Dear Sunshine 11:: Sun’s Story
https://www.youtube.com/watch?v=JZlFJ97rLCM
คนหนึ่งคนจะทำร้ายความรู้สึกใครได้สักกี่ครั้งกัน
บางคนน้อยบางคนมากผมไม่รู้หรอก เพียงแต่ผมทำให้เขาเสียใจมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว มันมากพอที่ผมควรได้รับบทลงโทษ
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยกล่าวโทษผมเลยสักครั้ง
ทุกครั้งที่ผมทำตัวแย่ๆใส่ มักจะมีเพียงรอยยิ้มปลอบประโยนส่งกลับมาให้เสมอ
รอยยิ้มนั้นทำให้ผมทั้งรู้สึกเหมือนถูกเยียวยาไปพร้อมๆกับเพิ่มความเกลียดชังที่มีต่อตัวเอง ทำไมผมถึงทำร้ายเขาได้มากขนาดนี้ ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลยจริงๆ
ผมเคยควบคุมตัวเองได้ แต่พออยู่กับเขาผมกลับรู้สึกไม่ต้องควบคุมตัวเองก็ได้ ปลดปล่อยอารมณ์ยังไงก็ได้ เป็นตัวของตัวเองยังไงก็ได้ จนลืมใส่ใจความรู้สึกอีกคน
เผลอสาดอารมณ์ใส่อีกคนโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อสุดท้าย ผมหยุดยั้งตัวเองไม่ให้ทำร้ายเขาไม่ได้ ผมจึงเลือกที่จะถอยห่าง สาดอารมณ์ลงไปกับเหล้าสุรา การไม่ได้เจอเขาทำให้ผมไม่ต้องสาดอารมณ์ร้ายๆใส่ แต่ก็เป็นการทำร้ายเขาไปอีกทางเช่นกัน
เพ้นท์รักผมมาก มากจนผมรู้สึกได้ถึงความรักของเด็กคนนี้เอ่อล้นออกมา
มันมากและบริสุทธิ์จนผู้ใหญ่อย่างผมนึกละอาย
ความรักของเพ้นท์ขอแค่ได้รักผมเพียงแค่นั้น ความรักมักน้อยที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัว
ผมอยากเก็บรักษาเด็กคนนี้ไว้ให้นานๆจริงๆนะ
ตอนนั้นผมรู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเด็กคนนี้ มันไม่ใช่ความกังวลที่จะรัก เสียแต่ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมสับสน...
ผมไม่เคยคิดจะรักชอบเพศเดียวกัน
ไม่ใช่ว่ารังเกียจ เพียงแค่คิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงมาโดยตลอด ผมคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าตอนที่ผมไม่ได้รักฟ้าแล้วจะเป็นอย่างไร
เสียแต่เพ้นท์ทำให้มันเกิดขึ้นทั้งคู่
ผมหมดรักฟ้าได้อย่างง่ายดายเมื่อเจอเด็กคนนี้
ผมยอมรับว่าชอบผู้ชายได้ง่ายดายหากเป็นเด็กคนนี้
เพ้นท์มีผลต่อชีวิตผมมากกว่าที่คิด ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่ามีความสุขเมื่ออยู่ข้างเด็กคนนี้ แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าเป็นผมเองที่ทำลายความสุขของเด็กคนนี้อีกเช่นกัน
ทุกครั้งที่ผมมีความสุขคือทุกครั้งที่เขาเสียใจ
ผมมีความสุขเสมอที่อยู่ใกล้ๆเพ้นท์ แต่ก็เผลอทำร้ายเขาให้เสียใจอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน หลายครั้งที่ผมเอาเรื่องหงุดหงิดมาลงใส่เพ้นท์ คิดว่าเพ้นท์คงไม่คิดมาก คิดว่าเพ้นท์ร่าเริงแจ่มใสขนาดนี้ต้องไม่เป็นไรหรอก คิดว่าการที่เพ้นท์ยิ้มให้ผมตลอดเวลาคือเพ้นท์มีความสุขเสมอ
เป็นความคิดโง่ๆของคนเห็นแก่ตัวอย่างผมเอง
และผมคงไม่มีทางรู้ว่าเพ้นท์แอบร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเมื่อผมไม่อยู่ถ้าไม่ได้ไอ้วา ธุวาเป็นคนเข้ามาคุยกับผมก่อน มันเปิดประเด็นเรื่องเพ้นท์ทำให้ผมยอมใช้เวลาหลังเลิกเรียนคุยกับมัน พอหลังตะวันตกดินผมรู้ว่ามันจะไปหาเพ้นท์ตามที่ๆมันบอกผม
ผมเคยแอบดูเพ้นท์กับมันอยู่ครั้งหนึ่ง เคยคิดหึงอยู่เหมือนกันที่เพ้นท์ไปสนิทกับคนอื่นในสถานะไม่มีชื่อเรียก แต่พอเห็นว่าเพ้นท์ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนั้นกับวาก็ทำให้ผมรู้สึกละอายใจ
“พี่เล่นห่วงความรู้สึกคนอื่นไปทั่ว แต่กับเพ้นท์พี่ไม่เคยสนใจเลยใช่ไหม”
“พี่แค่เอาความทุกข์มาโยนใส่มัน”
“พี่บอกว่าพี่ทุกข์ใจ แต่บอกว่าอยู่กับเพ้นท์แล้วสบายใจ ก็เลยโยนทุกอย่างใส่เพ้นท์ได้งั้นหรอ”
“พี่เคยสนใจความรู้สึกเพ้นท์บ้างไหม”ประโยคที่ธุวากล่าวด่าทอผมนั้นยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ ทุกอย่างที่ธุวาพูดมานั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย
ถึงอย่างนั้นตอนที่ผมเจอธุวาก็สายมากพอแล้ว เพ้นท์เสียใจกับผมมานานมากพอแล้ว และเป็นสาเหตุที่ผมเคยไปแอบดูสองคนนั้นแค่ครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นผมใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เพ้นท์ร้องไห้หนักมากจนผมคิดว่าทั้งชีวิตเขาคงไม่ร้องไห้อย่างนั้นออกมาต่อหน้าผมแน่ๆ เด็กน้อยเจ้าของรอยยิ้มสดใสร้องไห้เหมือนจะขาดใจ เสียงสะอื้นในตอนนั้นยังคงสะท้อนอยู่ในหัวผมจนถึงตอนนี้ ตอกย้ำถึงความใจร้ายของผมที่ทำใส่เขา
หัวใจผมเหมือนถูกบีบจนร้าว โดนรัดแน่นจนเจ็บ คนๆนี้ต้องทรมานเพราะผมมานานแค่ไหน
ผมมีสิทธิ์อะไรทำให้เขาเสียใจขนาดนี้
กับเพ้นท์ ผมเสียใจมากจริงๆ
กับฟ้า ผมเองก็เหนื่อยใจมากจริงๆ
ผมไม่อยากให้เพ้นท์เสียใจไปมากกว่านี้ รวมถึงไม่อยากให้ฟ้าคิดสั้น ผมกับฟ้าเริ่มต้นมาผิดวิธี
ผมเคยรักฟ้ามาก ฝันถึงวันที่จะได้แต่งงาน มีลูกมีครอบครัวด้วยกัน ครองรักกันชั่วนิรันดร์ ฟ้าจะเป็นรักแรกและรักสุดท้ายของผม ในตอนนั้นในหัวผมมีแค่นั้นจริงๆ ผมรักเธอจนยอมทำทุกอย่างให้เยี่ยงขี้ข้า อะไรที่ฟ้าทำผิดผมมองว่าถูก อะไรที่ฟ้าทำมันพังผมก็จะพยายามซ่อมให้ ตามเช็ดล้างทุกอย่างของเธอจนเธอติดนิสัย
กล่าวไม่ผิดว่าผมเป็นคนทำให้ฟ้าเป็นคนเอาแต่ใจเอง และที่ฟ้าเอาเรื่องฆ่าตัวตายมาขู่ก็เพราะผมปลูกฝังเธอไว้อย่างนั้นเอง...
ว่าผมจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหน ไม่มีวันที่จะไม่รักเธอ ทุกปัญหาผมสามารถแก้ให้เธอได้เสมอ
ความจริงฉุดให้ผมตื่นเมื่อฟ้าสารภาพว่าหมดรักผมมานานแล้ว และกำลังคบหากับเจ้าของดวงใจคนใหม่ ต่อหน้าหล่อนผมทำเป็นยอมรับได้ หากแต่ลับหลัง...ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆจะร้องไห้แทบตายเพราะผิดหวังในรัก
ผมเลิกกับฟ้ามาสองปีก่อนจะมาเจอเพ้นท์ ยอมรับว่าในตอนนั้นผมตัดใจจากฟ้าได้ไม่สนิท
แต่เพ้นท์เป็นคนทำให้ผมอยากลองเริ่มใหม่กับใครสักคน
ในตอนนั้นผมเป็นคนเห็นแก่ตัวที่อยากได้เด็กคนนี้มาอยู่ข้างๆจนไม่นึกใส่ใจอย่างอื่น ไม่ได้คิดว่าตัวเองยอมรับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหมกับการคบหาผู้ชายด้วยกัน ไม่ได้คิดว่าตัดใจจากฟ้าได้อย่างสนิทแล้ว ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทำร้ายความรักของเด็กคนนี้ไปมากแค่ไหน
ไม่ได้คิดเลย
แค่คิดว่าอยากอยู่ข้างๆ ต้องได้อยู่ข้างๆ
เลวบัดซบจริงๆ
ฟ้ากลับมาหาผมทุกครั้งที่เธอมีปัญหา หลายครั้งที่ปัญหานั้นเกิดเพราะแฟนใหม่ของเธอ หลายครั้งที่ตอนนั้นเพ้นท์เองก็อยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผมตามแก้ให้เพราะคิดว่าอยากทำให้มันจบๆไป แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่จนถึงขั้นที่ผมสลัดมันไม่ลง
ยอมรับอย่างเห็นแก่ตัวต่อฟ้าอีกครั้งว่าในตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตอยู่กับเพ้นท์มากกว่าหล่อนจริงๆ
แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อผมเป็นคนทำให้เธอเป็นอย่างนี้ ผมทิ้งความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ และผมก็ทิ้งความรู้สึกเพ้นท์ไม่ได้
ผลปรากฏเลยออกมาเละเทะแบบนี้
ผมดูแลเพ้นท์ไม่ได้ พอๆกับช่วยฟ้าได้ไม่เต็มที่
ผมบอกฟ้าซ้ำๆว่าผมช่วยหล่อนไม่ได้เท่ากับเมื่อก่อนแล้ว ผมมีเพ้นท์ ผมไม่ต้องการเป็นแฟนหลอกๆให้เธอไปพบกับพ่อแม่แล้วจะได้ไม่โดนต่อว่า
พ่อแม่ฟ้ากับพ่อแม่ผมเป็นเพื่อนกัน พวกท่านอาจจะโกรธถ้าผมทำเธอท้องก่อนแต่ง แต่คงไม่ว่าอะไรมากหากคนนั้นเป็นผม ผมรู้ข้อนี้ดี ฟ้าเองก็เช่นกัน เธอจึงมาขอร้องให้ผมช่วยเธอ เพื่อไม่ให้พ่อแม่เธอต่อว่า เพื่อไม่ให้พ่อแม่เธอผิดหวัง พ่อฟ้าเป็นคนดุและอารมณ์รุนแรงมากและหากรู้ว่าลูกสาวตนไปท้องกับใครไม่รู้สถานการณ์คงแย่จนถึงขั้นตัดพ่อลูก
ทำให้ผมลำบากใจ
เรื่องเรียนเองก็ทำให้ผมปวดหัวไม่แพ้กัน ตัวจบผมเองก็ต้องเร่งทำ ทั้งปัญหาชีวิตวุ่นวายจนอยากจะทึ้งหัวตัวเองให้ตาย
เชื่อไหมว่าตอนนั้นผมนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในห้องเงียบๆ เป็นเพ้นท์ที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมอ้อมกอดอบอุ่น กระชากให้ผมกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เด็กคนนี้ต้องเข้มแข็งขนาดไหน
ในตอนนั้นผมอยากเล่าทุกอย่างในใจออกไป ระบายทุกอย่างให้เพ้นท์ฟัง แต่จิตสำนึกผมกลับบอกว่าเรื่องของฟ้ามันไม่ใช่เรื่องที่สมควรบอก ฟ้าเป็นผู้หญิงและการที่เอาเรื่องที่เธอท้องไปบอกใครคงทำให้เธอเสียใจและอับอาย ผมเลยปิดปากเงียบ
แต่ไม่นานเพ้นท์ก็รู้เรื่องทุกอย่างจากปากของฟ้า ไม่ใช่ผม
ทำผิดพลาดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ผมจึงตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้เขาฟังทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีความหมาย
สุดท้าย เพ้นท์ก็เสนอให้เราแยกกัน
ใจผมดิ่งลงเหว ไม่อยากสูญเสียคนๆนี้อีกครั้ง
เพ้นท์คุยกับผมด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป ทั้งๆที่คนที่เสียใจมากที่สุดคือเพ้นท์เอง เด็กคนนี้นี่มันจริงๆเลย ทำไมต้องอดทนเพื่อผมขนาดนี้
ผมใช้เวลาขบคิดเรื่องนี้ค่อนข้างนาน ในใจผมร่ำร้องเรียกหาเขาอยู่เสมอ บอกตัวเองซ้ำๆว่าจะปล่อยเพ้นท์ไปไม่ได้ แต่อย่างไรสุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าหากผมยังรั้งเขาไว้อย่างนี้ เพ้นท์ก็จะไม่มีความสุขต่อไปเรื่อยๆ
ถึงจะไม่มั่นใจว่าหากยอมถอยห่างกันแล้วเพ้นท์จะมีความสุขหรือไม่ อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็ดูเหนื่อยกับความไม่มั่นคงของผมมากพอแล้ว
ผมรักเขา แต่ผมไม่เคยแสดงมันออกมา ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำๆ
ผมไม่แน่ใจว่าทำไมผมถึงไม่แสดงออกมาว่ารักเขา อาจจะเพราะส่วนหนึ่งคือผมไม่เคยชิน ยอมรับแบบทุเรศเลยว่าผมยังแคร์สายตาคนอื่นอยู่มากกว่าเขา คิดโง่ๆว่ายังไงเพ้นท์ก็รักผมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อแสวงหาความรักจากเด็กคนนี้อีก ชินกับการได้รับความรับจากเด็กคนนี้จนลืมให้กลับ
ที่จริงเพ้นท์ควรจะหมดรักกับคนทุเรศแบบผมแล้วด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังรักผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่เพ้นท์ยอมรับข้อเสนอเห็นแก่ตัวของผม
ผมบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะแก้ปัญหานี้ได้ มันเรื้อรังยาวนานมากเกินกว่าจะใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน นิสัยใจคอของพ่อแม่ฟ้าเป็นอย่างไรผมรู้ดี เรื่องนี้ไม่ได้จบง่ายๆแน่ แต่ผมก็ต้องทำมันให้จบให้ได้
จบโดยที่ผมกับฟ้าจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก
จบลงที่ผมจะกลับมาอยู่กับเขาได้อีก
เวลาผ่านไป ข้าวของของเพ้นท์น้อยลงเรื่อยๆ ผมรู้ว่าเขาแอบมาขนมันออกไปตอนผมไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็อดใจเสียไม่ได้
ผมเก็บซ่อนเสื้อนักเรียนของเพ้นท์ไว้ เป็นของชิ้นเดียวที่หลงเหลืออยู่ในห้องนี้ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าห้องนี้เคยมีผมกับเขาอยู่ร่วมกัน
เป็นหลักฐานบอกว่าตอนนั้นเรามีความสุขแค่ไหน
และผมจะต้องนำความสุขนั้นกลับมาให้ได้
ระหว่างเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เชื่อเถอะว่าเป็นผมเองที่แอบสอดส่องหาเขาอยู่บ่อยๆไปพร้อมๆกับเคลียร์ปัญหาเรื่องฟ้า ในที่สุดผมก็เรียนจบพร้อมเพื่อนๆแม้ว่าจะเจอปัญหาปวดหัวมากมายก็ตาม ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณเพ้นท์ที่เป็นแรงบันดาลใจผลักดันให้ผมได้รับใบปริญญา ถีบตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อหวังว่าสักวันผมและเขาจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เพ้นท์ไม่ได้มางานรับปริญญาของผมซึ่งผมไม่กล่าวโทษอะไร ขอแค่เขามีความสุขได้ก็พอ เพ้นท์ไม่ได้ดูซูบผอมเหมือนช่วงแรกๆแล้ว แต่แววตาเด็กคนนี้ไม่เหมือนเก่า แววตาที่ผมรู้ดีว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
ตอนกลางวันเพ้นท์หัวเราะยิ้มร่ากับเพื่อนๆได้จนผมดีใจตามไปด้วย แต่เมื่อตะวันตกดินเมื่อไหร่จะเป็นหน้าที่ของธุวา ประจำที่ๆสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน ปรับทุกข์เล่าเรื่องราวต่างๆที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำ
ผมเคยคุยกับธุวาเรื่องเพ้นท์ กลัวสุดใจว่ามันจะมาแย่งเพ้นท์จากผมไป แต่สิ่งที่มันบอกผมคือ
“เพ้นท์ไม่มีวันรักผมได้หรอก ทั้งใจเขามีแต่พี่ เขารอแค่พี่ รักแค่พี่ และถึงผมจะรักเขามากแค่ไหนผมก็ไม่สามารถอยู่ข้างเขาได้หรอก ผมมีคุณสมบัติไม่พอ พี่ไม่ต้องห่วง ผมอยู่ดูแลเพ้นท์ให้ไม่ได้แปลว่าผมจะแย่งมันไปจากพี่”ความรักของธุวาบริสุทธิ์มากจนผมยอมให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันโดยไม่นึกแคลงใจอะไรอีกต่อไป
ถึงแม้ในใจผมจะอิจฉาไอ้วามากพอควรก็ตามที่มันได้อยู่ใกล้ชิดเพ้นท์ทุกวัน มีแต่ผมที่ต้องคอยสอดส่องตามหาเขา
แต่ก็สมควรแล้ว อันที่จริงบทลงโทษนี้ดูจะเบาไปด้วยซ้ำ
หากแต่เทียบกับความคิดถึงแล้วมันก็ทรมานได้ไม่ต่างกับตกนรกสักเท่าไหร่ คนที่ผมอยากกอดอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ผมไม่มีสิทธิ์ไปเสนอหน้าให้เขาเห็นจนกว่าจะเคลียร์เรื่องราวที่ผมก่อไว้ให้ได้
สองปี
ถึงเวลาแล้วที่จะมารับเขากลับ
☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼ ☀ ☼
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวที่สุดของเรื่องนี้เลย(...)
คนเรามีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะอย่างนั้นมนุษย์จึงเป็นมนุษย์
ความคิดบางอย่างคนหนึ่งคิดไม่ได้คนหนึ่งคิดได้
ซันเป็นคนที่คิดแทนคนอื่นได้ แต่คิดเรื่องตัวเองไม่ได้
เขียนเรื่องนี้ทีไรอารมณ์เราดิ่งลงตลอดไม่รู้ทำไม หลังๆเลยกลัวที่จะเขียน
ที่มาอัพช้าบ่อยๆก็สาเหตุนี้ด้วยค่ะ
มีความคิดอยากหยุดเขียนเรื่องนี้หลายทีมาก แต่ก็ทำไม่ลง
สุดท้ายก็ถีบดันมันมาจนถึงตอนนี้
ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้อีกครั้งและอีกครั้ง
ตอนหน้าเป็นบทสรุปแล้ว
กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนจริงๆค่ะ