[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 98534 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 9

“ฉันชื่อภูตลา”

 

การปรากฏตัวของท่านเจ้าที่ไม่ได้ทำให้ผมแตกตื่นแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้เพื่อนทั้งสองของผมตาโตจนแทบถลนออกนอกเบ้าด้วยเช่นกัน

ผมแตกตื่นเพราะอะไรรู้ไหมครับ? อ่ะคุณลองนึกภาพตามผมนะ...ก่อนหน้านี้คุณเจอผู้ชายสูงเกินร้อยแปดสิบ ผิวแทน หน้าคมเข้มไว้หนวดพอให้ดูเซ็กซี่ ชอบเปลือยท่อนบนใส่แค่ยีนส์สีดำซีดกับรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีดำ อ่าฮะ ใช่เลย นั่นคือท่านเจ้าที่ที่ผมรู้จักมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา แต่มาตอนนี้นี่สิ ที่ทำให้ผมตะลึงจนไม่รู้จะตะลึงยังไง ตกใจซ้ำซ้อนซ้ำซาก เพราะท่านเจ้าที่เขามาในลุคใหม่อ่ะเฮ้ย!

อีกฝ่ายใส่เสื้อแล้วด้วยว่ะ! เป็นเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายเป็นภาษาไทยเก๋ๆ ว่า รับสมัครเจ้าที่รุ่นเยาว์

...มันคืออะไรวะไอ้เสื้อตัวนั้นน่ะ...

ผมกวาดสายตามองทั้งร่างของท่านเจ้าที่อีกครั้ง นอกจากเสื้อยืดรุ่นเยาว์อะไรนั่นแล้ว ท่อนล่างเจ้าตัวใส่ยีนส์เหมือนเดิม แต่เป็นยีนส์สีสนิมขาดเข่าตามแฟชั่นสมัยนี้ รองเท้าก็เปลี่ยนเป็นผ้าใบสีขาวสะอาดแทน อ้อ ที่คอเสื้อเกี่ยวแว่นกันแดดเอาไว้ด้วย เส้นผมที่มักเสยขึ้นก็ปล่อยให้ลงมาปรกหน้าผากเล็กน้อย แต่มากพอที่จะทำให้เขาดูดีจนน่าขย้ำ--- แค่ก! (ถือว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้พูดอะไรต่อท้ายแล้วกันนะครับ)

ดูดีฉิบหายเลยว่ะ หล่อไม่เกรงใจใคร ไอ้ห่า ใจกูเต้นแรงมาก หล่อบัดซบอะไรอย่างนี้

ไม่ใช่ดิ! นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมหรือยินดีที่ท่านเจ้าที่รู้จักหัดใส่เสื้อเป็นหรือเขาดูโคตรพ่อโคตรแม่หล่อนะเฮ้ย เพราะการปรากฏตัวของอีกฝ่ายนอกจากจะทำให้ตกใจแล้ว คำพูดของเขาก็ดูเหมือนจะทำให้เพื่อนของผมเข้าใจผิดด้วยเช่นกัน

“ที่รัก?” ไวท์ทวนคำก่อนหน้านี้ของท่านเจ้าที่

“ไหนบอกไม่ใช่ผัวมึงไงไอ้แทงค์” ไอ้ธีร์เอ่ยแบบไม่มีการออมเสียงทั้งๆ ที่ตายังจ้องท่านเจ้าที่ไม่กระพริบอยู่เลย

ก็ไม่ใช่ผัวน่ะสิวะ!! ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง ว้อยยย

“ที่รักห่าเหวอะไรล่ะไอ้ท่าน...!” ผมเกือบจะหลุดปากด่าแถมยังเรียกท่านเจ้าที่ออกไปแล้วเชียว แต่ก็นึกได้เสียก่อนเลยหยุดปากทัน

“ก็คำทักทายแบบทั่วไปน่ะ ทำไมต้องโกรธด้วย” เทวดาโรคจิตมองหน้าผมเป็นเชิงดุ แต่ขอโทษทีเถอะครับ สายตาที่ท่านมองกูนี่มันยียวนกวน...มากๆๆๆ แล้วที่รักนี่มันคำทักทายทั่วไปตรงไหน กูล่ะอยากจะตะบันหน้าพระภูมิเจ้าที่จริงๆ เลยโว้ย! ขอทำได้มั้ย? ขอสักทีแล้วจะตั้งใจเป็นคนดีของสังคมเลย ฮึ่ย!

“แล้วก็นะ” ท่านเจ้าที่เมินสายตาอยากจะกินเลือดกินเนื้อที่ผมส่งไปให้ ด้วยการหันไปมองไวท์กับไอ้ธีร์ “ฉันไม่ได้เป็นสามีของแทงค์หรอก เพราะต่อให้เหลือเด็กนี่คนเดียวบนโลก ฉันก็ไม่เอามาทำเมียแน่ๆ หึ”

...มีหัวเราะตบท้ายแถมสายตาเยาะเย้ยผ่านหางตาอีกด้วยนะ

หน็อยยย ไอ้ท่านเจ้าที่ หน็อยยย ปากนี่นะ! ถ้าไม่ติดว่าเป็นเทวดาล่ะก็ พ่อจะตบปากให้เลือดกระเซ็นออกจากปากเป็นฝอยๆ เลย! แล้วไหนจะบอกว่าไม่เอากูทำเมียอีก! ลองเป็นมนุษย์ธรรมดาแบบกูเข้าหน่อยนี่กูไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ จะจับปล้ำทำผัวแม่ง! ทีนี้ล่ะมึงเอ๊ย ต่อให้ไม่เอากูยังไง แต่เสียตัวให้กูแล้วถือว่าได้กูเป็นเมีย!

วุ้ย! แล้วกูจะมานั่งมโนหาสวรรค์วิมานอะไรวะ นี่มันเรื่องวุ่นวายระดับสิบนะโว้ย ยังจะเล่นอีก!

“ปากหรือนั่น จะไปไหนก็ไปเลยไป ขวางหูขวางตาผม” ผมอดรนทนไม่ได้เอ่ยปากไล่ท่านเจ้าที่อย่างไม่กลัวบาปกรรมอะไรทั้งสิ้น เออ! ให้แต้มบาปมันเพิ่มไปอีกแต้มเลย ไม่แคร์แล้ว! นาทีนี้กูต้องการไล่เทวดาปากเสียไปให้ไกลที่สุด รำคาญญญ

“ไล่ขะ...ไล่ฉันแบบนี้ได้ไง ไร้มารยาทอีกแล้วนะไอ้เด็กนี่ แล้วอีกอย่างฉันก็บอกแล้วไงว่าถ้าจะคุยเรื่องสร้างศาลพระภูมิ มาคุยกับฉันโดยตรงมันง่ายกว่า”

“เอ่อ ผมว่าอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยนะ ก่อนอื่นแทงค์น่าจะแนะนำให้พวกเรารู้จักแฟน เอ๊ย เพื่อนบ้านของแทงค์ก่อนดีกว่า เนอะธีร์” ด้วยความที่กลัวว่าผมกับท่านเจ้าที่จะตีกันล่ะมั้ง ไวท์เลยยกมือข้างหนึ่งขึ้นเรียกความสนใจของเรา ก่อนจะว่าเสียงอ่อนด้วยรอยยิ้มแหยๆ

“อ่า อื้อๆ ไอ้แทงค์ แนะนำพวกกูให้พี่เขารู้จักด้วยดิ” ไอ้ธีร์พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

ผมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วแนะนำเพื่อนๆ ทั้งสองให้ท่านเจ้าที่รู้จักก่อน “นี่ไวท์ คนที่ผมขอให้มาช่วยทำศาลพระภูมิ ส่วนนี่ไอ้ธีร์ สองคนนี้ทำงานพาร์ทไทม์ที่ดีซีซุปเปอร์ฯ เหมือนผม”

“หวัดดีเด็กๆ” ท่านเจ้าที่พยักหน้าพลางยกยิ้มบางๆ ให้ทั้งสองคน ทำมายิ้มใจดี จริงๆ ใจร้ายมากต่างหาก เหอะ!

“ส่วนนี้เพื่อนบ้านเรา ชื่อ...” ผมเงียบ ด้วยไม่รู้ชื่อของท่านเทวดาโรคจิต เฮอะ! เคยถามก็ไม่ตอบ แถมยังบอกว่าตัวเองหยิ่งด้วย เรื่องนี้ยังจำได้ไม่ลืมเว้ย! “ถามชื่อเขาเองแล้วกัน”

“เอ๊า อะไรของมึงวะไอ้แทงค์” ไอ้ธีร์ทำหน้างงใส่ ขณะที่ท่านเจ้าที่หัวเราะในลำคอ มองผมแล้วเอ่ยปากบอกชื่อเอง

“ฉันชื่อภูตลา”

ภูตลา?

“มีชื่อกับเขาด้วยเหรอ?” ผมอดไม่ได้ต้องกวนประสาท เลยโดนท่านเจ้าที่ผลักหัวมาทีนึง...มันเจ็บนะ! ผลักไม่เบามือเลยแม่ง เทวดาอะไรวะทำร้ายร่างกายมนุษย์ นี่มันผิดหลักปฏิบัติของการเป็นเทวดาไม่ใช่หรือไง!?

“ยินดีที่ได้เจอกันนะครับพี่ภู” ไวท์ว่าพลางยกยิ้มจนตาหยีให้

“แล้วนั่นอะไรอ่ะครับ?” ไอ้ธีร์ชี้ไปที่ของในมือท่านเจ้าที่ ผมเลยมองตาม เพิ่งมาสังเกตเห็นเอาตอนนี้นี่แหล่ะว่าท่านเขาถือถุงอะไรก็ไม่รู้มาเต็มไม้เต็มมือเลย

“นี่นะเหรอ? ของทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าน่ะ”

“หือ? พี่จะทำเหรอครับ?” ไอ้ธีร์ยังถามอีก สงสัยห่าไรนักหนาวะ ว่าแต่...สปาเก็ตตี้คาโบนาร่างั้นเหรอ?

“เปล่า เด็กนี่ต่างหาก แล้วฉันก็ซื้อวัตถุดิบมาเยอะด้วย เพราะงั้นเย็นนี้ก็กินข้าวเย็นด้วยกันที่นี่แหล่ะ ตามนี้นะ” พูดจบท่านเจ้าที่ก็เดินเข้าบ้านไปเลย ทิ้งให้ผมอ้าปากค้างมองตามหลัง

อะ ไอ้ท่านเจ้าที่! ทำอะไรไม่ปรึกษากูเลยนะ!

“พี่ภูของมึงนี่ดูอินดี้ๆ เนอะ แถมยังเดินเข้าบ้านมึงเหมือนเป็นบ้านตัวเองอีกต่างหาก แล้วยังบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันอีกเนี่ยนะ?”

“มึงจะไม่จบประเด็นนี้ใช่ป่ะไอ้ธีร์ ต้องให้กูพูดซ้ำอีกกี่ครั้งวะไอ้เวร!”

“อ้าว ก็กูสงสัยอ่ะ อยากเสือกเนอะไวท์เนอะ ไวท์ก็อยากรู้ใช่ป่ะล่ะ” ไอ้เพื่อนเวรรีบหาพวกใหญ่ ส่วนไวท์ก็แค่หัวเราะโดยไม่ตอบอะไร ไวท์เป็นคนดีกว่ามึงเยอะไอ้ธีร์ เขาไม่อยากเสือกเรื่องชาวบ้านเหมือนมึงหรอกไอ้สันขวาน

“เฮ้อ งั้นเอาเป็นว่าถ้ากูกับเขาเป็นอะไรกันจริงๆ กูจะรีบบอกมึงเลย โอเคมะ? แต่ตอนนี้กูกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน จบนะ” ผมว่าตัดบท แต่ไอ้คนฟังน่ะตาโตทันที

“มึงสัญญาแล้วนะ ห้ามเบี้ยวนะเว้ย”

“เออ!” ผมพูดกระแทกใส่หน้ามัน ก่อนจะพากลับเข้าเรื่องเดิม “มาคุยกันต่อเหอะไวท์ เดี๋ยวจะเสียเวลาไปเปล่าๆ”

“แล้วไม่ต้องรอพี่ภูก่อนเหรอ? เมื่อกี้เขาบอกว่าถ้าคุยเรื่องสร้างศาลให้รอคุยกับเขานี่” ไวท์ถาม ผมเลยหันไปมองทางหน้าศาลาแล้วพยักพเยิดหน้าไปทางนั้น

“มานั่นแล้วไง”

ขวับ!!

“เฮ้ย! พี่มาตอนไหนอ่ะ!?” ไอ้ธีร์ทำหน้าหมางงใส่ ท่านเจ้าที่ยักไหล่ให้โดยไม่ตอบอะไร...คงหายตัววุบวับมานั่นล่ะ แค่ไอ้พวกนี้ไม่ทันสังเกตเห็น ส่วนผมน่ะชินแล้ว ขนาดแค่ขอให้มานอนเป็นเพื่อนบนเตียง อีกฝ่ายยังไม่เดินมาเลย แต่หายแวบมานอนข้างๆ แทน จำได้ไหมล่ะ

“โอเค งั้นมาพูดถึงรูปแบบศาลกัน” แม้จะยังงงๆ แต่ไวท์ก็ไม่ถามอะไรแล้วดึงกลับเข้าประเด็นหลักต่อ

“ให้เขาอธิบายนะ” ผมว่าพลางชี้ไปที่ท่านเจ้าที่หน้าหล่อข้างๆ นั่นทำให้เพื่อนทั้งสองคนทำหน้าสงสัยอีกแล้ว เดาว่าคงสงสัยว่าผมจะสร้างแต่ทำไมให้ไปถามอีกคนล่ะมั้ง ผมเลยแถไป “ก็พอดีคนที่ฝันจริงๆ แล้วคือเขา ไม่ใช่เราหรอก ท่านเจ้าที่บ้านเราไปเข้าฝันเขาน่ะ แปลกเนอะ ทำไมไม่มาเข้าฝันเราก็ไม่รู้”

“อ้าวเหรอ เออ แปลกจริงๆ ด้วย แต่ช่างเถอะ งั้นว่ามาเลยครับ พี่อยากได้แบบไหน”

“ฉันอยากให้...”

เกือบสองชั่วโมงกับการอธิบายรายละเอียดของศาลพระภูมิที่อยากจะสร้าง ผมนั่งฟัง เสริมไปด้วยว่าอยากให้เป็นแบบไหน อย่างน้อยมันก็ศาลบ้านผมนะ ผมก็ต้องมีข้อเสนอแนะบ้างสิ...พอได้แบบจำลองแล้วผมก็ไม่ลืมที่จะเสริมอีกอย่างลงไปด้วย

“อ้อ อย่าลืมสระว่ายน้ำด้วยนะ”

“เออใช่ ฉันก็ลืมไปเลย เป็นคนขอเอง เอ้ย! เป็นคนฝันเองแท้ๆ” เออว่ะ ดีหน่อยที่ท่านเจ้าที่เขาต่อบทผมได้ แต่พูดแบบนี้ไม่ถือว่าโกหกเหรอวะ? เขาเป็นเทวดานี่จะผิดศีลไหมอ่ะ ข้อหาพูดปดงี้

ช่างมันเถอะ เรื่องบาปของคนอื่นไม่เกี่ยวกับผม

ผมสลัดเรื่องไร้สาระออกจากหัวแล้วเอ่ยย้ำกับไวท์ “ขอสระว่ายน้ำตรงนี้” ว่าพลางชี้นิ้วไปที่ฝั่งขวาของแปลนศาลจำลอง ไอ้ธีร์ถึงกับเบิกตาโตมองผม

“เฮ้ย! พระภูมิเจ้าที่เขาขอสระว่ายน้ำด้วยเหรอวะ?”

“เออไง เอาไว้จัดปาร์ตี้ริมสระล่ะมั้ง”

“ฮ่าๆ เจ้าที่บ้านแทงค์ไฮโซสุดๆ ไปเลย” ไวท์หัวเราะ ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีกแล้ว บางทีผมก็คิดนะว่าไวท์นี่มองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า ถ้าเป็นคนอื่นคงสงสัยไม่เลิกอ่ะ

“เอ็ง...นายลืมอะไรไปอีกอย่างนะแทงค์” ผมหันมาสบตาท่านเจ้าที่อย่างไม่เข้าใจว่าตัวเองลืมอะไร? แปลนสร้างศาลก็ถูกต้องตามที่เขาต้องการแล้วนี่ ไหนจะสระว่ายน้ำอีก แล้วผมจะลืมอะไรได้อีกวะ? “สีกับลาย”

“อ๋อ” คีย์เวิร์ดสองคำของท่านเจ้าที่ทำให้ผมเก็ตละ “ตรงส่วนที่เป็นต้นเสาของศาลน่ะ เราขอให้ทาเป็นสีชมพูพาสเทลนะ แล้วก็...เพนต์ลายยูนิคอร์นสีรุ้งด้วย”

“หา!?!” ทั้งไวท์และไอ้ธีร์ถึงกับร้องเสียงหลง มองหน้าผมเหมือนกำลังมองหน้าผียังไงยังงั้น...กูก็ไม่อยากจะพูดนักหรอกเรื่องศาลสีชมพูเพนต์ลายยูนิคอร์นเนี่ย! แม่งดูมุ้งมิ้งเกิ๊น ถ้ากูเป็นฝ่ายได้ยินแบบนี้กูก็ตกใจอ่ะบอกเลย

“เอาจริงดิ?!” ไอ้ธีร์ถามย้ำ ไม่อยากจะเชื่อล่ะสิ เออ กูเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน

“ตามนั้นแหล่ะ เอาจริงไม่ล้อเล่น” ผมตอบ ก่อนจะผุดลุกขึ้น “ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เดี๋ยวเราไปทำสปาเก็ตตี้ให้คุณภูตลาเขาก่อนนะ” ผมเน้นเสียงพลางกดตามองท่านเจ้าที่ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้ผม ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้สุดๆ ชิ! กวนประสาทสิ้นดี

ผมแยกตัวเองออกมาโดยทิ้งท้ายไว้แค่ว่าถ้าเสร็จแล้วจะมาเรียก หากเบื่อก็ให้พวกมันเข้าไปนั่งเล่นในห้องนั่งเล่น เปิดทีวีดูหรือเล่นเกมไปแล้วกัน พอดีผมมีเครื่องเพลย์สี่อยู่น่ะ ได้มาเป็นของขวัญวันเกิดจากลุงกับป้า

ตอนที่เห็นครั้งแรกผมก็เกรงใจอยู่หรอกนะ คือมันก็ไม่ใช่ถูกๆ อ่ะ ถึงบ้านผมจะไม่ได้ยากจนอะไร มรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก็มากพอให้ผมเรียนจนจบ ชนิดมีงานมีการทำก็ยังเหลือเงินสำรองไว้ยามฉุกเฉิน ถ้าใช้แบบไม่ฟุ่มเฟือยอ่ะนะ...ลุงกับป้าเองก็มีสวนผลไม้ เงินทองก็มีมากอยู่ แต่การซื้อเครื่องเกมแพงๆ ให้ผมเนี่ย มันอดจะเกรงใจไม่ได้จริงๆ ครับ

ตอนนั้นจำได้ว่าปฏิเสธไม่รับด้วยล่ะ แต่ป้าก็ว่าเขาซื้อให้ลูกชายของเขาแล้ว ถึงเอาเครื่องนี้กลับไปก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี สุดท้ายผมเลยต้องรับไว้ ส่วนพวกแผ่นเกมผมก็เก็บตังค์ซื้อเอาเอง

ผมใช้เวลาทำอาหารอยู่เกือบชั่วโมง หูแว่วๆ ได้ยินเสียงพูดคุยกับเสียงโทรทัศน์หรือเกมนี่ล่ะดังมาจากห้องนั่งเล่น เลยพอเดาได้ว่าพวกนั้นคงย้ายเข้ามาในบ้านแล้ว นี่มันก็หกโมงกว่าแล้วด้วยสิ ข้างนอกยุงเยอะ ทนนั่งได้ก็ไม่ใช่คนอ่ะ

ทำมื้อเย็นเสร็จผมก็จัดการเอาของที่ต้องล้างไปแช่น้ำในซิงค์ ล้างมือจนสะอาดก็เดินออกไปเพื่อตามคนที่เหลือมากินข้าวเย็น...ห้องนั่งเล่นเล็กๆ ของบ้านตอนนี้มีท่านเจ้าที่กำลังนั่งกดจอยส์เกมอยู่ โดยข้างกันคือไอ้ธีร์ที่กำลังกระหน่ำกดจอยส์ของมันไม่ต่างกัน

ผมกอดอกพิงขอบประตูยืนมองโดยไม่เอ่ยอะไร ตั้งใจจะรอให้สองคนนี้เล่นให้จบก่อนน่ะ ไม่อยากขัดจังหวะ เดี๋ยวอารมณ์ค้างกัน ระหว่างนี้ผมก็มองท่านเจ้าที่ไปด้วย...ไม่คิดว่าจะเล่นเกมเป็นแฮะ ไงดีอ่ะ คือเขาบอกเองว่าไม่เคยดูทีวี ศาลพระภูมิก็ไม่ได้ติด wifi วันๆ ก็เอาแต่ทำงาน ว่างก็อ่านแต่หนังสือ เออ แล้วไปเล่นเกมเป็นเอาตอนไหนวะ?

จนจบเกมแล้วนั่นล่ะ ผมเลยเอ่ยขึ้นแทรกการเฮโลด้วความดีใจของไอ้ธีร์ที่สามารถเอาชนะท่านเจ้าที่ได้

“อาหารเสร็จแล้ว”

“อ้าว มาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะแทงค์” ไวท์หันมาถาม เจ้าตัวนั่งกดโทรศัพท์อยู่นานแล้วนับตั้งแต่ที่ผมเข้ามานั่นล่ะ ไม่รู้คุยกับใคร แต่มองจากสีหน้านี่ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเครียดๆ นะ

“ไม่นานหรอก ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า ดูเครียดๆ”

“อ๋อ คือ...พอดีว่ามี เอ่อ มีเพื่อนมาค้างที่หอกับเราน่ะ แต่เราปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว ก็เลยเป็นห่วงนิดหน่อย”

“อ้าว ถ้างั้นจะกลับเลยไหมล่ะ เดี๋ยวเราเอาสปาเก็ตตี้ใส่กล่องให้ไวท์เอากลับไปกินกับเพื่อนก็ได้นะ”

“แฮะๆ ไม่รบกวนใช่มั้ยอ่า” ไวท์ทำหน้าไม่แน่ใจปนๆ ไปกับเกรงใจ ผมก็เลยโบกมือให้เขาพลางว่า

“ไม่เลย งั้นเอากลับเนอะ เดี๋ยวเราไปใส่กล่องให้”

“อื้อ! ขอบใจมากนะแทงค์”

ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปถามไอ้ธีร์ “แล้วมึงอ่ะ กินนี่หรือเอากลับเหมือนกัน?”

“ก็ต้องเอากลับดิ กูต้องไปส่งไวท์ด้วย ไม่งั้นไวท์จะกลับยังไง”

“เออว่ะ งั้นเดี๋ยวกูเอาใส่กล่องให้มึงด้วยแล้วกัน”

“ขอโทษด้วยนะธีร์ที่ทำให้ต้องรีบกลับ”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร เราไม่ได้ลำบากอะไร”

ทั้งสองคนหันไปคุยกันเอง ผมก็เลยตั้งท่าจะหันหลังกลับไปที่ครัว แต่ท่านเจ้าที่ก็เอ่ยถามขึ้นเสียก่อน และเป็นคำถามที่ทำให้ผมต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่อย่างลืมตัว

“แล้วฉันล่ะ ให้กินที่นี่หรือให้เอากลับบ้าน?”

“ถ้าไล่แล้วจะกลับไหมล่ะ ฮึ่ย!!”


__________

หักมุมไหมคะ 5555 ทุกคนดูหวีดกับการเรียกที่รักของท่านเจ้าที่ แอบกระซิบว่านางเลียนแบบมาจากละครในทีวีค่ะ ก๊ากกก แล้วก็...ตอนนี้รู้ชื่อท่านเจ้าที่กันแล้วเนอะ จะสิบตอนละเพิ่งบอกชื่อ 555 ภูตลาแปลว่าแผ่นดินค่ะ เพราะเนอะ เนี่ยๆ เดี๋ยวรอน้องแทงค์เรียกพี่ภูๆ กันนะ ฮ่าาา อ้อ แอบขำ รอบนี้ท่านเจ้าที่ใส่เสื้อมานะคะ 55555

อ้อ สำหรับคำผิด แน่นอนว่ามันต้องมีค่ะ 55 ไว้มีเวลาจะมาแก้นะคะ ตอนนี้กำลังปั่นต้นฉบับเรื่องนี้อยู่ อย่าลืมคอมเมนต์ให้เราบ้างน้าา แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 22:49:48 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ท่านเจ้าที่ก็กวนได้ใจจริงๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ท่านภู มีความคูลๆชิคๆ ศาลสีชมพูเพ้นท์ยูนิคอร์น นึกภาพตามแล้วมันฮาจริงๆค่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ท่านเจ้าที่เป็นหัวหน้าค่ายสินะ นั่นเสื้อแจกใช่ม่ะ รับสมัครเจ้าที่รุ่นเยาว์

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ชอบเสื้อเฮียจริงๆ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
สงสัยพี่ภูเขาไปออกงานอีเว้นมาก  :m20:

ออฟไลน์ Amploveakame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
5555 ได้รู้ชื่อซักทีจากอ่านมา 9 ตอนเมือไรจะรักกันอยากเห็นความหวานของทั้ง2
 :impress2:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
อยู่บ้านเขา ให้เขาทำอาหารให้ ทำบ้านให้ใหม่ด้วย
เป็นการราวีที่น่าสยดสยองมากค่ะท่าน ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2017 15:38:11 โดย u_cosmos »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ท่านภูตลาเจ้าขาาาาาาาาา~

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 10

"ข้าเก่ง"

 

พวกเพื่อนกลับไปแล้ว แต่ท่านเจ้าที่ยังไม่กลับ อีกฝ่ายกำลังม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ด้วยท่วงท่าเท่บาดใจจนผมอดคิดไม่ได้ว่าแบบ...แค่ม้วนเส้นจำเป็นต้องเท่ขนาดนี้เลยเหรอ?

เขายังอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายเดิม น่าแปลกที่ไม่มีใครทักเรื่องนี้ทั้งๆ ที่คำบนเสื้อมันดูประหลาดขั้นสุด หรือเพราะเพื่อนผมทั้งสองคนมันไม่ทันได้สังเกต? แต่คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมเลยเลิกคิดแล้วก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ เชื่อเถอะว่าการได้อยู่ในความเงียบกับท่านเจ้าที่น่ะเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วครับ เพราะถ้าเมื่อใดที่เปิดปากพูด ไม่ผมก็เขานี่แหล่ะที่ปากหมาใส่กันก่อนตลอด คุยดีๆ ได้กี่ครั้งลองนับดูเถอะ ส่วนใหญ่ที่มันจะดีๆ หน่อยก็ตอนที่ผมขี้เกียจสู้ด้วยวาจากับเขา กับตอนที่เขาใจดีประหนึ่งโดนผีเข้ามานั่นล่ะครับ

แกร๊ง...เสียงวางช้อนส้อมกระทบกับจานทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วถึงกับต้องทำตาโตเมื่อพบว่าสปาเก็ตตี้พูนชามเมื่อครู่หมดเกลี้ยงไปแล้วภายในเวลาอันรวดเร็ว

“กินหรือสูบอ่ะท่านเจ้าที่” ผมหลุดปากถามออกไป ท่านเจ้าที่เลยถลึงตาใส่ผม

“ข้าเป็นเทวดา ไม่ใช่ส้วม!”

“พรืดดด ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหลุดหัวเราะลั่น เฮ้ย! เข้าใจเปรียบว่ะ ผมไม่ได้นึกถึงขั้นนั้นเลยนะ แต่ท่านเจ้าที่เล่นพูดเองซะงั้น ฮ่าๆๆๆ โอ๊ยยย นอกจากปากเสียชอบกวนประสาทแถมด้วยโรคจิตแล้วยังตลกอีกอ่ะ ครบเครื่องว่ะพระภูมิเจ้าที่องค์นี้ ก๊ากกก!

“ขำอะไรมากมายนัก มันตลกขนาดนั้นเลยเรอะ?”

“ก็เอออ่ะดิ นี่ไม่รู้ตัวหรือไงว่าพูดอะไรออกมา ฮ่าๆๆ” ผมหยุดหัวเราะไม่ได้อ่ะ และดูเหมือนท่านเจ้าที่จะเริ่มรำคาญแล้วด้วย เพราะอีกฝ่ายส่งสายตาปรามๆ มาให้ผม ผมก็เลยต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหยุดหัวเราะ

ผมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากทั้งๆ ที่ยังอมยิ้มไม่เลิก ส่วนท่านเจ้าที่ก็กระดกแก้วน้ำขึ้นดื่ม กวาดสายตามองไปทางอื่นโดยไม่พูดอะไรอีก จนผมเคี้ยวหมดคำนั่นล่ะถึงได้เอ่ยถามสิ่งที่คาใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้ออกไปว่า...

“นี่ ท่านเจ้าที่ ท่านชื่อภูตลาจริงเหรอ?”

“อืม ทำไม? ไม่เชื่อรึไง” ท่านเจ้าที่ย้อนถามผม

“ก็แค่สงสัย” ผมยักไหล่ให้ ม้วนเส้นต่อ ปากก็พูดไปพร้อมกัน “แล้วนี่ท่านไปเรียนรู้วิธีเล่นเกมมาจากไหนอ่ะ เล่นเพลย์สี่เป็นด้วย”

“ก็ตอนที่เอ็งไม่อยู่บ้านนั่นล่ะ ข้าก็เลยเปิดโทรทัศน์ดูบ้าง เปิดคอมพิวเตอร์เอ็งบ้าง แล้วก็ไปอ่านเจอวิธีเล่นเกมมา เลยลองเอาเครื่องของเอ็งมาเล่น”

“นี่แอบเล่นของผมทุกอย่างเลยเหรอวะ?” ผมเบิกตาโตใส่

โอ้โห นี่แอบเล่นแอบใช้ของในบ้านกูไปกี่อย่างวะเนี่ย ค่าน้ำค่าไฟกูจะขึ้นเปล่าวะ เฮ้ย! ไม่ได้ๆ เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะมันเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่สนใจไม่ได้ ถึงคนที่ใช้จะเป็นเทวดาอารักษ์ประจำบ้านอะไรก็เหอะ

“นิดๆ หน่อยๆ เอง เอ็งอย่ามางกน่า”

“ไม่ได้งก! เขาเรียกประหยัด ถ้าค่าน้ำค่าไฟเดือนนี้ออกมาแล้วเพิ่มกว่าปกติ ท่านต้องจ่ายส่วนต่างมาให้ผมด้วย!”

“คิดรายจ่ายกับเจ้าที่บ้านตัวเองเนี่ยนะ!? เอ็งนี่มันเหลือเกินจริงๆ” ท่านเจ้าที่ชี้หน้าว่าผม จะว่าไปยังมีอีกเรื่องที่ผมต้องบอกกับเขานี่หว่า

“แล้วก็เรื่องค่าทำศาลพระภูมิอ่ะ ผมบวกรวมค่าจ้างไวท์ไปด้วยนะ เพราะถึงจะบอกว่าขอให้เขามาช่วย แต่ยังไงก็น่าจะมีสินน้ำใจให้เขาบ้าง ถึงจะไม่มากเท่าจ้างช่างมืออาชีพก็เถอะ”

“ข้ารู้แล้ว ไว้รวมรายจ่ายทั้งหมดมาแล้วกัน ข้าจะได้เอาไปเบิกกับหน่วยงานของข้า”

“โอเค” ผมตอบรับเท่านั้นก่อนจะลงมือทานอาหารต่ออย่างตั้งใจอีกครั้ง รีบกินจะได้รีบไปอาบน้ำทำการบ้านนอน อยากพักผ่อนแล้วครับ ชีวิตผมก็วนเวียนอยู่แค่นี้ กิน นอน ไปเรียน ทำงานพิเศษ

“กินยังไงให้เลอะ” จู่ๆ ท่านเจ้าที่ก็บ่นออกมา ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขา แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือเข้ามาหา ก่อนจะใช้ปลายนิ้วชี้ปาดคราบซอสคาโบนาร่าที่เปื้อนริมฝีปากของผมออกให้

ที่ทำให้ผมตกใจที่สุดจนถือส้อมค้าง ก็คือการที่ท่านเจ้าที่เลียนิ้วตัวเองที่เปื้อนซอสนี่แหล่ะ เฮ้ย! นั่นมันปาดออกไปจากปากของผมนะเว้ย! “ทำบ้าอะไรเนี่ยท่านเจ้าที่!!”

“อะไรของเอ็ง ก็มันเปื้อนข้าเลยเช็ดให้ แล้วมาด่าข้าบ้าเนี่ยนะ? เอ็งนั่นล่ะ เป็นบ้าอะไร” ท่านเจ้าที่ทำหน้าไม่เข้าใจ ให้ผมปล่อยส้อมในมือแล้วเปลี่ยนไปขยุ้มหัวตัวเองแทน โอ๊ยยย ทำไมบทจะรู้ไปซะทุกเรื่องก็รู้วะ แต่บทจะไม่รู้อะไรเลยเนี่ยแม่งก็ไม่รู้จริงๆ จะด่าซื้อบื่อก็ด่าได้ไม่เต็มปากไอ้ฉิบหายยย

“ท่านทำแบบนี้ไม่ได้ นั่นมันมาจากปากของผม ท่านเอาไปกินต่อทำไมเล่า! เช็ดสิเช็ด! กระดาษทิชชู่ก็มี!” ผมว่าพลางดึงทิชชู่ในห่อที่วางอยู่บนโต๊ะมายื่นให้อีกฝ่ายยิกๆ ท่านเจ้าที่ส่ายหน้าระอาแต่ก็รับทิชชู่ไปเช็ดมือตัวเอง ทั้งๆ ที่ความจริงมันก็ไม่มีอะไรให้เช็ดอีกแล้ว

“เรื่องแค่นี้เองทำเป็นโวยวายไปได้” แถมยังมีหน้ามาบ่นกันอีกต่างหาก

จะไม่ให้โวยวายได้ยังไงกันเล่า! ก็ที่เขาทำน่ะมันน่าอายจะตายไป ผมนี่แหล่ะที่รู้สึกว่ามันน่าอาย สารภาพจากใจเลยว่ากูเขินว้อย! ทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากจูบทางอ้อมอ่ะ เหมือนในหนังในละครหรือในนิยายเลยอ่ะ ฮื่อ! กูไม่โอเค มัน...มันจั๊กกระเดี๋ยม(?)เว้ย!

ผมยกมือกุมหน้าตัวเอง รับรู้ได้ว่าตอนนี้ผิวหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเฉยๆ เข้าแล้ว

“ไม่แดกแล้วแม่ง!” เผลอตัวพูดคำหยาบจบผมก็ลุกขึ้นยืน เหลือบมองท่านเจ้าที่ก่อนจะก้าวดุ่มๆ ออกจากห้องครัวมาเลย ไม่เก็บล้างอะไรทั้งนั้นด้วย ทิ้งไว้งั้นแหล่ะ!

ทำไม ทำไม! ทำไม!! ทำไมกูต้องเขินด้วย!

ไม่ไหวๆ ผมว่าผมไปอาบน้ำดีกว่า เผื่อความเย็นของน้ำจะทำให้หน้าผมหายร้อนบ้าง แง่ง! กูต้องเป็นโรคประสาทแน่ๆ ที่ไปเขินไอ้ท่านเจ้าที่เนี่ย!

__________

ดึกแล้วแต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆ ที่นี่มันก็ถึงเวลานอนของผมแล้วนะครับ ปกติผมเป็นคนนอนตรงเวลามาก ยกเว้นคืนไหนทำงานหรือต้องเคลียร์การบ้านผมถึงจะนอนเลยจากเวลาปกติ ซึ่งวันนี้ผมไม่ต้องทำอะไรแล้วไง ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว งานพิเศษก็ไม่ได้ทำ แล้วทำไมยังไม่นอนอีกเนี่ย

อ่อ รู้ละว่าทำไม

ก็เพราะภาพเมื่อตอนหัวค่ำมันยังติดตาผมอยู่น่ะสิ!

...ภาพที่ท่านเจ้าที่เช็ดคราบซอสสปาเก็ตตี้ออกจากปากผมแล้วเอาไปกินต่อนั่นไง อ๊ากกก!!!

เลิกคิด! เลิกนึกถึง! เลิกๆๆ นอนเว้ยไอ้แทงค์!

ผมสะกดจิตตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปปิดสวิตซ์โคมไฟจนทั้งห้องมืดสนิท หลับตาลงหวังข่มตาให้หลับให้ได้ เพราะพรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้า ผมต้องตื่นแต่เช้าไปเผชิญรถติดอีกนะครับ ไม่รีบนอนเดี๋ยวก็ไม่ตื่นกันพอดี

จังหวะที่กำลังเคลิ้มๆ จะหลับมิหลับแหล่ จู่ๆ สายลมเย็นก็พัดวูบเข้ามาในห้องผ่านทางหน้าต่าง แถมไม่ได้มาแค่ลมแต่ยังมีกลิ่นมาอีกด้วย กลิ่นที่เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด...ผมสะดุ้งโหยง เบิกตาโตหายง่วงทันที ขดตัวแล้วเอื้อมมือไปควานเปะปะหวังเปิดไฟให้แสงสว่าง ใจงี้สั่นไปหมด ไอ้เชี่ย! ทำไมผีบ้าผีบออะไรนั่นยังอยู่อีกวะ! ไหนท่านเจ้าที่ว่าไล่ไปแล้วไง!

ผมควานมือไปเรื่อยทั้งๆ ที่สายตายังมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่น่าเลยกู ไม่น่าลืมปิดหน้าต่างเลยห่าเอ๊ย! ก็แล้วใครมันจะไปคิดว่าจะเจออีกล่ะวะ แม่ง!

แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง แหกปากร้องลั่นตามสัญชาตญาณเบื้องลึกของความกลัว แหกปากชนิดเอาให้ผีที่จับมือผมอยู่เนี่ยตกใจตายไปอีกรอบเลย ไอ้สลัดดด มึงมาจับมือกูทำไมไอ้ผีบ้า! ปล่อยนะ!

“ว้ากกกกกกกก!!!!”

“เฮ้ย! เอ็งจะแหกปากทำไมเนี่ย มันหนวกหู!”

กึก

ผมหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเข้มดังขึ้นมาจากทางฝั่งที่ผมพยายามควานมือหาสวิตซ์ไฟ “ท่านเจ้าที่!”

“เออ ข้าเอง” ท่านเจ้าที่ตอบรับ ก่อนจะเปิดโคมไฟมอบแสงสว่างให้กับห้องนอนของผม...ผมมองหน้าเทวดาตัวโตด้วยความโล่งใจ แต่ก็โล่งได้ไม่นานหรอกเพราะลมเย็นโชยผ่านกับกลิ่นเหม็นเน่ายังอยู่

“ท่านเจ้าที่! ไหนท่านบอกว่าไล่ผีผู้หญิงนั่นไปแล้วไง!?”

“ก็ไล่ไปแล้วน่ะสิ ที่มานี่ตัวใหม่”

“หา?!” ผมร้องเสียงหลง เบิกตาโตแล้วถามย้ำ “ตัวใหม่? ท่านกำลังจะบอกว่ามีผีบ้าผีบออะไรไม่รู้โผล่มาหาผมอีกแล้วเรอะ!?”

เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะหายวับไปที่ริมหน้าต่างแล้วตะโกนไล่เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด “ไปซะ!!! อย่าโผล่มาอีก!”

นาทีต่อมาลมเย็นกับกลิ่นเน่าก็หายวับไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน ผมสูดหายใจเข้าลึก ลองดมฟุดฟิดไปด้วยว่ายังเหลือกลิ่นเหม็นเน่านั่นอีกไหม พอไม่ได้กลิ่นอะไรอีกก็ให้โล่งใจสุดๆ ได้ซะที

ถอนหายใจเฮือก เงยหน้ามองท่านเจ้าที่ที่หายตัววับกลับมายืนอยู่ข้างเตียงนอนของผมเหมือนเดิม เห็นดังนั้นผมก็เลยทำตาหมาหงอยใส่แล้วเอ่ยโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดมากมายให้เสียเวลา “มานอนเป็นเพื่อนผมหน่อยสิครับ แฮะๆ”

“เฮ้อออ เอ็งนี่นะ เออๆ นอนได้แล้ว ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเอ็งจนถึงเช้าแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มหวานให้ท่านเจ้าที่ อีกฝ่ายส่ายหน้าให้ตามด้วยหายฟุ่บมาล้มตัวลงนอนข้างๆ ผม คราวนี้เขานอนราบไปกับฟูกนอนหนานุ่มแทนที่จะนั่งพิงหัวเตียงเหมือนเมื่อวาน ชันแขนข้างหนึ่งขึ้นหนุนหัวตัวเองต่างหมอน ตะแคงตัวหันมาทางผมที่นอนราบแต่เอียงหน้าไปหาเขา นั่นทำให้เราได้สบตากัน

“ท่านไล่วิญญาณพวกนั้นไปแล้วนี่ แต่ทำไมถึงยังมีมาอีกล่ะครับ?” เอาล่ะ พูดดีๆ กับเขาหน่อย เดี๋ยวเขาทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวแล้วจะยุ่ง

“ไม่รู้สิ ข้าเองก็แปลกใจเหมือนกัน เอาไว้คงต้องแจ้งนายตำรวจแห่งสวรรค์ให้สืบหาข้อเท็จจริง” ท่านเจ้าที่ตอบเหมือนไม่คิดอะไรมาก แม้สีหน้าจะดูคาใจไม่น้อยอยู่เหมือนกันก็ตาม แต่ผมนี่ดิชะงักไปตั้งได้ยินคำว่า...

“นายตำรวจสวรรค์?”

“อืม เป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลความเรียบร้อยและจับกุมพวกนอกกฎเกณฑ์ของสวรรค์น่ะ”

“โอ...เค...” ผมตอบแค่นั้นแล้วไม่ถามอะไรอีก ไม่ควรมีข้อสงสัยอะไรทั้งนั้น ผมควรชินได้แล้วอ่ะ จริงๆ นะ

“นอนได้แล้ว” เทวดาหน้าหล่อยื่นมือออกมาลูบหัวของผมราวกับจะปลอบประโลมใจกัน แปลกที่คราวนี้เขาไม่ยักล้อเรื่องที่ผมกลัวผีแฮะ แถมสัมผัสที่มืออุ่นแตะลงมาบนศีรษะก็ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด มันชวนให้ผมอบอุ่นหัวใจ ชวนให้ผมนึกถึงพ่อกับแม่...ท่านทั้งสองก็ชอบลูบหัวผมเวลาที่ผมไปอ้อนนอนหนุนตัก

คิดถึงพวกท่านจัง

“นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าปลุกแต่เช้า มีเรียนตอนเช้านี่ใช่ไหม”

“ท่านรู้ได้ไงว่าผมเรียนกี่โมง?” ผมถามอย่างสงสัยใคร่รู้

“ข้าเก่ง” ว่าไม่พอยังยักคิ้วให้อีกต่างหาก โว๊ะ!! คน...ไม่ดิ เทวดาอะไรวะชมตัวเอง น่าหมั่นไส้ชะมัด

ผมแอบเบ้ปากเล็กน้อย สุดท้ายด้วยความไม่อยากเถียงด้วยเลยหลับตาลงตั้งใจจะนอนจริงๆ สักที หากแต่ปากก็ยังเอ่ยขึ้นเบาๆ ทิ้งท้ายก่อนจะหลับไปว่า “ฝันดีนะท่านเจ้าที่”

“ฝันดี”


__________

แม้ปากจะบอกว่ามาตามรังควานเขา แต่เอาเข้าจริงนี่เหมือนมาดูแลเด็กอ่ะ ถึงแทงค์จะไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนแอก็ตามทีเถอะ 555 เราไม่รู้ว่ามันฮาไหม แต่ก็อยากให้ทุกคนสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ กลัวมันจะน่าเบื่อเหมือนกันนะ แต่เราก็ไม่ได้วางเรื่องให้มันมีปมหลักอะไร คือมันเรื่อยเปื่อยจริงๆ ค่ะ อย่างที่เคยบอกก่อนหน้านี้นั่นล่ะ แฮ่ๆ ยังไงก็ฝากติดตามกันไปจนจบด้วยนะคะ รักกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 22:59:18 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มีตำรวจสวรรค์ด้วย

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
อยากมีแบบนี้มั่งอ่ะ  :z2:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ท่านภูตลาน่ารักกกกก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ทำน้องแทงค์ใจเต้นบ่อยๆแบบนี้ก็เหมือนทำร้ายร่างกายกันนะท่านเจ้าที่

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
     สนุกมากค่ะไม่น่าเบื่อยิ่งอ่านตัวละครยิ่งน่ารัก รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ PingPong_Hunlay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักทั้งเรื่องเลย งื้อออออ  :z3:

ออฟไลน์ Khunnay24

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[ o13ชอบมากเลยเรื่องนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
งุ้ยยย น่าย้ากกก :กอด1:

ออฟไลน์ nokkkey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ท่านเจ้าที่อบอุ่นแท้ ฮือออ ดีต่อใจ :heaven

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใครกันนะ ที่ดึงดูดใจให้พวกผีสาวๆมาเข้าหา
ท่านเจ้าที่ หรือแทงค์กันนะ
แต่ดูท่าแล้วน่จะเป็นท่านเจ้าที่รูปหล่อ ซะละม้าง

คิดอีกแง่ท่านเจ้าที่ ให้พวกนี้โฉบมาหรือเปล่า
เพราะแทงค์กลัว จะได้ขอให้ท่านเจ้าที่มาเฝ้าตลอด น่าคิดนะ  :hao4: o18 :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :o8: สรุปจะมารังควานหรือดูแลเนี้ย  :mew3:
ว่าแต่ทำไมถึงมีแต่ผีตามน้องอะคะ ชักจะแปลกๆ นะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พล็อตเรื่องเท่มากๆเลยค่ะ
ถึงจะยังกังวลว่าจะรักกันได้ยังไง ระหว่างคนกับเจ้าที่
จะรอติดตามต่อๆไปค่ะ!! ^0^

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 11

“ข้าอยู่รีพับลิกัน”

 

ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพราะท่านเจ้าที่ปลุก แต่พอจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำกลับไม่เจออีกฝ่าย จะว่าไปท่านเขาก็ดูท่าทางเร่งรีบนะ คงมีธุระล่ะมั้ง

ผมหยิบเสื้อนักศึกษามาใส่ ตามด้วยกางเกง ยัดชายเสื้อเข้าในกางเกง สวมเข็มขัดเรียบร้อยก็ตามด้วยหวีผม...ถึงจะไม่ใช่คนตามแฟชั่นอะไรนัก แต่ผมก็ไม่ยอมหัวกระเซิงหรือแต่งตัวไม่เรียบร้อยไปเรียนแน่ๆ เป็นนักดนตรีก็ต้องดูดีเข้าไว้สิ ตอนนี้ปีสองแล้วด้วย ผมต้องสร้างคอนเนคชั่นเอาไว้สำหรับหน้าที่การงานในอนาคต และการแต่งตัวให้ดูเป็นผู้เป็นคนก็เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีนี่ครับ ใช่ป่ะล่ะ?

ไม่ดิ เอาแค่ฝึกงานก่อนก็ได้ ถ้าได้ฝึกงานในค่ายเพลงดีๆ ก็คงจะเยี่ยมไม่น้อยเลยว่าไหมล่ะครับ

เช็คความเรียบร้อยจนแน่ใจว่าดีพอ ผมก็คว้าเป้กับกระเป๋าสตางค์และกุญแจมอเตอร์ไซค์ก่อนจะออกจากห้อง เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่าตอนนี้เจ็ดโมงแล้ว อืม...ผมมีเรียนตอนแปดครึ่ง ยังพอมีเวลากินข้าวแฮะ

ผมลงมาถึงห้องครัวด้วยตั้งใจจะทอดไข่เจียวง่ายๆ กินเป็นมื้อเช้า แต่แล้วก็ต้องชะงักตาแทบถลนเมื่อพบว่าคนที่หายตัวไปอย่างไวเมื่อเช้าตรู่กำลังยืนพิงสะโพกกับโต๊ะกินข้าวแล้วจัดชายเสื้อที่ข้อมือไปด้วยอยู่...แล้วดูชุดที่ใส่นั่นดิ เฮ้ย!!!

“ทำไมใส่ชุดนี้อ่ะท่านเจ้าที่!?” ผมร้องถามเสียงหลง สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวต้องเดินเข้าไปดึงตัวเทวดาร่างสูงให้ยืนขึ้นตรงๆ ตามด้วยจับอีกฝ่ายหมุนซ้ายหมุนขวามองสำรวจไปทั่วทั้งตัว

จะไม่ให้ตกใจได้ไงเล่า! ก็ตอนนี้ท่านเจ้าที่เขาใส่สูทอยู่อ่ะ!

เวลานี้ท่านเจ้าที่อยู่ในชุดสูทเต็มยศ เสื้อเชิ้ตสีขาวสวมทับด้วยสูทสีดำ เนกไทก็สีดำทั้งเส้น กางเกงสีดำกับเข็มขัดหนังเนื้อดีสีเดียวกัน ไหนจะรองเท้าหนังสีดำอีก พอมาอยู่บนตัวท่านเจ้าที่ที่สูงร้อยแปดสิบกว่าแล้วโคตรดูดีอ่ะเฮ้ย! ยิ่งไปกว่านั้นท่านเจ้าที่ยังแต่งทรงผมให้เข้าทรงด้วยเจล เสยขึ้นไปแล้วปัดไปทางขวานิดนึง คือแบบ...มึงเอ๊ย! หล่อว่ะ ผมว่าเขาหล่อมากเลยให้ตายเหอะ! สารภาพจากก้นบึ้งเลยว่าตอนนี้หัวใจผมเต้นตึกๆ เลยว่ะครับ ไอ้เหี้ย หล่อเกิ๊น เทวดาหรือนายแบบกูให้โอกาสเลือกอาชีพใหม่

“ข้ามีประชุมกับสภารัฐบาลแห่งเทพ”

“หะ?” ผมที่กำลังชื่นชมความดูดีขั้นสุดของท่านเจ้าที่เป็นอันต้องชะงัก มือที่จับแขนของอีกฝ่ายขยับไปขยับมาถึงกับหยุดนิ่ง ผมมองเขาแล้วทวนคำกลับไปด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ “สภารัฐบาลแห่งเทพ?”

“อืม” ท่านเจ้าที่พยักหน้าตอบรับ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว

“สวรรค์มีรัฐบาลด้วยเหรอวะ?” อันนี้ผมถามตัวเอง แต่เหมือนจะลืมเบาเสียง ท่านเจ้าที่เลยได้ยิน

“มีสิ ก็เหมือนสังคมมนุษย์นั่นล่ะ ข้าเองก็เป็นเทวดาสังกัดพรรคๆ หนึ่งของการเมืองแห่งสวรรค์เช่นกัน”

“พรรคการเมืองแห่งสวรรค์...”

โอเค ไอ้ฉิบหาย นี่กูตื่นหรือยังวะเนี่ย ทำไมได้ยินอะไรแนวๆ นี้จากท่านเจ้าที่แล้วไม่เคยชินได้สักทีวะ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกอันแสนธรรมดาของผมครับ!? แล้วเมื่อกี้ท่านเจ้าที่เขาว่าตัวเองมีสังกัดพรรคการเมืองแห่งสวรรค์ป่ะ? มันคืออะไร พรรคการเมืองแบบพวกมนุษย์น่ะเหรอ?

“พวกท่านมีรัฐบาล แล้วก็มีพรรคการเมือง?”

“ใช่” ท่านเจ้าที่ตอบก่อนจะขยับจัดแต่งเนกไทให้ตรงและเนี้ยบ

“ฮ่าๆๆๆ” สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหวหลุดหัวเราะดังลั่น โอเคๆ มีรัฐบาลแล้วทำไมจะไม่มีพรรคการเมืองล่ะ เออ ลองถามดูดีกว่าว่าท่านเจ้าที่เขาสังกัดพรรคชื่อว่าอะไร อาจจะมีชื่อแปลกๆ ก็ได้ใครจะรู้

“แล้ว อุ๊บ...แล้วพรรคของท่านเจ้าที่คือพรรคอะไรล่ะ?” ผมถามไปก็พยายามกลั้นหัวเราะไปด้วย

“ข้าอยู่รีพับลิกัน”

กึก!

ผมนิ่ง...ทบทวนสิ่งที่ได้ยินซ้ำๆ ไม่ต่ำกว่าห้ารอบ

รีพับลิกัน (Republican) นี่มันพรรคการเมืองของอเมริกาถูกมั้ย? ที่มีคู่แข่งคือพรรคเดโมแครต (Democrat) อ่ะ

ปวดหัวว่ะ ไม่น่าถามเลยไอ้แทงค์ มึงพลาดอีกแล้ว...ผมด่าตัวเอง ก่อนสุดท้ายจะเอ่ยไปว่า “เอ่อ ยินดีด้วยที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกานะครับ”

ท่านเจ้าที่มองหน้าผมเหมือนเห็นคนบ้า ขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งใส่

“พูดอะไรของเอ็ง ข้าไปประชุมดีกว่า คุยกับเอ็งแล้วเหนื่อย เถียงกับพวกเดโมแครตยังดีกว่าพูดกับเอ็งเสียอีก”

“อ่า...ฮะ ไป ไปเลยท่านเจ้าที่ รีบไปให้ทันฮิลลารี คลินตันเข้าประชุม”

“เอ๊ะ! ยังจะพูดไม่รู้เรื่องอีก เอ็งตื่นเช้าเกินไปเลยยังเมาขี้ตาอยู่รึไงฮึ?” ท่านเจ้าที่บ่นอีกสองสามประโยค ก่อนจะหายวับไปต่อหน้าต่อตาผม ทิ้งให้ผมยืนมึนงงเหมือนหมาเดินชนเสาไฟฟ้าอยู่ที่เดิม...แล้วทำไมผมต้องมาเปรียบเทียบตัวเองกับหมาล่ะเนี่ย

ผมสะบัดศีรษะไล่ความน่าปวดหัวออกไปจากสมอง ตั้งสติแล้วถึงได้ไปทอดไข่กินเป็นมื้อเช้าตามความตั้งใจแรก สิบห้านาทีต่อมาผมก็กินข้าวล้างจานเรียบร้อย ได้เวลาไปเรียนสักที

แต่นะ แต่พอมานึกดูอีกทีก็อดจะขำกับเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้ว่ะครับ พรรคการเมืองแห่งสวรรค์ตั้งชื่อพรรคเหมือนพรรคการเมืองของอเมริกา นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริงๆ สักวันนะสักวัน ผมหวังว่าตัวเองจะชินกับอะไรแบบนี้เสียที เหอะๆ

ยี่สิบนาทีต่อมาผมก็มาถึงมหา’ลัย ระหว่างรออาจารย์เข้าสอน ผมก็เลยใช้เวลาที่ว่างอยู่นี้นั่งอ่านโน้ตเพลงไปเรื่อยเปื่อย หลังจากสัปดาห์นี้ผมจะเริ่มกลับไปเล่นดนตรีที่ร้านพี่เฟิ่งแล้วด้วย ต้องฝึกเล่นเพลงใหม่เอาไว้บ้าง อ้อ ผมไม่เคยเล่าสินะว่าจริงๆ แล้วผมทำงานพิเศษเป็นนักดนตรีที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งแถวข้าวสารด้วย ไม่ได้มีแต่ผมหรอกครับ ยังมีเพื่อนร่วมวงอีกสามคน แน่นอนว่าผมน่ะเล่นกลองอยู่แล้ว เครื่องดนตรีตัวโปรดที่ถนัดที่สุดนี่นา

แต่ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกผมไม่ได้ไปเล่นเลยเพราะร้านของพี่เฟิ่งปิดให้บริการ พี่เขาต้องกลับต่างจังหวัดไปบ้านเมียน่ะครับ แม่ยายเพิ่งเสีย

พี่เฟิ่งเป็นเจ้าของร้านครับ ชื่อเต็มๆ ของเขาคือเฟิ่งหลง แต่ไม่ได้เป็นคนจีนอะไรหรอก แม่ของพี่เขาชอบหนังจีนเรื่องหนึ่งมากๆ ตอนท้องน่ะ เลยเอาชื่อตัวร้ายมาตั้งเพราะชอบตัวร้ายคนนี้ที่มีหน้าตาหล่อมากกว่าพระเอกเสียอีก ฮ่าๆๆ

วันอาทิตย์นี้พี่เฟิ่งจะกลับมาแล้ว แต่พวกผมคงได้กลับไปเล่นในคืนวันพุธนู่นแหล่ะ...วงของพวกเราเล่นแค่คืนวันพุธ วันศุกร์ แล้วก็วันอาทิตย์เท่านั้นครับ

แปลกใจใช่ไหมล่ะว่าทำไมผมทำงานเยอะ เอาเข้าจริงนี่ก็มีแค่วันจันทร์ล่ะมั้งที่ผมไม่ได้ไปทำงานพิเศษอะไรที่ไหน ผมอยากทำงานนะ ก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอะไรมากนักหรอก แต่กลับมาอยู่บ้านคนเดียวมันก็เหงา ไม่มีใครพูดคุยด้วย ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ทำในบ้านหลังนั้น บ้านที่มีแค่ตัวเราเองเนี่ยมันเหงาจับใจมากเลยครับ เพราะงั้นผมก็เลยหาเรื่องทำงานพิเศษ ไอ้เล่นดนตรีในร้านเหล้าน่ะมันอยากเล่นเพราะเราเรียนด้านดนตรีมาก็ต้องหาประสบการณ์อยู่แล้ว แต่ที่ซุปเปอร์ฯ นั่นผมเห็นเขารับสมัครพาร์ทไทม์แล้วมันใกล้บ้านพอดีผมก็เลยไปสมัคร ทำแก้เหงาอย่างที่บอกนั่นแหล่ะ

ผัวะ!

“ไอ้แทงค์ หน้าตามึงเบื่อโลกเหมือนเคยเลยนะมึง”

“ไอ้ห่าเนส ถ้าจะตบไหล่กูขนาดนี้ มึงหยิบไหล่กูไปเขวี้ยงทิ้งเลยก็ได้นะ” ผมแหวใส่เพื่อนร่วมวง...ก็วงที่ผมเล่าให้ฟังนั่นล่ะครับ ด้านหลังมีเพื่อนอีกสองคนเดินตามเข้ามานั่งล้อมวงด้วยแล้วส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ให้กับบทสนทนาของผมกับไอ้เนส

ไอ้เนสเป็นผู้ชายตัวสูงพอๆ กับผม ทำผมสีน้ำตาลทอง ท่าทางขี้เล่นและมันเป็นนักร้องนำของวงครับ ส่วนอีกสองคนก็มีไอ้ฮัท...ผู้ชายผมดำชอบทำหน้านิ่งซะส่วนใหญ่จนดูเย็นชา ไอ้นี่มือเบสของวง และคนสุดท้ายคือไอ้คลาร์ก มันเป็นลูกครึ่งอเมริกัน ตาสีฟ้า ทำผมสีน้ำตาลแดง หน้าตาออกไปทางร้ายๆ แบบเจ้าชู้ออกสื่อ เป็นมือกีตาร์ของวงครับ

“วันพุธนี้จะได้กลับไปเล่นแล้วนะเว้ย ตื่นเต้นว่ะ” ไอ้คลาร์กว่า ให้ไอ้ฮัทยกมุมปากขึ้นนิดก่อนจะพูดขึ้นเช่นกันว่า...

“เล่นมาจะเป็นปีแล้วมึงยังตื่นเต้นอยู่อีกหรือวะ”

“ก็เออดิ ดนตรีมันชวนให้กูตื่นเต้นได้ตลอดแหล่ะ เหมือนสาวๆ อกตู้มๆ ฮ่าๆๆ”

“ไอ้เวร! หน้าตามึงนี่หยุดหื่นสักนิดไม่ได้ไง๊?” ไอ้เนสหันไปโบกหัวไอ้ลูกครึ่งทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ แล้วมันสองคนก็หันไปตบตีกัน ผมเลยหันไปคุยกับไอ้ฮัทแทน ชินแล้วครับที่พวกมันสองตัวชอบตีกันอยู่เรื่อย เหอๆ

“ไม่ได้ไปเล่นที่ร้านมึงคงเบื่อแย่เลยดิ”

“ก็นิดหน่อย กูยังแปลกใจอยู่ว่าแม่ยายตาย กว่าจะจัดการงานศพเสร็จมันก็ใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่เหรอวะ แต่ทำไมพี่เฟิ่งปิดร้านตั้งสองอาทิตย์”

“คงมีเรื่องภายในครอบครัวของทางฝั่งเมียให้ต้องจัดการล่ะมั้ง” ผมยักไหล่ตอบแบบไม่ค่อยใส่ใจ คือมันเรื่องของพี่เขาอ่ะนะ ไม่อยากรู้นักหรอก

“เรื่องมรดกไรงี้เหรอ?” ไอ้เนสที่เลิกตีกับไอ้คลาร์กแล้วหันมาถามบ้าง

“เออ อาจจะใช่ก็ได้นะเว้ย” ไอ้คลาร์กก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย เอ๊าไอ้พวกนี้ เมื่อกี้ยังตีกันอยู่เลย ไหงตอนนี้มาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย กูล่ะงงกับพวกมึง

พวกเราคุยกันต่ออีกนิดหน่อยเรื่องซ้อม เอาจริงๆ ช่วงที่หยุดไปไม่ได้นัดมาซ้อมกันเลยเพราะต่างคนต่างอยากพักผ่อน เราเลยตกลงกันว่าจะนัดมาซ้อมก่อนกลับไปเล่นจริงในวันอาทิตย์นี้ ตกลงกันเสร็จอาจารย์ก็เข้าพอดีเลยต้องหยุดคุยกันไปโดยปริยาย

สามชั่วโมงต่อมาก็ถึงเวลาเลิกเรียน ผมกับพวกเพื่อนทั้งสามพากันมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารทันทีที่อาจารย์ปล่อย หิวมากครับ อยากกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำว่ะ หวังว่าร้านคงจะมีคนไม่เยอะนะ เพราะผมหิวจนไม่อยากรอนานๆ แล้วอ่ะ

มาถึงผมก็มุ่งไปร้านก๋วยเตี๋ยวทันทีเพราะเห็นว่ามีคิวแค่ไม่กี่คน ใครจะเฝ้าโต๊ะที่จองเอาไว้นั่นก็ให้พวกมันตกลงกันเองแล้วกัน ผมชิ่งก่อนล่ะ ฮะๆ

“ลุงครับ เล็กต้มยำไม่งอกพิเศษหนึ่งครับ” ผมสั่งแล้วก็รอให้ลุงทำให้ แต่ระหว่างรอนั้น จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างๆ ผม และผมคงจะไม่สนใจหรอกถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายยืนชิดจนแทบจะรวมร่างกับผมได้อยู่แล้ว

พอหันไปมองก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย...ไอ้พี่นี่อีกแล้วไง เวร

“หวัดดีครับน้องแทงค์ ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ”

“มั้งครับ” ผมตอบแบบที่ต้องการสื่อให้รู้ว่ากูไม่ได้อยากคุยกับมึงเลยสักนิด แล้วอีกอย่างนะ...กูหน้าตาหล่อออกขนาดนี้มาบอกว่ากูน่ารัก พ่อมึงเถอะพี่

“แหม ทำไมเย็นชากับพี่จัง สบตากับพี่สักนิดก็ไม่มี รังเกียจอะไรพี่ครับเนี่ย” มันยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงติดจะหัวเราะนิดๆ แบบที่มันคงคิดว่าทำให้ตัวเองดูมีเสน่ห์ แต่ขอโทษทีเถอะ...แม่งน่ารำคาญมากกว่าว่ะ

แล้วก็รู้นี่ว่ากูเย็นชาใส่ ก็น่าจะรู้ไหมวะว่ากูไม่สบตาด้วยเพราะอะไร เออไง กูรังเกียจมึงโว้ยยย!!!

“พี่นนท์ว่างเหรอครับ ถึงมาก่อกวนผมได้” ทนไม่ไหวต้องถามออกไป หลอกด่าด้วยเอาดิ

“ฮ่าๆ พี่พักกลางวันพอดีน่ะครับ เห็นน้องแทงค์ก็เลยเข้ามาทักด้วยความคิดถึง” ...แต่ดูเหมือนว่าไอ้พี่นนท์จะไม่สะทกสะท้านกับการหลอกด่าของผม เพราะมันยังคงตอบด้วยท่าทางมีความสุข แถมยังพูดเสียงดังจนคนรอบข้างกับลุงขายก๋วยเตี๋ยวต้องหันมามองผมกับพี่มัน

มาบอกคิดถึงกูทำหอกอะไรในโรงอาหารวะ!? คนไม่มองก็เหี้ยแล้ว!

“ฮะๆ เหรอครับ” ผมหัวเราะแห้งๆ ใส่ ก่อนจะรับชามก๋วยเตี๋ยวจากลุงคนขายมาแล้วรีบจ่ายเงินรีบเดินหนีทันที อยู่ต่อไปให้ขายขี้หน้าเหรอวะ!?

“น้องแทงค์อย่าเพิ่งไปสิครับ พี่ยัง...”

ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้พี่นนท์มันพูดอะไรต่อจากนั้น เพราะผมประคองชามก๋วยเตี๋ยวได้ถนัดมือก็รีบเร่งฝีเท้าจนกลายเป็นวิ่งทันที ใช้สกิลหลบหลีกคนที่เดินไปมาจนกลับมาถึงโต๊ะได้อย่างปลอดภัยทั้งตัวเองและก๋วยเตี๋ยวในมือ แถมปลอดจากคนกวนใจอีกด้วย

ผมนั่งลงแล้วชะเง้อคอมองกลับไปทางเดิมว่าไอ้พี่นนท์นั่นมันตามมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา นั่นแปลว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตามมา คงเป็นโชคดีของผมด้วยที่โรงอาหารมันกว้างและใหญ่มาก คนก็เยอะมากด้วย ไอ้พี่นนท์คงจะหาผมให้เจอได้ยากหน่อยล่ะ

“มึงวิ่งหนีตายจากใครมาวะ” ไอ้คลาร์กถามเมื่อเห็นว่าผมหอบหน่อยๆ แต่ยังไม่ทันได้หันมาตอบมัน ไอ้เนสก็ชิงตอบแทนผมเสียก่อน

“จะหนีใคร๊ มีอยู่คนเดียวไหมวะที่ตามตื๊อไอ้แทงค์ไม่เลิก”

“ไอ้พี่นนท์?” ไอ้ฮัทเลิกคิ้วถาม ผมเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น

“น่าสงสารมึงว่ะไอ้แทงค์ ดันมีคนบ้ามาชอบ” ไอ้คลาร์กว่าพลางหัวเราะลั่น หันไปตีมือกับไอ้เนสอีกต่างหาก พวกมึงสองคนนี่ยังไงวะ ตีกันบ่อยฉิบหายแต่ก็เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย แถมยังแพ็คคู่มากวนส้นตีนกูได้ดีอีกต่างหาก แม่งอยากจะยกตีนตบหน้าพวกมันสักทีสองทีจริงๆ

“หุบปากไปเลย” ผมชี้หน้าพวกมันก่อนจะลงมือกินมื้อกลางวันที่อยากกินตั้งแต่ยังไม่ทันเลิกเรียน ส่วนเรื่องพี่นนท์ ไอ้พวกนี้มันรู้ครับว่าผมเป็นเกย์ และไม่แปลกใจด้วยที่มีผู้ชายมาชอบผมถึงขั้นตามจีบเป็นคนบ้าแบบไอ้พี่นนท์...พวกมันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรผมนะครับ ยิ่งไอ้เนสนี่แล้วใหญ่ ไอ้นี่มันเป็นไบครับ คนล่าสุดที่มันคบก็เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ชนิดว่าถ้าผมไม่ใช่ฝ่ายรับผมก็คงสนใจน้องมันไม่น้อยเลยเหมือนกัน

“ทางเดียวที่มึงจะหลุดพ้นจากไอ้พี่นนท์ได้ กูว่ามึงต้องมีแฟนว่ะไอ้แทงค์” ไอ้คลาร์กเอ่ยขึ้น ผมเหลือบมองมันทั้งๆ ที่ยังคาบเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ในปาก

“จริง หาแฟนหนุ่มหล่อๆ หุ่นล่ำๆ มาโชว์ตัวให้ไอ้พี่นนท์มันเห็นไปเลยมึง มันจะได้เลิกตอแยมึงสักที” ไอ้ฮัทที่ปกติพูดน้อยตอนนี้กลับว่าอย่างเห็นดีเห็นงามซะยาวเหยียด แล้วหลังจากนั้นพวกมันก็หันไปสุมหัวเปิดโทรศัพท์ค้นหาเกย์หนุ่มหล่อให้ผมใหญ่ แบบที่ไม่สนใจเลยสักนิดว่าผมจะกำลังถลึงตามองพวกมันอยู่หรือไม่ สุดท้ายผมก็ได้แต่พ่นลมหายใจ...

“เอาที่พวกมึงสบายใจเลยเพื่อน” ...เพราะถึงมึงหามาให้กูเป็นฮาเร็มกูก็ไม่เอาหรอกโว้ย!

ก็บอกแล้วไง ผัวของผม ผมหาเองได้!


__________
มาแล้ววว หายไปกี่วันหว่า พอดีเพิ่งจะระลึกชาติได้ค่ะว่าต้องเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ครบ 150 ชั่วโมงก่อนจะหมดสิ้นเดือนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวมหา'ลัยไม่ให้จบปี 4 นี่ตายแน่ๆ ค่ะ 55555 และคิดว่าหลังจากนี้คง 3-4 วันอัพทีนะคะ
ส่วนตอนนี้...จริงๆ อยากพูดถึงการเมืองไทย แต่คิดดูอีกทีไม่เอาดีกว่า ไม่อยากโดนเรียกไปปรับทัศนคติ ฮ่าาา การเมืองแห่งสวรรค์ยุค 4G ค่ะ ชื่อพรรคโกอินเตอร์ ก๊ากก ไปละ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 23:01:22 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ไม่ต้องหาแล้วผัว มีมานอนรอที่บ้านแล้วไง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
สามี อยู่ Republican งายยยยยย
ตอนนี้ประชุมอยู่ ค่าตัวแพงหน่อยๆ 555555

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แทงค์หาผัวได้ไวๆ นะจ้ะ
ส่วนท่านภูตลา เอาวางไว้นั่นก่อน
คนอ่านกำลังอินนนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด