ไอ้เชนร้องจ๊ากทันทีที่ผมอ้าปากงับหูมันเต็มแรง ไงละมรึง สยิวพอมั้ย ฮึ้ย สะจิตสุดๆ
“ไอ้ตัวแสบ เผลอไม่ได้เลย”
สีหน้ายิ้มกึ่งบึ้ง ส่ายหน้าเบาๆเหมือนระอาเด็กๆแต่มือยังไม่ยอมปล่อยเอวผม
“มรึงทำอย่างนี้ทำไม ควงน้ำหวานเย้ยกุเหรอ มั่นใจว่ากุต้องเจ็บทุกครั้งที่เห็นมรึงอยู่กับคนใหม่ใช่มั้ย”
ไม่ได้แค่แกล้งงอนหรือเล่นตัวให้มันง้อนะครับ
หนึ่งเดือนจากที่ไอ้เชนมันบอกเลิกผม หนึ่งเดือนที่มันควงคนอื่นให้ผมต้องเจ็บทุกครั้งที่ได้เห็น หนึ่งเดือนที่ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันแล้วตอนนี้กลับมาบอกว่าไม่ได้มีอะไรไม่ได้มีใคร
มันเห็นผมเป็นอะไร
ไอ้นิคโกรธจนน้ำตาแทบร่วง กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องเสียน้ำตาเพราะมัน
“กุยอมรับนะว่าตอนแรกกะจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมานิสัยอย่างมรึงขืนทำประชดใส่ก็บรรลัยกันพอดี แล้วที่เห็นว่าหวานไปไหนมาไหนกับกุบ่อยๆ มรึงไม่สังเกตดูดีๆเองต่างหาก กุไม่เคยอยู่สองคนกับหวานเลยนะ มีไอ้บูมหรือคนอื่นๆอยู่ด้วยทั้งนั้น อย่าโกรธเลยน่า นะ”
ทำเสียงอ่อน มีคำว่าน่า คำว่านะแบบอ้อนๆอีก ใจอ่อนไปกว่าครึ่งแล้วครับไอ้นิค
“มรึงจะบอกว่าคนที่เป็นแฟนน้ำหวานคือไอ้บูม” แต่ผมยังเสียงแข็งตาขวางอยู่
“ก็ไม่เชิง ตอนนี้ไอ้บูมมันจีบหวานอยู่ ส่วนหวานก็ดูโอเคดี แค่ยังไม่ตกลงกันชัดๆแค่นั้นเอง เรื่องกุกับหวานมรึงก็เข้าใจผิดไปเองทั้งนั้น กุไม่เคยพูดสักคำนะว่าหวานเป็นแฟน”
“มรึงไม่พูดแต่ก็ปล่อยเลยตามเลยเหมือนตั้งใจให้กุเข้าใจอย่างนั้น” ยังเถียงต่อครับ
“จะซักให้กุขาวเลยใช่มั้ย เออ ยอมรับก็ได้ว่ามันเป็นผลพลอยได้ อ้าวๆๆโกรธอีกแล้ว อย่าขี้งอนไปหน่อยเลยน่านิค คิดเล็กคิดน้อยไม่แมนนะ”
มีล้อเลียน ทำแซว กุเพื่อนเล่นมรึงเหรอ ผมยังตาขวางไม่เลิกไอ้เชนก็เลยยังเลิกง้อไม่ได้
“กุรู้ว่ามรึงโกรธที่เหมือนถูกทดสอบความรู้สึกอย่างนี้ กุแค่อยากมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่กุที่แคร์มรึงอยู่ฝ่ายเดียว กุแค่อยากแน่ใจว่ามรึงก็รักกุเหมือนกัน”
ริมฝีปากเลื่อนขึ้นแตะที่ข้างแก้ม มือข้างหนึ่งก็ลูบเบาๆที่แผ่นหลังเป็นการเอาใจเพราะรู้ว่าคนในอ้อมแขนกำลังรู้สึกยังไง
เราสองคนสบตากันนิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนที่ผมจะเอ่ยปาก
“คนอย่างกุที่ไม่เคยง้อใคร คนอย่างกุยอมพูดคำว่าขอโทษ แค่นี้มรึงยังไม่รู้อีกเหรอวะ”
“รู้ กุรู้ เพียงแต่ไม่แน่ใจ ทั้งที่กุพยายามจะอธิบายแต่มรึงกลับไม่ยอมฟัง มรึงทำเหมือนไม่แคร์กุเลยสักนิด”
อันนี้ไอ้นิคไม่พูดอะไรครับ ยอมรับว่าตัวเองก็ผิดเต็มๆที่ทำอะไรไปโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของไอ้เชน แต่ปกติผมคงไม่เป็นคนดีสำนึกผิดอย่างนี้หรอกครับถ้าไม่เจอเข้ากับตัวเองตอนที่พวกแฝดพากันมาป่วนเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร
“แต่ตอนนี้กุแน่ใจแล้วนะ แล้วมาแน่ใจสุดๆตอนที่มรึงกัดหูกุแทบขาดนี่แหละ”
“ทำไมวะ”
ไม่เข้าใจครับว่าไอ้อาการแก้แค้นโดยการงับหูของผมนี่มันไปทำให้ไอ้เชนมั่นใจได้ตรงไหน
“ก็ที่กัดอย่างนั้น มรึงจะบอกเป็นนัยๆว่ารักกุแบบกัดไม่ปล่อยเลยใช่มั้ยล่ะ”
อ้วกกกกกก อยากอ้วกดังๆแต่ไม่มีอะไรเหลือในกระเพาะแล้ว ไอ้นิคในที่สุดก็เก๊กหน้าไม่สำเร็จ สำลักความเสี่ยวไอ้โย่งจนต้องหัวเราะลั่น น้ำตาที่ปริ่มๆจะไหลไม่รู้หายไปไหนหมด คิดได้ไงวะ ไม่ได้หัวเราะเพราะมุกมันขำนะครับ อย่างนี้เขาเรียกมุกไม่ฮาพาเพื่อนเครียดเสียมากกว่า ทำไปได้นะไอ้เชน นี่ถ้าไม่หล่อล่ะดับสนิทแน่
“ตกลงเราคืนดีกันแล้วนะ”
ยิ้มหวานแล้วก้มลงกดจมูกหอมแก้มไอ้นิคแรงๆเหมือนหมั่นเขี้ยว อะไรๆ กุไปคืนดีกับมรึงตอนไหน
“นะครับ”
พอแล้ว ไม่ต้องยิ้ม รู้แล้วว่าหล่อ กุแสบตา ผมกำลังจะแกล้งมัน บอกว่ายังไม่หายโกรธเพราะอยากเล่นตัวอีกหน่อยแต่ไม่มีโอกาสแล้วล่ะครับ ไอ้โย่งมันลามปามจากหอมแก้มมาจูบปิดปากผมซะงั้น เอาเท๊อะ ก็ได้วะ ถือว่ากุทำเพื่อความสงบสุขของชาวโลกนะว้อย
ไอ้นิคแอบยิ้ม ขยับริมฝีปากจูบตอบแบบไม่ให้น้อยหน้า ย้ำกับตัวเองในใจว่าถึงจะไม่รู้ว่ารักครั้งนี้จะยาวนานสักแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่รู้และแน่ใจคือ ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือไปจากคนตรงหน้าคนนี้ง่ายๆแน่ ก็อย่างที่ไอ้เชนมันว่านั่นแหละ รักแบบกัดไม่ปล่อยยังไงล่ะครับ 55
จบ........
ดีมั้ย
ยังๆ อีกนิดแล้วกันน่า ก็ถึงจะคืนดีกันแล้วแต่ถ้ายอมง่ายๆก็เสียชื่อไอ้นิคหมดสิ
“งั้นฉลองคืนดีกันหน่อยมั้ย” เสียงหื่นเลยกุ เคี๊ยกๆ
จากที่นั่งตักไอ้โย่งอยู่ผมก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายผลักเชนลงบนเตียง ผิวขาวๆของมันมีรอยแดงทุกที่ที่ริมฝีปากของผมกดจูบแล้วลากผ่านไปยังจุดต่างๆไม่ว่าจะเป็นซอกคอ หัวไหล่ แผ่นอกกว้าง และจุดสำคัญ เปล่าน่า ผมไม่ได้วกขึ้นไปกัดหูมันแล้วล่ะ ไอ้นิคยิ้มใส่ตาไอ้เชนเอาแบบที่คิดว่ายิ้มนี้มั่นใจว่ากระชากอารมณ์(หื่น)สุดๆ 555
ผมก้มลงงับเบาๆที่ยอดอกจนไอ้เชนครางอือ มือไม้มันก็วุ่นวายไม่แพ้ผม จับตรงนั้นแตะตรงนี้ไม่ให้มีเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
“ให้กุนะเชน”
ผมทำตาเยิ้มกระซิบเสียงพร่า กางเกงยีนส์ไอ้เชนไม่รู้มันถอดตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้น้องชายเราทักทายกันร้อนแรงคงเพราะไม่ได้เจอกันนาน
ใช่.... เพราะเราไม่ได้เจอกันนาน คุณเลยตั้งหน้าตั้งอ่านกันใช่มั้ยล่ะ โธ่...คนเขาจะสวีทวี้ดวิ้วกันก็นั่งอ่านกันอยู่นั่นแหละ รู้ว่าคนเขียนมันอู้ พอมันอัพเลยตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันใหญ่เลยใช่มั้ย เอาล่ะๆ ตอนนี้ขอผมเกลี้ยกล่อมให้ไอ้เชนมันเคลิ้มแล้วลืมตัว แล้วคราวนี้ก็ถึงทีของไอ้นิคเสียที วะฮ่าๆๆๆๆ รอโอกาสนี้มานานแล้วว้อย ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันของผม
“ของอย่างนี้มันต้องแล้วแต่ฝีมือนะตัวแสบ”
ไอ้เชนหยัดตัวขึ้นจูบกลางหน้าผม ก่อนจะฝังจมูกลงที่ซอกคอแล้วไล้ลิ้นเบาๆเล่นเอาไอ้นิคเคลิ้มซะจนเกือบเสียตำแหน่ง ไงล่ะๆ พวกคุณอยากชวนผมคุยดีนัก เอาเป็นว่าขอไปอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคนก่อนแล้วกัน เอาไว้โอกาสเหมาะๆไอ้นิคจะแอบมาเล่าให้ฟังแล้วกันว่าผมเผด็จศึกไอ้เชนยังไง ฮ่าๆๆๆๆ วันนี้ขอตัวจริงๆ เอาล่ะ เริ่มจากตรงไหนก่อนดี มามะ น้องเชน มาเป็นของพี่นิคเสียดีๆ
จบแล้วจ้า
จบจริงๆ
<< วิ่งหนีรองเท้า กาละมัง ถ้วยชาม ตะหลิว ทัพพี ตามแต่พี่น้องจะขว้างใส่ด้วยความค้าง ไว้มีเวลาจะเขียนตอนพิเศษมาเซ่นแล้วกันน่อ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกรีฯ ที่ทั้งให้กำลังใจ ทวง แช่ง และอ้อนวอน 55 ให้คนมันมาต่อตอนจบได้แล้ว วันนี้มาแล้ว มาปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์ ขอบคุณพื้นที่เล้าเป็ดที่แสนจะอบอุ่น ขอบคุณโมฯทุกท่านที่ช่วยดูแลใส่ใจทั้งนักเขียนนักอ่าน
และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณแควนๆนิคเชนมากๆค่ะ เรื่องนี้คงจะไม่จบ(เพราะคนเขียนมันอู้)ถ้าไม่มีคุณๆคอยตามทวง
และให้กำลังใจ ขอบคุณจริงๆค่ะ มีความสุขที่ได้เขียนเรื่องนี้
ป้าจุใจ
ป.ล. ตกลงว่าเชนมันเสียซิงรึเปล่าเนี่ย
เดาเอาเองเด้อค่ะเด้อ