7
แม่ผมบอกว่าไอ้อ้วนน้อยเพิ่งหย่านม เอ้ย! เลิกกินขวดนมได้ไม่นาน ต้องอดทนอดกลั้นมากและอย่าให้มันเห็นขวดนมเชียว ไม่งั้นอาการอยากมันจะกำเริบแล้วกลับมางอแงอยากกินอีก ซึ่ง... ไม่ทันแล้ว = =;;;
“นี่มันหมูจริงๆนี่หว่า”
ผมเอานิ้วดันปลายจมูกเล็กๆขึ้นให้บานเป็นจมูกหมูแล้วถ่ายรูปเก็บไว้
“มากินข้าวได้แล้วเอิร์ธ”
“แม่ๆ ขอไก่ทอดมาน่องนึง”
“ให้ทั้งจาน”
ฟอดดดดดดดดดด
“น่ารักอ่ะ ถ้าไม่มีสามีแล้ว พี่จีบเลยนะน้องเนี้ย”
“ทะลึ่งละไอ้เอิร์ธ”
“กิ๊วๆๆ”
ผมเอี้ยวตัวหลบฝ่ามือพิฆาตที่ฟาดผมตั้งแต่เด็กยันโต แต่ไม่ลืมหยิบน่องไก่มาเมื่อคิดแผนแกล้งไอ้อ้วนน้อยได้ ผมเอาน่องไก่ทอดกรอบควันฉุยๆหอมฟุ้งไปทั่วบ้านจ่อเข้าที่จมูกไอ้อ้วน แว๊บเดียว... แว๊บเดียวเท่านั้นจริงๆมันก็ได้สติบีบตาเข้าหากันแน่นพร้อมจมูกที่ขยับฟุดฟิดๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมเขย่าตัวมันยิ่งกว่าแผ่นดินไหว
“อื๊อออออออ”
งับ
“เฮ้ยเร็วมากอ่ะ! O_O”
อึ้งสิครับ มันงัวเงียยังไม่ทันลืมตาผมก็เลยตายใจแกว่งไก่ไปมาตรงหน้ามัน รู้ตัวอีกทีมันงับไปไปเรียบร้อย
“อะไรเหรอพี่เออ อ๊ะ ไก่ออกมาจากในฝันน้องได้ยังไง”
จ้า มึงฝัน = = ได้กลิ่นไก่แล้วเก็บไปฝันแต่ปากนี่งับได้ไก่ของจริง
“ตื่นมากินข้าวได้แล้ว”
“คือ ที่นี่ที่ไหนเหรอพี่เออ”
“ตื่นมาแล้วถามงี้ดูละครมากไปเหรออ้วน”
“น้องสงกะสัย”
“ไม่ต้องสงกะสัยหรอก พี่เก็บน้องมาจากถังขยะ แม่น้องเอาน้องไปทิ้งแล้วรู้ตัวไว้ด้วย”
“ไม่จริง ฮึก”
ก๊ากกกกก เริ่มเบะ ตาเริ่มแดงแล้ว มันนั่งห้อยขาบนโซฟาก้มหน้ากลั้นร้องไห้ มือก็กำเข้าหากันแน่น หางลู่ไหล่ตกซะจนน่าสงสาร
“อยากกลับบ้าน ฮือออออออออออ”
“กลับได้ไง บ้านไม่มีใครอยู่”
“ฮืออออออออออ อยากหาแม่ ฮึก”
“อะไรเอิร์ธ แกล้งอะไรน้องอีกหะ”
แม่ผมรีบเข้ามาดูแล้วอุ้มไอ้อ้วนไปปลอบ
“โด่ หลอกนิดหลอกหน่อยก็เชื่อแล้ว”
“เดี๋ยวๆ เดี๋ยวจะโดน”
“แม่ทิ้งน้องเล็กแล้ว ฮือออออ”
“ไม่ทิ้งครับ คุณแม่ให้มาอยู่ที่บ้านคุณครูก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมารับเลย”
“จริงเหรอครับ”
“จริงสิ เมื่อกี้คุณครูพึ่งจะโทรคุยกับคุณแม่ของน้องเล็กเอง”
“แต่พี่...”
“อย่าไปเชื่อ ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่เอิร์ธเป็นคนบ้า”
“อ่าวแม่!”
แม่ชี้หน้าคาดโทษผมเลยต้องหุบปากฉับกลัวโดนสั่งไม่ให้กินข้าว แม่พาไอ้อ้วนไปที่โต๊ะอาหารมันก็หยุดร้องเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอป๋าอาบน้ำลงมาเห็นไอ้เด็กนี่ก็ชอบใหญ่บอกน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ผมไม่ใช่ลูกพวกเขาแล้วใช่มั้ยครับ = =
“น้องเล็กไม่อยากนั่งใกล้คนไม่ดีเลย”
“ก็ไปนั่งนอกบ้านดิ”
“ไล่เหรอ”
ไอ้อ้วนลุกขึ้นยืนเท้าเอวบนเก้าอี้แล้วชี้หน้าผมพร้อมกับทำตาวาว
“เออ ไล่ ไปเลยๆๆ”
“เอิร์ธ!” โดนแม่ดุบ่อยมากตั้งแต่เจอไอ้อ้วน L
“น้องไม่ไป น้องจะกินไก่ก่อน”
อ่ะโด่ นึกว่าจะทนกลิ่นไก่ทอดได้
“น้องอเล็กซ์มานั่งข้างคุณครูแอฟก็ได้ครับ ให้ครูแอฟฉีกไก่ให้”
“กว่าจะย้ายไปนั่งนู่นได้ เอิร์ธจะกินไก่ให้หมดก่อนอเล็กซ์เลยคอยดูเถอะป๋า”
“พี่เออใจร้าย ไม่รู้จักแบ่งปันเลย!”
“ด่าพี่อีกทีไม่ได้กินจริงๆแน่”
มันเงียบทำปากอุบอิบๆแช่งผมอยู่ในใจ แต่ถึงตาจะยังมองผมขวางอยู่แต่มันก็ยอมนั่งลงไปที่เดิมอย่างเจี่ยมเจี้ยมรอให้แม่บ้านมาตักข้าวให้ พอนั่งลงบนเก้าอี้แล้วขอบโต๊ะอยู่ตรงอกมันพอดี แขนก็ตักกับข้าวไม่ถึงด้วย ผมเลยต้องตักใส่จานข้าวให้ อเล็กซ์อยู่อนุบาลสามเป็นวัยที่กินข้าวและเข้าห้องน้ำเองได้แล้ว
“สงสัยเข้าใกล้วัยที่จะมีลูกได้แล้ว”
“อะไรๆป๋า”
“คุณไม่รู้อะไร ตอนนี้ตาเอิร์ธเป็นมาเฟียคุมเด็กอนุบาลทั้งห้องเลยแหละ แค่ชี้นิ้วเด็กก็กลัวแล้ว ยกเว้น...”
แม่เหล่สายตาไปมองเด็กแก้มกลมที่นั่งข้างผม
“ไอ้อ้วนมันดื้อ เป็นเด็กที่ชอบเถียงและไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่” ผมเถียงข้างๆคูๆ
“แกเคยเชื่อฟังฉันมั้ยหะ อย่าให้ต้องสาธยาย”
“ไม่ต้องสาธยายหรอกจ๊ะคนสวย” รีบยิ้มเอาใจทันทีก่อนจะเหลือบไปเห็นไอ้อ้วนที่แทะไก่เก่งยิ่งกว่าหมา “นี่ก็กินอะไรก็อร่อยไปโหม๊ดดดดดดด เขานินทานี่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลย”
“ตักอันนั้นให้น้องหน่อยครับ”
มันชี้ที่บล็อกโคลี่ผัดกุ้ง ผมก็ตักกุ้งให้เพราะคิดว่าเด็กๆคงไม่ชอบกินผัก แต่ผิดคาด อเล็กซ์ขอผักและไม่ใช่แค่ผักบล็อกโคลี่ ผักทุกชนิดที่อยู่บนโต๊ะทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักมันฟาดเรียบหมด
“อ่ะนี่”
“อาหย่อยยย”
ผมหยิบถั่วฝักยาวที่เอาไว้กินกับน้ำพริกอ่องให้ไอ้อ้วน มันชอบกินเหมือนกระต่าย มันทำปากงุบงิบเล็มปลายถั่วเข้าไปทีละนิดแต่รวดเร็วจนหมดไปหลายฝัก
“ยิ่งกว่าเครื่องดูดฝุ่น นี่สูบหรือกิน ตักให้ไม่ทันแล้วเนี้ย”
“น้องเล็กอยากได้อะไรยืนบนเก้าอี้เลยก็ได้ครับ ป๋าอนุญาต”
ไอ้อ้วนยิ้มกว้าง พอยืนก็ถนัดเขาล่ะตักนู่นตักนี่ใส่จานตัวเอง พอตักจนพอใจก็ลงนั่งกินเหมือนเดิมอย่างมีมารยาท นี่ก็ตั้งหกขวบแล้วตัวยังเตี้ยไม่เหมือนคนที่จะเตรียมขึ้นปอหนึ่งเลย
“วันนี้น้องเล็กมีการบ้านมั้ยครับ”
“มีครับ แต่ว่าน้องเล็กขอกินเสร็จก่อนจะได้มีพลังไปทำการบ้าน”
“โอเคครับ งั้นกินกุ้งเข้าไปเยอะๆเลย มันมีหลายขาจะได้ช่วยน้องเล็กทำการบ้านเสร็จไวๆ”
“หลอกเด็กชัดๆ”
“ไม่ขัดแม่สักครั้งได้มะเอิร์ธ”
โดนอีกแล้ว TOT
“เอาขากุ้งทำการบ้านไม่ได้ คิกๆๆ”
มันเอามือมาปิดปากแล้วหัวเราะคิกคักกับผู้ใหญ่ กลิ่นตุๆคล้ายๆว่าหัวผมจะเน่า
พอกินเสร็จป๋าขึ้นไปทำงานส่วนผมกับแม่ก็นั่งเล่นกับไอ้อ้วนน้อยอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สงสารมันเหมือนกัน จะมีสมาธินั่งทำการบ้านดีๆก็ไม่ได้นะ พอได้ยินเสียงรถผ่านมันก็รีบวิ่งไปเกาะประตูกระจกดู คอนี่ยืดยาวมองออกไปนอกบ้านแทบจะตลอดเวลา
ปริ๊นๆๆ
“คุณแม่!!!”
เรียกแม่เสียงแหลมเลยไอ้อ้วนเอ้ย
“เพื่อนคุณครูเองครับ”
เพื่อนแม่ผมที่เป็นจิตแพทย์เพิ่งกลับมาจากสัมมนาที่สวิสเซอร์แลนด์เอาของฝากมาให้และแม่ผมก็ฝากซื้อของสวยๆงามๆอะไรของเขาไปนั่นแหละ
“ว๊าาาาา ตอนนี้กี่โมงแล้วเหรอพี่เออ”
“เพิ่งจะสองทุ่ม”
“แต่เมื่อตะกี้ก็สองทุ่มนี่นา ทำไมช้าจัง”
ผมโกหก ที่จริงเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว
“โอ๊ะ รถใครมาจอดหน้าบ้านน่ะ”
“เป็นเพื่อนของพี่เออแน่ๆ”
ไม่ใช่หรอก เป็นแม่ไอ้อ้วนเนี้ยแหละ พอตอนไม่ใช่รถแม่ตัวเองนี่ก็วิ่งออกไปดูจั๊งงงงง พอเป็นรถแม่ตัวเองจริงๆดันหมดหวังคิดว่าคงไม่ใช่ไปซะอย่างงั้น
“น้องเล็ก^^”
“คุณแม่!!!!”
ไอ้อ้วนน้อยวิ่งไปกอดขาแม่ตัวเองกระโดดเหยงๆดีใจใหญ่
“คุณแม่คิดถึงน้องเล็กจังเลย ขอโทษที่วันนี้มารับช้านะลูก แม่ทำงานเสร็จช้า”
“เล็กอยากกลับบ้านนอนกอดคุณพ่อกับคุณแม่แล้ว”
เจอหน้าแม่แล้วก็เริ่มงอแง ผมสวัสดีท่านและทักทายกันนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านไป แม่ไอ้อ้วนบอกว่าตอนนี้งานเขาเยอะไปหน่อยแต่ว่าถ้าผ่านไปได้ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ผมก็ขอให้มันเป็นอย่างนั้นแล้วกัน
ผมผิวปากอย่างอารมณ์ดีขณะขับรถไปส่งแม่ในเช้าถัดมาจนท่านต้องหันมามองยิ้มๆอยู่บ่อยๆ
“อารมณ์ดี? มีความรัก?”
“เหมือนเดิม”
“อ้ออออออ นึกว่ามีความรัก เห็นช่วงนี้ทำตัวดีไม่ค่อยเถลไถลแถมยังรักเด็กด้วย อย่างกับเตรียมตัวจะมีลูก”
“แค่กๆๆ โหแม่”
สำลักน้ำลายตัวเองทันที เตรียมตัวจะมีลูกอะไรเล่า เพิ่งจะปีหนึ่ง... ย้ำว่าปีหนึ่ง! มีลูกตอนนี้จะเอาปัญญาที่ไหน,\มาเลี้ยงล่ะครับ ผมยังแบมือขิเงินแม่ใช้อยู่เลย
“กลัวจริงๆ กลัวว่าแกจะไม่มีเมีย ไม่มีเมียไม่ว่า ถ้าไปมีผัวนี่หนักเลย”
“ขนลุกหนักเลยใช่มั้ย”
“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่า^^ ยังไงแม่ก็แล้วแต่แก เอ้า มองหน้าไม นี่แม่พูดจริง เอาที่สบายใจอย่าเดือดร้อนใครเป็นพอ”
“ได้เลยๆ เดี๋ยวเย็นนี้พาอิเคธี่มากราบฝากเนื้อฝากตัว”
“ว๊ายยยยยยยยยยย ลูกสาวววววว”
ฮ่าๆๆ แม่ผมรู้จักเพื่อนผมทุกคนแหละครับ(แต่ไม่รู้จักศัตรูผมสักคน >O<) อนุญาตให้ผมมีผัวนี่แม่ไม่ได้เช็คสารร่างผมเลย มหึมามหามวลสารขนาดนี้ไม่ได้ใช้งานก็ขอลาตายดีกว่า
“แล้วรถเรายังไม่ได้อีกเหรอ”
“เอ่อ...” ผมเงียบแล้วทำเป็นวุ่นวายกับการยูเทิร์นรถ
“ต้องไปถามแล้วนะ เดี๋ยวเขาจะเอาไปดองไว้”
“น่าแม่ เป็นพี่ที่สนิทกันอยู่ เย็นนี้เอิร์ธจะเข้าไปดูแล้วกัน”
ถ้าผมได้รถมาผมก็ไม่ต้องมาส่งแม่ทำงานแล้วสิ รู้สึกเซ็งแปลกๆ ทั้งๆที่ผมควรจจะดีใจที่ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องวกรถกลับไปกลับมา และยังได้รถสุดที่รักกลับมาไว้ในครอบครองอีก
“พี่เออออออออออออออ”
“อะไรอ้วน วิ่งมาเสียงดังกว่าเพื่อนเลย”
“สวัสดีครับคุณครู”
“ค่า ฟอดๆๆ”
แม่ผมหอมแก้มไอ้อ้วนน้อยแล้วแยกเอาของไปเก็บที่ห้องพัก
“แล้วพี่ล่ะ”
“สวัสดีครับ”
“อ่าว เขาไม่ย่อเข่ากันเหรอ”
“=3= ผู้ชายเขาไม่ทำกันหรอก นั่นเขาให้ผู้หญิงทำ พี่เอิร์ธไม่รู้เรื่องงงง”
“น้องเป็นผู้ชายเหรอ ไหนๆ พี่ต้องเช็ค”
“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมแกล้งทำท่าโรคจิตจะดึงกางเกงนักเรียนของไอ้อ้วนน้อยออกมันเลยวิ่งหนีกรี๊ดกร๊าดไปทั่วห้อง ตอนแรกว่าจะไม่แกล้งละแต่พอเห็นแก้มกลมๆ ตาโตๆ จมูกนิดและปากหน่อยเดียวนั่นทำยื่นยาวตอนพูดแล้วมันอดไม่ได้จริงๆ แต่พออเล็กซ์วิ่งไปตรงจุดที่น้องน้ำฝนนั่งอยู่มันก็เหมือนนึกอะไรออก หยุดวิ่งหนีแล้วเดินหน้ามุ่ยมาหาผม
“พี่เออช่วยน้องหน่อย น้ำฝนเอาขนมน้องไปอีกแล้ว”
“ไหนบอกดึงคืนมาแรงๆได้”
“ไม่มีแรงแล้ววววว”
“คราวหลังถ้าไม่มีแรงก็ดึงกิ๊ฟท์รูปดาวของน้ำฝนมาต่อรองเลย”
ผมพูดปลุกใจไอ้อ้วน (เลว = =)
“จะดีเหรอฮะ”
“ไม่งั้นก็แย่งอะไรก็ได้ของน้ำฝนมา ใครทำเราก่อนเราต้องเอาคืน!”
“ต้องเอาคืน! แต่ว่าคุณครูไม่ให้เราขโมยของของคนอื่นนะพี่เออ เฮ้อออออออ”
ผมยิ้มเพราะไอ้อ้วนทำท่าหมดแรงทรุดลงไปนั่งขัดสมาธิบนพื้นแล้วเอามือเท้าคางทำหน้าเพลียซะเต็มประดา ผมเลยเข้าไปหาน้ำฝนและบอกว่าขอขนมของอเล็กซ์คืนได้มั้ย
“พี่เอิร์ธเข้าข้างอเล็กซ์อยู่เรื่อย น้ำฝนไม่น่าแอบชอบพี่เอิร์ธเลย คนหล่อใจร้าย น้ำฝนน่าจะรักแซ็คคนเดียวจะได้ไม่เจ็บช้ำหัวใจแบบนี้ นี่ เอาคืนไป แล้วก็ไม่ต้องมาง้อน้ำฝนอีก!”
...
=_____________________=;;;;;;;;;;
ดะ...
เดี๋ยวนะ...
บล็อกเหมือนละครที่แม่กับป๋านั่งดูเมื่อคืนเลย
“จะไม่พูดกับน้ำฝนจริงๆใช่มั้ยพี่เอิร์ธ ก็ด้ายยยยย เชอะ!”
แล้วนางเอกของเราก็เดินสะบัดหน้าจนคอแหง็กไปอีกด้าน
“พี่เออๆ”
ไอ้อ้วนน้อยชะเง้อชะแง้เมียงมองมาทางนี้และเรียกผมด้วยเสียงกระซิบ พอเห็นผมชูขนมขึ้นหัวมันก็ยิ้มหน้าบานตาปิดวิ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังเร็วไม่ทันผมJ
แกร็บ!
“งั่มๆๆๆ”
“...”
แกะซองขนมถั่วคั่วหรืออะไรสักอย่างที่คล้ายอาหารนกแล้วเทกรอกปากตัวเองจนหมดถุงในทีเดียว ไอ้อ้วนนี่อ้าปากพะงาบๆด้วยความช็อกก่อนจะค่อยๆเบะปากคว่ำไปเรื่อยๆ หูตาจมูกปากเริ่มแดง
“จะร้องไห้ทำไมวะอ้วน”
“พี่เออเอาขนมไปกินหมดเลย ฮือออออ มันเป็นห่อสุดท้ายแล้วด้วย ฮืออออ”
“ขนมของน้องเหรอ”
“ใช่ ขนมของน้องแต่น้ำฝนเอาไป”
“ก็ไม่เห็นน้องบอกอะไรพี่เลยนี่”
“น้องบอกให้พี่เออเอามาให้หน่อย”
“ก็พี่ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะเอามาให้น้อง ฮ่าๆๆๆ”
“ฮืออออออออออออ”
ไอ้อ้วนเริ่มโมโหเข้ามาลงไม้ลงมือกับผม ลูกผู้ชายฆ่าไม่ตาย(= =??)อย่างผมไม่สะทกสะเทือนหรอก ได้แกล้งเด็กสะใจยิ่งกว่า ฮ่าๆๆๆ
“เฮ้ย ไม่ไปดิอ้วน ไอ้อ้วนนนนนนนนน”
ผมรีบวิ่งตามแต่คราวนี้มันรู้แกมว่าผมจะต้องวิ่งทันมันเลยเล่นลัดเลาะเข้าซอกแคบพุ่งตรงไปยังเป้าหมายเดิมของมันที่ใช้หลบจากผมได้ มันก็คือไอ้อุโมงค์สไลด์เดอร์นั่นแหละ
กระเป๋าสารพัดพิษตรงหน้าท้องของโดเรม่อนผมจะหาซื้อได้ที่ไหนครับ กูต้องการไฟฉายย่อส่วนด่วนนน T_T ผมจะย่อร่างตัวเองให้มุดเข้าอุโมงค์นี่ไปต่อกรกับไอ้เด็กอ้วนนี่ให้จงได้เลย
“พี่ล้อเล่นน่าอ้วน ออกมาคุยกันก่อดิ เร็วๆ เดี๋ยวพี่รีบไปเรียนแล้ว”
“ไม่!!!!”
ครับผม! L
หลังจากที่คาบเรียนตอนเช้าผ่านพ้นไป พวกผมตั้งใจเรียนมากจนแบตโทรศัพท์มือถือเกือบหมดเลยล่ะครับ = =;; ระหว่างกินข้าวเลยมีการแย่งชิงพาวเวอร์แบงค์กันเกิดขึ้นเนื่องจากมีอยู่แค่ 3 อัน ของผม ไอ้แพง ละก็ไอ้เปียว
“มึงก็เอาของมึงมาใช้ดิวะ”
ไอ้แพงว่าเพราะมันล้วงของขึ้นมายังไม่พ้นซิปกระเป๋าผมก็ฉกของมันมาเสียบอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ต๊ะเอาไป ไปทวงมันมาให้กูดิ”
“เหอะ!”
ที่จริงผมให้ไอ้ต๊ะมันไปเองแหละ
“ไอ้เปียว?”
“โน ไอ้ต๊ะเอาไป ไปถามเอาเอง”
“แล้วพวกมึงจะให้มันไปทำไมวะ!!!”
ผมกับไอ้เปียวมองกันยิ้มๆ พวกเราแค่อยากให้มันคุยกันดีๆบ้าง อยากให้มันยิ้มเฮฮาด้วยกันเหมือนตอนเรียนมัธยม ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาผมก็เห็นมันตีกันแทบจะตลอดเวลา
“มีปัญหามากหรือไง แค่ไม่ได้แชทกับผู้ชายชั่วโมงสองชั่วโมงจะตายเหรอ”
“เสือก!”
“หยุดตีกันสักทีดีมั้ย ขอบรรยากาศฟรุ้งฟริ้งกลับคืนสู่ใจพวกกูทีเถ้อะ”
ไอ้เปียวขอร้องน้ำตาแทบไหล(?) แต่ผมก็เห็นด้วยกับมันนะ ตอนมอปลายมันฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวโด่งดังไปทั่วโรงเรียนอ่ะ ทำกิจกรรมด้วยกันเรียนด้วยกัน ซึ่งชื่อเสียงพวกมันตรงข้ามกับชื่อเสียงผมโดยสิ้นเชิง T_T
“มาแล้วจ้าๆๆ ผัวขา ขอโทษที่ให้รอนาน พอดีเจอผัวน้อย >O<”
ปัง!
“ใครผัวน้อยมึงวะ!”
ผมขมวดคิ้วแล้วตบโต๊ะเสียงดังหลังจากที่อิเคธี่กับแอมมี่ไปซื้อน้ำซื้อขนมในเซเว่นมาให้พวกผม(แมนมากใช้งานกระเทยและชะนี = =) แล้วอยู่ๆอิเคธี่ก็วิ่งเข้ามาออเซาะแล้วบอกว่ามีผัวน้อย จะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ยังไง
“ถามจริง? นี่โมโหจริง?”
“เออดิ”
“เอิร์ธ... มึงหึงกูเหรอ”
“คราวหน้าพามันมาหากูเลยนะ”
“...”
“กูยอมกราบตีนมันเลยถ้ามันทำให้กูสลัดมึงพ้นตัวได้ กร๊ากกกกกก >O<”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้สัสสสสสสสส กูจะเอามึงจริงๆแล้วนะไอ้ชั่ว ไอ้ขอบกระละมังอาหารหมาาา กรี๊ดๆๆ ต๊ะช่วยเมียด้วย ผู้ชายคนนี้แกล้งผู้หญิงบอบบางอย่างเค้าได้ยังไง”
“ห้อยโตงเตงอยู่นี่ยังผู้หญิงอีกเหรอ ฮ่าๆๆ”
“นมใช่มั้ยคะที่โตงเตง กรี๊ดดดดดดดดดดดด”
ว่าแล้วอิตุ๊ดสติแตกเนื่องจากโดนเพื่อนรุมก็คว้าเอาซาลาเปาที่ซื้อมายัดเข้าไปในคอเสื้อ
“อิเคธี่~~ T^T ซาลาเปากูเป็นของกิน! ไม่ใช่ให้มึงเอาไปยัดเป็นนมเล่น อิเหี้ยยยยยยย”
“ฮ่าๆๆๆ”
“มึงไม่ต้องหัวเราะไอ้เอิร์ธ กูซื้อมาให้มึงนั่นแหละ อิเคมึงควักออกมายัดปากไอ้เอิร์ธเลย”
“เหี้ยๆๆๆๆ แหยะๆๆๆ” กูเอียงหัวหลบเกือบไม่พ้นเลย TOT
พวกผมแกล้งอิเคธี่กันพอหอมปากหอมคอ ผมก็เลี่ยงออกมาสูบบุหรี่ตรงซอกตึกซึ่งเขาจัดไว้สำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะ ผมไม่ได้ติดอะไรขนาดนั้นหรอก แต่พอดีเมื่อตอนไปซื้อข้าวเจอเพื่อนต่างคณะแล้วมันเพิ่งกลับจากอเมริกาซื้อบุหรี่ ซิการ์มาฝากทีหนึ่งเป็นคอตๆแจกเพื่อนคนลองซองสองซอง แต่ผมขอมันมามวนนึงพอและผมใจร้อนก็เลยอยากลองเลย อ่า ยิ่งของนอกยิ่งฟิน...
แชะๆๆ
...
ผมมองหาต้นเสียงก็เห็นเลนส์กล้อง DSLR สีดำใหญ่ๆโผล่มาจากหลังมุมตึก
“ใครวะ!”
“...”
“อย่าให้กูจับได้ มึงศพไม่สวยแน่ไอ้สัส”
ผมค่อยๆย่องไปตรงมุมตึก รู้ว่ามันยังนั่งหลบอยู่ไม่ไปไหนเพราะเห็นปลายแขนเสื้อโผล่ออกมาเลยเอื้อมมือไปกระชากคอเสื้อมันออกมาอย่างแม่นยำ
“อ่าว”
“แหะๆๆ ^^”
เงิบสิครับ เป็นผู้หญิงนี่หว่า ผมรีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อเขา ถึงผมจะเหี้ยแต่ผมก็ไม่ทำอะไรผู้หญิง(น่ารัก)ลงหรอก เธอจัดเสื้อเชิ้ตที่ปักตราคณะให้เข้าที่เข้าทาง เด็กศิลกำซะด้วย...
“ขอโทษนะ เราคิดว่าไอ้พวกคณะเดียวกันมากวนตีน”
“ไม่เป็นไร เราแอบถ่ายรูปเธอด้วยแหละ แหะๆๆ”
“ขอโทษจริงๆ เราชื่อเอิร์ธเรียนอยู่คณะนี้”
“อืมมมม ก็พอรู้มาบ้าง”
เธออมยิ้ม รู้มาบ้างนี่คืออะไร ชื่อเสียงหรือชื่อเสีย T_T
“แล้วเธอล่ะ”
“เราเรียนอยู่ศิลกำ ชื่อกลอน”
“ชื่อเพราะดีนะ เรายังไม่เคยมีแฟนชื่อนี้เลยJ”
กลอนเลิกคิ้วอย่างใช้ความคิดก่อนจะยิ้มขำออกมากลบความเขินอาย
“หืมมม ม่อแล้วเอิร์ธธธ ฮ่าๆๆ”
“เฮ้ยเปล๊าาาา ใครจะไปอาจเอื้อมขนาดน้านนนนน เราจีบคนสวยๆอย่างเธอไม่ติดหรอก”
“หึหึหึ เว่อร์ไปๆ แล้วรู้ได้ไงว่าจะจีบไม่ติด”
“งั้น... ขอพิสูจน์ได้ป่ะล่ะ”
ผมส่งยิ้มกระชากใจสาวไปให้กลอน เธอหัวเราะแล้วส่ายหัวให้ผมเบาๆก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น ส่วนเอิร์ธ เอื้อการย์น่ะเหรอ ยืนเฉยเป็นที่ไหน ตามสิครับ!
“กลอนยังไม่ได้ให้เราดูรูปที่แอบถ่ายเลย ถ่ายตอนเผลอนี่เราทุเรศตายเลยนะ”
“ถ้าทุเรศเราจะถ่ายทำไมเล่า”
“งั้นแสดงว่าผมหล่อ” ผมยักคิ้วกวนๆกลับไปให้ กลอนเลยคว่ำปากกลับมากวนๆไม่แพ้กัน
“หลงตัวเองเล่าตาบ้า ดูเองแล้วกัน”
เธอยื่นกล้องมาให้ผมเลื่อนดู เป็นรูปตอนที่ผมยืนพิงผนังตึกสีขาวในมือคีบบุหรี่ห้อยไว้ข้างลำตัวขณะที่ในปากก็พ่นควันออกมาคลุ้ง แถมผมยังเอางอเท้าข้างหนึ่งไปยันกับผนังด้านหลังด้วย คือผมไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าจะขี้เก๊กอย่างนี้ = =;; ผมก็ทำตัวปกติเอาที่ผ่อนคลายที่สุดอ่ะนะ
“แหมะ เรานี่หล่ออย่างกะนายแบบ”
“ก็จริง” ผมพูดเล่นแต่กลอนยักไหล่ไม่ปฏิเสธ
“แล้วกลอนมาทำอะไรแถวนี้ครับ”
“เรามาดูโลเคชั่น จะมาถ่ายแบบน่ะ สนใจมาเป็นนายแบบให้เรามั้ยล่ะ”
“อย่าเล้ยยยยย เดี๋ยวทำงานเขาพัง”
ผมว่าถ้าให้ผมโพสท่าเข้าจริงๆก็คงไม่ไหว มันไม่ใช่สไตล์เอิร์ธ เอื้อการย์
“นี่เธออยู่ปีอะไรแล้วเนี้ย เราต้องเรียกเธอว่าพี่มั้ย ฮ่าๆๆ”
ถ้าให้เดาน่าจะเป็นรุ่นพี่ เพราะถ้าปีหนึ่งต้องเรียนวิชาพื้นฐานอยู่ และเสื้อที่กลอนสวมอยู่ก็เป็นเสื้อรุ่นที่จะได้ตอนรับน้องเสร็จเท่านั้นซึ่งพวกผมยังไม่มีใครได้สักคน
“ไม่ต้องงงงงงงงง”
“ไม่อยากเป็นรุ่นพี่ มาเป็นอย่างอื่นแทนได้ป้ะ”
“อะไรเหรอ”
“ก็...”
“...”
ผมเว้นวรรคให้กลอนได้คิด แต่เธอก็ทำเป็นมองนู่นมองนี่ทั้งๆที่แก้มเริ่มขึ้นสี
“ก็เป็นเพื่อนกันไง”
“อะอ้อ”
มือเรียวยกขึ้นมาเกาศรีษะเก้อๆ แต่ใบหน้าหวานยังมีรอยยิ้มอยู่จางๆ
“เป็นเพื่อน... กันไปก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที โอเคมั้ย”
...
...
...
“อื้ม ^^”
ผมแลกไลน์แลกเบอร์กับกลอนมาอย่างเนียนๆ เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆระหว่างที่เดินไปส่งกลอนที่รถ อาทิตย์หน้าเขาจะพารุ่นน้องที่ยอมมาถ่ายแบบ ผมก็เลยเนียนไปอีก บอกให้เขาบอกผมด้วย ผมจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ หึหึหึ
“อันที่จริงเราก็เล่นกล้องนะ ตั้งแต่มอปลายแล้วอ่ะ”
“แล้วไม่สนแล้วเหรอ”
“สนสิ แต่ตอนนั้นเราเตรีมสอบเข้าหาวิทยาลัยเลยพักไปก่อนจนตอนนี้ยังไม่ได้แกะกล่องออกมาลองอีกครั้งเลย แต่ว่าตอนนี้... เหมือนจะมีคนสอนแล้ว”
“เหร๊ออออออออ?”
“ไรอ่ะกลอน สอนเราหน่อยไม่ได้เหรอ”
ผมทำหน้าอ้อนร่างบางเต็มที่หลังจากที่เธอลากเสียงยาวแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ได้สิ แต่ช่วงนี้กลอนมีโปรเจ็คหลายชิ้นที่ยังไม่เรียบร้อย”
“หลังจากนั้นก็ได้อ่ะ”
“จ้าๆๆๆ”
กลอนย่นจมูกใส่ผมอย่างน่ารักจนอดขยี้ผมให้ยุ่งไม่ได้
“กลอน!! มาอยู่นี่เอง ผมตามหาทั่วเลย”
“เฮ้ยเอก โทษจริงว่ะ”
“ลืมเราอ่อว่ะ”
“โทษๆๆ ขึ้นรถเร็ว”
มันพูดกับกลอน แต่ตามันจ้องผมเขม็ง กลอนโบกมือให้ผมแล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับรถสปอร์ตสุดหรูที่บ่งบอกฐานะได้ดีว่าไม่ใช่ง่อยๆ เหลือแต่ไอ้หน้าเห่ยเพื่อนกลอนที่เลิกคิ้วให้ผมอย่างกวนตีน
“มองหน้าหาเรื่อง?”
“เหอๆๆ ศพที่แล้วก็พูดกับกูอย่างนี้” ผมสวนกลับมันทันทีเพราะคิดอยู่แล้วว่ามันคงไม่ถูกชะตากับผมและต้องเข้ามาหาเรื่องแน่นอนและเรื่องหลักก็อาจจะเป็นเรื่องของ “กลอน”
“หรือยังไง ต่อยป่ะล่ะจะได้จบ”
...
------------------------------------------------
ขอบคุณฮัฟฟฟฟฟ อิอิ