[ต่อ]
[พิงค์]
“จะนั่งมองอีกนานมั้ย ไม่รับให้มันจบๆ ไปวะ” เสียงห้าวๆ เอ่ยถามพลางยื่นเท้ามาเขี่ยขาพิงค์อย่างหยาบคาย หันไปมองหน้ามันค้อนๆ แล้วสะบัดหน้าใส่มันหนึ่งที
“กูเครียดอยู่นะโว้ย ประสาทกูจะแดกแล้วเนี่ย” นั่งมองจอโทรศัพท์ที่ดับไปอีกครั้ง ก่อนจะสั่นอีกครั้งด้วยเบอร์เดิมๆ ที่โทรเข้ามา อ๊าย ช่วงนี้ชีวิตพิงค์มันอยู่ในเกณฑ์ดวงตกรึยังไง!
“เงียบๆ ดิจะอ่านการ์ตูน” กรี๊ด พิงค์อยากจะกรี๊ด อิคนใจดำ!!
“มึงไม่คิดจะช่วยกูเลยนะนัท ไม่ช่วยแล้วยังจะซ้ำเติม” ค่ะ ได้ยินไม่ผิดหรอก ตอนนี้พิงค์นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงไอ้นัท ถ้าถามว่าคืนดีกันได้ยังไงต้องยกความดีความชอบให้กับมีน สาวสวยสุดที่รักของไอ้นัทที่เป็นคนเข้ามาประสานรอยร้าวระหว่างเรา เอ้ย ระหว่างพวกเราสามคนให้
แต่ไอ้นัทก็ยังเป็นไอ้นัท มันไม่หือไม่อือกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่ซันกับอิบีทส์ แต่จะเลิกโกรธเกลียดในสิ่งที่อิบีทส์ทำ หลังจากที่มันยอมรับฟัง ย้ำ!! ยอมรับฟังความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากพี่ซัน
“มึงคิดว่ามันจะเลิกแน่เหรอ” ไอ้นัทเปิดปากถาม คนสวยได้แต่ส่ายหัวส่งไปให้ กูไม่รู้โว้ย ถ้ารู้กูจะกลุ้มแบบนี้มั้ย ตอบ!!
“มันตั้งใจว่าจะเลิก”
“แล้วอีกฝ่ายเขายอมเหรอ” ไอ้นัทถามต่อพลางลดหนังสือการ์ตูนลงแล้วมองพิงค์ลอดแว่น โอ๊ย ถ้ายอมเลิกดีๆ จะโทรจิกกูทุกวันแบบนี้มั้ยคะเพื่อน!!
“กูไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน นั่นก็เพื่อน นี่ก็สุดที่รักกู” พิงค์ตอบเสียงเครียด เรื่องที่เพื่อนตัวเองเจอมาเกี่ยวกับพี่รหัสมันกับคุณนายแม่ผัว พิงค์ก็ไม่กล้าเล่าให้พี่ซันฟังเพราะอิเพื่อนรักมันสั่งนักสั่งหนาว่าห้ามบอกเด็ดขาด แล้วแบบนี้กูควรทำยังไง หนีไปอีกคนซะเลยดีไหม
“ฮะๆ พี่มันกัดไม่ปล่อยเลยว่ะ” ไอ้นัทพูดขำๆ
“เออ กูก็ไม่คิดว่าพี่ซันจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่พี่มันจะไปหาคนดีๆ กว่าอิบีทส์ก็ได้ ทั้งคนใกล้ตัวและคนไกลตัวอื่นๆ อีกเยอะแยะ” ที่พูดไปนั้นไม่ได้เป็นการประชดประชันแต่อย่างใด แต่กลั่นออกมาจากใจล้วนๆ ค่ะ
“คนของเราก็คงสับสนน่าดู กว่าจะตัดสินใจทำแบบนี้ได้” ไอ้นัทออกความเห็นบ้าง พิงค์ยิ้มเมื่อเห็นแววตาหวั่นไหวจากมัน ก็เมื่อก่อนคนที่คอยปกป้องบีทส์มันก็ไอ้นัทนี่แหละโอ๋ยิ่งกว่าลูก
“เออเนี่ยมีแต่เรื่อง กูล่ะกลุ้มแทน” พิงค์บ่นหน้าเครียด
“มันอาจจะเป็นผลจากการกระทำของมันก็ได้ บีทส์มันแย่งของๆ คนอื่นมานะมึง อีกอย่างมันก็เข้าข่ายทำให้คนอื่นเสียใจด้วย ถ้ามันจะโดนคืนบ้างก็คงต้องยอมรับตามนั้น แต่นี่ก็ยังถือว่าโชคดีที่คนของมันยังมั่นคงไม่ยอมปล่อยให้จบง่ายๆ” ไอ้นัทออกความเห็น พิงค์พยักหน้ารับเนือยๆ แม้จะนึกแย้งอยู่ในใจว่าเวรกรรมบ้าบออะไร เรื่องของความรักมันบังคับให้ใครรักใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อเจอคนที่ใช่กว่าแล้วเลิกรากันไปเพื่อมาคบอีกคนมันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ
“ก็คงจะอย่างนั้น แต่กูก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้หรอกนะเว่ยเพื่อนทั้งคน”
“แล้วน้องมันว่าไงบ้าง” ไอ้นัทถามต่อพิงค์ถอนหายใจอีกครั้ง ไบร์ทจะว่าอะไรได้
“อีกไม่กี่วันบีทส์มันก็ต้องกลับมาเผชิญความจริงอยู่ดี” ไอ้นัทว่าเสียงเรียบ พลางหยิบคุกกี้ใส่ปากชิวๆ แล้วใช้หลังมือดันแว่น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ไปเปิดดิ” ไอ้นัทเอาขาเขี่ยตัวพิงค์อีกที โอ๊ยอินี่กูเพื่อนมึงนะ!
“นัทมีรุ่นพี่มาหา” หลังจากเดินไปเปิดประตู แม่ไอ้นัทก็ยื่นหน้ามาบอก พิงค์กับไอ้นัทหันมามองหน้ากันงงๆ รุ่นพี่ที่ไหนวะ รู้จักบ้านไอนัทด้วย
“ซวยแล้วมึง” หลังจากก้าวขาเดินนำไอ้นัทลงบันไดไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นก็ต้องรีบถดขากลับ หลังจากเห็นบุคคลที่เป็นรุ่นพี่นั่งอยู่ที่โซฟารับแขกอยู่สองคน เก่งจังเลยตามหากูเจอด้วย ไม่ๆๆ ไม่ใช่เวลามาชื่นชม กรี๊ด!!
“พิงค์” ฮือ อย่าเรียกพิงค์...พิงค์ไม่รู้ พิงค์ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อุตส่าห์หนีมาอยู่บ้านไอ้นัทแล้วยังตามเจออีก โอ๊ย คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วย
“มีอะไรวะ” ไอ้นัทเลิกคิ้วถาม
“นัทถ้ากูโดนบีบจนตาย มึงอย่าลืมเผารูปผู้ชายส่งไปให้กูด้วยนะ” พิงค์บอกมันเสียงสั่นๆ ไอ้นัทส่ายหัวหน่ายไม่สนใจ
“อ้าวพี่ซันมาได้ยังไงพี่” ไอ้นัทชะเง้อมองไปทางด้านหลังของพิงค์แล้วร้องทัก ก่อนจะยกมือไหว้ทักทายบุคคลที่ยืนอยู่ข้างหลังพิงค์ หนีไม่ทันแล้ว ฮือ ตายแน่กู
“เอาล่ะ...มานั่งคุยกันดีๆ นะ” พี่ซันเกริ่นเสียงเข้ม หลังจากที่พิงค์ทำท่าจะนั่ง โอ๊ย ตูดยังไม่ถึงพื้นเก้าอี้เลยค่ะ จะทำเสียงโหดไปไหนพ่อสุดหล่อ!
“เอ่อ...พี่ซัน สวัสดีค่ะ พี่หมอสวัสดีค่ะ แหม...ยกกันมาถึงบ้านไอ้นัทขนาดนี้แสดงว่ามีธุระสำคัญกับไอ้นัทใช่มั้ยคะ เชิญเลยค่ะเชิญคุยกันตามสบายพิงค์จะไม่อยู่กวนให้รกหูรกตาเลยแม้แต่นิด” พิงค์ส่งยิ้มเกรงอกเกรงใจเตรียมถอนทัพ
“สามอาทิตย์มาแล้วนะ”
พิงค์ชะงักขา เหลือบมองพี่ซันแล้วก็ต้องหดหัว สายตาพี่ซันบ่งบอกว่าความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว ถ้ายังเล่นตัว อาจจะไม่ได้ตายดี หนาวสันหลังเลยค่ะแม่ขา ฮือ อ ยอมแล้วค่ะพิงค์ยอมนั่งแล้ว
“กว่าสามอาทิตย์ที่พี่ยอมอดทนรอเฉยๆ มันหมดเวลาแล้วพิงค์” พี่ซันขยายความ พี่หมอที่มาด้วยกันตบไหล่พี่ซันก่อนจะลุกขึ้นยืน ไอ้นัทเลยทำท่าจะลุกตาม
หมับ!
“ปล่อยกู” ไอ้นัทกระซิบรอดไรฟัน เชี่ย อย่าทิ้งกูสิ กูเพื่อนมึงนะเว้ย ไอ้นัทพูดพลางแกะมือพิงค์ออกจากเสื้อมัน
“เอ่อ...แฮ่ๆ” ได้แต่หันมามองพี่ซันด้วยท่าทีกระมิดกระเมี้ยน ไม่ตลกเลยเหรอ โอ๊ย กูไม่เอาแล้วนะอิบีทส์โหมดนี้ของพี่ซันมึงมาเจอเอง กูไม่เอาแล้ว
“พี่ไม่ได้มาคาดคั้นอะไรแค่ตอบคำถามของพี่ตรงๆ ก็พอ”
++++++++++++++++++++++++
[ซัน]
“มึงจะไปคืนนี้เลยเหรอ” เสียงไอ้อาร์ตถาม ผมพยักหน้ารับขณะกำลังจัดของใส่กระเป๋าลวกๆ ไม่ได้คิดจะเอาไปเยอะ กะว่าถ้าเจอตัวก็จะลากกลับมาเคลียร์กันที่กรุงเทพทีเดียวเลย
“ถ้าน้องมันเซย์โนขึ้นมาอีกล่ะ” ไอ้อาร์ตตั้งคำถาม มือที่กำลังจัดกระเป๋าอยู่ชะงักพร้อมกับใจที่หล่นฮวบไปอยู่ปลายตีน
“ถ้ามันมีเหตุผลมากพอกว่าที่มันเขียนลงในกระดาษหยาบๆ ใบนั้น กูอาจจะยอมฟังก็ได้” ผมหันไปตอบ
“หึ ไอ้คนดี ปากพูดดี แต่ตามึงไม่ได้บอกกูแบบนั้นเลย มึงพร้อมจะฟัดน้องมันทันทีที่เจอตัวด้วยซ้ำ” ไอ้อาร์ตดักทาง ผมแสยะยิ้มแล้วยักไหล่
“มึงจะขับรถไหวเหรอวะอดหลับอดนอนมาหลายวัน กูว่ามึงพักสักวันแล้วค่อยไปมั้ย กูไปด้วยไม่ได้เพราะมีเข้าเวร ไอ้สองก็ไปเฝ้าไอ้น๊อตมันเป็นไข้เลือดออก” ไอ้อาร์ตท้วง ผมส่ายหัวเพราะรู้ว่าตัวเองยังไหว อีกอย่างระยะทางจากกรุงเทพไปราชบุรีไม่ได้ไกลมากขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง
“ไม่เป็นไร กูขับไหว”
“งั้นถึงแล้วโทรบอกกูด้วยแล้วกัน ไบร์ทฝากบอกว่าถ้าเจอพี่เขาอย่าทำอะไรรุนแรง” ไอ้อาร์ตพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเอ่ยบอกถึงคำฝากฝังของแฟนมัน
“ทำไมทุกคนถึงพูดเหมือนกันขนาดนี้” ผมพูดขำๆ พลางนึกไปถึงคนที่ผมพึ่งไปคาดคั้นเอาคำตอบมา ก็พูดแบบนี้ก่อนที่ผมจะออกมา พิงค์ไม่ได้บอกอะไรมาก เจ้าตัวเพียงแค่ให้ที่อยู่ผมมาแล้วบอกว่าอยากรู้อะไรให้ไปถามกับบีทส์เอง
ผมได้แต่พยักหน้ารับส่งๆ โดยไม่รับปากหรือตอบรับคำขอ
“มึงรู้ตัวมั้ยว่ามึงหน้าโหดแค่ไหนตอนนี้” ไอ้อาร์ตชี้หน้าผม
“หึ…”