ตอนที่ 5
ดูแล
"นายก็...ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงสิ" เมื่อกี้หูแว่วป่าวว่ะ
"คุณว่าอะไรนะครับ"
"ฉันบอกว่าให้นายขึ้นมานอนด้วยกัน จะไปนอนโซฟาให้ลำบากทำไม เผื่อฉันมีไข้จะได้รู้ด้วยไง"
"เอ่อ่ ไม่เป็นไรครับ ผมนอนตรงนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ได้ลำบากอะไร"
"ทำไมกลัวฉันจะทำอะไรหรือไง"
"เปล่าครับผมเกรงว่าจะไม่เหมาะ ส่วนเรื่องที่คุณกลัวว่าจะเป็นไข้ เดี๋ยวผมลุกขึ้นมาดูคุณทุก 2 ชั่วโมงก็ได้ครับ"
"นายนี้มัน เฮ้อ ตามใจก็แล้วกัน นอนสบายๆไม่ชอบ" งอแงอีก ถ้าสบายดีจะตีให้
หลังจากนั้นผมและเขาก็เข้านอน โดยที่ผมตั้งปลุกทุก 2 ชั่วโมงเพื่อมาดูอาการคนตัวโตที่เวลาผมลุกมาดูทุกครั้งก็เห็นนอนสบาย
ไม่เห็นจะมีท่าทางหรืออาการจะป่วยตรงไหนเลย
รุ่งขึ้นผมก็ลงมาช่วยป้านิ่มทำอาหารตามปกติ พอใกล้เวลาอาหารผมก็ขึ้นไปปลุกคนป่วยให้ลุกแล้วอาบน้ำเพื่อลงไปทานอาหาร คนตัวโตอิดออดนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงลงไปเตรียมจัดโต๊ะอาหารต่อ ประมาณ 20 นาที นายน้อยของบ้านก็ลงมานั่งประจำโต๊ะอาหาร ผมจึงจัดการเสิร์ฟอาหารให้เขาและนั่งลงตรงข้ามกัน ผมเริ่มทานอาหารเช้าของตัวเอง แต่คนตรงข้ามผมก็ไม่ยอมขยับเอาแต่มองหน้าผม ผมพยายามไม่สนใจแต่เขาก็เอาแต่จ้องแล้วก็ไม่ยอมทานอาหารตัวเองสักที
"มีอะไรหรือเปล่าครับ ไม่หิวหรอ" ไหนอาการเป็นไงบอกหมอสิ
"เฮ้อ ฉันนะหิวมากเลยนะ แต่ฉันทานไม่ได้นะ" ก็เอาเข้าปากแล้วเคี้ยวไง
"ทำไมล่ะครับ"
"คือเมื่อคืนฉันนอนทับมือนะสิ ตอนนี้ปวดมากแทบขยับไม่ได้ " หืม ใช่หราา
"แล้ว คุณจะให้ผมทำยังไงครับ" จงบอกความต้องการของท่านมาครับ
"ยังต้องให้บอกอีก นายก็ป้อนฉันหน่อยสิ" ห๊ะ
"ให้คุณกรณ์ป้อนดีกว่าไหมครับ" คุณธารส่ายหัวแทบหลุด
"ฉันคิดว่ามันจะฆ่าฉันแน่นอน น่านะ เห็นใจหน่อย ฉันหิวมากเลย" ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย
"ก็ได้ครับ" ที่ผมยอมเพราะเขาช่วยผมไว้นะ
ผมขยับไปนั่งข้างๆเขาแล้วก็ป้อนอาหารเช่้าให้เหมือนแม่นกป้อนลูกนกไม่มีผิด คนโดนป้อนก็อมยิ้มไป เคี้ยวไปน่าเอ็นดู ผมได้แต่
มองหน้าเขาแล้วอมยิ้ม ทานเสร็จก็ไปเอายามาให้เขาทาน
"วันนี้ฉันไม่เข้าออฟฟิสนะยังไงเดี๋ยวนายตามมาอ่านเอกสารให้ฉันฟังที่ห้องทำงานด้วยล่ะ"
เขาสั่งผมหลังจากทานยาเสร็จ แล้วก็ลุกออกไปหาคุณกรณ์เหมือนสั่งงานผมได้แต่ไหวไหล่แล้วเก็บซากอาหารเช้าก่อนจะไป
ทำงานต่อตามที่นายน้อยสั่ง
ก็อก ก็อก
"ขออนุญาตครับ" ผมตามมาที่ห้องทำงานหลังเคลียโต๊ะอาหารเสร็จ แต่ก็ไม่ลืมเคาะประตูเพื่อขออนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
"มานั่งนี่สิ แล้วอ่านเอกสารพวกนี้ให้ฟังหน่อย ฉันไม่มีแรงเปิด"
หืม จร้าเต็มที่เลย ผมเดินไปนั่งตามที่เข้าบอก ก่อนจะลงมืออ่านเอกสารให้เขาฟังและให้เขาตรวจสอบอีกครั้งเรานั่งทำงานกันจน
เพลิน กระทั่งมีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะเสียก่อน
"นายครับ คุณเทียนมาขอพบคุณต้นครับ" เป็นคุณกรณ์ที่เข้ามา
"ไม่ว่าง ทำงานอยู่ไม่เห็นหรอ ไล่มันกลับไป" นั้นโมโหอะไรของเขา
"นายครับเขามาขอพบคุณต้นครับ ไม่ได้ขอพบนาย" เออจริงกูยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ
"ไอ้กรณ์ แกอยากตายใช่ไหม"
"อ่ะ เดี๋ยวครับทั้ง2 คน อย่าพึ่งทะเลาะกัน คุณธารครับงานตรงนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว ผมขออนุญาตไปพบพี่เทียนนะครับ"
นิ่งเลย ทำหน้าเหมือนกลั้นตดไปอีก
"ฉันมีสิทธิ์อะไรห้ามนายล่ะ มันมาหานายนี่ นายก็คงจะคิดถึงมันละสิไม่ได้เจอกันหลายวัน ไปเถอะ ปล่อยฉันไว้กับเอกสารตรงนี้แล้วนายก็ไปคุยกับมันเถอะ" เอ่อ ผมว่าคำพูดมันแปลกๆนะ
"งั้นผมขอตัวนะครับ" ว่าเสร็จผมก็เดินออกมาเลย โดยไม่ได้สนใจอะไรต่อ
..................
หลังจากที่ต้นเดินออกมาแล้ว คนในห้องก็มีอาการกระฟัดกระเฟียดอยู่กับเอกสารเปิดหน้านั้นหน้านี้แต่ไม่มีสมาธิจะอ่านเลย
"นายครับ ผมว่านะคุณเทียนต้องสนใจคุณต้นแน่นอน" เสียงของกรณ์ดังขึ้นขัดอาการของคนเป็นนาย
"รู้ได้ยังไง อย่ามั่วนะ" คนเป็นนายว่าก่อนจะเปิดเอกสารแรงกว่าเดิมจนแทบขาด
"โธ่ นายคุณเทียนนะเป็นไบเซ็กชวลนะครับ ไม่มีแบ่งแยกได้หมดถ้าสดซิง" คนเป็นนายได้ฟังก็ขมวดคิ้ว
"ผมว่านะคุณเทียนลองมาแบบนี้จีบชัวร์ครับ แล้วอบอุ่นแบบนั้นร้อยทั้งร้อยไม่รอดครับ"
"ไอ้กรณ์" เจ้าของชื่อสะดุ้ง เพราะคนเรียก เรียกเสียงดังมาก
"แกพูดอะไรห๊ะ ต้นมันเป็นว่าที่เมียฉันพ่อก็บอกอยู่มันจะไปสนใจคนอื่นได้ยังไง" คนพูดก็พูดไปคนฟังก็ยิ้มกริ่ม
"แหม นายก็พูดเล่นใช่ไหมครับ ก็นายไม่สนใจคุณต้น คุณต้นเขาก็มีสิทธิ์สนใจคนที่รักที่ชอบเขานะครับ"
กรณ์พูดไปก็ได้แต่หัวเราะในใจ
"..." คนฟังได้แต่นั่งคิด
"ถ้านายไม่สนใ.."
"ใครบอกฉันไม่สน แกอย่ามารู้ดีกว่าฉันหน่อยเลย" กรณ์พูดไม่ทันจบคนเป็นนายก็พูุดแทรกขึ้นมาทันที
"นายสนใจคุณต้นแล้วเหรอเนี่ย ข่าวใหม่เลยนะครับ"
"ฉันก็แค่เห็นว่าเด็กคนนี้มีอะไรไม่เหมือนคนอื่น ก็ไม่ผิดที่ฉันจะลองดูๆไปก่อน ไม่ใช่หรอว่ะ" คนฟังเบะปากพยักหน้า
"อืม แหมไอ้ผมก็คิดว่าตกหลุมคุณต้นแล้วซะอีก ยังไงก็สู้ๆนะครับนาย อย่ามัวแต่ดูนะครับ เพราะตอนนี้คุณเทียนคงไม่ดูอย่าง
เดียวแล้วล่ะ ท่าทางจะอุ้มไปไว้บ้านแล้ว"
พูดจบเอกสารในมือก็ถูกเขวี้ยงมาทางกรณ์
"เงียบไปเลยไป แล้วมาช่วยฉันทำงาน ท่าทางเลขาฉันคงจะติดธุระนาน" คนฟังยิ้มแล้วเดินไปทางเจ้านาย
"ครับผม " คนเป็นลูกน้องได้แต่ส่ายหน้าแล้วทำงานต่อไป
.......................
ทางด้านของต้นเมื่อออกจากห้องก็เดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อไปหาคนที่มาขอพบ
"พี่เทียนครับ มายังไงเนี่ย"
เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้ผมแล้วกวักมือเรียกให้มานั่งด้วยกัน
"พี่ก็คิดถึงนะสิ ไม่ได้เจอตั้งนาน ตั้งแต่พี่ไม่ได้มาสอนเรา พวกเราก็ไม่ได้เจอกันเลย" พี่เทียนยิ้ม
"อ่อ แล้ววันนี้มาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ"
"คือพอดีวันเสาร์นี้ เป็นวันเกิดพี่นะ พี่เลยอยากชวนต้นไปทำบุญเป็นเพื่อนพี่หน่อย ได้ไหม"
ผมคิดสักพักว่าวันนั้นมีธุระอะไรหรือเปล่าก่อนตอบไป
"ได้ครับ วันนั้นผมไม่ได้ไปไหน ได้ทำบุญดีก็เหมือนกัน" ผมยิ้มให้พี่เทียน
"งั้นเดี๋ยววันนั้นพี่มารับนะสัก9โมง"
"ครับ" ผมพยักหน้ารับ
"งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน พี่แค่แวะมานะ"
"อ้าว แล้วทำไมพี่ไม่โทรมาล่ะครับ" ผมถามอย่าสงสัย
"ก็ พี่อยากเห็นหน้าต้นนะ พี่คิดถึง"
"เหอะๆ พี่อย่าพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้กับคนอื่นเขานะครับเดี๋ยวเขาคิดเลยเถิด"
"หึ พี่พูดกับต้นแค่คนเดียว ไม่ต้องห่วงนะพี่ไม่เคยพูดเล่นหรือล้อเล่นกับความรู้สึก ไปนะ"
พี่เทียนพูดจบก็เอามือมายีหัวผม แต่ตอนนี้ผมอึ้งกับคำพูดพี่เขาไปแล้วหมายความว่าพี่เขาจีบผมหรอเนี่ย
หลังจากที่พี่เทียนกลับไปแล้ว ผมก็กลับไปทำงานตามปกติ จนตอนนี้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว
"คุณธารครับ เสาร์นี้ผมขออนุญาตไปข้างนอกได้ไหมครับ"
"อืม ไปสิ มันวันหยุดนายนิ"
"ขอบคุณครับ"
"ว่าแต่จะไปไหนล่ะ" นั้นอยากรู้ไปอีก
"ผมจะไปทำบุญวันเกิดพี่เทียนนะครับ"
"วันเกิดไอ้เทียน แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย"เอ้า ตาคนนี้
"ก็เขาชวนผมไปเป็นเพื่อนนิ"
"แล้วคนอื่นไม่มีหรือไง ร้อยวันพันปีไม่เคยจำวันเกิดตัวเองได้ ปีนี้จำได้ขึ้นมาเชียว" ไอ้คุณธารมันกินข้าวไม่อิ่มหรือไงว่ะ
"โอ๊ยคุณ จะอะไรก็ช่างผมรับปากเขาไปแล้ว แล้วคุณก็อนุญาตแล้วด้วยยังไงจะเอาบุญมาฝากนะครับ"
ผมยิ้มแล้วเตรียมหนีนอนเลยเดี๋ยวโดนกินหัว
"ทำไมฉันต้องมาสนใจเด็กอย่างนายด้วยเนี่ย" เสียงอะไรแว่วๆ
"คุณว่าอะไรนะครับ" ผมหันกลับไปถาม
"ไม่มีอะไรนอนเถอะ" แล้วคนพูดก็เอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองไปเลย จะหายใจออกไหมล่ะนั้นนะ
ในเช้าวันเสาร์ พี่เทียนมารับผมที่บ้านตามสัญญา ผมขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้วพี่เทียนก็ชวนคุยไปตลอดทาง
"พี่เทียนจะไปทำบุญที่วัดไหนหรอครับ" ผมถามขึ้นเพราะเห็นบรรยากาศข้างทางเหมือนจะออกนอกเมืองแล้ว
"พี่จะไปทำบุญที่วัดแถวๆไร่พี่นะ เสร็จแล้วจะพาเราเที่ยวที่ไร่พี่ด้วย"
"พี่เทียนทำไร่ด้วยหรือครับ" ผมถามอย่าตื่นเต้น
"ทำไร่ดอกไม้ ฟาร์มม้า แล้วก็วัวนมนะ"
"ผมอยากรีดนมวัว"
"รอมีโอกาสพี่จะพามาเที่ยวแบบค้างคืนนะได้ทำทุกกิจกรรมแน่"
"ขอบคุณครับ" แค่คิดก็สนุกแล้ว
พี่เทียนขับรถมาจากกรุงเทพกว่าจะถึงที่หมายก็ประมาน 3 ชั่วโมงได้ มาถึงก็จอดรถที่ลานวัด วัดนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนวัดใน
กรุงเทพแต่ก็มีความสวยงามของศิลปะ ซึ่งดูแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย ผมกับพี่เทียนพากันไปหาหลวงพ่อที่โบสถ์เพื่อทำสังฆทาน
เรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปให้อาหารปลา แล้วพวกเราก็พากันมา นั่งพักที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ใกล้ริมน้ำซึ่งมีม้าหินอยู่ นั่งชม
วิวรับลมแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีจัง
"พี่ขอบคุณต้นมากนะที่มากับพี่" ผมหันไปยิ้มให้กับคำพูดนั้น
"ไม่เป็นไรครับก็วันเกิดพี่เทียนนิ อีกอย่างผมไม่มีของขวัญให้พี่ด้วย" ผมเกาหัวแก้เก้อ
"แค่ต้นอยู่กับพี่ก็ถือเป็นของขวัญแล้วนะรู้ไหม"
"ยังไงครับ"
"อันที่จริง พี่ไม่เคยให้ความสำคัญกับวันเกิดเลยนะ จนพี่ได้มาเจอกับต้น พี่เลยอยากให้วันนี้กลายเป็นวันสำคัญโดยเป็นวันที่พี่มี
คนสำคัญอยู่ด้วย"
"พี่เทียน" ผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่แค่อยากบอกไม่ได้จะเอาคำตอบ ทำตัวเหมือนเดิมนะ ถ้าวันไหนคิดว่าพี่ใช่ก็ค่อยมาบอกกัน"
พี่เทียนยิ้มอบอุ่น ผู้ชายคนนี้ต่อให้ผู้ชายแท้ก็เสร็จเหอะ
"ครับ ขอบคุณนะครับ ที่ให้ความสำคัญกับผม"
"อืม แต่ถ้าหากต้นมีใครในใจแล้วก็อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะ พี่จะได้ช่วยดูว่าเขาดูแลต้นได้ดีกว่าที่พี่ทำไหม"
"พี่เทียน พูดอะไรเนี่ย ไปไร่พี่ดีกว่าครับผมอยากถ่ายรูปไปอวดเพื่อน"
"ไปสิ" พูดจบพี่เทียนก็เดินนำไปที่รถเพื่อขับไปเที่ยวไร่พี่เขา
ไร่ของพี่เทียนมีชื่อว่าไร่ เธียรวิชญ์ เป็นไร่ที่พี่เทียนพึ่งทำได้ประมาน 5 ปีไม่มีคนรู้นอกจาก พ่อนราทร พี่เทียนเล่าว่าหากเบื่อช่วย
งานคุณพ่อทรแล้วก็จะกลับมาทำงานที่นี่ ซึ่งตอนนี้พี่เทียนให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลแทนอยู่ ส่วนเจ้าตัวจะกลับมาทุกอาทิตย์เพื่อมา
ตรวจสอบความเรียบร้อย ถ้าวันไหนยุ่งๆก็อาจจะกลายเป็น 2 อาทิตย์ครั้งแทน พี่เทียนพาผมดูไร่ดอกไม้ คอกม้า และวัวนม
ก่อนที่จะพามาทานข้าวที่บ้านก่อนกลับ พี่เทียนจอดรถหน้าบ้านผมก็ล่ำลาแล้วลงจากรถ ระหว่างที่กำลังเดินเข้าบ้าน
ก็มีคนเรียกผมซะก่อน
"คุณต้นกลับมาแล้วหรอครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก
"ครับคุณกรณ์ แล้วมาทำอะไรตรงนี้ครับ"
"ก็มารอคุณต้นแหละครับ" ผมขมวดคิ้ว
"รอผม รอทำไมครับ" ผมเอียงคอ
"ก็นายน้อยนะสิครับ ไม่ยอมทานข้าวเย็นผมจะทานเป็นเพื่อนก็ไม่เอา สงสัยคงติดคุณต้นนะครับ ป้านิ่มก็เอาไม่อยู่"
เดี๋ยวนี้มันเด็ก3ขวบหรือเปล่าเนี่ย
"แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ"
"นายคงน้อยใจนะครับ มือก็เจ็บแถมต้องกินข้าวคนเดียวไม่มีใครดูแล คุณต้นก็ยกข้าวไปป้อนนายให้หน่อยนะครับ" เออว่ะ
เอะหรือคุณกรณ์มันปั่นว่ะหน้าตาไว้ใจไม่ได้อยู่
"ก็ได้ครับ แล้วสำรับอยู่ไหนครับเดี๋ยวผมยกไปให้" นั้นไงกูเห็นนะยิ้มกริ่มแบบนี้
"อยู่ในครัวครับเดี๋ยวเดินเข้าไปเอาได้เลย"
หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบสำรับแล้วนำขึ้นไปที่ห้องนอนของคนดื้อ ผมเปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะประตูเห็น
เจ้าของห้องนั่งดูเอกสารอยู่ที่โซฟา ผมจึงนั่งอีกฝั่งของโซฟาเดียวกัน แล้ววางสำหรับไว้ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา
"ทานข้าวเถอะครับคุณธาร ถึงเวลาแล้ว" เขาหันมามองผมแล้วดูเอกสารต่อ
"กลับมาแล้วหรอฉันนึกว่าจะสนุกจนลืมคนป่วยอย่าฉันซะอีก" จะเอ็นดูหรือหมั่นไส้ดีเนี่ย
"จะลืมได้ไงผมอุตส่าห์ไม่ทานข้าวเย็นรอมากินกับคุณเลยนะ"
ผมโกหกครับเพราะที่จริงกินแล้วแต่กว่าจะถึงกรุงเทพก็ย่อยแล้ว กินอีกได้ครับ
"จริงหรอ" คนตัวโตหันขวับมาถามผม
"จริงสิคุณ ผมจะโกหกทำไม มากินเถอะนะ ผมหิวแล้ว" คุณธารยิ้มแล้วค่อยๆขยับมานั่งใกล้ผมโดยที่ในมือยังไม่วางเอกสาร
"ป้อนฉันสิ ฉันจะได้ทำงานไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาไง" จร้า พ่อคุณ ผมได้แต่ส่ายหัว
......................................
นราธร Part
ผมกำลังยืนมองหลังคาบ้านหลังหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ว่าสีมันสดเพราะใช้ TOA หรอก แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนที่ผมรัก
ผมมายืนมองบ้านเขาทุกวัน จนจะเป็นแม่นากอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เห็นเจ้าของบ้านเห็นหน้าบ้านเห็นหลังคาก็ยังดี
"นายครับใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วครับ" เสียงลูกน้องผมทักขึ้น ต้องขอบคุณมันถ้าปล่อยผมยืนอีกแปปบอกได้เลยผมไม่ยอมขยับ
แน่ๆ ทำไมนะหรอ ตะคริวกินไงถามได้
"อืม ขอบใจที่เตือน แล้วเรื่องที่สั่งเรียบร้อยไหม" ผมถามลูกน้องถึงงานที่สั่งไปก่อนหน้า
"เรียบร้อยครับนาย" ผมได้ยินก็พยักหน้ารับ แล้วหันกลับมามองบ้านหลังเดิมอีกครั้ง
"ไม่ต้องห่วงไอ้ตาม กูจะทำหน้าที่ต่อจากมึงเอง" ผมพูดกับตัวเองแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถเพื่อไปประชุมต่อ
RRRR
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นขณะที่กำลังเหม่อมองบรรยากาศนอกรถ หยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นกรณ์
"ว่าไงกรณ์"
"ผมทำตามคำสั่งเรียบร้อยครับ" แหมสั่งได้ดั่งใจ
"ดีมาก"
"เตรียมแผนต่อไปหรือยังครับ"
"นี่ฉันใคร มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว"
"ท่านจะให้ผมทำอะไรต่อก็บอกได้เลยนะครับ"
" เดี๋ยวฉันจะบอกแกอีกที ขอบใจมาก"
"ครับท่าน แล้วอย่าลืม เบอร์โทร กับไลน์คุณไผ่ให้ผมด้วยนะครับ"ไอ้นี่กลัวจะไม่ได้แฟน
"เออเดี๋ยวฉันส่งไปให้"
"ขอบคุณครับ แค่นี้ก่อนนะครับนาย"
"ขอบใจมาก"
มีแต่พวกฉันขนาดนี้ ให้มันปั่น ชง แซว ขนาดนั้นไม่ได้ลูกสะใภ้ชื่อต้นก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
.............
วันนี้เป็นวันจันทร์ ผมและคุณธารมาทำงานปกติแล้วเพราะมือคุณธารหายแล้ว ผมไม่ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำแล้ว ตอนนี้ต่างคน
ต่างก็ทำงานของตัวเองอยู่คนละมุม
"นายครับ นายใหญ่มาครับ" เสียงคุณกรณ์ดังมาจากหน้าประตู
"เข้ามาเลย" นายน้อยตอบรับแต่มือกับตาก็ยังคงอยู่ที่เอกสาร
"Hi ไอ้ลูกหมา พ่อแกมานะเงยหน้ามาคุยกัยหน่อย ว่าไงต้นสบายดีนะ" คุณพ่อทักลูกเขา แล้วหันมาทักผม
"สวัสดีครับคุณพ่อสบายดีครับ แล้วคุณพ่อล่ะครับ" ผมตอบแล้วถามกลับ
"สบายมาก มีงานอะไรเยอะแยะที่ต้องทำแต่ก็สบายดี" คุณพ่อยิ้ม
"พ่อมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ" คนตัวโตพูดขึ้น
"เออ พ่อเกือบลืม พอดีศุกร์นี้พ่ออยากให้แกไปดูที่ที่จะทำรีสอร์ทใหม่หน่อยนะ"
"แล้วทำไมพ่อไม่ไปเองอ่ะ"
"ไอ้ลูกหมา พ่อไม่ว่างโว้ยต้องไปอังกฤษไม่งั้นฉันไม่ง้อแกหรอก ไปดูให้หน่อยนะว่างานถึงไหนแล้ว"
"เฮ้อ ก็ได้ครับ แล้วผมต้องไปกับใครเลขาพ่อหรอ"
"แกจะบ้าหรอ แกก็ไปกับเลขาแกสิ เอาไอ้กรณ์ไปด้วยนะ เผื่อจะได้ใช้งานอะไรมันได้"
"แล้วผมจะต้องดูอะไรยังไงผมไม่มีข้อมูลอะไรเลยนะ ถ้าพ่อไม่เอาคนของพ่อไปกับผมนะ"
"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันให้เลขาฉันส่งข้อมูลให้แกเอง ส่วนไอ้กรณ์ฉันคุยกับมันคร่าวๆแล้วพอจะรู้เรื่องอยู่หรอก"
"งั้นก็ได้ครับ"
"เออ ต้นเตรียมตัวนะลูก เผื่อจะได้เรียนรู้อะไรได้ เที่ยวเผื่อพ่อด้วยนะ" ผมยักหน้างึกๆ
"เออ พ่อแล้วรีสอร์ทใหม่พ่อนี้ที่ไหนนะ ผมลืม"
"แกไม่ใส่ใจซะมากกว่า เชียงรายโว้ยอยู่เชียงราย"
"อ่อ โอเค"
"เชียงรายเลยหรอครับ คุณพ่อผมไม่เคยไปเลยตื่นเต้นจัง" ผมหันไปบอกกับคุณพ่อ
"สวยมากเลยนะ แล้วก็น่าสนุกมากด้วย"
"จริงหรอครับ ชักอยากไปแล้ว" ผมพูดกับคุณพ่อแล้วยิ้มกว้าง โดยไม่ได้สังเกตคุณพ่อเลยว่าเขายิ้มเหี้ยมขนาดไหน
"สนุกสิ สนุกแล้วก็หน้าตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ เตรียมตัวแล้วก็ใจให้พร้อมกันล่ะ"
"ได้ครับ/ครับ" ผมตอบรับพร้อมกับคุณธารโดยไม่ได้สนใจเสียงแผ่วๆที่ดังมาจากคุณพ่อ
"ได้ดูทั้งงาน ดูทั้งใจ และหวังว่าจะได้ดูกันทั้งตัวนะลูก หึ หึ"
...................
กลับมาถึงบ้านทั้งผมแล้วก็คุณธารก็ต่างคนต่างทำธุระส่วนตัวของตัวเองตามปกติจนเกือยจะเข้านอนอยู่แล้วเจ้าของห้องก็เรียก
ผมขึ้นมา
"นี่ต้น นายว่าฉันกับนายเริ่มสนิทกันหรือยัง" ผมยืนอยู่ปลายเตียงของเขาแล้วเอียงคอมองเขา
"ก็ดีกว่าตอนเข้ามาแรกๆนะครับ"
"หรอ ถ้างั้นนายก็เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วสิ"
"ห๊ะ จะเอางั้นหรอครับ" ผมแค่คาดไม่ถึงกับคำเรียกใหม่
"เอางี้แหละ ทีไอ้เทียนนายยังเรียกมันพี่เลย ทำไมจะเรียกฉันบ้างไม่ได้ ไหนบอกให้เปิดใจรับไง" พ่อเริ่มบ่นแล้วครับ
"ใจเย็นๆ อย่าพึ่งบ่นผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ช็อคเฉยๆที่คุณยอมให้ผมเรียกแบบนั้น"
"ก็ฉันยอมเปิดใจตามนายบอกไง ไหนลองเรียกสิ พี่ธารอ่ะ เรียกเร็วๆเข้า"
"เอ่อ พ..พี่ โอ๊ยไม่ชินเลยคุณ" ผมยืนส่ายหน้าอยู่ปลายเตียงจนเจ้าของเตียงเดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นมือมาจับแขนผมไว้
"จะพูดไหม" มีขู่
"มันไม่ชิน ขอเวลาทำใจแปปสิ" นี่ก็รีบจัง
"นับ 1 "
"เฮ้ยจะนับทำไม"
"นับ 2"
"อย่าใจร้อนสิ"
"นับ 3" จบคำก็เอาแขนผมที่จับไว้ขึ้นมากัดทันที
"โอ๊ย คุณเป็นหมาหรือไงเจ็บนะ"
"ก็นายทำให้ฉันหมั่นเขี้ยวทำไมล่ะ มายืนเอียงคอมองคิดว่าเป็นลูกแมวหรือไง แล้วจะพูดไหม" คนตัวโตทำท่าจะกัดอีกรอบ
"พูดแล้วๆ พี่ธาร พี่ธาร พอแล้วผมเจ็บ"
"พูดให้มันหวานๆเพราะๆ อย่างพี่ธารครับพอนะน้องเจ็บแบบเนี่ยพูดได้ไหม"โอ๊ย น้องบ้านแกสิ
"แค่นี้ก็พอแล้วหวานกว่านี้ก็น้ำตาลแล้วคุณ"
"นับ 1"
"อ่าาา ได้ๆๆ พี่ธารครับ พอนะครับน้องเจ็บ" ผมพูดเสียงอ้อนพร้อมส่งสายตาอ้อนๆ
"..." เงียบ
"คุณ เป็นอะไร"
"อะหึ้ม เปล่าแล้วคุณอะไร พี่สิ"
"ครับ พี่ธารปล่อยผมเนอะ ผมจะไปนอนแล้ว" คุณธารปล่อยมือแล้วเดินกลับไปที่เตียงทิ้งตัวลงนอน ผมจึงแยกตัวไปปิดไฟแล้วก็
เดินกลับมาที่โซฟาเพื่อจะเข้านอนเหมือนกัน กำลังเคลิ้มๆ ผมก็ได้ยินเสียงเจ้าของห้องพูดขึ้น
"ฝันดีนะ น้องต้น" หึ ละเมอเปล่าว่ะ
"เมื่อกี้พูดกับผมหรอ" ไม่แน่ใจถามหน่อยแล้วกัน
"อืม พี่บอกว่า ฝันดีนะน้องต้น"
ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่รู้ทำไมจากอ้าปากกลายเป็นค่อยๆยิ้มจนหุบไม่ได้เลย แถมใจยังเต้นอย่างกับไปวิ่งมาอย่างนั้น
แหละ
"ครับ ฝันดีเหมือนกันนะครับ พี่ธาร"
ผมเอ่ยปากตอบไปแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปง ไม่รู้จะทำยังไงดี หึ้ยยยเขิลอ่าครับบบบบ
Tbc