ตอนที่11
“พะ...พี่ปก ทำตัวให้มันเบาๆหน่อยสิ”พอผมพูดออกมาแบบนั้นคนที่ผมกำลังประครองอยู่ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ตอนนี้พวกเรากำลังเดินออกมานอกมอเพื่อโบกแท็กซี่ เนื่องจากพี่ปกมีอาการขาสั่น แม้เจ้าตัวจะยืนกรานว่าสามารถขับรถกลับเองได้แต่ผมยังไม่พร้อมรถคว่ำตายพร้อมพี่แกจริงๆเลยขอร้องแกมบังคับให้ใช้แท็กซี่แทน แต่ระยะทางจากโรงยิมคณะมาที่ถนนใหญ่ก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ผมที่หิ้วปีกคนหมดสภาพมายังไม่เกินสามร้อยเมตรก็ออกอาการหอบ
ขอโทษครับ ตินมันอ่อนแอ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตินจะออกกำลังกายให้มากขึ้น
พี่ปกคงดูแล้วว่าผมไม่รอดพี่แกเลยชักแขนกลับและเดินตัวปลิวนำผมไป
“พี่ปก ตินขอโทษ พี่ปกไม่หนักเลย มาให้ตินประครองเถอะน้า”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้ขาเจ็บ”
“แต่พี่ปกเหนื่อย”
“หายเหนื่อยแล้ว”
“พี่ปกขาสั่นกึกๆ”
“ถ้าให้ตินประครองวันนี้พี่คงไม่ถึงหอ”
คนใจร้าย! ผมเม้มปากแน่น ใจอยากจะเถียงต่อแต่กลัวพี่เขาโกรธเลยได้แต่เดินตามใกล้ๆอย่างเป็นห่วงกลัวว่าพี่เขาจะทรุดไประหว่างทาง แต่ปรากฏว่าพวกเราสามารถออกมาข้างนอกโดนสวัสดิภาพ แถมพี่แกยังสามารถโบกรถเอง ขึ้นไปนั่งพร้อมบอกทางเองเสร็จสรรพ
สรุปกูเนี่ยไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ผมขึ้นไปนั่งจ๋องข้างๆพี่ปกที่ทอดสายตาออกไปมองนอกหน้าต่าง
“ตินขอโทษ”
เป็นอีกครั้งที่พี่ปกเลิกคิ้วสงสัย แต่ไม่ได้ถามหรือพูดอะไรกลับมา แต่ผมชินกับนิสัยพูดน้อยของอีกฝ่ายแล้วเลยคอยสังเกตสีหน้าพี่เขาตลอด
“ตินไม่มีประโยชน์เลย ทำให้พี่เดือดร้อนแท้ๆ”
นั่งจ๋อย คอตก มองปลายเท้าตัวเองซึมๆ
แม้จะเล่นละครตีบทเศร้าให้พี่เขาดูบ่อยๆแต่คราวนี้ผมรู้สึกผิดจากใจจริงๆนะ พี่ปกจะเชื่อเด็กเลี้ยงแกะอย่างผมมั้ย
“ตอนเย็นรถติด พี่ขอหลับสักงีบนะ”
หงูยยยย เย็นชา ตัดบท ไร้เยื่อใย พี่เขาต้องเข้าใจว่าผมกำลังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอีกแน่ๆถึงได้มีรีแอคชั่นหมางเมินขนาดนี้
“ดะ ได้ เดี๋ยวถึงแล้วตินปลุก”ผมได้แต่ตอบเสียงเจื่อนๆ
ระหว่างที่กำลังคิดสะระตะว่าจะเรียกความไว้เนื้อเชื่อใจกลับมายังไงดีคนที่นั่งข้างๆผมก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด
“อ๊ะ...”
“ก็บอกว่าขอนอนไง”พี่ปกลืมตาขึ้นมาดุผมที่ส่งเสียงดัง
“อะ อื้อ...”
พี่เขานอนตักผม!
พี่ปกกำลังนอนตักผม!!
นั่งตัวเกร็งเลยสิทีนี้ ผมไม่กล้าแม้แต่หายใจแรงอ่ะ ที่บอกว่าจะนอนเมื่อกี้แปลความได้ว่าขอนอนตักงั้นเหรอ งั้นก็หมายความว่าพี่ปกไม่ได้ห่างเหินออกไปแต่ขยับเข้ามาใกล้อีกน่ะสิ อู้หู ถ้าจะทำกับใจผมขนาดนี้นะ รับผิดชอบด้วยการตั้งทีมกับผมเลย
ดูท่าพี่ปกจะเหนื่อยมากจริงแค่เก๊กว่าตัวเองสบายดี เพราะไม่ถึงครึ่งนาทีพี่เขาก็หลับไปแล้ว
ผมนั่งมองใบหน้าหล่อเพอร์เฟ็คของอีกฝ่ายด้วยความภาคภูมิ(?) แค่จินตนาการถึงวันที่พวกได้แชมป์รายการใหญ่ด้วยกัน เอาถ้วยรางวัลไปฟาดหน้าไอ้รัมเอาให้เลือดกลบปาก แค่นี้ผมก็อดนั่งยิ้มคนเดียวไม่ได้
คนขับต้องคิดว่าผมแอบชอบพี่ปกแน่ๆอ่ะ มีอย่างที่ไหนนั่งมองหน้าเขาไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไป
“คึกคึกคึกคึกคึก”ทว่าพอผมหลุดเสียงหัวเราะโรคจิตออกมาพี่คนขับก็ดูระแวงๆเหมือนกำลังคิดว่าผมวางยาพี่ปกและกำลังจะจับปล้ำ ฮ่าๆ ช่างเป็นคนขับช่างมโนจริงๆ ฮิฮิ ผมก็แค่ตื่นเต้นอยากแก้แค้นไอ้รัมมันเร็วๆเท่านั้นเอ๊งงงง
“คอนโดนั้นใช่มั้ยครับ”พี่คนขับถามขึ้น
“อ่า เอิ่ม...”กูไม่รู้โว้ยครับ มาครั้งแรกเหมือนพี่อ่ะ พี่ถามผมแล้วผมจะถามใคร
“พี่ปกครับ จะถึงแล้วครับ ตึกนั้นใช่มั้ยครับ”ก็ถามเจ้าของห้องเขาไง ผมเขย่าตัวพี่ชายสุดหล่อเบาๆ พี่เขางัวเงียตื่นขึ้นมามองไปรอบๆก่อนพยักหน้าหงึกหงัก ปิดท้ายด้วยการหาวหนึ่งที
ผมอาศัยจังหวะที่พี่เขายังตื่นไม่เต็มตาชิงจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้ แอบมองเศษเงินที่เหลือหลังหักค่ารถแล้วก็ใจหายหน่อยๆ แต่ผมเป็นคนจนที่มีจิตสำนึกกตัญญูรู้คุณ แค่ค่ารถไม่ถึงร้อยผมออกให้ได้สบายมาก ผม...ผมจะรับเงินที่พี่ปกยืนให้หลังจากพวกเราลงมายืนอยู่หน้าคอนโดไม่ได้เด็ดขาด!!
ตะ แต่มันนั่นมันแบงค์ห้าร้อย
ไม่ได้ๆ ไอ้ติน แกจะต้องรับผิดชอบที่ทำให้พี่เขาถูกสั่งวิ่งจนขาลาก
ผมกัดฟันดันมือของพี่ปกออก
“รับไปสิ อุตส่ามาส่งพี่แล้วยังต้องเสียเงินอีก”
“ยะ อย่ามาดูถูกความหวังดีของคนอื่นแบบนี้นะ”หากการไม่รับเงินจำนวนนี้มันจะซื้อใจของพี่ได้ตินก็ยอมแลก! ตะ แต่ถ้าพี่ยืนกรานอยากจะให้ขนาดนี้ล่ะก็ตินก็คงต้องรับไว้อย่างช่วยไม่ได้
“พี่ขอโทษ คราวหลังพี่จะระวัง”
ผมเริ่มใจอ่อนกับเจ้าแบงค์ม่วงใบนั้น ทว่าพี่เขายัดมันกลับเข้ากระเป๋าสตางค์เสียก่อน
ผมนี่แอบกลืนน้ำลายอย่างเสียดายเลย
“อ่า อืม แฮ่ๆ งั้นวันนี้ตินกลับเลยน้า”
“กลับไปไหน”
“อ้าว ก็กลับหอ”
“ตอนนี้เนี่ยนะ”
พี่ไม่ให้ผมกลับตอนนี้แล้วจะให้ผมกลับตอนไหนครับ นาฬิกาบอกเวลาหน้าคอนโดพี่มันแสดงตัวเลข 19:37 แปลว่าพวกคนงานในซอยหอผมกำลังจะออกมาตั้งวงเหล้ากัน ถ้าผมกลับช้ากว่านี้ผมก็กลัวโดนฉุดเป็นเหมือนกันนะ
“ขึ้นไปข้างบนสิ กินข้าวกัน”
อ้อ พี่เขาหมายถึงพี่เขาไม่อยากเตรียมอาหารเย็นและล้างจานเองเพราะลุกนั่งไม่สะดวกเลยอยากให้ผมอยู่ดูแลในส่วนนี้ก่อนสินะ ผมพยักหน้าและรีบเดินตามคนตัวสูงกว่าเขาไปในคอนโดทันที คอนโดของพี่เขาไม่ใช่คอนโดหรูเลิศหรือเพนเฮาส์อลังกาลอะไรเบอร์นั้น แต่ก็เป็นคอนโดมีระดับสมฐานะเมื่อเทียบกับราคารถที่พี่เขาขับ
ห้องของพี่ปกอยู่ชั้น 7 จากทั้งหมด 12ชั้นครับ เป็นห้องริมสุดเลยมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง มี2ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่นและ โซนครัวที่มีเคาเตอร์บาร์สุดพรีเมี่ยม ผมแอบๆมองสำรวจห้องของพี่เขาก่อนหันมาถามกับคนที่เดินไปนั่งตรงโซฟาว่า
“เย็นนี้พี่ปกจะกินอะไรเหรอครับ แล้วแถวนี้มีร้านไหนแนะนำมั้ย”
“หน้าตู้เย็นมีเบอร์ร้านตามสั่งอยู่ เราแค่โทรไป เดี๋ยวเขาจะเอาขึ้นมาส่งให้เอง”
“พี่ปกเอาอะไรครับ”ผมเอ่ยถามพลางจิ้มเบอร์ที่แปะอยู่หน้าตู้เย็นไปพลาง
“เอาเหมือนติน”
พี่จะผลักภาระมาให้ผมแบบนี้ไม่ได้นะ!! เดือดร้อนผมต้องมานั่งเดาใจอีกว่าคนอย่างพี่ปกชอบกินอะไร
วันนั้นพี่เขาพาไปกินจิ้มจุ่มแสดงว่าพี่เขากินเผ็ดได้ และอาจจะชอบอะไรแซ่บๆ”งั้นผมสั่งต้มแซ่บกระดูกหมูแล้วก็ไข่เจียวละกัน โอเคมั้ยครับ”
เมื่อพี่ปกพยักหน้าก็เป็นอันว่าตกลง ผมกดโทรสั่งและไม่นานหลังจากนั้นก็มีคนมากดออดหน้าห้อง ตอนผมเปิดประตูออกไปรับของป้าคนขายก็กล่าวกับผมว่า”ตายจริง ป้าไม่รู้ว่าวันนี้มีแขกเลยเอาจานข้าวมาใบเดียว ถ้ายังไงเดี๋ยวป้าลงไปเอามาให้ใหม่ รอสักครู่นะคะ”
แม้จะไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่ผมก็รับถุงกับข้าวและจานชามช้อนส้อมเข้ามาวางบนโต๊ะครัว
“เขาให้จานมาทำไมเหรอพี่ปก”
“เราจะได้ไม่ต้องล้างเองไง”
“แปลว่าพอกินเสร็จก็โทรตามป้าขึ้นมาเก็บจานไปล้างอีกรอบเนี่ยนะ!?”
“อืม”
“งั้น พี่ปกจะให้ผมอยู่ทำไมอ่ะ”ผมคิดว่าพี่เขาขี้เกียจลงไปซื้อกับข้าว ขี้เกียจล้างจานเลยอยากให้ผมอยู่ช่วย แต่ในเมื่อทุกขั้นตอนสามารถลุล่วงด้วยการกดโทรศัพท์แล้วตินตินคนนี้จะเหลือประโยชน์อะไรอีก ตอบบบบบบ
“ก็กินข้าวด้วยกันไง”
ประโยชนน์ของผมคือแดกฟรีแล้วก็เปิดตูดกลับหอเนี่ยนะ!?
ผมงงใจกับผู้ชายคนนี้มากแต่ก็ยอมตามใจอีกฝ่าย รอไม่นานป้าก็เอาจานข้าวขึ้นมาให้ พวกเรานั่งทานมื้อเย็นกันเงียบๆ พอทานเสร็จก็โทรตามป้าอีกรอบ ทุกอย่างสะดวกสบายจนน่ากลัว ไม่คิดเลยว่าร้านข้าวแกงใต้คอนโดแพงๆจะต้องเซอร์วิสลูกค้าขนาดนี้
“หง่า...งั้นผม ขอตัวกลับก่อนนะ”
“กลับไปไหน?”
“หอไง”
“อ้าว”
“หือ”
ผมงงหรือพี่เขางงกันครับ พอผมบอกว่าจะกลับหอทำไมพี่เขาต้องร้องอ้าวแถมทำหน้างงใส่ผมแบบนั้น
“มืดแล้ว กลับตอนนี้ไม่ได้”
“ละ แล้วพี่จะให้ผมไปนอนที่ไหน”ถึงจะเป็นพี่ปกแต่มุกนี้ผมไม่ขำด้วยนะ
“ที่นี่ไง”
“อ๋อ ที่แท้ก็ให้นอนที่นี่ ห๊ะ อะไรนะ ให้ผมนอนด้วยเหรอ งุ้ย เขิน”
“พี่มีห้องนอน2ห้อง”
ก๊ะด๊ายยยยยยยยยยยย ขอโทษที่คิดไปไกลว่าจะได้นอนข้างกัน ตินตินผิดเองที่ลืมว่าคอนโดพี่มันกว้างไม่เหมือนหอพักรูหนูที่ผมใช้ซุกหัวนอนอยู่ที่แค่ก้าวลงจากเตียงก็ชนตู้เสื้อผ้า! ชริ๊
พี่ปกเขาหายไปคัดเสื้อนอนให้ผมนานมากกกก เข้าใจว่าไม่มีไซส์ทั้งเสื้อทั้งกางเกง กลับออกมาอีกทีพร้อมกางเกงบอลที่พอจะปรับรอบเอวด้วยการผู้เชือกได้และเสื้อยืดสีขาวอีกหนึ่งตัว ผมรับชุดนั้นมาก่อนเข้าไปอาบน้ำ ผมแฮปปี้กับห้องน้ำที่นี่มากเพราะมันใหม่แล้วก็กว้าง ตรงกันข้ามกับห้องน้ำที่หอผม
ผมคงพิศวาสส้วมห้องนี้เกินไปหน่อยพอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอพี่ปกแล้ว สงสัยพี่เขาอาบอีกห้องเสร็จจนเข้าไปหลับได้สามตื่นละ
รู้สึกห่างเหินแฮะ
ผมคิดว่าการเข้านอนโดยไม่บอกฝันดีกันมันห่างเหินเกินไปเลยตัดสินใจเคาะห้องนอนใหญ่ รอจนคนด้านในขานรับจึงเปิดประตูเข้าไป พี่ปกยังไม่หลับ เขากำลังเล่นโน้ตบุคอยู่บนเตียง พอผมเดินเข้าไปเขาก็กวาดสายตามองสารร่างของผมด้วยแววตาประหลาด ไม่อยากจะเล่าว่าตอนนี้ผมเหมือนคนเอาปลอกหมอนมาใส่ ใครใช้ให้เสื้อพี่เขามันใหญ่กว่าตัวผมขนาดนั้นเล่า!
“พี่ปกทำไรอยู่เหรอ”
“เล่นเกม”
“อ๊า!!”จริงด้วย เกม!!
ผมรีบกระโจนขึ้นไปบนเตียงของอีกฝ่ายทันที ความเกรงใจก่อนหน้านี้มลายหายไป เมื่อได้ยินคำว่าเกมทำให้ผมนึกออกว่าวันนี้ยังไม่ได้ล็อคอินเข้าไปทำเควสรายวันเลย ไม่ได้ๆ ตอนนี้เป็นช่วงกิจกรรมที่แจกวัตถุดิบที่ผมต้องการด้วย ผมจะเอาเกล็ดมังกรบินมาตีดาบบบบบบบ
“พี่ปกจะเล่นอีกนานมั้ยอ่า”คนถูกจู่โจมถอยห่างเล็กน้อย สายตากับสมาธิยังโฟกัสอยู่กับเกม
“ตินขออะไรพี่ปกอย่างได้ม้า”เมื่อใช้แค่เสียงไม่ได้ผลผมก็เริ่มเอาตัวเข้าไปกระแซะ ใช้นิ้วจิ้มๆเขี่ยๆตักของอีกฝ่าย เพราะพี่เขาต้องใช้มือใชช้แขนในการคอนโทรลตัวละครในเกม ถึงผมจะตื๊อแต่ผมก็ไม่อยากให้พี่เขาแพ้ ตรงตักเนี่ยแหละโดนจับยังไงก็ไม่มีผลกับเกม
“อ้าว”ทำไมพี่ปกแพ้อ่า คราวก่อนในร้านเกมผมนั่งตื๊อพี่เขาหนักกว่านี้พี่เขายังเล่นได้เลย
“มีอะไร”
“ตินอยากเล่นเกม”ไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มใส่กันแบบนั้นเลยนี่ ที่สำคัญตอนนี้ไม่ได้PVP(สู้ตัวต่อตัว)อยู่ไม่จำเป็นต้องมองจอแล้วนี่ หันมามองหน้าผมตอนคุยกับผมหน่อยเซ่
“ต้องเอารางวัลของเควสรายวัน”
“เครื่องพี่ไม่มีเกมเซิร์ฟไทย”
“ผมรู้ ขอโหลดได้มั้ย แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”การโหลดเกมมันกินเวลาแถมกินแรมเครื่องมาก ระหว่างที่โหลดพี่เขาจะเล่นเกมเซิร์ฟจีนไปด้วยไม่ได้แน่นอน ผมคิดว่าพี่เขาคงไม่ยอมเลยเริ่มตัดใจจากวัตถุดิบที่ต้องการ แต่พี่เขากลับเลื่อนโต๊ะญี่ปุ่นมาให้ผมและกดออกจากเกมของตัวเอง
พี่ปกไม่ได้พูดอะไรแต่ผมคิดว่าได้รับอนุญาตแล้วเลยเปิดโหลดเกมส์ของตัวเอง
การติดตั้งใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆผมเลยไถลตัวลงนอนเล่นมือถือบ้าง ทว่าพี่ปกที่นอนอยู่ข้างๆกลับตะแคงตัวหันหลังให้จนผมเริ่มใจแป้ว“พี่ปก โกรธเหรอ ผมไม่เล่นก็ได้นะ พี่ปกเอาคืนไปเถอะ”ผมกลิ้งไปหาอีกฝ่าย พยามสะกิดให้หันมาหาด้วยเสียงเสียงสุดจะออดอ้อน
คือถ้าใช้เสียงสองขนาดนี้แล้วยังไม่ใจอ่อนแสดงว่าพี่เขาโกรธที่ผมมาแย่งคอมจริงๆ ผมจะทำอะไรได้นอกจากลุกขึ้นนั่งและเตรียมกดออกจากหน้าโหลดเกม
หมับ
ทว่าพี่เขากลับดึงมือผมไว้และส่ายหน้าไปมา ผมไม่เข้าใจว่าพี่ปกต้องการจะสื่ออะไร พอผมหยุดนิ่งพี่เขาก็เดินออกจากผมไป
ต้องโกรธถึงขั้นออกไปนอนโซฟาในห้องรับแขกเลยเหรอ!!
ก่อนที่ผมจะมโนออกทะเลไปไกลกว่านี้พี่ปกคนเข้าใจยากก็กลับเข้ามาพร้อมหนังยาง
หนังยางเนี่ยนะ?
เอามาทำไรอะ อย่าบอกนะว่าจะเอามายิงผม งื๊อออออ ผมไม่ชอบโดนยิงแบบนี้ มันเจ็บ
“แว๊ก!”เพราะเมื่อกี้เสียวเลยรับตา ตอนที่พี่เขาเดินเอาหนังยางมารัดคอเสื้อให้ผมเลยเผลอร้องเสียงหลง ลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อๆที่อยู่ในระยะประชิดแบบงงๆ
“ขอบคุณครับ”ผมกำลังรำคาญที่คอเสื้อมันกว้างอยู่พอดี เวลาเอียงตัวทีนึงก็ไหลแทบตกไหล่
โฮกกกก พี่ปกใส่ใจจัง รู้ด้วยว่าผมกำลังมีปัญหากับคอเสื้อ
“พี่ไม่เล่นหรอก ตินเล่นไปเถอะ แต่อย่านอนดึกนักล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปขึ้นแสตนด์แต่เช้าใช่มั้ย”พี่ปกคนดีของน้องเอื้อมมือมาลูบหัวอย่างอ่อนโยน แม้สีหน้าจะเรียบเฉยตามแบบฉบับแต่การกระทำก็ทำให้ใจชื้น
“อื้อ~~”