Part ..........30!!!!!!!!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
Go To ภูเก็ต!!!!!!!!!!!
“ทะเลโว้ยยยย!!!!!!!! พวกกูมาแล้ววววววววววววว” มนุษย์ชาวไทยจำนวน 6 คน อันได้แก่ น้ำซุป ฟาร์ฟาร์ ตัส ไมค์ นัท ต้นกล้า วิ่งหน้าตั้งลงทะเลอย่างไม่ได้อายใครหน้าไหทั้งนั้น ทำเอาลีโอและคมกริชมองแล้วอมยิ้มอย่างเอ็นดู แต่สายตาคมมองตามร่างบางของน้ำซุปเป็นพิเศษ เพราะเมื่อกี้แค่เดินลงรถตู้ น้ำซุปและผองเพื่อนก็โดนเพ่งเล็งจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแล้ว หวง!!!
“ว๊ากกกกกกกกกกก เค็ม!!!!!!”
“ก๊ากๆๆ น้ำทะเลมันก็เค็มดิว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” พวกผมพร้อมใจกันฮากันทันที่เมื่อไอ้ฟาร์มันบอกว่าน้ำทะเลมันเค็ม นี่เพื่อนผมเป็นอะไรไปเนี่ย ถึงลืมไปว่าน้ำทะเลมันเค็ม
“สัดแล้วพวกมึง กูก็พูดไปอย่างนั้นแหละ” ไอ้ฟาร์พูดอย่างอายๆ ไม่ทันแล้วฟาร์ฟาร์ที่น่ารัก เพราะเมื่อกี้นักท่องเที่ยวที่อยู่ข้างๆยังได้ยินเลย ฮ่าๆ
แล้วดูนั่นไอ้นัท มันกำลังทำท่าจะดำน้ำ ให้ตายเถอะ น้ำแค่ตาตุ่มเนี่ยนะมึงจะดำ กูมาเที่ยวกับคนบ้าหรือเปล่าว่ะ ให้ตายซิ นิยายเรื่องนี้จะฮาเกินไปแล้วนะ!!
“ไอ้เวรนัท มึงทำไรเนี่ย!” แล้วก็เป็นไอ้ไมค์ที่ทนความปัญญาอ่อนของเพื่อนตัวเองไม่ไหว มันด่าไอ้นัทอย่างเอือมๆแล้วเดินไปเตะไอ้นัทที่ตอนนี้กลายเป็นปลาพะยูนเกยตื้นอยู่
“ก็มองหานีโม่” ( นัท ) นีโม่พ่อมึงอ่ะอยู่ในระดับน้ำทะเลแค่ตาตุ่ม!! ว๊ากๆๆ ไอ้พวกบ้า
“แถวนี้มีนีโม่จริงๆเหรอว่ะ” (ตัส ) มึงอย่ามาบ้าอีกคนนะ ปล่อยให้ไอ้ปลวกนัทมันบ้าไปคนเดียว
ผม ฟาร์ฟาร์ ไมค์ และต้นกล้ามองหน้ากันอย่างรู้กัน เมื่อผมพยักหน้าเป็นสัญญาณแล้ว พวกเราก็ต่างวิ่งมุ่งหน้าไปที่ไอ้ปลาพะยูนสองตัวที่กำลังส่องนีโม่อย่างปัญญาอ่อน อย่างรวดเร็ว ประหนึ่งว่าเสียงตดยังตามไม่ทัน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” ไอ้นัทแหกปากร้องออกมาอย่างน่าสงสารแต่ไม่แล้วเพราะตอนนี้ผมกับไอ้ไมค์ช่วยกันหามไอ้นัทลงไปทะเลและโยนมันลงไปอย่างสะใจ ฮ่าๆ
“ว๊ากกกกกกกก !! ไอ้เพื่อนเวร” ไอ้ตัสก็ไม่รอดครับ เพราะไอ้ต้นกับไอ้ฟาร์ก็หามไอ้ตัสลงทะเลแล้วโยนลงทะเลทับไอ้นัทไปเต็มๆ นั่นแหละ ทำตัวเป็นปลาพยูนกระดี๋กระด๋ามองหานีโม่ในระดับน้ำแคตาตุ่มดีนัก เห็นแล้วขัดตา ไม่น่าเชื่อว่านักเรียนโท กับสถาปนิกแห่งเมืองกรุงจะปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้
พวกผมยืนมองพวกมันสองคนอย่างสะใจ แต่ทำมึงรู้สึกว่ามีรังสีอำมหิตแผ่มาจากด้านหลังล่ะ หรือว่า..................
“มึงตายยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!” ไอ้ฟาร์เข้าช๊าตผมอย่างรวดเร็ว ไอ้ผมก็ตัวบางร่างเล็กเมื่อโดนทับไปเต็มๆอย่างนี้ก็เลยต้องหัวคะมำลงทะเลอย่างสวยงาม
“แอ๊กกกก!!!” ไอ้ซุปร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ทำไมเพื่อนผมแต่ละคนถึงได้ซาดิสต์อย่างนี้เนี่ย ให้ตายเถอะน่าสงสารไอ้ซุปที่ต้องเกิดมามีเพื่อนที่ประเสริฐอย่างนี้ กรี๊ดดดดดด!! เอ๊ะยังไง ทำไมผู้ชายกรี๊ด ฮ่าๆ
หมับบบ!!!!!!!!!!
ร่างของผมโดนพยุงขึ้นมาจากน้ำทะเลอย่างทุลักทุเล และให้ทายนะมีคนเดียวที่มองผมตลอดเวลา จับตาดูผมอย่างไม่ให้คลาดสายตา มีคนเดียว ...
“อีหนู ไปเปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยลงมาเล่น” โหหหหหหห!!!!!!!!! วัยรุ่นเซ็ง มากับผู้บริหารที่พ่วงตำแหน่งมาเฟียก็ต้องทำจายยยยยย
“พี่! เพิ่งมาถึงเองนะ” ไอ้ตัสเงยหน้าขึ้นมาจากน้ำแล้วเอ่ยปากเกลี่ยกล่อม
“ไม่ได้ ไว้ตอนเย็นๆค่อยมาเล่น ตอนนี้แดดมันร้อนเกินไป แล้วนี่ยังไม่ทาครีมกันแดดใช่ไหม”
“O__O;” มนุษย์ผู้เห่อทะเลทั้ง 6 คน กำลังประมวณผลคำพูดที่ลีโอบอกเมื่อกี้
“เอ๊ะ!! พวกเรายังไม่ได้ทาครีมกันแดดใช่ไหมว่ะ” ( ไอ้ตัส )
“พระเจ้า!! “ ( ไอ้ฟาร์ )
“หมู่เฮา วิ่งงงงงงงง!!!!!!!!!!!!” ( ไอ้นัท ) เมื่อสิ้นเสียงได้นัทแล้วพวกผมก็วิ่งขึ้นฝั่งทันทีโดยไม่ต้องมีใครไปตามหรือว่าขัดค้านแต่อย่างใด มือบางของน้ำซุปจูงมือลีโอวิ่งขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็วเช่นกัน คือพวกผมเป็นประเภทกลัวดำน่ะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นคุณหนูอะไรอย่างนี้นะ แต่สมัยนี้อาณุภาพของแสงแดดมันรุนแรงเกินไปครับ ขืนโดนมากๆได้เป็นมะเร็งผิวหนังกันพอดี
“แดดแม่งร้อน” พอขึ้นฝั่งมาผมก็พึ่งสำนึกได้ว่าตอนนี้มันเพิ่งจะบ่ายหมาดๆ ตอนนั่งรถมาถึงใหม่มันตื่นเต้นนี่หน่าไม่ได้มองเวลาเท่าไร ถ้าเกิดลีโอไม่ได้ไปตามนะมีหวังได้น๊อคกลางทะเลแน่ๆ
“ลีโอ กางเกงเปียกเลยลงไปตามทำไมเนี่ย ตะโกนเรียกก็ได้” ผู้บริหารสูงสุดของแอ็คซายน์ไม่ได้พับขากางเกงขึ้นแต่อย่างใด สงสัยตอนลงไปก็ลงไปทื่อๆอย่างนี้แน่นอน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า คมกริชจัดการเรื่องห้องหมดแล้วนะ ไปนั่งรอที่ล๊อบบี้ก่อนแล้วกัน” กระเป๋าข้าวของเสื้อผ้าทุกอย่างถูกจัดเอาไปไว้ที่ห้องแล้วเรียบร้อย เหลือแต่รอคมกริชเอากุญแจห้องมาให้ ลูกน้องของลีโอคนนี้ทำงานได้ดีและเยี่ยมมากเลยครับ ไม่ว่าลีโอจะฟาดงวงฟาดงาแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น ผมเพิ่งมารู้ตอนที่ลีโอบอกเมื่อไม่นานนี้ว่า คมกริชอีกผมว่า “นางฟ้าคุณน้ำซุป” ได้ยินนี่ผมก็หัวเราะไม่หยุดเลย ผมเลยเดินไปตามคมกริชตรงๆว่า ทำไมถึงเรียกผมซะน่ารักน่าเคารพอย่างนี้ คมกริชและเหล่าบอดีการ์ดคนอื่นตางบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
‘ก็คุณน้ำซุปช่วยให้พวกผมรอดพ้นจากเงื้อมือนายได้ทุกครั้งเลยนี่ครับ’ ลีโอที่ยืนอยู่แถวนั้นเลยเดินเข้ามาขู่เล่นๆว่า
‘นินทาฉันลับหลังเหรอว่ะ’ บอดี้การ์ดแถวนั้นก็พากันก้มหน้าก้มตาหลบนายตัวเองเต็มที่ มีแต่คมกริชเท่านั้นที่ยังยืนมองลีโอย่างไม่สะทกสะท้าน
‘นายอย่าหักเงิน......อุ๊บบบบบ!!!!!!’ เหมือนคมกริชจะรู้ตัวว่าได้หลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรซะแล้ว ลีโอมองมาที่ผมอย่างขอลุแก่โทษ ฮ่าๆ ไม่ทันแล้วไอ้มาเฟีย ไปทำอะไรลูกน้องไว้วันนี้แหละ จะเล่นให้หนักเลย
‘บอกมาเลยคมกริช ว่ามาเฟียใหญ่โตคนนี้ไปหักเงินนายตอนไหน’ ผมตวัดสายตามองไปที่ลีโออย่างคาดโทษ ให้ตายซิเรื่องรังแกข่มเหงลูกน้องนี่งานของมาเฟียทุกคนหรือเปล่า
‘เอ่อ........’ คมกริชอ้ำๆ อึ้งๆ อีกทั้งยังมองไปที่นายตัวเองอย่างลำบากใจ ใจก็กลัวลีโอ แต่ลีโอกลัวคุณน้ำซุป เพราะฉะนั้นคนที่น่ากลัวที่สุด คือคุณน้ำซุป
‘ฉันจะนับ 1 ถึง 3 นะ ถ้าถึง3 แล้วลีโอได้ไปนอนเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านแน่ๆ’
‘เฮ้ยยยยยยยย!!!!!!!!! ’ ร่างสูงร้องออกมาอย่างโหยหวน ไม่เหลือเค้าหมาดมาเฟียจอมโหดที่พร้อมจะทำลายล้างคู่ต่อสู้หรือศัตรู คงไว้ซึ่งใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเมีย
‘1.......................’
‘เอ่อ...........’ คมกริชเหงื่อไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด และลีโอก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
‘2...................’ ผมล่ะอยากขำตอนนี้จริงๆ ผมดีใจนะที่พอลีโอกลับบ้าแล้วเขาจะยอมผมทุกอย่าง จริงๆนะ ถ้าถึงบ้านแล้วผมจะใหญ่ที่สุด เขาบอกว่าอยากให้ผมมีอำนาจให้เท่ากับที่เขามี และต่อไปอีกภายภาคหน้าผมจะต้องก้าวไปเป็นผู้บริหารระดับสูงของแอ็คซายน์และกิจการที่บ้านเหมือนกัน
‘สะ.....’
‘ไอ้กริชพูดเลย!!! ถ้าแกไม่พูดคราวนี้แกได้โดนฉันเตะแกแทน’ คนทำผิดน่ะครับ ยังไงก็ต้องยอมรับอยู่ดี แล้วยังมีไปขู่เขาอีก ให้ตายเถอะลีโอ
‘นายตัดเงินเดือนผม 2หมื่นครับ เพราะว่าผมขับรถช้าไปเลยมาไม่ทันที่คุณน้ำซุปกำหนดเวลาไว้น่ะครับ’
‘ใช่วันที่ไปประชุมกับ K V Park หรือเปล่า’.
‘ครับบบบบ!!!!!!!!’
‘ก็แค่นั้นแหละ ไม่เห็นต้องปิดเอาไว้เลย เดี๋ยวฉันให้โบนัสเดือนนี้นายเอง’
‘เฮ้ยย!!!!!!!!! อีหนูไปให้มันทำไมเนี่ย’ เป็นคนไปตัดเงินเดือนเขาแล้วยังมาโวยวายอีก หรือว่าผมจะสั่งตัดเงินเดือนผู้บริหารชั้นสูงอย่างลีโอดี
‘ก็ซุปเป็นต้นเหตุให้คมกริชโดนหักเงินเดือนนะ ซุปก็ต้องไถ่โทษดิ’
‘มะไม่ต้องดีกว่าครับ คุณน้ำซุป คือผมก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่แล้วครับ’ ใจจริงผมอยากให้ซักล้านเลยก็ว่าได้ แต่คงไม่เวิรค์เท่าไร ขืนทำอย่างนั้นมีหวังลีโอได้อาละวาดของจริงแน่ๆ
‘เอาไปเถอะไอ้กริช น้ำซุปจะให้มันเพิ่มอีกเท่าไรนะ’ เสียงน่ะห้วนไปไหม
‘ 5 หมื่น ถือว่าที่เหลือก็ค่าเหนื่อย’ หรือว่าจะแอบเพิ่มให้ทีหลัง ถือว่าทดแทนที่ลีโอมันไปลงกับลูกน้อง
‘งั้นฉันให้แกอีก 5 หมื่น รวมกันเป็น 1 แสนบาทขาดตัว’ นี่ผมหูฟาดหรือเปล่าเนี่ย จะให้เพิ่มอย่างนั้นเหรอ
‘และถ้าแกยังปากโป้งอีก คราวนี้เตรียมย้ายที่ทำงานไปภาคใต้ได้เลย’ แหมๆ ทำเป็นกระซิบข่มขู่ ผมได้ยินหรอกน่า ทำไรเจ้าพ่อใหญ่ได้ล่ะ เขามีอำนาจนี่
ผมว่าคมกริชนี่ช่างเป็นเลขาและผู้ช่วยที่โชคดีที่สุดในโลกแล้วมั้ง เพราะถึงแม้ลีโอจะเป็นคนขี้โมโห ขี้หึงใจร้อน วู่วาม แต่ก็เป็นคนที่รักลูกน้องและเกรงใจผม เขาจะให้ความช่วยเหลือกับพวกบอดี้การ์ดประจำตัวเสมอ และนั่นก็ทำให้ผมรักผู้ชายคนนี้ยิ่งขึ้นไปอีก ประเภทที่ว่าปิดทองหลังพระอะไรอย่างนี้หรือเปล่า
“คิดอะไรอยู่??” เสียงกระซิบที่ข้างใบหู ทำผมตื่นขึ้นมาจากภวังค์ทันที มองซ้ายมองขวาก็ยังนั่งอยู่ทีเดิม แต่เมื่อกี้จำได้ว่านั่งโซฟานุ่มๆไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นตักแข็งๆของลีโอได้ล่ะ
“ซุปมานั่งตรงนี้ได้ไงเนี่ย??”
“เจ้าพ่ออุ้มมาเองแหละ บอกได้หรือยังว่าเมื่อกี้คิดอะไรอยู่ เรียกก็ไม่สนใจ” ขอเวลาให้อีหนูได้คิดอะไรบ้างเถอะน่า ถึงแม้ลมหายใจเข้าออกของผมจะเป็นของลีโอด้วยเถอะ
“เปล่าๆ คิดเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ ว่าแต่ทำไมคมกริชยังไม่มาอีก หนาวแล้วนะ” อ้อมแขนแข่งแรงโอบกอดร่างบางแน่นเข้าไปอีก เพื่อหวังไม่ให้แอร์สัมผัสกับผิวของน้ำซุป
“เคียร์เรื่องกระเป๋าน่ะ ก็เพื่อนน้ำซุปพากันขนข้าวของมาปักหลักอยู่ที่นี่เลยนี่น่า แต่มันห็น่าโมโหจริงๆ บังอาจไปนานแล้วให้อีหนูหนาวได้ไง”
“พี่อ่ะ ก็ว่าพวกผม...นี่นิดหน่อยเองนะ” ไอ้ตัสส่งค้อนงามๆมาให้ ก็เรื่องจริงของลีโอเพราะสัมภาระแต่ละคนไม่ต่ำกว่า 4-5 กระเป๋า แล้วตอนที่ขนขึ้นไปนี่ต้องให้พนักงานถึง 10 คนเลยนะ รถเข็นกระเป๋าอีก 8 คัน เห็นแล้วอลังการชะมัด ความจริงเป็นผมนี่แหละที่เอามาเยอะที่สุด ก็ลีโอบอกว่ามาพักที่ โรงแรมในเครือนี่น่า มันก็ต้องเอามาให้คุ้ม
“ตกลงตอนเย็นจะเล่นน้ำหรือว่าจะจัดปาร์ตี้” ผมหันถามร่างบางแล้วผินหน้าไปถามเหล่าเพื่อนซี้ของน้ำซุป และเสียงที่ตอบรับกลับมาก็คือ
“ปาร์ตี้!!!!!!!!!!!!” นี่ผมมากับเด็กหรือว่าผู้ใหญ่เนี่ย แล้วถ้าผมไม่มาด้วยมันจะเป็น อย่างไรบ้างเนี่ย ใครจะคอยคุมทโมนทั้ง6 ไม่ให้ซนจนเกินไป
“ไม่เล่นแล้วหรือน้ำทะเล เห็นมาถึงก็วิ่งใส่เลย” ผมถามร่างบางอย่างล้อๆ ผมเข้าใจเขานะเพราะน้ำซุปเรียนบริหารมาเหมือนผมคงไม่มีเวลาว่างเท่าไร อีกอย่างดูเหมือนว่าคุณหญิงแม่กับคุณพี่น้ำแกงจะหวงร่างบางยังกับไข่ในหิน
“เดี๋ยวค่อยเล่น ทะเลไม่ได้ปลิวไปไหน เรื่องกินต้องมาก่อน” ( น้ำซุป )
“ไม่แพ้อาหารทะเลกันใช่ไหม”
“ไม่!!!!!!!!” พร้อมกันอีกแล้ว นี่พวกมันเหมาะที่จะเกิดมาเป็นเพื่อนกันจริงๆ ให้ตายเถอะ เหมือนผมเอาลูกๆมาเที่ยวเลยนะเนี่ย
“คมกริชมาได้ซักทีนะ” ผมดุลูกน้องหน่อยๆ ก็มันไปนานมากเลยนะเนี่ย
“ขอโทษครับนาย แล้วนี่ครับกุญแจห้องของเพื่อนคุณน้ำซุป ห้องหนึ่งมีสองเตียงนะครับ ถ้าไม่พอใจอะไรยังไงแจ้งพนักงานหรือผมก็ได้ครับ” ลูกน้องคนสนิทของผมพูดไปก็ชี้แจงรายาละเอียดของห้องให้บรรดาซี้ของร่างบางฟัง
“แล้วน้ำซุปนอนไหนอ่ะ” นี่คือเสียงของเพียงฟ้าที่ถามขึ้นมา อยากจะบอกว่านอนห้องสวีทด้านบน แต่ไม่ดีกว่าเพราะเดี๋ยวจะโดนคนตัวบางข้างๆหยิกเอา
“ชั้นบนสุดมีห้องพักของผู้บริหารอยู่น่ะ” ผมบอกไปแล้วตานี่ยิ้มประกายซะจนตัสรู้ทัน เพื่อนของน้ำซุปคนนี้คุยถูกคอกับผมดีครับ ถึงแม้อาจะห่างกันแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเราจูนเข้าด้วยเพราะมีเรื่องธุรกิจที่ทำให้ผมกับตัสสนิทกันอย่างรวดเร็ว
“พี่อย่ารุนแรงกับเพื่อนผมมากนะ เดี๋ยวมันเอวหัก เห็นบ่นๆว่าปวดเอวอยู่ด้วย”
“กูไปบ่นตอนไหนว่ะไอ้เวรตัส กวนเบื้องล่างแล้วมึง” อยากตบปากมันจริงๆ นอกจากจะไม่ช่วยให้เพื่อนรอดพ้นจากเงื้อมือซาตานแล้วยังไปพูดชี้ทางให้อีก เดี๋ยวกูก็เดี้ยงพอดี
ประทะฝีปากกันแล้วเรียบร้อยผมกับลีโอก็เดินจูงมือกันขึ้นลิฟต์ มุ่งตรงสู่ห้องพักสุดหรูสุดอลังการของลีโอ ผมกับเขามากันเป็นประจำ แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยเพราะมากับลูกหลานผีปอป
“ไปอาบน้ำได้แล้วน้ำซุป เดี๋ยวเป็นหวัด”
เมื่อได้ฟังดังนั้นร่างบางก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็วและกลับออกมาพร้อมกับชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นง่ายๆ ส่วนร่างสูงนั้นนอนดูโทรทัศน์อยู่บนเตียง
“ลีโอ เรื่องบ้านไปถึงไหนแล้วอ่ะ “ ผมพูดไปก็ลื้อเอาเสื้อผ้าออกมาวางกองบนเตียงทั้งของตัวเองและของร่างสูง เสื้อผ้าที่กลิ้งออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบหรูแทบจะถมร่างบางให้จมเตียง
“เรียบร้อยแล้ว ไอ้กริชบอกว่าของที่คอนโดย้ายเข้าไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่บ้านใหญ่นี่แหละที่ยังไม่ได้ย้าย” ร่างสูงคลานเข้ามาช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ น้ำซุปจึงแอบมองอย่างยิ้มๆ ทำไมคนๆนี้ถึงเป็นได้ทุกอย่าง อย่างนี้นะ น่ารักจริงๆเลย
“ถ้าย้ายตอนนี้ ฟองคลื่นคงอยู่คนเดียว เมื่อไรคุณแม่จะกลับล่ะ” น้องสาวผู้น่ารักของลีโอคงต้องอยู่ในบ้านคนเดียวอย่างหงอยเหงาๆแน่ๆ เห็นช่วงนี้บ่นๆอยู่ด้วยว่าเหงาๆ พี่ชายและพี่สะใภ้? ไม่ค่อยจะมีเวลาให้ สงสัยต้องพาไปเที่ยวคลายเหงาซะแล้ว
“เดือนหน้ามั้ง เจ้าพ่อไม่แน่ใจ” ผมเหลือบไปเห็นกางเกงในลายหมีน้อยของลีโอแล้วอดฮาไม่ได้ ฮ่าๆ เจ้าพ่อคนนี้มีอะไรให้แปลกใจหลายๆอย่างใช่ไหมครับ
“งั้นเราก็ย้ายกันเดือนหน้า”
“โหยยยยยยยยยยยยย” ผมล่ะอยากจะเขกกะบาลสามีตัวเองจริงๆ ช่างไม่มีความห่วงน้องเอาซะเลย ให้ตายเถอะ
“ไม่ต้องบ่นเลยลีโอ แล้วฟองจะอยู่กับใคร น้องอยู่คนเดียวนะรู้หรือเปล่า”
“รู้แล้วคร้าบบบ ก็คนอยากอยู่กับเมียสองคนนี่น่า” ก็ข้ออ้างหากำไรจากเขาโดยที่ไม่มีใครมาขัดจังหวะได้น่ะซิ คนๆนี้เจ้าแผนการจะตายไป หน้าซื่อๆ ตาใสๆเวลามองสบตาเขาน่ะ อย่าได้ไปเชื่อเป็นอันขาดนะ เพราะเบื้องหลังนั่นเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความร้ายกาจมาก
“อีหนูรู้ แต่รอให้คุณแม่กลับคุณพ่อกลับมาอยู่บ้านไม่ดีกว่าเหรอ ว่าแต่คุณนายแม่กลับมาครั้งนี้อยู่ถาวรใช่หรือเปล่า”
“ใช่แล้วล่ะ เห็นป๋าบอกว่าเหนื่อย อยากกลับมาอยู่บ้านเฉยๆ” คุณป๋ามาเฟียสุดเฟี้ยวของลีโอผู้เป็นมาเฟียคุมอิตาลีอยู่นั้น ทำงานอยู่ในวงการธุรกิจและวงการมาเฟียมาเนิ่นนาน และเวลานี้ก็สมควรจะวางมือได้แล้วมั้ง
“อย่างนี้เจ้าพ่อก็งานหนักกว่าเดิมน่ะซิ ว้าๆ น่าสงสาร” ผมแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วมองไปที่ร่างสูงอย่างสงสาร
“เจ้าพ่อว่าอีหนูไม่ต้องเป็นแล้วเลขาน่ะ มาเป็นรองผู้บริหารดีกว่า” และนั่นคือสิ่งที่คุณแม่ของลีโอโทรมาสั่งการด้วยตัวเองเพราะผมเคยบอกลีโอไปว่า เดี๋ยวก็ต้องก้าวเป็นผู้บริหารบริษัท อัญมณีของที่บ้านอีก แต่ท่านไม่ยอมครับท่านบอกว่าเดี๋ยวให้ลีโอเข้าไปช่วยอีกแรง แล้วผมก็ต้องมาช่วยบริษัททางนี้อีกแรง วุ่นวายดีไหมล่ะ
“ให้เป็นง่ายๆอย่างนั้นเลยหรอ ไม่เอาดีกว่าง่ายเกินไปน้ำซุปไม่เป็น” ผมเตรียมหาช่องทางให้การแกล้งคนร่างสูงอย่างเนียนๆ แต่หารู้ไหมว่าทุกการกระทำและความคิดของร่างบางนั้นร่างสูงมองออกหมดแล้ว
*เสร็จแน่ๆน้ำซุป*