครับคนเก่ง"

"ปิ๊กรู้สึกแปลกๆ" ผมยังคงลูบไล้ตัวตนของปิ๊กไม่หยุด

เสียงพูดปนเสียงครางน่าฟังเสียจนอยากจะฟังซ้ำ

"ของพี่โอม อื้อ"

"ของพี่ทำไมครับ"

"มันทิ่ม"

ส่วนแข็งแกร่งภายใต้กางเกงวอร์มคงทิ่มหน้าทองเรียบเนียน

"มันแข็ง" น้ำเสียงซื่อๆ ทำผมแทบคลั่งตาย

"อยากลองจับมั้ย"

"หือ" ปิ๊กช้อนสายตามอง

"จับเหมือนที่พี่จับของปิ๊กไง"

"อ๊ะ!!" เด็กน้อยครางพร่าเมื่อผมกดนิ้วลงบนส่วนหัวที่ทำให้เสียวซ่านที่สุด

"ว่าไงครับ อยากจับไหม"

ผมกดจูบลงบนแก้มเนียน ใช้มือข้างหนึ่งรั้งกางเกงลงเพื่อปลดปล่อยลูกชายของผมให้เด้งผึงออกมา

มันแข็งและขยายใหญ่

ปวดร้าวจนผมอยากจะปลดปล่อยเดี๋ยวนี่

"จับสิครับ" ผมจับมือเล็กวางลงบนแก่นกายที่ทั้งแข็งและร้อน "อ๊าาา~"

เพียงถูกสัมผัสด้วยมือนิ่มผมก็แทบปริแตก

"พี่โอมเจ็บเหรอฮะ"

"พี่รู้สึกดีครับ" ผมบอกแล้วสั่งสอนเด็กน้อยให้ไล้มือไปตามความยาว

"มันร้อน"

"ปิ๊กทำให้มันเย็นลงได้นะ"

"ยังไงฮะ อ๊ะ พี่โอม ปิ๊ก" เด็กน้อยร้องเมื่อผมรูดรั้งแก่นกายเล็ก

"เสียว ความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกว่าเสียวครับ"

"อื้อ ปิ๊กเสียว พี่โอม ปิ๊กเสียวฮะ"

ให้ตายเถอะ ยิ่งริมฝีปากเล็กร้องว่าเสียว ของผมมันก็ยิ่งแข็งขึ้น

"ฮือ พี่โอม มันใหญ่"

ผมปล่อยมือให้เด็กน้อยสัมผัสผมอย่างที่เขาต้องการ

"อ๊า" อดไม่ได้ที่จะร้องครางเมื่อแก่นกายที่ขยายใหญ่ถูกสัมผัสด้วยมือเล็กสะเปะสะปะ

"พี่โอมเสียวเหรอฮะ"

"อื้อ เสียวสุดๆ เลยครับ"

"ปิ๊กอยากทำให้พี่โอมเสียวอีก"

ไม่รู้ว่าปิ๊กรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขาหมายถึงอะไร แต่ความคิดผมน่ะไปไกลสุดๆ แล้ว

"ทำเป็นหรือ"

เด็กน้อยส่ายหน้า

"เดี๋ยวพี่จะสอน ดูดีๆ นะครับ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหลอกล่อให้อีกฝ่ายโอนอ่อนตาม

ผมดันแผ่นหลังปิ๊กชิดผนังแล้วคุกเข่าลงตรงหน้า

"พี่โอมทำอะไร อ๊ะ"

ผมแนบหน้าลงบนต้นขาเล็ก จูบเบาๆ แล้วช้อนตามองเด็กน้อยที่เบิกตามองผมอย่างตกตะลึง

"ฮือ พี่โอม ตรงนั้น" มือเล็กกำแน่นเมื่อผมพรมจูบลงบนส่วนปลายแก่นกายเล็กฉ่ำน้ำ

"เสียวกว่าใช้มือมั้ย" ผมถามแล้วเลีย

"อ๊า พี่โอม เลียอีก มันเสียว"

"ชอบมั้ยครับ"

"ฮือ" ปิ๊กหลับตาแน่นไม่ตอบคำถาม ผมจึงพรมจูบไปทั่วทั้งความยาวของแก่นกายเล็ก

เสียงครางพร่าดังเป็นระลอก ยิ่งเมื่อผมไล้เลียแล้วตวัดลิ้นตรงส่วนปลายเพื่อดื่มกินน้ำบริสุทธิ์เสียงครางหวานก็ยิ่งดังกระตุ้นความต้องการ

"ปิ๊ก มองพี่"

"ปิ๊ก" เด็กน้อยขานรับทว่ากลับไม่ทำตาม

"ถ้าไม่ดูแล้วจะทำให้พี่ได้ยังไง ปิ๊กไม่อยากช่วยพี่เหรอ"

"อ๊า พี่โอม" มือเรียวสอดเข้ามาในกลุ่มผมสีเข้มของผมเมื่อผมอ้าปากอมเอาแก่นกายเล็กเข้ามาจนสุดความยาว

รสชาติอันแสนบริสุทธิ์นั้นหวานอย่างกับน้ำผึ้ง

"พี่โอม ฮือ ดี ดีจัง เสียว ปิ๊กเสียว"

มือเล็กทึ้งหัวของผมแรงๆ ระบายความซ่านเสียวเมื่อผมตวัดลิ้นไล้เลียความแข็งขืนในโพรงปาก บดขยี้ส่วนปลายซ้ำๆ กระทั่ง

"อ๊าาาา~"

น้ำหวานอันแสนบริสุทธ์หลั่งไหลออกมาจากส่วนยอด มือเล็กดึงทึ้งเส้นผมบนศีรษะผมจนกลัวว่ามันจะหลุดติดมือออกมา ก่อนขาเรียวจะอ่อนลงจนยืนไม่ได้

ผมขยับเข้าไปประคองเขาเอาไว้แล้วกระซิบถามชิดใบหู

“ไหวมั้ยครับเด็กดี”

“ฮือ ปิ๊กเหนื่อย”

“แล้วจะไม่ทำให้พี่หรือครับ” ผมอ้อนเมื่อพามือเล็กมาลูบไล้กลางกายแข็งแกร่งที่บวมเป่งต้องการการปลดปล่อย

“ปิ๊กยืนไม่ไหว”

“ไม่ยืนก็ทำได้ครับ” เด็กน้อยมองผมที่ขยับถอดกางเกงไม่วางตา กระทั่งนั่งลงตรงหน้าเขา ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสก็ยังมองไม่เลิก

“ของพี่โอมใหญ่จัง ปิ๊กจะอมมันเข้าไปหมดได้ยังไง”

“ก็ค่อยๆ ทำสิครับเด็กดี”

ปิ๊กมองหน้าผมสลับกับแก่นกายที่ตั้งอยู่ระหว่างขาก่อนร่างกายเปลือยเปล่าจะขยับเข้ามาใกล้

“อ๊า ปิ๊ก” เพียงมือเล็กยื่นมาสัมผัสแผ่วเบาความซ่านเสียวก็เล่นงานผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

ให้ตายเถอะ ไม่อยากคิดถึงตอนที่ความแข็งแกร่งของผมถูกตวัดเลียด้วยลิ้นเล็กๆ นั้นเลย

"พี่โอม ฮือออ~"

เด็กน้อยครางฮือในลำคอให้ผมร้องตามเมื่อริมฝีปากเล็กกดจูบลงที่โคนขาอย่างที่ผมทำให้เขาก่อนหน้านี้

"มันร้อน"

ดวงตาฉ่ำช้อนมองผม

มือเล็กค่อยๆ แตะต้องยอดปลายฉ่ำเยิ้มสีแดงจัดของผมอีกครั้ง

ผมมองภาพนั้นด้วยใจสั่นระรัว ตื่นเต้นยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ครั้งไหนๆ

"ทำให้มันเย็นลงด้วย..."

ผมสัมผัสริมฝีปากสีระเรื่อแผ่วเบาแทนคำบอก

ปิ๊กเองก็เข้าใจอะไรง่ายดี

เขากดจูบลงบนโคนขาของผมอีกครั้ง ใช้ลิ้นแตะแล้วลากเข้ามาจนเกือบถึงกายแกร่ง

"อ๊า ปิ๊ก"

ผมไม่สามารถสะกดกลั้นความรู้สึกได้

"พี่โอมเสียวเหรอฮะ"

คงเพราะผมครางเสียงดังเด็กน้อยจึงถามด้วยความใคร่รู้

"ทำให้พี่เสียวกว่านี้สิครับ อ๊ะ!"

เด็กมันร้าย

ปิ๊กกดริมฝีปากลงบนส่วนหัวแดงจัด เขาจุ๊บมันอย่างเอ็นดู ขณะลูบไล้มือไปตามความยาว

มือนุ่มๆ และเรียวลิ้นชื้นทำให้ผมเสียวแทบคลั่ง

ผมร้องเรียกชื่อคนที่ปรนเปรอให้ผมด้วยมือและลิ้นจนเสียงแหบแห้ง ทว่าเด็กน้อยก็ยังคงสัมผัสผมอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวสิ่งที่ตั้งตระหง่านตรงหน้านั้นปริแตก

"ปิ๊ก พี่อยากแตก"

เด็กน้อยช้อนตาขึ้นมอง ส่วนยอดของผมยังคงคาอยู่ในโพรงปากเล็ก

ภาพที่สะท้อนในดวงตาอีโรติกจนอยากจะกระแทกใส่โพรงปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด

"แตก ยังไงฮะ"

"พ่นน้ำออกมาไงฮะ"

"จากตรงนี้เหรอฮะ"

"อื้อ" เด็กน้อยใช้ลิ้นแตะตรงยอดฉ่ำๆ เมื่อถามให้ผมส่งมือเข้าไปขย้ำเส้นผมนุ่มระบายความซ่านสยิวที่ถูกปรนเปรอ

"ปิ๊กต้องทำยังไง"

ปิ๊กมองแก่นกายใหญ่ตาปริบๆ มือเล็กลูบไล้แผ่วเบา

"รูดแรงๆ"

ผมวางมือลงบนมือเล็กที่เทียวลูบไล้ของผมอย่างทะนุถนอม

"แล้วพี่โอมจะไม่เจ็บเหรอฮะ"

ผมส่ายหน้าแล้วชักนำให้เด็กน้อยรูดแก่นกายของผมแรงๆ ด้วยมือน้อยๆ

โคตรเสียว ผมเงยหน้ามองเพดานสูดปากด้วยความกระสัน กระนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงใจ

"อมสิครับปิ๊ก"

ผมเชยคางเด็กน้อยขึ้นมาเพื่อสบตา

ปิ๊กมองผมสลับกับของในมือแล้วค่อยๆ อ้าปากออก

"อย่างนั้นครับเด็กนี้"

ลิ้นเล็กแตะที่ส่วนยอดคล้ายกับลองชิม เพียงเท่านั้นผมก็แทบขาดใจแล้ว

"ฮือ พี่โอมมันใหญ่"

เสียงแผ่วเบาดังอู้อี้เมื่อปากเล็กครอบลงบนกลางกายแข็งขืนของผม

ปากปิ๊ก เรียวลิ้นของปิ๊ก ดวงตาฉ่ำๆ ของเขา ความไร้เดียงสา ทุกอย่างกระตุ้นให้อารมณ์ของผมพุ่งพล่านอย่างน่าเหลือเชื่อ

และผมก็ไม่สามารถทานทนต่อแรงพิศวาสได้อีกต่อไป

"ฮือ พี่โอม"

เด็กน้อยร้องอู้อี้เมื่อผมสวนสะโพกเข้าไปในโพรงปากเล็ก

ปิ๊กยังเด็กนัก เขาไม่สามารถรับผมไปจนสุดความยาวได้

"ปิ๊ก" ผมลูบไล้ใบหน้าน่ารัก เมื่อลิ้นเล็กตวัดเลียความแข็งแกร่งในโพรงปากเขา

ปิ๊กช่างไร้เดียงสา บริสุทธิ์จนอยากทำให้แปดเปื้อนเดี๋ยวนี้

"อุก"

น้ำตาไหลรินอาบแก้มใสเมื่อผมกระทั้นกายเข้าไปอีกครั้ง

"พี่โอม" เด็กน้อยเรียกผมเสียงอู้อี้ มือเล็กทุบหน้าขาเมื่อผมดึงแก่นกายออกแล้วดันเข้าไปอีก

ดีเหลือเกิน ดีที่สุดในรอบหลายปีนี้ ดีจนผมอยากจะแตกในโพรงปากเล็กๆ นี่

แต่ว่า...

"อื้อ"

ผมดึงแก่นกายที่ถูกฉาบด้วยน้ำลายออกมา ผลักเด็กน้อยที่ถูกฤทธิ์พิศวาสเล่นงานให้นอนลงบนพื้น

ผมขยับเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ ให้แก่นกายตรงกับใบหน้าคนที่กำลังหอบหายใจ แผ่นอกบอบบางสะท้อนขึ้นลงอย่างน่าเห็นใจ

"ปิ๊กแลบลิ้นออกมา"

ผมออกคำสั่งให้เด็กน้อยทำตาม

ผมซี้ดปากราวกับกินของเผ็ดเมื่อลิ้นเล็กแตะที่ส่วนยอดฉ่ำแดง

ผมชักรูดแก่นกายด้วยมือตัวเอง แต่มันให้ความเสียวซ่านกว่าครั้งไหนๆ เมื่อเด็กที่นอนอยู่ตรงหน้ามองการกระทำของผมด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม ลิ้นเล็กก็แตะต้องผมจนกระทั่งปริแตก

"อ๊า ปิ๊ก"

ตัวผมกระตุกเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนดวงหน้าน่ารักของคนที่นอนระทวยอยู่ใต้ร่างก่อนทิ้งตัวนอนลงข้างเขา ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากให้ปิ๊กหลับตาพริ้ม ใช้มือเช็ดคราบน้ำรักของผมบนใบหน้าให้เขา

ปิ๊กน่ารักมาก เขากอดผม ซุกใบหน้าบนอกแกร่งแล้วจึงหลับไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของเรายากขึ้นทุกที

ปิ๊กน่ารักขนาดนี้ ผมจะอดใจอย่างไรไหว





✧✧✧✧





ผมคิดว่าปิ๊กจะหลับจนถึงเช้าเพราะสูญเสียพลังงานไปมาก แต่ผมคิดผิด

เด็กน้อยลืมตาขึ้นมองผมหลังจากเช็ดตัวเสร็จ

"พี่โอม"

"ว่าไงครับ"

"ปิ๊กหิวข้าว"

"ไม่เหนื่อยเหรอ"

"เหนื่อยสิแต่หิวมากกว่า"

"ลุกขึ้นมาแต่งตัวก่อนแล้วค่อยออกไปหาอะไรกินกัน"

มือเล็กยื่นมาตรงหน้าทันทีเมื่อจบประโยค

ผมส่ายหน้า ยิ้มให้กับความขี้อ้อนของเขาแล้วจับมือบอบบางนั้นเอาไว้

ออกแรงดึงนิดหน่อยร่างเล็กเปลือยเปล่าก็เซมาซุกอก

"ยืนไม่ไหวอะ" เขาบอกเมื่อช้อนตามอง

"งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปหาอะไรมาให้กินดีกว่าเนอะ"

"อื้อ" เด็กน้อยพยักหน้ารัวผมจึงพยุงให้เขานั่งลงตามเดิม

ช่วยสวมเสื้อผ้าให้แล้วจึงเดินออกจากห้องมา

ผมซื้อบะหมี่หน้าปากซอยหน้าเซเว่นซึ่งเป็นอาหารโปรดของปิ๊กมา 2 ห่อแล้วรีบกลับห้องเพราะกลัวคนหิวจะรอนาน

เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าเด็กน้อยเตรียมจานชามไว้รอแล้ว

ปิ๊กเป็นเด็กที่แสนรู้มาก เขาเหมือนหมาตัวน้อยๆ ที่โคตรจะไร้เดียงสา

"ซื้อมาแค่นี้เองเหรอพี่โอม" เจ้าตัวเล็กเอ่ยถามเสียงสูงให้ผมยื่นมือไปลูบผมหน้าม้าที่เริ่มยาวด้วยความเอ็นดู

"ทำไม กลัวไม่อิ่มเหรอ"

"ปิ๊กหิวมาก" เด็กน้อยยู่หน้า มือเล็กๆ เทบะหมี่ใส่จานตามด้วยน้ำซุปใส่ถ้วย

"จะหิวอะไรขนาดนั้น"

"หิวสิ ปิ๊กยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่บ่าย"

"พี่ให้ปิ๊กกินหมดนี่เลย" ผมยิ้มแล้วใช้นิ้วดันชามบะหมี่ตรงหน้าไปให้เขา

เด็กน้อยส่ายหน้าแล้วดันมันคืนมา

"ไม่เอา พี่โอมต้องกินเยอะๆ เพราะพี่โอมทำงาน"

"แล้วปิ๊กจะอิ่มเหรอ"

"ไม่เป็นไรปิ๊กทนได้" ใบหน้าน่ารักถูกฉาบด้วยรอยยิ้มสดใส

เรากินอาหารเย็นกันเงียบๆ กระทั่งฝนตกลงมาอีกครั้ง

"ปิ๊กไม่ชอบฝนเลย"

ผมหยุดมือที่กำลังตักอาหารเข้าปาก มองเด็กน้อยที่ทอดสายตามองสายฝนผ่านช่องหน้าต่าง

"ทำไมล่ะ"

"ไม่รู้สิ แค่ไม่ชอบ"

"แต่พี่ชอบนะ"

"ทำไมล่ะ" ดวงตากลมที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างน่าเอ็นดูจ้องที่ผม

ผมยิ้ม "ก็แค่ชอบ"

"พี่โอมกวน"

"ไม่ได้กวนซักหน่อย"

"กวนแล้ว กวนมากๆ ด้วย"

"มีสิทธิ์อะไรมาว่าพี่ฮะ!" ผมยื่นมือไปหยิกแก้ม ปิ๊กพยายามปัดออกแต่ผมก็ยื่นอีกมือไปบีบแก้มอีกข้าง ให้เด็กตรงหน้าร้องหงิงๆ เหมือนหมา

"พี่โอมอะ"

ยอมปล่อยแล้วยังมองค้อนกันอีก

"พี่เป็นลูกชาวนา"

"ชาวนาคืออะไร" เด็กน้อยหยุดมือที่กำลังลูบแก้มเมื่อมองหน้าผมด้วยความสงสัย

"ชาวนาคือคนปลูกข้าว"

"อ๋อ ปลูกข้าว" ปิ๊กพยักหน้าหงึกหงัก เขาจ้องผมตาแป๋วรอคอยให้เล่าต่อ

"ฝนตกเป็นสัญญาณบอกให้เราเริ่มปลูกข้าว ถ้าน้ำดีผลผลิตข้าวก็มาก ถ้าเราขายข้าวได้มาก เราก็จะมีเงิน"

"อ๋า"

เด็กน้อยอ้าปากพยักหน้าหงึกๆ ท่าทางน่ารักเสียจนเผลอยื่นมือไปลูบแก้มใสแผ่วเบา

"แล้วทำไมพี่โอมไม่ทำนา"

"พี่ไม่อยากเป็นชาวนา"

"ไม่อยากเป็นชาวนาแล้วทำไมถึงชอบฝนล่ะ"

ความสงสัยของเด็กความจำเสื่อมไม่มีที่สิ้นสุด

"ฝนทำให้พี่คิดถึงบ้าน"

"ปิ๊กก็อยากคิดถึงบ้านเหมือนกัน" เด็กน้อยคอตกเมื่อพูด

"เดี๋ยวถ้าความจำกลับมาก็ได้กลับบ้านแล้ว"

"ปิ๊กต้องคิดถึงพี่โอมมากแน่"

ผมพยักหน้ารับ เมื่อถึงตอนนั้นผมเองก็คงคิดถึงปิ๊กเหมือนกัน



[TBC]

พี่โอมกับเจ้าปิ๊กมี E-book นะคะ คลิกเลย >> meb
ฝากด้วยๆๆๆๆ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เฮียโอมนี่ทำเด็กนิสัยเสียหมด  :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าสงสัย ปิ๊ก ทำไมความจำเสื่อม  :hao3:
ปิ๊ก ต้องเคยเกิดอุบัติเหตุแน่เลย  :really2:
ปิ๊ก เป็นลูกครึ่งสินะ

พี่โอม หื่นมากกกกกกกกกกกกกก
ไอซ์ เป็นพวกแฟนเผลอ แล้วเจอกัน ชอบนอกใจแฟนชัดๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ตอนที่ 4 สัมผัสที่ยังติดตรึง


ครืน~~

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตามที่กรมอุตุฯ ได้แจ้งเอาไว้

"พี่โอม ปิ๊กกลัว" ในความมืดเด็กน้อยที่นอนอยู่อีกฟากของฟูกว่าเสียงสั่น

พอพลิกตัวกลับไปมองก็ถูกอีกฝ่ายกอดเอาไว้

หัวใจผมสั่น ร่างกายอ่อนไหวเมื่อใบหน้าน่ารักซุกเข้าที่อก

"กลัวอะไร"

ฟ้าร้องครืน ปิ๊กกอดผมแน่นขึ้น

ที่แท้ก็กลัวฟ้าร้องนี่เอง

ผมลูบแผ่นหลังเขาแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลม

นานแล้วที่ผมไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ว่าอยากปกป้องใครซักคน

ปิ๊กหลับไปในอ้อมแขนของผม ที่จริงเราต่างก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน

อ้อมกอดมนุษย์น่ะอบอุ่นกว่าผ้าห่มเป็นไหนๆ




✧✧✧




ผมตื่นขึ้นมาในช่วงสายที่ฝนยังคงตกปรอยๆ

"ปิ๊กครับ" ผมเรียกพร้อมสะกิดที่ไหล่คนที่กอดผมแน่นตั้งแต่เมื่อคืน

เด็กน้อยปรือตามองผม เขายิ้มนิดๆ ที่มุมปากแล้วซุกหน้าลงบนอกผมอีกครั้ง

"อุ่นจัง" ปิ๊กกระชับกอดผมแน่นขึ้นอย่างคนขี้อ้อน

"ตื่นได้แล้ว"

"ปิ๊กยังอยากนอนต่ออยู่เลย"

"แต่พี่ต้องไปทำงาน"

ปิ๊กยอมผละออกไปแต่ไม่ยอมตื่น

ขี้เซาจริง

กระทั่งผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเด็กน้อยก็ยังคงนอนกลิ้งอยู่บนฟูกเช่นเดิม

"พี่โอม วันนี้ปิ๊กออกไปเล่นข้างนอกได้มั้ย"

เด็กน้อยพลิกนอนคว่ำมองผมที่กำลังสวมรองเท้าเตรียมตัวไปทำงาน

มองเขาแล้วก็นึกอิจฉา วันๆ ไม่ต้องทำการทำงาน สบายจริง

"อย่าออกไปไกลก็พอ"

"ขอบคุณฮะ" ปิ๊กยิ้มหน้าบานจนอดคิดไม่ได้ว่าเขาน่ารักจริงๆ




✧✧✧





ปกติผมเลิกงานเกือบ 4 ทุ่ม

เป็นเรื่องน่าแปลกมากที่หลายวันมานี้ปิ๊กเข้าบ้านช้ากว่าผมเสียอีก

"ไปไหนมา" ผมที่นั่งรออยู่หน้าทีวีเอ่ยถามเสียงแข็ง

"ปิ๊กง่วง"

และก็เช่นเดิม ปิ๊กเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของผมแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ผมมองเขาจนประตูปิดลง อย่างไรวันนี้ก็ต้องเค้นความจริงจากปากเขาให้ได้

รอไม่นานประตูก็เปิดออก

ผมเข้าไปคว้าแขนปิ๊กกระชากให้นั่งลงบนตักอย่างพอเหมาะพอดี

"จะไม่ยอมตอบคำถามพี่ใช่มั้ย"

ผมก้มมองหน้าเด็กน้อยอย่างคาดโทษ หวังว่าเขาจะเกรงกลัวกันสักนิดแล้วตอบคำถาม

แต่ไม่เลย

"ปิ๊กง่วง"

"ก็ตอบคำถามพี่สิแล้วค่อยนอน"

"ปิ๊กอยากนอนตอนนี้"

ด้วยสภาพทั้งกายมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กพันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่เนี่ยนะ

"ชอบให้บังคับใช่มั้ย"

"พี่โอม เจ็บนะ" เด็กบนตักผมร้องเมื่อถูกกัดที่ใบหูแรงๆ จนขึ้นรอยฟันอย่างเห็นได้ชัด

"ตอบพี่สิ"

"ปิ๊ก..." เจ้าของชื่อก้มหน้าลงให้ผมรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ "ง่วง"

"ปิ๊ก!!"

ผมตะคอกพร้อมสอดมือผ่านชายผ้าขนหนูเข้าไปสัมผัสต้นขาเนียน

สัมผัสที่ยังติดตรึงตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้

"จะตอบหรือไม่ตอบ"

กลิ่นกายหอมบริสุทธิ์เย้ายวนชวนให้สูดดม

"ปิ๊กไปช่วยงานที่ร้านสะดวกซื้อมา"

"ช่วยงานอะไร"

ผมถามขณะวนนิ้วที่ช่องทางด้านหลังซึ่งไม่น่าจะมีใครเคยสัมผัส

ปิ๊กกัดปากแน่น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจสะกดกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดลอดออกมา

"พี่โอม ตรงนั้นมัน อื้อ"

"มันทำไมครับ"

"แปลกๆ"

"รู้สึกดีกว่าข้างหน้ามั้ย"

"ฮือออ~" หูเล็กๆ ที่ถูกผมคลอเคลียขึ้นสีแดงจัด

น่าหมั่นเขี้ยว

"จะตอบมั้ย ถ้าไม่ตอบ..."

ผมดันนิ้วเข้าไปอีก ให้เด็กน้อยกัดปากแน่น

"ไม่กัดปากสิ"

ผมบอกปิ๊กเสียงแผ่ว ลูบไล้ที่ริมฝีปากนุ่มน่าสัมผัสให้เจ้าของมันอ้าเผยอออกอย่างว่าง่าย

"พี่โอม เจ็บ ฮือออ~"

ดวงตาของเด็กน้อยปริ่มน้ำเมื่อมองหน้าผม น่าแกล้งชะมัด

"เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว"

"แต่ว่า อ๊ะ!!"

ผมดันนิ้วเข้าไปจนสุดให้เจ้าของช่องทางคับแน่นจิกเล็บลงบนต้นแขนของผมสุดแรง

ร่างกายเล็กหอมกรุ่นบิดเกร็ง

ผมแช่ค้างนิ้วไว้อย่างนั้น รอคอยที่ช่องทางที่ไม่เคยถูกรุกรานผ่อนคลาย

"บอกพี่ได้รึยังครับว่าไปทำงานอะไรที่ร้านสะดวกซื้อ"

"พี่โอมเอานิ้วออกก่อน"

ปิ๊กบีบข้อมือของผมด้วยเรี่ยวแรงเท่ามด ผมจึงยอมถอนนิ้วออกตามใจน้อง

"ปิ๊กไปช่วยเป็น..."

"เป็นอะไรครับ"

"ฮือ พี่โอม" เด็กน้อยร้องเมื่อผมดันนิ้วเข้าไปอีก

"รู้สึกดีรึยัง"

"พี่โอมแกล้ง" ว่าเสียงขุ่นด้วยใบหน้าง้ำงอ

"ไม่ได้แกล้ง พี่กำลังทำให้ปิ๊กรู้สึกดีต่างหาก" ผมไล้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมกรุ่นจากซอกคอขาว "รู้สึกดีรึยังครับ"

"ปิ๊กยอมแล้ว ยอมบอกแล้ว แต่พี่โอมเอามันออกนะ"

"บอกก่อนสิ" ผมต่อรอง

"ปิ๊กไปช่วยเขาคุยกับชาวต่างชาติ"

"เป็นล่ามเหรอครับ"

"อื้อ" เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก "พี่โอมเอาออก"

ผมยอมดึงนิ้วออกตามที่ถูกร้องขอให้เด็กน้อยส่งเสียงครางอู้อี้ในลำคอ

"ตรงนี้" ผมไล้มือมายังกลางกายน่ารักที่ตั้งตรง ลูบไล้เมื่อถามชิดใบหูเล็ก "แข็งแล้วนะ"

"พี่โอมทำให้ปิ๊กหน่อย"

ผมร้อนไปหมดเมื่อเด็กน้อยแหงนหน้าร้องขอ

ปฏิกิริยาตอบสนองของปิ๊กยามถูกผมสัมผัสน่ารักมาก เสียงหวานที่ดังบอกความรู้สึกทำให้ผมร้อนไปหมดจนไม่รู้ว่าจะทนสัมผัสเขาแค่ภายนอกได้นานแค่ไหน

น้ำสีขุ่นถูกปล่อยออกมาเมื่อถึงจุดหมาย

ร่างเล็กในอ้อมกอดผมหอบสั่น

ดวงตาที่มองผมเชื่อมปรอย

ริมฝีปากเล็กอ้าเผยอน่าสอดลิ้นเข้าไปคลอเคลีย

ท่าทางของปิ๊กปลุกความปรารถนาของผม

อยากจะปลดปล่อยจนแทบจะปริแตก

"อาบน้ำอีกรอบมั้ย เปื้อนหมดแล้ว"

ระหว่างขาเรียวเฉอะแฉะไปหมด

"แล้วพี่โอมล่ะ"

มือเล็กวางลงที่หว่างขาของผมเมื่อปิ๊กพลิกตัวหันมาเผชิญหน้ากัน

"ตื่นแล้ว"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการเอง"

"ทำตรงนี้สิ"

"หือ" ผมมองหน้าซื่อๆ ของปิ๊กอย่างระคนสงสัย

"ปิ๊กอยากดู"

"ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเรา"

ผมดีดหน้าผากมนไปทีให้เจ้าตัวลูบรอยแดงนั้นแผ่วเบาพลางส่งเสียงอู้อี้ไม่พอใจ

"ทีพี่โอมยังดูของปิ๊กได้เลย"

"อยากดูจริงดิ"

เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักอย่างน่าเอ็นดู

"งั้นทำให้พี่สิครับ"

เด็กน้อยหดคอหนีพลางหัวเราะคิกคักเมื่อผมก้มกระซิบที่ใบหู

"จั๊กจี้"

"แล้วชอบมั้ย"

"ไม่รู้" ส่ายหน้าปฏิเสธแล้วยืดตัววางมือบนไหล่ของผม

"อื้อ ปิ๊ก" ขนอ่อนลุกซู่เมื่อปิ๊กกัดใบหูของผมแผ่วเบา

"พี่โอมรู้สึกดีมั้ยล่ะ"

"ดีมากครับ ทำอีกสิ"

ผมเอื้อมมือไปสัมผัสเอวบาง ปิ๊กมองตามเล็กน้อยแล้วจึงหันมาสบตากับผม

ไม่รู้ว่าปิ๊กรู้มั้ยว่าท่าทางของเจ้าตัวตอนนี้โคตรยั่ว

เด็กน้อยยกลำตัวขึ้น ลากไล้ฝ่ามือเข้าไปในกลุ่มเส้นผมจากท้ายทอย ดันใบหน้าผมให้ซุกซบกับแผ่นอกบอบบาง

ผมกอดเอวน้องรัดแน่นให้เข้ามาแนบชิดจนได้ยินเสียงหัวใจ

"พี่โอม หรือปิ๊กจะไม่ใช่คนไทย"

"ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ"

"ปิ๊กอ่านภาษาไทยไม่ได้เลยแต่กลับพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษคล่องมาก"

"ถ้าไม่ใช่คนไทยจะพูดไทยได้คล่องขนาดนี้ได้ยังไง อย่ากังวลเลย"

ผมลูบแผ่นหลังเนียนเพื่อปลอบประโลม

ปิ๊กละมือจากเส้นผมของผมแล้ววางมือลงบนไหล่ เขายืดตัวออกมาจ้องลึกเขาไปในดวงตาของผม

"ปิ๊กกลัว"

"ไม่มีอะไรน่ากลัว"

"น่ากลัวสิ ปิ๊กกลัวว่าถ้าความทรงจำกลับมาแล้วปิ๊กจะจำพี่โอมไม่ได้"

ในละครเมื่อความทรงจำที่ลืมเลือนกลับมา เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างลืมก็จะหายไปแทน

"พี่จะจำแทนปิ๊กเอง"

"แล้วถ้าปิ๊กไม่ใช่คนไทยอย่างที่พี่ร้านสะดวกซื้อว่าล่ะ เราจะได้เจอกันอีกเหรอ"

"คิดเยอะเกินไปแล้ว"

"ปิ๊กกลัวลืมพี่โอม"

"เด็กดี พี่จะไม่ยอมให้ปิ๊กลืมพี่หรอก"

ผมกอดเจ้าตัวเล็กแน่นขึ้น พรมจูบลงบนแผ่นอกของเขาให้เด็กน้อยจิกไหล่ของผม

"ไหนบอกจะทำให้พี่ไงครับ"

ปิ๊กยิ้มอายๆ แล้วเลื่อนมือมากอบกุมสิ่งที่อยู่ในกางเกงของผม

"ของพี่โอมใหญ่จัง"

"ชอบมั้ย"

"ทำไมต้องชอบ" ปากว่ามือคลึงให้ผมซี๊ดปาก

“แต่พี่ว่าปิ๊กชอบนะ ดูสิ จับไม่วางมือเลย” เมื่อถูกยิ้มล้อเลียนมือบางที่เคยสัมผัสผมเบาๆ อย่างทะนุถนอมก็รูดรั้งแรงขึ้นคล้ายกับต้องการแกล้งกัน

ปิ๊กคงไม่รู้หรอกว่าการกระทำของเขาทำให้ผมรู้สึกดีแค่ไหน

“ใช้ปากสิคนดี” ผมเชยคางน้องให้สบตาแล้วอ้อนวอน

ปิ๊กเป็นเด็กจิตใจดี สิ้นคำลิ้นเล็กก็แตะต้องลงบนส่วนปลายชุ่มฉ่ำ แตะเบาๆ ย้ำๆ จนขนทั้งกายของผมลุกไปหมด อยากจะเสร็จตอนนี้แต่ก็อยากถูกน้องครอบครองนานกว่านี้อีกหน่อย

ริมฝีปากเล็กพรมจูบลงบนท่อนเนื้อของผมตั้งแต่ส่วนหัวจรดโคนอย่างแผ่วเบาแต่ซ่านถึงใจ

แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับตอนที่เขาเลียมันด้วยลิ้นชื้น

ผมลูบไล้เส้นผมของคนที่ก้มอยู่ระหว่างขาเพื่อระบายอารมณ์ทว่ามันกลับไม่ช่วยอะไรเลย

ผมไม่กล้าดึงทึ้งเส้นผมนุ่นสลวยนี้ ผมกลัวเขาเจ็บ ผมอยากทะนุถนอมปิ๊กเอาไว้ให้ถึงที่สุด

นอกจากแฟนคนเก่าของผมแล้ว ผมก็ไม่เคยคิดอยากจะถนอมใคร กระทั่งมาเจอปิ๊ก

“ปิ๊กครับ มองหน้าพี่หน่อย อ๊า”

ผมร้องครางแทบไม่เป็นภาษาเมื่อตัวตนถูกส่งเข้าไปในโพรงปากเล็ก ขณะดวงตาฉ่ำหวานช้อนมอง

ยิ่งสบตากัน ขณะที่ถูกกลืนกินผมก็ยิ่งอยากจะปล่อยทุกหยาดหยดออกมาเดี๋ยวนี้

“อ๊า ปิ๊ก ดีครับ ดีมาก อื้อ”

ผมลากมือลงไปตามแผ่นหลังเปลือย ลูบไล้ที่ก้นกลม บีบขย้ำด้วยความอยาก อยากครอบครองร่างนี้ อยากหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

ลองลูบไล้มือข้างหนึ่งผ่านสีข้างไปที่ด้านหน้าก็พบว่า...

“เป็นเด็กนี่แข็งแรงจังนะ อ๊า ปิ๊ก”

ของปิ๊กแข็งอีกแล้ว และเมื่อถูกแซวเจ้าตัวก็ดูดของผมแรงๆ จนความซ่านเสียววิ่งพล่าน

“อื้อ” ปิ๊กตั้งท่าจะถอนปากออกเมื่อผมแกล้งหยัดสะโพกเข้าใส่ทว่าก็ถูกผมรั้งท้ายทอยเอาไว้ไม่ให้ทำอย่างใจ

แต่ปิ๊กก็ไม่ได้งอแง เมื่อถอยไม่ได้ เขาก็ลงมือกินของในปากต่อ

เสียงครางดังอื้ออึงเมื่อผมเริ่มรูดรั้งให้เขาบ้าง

ปิ๊กบิดสะโพกไปมาเมื่อความเสียวเข้าเกาะกุมร่างกาย เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าท่าทางแบบนี้มันคือการยั่วยวนดีๆ นี่เอง

“อ๊า พี่โอม”

ปิ๊กถอนปากออกเมื่อผมรูดรั้งให้เขาแรงๆ เสียงครางหวานทำให้ผมหยุดตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

“ทำอะไร” ปิ๊กร้องแต่ก็คล้องคอของผมไว้เมื่อถูกผมจับให้นั่งหันหน้าเข้าหากัน

ริมฝีปากเล็กถูกผมครอบครอง สอดลิ้นเข้าไปพันเกี่ยวอย่างที่เด็กน้อยเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาจูบตอบผม ดูดลิ้นของผมด้วยความกระหาย

ส่วนล่างที่แข็งขืนถูกผมจับรวบเข้าด้วยกัน รูดรั้งให้มันเสียดสี

เสียงครางของเราดังอื้ออึงในลำคอ จุมพิตร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจังหวะการรูดรั้ง

“อ๊า พี่โอม”

“อื้อ ปิ๊ก”

ร่างเล็กกระตุกเกร็งในจังหวะเดียวกับผมเมื่อปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน

เสียงหอบหายใจดังสะท้อนอยู่ในหู

ร่างกายชื้นเหงื่อแนบลงบนร่างของผม ใบหน้าเหนื่อยอ่อนซบลงบนไหล่ ปล่อยให้เสียงหายใจเป็นเสียงเดียวที่ดังในห้องนี้

กว่าจะหายใจได้ในจังหวะปกติก็ใช้เวลานานทีเดียว

“อาบน้ำอีกมั้ย” ผมถามพร้อมกับประทับจูบลงบนกระหม่อมคนบนตัก

ปิ๊กเงยหน้ามองผมแล้วย่นหน้าใส่ อ้าว! โกรธอะไร เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย

“พี่โอมอะ รับผิดชอบเลย ปิ๊กหมดแรงแล้ว”

ว่าจบก็ซบหน้าลงบนไหล่ของผมอีก เขินตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วมั้ยครับเด็กน้อย

ผมหัวเราะให้กับความน่ารักดีก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำ จัดการชำระร่างกายให้แล้วพาเข้านอน

ตั้งแต่มีปิ๊กอยู่ข้างกาย โลกของผมก็เปลี่ยนไป จากโลกสีเทาก็ค่อยๆ มีสีสันมากขึ้น

คงดีถ้าเราได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ




✧✧✧




เสียงฝนนอกหน้าต่างทำให้เด็กน้อยที่นอนอยู่ข้างผมซุกตัวเข้าหาผมมากขึ้น แขนเล็กๆ วางลงบนอกของผม แสงสว่างเพียงน้อยนิดที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแม้จะไม่ช่วยให้เห็นใบหน้าหลับพริ้มน่าเอ็นดูได้ชัดเจนนัก แต่ปิ๊กก็ยังดูน่ารักมากอยู่ดี

ครืนนนน~

เด็กในอ้อมกอดของผมสะดุ้ง ซุกหน้าจนจมลงบนอกก่อนเสียงอู้อี้จะดังลอดออกมาจากริมฝีปากเล็ก

“มามี๊!!”

ผมเงี่ยหูฟัง

“ดีนกลัว มามี๊ หนาว ดีหนาว” บอกว่าหนาวแต่กลับเตะผ้าห่มออกให้ผมดึงมันขึ้นมาคลุมร่างบอบบางอีกหน

‘ดีน’ คือชื่อของเด็กคนนี้อย่างนั้นเหรอ

‘มามี๊’ คำที่ใช้เรียกผู้เป็นแม่นั่นอีก

หรือว่าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้างแล้วอย่างนั้นเหรอ





[T B C]

อย่าเกลียดพี่โอม...
ขอแค่นี้แหละค่า 555
 :o8:


ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0

ตอนที่ 5 พี่โอมไม่ใช่พี่ชายปิ๊กซักหน่อย


“จะกลับแล้วเหรอ”

มือบางกอดเอวของผมตอนที่ผมลุกจากเตียงกลางดึก

“นอนนี่ก็ได้นะ แฟนไอซ์ไม่กลับมาหรอก”

“ไม่ดีกว่า” ผมแกะมือเขาออกก่อนจะลุกขึ้นเก็บเสื้อผ้าที่ถูกโยนเกลื่อนพื้นขึ้นมาสวม

“ห่วงเด็กที่ห้องล่ะสิ”

“อื้อ” ผมพยักหน้าก่อนจะเก็บกางเกงขึ้นมาสวม

“ถามจริงๆ เถอะ โอมกับน้องเป็นอะไรกันเหรอ”

นั่นสิ เป็นอะไรกันนะ ผมไม่ตอบคำถามของไอซ์แต่เลือกที่จะนั่งลงบนเตียงอีกครั้งแล้วพรมจูบลงบนหน้าผากมนอย่างที่เจ้าตัวก็หลับตาพริ้มเพื่อรับสัมผัสอ่อนโยน

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ”

“เราจะได้เจอกันอีกมั้ย”

“ตราบใดที่แฟนไอซ์ยังจับไม่ได้” ผมว่าอย่างนั้นแล้วตั้งใจจะลุกขึ้นทว่ากลับถูกคนบนเตียงคว้าคอเอาไว้แล้วประกบจูบ

ลิ้นชื้นถูกสอดเข้ามาอย่างที่ผมเองก็ไม่ได้ห้ามปราม

ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสจนอีกฝ่ายพอใจจึงจูบแก้มเขาเพื่อบอกลา

ที่จริงผมไม่อยากให้คืนนี้จบลงแบบนี้หรอก แต่ใจก็เป็นห่วงปิ๊กเกินกว่าจะทำเรื่องเห็นแก่ตัวนี้ได้





✧✧✧





กว่าผมกลับมาถึงบ้านปิ๊กก็หลับไปแล้ว

ก็ไม่แปลกนี่มันตี 2 แล้วนี่นา

“ทำไมเพิ่งกลับครับ”

คงเพราะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวคนที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มจึงปรือตาขึ้นมาถาม

ผมชะงักมือที่กำลังปลดกระดุมแล้วนั่งลงข้างเขา

“นอนเถอะ”

“ปิ๊กรอพี่โอมจนหลับไปเลย”

“พี่ขอโทษครับเด็กดี” ก้มลงจรดริมฝีปากที่หน้าผากมนแล้วบอกฝันดี

ผมนอนลงข้างปิ๊กหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ตะกรองกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้แล้วหลับไป

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมเคยชินกับการมีเจ้าตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอด

ปิ๊กซุกหน้าเข้ากับอกเปลือยเปล่าของผม

เส้นผมหอมๆ คลอเคลียปลายจมูก อดไม่ได้ที่จะพรมจูบซ้ำๆ จนคนหลับลืมตาแล้วเงยหน้ามอง

“พอแล้ว ปิ๊กจะนอน”

“ก็นอนไปสิครับ”

“ถ้าพี่โอมยังทำอย่างนี้เดี๋ยวปิ๊กก็ตื่น”

“หืม” ผมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะเลื่อนมือลงไปกอบกุมก้นกลมดันให้ขยับเข้ามาเบียดชิดกับท่อนล่างของผม

“พี่โอมไม่เล่น”

“พรุ่งนี้พี่ไม่ได้ไปไหน ทำไม่ได้เหรอ หืม”

สำหรับร่างกายของปิ๊ก ไม่ว่าสัมผัสเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลย

“พรุ่งนี้พาปิ๊กไปเที่ยวได้มั้ย พอกลับมาแล้วค่อยทำ นะครับ” เด็กน้อยอ้อนให้ผมใจอ่อน

ให้ตายเถอะ ผมแพ้ลูกอ้อนเด็กนี่เข้าแล้ว

“แต่ตรงนี้มันตื่นแล้ว” ผมยกสะโพกให้เราสัมผัสกัน

“อ๊ะ!” จนเด็กน้อยร้องออกมาผมจึงปล่อยมือจากก้นกลมแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่ม

“ให้พี่ช่วยนะครับ”

ไม่รอให้น้องอนุญาตเมื่อร่างกายของปิ๊กพร้อมสำหรับสัมผัสของผมเสมอ

เสื้อตัวบางถูกรั้งขึ้นเผยแผ่นท้องไร้ไขมัน

ร่างกายของปิ๊กบิดเกร็งเมื่อผมพรมจูบสลับเลียที่หลุมเล็กๆ กลางหน้าท้อง

“อื้อ พี่โอม”

กางเกงนอนตัวเล็กถูกรั้งลงจากสะโพกเผยส่วนน่ารักที่ชูชัน

“อ๊า~” ปิ๊กขยับสะโพกเมื่อผมเลียแผล้บเข้าที่ส่วนปลายฉ่ำน้ำ

มันเป็นสีชมพู น่ารักเสียจนต้องเลียซ้ำๆ ให้เจ้าของมันส่งเสียงครางหวานกระตุ้นความกำหนัดของผมที่ไม่อาจปิดบัง

ผมปรนเปรอให้ปิ๊กด้วยลิ้นและปากจนคนตัวเล็กปลดปล่อย

“อ๊า พี่โอม”

ผมชอบนะ ชอบที่ปิ๊กเรียกชื่อผมทุกประโยค และนั่นหมายความว่าผมมีความหมายกับเขามากที่เดียว

น้ำสีข้นถูกเช็ดด้วยหลังมือ รสชาติของปิ๊กหวานล้ำจนผมติดใจ

“ไม่โอมกินทำไม”

“อร่อยออก” เจ้าของใบหน้าสีระเรื่อ ดวงตาฉ่ำหวานเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อถูกผมยั่วเย้าด้วยการเลียที่มือตัวเองอีกครั้ง

“พี่โอมทะลึ่ง”

เราหลับไปหลังจากผมทำความสะอาดให้ปิ๊กเรียบร้อยแล้ว

เด็กน้อยก็น่ารักครับ ส่งเสียงหวานๆ ให้ได้ยินตลอดเวลาที่ถูกผ้าชื้นๆ เช็ดที่ส่วนอ่อนไหว จนผมต้องปรนเปรอให้อีกครั้ง

กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตี 3 แล้ว





✧✧✧





“อยากกินอะไรอีกมั้ย”

ผมถามคนตัวเล็กที่เกาะรถเข็นเหมือนเด็กๆ ขณะที่เราเลือกซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ บ้าน

วันหยุดทั้งทีก็อยากพาน้องไปเที่ยวหรอกนะ แต่ว่าเงินไม่ค่อยมีนี่หว่า ทำอาหารให้กินก็พิเศษแล้ว

“น้องปิ๊กมาซื้อของเหรอคะ”

ขณะที่กำลังเลือกซื้อผัก ใครสักคนที่ผมไม่รู้จักก็ทักเด็กของผม

และเจ้าตัวก็ส่งยิ้มกว้างมากๆ ไปให้

เด็กมันน่ารักใครๆ ก็เอ็นดู

“พี่ชายเหรอคะ” เธอถามเมื่อมองมาที่ผม

ปิ๊กหันมามองแล้วยิ้มแบบที่ผมไม่รู้ความหมาย พอเขาไม่ตอบจึงเป็นผมที่ตอบแทน

“ครับ”

“พี่ชายหล่อแบบนี้นี่เอง น้องปิ๊กถึงได้หวงนัก”

“หวง” ผมทวนคำอย่างไม่เชื่อหู “หวงอะไรครับ”

“ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตอบว่าอยู่กับใคร”

ผมพยักหน้ารับก่อนเธอจะหันไปลาปิ๊กแล้วผละออกไป

“ปิ๊กไม่ได้หวง” ยังไม่ทันได้ว่าอะไร คนร้อนตัวก็ออกปากปฏิเสธซะแล้ว

“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

“ไม่ได้หวงจริงๆ นะ ปิ๊กแค่ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง พี่โอมไม่ใช่พี่ชายปิ๊กซักหน่อย”

“พี่เข้าใจครับคนเก่ง อย่าคิดมาก มา อยากกินอะไรอีกครับ เดี๋ยวพี่โอมสุดหล่อจัดให้”

“พี่โอมน่ารักที่สุดเลย”

เด็กน้อยดี๊ด๊ายื่นมือมาหยิกแก้มผม

เอิ่ม นี่พี่นะ แต่เมื่อถูกทำแบบนี้ก็เขินเหมือนกันแฮะ

“ปิ๊กขอกินนี่ได้มั้ย”

นิ้วเรียวชี้ไปยังช็อคโกแล๊ตกับขนมขบเคี้ยว เพียงผมพยักหน้าเขาก็กระโดดลงไปเลือกขนมมา 2 ชิ้น

ท่าทางอยากกินขนาดนั้นแต่หยิบมาแค่ 2 เนี่ยนะ

“แค่นี้พอเหรอ”

“พอแล้ว” เด็กน้อยพยักหน้าแล้วมองผมตรงๆ “พี่โอมจนอะ ซื้อขนมเยอะๆ ไม่ได้หรอก”

โอ้โห คำว่าจนพูดเบาๆ ก็เจ็บ

“วันนี้พี่มีตังค์แล้วนะ”

“มีเท่าไหร่ ขอดูหน่อย” พอเด็กแบมือมาขอผมก็หยิบกระเป๋าเงินให้

ปิ๊กเปิดดู มองแบ็งค์หลายสีในกระเป๋า แล้วอยู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้วแล้วยื่นกระเป๋าที่ยังเปิดอ้าอยู่มาตรงหน้า

“นี่ใครเหรอครับ”

ภาพคู่ของผมกับใครอีกคน

“ปิ๊กก็อยากมีรูปคู่กับพี่โอมบ้างอะ”

เด็กน้อยย่นจมูกใส่ก่อนจะยัดกระเป๋าเงินในมือผมแล้ววิ่งไปหยิบขนมมาอีก โดยไม่รอคำตอบเรื่องคนในรูป

ก็ดีแล้วที่ปิ๊กไม่ถามต่อ

ผมมองภาพถ่ายอีกครั้ง ป่านนี้ไม่รู้ว่าคนในรูปจะเป็นยังไงบ้าง เขามีชีวิตที่ดีหรือเปล่า ก็ได้แต่สงสัยในเมื่อความจริงผมไม่อาจเอื้อมมือถึงเขาอีกแล้ว





✧✧✧





 “ปิ๊กน่ารักเนอะพี่โอม”

เด็กอะไรหลงตัวเองชะมัด แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าเซลฟี่ทุกรูปของเราคนที่โดดเด่นก็คือคนน่ารักข้างๆ ผมเนี่ย

“ว่าไงพี่โอม ปิ๊กน่ารักมั้ย” พอไม่ยอมตอบก็คะยั้นคะยอจนต้องหันไปมองหน้าคนที่มองรูปในจอมือถือของผมแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“แล้วพี่หล่อมั้ย”

ผมชะโงกเข้าไปมองเมื่อถาม

“ก็หล่อ”

“เลยหวง”

“บอกแล้วไงว่าไม่ได้หวง” ว่าเปล่าซะเมื่อไหร่ ตีแขนกันดังเพี้ยะอีกต่างหาก เจ็บเลย

“เจ็บเลย” ผมเบ้หน้าเหมือนเจ็บให้เด็กน้อยเบะปากใส่

“พี่โอมไม่เจ็บหรอก พี่โอมแข็งแรง”

เอ้า แข็งแรงแล้วเจ็บไม่ได้เหรอ

ผมเบิกตามองเด็กน้อยแล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ถ้าไม่นับเรื่องบนเตียงล่ะก็ ปิ๊กเป็นเด็กที่ไร้เดียงสามากเลยนะ

“พี่โอม ปริ้นรูปนั้นให้ปิ๊กหน่อยนะ” ปิ๊กว่าระหว่างที่เราเดินถือของพะรุงพะรังไปตามทางเดินเท้า

“หืม”

“ก็เผื่อปิ๊กต้องกลับบ้าน ปิ๊กจะได้ไม่ลืมพี่โอมไง”

นั่นสินะ สักวันเราก็คงต้องแยกกัน ถ้าน้องไม่พูดเรื่องนี้ผมก็ลืมไปเลย นึกว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปซะอีก

“ไว้วันหลังพี่ปริ้นมาให้นะ ทุกรูปเลยดีมั้ย”

“ดีครับ” เด็กน้อยยิ้มจนตาปิดขณะพยักหน้าแรงๆ อย่างชอบใจ





✧✧✧





ที่ห้องของผมมีแค่กระทะไฟฟ้ากับหม้อหุงข้าว ถึงจะซื้อของมาเยอะแต่ก็มีข้อจำกัดในการทำ

ปิ๊กนั่งมองผมทำอาหารอยู่ใกล้ๆ พอบอกให้ไปดูทีวีรอ เด็กน่ารักก็บอกด้วยเสียงใสๆ ว่าจะอยู่ให้กำลังใจ

ก็ดีครับ แต่ให้กำลังใจใกล้ๆ แบบนี้มันค่อนข้างจะเกะกะ

ให้ช่วยหยิบจับอะไรเจ้าตัวก็ไม่รู้จักซักอย่าง

“ปิ๊กชอบกินออมเล็ท” เจ้าตัวว่าอย่างนั้นเมื่อผมเทไข่ลงในกระทะเสียงดังซ่า

กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูกให้คนข้างๆ สูดเข้าเต็มปอด

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ปิ๊กทำเบรคฟาสต์ให้พี่โอมดีมั้ย เราซื้อไส้กรอกมาด้วยนี่ปิ๊กจำได้”

คำพูดของปิ๊กทำให้มือผมหยุดชะงัก จ้องหน้าเขม็งจนคนถูกมองถาม

“มองปิ๊กแบบนั้นหมายความว่าไง”

“จำอะไรได้บ้างแล้ว”

“จำอะไรฮะ ปิ๊กจำไม่ได้ซักหน่อย”

“ปิ๊ก!” พอผมเรียกเสียงแข็งเจ้าตัวก็ช้อนตามองอ้อนๆ

“จำได้ก็ได้ จำได้ว่าเรียกแม่ว่ามามี๊ เรียกพ่อว่าแด๊ด ชอบกินออมเล็ท เบรคฟาสต์ฝีมือมามี๊อร่อยมาก”

“แล้วบ้านล่ะ” คำถามถูกป้อนเรื่อยๆ ขณะวางอาหารไม่กี่อย่างลงบนโต๊ะ

“ปิ๊กจำไม่ได้ มันเลือนลาง” เด็กน้อยกัดปากเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อให้ยื่นมือไปลูบเส้นผมนุ่มเบาๆ

“ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆ คิด เดี๋ยวก็จำได้”

“พี่โอมเบื่อปิ๊กแล้วเหรอ” เด็กน้อยเอาแต่เขี่ยข้าวในจานที่ผมส่งให้ ก้มหน้าก้มตาบ่นไม่ยอมสบตากัน

“เปล่า”

“พี่โอมต้องเบื่อปิ๊กแล้วแน่ๆ ถึงอยากให้ปิ๊กจำเรื่องของตัวเองได้ขนาดนี้”

“พี่อยากให้ปิ๊กจำได้”

“เห็นมั้ยล่ะ” พูดยังไม่จบไง

ผมวางช้อนลงแล้วจับมือสั่นๆ ของปิ๊กเอาไว้ มองเข้าไปในดวงตาเขาแล้วว่าอธิบายให้เข้าใจ

“พี่อยากให้ปิ๊กอยู่กับพี่แต่มันจะดีกว่ามั้ยครับ ถ้าเราได้อยู่ด้วยกันโดยที่ปิ๊กเองก็รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน”

“แต่ถ้าปิ๊กจำได้ ปิ๊กอาจจะลืมพี่โอม เหมือนในละคร”

“พี่บอกปิ๊กแล้วไงว่าถ้าปิ๊กจำไม่ได้พี่จะจำทุกอย่างแทนปิ๊กเอง และถ้าปิ๊กเห็นรูปที่เราถ่ายด้วยกันวันนี้จะจำพี่ไม่ได้เชียวเหรอ”

“ปิ๊ก...” เด็กน้อยก้มหน้าลงให้ผมเชยคางเขาขึ้นมา

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะไม่มีวันลืมปิ๊ก”

“สัญญานะ” คนตรงหน้าผมว่าเสียงแผ่วแล้วยื่นนิ้วก้อยมาให้

“แบบนี้มันเด็ก”

ว่าจบผมก็จรดริมฝีปากลงบนเรียวปากอิ่มให้ลมหายใจผสานเป็นหนึ่งแล้วค่อยผละออก

“สัญญาแล้วนะ”

ใบหน้าน่ารักขึ้นสีระเรื่อ เขินอะไรกัน มากกว่านี้ก็ทำมาแล้วนะปิ๊ก

“กินข้าวต่อได้รึยังครับ”

ปิ๊กกดหน้าลงแล้วตักไข่เจียวเข้าปาก ค่อยๆ เคี้ยวจนผมต้องเอ่ยถาม

“ไม่อร่อยเหรอครับ”

“อร่อย”

“เคี้ยวเหมือนไม่อร่อย”

“อร่อยจริงๆ” คงกลัวว่าผมจะไม่เชื่อจึงจ้วงตักไข่เจียวเข้าปากคำโตแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มป่อง

เด็กอะ เป็นเด็กที่ทำให้ผมตบะแตกซะด้วย

“ปิ๊กรู้มั้ยคนใดที่ถูกเจียว”

“อะไรอะ งง” ถึงไม่บอกว่างงผมก็รู้ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่นว่าน้องกำลังงง

พูดไทยได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เรื่องผวนน่ะลืมไปเถอะ

แล้วนี่ผมเล่นอะไรอยู่วะ

“อะไรอะพี่โอม” ว่าจะหยุดแล้วแต่น้องถามก็ต้องตอบ เพราะถ้าไม่ตอบล่ะก็เด็กขี้สงสัยต้องกวนผมทั้งคืนแน่

“คนใดที่ถูกเจียว คนเดียวที่ถูกใจ”

เงียบกริบ

ปิ๊กกระพริบตาปริบๆ ไม่หือไม่อือกับมุกเสี่ยวที่ผมไม่เคยเล่นกับใครแล้วก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก

เสียเซลฟ์เลยนะเนี่ย จะขำหน่อยก็ไม่ได้เลยเหรอ

น้องปิ๊กโคตรใจร้าย อย่างนี้ต้องเอาคืน

ผมคิดอย่างมาดมั่น กระทั่งเวลาอาหารค่ำจบลง

ปิ๊กช่วยผมล้างจาน คงจะรู้สึกขอบคุณกว่านี้ถ้าเจ้าตัวไม่ทำจานแตกถึง 2 ใบอะนะ

“พี่โอม”

“ครับ” ผมวางจานใบสุดท้ายลงก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงหวานที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“ถูหลังให้ปิ๊กหน่อยได้มั้ย”

หืม ยั่วกันหรือเปล่าครับ

“ปิ๊กถูไม่ถึงอะ นะครับ” ถึงจะไม่อ้อนขอผมก็เต็มใจอยู่แล้ว

“ก็ได้ครับ อาบน้ำด้วยกันเลยมั้ย”

เหยื่อเนื้อหวานพยักหน้าแรงๆ ด้วยความยินดี ไม่รู้เสียแล้วว่าคนตรงหน้านี้กำลังจะแปลงร่างเป็นปีศาจร้าย

ขอโทษนะปิ๊ก แต่ตอนนี้พี่คิดดีไม่ได้จริงๆ


[TBC]

เป็นนิยายที่เขียนเพื่อความบันเทิง
โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงนะ
ฝากน้องปิ๊กกับพี่โอมด้วยจ้า :)


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่าน 2 ตอนรวด เฮียทำให้น้องนิสัยเสีย ทำให้ชีวิตน้องขาดเฮียไม่ได้  o18

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 6 คราวหน้าทำกันอีกนะ


ให้ตายเถอะไอ้โอม มึงกำลังทำอะไรอยู่วะ

เสียงหวานที่ดังผ่านลำคอทุกครั้งที่ผมสัมผัสทำให้ผมแทบจะตบแตก ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่เข้าห้องน้ำมาพร้อมกับเด็กผิวขาวนี่

ปิ๊กที่อยู่ตรงหน้าผมเปลือยทั้งตัว ส่วนผมมีเพียงผ้าขนหนูพันเอวแต่มันก็ไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนแข็งขืนที่ดันผ้าขนหนูจนขึ้นรูปบอกอารมณ์ชัดเจนได้เลย

“พี่โอมจับเอวทำไม”

เจ้าของแผ่นหลังเปลือยเอี้ยวตัวมามองเมื่อผมหยุดมือที่กำลังถูหลังแล้วลูบลงมาที่เอวคอด

เบียดไอ้ที่แข็งๆ ตรงกลางกายเข้ากับก้นนุ่มๆ ของน้อง

“ความผิดของปิ๊ก”

“ปิ๊กไม่เกี่ยว อ๊ะ!” คนไม่ยอมรับความจริงว่าให้ผมถูส่วนที่อยู่ใต้ผ้าขนหนูกับก้นเขาเบาๆ แล้วขบเม้มที่ติ่งหูน่ารัก

อยากเลียน้องทั้งตัวอะตอนนี้

“อื้อพี่โอม ปิ๊กจั๊กจี้” เด็กน้อยย่นคอหนีเมื่อผมแลบลิ้นเลียที่ลำคอด้านหลัง

ไอ้โอมจะไม่ทนแล้วนะครับ

“ปิ๊กถูให้พี่บ้างสิ” ผมพลิกตัวน้องให้หันมาเผชิญหน้ากัน

“พี่โอมหันหลังมา”

“ไม่ใช่ถูหลังครับ แต่ถูตรงนี้” ผมคว้ามือเล็กให้วางลงบนกลางกายที่กำลังปึ๋งปั๋งอยากปลดปล่อย

“พี่โอมทะลึ่ง”

“พี่ปวดจะแย่อยู่แล้ว ปิ๊กจะใจร้ายไม่ช่วยพี่จริงๆ เหรอครับ”

ยามนี้ใครจะหาว่าตอแหลก็ยอมรับครับถ้าหากน้องจะยอมสัมผัสตัวตนของผมแล้วช่วยให้มันผ่อนคลายสักหน่อย

“ปิ๊กครับ” ผมปล่อยมือน้องแล้วเกี่ยวเอวดึนให้ร่างเล็กขยับเข้ามาชิด เกยคางไว้บนศีรษะแล้วอ้อน “ไม่ช่วยพี่จริงเหรอ”

เข้าทางเลยเมื่อคนที่กอดผมตอบเลื่อนมือลงมาที่ขอบผ้าเช็ดตัว

กระตุกเบาๆ ให้มันร่วงลงบนพื้น

ตอนนี้ทั้งผมและเขาอยู่ในสภาพที่ไม่มีใครเสียเปรียบทั้งนั้น

“ใหญ่จัง” เด็กน้อยว่าเสียงซื่อๆ เมื่อเบิกตามองส่วนแข็งขืนที่กำลังยืนตรงที่กลางกายของผม

“มันคิดถึงมือนุ่มๆ ของปิ๊กจะแย่แล้ว”

ผมไม่ได้บังคับ แขนทั้งสองข้างยังคงกอดเอวน้องไว้หลวมๆ

มือของปิ๊กสั่นแต่ถึงกระนั้นเขาก็เอื้อมมันมาวางลงบนแผ่นอกแข็งแกร่งของผม

ไม่รู้ว่าน้องตั้งใจยั่วหรือเปล่าแต่มือเล็กที่ค่อยๆ เลื่อนลูบไล้จากแผ่นอกลงมาที่หน้าท้องของผมนี่มันซี๊ดมาก

ผมเม้มปากแน่น หลับตาลงเพื่อใช้ร่างกายรับสัมผัสที่เคลื่อนต่ำลงมา

นิ้วเรียวกรีดไล้แผ่วเบาที่ความยาวอันร้อนผ่าว

ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดแผ่นอกของผม ให้ตายเถอะ ลมหายใจของปิ๊กทำให้ผมร้อนไปหมด

ผมลูบท้ายทอยของเขา ขณะที่อีกคนยังคงลูบไล้ตัวตนของผมแผ่วเบา

ค่อยๆ แตะต้องเหมือนกลัวว่ามันจะหัก

โธ่ น้องครับจับแรงๆ ก็ได้มันไม่หักหรอก มีแต่จะพ่นน้ำเหมือนเมอร์ไลออนนั่นแหละ

ผมกดจูบลงบนเส้นผมอ่อนนุ่ม เลื่อนมือข้างหนึ่งไปวางทับที่มือเล็กแล้วเอ่ยเสียงพร่าด้วยความปรารถนาที่ซ่อนอย่างไรก็ไม่มิดที่เหนือศีรษะเด็กน้อย

“รูดแรงๆ เลยครับปิ๊ก อื้ม อย่างนั้นเด็กดี”

พูดจบประโยคพอดีกับที่มือเล็กคลึงกลางกายของผมด้วยน้ำหนักมือที่พอเหมาะพอดี ให้ตายเถอะ ฟินฉิบหาย ยิ่งในยามที่นิ้วเล็กๆ สัมผัสส่วนปลายตรงที่มีน้ำซึมออกมา ผมนี่แทบจะปริแตกคามือ

“แรงอีกครับ อ๊า แรงอีก”

ผมแหงนหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางกระเส่าอย่างไม่อาจสะกดกลั้น

มือนุ่มๆ นี่มันทำให้ผมนึกถึง...ใครบางคน

“ปิ๊ก” ผมเรียกชื่อเขา ในสมองนึกถึงคนตัวเล็กๆ ที่เคยเต้นระบำอยู่บนตัวของผม

“พี่โอม ร้อน ของพี่โอมมันร้อน”

รูดเท่าไหร่ผมก็ไม่ยอมปลดปล่อย ร่างเล็กจึงครางประท้วง

สงสัยคงจะเมื่อยมือ ดังนั้นผมจึงก้มหน้ามองเขา เชยคางให้ใบหน้ายั่วยวนแหงนมองก่อนจะประทับจูบลงบนปากอิ่ม เลียซ้ำๆ ให้อ้าเผยอริมฝีปากครวญคราง

ให้ตายเถอะ ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมอยากกระแทกร่างเล็กๆ นี้เดี๋ยวนี้เลย

ห้ามใจไว้นะไอ้โอมถ้ามึงไม่อยากไปนอนคุกมึงต้องห้ามใจนะ

ผมผ่อนลมหายใจเมื่อผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง

บดคลึงปากอิ่มๆ นั้นด้วยนิ้วเรียว กดหนักๆ จนปิ๊กแลบลิ้นออกมา

น่าดูด อยากดูดว่ะ แต่ตอนนี้อยากถูกดูดมากกว่า

“ใช้ปากให้พี่สิครับ”

เมื่อตกอยู่ในห้วงสวาท เด็กน้อยก็ยอมนั่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างง่ายดาย

ส่วนแข็งขืนที่ยังแข็งแรงจรดที่แก้มใส ดวงตาฉ่ำๆ จ้องมองมัน

เป็นภาพที่โคตรจะอีโรติก

แค่ถูกมองก็จะแตกแล้วแม่งเอ้ย

จุ๊บ!

ไม่ต้องจุ๊บเบาครับน้อง ครอบปากลงไปแล้วดูดเลย พี่จะไม่ไหวแล้ว

แม้ในใจจะคร่ำครวญให้น้องทำแรงๆ แต่สัมผัสเบาๆ เมื่อยามที่ลิ้นชื้นค่อยๆ แตะต้องที่ส่วนปลายฉ่ำ เงยใบหน้าแดงก่ำขึ้นมองคล้ายถามว่ารู้สึกดีไหมให้ผมยกยิ้มส่งให้อย่างยากลำบากแล้วก้มลงเลียตั้งแต่ปลายจรดโคนแบบค่อยชิมรสก็ทำเอาผมหายใจหืดหาดเป็นคนหื่นไปเลย

“อืม ปิ๊ก”

ผมวางมือลงบนเส้นผมนุ่มยามที่ปากเล็กอ้าออกแล้วอมส่วนปลายเข้าไป ลิ้นชื้นตวัดเลียเน้นตรงส่วนที่ปล่อยน้ำออกมาผมก็ถึงกับขาสั่น

ทำไมเก่งจังวะ

เก่งได้ขนาดนี้ต้องยกความชอบให้คนสอน

ปิ๊กเลียๆ ดูดๆ ตรงนั้นซ้ำๆ มือเล็กก็ช่วยรูดรั้ง ซ้ำยังช้อนดวงตาฉ่ำๆ ขึ้นมองผมอีก ถามว่าทนได้ไหม บอกเลยว่าแม้ทนได้ไอ้โอมก็จะไม่ทนแล้ว

“อื้อ”

เด็กน้อยครางประท้วงเมื่อผมหิ้วปีกเขาให้ยืนขึ้น

แผ่นหลังบอบบางแนบไปกับผนัง ดวงตากลมเบิกโพลงเมื่อผมบดขี้ริมฝีปากลงบนปากอิ่ม ขบเม้มให้อ้าเผยอแล้วสอดลิ้นเข้าไปตวัดเกี่ยว เสียงครางพร่าดังเป็นระยะพร้อมกับน้ำใสที่ไหลเลอะขอบปาก

“อ๊ะ!”

เพราะลิ้นยังกระหวัดเกี่ยวกับผม เสียงครางจึงดังออกมาเพียงแผ่วเบาเมื่อมือที่เคยลูบไล้สีข้างเปลี่ยนมากอบกุมหน้าอกเล็กแบนเรียบเอาไว้ทั้งสองมือ

ผมใช้นิ้วคลึงมันไม่เบาไม่แรงจนรู้สึกได้ว่ายอดอกเล็กๆ นั้นเริ่มแข็งขึ้นมาเหมือนกับมังกรตัวเล็กที่ชูคอขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

“พี่โอม...”

เด็กน้อยเรียกผมเสียงกระเส่า ใบหน้าน่ารักแหงนเงยเมื่อผมลากปลายลิ้นเลียตามความหวานที่ไหลเปรอะขอบปาก ปลายคางและลำคอ

ผมใช้เรียวลิ้นสัมผัสไปทั่วทุกซอกมุม แม้อยากจะทำแรงๆ แต่ก็เตือนตัวเองเอาไว้ว่าน้องยังเด็กนัก

แผ่นอกบางสะท้านไหว เมื่อลิ้นชื้นแวะเวียนเลียยอดอกสีหวาน

มันแข็งสู้ลิ้นจนอยากดูดๆ เลียๆ อยู่อย่างนี้ซ้ำๆ

มือเล็กขย้ำเส้นผมของผมจนยุ่งเมื่อมังกรตัวน้อยที่ส่วนหัวชื้นๆ ถูกสัมผัสลูบไล้ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนที่เขาเคยทำให้ผม

ปิ๊กหุบขาเข้าเมื่อผมเลื่อนมือลงไปสัมผัสที่ซอกขาเนียน

“อืม พี่โอม” เด็กน้อยอ้าปากคราง ภาพอีโรติกที่เห็นเมื่อเงยหน้ามองทำให้ผมแทบจะคุมสติตัวเองไม่อยู่

ตรงนี้สินะจุดอ่อนไหว

ผมคุกเข่าลง กดริมฝีปากลงบนมังกรตัวน้อยๆ เหมือนอย่างที่ปิ๊กทำให้ผมเมื่อครู่

“พี่โอม อื้อ ไม่เอา ไม่ อ๊า”

แม้ปากจะครางปฏิเสธแต่มือเล็กๆ ที่ยังคงไม่ละจากเส้นผมกลับกดให้ใบหน้าของผมขยับเข้าไปใกล้อีก

ผมสูดดมกลิ่นบริสุทธิ์เข้าไปจนฉ่ำปอด

รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตาแก่โรคจิตเลยว่ะ

“ตรงนี้เหรอครับ” ผมลากปลายลิ้นทิ้งความฉ่ำชื้นไว้เป็นทางยาวบนมังกรตัวเล็ก ทำซ้ำๆ จนสัมผัสได้ว่าขาของปิ๊กสั่นน้อยๆ ถึงกระนั้นผมก็ยังกดขาเขาเอาไว้ บังคับให้ยืนอยู่อย่างนั้น

ลากปลายลิ้นเข้าไปที่ซอกขาด้านใน เพียงถูกสัมผัสเขาก็เปล่งเสียงหวานออกมาให้อยากได้ยินอีก

ผมเลียบริเวณนั้นซ้ำๆ ยิ่งเลีย ขาเล็กก็ยิ่งสั่น มือนิ่มดึงทึ้งผมในบางครั้งเหมือนบอกให้หยุด แต่บางทีก็ดันให้เข้าไปแนบชิด

แน่ล่ะว่าความปรารถนาที่ถูกปรนเปรอทำให้เขาสับสน

ผมลากมือไปกุมที่ก้นนุ่มๆ อืม รู้สึกดีมาก เต็มไม้เต็มมือราวกับเกิดมาเพื่อให้ผมสัมผัสอย่างนั้นแหละ

“พี่โอม ปิ๊ก อื้ม ปิ๊ก...”

ริมฝีปากอิ่มถูกเม้มจนเป็นเส้นตรง ใบหน้าของปิ๊กแสดงออกถึงความทรมานอย่างชัดเจน เห็นแล้วก็นึกเห็นใจ

“อยากเสร็จเหรอครับเด็กดี”

เขาก้มหน้าใช้ดวงตาฉ่ำมองผมแล้วกดหน้ารับ

“อยากให้พี่ทำยังไงกับมันครับ”

เลียแผล้บเข้าที่ส่วนปลายสีสวยให้ร่างเล็กเกร็งหน่อย

“อยากให้พี่เลียมันใช่มั้ยครับ”

เด็กน้อยไม่ยอมตอบผมจึงเลียแผล้บๆ อีกหลายๆ ครั้งแบบไม่จริงจังพอจะทำให้เขาแตะสวรรค์ได้

“พี่โอม...”

“ว่าไงครับ”

ผมเงยหน้ามองเขาอีกทั้งที่ริมฝีปากจรดที่ส่วนปลายอ่อนไหว

“เลีย ปิ๊กอยากให้พี่โอมเลีย” ว่าอย่างยั่วๆ พลางลูบกรอบหน้าผมสะเปะสะปะเหมือนบอกให้รีบทำ

แต่นี่พี่โอมไง คนมันกำลังหื่น แม้อยากจะเสร็จแต่ก็ยังอยากแกล้งอยู่

“อยากให้พี่อมด้วยมั้ยครับ”

“พี่โอม อ๊ะ”

ผมแกล้งครอบริมฝีปากลงบนส่วนปลายสีหวานฉ่ำ ดูดแรงๆ จนเกิดเสียงน่าอายให้เด็กน้อยเปลี่ยนมากดศีรษะผมไว้อีกหน

“ปิ๊กไม่ไหวแล้ว ตรงนี้มันจะระเบิดแล้ว”

เด็กน้อยแอ่นสะโพกเข้ามาหา มือเล็กอีกข้างจับที่ส่วนแข็งแกร่งของตน อีกข้างรั้งท้ายทอยของผมให้โน้มเข้าไปหา

“ทำปิ๊ก ช่วยปิ๊กนะฮะ”

ถูกยั่วยวนออดอ้อนขนาดนี้ใครมันจะทนไหว

สิ้นเสียงเด็กน้อยผมก็ครอบปากลงไปรับเอาส่วนน่ารักเข้ามาจนสุด ดูดแรงๆ แล้วใช้ปลายลิ้นตวัดเลียซ้ำๆ จนสะโพกเล็กบิดเกร็ง

ปิ๊กที่ถูกอารมณ์หวามไหวเล่นงานอย่างจังปล่อยเสียงครางที่ไม่อาจปิดบังได้

เสียงหวานทำให้ผมแทบคลั่ง

ผมกอบกุมก้นกลมไว้เต็มทั้งสองมือ บังคับให้เขากระทุ้งกายเข้ามารับกับจังหวะการรูดรั้ง

ทั้งบีบทั้งขยำอย่างมันมือ สอดนิ้วเข้าไปยังระหว่างแก้มก้นทั้งสองข้าง ใช้ปลายนิ้วลากไปมาเพื่อหาช่องทางที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้น

“อ๊ะ อื้ม อือ พี่โอม ปิ๊ก...”

“ปล่อยออกมาเลยครับคนเก่ง”

นิ้วแกร่งยังทำหน้าที่ลูบวนช่องทางที่เพิ่งหาเจอ ผมครอบปากลงไปที่มังกรตัวเล็กอีกครั้ง คราวนี้ชักรูดแรงๆ ให้ปิ๊กส่งเสียงครางไปตามจังหวะเข้าออกกระทั่ง...

“อ๊า...”

เสียงหวานดังสะท้อนในห้องน้ำแคบ น้ำสีขุ่นถูกปลดปล่อยเข้ามาในปากของผม เลอะออกมาที่ขอบปากนิดหน่อยตอนที่ผมดูดย้ำๆ เพื่อรีดเอาทุกหยาดหยดของปิ๊กออกมา

“หวาน” ผมใช้หลังมือเช็ดปากแล้วก้มลงไปจูบส่วนปลายที่หมดแรงของคนในอ้อมกอดอีกครั้ง

“พี่โอมกินทำไม” เด็กน้อยว่าปนหอบ เนื้อตัวของเขาแดงไปหมดจากการกระทำของผม

“อร่อยออกครับ”

น้องจ้องผมนิ่งๆ ท่าทางเจ้าตัวคงไม่เชื่อผมจึงป้อนมันให้เขาด้วยลิ้นที่ฉวยโอกาสสอดเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกระหวัดจนได้ยินเสียงหอบเหนื่อยจึงผละออก

“เห็นมั้ยอร่อยออก”

เด็กน้อยเบ้หน้าก่อนจะก้มงุดกับการกระทำที่เจ้าตัวคงคิดว่าน่าอายก่อนหน้า แต่อย่าลืมสิว่าพี่โอมยังไม่เสร็จเลยนะครับ ลูกชายพี่โอมยังแข็งอยู่เลย

“ปิ๊กครับ”

ผมเชยคางให้น้องสบตาแล้วก้มลงไปกระซิบชิดผิวแก้ม

“พี่ยังไม่เสร็จเลย”

ดวงตากลมหลุบมองที่กลางกายผมแล้วเบิกกว้าง ตกใจอะไรครับ อมก็เคยทำมาแล้วไม่น่าตื่นตะลึงกับความมโหฬารนี้แล้วนะ

“ปิ๊กเหนื่อย” น้องตอบเสียงอ้อมแอ้ม ใจคงอยากช่วยผมแต่ตัวเองก็คงเหนื่อยด้วย

“นอนเฉยๆ ก็พอครับ”

หืม...

เสียงครางแผ่วดังจากเรียวปากฉ่ำเมื่อผมจัดท่าให้น้องนั่งคุกเข่า ยันมือทั้งสองข้างไว้ที่ผนังโดยมีผมนั่งท่าเดียวกันซ้อนอยู่ด้านหลัง

“แบบนี้มัน...”

“แค่ยันมือไว้ตรงนี้ก็พอครับ”

“อ๊ะ!”

รู้สึกว่าร่างกายของปิ๊กกำลังตอบสนองผมอีกครั้งเมื่อถูกขบเบาๆ ที่หู

ผมกอดเอวเล็กๆ ของน้องเอาไว้ ลากมือลูบไล้ที่แผ่นท้องเนียน ลูบสูงขึ้นไปกอบกุมที่อกแบน ใช้นิ้วหยอกเย้าที่ยอดอกให้เจ้าของมันเปล่งเสียงครางออกมาอีกหน

อีกข้างเลื่อนต่ำลงไปสัมผัสกับมังกรเล็กๆ ที่กำลังผงกหัวขึ้นมาอีกครั้ง

ผมจับมันรูดรั้งครู่หนึ่งก่อนจะจำใจลามันเพื่อจัดท่าทางให้ปิ๊กรองรับความปรารถนาของผมที่กำลังจะถูกสาดเข้าใส่ร่างบอบบางของเขา

“อ๊ะ พี่โอม แบบนี้มัน อ๊า...”

เสียงลมหายใจของปิ๊กดังฟึดฟัดเมื่อผมใช้ความแข็งแกร่งสอดแทรกเข้าไประหว่างก้นกลมอวบอิ่ม จงใจใช้ส่วนปลายฉ่ำๆ ลากผ่านช่องทางสีหวานที่ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัส แน่นอนว่าคนแรกที่ได้สัมผัสต้องเป็นไอ้พี่โอมคนนี้แหละ

“ดีมั้ยครับปิ๊ก”

“ไม่รู้ ปิ๊ก อ๊า ไม่รู้”

ครางแบบนี้แปลว่าดี

ผมยังคงเสียดสีความแข็งแกร่งกับส่วนนั้น น้ำที่ปริ่มตรงส่วนปลายเปรอะเปื้อนเป็นทางที่ร่องก้น ช่างเป็นภาพที่โคตรจะอีโรติก

ผมผละออกมา กวาดสายตามองก้นน้องแล้วเลียริมฝีปากอย่างกระหาย

อดใจไว้โอม น้องยังเด็ก

“ปิ๊กยันมือไว้ที่พื้นนะครับ”

ผมบอกน้องเมื่อจัดท่าให้ใหม่ให้เจ้าตัวอยู่ในท่าคลานโดยมีผมซ้อนอยู่ด้านหลัง ชักรูดส่วนแข็งแกร่งของตัวเองแรงๆ ก่อนจะสอดเข้าไประหว่างขาที่ถูกจัดให้เบียดชิดกัน

ผมแนบลำตัวลงไปให้อกชิดกับแผ่นหลังของน้อง มือนึงค้ำยันบนผนังตรงหน้า ส่วนอีกมือลูบไล้ที่ขาอ่อน

“ร้อน พี่โอม ปิ๊กร้อน”

“อื้ม...” ผมหลับตากัดริมฝีปากรับความซ่านเสียวเมื่อถอนกายออกสุดความยาวแล้วดันเข้าไปใหม่

ใช้ต้นขาปิ๊กแทนช่องทางอ่อนนุ่มที่ไม่พร้อม

เลื่อนมือไปกอบกุมส่วนแข็งแกร่งที่ยาวเลยขาน้องออกมาแนบไปกับมังกรตัวเล็กที่แข็งแรงขึ้นมาอีกครั้ง

ทั้งรูดรั้งและอัดสะโพกใส่จนร่างเล็กโยกไหวไปตามจังหวะ

ปากเล็กหวีดร้องอย่างสุขสม

“อ๊า ปิ๊ก”

ผมเองก็ครวญครางไม่ขาดปาก ดันใบหน้าน่ารักให้หันมาแลกลิ้นกันที่ภายนอก ไม่สนใจน้ำใสๆ ที่หยดลงบนพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า

“อ๊ะ อ๊า...”

ปิ๊กร้องออกมาก่อนเมื่อผมผละริมฝีปากออกเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กน้อยปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง

ผมยืดตัวขึ้น ใช้มือกดสะโพกเล็กเอาไว้แล้วค่อยอัดสะโพกให้ท่อนกายขยับเข้าออกระหว่างขาน้องแรงๆ อีกหลายครั้งจน...

“อ๊า....”

เสียงหอบของปิ๊กดังประสานกับเสียงครางของผม

ร่างเล็กหอบหนักจนตัวโยนเมื่อผมทิ้งตัวทับเขาจากด้านหลัง ขาเล็กที่หนีบแน่นก่อนหน้าคลายออก ปิ๊กทิ้งตัวนอนลงบนพื้นห้องน้ำทั้งตัว

ท่าทางเหมือนคนหมดแรงที่เมื่อมองแล้วก็นึกสงสาร

หรือผมจะรุนแรงกับน้องเกินไป แต่ว่านะ ใครใช้ให้ปิ๊กน่ารักวะ พอน่ารักผมแม่งก็ห้ามตัวเองมาไหวไง

“ปิ๊กครับลุกไหวมั้ย”

ผมถามเมื่อขยับลุกขึ้นนั่ง พอน้องไม่ตอบจึงหิ้วปีกให้เขาขึ้นมานั่งบนตัก

“พี่ทำแรงไปเหรอครับ”

“เมื่อกี้มันอะไร”

“ชอบมั้ย อยากให้พี่ทำอีกหรือเปล่า” ผมเลี่ยงไม่ตอบแล้วเป็นฝ่ายป้อนคำถามที่ร่างน้อยต้องก้มหน้างุดให้ผมหัวเราะในลำคอให้กับความน่ารักนี้

กลับมาน่ารักอีกแล้ว แต่ภาพของคนที่นอนให้ผมกระทั้นกายใส่เมื่อครู่นี้ก็ยังคงตราตรึง ไม่ว่าภาพไหนๆ ก็ไม่สามารถลบล้างได้

“คราวหน้าทำกันอีกนะ”

“พี่โอมมีความสุขหรือเปล่า”

“แน่นอนสิครับ” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มให้เมื่อเชยคางน้องมองหน้ากัน “แล้วปิ๊กล่ะมีความสุขกับสิ่งที่พี่ทำหรือเปล่า”

ปิ๊กกดหน้าเบาๆ แทนคำตอบให้ผมใจชื้นขึ้นมา

ถ้าอย่างนั้น...ครั้งหน้าเราจะทำกันเมื่อไหร่ดีล่ะปิ๊ก



[TBC]

คุณโอม เข้าคุกเชิญช่อง 2
 :mew5:


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อีพี่โอม ทำน้องเสียคนตั้งแต่เด็ก  :m16:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
เราได้ทำการบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หมดแล้ว 

คุณวอนนอนคุก

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้องง โดนอีพี่หลอกกกกแล้วววววว ช่วยด้วยยยลูกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 7 คืนนี้ลองจับดูมั้ย


“ไม่ไปค้างกับไอซ์จริงๆ เหรอ”

“เอาไว้คราวหน้านะ”

“ไอซ์คิดถึงโอมอะ” ไอซ์เกี่ยวเอวของผมไว้เมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้อีก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์ฉาบฉวยนี้ แต่ตอนนี้แค่คิดว่าปิ๊กรออยู่ที่ห้องผมก็เอาแต่คิดว่าต้องกลับห้องให้เร็วที่สุด

ผมแกะมือของไอซ์ออกแผ่วเบาเพื่อรักษาน้ำใจแล้วจึงว่า

“ครั้งหน้าเราจะไม่ทำให้ไอซผิดหวังเลย แต่วันนี้เราต้องขอตัวจริงๆ”

“สัญญาแล้วนะ”

“อื้อ”

ไอซ์กอดคอผมรั้งให้โน้มใบหน้าเข้าไปรับจูบจากริมฝีปากสีสดของเขา จูบของผมกับไอซ์มักจะเริ่มต้นอย่างร้อนแรงและจบลงอย่างอ้อยอิ่งอย่างแสนเสียดาย

ผมส่งไอซ์ขึ้นรถก่อนจะเดินทางกลับบ้านตัวเองบ้าง







ทางเข้าบ้านค่อนข้างมืด เพียงแค่นึกว่าปิ๊กเดินลำพังบนเส้นทางมืดๆ นี้แล้วก็นึกห่วงขึ้นมา

ผมรีบสาวเท้าเร็วๆ เพื่อไปถึงห้องให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องลดความเร็วเมื่อเห็นคนแปลกๆ เดินวนอยู่ใกล้ๆ อพาร์ทเมนท์

“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”

ไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอก แค่สงสัยก็เลยเข้าไปถาม และคนถูกถามก็ยิ่งทำตัวให้ไม่ไว้ใจเมื่อพวกเขาดูตกใจมากเกินคนปกติไปหน่อย

“เอ่อ พอดีสนใจอยากเช่าห้องน่ะหนุ่ม”

คุณยายเป็นคนตอบให้ผู้หญิงวัยกลางคนข้างตัวพยักหน้าแรงๆ สำทับ

“ป่านนี้แล้ว คนดูแลอพาร์ทเมนท์นอนไปหมดแล้วมั้งครับ”

“งั้นเหรอ เอาไว้ยายมาใหม่พรุ่งนี้เนอะ”

“สำนักงานเปิด 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นนะครับ”

ทั้งคู่พยักหน้ารับก่อนจะสาวเท้าเร็วๆ ห่างผมออกไป

ยิ่งมองตามก็ยิ่งรู้สึกว่าท่าทางของทั้งคู่มีพิรุธจนนึกสงสัย แต่ถึงกระนั้นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนอกจากปล่อยมันไปในเมื่อไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเรา

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เห็นเด็กน้อยนอนคว่ำหน้าเขียนบางอย่างอยู่บนพื้น

ผมก้าวเข้าไปนั่งข้างเขาจ้องมองภาพวาดบนกระดาษแล้วถาม “นั่นอะไรครับ”

“ความทรงจำของปิ๊ก” คำตอบทำให้ผมหยุดหายใจไปชั่วขณะ

“จำได้แล้วเหรอครับ”

“เปล่า” ค่อยโล่งใจหน่อย “ปิ๊กลองวาดภาพในหัวแต่ก็ไม่ค่อยได้เรื่องหรอก”

“อยากไปจากพี่แล้วเหรอครับ”

คนที่กำลังจรดดินสอลงบนกระดาษเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะพลิกนอนหงายเพื่อหนุนตักของผมด้วยท่าทางอ้อนๆ

“ปิ๊กอยากอยู่กับพี่โอมตลอดไป”

ผมลูบเส้นผมนิ่มเบาๆ อย่างนึกเอ็นดูกับคำพูดที่ไม่แน่ใจว่าเพื่อเอาใจหรือเป็นความจริงจากใจกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกดี

“ปิ๊กหิวมั้ย”

“พี่ที่มินิมาร์ทพาไปกินข้าวเย็นแล้ว พี่เค้าให้นี่มาด้วยนะ” เด็กน้อยลุกขึ้นนั่งแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

ธนบัตรสีเทา 2 ใบถูกยื่นมาตรงหน้า

“พี่โอมเก็บไว้นะ”

“เงินของปิ๊ก ปิ๊กก็เก็บไว้สิครับ”

“ปิ๊กไม่ได้ใช้นี่นา พี่โอมเก็บไว้เถอะ” พอถูกอ้อนเข้าหน่อยก็ต้องจำใจรับเงินนั้นมาเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะยื่นธนบัตรสีแดงที่เหลืออยู่ในกระเป๋าให้คนตรงหน้า

“เก็บไว้ซื้อของที่อยากกิน”

“ถ้าพี่โอมไม่ซื้อให้ปิ๊กก็ไม่อยากกินอะไร” ฟังเขาพูดสิครับ จะไม่ให้ผมหลงได้อย่างไรกัน

นานทีเดียวกว่าจะบังคับให้คนตัวเล็กพกเงินติดตัวได้ ถึงจะทำหน้าบูดบึ้งตอนรับเงินแล้วก็บ่นนิดหน่อยแต่ก็ยอมเก็บเงินใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองไป

ปิ๊กยังไม่มีกระเป๋าสตางค์นี่นา เอาไว้วันหลังค่อยพาไปเลือกซื้อซักใบ







วันนี้ผมออกจากบ้านก่อนเวลาทำงานราว 2 ชั่วโมงเพราะถูกผู้หมวดก้องคนที่รับเรื่องของปิ๊กเอาไว้ในการดูแลเรียกพบ

ก่อนออกมาไม่ลืมแวะบอกที่สำนักงานเรื่องคนแปลกหน้าที่เจอเมื่อคืน

ไม่รู้สิ ผมแค่รู้สึกไม่วางใจ ถึงแม้ว่าคนแปลกหน้าที่ผมเจอจะเป็นเพียงผู้หญิงก็ตามที

“สวัสดีครับหมวด” ผมเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงโดยไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต

“น้องไม่มาด้วยเหรอครับ”

ถามเมื่อมองกันตรงๆ ผมจึงส่ายหน้า

“เปล่าครับ ว่าแต่หมวดเรียกผมมา มีความคืบหน้าเหรอครับ”

“ตอนนี้เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย”

ผมร้องอ้าวเมื่อได้ยินอย่างนั้น เรียกผมมาเพื่อบอกว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลยเนี่ยนะหมวด ผมไม่โอเคว่ะ

“ที่เรียกมาวันนี้เพราะอยากคุยกับน้อง ผมคงสะเพร่าเองที่ลืมบอกให้คุณพาน้องมาด้วย”

“คิดไม่ถึงเหมือนกันครับ เอาไว้วันพุธได้มั้ยครับ ผมหยุดงานพอดี”

“ก็ได้นะ แต่ว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ช่วยเล่าเรื่องของน้องให้ผมฟังคร่าวๆ ได้มั้ย”

“เรื่องอะไรล่ะ”

“ก็ช่วงที่อยู่กับคุณน้องจำอะไรได้บ้างหรือเปล่า”

คำถามของหมวดก้องทำให้นึกถึงคืนวันฝนตก

ผมเล่าให้ผู้หมวดฟังคร่าวๆ เท่าที่รู้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะช่วยอะไรได้บ้างหรือเปล่า

“ชื่อดีนงั้นเหรอ”

ผมพยักหน้า “ผมเพิ่งทราบเรื่องเมื่อไม่นานมานี้เอง ก่อนหน้านี้ก็เลยตั้งชื่อให้ใหม่ไปแล้ว”

“ตั้งชื่อ?” ผู้หมวดมุ่นคิ้ว

“ปิ๊กครับ ผมเรียกเค้าอย่างนั้น และดูเหมือนเจ้าตัวจะชอบไม่เบา” นึกถึงรอยยิ้มและคำเรียกแทนตัวว่าปิ๊กๆๆๆ แล้วก็อดยิ้มไม่ได้

“อย่าผูกพันกันให้มากนะครับ เพราะซักวันก็คงต้องแยกกัน”

คำของผู้หมวดทำให้ความฝันหวานๆ ของผมมลายไป นั่นสินะ มัวแต่หลงใหลมัวเมากับความหวานตรงหน้าจนเกือบลืมไปว่าเมื่อถึงเวลาก็คงต้องปล่อยเขาไป

สำหรับผมกับปิ๊ก เราคงพบกันเพื่อจากจริงๆ

ผมบอกลาผู้หมวดเมื่อธุระของเราจบลง

เอ๊ะ! ขณะเดินผ่านบอร์ดซึ่งมีรายชื่อและรูปถ่ายของผู้รายแปะเอาไว้ก็ต้องหยุดแล้วขยับเข้าไปดูใกล้ๆ

ภาพคุณป้าแก่ๆ กับผู้หญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งสะดุดตาจนต้องย้อนกลับไปหาผู้หมวดอีกครั้ง

“ไงคุณโอม มีอะไรอีกเหรอครับ”

เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นผมที่กำลังหน้าตื่นผู้หมวดก็ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งในแบบของเจ้าตัว

“ผมคิดว่าผมเจอผู้ต้องหาที่แปะอยู่บนบอร์ดครับ” คราวนี้ผู้หมวดหน้าตื่นกว่าผมเสียอีก

เขาลุกขึ้นแล้วถาม “คนไหนครับ”

“ป้าแก่ๆ กับผู้หญิงท้วมวัยกลางคน”

“เจอที่ไหนเมื่อไหร่”

“เมื่อคืนหน้าอพาร์ทเมนท์ผมครับ”

“เจอเหยื่อรายใหม่สินะ”

“ว่าไงนะครับ” เพราะผู้หมวดบ่นพึมพำผมจึงได้ยินไม่ถนัดนัก

“สองคนนั้นเป็นผู้ต้องหาคดีลักพาตัวครับ เหยื่อรายก่อนๆ ถูกพาไปขายให้ลูกค้าที่ชื่นชอบเด็กผู้ชาย”

“ปิ๊ก!!!”

ผมวิ่งออกมาจากโรงพักอย่างไม่คิดชีวิต พยายามโบกแท็กซี่ทั้งที่เงินในกระเป๋ามีไม่มากนัก

“คุณโอม ขึ้นรถ”

ขณะที่กำลังกระวนกระวาย รถตำรวจก็หยุดตรงหน้า ผู้หมวดลดกระจกแล้วตะโกนเรียกให้ผมรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างใน

มองเข็มไมล์ที่ชี้เลข 100 แต่ก็ยังรู้สึกว่ารถวิ่งช้าเหลือเกิน อย่างน้อยมันก็ช้าว่าใจของผม

ขอให้ปิ๊กไม่เป็นอะไร

“ใจเย็นๆ นะคุณโอม ปิ๊กไม่เป็นไรหรอก”

ผมไม่ได้รับฟังคำผู้หมวด ไม่มีกะจิตกะใจจะทำใจเย็นด้วย นั่นคนในความดูแลของผมนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับปิ๊กล่ะก็ผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย

ผมจะมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดได้ยังไง







“พี่โอม”

ขอบคุณพระเจ้า เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วพบว่าปิ๊กกำลังนั่งนอนคว่ำหน้าวาดรูปลงในสมุดที่เก็บออกมาจากกล่องหนังสือของผม

ผมโผเข้าไปกอดน้องไว้แนบอก ลูบศีรษะแผ่วเบาอย่างที่คนในอ้อมกอดได้แต่นิ่งเพราะความงุนงง

“อะไรกัน กอดแน่นเชียว”

มือเล็กๆ ลูบแผ่นหลังของผมเหมือนปลอบก่อนจะทักอีกคนที่ยืนอยู่ที่ประตู

“ผู้หมวดสวัสดีครับ”

“สบายดีนะครับปิ๊ก” ผมปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระเมื่อเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้น

“สบายมากเลยครับ พี่โอมดูแลปิ๊กดีมาก”

“นั่น...” ดวงตาเฉียบคมของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มองไปยังสมุดที่วางอยู่บนพื้น “ขอหมวดดูได้มั้ย”

เด็กน้อยพยักหน้าก่อนจะยื่นสมุดให้

“วาดอะไรครับ”

“ภาพในหัวครับ”

“นี่บ้านเหรอ” ผมชะโงกหน้าไปมองสิ่งที่ผู้หมวดจับจ้องอยู่แล้วก็พบกับสิ่งที่เขาพูดถึงจริงๆ “หลังใหญ่จัง บ้านใครเหรอครับ”

“ปิ๊กไม่รู้ อยู่ๆ มันก็มีภาพในหัว ปิ๊กไม่รู้ว่าบ้านใคร”

“ปิ๊กวาดรูปเก่งจังเลย”

“นิดหน่อยครับ” ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง วาดดีมากเลยต่างหาก

“เอาอย่างนี้นะ ถ้ามีภาพอะไรผุดขึ้นมาในหัวอีกให้ปิ๊กวาดแล้วเอามาให้หมวดดูนะครับ”

ปิ๊กพยักหน้าเบาๆ แล้วรับสมุดกลับมากอดไว้

“ยิ่งปิ๊กวาดรูปได้เยอะเท่าไหร่เราก็จะได้บ้านเร็วเท่านั้น”

“ครับ” น้องตอบรับเบาๆ แล้วเหลือบมองผมด้วยความรู้สึกเศร้าแปลกๆ

“แล้วก็อย่าไว้ใจคนแปลกหน้านะครับ”

“ปิ๊กไว้ใจพี่โอม” นั่นสินะ ผมก็คนแปลกหน้าเหมือนกันนี่หว่า

“ยกเว้นพี่โอมไว้คนนึง”

ผู้หมวดกลับออกจากห้องไปหลังจากสั่งอะไรมากมายให้ปิ๊กทำตาม ไม่รู้หรอกว่าน้องจำได้หรือเปล่า อาจจะจำได้แต่ก็คงไม่ทั้งหมดหรอก

อีก 30 นาทีก็จะถึงเวลาที่ผมต้องเข้างานแล้ว

ห่วงน้องก็ห่วงแต่ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีจะกินไง

“รอพี่อยู่ที่ห้องแล้วพี่จะรีบกลับมานะ”

“ปิ๊กต้องไปช่วยงานที่ร้านมินิมาร์ท”

“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”

เด็กน้อยส่ายหน้า ดวงตาของเขามีแววมุ่งมั่นจนผมไม่อาจขัด ผมบอกให้ปิ๊กรีบแต่งตัวเพื่อที่เราจะได้ออกไปพร้อมกัน ก็นะ ในสถานการณ์ที่มีโจรลักพาตัวป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้บ้านแบบนี้ใครจะกล้าปล่อยให้น้องเดินไปไหนมาไหนคนเดียววะ

ผมส่งปิ๊กที่ร้านสะดวกซื้อ ฝากคนที่ร้านให้ดูแลน้องไม่ให้คลาดสายตา ก่อนออกมาไม่ลืมกำชับเจ้าตัวเล็กอีกครั้ง






เพราะเอาแต่พะว้าพะวงเป็นห่วงปิ๊กกลายเป็นว่าวันนี้ทั้งวันผมไม่มีสมาธิทำงานเลย







ผมมุ่งหน้ากลับห้องทันทีเมื่อเลิกงาน สืบเท้าเร็วๆ จนเกือบจะกลายเป็นวิ่งเมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังกวนใจอย่างมาก

และก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเปิดประตูแล้วพบว่าปิ๊กนอนคว่ำวาดภาพอยู่กลางห้อง

“พี่โอม” เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม วางปากกาลงแล้วลุกขึ้นก้าวเข้ามาหาผมที่กำลังถอดรองเท้า

หมับ!

กอดแล้วแนบใบหน้าไว้ที่แผ่นหลังจนผมทำตัวไม่ถูก

“อ้อนจะเอาอะไรครับ”

เด็กน้อยส่ายหน้าเมื่อผมเอี้ยวตัวไปถาม

“แล้วกอดแน่นขนาดนี้หมายความว่ายังไงครับ”

“ปิ๊กรักพี่โอม”

หืม

รู้หรือเปล่าหรอกว่าคำว่ารักที่เจ้าตัวพูดออกมามันหมายความว่ายังไง

“พี่ที่มินิมาร์ทบอกว่าพี่โอมเป็นห่วงปิ๊กมาก ปิ๊กดีใจมากเลยนะ”

เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาบอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง

นับวันก็ยิ่งน่ารักนะคนนี้เนี่ย

ผมยิ้มตอบแล้วจูงมือเขาเข้าไปในห้อง ช่วยกันตั้งโต๊ะ เตรียมจานชามสำหรับบะหมี่มื้อดึกของเรา

“แล้วนั่นวาดอะไรอยู่ครับ” ถามขณะตักหมูแดงในชามของตนส่งให้น้อง

ปิ๊กมองไปยังสมุดที่ถูกกางไว้กลางห้องแล้วเอื้อมมือไปหยิบ

“วาดพี่โอม”

ภาพที่ถูกร่างด้วยดินสอถูกยื่นมาให้ดู

“นี่พี่เหรอ”

“อื้อ”

“กล้ามพี่แน่นกว่านี้นะ”

“พี่โอมอะ” พอถูกผมแซ็วก็หูแดงขึ้นมาอย่างน่าเอ็นดู

“คืนนี้ลองจับดูมั้ย พี่ให้จับทั้งตัวเลย คราวหน้าจะได้วาดให้มันสมส่วนน้อย”

“ไม่เอา!!”

เด็กตรงหน้าตะโกนพลางทำหน้าบึ้งใส่ เจ้าตัวจะรู้ไหมนะว่าทุกท่าทางมันช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง

“ไม่เอาจริงเหรอ” ยิ่งน่ารักผมก็ยิ่งอยากแกล้ง

พอถูกผมเย้าต่อคนตรงหน้าก็เงียบไปเลย ก้มหน้าก้มตากินอย่างกับหิวมากมาย ปิ๊กเอ้ย ไม่เนียนครับไปฝึกมาใหม่

ผมมองเขาแล้วก็หัวเราะในลำคอ ส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูแล้วก้มหน้าจัดการอาหารของตนเหมือนกัน

“เดี๋ยวปิ๊กล้างเอง พี่โอมไปอาบน้ำเถอะครับ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทำเอง”

“พี่โอมทำงานมาทั้งวัน ให้ปิ๊กช่วยนะ นะครับ” พอถูกอ้อนหัวใจก็อ่อนยวบ ยอมปล่อยมือจากจานชามแล้วผละออกมา

ผมถอดเสื้อออกทั้งที่ไม่ละสายตาจากแผ่นหลังเล็กของคนที่กำลังเก็บจานชามไปล้าง

มองแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ รู้สึกเหมือนเขาเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในหัวใจที่กลวงโบ๋มานาน การมีปิ๊กอยู่ข้างๆ มันดีเสียยิ่งกว่าดีซะอีก

กว่าจะออกจากห้องน้ำ ปิ๊กก็นอนหลับไปแล้ว

ผมทรุดนั่งลงข้างๆ เขา กวาดตามองใบหน้าน่ารักยามหลับพริ้ม อดใจไม่ได้ที่จะส่งมือไปลูบไล้แก้มเนียนให้เจ้าตัวครางอืออาในลำคอ

ผมก้มหน้าลงไปจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมน สูดดมความหอมกรุ่นครู่หนึ่งแล้วค่อยผละออก

ล้มตัวนอนแล้วตะกรอกกอดน้องไว้แนบอก

หลับไปแล้วฝันดี







วันนี้ผมออกจากบ้านเร็วกว่าปกติ ตั้งใจว่าจะไปอัดรูปเซลฟี่ที่ถ่ายกันวันก่อนให้ปิ๊กซะหน่อย แล้วค่อยแวะไปหาซื้อกระเป๋าสตางค์ให้เขาสักใบ

“วันนี้ดูอารมณ์ดีนะ มีเรื่องดีๆ เหรอ”

พี่อาร์ท รุ่นพี่ที่ฟิตเนสเอ่ยทักทายเมื่อผมก้าวเข้าไปในห้องล็อคเกอร์เพื่อเปลี่ยนชุด

“ก็ดีครับ”

“ไอซ์เหรอ”

“ครับ?” ผมมุ่นคิ้วเมื่อหันไปมอง มือที่กำลังเก็บของที่ซื้อมาใส่ล็อคเกอร์ก็ชะงักไป

“ก็นึกว่าคบกับไอซ์ เห็นช่วงนี้เขาตามโอม”

“อ๋อ ไอซ์มีแฟนแล้วครับ”

“อ้าว แล้ว...” คงหมายถึงเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับไอซ์ที่พี่อาร์ทคงดูออกว่ามันเลยเถิดไปถึงเรื่องบนเตียงแล้ว ก็แน่ล่ะไอซ์เป็นคนเปิดเผยขนาดนั้น

“ก็แค่ความพึงพอใจของเราทั้งคู่น่ะครับ”

“ระวังตัวหน่อยนะโอม”

“ผมว่าจะหยุดแล้วล่ะครับ ที่จริงก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน”

“พี่จะบอกอะไรให้นะ เซ็กส์ที่เกิดจากความรักน่ะมันยอดเยี่ยมกว่าเป็นไหนๆ เลยล่ะ”

“ครับ ผมก็อยากสัมผัสมันในสักวัน”

พี่อาร์ทตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เซ็กส์ที่เกิดจากความรักงั้นเหรอ

ครั้งหนึ่งผมก็เคยสัมผัสมันหรอก

ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ทุกอย่างเป็นสีชมพู ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เหมือนกับถูกโอบอุ้มเอาไว้ แต่เมื่อหมดรักนี่สิ เจ็บ เจ็บเจียนตาย







“วันนี้จะปฏิเสธเราอีกรึเปล่า”

ไอซ์ที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่หันมาถามผมที่ดูแลการออกกำลังกายของเขาอย่างใกล้ชิด

“ก็ลองชวนดูสิ”

“ชวนแล้วไม่ไปเราก็เฟลสิ” เจ้าตัวหน้าบึ้งใส่แล้วหันไปตั้งใจวิ่ง

“ในเมื่อพี่เค้าตอบสนองความต้องการของไอซ์ไม่ได้ ทำไมยังคบอยู่” เพราะความสัมพันธ์ของเรามันเลยเถิดไปแล้วผมจึงไม่ลังเลที่จะถามอะไรก็ตามที่ผมอยากรู้

“ก็รัก”

“รักเค้าแต่นอนกับคนอื่นเนี่ยนะ”

ไอซ์เหลือบมองผมครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะมองตรงไปข้างหน้าอีกครั้ง

“ก็แค่มีเซ็กส์ด้วย ไม่ได้รักซักหน่อย แล้วถ้าโอมปฏิเสธเพราะคิดว่าเราชอบโอมล่ะก็ คิดผิดแล้วล่ะ เราแค่อยากมีอะไรกับโอมเท่านั้นเอง”

“เรามีเวลาไม่เยอะ เป็นห่วงน้องต้องรีบกลับ”

“ก็ไม่ต้องใช้เวลามากนี่”

เหมือนกับเป็นการชักชวนกันกรายๆ และผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ ก็ต้องยอมรับว่าผมก็ชอบร่างกายของเขาไม่น้อยเหมือนกัน

“อื้อ โอม แรงอีก แรง”

ในห้องโดยสารแคบๆ ที่เบาะหลัง ไอซ์นั่งอยู่บนตักของผม ถึงปากจะร้องครางบอกให้ผมทำแรงๆ แต่เจ้าตัวนั่นแหละที่เป็นฝ่ายขยับโยกเสียจนรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ในมุมมืดๆ ของลานจอดรถสั่นไปตามกิจกรรมเข้าจังหวะของเรา

ผมไล้มือไปตามแนวกระดูกสันหลังของเขา วางมือลงบนเอวบางแล้วเป็นฝ่ายกำหนดจังหวะตอนที่สวนกายเข้าใส่ความอ่อนนุ่มคับแน่นให้เสียงครางดังขึ้นอีกระรอก

“อ๊ะ อื้อ อ๊า โอม โอม อื้ม”

เขาเงยหน้าร้องครางให้ผมลากปลายลิ้นเลียที่ช่วงคอระหง ลากต่ำลงมาตามแนวกระดุมเสือที่ถูกปลดทั้งที่เสื้อเชิ้ตยังคงคาอยู่ที่ไหล่

ภาพที่โคตรจะอีโรติกทำให้ผมพลิกตัวเขาให้นอนลงบนเบาะแล้วทาบทับร่างลงไป

ลูบไล้ปลีน่องยั่วเย้าให้เจ้าตัวอารมณ์เตลิดแล้วแยกขาของเขาออกกว้าง

“อ๊ะ โอม แรง อ๊ะๆๆ”

เสียงครางดังตามจังหวะกระแทกกระทั้น พร้อมกับยกสะโพกขึ้นรับ ดวงตาของไอซ์ฉ่ำหวานอย่างคนตกอยู่ในห้วงกามารมณ์ ยอดอกของเขาวาววับไปด้วยน้ำลายของผม เต่งตึงเพราะถูกดูดและกัด

เขาบิดกายเร่าเมื่อผมกระแทกแรงๆ ส่งแขนเล็กทั้งสองข้างขึ้นมาลูบไล้ที่ไหล่แกร่งแล้วโอบรอบลำคอ บังคับให้โน้มใบหน้าเข้ามาบดขยี้ริมฝีปาก แลกเปลี่ยนความหวานเมื่อลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อ๊ะ อ๊า”

ร่างเล็กกระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะแผ่นท้องตน

ผมเองก็หยุดการกระทำ ปล่อยให้เขาพักสักครู่แล้วก้มลงไปเลียที่ริมฝีปากของเขา บอกผ่านการกระทำว่าผมจะทำต่อแล้ว

ท่อนกายแกร่งในร่างกายของเขากระตุกให้เจ้าตัวร้องคราง

“อื้อ ไอซ์ บีบแน่นไปแล้วนะ อื้อ”

ผมบดอัดสะโพกใส่เขาแรงๆ อย่างที่ไอซ์เองก็ขมิบช่องทางรักของเขาปรนเปรอให้ผมด้วยเช่นกัน ที่หางตาผมเห็นปลายทางอยู่รำไร ดังนั้นจึงถอนกายออก ประคองมันไว้ด้วยมือแล้วรูดแรงๆ จนน้ำสีขุ่นพุ่งออกมาเปรอร่างกายบอบบางที่สุดแสนจะยั่วยวน

“อ๊า!” ผมเชิดหน้าร้องครางด้วยความสุขสมชั่วขณะหนึ่งผมเห็นภาพของปิ๊กทับซ้อนคนที่นอนระทวยอยู่ใต้ร่าง

คิดถึงจัง คิดถึงสัมผัสของปิ๊กจะแย่อยู่แล้ว




[T B C]

พี่โอมนิสัยไม่ดีเลยเนอะ มีปิ๊กอยู่แล้วทั้งคนยังไปยุ่งกับไอซ์อีก
อนุญาตให้เกลียดพี่โอมได้นิดหน่อย ถ้ายังไม่พอใจให้เรียกตำราจมาจับ 555


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไหนบอกจะเลิกยุ่งกะไอซ์?

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 8


“กลับมาแล้วครับ”

ผมร้องทักคนในห้องเมื่อเปิดประตูออก ถอดรองเท้าแล้ววางไว้ที่ชั้นวางซึ่งมีรองเท้าอยู่ไม่กี่คู่ และก็ควรจะมีรองเท้าปิ๊กวางอยู่ด้วย

แต่ว่า...

ไม่มี

“ปิ๊ก!!!” ผงลองเรียกอีกครั้งขณะก้าวเข้าไปในห้องแต่ปิ๊กไม่ได้อยู่ข้างในจริงๆ

ในใจผมเริ่มว้าวุ่น สมองคิดอะไรไม่ออก ได้แต่วิ่งออกจากห้องมา ไม่แม้แต่จะล็อคประตูด้วยซ้ำ ผมวิ่งไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็มายืนหอบที่หน้าร้านสะดวกซื้อแล้ว

เสียงกริ่งดังต้อนรับคลอกับเสียงพนักงานที่หันมามองผมพอดี

“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ”

“ปิ๊กอยู่ที่นี่มั้ยครับ” ผมถามอย่างร้อนรน มองคนที่เบิกตากว้างอย่างคะยั้นคะยอ

“กลับไปตั้งแต่บ่ายแล้วนะคะ”

“ขอบคุณครับ” ผมบอกเธอแล้วตั้งท่าจะวิ่งออกมาหากไม่ถูกเรียกเอาไว้ซะก่อน

“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ ปิ๊กหายไปเหรอคะ”

“ไม่อยู่ที่ห้องครับ”

“เดี๋ยวทางนี้จะช่วยหาอีกแรงนะคะ”

“ขอบคุณครับ”

ผมบอกเธอแล้ววิ่งออกมาด้วยความเร็วที่วิ่งแข่งกับนักกีฬาโอลิมปิกก็อาจจะได้ชัยชนะมาโดยง่าย ถึงกระนั้นผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าควรตามหาเขาที่ไหน

ท้ายที่สุดขาทั้งสองข้างก็พาผมมาหยุดที่สถานีตำรวจ

“หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ผู้หมวดถามให้ผมเงยหน้าที่เอาแต่ก้มมองมือตัวเองเพื่อมองเขา

“ที่มินิมาร์ทบอกว่าออกมาตั้งแต่บ่าย”

“งั้นก็คงต้องเริ่มจากที่นั่น”

ผู้หมวดเดินนำออกไปก่อนให้ผมเดินตามเขาด้วยสภาพเหมือนคนหมดแรง ที่จริงแรงยังมีจนแทบล้นแต่สมองส่วนที่ใช้ควบคุมเหมือนจะสูญเสียไปแล้ว

“ผมควรทำยังไงหมวด”

“ใจเย็นนะคุณโอม ปิ๊กไม่เป็นไรหรอก” คำปลอบใจของผู้หมวดไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นสักนิด

ผมไม่ควรปล่อยเขาไว้ลำพังทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าใกล้ๆ ตัวเรามีคนร้ายป้วนเปี้ยนอยู่แต่ผมก็ปล่อยเขาเอาไว้ ผมมันแย่ ผมมันสะเพร่า

“ผมผิดเอง”

“ตั้งสติหน่อยสิคุณโอม บางทีปิ๊กอาจจะแค่ไปเดินเล่นหรือเปล่า”

“กลางดึกน่ะเหรอครับ ไม่มีทาง ปิ๊กไม่ทำแบบนั้นแน่”

“คุณโอม” ผู้หมวดตบไหล่เบาๆ เหมือนให้กำลังใจ แม้มันจะไม่ช่วยอะไรมากอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีสติขึ้นมาอีกนิด

ไม่นานนักผมก็กลับมาที่มินิมาร์ทอีกครั้ง มองดูผู้หมวดที่กำลังสอบถามกับพนักงานคนเดิม อาจเพราะวิชาชีพทำให้เขามีเรื่องให้สอบถามมากกว่าผม

ก็ได้แต่หวังว่าจะมีประโยชน์และทำให้เราได้เจอปิ๊กเร็วๆ นี้

หลังจากออกจากมินิมาร์ท ผู้หมวดก็พาผมแวะเข้าบ้านนั้นออกบ้านนี้กระทั่งเวลาล่วงเลยไปอีก

ผมกลับมาที่ห้องอีกครั้งหลังจากแยกกับผู้หมวด

“พี่โอมไปหาพี่ไอซ์มาอีกแล้วเหรอ”

“ปิ๊ก!!!” หัวใจผมพองโตขึ้นมาเมื่อคนที่ผมตามมามากว่า 2 ชั่วโมงปรากฏตรงหน้า ผมปรี่เข้าไปกอดเขาไว้แน่น อย่างที่เด็กน้อยในอ้อมกอดก็ดูงุนงงแต่ก็ยอมให้กอดแต่โดยดี

แขนเล็กๆ ของปิ๊กโอบรอบลำตัวของผม เขาถูแก้มกับอกของผมแล้วเงยหน้าขึ้นมอง

“เป็นอะไรครับพี่โอม”

“ปิ๊กหายไปไหนมา”

“ปิ๊กลงไปรอพี่โอม”

“แล้ว?” ผมผละออกแต่ยังกอดเอวบางไว้หลวมๆ พลางจ้องหน้าเพื่อรอคำตอบ

“ตอนที่ยืนรอ ปิ๊กเจอคุณยายเข็นรถขายผักผ่านมาปิ๊กก็เลยเข้าไปช่วยฮะ”

“ทีหลังไม่ต้องใจดีขนาดนั้นก็ได้”

“คุณยายให้ผักมาด้วยนะฮะ บอกว่าเป็นผักปลอดสารพิษ แต่ปิ๊กไม่เข้าใจหรอก”

มองตามนิ้วเล็กๆ ไปก็พบกับผักจำนวนหนึ่งจริงๆ

“พี่ควรทำยังไงกับปิ๊กดีเนี่ย” ถึงจะโล่งใจแต่ผมก็ยังรู้สึกขัดเคืองใจอยู่ตงิดๆ

“ปิ๊กทำอะไรผิดฮะ” เด็กน้อยเบ้หน้าเมื่อผมดึงเขาให้เข้ามาเบียดชิดอีกครั้งพลางล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรบอกผู้หมวดว่าเจอตัวเด็กเจ้าปัญหาแล้ว

รอสายไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย ถูกเขาบ่นชุดใหญ่ทีเดียวแต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าผู้หมวดพึ่งได้เสมอ

“ขอโทษครับหมวด”

“ทีหลังก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน แค่นี้งานผมก็เยอะจนไม่มีเวลาจะนอนแล้ว”

“ครับผม วันนี้ขอบคุณหมวดมากๆ เลยนะครับ”

“สงสัยคงต้องรีบหาครอบครัวปิ๊กให้เจอคุณจะได้ไม่เป็นบ้าแบบนี้”

ตอนนั้นผมอาจจะบ้ามากกว่านี้ก็ได้

ผมคิดก่อนจะบอกลาแล้ววางสาย หันมามองเด็กน้อยที่ช้อนตามองผมตั้งแต่เริ่มคุยโทรศัพท์แล้วก็นึกหมั่นเขี้ยว

“พี่โอมปิ๊กเจ็บ” พอถูกกัดที่ปลายจมูกก็ร้องออกมาดังๆ จนต้องงับอีกหลายๆ รอบ จากที่ร้องก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะคิกคัก

“ทีหลังอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้าอีก”

“พี่โอมก็เป็นคนแปลกหน้า”

“ทุกวันนี้ยอกย้อนขึ้นนะเรา”

ดีดหน้าผากไปทีให้เจ้าตัวดีเบ้หน้าใส่

“พี่โอมไปอาบน้ำได้แล้ว ตัวเหม็นมากเลยรู้ป่ะ”

“เหม็นตรงไหน”

“ทุกตรงนั่นแหละ”

“ก่อนออกจากยิมพี่อาบแล้วนะ”

“ไปกับพี่ไอซ์มาล่ะสิ”

“รู้ได้ไง”

“รู้ก็แล้วกันน่า” ทุบอกผมดังปั้กแล้วจึงผละออกไป

ผมมองปิ๊กที่หอบเอาที่นอนมาปูแล้วเจ้าตัวก็ทิ้งตัวนอนลง ห่มผ้า ขยับนอนตะแคงเพื่อหันหลังให้ผม

“ไปอาบน้ำเลย”

เจ้าตัวหันมาตีหน้ายักษ์ใส่เมื่อผมแกล้งนอนลงข้างๆ

“อาบมาแล้วครับ”

“ปิ๊กไม่ชอบกลิ่นพี่ไอซ์” ผมยันตัวลุกขึ้น ก้มหน้าดมเสื้อผ้าตัวเองว่ามีกลิ่นของไอซ์ติดตัวมาด้วยหรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไร

มองคนที่กลับไปนอนหันหลังให้กันอีกแล้วก็ได้แต่สงสัยว่าคนที่นอนอยู่นั่นกลายเป็นปิ๊กจิตสัมผัสไปแล้วหรือไงนะ

ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก ออกมาเก็บผักที่ปิ๊กได้มาจากคุณยายรถเข็นใส่ตู้เย็นแล้วค่อยกลับมาทิ้งตัวนอนลงข้างเขา พลางคิดว่าจะทำอย่างไรกับผักพวกนั้นดี

ปิ๊กชอบกินผักรึเปล่านะ






✧✧✧






เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนสายก็เห็นปิ๊กกำลังนั่งมองอะไรบางอย่าง เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเด็กน้อยจึงหันมามองพลางยื่นของในมือมาตรงหน้าผม

“อันนี้ให้ปิ๊กหรือเปล่า”

“แล้วคิดว่าของใครล่ะ”

“กระเป๋านี่ด้วยเหรอ” กระเป๋าสตางค์สีฟ้า

“ใช่ครับ ปิ๊กชอบหรือเปล่า”

“แต่ปิ๊กไม่จำเป็นต้องใช้”

“จำเป็นสิครับ” ผมรับกระเป๋าสตางค์จากปิ๊กมาแล้วหยิบเงินออกจากกระเป๋าตัวเองจำนวนหนึ่งเพื่อแบ่งไปใส่ไว้ในกระเป๋าของเขาแล้วส่งคืนให้

เด็กน้อยลังเลครู่หนึ่งแต่ก็ยอมรับไปแต่โดยดี

“ปิ๊กอยากได้แค่รูปนี่นา” แต่ก็ยังบ่นอยู่ดี

ผมขยับเข้าไปใกล้ปิ๊ก นั่งซ้อนหลังแล้วกอดเอวบางไว้หลวมๆ

“พี่ซื้อให้นะ รับไว้เถอะนะครับปิ๊ก” อ้อนเขาที่ข้างหูก่อนจะงับเบาๆ อย่างมั่นเขี้ยวให้เด็กน้อยหดคอหนี

“จั๊กจี้อะพี่โอม”

“ไม่ชอบเหรอครับ”

“อะไร” เด็กน้อยเอี้ยวตัวมามองผมจึงหอมแก้มเขาฟอดใหญ่สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าเต็มปอด อะไรๆ ที่มันชอบยืนตรงตอนเช้าก็บดเบียดที่ก้นนิ่ม

หื้มมม~ ไอ้โอมจะทนได้ซักกี่น้ำ

“ไม่ชอบกระเป๋าที่พี่ซื้อให้หรือครับ”

“ชอบก็ได้”

“แปลว่าไม่ชอบ” คราวนี้ผมกดปลายจมูกลงบนลำคอของเขา

“ชอบครับ ปิ๊กชอบ พี่โอมปล่อย”

“แล้วไม่ชอบที่พี่กอดเหรอครับ”

เด็กน้อยไม่ตอบผมจึงยกร่างเขาขึ้นมานั่งบนตัก ละมือข้างหนึ่งจากเอวบางแล้วสอดเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ภายใต้เสื้อตัวเล็ก

“ว่าไงครับ ชอบหรือเปล่า”

“ของพี่โอมมันทิ่มอะ”

“ของปิ๊กก็แข็งแล้ว” ผมเย้าเมื่อสอดผ่านเอวยางยืดเข้าไปสัมผัสผิวเนียนข้างใต้นั้นจนเจ้าของมันต้องคว้าข้อมือไว้

“พี่โอมไม่เอา ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานได้แล้วครับ”

“ยังมีเวลาอยู่ ให้พี่กอดปิ๊กไม่ได้เหรอครับ”

เด็กน้อยในอ้อมแขนมีท่าทางอ่อนลงเล็กน้อย มือเล็กที่จับข้อมือผมคลายออกผมจึงเลื่อนมือลงต่ำอีก แต่เพียงสัมผัสส่วนที่กำลังตื่นตัวเจ้าของมันก็กลับมาคว้ามือของผมไว้อีกครั้ง

“ถ้ามีเวลามากนักก็ไปทำข้าวเช้าสิ”

“วันนี้ทำไม่ได้จริงๆ เหรอ”

ปิ๊กแทนคำตอบทั้งหมดด้วยการลุกจากตักของผม คว้าผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป เสียงปิดประตูดังปังทำให้ผมถึงกับสะดุ้งก่อนจะก้มมองที่กลางกายของตัวเองที่กำลังตื่น

ให้ตายเถอะ โลกสวยด้วยมือเราอีกแล้วเหรอวะ

ระหว่างรอเด็กในห้องน้ำจัดการกับตัวเอง ผมก็เริ่มทำอาหารเช้า มองผักกำใหญ่ๆ ในตู้เย็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้ว่าควรจัดการกับมันยังไง

“ปิ๊ก พี่เอาผักพวกนี้ไปฝากผู้หมวดได้มั้ย”

“แล้วแต่”

ไหงคำตอบฟังดูห่างเหินขนาดนั้นวะ

“โกรธอะไรพี่รึเปล่าปิ๊ก”

“เปล่าซักหน่อย”

“แน่ใจนะ” คนไม่โกรธพยักหน้าแรงๆ ผมจึงยกยิ้มส่งให้ “พี่ทำข้าวต้มไว้นะ รับผิดชอบให้หมดด้วย”

“โห” ดวงตากลมมองผ่านผมไปหยุดที่หม้อข้าวต้ม “จะเลี้ยงให้โตวันเดียวเลยเหรอครับ”

“ถ้าโตเร็วๆ ก็ดีสิ”

ถ้าโตเร็วๆ ผมก็จะได้ทำอะไรได้อย่างที่ใจต้องการเสียที แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันจนถึงวันที่เขาโตหรือเปล่า

หลังจัดการตัวเองเสร็จและก้าวออกจากห้องน้ำก็เห็นปิ๊กนั่งกินข้าวต้มชามใหญ่อยู่แล้ว ตรงข้ามเขามีชามของผมที่เจ้าตัวเตรียมไว้ให้วางอยู่ด้วย

“อร่อยมั้ย” ผมถามและยิ้มให้เมื่อนั่งลงตรงข้าม

“จืดไปนิดครับ”

“ถ้าจืดก็เหยาะน้ำปลา” ตั้งท่าจะเหยาะน้ำปลาใส่ชามอีกฝ่ายแต่ก็ถูกห้ามเอาไว้

“ปิ๊กใส่แล้ว ส่วนพี่โอมน่ะก็ควรไปใส่เสื้อผ้านะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“เป็นห่วงพี่เหรอครับ” ผมยิ้มกวนให้เด็กน้อยเบะปากใส่ ท่าทางที่ผมมองว่าน่ารักจนต้องยื่นมือไปบีบแก้มเขาเบาๆ

“พี่โอมไม่เล่นสิ ปิ๊กเจ็บนะ” ว่าแล้วก็ปัดมือผมออก

ไม่ว่าเขาจะทำอะไร จะอารมณ์เสียใส่แค่ไหนผมก็ยังมองว่าเขาน่ารักมากอยู่ดี

ผมนั่งกินข้าวกับปิ๊กทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูพันกาย โชว์ท่อนบนเปลือยเปล่าที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าสวยงามน่าสัมผัส แต่ผมชอบตอนที่ถูกปิ๊กสัมผัสมากกว่าอีก

“ทำไมพี่โอมไม่ไปใส่เสื้อผ้าล่ะ”

ถามแล้วก็ตักข้าวต้มขึ้นมาจ่อปาก เป่าลมให้คลายร้อนแล้วค่อยกิน

น่ากินจังเลยน๊าเด็กอะไรก็ไม่รู้

“ก็รอปิ๊กกินอิ่มก่อน”

“รอทำไม ปากไม่ได้ติดกันซักหน่อย”

จุ๊บ!

เด็กน้อยเบิกตากว้างเมื่อผมค้ำมือไว้กับโต๊ะแล้วโน้มลำตัวเข้าไปหา ประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากสีสดจากของร้อนที่กินเข้าไป

“พี่โอม”

ปิ๊กวางมือลงบนไหล่ ออกแรงดันนิดหน่อยเพื่อให้ผมผละห่าง

“ปากติดกันไง” ผมจูบเขาอีกก่อนจะแลบลิ้นเลียที่มุมปากด้านบนของเด็กตรงหน้า

“พี่โอมอะ กินข้าวเข้าไปเลย”

ออกแรงทุบผมเมื่อดุทั้งที่ริมฝีปากของเรายังสัมผัสกันอยู่ เมื่อผละออกห่างมาอีกหน่อยเพื่อมองใบหน้าน่ารักก็พบว่าสีหน้าของปิ๊กเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ น่ารักเชียว

“ไม่ชอบปากติดกันเหรอครับ”

“ชอบแต่ไม่ใช่ตอนนี้ไงครับ กินข้าวเลยจะได้ไปทำงาน”

ผมบีบแก้มเขาอีกทีก่อนจะผละกลับมานั่งที่เดิม ตักข้าวเข้าปากไป มองหน้าคนตัวเล็กไป บางทีก็เผลอมองริมฝีปากที่กำลังเคี้ยวแล้วก็อยากจะกินปากนั่นแทนข้าวต้ม

ปิ๊กทำให้ผมใจแตกแล้วล่ะ






✧✧✧







“อีกแล้วเหรอปิ๊ก คราวหลังไม่ต้องรับผักจากคุณยายมาแล้วนะ”

เหมือนเป็นเรื่องปกติแล้วที่เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมานอกจากพบปิ๊กที่นอนวาดภาพตรงกลางห้องแล้วยังมีผักถุงหนึ่งวางอยู่ในครัวอีกด้วย

“ก็คุณยายให้มา ปิ๊กปฏิเสธไม่เป็นนี่”

“ปิ๊กก็ปฏิเสธพี่ตลอดนี่”

นั่นแหละครับ หลายวันมานี้เด็กคนนี้ไม่ยอมให้ผมกอดเลย

ไอ้โอมจะเฉาตายแล้ว

“กอดพี่ไอซ์ไม่พอเหรอครับ” นั่นไง มียอกย้อนซะด้วย

ที่จริงพักนี้เหมือนว่าปิ๊กกำลังโกรธผมเรื่องของไอซ์

เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อหลายวันก่อนผมเลิกงานดึกเพราะไอซ์มายิมช้ากว่าปกติ เขาก็เลยอาสามาส่งที่อพาร์ทเมนท์ และเจ้าตัวก็ขอเข้าห้องน้ำ และคืนนั้นปิ๊กก็นอนหันหลังให้ผมทั้งคืน

หลังจากคืนนั้นเขาก็ไม่ยอมให้ผมกอดอีกเลย

เศร้าเลยครับเพราะได้แต่นอนมองแผ่นหลังของเขา จะกอดก็ไม่ได้กอด แตะนิดหน่อยก็ถอยหนีกันไปเสียไกลเชียว

“พี่ไม่ได้กอดไอซ์เลยนะ”

“พี่โอมจะกอดใครก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับปิ๊ก”

“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะครับ”

พอผมขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายก็ขยับออกห่าง ท่าทางของเขาทำให้ผมเริ่มจะหงุดหงิดอีกแล้ว

“เอาเถอะ พี่เหนื่อยแล้วและขี้เกียจจะเอาผักไปแจกใครต่อใครแล้ว เอาเป็นว่าพี่ห้ามปิ๊กรับผักมาอีก”

“ทำไมไม่ห้ามปิ๊กไปช่วยคุณยายเลยล่ะ” แน้ มีประชดอีก

ผมมองเด็กน้อยตรงๆ แล้วพรูลมหายใจออกมา ก็ไม่อยากจะพูดให้รู้สึกไม่ดีแต่ไหนๆ น้องก็เกริ่นแล้วผมก็จะสานต่อเลย

“ถ้าพี่ขอ ปิ๊กทำให้พี่ได้ไหมล่ะ”

“ปิ๊ก” เด็กน้อยเม้มปากแน่นแล้วก้มหน้าไม่ยอมสบตา

“เพราะปิ๊กทำไม่ได้ไงพี่ก็เลยไม่ขอ ช่วยคนอื่นน่ะไม่ใช่เรื่องเสียหายหรอกปิ๊กแต่อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน แล้วก็อย่าทำให้พี่เป็นห่วงด้วยการกลับดึก โอเคมั้ย”

“ที่จริง...”

“ครับ”

“ปิ๊กก็ห่วงพี่โอม”

“ห่วงเรื่องอะไรครับหืม”

“ปิ๊กว่าพี่ไอซ์ดูแปลกๆ”

“แบบนี้ไม่เรียกห่วงครับแต่เรียกว่าหวง”

“หวง?” เด็กน้อยมุ่นคิ้วให้ผมรีบอธิบายเพื่อไขความสงสัย

“หวงก็คืออาการที่ไม่อยากให้คนที่ตัวเองชอบอยู่ใกล้คนอื่น ปิ๊กหวงพี่ใช่มั้ยครับ ช่วยบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยซิ”

ยื่นมือไปเชยคางมนให้เด็กตรงหน้าสบตากัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามหลบด้วยการเสมองไปทางอื่นจนผมต้องโน้มใบหน้าเข้าไปหาเพื่อแนบหน้าผากเอาไว้

“บอกพี่ให้ชื่นใจหน่อยสิครับ”

พอถูกอ้อนเด็กน้อยก็ขยับปากนิดหนึ่ง แต่ก็เงียบไปเหมือนกำลังคิด

อืม คิดนานเสียด้วยแฮะ

“เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน พอพี่อาบน้ำเสร็จปิ๊กต้องให้คำตอบพี่นะ”

เด็กน้อยถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อผมผละออกมาแล้วก็ทำตาโตอีกครั้งเมื่อผมถอดเสื้อออกต่อหน้าเขา เผยท่อนบนเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม

“มองทำไมครับ อยากจับเหรอ จับได้นะ”

“พี่โอมบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” ว่าจบก็ทิ้งหัวลงบนหมอนเลยให้ผมหัวเราะหึหึมองร่างนุ่มนิ่มที่นอนหันหลังให้กัน

“อย่าเพิ่งหลับนะ รอตอบคำถามพี่โอมก่อน”

ก่อนปิดประตูห้องน้ำยังไม่ลืมหันมาแหย่ให้อีกฝ่ายพลิกตัวมาตีหน้ายักษ์ใส่

น่ารักจริงๆ เลยน๊า ปิ๊กเนี่ย





“ปิ๊กครับ”

ผมตะกรองกอดเด็กน้อยจากด้านหลังเมื่อสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน กระซิบที่ข้างหูก่อนจะกดจูบลงบนลำคอหอมกรุ่นให้คนที่ยังไม่หลับย่นคอหนีก่อนจะพลิกตัวมาเผชิญหน้ากัน

“ปิ๊กจะนอน”

“แล้วคำตอบของพี่ล่ะ”

“หวง ปิ๊กหวงพี่โอม” เด็กน้อยกอดตอบผมแล้วซุกหน้าลงบนอก “อย่าไปกับพี่ไอซ์อีกได้มั้ย อย่าทำกับพี่ไอซ์แบบที่ทำกับปิ๊ก”

หัวใจของผมเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดตรงๆ จากคนในอ้อมแขน กระชับกอดเขาแน่นอีกแล้วพรมจูบลงบนเส้นผมนุ่ม

“ให้พี่ทำกับปิ๊กแทนงั้นหรือ”

“ครับ ทำกับปิ๊กนะ”

“ตอนนี้ได้มั้ย นะครับ พี่คิดถึงปิ๊กจะแย่อยู่แล้ว” ผมเชยคางเขาขึ้นแล้วประทับจูบลงบนหน้าผากมนให้เด็กน้อยหลับตาพริ้มรับอย่าเต็มใจ

“ปิ๊กก็คิดถึงพี่โอม”

ให้ตายเถอะ อ้อนขนาดนี้ไอ้โอมจะทนได้ซักกี่น้ำกันวะเนี่ย





[TBC]
 :katai5:


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวังว่าคนที่ให้ผักปิ๊ก กับคนที่หน้าอพาตเมนท์จะเป็นคนละคนกันนะ  o21

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 9  คนใดที่ถูกเจียว


“อื้อ พี่โอม ปิ๊ก อื้อ ปิ๊ก...”

เสียงครางผะแผ่วทว่าเย้ายวนอารมณ์ดังขึ้นที่อกเมื่อมือของผมกำลังชักรูดส่วนแข็งขืนของเราทั้งคู่ในจังหวะเดียวกัน

ยิ่งได้ยินเสียงหวานๆ ผมก็ยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้น

ปิ๊กน่ารักมาก เขาเบียดตัวเข้าหาผม ขยับร่างกายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กัน มือบางลูบไล้ที่กรอบใบหน้าของผม ขยับเข้ามาใกล้จวนเจียนที่ริมฝีปากเราจะสัมผัสกันแล้วครางแผ่วๆ อยู่ตรงนั้น

ผมจูบเขาซ้ำๆ ไม่ได้แทรกเรียวลิ้นเข้าไป แต่ก็เป็นเจ้าตัวเล็กที่ทนไม่ไหวแลบลิ้นออกมาเลียกลีบปากของผมเสียเอง

ปิ๊กเรียนรู้เร็วมาก มากเสียจนครูอย่างผมตื้นตันจนพูดไม่ออก

“พี่โอมเร็วอีก อ๊า เร็ว”

ถึงเด็กน้อยไม่ออกคำสั่งผมก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้น เพราะตอนนี้ผมก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

น้ำหล่อลื่นของเราที่หลั่งออกมาผสมปนเปเป็นเนื้อเดียวช่วยให้การชักรูดทำได้ง่ายมากขึ้น เสียงครางของปิ๊กกระตุ้นให้ผมทำเร็วขึ้นอีกจนเสียงลามกดังสะท้อน

“อ๊ะ อ๊า พี่โอม...”

เสียงสุดท้ายดังขึ้นก่อนปิ๊กจะปลดปล่อย ผมปลื้มใจมากที่ทุกเสียงของเขามีชื่อของผมรวมอยู่ด้วย ทำให้รู้ว่าเขานึกถึงผมอยู่เสมอ

คนที่เพิ่งปลดปล่อยซุกหน้ากับลำคอของผม เขาปิดเปลือกตาลง ผมลูบหลังให้ปิ๊ก รอให้เสียงหอบกลายเป็นเสียงหายใจอย่างปกติแล้วค่อยกระซิบเขาที่ข้างหู

“พี่ทำต่อนะ”

เด็กน้อยไม่ได้ตอบคำถาม แต่ก็โอนอ่อนปล่อยให้ผมพลิกร่างเขาให้นอนค่ำ ปลดกางกางที่ค้างคาตรงข้อเท้าออกแล้วค่อยคร่อมตัวเขาจากด้านหลัง

ผมสอดมือเขาไปใต้เอวบาง รั้งให้สะโพกยกสูงขึ้นเพื่อรองรับการกระทำของผม

“ฮือ พี่โอม” เด็กน้อยเอี้ยวตัวมามอง น้ำใสไหลเลอะขอบตา ริมฝีปากบวมเจ่อ ดวงตาเหม่อลอยยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้เปลี่ยนความคิดที่เคยตั้งใจจะค่อยๆ หยอกเย้าเป็นอย่างอื่น

ผมสอดส่วนแข็งขืนเข้าไปตรงระหว่างต้นขาเล็ก อย่างที่เจ้าตัวก็บีบขาให้กระชับเพื่อรองรับผม

เห็นไหม บอกแล้วว่าปิ๊กน่ารักมากจริงๆ

ผมสอดมือเข้าไปในเสื้อของเขา บดคลึงยอดอกนุ่มนิ่ม บีบเค้นเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกที่บดเข้าถอนออก

“อ๊า ปิ๊ก...” ผมแนบลำตัวทาบทับแผ่นหลังเนียน เปล่งเสียงครางพร่าที่ข้างหูให้เด็กน้อยครางตอบ

“พี่โอม ปิ๊กเสียว ฮือออ~ เร็วครับ เร็วอีก”

เด็กน้อยใต้ร่างยกสะโพกขึ้นในจังหวะที่ผมเริ่มกระหน่ำสอดแท่งร้อนเข้าไประหว่างซอกขาของเขาอย่างไม่สามารถหยุดยั้งความปรารถนานี้ได้

“อ๊า...”

ไม่นานทั้งผมและปิ๊กก็ปลดปล่อยออกมา เด็กน้อยที่เสร็จไปถึงสองครั้งทิ้งตัวนอนหมดแรงบนที่นอน ผมที่คร่อมอยู่บนร่างเขาค่อยๆ จูบปลอบก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ กัน

ผมตะกรองกอดร่างปวกเปียกเอาไว้แนบอก เราหลับไปทั้งอย่างนั้นด้วยความอิ่มเอมที่ร่างกายและหัวใจ

ถ้าปิ๊กจะน่ารักขนาดนี้ผมคงขาดเขาไม่ได้จริงๆ





✧✧✧





คืนนี้ปิ๊กก็กลับบ้านดึกอีกแล้ว คงเพราะความเคยชินล่ะมั้งผมจึงไม่รู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนเมื่อก่อน

ผมนอนดูทีวีแล้วผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกครั้งในตอนที่นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน แต่ทั้งห้องก็ยังมีแค่ผม

ปิ๊กยังไม่กลับมา เถลไถลเกินไปแล้วนะ ที่บอกไปเมื่อครั้งที่แล้วไม่เข้าหูเลยใช่มั้ย

นึกโกรธแต่ก็เป็นห่วง ดังนั้นผมจึงออกจากห้องเพื่อไปตามหาเขา แน่นอนว่าเริ่มจากมินิมาร์ทอย่างเคย

ระหว่างเดินก็คิดไปว่าถ้าหากมีเงินก็คงซื้อโทรศัพท์มือถือให้เขาไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอย่างวันนี้อีกจะได้ตามตัวกันได้ง่ายๆ หน่อย

“คุณโอม” เมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปก็ได้รับการทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “น้องปิ๊กออกไปตั้งแต่บ่ายแล้วนะคะ”

“คงไปช่วยคุณยายขายผักครับ”

“อ๋อ คุณยายคนนั้น” ดูเหมือนว่าเธอก็รู้จักผมจึงโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

”ผมจะตามหาคุณยายได้ที่ไหนครับ”

“เห็นว่าเช่าบ้านอยู่ท้ายซอยนะคะ”

ผมกล่าวขอบคุณเธอแล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านเช่าท้ายซอยอย่างที่ได้ยินมา ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ผมไม่เคยเดินเลยอพาร์ทเมนท์ตัวเองเข้ามาในซอยเลย จึงไม่รู้ว่าข้างในนี้จะมืดและดูน่ากลัวขนาดนี้

ยิ่งเดินเข้ามาลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ได้ เพราะมันทั้งมืดและน่ากลัว

กระทั่งแสงไฟส่องสว่างจากบ้านหลังหนึ่งปรากฏให้เห็น เมื่อเดินตามแสงนั้นไปก็พบกับบ้านหลังเล็กที่โคตรจะโทรมหลังหนึ่ง

ประเมินจากสภาพแล้วไม่น่าจะมีใครกล้าอยู่ แต่ถึงกระนั้นแสงไฟที่ส่องสว่างก็เรียกให้ผมก้าวเข้าไปหยุดที่หน้าบ้านหลังนั้น

“ขอโทษครับมีใครอยู่มั้ย”

ตะโกนเรียกในเวลาเดียวกับที่เหลือบเห็นรถเข็นเก่าๆ ที่บรรทุกผักไว้จำนวนหนึ่ง

บ้านคุณยายคนนั้นจริงๆ สินะ รถเข็นก็อยู่ตรงนี้แต่ทำไมไม่ใครตอบรับผมเลยล่ะ

“ขอโทษนะครับ มีใครอยู่มั้ยครับ” ผมลองเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมแบบที่ไม่มีทางเลยที่คนข้างในจะไม่ได้ยิน

แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความเงียบงันเท่านั้น

และนั่นก็ทำให้ผมเริ่มกระวนกระวายใจอีกครั้ง ยื่นมือไปหวังจะเปิดประตูแต่ก็คิดว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วเกิดมีคนอยู่ข้างในผมจะถูกแจ้งความข้อหาบุกรุกยามวิกาลหรือเปล่า

ชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงลองเรียกอีกครั้งและก็เช่นเดิม

เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

เพียงผลักประตูเบาๆ บานไม้เก่าๆ ก็เปิดออกอย่างง่ายดาย ข้างในมีเพียงแสงไฟสลัวที่สะท้อนให้เห็นว่าในบ้านหลังนี้เคยมีคนอาศัยอยู่จริงแต่ตอนนี้ไม่มีใครเลย

“นั่นมัน...!” ในตอนที่กำลังจะก้าวออกจากบ้านมาสายตาดันไปสะดุดเข้ากับเชือกและผ้าที่กองอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง ใกล้ๆ กันนั้นมีกระเป๋าสตางค์ที่คุ้นตาตกอยู่

เมื่อหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดดูก็พบว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ของปิ๊กจริงๆ

กระเป๋าอยู่ตรงนี้ เจ้าของอยู่ไหนล่ะ

หัวใจของผมที่เคยเต้นด้วยจังหวะปกติบัดนี้กำลังเต้นอย่างถี่รัวเมื่อนึกไปว่าปิ๊กอาจจะกำลังตกอยู่ในอันตราย สิ่งแรกที่ทำคือโทรหาผู้หมวด เมื่อเขารับก็รีบบอกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทราบ ถึงน้ำเสียงจะฟังเหมือนระอาในความตื่นตระหนกของผมแต่เขาก็รับปากว่าจะมา

ผมไม่โกรธผู้หมวดหรอก เพราะครั้งก่อนตอนที่ผมตื่นเต้นตกใจไปเองนั้นทำให้เขาวุ่นวายไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่แล้วซักหน่อย มันมีหลักฐานว่าปิ๊กเคยมาที่นี่และตอนนี้เขาก็หายไปจริงๆ

“ปิ๊ก” ผมเรียกน้องเมื่อเดินดูรอบๆ บ้าน หาเขาไปทุกซอกมุมแต่ก็ไม่เจอ

ถ้าผมเอะใจเร็วกว่านี้หน่อยก็คงดี

ผมทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าบ้านข้างรถเข็นผักด้วยอาการของคนหมดอาลัยตายอยาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงรอให้ผู้หมวดมาถึง

ไม่นานแสงไฟหน้ารถก็ส่องเข้ามา เสียงเครื่องยนต์ดับลงก่อนที่ผู้หมวดจะก้าวเข้ามาหา

“หายไปจริงๆ เหรอคราวนี้”

ผมเงยหน้ามองเขาแล้วพยักหน้าพลางยื่นกระเป๋าสตางค์ไปให้ดู

“ของปิ๊กครับ ผมเห็นมันหล่นอยู่ข้างใน”

“ทำไมขยันหายจังนะเด็กคนนี้” บ่นอย่างนั้นก่อนจะหันไปสั่งนายตำรวจอีก 2 นายที่ตามมาด้วย

พวกเขาแยกย้ายกันหาหลักฐานอยู่ครู่ใหญ่ก่อนพวกเราทั้งหมดจะขึ้นรถแล้วมุ่งหน้ากลับโรงพัก

เข็มนาฬิกาหมุนไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผมเดินวนไปวนมาในโรงพักอย่างที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

“เลิกเดินได้แล้วคุณโอม”

“ผมเป็นห่วงน้อง”

“คุณเคยบอกว่าเจอคนร้ายสองคนแถวๆ บ้านใช่มั้ย”

“ครับ”

“ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือเขา ตอนนี้พวกเราส่งเจ้าหน้าที่ไปยังร้านประจำที่พวกเขาส่งเด็กแล้ว คุณเองก็ควรกลับไปนอน”

“ผมจะหลับลงได้ยังไง ให้ผมรอที่นี่นะหมวด ผมสัญญาว่าผมจะไม่รบกวน”

ผู้หมวดมองหน้าผมแล้วส่ายหน้าหน่ายใจแต่เขาก็ไม่ได้ไล่ผมกลับบ้านอีก ปล่อยให้ผมรออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเช้า

“คุณโอมเราเจอรถต้องสงสัยแล้ว”

“ครับ !?” ผมทะลึ่งตัวลุกขึ้นด้วยความตื่นตกใจก่อนจะก้าวตามผู้หมวดไปยังรถตำรวจหลายคันที่จอดรออยู่แล้ว

รถยนต์ที่เปิดไซเรนดังลั่นวิ่งไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วแต่นั่นก็ช้ากว่าใจของผมที่วิ่งนำไปหาปิ๊กแล้ว

“เหมือนว่าเด็กที่ถูกจับไปคราวนี้จะไม่ใช่ปิ๊กคนเดียวนะครับ”

“มิน่าล่ะ ในบ้านหลังนั้นมีเชือกโคตรเยอะ”

“ไม่ต้องกังวลนะคุณโอม เด็กๆ ยังปลอดภัยดี ตราบใดที่ยังไม่ถึงมือลูกค้า”

“จับไปทำไมเหรอครับ”

“ค้าบริการทางเพศน่ะ สองคนนั้นเคยถูกจับแล้วครั้งนึง แต่ถูกประกันตัวออกมาแล้วหลบหนีไป”

“ถ้าเราไปช่วยปิ๊กไม่ทัน...” แค่คิดว่าเขาจะต้องเจอกับเรื่องโหดร้ายหัวใจของผมก็ร้าวระบมไปหมด

“ต้องทันครับ” ผู้หมวดบอกอย่างนั้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถามว่ารู้สึกดีขึ้นไหม ก็ไม่มากเท่าไหร่จนกว่าจะได้เจอปิ๊ก

ถนนใหญ่ที่พาเรามุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัดเปลี่ยนเป็นทางแคบๆ ที่ขรุขระ มองออกไปนอกกระจกเห็นทะเลอยู่ลิบๆ กระทั่งเราโผล่ออกมาถนนใหญ่อีกครั้ง

“เลี้ยวขวาข้างนั้นนั้นเลย”

ผู้หมวดออกคำสั่ง ในตอนที่รถเลี้ยวเข้ามาก็พบว่าในบริเวณกว้างนี้เต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์หลากสี

“ท่าเรือเหรอครับหมวด”

“ใช่ครับ เรือจะเข้าเทียบท่าในอีก 1 ชั่วโมง”

“หมายความว่า...”

“เด็กๆ จะถูกส่งไปนอกประเทศครับ” ผู้หมวดตอบคำถามในตอนที่รถจอดพอดี

หมายความว่าเรามีเวลาตามหาน้องแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น







✧✧✧






PIK SIDE

 ปิ๊กลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด

ไม่สิ มันไม่น่าจะมืดแล้วนะ ที่จริงตอนนี้น่าจะมองเห็นแสงจากพระอาทิตย์สิ แล้วพี่โอม พี่โอมไปไหน เขาไม่ได้นอนอยู่ข้างปิ๊ก ไม่ได้กอดไว้เหมือนดั่งคืนก่อนๆ

พี่โอมไปหาพี่ไอซ์อีกแล้วเหรอ

พักหลังนี้ปิ๊กไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องรู้สึกไม่ดีเวลาคิดไปเองว่าพี่โอมกอดคนอื่นเหมือนกอดปิ๊ก

ปิ๊กคงหวงพี่โอมมากไปล่ะมั้ง

แต่ว่านะ ตอนนี้ปิ๊กเมื่อยตัวไปหมดเลย เมื่อยกว่าตอนที่ถูกพี่โอมกอดรัดแล้วกระแทกสะโพกลงมาเสียอีก

ปิ๊กพยายามขยับตัวแต่ก็พบว่าถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยเชือกทั้งมือและเท้า

นี่มันอะไรกัน ความมืดรอบๆ ตัวทำให้ปิ๊กเริ่มกลัว ถึงแม้ว่าสายตาจะปรับให้สามารถมองเห็นในความมืดได้แล้วแต่ปิ๊กก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรนอกจากเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่นั่งจับเจ่าอยู่บนพื้นแข็งๆ นี่เท่านั้น

ที่นี่ที่ไหน มันทั้งอับและร้อนอบอ้าว

พี่โอม ปิ๊กอยากออกไปจากที่นี่

“ที่นี่ที่ไหน” ปิ๊กหันไปถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เขาก็ส่ายหน้า

คงไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนๆ กับปิ๊ก

“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“ไม่รู้สิ” เขาว่า

“ปิ๊กจำได้ว่าไปช่วยคุณยายขายผัก แล้วก็ไปส่งคุณยายที่บ้าน คุณยายเอาน้ำให้ดื่ม แล้วก็...”

หลังจากนั้นปิ๊กก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

“ถูกจับตัวมาน่ะสิ” พอเขาว่าอย่างนั้นเสียงโวยวายก็ดังขึ้นจากคนที่อยู่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน

ปิ๊กพยายามบอกให้พวกเขาหยุดทั้งที่ตัวเองก็น้ำตาไหลเหมือนกัน

ควรทำยังไงดี ปิ๊กต้องทำยังไงถึงจะได้เจอพี่โอมอีก

“หุบปากซักที ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ มีสติกันหน่อยสิ” เสียงของคนข้างปิ๊กทำให้รอบกายกลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ปิ๊กเองก็ได้แต่กลั้นก้อนสะอื้นไว้ในลำคอ

“แก หันหลังมา”

“ปิ๊กเหรอ” ปิ๊กหันไปเบิกตาถามเขาให้อีกฝ่ายพยักหน้าแรงๆ ก่อนจะทำตามคำสั่งเพราะสีหน้าที่มองเห็นในความมืดน่ากลัวมาก

เราหันหลังชนกัน นิ้วของเขาขยับยุกยิกที่ข้อมือของปิ๊ก ไม่นานเชือกก็คลายออกให้สัมผัสถึงอิสรภาพอีกครั้ง

“โห” ปิ๊กมองหน้าเขาอย่างทึ่งๆ แล้วรีบแกะเชือกที่ขาตัวเองก่อนจะช่วยอีกฝ่ายแกะเชือกบ้าง

“เก่งใช่มั้ยล่ะ”

ปิ๊กยิ้มกว้างยกนิ้วโป้งให้เขาทั้งสองข้าง แล้วช่วยกันมอบอิสระให้กับคนอื่นๆ

“พี่เก่งมากเลย”

“เราชื่อเบลล์ แล้วแกล่ะ”

“ปิ๊ก”

“เอาไว้ออกจากที่นี่ได้ก่อนแกค่อยชมว่าเราเก่ง” ในน้ำเสียงของเบลล์ปราศจากความหวาดกลัว ดังนั้นปิ๊กเองก็ลืมความกลัวไปชั่วขณะเช่นกัน

“ว่าแต่เราจะออกจากที่นี่ได้ยังไง”

เมื่อสักครู่เราลองเปิดประตูแล้วแต่ก็พบว่ามันถูกล็อกจากด้านนอก ถ้าไม่มีใครช่วยเปิดเราก็คงต้องคิดแหง็กอยู่ในนี้ไปจนตาย

“รอล่ะมั้ง” เบลล์ว่าอย่างสิ้นหวังแล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม

“ยอมแพ้แล้วเหรอ”

“แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ ไม่ใช่ไอรอนแมนนะเว้ยจะได้มีพลังพังเหล็กพวกนั้นออกไปได้น่ะ”

“ปิ๊กเคยเจอไอรอนแมนด้วยนะ เมื่อปีก่อนไปดูหนังรอบปฐมทัศน์มาด้วยแหละ”

“ขี้โม้แล้วปิ๊ก” เบลล์ผลักหัวปิ๊กเบาๆ เมื่อปิ๊กว่าอย่างนั้น

ไม่ใช่นะ ปิ๊กไม่ได้โม้ ปิ๊กเคยไปมาจริงๆ เคยเจอไอรอนแมนจริงๆ

“หิวอะ” เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดให้เราหันไปมองก็พบกับใครคนหนึ่งที่ตัวผอมมากๆ เลย

“เออ โคตรหิว” หลังจากนั้นก็ร้องว่าหิวกันดังระงมเชียว

จะว่าไปปิ๊กก็หิวแล้วเหมือนกัน ลูบท้องป้อยๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเบลล์ เขาส่ายหน้าแล้วยิ้มแหยเหมือนบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้

ก็ไม่ได้อยากให้ช่วยหรอก เบลล์เองก็คงหิวเหมือนกัน

“ชู่ววว~ เงียบก่อนๆ”

เบลล์จรดนิ้วมือที่ริมฝีปากเมื่อบอกให้พวกเราเงียบ เขาแนบหูกับผนังเหล็ก ปิ๊กจึงทำตามบ้าง เราได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอก

“เหมือนกำลังสู้กันเลยเนอะ”

ปิ๊กพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่เราทั้งคู่จะพยักหน้าให้กันเหมือนสื่อความหมายบางอย่าง

ปึ้ง!!!!

“ช่วยด้วยครับ มีคนติดอยู่ในนี้ ช่วยด้วย!!!!” เบลล์ตะโกนนำให้พวกเราที่เหลือตะโกนร้องกันจนสุดเสียง

ทั้งทุบผนังดังปึงปังหวังให้ใครสักคนที่อยู่ข้างนอกนั้นได้ยินเรา

หวังว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่

“ปิ๊ก!” ท่ามกลางความวุ่นวายปิ๊กได้ยินเสียงพี่โอมแว่วมา

“พี่โอม” ปิ๊กวิ่งวุ่นไปหมดอย่างไม่รู้ว่าเสียงนั้นดังมาจากตรงไหน

“ปิ๊กได้ยินพี่มั้ย ปิ๊ก!!”

“พี่โอม ปิ๊กอยู่นี่ พี่โอม” น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้เริ่มไหลออกมาเป็นสาย ร้องเรียกอีกคนจนเสียงแหบแห้ง

ความวุ่นวายในตู้มืดๆ แห่งนี้สงบลงเมื่อแสงสว่างสาดผ่านประตูที่เปิดออกเข้ามา พี่โอมยืนอยู่ตรงนั้น แสงที่ส่องมาทางด้านหลังทำให้เขาดูเหมือนเทวดาที่ปิ๊กเคยเห็นในหนังสือ

“พี่โอม ฮือออ~” ปิ๊กโผเข้าสู่อ้อมกอดที่คุ้นเคย ซุกหน้าลงกับอกพี่โอมแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

“ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่โอมอยู่ตรงนี้ พี่จะไม่ปล่อยให้ปิ๊กตกอยู่ในอันตรายอีกแล้ว”

“ฮืออออ~” ปิ๊กยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น ความกลัวที่เคยกินพื้นที่ทั้งหัวใจค่อยๆ จางหายไปเมื่อถูกเขากอดเอาไว้

พี่โอมประครองปิ๊กเอาไว้ พร่ำบอกว่าไม่เป็นไรข้างหูจนทุกอย่างผ่านพ้นไป

“ลาก่อนปิ๊ก” เบลล์โบกมือลาเมื่อเราต้องแยกย้าย

ปิ๊กขอบคุณเขา ถ้าในห้องมืดๆ นั้นไม่มีเบลล์ พวกเราก็คงถูกมัดเอาไว้อย่างนั้น เบลล์เป็นคนที่เข้มแข็งและกล้าหาญมากเลย






✧✧✧






“พี่โอมโกรธปิ๊กมั้ยครับ”

ปิ๊กยังคงนั่งอยู่บนตักของพี่โอมแม้ว่าเราจะกลับมาถึงห้องแล้ว

“ปลอยภัยกลับมาก็ดีแล้ว”

“เพราะปิ๊กไม่เชื่อฟังพี่โอม ปิ๊กไว้ใจคนแปลกหน้าเกินไป ปิ๊ก...”

“พอแล้ว อย่าพูดถึงมันอีกนะ อย่างน้อยปิ๊กก็ทำให้ผู้หมวดจับคนร้ายได้นะครับ ปิ๊กของพี่เก่งที่สุดเลย”

พี่โอมจูบเส้นผมของปิ๊กอย่างอ่อนโยน

“พี่โอม...”

“หืม” ริมฝีปากที่ประทับจูบปิ๊กซ้ำๆ หยุดลงก่อนจะเลื่อนมาจูบที่คอ พี่โอมชอบแกล้งปิ๊กแบบนี้ มันทำให้ร่างกายรู้สึกแปลกๆ แต่ปิ๊กก็ชอบนะ ชอบให้พี่โอมสัมผัสทั้งตัวเลย

“ปิ๊กทำกระเป๋ากับรูปหายไปแล้ว”

“กระเป๋าอันนี้หรือเปล่านะ”

กระเป๋าที่ปิ๊กคิดว่าหายไปแล้วถูกคนที่กอดปิ๊กไม่ยอมปล่อยยื่นมาตรงหน้า ปิ๊กเอี้ยวตัวไปมองพี่โอมอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองก่อนจะรับกระเป๋ามาถือเอาไว้

“จะไม่ให้รางวัลพี่หน่อยเหรอครับ”

“ยังไงอะ”

“จูบพี่หน่อยสิ” พี่โอมหลับตา ทำปากจู๋ ท่าทางที่พี่โอมคงไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักมาก แต่ปิ๊กไม่จูบพี่โอมในทันทีหรอกนะ เขินจะแย่

“ปิ๊กหิวข้าวอะ ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว”

“กินพี่โอมรองท้องก่อน”

“หิวจริงๆ นะ” ปิ๊กลูบท้องเพื่อยืนยันว่าหิวจริงๆ ให้พี่โอมยอมปล่อยมือที่โอบกอดอยู่นานเป็นครั้งแรก

“มีอะไรในตู้เย็นบ้างน๊า”

“ปิ๊กไปอาบน้ำนะ” ปิ๊กกระโดดลงจากตักพี่โอม วิ่งไปหยิบผ้าขนหนู นี่ไม่ได้อาบน้ำเกือบ 2 วันแล้ว ตัวเหม็นมากไม่รู้ว่าพี่โอมทนดมอยู่ได้ยังไง

“พี่ทำไข่เจียวนะ”

“คนใดที่ถูกเจียว” ปิ๊กตะโกนออกมาขณะกำลังปิดประตู มุกนี้พี่โอมเคยเล่น ตอนนั้นปิ๊กงงมาก อาจเพราะปิ๊กไม่ค่อยเก่งภาษาไทยล่ะมั้ง

พี่โอมหัวเราะหึๆ ก่อนจะตะโกนตอบคำที่ทำให้ปิ๊กเขินไปหมด

“ปิ๊กเป็นคนเดียวที่ถูกใจพี่นะครับ”

คนบ้า!!


[T B C]
เพราะความขี้สงสารแท้ๆ เลย เกือบซวยแล้วนะปิ๊ก
พี่โอมเนี่ย นอกจากจ้องจะตอดเล็กตอดน้อยน้องแล้ว ก็เป็นคนที่พึ่งพาได้ใช่มั้ยล่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะ :)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คุณยายขายผัก  นี่คือคนร้ายปลอมตัวสินะ

หลอกให้ปิ๊กตายใจก่อน  แล้วค่อยปฏิบัติการ

โชคดีนะ  ที่พี่โอมไหวตัวทัน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำไม ๆ อยากให้ได้เจอกับเบลล์อีกครั้ง  :hao3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปมที่1 คนในรูปคือใคร?
ปมที่2 ปิ๊กคือใคร
หรือปิ๊กกับคนในรูปอาจเป็นคนๆเดียวกันหรือมี
ความเกี่ยวข้องกัน

ทำได้แค่รอให้ไรท์มาอัพนิยายเฉลย :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด