[ACT 6]
"เฮ้ย ราม ทำไมมาเร็วจังวะ ไหนว่าต้องส่งเด็กก่อนไง"
เสียงทุ้มนุ่มฟังรื่นหูดังขึ้นพร้อมกับแขนหนัก ๆ ที่วางพาดลงบนบ่า แสดงถึงความสนิทสนมได้เป็นอย่างดี ร่างที่เพิ่งมาใหม่นั่งลงที่บาร์เคียงข้างร่างสูงที่นั่งที่ประจำอยู่ก่อนแล้ว
"ขอเตอกีล่าซันไรส์"
"วันนี้นึกยังไงเปลี่ยนรสล่ะ กร?"
"แหม คนเราก็ต้องมีเปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง นายเป็นไงบ้างล่ะ?"
"ก็ดี ไม่ค่อยเจอนายเลยนะ ไปคั่วอยู่กับใครล่ะ"
"ปากคอเราะร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะ ฉันออกจะรักเดียวใจเดียวขนาดนี้"
"รักเดียวใจเดียว แต่แค่ไม่จบอยู่ที่คนคนเดียวงั้นสิ?"
"รู้ทันอีก หึหึ" กร หรือภากร หัวเราะในลำคอ "ตอนนี้เก็บเด็กมาเลี้ยงอยู่คนหนึ่ง ยังไม่คุ้นมือเท่าไหร่ แต่เชื่องดี... อีกไม่นานคงฝึกได้"
"นี่นายพูดอย่างกับนั่นไม่ใช่คน"
ราเมศทำหน้าแหย เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีรสนิยมแบบไหน ซึ่งไม่ใช่แบบที่เขาประทับใจเท่าไหร่ แต่ก็อย่างว่า คนเราลางเนื้อชอบลางยา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบอะไรเหมือนๆกัน เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปวิจารณ์ด้วย ตราบใดที่เพื่อนของเขายังไม่ได้ไปฉุดใครมาบังคับข่มขืนน่ะนะ
"ไปเก็บมาจากไหนล่ะ? ระวังเหอะ คุกนะคุก"
"เด็กมันยั่วเองนะ ฉันไม่ได้บังคับซะหน่อย อายุก็ตั้งสิบเก้าเข้าไปแล้ว ไม่ใช่เด็กอะไรขนาดนั้นแล้ว"
ฟังถึงตรงนี้ราเมศถึงกับชะงัก หยักยิ้มไม่ออกอยู่ชั่วครู่
"นั่นสินะ.. ถึงยังไงก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นายก็ระวัง ๆ หน่อยละกัน"
"อืม แล้วนายล่ะเป็นไง? แหม ๆ เดี๋ยวนี้มีส่งเด็กด้วย ไปงาบมาจากไหนล่ะ? คนอย่างนายปกติเห็นไม่เคยส่งใครนี่ คงไม่ใช่เด็กม.ปลายอะไรแบบนี้หรอกนะ"
มือแกร่งคว้าแก้วใสที่บรรจุเครื่องดื่มสีสวยยกขึ้นจิบ รสชาติในแบบที่แตกต่างจากทุกวันทำให้เขาไม่คุ้นลิ้นอยู่ชั่วครู่ แต่ก็รสดีไปอีกแบบ เขาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนที่ปกติเป็นเพลย์บอยชนิดที่เรียกว่านอนกับใครไม่ซ้ำหน้าทำหน้าพิลึกแบบพูดอะไรไม่ออกเถียงอะไรไม่ขึ้น ซ้ำยังหน้าขึ้นสีเรื่อนิด ๆ อีกต่างหาก
"เฮ้ อย่าบอกนะว่าเรื่องจริงน่ะ?"
เมื่อเห็นเพื่อนไม่พูดอะไร ภากรจึงฟันธงเรียบร้อยทันทีว่าเป็นเรื่องจริง
"เฮ้ย ราม เอาจริงน่ะ?"
"เอาจริงอะไรของนาย"
"ก็... เด็กขนาดนั้น ไม่ใช่สเป็คนายไม่ใช่รึไง?"
"ก็ไม่ใช่น่ะสิ ตัวแค่นั้นขนยังไม่ทันขึ้นด้วยซ้ำ!"
"กินไปแล้ว?!"
ราเมศยกแก้วขึ้นซดแทนคำตอบ เขาถอนหายใจยาว ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะต้องมาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง มิหนำซ้ำเจ้าบ้านี่ดันออกอาการซะเว่อร์เกินจริงอีกต่างหาก
"ก็แค่เด็กม.ปลายคนเดียว อะไรนักหนา"
"ก็เพราะปกติแล้วนายไม่ทำน่ะสิ"
"ฉันไม่ได้เต็มใจซะหน่อย ไอ้เบสต่างหาก"
"ประธานน่ะเหรอ.. อย่าบอกนะว่าเด็กคนนั้นเล่นหนัง..........!!"
มือหนาตะปบริมฝีปากที่กำลังจะพ่นคดีอาชญากรรมออกมากลางผับเอาไว้ได้ทัน
"เฮ้ย เบา ๆ สิวะ!"
"แล้วนายทำไปจริงๆ!"
"ก็เออสิวะ งานนี่หว่า"
"งานเหรอ... มันก็จริงน่ะนะ ประธานคงวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว คงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แต่ว่าทำไมนายถึงต้องไปส่งเด็กคนนั้นด้วยล่ะ?"
"อ้อ... ก็.... ก็เขายังเด็ก ตัวก็เล็กนิดเดียว"
".................. อืมมมมมมม"
"มาองมาอืมอะไรของนาย"
"เปล๊า ไม่มีอะไร"
ภากรฉีกยิ้มกว้าง ถ้ายิ้มกว้างถึงใบหูได้คงทำไปแล้ว จัดว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นราเมศในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ ก็สนุกดีไปอีกแบบ เอาเถอะ โตๆกันแล้ว คงรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรแหละ
------------ หวังว่านะ
"พูดมากจริง กลับบ้านละ"
"อ้าวเฮ้ย โห่ ไรวะ โกรธด้วย ยังไม่ทันได้พูดไรเลย"
"ไม่รู้เว้ย ไปแล้ว!" เอ่ยพลางวางเงินเอาไว้แล้วลุกจากเก้าอี้ในทันที
"ห่วงเด็กที่บ้านก็สารภาพมาเหอะน่า!"
ภากรตะโกนไล่หลังไป ก่อนจะหันมาหัวเราะอยู่คนเดียวที่บาร์เครื่องดื่ม
ดีนะที่ร้านนี้เป็นร้านประจำของพวกเขา จึงไม่มีใครสนใจหรือถือสาอะไร เขาเองก็เริ่มคิดถึงคนใหม่ที่บ้านแล้วเหมือนกันแฮะ คืนนี้กลับไปหาอะไรสนุก ๆ ทำแทนก็ละกัน
*****
ราเมศปรายสายตามองนาฬิกาข้อมือขณะควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าให้เด็กหนุ่มไปเมื่อตอนเย็น เขาจึงต้องกดกริ่งเรียกให้ร่างเล็กวิ่งมาเปิดประตูรับ ดีที่เขากลับไม่ดึกเท่าไหร่ ไม่งั้นเขาคงลำบากใจเล็ก ๆ ที่ต้องปลุกเด็กหนุ่มให้ลุกมาเปิดประตูให้ คราวหน้าคงต้องทำคีย์การ์ดสำรองไว้แล้วล่ะมั้ง
ชายหนุ่มตาเหลือกเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นี่เขาคิดจะทำคีย์การ์ดสำรองเพื่อเด็กคนเดียวเนี่ยนะ! ไม่สมเป็นราเมศเอาซะเลย
"กลับมาแล้วเหรอครับ"
ร่างในชุดนอนสีขาวที่เขาช่วยเลือกซื้อในวันนั้นเปิดประตูให้พร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ เขาก้าวเข้าไปแล้วจึงปิดประตู
"กลับเร็วกว่าที่ผมคิดนะครับ นึกว่าจะดึกกว่านี้ซะอีก"
"อืม"
ร่างสูงรูดเน็กไทออก ก่อนทิ้งกายลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างสับสนกับความคิดที่วิ่งพล่านอยู่ในสมองจนมึนไปหมด
"นายง่วงรึยังล่ะ ไปนอนก่อนได้เลยนะ พี่กะจะดื่มต่อซะหน่อย"
ปรานต์ไม่ตอบคำ เขายืนลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วขาเรียวก็เดินมาหยุดที่โซฟาตัวใหญ่
"................."
"?"
เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้า นั่งลงเคียงข้างร่างสูงที่ทอดสายตามองอย่างงุนงง ใบหน้าหวานแดงจัดราวกับลูกตำลึงสุก
ราเมศขมวดคิ้ว เขายังไม่ค่อยเข้าใจปฏิกิริยาของอีกฝ่ายนักว่าต้องการอะไร แต่ครั้นจะคะยั้นคะยอให้พูดก็กระไรอยู่ รอให้เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเองน่าจะดีกว่า
"เอ่อ..."
"อืม?"
เขาทำเสียงในลำคอเพื่อบอกให้รู้ว่ากำลังฟังอยู่
"คือ..."
"ว่ามาสิ"
"ผม... เอ่อ... แบบว่า..."
"นี่ ต้องให้จูบเรียกสติสักทีไหม"
หลุดพูดออกไปแล้วเพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่คู่ขาที่เขาพูดเล่น (แต่เอาจริง) ด้วยประจำ เขากัดริมฝีปากตนเองเมื่ออีกฝ่ายเงียบกริบราวกับตกตะลึงไปแล้ว
"... ปรานต์"
ชายหนุ่มหันหน้าไปมองร่างเล็กที่อึกอักอยู่ข้างๆ เรียกอาการชะงักจากร่างตรงหน้าราวกับตกใจที่จู่ ๆ เขาหันไปสบตาด้วย ส่งผลให้เขาหัวเราะขึ้นจมูกเบา ๆ มือใหญ่ขยี้ลงบนเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มอย่างเอ็นดูอาการที่เหมือนแมวตื่นตระหนกนั่น
"พี่ไม่ทำอะไรนายหรอกน่า ทีนี้จะบอกได้รึยังว่าเป็นอะไรไป?"
"พรุ่งนี้..."
ราเมศหยุดฟังเมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังรู้เรื่องเป็นคำแรกหลุดออกมาจากริมฝีปากคู่สวย
"พรุ่งนี้พี่ว่างไหมครับ?"
"พี่เหรอ... อืม ว่าง ทำไมเหรอ?"
"คือว่า... ผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าพี่ไม่ลำบากล่ะก็..."
จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็ก้มหน้างุดแล้วลดเสียงลง ผิวแก้มที่แดงเรื่อขึ้นมาน้อย ๆ ดูน่ารักซะจนราเมศใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
"เหมือนกับว่าผมจะได้บทแปลกๆมาอีกแล้ว ถ้าหากพรุ่งนี้พี่พอจะมีเวลา... ช่วย..."
"อ้อ นายอยากให้พี่เทรนให้อีก?"
"ก็... ประมาณนั้น คือผมไม่สันทัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่"
ราเมศคลี่ยิ้มบาง เขาเชื่อเรื่องที่เด็กหนุ่มไม่ประสีประสากับเรื่องบนเตียง แต่เรื่องฝีมือเขาไม่แน่ใจเลย ถ้าหากว่าการเทรนครั้งเดียวจะทำให้อีกฝ่ายเรียนรู้ไวเสียจนทำเอาดารานำอย่างเขาแทบขาดสติคาฉากได้
"ได้สิ ไหนล่ะบทนาย?"
"นี่ครับ"
ปรานต์ยื่นสมุดสีขาวเล่มบางให้กับร่างตรงหน้า เขานั่งกุมมือรอให้ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านบทอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูดีที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วมุ่นทำเอาปรานต์ใจไม่ค่อยดีเลย
ว่ากันตามตรงแล้ว เด็กหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจบทที่อ่านคร่าว ๆ ไปมากเท่าไหร่ เขายังงงว่านี่เขาเป็นดาราหนังโป๊หรือหนังแอ๊คชั่นเลือดสาดกันแน่ ทำไมถึงมีฉากที่เขาถูกมัดแล้วเฆี่ยนด้วยแส้ด้วย
ราเมศเอามือกุมศีรษะ ในใจนึกอยากจะกระชากคอเสื้อประธานบริษัทมาชกสักสองสามทีให้มันได้สติซะหน่อยว่าเด็กตรงหน้านี่เพิ่งจะอายุสิบหก
แม้จะไม่แปลกใจนักที่ประธานผู้โหยหากำไรจะสรรหาฉากไม่ซ้ำรูปแบบมาให้ปรานต์แสดง ก็ถ้าแม้แต่เขายังมองเห็นทักษะของปรานต์ มีหรือที่พัลลภจะพลาด
พัลลภเป็นเพื่อนที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นนักธุรกิจที่วางแผนหาเงินเก่งจนไม่น่าคบ
ดวงตาคมมองบทบาทที่ร่างเล็กต้องแสดงแล้วรู้สึกขนลุก ขนาดเขายังออกตัวไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าจะไม่มีวันเล่นบท SM เป็นอันขาด ต่อให้จ่ายค่าจ้างดีแค่ไหนเขาก็ไม่ยอม
ไม่ใช่เพราะอะไร เขาก็แค่ไม่ชอบเท่านั้น เขาไม่พบว่าการสะบัดแส้ฟาดคนอื่นมันน่าสนุกตรงไหน หรือจะช่วยสร้างอารมณ์หวามให้เขาได้อย่างไร เขาจึงไม่เคยรับบทบาททำนองนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ราเมศอ้าปากพูดอะไรไม่ออก ในใจนึกหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิต แต่ครั้นจะปฏิเสธไม่ยอมเทรนให้ แล้วปล่อยให้เด็กตรงหน้าไปเผชิญความซาดิสต์แบบนั้นตามลำพังก็ไม่ใช่วิสัยสุภาพบุรุษอย่างเขาเสียด้วย
เขาปรายตามองร่างเล็กที่นั่งกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะหัวใจเต้นรัวเมื่อพบว่าตนเองกำลังถูกดวงตาคู่โตจดจ้องอย่างคาดหวังจะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองใบหน้าคมตาแป๋วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ่านบทจบ ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ราเมศตัดสินใจได้ในทันทีว่า เขาคงหนีไม่พ้นต้อง 'สอนงาน' ให้เจ้าตัวเล็กตรงหน้านี้อีกแล้ว
"พี่พอจะรู้วิธีทำให้ตอนถูกตีไม่ค่อยเจ็บไหมครับ?"
'นี่นายจะทำให้ฉันหลงรักความใสซื่อของเจ้าตัวเล็กคนนี้ให้ได้เลยใช่ไหม เบส!!'
"ช่วยสอนผมได้ไหมครับ?"
"... อืม พี่ไม่อยากรับปากหรอกนะ บอกตรงๆ พี่ว่านายยังไม่เหมาะจะรับบทแบบนี้ มันรุนแรงเกินไป"
"แต่ว่า ถ้าพี่เบสสั่งมา ผมก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?"
"มันก็... ไม่เชิงหรอกนะ นายมีสิทธิ์ที่จะแย้งถ้าหากว่านายไม่พร้อมกับบทบาทบางอย่าง ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะมีความสุขเมื่อถูกเฆี่ยนด้วยแส้"
"... สำหรับผม มันฟังดูน่ากลัวมากเลยล่ะ"
"ก็ไม่แปลกหรอก ขนาดพี่ยังไม่ยอมเล่นบทแบบนี้เลย"
"จริงเหรอครับ?"
"อืม พี่บอกเบสไว้ว่ายังไงซะพี่ก็ไม่เล่นบทนี้ คนทั่วไปก็พอเล่นได้อยู่ถ้าอยู่ในวงการนี้นานๆ แต่พี่ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นจะให้นายรับบทนี้ทั้งๆที่นี่เพิ่งเป็นครั้งที่สามของนาย แถมนายก็ยังเพิ่งอายุสิบหกด้วย!"
ปรานต์นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ บอกตามตรงเขายังไม่เข้าใจว่าบทที่เขาได้รับมันคืออะไรกันแน่ คนปกติจะมีความสุขเมื่อถูกตีอย่างนั้นเหรอ?
"มีคนที่ถูกตีแล้วมีอารมณ์ด้วยเหรอครับ?"
"มันก็แล้วแต่คน พี่เองก็มีเพื่อนที่ชอบสไตล์นั้นเหมือนกัน"
"จริงเหรอครับ งั้นรบกวนพี่โทรหาเขาให้หน่อยได้ไหม?"
"โทรหา? เพื่ออะไรล่ะ?"
ราเมศเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายนึกสนใจในตัวเพื่อนผู้มีรสนิยมแปลกของเขาขึ้นมา
"ก็เผื่อจะถามเทคนิคจากเขาไงครับ ว่าผมควรจะทำแบบไหนถึงจะเจ็บน้อยที่สุด... ที่จริงก็อยากให้เขามาสอนผมเลยแหละ แต่ว่าเกรงใจ ผมไม่รู้จักเพื่อนของพี่"
"นายจะบ้าเหรอไง นี่นายคิดจะรับบทนี้จริงๆเหรอ?!"
ราเมศเผลอตะคอกออกไปแล้วก็นิ่งอึ้ง เขาไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังใส่เด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเสียอยู่ข้างๆด้วยความตกใจเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเห็นร่างเล็กดูกระตือรือร้นจะรับบทนี้เสียเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเอาซะเลยแบบนี้ เขาก็อดอารมณ์ขึ้นไม่ได้
"เอาล่ะ ถ้านายอยากเล่นพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ไว้จะโทรหาหมอนั่นให้ถ้านายต้องการขนาดนั้น"
เอ่ยจบก็ลุกขึ้นแล้วจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรับรู้ถึงแรงกอดจากด้านหลัง
ราเมศหยุดยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร ในขณะที่เด็กหนุ่มที่กอดเอวของเขาเอาไว้แน่นก็ไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน
"เป็นอะไร?"
"... ผมขอโทษ"
"ขอโทษอะไร นายไม่ผิดอะไรสักหน่อย"
ราเมศจับข้อมือบางแล้วดึงให้ปล่อยจากเอว เด็กหนุ่มจึงถอยไปด้านหลังเล็กน้อยเมื่อเขาหันไปเผชิญหน้าตรง ๆ ใบหน้างามเจือแววหวาดหวั่นจนเขาได้แต่ถอนหายใจออกมายาว
"ฟังนะ พี่สามารถโทรเรียกให้หมอนั่นมาสอนนายได้ทุกเมื่อถ้านายต้องการแบบนั้นจริง ๆ แต่พี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเมื่อเริ่มแล้วก็หยุดไม่ได้แล้วนะ ถึงนายจะร้องไห้ ไม่ว่าจะในฉากหรือในการเทรน จะไม่มีการออมมือหรือหยุด นายพร้อมจริงรึเปล่าล่ะ?"
ปรานต์ก้มหน้าลง เขาพยายามไล่น้ำตาที่คลอดวงตาคู่สวย แต่ชายหนุ่มกลับใช้มือประคองใบหน้าหวานให้เงยหน้าสบตากันตรง ๆ เมื่อเห็นหยดน้ำที่รื้นดวงตาคู่โต ราเมศก็ระบายลมหายใจออกมาแล้วลูบศีรษะมนอย่างอ่อนโยน
"ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม... แต่ฉันไม่อยากให้นายต้องถูกทำให้แปดเปื้อนเพราะวงการนี้เลย"
แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องปล่อยให้น้ำตารินไหลต่อหน้าชายผู้นี้อีกจนได้ ทั้งชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยพบใครที่เอาใจใส่เขามากขนาดนี้มาก่อนเลย ใครที่เข้าใจเบื้องลึกของหัวใจของเขา ใครที่คอยเป็นห่วงเป็นใย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวพันใดทางสายเลือดแม้แต่น้อยแบบนี้
มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับมือแกร่งที่ประคองแก้มใสทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนที่ปรานต์จะหลับตาลงเมื่อราเมศใช้ปลายนิ้วซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
"วันนี้พักผ่อนก่อนดีกว่า เรื่องนี้ค่อยคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไง ดีไหม?"
"... ครับ"
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาคม ก่อนจะเอ่ยถาม
"พี่โกรธผมรึเปล่า?"
"ไม่โกรธสักหน่อย"
"แล้วเมื่อกี้พี่โกรธผมเรื่องอะไรเหรอครับ? คราวหน้าผมจะได้ระวัง ไม่ทำอีก.. ผมไม่อยากให้พี่โกรธผมเลย"
ราเมศนิ่งเงียบ เขาโกรธปรานต์เรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?
ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าทันทีที่คิดว่าอีกฝ่ายอยากเทรนกับภากร ความหงุดหงิดก็พุ่งปรี๊ดจนควบคุมไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยแลกคู่นอนกับกรที่เป็นเพื่อนสนิทสุด ๆ มาก่อน แต่พอเป็นปรานต์แล้ว เขากลับไม่พอใจขึ้นมา
เป็นเพราะอะไรกัน*?*
มือหนาลูบศีรษะมนเบา ๆ
"ไม่มีอะไรหรอก เอาล่ะ ไปพักผ่อนได้แล้ว"
ทว่าปรานต์ยังไม่ยอมเลิกรา มือบอบบางคว้าชายเสื้อของร่างตรงหน้าเอาไว้แล้วดึงเบา ๆ พร้อมกับช้อนตามองด้วยดวงตากลมโตคู่สวย
"พี่เกลียดผมแล้วเหรอ...?"
ความอดทนของราเมศเหมือนจะขาดผึงในเสี้ยวพริบตาที่มองภาพนั้น ร่างสูงเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มเงยหน้ามองด้วยสายตาหวานจนแทบจะละลายเขาได้ในไม่กี่วินาที บวกกับชุดนอนผ้าเนื้อบางสีขาวที่ดูจะไซส์ใหญ่เกินเด็กหนุ่มไปหน่อย จึงทำให้เมื่อมองจากมุมสูงแล้ว สามารถเห็นผิวเนื้อใต้ร่มผ้าได้อย่างชัดเจน
ผิวขาวเนียนและยอดอกสีชมพูที่สามารถมองเห็นได้อย่างวับ ๆ แวม ๆ กำลังจะทำให้เขา --- ขาดสติ
TBC.