Part 37 ............. ชะนีเพรี้ยงพร้ำ และถูกซ้ำเติม
( ให้เสียงภาษาไทย โดย : สุภาวดี )
I
.
.
.
.
“(( ทำไมถึงรีบวางสาย หรือว่ามีอะไรปิดบังอยู่))” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะพูด ร่างบางที่อยู่ส่งเสียงจากปลายสายก็พูดทักเสียงเขียวทันที
พอเบลล่า เกรติงค์ เดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจที่ป่วนเขากับเมียได้ ลีโอ แอ๊คซายน์ก็รีบโทรกลับไปหาคนเป็นเมียด้วยความร้อนรนเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธและงอนเขา
“เมื่อกี้มีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ในห้องด้วยน่ะครับ อีหนูอย่างพึ่งกริ้วนะ”
“(( แขกที่ว่านี่ใช่คุณเบลล่าหรือเปล่าเจ้าพ่อ))” เสียงที่ตอบกลับมานั้นเต็มไปด้วยความราบเรียบและบ่งบอกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เขาปล่อยให้ศัตรูหมายเลขหนึ่งของร่างบางเข้ามาในห้อง
“ครับ แต่เจ้าพ่อก็ไล่ไปแล้วนะ ไม่ได้ให้เขาอยู่นานเลย เมื่อกี้เธอโกหก อีหนูอย่าเข้าใจผิดนะครับ!” ร่างสูงรีบอธิบายต่อด้วยความรวดเร็ว เพราะกลัวคนเป็นเมียเข้าใจผิด เพราะขืนเป็นอย่างนั้นมันคงไม่ค่อยเวิร์คเท่าไรที่ทำให้เมียตัวเองงอนและโกรธในที่สุด
“(( รู้ว่าต้องไล่ ถ้าไม่ไล่นี่ซิ ได้มีเรื่อง))” ร่างบางเอ่ยทีเล่นทีจริง แต่สำหรับร่างสูงแล้วมันกลับมีแต่ความน่ากลัว เพราะคำว่ามีเรื่องของร่างบางนั้นมีรวมอะไรหลายๆอย่างเข้าไปด้วย และหนึ่งในนั้นก็ต้องมีมาตรการให้เขามานอนหน้าห้องแน่ๆ
“ทำขนมไปถึงไหนแล้วครับ เหนื่อยหรือเปล่า แล้วฟองคลื่นแกล้งอะไรอีหนูของเจ้าพ่อหรือเปล่า”
“(( จริงด้วย! ลืมไปว่าตีแป้งทำคุกกี้เอาไว้ ลีโอ แค่นี้นะ รีบกลับบ้านเร็วๆนะครับ))”
ร่างสูงเมื่อได้ยินอีกฝ่ายตัดสายไปก็กดวางโทรศัพท์เครื่องเล็กลงบนโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“นายครับ คุณเคลวิน พิทยาภันทร์ติดต่อมาครับ” คมกริชยื่นโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาให้คนเป็นเจ้านาย แล้วก้าวถอยหลังออกมาห่างๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนทั้งสอง
ทำไมทุกคนถึงติดต่อผ่านเขา ทำไมไม่โทรเข้าไปหาลีโอ แอ๊คซายน์โดยตรงเลย ก็เพราะโทรศัพท์ของเจ้านายเขานั้นถูกตั้งค่าไว้ให้รับทรายคุณน้ำซุปเพียงคนเดียว และโทรศัพท์ของคุณน้ำซุปก็เป็นเช่นเดียวกับของเจ้านายเขา
คมกริชที่ยืนมองคนเป็นนายคุยโทรศัพท์อยู่นั้น ก็รู้ได้ทันทีเลยว่า คุณเคลวิน กับนายเขานั้นกำลังคุยเรื่องซีเรียสอยู่แน่ๆ
ท่าทีที่คุยโทรศัพท์นั้นหาความผ่อนคลายไม่เจอจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเพิ่งมาสนิทกันแต่ก็ไม่ได้ทำให้ท่าทีที่แสดงออกต่อกันห่างเหินหรือเย็นชาแต่อย่างใด นายของเขานั้นไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทอยู่ที่ไทย เพราะด้วยความที่งานรัดตัวจึงไม่ค่อยมีเวลาไปสังสรรค์อย่างที่นักธุรกิจคนอื่นทำกันเท่าไร พอมาปรับความเข้าใจเรื่องในอดีตกับผู้บริหารของ K V Park แล้ว ความบาดหมางที่ทั้งสองเคยมือก็หมดไปทันที
อีกทั้งคนรักของเจ้านายเขากับคุ ณเคลวินยังเป็นเพื่อนรักกันอีก ยิ่งทำให้อะไรหลายๆอย่างที่ผู้ชายสองคนเข้ากันได้ดีขึ้นไปอีก
“คมกริช เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยที่บ้านเป็นสองเท่า ที่บริษัทก็เหมือนกัน สั่งให้พนักงานต้อนรับสแกนแขกที่จะเข้ามาตึกแอ๊คซายน์โดยละเอียด” คนเป็นลูกน้องเงยหน้ามองร่างสูงด้วยความประหลาดใจ เพราะกำลังรักษาความปลอยภัยที่บ้านนั้นก็แน่นหนาอยู่แล้ว ส่วนที่บริษัทก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้ง ร.ป.ภ บอดิการ์ด อีกทั้งลูกน้องของเจ้านายที่ตามมาจากอิตาลีก็มากพอตัวอยู่แล้ว รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแล้วแหะ
ร่างสูงของลีโอ เดินไปนั่งที่โซฟาแล้วหลับตาลงอย่างต้องการใช้สมองในการตัดสินปัญหาที่เขาได้ฟังมาจากเพื่อนที่เพิ่งจะสนิทอย่าง เคลวิน พิทธยาพันธ์
คมกริชรอให้ร่างสูงได้นั่งพัก ทบทวนความคิดอยู่ประมาณ 10 นาที จึงเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวข้างๆลีโอ แล้วเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาเก็บใส่กระเป๋า รอเวลาที่นายจะสั่งงานและบอกความจริงให้ฟัง
“เรียว ฟุคาตะ เคลื่อนไหวกำลังขนอาวุธไปทางเมดิเตอร์เรเนียน โดยไม่เกรงใจไอ้เคลซักนิด มันเลยให้คนไปถล่มแต่พวกนั้นก็ไหวตัวทัน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราครับ เพราะฝ่ายนั้นก็คุมญี่ปุ่น และเราก็คุมยุโรป เรากับยังไม่เคยมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเลยนะครับ ต่างฝ่ายต่างอยู่ในที่ของตัวเอง ไม่ได้ก้าวก่ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”
เพราะสายที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้รายงานเลยว่าเขตการที่ญี่ปุ่นจะมีปัญหา ฝ่ายนั้นยังคงมีทีท่าที่นิ่งเฉย ไม่ได้ก่อกวนหรือทำตัวเป็นหมาลอบกัดแต่อย่างใด
“ไอ้เวรนี่มันถูกเบลล์ลากเข้ามาน่ะซิ แต่ถ้าลองมองให้ลึกกว่านี้ หากเป็นคนอื่นจะยอมเข้ามาง่ายๆเหรอ แต่ถ้าคนเรามันไม่หวังผลประโยชน์อะไรบางอย่าง คนอย่างมันจะยอมยื่นมือเข้ามาเสี่ยงกับตระกูลของแอ๊กซายน์อย่างนั้นหรือ”
“........................”
คนเป็นลูกน้องนิ่งเงียบและฟังเจ้านายเล่าความเป็นมาเป็นไปอย่างใจสมองและความเงียบ
“ไอ้เคลเห็นว่าก่อนที่จะเบลล่าจะมาไทยนั้น ได้ไปที่หาไอ้เวรเรียวที่ญี่ปุ่นก่อน คนของไอ้เคลเห็นว่ามันแปลกๆก็เลยสืบต่อ และก็เป็นอย่างที่ไอ้เคลคิด สองคนนี้กำลังร่วมมือกันทำความเลว! ”
“คุณเบลล่ายืมมือคุณเรียว จัดการคุณน้ำซุปกับนาย.....ผมเข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำตามที่สั่ง ให้คนสืบดูว่าไอ้เวรนั่นมันสิงอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันจะไปจัดการมันเอง”
สายตมคมจ้องเขม็งไปออกไปยังวิวนอกหน้าต่าง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความลุ่มร้อนและโมโห ไม่นึกว่าผู้หญิงอย่างเบลล่าจะกล้าทำเรื่องอย่างนี้ ไม่นึกว่าไม่คิดว่าความไม่เอาไหนของตัวเองเมื่อสมัยก่อนจะวกกลับเล่นงานตัวเองในขณะนี้
“ใครที่มันแตะกล่องดวงใจของ ลีโอ แอ๊คซายน์ มันจะไม่ตายดี”
.
.
.
.
.
.
.
..
คฤหาสน์ตระกูลแอ๊คซายน์
“กลิ่นอะไรคะเนี่ย หอมจังเลย” เสียงแหลมสูงของบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญดังมาจากห้องโถงของบ้าน
“มาแล้วค่ะคุณแม่ ให้ฟองทำไงต่อคะ เอาไข่ปาไล่ดีหรือเปล่า” ฟองคลื่นหันไปถามมารดาที่กำลังนั่งปอกเปลือกส้มอยู่ข้างๆ
“จะบ้าเหรอฟอง เขาอาจจะมาดีก็ได้ รอดูไปก่อนซิ อย่าพึ่งวู่วาม” ร่างบางหันมาดุน้องสาวของคนรักแล้วก้มบีบคุกกี้ต่อไปด้วยความบรรจง
“โห! พี่น้ำซุป คนๆนี้ไม่เคยมาดี ปีศาจกลับชาติมาเกิด หาความดีในตัวไม่ได้หรอกค่ะ”
“แม่ก็ว่าอย่างที่ฟองคลื่นนะ คนๆนี้ไม่เคยคิดดีต่อใคร คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะจับลูกชายแม่อย่างไร” คุณหญิงแพรวลุกขึ้นยืนแล้วบอกให้แม่บ้านเอาส้มที่ตนปลอกไปตกแต่งจานขนมและไอศกรีมให้สวยงาม
“กำลังคุยอะไรกันอยู่คะ สนุกกันเชียว” ร่างสูงโปร่งของนางแบบสาวมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอันแสนปวดใจที่ส่งกลิ่นฉุนไปทั่วห้องครัว กลบกลิ่นของแป้งเค้กและคุกกี้ไปซะสนิท
“เบลล์ป้าว่าเธอไปนั่งคอยเราอยู่ด้านนอกดีกว่านะ กลิ่นน้ำหอมเธอมันทำพิษขนมน้ำซุปน่ะ” คุณหญิงแพรวหันไปทักแล้วเอ่ยเตือนที่น้ำหอมที่นางแบบสาวจงใจพรมมามากกว่าเดิม เพราะต้องการอวดใครบางคนแถวนี้ ที่ไม่รู้จะมีปัญญาซื้อมาให้หรือเปล่า
“แหมคุณป้าค่ะ กลิ่นนี้หอมนะคะ ไม่แพงด้วยค่ะประมาณขวดละแสนกว่าบาท ไม่รู้ว่าใครบางคนแถวนี้จะมีปัญญาหาซื้อมาใช้หรือเปล่า” นางแบบสาวเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนหันหลังหยอดคุกกี้อยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง ทำเอาฟองคลื่นและมารดาของเธอรีบผวาตามเข้าไป แต่ร่างบางก็ส่งสายตาบอกว่าไม่เป็นไร แค่นี้จัดการได้
“ถ้าคุณเบลล์หมายถึงผมล่ะก็ ผมไม่ค่อยชอบน้ำหอมกลิ่นนี้เท่าไร เพราะเมื่อสูดเข้าไปแล้วมันรู้สึกขมๆน่ะครับ ยิ่งถ้ามันฉุนมากเหมือนที่คุณใส่มาตอนนี้ล่ะก็ สูดมากๆ มันจะทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบได้นะครับ ขอแนะนำว่าอย่าไปเดินผ่านสุนัขนะครับ เดี๋ยวมันจะเห่าเอา ผมว่ากลิ่นนี้ คล้ายๆกลิ่นน้ำยาดองศพน่ะครับ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นแล้วพูด อีกทั้งยังยิ้มให้ปากและตา บ่งบอกให้รู้ว่าพร้อมที่จะโต้ตอบแบบเชือดเฉือนได้เหมือนกัน
คุณหญิงแพรวกับลูกสาวคนเล็กนั้นต่างยืนมองร่างบางกับนางแบบสาวอยู่ห่างๆ เพราะน้ำซุปยังไม่ได้อยู่ในสถานะที่เพรี้ยงพร้ำ แต่อย่างใด กลับกันเหมือนเมียคนสวยของลีโอจะเอาชนะศึกนี้ไม่ยากซะด้วยซิ
“แหมคุณน้ำต้ม เอ๊ย! น้ำซุปคะ พอดีกลิ่นนี้ลีโอเป็นคนเลือกให้ตั้งแต่ตอนอยู่อิตาลีน่ะค่ะ เบลล์ก็เลยไม่อยากเปลี่ยนเห็นว่าลีโอเลือกให้ด้วยตัวเอง” เบลล่าเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน อีกทั้งยังยกเรื่องเมื่อสมัยที่ตัวเองยังคบกับร่างสูงเอามาเล่าใหม่ พร้อมทั้งใส่สีตีแต่งให้เรื่องมันเกินความเป็นจริงขึ้นไปอีก
แต่ผิดคาด เพราะแทนที่ร่างบางจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างที่หล่อนคิด กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ใบหน้าสวยหวานของน้ำซุปมีแต่รอยยิ้มหวายพิมพ์ใจที่ส่งให้กับอดีตคู่ควงของสามี
“น่าแปลกนะครับ ทำไมคนเราถึงชอบยึดติดกับอดีตก็ไม่รู้ ดูอย่างคุณเบลล์ซิ เรื่องเก่าขนาดนั้นยังอุตส่าห์จำมันได้อีก ผมเดาว่าลีโอต้องจำไม่ได้แล้วแน่ๆ ก็อย่างว่าแหละครับ อะไรที่ไม่สำคัญก็ไม่จำเป็นที่จะจัดเก็บเอาไว้ในสมอง”
“นี่!!!!!!” นางแบบสาวเดินเข้าไปกระชากลำแขนบางของน้ำซุปขึ้นมาอย่างอดไมได้
แล้วเจ้าตัวก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เพราะลำแขนของเมียลีโอนั้น มันช่างเล็กและบางจริงๆ ผิดกลับต้นแขนของสาวยุโรปอย่างหล่อนที่ค่อนข้างใหญ่และไม่บางอย่างนี้ และยิ่งไปกว่านั้น สีผิวอันขาวอมชมพูนวลเนียนของน้ำซุปยังกลบผิวฝรั่งอย่างหล่อนให้คล้ำไปทันที เชอะ!
“จะพ่นไฟเหรอครับ!! รอเดี๋ยวนะครับ เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำแข็งมาให้อม จะได้ปากเย็นขึ้นกว่าเดิม” ร่างบางผละไปที่ตู้เย็นที่ตั้งอยู่ข้างๆ แต่ก็โดนเสียงแหลมสูงเอ่ยห้ามเอาไว้ด้วยความเดือดดาล
“ใครจะพ่นไฟย่ะ !!!!!! ไม่ต้องเอาอะไรมาทั้งนั้น”
“เบลล่า ป้าว่าเธอออกไปรอข้างนอกดีกว่านะ ป้าอบขนมเสร็จเดี๋ยวป้าจะตามออกไป” คุณหญิงแพรวเดินเข้ามาดึงแขนของนางแบบสาว โดยมีฟองคลื่นขนาบข้างไปด้วย ทำให้ตอนนี้เหมือนนางแบบสุดฮ๊อตจากอิตาลีกำลังโดนหิ้วปีกโดยคุณหญิงแพรว และฟองคลื่นก็ไม่ปาน
“ปล่อยๆ คุณป้า คุณน้องฟอง เบลล์เดินเองได้ค่ะ”
“แหม ก็นึกว่าพี่เบลล์จะเป็นอัมพาตชั่วขนาดนี่น่า ฟองก็กะว่าจะช่วยสักหน่อย” ฟองคลื่นพูดด้วยความหวังดี อีกทั้งยังพยายามที่จะเอาน้ำใบบัวบกจากตู้เย็นออกมาให้หล่อนกินอีก
“คุณพี่เบลล์คะ นี่คือน้ำใบบัวบกค่ะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ ช่วยแก้อาการช้ำใน แฟนทิ้ง ผัวเมิน ชู้งอนได้เป็นอย่างดี กินหน่อยนะคะ”
“กอง เอ๊ย เก็บความหวังดีไว้เถอะค่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเบลล์ออกไปรอด้านนอกนะคะ” แล้วเจ้าตัวก็สะบัดตูดเดินออกไปด้วยความโมโหที่ใครๆในบ้านนี้ก็ไม่ชอบหล่อน
“พี่เก่งอ่ะ ถ้าเป็นฟองคงไม่ทนได้ถึงขนาดนี้หรอก มันต้องมีการใช้กำลังกันบ้าง” ฟองคลื่นพูดไป มือก็แต่งหน้าเค้กไปพลาง
“มันก็แค่เบสิคน่ะฟองคลื่น มากกว่านี้พี่เจอมาแล้ว คบกับลีโอใหม่ๆ พี่โดนมาเยอะแล้วล่ะ แต่ไม่มีใครเขาเกาะแกะมากเท่าคุณเบลล์” ร่างบางยกถาดคุกกี้เข้าเตาอบด้วยความคล่องแคล้ว งานนี้ไม่ต้องพึ่งอาหารและขนมจากโรงแรมแอ๊คซายน์ เพราะใภ้ใหญ่อย่างน้ำซุปจะลงมือทำเองทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่เครื่องดื่ม
ใจจริงก็อยากจะให้ปาร์ตี้นี้ No แอลกอฮอล์ แต่ก็คงจะทำอย่างที่คิดไม่ได้ เพราะดูจากเพื่อนฝูงแต่ละคนแล้ว เป็นแฟนคลับ ไวน์ กับ บรั่นดีทั้งนั้น ยังไม่รวมยาดองที่เคยพากันไปซดเมื่อตอนที่ยังอยู่ มหาลัย เห็นน้ำซุปหน้าหวานๆอย่างนี้ ก็ยังดื่มมึนเมาได้ชนิดที่ว่า คอแอลกอฮอล์บางคนยังอึ้ง แต่ร่างบางก็ไม่ได้ดื่มพร้ำเพื่อ จะดื่มเฉพาะปาร์ตี้ ไม่ก็งานสังสรรค์ ที่ต้องไปกับลีโอ
“นั่นซิ เมื่อก่อนพี่ลีโอก็ใช่ย่อยที่ไหน ฟองยังนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าพี่ชายฟองไม่ไปเจอพี่ ปานนี้ไม่รู้ว่าจะมั่วไปกี่คน” คนเป็นน้องแอบว่าร้ายพี่ชายอย่างสนุกสนาน ด้วยความที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งพ่อ แม่ และพี่ชาย ที่ให้ความอบอุ่นกับตนเสมอ ฟองคลื่นจึงหวงพี่ชายตัวเองไม่น้อย และเมื่อสี่ปีที่แล้ว ที่ลีโอ พาร่างบางของผู้ชายหน้าหวานเข้ามาแนะนำให้ตนรู้จักว่าเป็น เมีย ฟองคลื่นก็ตกใจ และดีใจไปในตัว เพราะรู้สึกถูกชะตากับน้ำซุปตั้งแต่แรกพบ
“ยัยฟอง ไปว่าพี่ได้ยังไง ....แต่แม่ว่าก็จริงนะ ต้องไปขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมกับนางกวักที่ดลบัลดาลให้ลีโอมันหาเมียได้น่ารักน่าฟัดขนาดนี้”
เอ่อ คุณแม่ครับ เจ้าแม่กวนอิม กับนางกวักนี่คนละทางกันแล้วครับ -_-
“ งั้นพรุ่งนี้ก็แล้วกันคุณแม่ วันนี้ไปคงไม่ทัน เห็นว่ามีศาลเจ้าแถวๆบ้านจัดงานพอดี”
แม่ลูกคู่นี้จะเอาจริงเหรอเนี่ย สุดยอดๆ
ทั้งสามคนช่วยกันทำขนมจนเสร็จ และกว่าที่ทุกอย่างจะออกมาเรียบร้อยได้ขนาดนี้ ก็ต้องยกให้ร่างบางที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จนแม่บ้านและเหล่าคนใช้แทบจะไม่ได้ทำเลยด้วยซ้ำ คุณหญิงแพรวเห็นว่าถ้าหากจะให้สะใภ้ใหญ่ทำคนเดียวทั้งหมด มีหวัง ไอ้ลูกชายคนโตมันต้องอาละวาดแน่ๆ ว่าไปใช้เมียมันทำงานหนัก ท่านก็เลยให้แม่บ้านและคนงานสวนมาช่วยกันจัดสถานที่ โดยปาร์ตี้ครั้งนี้จะจัดอยู่ตรงสวนหน้าบ้าน และจะไม่ใช้โต๊ะในการรับประทานอาหารเด็ดขาด เพราะท่านอยากจะให้ทุกคนมาล้อมวงคุยกันมากกว่า
“หนูไวน์ เหนื่อยไหมคะ” คุณหญิงแพรวเดินเข้ามาหาร่างบางของน้ำซุปที่กำลังหันหลังจัดตกแต่งเมนูอาหารให้ดูสวยงามและน่าทานยิ่งขึ้น
ร่างบางหันมายิ้มให้แล้วก็กอดเอวของท่านตอบ ไม่เคืองซักนิดที่ผู้หญิงที่เปรียบเสมือนแม่คนนี้จะใช้คำเรียกตนว่า คะ ขา เพราะรู้ว่าท่านนั้นเอ็นดูตนเสมือนว่าเป็นลูกสาวคนหนึ่ง
“ไม่ครับ สนุกออก คุณแม่ทานกลางวันหรือยังครับ” ดวงตากลมโตสอดส่ายหาร่างของนางแบบสาวที่ไม่รู้ว่าไปก่อเรื่องวุ่นวายที่ไหนหรือเปล่า
“ยังจ้ะ หายัยเบลล์หรือเปล่าลูก เห็นบอกว่าอยากพักผ่อนแม่ก็เลยให้เด็กไปพาไปนอนที่ห้องนอนแขกแล้วน่ะ”
ร่างบางยิ้มให้ผู้สูงวัยแล้วพากันเดินไปตรงซุ้มต้นเฟื้องฟ้า เพราะถึงแม้วันนี้อากาศค่อนข้างจะร้อนมากกว่าทุกวัน แต่ด้วยที่คฤหาสน์ตระกูลแอ๊คซายน์นั้นปลูกไม้ยืนต้นไว้เยอะ และเน้นการจัดสวยให้เสมือนว่าอยู่ป่า นั่นก็เลยทำให้บรรยากาศรอบบ้านร่มรื่นและน่าอยู่กว่าบ้านไหนๆ
ไหนจะน้ำตกจำลองที่ใหญ่พอๆกับน้ำตกในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ทำให้บรรยากาศที่น่าอยู่มากขึ้น น้ำตกจำลองแห่งนี้มีชื่อว่า โด่ไม่รู้ล้ม และคนที่ตั้งชื่ออันแปลกประหลาดอย่างนี้ก็คือ ลีโอ แอ๊คซายน์ นั้นเอง เพราะด้วยความที่เพื่อนฝูงของเมียเล่าวีรกรรมสมัยเรียนให้ฟัง ว่าน้ำซุปนั้นเจ้าแม่ยาดอง! โดยยาดองโหลที่น้ำซุปกินบ่อยที่สุด ก็คือ โหลโด่ไม่รู้ล้มนั้นเอง
แต่ตัวน้ำตกและการตกแต่งรอบๆนั้นเป็นฝีมือของฝองคลื่นที่อยากจะลองตกแต่งเอง เพราะว่าจบสถาปัตตกแต่งภายในมา และก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เมื่องานเสร็จออกมา ก็สร้างความประทับใจให้กับคนทั้งบ้านไม่น้อย
“เดี๋ยวคุณแม่นั่งรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวไวน์ไปยกมื้อเที้ยงมาทานตรงนี้”
“เอางั้นหรือ แม่ว่าทานตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน สดชื่อดี แต่แม่ว่าให้คนไปช่วยหนูบ้างนะ ขืนเดินกลับไปกลับมาหลายรอบ แม่ได้โดนลีโอกลับมาดุแน่”
พวงแก้มใสขึ้นสีทันที เมื่อโดนผู้สูงวัยเอ่ยเย้า ริมฝีปากเรียวสวยฉีกยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างเขอะเขิน
“ลีโอไม่กล้าทำอะไรคุณแม่หรอกครับ ถ้าทำเดี๋ยวไวน์จัดการเอง” ร่างบางพูดติดตลกแล้วเดินเข้าตัวบ้าน โดยไม่ลืมที่จะให้แม่บ้านที่เดินอยู่แถวนั้นช่วยยกสำรับออกมา
.
.
.
.
.
“มาล่ะเหว่ย มาละหว่า เมียเจ้าของบ้านอยู่ไหน ไม่ออกมารับแขก ตะละล้า!!!!!!”
เสียงอึกทึกคึกโครมที่ดังอยู่หน้าบ้านสร้างความแปลกใจให้กับร่างบางไม่น้อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แขกยังคงไม่มาเร็วขนาดนี้
ร่างบางที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกคนเดียวลุกออกไปดูทันที คุณหญิงแพรวนั้นขอตัวไปพักผ่อนด้านบน เพราะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ส่วนฟองคลื่นรายนั้นหลบไปทำงาน อ่านหนังสือได้เป็นชั่วโมงแล้ว
“ที่รัก!”
“น้องสาว!”
“ลูกคนใช้!”
“พอ!”
และก็เป็นอย่างที่คิด เพราะไม่น่ามีมนุษย์คนใดกล้ามาเสียงดังในบ้านของมาเฟียอย่างนี้ นอกจากจะไม่ใช่ไอ้เพื่อนตัวแสบของร่างบาง
“สัด! ว่าใครเป็นที่รักว่ะ” ร่างบางเดินเข้าไปหาตัสก่อนเป็นคนแรก เพราะร่างสูงของตัสนั้นเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้ว คงโดนกลั่นแกล้งให้ยกของมาคนเดียวแน่ๆ เพราะคนอื่นๆนั้นเดินตัวปลิวมาอย่างไม่สงสารเพื่อนเลยซักนิด
“น้องสาวเอ๊ย! ข้าไม่ได้เจอเจ้าแค่เดือนสองเดือนทำไมน้องถึงสวยได้กระแทกใจพี่อย่างนี้คร้าบบบบ” ต้นกล้าเดินเข้ามาโอบไหล่บางของน้ำซุปเข้าไปหาตัวเอง แล้วเอ่ยวาจาหยอกเย้าอย่างสนุกปาก
“ใครว่ามันเป็นน้องสาวมึง มันเป็นลูกคนใช้บ้านกูต่างหาก” นัทเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างจิกกัด และสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนไม่น้อย
“พวกมึงจะเลิกไร้สาระกันตอนไหน เสร็จแล้วก็ส่งเมล์ไปบอกกูด้วยนะ” ไมค์ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ยิงมุกคนสุดท้าย
“ไปๆ เข้าบ้าน” ร่างบางเดินน้ำทุกคนเข้าบ้าน จะมีก็แต่นัทที่ยังไม่เดินเข้ามา เพราะขอตัวคุยโทรศัพท์ก่อน
“แฟนไอ้นัทชื่ออะไรนะ” ร่างบางกระซิบถามกับตัสสองคน
“อืมๆ น่านน้ำ มึงทำไม”
“กูอยากเห็นหน้า แม่ง คนเหี้ยไรโคตรเลว ไม่ยอมเปิดเผยผัวให้เพื่อนฝูงรู้” ร่างบางเอ่ยปากอย่างหมั่นเขี้ยว เพราะทุกคนในกลุ่มเพิ่งมารู้ว่านัทดนัยมีแฟนแล้ว และไม่ได้โสดอย่างที่เพื่อนๆคิด
น้ำซุปนั้นโกรธมากเมื่อรู้ว่า นัทปกปิดเอาไว้ว่าตัวเองมีแฟน ก็เลยงอนเป็นเวลาเดือนกว่าๆ เดือดร้อนลีโอที่ต้องเข้ามาช่วยพูดให้ร่างบางหายงอน เพราะน้ำซุปนั้นมีคอนเซ็ปประจำตัวก็คือ งอนยาก หายยาก !!
“รุ่นพี่คณะกู ชื่อ น่านน้ำ วงศ์พิทักษ์ ตอนแรกกูก็ว่าจะชอบเล่นๆ แต่ไปๆมาๆ แม่งรักจริงหวังแต่งเว้ย”
“วงศ์พิทักษ์ ที่เจ้าของกิจการเหมืองแร่อันต้นๆของประเทศหรือเปล่าว่ะ” ร่างบางที่พอจะรู้เรื่องวงการไฮโซอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“แม่งสูสีกับพวกมึงเลย สัดเอ๊ย!! พวกมึงแม่งได้ผัวรวยทุกคนอ่ะ” ต้นกล้าพูดทีเล่นทีจริงแล้วเดินไปนอนที่โซฟาอย่างเกียจคร้าน เพราะที่พวกเขามาก่อนเวลานั้นต้องการมานั่งคุยกับน้ำซุปอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ได้มาเจอกันอย่างนี้เป็นเดือนๆ
“มึงก็ไปแปลงร่างเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงรวยซิว่ะ ถ้าไม่อยากหาเงินแล้วก็รวยทางรัด”
“แนะนำเพื่อนได้ดีมากสัดตัส เดี๋ยวก็ต่อยฟันงอกหรอกมึง”
“ใครอยู่ด้านล่าง เอาน้ำมาให้ฉันกินหน่อยซิ!!!!” เสียงหวีดแหลมโทนสูงดังมาจากชั้นสองของบ้าน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนยิ่งนัก
“เสียงใครว่ะไอ้ซุป แม่ง หวีดได้อีก” ต้นกล้าลุกขึ้นนั่งทันที เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว คนที่ส่งเสียงอยู่ด้านบนคงไม่ใช้เสียงของฟองคลื่นแน่นอน เพราะน้องสาวของลีโอนั้นไม่ใช้คนที่จะมาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอย่างนี้
“เดี๋ยวพวกมึงก็ได้เห็น” ร่างบางบอกยิ้มๆ แล้วเดินเข้าไปยกของว่างและเครื่องดื่มในครัว โดยที่ไม่ให้ใครเข้าไปช่วย เพราะเดี๋ยวจะพลาดไม่ได้เห็นอะไรที่เดินลงมาจากชั้นบน แล้วจะเสียใจ
“นี่!!!!!!! คนใช้บ้านนี้หายหัวไปไหนหมด ฉันบอกว่าหิวน้ำไง” ร่างสูงโปร่งของเบลล่าเดินลงมาจากชั้นบนของบ้านด้วยอาการหัวเสีย
.
.
.
.
Happy New Year 2011
กว่าจะมาได้ เล่นเอาคนอ่านระอา ตอนแรกซีเรียสมาก เพราะห่วงหน้าพะวงหลัง กลัวทุกคนจะว่า ทิ้งนิยายไปนานแล้วนะ ทำไมถึงไม่เอามาอัพซักที
ขอโทษนะคะทุกคน ช่วงนี้หมวยมีเรื่องให้คิดเยอะแยะน่ะคะ อะไรหลายๆอย่างมันเข้ามาพร้อมกันหมด เป็นช่วงที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง ว่าอยากเป็นอะไร
และขอบอกว่า
.
.
.
แท่น แทน แท๊นนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!
อีหมวยสอบติดแล้วววววววววววววววววว พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ตอนนี้หมวยดีใจแบบสุดๆอ่ะ
เพราะอย่างน้อยมันก็ลดความกดดันเราลงไป
ติด คณะ ครุศาสตร์ สาขา วิชา ชีววิทยา ของราชภัฏนครราชสีมาอ่ะ
กว่าจะสอบเข้าได้เล่นเอาลำบาก เพราะคนสอบเยอะมาก แล้วข้อสอบก็ยากกว่าทุกปี แต่หมวยก็ทำได้
ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ต่อไปนี้จะใช้หัวสมองคัดกรองเนื้อเรื่องดีๆ มา ให้อ่านกัน
รักนะจุ๊บ!!!!!!!!!!!