“พี่นิกๆ” ผมเรียกเขาพลางผละออกจากอ้อมแขน ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาลงทีละเม็ด เห็นเขากลืนน้ำลายลงคอแล้วมองมาด้วยความสงสัย
“ร้อนเหรอครับน้องขวัญ” เขาถามเสียงพร่า จ้องมองแผ่นอกของผมไม่วางตา “หรือต้องการให้พี่ทำอะไร”
“ทำรอยให้หน่อย” ผมบอกด้วยสายตาเชิญชวน “พี่นิกบอกว่าชุดนักศึกษาเร้าใจนี่นา ทำให้หน่อยสิครับ มาเป็นคุณครูสอนน้องขวัญที สอนน้องขวัญทำรัก แบบ...แรงๆ น้องขวัญอยากโดนคุณครูตีด้วย...ขอไม้เรียวใหญ่ๆ”
ทนได้ก็เอาสิครับ บอกเลยว่าคุณธนิกไม่รอดหรอก จุดอ่อนของเขาทั้งนั้น เขาชอบให้เชิญชวน ชอบบทบาทบนเตียงที่เขาได้เป็นผู้บงการ เขาชอบให้พูด ชอบให้มองเขาตาฉ่ำ ชอบความออดอ้อนเพื่อแสดงถึงความต้องการเขา
ผมน่ะ...ไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นหรอกครับว่าเขาจะแข็งข้อกับแม่ของเขาได้ ผมจึงต้องทำให้มันเป็นร้อยเปอร์เซ็น ซะเองเพราะผมรู้ว่าความรักต่อแม่ กับความลุ่มหลงต่อใครสักคน ความรู้สึกไหนมันรุนแรงกว่ากัน นิสัยของคุณธนิกทำให้ผมเห็นแล้วว่าเขาใจอ่อนเกินกว่าจะต้านทานใครไหว เขาเก่งนะ เรื่องทำงานเขาไม่แพ้ใคร แต่เรื่องความรู้สึก...เขาจะแพ้ผม
“ขวัญเป็นข้อยกเว้นทุกข้อเลยรู้มั้ย” เขาเสียงพร่าในขณะที่คร่อมอยู่บนตัวผมซึ่งนอนเปลือยอกมองเขาตาปรอย “พี่ไม่เคยใช้ห้องทำงานทำเรื่องแบบนี้เลย แต่ขวัญจะเป็นคนแรกที่พี่ทำ”
“พี่นิกก็เป็นคนแรก...ที่ทำให้ผมทำเรื่องน่าอายแบบนี้” ผมยิ้มให้เขา ลดมือลงไปที่เข็มขัดนักศึกษา ปลดมันออกแล้วรูดซิบลงพลางยกสะโพกขึ้นเพื่อดึงรั้งให้กางเกงลงไปกองที่ข้อเท้า ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปาก ส่วนมืออีกข้างบีบบี้ยอดอกตัวเองพร้อมกับมองคุณธนิกด้วยสายตาที่คิดว่ายั่วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อาา..า พี่นิกครับ อื้มม..ม พี่นิก” ผมครางเรียกเขาเสียงกระเส่า เห็นว่าเขากำลังมองอยู่ก็ยิ่งร้องคราง มือที่เคยสอดอยู่ในโพรงปาก ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย บัดนี้ผมทำใจกล้าสอดเข้าไปที่ช่องทางนุ่ม ป้ายความชุ่มฉ่ำแล้วค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปทีละนิ้ว
คุณธนิกมองตามทุกการกระทำของผม ใบหน้าเขาแดงก่ำ เต็มไปด้วยอารมณ์ดิบที่พร้อมจะกระหน่ำใส่ผม แววตาอันตรายเผยสัตว์ร้ายที่แฝงอยู่ในตัว เขามองในขณะที่ผมขยับนิ้วเข้าออกช่องทางของตัวเองพลางส่ายสะโพกอยู่ต่อหน้าเขา ได้ยินเขาครางในลำคอ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะฝังลงที่ต้นขาด้านในแล้วลามเลียมาจนถึงนิ้วที่กำลังขยับเข้าออก เรียวลิ้นร้อนแลบเลียออกมาช่วยนิ้วของผมสัมผัส ผมครางลั่นเมื่อลิ้นร้ายนั้นควานเข้ามา มือที่ใช้การได้เพียงข้างเดียวของเขาก็กอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมแล้วรูดรั้งให้
แม่ง...ผมแทบขาดใจลงตรงนี้
“อาา อ๊ะ อ๊ะ ฮึ๊ พี่ พี่นิก เสียว อาา...า ฮื้มม”
“อืม” เขาครางงึมงำในลำคอเพราะริมฝีปากยังปรนเปรอผมไม่หยุด ก่อนที่เขาจะผละถอยราวกับได้เวลาแล้วที่จะใช้ไม้เรียวตีนักเรียนหัวดื้ออย่างผม ผมจึงรีบช่วยรูดซิบกางเกงให้เขาพลางสวมใส่เครื่องป้องกันที่ผมพกมาด้วย เสร็จสิ้นแล้วก็นอนลงยกขาขึ้นให้เขากระแทกกระทั้นได้ตามแต่ใจ
“แน่น...อาา อืมม” เขาว่าพลางกัดริมฝีปากเมื่อค่อยๆ สอดใส่เข้ามา เมื่อเข้ามาจนสุดแล้วเราต่างฝ่ายต่างก็หอบหายใจ ก่อนจะคลี่ยิ้มให้แก่กัน “ร้ายว่ะขวัญ หัดพกถุงยาง”
“ก็จะได้รักกับพี่นิกแบบทุกที่ทุกเวลาไงครับ อ๊าา ลึกจังพี่นิก” ผมว่าเสียงสั่นเพราะรู้สึกคับแน่นกับไม้เรียวของอาจารย์ธนิก “อาจารย์ธนิกครับ ขยับสักที กระแทกแรงๆ เลย...อ๊า!”
คุณธนิกแม่ง...ถึงใจจริงๆ กระแทกทีทำเอากระสันอยากเพิ่มขึ้น ยิ่งกระแทกรัวๆ ผมยิ่งจะขาดใจ
“เมียเด็ดขนาดนี้ ฮึ๊ อ๊าา..า ถ้ายังคิดจะแต่งงานอีก อ๊ะ อ๊ะ อาา..า ขอมีชู้ อื้ออ..อ พี่นิก แรงไปพี่”
“อย่าพูด” เขาว่าเสียงกระเส่า แววตาดุมองมาพลางเอวก็กระแทกเข้าออกช่องทางของผมระรัว “ห้ามมี ห้ามมีใครนอกจากพี่นะคนดี”
ผมไม่คิดนะว่าความตายคือสิ่งที่ควรจะมอบให้กับคนที่เกลียดชัง ผมไม่ค่อยอินกับประโยคที่ว่าเกลียดจนอยากฆ่าให้ตายเท่าไร เพราะความตายคือจุดสิ้นสุดของความทรมานและทำให้หลุดพ้นจากชีวิต ผมจึงไม่อยากให้คนที่ผมเกลียดต้องหลุดพ้น ธนิษฐาก็คงคิดเหมือนกับผมถึงได้ชอบทรมานให้คนที่เธอเกลียดชังตายทั้งเป็น การถือปืนไปยิงให้สิ้นเรื่องสิ้นราวคงไม่ได้รับความสะใจเท่ากับการปล่อยให้มีชีวิตอยู่ในนรก ธนิษฐาเป็นแบบนั้นถึงได้ทรมานแม่กับน้องชายของผม บอกตามตรงผมไม่ได้โกรธแค้นแต่ก็แค่อยากให้เธอได้รับรู้บ้างว่าการถูกทรมานเป็นอย่างไร ทว่าผมก็ไม่ร้ายพอจะส่งใครไปทำร้ายเธอ การสร้างบาดแผลทางร่างกายที่ไม่นานก็หายไม่ใช่เป้าหมายของผม
“พี่นิกจ๋า...พี่นิกเอาน้องแรงๆ เลย อื้ออ..อ ถึงใจน้อง”
คุณธนิกจะได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเขาต้องการอะไร พอถึงตอนนั้นอาจจะไม่ใช่ทรัพย์สมบัติก็ได้ที่เขาปรารถนา มิสเตอร์ทีก็ว่าผมไม่ได้หรอกในเมื่อข้อตกลงของเราไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน เราแค่เลือกข้างคุณธนิกเพื่อให้เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจยังไง เขาก็จะได้มันไป ผมยืนยันได้เท่านี้ ทว่าผมก็จะได้ในสิ่งที่ผมต้องการด้วยและผมตั้งใจจะเอามาให้ได้
ความทรมานใจของธนิษฐา...คือสิ่งที่ผมต้องการ
ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะทำได้ไหม เป้าหมายนี้ไม่ได้ชัดเจนมาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ได้เพิ่งเริ่ม ผมคิดมานานแล้ว นั่นเพราะเขมินทรา เพราะไอ้น้องโง่นั่นทำให้ผมต้องเพิ่มเรื่องยุ่งยากนี้ขึ้นมา
นั่นแหละที่ทำให้ผมชอบรายละเอียดระหว่างทาง เพราะมีเรื่องพลิกผันอยู่แทบทุกขณะ แต่ตอนจบก็ยังคงไม่เปลี่ยน ในเมื่อผมตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจบเรื่องแล้วผมจะไป ผมก็จะไปจริงๆ
“ขวัญ ขวัญ พี่จะ ซี๊ดดด..ดด ฮึ้มมม”
ถ้าผมเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมของคุณธนิก คุณธนิกก็จะเป็นให้ผมเหมือนกันและต่อให้เขาเป็นคิง ตัวเบี้ยอย่างผมก็จะรุกฆาตคิงให้ดู ราชินีจะได้หน้าหงายไปเลย
ผมมองคุณธนิกที่ซบหน้าลงกับอกผมพลางหอบหายใจหนัก ใบหน้าขาวของเขายังคงแดงก่ำ เหงื่อซึมชื้นตามไรผมแม้ห้องทำงานจะเย็นฉ่ำ เขาดูดยอดอกของผม ฝากรอยสีกุหลาบไว้บริเวณหน้าท้อง ก่อนจะตวัดลิ้นเลียน้ำขาวขุ่นของผมที่เลอะอยู่บนนั้น ในขณะที่ผมยกมือขึ้นลูบศีรษะของเขา “จะกินหมดเลยเหรอครับ”
“อืม จะไม่ให้เหลือสักหยด”
ภาพหยาบโลนตรงหน้าทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจ เจ้าชายได้กลายเป็นหมาเชื่องๆ ให้ชายขอทาน เวลาเหมาะสมแห่งการกำจัดเจ้าหญิงที่ถูกส่งมาคงมาถึงแล้วล่ะมั้ง เหลือแค่รอเวลาให้เจ้าหญิงเผยร่างแท้จริงออกมาผมจะได้เอากะลาทองคำฟาดหัวให้สลบไปทีเดียว
“พอแล้วครับ” ผมจับใบหน้าหล่อเหลาของเขาไว้ เพราะหลังจากที่เขาเลียชิมน้ำรักจนแทบไม่เหลือ ริมฝีปากของเขาก็ครอบส่วนอ่อนไหวของผม ขยับโยกหัวแล้วดูดดุนจนผมกระตุกสั่นไปทั้งร่าง “พี่ต้องไปประชุมต่อนะ”
เขาครางในลำคอ ปัดมือผมออกแล้วขยับโยกศีรษะขึ้นลง แกนกายของผมผลุบเข้าผลุบออกโพรงปากของเขา ในขณะที่แววตาคมก็ทอดมองมาเพื่อสังเกตสีหน้าของผม ผมเม้มริมฝีปากแน่นพลางสวนกายรับจังหวะ ครางอื้ออึงอยู่นานเพราะความช่ำชองของเขา ไม่คิดว่าจะใช้ลิ้นใช้ปากเก่งขนาดนี้ พาผมถึงสวรรค์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งดูดแรงยิ่งขยับเร็วก็ยิ่งรีดเค้นผมได้ดีเท่านั้น
เขาเก่ง...ลิ้นก็ดี เอวก็พลิ้ว
“สุดจริงพี่นิก อีกรอบนะพี่ คราวนี้บนโต๊ะทำงานพี่นะ เวลาพี่ทำงานจะได้นึกถึงตอนเสร็จในตัวผม”
เขมินทราบอกผมว่าเซ็กส์ที่ดีสามารถทำให้ลุ่มหลง เซ็กส์ที่ยอดเยี่ยมสามารถทำให้เสพติด ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้นักหรอก แต่ผมไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างความผูกพันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ว่าเซ็กส์จะทำกับใครก็ได้ คุณธนิกหาได้อีกเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องเป็นผมและผมก็ไม่ได้เก่งหรือยอดเยี่ยมเหมือนมิสเตอร์ทีที่ทำให้เขมินทราเสพติด แต่เพราะคุณธนิกรู้สึกกับผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมไม่กล้าใช้คำว่ารักเพราะเขายังไม่พูดออกมา แต่นั่นแหละ ถ้าไม่หลงตัวเองมากเกินไป ผมก็สำคัญกับเขาในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนั้น...มันก็ไม่ยากหรอกที่จะโจมตีจุดอ่อนของเขา
“เรานี่มันแสบจนพี่ใจสั่นเลยน้องขวัญ นี่จะไม่ให้พี่คิดเรื่องอื่นนอกจากเราเลยเหรอครับ”
ผมจะล่ามโซ่พี่...
“ครับ...ไม่อนุญาตให้คิด นอกจากคิดถึงผมคนเดียว”
ทั้งมือและเท้าจะถูกพันธนาการอย่างแน่นหนา...
“สดได้มั้ย”
ผมล็อกแม่กุญแจและโยนลูกกุญแจทิ้ง
“อื้ม มาสิครับที่รัก เข้ามาปล่อยในตัวผมนะ”
ต่อให้พี่จะดิ้นแรงแค่ไหน
“อาา..า ตัวแสบ แม่ง...ซี๊ดด ท่านี้ดี...”
ก็ดิ้นไม่หลุดหรอก...ที่รัก
.
.
.
Tuesday, 01:30 AM
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
ขวัญพัฒน์: โทษครับ ผิดแชท
NumNim: คะ?
NumNim: น้องขวัญ ต้องการอะไรคะ แล้วแอดไลน์พี่มาได้ยังไง
ขวัญพัฒน์: ไม่ต้องการอะไรครับ เพราะที่อยากได้ ได้มาแล้ว
NumNim: เหรอคะ
ขวัญพัฒน์: คุณนิ่มจะกลับวันไหนครับ ผมกับพี่นิกจะไปรับ
NumNim: ไม่เป็นไรค่ะน้องขวัญ เดี๋ยวพี่ไปเจอน้องขวัญ ตัวต่อตัวดีกว่า
ขวัญพัฒน์: ครับ มีเรื่องจะคุยอยู่พอดี
NumNim: คงต้องคุยกันเยอะเชียวค่ะ
ขวัญพัฒน์: ว่าแต่คุณนิ่มไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ ถ้าระหว่างที่ไม่อยู่ ผมจะขอกกตัวว่าที่เจ้าบ่าวของคุณนิ่มไว้ก่อน
NumNim: หน้าด้านก็ทำไปสิคะ
ขวัญพัฒน์: ไม่อยากทำหรอกครับ แต่พี่นิกนี่สิ ไล่ยังไงก็ไม่ไป แถมยังบอกอีกว่าจะไม่แต่งงานแล้ว อะไรนักหนาก็ไม่รู้
NumNim: เหรอคะ ตอแหลเก่งดีนะคะน้องขวัญ
ขวัญพัฒน์: เราก็พอกันนั่นแหละครับ แต่เรื่องแต่งงานผมพูดจริงนะ
ขวัญพัฒน์: Send a voice message.
ขวัญพัฒน์: ฟังเองดีกว่านะครับคุณนิ่ม หวังว่าคงจำเสียงพี่นิกได้ ไปแล้วนะครับ พี่นิกเรียกแล้ว สวัสดี
ผมวางโทรศัพท์พลางกลั้นหัวเราะ ป่านนี้เจ้าหญิงคงกำลังกลายร่างจนหัวลุกเป็นไฟ อกแทบระเบิดไปเลยล่ะมั้ง แต่ถ้าเทียบกับแผลเป็นขนาดใหญ่ข้างหลังของเขมินทราที่เกิดจากการถูกน้ำร้อนลวกด้วยฝีมือของเจ้าหญิงตามคำสั่งของราชินี ผมว่าก็คงแสบน้อยกว่าด้วยซ้ำ
“ทำไมยังไม่นอนครับตัวแสบ” คุณธนิกเอ่ยถาม เขาเพิ่งออกจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาอวดกล้ามอวดรอยสักจนผมอยากจะขึ้นคร่อมเขาอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่าวันนี้จัดกันยาวหลายยกแล้ว ตั้งแต่ที่ห้องทำงานของเขาเมื่อตอนใกล้เที่ยง ตอนเย็นก็ตั้งแต่ที่ขึ้นคอนโดฯ ของเขมินทรามาจนถึงเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน
“เล่นโทรศัพท์อยู่ครับพี่นิก” ผมตอบแล้วลุกขึ้นเดินไปหาเขา แผงอกกว้างน่าซบพราวไปด้วยน้ำ ผมกลืนน้ำลายลงคอมองด้วยใจสั่นไหว ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีมอาบน้ำจากตัวของเขาด้วย “ไม่เช็ดผมให้แห้งล่ะครับ มานี่มา ขวัญซาลอนจะจัดการให้”
ผมจูงมือเขาให้เดินตาม เขาก็ไม่อิดออด เดินมานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนผมก็หยิบไดร์เป่าผมออกจากลิ้นชัก เสียบปลั๊กแล้วเริ่มจัดการกับเส้นผมเปียกๆ ของเขาทันที
“ดูแลเก่ง” คุณธนิกมองผมผ่านกระจกเงา เราสบตากันในนั้นผมจึงยักคิ้วให้ “อยากให้ดูแลไปตลอดชีวิต”
“อยู่ให้ดูแลสิครับ คนอย่างขวัญพัฒน์ถึงไหนถึงกัน”
“ถึงใจพี่นิกมากด้วย” คุณธนิกชมพลางยกแขนขึ้นกอดเอวผมไว้หลวมๆ “เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำพี่แทบหมดตัว”
“แล้วชอบมั้ยครับ”
“ใช้คำว่าติดใจได้เลย”
“งั้นก็ไม่เสียแรงที่อ่านมาเยอะ” ผมคลี่ยิ้มกว้างตอบเขา ก่อนจะปิดไดร์เป่าผม “ผมยังมีอีกหลายวิธีจะลองกับพี่นิก อย่าเบื่อกันก่อนนะครับ”
“คำว่าเบื่อสะกดยังไงเหรอขวัญ” เขาถามพลางดึงผมไปนั่งบนตัก “กับขวัญแล้วพี่สะกดไม่เป็น”
ปากหวานจริงๆ ปากหวานจนน่าประกบด้วยปากให้แตก
“ว่าแต่พี่นิกชอบแบบไหนมากกว่า” ผมไล้นิ้วไปตามรอยสักของเขาพลางช้อนตาขึ้นมอง “น้องขวัญแบบใสๆ น่ารักหรือน้องขวัญแรงๆ ขี้ยั่ว”
“อืม” เขาทำท่าครุ่นคิด บีบจมูกผมก่อนจะก้มลงมาหอมแก้ม “เลือกยาก ใสๆ ก็หลง แรงๆ ก็ติดใจ”
“แล้วแบบไหนที่จะทำให้พี่นิกขาดไม่ได้”
“แบบขวัญ แบบที่ขวัญเป็น”
“จริงป่าว”
“ยืนยันแบบไหนได้บ้าง” เขาถามด้วยแววตากรุ้มกริ่ม “ทำแบบไหนน้องขวัญถึงจะเชื่อพี่นิก”
“แค่นอนเฉยๆ ขวัญก็เชื่อ” ผมตอบแล้วยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา “นอนเป็นของเล่นของขวัญ ให้ขวัญจัดการพี่นิก”
“อื้ม พี่ตามใจขวัญเลย”
“ลางานได้มั้ย” ผมเอียงคอมอง ตั้งคำถามแล้วรอคอยคำตอบ “มาลองอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงสักหนึ่งอาทิตย์ ไม่ต้องติดต่อกับใคร ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ อยู่ด้วยกันแค่สองคน”
คุณธนิกเลิกคิ้ว เขาทอดสายตามอง ไม่แน่ใจหรอกว่าเขาจะตกลงไหม เพราะอีกสามวันแม่ของเขากับคุณนิ่มจะกลับมา ถ้าเขาขาดการติดต่อคงเป็นเรื่องแน่ แต่ผมเตรียมการไว้ให้แล้ว
“ได้ครับ” เขาตอบรับอย่างที่ผมไม่คาดคิด “ตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ ดีไหม”
“ดีค้าบ” ผมยิ้มตาหยีให้เขา ในขณะที่เขารั้งผมเข้าไปกอด “แต่พี่นิกให้พี่โมดูแลขิมให้ดีด้วยนะ อย่างน้อยถ้าพี่นิกต้องลาหยุดหนึ่งอาทิตย์ ขวัญพัฒน์ก็ยังต้องอยู่ในบ้าน ถ้าเราหายไปพร้อมกันคงเกิดปัญหา”
“ก็ปล่อยมันเกิดไป”
“ว้าว ดับเครื่องชนแล้วเหรอ”
“ก็พี่อยากอยู่กับขวัญ” คุณธนิกบอกเสียงแผ่ว “ขวัญเก่งมากแล้ว จากกระต่ายน้อยขนฟูเป็นเสือยั่วสวาท ไม่มีอะไรน่าห่วง”
“งิ้ง ชมเค้าหลอ”
คุณธนิกหัวเราะกับเสียงสองของผม ก่อนจะยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ “อยากชมตั้งแต่ออรัลให้พี่โคตรถึงใจ พี่เกือบหัวใจวายตาย”
“เค้าทำเก่งมากกว่านั้นอีก เจ็ดวันนี้พี่นิกนอนเฉยๆ ได้เลย เค้าจัดให้พี่นิกเอง”
หลังเจ็ดวันนี้ พี่เกมโอเวอร์แน่พี่นิก ผมจะงัดทุกความยั่วบนโลกใบนี้มาลงโทษพี่
“พี่แทบจะรอไม่ไหว” สีหน้าของคุณธนิกเป็นตามที่พูดจริงๆ เขาหน้าแดงหูแดงไปหมด คงกำลังจินตนาการถึงภาพหยาบโลนอยู่แน่ๆ
“ลาหยุดก่อนมั้ย บอกว่าพี่ไปทำธุระต่างประเทศก็ได้” ผมเตือนถึงสิ่งที่เขาต้องทำเป็นอันดับแรก
“ประเทศไหนดี” เขาขอความเห็น
“ประเทศที่มีชื่อว่าสวรรค์อะ นั่งเครื่องบินก็ไปไม่ถึง ต้องนั่งน้องขวัญเท่านั้น ถึงแน่นอน”
“โอ๊ยยย น้องงง” คุณธนิกถึงกับซุกหน้ากับไหล่ของผม สีหน้าที่อยากตีแต่ก็ข่มไว้เพราะความเอ็นดูทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆ
“หรือให้น้องขวัญนั่งดีน้า น้องขวัญนั่งเทียนเก่ง เทียนพี่นิกยิ่งชอบ บดๆ วนๆ ขึ้นสุดลงสุด”
“สงสารพี่บ้าง” คุณธนิกอ้อนวอน “โดนรีดน้ำจนจะหมดตัวแล้วครับ”
“บริการซักรีดให้ไว้ใจน้องขวัญ”
“ทำทุกอาชีพเนอะ”
“ความสามารถพิเศษจ้ะ อาชีพเมียพี่นิกยิ่งถนัด”
คุณธนิกดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มพลางเลิกคิ้วยียวน “คนไหนเมียพี่”
“น้องขวัญคนนี้ไง” ผมชี้เข้าหาตัวเองพลางฉีกยิ้มกว้าง “ให้เป็นป่าว”
“ไหนเรียกผัวสิครับ”
พอเขาพูดด้วยเสียงหล่อๆ แววตากรุ้มกริ่มพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างนี้แล้ว ใบหน้าที่คิดว่าอัพเลเวลความหนาขึ้นก็ยังต้องเห่อร้อน
“เรียกสิคนดี”
“ง่า...ผะ...”
แม่มึงเอ้ยยยย! พูดไม่ออกโว้ย! ขอพลังความด้านจงสถิตย์อยู่กับผม
“เรียกให้ฟังหน่อยที่รัก” เขาจู่โจมรุนแรงแล้วคราวนี้ เป็นในเกมคงขึ้นเกมโอเวอร์ตั้งนานแล้ว ผมนี่ทั้งหน้าทั้งหูคงแดงไปหมด คนหัดด้านนี่หลุดฟอร์มง่ายจังวะ “ผัวน้องขวัญอยากฟังน้องขวัญเรียก”
“พี่นิกอะ แกล้งผม”
คุณธนิกหัวเราะเสียงดังลั่น พอเห็นหน้างอๆ ของผมก็ก้มลงมาจูบแก้มอย่างเอาใจ “น้องขวัญก็ยังเป็นน้องขวัญ จะแสบแค่ไหน ก็ยังเป็นเด็กดีของพี่ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้พี่ถูกใจ น้องขวัญเป็นแบบที่ต้องการนั่นแหละดีแล้ว”
“พี่นิกกกกก”
ผมแพ้เขาอีกแล้ว ช่วงเวลาแบบนี้ราวกับผมได้เห็นดอกไม้ที่สถานีรถไฟแห่งนั้นเบ่งบาน แต่ผมรู้ว่าสักวันดอกไม้ก็ต้องแห้งเหี่ยวโรยราไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นผมจะรีบเด็ดมันขึ้นมาก่อนที่ความสวยงามจะหมดไป เด็ดเอามาสต๊าฟไว้เก็บใส่ในกล่องแห่งความทรงจำ
*****************************