Snatch
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Snatch  (อ่าน 110420 ครั้ง)

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #270 เมื่อ10-07-2012 20:12:30 »

อุปสรรคมาแล้ว
เรื่องนี้ไม่มีปมปริศนาให้ลุ้น แต่ได้ลุ้นกับอุปสรรคในชีวิตรักของทั้งคู่แทน :laugh:

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #271 เมื่อ10-07-2012 20:18:02 »

แนชฟังพ่อก้านพูดแบบนั้นแล้วจะทำอะไรมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #272 เมื่อ10-07-2012 20:35:35 »

อารมณ์รุนแรงเนาะ = ='
แต่ก็ยังดีที่ฟังๆก้านบ้างล่ะนะ
คุณพ่ออ่าา ทำไมล่ะคะ ลูกมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ดีอยู่แล้วนี่
ชีวิตมันสั้นนัก  อย่าไปกะเกณฑ์อะไรมากเล้ยย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #273 เมื่อ10-07-2012 20:40:16 »

นึกว่าพ่อก้านจะยอมรับซะอีก
ไปๆมาๆแอบมาคุยแบบนี้
แนชจะรู้สึกอย่างไร

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #274 เมื่อ10-07-2012 22:18:30 »

ไม่ว่าจะเพศอะไร

มาล้ำเส้นงี้น่าเจอตบสักทีทั้งนั้นแหละ

ส่วนคุณพ่อก้านก็คงเพราะห่วงลูกมากไป

พ่อแนชนั้นไซร้...ยกนิ้วให้เลย o13

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #275 เมื่อ10-07-2012 22:37:38 »

อ่าว คุณพ่อของก้านไม่ยอมรับซะงั้น  :z3:

เชอะ อย่าให้ได้เจอทีเด็ดความน่ารักของแนช เดี๋ยวได้หลงลูกสะใภ้กันหัวปักหัวปำ555

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #276 เมื่อ10-07-2012 23:06:48 »

จะจบแล้ว แต่ยังดูยุ่งๆ อยู่เลย
เรื่องราวของคนเขียนดูจะสนุกกว่านิยาย

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #277 เมื่อ10-07-2012 23:21:00 »

อ้าวว นึกว่าพ่อก้านโอเคซะอีก เหอะๆ

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #278 เมื่อ10-07-2012 23:47:27 »

อื้อหือ ถ้าเจอแบบกิ๊บในชีวิตจริงคงต้องจัดหนักๆซักหลายๆที คนอะไร๊ หน้าด้านไร้ยางอายที่สุด

นี่ล่ะเนาะ กรรมของคนมีแฟนหน้าตาดี ทั้งน้องทีทั้งแนชเลย อิอิ

ตอนหน้าก็จะจบแล้ว ปัญหาพ่อก้านยังไม่รู้จะเป็นยังไงเลย เฮ้ออออออ

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #279 เมื่อ11-07-2012 01:11:32 »

มาแสดงตัวว่า ยังติดตามผลงานอยู่
เดี๋ยวจะหาว่า ดีแต่เป็นเสือซุ่ม อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
« ตอบ #279 เมื่อ: 11-07-2012 01:11:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #280 เมื่อ11-07-2012 01:43:41 »

มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าานเรื่องของสองคนนี้เเต่ง

แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยมีเวลา เเต่จะพยายามหาเวลามาอ่านให้ได้

เสือน้อยโกรธเเล้วน่ากลัวมากก  5555++

papark

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #281 เมื่อ11-07-2012 02:42:47 »

อ่านรวดเดียวเลยทีเดียวเชียว
ทั้งๆที่ผมกำลังจะสอบมิดเทอมแท้ๆ

มาเจอสแนช.. ผมก็หลุดจากวงโคจรเลยครับ

ตอนที่ห้านี้ ผมชอบคุณป๋าของพ่อเสือน้อยว่ะ
แนวคิดดีครับ ผมชอบ แบบว่า..มันโอเค (ไม่รูจะอธิบายยังไง)

ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับสำกรับเรื่องราวของสแนช ♥

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #282 เมื่อ11-07-2012 04:35:43 »

เสือน้อยของเรา ทำไงดีเนี่ย ยังไม่อยากให้จบเลยขอตอนพิเศษด้วยได้มั๊ยคะน้องที

ออฟไลน์ BossoM

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1092
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-5
    • my twitter
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #283 เมื่อ11-07-2012 10:53:08 »

งั้นที่แนชน่ากลัวก็เป็นเพราะเหมียวดุน่ะสิเนี่ย  :laugh:

รอตอนจบพรุ่งนี้จ๊ะ

ปอลอ.อ่านในไอแพทโคตรปวดตาอ่ะน้อง

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #284 เมื่อ11-07-2012 13:23:40 »

อืม อ่านในเรื่องไม่สนุกเท่านั่งอ่านทอล์คแฮะตอนนี้

ทำถูกแล้วน้องที เห็นอะไรสกปรกบางทีก็อย่าไม่แตะเองเลย ให้คนบ้านเขามาเก็บกวาดเองดีกว่า

ส่วนแนช โตขึ้นแล้วอารมณ์จะเย็นลงกว่านี้ไม๊นะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #285 เมื่อ11-07-2012 13:37:55 »

รอตอนต่อไปนะ :t3:

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #286 เมื่อ11-07-2012 14:48:27 »

จะจบแล้วคงไม่มาม่าหรอเนอะ...ใช่ป่ะ  o18

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #287 เมื่อ11-07-2012 17:13:35 »

เพิ่งอ่านตอนแรกจบ
หนุกมาก
ก้านได้ใจสุดๆ
ไม่ใช่แค่แนชโดน SNATCH
คนอ่านก็ด้วย :laugh:
ปล. ก้านน่ะ คนรู้จักชนิดสายเลือดเดียวกัน
แต่มันอยู่ศรีราชา 555

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #288 เมื่อ11-07-2012 19:01:09 »

เพิ่งอ่านตอนล่าสุดจบ
อึ้งไปพัก
กลายพ่อก้านที่...
ชื่นชมพ่อแนชอย่างที่สุด
โลกนี้มีพ่อแบบนี้ ช่างยอดเยี่ยมเสียนี่กระไร
ขอบคุณไจฟ์ที :L1:

เพื่อนบ้าน

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #289 เมื่อ11-07-2012 21:20:55 »

จะบอกว่าพออ่านประโยคเริ่มต้นของตอนปุ๊บถึงกับตบเข่าฉาดๆๆ ยังคิดอยู่ตอนที่อ่านบทที่สี่จบว่าจะปราบสแนชนี่คงต้องจับมัดเลยมั้ง แล้วถ้าก้านมัดจริงแนชจะโกรธขนาดไหนคิดไปต่อไม่ถูกแล้ว พอมาตอนนี้เฮ้ยยยย ก้านมันมัดจริงอ่ะ แต่ก็จัดการกับอารมณ์แนชได้ดีนะนึกว่ายิ่งโดนมัดจะยิ่งอาละวาดซะอีก อ่านตอนนี้แล้วน้องกิ๊บแร๊งงงงงงงง สมควรที่แนชจะรู้สึกอยากกระโดดถีบยอดหน้า(มันแรงตั้งแต่เดินเข้าไปหาแนชยันครัวแล้วละ นางช่างกล้าอ่ะ)แต่โชคดีเป็นของหนูที่หนูเป็นหลานน้าตือ น้าตือก็เลยซวยไปแทนหนูเลยนะจ๊ะ แล้วตกลงนางไม่รู้จริงๆหรือนางไม่มีมารยาทกันแน่เนี่ย ทำไมสองคนนี้จะรักกันมันช่างดูอุปสรรคเยอะจริง ไหนจะระยะทาง ไหนจะมือที่สาม แล้วยังจะมีคุณพ่อมาอีก คราวนี้คงไม่ง่ายเหมือนตอนน้องกิ๊บแล้วมั้ง เฮ้ออออ -*-

ปล.ตอนนี้เม้นติดกันเป็นพรืดเลย พิมพ์ในโทรศัพท์แล้วเว้นวรรคไม่ค่อยถูกอ่ะ T^T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
« ตอบ #289 เมื่อ: 11-07-2012 21:20:55 »





ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #290 เมื่อ12-07-2012 00:30:15 »

นึกว่าคนที่จะรับไม่ได้เรื่องที่ก้านกับแนชคบกันจะเป็นพ่อแม่ของแนชซะอีก กลับกลายเป็นพ่อของก้านซะงั้น เฮ้อ!!!

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #291 เมื่อ12-07-2012 07:28:29 »

ตอนที่ 6

แนชมองหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียกเข้า แต่ไม่กดรับ จนกระทั่งสายตัดไปเอง มันเป็นเบอร์ของก้านที่ยังคงโทรหาอยู่ทุกวันเหมือนที่ผ่านมา
เพียงแต่นับตั้งแต่กลับมาจากระยองครั้งหลังสุด แนชก็ไม่ได้รับสายของก้านอีก
เป็นการกระทำที่ทำให้ยิ่งเกลียดตัวเอง
ทั้งที่ควรแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของตัวเอง แต่แค่ได้ยินคำพูดที่แสดงความเกลียดชังจากพ่อของก้าน ก็กลับปฏิเสธก้านอย่างง่ายดาย
...ไม่หรอก มันไม่ง่ายเลยสักนิด...
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แนชถึงได้โทรกลับไปหากิม เพื่อนแสดงความเข้าใจเพราะก็นั่งอยู่ด้วยกันที่ร้านกาแฟตอนที่พ่อกับพ่อคุยกัน แต่กิมก็แนะนำว่าควรจะคุยกับก้านให้รู้เรื่อง ไม่ใช่การจากไปเงียบ ๆ แบบนี้
“อยากให้กูบอกเรื่องที่พ่อมันคุยกับพ่อมึงหรือเปล่า”
“อย่าบอกเลย ถ้าก้านมันถามก็บอกไปว่ากูไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของมันกับกู”
“ห่า แนช เรื่องมันเดินหน้าไปแล้วแท้ ๆ”
“เรื่องมันเดินหน้า เพราะเราคิดง่าย ๆ มองโลกในมุมเดียวว่า เราแค่อยากอยู่ด้วยกัน แต่ที่จริง...” แนชพยายามกลืนก้อนสะอื้นที่มันตีขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ เมื่อนึกถึงคนที่ซบหน้ากับพวงมาลัยรถ คน ๆ เดียวกับที่มีดวงตาลึกโหลเหม่อมองทะเลท่ามกลางความมืด “บอกมัน ว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง”
“มันจะดีขึ้นได้ไงวะ” กิมเถียง และยังคงพยายามโน้มน้าวให้เพื่อนกลับมาคุยกับก้านให้รู้เรื่องจนกระทั่งตัดสายไป

เพียงแต่....

ในเดือนถัดมา แนชกำลังจะออกไปทำงาน ก้านก็มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้งสีหน้าแววตาดูอิดโรย มีเพียงรอยยิ้มกว้างที่ยังคงเหมือนเดิม
“แนช”
แนชเปิดประตูให้ก้านก้าวเข้ามาในห้อง ทั้งที่อยากร้องตะโกนที่ก้านมาหา แต่ในสมองกลับว่างเปล่า สีหน้าท่าทางก็มึนงง
“ออกมาตั้งแต่กี่โมง”
ท่าทีของก้านที่ดูแปลกไปกว่าเคยเหมือนกัน ดูเครียดเหมือนแบกของหนักไว้เต็มบ่า
“มารถทัวร์ กะให้มาทันก่อนแนชไปทำงาน”
“ทำไมมารถทัวร์”
ดวงตาสีเข้มหันมามองตรงๆ
“ตอนนี้ผมเหลือแต่ตัวกับปริญญาอีกใบเท่านั้น”
ใจคนฟังหล่นวูบ ทำได้แค่พยักหน้า ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับคนที่เดินทางมาไกล เพราะเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้พอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นที่ระยองได้คร่าว ๆ

...เรื่องที่เราหันหลังให้เขาง่าย ๆ นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่มันคงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ก้านตัดสินใจแบบนี้...เกิดอะไรขึ้น...
 
“งั้นก้านอาบน้ำแล้วนอนพักนะ ข้างล่างมีร้านค้า ร้านอาหาร หอนี้เขาห้ามทำครัว แต่ถ้าเป็นมาม่า หรือพวกอาหารกล่องเข้าเวฟยังคุยกันได้”
“แนชจะไปทำงานแล้วใช่ไหม” ก้านมองคนที่สวมเสื้อยือคอปกของธนาคารกับกางเกงขายาว "ยังไม่ 6 โมงครึ่งเลย ทำไมไปทำงานเช้านัก"
“อือ กรุงเทพฯ ก็งี้แหละ” แนชปัดไปง่าย ๆ
“งั้นสัก 9 โมงผมจะไปสมัครงานที่แรกก่อน แล้วพรุ่งนี้ก็จะไปอีกแห่ง เขามีโรงงานอยู่ที่รังสิต มันตรงกับสายที่ผมเรียน”
“ดี” แนชบอกยิ้ม ๆ
“แนช”
“อือ”
“ผมทำให้แนชลำบากใจหรือเปล่า”
แนชส่ายหน้า คิดว่าเพราะท่าทีอ้ำอึ้งของตัวเอง ทำให้ก้านรู้สึกไม่แน่ใจก็เลยเดินเข้ามากอดเอวหนาไว้ เจตนาพูดข้ามการกระทำของตัวเองไปก่อน
“ไม่เลย แนชดีใจที่ก้านมาหา แล้วบริษัทที่จะไปสมัครงานวันนี้ อยู่ที่ไหน"
"บางนา"
"โห คนละทางเลยว่ะ"
"ไม่ต้องไปส่งหรอก ค่ำนี้เจอกัน แนชมีเตารีดหรือเปล่า ผมขอยืมรีดเสื้อที่จะใส่ไปสมัครงานหน่อย"
“ปั๊ดเหนี่ยว” แนชขำน “จะใช้อะไรก็ตามสบายเหอะ”
แต่ก่อนที่จะออกไปจากห้องแนชหันกลับไปมองคนตัวโตที่ยังยืนนิ่งอยู่กลางห้องอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปกอด
"ขอโทษที่ทำไม่ดี"
ก้านลูบแผ่นหลังบางของอีกฝ่าย "ผมเข้าใจ"
แนชพยักหน้ากับอกกว้าง ตั้งใจว่ากลับมาตอนเย็นค่อยคุยกัน "ไปสมัครงานแล้วก็กลับมานะ"
"ครับ"

แนชใช้เวลาตลอดวันไปกับการโทรศัพท์ ไม่อยากเชื่อว่ากิมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับก้านเลยสักนิด และไม่สะกิดใจเลยแม้แต่น้อยที่เมื่อหลายวันก่อนก้านมาหาที่ร้านข้าวสาร และถามว่า ปกติแล้วแนชจะออกจากบ้านไปทำงานตอนกี่โมง แต่กิมบอกว่าไม่รู้อะไรขนาดนั้นหรอก รู้แต่ว่ากรุงเทพฯ รถติดมาก
สุดท้ายแนชได้แต่พูดฝากกิมให้ช่วยดูคุณนายส้มจีนแม่ของก้าน
"พ่อเขาอาจไม่ชอบกู หรือโทษพ่อแม่กูยังไงก็ตาม แต่เป็นคนละเรื่องกับคุณนายส้มจีนมึงเข้าใจปะ"
"เข้าใจ ก็เห็นมาตลอดน่ะแหละ" กิมตอบเพื่อนขณะที่หันไปมองแม่ของตัวเอง ที่กำลังเตรียมอาหารกลางวันสำหรับครอบครัวและคนงานอยู่ในครัว "แต่จะว่าไปในบรรดาแม่ๆ ทั้งหมด อาจารย์สายหยุดของมึงน่ะ เรียนเยอะสุด หัวก้าวหน้าที่สุดแล้ว"
แนชหัวเราะหึหึ "ฝากกระซิบบอกคุณนายส้มจีนด้วยละกัน ว่าไม่ต้องห่วง ก้านอยู่ที่นี่"
คุยกันอีกไม่กี่ประโยคกิมก็พูดขึ้น "ก้านมันไม่ใช่คนใจร้อน"

ก้านเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนที่เรียนจบวิศวะฯ มาก็จริง แต่นิสัยพื้นฐานกลับเป็นคนใจเย็น ตรงข้ามกับแนชคนที่เป็นเด็กเรียนของห้อง และไม่ใช่เด็กกิจกรรม แต่กลับใจร้อน

"กูก็รู้ แต่พอเห็นมันมายืนอยู่หน้าห้อง บอกว่า ไม่เหลืออะไรแล้ว กูถึงได้คิดว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามันเจออะไร แล้วช่วง 1 เดือนมานี้มันทำอะไร ขณะที่กูยืนอยู่เฉย ๆ แถมยังเป็นตัวเพิ่มปัญหาของมันเข้าไปอีก มันมีเรื่องที่กูไม่รู้เกี่ยวกับมันเยะแยะ"
"โอ้......." กิมลากเสียงยาว "มันไม่เคยเล่าให้มึงฟังนี่เอง”"
"มึงก็ไม่เคยเล่าว่ามึงรู้อะไร"
"ก็รู้เท่าที่ควรจะรู้ แล้วหลายเรื่องมันก็ไม่ควรพูดไป ต้องให้มันเล่าเอง" กิมหักจบจนแนชร้องด่ามาตามสาย
"ห่ากิม กูกำลังตั้งใจฟัง"
"มึงมีเวลาคุยกับมันอีกเยอะ ส่วนทางนี้กูจัดการได้สบายมาก"

วางสายจากกิมก็คือโทรหาดาบเผดิม "ก้านมาอยู่กับแนชที่กรุงเทพฯ นะพ่อ" แนชเล่าเรื่องคร่าวๆ
"อ้าว มันยังไงกันวะเนี่ย" พ่ออุทานเมื่อฟังจบ
"ไม่รู้เหมือนกัน จะค่อย ๆ ถามค่อย ๆ คุย เดี๋ยวพ่อก้านเขาจะมาพูดอะไรกับพ่ออีก ก็เลยโทรฯ มาบอกพ่อไว้"
"มาพูดพ่อก็ไม่บอกหรอก คนไม่ใช่ต้นไม้ จะได้จับดัดได้ตามใจ ก้านมันก็เรียนจบเป็นผู้ใหญ่แล้ว แนชเองก็อย่าใจร้อน ที่ผ่านมาแนชก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ที่ทำให้ก้านมันตัดสินใจแบบนี้"
"ก็ใครจะไปคิดละ เห็นมันใจเย็น อดทนมาตั้งนาน"
"ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังของก้านมันคืออะไร เราไม่รู้หรอก รู้แต่ตอนนี้หลังของมันหักแล้ว หน้าที่ของเราคือทำให้เขาเข้มแข็ง เพราะสุดท้ายแล้วทั้งแนชและก้านก็ต้องกลับมากราบขอโทษพ่อกับแม่ของเขา การไปแต่ตัวแบบที่ไม่เอาอะไรไปเลยแบบนี้ มันเท่ากับการตัดพ่อตัดลูกกันชัด ๆ"
ไม่ได้ลืมหรอกว่า ทั้งแนชและก้านไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แต่การจะแยกออกไปมันควรไปด้วยเหตุผลไม่ใช่ทิฐิ
"พ่อไม่คิดว่ามันจะเป็นมุมว่า พ่อก้านเขาตัดมันบ้างหรือ"
ดาบเผดิมยอมรับว่าคิดมาตั้งแต่แรกที่ลูกชายบอกว่าก้านไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ว่าเรื่องนี้คนที่มีทิฐิเป็นที่ตั้งคือชัยชนะ แต่แนชเองก็ใจร้อนไม่เป็นรองใคร ขืนยอมรับตรง ๆ แนชอาจร้องด่าอาละวาดไปกันใหญ่ตามนิสัย ไม่ได้มองในมุมหนึ่งของคนที่เป็นพ่อแม่
 
"จะใครพูดตัดใคร แต่ความเป็นครอบครัวเดียวกันมันก็ยังอยู่ ผ่านไปอีกสักพัก กลับมากราบขอโทษ แล้วทำให้เขาเชื่อใจว่า พวกแกอยู่ได้ มีความสุขดี ต่อให้ใจยังอยากได้สะใภ้อะไรของเขาอยู่ แต่มันก็อาจจะดีกว่าเต็มไปด้วยความโกรธ"
"พ่อ"
"เออ"
"แล้วพ่อเคยโกรธแนชมั้ย"
"เรื่องนี้น่ะหรือ ไม่หรอก ไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามคนเพศเดียวกันรักกัน แล้วอาจารย์สายหยุดก็มีลูกศิษย์เข้า ๆ ออก ๆ บ้านถี่ยิ่งกว่าลูกตัว ลูกใครหลานใครก็รวบมาเป็นลูกเป็นหลานตัวไปหมด อย่างที่อาจารย์เขาว่าน่ะแหละ ชีวิตใคร ใครก็ย่อมมีสิทธิ์เลือกเองว่าเขาจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นสุข"
..ดาบเผดิมมาตามตำรา – แล้วแต่อาจารย์สายหยุดจะเห็นควร- เป๊ะ..
"พ่อ"
"เออ"
"ฝากกอดอาจารย์ให้แน่น ๆ ด้วยนะ แนชรักพ่อกับแม่มากที่สุดในโลก"
ดาบตำรวจแก่ ๆ ยิ้มกว้าง "เออ รักพ่อกับแม่ก็อย่ากินเหล้าให้มากนัก"
"ไรว้าาาาาาาา ดาบเผดิม แนชกินแค่กระป๋องเดียวก่อนนอน แล้วมันก็ตั้งหลายวันแล้วด้วย"
ยังได้ยินเสียงพ่อหัวเราะอารมณ์ดีจนกระทั่งกดวางสายไป
 
เลิกงานปุ๊บก็ตรงกลับมาห้องทันที ไม่ได้ไถลไปร้านหนังสือ หรือแวะกินข้าวก่อน อันที่จริงก็รู้ว่าน่าจะโทรฯ หาว่าอยู่ที่ไหน แต่ใจกลับอยากเห็นกับตาตัวเองมากกว่า
อยากเห็นอะไร...
ก็คนตัวโตที่เดินมาเปิดประตูห้องพร้อมกับรอยยิ้มกว้างคนนี้ไง
"กลับมาแล้ว"
"กลับมาแล้ว"
แนชก้าวเข้ามาในห้อง ปิดประตูแล้วหันไปกอดเอวคนตัวโตไว้แน่น
"ยักษ์ขี้น้อยใจของไอ้แนช"
มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ข้างหู ขณะที่แนชพึมพัมกับไหล่กว้าง "วันนี้แนชถามตัวเองทั้งวันว่าไอ้คนที่เดินเข้ามาในห้องเมื่อเช้าเป็นตัวจริงหรือฝันไป"
...ไอ้ที่วุ่นวายมาทั้งวันนี่มันอยู่ในฝันหรือเปล่า คนอย่างไอ้แนชเคยต้องทำอะไรแบบนี้หรือไง...
“ตัวจริงเสียงจริงแน่นอน”
ก้านช้อนคางสวยให้เงยหน้าขึ้นมารับจูบ
“งานวันนี้เป็นไง”
“เรื่อย ๆ เครียดแบบเรื่อย ๆ น่ะ”
ก้านหัวเราะ ส่วนแนชเดินบ่นไปล้างหน้าล้างมือในห้องน้ำ “แทนที่เราจะเป็นคนถามว่าสมัครงานเป็นไงมั่ง กลับมาถามเราเสียได้”
“เขาก็ให้กรอกใบสมัครกับเขียนเรียงความภาษาอังกฤษเล่าประวัติส่วนตัว ถ้าได้เขาจะโทรกลับมาในอีก 15 วัน”
แนชเดินออกมาคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดหน้า “แล้วเขียนได้ปะ”
“ได้”
“ไม่น่าถามคนทำรีสอร์ทเลยเนอะ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
“พูดกับเขียนมันไม่เหมือนกัน” ก้านบอก ขณะที่เดินตามแนชลงมาที่ร้านข้าวข้างล่าง “พูดเพี้ยน พูดผิดก็ยังเข้าใจกันได้ แต่เขียนนี่มันอีกเรื่องเลยนะ ทุกอย่างที่มันเป็นลายลักษณ์อักษรน่ะต้องระวังให้มาก”
“เป็นนักกฎหมายอีกอย่างละคุณ” แนชหันมาทำตาขวางแบบขำๆ
ก้านขำ “มันก็ต้องรู้ไว้”

กินข้าวเสร็จ ต่อด้วยเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืน แวะดูเสื้อผ้าที่ร้านค้า และปิดท้ายที่ร้านสะดวกซื้อ 
กลับเข้ามาในห้องนั่งดื่มเบียร์ไป ดูหนังแผ่นกันไปจนเกือบจบเรื่อง แนชถามโดยที่ไม่ได้หันมามองคนที่นั่งเหยียดขาพิงเตียงนอนอยู่ข้างๆ
"ก้านว่าห้องนี้มันเล็กไปมั้ย"
ก้านหันไปมองรอบๆ"
"ไม่หรอก" แนชเอียงศีรษะลงพิงไหล่ ก้านเบี่ยงตัวขยับให้แนชเข้ามานั่งหว่างขาแล้วโอบไว้  "มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง เพียงแต่การที่ต้องเผื่อเวลาเดินทางเป็นชั่วโมง นี่ต่างหากที่ผมเป็นกังวล"
แนชหัวเราะ "งั้นพรุ่งนี้ แนชไปสมัครงานด้วย"
"ไม่เป็นไร ผมไปเองได้ เพราะไปถึงรังสิตโน่น"
"อ้าว แล้วทำไงดีล่ะ ลางานแล้ว"
"ลาแล้วหรือ" ก้านทำเสียงประหลาดใจ
"ก็แหม ให้รอฟังอยู่เฉย ๆ มันอึดอัด"
ก้านโอบแขนรัดคนใจร้อน ...เห็นนิ่ง ๆ เงียบ ๆ คิดว่าจะใจเย็นลง แต่ที่แท้ก็ยังเหมือนเดิม
"ที่ไม่พูด ไม่ถามอะไร เพราะกลัวผมไม่สบายใจละสิ"
"เออสิ ข้างในนี่มันจะระเบิดอยู่แล้ว เพราะอยากรู้"
"ถ้าอยากรู้ต้องรู้ให้ได้" ก้านแกล้งทวนช้า ๆ ทำให้แนชพลิกตัว นั่งคร่อมตักหันหน้ามาหา จับใบหน้าของอีกฝ่ายโยกซ้ายโยกขวา
"เออ.....ต่อมอยากรู้ทำงานแล้วหยุดยาก แต่ก็ไม่กล้าถาม กลัวว่าจะทำให้ไม่สบายใจ"
กอดเอวผอม ๆ ไว้หลวม ๆ "ใช่ว่าผมไม่อยากเล่า แต่ผมแค่อยากให้แนชรู้ว่า ผมพยายามแล้ว"
แนชพาดข้อศอกลงที่ไหล่หนา "ไม่ชอบคำตอบนี้"
ก้านได้แต่พยักหน้า ดูเหมือนไอ้เสือน้อยของกิมกับตือกำลังจะกลับมา แต่ก็มาได้แค่ครึ่งทาง
"ถ้าผมเป็นพี่กิมกับพี่ตือ ที่ไม่ตอบคำถามของแนชจะเกิดอะไรขึ้น"
"เละ!"
ก้านหัวเราะอารมณ์ดี แนชไม่ถนัดพูดก็จริง แต่เรื่องแสดงออกตรงกับใจ ไม่เป็นรองใคร
"ก็อย่างที่แนชรู้ พ่อยังคงอยากให้ผมแต่งงาน แต่ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับผู้หญิง กับเด็กที่จะเกิดมา ตัวของผมอยู่กับพวกเขา แต่ใจผมอยู่กับอีกคน" ดวงตาสีเข้มที่มองมาบอกถึงความจริงใจ "แล้วพอแนชกลับมากรุงเทพฯ กลับไม่รับสายผม มันเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับที่ทำให้ต้องฉุกใจคิด แต่ตั้งใจไว้ว่าแนชกลับไปบ้านเมื่อไหร่คงได้คุยกัน"
"แล้ว...ทำไมถึงตัดสินใจมากรุงเทพฯ"
"เพราะแม่เห็นด้วยกับผม พ่อก็เลยหันไปว่าแม่" ก้านเงยหน้าเหมือนกำลังซ่อนน้ำตา "มันอาจเคยเกิดขึ้นในเวลาที่ผมไม่อยู่ แต่แค่ครั้งเดียวที่ได้ยิน มันก็มีน้ำหนักมากพอที่จะเป็นฟางเส้นสุดท้าย ผมโอนทุกอย่างให้เป็นชื่อพี่สาวทั้ง 2 คน แล้วก็ออกมา"

ก้านยังคงเล่าเกี่ยวกับตัวเองด้วยประโยคที่แสนสั้น แต่กลับบอกเรื่องราวได้หลายอย่างเช่นเดิม

"ไว้เราค่อยกลับไปหาแม่ด้วยกัน" แนชบอกพลางเช็ดน้ำตาที่หยดจากหางตา "แต่พ่อคงต้องใช้เวลา"
"ช่วงที่ผมโอนรถให้พี่กาญจน์ ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อผมไปคุยกับพ่อแนชด้วย"
"หื้อ...อันนั้นจิ๊บ ๆ ดาบแกจัดการได้" แนชพูดขำ ๆ แต่ก้านเพียงแค่ยิ้มจาง ๆ
"แนชคิดว่าผมวู่วามหรือเปล่า"   
"ไม่หรอก คนวู่วามคงไม่เสียเวลาโอนของพวกนั้นให้พี่สาวก่อนที่จะมาแน่ๆ "

....แต่มันคือการใช้เวลาทุกนาทีไปกับการถามตัวเองว่า สิ่งที่ทำถูกต้องหรือไม่....

"ผมเชื่อมาตลอดว่า ผมแค่รักแนช ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่" ก้านซบหน้าลงกับไหล่บาง "วินาทีที่ได้ยินพ่อเสียงดังใส่แม่ ผมก็คิดว่า นี่ผมทำร้ายพ่อกับแม่ขนาดนี้เชียวหรือ จนถึงตอนนี้ผมก็รู้ตัวอยู่ตลอดว่าผมยังคงทำให้แม่ต้องเดือดร้อน และการจากมาไม่ใช่การแก้ปัญหา"
"แต่ก็มาแล้ว เมื่อเช้าถึงได้กังวลว่าจะทำให้แนชเดือดร้อนหรือเปล่า"
"ใช่"
"อย่างที่เคยบอกไป ระยองคือบ้านของเรา ยังไงก็ต้องกลับไป แล้วโทรบอกแม่หรือยังว่าอยู่ที่นี่"
"ยัง ถ้าโทรไปพ่ออาจจะอยู่ใกล้ ๆ"
“งั้น จะว่าไรไหม ถ้าจะให้ไอ้กิมมันไปดู ๆ ว่าแม่เป็นไงมั่ง”
ก้านยิ้มกว้าง เหมือนเดาคำถามของแนชได้ “ก็เอาสิ เพราะผมก็เป็นห่วงแม่เหมือนกัน”
“ใจเย็น ๆ เนอะ”
ก้านจิ้มหน้าผากคนพูด “บอกใคร”
แนชทำปากยื่นหน้างอ “บอกตัวเองสิ ใครที่ไหนเขาบอกคุณกันล่ะ”
 
ก้านก้มลงจูบปากแล้วเลื่อนจูบแก้ม มือใหญ่ลูบไปทั่วแผ่นหลังบางแล้วดันสะโพกบางให้เข้ามาหา
"แนช"
"อือ"
"ได้มั้ย"
แนชยิ้มขำ พลิกหน้าจูบที่ต้นคอ "พยายามอีกนิดสหาย เรื่องวันนี้มันเครียดจนชวนให้เซ็กซ์เสื่อม"
ก้านหลุดขำแนชก็พลอยขำตาม
"รักแนช"
"อือ" แนชตอบห้วนๆ
"อะไรอือ" คราวนี้ก้านเกิดอาการคิดไม่ทันไปชั่วขณะ
"ก็อือ รู้แล้ว"
"แล้ว...."
"อยากบอก อยากทำอะไรก็ตามใจเหอะ ห้ามไปเดี๋ยวมียักษ์ร้องไห้ น้ำตาจะท่วมโลก"
ก้านจับคนพูดเก่งจูบฟัดแก้ม อุ้มขึ้นนอนบนเตียง จากจูบเหมือนเล่น กลับกลายเป็นการเน้นไปที่จุดอ่อนไหวทั่วร่างกายผอมบาง เสียงครางแผ่วเบาแปรเปลี่ยนเป็นการร้องขอ ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจนไม่อาจรอได้อีก......

แนชขับรถมาส่งก้านที่โรงงานใหญ่ย่านรังสิต แล้วรออยู่ที่รถ ส่วนก้านเข้าไปกรอกใบสมัคร ประมาณครึ่งชั่วโมงถัดมาก็โทรฯ มาบอกว่าเจอกับรุ่นพี่ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แล้วก็แขกที่เคยไปพักที่โฮมสเตย์ด้วย
แนชรีบบอกทันทีว่า อย่ารีบตัดบทชิ่งออกมา เขาคุยมาก็คุยไปเรื่อย ๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะขอตัวไปทำงานก่อน หนุ่มตัวเล็กปิดรถแล้วเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานอยู่ที่สวนหย่อมเล็ก ๆ ในโรงงาน จนเที่ยงพนักงานหลายคนเดินผ่านออกไปกินข้าวข้างนอกโรงงาน เกือบท้ายขบวนถึงได้เป็นก้านที่ส่งยิ้มกว้างโดดเด่นมาแต่ไกล
"กลับกันได้แล้ว"
"เป็นไงมั่ง" แนชถามทันที

ก้านแค่พยักหน้า ชี้ให้กลับเข้ามาในรถ จนกระทั่งพ้นจากเขตโรงงาน ก้านถึงได้เล่า ว่าพอเขียนใบสมัครเสร็จก็บังเอิญพบกับรุ่นพี่ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
“แล้วก้านไม่รู้หรือ ว่าเขาทำงานที่นี่”
“รู้แต่ว่าอยู่บริษัทนี้ แต่ไม่รู้ว่าโรงงานนี้”
แต่ต่อให้รู้ว่าอยู่โรงงานนี้ก้านก็ไม่กล้าโทรฯ หาเพื่อขอให้ช่วยฝากงานอยู่ดี เพราะเกรงใจ แต่พอมาเจอกันก็คุยกัน เสร็จแล้วตอนที่ไปส่งใบสมัครที่ฝ่ายบุคคล กลับพบว่าหัวหน้าฝ่ายบุคคลปรากฏ เป็นแขกที่เคยไปพักที่โฮมสเตย์ ก็เลยได้สัมภาษณ์งาน แต่ยังต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์ว่าจะได้งานหรือไม่
แนชละมือจากพวงมาลัยมาจับมือใหญ่ไว้ รู้สึกเครียดเหมือนเป็นคนสมัครงานเสียเอง
"คิดว่าจะได้ไหม"
"ไม่รู้เหมือนกัน"
"ไมได้ก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องเครียด แค่นี้เลี้ยงไหวสบายมาก แต่ถ้าได้งานแล้วเงินเดือนเป็นแสน เจอสาวสวยหนุ่มน่ารักอย่าลืมแนชละกัน"
ก้านขมวดคิ้ว "เงินเดือนเป็นแสนนี่เขาทำงานอะไร ส่วนไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ฟังแล้วไม่สบายใจเลย"
แนชหันไปมองคนหน้าตาเคร่งเครียด แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ตลอด ๆ พูดเรื่องนี้ทีไรเครียดทุกที"
"ผมไม่ใช่คนโลเล"
"โอ๊เช~~ไม่ใช่คนโลเล เชื่อแล้วคร๊าบ"
แนชจอดรถแวะกินข้าวแล้วกลับมาถึงอพาร์ตเม้นต์เกือบบ่าย 2 ยังไม่ทันจะเดินผ่านโต๊ะยาม โทรศัพท์ของก้านก็ดังขึ้น ก้านรับโทรศัพท์ แล้วดึงข้อมือแนชให้หยุดเดิน
"ครับ ครับ ได้ครับ"
แนชทำหน้าตาเหรอหราหันไปมองหน้ายามกับแม่บ้านที่หน้าเค้าน์เตอร์
พอก้านกดปิดโทรศัพท์ก็หันมาเขย่าตัว คนผอมบาง "ผมได้งานแล้ว ผมได้งานแล้วแนช เริ่มงานอาทิตย์หน้า" คนตัวโตร้องตะโกน
"เย๊!!!!" แนชช่วยร้องตะโกน แต่ยังไม่วายประชด "ทำไมหางานได้ง่ายนักวะ"
 
(มีต่อนะครับ o8)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2016 14:27:51 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ kiyomaro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
«ตอบ #292 เมื่อ12-07-2012 07:31:09 »

 :กอด1: ขอไปอ่านล่ะนะ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #293 เมื่อ12-07-2012 07:47:46 »

กลับเข้ามาในห้องแนชถึงได้นึกขึ้นได้ "ก้านใส่ฟอร์มหรือใส่ชุดทำงาน"
"ผ่านโปรฯ ถึงจะได้ใส่ฟอร์มช่าง"
"เราน่าจะออกไปซื้อกางเกงยีนกับเสื้อเพิ่มอีกสัก 3 ตัว" แนชหันไปมองตู้เสื้อผ้า เหมือนจะมองทะลุเข้าไปเห็นเสื้อผ้าของก้านที่อยู่ข้างใน
"ไว้วันอื่นก็ได้"
"ก็ได้" แนชหันมาก็พอดีปะทะเข้ากับอกกว้าง "เป็นอะไร"
"อารมณ์ดีแล้วคึก"
แนชขมวดคิ้วก้มลงมองไอ้สิ่งที่มันน่าจะเป็นตัวชี้วัดความคึกของคนบอก มันก็สงบนิ่ง...แบบ...เงียบกริบเลยน่ะ...
...ไม่เข้าใจความคึกของก้านสักเท่าไหร่ หรือมันแปลว่าอยากกินเหล้า...
"เหล้าไม่มี มีแต่เบียร์ในตู้เย็นไง ไปเปิดกินสิ แนชยังไม่กินหรอก มีกับแกล้มอะไรมั่งนะ เหมือนจะมีแหนม" แนชพูดไปเรื่อย แต่จะเบี่ยงตัวออกไปหาเครื่องดื่มกับกับแกล้มให้ ก้านก็ยังไม่คลายแขนออก "หรือไม่ได้อยากกินเบียร์"
"เปล่า"
"อ้าว"
"พรุ่งนี้แนชไปทำงานแต่เช้าใช่มั้ย"
"ใช่"
"งั้นก็มีเวลาไม่มากนัก"
"อะไรของมันวะ"
"ฉลองไง"

ก้านตอบขณะที่แกะกระดุมถอดเสื้อของตัวเอง
สายตาแนชก็มองปราดลงมาที่กลางลำตัวก้านทันทีเหมือนกัน
...นิ่งเหมือนเดิม หรือมันจะฉลองได้งานด้วยการทำความสะอาดห้องวะ แล้วนี่กูคิดอะไรอยู่เนี่ย...

คนตัวเล็กตบหน้าผากตัวเองไปที แล้วเดินไปห้องน้ำ ก้านก็เดินตามเข้ามาแล้วก็จับถอดเสื้อผ้าให้
"อะไรของก้านเนี่ย ทีเรื่องอื่นพูดได้เยอะแยะ แล้วนี่จะฉลองอะไร...แบบ....เฮ้ย....."
มือใหญ่ที่ลูบไล้ไปทั่วตัว เหมือนจะอาบน้ำให้ด้วยความหวังดี แต่มันกลับเน้นย้ำที่จุดอ่อนไหวทั่วตัว จนร่างกายรุ่มร้อน
"พอแล้ว นี่มันเพิ่งบ่ายแก่ ๆ เองนะ จะรีบปลุกมันขึ้นมาทำไม"
แนชบ่น แล้วผวากอดก้านไว้แน่น เมื่อนิ้วมือสอดลึกแล้วกดย้ำ กระตุ้นความต้องการขึ้นสู่ที่สูงแล้วเร่งมือรูดให้ คนผอมบางถึงฝั่งทิ้งตัวลงหายใจหอบ ยอมให้อุ้มกลับมาที่เตียงนอนโดยไม่ขัดขืน
ก้านคร่อมตัวตามจูบรุนแรงไม่พักให้หายใจ จนแนชต้องทุบหลัง
“ไม่เอา ฉลองแบบนี้กูตายแน่”
“ใครตายนะ” ก้านถามขณะที่ขบที่ใบหู แล้วจูบไซ้ที่คอขาว
“แนช...”
หนุ่มตัวผอมใบหน้าแดงก่ำ  “ก้านขอแนชพักหน่อยเหอะ”
มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่ฟันคมจะขบลงที่ยอดอกบางแล้วดูดเลียรอบ
แนชงอตัวกอดไว้แน่น เจ็บปนเสียวอย่างคาดไม่ถึง ก้านดูดเม้มจนรู้สึกถึงรสปร่าที่แตะปลายลิ้นถึงได้เหลือบตามองคนที่เจ็บจนน้ำตาซึม
“มันเขี้ยวห่าไรไม่รู้ เนื้อคนนะโว้ย”
“แต่ยิ่งจูบก็ยิ่งหลงจริง ๆ นะ” ก้านตอบขณะที่จูบไซ้แก้ม “เนี่ย ....” มือใหญ่ลูบช้อนใต้สะโพกบางเปลือยเปล่า “โคตรจะหลง อยากอยู่อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน” นิ้วใหญ่กดลึกในครั้งเดียว จนแนชร้องเสียงหลง
“อ๊า....”
“แนช เจ็บมากเลยหรือ ก้านหยุดก็ได้...”
คนตัวผอมสะอื้นเบา ๆ ขณะที่ส่ายหน้า “เจ็บแต่ไม่เป็นไร ตามใจก้านเถอะ”
ก้านช้อนจูบริมฝีปากบาง ลิ้นหวานตอบรับจูบด้วยความอ่อนโยน ดึงให้ก้านช้าลงตาม
“ช้าอีกนิดก็ได้ แนชไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย”
“ครับ”

หลังการปลดปล่อยไป 2 ครั้งรวด โดยที่ก้านยังคงสวมกางเกงเรียบร้อย ที่สำคัญ -ไอ้นั่น- มันยังหลับสนิท หลับได้หลับดี
"ห่าก้าน ไม่โดนด่า ท่าทางจะไม่สบายใจใช่มั้ยเนี่ย" แนชด่าทั้งที่ยังนอนหอบอยู่บนเตียง แต่ก้านกลับนั่งหัวเราะร่วน สีหน้าดวงตาบอกชัดเจนว่ามีความสุขมาก
"โรคจิตว่ะ ไอ้เราก็ระวังตัว ระวังคำพูดกลัวทำมันร้องไห้ มันกลับจิตไม่เลิก"
ก้านลูบผมชื้นเหงื่อ "หลับนะ เดี๋ยวผมจะลงไปซื้อกับข้าวขึ้นมาให้"
พ้นจากบทรัก สรรพนามเรียกตัวเองก็กลับไปเหมือนเดิม

หลับไปด้วยความเพลีย แล้วก็ถูกปลุกขึ้นมากินข้าว พออิ่มเลยไปอาบน้ำล้างตัว กลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง  หลังจากที่อยู่ในฟอร์มเคร่งขรึมมาตั้งนาน พอเริ่มบ่น แนชก็บ่นไม่เลิก
“แนชน่าจะรู้ว่าก้านชอบคิดอะไรประหลาดไม่เหมือนใคร มาตั้งแต่แต่งตัวเป็นน้องเต้ยในงานโรงเรียนแล้วนะ ทั้งดื้อ ทั้งบ้าบอคอแตกคิดอะไรไม่รู้ ”
ก้านเก็บถ้วยชามไปล้าง เช็ดโต๊ะทำความสะอาดห้อง แต่แนชก็ยังคงบ่นไปดูโทรทัศน์ไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งไปล้างมือล้างหน้าออกมาเสียงบ่นก็ยังอยู่
คนตัวโตยิ้มมุมปาก “ท่าทางแรงจะเหลือเยอะ”
“เพราะก้านทำให้หงุดหงิดต่างหาก”
“ทำไมล่ะ”
“ไม่ชอบแบบนี้”
“แบบไหน”
แนชคว้าหมอนใกล้มือขว้างใส่หน้า แล้วลุกนั่งทำหน้างอหงิกอยู่บนเตียง
“อ้าว...” ก้านนั่งลงบนเตียงทำหน้าสงสัย “ไม่บอกจะรู้ได้ยังไง”
แนชทำตาขวางใส่ “ไม่ชอบที่ก้านทำให้แนชเสร็จคนเดียวแบบนี้ มันเหมือนแนชเป็นคนบ้ากาม”
ก้านคลี่ยิ้ม ยักคิ้วแล้วลุกไปอาบน้ำ ยังได้ยินเสียงด่าตามหลัง
“ห่าก้าน ไอ้โรคจิต เจ้าเล่ห์”
ด่าพลางเปิดโทรทัศน์ นอนดูไปเรื่อยจนกระทั่งก้านออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปปิดไฟในห้องนอน เหลือเพียงไฟจากโทรทัศน์ 
“พร้อมหรือยัง”
“หือ”
เสียงที่เหมือนคำถามจบลงพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ขยับขึ้นคร่อมด้านหลัง จูบแผ่วเบาที่ไหล่บาง ร่างกายกระตุกเหมือนถูกช็อตด้วยไฟฟ้า แนชหันมามอง
“ยังคึกอยู่อีกหรือ”
“ไม่คึกแล้ว แต่เป็นอย่างอื่น”
“อะไร”
“หลับตา”
แนชหลับตาตามที่บอก พอริมฝีปากนุ่มกดลงที่แก้มก็เบี่ยงหนี
“อยู่เฉยๆ ไง”
“เมื่อกี้บอกให้หลับตาต่างหาก” แนชเถียงทันที ทั้งยังลืมตาอยู่ด้วย
“งั้นหลับตาแล้วก็อยู่เฉย ๆ”
“สั่งใคร”
ก้านกระแอม จ้องตาสีอ่อนที่แสนจะดื้อรั้น
“เออ เหอะ สั่งจริงสั่งจัง”
ก้านกระแทกจมูกลงที่แก้มใส ประสานเสียงหัวเราะ จูบไล่จากแก้มลงมาหาลำคอขาว เน้นที่หลังคอแล้วข้ามไปอีกด้าน
ความเครียดและความหงุดหงิดค่อยคลายลงอย่างช้าๆ เหมือนการเคลื่อนไหวของก้านที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า กว่าทุกครั้งที่ร่วมรักด้วยกัน
หากเป็นก่อนหน้านี้ แนชอาจคิดว่านี่เป็นเพียงจูบก่อนนอนแล้วผละออก
เพียงแต่ครั้งนี้ริมฝีปากหนายังคงเฝ้าจูบไซ้อยู่ที่ลำคอและไหล่
มือขาวซีดกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น เสียงครางแผ่วเบาลอดจากริมฝีปากบาง ก้านตามจูบปิดปากเกี่ยวลิ้นหวานที่ตอบรับโดยดีแล้วดูดเบา ๆ
ริมฝีปากร้อนค่อยจูบเรื่อยลงมาทั่วแผ่นหลัง เชื่องช้าเหมือนต้องการใช้เวลาทุกวินาทีไปกับสำรวจทุกอณู ลูบไล้ร่างกายผอมบางที่สั่นไหวไปตามอารมณ์
มือใหญ่รั้งขอบกางเกงนอนลงแล้วก้มลงจูบที่ก้นกลม ฟันคมขบลงเบา ๆ ที่ก้อนเนื้อ
แนชเบี่ยงหลบเพียงนิดเดียวแต่กลับผ่อนลมหายใจยาว  ไม่ว่าก้านจะสัมผัสตรงไหนแนชจะตอบรับด้วยน้ำเสียงครางหวาน

ก้านในเวลานี้ต่างจากเมื่อช่วงบ่ายอย่างสิ้นเชิง...ในเวลานั้น อารมณ์คึกของก้านเป็นแบบที่อยากรู้ว่า ถ้าทำแบบนี้แนชจะตามใจได้มากแค่ไหน...คำตอบก็คือ แนชยังคงตามใจ ทั้งที่ไม่ชอบเลย...
...แต่ความอ่อนโยนของก้านเวลานี้ต่างหากที่ทำให้แนชวางใจ....

“สแนช รักก้านบ้างมั้ย”
“รักสิ”
ก้านยกตัวขึ้นช้อนคางให้หันมารับจูบ ตวัดดึงปลายลิ้นหวานดูดเบาๆ แล้วดูดย้ำริมฝีปาก “รักสแนช รักที่สุด”
คำบอกรักติดอยู่ที่ข้างแก้ม และซอกคอ
แก่นกายแข็งขึงบดเบียดอยู่ที่แก้มก้น แล้วค่อยขยับเข้าจดจ่อ สอดลึกเข้าหา แนชเกร็งไปทั้งตัวจนก้านต้องจูบที่ต้นคอซ้ำ จนแนชผ่อนลมหายใจจึงกดต่อ
เคลื่อนไหวช้า ๆ ดวงตาสีเข้มจับจ้องใบหน้าแดงก่ำ ที่ค่อยเปลี่ยนไป จากก้มหน้างุดอยู่กับหมอนกลายเป็นแหงนเงยจนสุดตัว ริมฝีปากบางแดงช้ำ อ้าปากกอบอากาศเข้าสู่ปอด
สะโพกแกร่งหยุดนิ่งเมื่อเข้าไปจนสุด ขยับตัวจูบแก้มจูบปากซ้ำ แล้วขยับสะโพกเนิบช้า

ก้านก้มลงจูบปากคนที่นอนหลับตาหมดแรงแล้วลุกไปล้างตัว ไม่ลืมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำกลับมาเช็ดที่ใบหน้าและต้นขาให้
แนชส่งเสียงแผ่ว “เดี๋ยวไปล้างเอง ขอนอนแป๊บเดียว”
ก้านก้มลงจูบแก้ม “ยังมีแรงเถียง งั้นต้องต่ออีกรอบ”
“สัดเหอะ” แนชด่าแล้วพลิกหน้าหนี
ก้านได้แต่หัวเราะเบา ๆ ลุกเอาผ้าขนหนูไปตาก หันมามองแนชคิดว่าหลับแล้ว ก็เลยเดินไปหยิบโทรศัพท์
นั่งลงคาประตูระเบียงมองวิวกรุงเทพฯ จากอาคารความสูง 9 ชั้น
“พี่กาญจน์ ก้านเอง”
แนชหันมามองคนที่กำลังคุยกับพี่สาว บอกว่า ได้งานแล้วจะเริ่มอาทิตย์หน้า ถ้าแนชกลับบ้าน ก็คงได้แวะไปช่วยที่รีสอร์ท จากนั้นก็ถามถึงแม่กับพ่อ
ก้านฟังพี่สาวเล่าไปเรื่อย ๆ ครู่หนึ่งก็หันมามองคนในห้อง ที่นอนมองและส่งยิ้มกว้างมาให้
“งั้นไว้พี่อยู่กับแม่ตามลำพังเมื่อไหร่ก็ค่อยโทรหาผม ผมไม่อยากทำให้แม่โดนพ่อว่าอีก”
ก้านเปลี่ยนมานั่งบนเตียงนอน แนชก็ขยับมานอนหนุนตัก ฟังก้านคุยจนกระทั่งกดวางสาย
“ไม่ยอมนอน เดี๋ยวก็ตื่นสาย”
“แล้วใครมานั่งออเซาะพี่สาวตอนคนเขาจะนอนล่ะ”
“อิจฉาหรือไง”
ก้านล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แนชก็เปลี่ยนมานอนหนุนแขนให้ก้านม้วนกอดไว้
แนชหัวเราะหึหึแล้วหลับต่อ
คล้าย ๆ จะเข้าใจคำว่าฉลองในความหมายของก้านแล้วนะ แต่ตอนนี้ง่วง..

นับตั้งแต่ก้านเริ่มงานใหม่ เวลาที่พบและคุยกันก็น้อยลงตามไปด้วย ทั้งที่ที่ผ่านมา คนหนึ่งอยู่กรุงเทพฯ คนหนึ่งอยู่ระยอง 2 เดือนกว่าถึงได้พบกัน คิดจำนวนชั่วโมงมันน้อยกว่าตอนนี้ก็จริงอยู่ แต่พอมาอยู่ห้องเดียวกัน กลับดูว่าน้อยลงกว่าเดิม
ก้านออกไปทำงานก่อนแนช และกลับเข้าห้องหลังแนช เรื่องวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ยิ่งไม่เคยตรงกัน ทั้งคู่ต่างเข้าใจ ก็ยังโทรฯ หากันในเวลาพักเที่ยงอย่างสม่ำเสมอ

“คุณนายส้มจีนไปอยู่ที่โฮมสเตย์กับไอ้แก้วลูกชายคนโตของพี่กาญจน์ ที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างก็เลยมีแต่เถ้าแก่กับพวกลูกจ้างผู้ชายอีก 2-3 คน”
“ทะเลาะกันอีกหรือไง” แนชถามกิมที่คอยโทรมารายงานกึ่งนินทาบ้านของก้านให้ฟังเป็นระยะ
“ไม่รู้นะ” กิมไม่ค่อยแน่ใจ “เขาทะเลาะกันเขาก็ไม่ติดประกาศหรอก แล้วก่อนนี้ช่วงเสาร์-อาทิตย์ แกก็จะไปอยู่โฮมสเตย์กับก้านอยู่แล้วไง พอมาตอนนี้ ไอ้แก้วมาอยู่ก็จริงแต่มันก็ยังไม่ 17 เลย ยายก็ต้องมาช่วยคุมงานอีกที"
แนชถอนหายใจหนักๆ ทำให้กิมที่อยู่ปลายสายต้องให้กำลังใจ
"กูกับเยาว์ไปเยี่ยมมาแล้ว แกบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ได้มีปัญหาอะไรรุนแรง บอกกับก้านไปแบบนี้เหมือนกัน”
“คุยกันแล้วหรือ” แนชพึมพำ ทำให้กิมสงสัย
“อ้าว เขาคุยกันมึงไม่รู้หรือ”
“ตอนที่เขาคุยกับพี่กาญจน์น่ะกูอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าคุยกับแม่แล้ว”
...มันมีความรู้สึกกึ่งน้อยใจเล็กๆ ปนอยู่ ที่ก้านไม่เล่าให้ฟังว่าคุยกับแม่แล้ว ขณะที่แนชเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน...
..บอกตัวเองว่า เออ ก็เขาแม่ลูกกัน แล้วทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือมันก็ไปได้ทุกที่...

กิมยังคงพูดไปเรื่อย “คุณนายส้มจีนบอกว่า ที่เถ้าแก่กังวลก็คงเพราะพี่สาวคนรองของไอ้ก้านเขาไม่มีลูกไง แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิม ๆ อีก คุณนายแกเลยอ้างว่า ถ้าแกไม่แยกมานอนที่โฮมสเตย์ก็ต้องจ้างคนเพิ่มอีก ตอนนี้ก็ต้องจ้างช่างมาทำแทนก้านที่รีสอร์ทแล้วคนหนึ่ง และจะทิ้งไอ้แก้วไว้คนเดียวกับคนงานมันก็ไม่ปลอดภัย เด็กมันยังต้องเรียนต้องสอบ"
"แล้วทางเถ้าแก่ล่ะ" แนชพลอยเรียกพ่อของก้านว่าเถ้าแก่ตามกิมไปด้วย
"ที่เห็นก็ปกตินะ แต่พี่กาญจน์บอกว่าห้ามพูดเรื่องก้าน แกจะโกรธมาก ที่จริงนอกจากความกังวลเรื่องหลานแล้ว จุดใหญ่ที่ทำให้อยู่ๆ แกหันไปบังคับให้ก้านมันแต่งงานอีกรอบ ก็เพราะทางฝั่งผู้หญิงที่แกเที่ยวไปทาบทามไว้น่ะเขาถามมาว่าจะยังไง อะไร เมื่อไหร่ เพราะผู้หญิงเขาก็อายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ"
“ถ้ากลับบ้านแล้วไปเจอเถ้าแก่ จะทำยังไงดีวะเนี่ย”
“ก่อนนี้มึงทำไง”
“กูก็พยายามเลี่ยง พูดให้น้อยที่สุด”
“ก็ดีแล้ว เขาไม่ชอบมึงนี่”
“แต่ถ้าเกิดมาเจอจังๆ แล้วเขาพูดอะไร เหมือนที่พูดกับพ่อกู คราวนี้กูคงไม่เงียบ”
“ถ้ามันไม่ไหวก็เดินหนี คิดถึงคนที่ยังต้องอยู่ที่นี่”
แนชยอมรับ “ก็เพราะกูคิดถึงทุกคนที่ระยองไง กูถึงกลัวว่า ถ้ากูไม่ไหวแล้วทุ่มโต๊ะขึ้นมา....”
กิมหัวเราะเสียงแปลกๆ “ก็เมื่อคาดเดาผลของการเหวี่ยงได้ มึงก็ยิ่งต้องเตือนตัวเองให้หนัก ว่าอย่าเหวี่ยง มีอะไรไว้ไปลุยร้านไอ้ตือกันดีกว่า”

แม้กิมจะวางสายไปด้วยการชวนไปกินเหล้าที่ร้านของตือเหมือนเคย แต่แนชยังยอมรับกับตัวเองว่ายิ่งฟังกิมเล่าเรื่องที่บ้านของก้านก็ยิ่งเครียด แต่พอจะหันมาถามก้าน คนที่นอนข้างกันทุกคืน ก้านก็ดูเหน็ดเหนื่อยจนต้องผัดไปเรื่อย
..สำหรับคนใจร้อนที่อยากรู้ต้องรู้ให้ได้อย่างแนช นี่เป็นช่วงเวลาที่แสนจะอึดอัดคับข้องใจ
จนเที่ยงวันหนึ่งที่ก้านโทรศัพท์มาชวนกลับบ้าน เมื่อผ่านการทดลองงาน รับเงินตกเบิกก็กลับบ้านกัน....
แนชได้แต่นิ่งเงียบ
ความกังวลในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึงเหมือนเงาที่ตามติดไปทุกที่
พอถึงวันที่นัดไว้ เลิกงานธนาคารแนชก็ขับรถมารับก้านที่ทำงาน เพราะจะได้กลับบ้านที่ระยองต่อ
เป็นวันสิ้นเดือนที่สาหัสเอาการสำหรับแนช พอหาที่จอดรถได้ก็เลยโทรไปบอก แต่ก็กลับเปลี่ยนใจเดินไปหาผลไม้รถเข็นแถวหน้าโรงงาน
ท่ามกลางหนุ่มสาวที่ใส่เสื้อสีเดียวกันกลุ่มใหญ่ที่กำลังเลือกซื้ออาหาร แล้วเดินไปขึ้นรถบัสคันใหญ่ของพนักงาน ยังมีกลุ่มที่มีที่พักแถวโรงงาน ทำให้แนชตกเป็นเป้าสายตา พอซื้อผลไม้เสร็จก็เลยหาที่หลบมุมยืนรอ 
กลุ่มช่างหลายคนเดินออกมาจากโรงงานดูได้จากเสื้อฟอร์มสีน้ำตาลอ่อนที่เหมือนกันทั้งกลุ่ม
ด้วยความสูงกว่าคนอื่น และสวมกางเกงยีนกับเสื้อสีเข้ม ทำให้ก้านโดดเด่นมาแต่ไกล ยิ่งรอยยิ้มกว้างนั่นทำให้คนที่มองจากระยะไกลยังยิ้มตาม เว้นแต่แขนของหญิงสาวในเสื้อฟอร์มช่างที่เกี่ยวคล้องแขนของก้านไว้
แนชไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกัน
ที่เห็นก็คือคุยด้วยกัน หัวเราะด้วยกันทั้งกลุ่ม แต่หญิงสาวกับเอียงศีรษะมาซบที่ไหล่ของก้าน
และก้านก็ไม่ได้เบี่ยงหนีแม้แต่นิดเดียว
ทั้งที่ใจบอกว่าไม่มีอะไร แต่แนชก็หันหลังกลับ รู้ตัวเมื่อมือใหญ่จับข้อศอกไว้
“แนช”
ก้านเรียกแนชพร้อมกับยิ้มกว้างเหมือนเดิม ชี้มาที่ถุงผลไม้ในมือ “หิวหรือ กินอะไรก่อนมั้ย วันนี้เงินเดือนออกพี่ ๆ เขาจะไปหาอะไรกินกัน”
“กูจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ถ้ามึงจะไปแดกเหล้าก็เรื่องของมึงเถอะ” แนชพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมากนัก ทั้งพยายามสะบัดแขนแต่ก้านกลับเพิ่มแรงที่มือ
“แนช ทำไมพูดแบบนี้”
“แนชหรือ” หญิงสาวคนเมื่อครู่ที่กอดแขนก้านอยู่เดินตามเข้ามาทัก “ไปกินเหล้ากันมั้ย”
แนชหันไปมองหน้าก้าน ขณะที่หญิงสาวป้องปากกระซิบบอกกับแนช “ไม่ต้องห่วงนะ มีพี่รู้อยู่คนเดียว ส่วนไอ้พวกที่เหลือน่ะมันบ้าผู้หญิง”
หนุ่มตัวเล็กหน้าเหวอ จนพี่สาวหัวเราะ “ก้านเป็นรุ่นน้องพี่อ้อยเอง มันเพ้อถึงแต่แนชมาตั้งแต่ตอนเรียน ตอนแรกยังคิดว่าเป็นชื่อผู้หญิง แต่มันบอกว่า ผู้ชายต่างหาก”
“พี่รู้...”
“รู้สิ แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะพี่เข้าใจ”

แนชพยักหน้าหงึกหงัก ก็พอจะรู้ พอจะเห็นมาบ้างเหมือนกันว่าผู้หญิงไม่น้อยที่พอรู้ว่า เพื่อนชายในกลุ่มเป็นเกย์หรือเป็นสาวก็จะลดความระมัดระวังตัวเองลง เพราะคิดว่า ยังไงก็จุดติดได้ยาก 

รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เข้ามาจอดเทียบข้าง ๆ พี่อ้อยหันมาแนะนำคนขับรถที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีน “นี่แฟนพี่เอง คุณนี่แนช...เพื่อนก้าน”
แฟนของพี่อ้อยรับไหว้ ขณะที่ส่งหมวกกันน็อกให้แฟน “ไปฉลองเงินตกเบิกหรือ”
“จะกลับบ้านที่ระยองกันน่ะครับ” ก้านบอก
“เออ ขับรถระมัดระวัง”

หลังจากร่ำลาพี่อ้อยกับแฟน ก้านยังจับอารมณ์คุกรุ่นของแนชได้ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินตามกลับมาที่รถ
“ขอก้านขับรถได้มั้ย”
“ไม่”
ก้านแบมือขอกุญแจรถ “นะ ขอผมขับรถเถอะ แนชดูเหนื่อยๆ จะได้หลับไปถึงบ้าน”
แนชส่งกุญแจรถให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่
ก้านขับรถออกนอกเมืองวิ่งเส้นทางอ้อม กลับไประยอง
“งานหนักมากเลยหรือแนช”
“อือ ทำไมมันกลับไปเหมือนอยู่ในอุโมงค์ที่ไม่มีทางออกนั่นอีกแล้วก็ไม่รู้”
“แนชไม่ชอบงานนี้หรือ”
“ชอบทำงาน แต่ไม่ชอบเวลาที่หัวหน้ากางแฟ้มออกมาแล้วก็เอานิ้วจิ้มๆๆๆ นั่นไม่ดี นี่ไม่ถูก ไม่เอา ทั้งที่แนชก็ทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ทำตามจนเหมือนจะคิดอะไรเองไม่เป็นอยู่แล้ว”
ก้านพยักหน้าปล่อยให้แนชบ่นไปเรื่อย จนกระทั่งเห็นว่าเริ่มดีขึ้น ก็ส่งซองสีน้ำตาลซองใหญ่ให้
“อะไร” แนชถามแล้วแกะซอง “เงินตกเบิก 3 เดือนน่ะหรือ ทำไมเขาไม่เอาเข้าบัญชีธนาคารให้ก้าน”
แนชเทของในซองออกมาครึ่งหนึ่ง มีทั้งเอกสารและเงินสด
“เขาจะเอาเข้าบัญชีน่ะแหละ แต่ผมอยากให้แนช”
“ให้ทำไม”
“อ้าว ผัวก็ต้องเอาเงินเดือนให้เมีย แล้วก็แล้วแต่เมียจะจัดการให้สิว่าจะให้ใช้ยังไง”
แนชหัวเราะหึหึ “ช่างกล้าพูด”
มือขาว ๆ คลี่กระดาษออกอ่าน
“นี่เงินเดือนก้านที่ยังไม่ผ่านโปรฯ หรือ”
“ฮื่อ...”
“แล้วถ้าผ่าน....” แนชกวาดตาอ่านข้อความ “มัน...มากกว่าแนช เกือบ 3 เท่าแน่ะ”
“ดีไหม เราจะได้ดาวน์คอนโดฯ กัน เลือกที่มันใกล้ธนาคารของแนช จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล ของผมน่ะ ตื่นเช้าหน่อยก็ทันรถบัสของคนงานมาทำงานได้ ไว้มีงานด่วนค่อยเรียกรถแท็กซี่”
“จอด...รถ...” น้ำเสียงของแนชเหมือนคนใกล้จะเป็นลม
ก้านรีบจอดรถที่ข้างทางทันที แนชรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งถลาลงไปยืนอยู่ข้างคูน้ำข้างทาง ร้องตะโกนไปที่ทุ่งนาข้างทางจนสุดเสียง
“อ๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ”
“แนช แนช” ก้านวิ่งตามลงมาหา แต่แนชหันมาทั้งเตะทั้งชก แม้จะโดนกอดรวบไว้
หยาดน้ำตาไหลซึมผ่านเสื้อที่สวมอยู่ แนชสะอื้นจนตัวโยน
“แนช ใจเย็นๆ มีอะไร เล่าให้ผมฟัง แนช อย่าเก็บไว้คนเดียวแบบนี้”
แต่แนชยังร้องตะโกนอยู่ข้างทาง รถหลายคันชะลอมอง แต่พอเห็นว่าไม่ใช่การทะเลาะวิวาทก็ขับผ่านไป
ก้านได้แต่กอดไว้แน่น สลับกับการลูบหลังให้ใจเย็นลง นึกโกรธตัวเองที่พอได้งานทำก็แทบจะไม่ได้ดูแลแนชอีกเลย บางคืนที่กลับเข้าห้องแนชหลับไปแล้วด้วยซ้ำ ส่วนวันหยุดก็กลายเป็นวันที่นอนเล่นอยู่ในห้องเกือบทั้งวัน
“แนช ใจเย็นนะ”
ก้านพากลับมาที่รถ เปิดน้ำขวดให้แนชล้างหน้า แล้วจะให้ขึ้นรถ แต่แนชกลับนั่งโดยเอาเท้าออกมาข้างนอก ก้านก็เลยนั่งยองๆ ลงข้างหน้า
“แนช”
“ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ เมื่อกี้มันเหมือนอึดอัดอยากตะโกน”
“โดนดุจากที่ทำงานน่ะหรือ”
“อือ” แนชพยักหน้ายอมรับ “ตลอดอาทิตย์นี้ โดนด่ามาทั้งอาทิตย์ โดนจนรู้สึกเหมือนในสมองมีแต่ขี้เถ้า แนชไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนะ ต่อให้ช่วงทดลองงาน ก็ไม่เคยขนาดนี้ ทำตามที่บอกทุกอย่าง ก็ยังบอกว่าไม่ใช่อย่างที่บอกมา แทบจะอยากเอาเทปไปอัดเสียงตอนที่เขาสั่งงานไว้ แล้ว....”
“แล้วมาเห็นผมกับพี่อ้อย ก็หึง รู้ว่าไม่ใช่ก็ดีขึ้นมานิดเดียว”
“ไม่หึงหรอก อาจอิจฉาก็ได้ เพราะไม่ค่อยเห็นก้านอยู่กับเพื่อน ไม่ชอบอารมณ์แบบนี้ ความไม่มีเหตุผลแบบนี้ มันรู้สึกเหมือนคนบ้า”
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดปกติสักหน่อย” ก้านบอกขณะที่จับมือของแนชไว้ “ผมเองก็ไม่ชอบที่ถูกมองว่าเป็นคนโลเลเหมือนกัน”
แนชมองดวงตาสีเข้มที่แสดงออกถึงความตั้งใจว่า จะต้องทำให้แนชพูดเรื่องที่คับข้องใจออกมาให้ได้
“แนชยังกังวลอะไรอีก”
ริมฝีปากบางเม้มแน่น
“แนช ถ้าวันนี้ไม่เล่าออกมา ก็ไม่ต้องกลับบ้านกันแล้ว อยู่มันอย่างนี้ทั้งคืนนี่แหละ”
“กลัวมั้ง”
“กลัวอะไร เขาจะให้ออกจากงานหรือ แนชทำผิดเยอะขนาดนั้นเชียวหรือ”
“ไม่ใช่หรอก ที่ระยองน่ะ”
“พ่อผม..”
แนชพยักหน้ายอมรับ
“ผมก็กลัว ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แต่ไม่อยากเห็นเขาโกรธ”
“นั่นแหละ แล้วพอมาเห็น.....”
“ว่าเงินเดือนผมเยอะกว่าทั้งที่เพิ่งเริ่มงาน เลยยิ่งเครียด”
“เออสิ” แนชน้ำตาปริ่มๆ อีกรอบ “อันนี้ไม่ได้อิจฉานะ ดีใจที่ก้านมีเงินเดือนเยอะๆ จะได้เอาไปให้แม่ แต่มันเหมือน....นี่มันจะมีอะไรสักอย่างมั้ย ที่ไอ้แนชทำถูกน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคนที่ทำไม่ถูกก็มีผมด้วยเหมือนกัน เพราะมัวแต่ทำงานจนไม่ได้ดูแลแนช” ก้านเช็ดน้ำตาให้ “ตอนที่อยู่คนเดียว ไม่มีใครให้เปรียบเทียบ พอมาตอนนี้มีคนมาอยู่ด้วย แล้วต้องถูกเปรียบเทียบ มันยิ่งเครียดมากเลยใช่มั้ย”
แนชท่าทางงงๆ “ทำไมรู้”
“เพราะผมมีพี่สาว 2 คนผมถูกเปรียบเทียบมาตั้งแต่เกิดน่ะสิ” ก้านหันไปมองทางข้างหน้า ขณะที่ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวเราแวะหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยไปต่อดีกว่า แนชจะได้หลับไปเลย”
กินข้าวเสร็จ กลับมาขึ้นรถอีกครั้ง ก้านก็เอนเบาะให้นอน “หลับนะครับ”
“นี่กูพี่มึงนะ”
ก้านบีบจมูกรั้นเบาๆ “พูดใหม่สิ”
“เหอะ” แนชกระแทกเสียงตอบ
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรือไง ว่าไม่เคยอยากให้เป็นพี่น่ะ”
“รู้ แต่ถ้าจะให้เล่าความย้อนกลับไปถึงตอนเรียน มันก็..พี่กับน้อง...”
“เหอะ” ก้านทำเสียงเลียนแบบที่ไม่ค่อยเหมือนสักเท่าไหร่ ทำให้แนชหัวเราะได้
ก้านหยิกแก้มใสไปทีหนึ่ง แล้วถึงได้ออกรถ
“ถ้าเราไปหาแม่ที่โฮมสเตย์ แล้วแม่อยากให้ก้านอยู่ช่วยทำงาน ไม่ให้กลับมาอีกล่ะ.”
ก้านส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “อาจจะบอกว่า ว่างก็กลับมาช่วยงานที่โฮมสเตย์ แต่ไม่น่าจะบอกให้ลาออกจากงานแล้วกลับมาหรอก”
“เพราะแม่รู้ว่าถ้ากลับมา ทุกอย่างมันก็จะกลับไปที่เรื่องเดิมๆ”
“ผมบอกกับแม่ไปแล้วว่า ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนโลกสักหน่อย ผมแค่มีความรักเท่านั้นเอง”
แนชยิ้มกว้าง ขณะที่หลับตาลง
“พูดอีกสิ ไอ้คำแบบนี้ไม่ได้ยินมาพักใหญ่ๆ แล้วเหมือนกัน”
ก้านบีบมือผอมบางไว้ “ขอโทษนะที่มัวแต่ทำงาน จนไม่ได้สนใจแนชเลย”
“หื้อ แนชไม่ใช่เด็กๆ นะจะต้องสนใจอะไรมากมาย”
ก้านส่ายหน้า ทำให้แนชหันไปมองนอกหน้าต่างรถ
“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งไว้ตรงนั้น”
“ใครที่ไหนจะทำอย่างนั้น ต่อไปแนชมีเรื่องไม่สบายใจ บอกให้ผมฟังบ้างนะ ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของแนช แค่อยากให้แนชรู้ว่า ผมไม่ได้แค่อยากร่วมสุข แต่ผมอยากร่วมทุกข์ด้วย”
หนุ่มตัวเล็กยอมรับว่าแรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้ความกังวลคลายลงไปก็จริงแต่มันก็ยังคงมีอยู่ ก้านเองก็มองเห็น

“ปิดเทอมมหา’ลัย ผมกลับมาช่วยพ่อทำงานที่ร้านก่อสร้าง อยู่มาวันหนึ่งพ่อของแนชเข้ามาในร้าน สั่งซื้อวัสดุไปซ่อมหลังคา”
แนชหันมามองคนที่กำลังเล่าเรื่องไปด้วยท่าทางไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ ว่าควรจะเล่ามั้ย
“ผมขับรถเอาของมาส่งแล้วก็ซ่อมหลังคาให้พ่อ กินข้าวเย็นแทนค่าแรงแล้วก็กลับบ้าน”
หนุ่มตัวผอมกระแทกลมหายใจขึ้นจมูกกึ่งประชด “ไอ้เจ้าเล่ห์”
ก้านยิ้มกว้างขณะที่เล่าต่อ “กลับมาเมื่อไหร่ก็แวะมาซ่อมประปา เปลี่ยนสายไฟ ซ่อมโทรศัพท์ แลกกับข้าวเย็น”
“ตอนเรียนมหา’ลัยน่ะนะ แล้วอาจารย์สายหยุดว่าไง”
“ไม่เห็นว่าไงนี่ มีแต่บอกว่า ขยันดี”
“เหอะ เข้าข้างกันจัง” แนชได้แต่ส่ายหน้า

...แม่เคยเล่าว่าก้านมาช่วยซ่อมบ้านให้เป็นระยะ แต่ตอนที่แม่เล่า เหมือนแม่กำลังพูดถึงลูกศิษย์หรือเพื่อนลูกคนอื่น ขณะที่ตอนที่ก้านเล่า เหมือนมันมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่ทุกครั้งที่มาบ้าน..

“แล้วเขาบอกว่าชื่อสแนชตอนไหน”
“มีอยู่ครั้งที่แนชโทรกลับบ้าน แล้วผมกำลังดูคอมพิวเตอร์ให้แม่อยู่พอดี ได้ยินแม่ดุว่า สแนช ถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็จะไม่ได้งานดีๆ ทำนะ”
แนชอ้าปากค้าง ก้านจำได้แม้แต่ประโยคที่แม่สอน...ละเอียดเกินไปไหมน่ะ...
ก้านหันมายักคิ้วใส่คนที่ทำหน้าเหวอ เลยโดนทำหน้ายู่ยี่ใส่
“แต่พอเรียนจบกลับมา เริ่มทำทั้งโฮมสเตย์กับรีสอร์ท  ทำให้ไม่ได้เจอแนชเลย เพราะเวลาที่แนชกลับมาบ้านวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดมันคือช่วงที่งานยุ่งมาก”
“แล้วบอกพ่อก้บแม่หรือเปล่า ว่าที่ขยันน่ะเพราะมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่”
“ไม่ได้บอกหรอก ใครจะกล้า แต่ก็ถามถึงเรื่อยๆ ว่าแนชเป็นอย่างไรบ้าง เขาคงเดาได้”
“มิน่า พ่อถึงว่า ไม่เห็นว่ามันจะต่างกับคนอื่นตรงไหน”
ก้านเหลือบตามองมือขาวซีดที่จับอยู่
“เพราะผมไม่ได้พูดกับเขาตรง ๆ เขาก็เลยไม่รู้ว่าจะไล่ผมอย่างไร”
“ดาบแกไม่เคยไล่ใครอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นนักมวยแบบฟุตเวิร์คไม่รู้จัก รู้จักแต่ออกหมัดทำคะแนนอย่างเดียวแบบนี้ ยิ่งพูดยาก” แนชพูดแล้วยิ้มกว้าง หัวเราะหึหะ “น้องเต้ย”
ก้านพลอยหัวเราะตาม “ถ้ารู้ว่าแต่งแบบนั้นแล้วจะพาแนชกลับบ้านได้นะ จะแต่งตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว”
“เฮ้ย~~~~~” แนชหัวเราะร่วน “ตอนนั้นยังไม่....”
“ไม่อะไร”
“ไม่สวย”
ก้านถึงกับหัวเราะตาม เมื่อแนชบรรยายต่อ
“ตัวโย่ง หัวเกรียน แล้วก็กล้ามใหญ่ ๆ ไม่ได้สมดุลเลยสักนิด”
“ตายๆ นักบอลโรงเรียน โดนวิจารณ์ซะเสียหาย”
“ก็จริงนี่หว่า”

จากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็วนกลับมาเรื่องเดิม แต่ไม่ว่าจะคุยกันเรื่องอะไร อาจเริ่มต้นด้วยความไม่สบายใจ แต่มันก็ค่อย ๆ กลายเป็นเรื่องดี
“นี่มันกี่ครั้งแล้วเนี่ย ที่ก้านพาแนชกลับบ้านแบบนี้”
“ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้ รู้แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน”
ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน
ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นแบบไหน หรือจะต้องพบเจอกับอะไรขึ้น เราจะยังคงอยู่ด้วยกัน
.....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก้านกับแนชจะอยู่ด้วยกัน.....

========จบ=========

จบแล้วครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะอ่านเรื่องนี้ด้วยความสุข
พบกันอีกครั้งหลังเมื่อเราเขียนงานเสร็จ ขอบคุณเสมอที่ให้ความสนใจและติดตามเรื่องที่เราเขียนมาโดยตลอด
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับที

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2016 14:36:46 โดย MyTeaMeJive »

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #294 เมื่อ12-07-2012 08:13:05 »

ขอบคุณไจฟ์ที :L2:
ทางข้างหน้าของก้านกับแนชอาจไม่ราบเรียบ แต่ถ้าทั้งคู่ไม่ปล่อยมือจากกันก็ไม่มีปัญหา

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #295 เมื่อ12-07-2012 08:13:50 »

 :pig4:ขอบคุณค่าาาาาาา. อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ.  ชอบมากๆเลย o13

ออฟไลน์ kiyomaro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #296 เมื่อ12-07-2012 08:17:25 »

 o22 อ้าวจบแล้วเหรอ มันค้างๆงิ
แต่สนุกมาเลยจ้า  o13 ขอบคุณ คุณไจฟ์และน้องที สำหรับนิยาย สนุกๆ อีกเรื่อง   :pig4:
ว่าแต่จะมีตอนพิเศษมั้ยน้าาาาา

ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #297 เมื่อ12-07-2012 08:34:23 »

จบแล้ว อยากอ่านต่อ ฮ่าๆๆๆ
ตั้งแต่ต้นเรื่อง พี่คิดว่ามันคือปัญหาที่ต้องฟ่าฟันของคนสองคนที่ต้องการจะรักกัน
แต่พออ่านตอนจบก็คิดไปอีกว่า ชีวิตคู่มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก ยังมีปัญหาอุปสรรคอีกมากมาย
แต่หากคนสองคนรักกัน เชื่อใจกัน จับมือกันไปได้ตลอดทาง ชีวิตข้างหน้ายังไงก็มีความสุข
+++++
อยากอ่านเรื่องต่อไปแล้ว น้องไจฟ์น้องที สู้ๆ :L2:  :L1:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #298 เมื่อ12-07-2012 08:47:10 »

วันนี้พ่อก้านยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร
ถ้ามั่นคงพยายามด้วยกันอย่างงี้ต่อไปนานๆ เชื่อว่าสักวันเค้าคงยอมรับได้เอง   :กอด1:

ขอบคุณทั้งไจฟ์และทีค่ะ สำหรับเรื่องนี้   :L2:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
«ตอบ #299 เมื่อ12-07-2012 08:51:02 »

โอ๊ะ จบแล้วหรอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด