ตอนที่ 25 : เพื่อน “รัก” [End]
“ถึงแล้ว” นนท์กระโจนขึ้นบนเตียง ทิ้งกระเป๋าเป้ไว้บนพื้นห้อง ไผ่ก้มลงเก็บ นำไปวางไว้ให้บนโต๊ะข้างกระเป๋าของตนเอง
“มีความสุขมากเหรอ” ไผ่มองร่างที่กลิ้งไปมาอยู่บนเตียง
“ของมันแน่อยู่แล้ว กูนึกว่าจะชวด อดเที่ยว”
“กูว่าง”
“ก็โชคดีไงที่มึงว่าง ไม่งั้นกูอดเที่ยวยาว” นนท์บ่นอุบ เดี๋ยวนี้เขามีผู้ปกครองคนใหม่ ไปไหนต้องคอยบอก อยากจะแกล้งขัดใจเหมือนกัน แต่มันติดตรงที่เขาก็ไม่อยากไปกับคนอื่น
“ขี้บ่นจริงมึง” ไผ่ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ยื่นมือไปยีผมด้านหน้าของนนท์
“ไม่อยากให้บ่น มึงก็ปิดปากกูสิ” นนท์ยักคิ้ว มองไผ่ด้วยรอยยิ้มก่อกวน
“หึๆ” ไผ่เอนตัวลงไปหาตามคำเรียกร้อง ทาบทับริมฝีปากลงปิดกั้นเสียงของอีกฝ่าย เขาชอบในสิ่งที่ตัวเองและนนท์เป็นอยู่ขณะนี้ เพื่อนที่เป็นคนรัก และคนรักที่เป็นเพื่อน
“ชอบที่นี่ไหม” ปัณณ์ละสายตาจากหน้าต่าง หันกลับไปมองร่างสูงที่ยืนกอดอกรออยู่ด้านหลัง เขาสิ่งยิ้มให้พายุ
“ชอบ แต่มึงไม่ไปพักที่เรามาคราวก่อนวะ ถูกกว่าแต่สวยพอๆ กัน”
“จะไปได้ยังไงวะ” พายุทำเสียงดุ
“ทำไมวะ” ปัณณ์ขมวดคิ้ว ไม่เห็นสาเหตุที่จะกลับไปที่นั่นไมได้ เขาไม่ได้ผิดใจกับทางเกสเฮ้าส์
“มึงนี่ เหมือนจะโรแมนติกแต่ไม่เลยสักนิด”
“เกี่ยวอะไรกับโรแมนติกวะ” ปัณณ์หยุดคิด เมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ปากของเขาเริ่มสั่นน้อยๆ สุดท้ายก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ”
“หยุดหัวเราะได้แล้ว” พายุดึงปัณณ์เข้ามากอด แกล้งรัดแน่นๆ จนอีกฝ่ายดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน
“มึงอยากเก็บไว้เป็นที่พิเศษเหรอวะ “
“เออ” สีหน้าของพายุยิ่งทำให้ปัณณ์ขำ หน้าพยายามจะดุแต่ออกอาการเก้อเขินอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ใช่กูไม่โรแมนติก แต่กูไม่คิดว่ามึงจะโรแมนติก” ปัณณ์หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อพายุยอมคลายวงแขนออก แต่ยังกอดเขาไว้เหมือนเดิม
“นั่นสิ กูแม่งเปลี่ยนไปเยอะ เพราะมึงคนเดียว”
“โทษกูได้ไงวะ”
“มึงรักกูทำไมล่ะ”
“อ้าวไอ้นี่”
“หึๆ” จมูกโด่งฝังลงบนหน้าผาก ปัณณ์แกล้งโขกศีรษะกับคางของพายุ ได้ยินเสียงบ่นอุบ
“อย่ามาทำหวาน กูยังจำที่มึงพูดได้”
“กูพูดอะไร” พายุเลิกคิ้ว พยายามนึก
“มึงพูดว่าคนเราไม่ควรแอบชอบเพื่อนสนิท”
“กูพูดเหรอ” พายุหัวเราะหึๆ ตีหน้าตาย
“มึงไม่ได้พูดแค่นี้ มึงบอกว่าเป็นเพื่อนอยู่ดีๆ มาบอกว่าชอบ จะให้มองหน้ากันยังไง ทำให้เสียเพื่อนเปล่าๆ เป็นแค่เพื่อนกันมันดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนสถานะทำไม”
“นี่มึงเป็นคนหรือเป็นเครื่องอัดเสียงวะ ฮ่าๆ มาเป็นชุด ความจำดีเหลือเกิน”
“มึงไม่ต้องมาทำเป็นขำ ทำไมกูจะจำไม่ได้ แม่งอย่างกับโดนแทงด้วยมีด เจ็บฉิบหาย”
“ขอโทษ” สายตาของพายุอ่อนแสง เขากอดปัณณ์แน่นขึ้น ซบหน้าลงกับผมนุ่ม “กูขอโทษที่รู้ตัวช้า”
“รู้ตัวช้ากูไม่โกรธ แต่ตรรกะมึงป่วย”
“หึๆ กูป่วยถึงต้องให้มึงช่วยรักษา”
ปัณณ์พยายามซ่อนยิ้ม เพราะกลัวคนชวนหวานจะได้ใจ “กูเหนื่อยฉิบหายมึงรู้ไหม อยากหนีไปเหี้ยๆ แต่ก็ไปไม่ได้ เพราะเสือกรักมึงมาก”
“ปัณณ์” พายุจับใบหน้าของปัณณ์ไว้ด้วยสองมือ ดวงตาสบกันนิ่ง “กูรักมึง”
“หึๆ” ปัณณ์ยิ้มกว้าง ความรู้สึกในวันเก่าเลือนหาย ไม่จำเป็นต้องแก้ตัวเพราะมันคือเรื่องจริง แค่คำสั้นๆ ก็ทำให้หัวใจในวันนี้อบอุ่นเพียงพอ
ริมฝีปากที่แนบชิดเข้าหากัน แทนความรู้สึกที่มีภายในใจ ที่ผ่านมาความรักของพวกเขาต่างกัน แต่วันนี้พวกเขารักกัน ไม่เป็นไรหากเส้นทางของความรักจะผ่านความเจ็บปวดมาบ้าง สำหรับปัณณ์แล้วทุกความรู้สึกน่าจดจำเสมอ โดยเฉพาะความรู้สึกนี้
“กูก็รักมึง พายุ”
“มันต้องอย่างนี้สิ” นนท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาอากาศริมทะเลเข้าปอด ลมพัดเย็น แดดร่มลมตก ช่างเหมาะกับการนั่งเล่นรับลมริมหาด
“กูเพิ่งรู้ว่าบ้านมึงอยู่ชะอำ” พายุพูดลอยๆ สายตาแฝงรอยยิ้มก่อกวน
“หึๆ ก็มันอยากมา” ไผ่ยกมือขึ้นรองศีรษะ เอนตัวลงพิงเก้าอี้ชายหาด สายตามองตรงไปยังชายหนุ่มคนเดียวที่ดูตื่นเต้นที่สุดของกลุ่ม นนท์เดินลุยน้ำทะเลเล่น ขณะที่พวกเขานั่งจิบเบียร์เย็นๆ
“มึงน่าจะบอกกู กูได้ตกลงรับปากไอ้เอกว่าจะไปด้วย บ้านฟรีด้วยนะโว้ย ไม่ต้องเสียเงิน”
“เอาไว้ให้มันชอบไอ้ปัณณ์เมื่อไหร่ กูจะไปทันที” ไผ่ตอบหน้าตาย พายุหัวเราะหึๆ อยู่ในคอ
นับวันคู่นี้ยิ่งอาการหนักขึ้นทุกวัน ปัณณ์ได้แต่โคลงศีรษะ ถึงจะทำท่าเหมือนรำคาญ แต่ความจริงเขามีความสุข ที่ได้รู้ว่าเพื่อนรัก รักเขามากแค่ไหน
“คิดแล้วก็ตลกดี” ไผ่หัวเราะ “ใครจะคิดว่ากูจะชอบไอ้นนท์ ถ้าก่อนหน้านี้มีใครพูดกูคงต่อยคว่ำ”
“ฮ่าๆ กูนึกอารมณ์มึงออก” พายุหัวเราะ เพราะเขาก็ไม่ต่างกัน
“หรือถ้าไม่ต่อย กูก็คงขำฉิบหาย ไอ้นนท์เนี่ยนะ” ไผ่โคลงศีรษะ
“กูทำไมวะ” นนท์ผลักหัวไผ่แรงๆ ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวติดกัน เขาเดินกลับมา เมื่อไม่มีใครออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อน
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ต้องยุ่ง”
“เด็กพ่องมึงสิ”
“พ่อกูไม่มีเด็ก แต่ถ้ามึงอยากให้กูเลี้ยงต้อย กูก็เต็มใจ”
“มึงดูนะไอ้ปัณณ์ ไอ้พวกนี้ไว้ใจไม่ได้” นนท์พยายามหาพวก
“เสียใจ มึงยุผิดคนแล้ว เพราะกูไว้ใจได้ กูเป็นเด็กดี”
“กระดิกหางดิ๊กๆ เลยนะมึง” นนท์หมั่นไส้เพื่อนถึงขีดสุด “เชื่องฉิบหาย”
ผลั้ว!!
“มึงตบหัวกูทำไม” นนท์โวยวายลั่น เมื่อโดนพายุตบหัวจนหน้าคว่ำ
“กูเชื่องกับไอ้ปัณณ์ ไม่ได้แปลว่ากูเชื่องกับทุกคน”
“กูจะจำไว้ มึงรักเพื่อนไม่เท่ากัน”
“มึงยังคิดว่ากูจะรักเท่ากันอยู่เหรอ”
นนท์เม้มปาก ก่อนหัวเราะร่วนออกมา “เออ กูลืมไป”
“แต่กูก็ยังรักมึงนะไอ้นนท์”
“ขอบใจ” นนท์ยิ้มกว้าง เขาเข้าใจความหมายที่พายุพูด ความรักมีหลากหลายรูปแบบ เขายังเป็นเพื่อนรักของอีกฝ่ายเสมอ “กูอยากให้พวกเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป”
“มันเมาหรือเปล่าวะ” พายุหันไปถามไผ่
“กูก็ไม่แน่ใจ แต่มันไมได้ดื่มนะ”
“เมาแดดมั้ง” ปัณณ์ออกความคิดเห็น นานๆ ครั้ง เขาถึงจะเข้าร่วมวงแกล้งเพื่อน
“พวกมึง~”
“ฮ่าๆ อย่างอนน่า” ไผ่พาดแขนลงบนไหล่ของนนท์ เขย่าไหล่เบาๆ เป็นการปลอบ
“ก็มึงอยากให้เหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ ก็นี่แหละเหมือนเดิม” ปัณณ์ยิ้มกว้าง ท้าวความคำพูดของนนท์
“งั้นถ้าพวกมึงจะกรุณา ก็ต่างจากเดิมนิดหน่อยก็ได้ ไม่ต้องแกล้งกูมาก”
“กูรักมึง ต่างกับเมื่อก่อนพอไหม”
“กูรักไอ้ปัณณ์”
“พวกมึง~” นนท์หน้าแดง ปัณณ์เองก็ไม่ต่าง เมื่อโดนหางเลขไปด้วย ใบหน้าของเขาแดงก่ำ แต่รอยยิ้มและดวงตาสดใส
“ใส่ซะ” เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายแขนยาวสีฟ้าอ่อนพาดมาบนตักของปัณณ์ เมื่อหันไปมอ งพายุเหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่ข้างใน
“ถึงไม่มีแดด แต่นั่งตาดลมแบบนี้จะไม่สบาย”
“อืม” ปัณณ์พยักหน้า สวมเสื้อเชิ้ตของพายุ ทับเสื้อยืดแขนสั้นตัวบางที่ใส่อยู่ รอยยิ้มแตะแต้มบนใบหน้า
นี่คือพายุที่เขาหลงรัก บางอย่างไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไป เพื่อนรักยังเป็นเพื่อนรัก เพียงแต่การรักเพื่อนทำให้ความสัมผัสของพวกเขาแนบแน่นขึ้น
“ปัณณ์”
“หือ”
พายุเอนตัวเข้าไปหา “อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น แค่นี้กูก็รักมึงมากแล้ว”
ปัณณ์หน้าแดงซ่าน ความร้อนแผ่ไปทั่วหน้า เขาไม่รู้ว่าสายตาของตนเองเป็นแบบไหน เพราะไม่ต้องปิดบังความในใจอีกแล้ว เขาจึงไม่เคยควบคุมมันอีก
“กูโล่งอก ที่ไม่ต้องซ่อนมันอีก”
“ถ้าอย่างนั้นก็มองเถอะ มองแค่กูก็พอ”
ปัณณ์สบตากับพายุ ดวงตาของคนตรงหน้าอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักใคร่ ปัณณ์คลี่ยิ้มช้าๆ พยักหน้าให้อีกฝ่ายรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น สายตาของเขาเฝ้ามองพายุเสมอ
“ถ้ามึงซึ้งกันพอแล้ว สนใจพวกกูนิดก็ดีนะ”
“หึๆ ไอ้ขี้อิจฉา” พายุหัวเราะนนท์ที่ทำหน้าเกรงใจ แต่ก็ตั้งใจขัดพวกเขาขึ้นมา
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” นนท์ยิ้มกว้าง ที่เรียกความสนใจได้
ปัณณ์หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ว่าความรู้สึกจะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน ทุกคนคือคนที่เขารัก เพียงแต่บางคนพิเศษออกไป
ปัณณ์ไล่สายตาช้าๆ จากไผ่ไปนนท์ และจบลงที่ใบหน้าของพายุ ดวงตาสองคู่ประสานกัน ริมฝีปากของปัณณ์คลี่รอยยิ้มออกกว้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความสุข ขอบคุณมึงนะที่รักเพื่อน
เพื่อนรัก ✪✣✤✥✦END✥✤✥✦✧✪
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามกันมาจนจบ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันเสมอ ขอบคุณมากค่า ^^
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin