✿ เติมเต็มรัก ✿ ครั้งที่ 15
การแข่งบาสจบลงด้วยดีครับ คณะวิศวะชนะทีมคู่แข่งไปแบบสบายๆเพราะคะแนนห่างกันพอสมควรเลย
"ดีนะที่ชนะ เดี๋ยวเราไม่ประทับใจถ้ามาดูแมตซ์แรกแล้วพี่แพ้" พี่เติมเต็มพูดหลังจากที่มานั่งพักเหนื่อยข้างผมได้สักพัก
"ถึงไม่ชนะก็ไม่เป็นไรครับแค่ได้เห็นพี่แข่งก็ดีใจแล้ว" ผมบอกตามที่คิดไว้
"กูเกลียดไอ้เต็มว่ะ" เสียงพี่ธรณ์ครับ
"เกลียดมันเรื่องอะไรวะ" พี่ทัตพลเป็นคนถาม แต่ผมดูจากสีหน้าพวกพี่ๆแล้ว ดูเหมือนจะรู้กันว่ากำลังคุยเรื่องอะไร
"เกลียดที่มันพูดว่าดีนะที่ชนะ พูดเหมือนมันเจอทีมที่แข็งมาก รู้แต่แรกอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องชนะ" พี่ธรณ์ตอบ
"และกูเกลียดมันที่มันบอกว่า กลัวคนเก่งไม่ประทับใจถ้าแพ้ เหตุผลเหมือนมึง คือมันรู้อยู่แล้วว่าจะชนะ ยังเสือกจะมาพูดแบบนี้อีก" พี่ชินท์พูดเสริมอีกคน
"เรื่องของกูมั้ย" พี่เติมเต็มพูด และพวกเพื่อนๆพี่เขาก็โห่แซวกันใหญ่ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่หัวเราะไปกับพวกเพื่อนๆพี่เติมเต็ม
"หิวยัง" พี่เติมเต็มถามผม
"กูเกลียดความเสียงสอง" พี่ชินท์ครับ
"อะไรของพวกมึงวะ กูก็พูดปกติ"
"เหรอ มึงลองถามคนเก่งดูมั้ย"
พี่เติมเต็มมองผม
"เอ่อ ก็ปกตินะครับ" ผมอึกอักตอบ
"แม่งส่งสายตากดดันน้อง"
พี่ธรณ์เดินมาโอบไหล่ผมและพูดว่า
"มันเริ่มเผยธาตุแท้ของมันแล้ว ถ้ารับไม่ได้ เปลี่ยนใจก็ยังทันนะคนเก่ง"
พี่เติมเต็มผลักตัวพี่ธรณ์ให้ออกจากผม
"ตัวมึงมีแต่เหงื่อ สกปรกว่ะ แล้วยังจะมาโดนตัวคนเก่งอีก"
พี่ธรณ์ไม่ได้พูดอะไร แค่หัวเราะขำพี่เติมเต็ม
สักพักผมก็ได้ยินพวกพี่ๆในทีมบาสชวนกันไปทานข้าวและเห็นว่าจะไปดื่มกันต่อด้วย
"ไปร้านพี่เอกกันมึง คืนนี้วันศุกร์ด้วยไปชิลล์กัน" พี่ชินท์เดินมาถามพี่เติมเต็มหลังจากที่นัดกับเพื่อนๆแล้ว
"เออ เอาดิ" พี่เติมเต็มตอบตกลง
"เจอกันสักสองสามทุ่ม ใครถึงก่อนก็ไลน์บอกกัน"
ตอนนี้พวกเพื่อนๆของพี่เติมเต็มแยกย้ายกันไปหมดแล้วครับ พี่เติมเต็มเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในโรงยิม ตอนแรกผมท้วงพี่เติมเต็มว่าให้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดเลย แต่พี่เติมเต็มบอกว่าไม่ชอบใส่เสื้อเปียกเหงื่อขึ้นรถ
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พี่เติมเต็มก็ขับรถออกจากมหาวิทยาลัย
"พี่เต็มไม่ส่งผมที่หอก่อนเหรอครับ"
"เดี๋ยวค่อยมาที่หอ ไปคอนโดพี่ก่อน อยากอาบน้ำ"
ผมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ พอมาถึงที่ห้อง พี่เติมเต็มก็เข้าไปอาบน้ำทันทีครับ ผมก็เลยถือโอกาสเดินดูรอบๆห้อง เมื่อคืนตอนที่มาถึงไม่ได้ลุกไปไหนเลยนอกจากนั่งอยู่ห้องรับแขก
ผมเดินมาในส่วนของห้องครัว เห็นตู้เย็นใบใหญ่สองตู้ ผมก็เลยถือวิสาสะเปิดดูด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องมีตู้เย็นถึงสองตู้ ทั้งที่อยู่คนเดียว พอเปิดดูก็ได้คำตอบครับ ตู้หนึ่งใส่เครื่องดื่มซึ่งมีทั้งน้ำเปล่า,น้ำอัดลม,น้ำผลไม้,นมกล่องและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำพวกเบียร์ ส่วนอีกตู้ผมเห็นมีพวกของสดเช่นผัก,ผลไม้และไข่ไก่ ซึ่งผมมองว่าตู้นี้ไม่จำเป็นต้องมีเลยครับ เพราะพี่เติมเต็มไม่น่าจะได้ทำกับข้าวทานเองที่ห้องอยู่แล้ว ของสดทิ้งไว้ไม่ได้ทำเสียของแย่
ผมเดินผ่านห้องครัวออกมาก็มาเจออีกห้อง ห้องนี้ดูแล้วน่าจะเป็นห้องซักรีด เพราะมีเครื่องซักผ้า มีเครื่องอบผ้า และพวกอุปกรณ์รีดผ้า คอนโดพี่เติมเต็มมีครบทุกอย่างจริงๆ ห้องนี้มีระเบียงด้วยครับ ผมเดินออกมาดู เท่าที่ดูระเบียงตรงนี้ก็คงจะเอาไว้ตากเสื้อผ้า
พอเดินออกมาจากห้องซักรีด พอมองมาด้านขวามือผมก็เห็นว่ายังมีระเบียงอยู่ตรงนี้อีก ซึ่งระเบียงตรงนี้กว้างกว่าระเบียงตรงห้องซักรีดเยอะเลยครับ ผมเดินออกมาเห็นมีเก้าอี้วางอยู่ตัวหนึ่ง และตรงมุมระเบียงมีต้นปาล์มขนาดไม่ใหญ่มากวางอยู่
ผมเดินมายืนตรงระเบียง ราวระเบียงค่อนข้างสูงนะผมว่า สูงประมาณหน้าอกผมเห็นจะได้ ผมมองลงไปข้างล่าง เห็นแสงไฟสว่างระยิบระยับอยู่ไกลๆ พอมองท้องฟ้าผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ นี่คงเป็นข้อดีของการที่อยู่ชั้นที่สูงขนาดนี้
เพราะมันทำให้เรามองเห็นดวงดาวบนฟ้าได้ชัดเจนมากขึ้น
ผมมักจะเปรียบพี่เติมเต็มเป็นดวงดาวเสมอ ฟูจิเคยถามถึงเหตุผลแต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี คือเมื่อก่อนช่วงที่ผมเข้ามาเรียนมอสามใหม่ๆ เวลาเจอพี่เติมเต็มทีไร ผมจะนึกถึงคำว่า star ตลอด รู้สึกว่าพี่เขาโดดเด่น เปล่งประกายประมาณนี้ล่ะมั้งนะ
พูดถึงฟูจิ ไม่รู้ป่านนี้มันเป็นยังไงบ้าง
ผมไม่รู้ว่าผมยืนอยู่ที่ระเบียงนานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งได้กลิ่นน้ำหอมอยู่ใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันได้หันหน้ากลับไปมอง ก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนมายืนซ้อนหลังผมอยู่ พร้อมทั้งมือสองข้างก็มาจับราวคร่อมตัวผมไว้ ผมสะดุ้งครับและพี่เติมเต็มก็น่าจะรับรู้ได้
"นึกว่าแอบหนีกลับหอไปแล้ว" น้ำเสียงของพี่เติมเต็มเป็นเหมือนแซวเล่นมากกว่า
"......"
ใจผมมันเต้นระรัวและผมว่าตัวผมสั่นนิดๆด้วย แผ่นหลังของผมแนบชิดกับหน้าอกของพี่เติมเต็มอย่างชัดเจนโดยที่ผมไม่ต้องหันไปมอง เพราะความร้อนของร่างกายของอีกคนกระจายไปทั่วแผ่นหลังของผม
เมื่อผมไม่พูดอะไร ก็เหมือนพี่เติมเต็มจะเงียบเหมือนกัน มันก็ไม่เชิงว่าอึดอัดแต่เพียงแค่ ผมทำตัวไม่ถูกกับการใกล้ชิดแบบนี้ ลมหายใจของพี่เติมเต็มมันสัมผัสได้ที่ข้างแก้มและใบหูของผมตลอดเวลา
"อึดอัดมั้ย" พี่เติมเต็มถามครับ เสียงพี่เติมเต็มได้ยินชัดมากๆ
"อึดอัดเรื่องอะไรครับ" ผมว่าเสียงผมมันสั่นครับ
"ก็อึดอัดที่พี่ทำอะไรแบบนี้" พี่เติมเต็มพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก
"ไม่ครับ"
"พี่แค่อยากรู้ว่า ถ้าพี่ทำแบบนี้" พี่เติมเต็มเปลี่ยนจากที่เอามือคร่อมตัวผมอยู่เป็นมากอดเอวผมแทน
"แบบนี้" พี่เติมเต็มเอาคางมาวางที่ไหล่ของผมจนแก้มผมกับแก้มพี่เขาสัมผัสกัน
"พี่จะรู้สึกยังไง"
"......"
"พี่ว่า...มันก็โอเคดี ไม่ได้รู้สึกแย่"
"......"
"แล้วคนเก่งล่ะ รู้สึกยังไงที่พี่ทำแบบนี้"
"ก็ ... "
"ก็อะไร"
"ไม่ตอบได้มั้ยครับ"
"งั้นตอบแค่สั้นๆก็พอ"
"......"
"รู้สึกดีใช่มั้ย"
'โคตรดี' อยากจะตอบแบบนี้จัง
"ครับ รู้สึกดีมากๆเลย"
"ไม่อึดอัดและไม่รู้สึกแย่ใช่มั้ยที่พี่ เอ่อ เหมือนถึงเนื้อถึงตัวเรามากไป" พี่เติมเต็มพูดน้ำเสียงเหมือนไม่มั่นใจ พอผมมองผมก็เห็นว่าพี่เติมเต็มหน้าแดงนิดหน่อย ผมยิ้มทันทีเลย เพิ่งรู้ว่าพี่เติมเต็มเองก็เขินเหมือนกัน
"ไม่รู้สึกแย่เลยครับ" ผมตอบด้วยความมั่นใจ
"ดีจัง" พี่เติมเต็มจับตัวผมให้หันมาทางพี่เขา และใช้มือลูบหัวผมแทน
"เผื่อต่อไปถ้าพี่ทำอะไรที่มากกว่านี้ พี่จะได้มั่นใจว่าทำได้"
"ทำอะไรครับ!" ผมเผลอเสียงดัง
"เสียงดังทำไม" พี่เติมเต็มหัวเราะผม
"เราเป็นแค่ ... แค่แฟนระยะทดลองเท่านั้นนะครับ" ผมบอก
"ก็เพราะเป็นช่วงทดลองไง พี่ถึงต้องลองทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อจะได้รู้ว่ามันดีมั้ยไง" พี่เติมเต็มพูดยิ้มๆ
"พี่เติมเต็มไปได้แล้วครับ เดี๋ยวเพื่อนรอ" ผมรีบดันตัวพี่เติมเต็มให้เดินเข้าไปในห้อง เพื่อไม่ให้พี่เติมเต็มพูดอะไรมากกว่านี้
"ครับๆ" ผมได้ยินเสียงพี่เติมเต็มหัวเราะผมไม่หยุด
เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกหมั่นไส้พี่เติมเต็ม
ระหว่างที่พี่เติมเต็มขับรถมาส่งผมที่หอพัก มีสายเรียกเข้าจากคุณป้า (ม๊าของพี่เติมเต็ม) มาที่มือถือพี่เติมเต็ม แต่พี่เติมเต็มบอกให้ผมรับสายแทนได้เลย ตอนแรกผมก็ลังเลใจ แต่พี่เติมเต็มย้ำว่าให้รับสายได้เลย
"สวัสดีครับ"
(เอ๊ะ คนเก่งเหรอลูก)
"ใช่ครับ"
(พี่เขาล่ะ)
"พี่เต็มขับรถอยู่ครับ"
(ดีเลย ม๊าอยากคุยกับหนูอยู่เหมือนกัน)
ผมรู้สึกเขินๆครับที่คุณป้าเรียกแทนตัวผมว่าหนู ซึ่งคุณป้าชอบเรียกผมแบบนี้ประจำ
"ครับ คุณป้า"
(เมื่อคืนพี่เขาบอกกับม๊าว่าจะลองคบกับหนูดู จริงหรือเปล่า)
ผมรีบหันไปมองพี่เติมเต็มทันที อะไรกัน? ไปเล่าให้คุณป้าฟังแล้วงั้นเหรอ ขนาดผมเองยังไม่เล่าให้ที่บ้านฟังเลย เพราะกลัวสุดท้ายลองคบแล้วมันไม่ใช่ขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะไปอธิบายให้ที่บ้านฟังยังไง
"พี่เต็มบอกคุณป้าเหรอครับ"
พี่เติมเต็มหันมามองผมเล็กน้อยและผมว่าผมเห็นพี่เติมเต็มยิ้มที่มุมปากด้วย
(ใช่จ้ะ พี่เขาบอกม๊า คนเก่งตอบตกลงใช่มั้ย)
"ก็...ใช่ครับ" ผมเขินมากจนไม่รู้จะเอามือไม้ไว้ที่ไหนดี และเหมือนคนที่นั่งข้างๆผมเหมือนจะรู้ พี่เติมเต็มจับมือขวาของผมไปกุมไว้และวางไว้บนตักพี่เขา
ตอนนี้ผมเขินทั้งม๊าพี่เติมเต็ม และเขินสิ่งที่พี่เติมเต็มกำลังทำ
(ม๊าแค่อยากถามเพื่อความมั่นใจว่าลูกชายม๊าทำจริงอย่างที่พูดใช่มั้ย)
"......." ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี
(กลับบ้านคราวหน้า ให้พี่เขาพามาหาม๊าที่บ้านด้วยนะ)
"ครับ เดี๋ยวผมจะบอกพี่เต็มให้ครับ"
(ว่าแต่กำลังจะไปไหนกันจ้ะ)
"พี่เต็มกำลังจะไปส่งผมที่หอครับ"
(ถ้าพี่เขาดูแลไม่ดี หนูต้องบอกม๊านะ)
".....ครับ"
หลังจากนั้นม๊าของพี่เติมเต็มก็วางสายไป
และผมก็ถามพี่เติมเต็มทันที
"พี่เต็มครับ"
"ว่าไง"
"ทำไมพี่เต็มถึงบอกคุณป้าเรื่องที่เรา ... "
"คบกันน่ะเหรอ"
"ลองคบครับ" ผมแก้
"ไม่อยากให้พี่บอกเหรอ"
"ก็...เรายังไม่รู้เลยว่า อนาคตมันจะใช่หรือเปล่า ถ้าในที่สุดมันไม่ใช่ เราต้องมาอธิบายให้ผู้ใหญ่เข้าใจอีกนะครับ มันจะยุ่งยากหรือเปล่า"
"พี่ใช่สำหรับคนเก่งมั้ย"
"มันก็ต้องใช่สิครับ ถามแปลกจัง"
"สำหรับพี่ ถ้าพี่เลือกที่จะบอกคนอื่น โดยเฉพาะคนในครอบครัว นั่นก็คือพี่มั่นใจ ว่าในอนาคตมันต้องใช่"
"......."
"อย่ากังวลไปเลย" พี่เติมเต็มบีบมือผมแน่นขึ้น
ไม่ถึงห้านาที พี่เติมเต็มก็มาจอดรถที่หน้าหอผม
"ขอบคุณนะครับ อย่ากลับดึกมากนะ"
"เดี๋ยว! จะไม่ไปกับพี่เหรอ"
"ก็พวกพี่ๆจะไปดื่มกันไม่ใช่เหรอครับ"
"มันก็ใช่ แต่เรายังไม่กินอะไรเลยนะ"
"เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวผมหาอะไรกินแถวนี้ก็ได้ครับ"
พี่เติมเต็มถอยรถเข้าไปจอดที่จอดรถบริเวณหน้าหอ ปลดล็อครถและดับเครื่อง ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินลงไปก่อนผม ผมก็เลยรีบหยิบกระเป๋าและรีบเปิดประตูรถลงไป และพี่เติมเต็มก็บอกกับผมว่า
"ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวครับ"
เอาอีกแล้ว 'ครับ' มาอีกแล้ว
แล้วผมก็ยอมตามเคย
ระหว่างที่ผมอาบน้ำอยู่ พี่เติมเต็มก็นั่งรอผมอยู่ในห้อง ผมใช้เวลาอาบน้ำและแต่งตัวไม่นาน ตอนแรกพี่เติมเต็มไม่ยอมให้ผมเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนในห้องน้ำ แต่จะให้ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมก็คงไม่สามารถครับ
พอเดินออกมาจากห้องน้ำเท่านั้นแหละ ผมรีบวิ่งมาที่โต๊ะเขียนหนังสือของผมทันที เพราะพี่เติมเต็มกำลังเปิดดูโน๊ตบุ๊คของผม ซึ่งมันมีความลับเยอะมากครับ
แต่...คงไม่ทันแล้วล่ะครับ แงๆ
ตอนนี้สิ่งที่พี่เติมเต็มกำลังดูอยู่คือหน้าเฟซบุ๊คของผมเองครับ ผมอยากจะร้องไห้ ไม่อยากให้พี่เติมเต็มมารู้เลย
Konkeng Peimthaworn :
คิดถึงพี่เต็มมากนะครับ
Konkeng Peimthaworn :
ผมรักพี่นะครับ
Konkeng Peimthaworn :
วันนี้เรียนไม่ค่อยหนัก แต่รักพี่หนักมาก
Konkeng Peimthaworn :
คิดถึงพี่เต็มจะแย่แล้วเนี่ย
Konkeng Peimthaworn :
เคยได้ยินมีคนพูดว่าความคิดถึงฆ่าคนได้ ตอนนี้กูกำลังจะตายแล้ว!!!! คิดถึงโว้ยยยย
พี่เติมเต็มกำลังเลื่อนดูสเตตัสบนเฟซบุ๊คที่ผมเคยโพสไว้ แต่มันเป็นโพสที่ผมตั้งค่าไว้ให้ตัวผมเห็นคนเดียว
"ถ้าพี่ต้องเลื่อนอ่านจนหมดคืนนี้คงจะไม่ได้ออกไปไหนแน่เลย" พี่เติมเต็มบอกก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาที่ทำเอาผมขาสั่น
"เอาไว้ค่อยมานั่งดูทีหลังดีกว่า"
พี่เติมเต็มใช้มือจัดทรงผมให้ผม ก่อนจะตามมาด้วยการบีบแก้มผมเบาๆ
"ไปกันได้แล้ว"
พี่เติมเต็มจัดการปิดโน๊ตบุ๊ค และหยิบมือถือกับกระเป๋าสตางค์ของผมให้ด้วย เหมือนพี่เติมเต็มรู้ว่าสติผมไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว
"ไม่อยากให้เห็นเหรอ" พี่เติมเต็มถามตอนที่ขับรถออกมาจากหอพักแล้ว
"ครับ มันเขิน"
พี่เติมเต็มไม่พูดอะไรแค่ยิ้มและดึงมือผมไปจับและวางบนตักตัวเองอีกแล้ว
เรามาถึงร้านที่พวกพี่ๆเขานัดกันไว้ช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อยครับ
"มัวทำไรอยู่วะช้าสุด"
พี่ธรณ์ถามทันทีที่เราสองคนเดินมาถึงโต๊ะ ผมเห็นมีเก้าอี้แบบโซฟาว่างอยู่ ซึ่งน่าจะนั่งได้สองคนพอดี เดาว่าน่าจะเป็นของผมกับพี่เติมเต็ม พี่เติมเต็มให้ผมเข้าไปนั่งก่อน และพี่เติมเติมก็ตามมานั่งข้างๆ
"ทำอะไรกันดีล่ะ" พี่เติมเต็มหันมาถามผม
"สั่งอาหารหรือยังครับพี่ชินท์" ผมเลี่ยงด้วยการหันไปถามพี่ชินท์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับผมแทน
"สั่งแล้ว แต่อยากกินอะไรสั่งได้เลย" พี่ชินท์บอกผม
"เอาตัวรอดเก่งนะ" พี่เติมเต็มกระซิบข้างหูผม ผมแค่ยิ้มตอบเพราะไม่อยากพูดอะไรที่มันอาจจะเข้าตัว"
"คนเก่ง เอาอะไร เหล้าหรือเบียร์" พี่ทัตพลถามผม
"อย่าเพิ่งมึง ให้น้องกินข้าวก่อน เดี๋ยวเมา" พี่เติมเต็มห้ามพี่ทัตพลที่กำลังหยิบแก้วใบใหม่ออกมา
"กลัวอะไรวะ มากับมึง น้องเมามึงก็ดูแลแค่นั้น" พี่ทัตพลแย้งขึ้นมา
"เมาไม่เมากูก็ดูแลอยู่แล้ว แต่กูแค่อยากให้น้องกินข้าวก่อน"
พี่ทัตพลพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปชนแก้วกับเพื่อนๆ
รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟ กลายเป็นว่าทั้งโต๊ะมีผมคนเดียวที่นั่งทานข้าวในขณะที่พี่ๆคนอื่น ทานกับข้าวเป็นกับแกล้ม
ผมดูเด็กชะมัดเลย
"พี่เต็มไม่กินข้าวเหรอครับ"
"กินข้าวเดี๋ยวกินเหล้าได้น้อย"
"ไม่เห็นจะเกี่ยว"
"อยากให้กินเหรอ"
"ครับ"
"ถ้าป้อนจะกิน"
"งั้นก็ไม่ต้องกินเลยครับ" พี่เติมเต็มหัวเราะ ใครจะมานั่งป้อนล่ะ คนเยอะขนาดนี้
"มึงๆเห็นเพจ NiceGuys ยังวะ" พี่ธรณ์ชะโงกหน้ามาถามพี่เติมเต็ม
"มีอะไรอีกว่ะ" พี่เติมเต็มถาม
"เข้าไปดูจะไอจี จะเฟซบุ๊คก็ได้"
พี่เติมเต็มหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมเห็นพี่เติมเต็มเข้าไปที่ไอจี พี่เติมเติมขยับเข้ามานั่งใกล้ผมมากขึ้นเพื่อให้ผมได้อ่านด้วย
NiceGuys
วันนี้แอดแว่บไปส่องบรรดาหนุ่มๆที่สนามบาส เห็นมั้ยคะว่าใคร? อดีตสามีของแอดเองค่ะ พี่เติมเต็ม ปี 3 เป็นตัวจริงของนักกีฬาบาสเกตบอลคณะวิศวะมาหลายปี แต่ตัวจริงของใจยังไม่รู้ว่ายังไง เอ?! แล้วบรรยากาศหวานในรูปนี่คืออะไรยังไงคะ เพิ่งเคยเห็นพี่เติมเต็มอ่อนโยนขนาดนี้ ตอนเป็นสามีแอดไม่เคยอ่อนโยนเลยสักครั้ง
(แนบรูป)
รูปที่ทางเพจเอามาลงคือเป็นรูปที่ถ่ายได้ตอนที่พี่เติมเต็มบีบแก้มผมก่อนที่จะลงสนามแข่ง
ผมค่อนข้างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายรูปมาลง ผมลืมไปได้ยังไงว่าพี่เติมเต็มมีคนคอยตามพี่เขาอยู่เยอะเหมือนกัน เวลาปกติอาจจะไม่มีใครตามถ่ายรูปพี่เขาก็จริง แต่เวลามีแข่งกีฬาแบบนี้มันต้องมีคนตามถ่ายรูปพี่เติมเต็มอยู่แล้ว
ผมหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา กดเข้าไปที่ไอจีเพื่อดูรูปนั้น รูปถ่ายออกมาสวยมากเลยครับ ในรูปพี่เติมเต็มกับผมเราสบตากัน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ถ่ายจะกดถ่ายได้ทันเพราะผมว่าช่วงเวลาที่ผมสบตาพี่เติมเต็มมันสั้นมาก เสี้ยววินาทีเลยก็ว่าได้
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ผมจะต้องคิด สิ่งที่ผมต้องคิดคือผลที่จะตามมาหลังจากที่มีคนเห็นภาพนี้ ตัวผมไม่เท่าไหร่หรอก แต่พี่เติมเต็มเนี่ยสิ
ผมเลื่อนมาดูตรงความคิดเห็น
comment 1 : หืม!?อะไรยังไง
comment 7 : พี่เต็มหล่อจัง
comment 23 : ใครที่พี่เต็มจับแก้มคะแอด
comment 31 : หน้าคล้ายๆกับคนที่พี่วิน วิศวะบอกจะจีบเลย
comment 32 : ใช่เหรอ รูปนี้เห็นด้านข้างไม่แน่ใจ
comment 44 : คอนเฟิร์มว่าคนเดียวกันเพราะวันนี้เราก็ไปที่สนาม
comment 57 : ไม่มีวาร์ปเหรอคะแอด
มีคนให้ความสนใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ผมหันไปมองพี่เติมเต็ม เห็นพี่เติมเต็มก็กำลังเลื่อนอ่านคอมเม้นท์อยู่เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าพี่เติมเต็มรู้สึกยังไงเพราะหน้าพี่เขาเฉยมากๆ แต่ไม่นานผมก็เห็นพี่เติมเต็มพิมพ์ข้อความลงไป
teimtemp : รูปสวยครับ ช่วยส่งให้ส่วนตัวได้มั้ย @NiceGuys
NiceGuys : ถึงขั้นแท็กมาขอรูป ต้องแถลงข่าวหน่อยมั้ยคะ @teimtemp
teimtemp : ขอเก็บเป็นความลับให้ลุ้นกันก่อนน่าจะดีกว่า
หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นอีกหลายคน
"พี่เต็มครับ คอมเม้นท์ไปแบบนั้นมันจะดีเหรอครับ" ผมถาม
"แล้วมันไม่ดียังไง" พี่เติมเต็มใช้แขนข้างหนึ่งมาโอบไหล่ผมไว้ แล้วใช้มือข้างที่โอบยกขึ้นมาลูบผมของผมเบาๆ
"มันจะไม่ดีกับพี่เต็มนะสิ มีข่าวแบบนี้กับผู้ชาย" ผมบอก
"ใช่ มีข่าวเรื่องรักๆแบบนี้กับผู้ชายมันไม่ดี แต่ถ้ามีกับเราพี่โอเคนะ ไม่ต้องคิดมาก พี่ไม่ใช่คนที่ทำอะไรฝืนใจตัวเอง เพียงแค่ให้คนอื่นรู้สึกดี เรื่องนี้ก็ด้วย" พี่เติมเต็มบอกผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
หลังจากนั้นทางแอดมินของ NiceGuys ก็ส่งรูปมาให้พี่เติมเต็มทางอินบ็อกซ์ของไอจีหลายรูปเลยครับ มีทั้งรูปตอนที่พี่เติมเต็มกำลังแข่ง และรูปที่มีผมติดมาด้วย พี่เติมเต็มเอาให้ผมดูรูปสวยจริงๆด้วย
พวกพี่ๆนั่งดื่มกันและฟังเพลงกันไปเรื่อยๆครับ ส่วนผมไม่ได้ดื่มด้วยครับเพราะผมกลัวตัวเองจะเมา แล้วจะเป็นภาระของพี่เติมเต็ม อยากให้พี่เติมเต็มดื่มกับเพื่อนๆให้เต็มที่ดีกว่า เผื่อถ้าพี่เติมเต็มเมาผมก็จะได้ขับรถไปส่งพี่เติมเต็มที่คอนโดได้ และเผื่อเจอด่านจะได้ไม่เสี่ยงโดนเป่าแอลกอฮอล์ตอนกลับด้วย
"คนเก่ง" พี่เติมเต็มกระซิบที่ข้างหูผมเพราะตอนนี้เสียงในร้านค่อนข้างดัง ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ
"ครับ"
"ขอบคุณนะครับ" พี่เติมเต็มพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และไม่ใช่แค่น้ำเสียงเท่านั้น สายตาที่มองผมมันก็อ่อนโยนมากๆเช่นกัน ที่สำคัญมีต่อท้ายด้วยคำว่า 'ครับ' ที่ผมแพ้อีกต่างหาก
"ขอบคุณเรื่องอะไรเหรอครับ"
"ตอนที่พี่เปิดโน๊ตบุ๊คแล้วเห็นสเตตัสพวกนั้นของคนเก่ง พี่รู้สึกดีมากเลย เหมือนตัวมันจะลอยได้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญ" พี่เติมเต็มใช้มือลูบแก้มผมไปมา
"พี่เต็มก็เป็นคนสำคัญมาตลอดอยู่แล้วนี่ครับ"
"มันก็ใช่ แต่ไม่รู้สิ เพิ่งรู้สีกตัววันนี้ว่าตัวเองสำคัญล่ะมั้ง"
"ผมว่าพี่เติมเต็มเมาแล้วแน่เลย"
"แค่นี้พี่ไม่เมาหรอก" พี่เติมเต็มบีบแก้มผมเบาๆ ก่อนจะหันไปดื่มกับเพื่อนๆต่อ
เวลาประมาณตีหนึ่ง พวกพี่ๆก็เริ่มทยอยกลับเพราะมีหลายคนเมามากแล้ว พี่เติมเต็มก็เลยชวนผมกลับเหมือนกัน
พอเดินมาถึงรถ ผมก็กุญแจรถจากพี่เติมเต็ม
"ขอกุญแจรถครับ ผมขับเอง"
"พี่ขับได้ ไม่เมาเลย"
พี่เติมเต็มปลดล็อครถ ก่อนจะเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ
"เชิญครับ" พี่เติมเต็มบอกผม
"แบบนี้นี่แหละเมา" ผมพูด พี่เติมเต็มหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งคนขับ และขึ้นไปนั่ง ผมก็เลยต้องขึ้นไปนั่งเหมือนกัน
"ถ้าเจอด่านจะทำยังไงครับ" ผมถาม
"รับรองไม่เจอ เดี๋ยวไปทางลัด"
"ดูเหมือนไม่ใช่พี่เต็มเลยนะเนี่ย ผมว่าพรุ่งนี้ตื่นมาจะจำไม่ได้ว่าพูดหรือทำอะไรบ้าง"
"บอกแล้วไงว่าแค่นี้พี่ไม่เมาหรอก รับรองว่าจำได้ทุกอย่าง"
ผมไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะพี่เติมเต็มก็ไม่ได้มีท่าทางเมาหรือว่าอะไรเลย เพียงแค่พูดอะไรแปลกๆที่ดูไม่ใช่พี่เติมเต็มเลย
ใช้เวลาไม่นานรถของพี่เติมเต็มก็มาจอดที่หน้าหอพักของผม
"ขับรถกลับดีๆนะครับ" ผมบอกพี่เติมเต็ม ก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัย ผมเห็นพี่เติมเต็มเองก็ปลดเข็มขัดนิรภัยเหมือนกัน
"ครับ?" ผมเดาว่าพี่เติมเต็มคงมีเรื่องจะพูดกับผม
พี่เติมเต็มโน้มตัวมาใกล้ผม จนผมมองหน้าพี่เติมเต็มไม่ชัดเพราะมันใกล้มาก
ผมขยับตัวหนีพี่เติมเต็มแต่ในรถมันมีพื้นที่ให้หนีได้แค่นี้จริงๆ
"จูบนะ"
พี่เติมเต็มพูดแต่ดูเหมือนจะไม่ต้องการคำตอบเพราะริมฝีปากพี่เติมเต็มแตะลงมาสัมผัสที่ริมฝีปากของผม ตอนแรกพี่เติมเต็มสัมผัสแค่เบาๆครับเหมือนจะหยอกล้อ แต่ต่อมาสัมผัสของพี่เติมเต็มมันรุกล้ำมากขึ้น
ผมไม่เคยจูบมาก่อน ผมรู้เลยว่าผมเงอะงะมากๆ และเหมือนพี่เติมเต็มจะรู้เพราะดูเหมือนพี่เขาจะพยายามช่วยผมเหมือนกัน
ผมไม่รู้ว่าเราจูบกันนานแค่ไหน แต่ในความรู้สึกของผมมันนานมากๆ
พี่เติมเต็มละริมฝีปากออกจากริมฝีปากผม ก่อนจะจูบเบาๆ ย้ำๆ สองครั้ง
"พี่ยืนยันว่าพี่ไม่ได้เมา พี่แค่ดื่มย้อมใจ" พี่เติมเต็มใช้มือลูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ
"ย้อมใจ?"
"พูดแล้วอายชะมัด อยากจะจูบตั้งแต่ที่คอนโดแล้ว แต่ใจไม่กล้าเท่าไหร่ ก็เลยต้องใช้ตัวช่วย เผื่อมันจะกล้า และมันก็ได้ผล" พี่เติมเต็มพูดด้วยน้ำเสียงเขินๆ
พี่เติมเต็มน่ารักจังเลยครับ จริงๆถ้าขอผมก็ให้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องดื่มเหล้าเลย แต่เรื่องนี้ผมไม่บอกหรอกครับ
"ไม่ใช่พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วลืมนะ" ผมพูดเบาๆกับตัวเอง แต่ในรถเงียบๆแบบนี้พี่เติมเต็มก็ต้องได้ยิน
"งั้นจูบอีกนะ จะได้มั่นใจว่าพรุ่งนี้ไม่ลืม"
พี่เติมเต็มพูดก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง
และ
อีกหลายครั้ง
พรุ่งนี้ปากผมต้องบวมแน่เลย
โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์
TBC.
#เติมเต็มรัก
ninewara✿