ช่วงนี้ป้าเข้าโหมดขยัน เพราะเค้ากำลังจะหนีเที่ยวแว้วว อิิอิ
ขอมาตอบเม้นต์พรุ่งนี้นะจ๊ะเพราะตอนนี้คนเขียนง่วงมากกกก ว่าแต่ กำลังงงๆตัวเองว่าตอนพิเศษนี้จะขึ้นกับเรื่องไหนดี ยังไงก็เป็นตัวละครในเรื่องสั้นทั้งสองเรื่องอ่ะนะ
แฟนเป้-วิวคงหายคิดถึงกันมั่งนะจ๊ะ*Warning* Explicit Adult Materialเช่นเคย ใครไม่นิยมฉากเข้าพระเข้านาย ก็หลับตาอ่านข้ามๆไปเลยแล้วกันเด้อค่า ลำนำรักสีรุ้ง/ เมื่อหัวใจเราใกล้กัน
ตอนพิเศษ: สองใจในคืนหนาว“เป้! มาทำไมเนี่ย ไม่สบายทำไมไม่นอนพักที่บ้าน”
ผมไขประตูเข้าห้องของตัวเองแล้วก็ต้องตกใจที่มีคนที่ไม่คิดว่าจะเจอในวันนี้นั่งรออยู่เพราะเจ้าตัวโทรมาบอกตั้งแต่เช้าว่าไม่สบายเลยจะหยุดเรียนจนผมทำใจแล้วว่าอาจไม่ได้คุยหรือเห็นหน้ากันทั้งวัน
“ก็คิดถึงแฟน อยากให้แฟนพยาบาลให้มากกว่า”
คนป่วยที่ไข้ขึ้นจนหน้าแดงเรื่อบอกผมหน้าตาชื่นมื่น ผมวางกระเป๋าแล้วเข้าไปทาบมือกับหน้าผากของคนรักแล้วก็ต้องผงะกับอุณหภูมิที่สูงจนน่าตกใจ เป้ถือโอกาสดึงผมเข้าไปกอดแล้วก็กดปลายจมูกร้อนๆลงมาที่แก้มผมก่อนจะก้มลงซุกหน้าบนบ่า
“ค่อยยังชั่ว นึกว่าวันนี้จะอดเจอวิวซะแล้ว ทำไมกลับดึกจัง”
“ก็ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดแล้วก็แวะหาอะไรกินก่อนกลับนี่นา ว่าแต่เป้กินข้าวเย็นหรือยัง”
“เรียบร้อยมาจากบ้านแล้ว ถึงได้แอบแว้บมานี่ได้ไง”
ผมเงยหน้ามองคนป่วยอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “นี่แอบพ่อกับแม่มางั้นเหรอ?”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เค้าออกไปข้างนอกกันทั้งคู่ ไม่รู้หรอกว่าลูกชายไม่อยู่ที่ห้อง”
ผมขมวดคิ้ว ถึงอย่างงั้นก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้ดอดออกมาหาผมทั้งที่ตัวเองไม่แข็งแรงเสียเมื่อไหร
่
“ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้เดี๋ยวกินยาแล้วนอนเลยดีกว่านะ ขอวิวอาบน้ำแป๊บนึงเดี๋ยวออกมาเอายาให้”
เป้พยักหน้าแล้วก็หันไปนั่งเปิดโทรทัศน์ดู ผมมองแผ่นหลังคนป่วยที่ใส่เสื้อแจ๊คเกตทับเสื้อตัวในอยู่แล้วก็ถอนหายใจก่อนจะหรี่แอร์ลงเพื่อไม่ให้อากาศหนาวเกินไปก่อนจะเข้าไปจัดการธุระตัวเองในห้องน้ำ พอผมอาบน้ำเสร็จก็จัดการเอายาแก้หวัดกับน้ำให้คนป่วยที่รับไปกินโดยไม่อิดออด แล้วก็หันไปหยิบผ่าห่มออกคลี่คลุมตัวให้คนป่วยที่เอนหลังลงบนเตียง เป้ขมวดคิ้วพอเห็นผมหันไปลากฟูกอีกชุดออกมาวางที่พื้น
“วิวจะนอนบนพื้นทำไมล่ะ ขึ้นมานอนบนนี้ด้วยกันสิ”
ผมมองเหล่เด็กโข่งด้วยสายตาตำหนิหน่อยๆ
“นอนด้วยกันก็ติดหวัดสิ อีกอย่างคนป่วยนอนคนเดียวไม่มีคนเบียดน่าจะสบายตัวกว่า”
“ไม่ติดหรอก สัญญาด้วยเกียรติของอดีตนักเรียนร.ด. ถ้าทำให้วิวติดหวัดเดี๋ยวเป้มาเฝ้าไข้เอง”
คำปฏิญาณแบบเด็กๆทำให้ผมกลอกตา ปกติก็ชอบหนีที่บ้านมาค้างที่นี่อยู่แล้วนี่...ผมนึกค่อนคนเจ้าปัญหาในใจ ยังไงก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่แล้ว ตามใจคนป่วยซะหน่อยแล้วกัน
“ถ้าจามหรือไอใส่ วิวลงมานอนข้างล่างแน่ๆนะ”
“รับทราบครับผม ไม่ต้องห่วงหรอกเป้แค่มีไข้ อย่างอื่นปกติดี”
ผมขมวดคิ้ว เวลาคนแข็งแรงเกิดป่วยขึ้นมานี่จะมีอาการไม่เหมือนคนอื่นเขาหรือไงกัน แต่ก็ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดเลยลุกไปปิดไฟ ทิ้งไว้เพียงโคมไฟหัวเตียงที่ส่องแสงสลัวๆแล้วยอมลงนอนข้างคนป่วยบนเตียงแต่โดยดี ทว่าพอล้มตัวลงก็โดนแขนแกร่งสองข้างคว้าเข้าไปกอดแน่นทันทีเหมือนรอจังหวะอยู่แล้ว
“เป้ ตัวร้อนจัง”
ผมอดทักไม่ได้ พอได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ก็รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิสูงจัดจากร่างกายของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ตัวร้อนขนาดนี้แล้วยังจะฝืนขับรถมาหาถึงนี่อีก บ้านเป้ไม่ใช่อยู่ใกล้ๆเลย
คนตัวใหญ่ยกมือผมขึ้นจูบเบาๆแล้วยิ้มให้ “ไม่เป็นไรหรอก กินยาแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็หาย”
“หายจริงๆก็ดีสิ ทีหลังไม่สบายอย่าฝืนตัวเองอย่างนี้อีกนะ”
เป้หัวเราะเบาๆผมเลยอดถามด้วยความข้องใจไม่ได้ “หัวเราะอะไร”
“เปล่า ดีใจ แฟนเป็นห่วง”
อ้อมแขนอุ่นโอบกระชับรอบตัวผมแน่นขึ้น ร่างกายเราแนบชิดจนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นจัดที่ระเรี่ยลงบนริมฝีปากตัวเอง เราสองคนนอนมองตากันผ่านแสงสลัวของโคมไฟ ก่อนจะรู้ตัว ริมฝีปากอุ่นของเป้ก็เคลื่อนลงประทับบนริมฝีปากผม สัมผัสนั้นแผ่วเบาและยั่วเย้าในทีแรกก่อนจะค่อยๆร้อนแรงขึ้น ผมหลับตาแล้วเผยอริมฝีปากรับลิ้นอุ่นร้อนที่ไล้เลียขออนุญาตแต่โดยดี
สัมผัสจากมือใหญ่ข้างหนึ่งที่ลูบแผ่นหลังผมใต้เสื้อไปมาและอีกข้างที่บีบสะโพกด้านหลังอยู่ทำให้ผมถอนริมฝีปากแล้วมองตาคนป่วยที่จาบจ้วงโดยไม่ดูสังขารตัวเองอย่างดุๆ
“เป้...ไม่สบายอยู่นะ”
แทนที่จะสำนึกตัว คนถูกเตือนยิ้มตอบตาเป็นประกายแถมยังเพิ่มแรงที่มือล่างเสียอีกจนผมต้องทุบแขนเบาๆ
“ก็คิดถึงแฟนนี่นา อุตส่าห์ฝืนสังขารมาหาทั้งที วิวตามใจเป้หน่อยสิครับ”
น้ำเสียงกับนัยน์ตาออดอ้อนทำผมเริ่มจะใจอ่อน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้ายอมให้ตามที่ขอครั้งหนึ่งก็จะต้องมีครั้งที่สองและสาม และคืนนี้มีหวังทั้งคนป่วยทั้งผมไม่ได้นอนกันทั้งคู่แน่ๆ แล้วพรุ่งนี้ผมก็ยังมีเรียนแต่เช้าอีก
“ถ้าอยากให้ตามใจก็จะช่วย แต่ไม่ให้ทำถึงที่สุด ตกลงมั้ย”
คราวนี้คิ้วเข้มบนใบหน้าคมที่อยู่ห่างผมไม่ถึงคืบขมวดมุ่น
“ถ้ามีเงื่อนไขแบบนี้ก็ไม่เรียกว่าตามใจสิ”
“ไม่รู้ละ ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ จะเอาอย่างนั้นก็ได้นะ วิวอยากให้เป้พักผ่อนมากกว่าอยู่แล้วด้วย”
เด็กโข่งตัวโตมองตาผมที่แสดงออกว่าเอาจริงแล้วก็ถอนหายใจ “เอ้า ยอมก็ได้ นี่เพราะป่วยอยู่หรอกนะ หายป่วยเมื่อไหร่จะทบต้นทบดอกให้น่าดูเลย”
ประโยคขู่คาดโทษทำเอาผมร้อนวูบบนหน้า ก็เวลาโดนทบต้นทบดอกครั้งก่อนๆทีไรเป้ทำผมแทบลุกไม่ขึ้นตลอดเลยนี่นา
เป้จูบเบาๆลงบนจมูกผมแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีกครั้งจนผมนึกอยากหยิกพ่อตัวดีให้เนื้อเขียว แต่แล้วเป้ก็เอามือสองข้างกดสะโพกผมให้เบียดกับสะโพกตัวเองจนรู้สึกได้ถึงความร้อนและแข็งขืนของความต้องการผ่านเนื้อผ้าของกางเกงขายาวที่สวมอยู่
“เป้ เดี๋ยว..”
ผมยังไม่ทันพูดจบก็ต้องครางออกมาเมื่อมือใหญ่ข้างหนึ่งล้วงเข้าไปใต้กางเกงของผมแล้วบีบสะโพกผมเต็มแรงขณะที่ลิ้นร้อนฉกเข้าที่กกหูอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
“ไม่ต้องห่วง รับรองว่าไม่ทำถึงที่สุด”
เสียงแหบต่ำที่บอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ไหนทำเอาผมสะท้าน เป้ค่อยๆเลื่อนริมฝีปากร้อนไปตามแก้มและลำคอของผมพร้อมกับที่ปลดกระดุมเสื้อนอนเม็ดบนของผมไปเรื่อยแล้วก้มลงดูดเม้มที่บ่าอย่างแรงจนน่ากลัวว่าพรุ่งนี้จะมีรอย ขณะเดียวกันมือใหญ่ข้างหนึ่งก็รั้งขอบกางเกงนอนของผมลงแล้วลูบไล้แผ่วเบาที่ส่วนอ่อนไหวจนผมต้องจิกเล็บลงบนบ่ากว้างเพื่อระงับความรู้สึกไว้
ผมยกสะโพกให้เป้ได้รูดถอดกางเกงของผมได้ถนัดขึ้นแม้จะขลุกขลักอยู่สักหน่อยเพราะเรานอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน เป้ลุกขึ้นจัดการกับกางเกงและเสื้อของตัวเองก่อนจะนั่งลงคร่อมผมไว้แล้วลูบไล้ไปตามร่างกายผมที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อนอนติดตัวอยู่ชิ้นเดียว มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อที่เหลือแล้วก็ดึงรั้งลงจนพ้นไหล่ผมแต่ไม่ยอมถอดออกจนสุด
“วิวเซ็กซี่ที่สุดเลยรู้มั้ย”
คำชมที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นพร่าพร้อมกับริมฝีปากที่จรดลงบนหัวไหล่ทำให้ผมรู้สึกร้อนไปทั้งหน้า เป้เป็นคนปากหวานเสมอแม้ระหว่างเวลาที่มีอะไรกัน แต่ถึงจะได้ยินไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมก็ยังรู้สึกดีเพราะคนพูดพูดออกมาจากใจจริง การกระทำทุกอย่างของเป้ตอกย้ำความรู้สึกที่มีให้ผมเสมอ
เป้ค่อยๆถอยร่างตัวเองออกแล้วใช้มือร้อนลูบไล้ไปมาบนต้นขาด้านในของผม ส่วนริมฝีปากก็คอยแต่จะคลอเคลียอยู่บนแผ่นอกของผมจนผมต้องเอามือสองข้างกดศีรษะของเป้ไว้และแอ่นกายขึ้นรับสัมผัสด้วยความเสียวซ่าน ลิ้นร้อนที่เย้าแหย่บนตุ่มเนื้อทั้งสองบนหน้าอกและลากไล้ไปมาทำให้ผมหอบราวคนขาดอากาศหายใจ
“เป้...อ๊ะ”
ผมอุทานเมื่อคนเบื้องบนไล่ริมฝีปากต่ำลงไปจนถึงหน้าท้องแบนราบขณะที่มือข้างหนึ่งก็ลูบไล้ต้นขาด้านในของผมโดยระวังไม่สัมผัสกับศูนย์รวมความปรารถนาที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้นทุกที ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งเข้าไปในเรือนผมลื่นมือของเป้ขณะแอ่นร่างตัวเองมากขึ้นเพื่อให้สัมผัสกับเรือนร่างแข็งแกร่งที่ทาบทับผมอยู่
“เด็กดื้อ อยากได้อะไรทำไมไม่บอกล่ะครับ”
คนป่วยที่เริ่มไม่เหมือนป่วยเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยนัยน์ตายั่วเย้าจนผมต้องมองกลับตาเขียวแม้จะรู้ดีว่าหน้าตาของตัวเองตอนนี้คงดูแล้วไม่น่ากลัวเท่าไหร่ บางทีก็นึกอยากแกล้งงอนคนตัวใหญ่นานๆดูบ้างโทษฐานที่รู้จักร่างกายผมดียิ่งกว่าเจ้าตัวเสียอีก
“ว่าไง ไม่บอกเป้ก็ไม่รู้นะ”
ริมฝีปากร้อนของคนพูดประทับจูบบนท้องน้อยผมใกล้กับส่วนที่ต้องการให้สัมผัสจนผมสะดุ้งแล้วก็เม้มปากแน่น แม้จะรู้ตัวว่าถูกแกล้งแต่ความปรารถนาที่ต้องการระบายออกก็เรียกร้องให้ผมจริงใจกับตัวเอง
“อยาก...ให้เป้ทำให้”
“ก็แค่นั้นแหละ”
คนถูกขอยิ้มให้อย่างพอใจก่อนจะก้มลงแตะริมฝีปากที่ส่วนไวสัมผัสอย่างกะทันหันจนผมผวา มือสองข้างจิกลงบนผ้าปูที่นอนแน่นขณะที่เป้ใช้สองมือกดต้นขาผมไว้ไม่ให้กระตุกขึ้นเพราะความวาบหวามจากสัมผัสที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้
โพรงปากอุ่นร้อนปรนนิบัติความต้องการให้ผมอย่างเชี่ยวชาญด้วยความคุ้นชินในร่างกายของกันและกัน เป้รู้ว่าผมชอบให้ทำแบบไหนจากภาษากายที่แสดงออกถึงความพึงพอใจโดยไม่ต้องเอ่ยเป็นคำพูด จังหวะที่เริ่มจากช้าเอื่อยสลับกับรวดเร็วรุนแรงทำให้ผมเริ่มจะบังคับตัวเองไม่อยู่จนต้องร้องเตือนอีกฝ่ายเสียงพร่า
“เป้...ฮ้า...จะออกแล้ว”
“อือ”
คนถูกเตือนเพียงครางในลำคอ แต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกถึงการสั่นของโพรงปากที่ครอบครองผมอยู่จนภายในท้องน้อยอุ่นวาบและร่างเกร็งกระตุกไปทั้งร่างเมื่อเป้ใช้มือข้างหนึ่งช่วยรูดรั้งจนอารมณ์ของผมพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดและแตกระเบิดออกอย่างควบคุมไม่ไหวอีกต่อไป
ผมล้มตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากกล้ามเนื้อเกร็งไปทั้งร่าง เป้ยังคงใช้ปลายลิ้นร้อนเล็มไล้หยาดหยดขุ่นข้นที่ค้างอยู่บนร่างกายของผมจนหมด ร่างสูงเลื่อนตัวขึ้นมองผมที่มองกลับตาปรอยแล้วก็ก้มลงจูบบนริมฝีปากอย่างอ่อนโยนพลางจับแขนสองข้างที่อ่อนปวกเปียกของผมขึ้นคล้องคอตัวเองไว้ ผมกระสากลิ่นความต้องการของตัวเองที่ติดอยู่บนปลายลิ้นที่แทรกเข้ามาในปากจางๆแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงหรือนึกรังเกียจ ก็สิ่งนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงความพึงพอใจที่เป้มอบให้ผมนี่นา
เป้ล้มตัวลงนอนแล้วกอดผมเข้าไปแนบอก มือใหญ่ลูบหลังผมไปมาแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้นจนผมต้องผงกหัวขึ้นสบตาคนรักอย่างสงสัย
“ไม่เป็นไรหรอก เป้ทำให้วิวมีความสุขก็พอแล้วล่ะคืนนี้ สัญญาไว้แล้วนี่ว่าจะไม่ทำถึงที่สุด”
ผมเม้มปากแน่น รับรู้ได้ถึงร่างกายเบื้องล่างที่บดเบียดกับตัวเองอยู่ว่าอีกฝ่ายก็มีความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองเช่นกัน แต่เป้ไม่เคยขัดใจหรือบังคับผมสักครั้งถ้าเป็นเรื่องที่ผมขอร้อง หลายครั้งที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจอย่างตัวเองถึงได้เป็นที่รักของคนที่เพียบพร้อมแบบนี้นัก
“งั้นวิวถือว่าเป้รักษาสัญญาแล้ว จากนี้จะให้รางวัลคนป่วยคืนแล้วกัน”
ผมพูดออกไปแล้วก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งหน้า เป้เลิกคิ้วมองผมแต่แล้วก็ยิ้มให้จนผมต้องก้มลงขบที่จมูกโด่งๆนั่นอย่างมันเขี้ยว คนอะไรไม่สบายอยู่แท้ๆกลับทำตัวยั่วอารมณ์คนอื่นได้ไม่ต่างจากเวลาปกติเลย
ผมค่อยๆเลื่อนตัวลงซุกไซ้ตามลำคอและแผงอกแกร่งที่ไม่ว่าได้เห็นหรือจับต้องกี่ครั้งก็อดอิจฉาไม่ได้ เป้สะดุ้งนิดหน่อยเมื่อผมครอบริมฝีปากลงไปบนติ่งเนื้อกลมเล็กบนหน้าอกข้างหนึ่ง ขณะที่มือผมไล้ต่ำลงไปกอบกุมที่ส่วนไวสัมผัสของอีกฝ่ายที่เริ่มพองขยายตามแรงที่ส่งผ่านไปจนคับแน่นเต็มมือ
ร่างสูงยันตัวบนข้อศอกขึ้นเมื่อผมถอยร่างตัวเองต่ำลงเรื่อยๆจนสายตาอยู่ระดับเดียวกับความต้องการที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของเรือนร่างแกร่งที่ยิ้มนัยน์ตาพราวมาให้ แล้วก็ก้มลงใช้ริมฝีปากปรนนิบัติให้คนป่วยเหมือนที่ตัวเองถูกทำให้เมื่อครู่
ผมรู้ว่าผมไม่ได้เก่งกาจอะไรเรื่องแบบนี้นักเพราะเป้เป็นคนแรกและคนเดียวที่ผมเคยมีประสบการณ์ลึกซึ้งด้วย แต่กระนั้นคนรักที่ไม่ค่อยปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายต้องเหนื่อยก็ทำท่ายินดีทุกครั้งยามผมเสนอตัวเป็นคนเริ่มบ้าง ซึ่งนานครั้งเท่านั้นที่ผมจะยอมให้สักหนจนเราต่างรู้กัน ผมพยายามใช้ประสบการณ์ที่ได้จากเวลาที่อีกฝ่ายเป็นคนทำให้ตอบแทนให้กับเจ้าตัวเพื่อบอกให้รู้ว่าที่ผมยอมขนาดนี้เพราะผมมีความรู้สึกให้กับเป้มากแค่ไหน
“วิวครับ...อือ...ดีจัง...จะออกแล้ว”
เสียงบอกและหน้าท้องที่เกร็งขึ้นส่งสัญญาณว่าอีกฝ่ายกำลังจะถึงที่สุดของความปรารถนาในไม่ช้า ผมจึงเร่งภารกิจที่ทำอยู่เพื่อให้อีกฝ่ายก้าวสู่จุดหมายเร็วขึ้น เป้ยื่นมือมากดศีรษะผมไม่แรงนักขณะที่ผมเลื่อนริมฝีปากตัวเองขึ้นลงตามจังหวะที่อีกฝ่ายนำให้
“ซื้ด..วิว...เป้รักวิวนะ”
สิ้นประโยคร่างของเป้ก็กระตุกก่อนผมจะรู้สึกถึงหยาดหยดแห่งอารมณ์ที่คนรักปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ผมถอยตัวออกก่อนจะใช้ปลายนิ้วช่วยรีดเร้นความปรารถนาอุ่นข้นให้ล้นหลั่งออกมาจนสุด
อ้อมแขนแข็งแกร่งเลื่อนลงมาดึงตัวผมขึ้นไปจูบและลูบไล้แผ่นหลังที่ชื้นไปด้วยเหงื่อใต้เสื้อนอนที่ติดตัวอยู่อย่างหมิ่นเหม่ แล้วก็จูบหน้าผากผมเบาๆก่อนจะยิ้มแบบที่ทำให้ใจผมเต้นรัวเร็วขึ้นทั้งที่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้มาแล้วไม่รู้ต่อกี่ครั้ง
“แฟนเป้น่ารักที่สุดเลย”
ผมซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกกว้างด้วยความเขิน ทั้งที่ตอนที่ทำอะไรทะลึ่งๆไปเมื่อกี้ไม่รู้สึกอายเท่าไหร่ แต่พอโดนหยอดคำหวานเข้าทีไรเป็นไม่กล้ามองหน้าคนพูดทุกที
เรานั่งนิ่งในอ้อมกอดของกันและกันได้สักพักผมก็นึกขึ้นได้ว่าเป้ไม่สบายเลยรีบลุกจากเตียง แต่คนตัวใหญ่ดึงแขนผมรั้งไว้แล้วขมวดคิ้วใส่ “จะไปไหน?”
“ไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้น่ะสิ ถ้าเป้มาไข้กลับที่ห้องล่ะก็คราวนี้จะไม่ให้มาหาทั้งอาทิตย์จริงๆด้วย”
คนตัวใหญ่ยอมปล่อยมือแต่โดยดีพอได้ยินคำขู่ ผมรีบหยิบกางเกงนอนของตัวเองมาสวมให้เรียบร้อยเพราะขืนเดินไปเดินมาทั้งที่ยังกึ่งเปลือยแบบเมื่อครู่ไม่รู้คนป่วยที่มีแรงเหลือเฟือจะนึกขอให้ตามใจอะไรขึ้นมาอีก ผมทำความสะอาดร่างกายตัวเองในห้องน้ำอย่างรีบๆ แล้วก็คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นมาเช็ดคราบเหงื่อและคราบรักจากตัวของเป้จนสะอาดก่อนยื่นเสื้อผ้าให้ใส่ เป้ยิ้มตลอดเวลาที่ผมคอยดูแลจนชักนึกหมั่นไส้อยากไล่คนป่วยหน้าเป็นให้ไปนอนบนพื้นขึ้นมาตงิดๆ
ผมปิดโคมไฟหัวเตียงแล้วก็ก้าวขึ้นนอนข้างคนตัวอุ่นที่ดึงผมไปโอบเอวไว้หลวมๆ อาจเพราะฤทธิ์ยาและความเหนื่อย ไม่นานร่างสูงก็หลับใหลจนผมได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผมยกปลายนิ้วขึ้นลูบริมฝีปากบางที่ร้อนผ่าวของคนตรงหน้า แล้วจึงค่อยแตะริมฝีปากตัวเองประทับลงเบาๆโดยไม่ให้เจ้าตัวตื่นก่อนจะซุกหน้าลงพลางสอดแขนกอดคนตัวใหญ่ตอบ ไม่กล้าบอกความจริงต่อหน้าคนรักว่าที่จริงแล้วในอกรู้สึกเต็มตื้นแค่ไหนที่อีกฝ่ายฝืนขับรถมาหาทั้งที่ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้ บางทีในใจลึกๆผมอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยที่ตัวเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน
เป้ระบายลมหายใจยาวออกมาแล้วก็กอดรัดผมแน่นขึ้นเหมือนละเมอ ผมยิ้มก่อนจะเบียดตัวเองเข้าหาร่างอุ่นๆข้างกายแล้วก็หลับตาลง บางทีในดินแดนแห่งความฝันของเราสองคนคืนนี้อาจจะมีผมและเป้อยู่ในนั้นด้วยกันก็ได้กระมัง
++------++