มาก่อนเวลาครับ บทที่ 8 นี้ เป็นครั้งแรกที่บิ๊กกับแทนจะได้เริ่มทำความรู้จักกันจริงจังละครับ
บทนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ทำให้ชีวิตของบิ๊กในบทต่อๆ ไปจากนี้ เปลี่ยนไปครับ
**********
Chapter 8ผมรู้สึกจิตตกอย่างบอกไม่ถูก ตามองวีดีโอบทเรียนอยู่ แต่ใจมันแปลกๆ เพื่อนเรียนพิเศษข้างผมยังคงจดต่อไป ก่อนเข้าเรียน เพื่อนข้างๆ ก็พึ่งเอาสรุปบทเรียนของวันศุกร์ที่ผมไปสะบักสะบอมจนหลับซบไหล่เค้าให้ผมมาให้แล้ว...ทำไมผมจิตตกเหรอ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากผมได้กับแพรวแล้ว วันอาทิตย์ทั้งวัน แพรวไม่รับสายผม ไม่ตอบข้อความอะไรที่ผมส่งไปจนถึงเวลานี้...
หัวดินสอถูกเคาะลงช้าๆ เน้นๆ ลงบนหน้ากระดาษ จดบ้างเท่าที่สติจะจับใจความได้ เหลือบไปมองข้างๆ ว่าจดไปถึงไหน บางทีก็เจอเค้าหันมาพอดี ทุกรอบที่หันมา มีรอยยิ้มเล็กๆ ของเค้าให้ผมตลอด ผมเปิดโทรศัพท์ดูเป็นระยะว่า มีโทรมาไหม มีข้อความตอบกลับมาไหม จนถึงพักครึ่ง ผมลงไปโทรหาแพรว เยส!!! แพรวรับสายแล้ว
“ฮัลโหล เป็นอะไรเปล่า เห็นแพรวเงียบไปเป็นวันๆ” ผมรีบออกตัวด้วยความว้าวุ่นใจ
“มึงเป็นใคร!!!” เสียงที่ตอบกลับไม่ใช่เสียงผู้หญิง เสียงผู้ชายอายุน่าจะไม่เกินรุ่นๆ กับผมนี่แหละ ผมตกใจนิดหน่อย ก่อนจะรวบรวมสติแล้วคุยต่อ
“ขอโทษนะครับ นี่เบอร์แพรวใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ผมต้องการคุยกับแพรว” ผมมั่นใจว่าไม่ได้โทรผิดแน่นอน
“มึงเป็นอะไรกับแพรว” ถ้ามันคุยอยู่ตรงหน้า ผมจะชกมันให้หายคันมือก่อน กลั้นไว้ไอ้บิ๊ก กลั้นไว้
“ผมเป็นแฟนแพรวครับ” ชัดเจนไหม ไอ้สัด!!!!
“แพรวเป็นแฟนกู แล้วเค้าให้บอกมึงว่า อย่ายุ่งกับเค้าอีก และจำไว้นะ เลิกโทรมา และอย่าให้กูเจอหน้ามึง ไม่งั้นได้พิการแน่นอน” เปรี้ยง!!! ความอดทนผมเริ่มขาดไปอีกเส้น
“เรื่องต่อยคน อย่าดีแต่ขู่ ตอนนี้เลยก็ได้ เอาไหมละ? แล้วก็ กูจะเชื่อได้ไงว่ามึงเป็นแฟนแพรว มั่วหรือเปล่า?” เส้นอดทนผมที่เหลือไม่กี่เส้น บอกให้ผมเจรจาก่อน
“กูรู้จักมึง ระวังตัวไว้แล้วกัน อย่ายุ่งกับแพรว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวหรือตายก่อนเวลา” สายถูกตัดไป...ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋าช้าๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่มาจุดอีกมวน ไฟแช็ค Zippo ลายปีกนางฟ้า ผมถูกเหวี่ยงฝาเปิดมาจุดไฟ ก่อนจะเหวี่ยงปิดจนเสียงเหล็กกระแทกกันดังมาก
อารมณ์ผมตอนนี้ไม่ได้โกรธนะ แต่...สับสนบอกไม่ถูก แพรว ผู้หญิงที่น่ารัก สุภาพ เรียนเก่งอันดับต้นๆ ของโรงเรียน เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายโรงเรียน กำลังทำให้ผมเป็นแค่หนึ่งในคอเลกชั่นสะสมเหรอ? ไม่หรอกมั่ง แล้วผู้ชายที่พูดในสายนั้นใคร บอกรู้จักผมด้วย? เอาไงดีวะเรา ที่แน่ๆ ผมต้องการฟังจากปากแพรวเองเท่านั้น
ไม่งั้นผมจะไม่เชื่อในสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นกับผมแน่นอน
………………..
เลิกเรียนแล้ว เป็นอีกวันที่ไม่เข้าหัวอะไรเลย ตอนนี้ในกลุ่มแชทของเพื่อน กำลังคุยไรกันไม่รู้ ผมไม่มีอารมณ์จะอ่าน เพื่อนเรียนพิเศษผมส่งสรุปของวันนี้ให้ผมอ่านหลังจบคาบ ฟังไปสรุปไปนี่นะ เทพจริงๆ ในหัวผมตอนนี้ยังมีคำถามเรื่องแพรววนไปวนมา จนผมคิดไม่ออกจะเริ่มไงดี งั้นผมไปตั้งหลักที่ประจำผมก่อนละกัน
“ไง ไอ้คุณชาย มาเป็นหมาหงอยเลยนะ” เฮียโบ้ครับ ถ้าไม่ติดว่าเฮียเป็นเฮีย ผมจะทุบร้านนี้ทิ้งเพราะเฮียพูดไม่เข้าหูผมมากๆ
"มีเรื่องให้เฮียช่วยหน่อย" ผมเกลียดหน้าหมีๆ ของเฮียที่ยิ้มสะใจแบบนี้
"ผมได้กับแพรวแล้วนะ" เฮียพยักหน้าแบบเรียบเฉย
"ปัญหาคือ หลังจากนั้น เค้าไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความผม โทรติดก็เจอคนบอกว่าเป็นแฟนแพรว แถมท้าต่อยผมด้วย" เฮียหันไปหยิบชาเขียวในตู้เย็นมาให้ผม เฮียเลิกยิ้มยียวนผมได้ปะ รู้นะว่าซ้ำเติมอยู่
"เอางี้ เดี๋ยวเฮียลองโทรให้" เฮียหยิบมือถืออีกเครื่องมาโทรให้
"ถ้าสายติด มาฟังนะว่าใครรับสาย" ผมกดเบอร์แพรวให้เฮียโทร เสียงรอสายดีงออกจากลำโพง ก่อนที่ปลายสายจะรับ เฮียเอามือมาปิดปากผมอย่างรวดเร็วก่อนที่ผมจะอ้าปากถาม
"ฮัลโหล ขอสายแพรวฮะ" ผมเกือบจะหลุดขำที่เฮียทำเสียงใหญ่ๆ ให้ออกมาเป็นเสียงผู้หญิง
แพรว : "พูดอยู่ค่ะ" นั้น!!! แล้วคนที่รับสายก่อนหน้าคืออะไร!!!
“อุ๊ย โทรผิดฮะ แต่ชื่อเหมือนเพื่อนเราเลย ขอโทษด้วยนะ” เสียงใหญ่ๆ ของเฮีย ที่พยายามทำเป็นเสียผู้หญิงคิกขุ ทำให้ผมกลั้นขำเกือบไม่อยู่ ทั้งที่ผมกำลังเครียดแท้ๆ
แพรว “งั้น ถ้าไม่มีอะไร วางละนะ” แล้วแพรวก็วางสายไป เฮียโบ้ไอกระแอ่มๆ อีกนิดหน่อย เพื่อปรับเสียงให้กลับมาปกติ แต่ก่อนอื่น....
“ฮาๆๆ อุอา ฮาๆๆ ฮาๆๆๆ” ผมหัวเราแบบนอนสต็อปมาก เพราะตั้งแต่รู้จักกับเฮียมา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเฮียทำเสียงอะไรแบบนี้ เฮียโบ้โบกมือตบหัวผมเต็มๆ
“ช่วยเช็คให้แล้ว ยังจะหัวเราะหาพระบิดาเหรอครับคุณชาย” เฮียลุกขึ้นเอาไม้ขนไก่ขนาดเล็กไล่เปิดตู้ปัดฝุ่นนาฬิกาที่โชว์อยู่
“เฮียว่าผมเอาไงต่อดีอะ” ความฮาหายไป กลับมาเข้าประเด็นกันต่อ
“เอางี้ ถ้าแพรวของแกเป็นผู้หญิงล่าแต้ม หรือมีอะไหล่สำรอง ลักษณะไลฟ์สไตล์จะไม่ต่างกับที่มีกับแกหรอก” เฮียทิ้งคำใบ้อีกละ แต่ก็จริงนะ
“หรือเวลามึงจะฟันใครสักคน แกก็ใช้มุขเดิมๆ แต่ดัดแปลงให้เข้ากับลักษณะคนๆ นั้นใช่ไหมละ” เฮียยังคงปัดฝุ่นต่อไป ผมคิดสักครู่นิ่งๆ ก่อนจะลุกขึ้นหยิบหมวกกันน็อคและสวมถุงมือ
“ขอบคุณเฮียครับ ผมได้คำตอบละ” เฮียยังคงปัดฝุ่นต่อไป จึงยกมือเหนือหัวเป็นการบอกลา ผมใส่หมวกกันน็อค แล้วควบน้องถ่านออกจากสยามโดยไว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกับการจราจรตอนคนเลิกงาน ผมมาถึงบ้านแพรวแล้ว แต่ผมขับไปจอดหลบเสาไฟฟ้า แล้วแอบในมุมที่กะว่าจะได้เจอแน่ๆ ถ้าแพรวกลับมาคนเดียว ผมจะวิ่งไปคุย แต่ถ้ามากับผู้ชายอื่น ผมจะสะกดรอยผู้ชายคนนั้นต่อ
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มี MINI รุ่นล่าสุดสีเหลืองมาจอดที่หน้าบ้านแพรว ผมควักมือถือแล้วซูมถ่ายภาพไปเรื่อยๆ แพรวลงมาจากรถ คนขับมินิเป็นผู้ชายวัยประมาณปีสองมหาลัยฯ แล้วคนขับมินิก็หอมแก้มแพรวอีกสองฟอด ก่อนจะโบกมือลากัน ถ้าผมมีปืนในมือตอนนี้ ผมจะรัวหมดแม็กใส่คู่นี้แน่นอน ได้เวลาสะกดรอยละ
ผมขับน้องถ่านตามมินิสีเหลืองคันนี้ห่างๆ ภาวนาอย่าขึ้นทางด่วนเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะสืบต่อไม่ได้ว่ามันเป็นใคร แล้วมันก็เป็นอย่างว่า มินิคันนั้นเลี้ยวเข้าด่านจ่ายเงินขึ้นทางด่วนไปเรียบร้อย จบกัน ตามได้แค่นี้เอง อย่างน้อยก็ได้ทะเบียนรถมันมาแล้ว เดี๋ยวไปตามต่ออีกทีละกัน
สงสัยจะเป็นกรรม เป็นนักล่าแต้มที่อยากหยุดล่าแต้ม เจอกับสาวล่าแต้มมืออาชีพเหมือนกัน....
………………..
วันนี้วันพฤหัส วันสุดท้ายของการปิดคอร์ส แล้วอีกไม่กี่วัน ก็จะเปิดเทอมแล้ว ไม่แน่ใจว่าคุณชายที่นั่งเรียนข้างผม เอาสรุปบทเรียนผมไปอ่านเปล่า หรือตอนนี้เป็นกระดาษลอยปลิวหายไปแล้ว ไม่เป็นไร ผมทำสรุปทั้งเล่มมาให้แล้ว เข้าเล่ม ทำปกให้อย่างดี เขียนด้วยลายมือตัวเองล้วนๆ ส่วนบทสุดท้าย ผมลงทุนวิ่งไปเรียนรอบเช้าที่สาขาอื่น เพื่อเอามาทำสรุปให้ทันตอนกินข้าวเที่ยง แล้วรอให้เลยแหละ
ขออย่างเดียว มาเรียนนะ อย่าหายไปละ...ไม่งั้นผมคงรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วๆๆ ผมยังยืนรออยู่ริมฟุตบาทหน้าที่เรียน ผ่านไปห้านาทีที่ต้องเข้าเรียนแล้ว ยังไม่มาอีก งั้น ผมขึ้นไปรอที่ห้องละ
มองดีๆ คนที่กำลังเดินข้ามถนนมา นั้นไง!!! มาแล้ว ไขโย!!! ผมรีบขึ้นไปนั่งประจำที่ในห้องโดยไว แล้วหยิบทุกอย่างขึ้นมาตั้งโต๊ะให้เหมือนผมมาเรียนนานแล้ว ไม่ถึงห้านาทีต่อมา คุณชายของผมก็มานั่งข้างๆ แต่สังเกตอยู่ว่า ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา สายตาโหดกว่าปกติ จนทำเอาใครหลายคนไม่กล้าสบตา อยากถามนะ ว่าเป็นอะไรเปล่า...
ผมนั่งเช็คอีกทีว่าสรุปที่ผมทำมาถูกต้องไหม หรือจะเพิ่มตรงไหนเข้าไปให้ดี บางจุดผมก็ลบแก้คำอธิบายให้ง่ายขึ้น เหลือบมองคุณชายแล้ว ก็เอาแต่เคาะดินสอไปมา วันสุดท้ายนี้ไม่มีพักครึ่ง เพราะแค่สองชั่วโมงนิดๆ ก็จบละ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า สรุปเล่มนี้ที่ผมทำมา เพื่อนข้างๆ ผม น่าจะอ่านเข้าใจแน่นอน
“ขอให้ทุกคนทบทวนที่เรียนไป และโชคดีในการเรียนนะคะ” เป็นสัญญาณของการปิดคอรส์อย่างเป็นทางการ
นี่คือเวลาที่ผมกำลังรวบรวมความกล้าที่สุดในชีวิตอีกครั้ง ผมยอมรับว่าผมกลัว...ผมไม่แน่ใจเลยว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ มันจะเป็นอย่างไร แต่จากนี้ไป ผมตัดสินใจแล้วว่า
“เออ...โทษนะ” น้ำลายในคอผมมันฝืดอย่างบอกไม่ถูก คุณชายข้างๆ ผมหันมามองหน้าผม
“เราทำสรุปทั้งเล่มมาให้อะ” ผมยื่นสมุดสรุปที่พึ่งไปเข้ารูปเล่มมาสดๆ ร้อนๆ คุณชายรับไปเปิดดู สีหน้าเค้าดูประหลาดใจเล็กน้อย
“แล้วที่เรียนวันนี้ละ” คำถามคุณชาย ทำให้ผมต้องเปิดบทสุดท้ายให้ดูว่าผมก็ทำมาเรียบร้อยแล้ว
“เอ้ย!!! เทพเกิ้น” รอยยิ้มของคุณชายที่กำลังเก็บสมุดสรุปบทเรียนลงกระเป๋า ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก อยากให้เค้ายิ้มเยอะๆ ดูไม่น่ากลัวเท่าหน้าเค้าตอนนิ่งจริงๆ
“เออ ชื่อไรเหรอ” น้ำลายในคอผมฝืดหนักกว่าเดิม ผมตื่นเต้นกับการถามคำถามง่ายๆ แค่นี้
“บิ๊ก แล้วนายอะ” ผมจะอ้าปากตอบก็ไม่ออก ใจผมสั่นรัวเป็นกลองที่ได้รู้จักเค้าซะที หลังจากนั่งเรียนมาเกือบเดือน
“เราชื่อแทน” บิ๊กยื่นมือมาเช็คแฮนด์กับผม มือของบิ๊กนุ่มอย่างบอกไม่ถูก แถมอุ่นนิดๆ วินาทีที่ผมจับมือบิ๊ก ผมพิจารณารูปกายได้เต็มๆ บิ๊กสูงกว่าผมเล็กน้อย ตัวใหญ่กว่าผม ที่คิ้วมีแผลเป็นจากการเย็บ เล็กน้อย แต่นั้นยิ่งทำให้เข้ากับใบหน้าของบิ๊กที่ขาว ตี๋ ผมทรงสกินเฮดที่เกลี้ยงเกลา แว่นตาทรงเหลี่ยมพลาสติกสีดำของ Oakley เสื้อโปโลแบรนด์เนมที่ยัดเข้าไปในกางเกงยีนส์เดฟพับขา คาดด้วยเข็มขัดหนัง LV และรองเท้าบูทหนังกลับ จนผมเผลอลืมปล่อยมือจากบิ๊กไปชั่วขณะ
“เป็นไรเปล่า” ผมหลุดจากภวังค์ที่กำลังมองบิ๊ก และปล่อยมือที่จับอยู่ในทันที
“เปล่าๆๆ แล้วบิ๊กจะไปไหนต่อเปล่า” บิ๊กหยิบ iPhone ตัวเองขึ้นมาดูสักครู่
“เราว่างอยู่ อยากกินไรไหม ถือว่าเป็นคำขอบคุณสำหรับเล่มนี้ แทนเลือกเลยนะ” ผมตื่นเต้นกว่าเดิมอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะพยักหน้าตกลงโดยอัตโนมัติ
………………..
แล้วเราทั้งคู่ก็มาอยู่ที่ร้านขนมปังกับนม ร้านเล็กๆ ในสยาม บิ๊กนึกว่าผมจะทานอะไรพิเศษกว่านั้น แต่ผมว่ามันแพงไปที่จะรบกวนให้เพื่อนใหม่เลี้ยงผม นมเย็นกับขนมปังแยมส้มสองแผ่นของผม กาแฟเย็นกับขนมปังสังขยากับช็อกโกเล็ตของบิ๊ก ก็มาเสริฟ์ตรงหน้า ก่อนที่บิ๊กจะเอาขนมปังเพิ่มอีกสองแผ่น แต่เป็นแยมส้ม เพราะเห็นของผมแล้วน่าทาน
“อร่อยดีอะ เราเดินผ่านร้านนี้ แต่ไม่เคยกินเลย” ดูบิ๊กจะถูกใจอย่างมาก
“ร้านประจำเราเองแหละ” ร้านนี้ไบร์ทเป็นคนพามากิน ยืนยันกันทั้งโรงเรียนว่าอร่อย
“แทนเรียนไหนอะ” บิ๊กถามผมขณะที่ปากยังเคี้ยวอยู่ พอบิ๊กมองสำรวจดีๆ ก็รู้ว่าผมเรียนไหน จากกระเป๋าย่ามที่ผมสะพายมาเรียนประจำ
“โรงเรียนรวมเทพนี่หว่า สาวสวยด้วย ชอบ” คนอื่นอะเทพ แต่ไม่ใช่เรานะบิ๊ก แหๆ
"หล่อๆ อย่างบิ๊ก สาวโรงเรียนเราธรรมดาไปแล้วมั่ง" คุณชายดูจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษจริงจัง
"แทนแนะนำให้เราสักคนสองคนหน่อยดิ" บิ๊กร่าเริงเหมือนเด็กได้ของเล่น ยังรบเร้าผมเรื่องแนะนำเพื่อนผู้หญิงต่อไป ผมก็...ไม่รู้ซินะ
ขนมปังหมดลงพร้อมกับน้ำแข็งในแก้วที่บิ๊กเทใส่ปากเคี้ยวจนหมดแก้ว คุณชายของผมดูจะติดใจกับมื้อนี้พอสมควร
"แทนกลับไงอะ เราไปส่งให้ไหม" บิ๊กเช็ดปากสักครู่ก่อนจะหยิบสรุปบทเรียนมาให้ผม
"เซ็นชื่อให้หน่อย เอาเบอร์ด้วย วันนึงนายเป็นติวเตอร์ดัง เราจะได้อวดได้" โธ่...นึกว่าอะไร เซ็นเสร็จ บิ๊กยิงเบอร์มือถือเข้าเครื่องผม
"ตกลงกลับไง" ผมลืมตอบเลยแหะ
"เราอยู่คอนโด ตรงพญาไทอะ" พอบอกตำแหน่งเสร็จ บิ๊กพยักหน้าโอเค
"เดี๋ยวไปกับน้องถ่านของเรา" น้องถ่านคือ?
ผมกับบิ๊กเดินกลับมาสยามพารากอน บิ๊กแวะไปเอาหมวกกันน็อคที่ฝากไว้ในห้างฯ ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า น้องถ่านคือมอไซค์นี่เอง ระหว่างที่ผมกับบิ๊ก เดินไปลานจอด Big Bike ของห้างฯ นั้น
"หยุดๆ" บิ๊กกระชากข้อมือผมให้หยุด เหมือนเจออะไรสักอย่างจนต้องหยุดดู
"มีอะไรเปล่า" บิ๊กยกมือให้ผมเงียบครู่ ก่อนจะลากผมไปหลบมุม ตอนนี้บิ๊กมองไปที่ร้านเค้ก
"แทนจะกลับก่อนก็ได้นะ เรามีธุระ" ผมไม่กล้าถามนะ เผื่อเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมไม่ควรยุ่งด้วย
"บิ๊กดูใครอยู่อะ" ผมคิดว่าจะช่วยนะ
"เห็นไอ้หน้าหล่อที่กำลังป้อนเค้กให้ผู้หญิงคนนั้นมะ" ผมมองสำรวจตามที่บิ๊กเล่า เจอละ ชายมหาลัย หล่อแบบสำอางค์ กับหญิงประมาณ ม.4 ไม่ก็ 5 ที่ดูยังไงก็เหมือนคู่รักมากัน
"ผู้หญิงคนนั้นแฟนเรา ส่วนไอ้ผู้ชายนั้น...ไม่รู้วะ แต่แมร่งแย่งของเราวะ!!!" บิ๊กใจเย็นๆ นะ
หลังจากมองได้สักพักใหญ่ๆ คู่รักที่กำลังโดนจับตามองอยู่ ก็เดินออกจากร้าน บิ๊กเดินตามห่างๆ ผมเดินตามหลังอยู่ มือที่ถือหมวกกันน็อกตอนนี้ กำจนเส้นเลือดขึ้น บอกถึงอารมณ์ของบิ๊กได้ว่าเป็นอย่างไร แล้วคู่รักก็เดินเข้าโรงหนังไป การติดตามจึงสิ้นสุดแค่นี้
"ไปเถอะ" น้ำเสียงบิ๊กเรียบเฉย แต่บอกถึงความเสียใจว่ามีแค่ไหน
"อย่าคิดมากซิ มันอาจไม่ใช่อย่างที่นายคิดก็ได้" บิ๊กไม่ตอบ แต่เดินเร็วจนผมต้องสาวเท้ายาวๆ ตามไปจนถึงลานจอด Big Bike แบบเกือบจะวิ่งตามในบางจังหวะ
ผมอยากทำอะไรให้บิ๊กรู้สึกดีกว่านี้นะ แต่ต่อให้ผมทำยังไง ก็คงไม่รู้สึกดีขึ้นหรอก...
**********
บทที่ 9 เจอกันวันศุกร์ที่ 6 นี้ ตอนบ่ายๆ จะมาลงครับ
หลังจากนี้ บิ๊กจะจบเรื่องกับแพรวยังไง และเรื่องระหว่างบิ๊กกับแทนจะเป็นไงต่อ สามบทถัดจากนี้ไป เจอกันครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^