( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 483261 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สู้ๆนะเมด

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น้องเมดสู้ๆน้าาาา

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
คนเป็นแม่คงห่วงสารพัด
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ก็อดห่วงไม่ได้ นี่แหละแม่ล่ะ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่น่ารักแบบนี้ไปตลอดหรอกน่า
น้องเมดน่ารักจะตาย นอะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ลุ้นกับคุณแม่มากอ่ะ คิดแล้วว่าน่าจะไม่ชอบ น้องเมดต้องพยายามนะสู้ๆ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
รู้สึกดีนะ ที่แม่อาฟมีความคิดไม่ชอบเมด ดูเป็นจริงมากขึ้น
ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่พ่อแม่จะรับทุกอย่างที่ลูกเป็นได้ ยังมีความคาดหวังบางอย่างกับลูก
เรื่องที่ปลอบคนอื่นกับเรื่องที่ต้องเจอเอง มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

ขนาดแฟนเป็นผู้หญิง ยังมีกรณีแม่ผัวลูกสะใภ้
นิยายช่วงหลังแต่ละเรื่อง พ่อแม่รับกันได้ง่ายเกินไปนะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
น้องเดย์


น่ารักฟุดๆ

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :hao5:  เมดสู้ๆ

ออฟไลน์ kedtawan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มันคือเรื่องจริงที่แม่อาฟ ไม่ชอบเมด มันดูปกติ เพราะเค้าไม่เคยเห็นอาฟเป็นแบบนั้น คิดและเห็นว่าลูกตัวเองเป็นแมนมาตลอด แล้วเปิดตัวแฟน เป็นผู้ชายด้วยกัน ก็ต้องมาล่ะ เรื่องแบบนี้ แต่ชอบน้องเดย์ รักกกกน้องเดย์ตอนนี้มากกก ลูกรักอ่ะ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เมดสู้ ๆ นะ
อ่านไปก็น้ำตาคลอตาม

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้คนที่สบายใจสุดคงจะเป็นอาฟ หลับสบายสุดๆ ไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลย 555 ปล่อยให้น้องเดย์กับคุณพ่อออกโรงแทนซะงั้น  ยกใจให้น้องเดย์ไปเลย  :L1:

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนพิเศษที่ 5

ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมาในห้องที่ไม่มีแม้แสงแดดใดส่องเข้ามาถึง ผมมองดูคนที่หลับสนิทอยู่ข้างกายกันแล้วนึกขำที่อาฟหลับได้นานขนาดนี้ หลุดยิ้มออกมากับท่าทางหลับสบายขนาดเผลออ้าปากเล็กๆจนมีความคิดอยากจะเดินไปหยิบเกลือในครัวมาหยอดใส่ปากมันสักหน่อยและรับรองได้ว่าถ้าอยู่ที่คอนโดคงทำไปแล้ว

แต่เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้ออวยให้ทำอะไรแบบนั้น ผมเลยทำได้แค่ก้มลงไปหอมแก้มอีกฝ่ายแบบสุดแรงอย่างที่มันเองก็ชอบทำให้กันทุกเช้า

“ แล้วก็ชอบบอกว่ากูขี้เซา แต่มึงแม่งก็ไม่ต่างกันหรอกสัด ” พูดกับคนที่ไม่ได้สติแบบนั้นก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันไปดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาเจ็ดโมงเช้าด้วยความรู้สึกแบบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่ “ นี่กูตื่นเช้าขนาดนี้เลยเหรอวะ ” สลัดความคิดนั้นของตัวเองออกแบบยิ้มๆ ผมตรงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวออกมาด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแน่นอนว่าไม่ได้เช็คสีนำโชคประจำวันเกิดเหมือนเดิม เพราะจัดมาแค่นี้ “ หวังว่าวันนี้สีมงคลของคนเกิดพุธจะเป็นสีฟ้า ”

ชั้นล่างของบ้านค่อนข้างเงียบสงบในเวลาเจ็ดโมงครึ่ง ผมมองไปรอบๆตัวบ้านในตอนที่แสงสว่างส่องเข้ามาเต็มที่แล้วพบว่า ยามเย็นของเมื่อวานที่เคยชมว่าสวย แต่ตอนนี้มันสวยขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ห้องดูหนังที่เราดูกันเมื่อคืนด้านหลังผ้าม่านที่เคยถูกปิดทึบไว้ตอนนี้ทุกอย่างถูกเปิดออก เผยโฉมกำแพงกระจกที่มองออกไปเห็นสวนดอกไม้สวยรวมทั้งสระน้ำเลี้ยงปลาคราฟว่ายวนไปมาที่สร้างไว้โอบรอบข้างตัวบ้าน

“ คุณเมด ตื่นเร็วจังเลยคะ ” พี่จิ๋วแม่บ้านที่เดินผ่านมาเจอผมเอ่ยทักกัน แล้วตอนที่หันไปยิ้มให้เธออีกคนก็ผายมือไปฝั่งห้องครัวที่เรานั่งกินมื้อเย็นกัน “ เชิญที่ห้องอาหารมั้ยคะ คุณแม่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่พอดีเลยคะ ”

“ ได้ครับ ” ขานรับคำชวนของอีกฝ่าย แม้ในใจอยากจะบอกว่าไม่ครับแต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ ผมเดินตามพี่จิ๋วเข้าไปในห้องอาหารที่ตอนนี้ส่วนครัวเล็กๆที่ผมเห็นเมื่อวาน มีคุณแม่ของอาฟกำลังยืนคนอะไรบางอย่างอยู่ที่ในหม้อตรงหน้าเตา “ ให้ผมช่วยมั้ยครับ ”

“ ตื่นเร็วจังนะ ” แม่หันมามองกันก่อนจะพูดคำนั้นแล้วหันไปดูอาหารให้หม้อต่อ “ จริงๆ ไม่ต้องรีบตื่นมาเอาใจก็ได้ พอรู้อยู่แล้วว่าทำงานกันดึก จะนอนต่อก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ”

“ ผมนอนไม่ค่อยหลับแล้วนะครับ ” ส่งยิ้มไปให้อีกคนที่ก็หันมาเหลือบกันพอดี ผมเอียงหน้ามองโจ๊กแบบไม่ได้พูดอะไรต่อ กลิ่นหอมอ่อนๆของอาหารเช้าในหม้อที่กำลังถูกคนวนไปมา แม่ไม่มีเสียงตอบรับในคำถามแรกให้กันว่าจะให้ช่วยหรือไม่ให้ช่วย ผมเลยทำได้แค่ยืนนิ่งๆอยู่อย่างงั้นแล้วหันซ้ายดูขวาอย่างไม่รู้จะทำอะไร

“ ติ๊กไปเตรียมชามมาให้ฉันทีนะ อีกเดี๋ยวคุณเค้าก็จะคงจะลงมาแล้วละ ”

“ ได้ค่ะคุณ ” พี่แม่บ้านที่ถูกเรียกเดินออกไป คุณแม่ถอนหายใจออกมาก่อนจะเชิดหน้าไปที่หมูต้มแล้วที่ตั้งอยู่ตรงเค้าเตอร์ตรงหน้าผม

“ ช่วยหยิบหมูก้อนมาให้หน่อยได้มั้ย ”

“ ได้ครับ ” ตอบรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะส่งถ้วยหมูก้อนไปให้แม่ที่ก็ตักมันใส่ลงไปก่อนจะยื่นถ้วยเปล่ากลับมาให้ผม

“ กระดูกหมูอ่อน ”

“ นี่ครับ ” ยื่นของที่สั่งให้ผมก็ชวนอีกคนพูด “ เมดชอบกินกระดูกหมูอ่อนแบบนี้มากเลยครับ มันอร่อยมากเลย ”

“ งั้นเหรอ ” สีหน้าเรียบนิ่งในตอนที่พูดคำนั้นยังคงเหมือนเดิม แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังยิ้มเพราะอย่างน้อยมันก็ยังมีการตอบรับที่ดีกลับมา “ ผู้ชายบ้านนี้ก็ชอบกินโจ๊กแบบนี้นะ แต่ต้องกินแค่กระดูกอ่อนแบบนี้เท่านั้น ห้ามมีกระดูกแข็งปนเด็ดขาด ” แม่ยิ้มออกมาตอนที่พูดจบ “ เรื่องมากมากเลยใช่มั้ย ”

“ ก็นะครับ ”

“ ตอบว่าใช่ครับก็ได้นะ แม่เข้าใจอยู่ ”

“ เช้าวันนี้บรรยากาศดีจัง ” เสียงของพ่อที่เดินเข้ามาเอ่ยพูดขึ้น ผมกับแม่หันไปยิ้มให้คนมาใหม่ที่ก็นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ในตอนนั้นเองถ้วยใบกลางสีขาวถูกยื่นมาให้จากพี่ติ๊ก แม่เลือกชิ้นหมูขึ้นมาก่อนจะตักข้าว โรยตักหอม ขิง แล้วก็ผักชีลงไปเพื่อเพิ่มความน่ากิน จานใบเล็กที่ใช้รองถ้วยถูกยื่นมาให้ แม่รองมันไว้กับถ้วยใบที่ถือก่อนจะถูกส่งมาทางผม

“ เอาไปให้พ่อเค้าสิ ”

“ ได้ครับ ” เดินยกถ้วยไปให้ตามคำสั่ง ผมวางมันลงตรงหน้าคนเป็นพ่อที่ก็ยิ้มรับอย่างดี “ กินกาแฟมั้ยครับ ผมชงให้ ”

“ เอาสิ กาแฟดำนะ ใส่น้ำตาล กาแฟ อย่างละช้อน ”

“ แล้ว..” ผมหันไปมองแม่ที่ตอนที่หันมามองกันพอดอี เธอนิ่งไปก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ เรียกแม่ก็ได้ ” ว่าอย่างงั้นก่อนจะหันกลับไปมองของในหม้อต่อ “ เหมือนพ่อนั่นแหละ ใส่ทุกอย่าง อย่างละช้อน ”

“ ได้ครับ ” ขานรับกับอีกคนยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปที่มุมชงกาแฟ ผมหยิบแก้วแล้วเปิดขวดกาแฟดำราคาแพงตักใส่ลงไปในแก้วตามที่สั่ง ตักน้ำตาลในปริมานพอดีกันเป็นอย่างถัดไป ตามด้วยน้ำร้อน แล้วยกแก้วสองใบนั้นไปตั้งไว้บนโต๊ะ ส่วนแม่บ้านอย่างพี่จิ๋วก็หยิบเอานมรินใส่เหยือกใบเล็กออกเดินตามมา

“ แล้วน้องเมดจะกินแบบไหนละ ” เสียงของแม่เอ่ยถามผมที่ก็ยืนนิ่งอยู่อย่างงั้น เพราะไม่รู้ว่าอีกคนถามถึงเครื่องดื่ม หรือว่าโจ๊ก “ แม่หมายถึงโจ๊ก ”

“ กระดูกหมูอ่อนเยอะกว่าหมูก้อนครับ ”

“ แล้วใส่ขิงมั้ย ”

“ ไม่ใส่ครับ ”

“ ผักอย่างอื่นละ ”

“ แค่ต้นหอมนิดหน่อยก็พอครับ ” พูดแบบนั้นก่อนจะเดินไปหยิบถ้วยตัวเองจากมือของแม่ที่ยื่นส่งมาให้กันพอดี  ผมจ้องตาเธอตอนที่เธอหันมามองกันก่อนจะยิ้มกว้างให้ “ น่ากินมากเลยครับ ขอบคุณนะครับแม่ ”

“ แล้วจะกินเครื่องดื่มอะไร ที่นี่มีโกโก้ด้วยนะ หรือว่าจะเป็นนม ”

“ โกโก้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมชงเอง ” เอาถ้วยไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินไปชงโกโก้แล้วเดินมานั่งลงที่โต๊ะพร้อมกับทุกคน เวลาเช้าแบบนี้ ทีวีที่เปิดมีแต่ข่าวบ้านเมืองที่ผมก็ขอสารภาพว่าไม่ได้นั่งดูมันมานานแล้ว เพิ่งสังเกตว่าแม้วันนี้จะเป็นจันทร์แต่เหมือนพ่อก็ไม่ได้ใส่ชุดทำงานออกไปไหน ใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดาเท่านั้น

“ เมื่อวานยังคุยกันไม่ถึงไหนเลย น้องเมดบอกว่าเรียนบัญชี งั้นก็ใกล้จบแล้วใช่มั้ย ”

“ ครับ ” ผมพยักหน้ารับ

“ แล้วมีความคิดจะทำงานที่ไหนบ้างหรือยัง ” คำถามที่พ่อเอ่ยถามชวนให้มือที่กำลังคนโจ๊กไปมาของผมชะงัก ในใจที่คิดจะตอบว่า ‘ คงทำงานที่ผับต่อ ’ แต่ก็กลัวท่านจะมองว่าผมเกาะลูกเค้ากิน

“ ตอบได้ตามใจเลย ” แม่พูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของผม

“ คงทำงานที่ผับต่อครับ เพราะว่าไม่มีใครทำบัญชีแล้วก็ฝ่ายจัดซื้อให้อาฟ ”

“ ก็ดีนะ มีคนคอยคุมอยู่ เพราะลำพังพี่อาฟก็คงถนัดแต่เรื่องใช้เงิน ” แม่พูดขึ้นยิ้มๆ ก่อนจะหันมามองผม “ แล้วน้องเมดคุณพ่อทำอาชีพอะไรเหรอ แม่ถามได้มั้ย ”

“ ได้ครับ ” ผมตอบรับ “ พ่อผมเป็นคุณครูน่ะครับ ตอนนี้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ก็ใกล้จะเกษียณแล้วครับน่าจะปีหน้านี้ ”

“ อย่างงั้นเหรอ ” เธอพยักหน้ารับ “ แล้วคุณแม่ละ ”

“ แม่ผมเสียแล้วครับ ” สัมผัสได้ถึงความเงียบในตอนที่ตอบคำถามนั้น แต่ถึงอย่างงั้นผมก็แค่ยิ้มแบบไม่ได้เสียใจอะไร “ แต่นานมากแล้วครับ ตั้งแต่ที่ผมยังเด็กมาก อีกอย่างพ่อผมก็แต่งงานใหม่นานแล้วด้วย ”

“ ไว้นัดมาทานข้าวด้วยกันสิ ทั้งสองครอบครัวเลย ” พ่อพูดขึ้นผมก็พยักหน้ารับให้กับอีกคนที่ก็ยิ้มอย่างใจดี “ แล้วอยู่กับอาฟเป็นยังไงบ้าง มันดูแลเราดีมั้ย ”

“ ดีมากเลยครับ ” ผมตอบแม่ก็ยิ้มก่อนจะเหล่มองกัน

“ ไม่ต้องโกหกก็ได้นะ ตอบได้ตามสบายเลย ”

“ ไม่ได้โกหกครับ ” ส่ายหน้าไปมาพลางหัวเราะ “ แต่อาฟก็ตามใจผมจริงๆ ถึงจะปากไม่ดีบ้าง กวนบ้าง แต่ก็เป็นใจดี แล้วก็ตามใจผมมากๆเลยครับ ดูแลกันดีมากๆด้วย ”

“ กวนที่ว่า ในใจต้องมีเสริมคำว่าตีนไปด้วยแน่ๆเลย ”

“ คุณก็ ” แม่ปรามพ่อที่ก็หัวเราะออกมาในตอนที่อีกคนกินกาแฟที่ผมชงให้จนหมดแก้ว แต่ก่อนจะวางลงแก้วนั้นลงมันก็ถูกยกขึ้นตรงหน้าพร้อมคำชม “ อร่อยมากเลยนะ กาแฟแก้วแรกที่ลูกสะใภ้คนโตชงให้ ”

“ ขอบคุณครับ ” พูดเสียงเบาๆกับอีกคนที่ก็วางแก้วลงก่อนจะลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะอาหาร เหลือไว้แค่แม่แล้วก็ผมสองคนที่ก็ยังคงนั่งกินกาแฟแล้วก็โกโก้กันอยู่สองคนแบบเงียบๆ แล้วในตอนนั้นแม่จะเอ่ยถามขึ้น

“ แล้ววันนี้จะกลับกันกี่โมงละ ”

“ ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าว่าจะเป็นช่วงเย็นๆ เราคงกินมื้อเย็นที่นี่ก่อนกลับ ”

“ แทนตัวเองว่าเมดสิ ” แม่หันมาบอกผม “ พูดว่า ผม มันดูห่างเหินนะ พูดว่า เมด น่ารักกว่า ”

“ ครับ ” พยักหน้ารับอีกคนที่ก็ดึงทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปาก “ เอ่อ.. คือจะเป็นอะไรมั้ยครับ ถ้าเมดจะขอให้แม่พาเมดไปหาเจ้าหมูตุ๋นหน่อยน่ะครับ ”

“ หมูตุ๋น ” เธอทวนคำแล้วขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วยิ้มกว้างขึ้นมาทันที “ อ้า เจ้าหมูตุ๋น ลืมไปเลยว่ามันเป็นแมวมาจากผับ น้องเมดคงช่วยมันไว้สินะ ”

“ ครับ ”

“ พี่เดย์เล่าให้แม่ฟังว่ามันเป็นแมวท้องแก่ที่มาหลบฝนอยู่ที่ตู้ยามของผับ แล้วตอนที่ยามกำลังไล่มันเพราะกลัวอาฟดุ ก็ได้พนักงานบัญชีของคนเก่งของผับช่วยมันไว้  เค้าขอให้อาฟเลี้ยงมันไว้จนกว่าจะคลอด ” เธอหันมามองผม “ แล้วคนคนนั้นก็คือน้องเมดสินะ ”

“ ครับ ”

“ ตอนนั้นแม่ยังคิดเลย ว่าใครกันนะ ทำไมจิตใจดีจัง แล้วก็แอบคิดด้วยว่าต้องเป็นคนพิเศษแน่ๆ ถึงทำให้พี่อาฟเค้ายอมฟังได้ เพราะรายนั้นไม่เคยฟังใครเลย ”

“ เหรอครับ ”

“ แต่วันนี้แม่ไม่สงสัยแล้วละ ก็คนสำคัญของเค้า พูดอะไรพี่อาฟก็คงต้องฟังอยู่แล้ว ” แม่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงในตอนที่พูดจบ “ มาสิ เดี๋ยวจะพาไปหาเจ้าหมูตุ๋น ”

“ ครับ ” ลุกขึ้นเดินตามอีกคนไป ตรงทางเดินเราผ่านไปห้องดูหนังที่เคยดูด้วยกันเมื่อคืน ผ่านห้องคาราโอเกะที่เมื่อคืนอาฟบอกกว่าเป็นห้องโปรดของน้องเดย์ที่ชอบใช้เล่นเกมส์เพราะเก็บเสียง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ห้องด้านในสุดที่ติดกับสวนด้านหลังของบ้าน ผมหยุดยืนมองมันอยู่นานกับความสวยและความร่มรื่น ที่ตกแต่งตัวต้นไม้ใหญ่ สวนดอกไม้ และน้ำตกเทียมที่ดูเหมือนจริงเอามากๆ เก้าอี้ด้านหลังอยู่ในศาลาที่มีไม้เลื้อนห้อยระยะลงมาประดับ สวยจนอยากต้องหันไปบอกกับแม่ที่ก็ยืนอยู่ข้างกัน “ สวนหลังบ้านสวยมากเลยครับแม่ ”

“ น้องเมดชอบบ้านสไตส์นี้เหมือนกันเหรอ ”

“ มากๆเลยครับ ” พยักหน้ารับบอกเธออีกคนก็ยิ้ม

“ แม่ก็ชอบ ศาลาตรงนั้นเป็นมุมโปรดเลยนะ ไว้ช่วยเย็นมานั่งกินน้ำชาด้วยกัน ”

“ ได้เลยครับ ” ตอบรับแบบนั้น ก่อนประตูห้องเลี้ยงแมวของแม่จะถูกเปิดออก ภาพตรงหน้าผมคือห้องกว้างติดกระจกที่มองเห็นวิวสวนด้านนอกเมื่อครู่ บรรดาคอนโดแมวหลากหลายแบบถูกจัดแต่งสวยงามเข้ากับตัวห้องนี้ที่ไม่ได้ต่างอะไรกับห้องดูหนัง แต่ที่แตกต่างออกไปก็คงสีสันของมันที่ใช้โทนอบอุ่นและดูหวานสบายตากว่า เพราะว่ามันคือห้องประจำของแม่ “ หมูตุ๋น ”

เอ่ยเรียกเจ้าแม่แมวสีเทาแซมดำที่เคยเลี้ยง เจ้าตัวขนฟูที่ได้ยินชื่อตัวเองเงยหน้าขึ้นจากที่นอนอย่างรู้ตัวก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนแล้วกระโดดลงมาหากันแทบจะทันที ผมที่ที่ย่อตัวลงรอรับมันในตอนนั้นแอบคิดว่า เจ้าตัวกลมที่เคยกลม กลมยิ่งกว่าเดิมเสียอีกในตอนนี้

“ วิ่งมาตัวกลมเชียวนะหมูตุ๋น ” แม่เอ่ยพูดเสียงเบาๆ ในตอนที่เห็นเจ้าแมววิ่งเข้ามาคลอเคลีย “ มันเป็นแมวที่ขี้อ้อนมากเลยนะ ช่างฝากตัวมากเลย ”

“ ตอนที่เมดเจอมันครั้งแรกมันก็เป็นแบบนั้นครับ ” หันไปเล่าแม่ที่เดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ในห้อง ดูท่าทางว่าตรงนั้นจะเป็นที่ประจำของเธอ เพราะเพียงแค่นั่งลงไปเจ้าแมวเปอร์เซียขนยาวสีขาวล้วนก็นั่งแหมะลงบนตักทันทีอย่างรู้งานว่านี่คือที่ของมัน “ แมวของคุณแม่สวยจังเลยครับ ”

“ ตัวนี้ชื่อชาร์ลอตต์นะ เป็นตัวแรกที่ได้มาเลย ” เธอว่าก่อนจะชี้ไปที่แมวตัวสวยที่กำลังนั่งนิ่งอย่างสง่างามพลางดูปลาว่ายไปมาอยู่บนคอนโดแมว “ ตัวนั้นเป็นแมววิเชียรมาศ หายากมาก แต่เพื่อนแม่เค้าเลี้ยงไว้เลยแบ่งลูกมาให้ มันชื่อโซเฟีย ”

“ ส่วนอีกสามตัวนั้นเป็นลูกของเจ้าหมูตุ๋น ” หันไปยิ้มให้เธอที่ก็ยิ้มตามพลางพยักหน้ารับ “ มันซนมั้ยครับแม่ ”

“ ตามประสาลูกแมวนั่นแหละ มีคนขอด้วยนะรู้มั้ย แต่แม่ไม่ให้หรอก ” เธอว่าก่อนจะมองไปยังเจ้าหมูตุ๋น “ สงสารเจ้าหมูตุ๋นน่ะ มันคงเสียใจถ้ามีใครเอาลูกมันไป แต่พ่อเค้าไม่เห็นด้วยนะ พ่อเค้าบอกว่า แม่ก็แค่คิดแทนเจ้าหมูตุ๋นมันก็เท่านั้นแหละ คิดแค่ว่าถ้าเป็นลูกตัวเองก็คงไม่อยากจะให้ใครเอาไปเหมือนกัน ”

“ แต่เมดก็ไม่อยากจะให้มันไปอยู่ที่อื่นนะแม่ ” ผมว่าก่อนจะก้มลงมองแมวตัวอ้วนที่ก็หลับตาพริ้มในตอนที่ผมเกาคอมัน “ ตอนนั้นเด็กที่ผับก็เข้ามาขอเหมือนกัน แต่เมดกลัวว่าเค้าจะเลี้ยงมันได้ไม่ดี บางคนเห็นมันน่ารักเลยจะเอาไปให้แฟน แต่พอเลิกกับแฟนก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแมวมันจะไปอยู่ไหน เมดเลยไม่ให้ไป ”

“ นั่นนะสินะ ”

“ แต่ว่าจะเลี้ยงไว้ที่ผับก็ไม่ได้ ตอนนั้นน้องเดย์ก็เลยมาพูดกับแม่ รู้มั้ยครับว่าตอนที่แม่ตอบรับว่าจะรับเลี้ยงพวกมันทั้งหมด เมดดีใจมากเลย เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่า มันจะได้ไปอยู่กับคนที่รักแมวจริงๆ แล้วก็จะไม่ทิ้งพวกมันไปไหน ” หันไปยิ้มให้อีกคนที่ก็ยิ้มมองกันโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา ความเงียบเริ่มขยายวงกว้างออกไปรอบๆห้องในตอนนั้น รอยยิ้มผมก็ค่อยๆหุบลง เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะพูดอะไรบางอย่างผิดไป “ เอ่อ..”

“ แค่กำลังคิดว่า ทำไมถึงเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้เท่านั้นเอง น้องเมดไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก ”

“ ตกใจหมดเลยครับ ” ยิ้มบอกอีกคนที่ก็ส่งยิ้มกลับมาพร้อมกับใบหน้าสวยที่ส่ายหน้าไปมาราวกับจะบอกกันว่า ‘ อย่าคิดมากถึงขนาดนั้น ’

ผมมองไปรอบๆห้องในตอนที่เราเริ่มเงียบกันไป ก่อนจะมาสะดุดตากับภาพที่แขวนอยู่บนกำแพงแถวทีวีจนทำให้ต้องลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินไปดูมันใกล้ๆ ภาพของอาฟกับน้องเดย์ที่ถ่ายคู่กันชวนให้ผมยิ้มเพราะมันเป็นสองภาพที่เหมือนกัน ทั้งองค์ประกอบและเสื้อผ้า แต่ต่างกันก็ต้องที่ภาพหนึ่งเป็นภาพตอนเด็ก ส่วนอีกภาพหนึ่งคือภาพในตอนที่ทั้งคู่โตแล้ว

“ ภาพแบบนี้น่ารักจังเลยครับ ” ผมชี้ไปที่ภาพนั้นก่อนจะหันไปมองแม่ที่ก็พยักหน้ารับ

“ แต่กว่าจะถ่ายได้นะ คนเป็นพี่หงุดหงิดน่าดูเลยละตอนนั้น พี่อาฟเอาแต่พูดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จสักที เสร็จหรือยัง เร็วๆได้มั้ย ร้อนจะตายอยู่แล้ว เป็นเด็กที่จะบ่นสุดๆ ถ้าเรื่องของคนอื่นทำให้ตัวเองต้องยุ่งยาก ”

“ งั้นเหรอครับ ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปดูภาพอื่นๆ ที่แขวนเอาไว้ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพของลูกชายเจ้าของบ้านในวัยเด็กทั้งนั้นที่ก็บอกเลยว่าหน้าตาแต่ละคนกลัวตีนเอามากๆ จนผมต้องเผลอยกมือถือถ่ายไว้ โดยเฉพาะรูปใส่สูทนั่งหน้านิ่งราวกับหาเรื่องช่างกล้อง เดาได้เลยว่าหลังถ่ายเสร็จมันต้องชักหางตาใส่ตากล้องที่ถ่ายภาพมันนานเกินไปอย่างแน่นอน “ ได้พื้นหลังใหม่แล้วกู ” พูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะกดตั้งค่าหน้าจอด้วยภาพนั้น ผมหลุดหัวเราะออกมาคนเดียว

“ ถ้าเห็นว่าเอาไปตั้งไว้บนหน้าจอแบบนั้น ระวังโดนเจ้าของภาพเห็นแล้ววีนเอานะ ” แม่พูดแซวผมที่ก็หันไปยิ้มให้เธอ

“ เมดว่าบ้านต้องแตกแน่นอนเลยแม่ ” แต่ถึงจะรู้ดีว่าเป็นอย่างงั้นผมก็ไม่คิดจะเอามันออกจากหน้าจอแต่อย่างใด

ผมยืนมองดูภาพหลายภาพเหล่านั้น ก่อนจะมาหยุดมองภาพครอบครัว มันให้ความรู้สึกว่าครอบครัวนี้เมื่อก่อนก็คงสนิทกันมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนพอทั้งสองคนย้ายเข้าไปเรียนมหาลัยก็เลยทำให้ระยะห่างของครอบครัวเพิ่มมากกว่า ไม่นับว่ายิ่งมีงานที่ต้องทำต้องดูแลอีก แบบนั้นครอบครัวที่เหมือนจะไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ เลยไม่ได้ทำแบบนั้นอีก ผมว่าพ่อแม่คงจะรู้สึกเหงาน่าดู “ แม่ครับ ”

“ ครับ ”

“ ตอนเด็กๆ อาฟเป็นยังไงเหรอ ช่วยเล่าให้เมดฟังหน่อยได้มั้ย ” ผมเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวที่ว่าง ในตอนนั้นเจ้าหมูตุ๋นเองก็รู้หน้าที่ มันเดินมานั่งอยู่บนตักผมแล้วก็นอนนิ่งๆอยู่แบบนั้นราวกับจะแปลงร่างเป็นหมอนไว้ให้ผมวางมือ

“ พี่อาฟตอนเด็กๆเหรอ ” คนเป็นแม่ทำท่าคิดด้วยรอยยิ้ม ราวกับในตอนนั้นสมองของเธอกำลังคิดถึงความทรงจำที่น่ารักที่สุดของลูกชายคนโตที่ถูกถามถึง “ พี่อาฟเป็นคนเลี้ยงง่ายมากๆมาตั้งแต่เกิดแล้วละ ไม่ใช่เด็กร้องไห้งอแง ไม่ติดแม่ ไม่ติดพี่เลี้ยง และเป็นเด็กที่ไม่ชอบแสดงออก แต่ก็ไม่ใช่เด็กขี้อาย เค้าแค่ชอบทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว เป็นเด็กที่ไม่เข้าสังคมสุดๆ ไม่ชอบไปที่ไหนที่มีคนเยอะๆ แล้วพอเวลาเราไปงานพี่อาฟจะเอาแต่กอดแม่ไม่ยอมลงไปไหนเลย ซุกหน้าเข้ากับไหล่ไม่ทักทายกับใครทั้งนั้น ”

“ คล้ายๆกับตอนนี้เลยครับ ”

“ ใช่มั้ยละ เค้าเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กๆแล้วละ ต่างกับพี่เดย์สุดๆ รายนั้นชอบมาก แม่จูงมือเค้าไปในงาน เค้าจะไหว้ทุกคนเลยนะ แนะนำตัวเองเสร็จสรรพด้วยไม่ต้องบอกเลยสักนิด ” แม่หลุดหัวเราะออกมาในตอนที่เล่าผม “ แล้วก็ตอนเด็กๆพี่อาฟเค้าเป็นพวกหวงเนื้อหวงตัวมากเลยรู้มั้ย เค้าไม่ชอบให้ใครมาหอมเค้า เวลาพ่อจะหอมเค้า เค้าจะเอามือดันหน้าพ่อไว้ไม่ให้หอม แล้วเวลาถามว่าแม่สวยมั้ย เค้าก็จะตอบแบบชัดถ้อยชัดคำเลยนะว่า ไม่สวย ”

“ ฮ่าๆ ” ผมหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับแม่ที่ก็ทำสีหน้าเลียนแบบลูกชายตัวเองตอนเด็กด้วยการทำหน้าจริงจังและใช้สายตาขึงขัง

“ แล้วตอนนั้นแม่จะชอบพูดแกล้งเค้าว่า ‘ พี่อาฟ นี่แม่เองลูก แม่ของพี่อาฟที่ควรสวยที่สุดในโลกของพี่อาฟไงครับ ’ แต่พอพูดแบบนั้นนะ เค้าก็จะย้ำเหมือนทุกทีก็คือ ‘ ก็ไม่สวยอะแม่ ’ ”

“ ทำไมมันถึงเป็นเด็กที่ใจร้ายขนาดนี้ ” ผมหลุดว่ามัน แม่ก็หัวเราะก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ใจร้ายมากเลย ใจร้ายขนาดที่ว่าตอนที่พี่เดย์ชมว่าแม่สวย เค้าชอบพูดขัดน้องว่า เดย์โกหกทำไม เด็กดีเค้าไม่พูดโกหกกันหรอกนะ แล้วพอพูดแบบนั้นพี่เดย์เค้าจะร้องไห้ออกมาทุกที เพราะเค้ารู้สึกว่าพี่ชายเค้าว่าเค้า ว่าเค้าเป็นเด็กไม่ดี ”

“ น้องเดย์น่ารัก ” พูดชมคนน้องแม่ก็พยักหน้ารับ “ เมดว่าตอนเด็กๆน้องเดย์กับอาฟคงตัวติดกันมากเลยใช่มั้ยครับ ”

“ จะพูดว่าติดกันก็ไม่ถูกหรอก น่าจะพูดว่า พี่เดย์น่ะติดพี่อาฟ แต่พี่อาฟน่ะไม่ติดน้องเลย พี่เดย์เค้าเป็นเด็กขี้อ้อนเค้าจะอ้อนพี่เค้าตลอด เค้าชวนเล่น เค้าจะกอด จะวอแว แต่พี่อาฟเป็นพวกชอบเล่นคนเดียว ไม่ชอบให้ใครมาวอแว เพราะงั้นภาพตอนเด็กๆของเจ้าสองคนนี้จะเป็นภาพที่พี่อาฟทำหน้าเบื่อแบบสุดๆ แต่พี่เดย์เค้ายิ้มร่าแล้วกอดพี่ชายเค้าแน่นตลอดเลย เหมือนอย่างในรูปนั่นไง ” แม่ชี้ไปที่กรอบรูปในตอนที่พูดประโยคสุดท้าย

ภาพตรงฝาผนังเป็นภาพที่อาฟกับน้องเดย์ในตอนเด็กที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำตาล อาฟถือหุ่นยนต์ในมือมันทำหน้านิ่งมองกล้องส่วนน้องเดย์ก็เอียงตัวกอดพี่ชายตัวเองไว้แน่น หลับตาพริ้มอย่างให้ความรู้สึกแบบที่บอกได้เลยว่า ‘ น้องเดย์รักพี่อาฟหมดหัวใจ ’


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
“ แล้วน้องเมดละมีพี่น้องมั้ย ”

“ ไม่มีพี่น้องแท้ๆหรอกครับ แต่มีน้องที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงที่อายุห่างกับเมดประมาน 4 ปีคนนึง ” แม่พยักหน้ารับในตอนที่ผมหันไปเล่าเธอ ในแววตาที่เหมือนจะเศร้าสร้อยลงไปนั้นตั้งคำถาม ผมรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ก็เลยบอกปัดความกังวลพวกนั้นออกไป “ น้องชื่อวิวครับ เป็นเด็กที่น่ารักมากๆ เรารักกันเหมือนพี่น้องแท้ๆเลยครับ เพราะโตมาด้วย ”

“ แล้วแม่เลี้ยงเป็นคนยังไง ใจดีมั้ย ”

“ ใจดีมากเลยครับ ใจดีเหมือนแม่จริงๆของเมดเลยนะแม่ เป็นคนที่ทั้งใจดี เข้าใจ แล้วก็อบอุ่นมากๆ ”

“ งั้นก็ดีแล้วละ ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาในแววตานั้นของคนเป็นแม่เหมือนมันคลายความกังวลออกไป และนั่นก็เป็นท่าทางที่ทำให้ผมมีความสุข สุขที่ได้รับความเป็นห่วงเป็นใยจากหัวใจของอีกคนผ่านสายตาที่ไม่สามารถแกล้งทำเป็นรู้สึกได้ “ แล้วน้องเมดเป็นคนชอบดูหนังมั้ย ”

“ ชอบมากครับ แต่ว่าตั้งแต่คบกับอาฟมาก็ไม่ค่อยได้ดูเลย เพราะต้องทำงานที่ผับควบคู่ด้วย หาเวลาว่างไปดูยากมาก ”

“ แล้วน้องเมดชอบดูหนังแนวไหนละ ที่นี่มีหนังเยอะมากเลยนะ เพราะพ่อกับแม่ชอบดูหนัง ” แม่พูดแบบนั้นก่อนจะเอื้อมหยิบรีโมตที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมากดเปิดทีวี

“ ผมชอบดูหนังญี่ปุ่นครับ ” บอกอีกคนไปแบบนั้น แม่ก็หยุดชะงักแล้วหันมามองกันทันทีด้วยสายตาดีใจจนผมได้แต่งง

“ เหมือนกันเลย ” เธอยิ้ม “ มีรสนิยมนะเราน่ะ ”

“ ฮ่าๆ งั้นเหรอครับ ”

“ ที่บ้านนี้ไม่มีใครชอบดูหนังญี่ปุ่นเลยสักคน มีแม่ชอบดูคนเดียว แล้วทุกครั้งที่ดูพ่อเค้าจะเบื่อมากๆ เราก็เลยต้องสร้างห้องดูหนังสองห้องไง แยกกันดูไปเลย แนวใครแนวมัน ”

“ แต่หนังญี่ปุ่นมันเป็นสไตส์ที่ต้องตีความ บางเรื่องไม่บอกจุดจบแบบตรงๆ แต่เหมือนให้คิดเอง ไม่ว่าจะในหนังสือ หรือว่าในหนัง ก็เป็นแบบเดียวกันหมด หลายๆคนก็เลยไม่ชอบ แต่เมดว่าเสน่ห์ของมันก็อยู่ตรงนั้น อยู่ตรงที่เราจะได้คิดเองว่าเราจะรู้สึกยังไงกับมัน และได้ข้อคิดจากมัน อย่างอิสระ ”

“ ใช่เลย อย่างงั้นละ ” เธอพยักหน้ารับคำพูดของผม พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปในปอดก่อนจะผ่อนออกมาด้วยแววตามีความสุข “ นานๆครั้งจะมีคนเข้าใจในสิ่งที่แม่ชอบ รู้สึกดีจังเลย ”

“ แล้วแม่ชอบดูหนังเรื่องอะไรมากที่สุดครับ ”

“ จริงๆก็ชอบหลายเรื่องนะ ทั้งซีรี่ส์แล้วก็ตัวหนัง แต่ถ้ายังชอบมากก็คงเป็นเรื่อง ตับอ่อนของเธอฉันขอเถอะนะ กินใจมากเลย แต่เรื่อง พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน ก็ชอบเหมือนกัน เลือกยากมากเลย ”

“ ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ เรื่อตับอ่อน ผมซื้อหนังสือมาแต่ยังอ่านไม่จบเลยด้วย ”

“ แม่อยากจะได้หนังสือมาก แต่พี่เดย์บอกว่า สินค้ามันหมดไปแล้ว ” เธอหันมาบอกผมด้วยความตื่นเต้นในตอนที่รู้ว่าผมมีหนังสือ

“ งั้นแม่เอาของเมดไปอ่านมั้ยครับ ”

“ ได้เหรอ ” เธอถามย้ำด้วยแววตาที่ดูดีใจ ผมก็พยักหน้ารับ “ ให้แม่ยืมจริงๆนะ ”

“ ได้แน่นอนสิครับ แต่ว่ามันอยู่ที่บ้านเมด แม่รอก่อนได้มั้ย อีกสองสามวันเมดจะพาอาฟไปหาพ่อพอดี แล้วเมดจะเอามาให้นะ”

“ จะพาพี่อาฟไปแนะนำตัวกับที่บ้านเราเหรอ ”

“ ครับ ”

“ งั้นฝากบอกพ่อว่า จัดการลูกเขยได้เลยนะ เอาให้กลัวไปเลย ” หัวเราะออกมาตอนที่แม่เอียงตัวเข้ามากระซิบบอกกัน ในตอนนั้นผมก็อดแซวอีกคนไม่ได้

“ ทำไมแม่ใจร้าย ”

“ ก็อยากให้เจ้าลูกชายคนโตมีใครสักคนที่เจ้าตัวกลัวบ้างไง เพราะพี่อาฟน่ะนะ ไม่กลัวใครเลย แล้วพอคิดว่า คนที่ชอบทำหน้านิ่งๆไม่สนใจอะไร มากลัวพ่อตาตัวเอง มันก็น่าจะขำดีออก ” แม่ทำท่านึกด้วยความรู้สึกสนุกก่อนจะหันมามองผม “ แล้วพ่อน้องเมดเป็นคนยังไง ใจดีมั้ย ”

“ ก็ใจดีนะแม่ ” ผมบอก “ ก็คงคล้ายๆพ่อมั้งครับ ”

“ เป็นคนมีเหตุผลงั้นเหรอ ”

“ ประมานนั้นครับ ” พยักหน้ารับอีกคน แม่ก็ยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปมองทีวีแล้วหันมาบอกกัน

“ มาดูหนังกันมั้ย เรื่องตับอ่อนของเธอไง ”

“ แต่ว่าแม่ดูแล้วไม่ใช่เหรอ ”

“ ดูอีกรอบจะเป็นอะไรไปละ หนังที่ชอบต่อให้ดูอีกสิบรอบ ก็ยังเป็นหนังที่อยากดูอยู่ดี ” อีกคนบอกก่อนจะกดรีโมตหาหนังเรื่องนั้นทันทีแต่ก็ชะงักไปในตอนที่เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ “ แต่จะว่าไปนะ แม่ยังไม่คิดเมนูอาหารเที่ยงเลย น้องเมดอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย ”

“ เมดอยากกินอาหารฝีมือแม่ครับ ” ผมพูดเชิงอ้อน “ เมื่อวานตอนเย็น เมดได้กินลอดช่องน้ำกระทิของแม่มันอร่อยมากๆเมดอยากกินอีก แต่มันหมดแล้ว ”

“ ช่างอ้อนเหมือนกันนะเรา ” เธอพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน “ งั้นเราไปหาซื้อของสดกันที่ตลาดก่อน แล้วกลับมาทำมื้อเที่ยงกันดีกว่า ส่วนหนังเราค่อยมาดูกันหลังมื้อเที่ยงดีมั้ย ”

“ งั้นเราแวะซื้อขนมมานั่งกินไปดูไปด้วยดีมั้ยแม่ ”

“ เป็นความคิดดีที่มากเลย ” เธอว่าแบบนั้นก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงินตรงชั้นวาง ผมเองก็ลุกเดินตามออกไปนอกห้อง “ แต่น้องเมดขับรถไปนะ ”

“ ผมเหรอครับ ” ทวนคำพูดนั้นกับอีกคนด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้แม่ “ แม่ คือว่านะครับ เมดขับรถไม่เก่งขับไม่เก่งแบบ ไม่เก่งเลยนะครับแม่ ล่าสุดคือ ขับเอียงไปซ้ายทีขวาทีตลอดเลย จนต้องจอดให้น้องชายเข้าไปอ้วกในปั้ม ”

“ นั่นก็เพราะว่าเกร็งเกินไปต่างหาก ” เธอว่าก่อนจะก่อนโบกมือปัดๆแบบไม่สนใจและไม่มีความกลัวอะไรทั้งนั้น

“ เมดว่า เราไปเรียกน้องเดย์ ไม่ก็อาฟให้ลุกขึ้นมาขับรถให้เรามั้ยครับ ”

“ ไม่ต้องหรอก สองคนนั้นคงจะตื่นหลังสิบเอ็ดโมงไม่ก็เที่ยงนั่นแหละ ” แม่ยังคงย้ำแบบนั้นก่อนจะพาผมเดินออกมาที่ลานจอดรถแบบที่ไม่ได้ฟัง หรือใส่ใจในสิ่งที่ผมพูดเลย “ เอาคันไหนไปดีละ ”

“ แม่คือว่า เมดไม่กล้าขับนะแม่ รถมันแพง ”

“ งั้นเหรอ ” เธอหันมาพูดก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางที่กำลังครุ่นคิด “ งั้นไปคันนั้นแล้วกัน ” แม่ชี้ไปที่รถญี่ปุ่นคันเล็กที่เหมือนจะเป็นคันที่ถูกที่สุดแล้วในบ้านนี้ “ คันนั้นเป็นรถจ่ายตลาด เราไปคันนั้นก็ได้ ชนได้เลยไม่มีปัญหา ค่อยเรียกประกัน ”

‘ สุดยอดเลยว่ะ คนบ้านนี้ ’ ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้แม่ ในตอนนั้นเธอก็ดันหลังผมให้เดินไป

“ ไปกัน ไปกัน ช้าเสียเวลาจะได้กลับมาดูหนังอีก ”

“ แม่ไม่กลัวเหรอ ”

“ แม่ไม่กลัว ” เธอบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ กลัวอะไร ตอนพี่อาฟหัดขับรถครั้งแรก แม่ก็นั่งไปด้วยนะ แล้วมันก็ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าตอนนั้นแล้ว เพราะเล่นเหยียบยังกับขับรถของเล่นเลย หัวใจแทบวาย ” พูดย้ำกันแบบนั้นก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเอามาให้ผม “ นี่ครับ ไปเลยลูก ขับไม่เป็นก็ต้องฝึกฝนเยอะๆ จะได้เก่งๆไง มัวแต่กลัว มัวแต่คิดว่าขับไม่ได้ มันก็จะขับไม่ได้นะ ”

“ ไปก็ไปครับ ” พูดออกมาเสียงเบาๆ ก่อนจะกดล็อคประตูรถแล้วเข้าไปนั่งด้านใน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะสตาร์ทรถแล้วเดินเครื่องไปข้างหน้าช้าๆ พร้อมกับคนข้างๆที่ก็ให้กำลังใจกันสุดๆ

“ ตลาดอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ ไม่อันตรายหรอกเชื่อแม่ สูดหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองไว้ว่าเราทำได้ แล้วเราก็จะทำได้ เดี๋ยวแม่ช่วยดูซ้ายขวา ” ยังคงย้ำกันอย่างมั่นใจ ส่วนผมก็ได้แต่ขับรถออกไปพร้อมกับท่องบทสวดมนต์ในใจไปตลอดทาง ขอพรพระด้วยบุญที่เหมือนจะสั่งสมมาทั้งชีวิตว่า ‘ ขอให้ลูกเดินทางไปกลับอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ ’ 

“ แถวนี้มีร้านทาร์ตอร่อยๆด้วยนะ เราแวะซื้อกันขากลับดีกว่านะ ”

“ ได้เลยครับ ” พยักหน้ารับกับคนข้างๆที่ก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุขใจ โชคดีอีกอย่างคือบนถนนวันนี้ไม่ค่อยมีรถสัญจรเท่าไหร่ ผมกดไฟเลี้ยวเข้าไปในทางเข้าตลาดที่ห่างจากบ้านไม่ไกลมากเท่าไหร่โดยประมานคิดว่าก็น่าจะแค่ 7 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

“ เลี้ยวเข้าไปจอดตรงนี้เลย ใกล้ๆปากทางเข้า ”

“ โอเคครับ ” จอดรถลงเรียบร้อยตามคำสั่งแม้จะเอียงอยู่นิดหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในช่องทางจอด ผมดึงเบรคมือขึ้นแล้วตอนที่ถอนหายใจโล่งออกมาแม่ก็หันมาชม

“ เก่งมาก เห็นมั้ยว่าขับได้ ” เธอพูดเสริมความมั่นใจให้ผมก่อนจะเดินนำเข้าไปในตลาดด้านในที่ก็แตกต่างจากตลาดทั่วไปที่เคยเห็นอยู่มาก เพราะมันเป็นตลาดที่ดูสบายตาแถมยังสะอาดเอามากๆ ของทุกอย่างถูกจัดเป็นล็อคสินค้าดูน่าซื้อหา แยกโซนผลไม้ ผัก เนื้อ และอาหารปรุงสุกอย่างชัดเจน และที่สำคัญ มันคือตลาดติดแอร์

‘ สุดจริงแถวนี้ ไฮโซยันตลาด ’ คิดแบบนั้นในใจก่อนจะหันไปบอกคนข้างๆ “ ตลาดที่นี่สวยจังเลยแม่ สะอาดมากเลย ”

“ ใช่มั้ยละ ” แม่พยักหน้ารับ ก่อนจะมองไปรอบๆ “ แต่กินอะไรกันดีละมื้อเที่ยงนี้ กุ้งผัดซอสมะขามมั้ย เป็นอีกเมนูโปรดของพี่อาฟเลยนะ ”

“ งั้นก็ได้ครับ เมดอยากรู้ว่าอาฟชอบกินอะไร ” หันไปบอกแบบนั้นแม่ก็ตรงไปที่ล็อคขายอาหารทะเลทันที

“ แล้วปกติ เวลากินข้าวกัน พี่อาฟเค้าไม่บอกเหรอว่าอยากกินอะไรไม่อยากกินอะไร ”

“ ไม่เคยเลยครับ อาฟชอบพูดว่า กินอะไรก็ได้ เป็นคนที่กินง่ายที่สุดในชีวิตของเมดแล้วแม่ ตั้งแต่คบกันมานานๆครั้งถึงจะพูดออกมาสักครั้งว่าอยากจะกินอะไร ”

“ รักกันน่าดูเลยนะ ” เธอหันมาแซวผมที่ก็ยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร “ รายนั้นไม่เคยตามใจใครรู้มั้ย เป็นคนที่ทำตามใจตัวเองสุดๆ แต่เหมือนว่า พี่อาฟจะเปลี่ยนไปแล้วละนะ ตั้งแต่เจอน้องเมด ”

“ คุณนาย สวัสดีค่ะไม่เจอกันตั้งนาน วันนี้ออกมาซื้อของเองเลยนะคะ ” แม่ค้าที่เห็นแม่เดินเข้าไปใกล้เอ่ยทักเราที่กำลังคุยกัน  ผมก้มหน้าที่กำลังเขินนั่นลงก่อนจะยกมือไหว้คุณน้าขายกุ้งที่ก็พยักหน้ารับคำทักทาย “ วันนี้พาใครมาด้วยคะเนี้ย ไม่เคยเห็นหน้าเลย ”

“ เอ่อ ผมเป็นเพื่อน.. ” ปากที่กำลังตอบของผมแต่ยังไม่ทันหมดประโยคที่ตั้งใจไว้แม่ก็พูดขัดขึ้นก่อน

“ คนนี้เป็นแฟนของลูกชายน่ะค่ะ เค้าพามาแนะนำที่บ้าน ก็เลยพาออกมาชอปปิ้งของไปทำมื้อเที่ยงกันสักหน่อย ” คำพูดที่ทำให้ผมหันไปมองคนตอบนิ่งๆ แต่ในตอนนั้นแม่กลับไม่ได้สนใจสายตาของคุณป้าขายของที่มองมาด้วยสายตาอึ้งอยู่ไม่น้อย เพราะคงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนั้น คำพูดที่อีกฝ่ายแนะนำกันในฐานะนั้น ฐานะที่อีกคนพูดออกไปจากปากเองว่า ‘ เป็นแฟนของลูกชาย ’

“ หน้าตาน่ารักจังเลยนะคะ ” แม่ค้าเอ่ยชมผมก่อนจะยิ้มให้กัน

“ ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็มาเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งแล้ว ”

“ แล้ววันนี้จะซื้อกุ้งไปทำอะไรกันเหรอคะ ”

“ จะซื้อไปทำกุ้งผัดซอสมะขามนะคะ ” แม่ตอบก่อนจะหันมาถามผม “ เอากุ้งลายเสือดีกว่านะน้องเมด ดูสิ ตัวอ้วนมาก เนื้อน่าจะแน่นดี ”

“ ก็ได้นะแม่ ”

“ งั้นเอาสักสองกิโล ช่วยเลือกให้ด้วยนะคะ ”

“ ได้เลยค่ะ คุณนาย ” แม่ค้ารับคำสั่งซื้อของแม่ก่อนจะเดินมาจัดการเลือกกุ้งตัวใหญ่ๆให้เราตามที่สั่ง แล้วในตอนนั้นแม่ก็หันไปเจอปลาสดๆตัวใหญ่เข้าพอดี

“ ซื้อปลาไปด้วยดีมั้ย แล่เอาแต่เนื้อคลุกแป้ง ทำปลาสามรส น่าจะอร่อยดีนะ ”

“ แล้วก็มีผัดผักอะไรสักอย่างดีมั้ยครับ แล้วก็พวกต้มจืด ไม่ก็พวกแกงที่เผ็ดหน่อย ” ผมเสนอ

“ แต่เมื่อวานก็กินต้มยำไปแล้ว เที่ยงนี้แกงจืดใส่ผักรวมน่าจะโอเคกว่านะ ส่วนผัดผักก็เป็น ผัดผักรวม แม่ว่าน่าจะเข้าท่า ”

“ ก็ได้ครับ ”  เราเดินไปซื้อของตามที่คิดเมนูไว้ ผมเป็นคนถือถุงทั้งหมดพวกนั้นให้แม่ที่ก็เดินไปยิ้มไปให้กับคนที่เอ่ย ทักทายแทบจะทุกร้าน และคำถามฮอตฮิตที่ตอบทุกร้านด้วยเช่นกันก็คือ ‘ คนนี้เป็นแฟนลูกชาย เป็นลูกชายคนใหม่ ’ คำตอบที่ชวนให้ผมได้แต่ยิ้มเขินกับแม่ค้าพ่อค้าทุกร้าน คำตอบที่ชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ในตอนนี้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าที่คิดไปแล้ว

 “ เดี๋ยวเราแวะร้านขนมที่ห้าง ข้างหน้าด้วยนะ ”

“ ได้เลยครับ ” พยักหน้ารับตามคำสั่งในตอนที่เรากลับเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย ของเยอะแยะมากมายที่ท้ายรถชวนให้คิดจินตนาการถึงมื้อเที่ยงที่บอกเลยว่าผมแทบจะอดใจกับมื้อเที่ยงของวันนี้ไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะสละลอยแก้วที่รู้สึกถึงความสดชื่นที่ลอยขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลิ้นลอง “ แต่ว่าแม่ทำขนมไทยอร่อยมากเลยนะครับ แม่ชอบทำเหรอ ”

“ ไม่ได้ชอบอะไรหรอก ” อีกคนตอบในตอนที่ดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้ “ แต่ที่ทำได้เพราะที่บ้านแม่ คุณยายของพี่อาฟ เค้าเปิดร้านอาหารไทย แล้วก็ขนมไทยน่ะ แม่ก็เลยทำมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว มันอยู่ในสายเลือด ”

“ ฮ่าๆ งั้นเหรอครับ แล้วตอนนี้ร้านยังเปิดอยู่มั้ย ”

“ เปิดนะ พี่สาวของแม่เค้าสืบต่อกิจการร้านอยู่น่ะ ก็เป็นธุรกิจในครอบครัวของทางนั้นแล้ว แต่แม่มีเมนูเด็ดด้วยนะ ”

“ อะไรเหรอครับ ”

“ ขนมเปี๊ยะ ไว้ถ้าแม่ว่างจะทำให้กินนะ รับรองว่าอร่อยเด็ดไม่มีเจ้าไหนสู้ไหนเลยละ ”

“ จะรอชิมเลยครับผม ” หันมาพูดกับแม่แบบนั้นรอยยิ้มของเราที่ยิ้มให้กัน ก่อนที่ผมจะค่อยๆชะลอรถเพราะสัญญาณไฟแดงที่ปรากฏขึ้นพอดี 

ความเงียบคืบคลานเราสองคนอีกครั้ง เป็นความอึดอัดที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนชวนให้ผมไม่กล้าแม้จะหันไปมองคนข้างตัวที่เหลือบมามองกันอยู่หลายครั้ง ท่าทางที่เหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง ทำให้ผมไม่กล้าแม้จะถามออกไปด้วยซ้ำว่าไม่อะไรหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นการเสียมารยาทต่อผู้ใหญ่มั้ย

“ น้องเมด ” แม่เอ่ยเรียกผม แล้วในตอนที่หันไปมองเธอก็ยิ้ม “ แม่ขอโทษนะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน ” ได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาให้อีกคนด้วยความรู้สึกที่บอกกันด้วยท่าทางว่า ‘ ไม่เป็นไร ’ “ ผู้ใหญ่บางคนไม่ค่อยชอบพูดขอโทษกับเด็ก ทั้งๆที่ตัวเองก็ผิด ผู้ใหญ่หลายๆคน ชอบทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันหายไปกับกาลเวลา ตอนเด็กๆแม่ชอบผู้ใหญ่แบบนั้น แม่เลยจะไม่เป็นผู้ใหญ่แบบนั้น  เพราะงั้นแม่ขอโทษเราด้วยนะ แม่ขอโทษที่แม่พูดจาไม่ดีกับเรา พูดกระแทกใส่เรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ”

“ แม่ ” ผมเอื้อมมือไปมืออีกคนที่กำลังพูดขอโทษอยู่อย่างงั้นด้วยความรู้สึกผิดในใจ “ เมดเข้าใจแม่นะ เมดไม่โกรธแม่หรอกครับ ไม่เป็นไร ” ยิ้มกว้างให้เธอตอนที่พูดประโยคนั้นจบ “ ก่อนจะมาที่นี่ จริงๆเมดก็เตรียมใจมาแล้ว ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ”

“ แบบที่แม่ร้ายใส่เราน่ะเหรอ ”

“ เรียกว่า หวงลูกชายดีกว่า ” ผมบอก “ คนเป็นแม่ น้อยคนจะเข้าใจในครั้งแรกที่เห็นลูกสะใภ้ของตัวเองเป็นผู้ชาย เมดเข้าใจแม่ มันไม่เป็นอะไรเลยที่แม่จะรู้สึกไม่ชอบกันตั้งแต่ครั้งแรก  เพราะเมดก็ตั้งใจมาแล้วว่าจะพยายามเข้าหาแม่แล้วก็ทำให้แม่ชอบเมดให้ได้ ”

“ ทำไมละ ทำไมต้องพยายามด้วย ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเลยนะ สำหรับพี่อาฟเค้าไม่แคร์หรอก ”

“ คนที่บอกว่าไม่แคร์ คือคนที่แคร์ที่สุดนะครับ ” แม่ยิ้มออกมาตอนที่ผมบอกเธออย่างงั้น “ ตั้งแต่ที่คบกันมา ไม่เคยมีสักครั้งที่อาฟจะเลือกเสื้อให้ผมใส่ แต่ว่าเมื่อวาน อาฟเลือกเสื้อให้ผมใส่เป็นครั้งแรก แล้วนั่นก็คือสิ่งที่บอกกันว่า อาฟอยากให้แม่ชอบเมด เมดก็เลยอยากจะพยายามเพื่ออาฟ  อาฟที่ก็พยายามแล้วก็ดูแลเมดมาตลอด ” ถอนหายใจออกมายิ้มๆตอนที่พูดประโยคนั้น “ ผมอยากมีอาฟอยู่ในชีวิตตลอดไปเลยครับแม่ แม่ให้อาฟคบกับเมดนะ เราสัญญา ว่าเราจะดูแลกันและกันให้ดีที่สุดเลยครับ ”

“ นี่กำลังขอลูกชายแม่จากแม่เหรอ ”

“ ครับ ” ผมพยักหน้ารับกับเธอที่ก็หลุดหัวเราะออกมา

“ มันควรจะเป็น พี่อาฟเค้าไปขอน้องเมดจากพ่อแม่น้องเมดมั้ยลูก ”

“ แม่ก็รักอาฟไม่ต่างอะไรกับที่พ่อรักเมด เมดเลยคิดว่างั้นเมดก็ควรขออาฟจากแม่เหมือนกัน ” ผมหันไปจ้องเธอด้วยความรู้สึกที่มันตื้นตันอยู่ในใจ น้ำตาหยดใสรื้นขึ้นมาที่หน่วยตา ในวินาทีที่ผมจ้องเธอในแววตานั้นก็คลอไปด้วยหยดน้ำตาไม่ต่างอะไรกับผม “ เมดอาจจะไม่ใช่ผู้หญิง อาจจะไม่ได้ เหมาะสม แต่สิ่งที่เมดมีไม่แพ้ใครเลย คือความรู้สึกที่มีให้อาฟ เมดอยากมีอาฟในทุกวัน แล้วก็อยากจะมีอาฟเป็นที่รักแบบนี้ไปตลอด ขอให้เมดรักอาฟนะแม่ ขอให้เราได้รักกัน ขอให้เมดเป็นลูกแม่อีกคนได้มั้ย ”

“ ได้สิ ” เธอเอื้อมมือมาจับที่หัวของผมก่อนจะลูบเบาๆ “ ต่อไปนี้มาเป็นลูกชายแม่อีกคนนะ ”

“ ครับ ”

“ พี่อาฟน่ะ แม่ฝากน้องเมดด้วยนะ รักกันดีๆ มีอะไรก็คุยกันด้วยเหตุผล ” แม่หยุดนิ่งไปตอนที่พูดคำนั้นเธอยิ้ม “ แต่แม่คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะหรอกเนอะ เพราะเชื่อว่า เราคงผ่านอะไรกันมาเยอะก่อนจะมาเจอแม่แล้วละ เพราะคนอย่างที่พี่อาฟ ถ้าเค้าไม่มั่นใจ เค้าคงไม่พาน้องเมดมาหาแม่ ”

“ ครับ ”

“ ขอโทษอีกนะน้องเมด ”

“ ไม่เป็นไรครับ ” ผมส่ายหน้าให้แม่อีกครั้ง แล้วตอนนั้นไฟสัญญาณสีเขียวมันก็ฉายขึ้น

“ เดี๋ยวแม่เลี้ยงทาร์ตเป็นการไถ่โทษนะ แล้วก็เค้กมะพร้าวด้วยดีมั้ย อ้อ แต่ว่าเค้กมัคคาเดเมียที่ก็อร่อยมากเหมือนกันนะ ”

“ งั้นก็กินหมดเลยครับ อะไรอร่อย เมดก็จะกินมันทั้งหมดเลย ”

“ งั้นตีไฟเลี้ยวซ้ายแวะเข้าไปที่ห้างข้างหน้าได้เลยจ้ะ ”

“ รับทราบครับ ” เสียงตอบรับของรอยยิ้มในวินาทีนั้น ความรู้สึกมีความสุขที่เกิดขึ้น เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาของชีวิตที่ผมคงจดจำมันไว้ตลอดไป

ขับกลับมาถึงบ้านในตอนที่แวะซื้อทั้งทาร์ตไข่และเค้กอย่างที่ตั้งใจไว้เสร็จ ผมจอดรถลงที่ที่จอดของมันเช่นเดิม ก่อนจะกดเปิดฝากระโปรงรถเพื่อให้พี่ๆแม่บ้านเดินมาขนของที่ซื้อมาเข้าไปในด้านใน แต่ทว่าตอนที่ผมกำลังจะช่วยขนของพวกนั้นอยู่ เสียงของลูกชายคนโตของเจ้าของบ้าน ก็เอ่ยทักกันก่อน

“ ไปไหนมา ”

“ อ้าว มึงตื่นแล้วเหรอ ” ผมยกมือถือขึ้นมาดูเวเลาที่ตอนนี้ก็บอกเวลาใกล้สิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว ‘ เราออกไปชอปปิ้งนานเหมือนกันนี่หว่า ’ เงยหน้ามองสายตาคมที่ยังคงจ้องมองกันอย่างต้องการคำตอบ “ ไปซื้อของกับแม่มาที่ตลาดใกล้ๆนี่ ”

“ ใครขับ ? มึง ? ”

“ ถูกต้องนะครับ ” ชี้นิ้วใส่อีกคนอาฟก็นิ่งไป “ แต่แม่ก็ไปด้วยนะ แม่บอกด้วยว่ากูขับเก่ง ไม่เห็นเหมือนที่มึงบอกว่ากูขับไม่เก่งเลย ”

“ แล้วนั่นไปสนิทกันตอนไหน ” คำถามของอีกคนที่เชิดไปทางในครัวเป็นการที่บอกให้รู้ว่าคนที่หมายถึงก็คือ ‘ แม่ ’ อย่างไม่ต้องสงสัย

“ ตอนที่มึงหลับไง ” ยักคิ้วให้อีกคนก่อนจะยิ้มกว้างให้อาฟ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรมากกว่านั้นเสียงเตือนจากมือถือก็ดังขึ้นมาก่อน ผมกับอาฟที่ก้มลงมือถือพร้อมกันในตอนนั้น บนหน้าจอที่ปรากฏชวนให้ผมยิ้มเพราะมันคือข้อความไลน์ที่แจ้งเตือนว่า ผมถูกลากเข้าไปในกรุ๊ปที่ชื่อว่า ‘ W. family ’ ที่ย่อมาจากอักษรตัวแรกของนามสกุลอาฟเป็นที่เรียบร้อย และคนที่เชิญผมเข้าไปไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือ แม่คนที่ขอไลน์ผมในตอนที่เราอยู่ด้วยกันในร้านเค้ก

“ หมายความว่าไง ” อาฟเอ่ยถามตอนที่เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ แต่ก่อนที่ผมจะตอบอะไร เสียงจากในครัวก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เสียงที่ทำให้ทั้งผมทั้งอาฟยิ้มให้กันในตอนนั้น

“ น้องเมดครับ เข้ามาช่วยแม่ในครัวหน่อย ”

“ ได้ครับแม่ ” ผมตะโกนตอบกลับก่อนจะหันมามองอีกคน “ น้องเมด ลูกชายคนใหม่ของแม่ ขอตัวก่อนนะครับพี่อาฟ ”

“ ทำได้ไงวะ ” คำถามที่อีกคนเผลอพูดออกมาแบบงงๆ ก่อนจะก้มหน้าลงในตอนที่เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อาฟยกยิ้มขึ้นมาในตอนนั้น  “ บางทีมึงก็แค่อาจจะเป็นตัวเอง ”

แล้วนั่นก็เป็นคำพูดสั้นๆของอาฟ ในตอนที่ผมเดินออกมาครับ

................................................................
อยากเขียนด้วยความรู้สึกอบอุ่น
ของทั้งความเป็นครอบครัว และ ความเป็นแม่ยาย
น้องเมด เป็นคนที่พื้นฐานน่ารักอยู่แล้ว อย่างที่ทุกคนรู้ แล้วหนมก็ไม่อยากจะให้แม่พี่อาฟร้ายด้วย
เพราะจากการที่เลี้ยงพี่อาฟน้องเดย์ ให้ออกมามีความคิด น่ารัก แบบนี้ได้
เรามองว่าก็ต้องเป็นคนที่เหตุผลในระดับหนึ่งเหมือนกัน  เนอะ

นิยายเรื่องนี้ เปิดจองให้รวมเล่มกันอยู่นะคะ
ปิดจองวันที่ 5 เมษายนนี้ค่ะ

เจอกันตอนพิเศษหน้าในวันที่ 9 มีนาคม นะคะ

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
น่ารักและอบอุ่นมากเลย
พอแม่เปิดใจ ได้มองท่าทาง ได้คุยกับเมด ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำความรู้จักสนิทสนมกัน

ดีใจกับแม่ที่ได้ลูกชายเพิ่ม แถมท่าทางอาฟจะโดนแม่ยึดแฟนไปอีก 555

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ดีจังๆๆ ดีมากๆเลย คุณแม่ยอดเยี่ยมสุดๆเลยค่ะ เมดอ่ะเค้าจิตใจดีใครอยู่ด้วยก็ต้องรักแน่นอน คนดีต้องได้สิ่งดีๆตอบแทนค่ะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น่ารักมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อาฟรีบไปขอบคุณน้องเดย์กับพ่อเลยนะ ยกความดีให้สองคนนี้เลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew1: :mew1: คุณแม่ต้องยอมแพ้ความน่สรักของเมด  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากๆเลย
น้องเมดเป็นตัวขอฃตัวเองแบบนี้ไง ถึงมีแต่คนรัก
คุณแม่ก็แค่หวงลูกชาย แม่ฝากลูกชายให้ถูกคนแล้วนะ
น่ารักมากๆเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตอนนี้น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักก

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อรั๊ย น่ารัก


อบอุ่น

ละมุน

เย็นใจฟิลกูดมาก

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
บางช่วงอดน้ำตาคลอไม่ได้
ตื้นตันใจ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เห็นป่ะล่ะะะะ น้องเมดน่ารักออก ใครที่ไหนจะไม่รัก เนอะ พี่อาฟฟฟฟ

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบแม่อาฟจัง แม่น่ารักกกกก

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อยอุ่นจัง :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด