แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)  (อ่าน 61704 ครั้ง)

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************





!!คำเตือน!!
1. นิยายเรื่องนี้มีคำหยาบคายเป็นจำนวนมาก
2. นิยายเรื่องนี้มีฉากทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง
3. มีความไม่สมจริงในเนื้อเรื่องหลายประการ (ที่เรียกสั้นๆ ว่าเว่อร์)
4. นิยายเรื่องนี้เคยเป็นแฟนฟิคชันมาก่อน คนแต่งคนเดียวกัน ไม่ได้ขโมยมานะ


แจ้งเพื่อทราบ
นิยายเรื่องนี้อัพเดททุกวันพุธและเสาร์จ้ะ (หากคุณนายไม่ลืม)
สามารถใช้ Hashtag #แอ๊บรัก เพื่อพูดคุยกันในทวิตภพได้
Twt: @missredlip_ <----- เพิ่งเล่นเลย ฟอลได้นะจ๊ะ ไม่เวิ่นมากหรอก อิอิ


บันทึกการแอ๊บ
เตรียมแอ๊บ
แอ๊บที่ 1: พี่แมนเกลียดลิปสติกสีแดง
แอ๊บที่ 2: สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนนะ?
แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง
แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ
แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน
แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้
แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ!
แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว
แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า
แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน?
แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้
แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง
แอ๊บที่ 13: รอยด่าง
แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ
แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด
แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด
แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด
แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน
แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป
แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่
แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ
แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง
แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน
แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด
แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก
แอ๊บที่ 26: เฝือก
แอ๊บที่ 27: ตกรถ
แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย
แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค
แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด!



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2018 08:43:22 โดย missredlip »

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เตรียมแอ๊บ



ในนักศึกษาปี 1 จำนวนมหาศาลในรั้วมหาวิทยาลัยอันมีชื่อเสียงนี้ มีชายนามว่า ‘เอกภพ ผลบุญส่ง’ เป็นหนึ่งในนั้น เขาเป็นนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกดุริยางคศาสตร์สากล เครื่องดนตรีที่ถนัดที่สุดคือ กีตาร์



ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายทำให้ เอ็ม ตกเป็นที่หมายปองของหญิงสาวรุ่นพี่จำนวนไม่น้อย แต่ด้วยข่าวลือบางประการที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วทำให้ความนิยมที่ควรจะมีตกฮวบฮาบและสาปสูญไปอย่างน่าเสียดาย มูลเหตุแห่งข่าวลือทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็มาจากคู่แฝดสาวประเภทสองรัก-ยมที่นั่งประกบข้างเขาอยู่นั่นเอง



พวกเขาสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล ตอนประถมก็ยังเตะบอลด้วยกันอยู่ดีๆ เผลอตัวอีกทีเพื่อนเขาก็หนีไปโดดยางเสียแล้ว ไอ้ตัวเขาก็เคยชินกับการมีพวกมันสองคนอยู่ใกล้ๆ ไปๆ มาๆ ก็ซึมซับจริตตุ๊ดไปบ้างโดยไม่รู้ตัว



“อีเอ็มมี่ กูว่าเราไปกินโรงกลางเหอะ”



เมเม่ แฝดสาวผู้พี่ผมทองสั้นมัดจุกผูกโบว์กลางกระหม่อมเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก



“จริงด้วยอีเอ็มมี่ เดี๋ยวพี่แมนโผล่มาเห็นเข้าล่ะ พวกเราตายห่ากันแน่ๆ”



มาม่า แฝดสาวผู้น้องที่ทำผมทรงเดียวกันเด๊ะเอ่ยสมทบ แต่อาการร้อนรนของสองตุ๊ดสาวก็มิได้ทำให้หนุ่มศิลปินมีทีท่าเดือดร้อนแต่ประการใด เขายังลงจ้วงข้าวคลุกกะปิเข้าปากคำโตอย่างเป็นสุข



“มึงสองตัวช่วยเอาสมองมารวมกันแล้วประมวลผลทีได้ไหมครับ ว่าเวลาที่เหลืออีก 20 นาทีเนี่ย พวกมึงจะถ่อไปกินถึงโรงกลางแล้วกลับมาเรียนที่นี่ทันไหม?”



“ที่นี่” ที่เอ็มกล่าวถึง คือ อาคารเรียนรวมที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ใช้เรียนวิชาพื้นฐานร่วมกัน เอ็มและสองเพื่อนซี้ต้องเรียนที่นี่ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสทั้งคาบเช้าและคาบบ่าย ส่วนวันศุกร์จะไปเรียนวิชาคณะพื้นฐานที่ตึกคณะของตัวเอง



โรงอาหารของอาคารเรียนรวมอยู่ใกล้ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ นักศึกษาที่นี่ก็เลยเรียกติดปากกันว่า โรงอาหาร’ถาปัด เหตุผลที่เรียกกันอย่างนั้นเพราะกว่าครึ่งของนักศึกษาที่มาใช้บริการที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาหน้าเถื่อนจากคณะสถาปัตย์อันเลื่องชื่อลือชาด้านความปากหมา ซาดิสม์ ติสท์แตก ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น



ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งมีชีวิตที่มีคำจำกัดความว่า ตุ๊ด กะเทย หรือสาวประเภทสอง จะไม่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้ เนื่องด้วยเป็นอันรู้กันโดยทั่วไปว่าแกนคณะสถาปัตย์รุ่น 01 มีความแค้นฝังรากลึกกับกะเทยนางหนึ่งที่มีความงามหมดจดจนบรรพบุรุษท่านนั้นเผลอหลงรักโดยไม่รู้เพศดั้งเดิมของนาง ที่ร้ายกาจไปกว่านั้นคือแม้ใจนางจะเป็นหญิง แต่นางก็หลงใหลการ “รุก” มากกว่าจะยอมเจ็บตัว ดังนั้นท่านบรรพบุรุษผู้หลวมตัวตกล่องปล่องชิ้นไปกับนางจึงต้องเป็นฝ่าย “รับ” อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ท่านบรรพบุรุษแห่งสถาปัตย์จึงแค้นเคืองกะเทยนางนั้นเป็นยิ่งนัก และได้ทำพิธีกรรมฝังความจงเกลียดจงชังลงหัวรุ่นน้องจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานกว่า 47 ปี



โดยเฉพาะไอ้แกนคณะรุ่นที่ 47 นามว่า...เมืองแมน เลิศบุรุษ  หรือไอ้พี่แมนนั่นแหละ แม่งเกลียดตุ๊ดเข้าไส้จนเอ็มนึกว่ามันเคยไปทำกะเทยที่ไหนท้องมารึเปล่า?



“เฮ้ย! ใครปล่อยตุ๊ดหลุดเข้ามาในเขตเราวะ?”



นั่นไง...นึกชื่อมันยังไม่ทันขาดคำเลย ตายยากจริงๆ สิ พับผ่า!



พอได้ยินเสียงดุๆ ของพี่แมน ไอ้สองหน่อเพื่อนเขาก็สะดุ้งหลังตรงแด่ว มือไม้อ่อนทำช้อนหลุดมือดังเคร้ง เสียงฝีเท้าหนักๆ ของกลุ่มคนประมาณ 10 กว่าคนเดินอ้อมจากด้านหลังของพวกเขามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า แต่ละคนอาวุธครบมือพร้อมรบ มองผ่านๆ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กช่างกลก็เป็นได้



“กูเคยเตือนมึงแล้วใช่ไหม? ว่าอย่าเสนอหน้ามาแดกข้าวถิ่นกู อีเอ็มมี่!”



เจ้าของนาม “อีเอ็มมี่” เงยหน้ามองใบหน้างามๆ ท่ามกลางเหล่าชายฉกรรจ์ด้วยใบหน้าที่กวนตีนโดยไม่ต้องปั้นแต่ง คุณได้ยินไม่ผิดหรอก...ไอ้พี่แมนมัน “งาม” มาก คำเดียวสื่อได้ตั้งแต่หัวจรดปลายนิ้วก้อยตีน แต่ความงามนั้นไม่อาจลบล้างความเถื่อนและโหดร้ายของมันได้เลยแม้แต่นิดดดดดดเดียว ไม่อย่างนั้นมันจะขึ้นมาเป็นแกนนำไอ้พวกหน้าโจรกว่า 10 คนนี่ได้อย่างไรเล่า? จริงหรือไม่?



“ทำไมผมจะมากินที่นี่ไม่ได้ พ่อพี่เป็นเจ้าของโรงอาหารรึไง?”



ใบหน้างามๆ นั่นฉาบความโมโหในบัดดล สมุนฝ่ายซ้ายที่ได้ยินคำอวดดีของรุ่นน้องหน้าขาวก็ถึงกับขึ้นแทนลูกพี่ใหญ่ ร่างสูงขยับตัวเข้าไปหมายจะเอาบาทาลูบพักตร์คนปากดีเป็นการสั่งสอน แต่แกนคณะรุ่น 47 กลับใช้หลังมือแตะอกล่ำๆ ของลูกน้องไว้อย่างแมนๆ



“พ่อกูไม่ได้เป็นเจ้าของที่นี่หรอก แต่โรงอาหารนี้...ห้ามตุ๊ดเข้า เพราะตุ๊ด...ทำกูแดกข้าวไม่ลง โดยเฉพาะตุ๊ดหน้าโหดๆ อย่างมึง เข้าใจไหมคะ? น้องเอ็มมี่”



“กูไม่ใช่ตุ๊ด”



เสียงที่เข้มขึ้นของรุ่นน้องทำให้คุณรุ่นพี่ชักรู้สึกสนุก แมนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างกวนประสาท ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับลูกสมุนมือขวา



“ไอ้งอก น้องมันบอกไม่ได้เป็นตุ๊ดว่ะ ไหนมึงพิสูจน์ซิ”



“ไอ้งอก” สมุนมือขวาผู้ระเบิดรูหูตัวเองด้วยห่วงขนาดเท่าเหรียญสิบกระดื๊บมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเดฟชนิดรัดติ้วเลือดไม่เดินก่อนจะหยิบตัวอะไรบางอย่างโยนเข้าไปในจานข้าวตรงหน้าชายเอ็มอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว



สัตว์ตัวน้อยสีช็อกโกแลตสบตาคนตรงหน้ามันอย่างน่ารัก หนวดยาวๆ สองเส้นส่ายหวิวไหวไปมา ก่อนที่มันจะแสยะยิ้มหวานส่งให้ผู้ชายหน้าหล่อที่ตอนนี้ตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์



“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”



“แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”



วอลุ่มของเด็กศิลป์ดังกลบเสียงสองเพื่อนสาวเสียแทบมิด นายเอกภพกระโดดหวือถอยกรูดไป 1 เมตรอย่างหวาดผวา ยิ่งตอนที่ไอ้พี่แมนใช้ปลายนิ้วคีบหนวดมันขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมาเหมือนของเล่น น้องเอ็มมี่ก็ยิ่งรู้สึกขนลุกชันและอยากอาเจียนข้าวที่เพิ่งเขมือบลงไปออกมาให้หมด



“ร้องซะผีหลังป่าช้าสะดุ้ง ผู้ชายเหี้ยไรกลัวแมงสาบ! มึงยังกล้าพูดอีกนะว่ามึงไม่ใช่ตุ๊ด!”



เสียงหัวเราะเซอร์ราวดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงสนับสนุนคำกล่าวลูกพี่อย่างขำขัน ชายเอ็มที่รู้สึกเสียหน้าและอับอายต่อคนทั้งโรงอาหารที่มองมาเป็นสายตาเดียวกำหมัดแน่นจนข้อขาวแล้วจ้องหน้าสวยๆ อย่างท้าทาย



“ผมว่า...หน้าพี่อ่ะ ตุ๊ด กว่าผมอีกนะครับ”



“โอ...อีเอ็มมี่วอนตาย ปมด้อยพี่แมนเขาเลยนะนั่น”



เสียงคอมเมนต์ที่ลอยมาจากฝั่งผู้ชม ได้รับรางวัลตอบแทนเป็นสายตาเพชฌฆาตจากแกนคณะรุ่นที่ 47 แบบที่นานๆ จะได้เห็นสักที ดวงหน้าหวานที่ยามนี้ถูกความโหดกลบเสียมิดค่อยๆ ผินกลับมามองหน้าคนปากดีช้าๆ ชวนให้ใจเต้น เส้นเลือดบนขมับบางที่เต้นตุบๆ เป็นจังหวะนั่นคล้ายเสียงสัญญาณบ่งบอกให้ชายเอ็มทราบว่าวาจาของท่านกำลังจะได้รับการสนองคืนเร็วๆ นี้แล้ว



เรียวปากบางยกยิ้มหวานเชื่อมให้คุณรุ่นน้อง แต่ไม่ว่าดูยังไง๊ยังไงมันก็เป็นการแสยะยิ้มของหมาป่าที่มีให้ลูกแกะตัวน้อยๆ อยู่ดี คนทั้งโรงอาหารแม้แต่ลูกสมุนที่เห็นภาพนั้นถึงกับขนลุกซู่ ทุกคนตระหนักในใจกันดีแล้วว่า เมื่อพี่แมนยิ้มเยี่ยงนี้...



...อีเอ็มมี่ศพไม่สวยแน่ๆ



“สงสัยน้องเอ็มมี่คงอยากโดดคาบบ่ายเป็นเพื่อนพี่แมน ใช่ไหมครับ?”



แม้กระทั่งเสียงก็ยังหวานยะเยือกไปถึงโพรงกระดูก เอกภพยืนตัวแข็งส่ายหน้าดิ๊กๆ แต่กระนั้นคุณรุ่นพี่ก็ไม่อาจปล่อยให้ความแค้นนี้ล่วงเลยไปโดยไม่ได้รับการสะสางได้



“ไอ้งอก ไอ้เงิบ อัญเชิญน้องๆ ไปเข้าคอร์สหลังยิม”



“รับทราบ!”



.

.

.



หลังยิมหลักของมหาวิทยาลัยจะมีพื้นที่ลานโล่งเล็กๆ สำหรับทำกิจกรรมเอนกประสงค์ ข้างๆ ลานนั้นจะมีต้นมะม่วงต้นใหญ่ยักษ์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงานักศึกษาอยู่เป็นนิตย์ ลานอเนกฯ ในช่วงบ่ายยังคงเงียบเชียบเป็นปกติ แต่ไอ้ที่ไม่ปกติคงเป็นตรงต้นมะม่วงยักษ์นั้นมีสามหน่อเอกดุริยางคศาสตร์สากลถูกจับมัดไว้รอบโคนต้น



เบื้องหน้าพวกเขาคือชายหนุ่มที่มีใบหน้าสวยที่สุดในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ผู้ครองตำแหน่งแกนคณะรุ่น 47 พี่ท่านกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนกระป๋องสีที่ลูกสมุนไปขวนขวายหามาให้ รอบกายของชายหนุ่มยังคงมีเหล่าชายหน้าเหี้ยมนับสิบอยู่เช่นเคย ถัดไปอีกนิดมีไอ้งอกและไอ้เงิบกำลังช่วยกันใช้ตะกร้อทำมือสอยพวงมะม่วงอยู่



คุณเมืองแมนไม่ได้เปรี้ยวปากอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานแต่ประการใด แล้วก็ไม่ได้คิดจะจับมะม่วงเปรี้ยวยัดใส่ปากไอ้รุ่นน้องปากมอมเป็นการลงโทษ แบบนั้นมันอร่อยเกินไป... คุณแมนมีวิธีสร้างเสริมความเป็นบุรุษให้รุ่นน้องที่ดีกว่านั้น



“ไอ้แมน ได้แล้วๆ”



“ดีมาก.......ไอ้เชี่ย! จะยื่นมาใกล้กูทำไมเล่า!”



ไอ้เงิบ สมุนซ้ายรีบย้ายปากตะกร้อให้ห่างไปจากคนสวยทันทีก่อนจะโดนตีนงามๆ ประทับหน้า หัวหน้าแก๊งค์หันไปพยักพเยิดให้ลูกน้องเข้าไปประจำที่ท่ามกลางความหวาดหวั่นของสามหน่อ คุณแมนค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าละมุนละไมคล้ายยมทูตผู้แสนใจดี



“พี่แมน ย..อย่าเล่นอะไรบ้าๆ นะ”



ได้ยินเสียงห้ามอ่อยๆ ของรุ่นน้องแล้ว แมนก็รู้สึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างบอกไม่ถูก มือบางเชยคางคนปากดีขึ้นมาพิจารณาหน้าหล่อๆ ระยะประชิดอย่างแสนเสียดายหากจะปล่อยให้กลายพันธุ์เป็นสปีชี่ส์ที่เขารังเกียจ



“จุ๊ๆ ใครจะเล่นอะไรบ้าๆ กับน้องเอ็มมี่ของพี่ได้ล่ะครับ พี่แค่จะเสริมความเป็นชายให้น้องด้วยทรีทเมนต์สูตรพิเศษ D.I.Y by พี่แมนเท่านั้นเอง...เฮ้ย! พวกมึง ถอด!”



สิ้นคำ กะเทยแท้และกะเทยเทียมรวม 3 หน่อก็ถูกจับเปลื้องผ้าเหลือแต่บ๊อกเซอร์บางๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะระรื่นของเหล่าผู้ล่า โดยเฉพาะไอ้หัวหน้าโจกที่ยิ้มแป้นอย่างแสนเป็นสุข



“พี่แมนขา~ อย่าทำอะไรพวกหนูเลยนะคะ”



เมเม่ที่เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา แล้วส่งเสียงครวญครางอ้อนวอน แต่เธอคงลืมนึกไปว่าชายฉกรรจ์กว่า 10 คนที่ล้อมเธออยู่นี่เกลียดกะเทยเข้าไส้ โดยเฉพาะไอ้เสียงแหลมปรี๊ดสะเทือนแก้วหูนี่ยิ่งแล้วใหญ่



“เฮ้ย! พวกมึงจัดการอีสองตัวนั่นดิ๊ อย่าให้มันกรี๊ดนะ กูรำคาญ!”



“แล้วอีเอ็มมี่ล่ะไอ้แมน”



“พวกมึงห้ามยุ่ง อีเอ็มมี่...เป็นของกู!”



ประกาศตัวแสดงความเป็นเจ้าของเสร็จ คุณหัวโจกก็คว้าถุงก๊อบแก๊บเซเว่นมาสวมมือเซฟตัวเอง ก่อนจะรับกิ่งมะม่วงที่ลูกสมุนอุตส่าห์ไปสอยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบ พอพ่อนักดนตรีเห็นของที่อยู่ในมือรุ่นพี่เท่านั้นล่ะ หน้าหล่อๆ ก็ซีดเป็นกระดาษดับเบิ้ลเอ เพราะไอ้พวงเขียวๆ ในมือไอ้พี่แมนนั่นมันคือ...



รังมดแดง!



“เฮ้ย! ไม่เอานะเว้ย! อย่าเอามาใกล้เด้! อย่าเอาเข้าม๊า!”



ผัวะ ผัวะ



เจอเข้าไปสองป้าบกลางอก ทำเอาพ่อหนุ่มมือกีตาร์ใจเต้นแรง มันเริ่มจากคันยุบยิบ ก่อนจะเสียววูบวาบ แล้วก็เจ็บจี๊ดๆ ถ้ามันกัดตัวเดียวล่ะพอทนไหว...แต่พอมันเริ่มสามัคคีกันขึ้นมาเมื่อไร



“ซี้ด~ เหี้ย! แม่งกัดนม!”



เอ็มพยายามสะบัดตัวให้ไอ้ตัวแดงๆ นี่ร่วงจากตัว แต่เพราะถูกมัดไว้จะสะบัดแรงก็ไม่สะดวก ไอ้มดบ้านี่ก็เกาะหนึบจริงๆ มดหรือจิ้งจกวะเนี่ย!



“หึหึหึหึ”



ท่าทางไอ้พี่แมนแม่งจะซาดิสม์ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอแบบโคตรพออกพอใจแล้วเอ็มก็ยิ่งโมโห โมโหทั้งที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากบิดเกร็งเนื้อตัวที่แดงเพราะความเจ็บปวด แต่เพียงเท่านี้ยังไม่สาแก่ใจคนเป็นรุ่นพี่ มือเล็กเอื้อมไปแตะขอบบ็อกเซอร์บางๆ ของนักศึกษาคณะศิลป์เป็นสัญญาณนัยๆ ให้คุณรุ่นน้องหันขวับมามองหน้าสวยๆ ด้วยดวงตาเบิกโต



“ไม่เอานะเว้ย!”



“น้องเอ็มมี่มีสิทธิเลือกด้วยเหรอครับ?”



แม่งเอ๊ย! รอยยิ้มปีศาจชัดๆ! ใบหน้าหล่อได้แต่ส่ายดิ๊กๆ ไปมา น้ำตาแทบไหล แต่ไม่อาจห้ามนิ้วเรียวที่ค่อยๆ รั้งขอบบ๊อกเซอร์พร้อมกางเกงในรอสโซ่ให้ยืดออกได้



“อื้อหือ~ พ่อให้มาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย มา! เป็นอาหารมดซะเถอะมึง”



แคว่ก แคว่ก



คุณเมืองแมนเขย่ารังมดแดงสองสามทีให้อสูรตัวจ้อยร่วงลงไปสู่จุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะถอยออกมาดูใบหน้าสุดบรรยายของรุ่นน้องอย่างโคตรสะใจ หน้าหล่อๆ นั่นเริ่มจากสีขาว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่วง และจบท้ายด้วยเขียวได้อย่างงดงามที่สุด พ่อนักกีตาร์เขย่งปลายเท้าหนีบขาท่าเดียวกับไมเคิล แจ็กสันพลางกรีดร้องเป็นสำเนียงประหลาดหูไม่เหลือเค้าคนที่สาวๆ อยากควงไปเชยชมเลยแม้แต่คราบ



“อู้โห๊ววววว โอ่ว ซี้ดดดด อะหึ๊ยยยยย”



“วะฮะฮะฮะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”



ไอ้หัวโจกหน้าสวยปิดท้ายการลงทัณฑ์รุ่นน้องปากหมาด้วยเสียงหัวเราะดุจพญามารในหนังจีนที่ดังก้องไปทั่วลานเอนกประสงค์ ช่วงเวลาอันสุดแสนสยิวกิ้วและทรมานของสามหน่อดำเนินไปอีกชั่วครู่ใหญ่กว่าไอ้พี่แมนจะยอมปล่อยตัวเหยื่อให้หลุดพ้นจากทัณฑ์ทรมาน รุ่นน้องสามคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นแทบเท้าคุณแมนหอบหายใจแรงเนื้อตัวแดงเป็นปื้น



“ไงครับอีเอ็มมี่...กูยังหน้าเหมือนตุ๊ดอยู่รึเปล่าครับ?”



“ไม่เหมือนค่า~ ฮืออ”



“กูไม่ได้ถามพวกมึงครับ อีกุมารแฝด กูถามอีเอ็มมี่ครับ ตอบกูด้วยครับ”



เห็นไอ้จอมซาดิสม์มันลอยหน้าลอยตาคาดคั้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องแล้ว เอ็มก็อยากจะซัดหน้าสวยๆ นั่นให้หงายซักหมัด แต่ติดที่ว่าขืนทำอย่างนั้นไปจริงๆ เขาคงได้กลายเป็นเป็นศพหมกท่อหลังมหาลัยเป็นแน่แท้



“ไม่เหมือนครับ”



เมื่อได้ฟังคำตอบที่น่าพึงพอใจ คุณเมืองแมนก็ยิ้มแป้นอย่างหยาดเยิ้ม ก่อนจะผายมืออนุญาตให้คุณรุ่นน้องทั้งสามลุกขึ้นได้ ซึ่งพวกเขาก็ได้แต่หยัดตัวลุกขึ้นยืนโงนเงนเหมือนคนเมา



“อ้อ! แล้วต่อไปอย่าเสนอหน้ามาให้กูเห็นที่โรงอาหารอีกนะครับ พวกมึงไปได้”



เมื่อได้ยินคำอนุญาต เมเม่และมาม่าก็เผ่นแนบทันที เหลือทิ้งไว้แต่เพื่อนหน้าหล่อที่ยังมองหน้าคุณหัวโจกเหมือนมีอะไรอยากจะพูด



“พี่แมนครับ...”



“ครับ”



“หน้าอย่างมึงไม่เหมือนตุ๊ดหรอกครับ...”



ไอ้หน้าหล่อสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่คล้ายรวบรวมความกล้ามาจากทุกรูขุมขน



“ แต่หน้าอย่างมึง...จะได้ผัวเป็นตุ๊ดแน่นอนครับ กูขอแช่งไว้ตรงนี้เลย!”



“อีเอ็มมี่!”



กว่าจะรู้ตัวว่าถูกมันด่าเข้าให้อีกรอบ มันก็ใส่เกียร์หมาเผ่นตามเพื่อนตุ๊ดแฝดไปไกลเกินกว่าจะตามทันได้แล้ว คุณแกนคณะสถาปัตย์เลยได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกระฟัดกระเฟียดพลางคาดโทษไอ้ตุ๊ดหน้ามาเฟียอย่างเคืองแค้น



“อย่าให้กูเจอมึงอีกทีนะ คราวนี้กูจะเล่นแม่งให้อยู่ที่นี่ไม่ได้อีกเลย คอยดู!”

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 1: พี่แมนเกลียดลิปสติกสีแดง



นายเอกภพ ผลบุญส่ง หรือ อีเอ็มมี่ของไอ้พี่แมน ไม่ได้ไปเหยียบโรงอาหารของอาคารเรียนรวมมาหนึ่งสัปดาห์เต็มแล้วครับ



สาเหตุคงไม่ต้องบอก นึกแล้วลูกชายในบ๊อกเซอร์ยังเสียวจี๊ดไม่หาย แถมเขาไปแช่งมันไว้เสียขนาดนั้น เรียกได้ว่าตอนนี้ถ้าเจอหน้านี่มีบาทาลูบพักตร์สถานเดียวล่ะ แล้วน้ำหนักตีนไอ้พี่แมนนี่แปรผกผันกับเอวบางๆ ร่างน้อยๆ ของมันอย่างสุดกู่ครับ ไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้มจริงๆ ไม่แนะนำให้ลอง



“กูอยากแดกก๋วยเตี๋ยวโรง’ถาปัดว่ะ”



แฝดตุ๊ด และ เพื่อนที่โดนเหมารวมว่าเป็นตุ๊ดสะบัดหน้ามองมาม่า แฝดผู้น้องอย่างพร้อมเพรียง ฝ่ายสาวเจ้าที่วันนี้ติดกิ๊บรูปเชอร์รี่ไว้บนหัวอย่างกิ๊บเก๋ก็เขี่ยเส้นเล็กต้มยำที่ลอยอืดเต็มชามอย่างรังเกียจ



“มึงติดใจมดแดงใช่ไหมคะ อีม่า?”



มาม่าทำท่าขนลุกขนพองอย่างมีจริตเมื่อถูกพี่สาวตัวเองกระทบกระเทียบ นึกถึงเหตุการณ์ฝันร้ายวันนั้นแล้วสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก



“ถึงกูจะชอบแบบเจ็บๆ แต่กูขอชี้เฉพาะพื้นที่นิดนึงนะคะ ใต้ต้นมะม่วงนี่มันก็ประเจิดประเจ้อไปค่ะ”



สาวน้อยลูกเชอร์รี่จีบปากจีบคอพูด



“อีกอย่าง พวกมึงก็รู้ว่าอาหารโรงกลางแม่งไม่เป็นอันจะแดก แถมกว่าจะถ่อไปถ่อกลับกลางแดดร้อนนรกนี่ก็เล่นเอาสายไปสามคาบแล้วนะยะ โดยเฉพาะคาบอีอังเดร...นางบอกวันมินิทเลทเท่ากับแอ๊บเซนท์ค่า หักแอดเทนแดนซ์กูไป 2 คะแนนเหนาะๆ”



ได้ฟังเหตุผลคุณเพื่อนแล้ว หนุ่มนักกีตาร์ก็พยักหน้าหงึกๆ ก็จริงของมันที่อาหารโรง’ถาปัดทั้งถูกและอร่อยกว่า แถมยังไม่ต้องเหนื่อยกับการวิ่งเป็นหมาหอบแดดเพื่อเอาตัวเองไปนั่งเสนอหน้าในห้องให้ทันก่อนเช็คชื่อด้วย



“ทนๆ เอาหน่อยวะ เดี๋ยวพี่แมนแม่งก็เรียนจบละ”



“อีกตั้งสองปี! หน้ากูฝ้าขึ้นพอดีค่ะ อีเอ็มมี่!”



“มึงก็เลือกเอาละกันนะคะอีมาร์ค ว่าอยากให้อะไรขึ้นหน้ามึงมากกว่า ระหว่างฝ้ากับตีนพี่แมน กูไปเยี่ยวก่อนล่ะ”



ด่าจบ อีเอ็มมี่ก็ชิ่งหนีไปปลดทุกข์อย่างปากมันว่า ทิ้งให้น้องมาม่ากรีดร้องด่ายันโคตรตามหลังโทษฐานที่มันกล้าเอ่ยนามลับที่ถูกฝังไปแสนนานแล้วออกมา



เด็กคณะศิลป์เดินออกมานอกโรงกลางเพราะห้องน้ำถูกสร้างไว้ด้านนอก เนื่องจากโรงอาหารกลางไม่เป็นที่นิยมนัก ห้องน้ำก็เลยเงียบเหงาตามไปด้วย ชายเอ็มเลือกโถด้านในสุดสำหรับปลดปล่อยความอัดอั้น



แต่ระหว่างที่กำลังฟังเสียงน้ำกระทบเซรามิคไม่ถึงครึ่งทางนั้นเอง เสียงโวยวายของชนกลุ่มใหญ่ที่แสนคุ้นหูก็ดังมาจากด้านนอกในทิศทางที่มั่นใจได้ว่าเข้ามาในนี้แน่ๆ น้องเฟรชชี่รีบบีบรัดกระเพาะปัสสาวะตนเองอย่างสุดความสามารถก่อนจะสะบัดน้องชายพอหมาดแล้วพุ่งตัวเข้าสู่ห้องน้ำด้านหลังอย่างฉิวเฉียด



“ปวดเข้ว้อย~”



เสียงกวนเบื้องล่างที่เอ็มจำได้ว่าเป็นเสียงไอ้งอก สมุนมือขวาของไอ้พี่แมนดังนำเข้ามาก่อน เสียงเปิดไล่ดูห้องน้ำทีละห้องใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้คนมีคดีติดตัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะสามช่า



“ทำไมสายฉีดตูดมันพังทุกห้องเลยวะ”



“อ้าว...กูนึกว่าปกติมึงไม่ใช้นะเนี่ย”



เสียงหยอกเย้าลูกสมุนของไอ้พี่แมนทำให้เอ็มอุทานคำว่า “ชิปหาย” ดังลั่นอยู่ในใจ เสียงหัวเราะอย่างสรวลเสเฮฮาด้านนอกช่างขัดกับความรู้สึกของผู้ชายโคตรซวยที่กำลังหลับตาปี๋เอาหัวโขกกำแพงห้องน้ำเบาๆ พลางด่าโชคชะตาของตัวเองที่ส่งความวิบัติมาให้เขาตลอด



นี่กูหนีมาไกลถึงโรงกลาง...แล้วพวกมึงมาทำอะไรที่นี่?



“ไอ้งอก...ช่างเขาบอกมอ’ไซค์มึงซ่อมเสร็จเมื่อไหร่วะ?”



“เย็นนี้ก็มารับได้ละสัด เฮียเขาลัดคิวให้กูเว่ย”



ราวกับแก๊งค์เถื่อนแห่งสถาปัตย์รุ่น 47 ด้านนอกจะได้ยินคำถามของเอ็ม ไอ้งอกและไอ้เงิบช่างเปิดประเด็นเรื่องได้จังหวะพอดิบพอดีจนคนหน้าหล่อแทบอยากจะคลานเข่าไปกราบขอบคุณ เสร็จแล้วค่อยไปดักตีหัวไอ้เจ้าของร้านซ่อมที่เสือกมาเลือกทำเลเปิดร้านมันข้างโรงอาหารกลาง!



“เฮ้ย! ไอ้ห้องสุดท้ายอ่ะเสร็จยังวะ? กูจะขมิบไม่ไหวแล้วนะเว่ย!”



ไอ้ห้องสุดท้ายที่ว่าสะดุ้งเฮือก นึกหาวิธีประวิงเวลาให้ได้นานกว่านี้ นักศึกษาวิชาดนตรีเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้านในอย่างกระวนกระวาย หัวใจยิ่งหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อไอ้พี่งอกแม่งเคาะประตูเร่งรัวๆ อย่างไม่กลัวเจ็บมือ



 “ไอ้งอก...ถอยออกมา”



สมุนมือขวาชะงักมือที่กำลังจะเคาะเร่งทันควันเมื่อเสียงเข้มของลูกพี่ลอยมา สมุนทั้งหมดมองตามสายตาลูกพี่แมนที่มองต่ำลงไปยังรองเท้าคู่หนึ่งที่โผล่พ้นขอบประตูด้านล่างอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะเย็นปรากฏบนใบหน้าหวาน ทั้งหมดก็หนาวเยือกในอกโดยพร้อมเพรียง



เปรี้ยง!



คอนเวิร์สสีเขียวหม่นกระทบวัสดุไม้ที่เรียกว่าประตูเต็มแรงจนตัวล็อกด้านในสั่นสะเทือน อีเอ็มมี่มองกลอนที่เริ่มไม่มั่นคงด้วยตาโตเท่าไข่ห่าน แรงตีนระดับนี้ไอ้พี่แมนเป็นแน่แท้...



เปรี้ยง!



“ใครวะไอ้แมน?”



ไอ้เงิบสอดปากเมื่อเห็นลูกพี่แนบฝ่าเท้าเข้ากับประตูเป็นรอบที่สองด้วยใบหน้าแจ่มใส คนหน้าสวยขัดกับความเถื่อนในตัวหันมายิ้มหวานพร้อมตอบคำถามเพื่อนด้วยโทนเสียงเดียวกัน



“เมียกูเองอ่ะ”



เมียพี่แมนสบถในใจว่า “แม่งรู้ได้ไงวะ?” ดังลั่นเป็นคำรบสอง เอ็มรับสถานะไปโดยปริยาย ลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตนควรจะปฏิเสธตำแหน่งที่ถูกสถาปานาขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อครู่นี้เสียมากกว่า



“อีเอ็มมี่ กูรู้นะว่ามึงอยู่ในนั้น กูจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้ามึงไม่ออกมา กูจะเปลี่ยนจากกระทืบประตูเป็นกระทืบมึงแทน”



คนถูกขู่แทบร้องไห้ มองบานประตูห้องน้ำเก่าๆ ที่ตัวล็อกห้อยต่องแต่งหลังจากถูกถีบไป 2 ทีติด ก็เห็นอนาคตรางๆ แล้วว่าหากขัดขืนพี่แมนเธอต่อไป คงได้ถูกลากไปเข้าคอร์สเสริมชายรอบสองแน่



“นับหนึ่ง”



เอาวะ...ยังมีเวลาทำใจอีก 2 วิฯ



“สอง!”



แม่ง...ไอ้พี่แมน มึงนับเร็วจังวะ!



“สาม!”



แกร๊ก!



ประตูบานเก่าเปิดผางออก เป็นเวลาเดียวกับฝ่าเท้าของแกนคณะรุ่นที่ 47 ยกขึ้นในระดับอกของคู่กรณีพอดิบพอดี โชคดีของอีเอ็มมี่ยิ่งนักที่พี่แมนเธอยั้งเท้าไว้ทัน ไม่งั้นได้เห็นตุ๊ดหล่อหงายหลังตกส้วมไปแล้ว



กะเทยเทียมเดินออกมาด้วยท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมในขณะที่ไอ้หน้าสวยแต่โหดเถื่อนระดับพระกาฬยืนยิ้มหวานชวนขนลุกต้อนรับ อีเอ็มมี่รีบทำตัวเป็นเด็กหนุ่มมืออ่อนสวัสดีรุ่นพี่โดยไว



“สวัสดีครับพี่แมน”



“มารยาทงามมากครับเมียพี่ น่าส่งประกวดมิสทิฟฟานี่สุดๆ”



หนุ่มหน้าคมแสร้งทำตาแป๋วฉีกยิ้มรับคำชมประหลาดอย่างเนียนๆ



“หมู่นี้พี่ไม่ค่อยเห็นหน้าน้องเอ็มมี่เลยนะครับ”



“ก็พี่แมนบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าผมนี่ครับ”



อีเอ็มมี่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้อย่างน่าตบ



“ยอกย้อนเหรอครับ?”



“ใคร๊? ใครจะกล้ายอกย้อนพี่แมนด๊าย~?”



เยินยอพอให้รู้ว่าตอแหลไม่เนียน ก่อนที่ทั้งคู่จะยิ้มตาปิดให้กันอีกครั้งอย่างสุดแสนน่ารัก



“พี่รู้สึกเหมือนน้องเอ็มมี่หลบหน้าพี่เลยอ่ะ ทำอะไรพี่ไว้แล้วคิดจะไม่รับผิดชอบเหรอครับ?”



ไอ้พี่แมนแอ๊บหน้าเป็นนางเอกถูกฟัน ถามเสียงเครือหวิวพลางม้วนปอยผมตัวเองเล่นอย่างน่ารัก แต่ไม่รู้ทำไม๊~ ทำไมอีเอ็มมี่ถึงได้รู้สึกขนหลังคอมันลุกวูบๆ ชวนหนาวชอบกล



“กล้าพูด...ใครทำใครกันแน่วะ?”



เด็กศิลป์พึมพำเบาๆ แต่ไม่อาจรอดหูทิพย์ของรุ่นพี่ผู้ทรงอิทธิพลได้



“จะพูดอะไรก็ให้มันกล้าๆ หน่อย ใจอย่าตุ๊ด! พี่จับเข้าคอร์สไปรอบหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอครับ? แต่เหมือนในหัวมึงจะไม่มีสมองเลยนะ ถึงได้ไม่รู้จักจดจักจำ แกว่งปากวอนตีนกูอยู่เรื่อย!”



พี่แมนส่งสัญญาณให้สมุนสองนาย พี่งอกและพี่เงิบ ปรี่เข้าไปล็อกแขนเมียรักไว้คนละข้าง คนที่เริ่มรู้ชะตากรรมเหงื่อแตกราวกับออกกำลังกายมาร่วมชั่วโมง



“อันนี้...ตั้งใจจะอ่อยกูรึเปล่าครับ?”



ไอ้สวยโหดขยับเข้ามาใกล้พลางชี้ไปยังจุดยุทธศาสตร์ใต้กุงเกงลิงสีขาวที่ยังปกปิดด้วยกางเกงยีนส์ไม่มิดเนื่องจากความรีบร้อนเมื่อครู่ อีเอ็มมี่หน้าซีดเผือด รสชาติสุดสยิวของมดแดงยังตราตรึงใจมิหาย นี่ไอ้พี่แมนแม่งกะเล่นจุดเดิมอีกแล้วเหรอวะ? มึงติดใจอะไรน้องชายกูหนักหน๊า??!!



“ไม่นะ...พี่แมน ไม่เอานะ”



หนุ่มสายดนตรีส่ายหน้าอ้อนวอน คนหน้าสวยแสร้งตีสีหน้าสงสารแต่ดวงตาฉายชัดถึงความสะใจยามที่เกี่ยวขอบกางเกงในลงและมือบางตั้งท่าพร้อมจะรูดซิปกางเกงยีนส์ขึ้น



“พี่แมน ไม่ๆๆๆๆ ไม่เอ๊า!”



อีเอ็มมี่เบี่ยงสะโพกหนีมือแกนสถาปัตย์ด้วยท่าทางอุบาทว์ลูกตา แต่เมื่อลูกเจี๊ยบตุ๊ดมาอยู่ในมือมารหน้าสวยแล้วมีหรือมันจะรอดพ้นไปได้?



“ไปสู่สุคตินะครับ น้องเอ็มมี่”



ฟืดดด!!



เสียงฟันซิปแนบเข้าหากันด้วยความเร็วสูงสุดบาดใจชายเอ็มเป็นยิ่งนัก แต่เหนือยิ่งไปกว่าความเจ็บที่ใจ...ความเจ็บที่อื่นกำลังพุ่งพล่านแล่นริ้วด้วยสภาพที่ทรมานกว่าโดนมดแดงกัดเป็นสิบเท่า สมุนงอกและเงิบปล่อยเหยื่อให้ค่อยๆ ร่วงผล็อยลงงอตัวเป็นชายน้อยแห่งบ้านทรายทองกับพื้นห้องน้ำอย่างไม่คิดแยแส



“ไอ้เหี้ยยยยยยย...อึก...ไอ้พี่...แมน...แม่ง.... ซิปหนีบ***กู๊!!!



“วะฮะฮะฮะฮะฮะฮ่า!!!!!!”



เสียงหัวเราะสุดแสนโฉดชั่วหลุดออกมาจากริมฝีปากอมชมพูของแกนคณะสถาปัตย์ที่หน้าตางดงามขัดกับนิสัยอย่างสุดขอบเหว และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาเหยียบห้องน้ำอาถรรพ์แห่งนี้อีกเลย!!



.

.

.



หลังจากเหตุการณ์ที่ประทับรากฝังลึกในใจของนายเอกภพวันนั้น ก็ทำให้หนุ่มนักดนตรีต้องลาเรียนไปนอนโรงพยาบาลอยู่เกือบอาทิตย์ คุณอาจจะคิดว่าแม่งสำออยเว่อร์ แต่ซิปหนีบ***นะครับ! อยากรู้ว่าเจ็บแค่ไหนคุณก็ลองหนีบของตัวเองเล่นดูเซ่!! พูดแล้วมันช้ำ!



“กูว่า...ไอ้เหี้ยพี่แมนแม่งต้องอิจฉาความใหญ่โตของลูกกูแน่ๆ เจอหน้ากันที่ไรทำร้ายลูกกูตลอด! สงสัยของแม่งจะเล็ก!”



นายเอ็ม หรือ อีเอ็มมี่ เฟรชชี่ปี1 นั่งก่นด่ารุ่นพี่ที่เพิ่งสร้างเรื่องแค้นเคืองกันมาเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ลานโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ โดยมีสาวน้อยเมเม่นั่งคอยรับฟังอยู่เคียงข้างอย่างไร้เงาแฝดผู้น้อง



“ค่า~ อีเจ้าโลก อีมหึมา! มึงไม่ใช้โทรโข่งประกาศตรงนี้เลยล่ะคะ!”



“อีเมฆ!!”



“อย่ามาเรียกชื่อจริงกูค่ะ! อีกอย่าง กูว่าของพี่แมนก็คงไม่ใช่เล็กๆ นะคะ เห็นหน้าสวยฆ่าชะนีตายทั้ง ม. แบบนั้นน่ะ มีเมียแล้วนะคะ! มีมาหลายคนแล้วด้วย! กูยังอยากลองกะเค้าเลยค่ะ!”



“แล้วมึงถามเค้าไหมคะว่าอยากลองกะมึงรึเปล่า?! มึงอาจจะตายคาเตียงเค้าก็ได้นะคะ จุ๊ๆ ไม่ใช่ลีลาพี่เค้าเด็ดนะคะ แต่โดนกระทืบตายเพราะพี่เค้าเกลียดกะเทยค่า!”



น้องมาม่าที่เพิ่งเดินเข้ามารวมกลุ่มบลัฟพี่สาวอย่างเจ็บแสบพร้อมวางกล่องเครื่องสำอางเซ็ทใหม่ล่าสุดที่เพิ่งฝากเพื่อนหิ้วมาจากอเมริกาอันไกลโพ้น



“กรี๊ด~! มาแล้วเหรอมึง!”



“ค่า อีลิ้นจี่มันฝากบอกด้วยว่า...ตอบแทนที่พี่เม่กับพี่ม่าติดต่อหนุ่มฝรั่งคนนั้นให้ ลีลาถึงใจจี่มากค่า~!”



แล้วสองสาวก็กรี๊ดกร๊าดกันอย่างไม่อายใคร พลอยทำให้หนุ่มเอ็มหัวเราะคลอไปกับความสดใสของเพื่อนด้วย ถึงคนอื่นจะมองเขาเหมารวมไปยังไงก็ช่าง อยู่กับพวกมันแล้วเขาสบายใจ เพื่อน...จะเป็นเพศไหนก็เพื่อนอยู่ดี



“เกรงใจมันบ้างไหมเนี่ย พวกมึง?”



“ไม่หรอก อีเอ็มมี่ อีจี่มันไปประเทศไหนก็หิ้วของมาขายประจำอยู่ละ เนี่ยมันไปขายอยู่ตรงตลาดนัดหลังคณะเรานี่ไง”



มาม่าตอบ พร้อมชี้นิ้วไปยังตลาดนัดขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งนึงของตึก เพราะสุดเขตตรงนี้ไปจะเป็นหอนอกของนักศึกษา ตลาดนัดที่นี่จึงมีคนค่อนข้างเยอะและจอแจ เรียกได้ว่าขายอะไรก็ทำมาค้าขึ้น



“ว่าแล้วก็ลองเลยดีกว่า”



สองสาวก็แต่งโน่นละเลงนี่บนใบหน้ากันอย่างมีความสุขโดยมีชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มคอยวิจารณ์และแนะนำแบบขำๆ มองจากสายตาคนนอก ยังไง๊ยังไงมันก็เพื่อนสาวสามคนกำลังเม้าท์เรื่องความสวยความงามโดยแท้



“มึง...กูอยากลองลิปสีนี้”



เมเม่ชูลิปสีแดงสดยี่ห้อดังให้เพื่อนเอ็มดู ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าให้โดยไม่ขัดอะไร



“มึงก็ลบสีชมพูออกก่อนแล้วลองทาดูดิ”



“ไม่ๆ คือกูจะลองกับปากมึง อีเอ็มมี่”



เอ็มสะบัดหน้ามองเพื่อนสาวราวกับจะถามว่า “กูฟังผิดใช่ไหม?” แต่เมเม่กลับเหยียดปากพยักหน้าตอกย้ำความเป็นจริงอย่างเริ่ดๆ



“ประสาทหรือเปล่าครับอีเมเม่? กูทาสีนี้นี่กูกลายเป็นปอบทันทีเลยนะครับ”



“ไม่หรอกปากมึงออกจะสวย สีผิวมึงใกล้กูด้วย ลองแทนกันได้”



“มึงอ่านปากกูนะครับอีเม่ ‘ไม่’ ชัดไหมครับอีเม่? ‘กู – ไม่ – ทา’”



เสียงทุ้มกล่าวช้าๆ ชัดๆ จนสาวเจ้าตีหน้าบึ้ง ดวงหน้าขาวผ่องตามฉบับตุ๊ดหมวยเชิ่ดขึ้นขนานพื้นโลกแทบจะ 180 องศา



“ใช่ซี้~ เรื่องแค่นี้เพื่อนกันมันทำให้กันไม่ได้หรอก! ทีตอนน้องมึงโดนซิปหนีบเข้าโรง’บาล กูคอยส่งข้าวส่งน้ำสามเวลาเพราะหมาบางตัวมันบ่นว่ากับข้าวโรง’บาล ไม่เป็นอันจะแดก! กูมันไม่มีความดี ไม่มีเล้ย!!”



เมเม่ตัดพ้อพลางร่ำสะอื้นไห้ด้วยบทโศกที่การันตีด้วยเกรดเอวิชาแอคติ้ง ฝ่ายน้องสาวที่รู้มุขก็รีบถลาเข้ามาลูบหัวลูบหลังปลอบใจอย่างทันท่วงที พอเอ็มเห็นแบบนั้นแล้วก็พูดอะไรไม่ออก ตอนที่เขาป่วยอยู่ นอกจะเมเม่กับมาม่าจะผลัดกันส่งข้าวส่งน้ำตามที่พวกมันบอกแล้ว พวกมันยังคอยส่งใบลา เก็บชีท จดเล็กเชอร์ และทำงานในส่วนของเขาส่งอาจารย์ให้อีกด้วย เรียกได้ว่าคว้ารางวัลเพื่อนดีเด่นแห่งปีไปครองกันได้เลยทีเดียว



“เออๆๆ ลองเสร็จกูลบเลยนะ”



พอได้ยินคำอนุญาตจากปากเพื่อนรัก สองแฝดศรีก็แอบแท็คมือกันอย่างแนบเนียนก่อนจะค่อยๆ ปาดน้ำตาแล้วยิ้มเริงร่ามาแต่งแต้มสีสันบนเรียวปากรูปกระจับของเพื่อนอย่างตั้งใจ



“ว้าย~ สวยว่ะมึง!”



พอทาเสร็จ สองสาวก็วี๊ดว้ายกระตู้วู้กันตามภาษา ฝ่ายชายแท้ก็พยักหน้ารับไปอย่างแกนๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าทิชชู่ของแฝดผู้น้องที่อยู่บนโต๊ะ



“กูลบนะ”



“แปบ ถ่ายรูปอัพ IG ช็อตเดียวมึง ยิ้มหน่อยๆ นะน้า~”



เห็นปากหมาหน้าโหดแบบนี้ แต่ชายเอ็มใจอ่อนเสมอกับสตรีและชะนีข้ามเพศนะครับ อ้อนหน่อยก็ปล่อยผ่านทุกเรื่องแล้ว คนหน้าหล่อที่ถูกแต่งเติมความแรดด้วยลิปสีแดงสดยิ้มใส่กล้องไอโฟนอย่างเขินๆ



“น้องปากแดง...น่ารักจังเลยครับเนี่ย~ เห็นหน้าแล้วอยากอ้วกใส่ขึ้นมาทันทีเลยครับ”



เสียงหวานๆ แต่กวนประสาทขั้นเทพแบบนี้ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเสียงใคร พี่ท่านมากันเป็นฝูงเช่นเคยแม้ไอ้พวกลูกกระจ๊อกข้างหลังจะไม่เคยมีบท ของกินที่หอบหิ้วมาเต็มไม้เต็มมือนั่นคงไม่ต้องเดาว่าไอ้แก๊งค์ช่างกลแห่งสถาปัตย์แก๊งค์นี้มันเสนอหน้ามาทำอะไรที่คณะศิลป์ ถ้าไม่ใช่มาเดินหาของกินที่ตลาดนัดหลังตึก



“พี่แมน...สวัสดีค่า”



สองแฝดสาวทักทายหัวหน้าแก๊งค์เสียงอ่อยก่อนจะเฟดตัวเองไปหลบหลังเพื่อนหนุ่มอย่างเกรงกลัวอิทธิพล ชายเอ็มจ้องหน้ารุ่นพี่อย่างไม่สบอารมณ์นักเนื่องจากความเจ็บแค้นสองครั้งติดยังซ่านทรวงอยู่ไม่เจือจาง



“ได้ข่าวว่าป่วยเข้าโรง’บาล หายดีแล้วเหรอครับ?”



คนพูดแสร้งทำทีถามไถ่อย่างเป็นห่วงเสียเต็มประดาพลางทิ้งหางตามองเป้ากางเกงรุ่นน้องอย่างมีนัยยะ



“ลองใช้งานดูรึยังว่าสภาพคงเดิมรึเปล่า? โอ๊ะๆ พี่แมนก็ลืมไปว่าน้องเอ็มมี่ไม่ต้องใช้ข้างหน้า...ใช้แต่ข้างหลัง~”



ลูกน้องแก๊งค์ถาปัตย์ส่งเสียง ฮิ้ววววว โดยพร้อมเพรียง เรียกสายตาคนแถวนั้นให้หันมามองและเริ่มจับกลุ่มซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปาก มาม่าบีบไหล่เพื่อนที่อารมณ์เริ่มเดือดให้ใจร่มๆ ลงก่อน



“กูไปก่อนนะครับ อีตุ๊ด!”



พูดจบ ไอ้พี่แมนก็เดินนำสมุนไปอย่างโคตรแมน พอพี่แมนเดินไปได้ไม่ทันพ้น 3 ก้าว อีเอ็มมี่ปากแดงก็หันไปกระซิบกับเพื่อนสาวอย่างสุดทน



“อีเม่ เดี๋ยวกูซื้อแท่งใหม่ให้มึงนะ”



ว่าแล้วก็หมุนลิปขึ้นมาจนสุดแล้วก้าวอาดๆ ไปคว้าตัวไอ้พี่แมนทันที แต่มีหรือแกนนำคณะสถาปัตย์ที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดจะแพ้ทางกลยุทธ์ง่ายๆ แค่นี้ มือขาวคว้าข้อมือที่ใหญ่กว่าของอีกคนไว้ได้ทันก่อนที่ลิปสติกสีแดงสดนั่นจะป้ายมาที่ปากตัวเอง



“มึงจะทำอะไร? อีเอ็มมี่!!”



“ก็จะทำให้พี่กลายเป็นตุ๊ดต่อหน้าคนทั้งลานนี่เหมือนผมไงครับ”



ตุ๊ดเทียมพยายามออกแรงเคลื่อนมือเข้าหาปากบางๆ ของคนเป็นรุ่นพี่ แต่ไอ้พี่แมนแม่งก็แรงเยอะสมคำร่ำลือจริงๆ มือเล็กที่เหมือนบีบทีเดียวจะหักกลับต้านแรงเขาได้อย่างง่ายดาย แมนแสยะยิ้มเป็นต่อในขณะที่เหล่าลูกน้องก็กอดอกมองเฉยๆ อย่างรู้ล่วงหน้าว่าอย่างไรเสียอีเอ็มมี่ก็ไม่มีทางเอาชนะหัวโจกของพวกเขาได้



“คิดน้อยไปนะมึงอ่ะ แรงตุ๊ดอย่างมึงจะสู้กูได้ยังไง๊?”



“สู้แรงไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีอื่นล่ะพี่”



จ๊วบ~*



ซาวด์เอฟเฟ็คดังลั่นขนาดที่ว่าทำเอาบรรยากาศรอบด้านชะงักค้างเหมือนมีใครกดปุ่มพอสบนเครื่องเล่นแผ่นดีวีดี อีเอ็มมี่พยายามกดจูบดูดดึงแบบเน้นๆ เอาให้มั่นใจว่าเนื้อลิปสีแดงๆ บนปากตัวเองมันถูกโอนย้ายไปสู่ปากเสียๆ ของไอ้พี่แมนมากพอที่จะทำให้เกิดความอับอายได้



ชายเอ็มผละใบหน้าออกมาดูผลงานที่เป็นลิปเลอะๆ บนปากรุ่นพี่แล้วก็หัวเราะลั่นอย่างสมใจ ก่อนจะค่อยๆ เงียบเสียงลงเมื่อรอบด้านไม่มีใครขำด้วย แถมไอ้พี่แมนก็มองเขาตาค้างเหมือนสติหลุด



โชคร้ายของอีเอ็มมี่ที่แมนสามารถรวบรวมสติได้เร็วพอๆ กับที่มันเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป หมัดซ้ายเน้นๆ ของหัวหน้าแก๊งค์เลื่องชื่อจึงตรงเข้าที่เบ้าตาอีตุ๊ดอัปรีย์ที่บังอาจปล้ำจูบเขาต่อหน้าธารกำนัลอย่างหลบไม่พ้น นายเอกภพถึงกับหน้าหงายเห็นดาววิ้งๆ และได้ยินเสียงนกจิ๊บๆ โชคดีที่เมเม่และมาม่าคว้าตัวเพื่อนรักไว้ได้ทันก่อนที่มันจะลงไปกองกับพื้นให้พี่แมนกระทืบมันซ้ำ ก่อนจะรีบฉุดแขนเพื่อนคนละข้างวิ่งหนีดงตีนช่างกลสถาปัตย์พร้อมสัมภาระของพวกตนที่สองสาวคว้ามาสะพายบ่าตั้งแต่อีเอ็มมี่มันถือลิปสติกเดินดุ่มๆ ไปหาพี่แมนแล้ว



“อีเอ็มมี่ วิ่งเร็วเซ่! มึงอยากเข้าโรง’บาลอีกรอบรึไง?!”



สองสาวถูลู่ถูกังพาเพื่อนหนุ่มมาโบกแท็กซี่ก่อนจะขึ้นรถหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ไปได้อย่างฉิวเฉียด สามซี้หันมองพี่แมนและคณะที่ยืนตีหน้ายักษ์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันสาปแช่งไล่หลังมาแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก



“อีเหี้ย! มึงอ่ะทำอะไรไม่คิด!”



“เออสิ! ถ้าคิดกูก็คงไม่ทำหรอก!”



น้องมาม่าด่าไปหอบไปพลางตีแขนเพื่อนลงโทษพอให้หายโมโห แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ชายเอ็มโดนซ้ายตรงของไอ้พี่แมนมา อารามเป็นห่วงก็ทำให้รีบละล่ำละลักถามทันที



“มึง เจ็บมากไหมอ่ะ? เมื่อกี้ดังพลั่กเลยอ่ะ”



อีเอ็มมี่ค่อยๆ หันใบหน้าที่ยังมีลิปสติกสีแดงสดอยู่บนปากมาหาเพื่อนรัก เพื่อโชว์รอยม่วงช้ำที่เบ้าตาอย่างภูมิใจนำเสนอ ก่อนจะดัดเสียงพูดด้วยสำเนียงที่ไม่อาจมีใครแรดได้เกินกว่านี้อีก



“ดูหน้ากูสิ”




โปรดติดตามแอ๊บต่อไป


#แอ๊บรัก

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 2: สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนนะ?


“อีลูกเจี๊ยบ~ มาถ่ายรูปอัพอินตาแกมกัน”



“เดี๋ยวนะมึง กูเติมปากแปบ”



สาวลูกเจี๊ยบที่ถูกเพื่อนชวนให้ถ่ายรูปเล่นด้วยรีบควานหาลิปสติกแท่งเก่งในกระเป๋าขึ้นมากะรูดปื๊ดให้ปากสีแจ่มก่อนแชะรูป แต่ยังไม่จะได้ปาดปากให้สมใจอยาก ลิปสติกในมือก็ถูกใครบางคนแย่งไป สาวเจ้าตวัดสายตามองหน้ากะเหวี่ยงเต็มที่ แต่พอเห็นเต็มตาว่าลิปสติกเจ้าปัญหามันไปตกอยู่ในมือใคร เธอก็หน้าถอดสีครางชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่วทันที



“พี่แมน...”



“ต่อไปอย่าให้พี่เห็นใครถือสิปสติกเข้ามาแถวนี้อีก...”



มือบางปล่อยแท่งลิปสติกตกกระทบพื้นแล้วลงเท้ากระทืบทีเดียวแหลกเป็นชิ้นไปทั้งแท่ง



“เข้าใจไหมครับ?”



ปิดท้ายประโยคคำถามที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตอบด้วยรอยยิ้มน่ารักฝุดๆ แต่ไม่รู้ทำไมสองสาวที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ที่ลานโต๊ะคณะสถาปัตย์เมื่อครู่จึงไม่เห็นแม้แต่สักกะผีกเดียวของความน่ารักที่ว่า กลับรีบคว้ากระเป๋ายี่ห้อดังโกยแนบกันแบบไม่คิดชีวิต



“สงสารน้องเขานะเว่ย ทำไมมึงโมโหอีเอ็มมี่แล้วลงกะคนอื่นล่ะวะไอ้แมน”



“ก็เพราะกูยังหาทางลงกับอีเอ็มมี่ไม่ได้ไงครับคุณเงิบ กูใช้ให้มึงไปสืบว่ามันพักอยู่หอไหน ห้องไหน มึงก็ไม่มีความสามารถพอจะหามันมาให้กูได้ กูภาคภูมิใจในตัวมึงที่สุดเลยครับ”



“ไอ้แมนอ่ะ!”



พี่เงิบตัดพ้อเพื่อนรักเสียงอ่อย ก่อนจะทำปากจู๋สะบัดหน้าหนีไปอย่างงอนๆ ฝ่ายแกนคณะก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างเหลือรับกับท่าทางอุบาทว์ๆ ของลูกน้อง



“อย่ามาทำท่าตุ๊ดใส่กู เดี๋ยวกูถีบไปนู่น!”



“ไอ้แมน!”



คนถูกเรียกหันไปตามเสียง เห็นพี่งอกวิ่งกระย่องกระแย่งมาด้วยท่าทางเหมือนกิ้งก่า เนื่องจากกางเกงสุดเดฟมันรัดติ้วเกินไปจนเคลื่อนไหวลำบาก พี่งอกส่งยิ้มประจบมาก่อนจะเอ่ยบอกข่าวดี



“กูรู้ละนะว่าอีเอ็มมี่พักหอไหน”



“ดี...งั้นมึงไปกะกู”



“เฮ้ย! อีกสิบนาทีเขาจะประชุมเฟรชชี่เกมส์แล้ว มึงเป็นแกน จะไม่อยู่ได้ไง”



“มึงบอกกูมาซิว่าถ้ากูไม่อยู่แล้วใครจะมีปัญหา?”



ไอ้งอกไอ้เงิบและลูกสมุนทั้งหมดพร้อมใจกันเงียบกริบ โถ...ถามมาอย่างนี้ใครจะกล้าตอบล่ะพ่อคุณ? เมื่อเห็นว่าการจะไปทำภารกิจล่าอีเอ็มมี่มาลงทัณฑ์มิได้ขัดเคืองใจผู้ใด พี่แมนก็ฉีกยิ้มกริ่มอย่างพึงใจออกมาทันที



“ไปกันเลยไหมไอ้แมน?”



“ไปเอาของที่ห้องกูก่อน กูเตรียมของเล่นให้อีเอ็มมี่ไว้เซ็ตใหญ่ สมใจมึงแน่ล่ะทีนี้ หึหึ”



ชั่วขณะที่เสียงหัวเราะนั้นดังออกมา เมฆฝนดำครึ้มก็แผ่ปกคลุมพื้นที่คณะสถาปัตย์ ทุกคนในที่นั้นรู้สึกหนาวเยือกประหนึ่งมีใครมาแผ่รังสีอำมหิตอยู่แถวนี้ แกนคณะรุ่นที่ 47 ยิ้มแสยะพลางใช้หลังมือปาดริมฝีปากตัวเองที่ยังมีความรู้สึกน่ารังเกียจประทับตราตรึงอย่างช้าๆ ชาวประชาในทุกพื้นที่มองภาพแสนเขย่าขวัญนั้นแล้วอุทานในใจเป็นเสียงเดียว



ตายไม่เหลือศพแน่มึง...อีเอ็มมี่



.

.

.



“อีเมเม่ ปรับแอร์หน่อยดิ๊ กูหนาวๆ ไงไม่รู้ว่ะ เหมือนจะไม่สบาย”



“โรคสำออยรึเปล่าคะ? อีเอ็มมี่”



เมเม่ว่ากระทั้นแต่ก็ยอมคว้ารีโมทแอร์มาลดอุณหภูมิให้เพื่อนอย่างไม่อิดออด ห้องพักขนาดกลางถูกตกแต่งอย่างน่ารักและเป็นระเบียบ ผนังห้องด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของเตียงขนาดควีนไซส์ของสองแฝด กั้นด้วยโต๊ะหนังสือของเอ็มและตั้งเตียงเดี่ยวของเจ้าตัวไว้ชิดอีกด้านของผนัง



ตอนแรกทั้งสองคนว่าจะแยกห้องพักกัน ให้เอ็มไปอยู่สบายๆ คนเดียวเพราะอัดกันสามคนในห้องแคบๆ แบบนี้ดูจะอึดอัดไปซะหน่อย แต่เพราะตอนมาจองห้องมันเหลือแค่ชั้นบนสุดห้องเดียว เลยต้องอยู่รวมกันไปโดยปริยาย ซึ่งก็ไม่ได้อึดอัดอย่างที่ควรจะเป็น ออกจะสนุกสนานที่ได้เม้าท์กันก่อนนอนทุกคืนด้วยซ้ำ



“มีอะไรอยากทำก็รีบๆ ทำนะพวกมึงอ่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าต้องเข้าห้องเชียร์ละ”



มาม่าที่กำลังนอนปั๊กกะป้าบอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่เปรยขึ้นบอกทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมห้อง ฝ่ายเอ็มที่กำลังนั่งเช็ดกีตาร์อยู่บนเตียงก็ครางรับในลำคอแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหมายจะดื่มน้ำดับกระหาย



“น้ำหมดนี่หว่า เดี๋ยวกูลงไปซื้อก่อนนะ”



“เออ”



พอสองเพื่อนสาวส่งเสียงรับรู้ อีเอ็มมี่ก็กดลิฟท์จากชั้น 15 ลงมายังมินิมาร์ทใต้หอ ระหว่างที่กำลังหอบหิ้วแพ็คน้ำที่จ่ายเงินแล้วกลับขึ้นห้องอยู่นั้นเอง สายตาของนายเอกภพก็เหลือบไปเห็นหน้าสวยๆ ของไอ้พี่แมนพร้อมลูกสมุนสองนายซ้ายขวา วันนี้พี่แมนใส่รองเท้าบู้ทสีเลือดหมูเท่ห์โคตรๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น...ประเด็นคือมึงมาที่นี่ทำม๊าย?



“หอเพื่อนหญิง...ชื่อหอยังตุ๊ดเลยอ่ะ”



อีเอ็มมี่รีบพุ่งหลบหลังเสา ถึงแม้จะชื่อหอเพื่อนหญิง...แต่หอนี้ทอมดี้ตุ๊ดเกย์อยู่รวมกันได้หมดนะครับ ว่าแต่...มึงไม่ได้มาหากูใช่ไหมครับ?



“ไปเหอะ ป่านนี้อีเอ็มมี่คิดถึงกูแย่แล้ว”



หนุ่มนักดนตรีตบเข่าฉาด ซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ? ดีนะที่กูไม่อยู่บนห้อง ถึงมึงขึ้นไปก็ไม่เจอกูหรอกครับ... แต่เหมือนกูลืมอะไรไปนะ?



“อีเมฆ อีมาร์ค!”



ชายหนุ่มรีบตะปบหามือถือแล้วก็พบว่าไม่ได้นำติดตัวลงมาด้วย ชายเอ็มเบ้หน้าจิ๊ปากอย่างหัวเสีย เมื่อวันก่อนเขาทำไอ้พี่แมนแค้นซะขนาดนั้น ขึ้นไปเจออีเม่ อีม่ามันคงไม่ใจดีปล่อยไว้ทำพันธุ์แน่ อีเอ็มมี่ทิ้งแพ็คน้ำไว้หลังเสาอย่างไม่เสียดายก่อนจะค่อยๆ ย่องตามไอ้พี่แมนไปจนเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าลิฟต์ไปแล้วจึงเร่งฝีเท้าสับขาขึ้นบันไดที่อยู่ข้างกันไปกดลิฟต์ ชั้น 2 ให้มันเปิดประวิงเวลาและทำอย่างนี้มันไปทุกชั้น



ไอ้สองสามชั้นแรกก็ไม่เท่าไหร่ พอขึ้นชั้น 4 ความเร็วหนุ่มนักดนตรีชักตก แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของเพื่อนเปรียบเทียบกับความโหดร้ายของพี่แมนแล้ว ชายเอ็มก็กัดฟันวิ่งสู้ฟัดต่อไปอย่างไม่ท้อถอย



ฝ่ายแมนและพรรคพวกที่ลิฟต์เปิดเองโดยที่ไม่มีคนยืนรอก็ชักรู้สึกแหม่งๆ ไอ้งอกไอ้เงิบมองหน้ากันอย่างขอความเห็นแล้วยักไหล่



“เด็กมากดลิฟต์เล่นมั้งมึง”



เมื่อความเห็นตรงกันเช่นนั้น แมนก็กดปิดลิฟต์อย่างไม่คิดอะไร เพราะใจมันลอยไปอยู่กับอีเอ็มมี่เรียบร้อยแล้ว แหมะ!...คิดไปก็เหมือนจะน้ำเน่า ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่แมนมันไม่หิ้วถุงสารพัดอุปกรณ์ลงทัณฑ์มาด้วยล่ะก็นะ...



ทะยานตัวเองมาถึงชั้นสิบได้ อีเอ็มมี่ก็หายใจแรงเป็นหมาหอบแดด แข้งขาเปลี้ยแทบจะทรงตัวไม่อยู่ นี่ถ้าสาวตัวเองขึ้นไปตามราวบันไดได้คงทำไปแล้ว คนรักเพื่อนกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งเป็นผงก่อนจะสูดหายใจลึกๆ รวบรวมกำลังสับขาต่อไป พอกดลิฟต์ชั้นสิบได้ เอ็มก็ต้องตกใจที่ไอ้พี่แมนแม่งตามมาเร็วจนน่าตกใจ นี่กูแรงตกหรือลิฟต์มันไม่ได้หยุดกันแน่วะ?



พอมาถึงชั้นสิบ ไอ้พี่งอกกับไอ้พี่เงิบก็มองหน้ากันหวั่นๆ ก็ลิฟต์มันเล่นเปิดเอง 10 ชั้นรวด เด็กเหี้ยอะไรจะเล่นแผลงๆ ได้ขนาดนี้



“แมน...กูว่ากลับเหอะวะ เจ้าที่เจ้าทาง ทะ...ท่านอาจจะไม่ชอบพวกเราก็ได้นะเว้ย”



พี่งอกออกความเห็นเสียงสั่น โดยมีพี่เงิบพยักหน้าเสริมอย่างเห็นด้วยสุดกำลัง แมนกลอกตามองเพดานลิฟต์อย่างเบื่อหน่าย เป็นลูกสมุนแกนคณะรุ่น 47 แท้ๆ ทำไมปอดแหกแบบนี้วะ?



“เกิดมาชาตินี้กูยังไม่เคยเจอผีเลย ดี! กูอยากลองกระทืบผีดูสักทีเหมือนกัน!”



ยิ่งเห็นอาการแสยะยิ้มอย่างมาดร้ายขัดกับความสวย งอกและเงิบก็แทบกอดคอกันร้องไห้ ไอ้แม๊น! มึงจะโหดจะเถื่อนกับมนุษย์ด้วยกันกูก็ไม่เคยว่า แต่มึงเล่นถึงผีสางเทวดานี่กูกลั๊ววววว~!



“หึหึ...เดี๋ยวมึงเจอกูแน่ อีผีตุ๊ด!”



ไอ้พี่แมนพึมพำเบาๆ อย่างชวนขนลุกขนพองให้ตัวเองได้ยินคนเดียวก่อนจะกระชับถุงกระดาษในมือแน่นอย่างเป็นสุข



ด้านอีเอ็มมี่ที่คลานขาลากท่าเดียวกับจูออนขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสิบสี่ได้ก็ค่อยๆ ตะเกียกตะกายกระดึ๊บเข้าหาลิฟต์พลางมองตัวเลขสีแดงๆ ที่เปลี่ยนจากชั้น 13 เป็น 14 ก่อนที่เขาจะสามารถเอื้อมมือสั่นๆ ไปกดเปิดลิฟท์ได้ทันอย่างอาลัยอาวรณ์ถึงเพื่อนรัก



“อีเมเม่ อีมาม่า กูขอโทษ ฮึก! กูจะทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้มึงนะ”



อีเอ็มมี่พร่ำบทโศกสะอื้นไห้บีบน้ำตาเป็นนางเอกช่องหลายสี มือหยาบตามประสาคนเล่นกีตาร์ปาดน้ำตาออกป้อยๆ ด้วยท่าทางดัดจริต



*ติ๊ง!*



ครืด~



เอ๊ะ? กูว่ากูไม่ได้กด แล้วลิฟต์มันเปิดได้ไงวะ?



เงาคนสีดำทมิฬเดินออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมเบื้องหน้าอย่างช้าๆ เสียงรองเท้าบู้ทกระทบกับพื้นดังตึกๆ เข้ามาประชิดตัวกะเทยมิเรอร์เกรด A+ แล้วทรุดเข่าลงข้างเดียวในท่าเจ้าชายพบเจ้าหญิงในการ์ตูนดิสนีย์



“กูนึกแล้วว่ามึงต้องหมดแรงที่ชั้นนี้ นี่กูกดลิฟต์รอรับมึงเลยนะครับ อีเอ็มมี่”



“มึง...มึงรู้ได้ไงว่าเป็นกูครับ?”



เจ้าหญิงเอ็มมี่อึ้งจนอ้าปากค้าง ในขณะที่เจ้าชายแมนยังยิ้ม “กูเหนือ” แบบสบายๆ



“เพราะกูไม่ได้โง่เหมือนมึงไงครับ อีเอ็มมี่”



แหมะ!...มึงจะชมว่าตัวเองฉลาดโดยไม่พาดพิงถึงกูก็ทำได้นะครับไอ้พี่แมน



ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผาของนักศึกษาวิชาดนตรีถูกลากแถดๆ เข้าลิฟต์ไปอย่างป่าเถื่อน พี่งอกและพี่เงิบช่วยกันพยุงตัวอีเอ็มมี่มาถึงห้องก่อนจะเปิดประตูผางเข้าไปแบบไม่คำนึงถึงมารยาท



“กรี๊ดดดดดดดด พี่แมน!!”



มาม่า และ เมม่กระโดดแผล็วไปยืนกอดกันกลมอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องทันทีที่เห็นว่ารุ่นพี่สุดโหดมาเหยียบถึงห้องหอ พี่แมนพยักเพยิดหน้าให้ไอ้งอกกับไอ้เงิบลากอีเอ็มมี่ไปขึงพืดล็อกแขนล็อกขาไว้บนเตียงขนาดควีนไซส์ของสองแฝด



“พวกมึงลากอีกุมารแฝดนี่ไปจัดการ กูจะใช้เวลากับเมียกูสองต่อสอง”



ไอ้พี่แมนยักคิ้วใส่คนที่นอนทอดกายรอบนเตียงอย่างแมนๆ ส่วนไอ้งอกไอ้เงิบก็ลากสองแฝดสาวออกไปท่ามกลางเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเพื่อนรักอย่างโหยหวน ปิดท้ายด้วยการปิดประตูลงกลอนเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้มีใครมาขัดเวลาสวีทของพี่แมนกับน้องเอ็มมี่ได้



“มึง...กล้ามากเลยนะ ที่ทำกับกูแบบนั้น”



ไอ้พี่แมนเปิดประเด็นได้ตรงจุด พร้อมกับขยับเข้ามาหาคนบนเตียงด้วยท่วงท่าราวกับพญามัจจุราช มือบางกระชากเสื้อยืดคนบนเตียงดังแคว่กทีเดียว เสื้อก็ขาดออกเป็นสองฝั่งอย่างง่ายดาย อีเอ็มมี่ตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศ และเพิ่มขนาดเป็นไข่ไดโนเสาร์เมื่อมือไอ้พี่แมนเลื่อนต่ำลงไปที่กางเกงบอล



“เฮ้ย! พี่จะทำอะไร?!!”



เสียงทุ้มถามรัวอย่างตื่นตระหนก



“อ้าว? คราวที่แล้วมายั่วพี่ต่อหน้าธารกำนัล คราวนี้พี่ก็มาสานต่อเรื่องวันนั้นให้ไงครับ”



ไอ้พี่แมนรูดพรืดทีเดียว กางเกงบอลย้วยๆ ก็ไปกองอยู่ปลายเท้า อีเอ็มมี่ชักใจเต้น นี่มึงคงไม่คิดจะปล้ำกูจริงๆ ใช่ไหมครับ? และยิ่งใจเต้นแรงขึ้นไปอีกเมื่อพี่แมนแม่งเทอุปกรณ์ที่เตรียมมาให้กระจายอยู่บนเตียง



เหี้ยแล้วกู…



ชายเอ็มอุทานในใจดังลั่นเมื่อเห็นชัดแจ้งว่าสิ่งที่พี่แมนเตรียมมามีทั้งโซ่ แส้ กุญแจมือ เทียนไขและอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย งานนี้จะเสียวไหมกูไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือกูเจ็บแน่ๆ ร้องไห้ขอชีวิตมันตอนนี้ทันไหมวะเนี่ย?



เฟี้ยบ!



“ซี้ด~!”



แนวสีแดงซิปเลือดปรากฏขึ้นทันทีหลังไอ้พี่แมนลงแส้เต็มแรง มันคงจะทรมานมากถ้าต้องกัดฟันทนความเจ็บต่อไปเพียงอย่างเดียว แกนคณะท่านจึงปรานีต่อน้องเอ็มมี่ด้วยการใช้ไม้ขนไก่ขนนุ่มสลวยปัดไปมาบริเวณฝ่าเท้าของน้องเอ็มมี่เบาๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บ เสียงที่หลุดรอดออกมาจากปากรูปกระจับที่เคยบดจูบพี่แมนเลยเป็น...



“กร๊ากกก ฮ่าๆ ซี๊ด! กูเจ็บ เอิ๊กๆๆ ไอ้พี่แมน มึงหยุด! โอ๊ย! ซี้ด~~ จั๊กจี๋ว้อย โอ๊ย!”



“ท่าทางมึงมีความสุขดีนะ”



มีความสุขบ้านป้ามึงสิ!



ยิ่งเห็นรอยยิ้มสะใจของไอ้พี่แมน อีเอ็มมี่ยิ่งรู้สึกเจ็บใจ และบังคับตัวเองให้อดทนไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเอ่ยปากขอโทษอย่างที่คิดว่าจะทำในตอนแรก เพราะถึงขอโทษไปตอนนี้ไอ้พี่แมนแม่งก็คงไม่ยอมรามือง่ายๆ แน่ๆ



ยกแรกผ่านไปจบด้วยเสียงหอบหายใจแรงและหน้าแดงเถือกของฝ่ายรับ พุงแบนๆ ที่มีลอนกล้ามเล็กๆ ถูกแส้กรีดเป็นแนวแดงซิบเลือดจำนวนนับไม่ถ้วน นิ้วเท้าทั้งสิบที่กระดิกหนีไม้ขนไก่อย่างยาวนานก็หงิกไม่เป็นรูปทรง



“มึงพอใจยัง?”



อีเอ็มมี่ถามเสียงหอบ



“ยัง! กูว่าแอร์ห้องมึงหนาวๆ นะ มา! กูช่วยสร้างความอบอุ่นให้”



อีเอ็มมี่มอง “ความอบอุ่น” ในมือพี่แมนอย่างตื่นตะลึง มันคือเทียนไขสีแดงกุหลาบชนิดที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์วาบหวิวระหว่างคู่รักได้เป็นอย่างดี มันสมควรจะเป็นเยี่ยงสรรพคุณที่ว่านั้นถ้าไอ้พี่แมนมันไม่เลือกไซส์เทียนขนาดน้องๆ เทียนพรรษา มือบางๆ ของมันยังกำเทียนไม่รอบเลยดูเสะ!



แชะ!



ไอ้พี่แมนจุดไฟแช็ค



ปู้ด!



อีเอ็มมี่เป่าไฟแช็คให้ดับ



แชะ!



ปู้ด!



แชะ!



ปู้ด~!!



“เป่าอีกที กูจะเอาไฟลนปากมึง อีเอ็มมี่!”



พอได้ยินเสียงขู่เย็นๆ จากรุ่นพี่สุดโหด อีเอ็มมี่ก็เม้มปากแน่น ส่งสายตาหมาโดนดุให้อีกฝ่ายอย่างน่าสงสาร แต่มีหรือพี่แมนเธอจะยอมใจอ่อน ความอับอายท่ามกลางสาธารณะชนเมื่อวันก่อนยังจดจำได้ไม่ลืมเลือน ยิ่งคิด พี่แมนก็ยิ่งแค้น พอแค้นปุ๊บ น้ำตาเทียนก็ถูกสะบัดลงกลางอกเหยื่ออย่างไม่ปรานี



“อ๊าก~! ร้อน~!!!”



อีเอ็มมี่ร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา นี่กูไปทำบาปทำกรรมกับมันไว้แต่ชาติปางไหนวะ! ไอ้พี่แมนยิ้มระรื่นอย่างมีความสุขพลางบรรจงหยดเทียนอย่างตั้งอกตั้งใจ



“เดี๋ยวกูวาดรูปกุหลาบให้”



ทรมานชาวบ้านอยู่มึงยังติสท์ได้อีกเรอะ!!



ไอ้ช่วงกลีบดอกก็ไม่เท่าไร เพราะพี่แมนมันหยดเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงจะมีซี้ดซ้าดกันบ้าง แต่สักพักผิวด้านๆ ของอีเอ็มมี่ก็เริ่มชิน แต่พอลงต่ำไปช่วงก้านดอก ไอ้พี่แมนก็ยิ้มกว้างเป็นสัญญาณให้ชายโชใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม



“เดี๋ยวก่อนพี่...เดี๋ยวๆ...แอ๊ก!!”



“เหอๆๆๆ”



อีเอ็มมี่ดิ้นพล่าน ขัดกับเสียงหัวเราะโรคจิตของคนทรมานอย่างสุดกู่ พี่แมนแม่งเล่นน้องชายขนาดมหึมาของกูอีกแล้ว ถึงจะมีกางเกงในกั้น แต่น้ำตาเทียนมันเป็นของเหลว มันซึมซาบชอนไชไปทุกอณูอย่างร่าเริงด้วยอารมณ์เดียวกับคนหยด



ลูกกูไม่ใช่ไส้กรอกเยอรมันนะมึง ถึงสุกมันก็แดกไม่ได้~!!



“ไอ้เหี้ยพี่แมน! มึงมันซาดิสม์!!”



คนถูกด่าชะงักกึก ดวงตาคู่หวานค่อยๆ เบนมองใบหน้าชุ่มเหงื่อของเมียรักก่อนจะจุ๊ปากอย่างสุดแสนเอ็นดู๊~เอ็นดู



“โถๆๆ...อีเอ็มมี่”



พี่แมนหยุดมือที่กำลังทรมานคนบนเตียง พลางตีสีหน้าอ่อนโยนเข้าหาอีกฝ่าย แต่แทนที่อีเอ็มมี่จะรู้สึกดีขึ้น มันกลับยิ่งรู้สึกถึงอันตรายขั้นกว่าที่ค่อยๆ คืบคลานเข้าหาตัวมากกว่า



“กูเสียใจนะเนี่ย...ที่มึงเพิ่งรู้”



ว่าจบ ไอ้พี่แมนก็เทน้ำตาเทียนที่หล่อไว้เป็นแอ่งขนาดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะพรวดลงไปลงบนลูกชายที่อีเอ็มมี่มันสุดแสนจะภาคภูมิใจ คนโดนลวกไข่กรีดร้องเป็นหมาหลงฝูง บิดเอวเร่าๆ อย่างทรมาน พร้อมพยายามผงกหัวขึ้นมาเป่าปากช่วยลูกชาย แต่ดูเหมือนระยะทางจะไกลไปหน่อย ลมเป่าเลยไปไม่ถึง



“หึหึหึหึ กูล่ะสะใจจริงๆ”



คนตัวบางคว้ากล้องถ่ายรูปที่เตรียมมาด้วยถ่ายความอัปยศของรุ่นน้องผิดเพศไปหลายแชะอย่างชอบอกชอบใจ ฝ่ายผู้ถูกกระทำที่นอนแผ่ลงไปอย่างหมดแรงก็ครางเรียกอีกฝ่ายอย่างแผ่วหวิว



“พี่แมน พอยัง? แก้มัดให้หน่อย~”



คนแมนละสายตาจากกล้องไปมองหน้าคนร้อง อีเอ็มมี่น้ำตาไหลเป็นทาง แมนรู้ว่ามันไม่ได้ร้องไห้เพราะไม่มีเสียงสะอื้น แต่มันคงแสบไข่จนน้ำตาไหลออกมาเองมากกว่า เห็นอย่างนั้นแล้วก็ชักสงสารขึ้นมานิดหน่อย ถึงอีเอ็มมี่มันจะเป็นตุ๊ดเกรียนที่ปากหมา แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่เคยคิดจะหือกับเขามากเกินไปกว่าที่รุ่นน้องคนหนึ่งพึงทำ วิธีการที่ใช้ก็ไม่ได้เป็นพวกอันธพาลหัวรุนแรง อีกอย่าง...ถึงเขาจะกลั่นแกล้งมันสารพัด มันก็ยังเรียกเขาว่าพี่ทุกคำ (ถึงแม้บางครั้งจะเติมคำคุณศัพท์ที่ไม่ระรื่นหูนำหน้าให้ก็ตาม) อย่างน้อยมันก็เป็นตุ๊ดที่มีสัมมาคารวะล่ะนะ



“เออ คราวหน้าจะทำอะไรกูก็คิดดีๆ ก่อนละกัน”



พี่แมนเอากล้องคล้องข้อมือพลางพูดสั่งสอน แล้วแก้มัดทั้งมือทั้งเท้าให้อีเอ็มมี่ที่ยังคงนอนเอื่อยไม่มีแรงลุก



“กูไปล่ะนะครับ วันหลังอาจจะมาเยี่ยมใหม่”



คนตัวบางหัวเราะปิดท้ายก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปถึงประตู เอวคอดก็ถูกรวบด้วยสองแขนแล้วลากมากองด้วยกันบนเตียง เอ็มถือโอกาสที่รุ่นพี่ยังไม่ทันตั้งตัวขึ้นคร่อมทับใช้แรงดึงดูดของโลกให้เป็นประโยชน์ก่อนจะแย่งกล้องมาจากมือคนใต้ร่าง แต่อีกฝ่ายก็รั้งไว้อย่างเหนียวแน่น



“อีเอ็มมี่! นี่มึงจะลองดีกะกูอีกแล้วใช่ไหม?!”



“ผมเปล่า! แต่ใครจะยอมให้พี่เอารูปผมไปประจานอ่ะ พี่จะให้ผมเอาปี๊บคลุมหัวไปเรียนรึไง?!!”



“เรื่องของมึงสิ! ปล่อยกู! ไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่!”



แกนคณะสถาปัตย์ดิ้นขลุกขลัก แต่ตำแหน่งที่ถูกโถมกดไว้ก็เสียเปรียบเกินกว่าจะสลัดให้หลุดได้ง่ายๆ มือบางกำกล้องถ่ายรูปไว้แน่นไม่ยอมให้รุ่นน้องตัวแสบแย่งไปได้



“เอามานี่นะพี่แมน!”



“ไม่ให้! ปล่อยสิเว่ย! ถ้ากูหลุดไปได้นะมึง!”



พอได้มองใกล้ๆ แบบนี้ไอ้พี่แมนมันหน้าสวยจริงๆ นะ ขนตายาวแทบจะทิ่มทะลุแก้มเนียนๆ นั่นอยู่แล้ว เสียดาย...พูดจาแต่ละคำแสลงหูชะมัด



“อีเอ็มมี่! มึงจะปล่อยไม่ปล่อย!”



สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนวะ?



“อีเอ็ม...อื๊อ~~~~!!”



อยู่นี่เอง~



ไอ้พี่แมนระรัวด่าอีเอ็มมี่ในใจเป็นชุด ด้วยเพราะริมฝีปากที่ถูกประกบด้วยปากของอีกฝ่ายปิดกั้นเสียงของเขาเอาไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อคนด้านบนส่งลิ้นชอนไชเข้ามาแล้วเกี่ยวกระหวัดเล่นในโพรงปากของเขาอย่างหน้าไม่อาย พี่แมนรู้สึกเหมือนจะเป็นลมครั้งแรกในชีวิต มือไม้ตัวเตออ่อนปวกเปียกแทบไม่มีแรงต้าน ได้แต่ปล่อยให้อีตุ๊ดยักษ์มันจาบจ้วงริมฝีปากเขาอยู่นานสองนาน จวบจนบางสิ่งบางอย่างใต้กางเกงในของคู่กรณีมันพองขึ้นมาโดนต้นขาเขานั่นแหละ ไอ้พี่แมนถึงได้รู้สึกตัวออกแรงผลักกะเทยเทียมให้หงายไปอีกฝั่งของเตียงแล้วเด้งตัวหนีมายืนตั้งหลัก



“ไอ้...ไอ้....”



คนหน้าสวยหอบหายใจแรง ชี้หน้าคนที่ลวนลามตัวเองหน้าด้านๆ มือไม้สั่น



“ไอ้ตุ๊ดหื่น!!”



รองเท้าบู้ทสีเลือดหมูคู่ที่อีเอ็มมี่นึกชมว่าเท่ห์หนักหนากระทืบลงตรงเป้าหมายกลางลำตัวของอีกฝ่ายอย่างจัง เด็กศิลป์ถึงกับหน้าเขียวบิดเบี้ยวตัวงอลงกับเตียง ยื่นมือไปจะเรียกรั้งอะไรไว้คอก็เหมือนมีก้อนแข็งๆ พุ่งขึ้นมาอุดจนเค้นเสียงไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีกลับไปโดยไม่ได้พูดอะไร



“ซี้ด~ เจ็บวุ้ย”



ทั้งที่เจ็บขนาดนั้น อีเอ็มมี่ก็ยังยิ้มออก เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมทั้งที่วันนี้ไม่มีลิปสติกสีแดงหรือผู้คนที่จะสร้างความอับอายให้รุ่นพี่จอมโหดคนนั้นได้สักคน เขาก็ยังตัดสินใจบดจูบลงไป แถม... กะเทยจีนแดงเลียริมฝีปากตัวเองดังแผล็บ



หวานว่ะ...



ยิ่งนึกถึงภาพจอมโหดของมหาวิทยาลัยนอนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ใต้ร่างเขาแล้วมันก็ชวนให้รู้สึก “เหนือ” อย่างบอกไม่ถูก



“แม่ง...น่ารักว้อย~!!”





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ทำน้องไว้แสบนัก รอวันที่พี่แมนโดนน้องเอมมี่จับทำเมีย คงสะใสน่าดู  :hao6:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พี่แมนโหดอ่ะ

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากอ่านแนวนี้มานานแล้วววววว แบบพระเอกตุ๊ดๆหน่อยๆ ที่จรงอยากให้นางเป็นตุ๊ดกระเทยไปเลยแล้วเจอนายเอกเท่ๆขี้กลัวนสัยอะไรก็ได้แต่ไม่อยากดราม่า ฮืออออ  :call: :z1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ฮ่าอ่ะ สนุกน่ะ ชอบๆๆๆ
พระเอกเราออกจะแมน ใจดีกับทุกเพศ รักดนตรี
นางเอกเรา โหด เถื่อน แต่สวยน่ารัก

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บรัก 3: จูบนั้นคืนสนอง




สุดท้ายก็ไม่ได้ลบรูปอุบาทว์ในกล้องพี่แมน




อีเอ็มมี่ลงทุนซื้อปี๊บรอ กะว่ายังไงก็ต้องได้ใช้คลุมหัวไปเรียนแน่ๆ อีเมเม่กับอีมาม่าก็ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดี หาโบว์และริบบิ้นสีหวานมาตกแต่งปี๊บจนสวยกิ๊บเก๋



แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีรูปใดๆ หลุดออกมา...



อีเอ็มมี่ขมวดคิ้วนั่งหน้าเครียด ขบคิดปัญหาที่คิดยังไงก็คิดไม่ตก ขนาดอีเมเม่ต้องสะกิดน้องสาวให้ดูเพื่อนรักที่ชักออกอาการเหมือนคนบ้า



หรือไอ้พี่แมนมันจะเก็บไว้ฟินคนเดียว?



คิดได้ดังนั้น กะเทยเสิ่นเจิ้นก็ตบเข่าฉาด



แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว~~~



หรือไอ้พี่แมนแม่งจะแอบชอบกู?



อีเอ็มมี่หัวเราะคิกคักด้วยเสียงระคายรูหูอย่างชอบอกชอบใจอยู่คนเดียว ตุ๊ดหน้าหล่อยิ้มแก้มแทบปริ จินตนาการไปไกลกว่าดาวอังคารถึงใบหน้าสวยๆ ของไอ้พี่แมนที่มายืนบิดเขินอายสารภาพรักกับเขาเหมือนสาวรุ่น



“อีเอ็มมี่...กูว่ามึงควรจะไปแคสท์บทละครเวทีนะ”



“เรื่องไรวะอีเม่?”



“หลังคาแดง เดอะมิวสิคัล!”



สองแฝดแท็คมือกันฉลองให้ชัยชนะที่หลอกด่าเพื่อนซี้ไปได้หนึ่งดอก ชายเอ็มเบะปากมองเพื่อนร่วมห้องอย่างงอนๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสนใจ



“คิดอะไรอยู่วะ? เดี๋ยวนี้มีความลับอ๋อ? ไม่บอกพวกกู”



ฝ่ายคนมีความลับที่รู้ตัวว่าอีตุ๊ดแฝดเพื่อนรักมันกำลังจะเปิดประเด็นคาดคั้นก็เดินเนียนๆ ไปเปิดตู้เย็นเทน้ำดื่ม



“หรือว่ามึงมีความรัก?”



อีเมเม่หยั่งเชิง คนโดนจับผิดสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ยังรักษาท่าทีไว้ได้อย่างหมดจด



“แต่กูว่าแม่งคิดถึงพี่แมนว่ะ”



ปรู้ดดดดดดดดดด



คนถูกทักตกใจสุดขีด ถึงกับพ่นน้ำไปปากออกมาเป็นเส้นโค้งสวยเหมือนน้ำพุในสวนสวรรค์ ประเด็นคือจุดตกมันดันเป็นใบหน้างามๆ ของกุมารแฝดทั้งสองนางที่กรีดร้องเป็นผีโดนน้ำมนต์



“อีเอ็มมี่! มึงเล่นเหี้ยไรเนี่ย! สกปรก!!”



“โอ๊ย~ หน้ากู ขี้กลากจะขึ้นไหมเนี่ย?”



สองสาวปรี่ไปแย่งกันล้างหน้าในห้องน้ำอย่างวุ่นวาย ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนรักหันไปห่วงความสวยความงามของตัวเองแทนซะได้



.

.

.



“ศิลปัตย์!!”



สองกุมารแฝดแทบร้องไห้เมื่อเห็นประกาศตัวเบ้งที่แปะไว้หน้าคณะ มหาวิทยาลัยของพวกเขามีด้วยกันทั้งสิ้น 12 คณะ แต่โรงยิมมีแสตนด์ให้ไม่พอในงานเฟรชชี่เกมส์ แต่ละปีจึงให้จับคู่คณะรวมเป็นหนึ่งสี มีทั้งหมด 6 สี โดยการจับคู่ก็จะเป็นการจับฉลากวนๆ กันไป



และปีนี้ก็ช่างเป็นบุพเพสันนิวาสเหลือเกิ๊น~ ที่ศิลปกรรมได้มาลงเอยกับสถาปัตย์ รวมกันเป็นศิลปัตย์แห่งสีม่วง ได้สีมงคลมาอีกต่างหาก อีเอ็มมี่แอบซ่อนยิ้มไว้ด้วยความดีใจที่กำลังจะได้เจอรุ่นพี่สุดโหด ตรงข้ามกับสองเพื่อนรักที่กอดกันร้องไห้ไม่หยุด



“ไปได้แล้วมึง พี่เขาเร่งแล้ว”



เฟรชชี่คณะศิลปกรรมถูกโฟลว์ไปยังยิมเล็ก เป็นที่รู้กันดีว่าเวลามีการซ้อมเชียร์ก่อนงานเฟรชชี่เกมส์ สถาปัตย์จะเป็นผู้ครอบครองสถานที่ฝึกซ้อมแห่งนี้ ทำให้ผู้เล่นกีฬาจะย้ายไปใช้ยิมอื่นก่อนชั่วคราวเพราะเสียงกลองอันใหญ่ยักษ์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตย์นั้นรบกวนโสตประสาทได้ดีเหลือเกิน



อีเอ็มมี่ที่เดินเรียงแถวกับเพื่อนๆ มาแอบยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้ารุ่นพี่สุดโหดกำลังยืนคุยกับแกนปีสี่ของคณะตัวเองอย่างเคร่งเครียด อาจเป็นเพราะต้องดูแลรุ่นน้องให้เตรียมงานออกมาอย่างดีที่สุดก็เป็นได้ คุณพี่แมนถึงได้ไม่มีเวลาไปหาน้องเอ็มมี่เช่นเคย ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเองไปได้สักพัก คนหน้าสวยขัดกับนิสัยก็หันมาเห็นคู่อริเข้าจนได้



“ค**!!”



เจอหน้าก็ขยับปากไร้เสียงแจกของรักให้กูเลย สงสัยเขาจะเอ็นดูกูมากจริงๆ นะเนี่ย~



อีเอ็มมี่เดินตามเพื่อนๆ ขึ้นไปนั่งเรียงกับเด็กสถาปัตย์ที่รออยู่บนแสตนด์แล้ว กะเทยเทียมรออยู่ครู่ใหญ่กว่าจะได้สบโอกาสเรียกร้องความสนใจ แต่อ้าปากได้ยังไม่ทันเอ่ยคำก็มีเสียงใครบางคนตัดหน้าไปเสียก่อน



“พี่แมนขา~~~~”



อีเอ็มมี่มองตามชะนีนุ่งสั้นที่วิ่งแถ่ดๆ เข้าไปกอดแขนพี่แมนของมันอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ที่ไม่พอใจยิ่งกว่าคือการที่คุณพี่เขาหันไปยิ้มหวานจริงใจให้ชะนีนางนั้นอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้เขาเลยนี่สิ!



“ปลื้มปริ่มดีใจม๊ากมากค่ะ ที่คณะของเราได้คู่กัน”



ทอแหล!



อีเอ็มมี่ด่ารุ่นพี่ผู้หญิงที่ยังเกาะหนึบพี่แมนไม่ห่างอยู่ในใจ นึกชอกช้ำขึ้นมาในอกอยู่เนืองๆ



ใช่สิ! ได้กูแล้วก็ทิ้งกูไปหาชะนี!



“นั่นพี่ปลื้มปริ่ม ปี 2 เอกการแสดงใช่ป่ะ? ที่เขาว่าแฟนใหม่พี่แมน”



“พี่แมนมีแฟนทำไมมึงไม่บอกกูวะ อีเมเม่?”



“เอ๊า!! แล้วกูจะรู้ไหมคะว่ามึงอยากรู้ อีเอ็มมี่!?”



น้องเมเม่ แฝดผู้พี่สวนกลับอย่างไม่เข้าใจ อีนี่ฮอร์โมนเปลี่ยนรึไง? นับวันกูยิ่งจะเชื่อว่ามึงเป็นสปีชี่ส์เดียวกับกูแล้วนะนี่ ดูมัน...ดูมันทิ้งหางตาใส่พี่แมน



“พี่ปลื้มปริ่มเขาก็เป็นดาวคณะเรา พี่แมนจะจีบนางทำแฟนก็สมควรละอ่ะ”



“สวยสมกันดีเนอะ”



“ไม่เห็นจะสมกันตรงไหน!!”



สองแฝดสาวหันขวับมองคนค้านที่ทำหน้ามุ่ยจ้องสองคนที่คุยกันจุ๋งจิ๋งหนุงหนิงอยู่ข้างล่างอย่างไม่พอใจ อีเอ็มมี่เพื่อนรักดูฮึดฮัดฟึดฟัดอย่างน่าประหลาด



“ประจำเดือนมึงไม่มาเหรอคะ อีเอ็มมี่?”



“อีมาม่า!”



“กูว่ามึงแปลกๆ นะ อย่าบอกนะว่ามึง... หึง!



คนถูกจับไต๋ได้หน้าเปลี่ยนสีเป็นแดงแปร๊ดทันที อีเอ็มมี่ทำหน้าเหรอหราอย่างปิดไม่มิดชนิดที่ว่าถ้าลงคลาสการแสดงมึงแดก F แน่นอนพันเปอร์เซ็นต์!



“กะ...กะ...กะ กูเปล่านะ”



สองแฝดทำตาหรี่แล้วพยักหน้าแบบ “เออ...กูเชื่อ”   อย่างสมเพช



“มึงนี่น้า~ อีเอ็มมี่ หาเรื่องตลอด ชอบใครไม่ชอบ...”



อีเมเม่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ



“เสือกชอบแฟนพี่แมน!”



อีเอ็มมี่ทำหน้ามึนไป 3.79 วิ ก่อนจะรีบรับสมอ้างกลบเกลื่อนความผิดปกติ



“อะ...เออ....ใช่ๆ ก็พี่ปุ้มปุ้ยเขาน่ารักดี”



“เขาชื่อปลื้มปริ่ม!”



สองแฝดประสานเสียงแก้ความให้อย่างพร้อมเพรียง



“เออ...นั่นแหละ! ปลื้มปริ่มก็ปลื้มปริ่ม”



คนหน้าหล่อเบือนหน้าหนีสองแฝดที่หรี่ตาลงอย่างจับผิด ก่อนจะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่แถเอาตัวรอดไปได้อีกหนึ่งครา



.

.

.



จบการซ้อมวันแรกไปอย่างเหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจ การจับคู่กับสถาปัตย์ที่มีแต่พวกบ้างานและมีเรี่ยวแรงมหาศาลนี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงจะมีหน้าหวานๆ ของไอ้พี่แมนมาเป็นกำลังใจก็เถอะ แต่พอเห็นอีพี่ปลื้มปริ่มเอานมถูแขนพี่แมนทีไรมันก็ปรี๊ดและห่อเหี่ยวใจตามลำดับทุกที



ถ้าพี่แมนชอบตู้มๆ แบบนั้น หรือกูจะไปทำนมดี?



อีเอ็มมี่สลัดความคิดที่แม้แต่ตัวเองยังขนลุกออกไปก่อนจะหอบร่างอ่อนละโหยของตัวเองและเพื่อนๆ กลับหออย่างหมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้ถึงหอก็ถูกใครบางคนรั้งคอไว้ก่อน



“เอ็ม!”



“อ้าว! ไง ไอ้โจ”



โจคือเพื่อนจากโรงเรียนมัธยมปลายเดียวกัน มันสอบเข้าวิศวะที่นี่ เขาสองคนสนิทกันพอสมควรเพราะเคยทำงานกลุ่มด้วยกันบ่อยๆ



“กูโทรไปมึงก็ไม่รับเลย วันนี้เลี้ยงห้องเราที่สอบติดที่นี่กัน มึงต้องไปนะ พวกมึงด้วย อีเม่ อีม่า”



จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมาก็มัวแต่รบรากับไอ้พี่แมน จะหาเวลาไปปลดปล่อยความสนุกบ้างก็ยังไม่มีโอกาส คิดถึงแสงสีและเครื่องดื่มมึนเมาแล้วอาการอยากทิ้งตัวลงหมอนนอนให้สบายก็มลายหายวับไปทันตา



“อ้าวเหรอ? ที่ไหนอ่ะ กูต้องกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”



“มึงอยู่หอไหน เดี๋ยวกูขับรถไปรับไอ้แทนแล้วเดี๋ยววนไปรับมึงก็ได้”



“กูอยู่เพื่อนหญิง เดี๋ยวกูรอใต้หออ่ะ ขอสิบนาที”



พอตกลงกันได้ตามนั้นต่างคนก็แยกย้ายกันไปสิบนาทีดังว่า ก่อนที่โจจะโฉบไปรับเอ็มและเพื่อนสาวทั้งสองไปยังผับชื่อดังข้าง ม. การได้เจอเพื่อนร่วมห้อง ได้คุยได้เกทับกันบ้างตามนิสัยผู้ชายพร้อมมองสาวๆ นุ่งสั้นเดินผ่านไปผ่านมาก็ทำให้หายเหนื่อยได้ดีทีเดียว พอเหล้าเข้าปากไปสักสองสามแก้วต่างคนต่างก็เริ่มลุกไปหาคู่แดนซ์กันกลางฟลอร์อย่างเมามัน เหลือแต่เอ็ม โจ และสองแฝดที่ยังสนุกกับการคุยและรินเหล้าเข้าปากอยู่



“แฮะ แฮ่ม!”



ชายเอ็มสะดุ้งจนเหล้ากระฉอกเมื่อมีเสียงปริศนามากระแอมไออยู่ข้างหู พอเงยหน้ามองว่าเป็นใคร อีเอ็มมี่ก็ตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อสาวเจ้าในชุดเดรสสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่ที่กำลังจับไหล่เขาอยู่นี่คือ พี่ปลื้มปริ่ม แฟนสาวคนล่าสุดของไอ้พี่แมนนั่นเอง



“ปลื้มปริ่มนั่งด้วยได้ไหมคะ?”



แล้วนางก็ไม่ได้รอคำอนุญาตจากใคร เดินอ้อมมาเบียดตัวลงนั่งบนตักรุ่นน้องหน้าหล่ออย่างอาจหาญ ท่ามกลางความตกตะลึงของทั้งตัวเอ็มเองและเพื่อนร่วมโต๊ะ



“เอ่อ...พี่แมนไม่มาด้วยเหรอครับ?”



เอ็มใช้วิธีอ้างชื่อแฟนสุดโหดของนาง เผื่อนางจะนึกเกรงกลัวแล้วล่าถอยไปจากตัวเขาเสียที แต่อนิจจา...คุณเธอกลับใช้นิ้วที่ประดับด้วยเล็บยาวแหลมเปี๊ยบสีแดงสดมาแตะริมฝีปากเขาไว้ให้หยุดพูด



“พี่แมนเขาคุยงานอ่ะค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาให้ปลื้มปริ่มเลย ปลื้มปริ่มเหง๊า~เหงา”



พี่ปลื้มปริ่มทำเสียงออดอ้อนก่อนจะซุกซบมาตรงซอกคอขาวๆ ของชายเอ็มที่ตัวเกร็งเยือก หรุบตามองจากมุมนี้เห็นเนินอกอวบอิ่มที่นางตั้งใจโชว์ได้ถนัดถนี่เหลื๊อเกิน! แหมะ! ไอ้เราก็ผู้ชาย ชอบเล่นกับ Fire! มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่ไม่ได้เป็นแบบอีเม่อีม่าแล้วไม่มีปฏิกิริยากับนมบ้างล่ะครับ?



“ในยิมเมื่อกี้ ปลื้มปริ่มเห็นเอ็มมองปลื้มปริ่มตลอดเลยน้า~”



ว่าไม่ว่าเปล่าสาวเจ้าไล้มือบนแผงอกผ่านเสื้อเชิ้ตสีเทาเบาๆ ชวนให้วาบหวิว ฝ่ายเอ็มก็ได้แต่ปฏิเสธในใจว่ากูไม่ได้มองมึงเลยครับพี่...กูมองสามีที่กำลังจะเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นเมียกูต่างหาก!



“พี่ปลื้มปริ่ม...แต่ผมเป็นตุ๊ดนะ”



อีเอ็มมี่งัดไม้เด็ดที่ทำให้ผู้หญิงทั้งมหา’ลัย หมดความสนใจในตัวเขาขึ้นมาอ้าง แต่ปลื้มปริ่มทำเพียงแค่เลิกคิ้วล้อๆ แล้วหัวเราะคิกด้วยเสียงน่ารำคาญ



“ตลกจัง ปลื้มปริ่มผ่านผู้ชายมาเยอะนะ ทำไมปลื้มปริ่มจะแยกไม่ออกว่าใครผู้ชายใครตุ๊ด อย่างเอ็มอ่ะ ยังไงก็ผู้ชายทั้งแท่ง ไม่มีทางเบี่ยงเบนได้หรอก! ปลื้มปริ่มมั่นใจ!”



นี่พ่อแม่เขาสั่งสอนลูกมายังไงให้พูดว่าผ่านผู้ชายมาเยอะด้วยสีหน้าภาคภูมิใจแบบนี้ได้วะเนี่ย?



“แต่ผมว่า...ไม่ดีมั้งครับพี่”



“ยังไม่ได้ลองเลย รู้ได้ไงว่าไม่ดี หื๊ม?”



พูดไปพลาง นางก็เลื่อนจมูกมาชนกับจมูกเขาก่อนจะบดจูบลงมาอย่างไม่อายฟ้าดิน ชายเอ็มอยากจะผลักออกแต่ก็แหม...ของฟรีเนอะ



ไอ้พี่แมนเอ๊ย...สกิลการเลือกแฟนของมึงบกพร่องแล้ว~



เพล้ง!



ใครทำแก้วแตกวะ?!



“อีเอ็มมี่!!”



ชัดเลย!



“กรี๊ดดดด พี่แมน!”



พี่ปลื้มปริ่มเด้งตัวออกจากตักเขาแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินเสียงแฟนตัวเองเต็มสองหู หลังจากเพลงในร้านมันเงียบไปตั้งแต่เสียงแก้วแตกละ และไอ้แก้วที่ว่ามันก็คือขวดเหล้าที่พี่แมนแม่งคงฟาดลงกับโต๊ะเมื่อกี้นั่นเอง ปากขวดยังคามือมันอยู่เลย แถมเพิ่มความน่ากลัวยกกำลังสองด้วยพี่เงิบกับพี่งอกที่ประกบข้างทำหน้าโหดเหมือนอยากเชือดคนเล่น



“ปลื้มปริ่ม!! มึงจูบกับอีเอ็มมี่เหรอ?!”



“คือ...คือว่า!”



สาวเอกการแสดงละล่ำละลัก จะบอกว่าเปล่าก็ดูจะเป็นการแก้ตัวที่แถเกินไปหน่อย เพราะลิปสติกสีแดงสดจากปากเธอมันยังอยู่บนปากเอ็มอยู่เลย



“ค่ะ...ก็...แบบ เพื่อนสาวไงคะพี่แมน พี่แมนก็รู้นี่หน่าว่าเอ็มมี่เขาเป็นตุ๊ดอ่ะ!”



แม่ง...เมื่อกี้ใครมันยังมั่นใจกับอะไรแท่งๆ ของกูอยู่เลยวะ?



“อ้อเหรอ?”



ไอ้พี่แมนย้อนถามด้วยโทนเสียงที่ฟังออกในปาดเดียวว่าไม่ได้เชื่อถือในตัวแฟนสาวแม้แต่น้อย



“งั้นมึงคงจูบกับอีเมเม่ อีมาม่าได้เหมือนกันสินะ?”



น้องปลื้มปริ่มอ้าปากค้างช็อกตาตั้งไปแล้ว เช่นเดียวกับสองกุมารแฝด และลามมาถึงพี่งอกพี่เงิบที่คว้าแขนไอ้พี่แมนคนละข้างทันที



“กูว่าไม่ดีมั้ง?!”



สองหนุ่มประสานเสียง ซึ่งก็รังแต่จะทำให้จอมเผด็จการหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้นเอง



“มึงเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรแทนพวกมันเนี่ย? ห๊ะ?!!”



หนุ่มหน้าสวยตวาดใส่ลูกน้องเสียงดังลั่นจนต่างคนต่างผงะหนีไปคนละทาง ฝ่ายสองแฝดที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหาพี่งอกพี่เงิบแล้วแต่ไม่เป็นผลก็หันมาอ้อนวอนพี่แมนแทน



“พี่ขา...พวกหนูจูบกับชะนีไม่ได้จริงๆ ค่ะ ผื่นมันจะขึ้น”



“ถ้ามึงจูบแล้วผื่นขึ้นกูจะซื้อคาราไมล์ให้ แต่ถ้ามึงไม่จูบ...กูไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่พวกมึงจะเป็นอะไรไปเพราะกูนะ”



ฟังแล้วซึ้งน้ำตาจะไหล ขอแชร์นะคะกันเลยทีเดียว ด้านน้องปลื้มปริ่มก็เลิ่กลั่กๆ ไม่รู้จะทำยังไง พอเห็นพี่แมนเลิกคิ้วเร่งพร้อมควงปากขวดในมือแล้วก็จำใจ หลับตาปี๋ก้มลงไปจุ๊บปากสองแฝดแบบสายฟ้าแล่บคนละทีก่อนจะหันมาแสร้งยิ้มหวานให้แฟนหนุ่ม



“เห็นไหมคะพี่แมน ปลื้มปริ่มไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย แหม~ แค่นี้ก็ต้องหึงกันดั้วะ!”



น้องปลื้มปริ่มถลันเข้ามาเกาะแขนพี่แมนอย่างออดอ้อน ฝ่ายพี่แมนก็ยิ้มหวานหยดเยิ้มตอบให้สาวเจ้าได้ยิ้มกริ่มในใจว่าเกิดเป็นผู้หญิงสวยมันดีเยี่ยงนี้เอง ทำตาแบ๊วพูดเสียงหวานเข้าหน่อย ผู้ชายที่ไหนก็เชื่อหมด!



“ใครหึงมึงครับอีปลื้มปริ่ม? ถ้าจะหึง...กูหึงเมียกูดีกว่าไหมครับ?”



“มะ...เมีย?”



น้องปลื้มปริ่มช็อกตาตั้งรอบสอง เหลือบมองอีเอ็มมี่ที่พยายามเกร็งหน้าเชิ่ดรับตำแหน่งด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ



“ถ้ามึงคิดว่ากูโง่นี่...มึงพลาดแล้วนะครับอีปลื้มปริ่ม มึงคิดว่ากูไม่เห็นเหรอครับ ตอนมึงเลื้อยไปนั่งตักเอานมถูอีเอ็มมี่แล้วกระชากหน้ามันมาจูบปากน่ะ ห๊า?!!”



หญิงสาวยืนตัวสั่นด้วยความกลัว ก็เห็นพี่แมนเสียงหวานๆ ยิ้มใจดี แต่ตวาดทีทำไมกลายร่างเป็นมารร้ายได้ขนาดนี้ล่ะ ยิ่งเห็นแววตาใสๆ ของพี่แมนวาวโรจน์ด้วยความเกรี้ยวกราด ปลื้มปริ่มก็ยกมือไหว้ทั้งน้ำตา



“พี่แมน...หนูขอโทษ”



“กูเกลียดคนไม่ซื่อสัตย์ มึงจะแรดกับใครกูไม่สนใจหรอก ถ้ามึงไม่ใช่แฟนกูนะ เข้าใจไหมคะ ปลื้มปริ่ม?”



“เข้าใจ...ฮึก...ค่ะ”



“ไอ้งอก ไอ้เงิบ มึงพาน้องเขาไปส่งที่หอ พี่ต้องพูดให้ชัดๆ อีกไหมครับ ว่าเราเลิกกันแล้ว?”



“อึก...ค่ะพี่”



พี่งอกกับพี่เงิบพากันประคองน้องปลื้มปริ่มที่น้ำตาไหลพรากออกไป ทิ้งให้พี่แมนยืนจ้องหน้าอีเอ็มมี่อย่างไม่คิดจะปล่อยให้มันหนีความผิดกลับหอไปได้ง่ายๆ



“กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับมึง จะตามกูไปดีๆ หรือต้องให้กูเอาขวดเหล้าตีหัวแล้วลากมึงออกไป?”



โหดชิป...



คนโดนขู่ที่ชักจะเริ่มชินคว้าทิชชู่มาเช็ดลิปสติกสีสดบนปากออกลวกๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ ทันทีที่ยืน ไอ้พี่แมนก็ทิ้งขวดแตกในมือเปลี่ยนมาคว้าแขนเขาลากแถ่ดๆ ออกไปโดยไม่มีใครกล้าตามไปดูแม้ต่อมเสือกจะเต้นยิกๆ กันก็ตามที



อีเอ็มมี่ยิ้มกริ่ม มองแขนตัวเองที่ถูกลากอย่างหน้าชื่นพร้อมเดินตามแรงดึงมหาศาลนั้นไปอย่างว่าง่ายจนไปถึงที่ลับตาคน นี่พี่แมนเขาคงไม่ได้ล่อลวงกูมาฆ่าหมกป่าใช่ไหม?



ผัวะ!



นึกยังไม่ทันขาดคำ หมัดขวาตรงก็พุ่งมาเข้าเบ้าตาซ้าย นักศึกษาหนุ่มเอกกีตาร์เซถอยไปสองก้าวก่อนจะสะบัดหัวไล่ความมึน



“มึงก็รู้ว่าปลื้มปริ่มเป็นแฟนกูอยู่ มึงทำอย่างนี้ไม่หยามหน้ากูไปหน่อยเหรอวะ?”



“หยามอะไรล่ะพี่ พี่ก็เห็นว่าพี่ปลื้มปริ่มเขาจูบผมก่อนอ่ะ”



“แล้วกูก็เห็นด้วยว่ามึงเคลิ้มแล้วก็จูบตอบมัน!”



ชายเอ็มถึงกับสะอึก แก้ตัวไม่ออก ก็แบบ...ผู้หญิงเขามีประสบการณ์ ก็จูบเก่งง่ะ ก็เคลิ้มจิ... ยิ่งเห็นใบหน้าหวานของรุ่นพี่สุดโหดฉาบไปด้วยความโกรธ อีเอ็มมี่ก็ยิ่งรู้สึกเฟล...ไม่ได้เฟลที่ถูกโกรธ...แต่เฟลที่ถูกโกรธเพราะพี่แมนหึงผู้หญิงคนนั้นต่างหาก



“เมื่อกี้ทำเป็นพูดจาใจร้าย ที่จริงพี่รักเขามากอ่ะดิ่ ถึงได้หึงหน้ามืดแบบนี้อ่ะ!”



อีเอ็มมี่สะบัดเสียงประชดอย่างไม่รู้ตัว ส่วนไอ้พี่แมนก็เหยียดปากอย่างรังเกียจความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ของคนเป็นรุ่นน้อง



“ถ้ากูหึงมันจริง มึงตายคาตีนกูไปแล้วอีเอ็มมี่! ปลื้มปริ่มมันเป็นแฟนกู เป็นของของกู กูก็ต้องหวงของเป็นเรื่องธรรมดา คนอื่นเขาจะมองกูยังไงที่ปล่อยให้ของๆ ตัวเองไปนั่งดูดปากกับตุ๊ดอย่างมึง!”



อธิบายจบ พี่แมนก็ทำหน้าเหวอ เพราะแทนที่อีตุ๊ดถึกมันจะสลดเพราะถูกด่า มันกลับยิ้มระรื่นหน้าบานเหมือนหลินปิงได้กินไผ่



“จริงนะ? แค่หวงของจริงๆ นะ ไม่ได้รักเขาใช่ป่ะ?”



“กะ...ก็ใช่สิ มึงจะเขยิบมาทำไม...อื๊อ~~~ ”



โดยที่ไม่ปล่อยให้พี่แมนตั้งตัว น้องเอ็มมี่ปราดเข้าไป มือนึงรวบเอวมือนึงประคองต้นคอไว้แล้วประทับจูบเน้นๆ ดังจ๊วบลงไปอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบผละออก



“อันนี้ของแฟนพี่...ผมคืนให้”



“มึงทำเหี้ยอะ...อื้อ~!!”



ปากบางๆ ถูกประทับจูบอีกรอบ คราวนี้อีเอ็มมี่ส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากหวานๆ อย่างซุกซน ปลายลิ้นเล็กถูกบังคับให้ตอบสนองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สติทั้งหมดทั้งมวลถูกล้างหายไปจนสมองว่างเปล่า มือขาวๆ ของพี่แมนได้แต่ยันไว้ที่ไหล่หนาสองข้างของรุ่นน้องอย่างระทดระทวย คนถูกปล้ำจูบไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เพราะแรงต้านก็ไม่ค่อยมี เหมือนสมองมันเบลอๆ ไปหมด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายนึกสงสารเขาที่ปากเริ่มบวมช้ำเลยเม้มดูดกลีบปากหนักๆ เป็นการส่งท้ายก่อนจะถอยห่างออกไป



“ส่วนอันนี้ของผม...ช่วยรับไว้ด้วยนะครับ”






โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก



ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
555555 อีเอ็มมี่ หลอกจูบสามีหรอลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
หลังจูบอาจโดนตืบได้

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เอ็มมี่จับพี่แมนทำเมียเลยค่ะลูกกก  :hao6:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
โอ๊ยยยยยยย เอ็มมี่ลูกค่ะ ทำอะไรลงไปละนั่น ได้ใจอ่ะ
พี่แมนระทวยด้วอ่ะ ปลื้มปริ่มค่ะ ฮ่าๆๆๆ น่ารักน่าฟัดมาก อิอิ พรุ่งนี้มาต่ออีกได้มะ

แอบสงสัย พี่งอกพี่เงิบต้องติดใจอะไรกับยอดแฝดกุมารแน่ๆๆๆ ดูเป็นเดือนเป็นร้อน ชัวร์ ต้องใช่แน่ รอลุ้นต่อ อิอิ

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ



Oh baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ






โครม!!



เสียงเพลงเนื้อหาน่ารักที่ถูกแปลงมาเป็นจังหวะสามช่าด้วยฝีมือพี่งอกพี่เงิบและคณะถูกขัดด้วยการใช้ตีนยันโครมเข้าที่กลางหลังพี่งอกจนกระเด็นไปนอนปั๊กกะป้าบอยู่กลางวง สมุนโดยรอบลุกฮือด้วยความตกใจ ไม้เม้อที่เอามาเคาะโต๊ะเคาะเก้าอี้ประกอบจังหวะเมื่อครู่กระเด็นหายไปคนละทาง



“แมน...มึงถีบกูทำไมเนี่ย?”



พี่งอกถามด้วยหน้าตาเหวอสุดขีดด้วยไม่เข้าใจความผิดของตัวเอง ฝ่ายคนถีบก็หวีดเสียงกลับด้วยความโมโหแบบยั้งไม่อยู่เช่นกัน



“ก็กูไม่ชอบเพลงนี้นี่!! มึงอย่าร้องให้กูได้ยินอีกนะ!”



สั่งอย่างไร้เหตุผลและที่มาที่ไปเสร็จ แกนคณะหน้าสวยก็ก้าวฉับๆ หนีไปท่ามกลางสายตามองตามปริบๆ ของลูกสมุนทั้งกลุ่ม



“สงสัยแม่งจะไม่ชอบเพลงนี้จริงๆ ว่ะ เมื่อกี้แม่งโกรธจนหน้าแดงเลยนะ”



พี่เงิบช่วยพยุงพี่งอกขึ้นจากพื้นแล้วตบไหล่ปลอบเพื่อนที่มีเครื่องหมายปริศนาอยู่บนใบหน้าไม่หายว่ากะอีแค่ร้องเพลงอยู่ดีๆ ทำไมกูโดนถีบร่วงไปกองกับพื้นได้วะ



“ไอ้แมนมันเพิ่งเลิกกับแฟน มึงไปร้องเพลงรักก็ระคายหูมันสิวะ มึงนี่!”



“เออ...จริงด้วยว่ะ!”



.

.

.



“นายเอกภพ ทำไมเธอถึงใส่แว่นกันแดดในคลาสฉันล่ะ?”



เพื่อนในเซควิชาบังคับภาษาอังกฤษจากหลากหลายคณะสะบัดหน้ามองแถวหลังสุดอย่างพร้อมเพรียง เป้าสายตากระตุกมุมปากยิ้มอย่างกวนบาทาก่อนจะเอ่ยตอบอาจารย์มากวัยวุฒิด้วยน้ำเสียงยียวน



“จะใส่หรือจะถอดมันก็เหมือนกันล่ะครับ อาจารย์”



“มันจะเหมือนกันได้ยังไงยะ? ถอดเดี๋ยวนี้!”



เอกภพยักไหล่อย่างเอาไงเอากัน ก่อนจะใช้สองมือจับขาแว่นเรย์แบนทรงเท่ห์แล้วค่อยๆ ถอดออกอย่างช้าๆ  เผยใบหน้าหล่อคมที่ทำเอาคนทั้งห้องอ้าปากค้าง เนื่องจากรอบเบ้าตาทั้งสองข้างของสุดหล่อเอกกีตาร์เป็นวงช้ำขนาดเดียวกับแว่นตาที่ถอดออกเมื่อครู่เป๊ะ! ชายเอ็มยิ้มให้อาจารย์อีกครั้งแทนคำว่า ผมบอกแล้วไงครับว่าเหมือนกัน



“เอ่อ...ใส่ไว้เถอะจ้ะ”



“ขอบคุณครับ”



ทีแรกนายเอกภพว่าจะใส่แว่นคืนแบบปกติ แต่พอเห็นเพื่อนๆ ยังสนใจใบหน้าหล่อๆ ของเขาไม่วางตาก็เลย...



“โอ๊ย!”



“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”



มุขขาแว่นทิ่มตาให้ฮาครืนจึงปรากฏแกสายตาเพื่อนพ้องน้องพี่ในเซคไปให้ได้ผ่อนคลายกัน จะมีก็แต่สองแฝดคนสวยเพื่อนซี้เท่านั้นที่นั่งทำหน้าเหมือนอมบอระเพ็ดมาตั้งแต่เช้า



“อีเอ็มมี่...กูถามจริงๆ นะ”



“ว่าไง?”



คนถูกถามยังคงมีรอยยิ้มพรายบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลาจนสองสาวชักแน่ใจในความคิดของตัวเอง



“เมื่อคืนพี่แมนให้มึงพี้กัญชาใช่ไหม?”



“หึหึ เปล่า”



“เปล่าบ้าอะไร! มึงโดนต่อยตาเขียวอมม่วงเป็นหางนกยูงมาแล้วยังยิ้มกริ่มได้ทั้งวันนี่เข้าขั้นบ้าแล้วนะอีเอ็มมี่!!”



“ก็กูมีความสุข กูเลยยิ้มไง”



“โว๊ะ!”



เมื่อเห็นว่าวันนี้คงคุยภาษาเดียวกันไม่รู้เรื่องแน่แล้ว กุมารแฝดทั้งสองจึงหันไปสนใจกับวิชาเรียนต่อ ทิ้งให้เพื่อนชายนั่งยิ้มเพ้ออย่างสุขอันหาที่เปรียบมิได้ของมันต่อไปคนเดียว



หลายคนอาจจะสงสัยว่าอีเอ็มมี่ไปได้อายแชโดว์สีธรรมชาตินี้มาประดับเบ้าตาได้อย่างไร ย้อนไปคืนวันที่ไอ้พี่แมนล่อลวงเขาไปทำมิดีมิร้ายสองต่อสองคืนนั้น หมัดแรกเข้าตาซ้ายสาเหตุมาจากแฟนเขามาจูบผม ส่วนหมัดที่สองสาเหตุคล้ายๆ กันแต่เปลี่ยนตัวละครนิดหน่อย เพราะผมดันไปจูบแฟนของแฟนเขา...พูดให้งงไปงั้นเอง จริงๆ ก็เพราะผมจูบเขานั่นแหละ แต่เหม่...เจ็บตัวแล้วคุ้มก็พร้อมยอมพลีนะครับ



จากนี้...ผมจะเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะนะครับ ไอ้พี่แมน!



.

.

.





การซ้อมเชียร์ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นทุกวัน แต่ถึงมันจะเป็นการผลาญเรี่ยวแรงให้เหนื่อยล้าเพียงใด แต่พอได้เห็นสามีที่รักเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ด้านหน้า อีเอ็มมี่ก็รู้สึกมีกำลังใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งยามที่ได้แอบขยิบตาให้พี่ท่านยามที่เธอเหลือบมองมา และได้รับการตอบสนองอย่างแสนรักด้วยนิ้วกลางเรียวยาวนั่นก็ยิ่งทำให้กะเทยพันธุ์เทียมอารมณ์ดีเข้าไปใหญ่



อีเอ็มมี่ได้ทีจึงแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ เน้นๆ สะกิดความทรงจำแสนหวานให้พลุ่งพล่าน และดูเหมือนจะได้ผลทันทีเพราะไอ้พี่แมนตาลุกวาวอย่างสามขุมมาหาพร้อมตีหน้ายักษ์



“อีเอ็มมี่ มึง!!”



“เห้ย! อะไรวะไอ้แมน?”



พี่งอกพี่เงิบถลาเข้ามาประกบตัวเพื่อนก่อนที่มันจะยกตีนถีบยอดหน้าอีตุ๊ดคู่อริไปเสียก่อน อย่างไรเสียอีเอ็มมี่มันก็ซ้อมเชียร์อยู่ ถ้าเพื่อนแมนอาละวาดตอนนี้งานได้เสียกันหมด



“ก็มึงดูมันสิ!”



“ก็แล้วมันทำอะไรมึงเล่า?!”



“ก็มัน…!”



ไอ้พี่แมนได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อย่างนั้น ไม่มีเสียงใดหลุดออกมา ในขณะที่อีตุ๊ดตัวดีก็ทำหน้าตายั่วเย้าประมาณว่า “แน่จริงพี่ก็พูดสิครับ พูดออกมาเลย!”



“โถ่เว่ย!!”



พี่แมนสบถดังลั่นก่อนจะสลัดแขนเพื่อนเดินดุ่มๆ ออกไปสงบสติอารมณ์นอกโรงยิม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยรู้สึกโมโหใครแล้วระบายออกไม่ได้แบบนี้มาก่อนเลย คิดแล้วก็หงุดหงิดได้แต่ใช้หลังมือถูปากจนแทบถลอก



“คอยดูนะอีเอ็มมี่ กูจะเอาลิปสติกแช่น้ำกรดแล้วทาปากมึง!”



หัวฟัดหัวเหวี่ยงแช่งชักหักกระดูกอีกะเทยจีนแดงไปได้สักพัก ดวงตากลมโตของรุ่นพี่ปี 4 แห่งสถาปัตย์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างบนต้นไม้ ก่อนที่รอยยิ้มร้ายจะผุดที่มุมปากสวย



“กูว่าไม่ต้องพึ่งน้ำกรดแล้วล่ะ อีเอ็มมี่”



ไอ้พี่แมนที่อารมณ์เริ่มดีขึ้นมานิดหน่อยเดินกลับเข้าไปด้านในโรงยิมแล้วกระซิบกระซาบกับลูกน้องให้ไปจัดการตามที่สั่งก่อนหันไปหาคู่กรณีที่ยังยิ้มชื่นมื่นส่งมาให้โดยไม่รู้ว่ากำลังจะถึงคราวซวย พี่แมนเธอเลยยิ้มหวานแบบที่น้ำตาลยังอายส่งกลับไปให้อีเอ็มมี่ผวาเยือกอย่างมีลางสังหรณ์



เอ๊ะ? หรือพี่แมนแม่งจะมีใจ?



อีเอ็มมี่ยิ้มกริ่มหลอกตัวเองทั้งที่ขนคอลุกชันด้วยหวังจะเตือนภัยบางอย่าง แต่กระนั้นกะเทยโง่ก็ยังเลือกที่จะคิดเข้าข้างตัวเองต่อไปอย่างเป็นสุขจวบจนกระทั่งจบสิ้นการซ้อมของวันนี้



“อีเอ็มมี่ มึงอยู่คุยกับกูก่อนนะ”



“พี่แมนมีอะไรเหรอคะ?”



“ไม่ใช่เรื่องของพวกมึงครับ อีกุมาร กลับหอไปได้แล้วไป!!”



สองกุมารแฝดเกาะแขนเพื่อนรักคนละข้างก่อนจะทำใจดีสู้เสือเชิดหน้าใส่พี่แมนอย่างไม่กลัวเกรงเพราะรู้แน่ว่าไอ้พี่แมนมันไม่คิดจะพาอีเอ็มมี่ไปหากิจกรรมดีๆ ทำอย่างแน่นอน



“ไม่ค่ะ! อีเอ็มมี่ต้องกลับไปพร้อมพวกหนู”



เมเม่ต่อปากต่อคำ อนึ่งเพราะตอนนี้เหลือพี่แมนอยู่ในยิมแค่คนเดียว สมุนงอกเงิบและคณะไม่ได้อยู่ข้างกายเช่นทุกที 3 ต่อ 1 ยังไงก็ได้เปรียบล่ะวะ ไอ้พี่แมนไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเกี่ยวม้วนปอยผมด้วยท่าทางสุดแอ๊บ



“ก็ว่าจะหาเวลาคุยเรื่องผัวๆ เมียๆ กันสองต่อสองซะหน่อย”



ปิดท้ายด้วยการทิ้งหางตาอ้อนๆ ใส่อีเอ็มมี่ เท่านั้นแหละ ตุ๊ดโง่ๆ ก็หางกระดิกเป็นหมาเห็นเจ้าของ ยิ้มค้างน้ำลายแทบหยดแหมะๆ พอรวบรวมสติได้อีเอ็มมี่ก็ตีหน้าหล่อหันไปหาเพื่อนสาวทั้งสองทันที



“พวกมึงกลับไปพักผ่อนเถอะ กูดูแลตัวเองได้”



“ห๊ะ? มึงเอาจริง”



“จริง กูว่าพี่แมนคงมีเรื่องอยากคุยกับกูจริงๆ ล่ะ พวกมึงไปเถอะ ไปๆๆ”



ไม่ว่าเปล่า อีเอ็มมี่ยังรุนหลังเพื่อนออกจากโรงยิมก่อนจะโบกมือบ๊ายบายท่ามกลางความเอ๋อของสองกุมารที่จูงมือกันกลับหอไปอย่างงงๆ



“พี่แมนมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”



แหมะ! ทำท่าเขินอายแบบนี้จะเป็นอะไรไปได้นอกจากสารภาพรัก? ตอนม.ต้น กูอ่านหมึกจีนทุกวันเว่ย! กูรู้!!



“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า”



ไม่ใช่เพียงเสียงหวานๆ แต่พี่แมนเธอยังยิ้มสดใสพร้อมจูงมืออีเอ็มมี่ไปด้วย โอ๊ย~ เคลิ้มว้อย~!! แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว...เขาต้องติดใจจูบกูแน่ๆ ใช่แน่ๆ! ไม่ต้องเสียตังค์ทำนมแล้วเว่ย!



อีเอ็มมี่เดินตามพี่แมนมาด้วยความฟินยิ่งนัก แต่ยังไม่ทันฟินจนสุด กะเทยเทียมก็ถูกพี่งอกพี่เงิบประกบซ้ายขวาแล้วรวบตัวไปผูกติดไว้กับต้นไม้เสียก่อน



เอ๊ะ! สถานการณ์คุ้นๆ…



อีเอ็มมี่มองสมุนหนึ่งกองทัพเต็มของไอ้พี่แมนด้วยหน้าตาเหรอหรา ก่อนจะหันขวับไปถามตัวการที่นั่งไขว่ห้างบนกระป๋องสีใบใหญ่อย่างมีมาดเสียงระรัว



“ไหนพี่แมนบอกจะคุยกันสองต่อสองไง?”



คนถูกถามจุ๊ปากช้าๆ อย่างกึ่งเอ็นดูกึ่งสมเพช



“โถๆ...อีสมองกอริล่าปัญญาสมเสร็จ! มึงคิดว่ากูจะพิศวาสอะไรมึงนัก? หื๊มม์~!!”



“พี่หลอกผมมาทำไม? พี่จะทำอะไรผม?”



“ไอ้เงิบ จัดการเด๊ะ!”



พี่เงิบย่างสามขุมเข้าหาเหยื่อพร้อมด้วยขวดน้ำผึ้งในมือก่อนจะใช้ของเหลวหนืดเหนียวดังกล่าวชโลมบนปากสวยๆ อมชมพูของอีเอ็มมี่อย่างประณีตงดงาม ฝ่ายคนโดนราดก็ร้องอู้อี้ไปอย่างไม่เป็นศัพท์



“ไอ้งอก มึงพร้อมนะ?”



พี่แมนตะโกนถามสมุนที่ปีนอยู่บนบันไดลิงที่พาดไว้กับต้นไม้ พี่งอกแกว่งไม้หน้าสามในมือโชว์สกิลดรัมเมเยอร์เก่าก่อนจะส่งสัญญาณโอเคให้ลูกพี่แล้วง้างไม้



“เฮ้ย! เดี๋ยว!!”



อีเอ็มมี่ถอนใจโล่งเมื่อไอ้พี่แมนส่งเสียงห้ามการกระทำของพี่งอกได้ทัน เค้าต้องเมตตาสงสารกูเป็นแน่แท้~



“ให้กูหนีก่อนดิ่”



พูดแล้วพี่แมนก็วิ่งดุ๊กๆ ไปตั้งหลักห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตรก่อนจะส่งสัญญาณให้ไอ้พี่งอกเหวี่ยงไม้ดังใจ ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็ได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนไปหา แล้วกูล่ะครับพี่?



ผัวะ!!



“เหี้ย!”



พี่งอกสบถก่อนกระโดดลงมาจากบันไดแล้ววิ่งหนีอุตลุตไปทางเดียวกับเพื่อนด้วยความไวแสง หลังจากใช้ไม้หน้าสามทลายรังผึ้งหลวงรังใหญ่ให้แตกกระเจิงได้ ไอ้คนที่มีขาวิ่งเร็วมันก็พอหนีรอด แต่ไอ้คนที่ถูกผูกติดกับต้นไม้แถมราดน้ำผึ้งล่อไว้อีกนี่น่าสงสารเกินทน



ที่สำคัญคือกูอยากจะด่าผัวรักที่แม่งยืนขำน้ำตาไหลกับความเจ็บปวดของกูเป็นอย่างมาก แต่เข้าใจไหมว่าอ้าปากไม่ได้? ต่อยปากก็พอว่า แต่งถ้าแม่งบินเข้ามาต่อยลิ้นชาตินี้ก็ไม่ต้องแดกอะไรกันละ!



“หึหึหึ ดูซิว่ามึงยังจะกล้าจูบกูอยู่อีกไหม?”



ปิดท้ายความสยดสยองของค่ำคืนนี้ด้วยเสียงของมารร้ายที่ไม่มีใครได้ยิน หึหึ!



.

.

.



“เอ็มมี่...ไม่สบายเหรอจ๊ะ?”



สุดหล่อประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์หันไปพยักหน้าให้เพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาถามไถ่อาการอย่างรู้สึกขอบคุณ เธอใช้มือตบไหล่เพื่อนร่วมคณะเบาๆ เมื่อเห็นว่าเอ็มมี่คงเจ็บคอมากจนตอบรับเธอด้วยเสียงไม่ได้ ดูจากผ้าปิดปากที่ใส่มาแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นหวัด



“หายเร็วๆ ละกันนะ”



อวยพรจบเธอก็เดินจากไปกับกลุ่มเพื่อนๆ ทิ้งให้เอ็มนั่งตรอมตรมช้ำชอกอยู่ข้างสองแฝดที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำมื้อเย็นอย่างไม่คิดสงสารคนกินอะไรไม่ได้



“ไม่ต้องมามองกูอย่างนั้นเลย พวกกูเตือนมึงแล้วนี่ เชื่อกันไหมล่ะ? นี่ถ้าไม่โง่จริงไม่โดนพี่แมนหลอกได้นะคะ กูจะบอก”



เอ็มฟังเพื่อนทับถมแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเป็นตูดเพราะเถียงอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งท้องร้องมองเพื่อนสวาปามของโปรดจนหมดก่อนจะเก็บข้าวเก็บของเดินทางไปยังโรงยิมเพื่อซ้อมเชียร์กันตามกิจวัตร



วันนี้โรงยิมดูคึกคักกว่าปกติเพราะมีการเอาไม้แผ่นมาตั้งพิงเรียงกับผนังหลายแผ่นเพื่อเริ่มร่างคัทเอาท์ อีกฝั่งหนึ่งของโรงยิมไอ้พวกพี่งอกและคณะที่ไร้งานทำก็เอาวอลเลย์มาเล่นลิงชิงบอลอย่างสนุกสนาน อย่างที่รู้กันว่าอีสองคณะนี้ก็หัวศิลป์กันทั้งคู่ แสตนด์แม่งต้องออกมาไม่ธรรมดาฟอร์ชัวร์ ไอ้พี่แมนก็ยืนคุมรุ่นน้องชี้นู่นชี้นี่ให้รุ่นน้องที่กำลังวาดๆ แก้ไปตามประสาเฮดใหญ่ พอมันหันมามอง อีเอ็มมี่ก็สะบัดหน้าเชิ่ดให้รู้กันไปเลยว่า กูงอนนะ กูงอนมาก กูเป็นเมียมึงนะมึงทำกับกูอย่างนี้ได้ไง? ฝ่ายไอ้พี่แมนพอเห็นผ้าปิดปากพาดมาครึ่งหน้าหล่อๆ ก็อมยิ้มกวักมือเรียกไปหาหยอยๆ



กูไม่ได้ใจง่ายอะไรนะ แต่ขาแม่งพาเดินไปหาเขาอย่างว่าง่าย ก็เขายิ้มน่ารักนี่หว่า...คิดแล้วแซด นิสัยแม่งนรกขัดกับใบหน้าจริงๆ



“เปิดหน้าให้ดูหน่อยดิ”



อีเอ็มมี่ส่ายหัวหงึก ซึ่งไอ้พี่แมนก็หน้าหงิกทันที



“เปิดดิ่!!”



พอเขาเสียงแข็งเข้าหน่อย อีเอ็มมี่ก็หันหลังให้เพื่อนบนแสตนด์อย่างอายๆ ก่อนจะค่อยๆ ถอดผ้าปิดปากออกเผยให้เห็นริมฝีปากบวมโป่งที่ขยายขนาดขึ้นมากกว่าปกติถึงสิบเท่า เป่งขนาดที่ว่านึกว่าใครเอาที่สูบลมจักรยานมาเสียบเข้าไป



“อะคึคึคึคึคึคึ”



มึงขำเปิดเผย กูยังเจ็บปวดน้อยกว่านี้อีกครับ ไอ้พี่แมน



อีเอ็มมี่ทำหน้าเซ็งกับการกลั้นขำน้ำตาเล็ดของรุ่นพี่ ดูแม่งจะมีความสุขมากจริงๆ เวลาเห็นกูเจ็บปวดทุกข์ทรมานเนี่ย!



“อะอกอ้ากอ๋อ? (ตลกมากหรอ?)”



“มาก!”



ไอ้พี่แมนตอบเสียงมั่นใจ ใส่สีหน้าการันตี พาลทำให้อีเอ็มมี่เฟลยิ่งกว่าเดิม



“อึงแอ้งเอี้ย (มึงแม่งเหี้ย)”



“เหี้ยกับมึงคนเดียวแหละ”



มันเป็นคำบอกรักภาษาสถาปัตย์ใช่ไหมครับ? ใครก็ได้บอกกูที...



“ทีหลังอย่าจูบกูโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก ใจป่ะ?”



“แออ้า”



“แฟซ่า?”



“แออ้า!! (แปลว่า!!)



เอ็มรีบแก้คำพลางนำประโยคก่อนหน้าของรุ่นพี่มาวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว...เร็วเท่าที่สมองน้อยๆ ของมันจะทำได้



“อ้าอี้อะอุ๊อ้าด อ๋มอูบไอ้ไอ้อ่ะ? (ถ้าพี่อนุญาต ผมจูบได้ใช่ป่ะ?)”



“แล้วมึงคิดว่ากูจะอนุญาต?”



พี่แมนเธอรีบดับอณูความฟินของอีเอ็มมี่ที่เริ่มก่อตัวโดยพลัน ใบหน้างามๆ เบ้เบาๆ แล้วส่ายหน้าประหนึ่งอ้าปากด่าว่า มึงคิดได้?



“ไอ้แอ้อ่ะ (ไม่แน่อ่ะ)”



ไอ้พี่แมนหัวเราะ ก่อนจะยกมือที่กอดอกอยู่เมื่อครู่ตบแก้มอีเอ็มมี่เบาๆ อย่างเอ็นดู



“มึงอยากเป็นเมียกูจริงๆ ดิ?”



แหมะ! อันที่จริงก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่ขนาดเขาเข้าใจว่ากูอยากเป็นเมียเขา ปากกูยังบวมอย่างกับใช้โฟโต้ชอปขนาดนี้ ถ้ากูพูดความในใจไปว่าอยากได้เขาเป็นเมียมากกว่านี่คาดว่าอีเม่อีม่าคงจองวัดให้กูได้เลย



เอ็มจึงเลือกที่จะพยักหน้ารับคำไป ให้มันตามน้ำไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปแก้ไขทีหลัง



“จริงจัง?”



กะเทยมิเรอร์พยักหน้ายืนยันอีกครั้ง



“ทั้งที่รู้ว่ากูเกลียดตุ๊ดอ่ะนะ?”



ก็จริงๆ กูไม่ใช่ตุ๊ดไง... นี่บอกที่บ้านว่ามันเป็นการแสดงนะเนี่ย!



“อีเอ็มมี่ มึงฟังกูนะ กูชอบผู้หญิง และกูก็คงไม่มีวันชอบตุ๊ดอย่างมึงหรอก ถ้ามึงไม่ได้ล้อกูเล่นอยู่เนี่ยนะ มึงก็ตัดใจซะเหอะ”



คนถูกปฏิเสธซึ่งหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะมองจ้องเข้าไปในดวงตาใสๆ ของพี่แมนด้วยความซื่อตรงที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะมอบให้คนที่ชอบได้



“อ้ออ้อบไอแอ๊วอิงอิงอี้... (ก็ชอบไปแล้วจริงๆ นี่...)”



พอเห็นภาพหมาถูกเจ้าของไม่ให้เข้าบ้านตรงหน้าแล้ว พี่แมนก็รู้สึกเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก มันชวนให้ทำอะไรสักอย่าง ให้ต้องสนใจ ให้ทิ้งไปไม่ได้ ถ้ามันเป็นหมาที่ขอเจ้าของเข้าบ้านจริงๆ อีกไม่นานเจ้าของมันต้องมาเปิดประตูให้แน่ๆ แต่นี่มันเป็นตุ๊ดที่มาขอเป็นเมียกู... แล้วไงล่ะเนี่ย?



“เฮ้ย! ไอ้แมน ระวัง!!”



เป็นเพราะกำลังสับสนกับความคิดเรื่องหมาๆ คนๆ อยู่ พี่แมนจึงตอบสนองต่อเสียงเตือนช้ากว่าปกติ กว่าจะรู้ตัวลูกวอลเลย์ของพวกไอ้งอกไอ้เงิบก็กระทบฉากไม้ให้เอียงทับลงมาแล้ว ไอ้พี่แมนยกมือป้องหัว หลับตา และล้มลงหลังกระแทกพื้นตามแรงทับหนักอึ้งของไม้ ดวงตากลมใสค่อยๆ ลืมขึ้นเมื่อทุกอย่างสงบลง เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกและฝีเท้าของคนอื่นๆ รู้สึกถึงแรงกดทับที่หนักมากจนลุกไม่ขึ้น และลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดมาตรงข้างแก้ม



“อี...เอ็มมี่?”



พอรู้ว่าเป็นใคร พี่แมนก็เขย่าแขนเรียก แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะสลบไปแล้ว ดูจากระยะที่ยืนเมื่อครู่พี่แมนก็รู้ได้ว่าอีตุ๊ดนี่มันถลาเข้ามาเอาตัวบังเขาไว้แน่ๆ



“เป็นตุ๊ดเสือกโชว์แมน โง่เอ๊ย!”



พี่แมนพยายามทั้งเรียกทั้งเขย่าแต่อีเอ็มมี่ก็ไม่ตื่น เขาจะลุกเองก็ไม่ได้ ได้แต่รอให้พวกเพื่อนๆ ช่วยกันยกฉากออกจากตัวพวกเขาทั้งคู่ไปก่อน มือบางคลำๆ ไปที่ท้ายทอยอีกฝ่ายและรู้สึกถึงความแฉะเหนอะของอะไรบางอย่าง แกนคณะยกมือขึ้นส่องกับแสงไฟที่ลอดเข้ามาก่อนจะเบิ่งตากว้างเมื่อพบว่าของเหลวสีแดงบนมือนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีในร่างกาย



“อีเอ็มมี่!!”



โปรดติดตามแอ๊บต่อไป

#แอ๊บรัก

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่แมนเริ่มเป็นห่วงเอ็มมี่แล้ววุ้ยยย

พี่แมนเป็นเคะใช่มั้ยคะ ต้องเป็นนะ อยากเห็นพี่แมนโดนกด 55555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เสียเลือดรอบนี้ต้องคุ้มซิ
ดอ็มมี่สู้ๆๆๆจับพี่แมนกินให้ได้ อิอิ

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน



“เย็บสิบสี่เข็ม กระดูกแขนขวาร้าว เข้าเฝือกสองอาทิตย์”



นั่นคือผลสรุปของการทำตัวเป็นกะเทยโชว์แมนของอีเอ็มมี่ที่นอนทำหน้ามุ่ยอยู่บนเตียง หลังจากที่ถูกพี่แมนและคณะพ่วงด้วยสองกุมารหามส่งโรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าอาการของกะเทยหนุ่มไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้



“อี้แอนอ้องอั๊บอิดอ้อบ (พี่แมนต้องรับผิดชอบ)”



“รับผิดชอบเหี้ยไร?”



อีเอ็มมี่เปิดประเด็นระหว่างที่ทั้งคณะพากันเดินออกจากโรงพยาบาล ซึ่งพี่แมนก็สวนกลับทันที นอกจากอีตุ๊ดยักษ์นี่จะไม่สำนึกที่ทำให้เขาไม่ได้กลับหอไปพักผ่อนแล้ว มันยังจะทวงบุญคุณอี๊ก!?



“อ๋มเอื๋อแอ๋นอ้างเอียว อำอะไรอ้ออำอากอ่ะ อาบอ๊ำ แอ่งอัว อินอ้าว โอ๋นอ๊ดอางไอเอียน อำไอ้ไอ้อ่ะ (ผมเหลือแขนข้างเดียว ทำอะไรก็ลำบากอ่ะ อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว โหนรถรางไปเรียน ทำไม่ได้อ่ะ)”



“มึงเป็นเด็กอนุบาลใช่ไหม? เพื่อนมึงมีก็ดูแลกันไปสิ!”



ไอ้พี่แมนปัดความรับผิดชอบอย่างไม่ไยดี ทั้งสองคนยังเถียงกันต่อไปอย่างงุ้งงิ้งท่ามกลางความงุนงงของไอ้พี่งอกพี่เงิบและคณะ



“กูสงสัยว่าอีเอ็มมี่มันพูดอะไรวะ”



พี่งอกเกาหัวยิกๆ



“กูสงสัยว่าทำไมไอ้แมนแม่งเสือกฟังรู้เรื่องมากกว่า”



พี่เงิบส่ายหัว มองอีเอ็มมี่ที่ทำปากเบะ เชิดหน้าอย่างงอนๆ



“อีเอ้อีอ้าอันไอ้ไอ้อ้นเอดอี้อำไอ้อ๋มแอ๋นอักอั๊กอ่อย (อีเม่อีม่ามันไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้ผมแขนหักสักหน่อย!)”



“อย่ามา! เดี๋ยวกูถีบไปนู่น! กูขอร้องให้มึงพุ่งตัวมารับคัทเอาท์แทนกูรึไง?”



“แอ่อ้าอ๋มไอ้อำอั๊น ไอ้อนอี้อั๋วแอก แอ๋นเอาะอ้อเอ็นอี้ไอ้อ่ะอ่ะ (แต่ถ้าผมไม่ทำงั้น ไอ้คนที่หัวแตก แขนเดาะก็เป็นพี่ใช่ป่ะล่ะ?)”



เดี๋ยวนี้มันสู้เว้ย! ทำไมกูเถียงไม่ทันวะ?



พี่แมนชะงักไป 3 วิฯ เห็นสภาพหัวมีผ้าก๊อซแปะ แขนห้อยรุ่งริ่งแล้ว ต่อมสำนึกผิดก็เต้นตุบๆ



“มึงจะเอายังไง?”



เอ็มเห็นโอกาสรำไรก็หางกระดิกดิ๊กๆ แอบผินหน้ามาลอบยิ้มร้ายคนเดียวก่อนจะตีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้งพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเก๊กแมน



“ไอ้อ๋มไออู่อี้อ๋ออี้แอนอนอ่าอะออดเอือกไอ้ไอ๊อ่ะ (ให้ผมไปอยู่ที่หอพี่แมนจนกว่าจะถอดเฝือกได้ไหมล่ะ?)”



“มากไป๊! นี่มึงหาโอกาสปลุกปล้ำกูใช่ไหมเนี่ย?!”



อีเอ็มมี่สะดุ้งหางตรงแด่ว นึกในใจว่าแม่งรู้ทันกูได้ไงวะ? นี่กูไม่ได้แสดงพิรุธอะไรออกไปใช่ไหม? หรือความคิดกูมันไหลออกมาเป็นซับไตเติ้ลให้ไอ้พี่แมนมันอ่าน?



“แอ๊วอี้อัวอูกอ๋มอ้ำอึ๊ไอ อัวอู่ไอ้แอ๊วอั่นไอ๋อ่ะเอะ (...แล้วพี่กลัวถูกผมปล้ำรึไง? กลัวอยู่ใกล้แล้วหวั่นไหวอ่ะเดะ)”



“เอาเล็บขบคิดใช่ไหมเนี่ย? กูเนี่ยนะจะหวั่นไหว ถ้ามึงหน้าสวยมีนมก็ว่าไปอย่าง”



“ไอ้อัวอ้อไอ้อ๋มไออู่อ้วยอิ อิ๊อูดอามแอนไอ (ไม่กลัวก็ให้ผมไปอยู่ด้วยดิ พิสูจน์ความแมนไง)”



หนุ่มหน้าสวยประมวลผลได้ผลเสีย เพราะดูท่าอีเอ็มมี่แม่งจะไม่ล้มเลิกความคิดนี้ง่ายๆ แต่ไอ้เรื่องยอมเสียเปรียบนี่ก็ไม่ใช่นิสัยคนฉลาดอย่างพี่แมนแน่ๆ อย่างน้อยก็ต้องเท่าทุนล่ะวะ



“ก็ได้!”



ตุ๊ดยักษ์แทบจะคว้าปอมๆ มาสะบัดอย่างเริงร่ากับคำอนุญาตจากรุ่นพี่สุดที่รัก ทว่ายังไม่ทันจะได้ดีใจเกิน 5 วิฯ พี่ท่านก็เบรกอาการกระดี่ได้น้ำของมันเสียก่อน



“แต่ถ้าภายในสองอาทิตย์นี้กูไม่หวั่นไหวกับอะไรก็ตามที่มึงพยายามจะทำ มึงต้องเลิกคิดในทางชู้สาว ชู้หนุ่ม หรือชู้ตุ๊ดกับกูโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม?”



อีเอ็มมี่พยักหน้ารัวๆ แหม่...ข้อแม้มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าได้นอนห้องเดียวกันสักสองอาทิตย์ยังไงมันก็ต้องมีใจให้กันบ้างล่ะวะ!



“อ่อ...อีกข้อ ถ้ามึงทำไม่สำเร็จ มึงต้องเป็นของเซ่นอาจารย์ธีระแลกเกรดให้กู”



“ห๊ะ!!”



กะเทยจีนแดงตกใจจนพูดชัดขึ้นมาได้ทันที ไอ้อาจารย์ธีระที่พี่แมนว่าท่านเป็นอาจารย์คนใหม่ประจำคณะสถาปัตย์ ข่าวลือลับที่แพร่ในหมู่นักศึกษาช่วงนี้คืออาจารย์ท่านมีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันและสามารถใช้เรือนร่างแลกเกรดได้



“การลงทุนมีความเสี่ยง...ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ”



แกนคณะปิดท้ายประโยคชวนฉุกคิดด้วยการกระตูกยิ้มร้ายหนึ่งทีให้รู้ว่ากูเอาจริงนะ ฝ่ายคนถูกตั้งเงื่อนไขก็ชักเหงื่อตก ไอ้พี่แมนแม่งโหดเหี้ยมยิ่งนัก จะผลักไสกูไปเป็นเมียคนอื่น!



“อี้แอนแอ้งไออ๊าย...(พี่แมนแม่งใจร้าย)”



“มึงไม่ใช่คนแรกที่พูดอย่างนั้นหรอก จะเอายังไง? กูจะกลับหอไปนอนแล้วเนี่ย ง่วง!”



ตุ๊ดพิการสะบัดค้อนใส่ผัวรักหนึ่งทีอย่างเง้างอดก่อนจะพยักหน้าตกลงในที่สุด ฝ่ายพี่แมนก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะหันไปเรียกพรรคพวกกลับหอ



“อุ้งอี๊อาอั๊บอ๋มอี้อ๋ออ้วยอ๊ะ (พรุ่งนี้มารับผมที่หอด้วยนะ)”



“น้องเอ็มมี่ฝันอยู่รึเปล่าครับ? มีปัญญาก็ขนสัมภาระมาที่หอพี่เองละกัน คืนนี้อย่าลืมแดกยาแก้อักเสบก่อนนอนด้วยนะครับ พี่แมนไม่ได้เป็นห่วง แต่พี่แมนไม่ไหวจะเพลียกับภาษาอ.อ่างของมึงมากแล้วครับ ราตรีสวัสดิ์นะเมียพี่ บาย~”



พี่แมนยิ้มหวานโบกมือลาแบบนางสาวไทย ก่อนจะพาฝูงลูกน้องแว๊นซ์กลับหอกันด้วยความง่วงเต็มทนทิ้งให้อีเอ็มมี่ยืนมองตามตาละห้อยด้วยใจช้ำชอก



“สรุปว่ามึงจีบพี่แมน?”



นายเอกภพหันมายิ้มเจื่อนเท่าที่ปากบวมๆ จะทำได้ให้สองแฝดที่กอดอกคาดคั้นเสียงแข็ง ใบหน้าหล่อพยักหงึกๆ รับคำสอบสวนที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาจากบทสนทนาเมื่อครู่ หนุ่มนักดนตรีแอบกลัวว่าเพื่อนจะโกรธที่ไม่ได้บอกเลยเดินไปจิ้มแขนคนละข้างของสองแฝดด้วยท่าทางน่ารัก



“ไม่ต้องมาง้อ กูไม่นึกเลยนะ...”



เอ็มยืนก้มหน้าสำนึกผิดรับคำด่า มึงคงไม่นึกสินะว่ากูจะปิดบังเพื่อนได้ กูขอโทษ~



“กูไม่นึกเลยว่ามึงจะเป็นตุ๊ดอย่างที่พี่แมนเขาด่ามึงจริงๆ”



“ไอ้อี้ไอ๋เอ้า! (ใช่ที่ไหนเล่า!)”



เอ็มแหวดังลั่น นี่ขนาดพวกมึงก็ยังสงสัยในความแมนของกูทั้งที่คบกันมาตั้งแต่แบเบาะเนี่ยนะ? โถ...นี่กูเหมือนตุ๊ดขนาดนั้นเลยเหรอวะ?



“ไม่ใช่อะไร? นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงจะจับพี่แมนทำเมีย? ถุย! ไอ้ง่าว! มึงเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย!”



“ใช่! มึงเตรียมตัวถวายตูดให้ธีระเหอะ ไป! อีเม่! กลับหอ!”



สองสาวที่ด่าเพื่อนรักสมใจอยากเดินหน้าเชิ่ดหนีไปเรียกแท็กซี่อย่างไม่คิดจะเหลียวมองตุ๊ดป่วยๆ ที่น้ำตาตกในด้วยความเศร้าใจ พี่แมนแม่งใจร้ายกับกูไม่พอ เพื่อนรักเพื่อนซี้อย่างอีสองแฝดยังมาใจร้ายกับกูอี๊ก? เกิดเป็นอีเอ็มมี่นี่ไม่ง่ายจริงๆ!



.

.

.



*ติ๊งหน่อง*



เอ็มบรรจงกรีดนิ้วกดกริ่งหน้าห้องพี่แมนอย่างระริกระรี้ วันนี้เขาขนสัมภาระมาเต็ม กะว่ายังไงต้องได้อยู่นานกว่าสองอาทิตย์แน่นอน อีเมเม่และอีมาม่าที่ช่วยกันขนมาเมื่อครู่ก็รีบชิ่งกลับไปเพราะไม่อยากอยู่มองความน่าสมเพชมากไปกว่านี้ แต่ถึงพวกมันจะพูดอย่างนั้นเขาก็รู้ว่าพวกมันมีน้ำใจและคงตั้งใจจะคอยช่วยเขาจีบพี่แมนอยู่แน่ๆ



*ติ๊งหน่อง*



เอ๊ะ! ทำไมไม่มีใครตอบวะ? หรือว่าเจ้าของห้องมันยังไม่กลับ?



*ติ๊งหน่อง*



“พี่แมนไม่อยู่เหรอคร้าบ~”



“อยู่...แต่กูไม่เปิด”



ชัดเจน...



แม่งทำกูง่อยแดกตั้งแต่นาทีแรกที่มาเหยียบเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าความพยายามของเอ็มย่อมไม่หมดลงง่ายๆ ผู้หญิงเล่นตัวน่ะเขาเจอมาเยอะแล้วเว่ย!



“พี่แมนเปิดหน่อยสิครับ...นะ ข้างนอกยุงกัด ผมตัวลายไปหมดแล้ว”



ชายหนุ่มทำเสียงอ้อนใส่ประตู ไม่อายสายตาเมทร่วมชั้นของไอ้พี่แมนที่เดินผ่านไปมาแล้วทำเสียงหัวเราะคิกคักอย่างจั๊กจี้แทน



“อีเอ็มมี่ กูขนลุก!”



“ขนลุกเพราะคิดถึงเมียใช่ไหมล่ะ? เมียมาหาแล้วก็เปิดประตูให้หน่อยสิครับ คนมองใหญ่แล้วนะ...ผัวครับไม่อยากเห็นหน้าเมียอ๋อ?~”



แกร๊ก!



ไอ้พี่แมนแม่งหน้าบางกว่าที่คิด เปิดประตูให้เร็วเกินคาด พอพี่ท่านเปิดช่องให้ อีเอ็มมี่ก็ใช้แขนข้างเดียวที่เหลืออยู่ขนสัมภาระเข้ามาในห้องทีละชิ้นอย่างทุลักทุเล ห้องของพี่แมนค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับการอยู่อาศัยเพียงคนเดียว แต่แกนคณะหน้าสวยก็จัดการทำให้พื้นที่ใช้สอยในห้องแทบไม่มีเหลือด้วยเศษกระดาษ กองงานและขยะได้อย่างน่าอัศจรรย์



“ทำเหี้ยอะไร ไร้ยางอาย!”



เอ็มหันมองหน้าเจ้าของห้องเป็นครั้งแรกของวันแล้วก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ไอ้พี่แมนสุดโหดของทุกคนอยู่ในชุดเสื้อยืดย้วยๆ สีขาวหม่นบ่งบอกระยะเวลาที่ถูกใช้งานกับกางเกงบอลตัวหลวมที่ร่นลงมาโชว์ขาอ่อนจากการนั่งขัดสมาธิหน้าคอมฯ หน้าใสๆ ของพี่แมนมีแว่นสายตากรอบดำแบบเด็กเนิร์ดอันใหญ่สวมทับ ผมที่ซอยไล่ระต้นคอถูกมัดขึ้นเป็นจุกอยู่ด้านหน้าเหมือนหมาพันธุ์ชิสุ



โมเอ้ฝุดๆ เลยว้อย...!!



“ยังจะมาทำหน้าหื่นใส่กูอีก!”



กะเทยหน้าหื่นรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำลายโดยพลัน ก่อนจะจัดการเก็บข้าวของของตนเองให้เป็นระเบียบและเลยเถิดไปเก็บให้เจ้าของด้วยทั้งที่มีมืออยู่ข้างเดียวนั่นแหละ แม่ง...หน้าตาก็สวย ทำไมซกมกจังวะ?



“มึงเอากีตาร์มาด้วยทำไมเนี่ย? มึงเล่นกีตาร์มือเดียวได้เหรอ?”



“ไม่มีมันอยู่ด้วยแล้วผมนอนไม่หลับอ่ะ”



“มึงเป็นเด็กติดหมอนเน่ารึไง? ห้องก็เล็ก เกะกะ!”



“ห้องมันไม่ได้เล็กเลยนะ แต่พี่อ่ะทำมันรก!”



ไอ้พี่แมนมองสภาพห้องตัวเองแล้วจะเถียงก็เถียงไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไปโดยปล่อยให้รูมเมทชั่วคราวจัดการเรื่องความสะอาดของห้องไปพลางๆ ไม่รู้ว่าเผลอใช้สมาธิกับงานไปนานมากเท่าไหร่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีห้องก็สะอาดปิ๊งระยิบระยับอย่างที่แมนเคยเห็นแค่ครั้งเดียวคือตอนย้ายเข้ามา



“พี่แมนยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? ผมทำข้าวไข่เจียวให้”



แล้วข้าวไข่เจียวหอมๆ ไข่พองฟูสีทองยั่วโปะมาบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสมะเขือเทศเป็นรูปหัวใจก็ลอยมาวางอยู่ตรงหน้า แมนกะพริบตาปริบๆ อย่างยังไม่หายงงก่อนจะเซฟงานปิดคอมแล้วลงมือกินข้าวไข่เจียวที่อีเอ็มมี่มันอุตส่าห์ทำให้



“ใครได้มึงไปเป็นเมียนี่โคตรโชคดีอ่ะ แม่บ้านแม่เรือนสุดๆ”



“พี่กำลังจะกลายเป็นผู้โชคดีคนนั้นไงล่ะ”



เอ็มยิ้มเขินอาย



“กูถอนคำพูดทันไหม? ซอสมะเขือเทศขมคอขึ้นมาเลยอ่ะ”



ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พี่แมนก็ยังเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย เอ็มเลยถือโอกาสเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงเดียวกันพร้อมไอโฟนในมือแล้วพูดขอเสียงอ้อมแอ้ม



“พี่แมน ขอถ่ายรูปได้ป่ะ?”



“ถ่ายกูตอนนี้เนี่ยนะ? ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้ไม่หล่อ”



ไม่หล่อแต่มึงสวยเอ็กซ์บาดใจกูมากเลยครับ



“นะพี่แมน นะ นะ”



“เอ้~ บอกว่าไม่ก็ไม่สิวะ!”



พอเห็นว่าแกนคณะจอมโหดชักอารมณ์เสีย เอ็มก็เก็บจานข้าวที่พี่แมนกินเสร็จแล้ว เดินสะบัดตูดไปล้างที่มุมครัวให้อย่างน้อยอกน้อยใจโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย พี่แมนนอนปั๊กกะป้าบอ่านหนังสือดีไซน์อยู่บนเตียงให้อีกะเทยหื่นได้แอบมองขาขาวๆ อย่างมีความสุขอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้สึกว่าฝนลงเม็ดหนักๆ มากระทบระเบียง



“อีเอ็มมี่ ปิดประตูกระจกหน่อย ฝนสาดอ่ะ”



คนถูกใช้เดินไปเลื่อนประตูปิดให้อย่างว่าง่าย พลางมองฟ้ามืดครื้มสลับสายฟ้าแปลบปลาบอย่างนึกหวั่น ในหัวสมองน้อยๆ ของกะเทยคิดการใหญ่ก็ได้แต่คิดภาพไปว่าถ้าพี่แมนแม่งกลัวฟ้ากลัวฝนเหมือนนางเอกละครแล้ววิ่งมาซบอกกูก็คงดี คิดแล้วก็เหลือบหางตาไปมองคนถูกพาดพิงที่เปลี่ยนท่ามานั่งขัดสมาธิดูหนังสือไปพลางแดกป็อกกี้ไปพลางอย่างไม่สะทกสะท้านต่อเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ อันสุดแสนน่ากลัว



แม่ง...ถ้ารอพี่แมน ชาตินี้กูคงได้ลวนลามหรอกนะ...เอาก็เอาวะ!



เปรี้ยง!!



“กรี๊ดดดด พี่แมน!!”



พลั่ก!



พี่แมนจุกตับจนป็อกกี้หลุดออกจากปากเมื่ออยู่ดีๆ กะเทยที่ร่างใหญ่กว่าเขาก็กระโดดขึ้นมานั่งตักในท่าเจ้าสาว กอดคอเขาไว้แน่นแล้วใช้หน้าซุกซบตรงบริเวณซอกคออย่างถือโอกาส



“มึงเป็นอาร๊าย~!!”



“ผมกลัวฟ้าผ่าอ้ะ!”



“อีตอแหล~!!! มึงนึกว่ากูจะเชื่อมึงเรอะ? ลงไป๊!!”



เอ็มชักเหงื่อตก แอคติ้งกูออกจะเนียนทำไมไอ้พี่แมนไม่หลงกลวะ? พอเห็นว่าอีกฝ่ายชักดิ้นขลุกขลักให้พ้นจากการเกาะกุม อีเอ็มมี่ก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีโถมพี่แมนกดลงกับเตียงด้วยมือข้างเดียวแล้วตวัดขาขึ้นคร่อมด้วยท่าทางล่อแหลม



“มึงจะปล้ำกูเหรอ?”



คนหน้าสวยถามด้วยรอยยิ้มแสยะอย่างไม่นึกหวั่น เตือนให้อีเอ็มมี่สำเหนียกตัวไว้ว่าถ้าคิดว่าทำแล้วจะรอดตีนกูไปได้ก็เอาเลยสิ



“ไม่ปล้ำหรอก ผมจะรอจนกว่าพี่จะสมยอม”



“คงจะมีวันนั้นหรอก! มึงลุกออกไปได้แล้ว กูหนัก!”



ถึงแม้จะได้รับคำสั่งแล้ว แต่คนข้างบนก็ไม่คิดจะขยับถอยไปไหนได้แต่จ้องหน้าสวยๆ ของพี่แมนในระยะประชิดด้วยสายตาจริงจัง



“ขอจูบได้ป่ะ?”



“ขอกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้อ่ะนะ อีหน้าด้าน!”



“ก็พี่แมนบอกให้ขอก่อนอ่ะ คนที่ถูกคนหน้าด้านขอแล้วหน้าด้านไม่ให้ หน้าด้านกว่านะเว่ย!!”



คนถูกกดชักมึนๆ กับคำซ้ำในประโยค แต่ก็รีบตั้งสติเพราะกลัวจะพลาดท่าโดนอีเอ็มมี่ที่ฉวยโอกาสตอนเขาเสียศูนย์รุกล้ำอาณาเขตทางเพศเข้ามาได้



“ไหนมึงบอกเหตุผลที่กูต้องยอมให้มึงจูบมาดิ๊”



อย่างอีเอ็มมี่นี่ต้องอ้างเหตุผลเข้าสู้ สมองเท่าควายไอคิวต่ำอย่างมันคิดอะไรมีตรรกะไม่เป็นหรอก!



“ก็เพราะผมชอบพี่ไง”



“แต่กูไม่ได้ชอบมึงนะ เรื่องแบบนี้มันต้องเต็มใจทั้งสองฝ่ายดิ”



“งั้นขอค่าทำความสะอาดกะทำกับข้าวเมื่อกี้ก็ได้”



“เดี๋ยวกูให้ 20”



“พี่แมนอ่ะ! ยอมเหอะนะ นะครับ น้า~”



อีเอ็มมี่ดัดเสียงอ้อน เอียงคอกะพริบตาปิ๊งๆ ให้จนพี่แมนทำหน้าผะอืดผะอม



“น่ารักตายห่า! ลุกไปเลย!”



พอเห็นว่ายังไงไอ้พี่แมนก็คงไม่ยอมแน่ๆ เอ็มก็เบะปากเป็นเป็ดแล้วง๊องแง๊งเป็นตุ๊ดเด็กด้วยท่าทางอุบาทว์สายตา



“ถ้าพี่แมนไม่ยอมให้ผมจูบ ผมก็ไม่ยอมลุกอ่ะ”



“มึงแน่ใจนะไม่ลุก?”



“แน่! ยังไงวันนี้พี่แมนก็ต้องให้ผมจูบ”



“มึงเลือกเองนะ...”



ปึ้ก!!



“โอ้ยยย....”



โครม!!



หลังจากถูกพี่แมนกระแทกลูกรักด้วยเข่าในระยะพอดิบพอดีจนร้องเสียงผิดคีย์แล้ว พี่ท่านก็ยันอีเอ็มมี่ตกเตียงดังโครมอย่างไม่คิดจะปรานีก่อนที่แกนคณะรุ่นที่ 47 จะลุกขึ้นมามองกะเทยไม่เจียมกะลาหัวที่นอนกุมไข่บิดเอวเร่าอยู่ที่พื้นด้วยแววตาสมเพช



“พี่แมน...แม่ง...เล่น***กูอีกแล้ว”



“หึหึหึหึหึ”



ประเดิมการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่วันแรกด้วยคุณสามีสุดแมนที่ยิ้มเหี้ยมเป็นตัวร้ายในหนังเจ้าพ่อกับคุณเมียตุ๊ดที่นอกจากจะหัวแตกแขนเดี้ยงแล้วยัง***พิการเพิ่มอีกหนึ่งที่ อาเมน...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก




Talk:
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเมนต์เลยนะจ๊ะ <3


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่แมนก็โหดเสมอต้นเสมอปลาย  :katai4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อะไรจะโหดปานนั้น
เอ็มควรจะออกกำลังกาย ฝึกการต่อสู้สักหน่อยนะ คิดจะกดคนสวยฤทธิ์มากนี่ไม่ง่ายนะจ๊ะ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
พล๊อตคุ้น ๆ เหมือนเคยเป็นฟิคอะ ใช่มั้ยคะ?? 

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สงสารก็สงสารเอ็มมี่น่ะ มันฮ่ามากกว่าอ่ะ
พี่แมนเล่นซะเอ็มมี่จุกไปเลย
ชักสับสนและว่าใครจะเป็นเมียเป็นผัว
สนุกมากเลยอ่ะ

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
สงสารเอ็มมี่  :laugh:

ออฟไลน์ SANDทราย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบบ เป็นกำลังใจให้นะคะะ <3
อย่าทิ้งคนอ่านนะคะ T^T
อยากให้มาจนจบเลยยย
พี่แมนตอนนี้ดูมุ๊งมิ๊งกับเอ็มดี อิอิ ไม่โหดเหมือนแต่ก่อน ยกเว้นตอนท้ายนะ 5555555

ออฟไลน์ missredlip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุเสียพรหมจรรย์ได้



“พี่แมนป้อนข้าวผมหน่อยดิ”



เอ็มเอ่ยปากขึ้นในมื้อเย็นของวันแรกในการเข้าห้องหอ หลังจากถูกคุณพี่ท่านประทุษร้ายน้องชายไปแล้วเมื่อกลางวัน ตุ๊ดหนุ่มก็นอนกุมไข่ให้หายเจ็บอยู่เป็นนานกว่าจะลุกขึ้นมาต่อกรกับพี่แมนต่อได้ พอตกเย็นก็ต้องกางร่มฝ่าฝนที่ยังตกปรอยๆ ไปซื้อข้าวกล่องมากินกันสองคนอีก



“มือมึงก็มี”



พี่แมนบอกปัดพลางตักข้าวผัดกุ้งเข้าปาก เห็นตัวบางๆ แบบนี้คุณพี่ท่านกินเก่งใช่เล่น ข้าวหนึ่งกล่องนี่ไม่ถึง 15 นาทีก็ซัดหมด



“ผมไม่ถนัดซ้ายอ่ะ”



กะเทยหนุ่มประท้วง หลังจากที่เริ่มทำข้าวหกเรี่ยราด กิจกรรมอื่นพอจะใช้มือซ้ายทำได้อยู่หรอก แต่การคอนโทรลช้อนเข้าปากนี่เกินความสามารถจริงๆ



“ถ้ามันไร้ประโยชน์ขนาดนั้น กูหักมันทิ้งให้เอาไหม?”



“เออ...ไอ้คนไม่มีน้ำใจ เราก็อุตส่าห์ตากฝนเดินไปซื้อข้าวให้นะ”



“กูบีบบังคับมึงสินะ?”



พอถูกตอกกลับแบบนิ่งๆ แบบนั้น เอ็มก็เถียงต่อไม่ถูก ใช่ซี้~ แค่มึงนอนบนเตียง เอียงหน้ามาทางกูแล้วพูดว่า “หิวข้าวอ่ะ~” เสียงน่ารักๆ เข้าหน่อย กูก็คว้าร่มออกไปซื้อข้าวให้มึงแล้วนี่! กูผิดเอง กูผิดเองที่ชอบมึงง่ะ!



“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย กูไม่ง้อนะครับ กูไม่ชอบเมียงี่เง่าขี้งอนนะครับบอกไว้ก่อน”



“แปลว่าถ้าผมไม่ขี้งอน พี่ก็จะชอบใช่ป่ะ?”



เอ็มเปลี่ยนโหมดมาร่าเริงทันควัน ซึ่งอีกฝ่ายก็กระตุกยิ้มหวานตาปิดส่งตอบให้ทันควันเช่นกัน



“กูชอบคนล้างจานเก่งด้วยนะ อ่ะนี่!”



คนนิสัยเสียผลักจานข้าวที่ตัวเองทานเสร็จแล้วให้รูมเมทเฉพาะกิจอย่างเนียนๆ ก่อนจะเดินไปนอนผึ่งพุงอย่างสบายตัว ปล่อยให้ตุ๊ดโง่ๆ กุลีกุจอคว้าจานไปล้างให้ทั้งที่ตัวเองยังกินข้าวไม่เสร็จ และกว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกใช้ เอ็มก็เช็ดจานเก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วนั่นแหละ



.

.

.



“พี่แมน...อยากนอนบนเตียงด้วยอ่ะ”



ตุ๊ดร่วมห้องเอ่ยเสียงอ้อนอย่างมีความหวังอีกครั้งเมื่อทั้งคู่อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ของเอ็มน่ะชุดนอนใช่ แต่ของพี่แมนนี่มันต่างจากชุดเมื่อกลางวันตรงไหนวะ?



“ถ้ามึงจะกรุณาแหกตาดูว่าเตียงมันเป็นเตียงเดี่ยว”



“นอนด้วยกันก็ได้อ่ะ อบอุ่นดีออก”



“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากนอนทับแผลหมา”



กัดจิกพอเป็นเป็นพิธี พี่แมนก็เปิดแอร์ ล้มตัวนอนคลุมโปงอย่างมีความสุข เหลือเพียงกะเทยอาภัพรักที่วันนี้มีแต่ขาดทุนย่อยยับตั้งแต่ฟ้าสางจรดค่ำ นึกแล้วมันก็น่าน้อยใจยิ่งนัก…กะเทยจีนแดงเหลือบมองหัวทุยๆ ที่โผล่พ้นเตียงแล้วก็ได้แต่แลบลิ้นใส่อย่างหมั่นไส้



หรือเราจะรอให้มันหลับแล้วค่อยปล้ำมันดี?



“อ้อ! กูขอเตือนมึงไว้ก่อน อย่าคิดจะทำอะไรโง่ๆ เชียวนะ อีเอ็มมี่ กูถีบมึงตกระเบียงชั้น 7 นี่แน่ๆ”



คนถูกจับความคิดได้ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม ไอ้พี่แมน! มึงเป็นเทพธิดาพยากรณ์กลับชาติมาเกิดใช่ไหม?! กูต้องตั้งรหัสผ่านตรงไหนมึงถึงจะแอคเซสความคิดกูเข้ามาไม่ได้เนี่ย??!!



สุดท้ายเอ็มก็ทำได้แค่ปิดไฟแล้วเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอนปิกนิกหน้าห้องน้ำซึ่งเป็นจุดที่ห่างไกลจากเตียงพี่แมนมากถึงมากที่สุด คิดมากชักปวดหัว ข่มตาหลับๆ ไปดีกว่า…



เจ้าของห้องลืมตาตื่นขึ้นในตอนกลางดึกเพราะรู้สึกปวดชิ้งฉ่อง ขาเรียวก้าวลงจากเตียงเดินไปยังประตูห้องน้ำแล้วก้าวผ่านหนอนชาเขียวตัวโตไปอย่างไม่นึกสนใจ พอทำธุระเสร็จก็เดินกลับออกมาหวังจะล้มตัวนอนต่อแต่เสียงครางฮือของอะไรบางอย่างก็หยุดความสนใจไว้เสียก่อน



“ห้องกูมีผีด้วยเหรอวะ?”



อยู่มาจนจะสี่ปีก็ไม่เคยเจอผี ทั้งที่ข้างห้องเขาก็เจอกันโครมๆ จนไอ้งอกไอ้เงิบมันลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าผีก็คงกลัวมึงเหมือนกันนั่นแหละ



“หนาว...”



กูว่าไม่ใช่ผีแล้วล่ะ...



ไอ้พี่แมนเดินมานั่งยองๆ ข้างผู้อาศัยที่นอนขดตัวกลมในผ้าห่ม มือบางลองแตะหน้าผากมันดูถึงได้รู้ว่าอีกะเทยติ๊งต๊องมันเป็นไข้ แถมไข้ยังดูท่าจะขึ้นสูงมากเสียด้วย



“ไหนใครบอกคนบ้าไม่มีทางป่วยไงวะ?”



ไอ้พี่แมนขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะยักไหล่แล้วลุกขึ้นเดินกลับไปที่เตียง มันป่วยแล้วไงล่ะ?...ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาเสียหน่อยนี่...แล้วแกนคณะหน้าสวยก็ล้มตัวลงนอนไปอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร



ทว่า...ทำยังไงก็นอนไม่หลับ



ไอ้พี่แมนเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วมองไปยังหน้าห้องน้ำอีกครั้ง ที่มันไข้ขึ้นก็เพราะฝืนทำนู่นทำนี่ให้เขาทั้งที่แขนยังเจ็บ อาการอักเสบก็ย่อมเกิดตามมาเป็นเรื่องธรรมดา ไหนจะเรื่องที่มันเดินตากฝนไปซื้อข้าวให้เขากินอีก ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองเขาก็พูดได้เต็มปากเลยว่าทุกอย่างเขาไม่ได้ขอให้มันทำเสียหน่อย มันเต็มใจทำให้เขาเอง...แต่เพราะพอคิดว่ามันเต็มใจทำให้จนต้องมานอนป่วยแบบนี้แหละ ถึงได้นอนไม่หลับ



“เห้อ~”



เจ้าของห้องคว้ารีโมทแอร์มาปิด ก่อนจะเดินมายังหนอนชาเขียวตัวเดิมแล้วเขย่าแขนเรียก



“อีเอ็มมี่ ตื่น~”



แต่คนมีไข้สูงไม่มีสติพอจะได้ยินเสียงเรียกของรุ่นพี่ คนตัวบางดึงผ้าห่มที่ม้วนพันรอบตัวคนป่วยออก แล้วช้อนแขนเข้าใต้รักแร้ ลากกะเทยตัวหนักแถ่ดๆ มายังเตียงของตัวเองแล้วโยนมันขึ้นไปก่อนจะจัดท่าจัดทางให้เรียบร้อย



“หิวน้ำ...”



“เออ...น้ำก็น้ำ”



พยาบาลจำเป็นเดินไปรินน้ำใส่แก้วแล้วหยิบหลอดชาเขียวที่เหลืออยู่เต็มตู้เย็นเพราะปกติก็เลือกจะกระดกกรอกปากอยู่ตลอดไม่ใคร่จะสนใจใช้หลอดดูดอย่างใครเขา แกนคณะจอมโหดดันหัวโตๆ ของรูมเมทให้ยกขึ้นก่อนจะจ่อหลอดเข้าริมฝีปากแห้งฝากที่ยังบวมนิดๆ ดูดเข้าไปพอดับกระหายก่อนจะปล่อยให้มันนอนลงไปอย่างเดิม



“เห้อ~”



ดูท่าแล้วอาการอีเอ็มมี่จะหนักไม่ใช่เล่น จริงๆ เขาควรจะพามันไปหาหมอด้วยซ้ำ แต่จะแบกมันแวนซ์ไปยังไงคนเดียวดึกดื่นมืดค่ำป่านนี้ คิดสะระตะไปจะโทรเรียกใครก็ไม่สมควร



“ภาระกูจริงๆ นะมึงเนี่ย!”



ถึงจะบ่นอย่างนั้นแต่พี่แมนก็เดินไปเอากาละมังใส่น้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาวางไว้ข้างเตียงแล้วจัดการแก้ผ้าอีเอ็มมี่ออกอย่างไม่มีเหนียมอาย ก็เห็นกันมาทุกส่วนสัดยิ่งกว่าผัวเมียแต่งงานอยู่กินกันมาเป็นปี เรื่องแค่นี้มีหรือจะทำให้พี่แมนเธออายได้?



คนใจร้ายจัดแจงเช็ดผิวร้อนๆ ของคนป่วยทุกซอกทุกมุมให้อย่างดีก่อนจะสวมชุดนอนกลับให้แล้วห่มผ้าทับ ปิดท้ายด้วยการชุบผ้าขนหนูบิดหมาดแล้ววางแปะไว้บนหน้าผากอีกที



“เหนื่อยเว้ย!”



อีกะเทยเปื่อยนี่ก็ตัวหนักใช่เล่น ดีนะที่พี่แมนเครื่องฟิต เรื่องใช้แรงนี่ถนัดไม้ถนัดมืออยู่บ้างถึงได้จัดการมันให้นอนหลับตาพริ้มสบายตัวอยู่นี่ได้



“มึงนี่ก็หน้าตาดีใช่เล่นนะ ถ้าไม่ได้เป็นตุ๊ด สาวคงติดน่าดูเลย แต่อย่างว่าอ่ะ...ก็ยังหล่อน้อยกว่ากูอยู่ดี”



เท้าเอวพึมพำเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพ เจ้าของห้องก็จัดแจงลากที่นอนปิกนิกมาไว้ข้างเตียงก่อนจะล้มตัวนอนแทนที่คนป่วยแล้วหลับไปทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์เปิดพัดลม







.

.

.



“อืม...”



ตุ๊ดสร่างไข้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาสู้แสงอย่างมึนงง มองซ้ายมองขวาเอามือป่ายคลำหน้าผากตัวเองเจอผ้าขนหนูก็ยิ่งงง แล้วก็งงหนักมากขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเจ้าของห้อง ส่วนเจ้าของห้องลงไปนอนฉีกขาเปิดพุงอยู่ข้างล่าง สมองน้อยๆ ค่อยประมวลผลอย่างอืดๆ ตามประสาตุ๊ดแรมต่ำ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างหยุดไม่อยู่



พี่แมนเป็นห่วงเขาด้วยง่า~…



เอ็มค่อยๆ สลัดผ้าห่มทิ้งแล้วก้าวลงจากเตียงมานอนซ้อนหลังพี่แมนที่พื้น แล้วฉวยโอกาสโอบพุงขาวๆ สูดกลิ่นแชมพูจากเส้นผมให้ชุ่มปอด ก่อนจะไล้สันจมูกไปตามแก้มใสๆ ของคนที่ยังหลับให้เจ้าตัวรู้สึกจั๊กจี้จนรู้สึกตัวตื่น



“อือ...อะไรวะ?”



พี่แมนกะพริบตาปริบๆ ปรับแสงจนขนตาเป็นแพยาวขยับไหวเหมือนปีกผีเสื้อ พอรู้สึกหนักๆ ตัวขยับไม่ค่อยได้ ความคิดแรกที่ปรากฏในสมองคือกูถูกผีอำแน่ๆ



ดีเลย...กูยังไม่เคยลองเตะผีสักที



จอมโหดพลิกตัววูบพร้อมกับเสียงร้องอย่างตกใจของตุ๊ดร่วมห้อง



“เฮ้ย! พี่แมน อย่าทับแขนผม!!”



“อ้าว? อีเอ็มมี่! มึงลงมานอนที่กูทำไมเนี่ย?”



“ที่พี่ที่ไหน? พี่อ่ะแหละ...มานอนที่ผมทำไมเหยอ?”



ได้ยินภาษาวิบัติของตุ๊ดจิตป่วยที่มันถือโอกาสลวนลามเขาอีกแล้ว ไอ้พี่แมนก็รู้สึกเพลียตับเบาๆ นี่เขาตัดสินใจผิดหรือเปล่าวะที่ยอมให้มันเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในห้องเขาเนี่ย?



“สร่างไข้ก็เอาเลยนะมึงอ่ะ”



“ได้พยาบาลดีก็งี้แหละ พี่แมนเป็นห่วงผมใช่ม้า?”



คนถูกล้อหูร้อนวูบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ใครห่วง? ไหน? หมาที่ไหนมันห่วง? ไม่มี๊!!!



“กูกลัวมึงมาตายในห้องกูหรอก กูไม่อยากได้ผีบ้านผีเรือนเป็นตุ๊ด!!”



ไอ้พี่แมนแก้ตัวเสียงแหวพร้อมดิ้นขลุกขลักหนี แต่ก็กลัวจะซ้ำแผลเก่าของอีตุ๊ดทรพีจนมันอักเสบไข้ขึ้นอีกรอบ คุณพี่ท่านก็เลยออกแรงดิ้นได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร



“พี่แมนปากแข็งจังเลยอ่ะ ไหนเอามาลองดิ๊แข็งจริงเปล่า?”



“อีเอ็มมี่! อย่า...อื้อ~!!”



คนปากแข็งเม้มปากแน่นเมื่อถูกตุ๊ดหื่นประกบจูบอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว เอ็มจุดพลุในใจอย่างเปรมปรีดิ์พร้อมตวัดขาขึ้นคร่อมเจ้าของร่างบางอย่างไม่นึกกลัวเกรง ก็ไม่รู้จะเกรงทำไม? ก็พี่แมนน่ะอันตรายแค่ก่อนจูบกับหลังจูบเท่านั้นแหละ ระหว่างจูบนี่ขี้ผึ้งลนไฟไร้แรงต้านเฟ้ย! เคี้ยกๆๆๆ~*



พอแน่ใจว่าคนข้างใต้คงไม่มีสติลุกขึ้นมากระทืบเขาต่อ อีเอ็มมี่ก็ถอนปากออกมาหลังจากล่อไปซะสาแก่ใจ ไอ้พี่แมนเผยอปากแดงก่ำหอบหายใจแรงเหมือนขาดอากาศมานาน มันคงจะเซ็กซี่ดีหรอกนะถ้าตัดตากลมๆ ที่จ้องหน้าอีตัวต้นเหตุยังกับจะหักคอมาจิ้มน้ำพริกอย่างนั้น



“ปะ...ไปห้องน้ำก่อนนะ”



“มึงอย่าอยู่เลย อีตุ๊ดเนรคุณ!!”



“อ๊ากกก พี่แมน เดี๋ยวๆ แขนผมๆ พี่แม๊น~~~!!!!”



.

.

.



“ทำไมสารรูปมึงดูแย่กว่าเดิมวะ? เพิ่งคืนเดียวเองนะเว่ย!”



อีเมเม่อุทานถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อเพื่อนรักกลับมาเยี่ยมเยียนห้องตั้งแต่เช้า สาเหตุทราบภายหลังว่ามันถูกพี่แมนเนรเทศออกจากรังรักชั่วคราว โทษฐานไปกระตุกหนวดเสือสถาปัตย์แต่เช้าตรู่



“กลยุทธ์ไม่พัฒนา”



“โง่ซ้ำซาก”



“แล้วพวกมึงจะด่ากูทำไมเนี่ย?”



เอ็มโอดครวญ พี่แมนแม่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรกูรึไง? พอกูเริ่มชอบมึงชีวิตกูก็ตกต่ำอับเฉาโดนแม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่เล่นกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยด่เรื่องวุฒิภาวะทางปัญญาเนี่ย...



“ด่าเพื่อก่อไง มึงไม่เคยได้ยินเหรอ?”



“กูเคยได้ยินแต่ติเพื่อก่อครับเพื่อน”



“อย่างมึงติแล้วไม่เข้าซีรีบัมหรอก ต้องด่าอย่างเดียว อ่ะ! มึงเอานี่ไป”



อีมาม่าโยนหนังสือเล่มหนึ่งลงมาตรงหน้าเพื่อนรัก มองหน้าปกที่เป็นตัวการ์ตูนตาแบ๊วใสกับชื่อเรื่องกำกับแล้วอีเอ็มมี่ก็ส่ายหัวดิก



“รักใสใสของคนขายน้ำเต้าหู้?”



“มึงอย่าดูถูกชื่อเรื่องมันไป เนื้อหามันช่วยมึงได้นะ”



อีมาม่าแอ๊บหน้าเป็นกูรูพร้อมส่ายนิ้วไปมาตรงหน้าเพื่อนซี้ ก่อนจะตบแปะๆ ลงบนปกหนังสือที่ตนคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อชีวิตคู่อันสวยงามของเพื่อนรัก



“เรื่องนี้พระเอกชื่อคิมฮยอนแมน เป็นหนุ่มเจ้าของธุรกิจน้ำเต้าหู้ ส่วนนางเอกชื่อชองมินอาเป็นลูกสาวเจ้าของไร่ถั่วเหลือง พระเอกมันรักนางเอกม๊ากมาก กูยังอิจฉาเลย”



“แล้วนางเอกมันทำยังไงให้พระเอกรักวะ?”



“มันไม่ได้ทำอะไรเลยว่ะ พระเอกตกหลุมรักมันเองง่ะ”



เอ็มทำหน้าม่อย...คือมึงจะบอกให้กูรอจนกว่าพี่แมนจะตกหลุมรักกูเองใช่ไหม? กูว่ารอจนหลานพี่แมนบวชกูก็ไม่ได้แอ้มมันเหอะงั้นอ่ะ



“กรณีของมึงมันใช้วิธีนางเอกๆ ไม่เหมาะเว่ย มันต้องวิธีของนางร้าย นางร้ายเรื่องนี้ชื่อพัคเอมี”



“มันทำไงวะ?”



“ง่ายมากค่ะเพื่อนรัก...”



อีมาม่ายิ้มพรายแบบตัวอิจฉาทรงภูมิได้อย่างน่าตบ



“มอมเหล้าแล้วปล้ำพี่แมนซะ!”



.

.

.



แกนคณะหน้าสวยแห่งสถาปัตย์แวนซ์ฟีโน่มาจอดหน้าผับดังข้าง ม. ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์นัก เขาถูกอีเอ็มมี่รบเร้าให้ออกมาก๊งเป็นเพื่อนโดยที่มันจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงเองแทนคำขอโทษที่บังอาจมาล่วงเกินเขาเมื่อเช้า ไอ้เราก็อยากทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดี น้องมันสำนึกผิดเราก็อยากให้อภัย ไอ้เรื่องเหล้าฟรีลาภปากอะไรนี่ไม่ได้คิ๊ดสักนิ๊ดดดดดดดดดดเดียว!



พอก้าวเข้ามาในแหล่งแสงสี อีกะเทยแขนพิการก็โบกมือเรียกหยอยๆ มีสองแฝดกับไอ้งอกไอ้เงิบมาร่วมโต๊ะด้วย ก็กินเหล้าคนมันก็ต้องเยอะหน่อยถึงจะสนุกใช่ไหมล่ะ? ไอ้งอกกะไอ้เงิบก็เริ่มหน้าแดงแล้ว สงสัยจะดวดเหล้าเข้าไปเยอะเพราะกับแกล้มไม่พร่องไปเท่าไร



“พี่แมนนั่งนี่สิครับ”



เห็นหน้าแป้นแล้นของมันแล้วอยากยกฝ่าเท้าขึ้นลูบด้วยความเอ็นดูเบาๆ มึงอย่าคิดนะเหล้าฟรีของมึงจะลบล้างความอัปรีย์เมื่อเช้าได้



“นี่ครับๆ”



อีตุ๊ดหน้าหล่อกุลีกุจอชงมาเหล้ามาให้อย่างเอาใจ ซึ่งพอแก้วน้ำสีน้ำตาลมาวางตรงหน้า ไอ้พี่แมนก็ลืมความขุ่นข้องหมองใจไปเสียสิ้นทันที



“ชงเข้มจังวะ?”



“อ๊ะ! เหรอครับ ผมชงเหล้าไม่ค่อยเป็นอ่ะ”



มีใครเคยบอกมึงไหมว่ามึงเป็นตุ๊ดที่โกหกไม่เนียนน่ะ อีเอ็มมี่?



“มึงไม่ดื่มด้วยกันอ่ะ?”



“หมอห้ามจนกว่าจะถอดเฝือกกะตัดไหมอ่ะพี่”



“เออ...ก็จริง”



พอหมดข้อสงสัย พี่แมนเธอดื่มเหล้าเคล้ากับแกล้ม แอบมองสาวสวยที่ส่งมาสายตายั่วยวนมาเป็นบางครั้ง ซึ่งพอใครจะเดินเข้ามาใกล้ อีกะเทยข้างๆ ก็ต้องมาคลอเคลียอย่างออกนอกหน้าจนต้องผลักหัวให้หงายเงิบกันทุกทีไป



ยิ่งจำนวนแก้วเหล้าที่ถูกรินเข้าปากมันเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ พี่แมนก็รับรู้ได้ถึงความเข้มของมันมากขึ้นเท่านั้น คุณแกนคณะแอบเหล่มองอีเอ็มมี่ที่เริ่มทำหน้าเครียดเมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะเมาแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ



เสียค่าเหล้าฟรีไปเหอะมึง!



ฝ่ายเอ็มที่เริ่มท่าไม่ดีก็หันไปซุบซิบปรึกษากับคู่แฝด ซึ่งสองสาวก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ปลอบใจมันด้วยเสียงกระซิบ



“มึง...พี่เขาอาจจะเมาแต่ไม่แสดงอาการก็ได้นะ มึงลองหลอกถามดูสิ”



“เออๆ”



เอ็มกระเถิบเข้าไปใกล้พี่แมนที่รักแล้วจิ้มแขนเรียกความสนใจ



“พี่แมนเมายังครับ?”



“อีโง่วววววววววว”



อีมาม่าแทบกระชากตัวเพื่อนมากระซิบด่าไม่ทัน เมื่อกี้กูก็บอกแล้วนะว่าให้หลอกถาม มึงไปถามโต้งๆ อย่างนั้นเขาก็รู้สิ โอ๊ย! กูเพลีย! กะเทยสาวจิ๊ปากอย่างไม่ได้ดั่งใจก่อนจะกระซิบกระซาบบอกวิธีให้อีเอ็มมี่ทำตาม



“พี่แมนนี่กี่นิ้วครับ?”



“2”



“ช้างมีกี่ขาครับ?”



“4”



“ห้องพี่แมนอยู่ชั้นไหนครับ?”



“7”



“แม่งไม่เมาเลยว่ะ!”



เอ็มหันมาคร่ำครวญกับแฝดสาวทั้งน้ำตา ค่าเหล้า+โซดาน้ำแข็งงวดนี้ก็ค่าขนมทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว พี่แมนแม่ง เรดมีก็ไม่แดก เสือกอยากแดกแบล็คอีก ที่สำคัญคือทำไมมึงไม่เมาวะ?!! ระหว่างที่กำลังคร่ำครวญอยู่นั้นเอง พี่แมนเธอก็ลุกพรวดคว้ากุญแจฟีโน่อย่างไม่รีรอ



“พี่แมนไปไหน?!”



“กลับหอดิ”



“เฮ้ย! ดื่มต่ออีกหน่อยดิ”



คนถูกคะยั้นคะยอปรายยิ้มหวานให้เมียรักก่อนจะจุ๊ปากส่งให้เบาๆ อย่างนึกสงสาร



“กูแดกต่อทั้งคืนก็ไม่เมาหรอกอีเอ็มมี่ กูแดกเหล้าตั้งแต่อายุ 13 แล้ว ไอ้แผนมอมเหล้าแล้วปล้ำกูของมึงนี่มันไม่ได้ผลหรอก แต่ยังไงก็ชอบใจที่เลี้ยงเหล้ากูนะ ไปล่ะ กูง่วง”



พูดจบ พี่แมนก็หันไปล่ำลาเพื่อนงอกและเพื่อนเงิบที่เมาเละไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินฮัมเพลงควงกุญแจไปอย่างลั้ลลา ฝ่ายเอ็มที่เสียค่าโง่ไปไม่ใช่น้อยก็รีบล่ำลาเพื่อนตัวเองแล้วตามไปทำตัวหน้าด้านซ้อนฟีโน่เขากลับหอด้วยกัน



เมื่อขึ้นมาถึงห้อง พี่แมนก็คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะแง้มประตูโยนเสื้อผ้าออกมาให้อีเอ็มมี่ตามเก็บไปใส่ตะกร้าให้เรียบร้อย คนตัวบางใช้เวลาอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ชั่วครู่ก็ออกมานอนแผ่บนเตียงอย่างมีความสุข



“อีเอ็มมี่ หิวน้ำอ่ะ”



“เชอะ!”



คนโดนใช้กลายๆ สะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ ทั้งๆ ที่มึงก็รู้ว่ากูหวังมอมเหล้ามึง มึงก็ยังหลอกแดกของฟรีของกูอี๊ก! คิดแล้วชีช้ำกะหล่ำปลีจริงๆ!



“งอนเพื่อ? กูนี่สิสมควรโกรธที่มึงคิดอกุศลกะกูอีกแล้ว!”



ไอ้พี่แมนพูดเตือนสติให้อีเอ็มมี่ได้สำนึก ซึ่งฝ่ายที่เถียงไม่ออกก็เดินไปเปิดตู้เย็นกอกแกกรินน้ำให้เจ้าของห้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นไอโฟนรอ



“อ่ะ!”



“แต่มึงก็รู้จักพัฒนาแผนเหมือนกันนะ โชคร้ายของมึงมันอยู่ที่กูฉลาดเกินไปนี่แหละ”



ขอบคุณนะที่มึงเปลี่ยนจากด่ากูมาเป็นชมตัวเองน่ะ…กูซึ้งมาก



ไอ้พี่แมนยกแก้วน้ำเย็นเฉียบดื่มอย่างสดชื่นแล้วส่งแก้วคืนให้อีเอ็มมี่ ก่อนจะรู้สึกแปลกใจที่มันยืนจ้องเขาไม่หนีไปไหน พอจะเอ่ยปากถามโลกก็หมุนติ้วและค่อยๆ ดับวูบไปเหมือนมีใครมาปิดสวิตซ์ไฟ



“หึหึ...โชคดีของกูคือการมีเพื่อนฉลาดนี่แหละ”



เอ็มมองสามีสุดที่รักที่หลับเป็นตายอย่างสาสมใจ ยานอนหลับชนิดรุนแรงที่อีมาม่าให้เขาไว้เป็นแผนสำรองในกรณีที่สุรามันไม่เวิร์คนั้นได้ผลดีเกินคาด ไอ้พี่แมนแม่งคงนึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเล่นไม้นี้...หึหึ...คิดแล้วก็ขอขำอย่างเป็นต่ออีกที



“พรุ่งนี้ตื่นมา มึงต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ ครับ ไอ้พี่แมน!”







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2017 16:37:33 โดย missredlip »

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ฮามาก
ตื่นมาพี่แมนจะเซอร์ไพรส์ขนาดไหน
ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ อิเอ็มเมียรักจะเล่นซะมีได้
สายโหดนะอย่าลืม เลี้ยงด้วยลำแข้งตาหลอด
 :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด