วายที่16 ห้องใหม่
ความเดิมตอนที่แล้ว ผมได้เปิดหูเปิดตารู้จักดราม่าซีดีของจริง เกิดความต้องการกำจัดทิ้ง พี่เฟย์ร้ายกาจไม่เปิดโอกาศให้ผมเข้าถึงบรรดาของสะสมสุดรักสุดหวง พอผมจะขอดูโทรศัพท์ ดันเอาไปวางซะสูง ขนาดผมเหยียบเก้าอี้ยังเอื้อมมือไม่ถึง ผมไม่ได้เตี้ยนะ! ชั้นหนังสืออาเฮียสูงเกินไปต่างหาก
ถัดมาเป็นโน๊ตบุ้ค ปกติพี่เฟย์ปล่อยผมเล่นตามสบาย หลังจากที่ผมย้ายมาอยู่ด้วยมีโน๊ตบุ้คของตัวเอง เลยไม่ได้ไปแตะต้อง พอแอบย่องหยิบออกมาเปิดดูอีกที ดันต้องใส่รหัส เรียกได้ว่าหลบเลี่ยงทุกเส้นทาง
พี่ชายลืมไปอย่าง ไฟล์พวกนั้นผมแตะต้องไม่ได้ก็จริง แต่ไอ้ที่บันทึกลงแผ่นซีดียังไม่ถูกเก็บให้พ้นมือแมว ตอนที่ผมรื้อห้องครั้งใหญ่ บังเอิญเจอเจ้าพวกนี้ซุกอยู่หลังชั้นวางหนังสือ เพราะพี่ชายไม่มีเวลาเก็บต้องไปทำงาน
ผมยิ้มมุมปากเปิดดูแผ่นพวกนั้นทีละแผ่น อันไหนมีแค่รูปทั่วไปก็รอด ส่วนอันไหนมีรูปชวนหวาดเสียว หรือรูปชวนขว้างทิ้งคัดแยกไว้อีกกอง แผ่นไหนมีไฟล์เสียงไม่น่าไว้ใจคัดลงถังขยะ ให้ตาย ยิ่งมาดูแบบนี้ผมแทบอยากพ่นไฟ ถ่ายตอนไหน อัดตอนไหนวะเนี่ย!
หลังคัดเสร็จผมกลั้นใจหักแผ่นพวกนั้นทิ้งโยนลงถังขยะ เพื่อความชัวร์ ยืดเวลาตายของตัวเอง รีบมัดรวบถุง โยนลงช่องทิ้งขยะของคอนโด เก็บพวกที่รื้อมาเข้าที่เดิม แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่ชายฉลาดจะตาย ต้องรู้แล้วแน่ๆ เอาไงดี หนีไปห้องโป้ดีกว่า”
ตัดสินใจพร้อมลงมือทำ หยิบข้าวของจำเป็น เก็บเสื้อผ้าไปสองชุด ระหว่างกำลังเดินหาที่ชาร์จมือถือ รู้สึกถึงออร่าทะมึนจากทางด้านหลัง ไม่ต้องส่องกระจก ผมรู้ได้ทันที ตัวเองกลายเป็นแมวสีตก ซีดไปทั้งตัว
ค่อยๆ หันไปทางด้านหลังช้าๆ เจอเข้ากับเป้ากางเกง รีบสะบัดหัวละสายตาไปทางอื่น เงยหน้าขึ้นด้านบน เอื้อก ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับพี่ชายที่แสนดี หากเป็นสมัยก่อนผมคงหลงเคลิ้มไม่รู้ตัว มาตอนนี้รู้ว่าภายใต้คราบพี่ชายคือหมาป่ากินเด็ก
ร่างสูงในชุดทำงานยืนโน้มตัวเท้าสองแขนกับตู้เสื้อผ้า ก้มมองลูกแมวตัวเล็กที่นั่งตัวสั่นหงึกๆ อยู่ด้านใต้ ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มอ่อนโยน ยิ่งทำให้คนมองซีดแบบไม่พึ่งโอโม่
“จะไปไหนครับปอนด์”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถาม พลางย่อตัวมาคุกเข่ากักตัวเล็กที่พยายามถอยหลังเบียดตัวกับตู้เสื้อผ้า ผมกลืนน้ำลายอึก มองมือพี่ชายหยิบกระเป๋าไปไว้อีกทาง
“พะ พอดีผมจะไปหาโป้น่ะ แหะๆ”
คำพูดติดอ่าง ร้อยยิ้มแห้งๆ ผมพยายามทำตัวน่ารัก มองพี่ชายตาปริบๆ เหมือนมีเงาหูลู่ หางขดเข้าท้อง ขณะที่อีกคนหูแหลมตั้ง หางชี้เตรียมล่าเหยื่อ
“งั้นเหรอ จริงสิ... ปอนด์เห็นพวกซีดีที่พี่เก็บไว้หลังชั้นหนังสือมั้ย”
พี่ชายถามเสียงนุ่ม ส่วนผมสะดุ้งโหยง พี่ชายเพิ่งกลับมาถึงเองไม่ใช่เรอะ ทำไมถึงรู้เรื่องผมไปรื้อซีดีออกมาด้วย แล้วยังตามดักถึงห้องนอน ผมส่ายหัวขวับๆ ลูกเดียวเผื่อมีทางรอดให้ชีวิต
“ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ถ้ามันหายไว้ค่อยสะสมใหม่มากกว่าเดิมสองเท่าแล้วกัน”
คนฟังตาโตอ้าปากค้าง พี่ชายบอกว่าสองเท่า! ผมหักทิ้งไปห้าแผ่นรวด ตาย งานนี้ตายแน่ต้องรีบหนี ร่างเล็กมุดลอดใต้แขน พุ่งตัวออกจากห้องนอนไปยังประตู คนแรกวิ่งแทบตาย อีกคนกลับก้าวอาดๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัว สองมือหนาจับรวบข้อมือเล็กกดกับประตู แหงะ ขยับไม่ได้
“จะหนีไปไหน คิดว่าพี่ไม่รู้เรอะ”
“รู้แล้วจะถามทำไมเล่า”
ผมโวยกลับ พี่เฟย์จับพลิกให้หันมาประจันหน้า เอวผมถูกโอบรั้งชิดตัวจนรู้สึกถึงอุณภูมิร้อนผ่านผิวผ้า สถานการณ์ล่อแหลมสุดๆ จากตอนแรกกลัวจนซีด ตอนนี้เขินแทบสุก สภาพแบบนี้มันอะไรกัน ไม่ดีมั้งพี่ นี่มันประตูติดทางเดินนะเฮ้ย
“ไล่ต้อนเด็กปากแข็ง”
“ฮึ่ม! พี่นั่นแหละผิด นั้นมันรูปผมนะ เสียงผมด้วย สิทธิส่วนบุคคล ผมจะทำอะไรก็ได้สิ” ตาจ้องเขม็งเอาเรื่อง ในเมื่อหนีไม่รอด ขอสู้สุดใจแล้วกัน ผมไม่ผิด เอ่อ... ผิดหน่อยนึงก็ได้ แต่ยังไงพี่ก็ไม่ควรทำอะไรแบบนี้นี่
พี่เฟย์ตีหน้านิ่งมองแมวอารมณ์ฉุนเฉียว สักพักหลุดหัวเราะพรืด ท่าทีคุกคามทั้งหลายมลายหายไปจนหมดสิ้น เปลี่ยนมาดึงผมเข้าไปกอดโยกเบาๆ เหมือนกล่อมเด็ก สัมผัสอุ่นจากมือหนาคอยลูบหัวลูบหลัง
“โอ๋ๆ ไม่ต้องจ้องพี่ตาเขียวขนาดนั้น แค่แหย่เล่นเอง ถ้าพี่คิดจะเก็บจริงๆ นึกเรอะว่าเราจะหาเจอ เอาเป็นว่าถอยกันคนละครึ่งทาง อันไหนไม่ควรพี่จะยอมลบก็ได้”
“ไม่เชื่อ ต้องลบให้เห็น” ใบหน้าน่ารักพองลมเข้าแก้ม พี่เฟย์ใช้นิ้วจิ้มจึก เดินกระเตงผมไปนั่งบนโซฟา พร้อมยกโน๊ตบุ้คกับมือถือมาตั้งไว้ตรงหน้า ไล่ลบให้เห็นแบบจะๆ แม้จะอ้อยอิงบ้างก็ตาม อุตส่าห์เก็บสะสม ถ้าไม่ใช่เรื่องน่าอายผมก็ยอมอยู่หรอก
“เรียบร้อย พอใจรึยังเจ้าตัวยุ่ง” พี่เฟย์ถาม มือขยี้หัวผมจนยุ่งกว่าเก่า ผมพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
ในความคิดของเฟย์ตอนนี้ รู้สึกเสียดายเป็นล้นพ้น แต่ยอมลบเพราะไม่อยากเห็นลูกแมวนั่งกลุ้ม ทั้งที่เฟย์ออกจะหวงแสนหวงไม่ยอมให้ใครเห็นหรือได้ยินเสียงอีกฝ่ายแท้ๆ ก็นะ พวกที่ส่งเข้าเมลล์ลับอันนั้นขอแปะไว้แล้วกัน...
เด็กน้อยผู้ไม่รู้ว่าพี่ชายมีคลังลับ เปลี่ยนมายิ้มแย้มกอดออดอ้อนตามเคย พี่ชายเอาใจด้วยอาหารอร่อย กับขนมอีกชุดใหญ่เรื่องราวเลยจบลงด้วยดี
พอเข้าสู่ช่วงเทศกาลสอบปิดเทอม ลูกแมวยุ่งจนลืมเรื่องของสะสมพี่ชายไปซะสนิท ทั้งทำงานส่ง พรีเซนท์งาน สอบเก็บคะแนน อ่านหนังสือเตรียมสอบ บางวิชาต้องไปสอบปฏิบัติแยกต่างหาก ยิ่งปีหนึ่งอัดวิชาเรียนเต็มกำลัง กว่าจะพ้นช่วงสอบได้กินเวลาไปหนึ่งอาทิตย์
ผมนอนแห้งตายคาโซฟา ถุงเท้ายังไม่ถอด กลับมาถึงห้องหลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ โยนกระเป๋าแล้วล้มตัวลงนอนแผ่ เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตื่นเอาอีกทีตอนรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆ มาทับอยู่ด้านบน หัวพี่ชายเกยอยู่ตรงบ่า ผมตบหลังพี่เฟย์
“หนักอะ ลุกดิพี่ มานอนทับผมทำไม”
ร่างสูงผละออกนั่งอยู่ปลายโซฟา นอกนั้นผมนอนกินที่หมด
“เห็นเรานอนสบายเลยนึกอยากนอนทับ เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ เพิ่งจะปีหนึ่งเองนะ”
พี่ชายถามพลางช่วยดึงไทผมออก ถอดถุงเท้า ดึงสองแขนผมขึ้นนั่งคร่อมบนตัก รู้สึกงัวเงียยังไม่ตื่นดีเลยปล่อยพี่ชายทำไป นับวันยิ่งเสียคน ถูกตามใจไม่พอ ทำทุกอย่างให้ สักวันผมเป็นง่อยแหง ถามว่าเลิกมั้ย ไม่!
“แค่คำว่ามหาลัยก็งานเข้าแล้วพี่ พี่ทำแบบนี้เหมือนเซบาสเตียนกับนายน้อย”
เป็นตัวละครจากการ์ตูนแฟนซีเรื่องหนึ่ง แต่เป็นการ์ตูนวายสำหรับสาวกยาโอย แน่นอนว่าผมกับพี่ชายเองก็ไม่มีข้อยกเว้น คนถูกหาว่าเป็นพ่อบ้านหัวเราะในลำคอ
“ถึงเวลาอาบน้ำแล้วครับคุณหนู” ผมยิ้มเล่นตามบท
“ถอดเสื้อผ้าให้ฉันเซบาสเตียน”
“Yes, My Lord.”
นิ้วยาวเป็นข้อชัดเจนปลดกระดุมเสื้อให้ผมทีละเม็ดจนหมด ก่อนเลื่อนไปท่อนล่าง เสียงฟืดจากการดึงเข็มขัดออกจากกางเกงชวนให้รู้สึกแปลกๆ ขณะที่พี่ชายกำลังจะปลดกางเกง ผมจับมือหนาไว้
“เดี๋ยวผมถอดเอง”
“ไม่ได้ เป็นพ่อบ้านต้องปรนนิบัติเจ้านาย”
พรืด กางเกงถูกดึงรวดเดียวหลุดจากขา ผมรีบจับชายเสื้อปิดด้านหน้า พี่เฟย์ไม่เสียเวลาปัดมือผมออก แต่รวบตัวผม อุ้มเดินเข้าห้องน้ำ แล้วผมก็ได้เป็นคุณหนูของจริง งานนี้สบายไม่ต้องอาบน้ำเอง แลกกับความอายจนหน้าแดงก่ำ พึงระลึกไว้เลยว่า หลังจากนี้ผมจะไม่เล่นแบบนี้กับพี่ชายอีก
อาบเสร็จโดนห่อด้วยผ้าเช็ดตัวมานั่งตรงหว่างขาให้พี่ชายเป่าขนให้ อาบน้ำอุ่นๆ หอมกลิ่นสบู่ ฟินจังเลยน้า
“ทำหน้าเคลิ้มเชียวลูกแมว ปิดเทอมแล้วหนิ จะกลับบ้านวันไหน”
“พรุ่งนี้ฮะ พี่จะกลับด้วยป่าว”
ผมหันมองพี่เฟย์ เจ้าตัวชะงักไปชั่วครู่แล้วตอบยิ้มๆ
“พี่ติดงานคงไม่กลับ อีกอย่างเราปิดเทอม หยุดแค่สองอาทิตย์เอง อยู่กับแม่ไป ใกล้เปิดเทอมค่อยกลับมาหาพี่ ไว้วันไหนหยุด พี่จะแวะไปหาที่บ้านนะ”
“โอเค ผมจะได้บอกแม่ถูก”
พี่ชายพยักหน้าเปลี่ยนมาหวีผม จับทาครีมทาแป้งจนตัวผมหอมฟุ้ง กำลังจะลุกไปแต่งตัว โดนมือหนาคว้ากลับมาฟัดซะเต็มที่ ผมโวยวายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหยุด ต้องพยายามยื้อจับผ้าขนหนูสุดฤทธิ์ พี่ชายพอใจนั่นแหละ ถึงยอมปล่อยผมแต่งตัว ส่วนตัวเองไปทำมื้อเย็น
วันต่อมา ผมเก็บของขนโน๊ตบุ้คกลับบ้าน ทีแรกพี่เฟย์จะมาส่ง แต่บ้านผมอยู่ซะนอกเมือง ขืนเวียนมาส่งก่อนเข้าบริษัทได้สายพอดี ผมเลยดื้อกลับบ้านเอง
ช่วงวันหยุดผมอยู่กับแม่เต็มที่ ถึงแม่จะไม่พูด แต่ผมรับรู้ได้ว่าแม่เองก็เหงาเหมือนกัน และดีใจมากที่ผมกลับมาสถิตย์บ้านได้นานๆ สักที สงสัยหลังจากนี้ผมต้องหาโอกาสกลับบ้านบ่อยๆ เรามีกันอยู่สองคนแม่ลูก จะติดกันก็ไม่แปลก พอพี่ชายหยุดแวะมาทำอะไรกินที่บ้าน ชีวิตแสนมีความสุข
วันหยุดมักผ่านไปไวกว่าวันเรียน เผลอแปบเดียวผ่านไปสองอาทิตย์ ผมกลับมาเป็นแมวคอนโดสูงอีกครั้ง พร้อมของกินที่แม่ให้ติดมาอีกเพียบ ถูกแม่กับพี่ชายขุนขนาดนี้ ถ้าผมกลิ้งแทนเดิน จะไม่แปลกใจเลย
เปิดเทอมมาหน้าเพื่อนทุกคนอิ่มเอมกันหมด ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า อยู่หอแต่ละคนมีรายจ่ายจำกัด แถมของกินที่กรุงเทพมันไม่อร่อยเท่ารสชาติของที่บ้าน ผมยังดีมีพี่ชายทำอาหารเก่ง คนนู่นเอาของกินมาฝาก คนนี้เอาของที่ระลึกมาให้ แลกของกันสนุกสนาน
ผมปล่อยให้เพื่อนแลกของกินกันไป แล้วนั่งหม่ำขนมกับพวกที่เหลือ สักพักมือถือในกางเกงสั่น ล้วงออกมาโชว์ชื่อไอ้ซันเด่นหรา ผมกดรับสาย ไม่ได้หวังของฝากนะจริงจริ๊ง
“โหลครับ สุดหล่อพูด”
/ถุ้ย! เบื่อแล้วมุกนี้ อยู่ไหนวะปอนด์/ ชิ ไอ้พวกไม่รับความจริง
“อยู่ใต้คณะ ของฝากใช่มะ มีของโป้ด้วยป่าว”
/มี รอที่ป้ายรถหน้าคณะไอที เดี๋ยวฉันกับโป้ไปหา/
พูดจบมันวางสายใส่ผมทันที เพื่อของฝาก ผมบอกลาพวกเพื่อนคว้ากระเป๋าสะพายวิ่งไปรอที่ป้ายรถ ไม่กี่นาทีสองรูมเมทขาวดำก็โผล่มา แต่ไม่ได้นั่งรถของมหาลัย ซันขับรถมาจอดเทียบข้างผม ลดกระจกลงยักคิ้วให้
“ขึ้นมาเลย”
ผมเป็นพวกใจง่าย เปิดประตูหลังกระโดดขึ้นไปทันที อีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่ได้รับการรับรองจากพี่เฟย์แล้ว ปลอดภัยหายห่วง ฮ่าๆๆ
บนรถซันสะอาดกว่าที่ผมคิดซะอีก แทบไม่ต่างจากรถของพี่เฟย์เลย ไม่มีกลิ่นอาหารหรือกลิ่นอับ มองไปที่นั่งข้างคนขับเห็นโป้หลับคอพับอยู่ ผมเกาะเบาะชะโงกหน้าไปดู โดนซันมันใช้มือยันหัวผมกลับ
“อย่าเพิ่งไปกวน มันนั่งรถมาทั้งคืน” ผมยอมถอยมานั่งดีๆ ตามเดิม ลดเสียงคุยกับซันสองคน
“โป้สุดยอดจริงๆ นั่งรถจากเชียงใหม่มา ยังเรียนไหวอีก”
“มันดื้อ บอกให้นั่งเครื่องบินก็ไม่ยอม”
ประโยคคล้ายระอา แต่น้ำเสียงแฝงความเป็นห่วง ผมนั่งอมยิ้มอยู่ด้านหลัง คู่นี้มีลุ้นแฮะ
“รถซันใช่ปะ ลงทุนขับรถตัวเองออกมาเพื่อรับส่งโป้เรอะ” ซันจ้องเขม็งใส่ผมผ่านกระจกหลัง ผมหัวเราะฮา ไม่กลัวสักนิด
“ไม่ใช่ แค่ไม่ได้ขับนานเลยเอาออกมาขับสักหน่อยจะได้ไม่พัง เลิกพูดเรื่องนี้ รู้ยังฉันกับโป้ย้ายหอแล้วนะ”
ผมตาโต มิน่าล่ะถึงลากผมขึ้นรถมาด้วย จะพาไปดูห้องใหม่นี่เอง เดี๋ยวนะ มันย้ายกันตอนไหนฟะ
“ย้ายตอนไหน ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“อย่างนายจะไปรู้อะไร หัวมีแต่ของกินกับเฮียเฟย์ พวกฉันย้ายหอตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมแล้ว ห้องข้างๆ มันเสียงดังทุกคืน ไม่รู้แม่งจะขยันเล่นกีต้าร์หาสวรรค์วิมานอะไรตอนตีสามตีสี่ ไอ้ห้องข้างล่างอีก กลิ่นปลาร้าโชยมาแทบอยากเอาน้ำล้างเท้าสาดใส่แม่ง”
ผมหัวเราะ พอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพวกมันถึงย้ายมาอยู่หอนอก แอบเคืองนิดๆ ไม่ได้คิดถึงของกินกับพี่เฟย์แค่นั้นสักหน่อย ยังมีเรื่อมเกม นิยาย กับมังงะวายด้วย ทำไมแก้ตัวแล้วรู้สึกหนักกว่าเดิม ช่างมัน
คอนโดที่ซันกับโป้อยู่ไม่ห่างจากมหาลัยเท่าไหร่ ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาสิบห้านาทีก็ถึง ซันชูบัตรขับรถจอดชั้นล่าง ผมกำลังจะปลุกโป้ ซันยกมือห้ามโยนกระเป๋าของตัวเองกับโป้มาให้ผมแบกซะงั้น
“ไม่ต้องปลุก เดี๋ยวอุ้มขึ้นไปเอง”
ผมกลายเป็นเด็กถือกระเป๋า ซันอ้อมมาที่นั่งข้างคนขับ พอก้มลงจะอุ้มโป้ คนหลับมาตลอดทางดันตื่น ไม่รู้ซันมันกระซิบอะไร โป้ถึงหลับต่อปล่อยให้มันอุ้มอย่างว่าง่าย ผมปิดประตูให้ รับกุญแจรถมาล็อก กดลิฟท์ กดชั้น ไขกุญแจห้อง ผมเริ่มสงสัยแล้วสิ ตกลงชวนมาให้ดูห้องใหม่ หรือพามาเป็นเด็กรับใช้
ห้องของซันกับโป้เหมือนคอนโดห้องชุดทั่วไป ไม่ใหญ่เท่าของพี่เฟย์ แต่พอดีสำหรับสองคน เปิดประตูเข้ามาเจอห้องนั่งเล่น มีโซฟายาวตัวเดียวหน้าทีวี ผมถือโอกาสระหว่างซันพาโป้ไปนอนเตียงสำรวจห้อง มีสองห้องนอน ห้องน้ำในตัว ฝั่งซ้ายเป็นห้องครัว โต๊ะกินข้าวกับเก้าอี้สำหรับสองคน
สังเกตดูดีๆ ทุกอย่างมีสองชิ้น เข้าใจว่าอยู่กันสองคน แต่มันชวนให้รู้สึกเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามัน มาอยู่ด้วยกันยังไงชอบกล ไม่เข้าใจ ทำไมต้องซื้อของคู่ หรือเพราะมันทั้งคู่ขี้เกียจเลือกมากเลยหยิบๆ ไป?
“จะมองแก้วน้ำอีกนานมั้ย เอ้า ของฝาก”
“ขอบใจ”
“พวกนายเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันเลยนะ” ผมพูดไปตามที่คิด ซันสำลักน้ำที่กำลังกินไอค่อกแค่กหน้าแดง ผมใจดีลุกขึ้นไปลูบหลัง
“ไม่ใช่มึงกับเฮียเฟย์”
“จริงเร้อ”
“หุบปากไป ไม่งั้นไม่ต้องแดก”
ก๊าก หนุ่มวิศวะเขินหลุดหยาบกับผมครับทุกท่าน เจอช่องผมจะปล่อยหรือ แซวเข้าไป จนซันมันเริ่มหงุดหงิดดึงของฝากคืนถึงค่อยเลิกแหย่ ผมอารมณ์ดีลัลล้าโทรไปบอกพี่เฟย์ว่าวันนี้กลับดึกเพราะจะอยู่เล่นกับพวกซัน พี่เฟย์อาสามารับ เพราะจะแวะมาดูห้องด้วย
พี่เฟย์มาตอนหกโมง ผมกับซันลงไปรับขึ้นมา โป้ตื่นมาตอนทุ่มหนึ่ง โชว์เสน่ห์ปลายจวักโดยมีซันเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆ ส่วนผมกับพี่ชายนั่งมองภาพทั้งคู่แบบรู้กัน ที่เหลือก็รอเวลา