ตอนที่ 33
เซียน
เตรียมพบกับนายท่านและกล้าหาญถ่ายแบบปกนิตยสาร QGG พร้อมไลฟ์สดถามเรื่องความรักแบบหมดเปลือก!
วันนี้พบกับนายท่านและกล้าหาญตอนบ่ายสองโมงที่งานดนตรีเปิดหมวก ณ ลานพาร์คเกอร์ สยาม
เวลา 20.00 น. พบนายท่านและกล้าหาญที่งานเปิดตัวหนังเรื่อง Call me by your soul "เหี้ยอะไรเนี่ย" ผมร้องลั่นเมื่อผมเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในโลกโซเชียล
"เซียน ช่วยด้วย กูเพิ่งรู้เมื่อเช้า" ไอ้กล้าใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว "กูไม่รู้ว่าแม่นายท่านจะให้กูออกงานแบบนี้"
"มึง...ทำไม่ได้" ผมอยู่กับมันมาทั้งคืน รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้แม่งเข้ากันไม่ได้กับวงการบันเทิงมากมายขนาดไหน แม่นายท่านก็อาจจะรู้ดีด้วย...แต่ไม่รู้ทำไมท่านถึงได้ขยี้ความรู้สึกความเพื่อนผมแบบนี้ "มึงทำไม่ได้หรอก มึงตายแน่ไอ้กล้า"
"ใช่ กูทำไม่ได้"
"..."
"กูนึกว่าสัมภาษณ์แค่นั้นจะจบ...แต่มันไม่จบ"
"เอาไงดี" ผมเดินไปเดินมาทั้งๆ ที่ผมอยู่ในชุดนอน ตอนนี้ผมกับไอ้กล้าได้เป็นเจ้าของห้องนายท่านที่บ้านมันทั้งคู่เลยครับ เพราะมันโดนไอ้กล้าไล่ตะเพิด...ไม่ใช่ ผมล้อเล่น มันถูกไอ้กล้าขอนอนคนเดียว มันก็เลยเลือกที่จะเสียสละไปนอนห้องพักแขกแทน แทนที่มันจะมานอนห้องของมันแล้วให้พวกผมไปนอนห้องพักแขก
มันคงอยากเอาใจแฟนเต็มที่เท่าที่จะเอาใจได้นั่นแหละ...
"มึงต้องไปไฟต์" ผมสรุปออกมาในที่สุด "เป็นเมียคนอื่นแล้วก็จริงแต่มึงห้ามอ่อนแอ ดึงวิญญาณกล้าหาญบอยที่เป็นหัวโจกเหี้ยอะไรนั่นออกมา"
"ยังไงวะ"
"งานแบบนี้...มันบังคับฝืนใจกันไม่ได้เว้ย คนเราไม่ได้โง่ถึงขนาดดูกันไม่ออกว่าใครโดนบังคับไม่โดนบังคับ"
"จริงของมึง"
"มึงไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ไปบอกแม่ไอ้นายท่านเลย"
"ปัญหามีอยู่อย่าง" กล้ามันซุกหน้าลงกับฝ่ามืออย่างคนจนตรอก "กูกำลังซื้อใจแม่นายท่านอยู่ ถ้ากูไม่ยอมทำ กูจะได้ใจเขาได้ยังไง"
"โอย..." ผมไม่รู้จะช่วยมันยังไง "วันหลังกูขอให้มันคบไอ้ตง...หรือไม่ก็ใครบางคนที่ไม่ใช่นายท่าน ถ้าชีวิตมึงจะยุ่งยากขนาดนี้ล่ะก็นะ"
"ไม่ได้ว่ะ...ยังไงก็ต้องทำ"
"มึงไม่คิดว่ามันแปลกๆ บ้างเหรอวะ"
"คงเป็นระเบียบอะไรสักอย่างของวงการนั่นแหละ กูไม่รู้ห่าอะไรหรอก"
"..." ผมมองมันอย่างสงสาร
"นายกองเรียกว่านรกขุมที่สอง เมื่อวานคือนรกขุมที่หนึ่ง"
"มึงจะทำจริงๆ เหรอวะกล้า" ผมที่รู้จักมันมานานเริ่มถามมันอีกครั้ง "ยิ่งมึงออกสื่อ...ความเป็นส่วนตัวของมึงก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ นะ"
"กูไม่มีความเป็นส่วนตัวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีคนมาด่ากูฟรีๆ นั่นแหละ"
"มึงแน่ใจนะว่าแม่นายท่านไม่ได้แกล้งมึง"
"กูไม่รู้เลยว่ะ"
"..."
"เหมือนเขาก็ทำไปในแบบของเขา...เขาบอกว่ากระแสเป็นอะไรที่ต้องเลี้ยงเอาไว้ กูกับนายท่านกำลังเป็นที่พูดถึง พวกแม็กกาซีน พวกสื่อต่างๆ อยากได้ตัวกูสองคนมาก" มันหันมามองหน้าผม "ไม่แน่อาจจะช่วยรณรงค์กระแส LGBT ในไทย...อันนี้แม่พูดนะ แต่กูไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร"
"แป๊บ" ผมกดกูเกิ้ลแล้วเสิร์ชดู ทันทีที่ผมผลลัพธ์โผล่ขึ้นมา ผมก็ถึงบางอ้อทันทีว่ามันหมายความว่ายังไง "แม่นายท่านคงอยากลบภาพเรื่องที่คนไปด่าว่าไม่ยอมรับพวกรักเพศเดียวกันน่ะ"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โดนด่า" กล้าเบิกตาโพลง
"เมื่อคืนวาน...หลังจากนายท่านตอบคำถาม"
"เฮ้อ"
"มันแปลกๆ ที่ต้องมาใช้ลูกชายกับมึงมาเป็นตัวเลี้ยงกระแสเนี่ย โอ้ย ยิ่งคิดกูก็ยิ่งอยากเป็นบ้า มึงพาตัวเองมาอยู่ในเรื่องอะไรแบบนี้วะกล้า...เราสองคนเป็นเด็กเสดสาดกากๆ นอนตีพุงเล่นเกมอยู่หอไม่ดีกว่าเหรอ"
อีกฝ่ายเงียบแฮะ...นัยน์ตาของมันสั่นระริกซะจนผมรู้สึกว่าผมพลาดที่ไปจี้ใจดำมัน
"โอเค กูเข้าใจละ ความรักแม่งห้ามกันไม่ได้"
"..."
"คนที่มึงรักเสือกเป็นคนสาธารณะ กูกับมึงจะทำอะไรกันได้อีก"
"กูจะไปต่อรอง" กล้าลุกพรวด เดี๋ยวนี้มันปีกกล้าขาแข็งกับคุณแม่ของนายท่านมาก อาจเป็นเพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในทีมเดียวกัน และก็ต้องช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคตรงนี้ไปให้ได้ "ขอไปทำแค่บางงาน ทำหมดทุกงานกูไม่ไหวจริงๆ กูไม่อยากออกสื่อขนาดนั้น"
"วันนี้สามงานหรือเปล่า"
"ห้า"
"เชี่ย กูเห็นแค่สาม"
"มีงานที่ต้องถ่ายเก็บไว้ ยังไม่ออกสื่อ"
"มึงต้องสู้นะ" ผมให้กำลังใจมัน
"เออ"
"..."
"แล้ววันนี้มึงจะทำอะไร"
"รอทิมโทรมา" ผมบอกมันตรงๆ "กูกับทิมต้องจัดการเรื่องของปาวฟัน ในช่วงเวลาที่มึงกับนายท่านกำลังยุ่งหัวหมุน"
"..."
"มึงไปออกงานคนเดียวไหวนะ"
"กูอยู่กับแฟน" มันตอบ
"แฟนที่มึงไม่ยอมนอนด้วยเมื่อคืนอ่ะนะ"
กล้าไม่ตอบ...ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันคิดอะไรในใจบ้าง จึงได้แต่มองมันเดินออกไปจากห้องด้วยความหนักอกหนักใจ
หลังจากนั้นไม่นานทิมก็โทรมาหาผมพอดี มันนัดแนะบอกสถานที่กับผมอย่างเสร็จสรรพว่ามันจะไปเจอปาวฟันที่ไหน ผมส่งข้อความบอกไอ้กล้าว่าผมมีธุระที่จะไปทำ และผมก็ขอให้มันโชคดีกับงานที่ไม่ควรจะเป็นงานของมันเลย
ร้านที่ทิมนัดผมไว้เป็นร้านกาแฟที่สวยสดงดงาม เหมาะกับการถ่ายรูปและเช็กอินเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าคนที่เลือกร้านนี้น่าจะเป็นพราวฝันแน่ๆ ไม่น่าจะใช่ทิม เพราะถึงแม้ว่าทิมจะเป็นคนชอบถ่ายรูปและก็อัพรูปลงไอจี แต่สถานที่แห่งนี้แม่งไม่ใช่สถานที่ที่ตรงกับสไตล์คนอย่างทิมเลยสักนิด
วันนี้มันมาในชุดน้อยแต่มากที่แท้จริง...แม้ว่าจะเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนขาดๆ แฟชั่นธรรมดา แต่ผมรู้ว่าราคาของมันคงซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้เกือบสองคัน แล้วถ้ารวมรองเท้าด้วยล่ะก็...ผมคิดว่าน่าจะซื้อได้เกือบสามคัน
"พี่มองอะไร" ทิมถามเมื่อเราสองคนนั่งอยู่ด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง เพื่อรอให้ปาวฟันมานั่งอยู่อีกฝั่ง แม้ทิมบอกว่ามันคือการนัดเดต แต่จริงๆ แล้วเราทั้งคู่ต้องการที่จะคุยกับผู้หญิงคนนี้ตรงๆ พร้อมกันต่างหาก
"มองคนที่กูชอบไง" ผมตอบเรียบๆ
"ถามจริง"
"กูก็ตอบจริง"
"..."
"นี่มึงไม่คิดจะใจอ่อนให้กูสักหน่อยเหรอ"
"คำพูดของพี่ก็ยังฟังดูบังคับผมเหมือนเดิม"
"กูไม่ได้...คิดจะบังคับมึงตลอดสักหน่อย" หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้...ผมยังมีแก่ใจที่จะพูดเรื่องนี้ครับ คนอย่างเทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์นั้นเป็นห่วงเพื่อนมากก็จริง แต่มันก็เป็นห่วงตัวเองด้วย "มึงลองเป็นแฟนกูดูดิ กูจะทำให้มึงเป็นคนที่โชคดีที่สุด"
"เอ่อ..." สีหน้าของทิมไม่ใช่ปฏิกิริยาที่ผมหวังจะได้เห็น มันดูลังเล งุนงง และก็สับสน
"มึงไม่ได้ชอบกูเหมือนกันใช่มั้ย" ผมไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าบวกขนาดนี้...นี่ถ้ามันตอบรับว่ามันไม่ได้ชอบผมเหมือนกันจริงๆ ผมไม่แย่เลยเหรอ
"มาแล้ว" เสียงผู้หญิงทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามทำเอาผมกับทิมต้องผละออกจากกัน "นี่ใครน่ะทิม"
"เทพเซียน...เอ็กซ์เอ็กซ์" ผมตอบคนที่ชอบส่งข้อความมาด่าเพื่อนผม
"ฝันนึกว่าเราจะมาเจอกันแค่สองคน" ปาวฟันกอดอก
"เรามีเรื่องจะคุยด้วย" ทิมรวบรวมสติกลับมาคุยกับผู้หญิงได้ดีมาก
"เรื่อง?"
"เลิกส่งข้อความไปก่อกวนพี่กล้าซะ"
ผู้หญิงทำท่าสะอึกนิดหน่อย "ท่านใช้ให้ทิมมาคุยกับเราเหรอ"
"ไม่ เรามาของเรากันเอง"
ปาวฟันตวัดสายตามามองผม "พี่คงเป็นเพื่อน...พี่กล้า" เธอดูกระดากปากที่จะเรียกเพื่อนผมว่าพี่
"ใช่" ผมตอบ
"..."
"ทำแบบนั้นมันดูนางร้ายมากๆ เลิกทำซะ"
มือของปาวฟันที่วางบนโต๊ะสั่นระริก...ผมรู้ครับว่าผู้ชายสองคนอย่างผมกับทิมไม่ควรที่จะมาพูดจาแบบนี้กับเธอเพราะจะทำให้เธอเจ็บปวด แต่ทำยังไงได้...เราทั้งคู่เป็นห่วงเพื่อนเรา และสองคนนั้นก็มีเรื่องให้กังวลมากกว่าเรื่องนี้อยู่แล้ว
"น้องเป็นคนสวยนะ พี่เห็นครั้งแรกพี่ยังตะลึงเลย" ผมพยายามพูดปลอบเธอในสไตล์ของผม "ไอ้ท่านมันหล่อมากก็จริง แต่คนหล่อแบบนั้นมันมีอยู่ถมไปบนโลกใบนี้...พี่นี่แหละคนนึง"
ทิมกระทุ้งสีข้างผมเพราะผมเพิ่งทำลายบรรยากาศไป
"ฝันก็แค่..." ปาวฟันเริ่มพูดไม่ออกบอกไม่ถูก "ไม่รู้สิ ฝันอาจจะรู้สึก...อิจฉา"
การที่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดตรงๆ กับผมแบบนี้แปลว่าเธอกำลังเริ่มเปิดใจให้ผมใช่มั้ย...ทิมพยักเพยิดให้ผมพูดต่อไป
"เล่าให้พี่ฟังได้นะ เรื่องที่ฟัน..." เธอมองหน้าผม "เอ๊ย ฝันเล่าในวันนี้ พี่จะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟัง ทิมเองก็เหมือนกัน"
"พี่กล้าไม่เห็นจะดีตรงไหน" แค่ประโยคแรกที่เธอเริ่มเปิดฉากพูดก็เล่นเอาผมเริ่มมีไฟเกิดขึ้นตรงกลางใจ...โห น้อง นั่นเพื่อนพี่นะครับ "เตี้ยก็เตี้ย หน้าตาก็งั้นๆ ไม่มีอะไรเหมาะสมกับนายท่านเลยสักนิด
"ท่านมันต้องเหมาะกับคนแบบไหนเหรอ" ทิมเอ่ยบ้างเพราะมีการเมนชั่นถึงชื่อของเพื่อนมัน
"ก็...คนสวยๆ"
"ถามจริง...คนหล่อถูกสร้างมาเพื่อคู่กับคนสวยเท่านั้นจริงๆ เหรอ โลกเรามันกว้างกว่านั้นนะเว้ยฟัน เอ๊ย ฝัน" ผมคือตัวทำลายบรรยากาศตัวจริงนี่หว่า
"ไม่รู้สิ ถ้าท่านชอบคนอื่น ฝันอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้"
"พี่จะเล่าให้ฟัง" ผมจัดแขนเสื้อตัวเองเพื่อขยับตัวได้สะดวกมากขึ้น "ไอ้กล้ามันผิดที่เคยเทนายท่าน แต่ใครบ้างที่ไม่เคยทำผิด มันอยู่กับความรู้สึกผิดมาสองปีเต็มๆ ไม่เคยมีวันไหนที่มันไม่เอ่ยหรือไม่คิดถึงเรื่องนายท่านเลย ไม่เลยจริงๆ"
"แต่ว่า..."
"ฝันลองคิดดูสิ การที่คนหล่อๆ ที่โคตรเพอร์เฟ็กต์อย่างนายท่านมารักฝังใจกับคนอย่างเพื่อนพี่ แสดงว่าเพื่อนพี่มันต้องมีอะไรดีถูกมั้ย ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ฝันปลื้มหรือคิดว่ามันเหมาะกับนายท่าน แต่เรื่องใจและความรู้สึก...พี่เชื่อว่ามันพร้อมที่จะทุ่มเทให้นายท่านสุดตัว"
"ฝันเริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วนะคะที่พี่เทพเซียนอะไรเนี่ยต้องมาพูดแทนพี่กล้าแบบนี้"
"ถ้าฝันได้ดูข่าวฝันก็น่าจะรู้...สองคนนั้นมันไม่มีเวลามาจัดการเรื่องนี้หรอก"
"เชื่อเราเถอะนะฝัน" ทิมช่วยพูดอีกแรง "ไอ้ท่านมันไม่เคยโกรธฝันเลย มันก็อาจจะมีเคืองบ้างเรื่องที่ฝันส่งข้อความไปก่อกวนพี่กล้า แต่เชื่อเราเถอะ...มันทำใจโกรธฝันจริงๆ ไม่ได้สักครั้ง"
น้ำตาของปาวฟันเริ่มรื้นที่ขอบตา...ผมเริ่มหาอะไรมาจับทันทีเพราะผมรับมือกับน้ำตาผู้หญิงไม่ค่อยได้ เข่าของทิมได้รับความซวยไปเต็มๆ แต่โชคดีที่มันไม่ได้สนใจที่จะปัดออก
"ฝันเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ท่านมันวางใจและสนิทมากที่สุด มันรู้ว่าฝันคิดอะไรกับมันและการที่มันปฏิเสธอาจจะทำให้มิตรภาพของมันกับฝันพังลง...มันรักพี่กล้ามากก็จริง แต่มันก็ให้ความสำคัญกับมิตรภาพที่มันมีต่อฝันเหมือนกัน"
เอาล่ะ...มันไม่ใช่แค่ผู้หญิงมีน้ำตาปริ่มขอบตาแล้ว...เพราะตอนนี้เธอคนนี้กำลังร้องไห้ออกมาอย่างไม่เกรงใจสายตาของคนอื่นที่มองมาที่เธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมบีบเข่าของทิมแน่นขึ้น
"ฝันมีความสุขมั้ยตอนที่มันอยู่กับฝัน"
"แน่นอน เรามีความสุขสิ"
"ท่านมันเป็นเพื่อนที่ดีใช่มั้ย...มันเป็นเพื่อนช็อปปิ้ง เป็นเพื่อนฝันไปที่นั่นที่นี่ได้"
"ใช่" เสียงของปาวฟันสั่นเครือ "เราเป็นคนมีเพื่อนน้อย ตอนที่เราอยู่กับนายท่าน...เราก็เลยรู้สึกว่าเรามีความสุขจริงๆ"
"ไม่แปลกหรอกที่ฝันจะชอบมัน...แต่เราอยากให้ฝันลองคิดใหม่ ถ้าฝันก่อกวนพี่กล้าแฟนมันไปเรื่อยๆ บางทีฝันอาจจะเสียเพื่อนอย่างไอ้ท่านไปเลยก็ได้"
ริมฝีปากของปาวฟันกระตุก...
"ลองคิดดูดีๆ นะ เรากับนุกเป็นเพื่อนฝันช็อปปิ้งได้ไม่ดีเท่าไอ้ท่านนะ"
"..."
"เรากับมันปลอบฝันเวลาที่ฝันมีปัญหากับที่บ้านเหมือนที่ไอ้ท่านทำไม่ได้นะ"
ผมเหลือบมองไอ้ทิม...สิ่งที่มันพูดล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความจริงใจเต็มเปี่ยม ผมไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะมีมุมที่มีเหตุมีผลขนาดนี้ สงสัยการแต่งตัวสตรีตหรือฮิปฮอปไม่ใช่การบ่งบอกนิสัยทุกอย่างจริงๆ
"แฟนท่านจะยอมหรือไง" ปาวฟันแค่นหัวเราะ "รายนั้นเขาเกลียดเราจะตาย"
"มันแค่หึงน่ะ" ผมพูด "มันไม่ใช่คนใจร้ายอะไรหรอก เชื่อพี่สิ"
ปาวฟันไหล่ตก...หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองอย่างน่าสงสาร "ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาร้องไห้ในร้านกาแฟแบบนี้ ทุเรศสิ้นดี"
ผ้าเช็ดหน้าจากมือไอ้ทิมถูกส่งไปอีกผืน...ผมที่ไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าจึงหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะส่งไปให้ปาวฟัน เธอส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นเราก็ปล่อยให้เธอร้องไห้ต่อไปเงียบๆ
"สองคนนี้ก็เป็นแฟนกันเหมือนสองคนนั้นหรือไง" เธอถาม
"ไม่ใช่" ทิมรีบตอบ
"ยังไม่ใช่" ผมส่ายหน้าพรืด
ปาวฟันเลิกคิ้วแล้วมองผมอย่างจับผิด "พี่จีบทิมล่ะสิ"
"ใช่" ผมตอบทันควัน "มันจีบยากฉิบหาย...ยังไม่ยอมใจอ่อนเลยเนี่ย"
"เดี๋ยวนะ" ปาวฟันทำหน้าฉุกคิด "เมื่อสองสามวันก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกว่าทิมคบกับหมอที่เรียนมอเดียวกันนี่"
เหมือนมีค้อนจากเทพเจ้าธอร์ฟาดลงมากลางกบาลของผม...ผมรีบมองหน้าทิมทันทีเพราะผมอยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ทิมไม่ได้สบตาผม...มันหยิบกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม ผมจึงหันไปถามปาวฟันอีกครั้ง
"เรื่องจริงใช่มั้ย"
"เอ่อ..." ปาวฟันหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย "ขอตัวไปทำใจก่อนนะคะ"
เมื่อผู้หญิงเดินจากไป...สายตาของผมจึงตวัดมามองไอ้ทิมอีกรอบ
"หมายความว่ายังไง"
"..."
"มึงคบกับไอ้ไตเติ้ลแล้วเหรอ"
การพยักหน้าน้อยๆ ของทิมทำเอาโลกทั้งใบของผมพังครืนลงมา...นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมปรารถนาที่จะรับรู้หรือได้ยิน...ทิมกับไอ้หมอไตเติ้ลเนี่ยนะ เรื่องจริงดิ?
ผมมันไม่ดีตรงไหน...
ไอ้เหี้ยนั่นมันดีกว่าผมตรงไหน!
"พี่เซียน"
เสียงร้องเรียกของทิมไม่ได้ทำให้ผมอยากหันกลับไปแม้แต่นิดเดียว...
"พี่เซียน เดี๋ยวก่อน!"
ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่...โง่มากๆ ที่หลงคิดไปเองว่ามีโอกาสจีบทิมติด...แต่แล้วในที่สุด...ทิมมันก็เสร็จคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าไปจนได้
แม่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง...
ผมทำผิดตรงไหน ผมมันเหี้ยตรงไหน...ทำไมทิมถึงไม่ชอบผม
ทิม
'วันนี้กล้าอาจจะไม่ค่อยพร้อมกับการให้สัมภาษณ์นะครับ ขอโทษด้วย'
'น้องท่านคะ ขออีกหนึ่งคำถามค่ะ'
'ครับ'
'การที่น้องกล้าออกงานแบบนี้แปลว่าน้องกล้าเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดของค่ายเอสเอ็นแล้วใช่มั้ยคะ'
'ไม่ใช่ครับ!'
'อ้าว'
'เราแค่มาตามที่เราถูกรับเชิญมาเท่านั้น นี่ไม่ใช่การจ้างงานอะไร'
'แล้วถ้ามีการจ้างงานในอนาคตเกิดขึ้นล่ะคะ น้องกล้าจะมีผู้จัดการมั้ยหรือว่าน้องกล้าจะเซ็นสัญญากับค่ายเอสเอ็นไปเลย'
'กล้าจะไม่มีวันเป็นนักแสดงในสังกัดของแม่ผมครับ ขอโทษด้วย'
'น้องท่านคะ'
'ผมไม่ตอบแล้ว!'
นุกกดปิดไลฟ์สดของช่องข่าวบันเทิงช่องหนึ่งในเฟซบุ๊ก
"ท่านเดือดสัด กูไม่เคยเห็นมันโกรธขนาดนี้" นุกพูด "พี่กล้าก็น่าสงสาร...ทำหน้าเหมือนโคตรอยากกลับบ้าน"
"..."
"เชี่ยทิม"
"..."
"ไอ้เหี้ยทิม มึงฟังกูอยู่มั้ยเนี่ย"
"หา"
"ท่านมันเดือด เท้าของมึงก็เดือดเนี่ย มึงจะเดินให้พื้นบ้านกูทะลุหรือไง" นุกบ่นออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว "เป็นห่าไรวะ กูเห็นมึงเดินไปเดินมาแบบนี้ตั้งแต่บ่ายแล้วนะ เกิดอะไรขึ้น เรื่องพราวฝันจบไม่ดีหรือไง"
"ไม่รู้ เขาขอเวลาทำใจ"
"ก็อาจจะดีก็ได้" นุกจ้องเขม็งมาที่ผม "แสดงว่าไม่ใช่เรื่องของฝันที่มึงเครียด"
ผมทิ้งตัวลงนั่ง จากนั้นก็ขยับขาไปมาอย่างบ้าคลั่ง "พี่เซียนว่ะ"
"ทำไม"
"เขาเพิ่งรู้ว่ากูคบกับพี่ไตเติ้ลแล้ว"
"เดี๋ยว!" ไอ้นุกร้องเสียงดังลั่น "มึงไปตกลงคบกับพี่หมอคนนั้นตอนไหน!"
"..."
"ท่านมันรู้หรือยัง!"
"โอย หูกูจะแตก" ผมเอามือปิดหู
"ทำไมพวกกูไม่รู้เรื่อง!"
"ถ้ามึงรู้เหตุผลแล้วมึงจะฮา"
"กูฮาไม่ลงหรอก"
"พี่มันตื๊อมากเลยเว้ย" ผมเริ่มเล่าให้มันฟัง "เขาขอกูคบเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมั้ง เอาแต่ถามกูอยู่นั่นว่าเมื่อไหร่จะให้คำตอบ แล้วพอกูมึนๆ เบลอๆ กูก็เผลอตอบไปว่าอืม...คราวนี้เป็นไง กูเลยซวยยาว"
"เชี่ยยยยยย" นุกอ้าปากค้าง "แบบนี้ก็มีเหรอ"
"เออ"
"แล้วมึงร้อนใจอะไรเนี่ย"
"ก็...เอ่อ..." ผมบอกมันไม่ค่อยถูก "พี่เซียนรู้แล้วน่ะสิ"
"พี่เขาเป็นยังไง"
"เดินออกจากร้านไปเลย...ไม่ยอมพูดอะไรกับกูเลย"
"เหี้ยเอ๊ย เอามือถือมึงมา" นุกเอื้อมมือมาขอมือถือจากผม
"มึงจะทำอะไร"
"โทรหาพี่ไตเติ้ลน่ะสิถามได้"
"หา"
"มึงต้องบอกพี่เขาไปตรงๆ ว่ามึงไม่ได้ชอบพี่เขา มึงชอบพี่เทพเซียน"
"เฮ้ยยยยย"
"สาด มองจากดาวศุกร์ก็รู้ว่ามึงชอบพี่เขา ถ้ามึงไม่ชอบพี่เขานะ มึงไม่ร้อนใจตลอดทั้งบ่ายหรอก..."
ผมเอาเท้าเขี่ยพรมบ้านไอ้นุกไปมา "พี่เขา...ขี้บังคับนะ"
"สัด กูจะบอกอะไรให้" ไอ้นุกดูปวดหัวกับผมมากๆ "มึงชอบไปกระตุ้นต่อมพี่เขาไง อะไรที่พี่เขาไม่ชอบ มึงเสือกทำหมด...พี่เซียนเขาเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว การที่เห็นมึงทำอะไรที่เขาไม่ชอบ เขาก็ต้องทำในสิ่งที่มึงไม่ชอบเหมือนกัน"
"ไอ้นุก กูคบกับคนนี้แล้วกูจะไปรอดเหรอวะ"
"..."
"นั่นเสือแห่งเศรษฐศาสตร์เลยนะ"
"มึงใช้สมองคิดไปเพื่ออะไร ในเมื่อใจมึงคิดไปถึงไหนต่อไหนกับพี่เขาแล้วก็ไม่รู้"
"นุก"
"มึงชอบพี่เซียน"
"กู..."
"มึงชอบพี่เซียน มึงยอมรับกับกูมาตรงๆ"
"กูไม่..."
"เฮ้ย! พี่เซียนโทรมา"
"ไหน!" ผมรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์ผมนั้นยังคงปกติอยู่ ผมก็แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ของผมใส่หน้าไอ้นุก
"นี่ไง ชัดขนาดนี้...มึงยังจะหนีหัวใจตัวเองทำไมอีก" นุกส่ายหน้าให้ผมเบาๆ "มึงคบกับพี่ไตเติ้ลนานเท่าไหร่แล้ว"
"สองวันก่อน" ผมเล่า "กูยุ่งๆ กับเรื่องไอ้ท่านและก็พี่กล้าเพราะกูวางแผนจะมาคุยกับฝันนี่ไง กูก็เลยมึนๆ เบลอๆ บอกตอบตกลงพี่เขาไป"
"เฮ้อ" นุกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งใส่มือของผมใหม่ "อย่าเอาความรักมาทำเป็นเรื่องเล่นๆ มึงไม่ชอบ มึงไม่โอเค มึงชอบคนอื่น มึงก็ควรจะบอกพี่เขาตรงๆ"
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ
"มึงอาจจะโอเคกับพี่หมอไตเติ้ล แต่ใจมึงไม่ได้บอกแบบนั้นนะ...มึงแคร์พี่เซียนมาก ถึงแม้ว่าพี่เขาจะไม่ตรงกับคนที่มึงชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ใจมึงอ่ะไปอยู่กับพี่เขาแล้วมากกว่าครึ่ง"
"ก็ได้ๆ กูจะโทรไปคุยกับพี่ไตเติ้ลก็ได้"
"ก็แค่นี้"
"..."
"เลือกเอานะว่ามึงทำให้ใครเสียใจแล้วมึงจะไม่เจ็บ พี่หมอไตเติ้ลหรือว่าพี่เซียน"
ถึงแม้ว่าผมจะมัวแต่ขลุกอยู่กับไอ้นายท่าน แต่มันก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าไอ้นุกก็เป็นเพื่อนอีกคนที่รู้จักผมมากที่สุดเหมือนกัน ผมพยักหน้าเป็นเชิงตกลงปลงใจว่าจะจัดการโทรไปบอกเลิกพี่หมอไตเติ้ล ซึ่งผมก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกันว่าผมคบกับพี่เขาได้ยังไง
หรือมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...
แล้วตอนนี้...พี่เซียนจะไปอยู่ไหนแล้วนะ
[ มีต่อนะคะ]