Twenty-eight
(ห.) : เหล้า (หลงใหล)
[สระ]“แล้วมึงมาอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่เหงาเหรอวะ?”
ผมถามไอ้ปอนด์ หลังจากทั้งวันที่เราหมดเวลาไปกับการเล่นเกมด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้แข่งกันเองมานาน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะนั่งคุยไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันแบบจริงๆ จังๆ ได้สักที
ไอ้ปอนด์บอกว่ามันซิ่วกลับมาเรียนกรุงเทพฯ เพราะคณะที่มันลงไม่คลิกกับตัวมันเท่าไหร่ จากเด็กรัฐศาสตร์ของมหา’ลัยทางเหนือ เลยกลายมาเป็นเด็กนิเทศฯ ของมหา’ลัยในกรุงเทพฯ แทน คนละสายกันเลยไอ้ห่าเอ๊ย
“ทำไงได้ล่ะวะ แม่ก็ดันย้ายไปเป็นครูที่อีสานปีนี้พอดี แต่กูโตแล้วแม่เลยไม่ห่วงอะไรเท่าไหร่ บอกแค่ว่าอย่าเข้าร้านเหล้าบ่อยนัก”
“แม่มึงรู้อะดิว่ามึงมันสายน้ำเมา แดกเหล้าเก่งงง” ผมแซว เลยโดนมันแย่งแก้วในมือไป
“ไม่ต้องแดกละ กวนตีน”
“เอ๊าเฮ้ย! ไม่ได้ดิวะ เหล้ากู!”
แย่งแก้วเหล้ากันไปมาแบบไม่จริงจังนัก สุดท้ายไอ้เพื่อนเก่าก็ยอมคืนให้ผม แถมยังรินเหล้าเพิ่มให้อีกต่างหาก...หลังชนแก้วกันไปหนึ่งกิ๊ง ไอ้ปอนด์ก็เปิดปากเล่าเรื่องราวชีวิตของมันต่อ
“ตอนเรียนที่นู่นก็ดีนะมึง รถไม่ติดเหมือนที่นี่ อาหารก็แปลกใหม่ เพื่อนก็อู้กำเมืองกันเยอะอยู่ แต่ก็มีพวกเด็กจากภาคอื่นไปเรียนด้วยเหมือนกัน นี่นะ กูมีเพื่อนมาจากใต้ด้วย เวลามันแหลงใต้กูโคตรชอบไปนั่งฟัง สำเนียงแม่งอย่างเท่”
“เออๆ กูก็เคยเจอเพื่อนในสาขาเป็นคนใต้ ชอบเหมือนกัน เป็นภาษาที่มีเสน่ห์มาก”
“แต่ภาษาเหนือกับอีสานก็มีเสน่ห์นะมึง ตอนเพื่อนอีสานพูดรัวๆ กับแม่มันกูก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ฮะๆ” ไอ้ปอนด์ยิ้มชอบใจ ก่อนจะหันไปชวนไอ้นะคุยบ้าง เพราะวันนี้แฟนผมแทบไม่พูดอะไรเท่าไหร่ ไม่เชิงว่าอึดอัดหรอกผมดูออก แต่เหมือนมันจะไม่อยากขัดจังหวะการรำลึกความหลังของผมกับเพื่อนมากกว่า “แล้วนะล่ะ เป็นคนกรุงเทพอยู่แล้วใช่ปะ?”
“อ๋อ ใช่ ตั้งแต่เกิดก็อยู่ที่กรุงเทพไม่เคยย้ายไปอยู่ที่อื่นหรอก”
“เจอรถติดตั้งแต่เด็กไม่เบื่อบ้างเหรอ?”
แฟนผมพยักหน้ารับ “เบื่อดิ ตอนอายุได้แปดเดือนยังเคยบ่นกับแม่เลยว่าทำไมไม่พากูไปเกิดที่ต่างจังหวัด ออกจากโรง’บาลกว่าจะนั่งรถถึงบ้าน นอนในอ้อมแขนแม่จนเมื่อยตัวไปหมด”
“ไอ้เหี้ย แปดเดือนคิดได้ขนาดนั้นเลยนะ”
แล้วเราสามคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันดังลั่นบ้าน ได้ตบมุกกันพอขำขันก็ดูเหมือนแฟนกับเพื่อนเก่าของผมจะผ่อนคลายกันมากขึ้น หลังจากนั้นเลยชนแก้วกันโครมๆ แล้วในที่สุดก็ถึงจุดที่ดื่มต่อไม่ไหว
ช่ายยย เมาครับ ไอ้นะกับไอ้ปอนด์เมาแล้วแหละ
“กูว่าถึงเวลาต้องกลับแล้วแหละว่ะ”
“หือ?” ไอ้ปอนด์ผงกหัวขึ้นจากโต๊ะ เหลือบมองนาฬิกาที่ข้างผนังด้วยตาลอยๆ ถามดีกว่าว่าแม่งมองออกไหมเข็มสั้นเข็มยาวชี้เลขไหน เมาขนาดนี้ “รีบกลับ...ไปหนายวะ เพิ่งเที่ยงเอง”
“เที่ยงคืนเถอะไอ้สัด”
“หราวะ อึก” ไอ้เพื่อนเก่านั่งหน้ามึน ก่อนจะชี้ส่งๆ ไปทั่ว “นอนบ้านกูกะด้ายย มีห้องว่างน่า”
ผมนิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าจำยอมเพราะดูท่าจะให้หิ้วไอ้นะขึ้นแท็กซี่มันค่อนข้างจะลำบากเกินไป ไม่ได้คิดว่าจะมาเมาหยำเปกันด้วยนี่สิ
“ห้องไหนนอนได้บ้างวะ”
“ข้างบนๆ ห้อง...ที่มีสติกเกอร์บาร์บี้ติดอยู่”
“บาร์บี้?” ผมได้ยินผิดหรือเปล่าวะน่ะ
“เออออ บาร์บี้งายยย ห้องลูกพี่น้องพี่กู แต่มันย้ายออกไปตั้ง อึก แต่หลายปีก่อนแล้ว”
“ลูกพี่ลูกน้องไหมล่ะ ลิ้นพันแล้วไอ้เชี่ยปอนด์ มึงก็ไปนอนได้แล้วไป”
“เออๆ เจอกานพรุ่งเน้นะ”
ผมมองส่งไอ้เพื่อนเก่าเดินเกาะราวบันไดขึ้นไปห้องนอนของมัน ลุ้นอยู่ทุกย่างก้าวว่ามันจะลื่นขั้นบันไดแล้วไหลลงมากองด้านล่างหรือเปล่า แต่พอเห็นมันขึ้นไปจนได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ผมก็เลยเบาใจแล้วหันมาให้ความสนใจคุณแฟนของผมต่อ
“นะ คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกัน”
“หือ อือ” พยัญชนะปรือตามอง ผงกหัวยึกยักแล้วยอมขยับตัวตามแรงพยุงของผม
“ค่อยๆ ก้าวนะมึง บันไดๆ”
กว่าจะพาคนมาขึ้นมาถึงชั้นบนก็เล่นเอาเหนื่อยจนหอบ ถึงผมจะตัวเล็กกว่ามันนิดหน่อยแต่เรื่องน้ำหนักมันเยอะกว่าผมเป็นสิบโลเห็นจะได้ ผมมีแรงลากมันขึ้นมาทั้งที่ตัวเองก็ดื่มไปตั้งเยอะเนี่ยโคตรนับถือตัวเองแล้วครับ
“ห้องบาร์บี้ๆ” พึมพำพลางมองหาห้องที่ว่าไปด้วย ก่อนจะมาเจอเอาสุดทางเดิน อ่า สติกเกอร์รูปยัยผู้หญิงผมทองหน้าตาน่ารักแปะหราอยู่กลางประตูเลยแฮะ เชื่อแล้วว่าชอบมาก
“อืมมม”
“นะอย่าลากเท้าดิวะ เดินดีๆ ก่อนน เตียงอยู่ไม่ไกลแล้วโว้ย!”
คนเมาดูจะให้ความร่วมมือมากขึ้น ผมค่อยโล่งใจหน่อยว่าแฟนผมไม่ได้เมาจนไร้สติอะไรมากมายขนาดนั้น พอมาถึงเตียงเลยทิ้งตัวใหญ่ๆ ของมันลงไปโดยไม่สนว่ามันจะเจ็บไหม เพราะตอนนี้ผมหนักมาก จะตายแล้วครับ แอร๊ก!
ตุบ!
“เหวอออ” ผมร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ก็ถูงวงแขนแกร่งลากลงไปนอนด้วย หลับตาปี๋ตอนที่ใบหน้ากระทบเข้ากับแผ่นอกอีกฝ่าย “โอ๊ยยย เจ็บนะเว้ยไอ้นะ~”
“กอดกัน”
“กอดอะไรวะ เหนียวตัวเว้ย”
โวยวายไปก็เท่านั้นเพราะไอ้คนเมาไม่ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ มีแต่จะกอดแน่นขึ้นแล้วยังถูแก้มที่มีตอหนวดบางๆ ไปตามข้างแก้มและลำคอของผมอีกต่างหาก เจ็บนิดๆ แต่ออกไปทางจั๊กจี้มากกว่า แต่ถ้ามันยังไม่เลิกเป่าลมหายใจร้อนๆ ใส่ใบหูผมล่ะก็ จากแค่จั๊กจี้จะกลายเป็นรู้สึกอย่างอื่นแทน
“หอม”
ผมมุ่นคิ้ว “หอมอะไรของมึงครับแฟน ตัวมีแต่กลิ่นเหงื่อกับกลิ่นเหล้า”
“หอมกลิ่นตัวมึง” มันตอบเสียงพร่าอยู่ข้างหู แถมยังจุ๊บลงมาอีกต่างหาก เล่นเอาผมย่นคอหนีแทบไม่ทัน ขนลุกอะ! จะกอดจะหอมไม่ว่าแต่อย่าทำตรงจุดที่มันอ่อนไหวง่ายดิวะ “ทำได้ปะ”
กึก
นิ่งครับ อึ้ง ตะลึง ตัวแข็งค้างไปแล้วตอนนี้!
มะ เมื่อกี้มันบอกว่าขอทำเหรอวะ? ใช่...ใช่ไหมวะ ผมไม่ได้หูฝาด?
“มึง...ว่าไรนะ?” เพื่อความแน่ใจขอถามอีกครั้งก่อนครับ
ไอ้นะพลิกผมลงไปนอนด้านล่าง ดวงตามันปรือปรอยฉ่ำน้ำ ดูมีสติพอๆ กับไม่มี แต่มันก็ยังพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ “อยากแดกมึงแล้วอะ ขอแดกวันนี้เลยได้มั้ย”
“อะ...” หน้าร้อนวาบขึ้นมาซะเฉยๆ หลังจากที่ได้ยินชัดแล้วเต็มสองหู
“ให้กูทำได้ไหมสระ”
มากระซิบถามน้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้ แล้วผมมีเหตุผลอะไรจะไปปฏิเสธมันได้อะครับ ฮื่อ “ก็ทำดิ ไม่...ไม่ได้ห้ามซะหน่อย กูเคยบอกแล้วนี่”
“งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะ”
ไม่เกรงใจจริงๆ ครับ เพราะหลังจากนั้นมันโน้มหน้าลงมาจูบปากผมอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่จูบนุ่มนวลเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันร้อนแรงและดูดดื่มกว่าเดิมมาก ปลายลิ้นที่แทรกเข้ามาในปากทำให้ผมใจสั่น มือไม้ไม่รู้จะไปไว้ตรงไหนเลยได้แต่กอดคอมันเอาไว้หลวมๆ
“อืม”
ฝ่ามือร้อนสอดไล้ผิวกายใต้เสื้อของผม สะกิดเขี่ยเม็ดกลางอกเหมือนหยอกเล่น แต่การกระทำของเขากลับทำให้ผมสะท้านไปทั้งร่าง อารมณ์วูบไหวจุดติดขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเหมือนกองไฟที่ได้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันชั้นดี
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เราจูบกัน ลูบไล้กันไปมา กระทั่งในที่สุดทั้งร่างของเราก็ไร้เสื้อผ้าชิ้นใดปกปิด แสงสว่างในห้องยิ่งทำให้ผมได้เห็นทุกอย่างของไอ้นะ ทั้งร่างกายแข็งแรง ไลน์กล้ามเนื้อสวย ผิวสัมผัสที่มือผมลากผ่านให้ความรู้สึกดี เหมือนที่ไอ้นะเองก็กำลังทำให้ผมรู้สึกวูบไหวไปทั้งตัวเพราะมือร้อนๆ ของมัน
ตัวตนของเราเสียดสีกันไปมา กระตุ้นเร้าจนความแข็งขืนลุกชัน ความกระสันอยากเข้าจู่โจมจนหัวใจสั่นรัวอยู่ในอก ปากเราจูบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมชอบจูบของไอ้นะ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แม้ไม่พูดออกมา แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน
“อึก นะ...ไอ้นะ”
“อือ” คนถูกเรียกครางแผ่วในลำคอเป็นการตอบรับ ปากก็พรมจูบไปทั่วแผ่นอกของผม มือเลื่อนไปกอบกุมความต้องการของเราที่ผงาดกล้า รวบเอาไว้และเสียดสีกันไปมา
ผมหอบหายใจ กระสันจนแทบบ้า ปัดมือหนาออกไปแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมคุณแฟนแทน ไอ้นะยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่...ผมคิดว่านะ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีสติมากพอจะจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของผมด้วยดวงตาที่เป็นประกายตื่นเร้า
ผมขยิบตาให้อีกฝ่าย ได้รับเสียงหัวเราะตอบกลับมา ก่อนลมหายใจไอ้นะจะสะดุดเมื่อผมเคลื่อนตัวลงต่ำ จนข้างแก้มแนบอยู่กับแก่นกายของมัน
“สะ...สระ อย่าได้คิดที่จะ...อึก!”
ผมเลิกคิ้ว อยากถามว่าอีกฝ่ายคิดจะพูดอะไร แต่ปากผมดันไม่ว่างซะแล้วนี่สิ
ปลายลิ้นแตะไล้ไปตามความยาว ก่อนรับทั้งหมดเข้าปากอย่างทุลักทุเล ผมไม่เคยออรัลให้ใครมาก่อน แน่สิ นี่น่ะแฟนผู้ชายคนแรกของผมนะเว้ย ถ้าเผลอกัดเข้าไปไอ้นะจะสูญพันธุ์ไหมวะ
“อ่า ระวังฟัน” ไอ้นะครางเสียงแผ่วในลำคอ มือหนาวางลงบนหัวผม แทรกปลายนิ้วเข้ามาในเส้นผม ลูบสลับขยุ้มเบาๆ ตามแรงอารมณ์ที่ได้รับ “เด็กดี อย่างนั้นแหละ”
ผมชะงัก...เด็กดีเนี่ยนะ?
เป็นคำที่อาจจะหลุดออกมาจากปากคุณแฟนของผมโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้ง แต่น่าแปลกที่มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก ความร้อนรุ่มกลางกายปวดร้าวไปหมด แต่ผมรู้ว่าคืนนี้เราจะไม่จบกันแค่ใช้มือหรือปาก
“หยุดก่อน สระ กูจะ...แฮ่ก จะเสร็จ”
ผมยอมปล่อยให้ท่อนเนื้อร้อนผ่าวได้เป็นอิสระ ยอมทิ้งตัวลงนอนแทนที่อีกฝ่ายตามการชักนำ ไอ้นะจูบหนักๆ ที่ริมฝีปากผมก่อนจะผละหายไปข้างเตียง คว้าหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตังค์ที่เหน็บเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วเพียงไม่นานผมก็ได้รู้ว่ามันเอาอะไรออกมา
เจลหล่อลื่นแบบซองกับถุงยางอนามัย
หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกันนั้นหัวใจพลันเต้นรัวแรงจนแทบคลั่ง นี่ผมกับไอ้นะกำลังจะ...กันจริงๆ เหรอวะ? อยากจะบ้าตาย ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น แต่ก็กลัวด้วยเหมือนกัน ถึงงั้นผมก็ไม่หยุดหรอก มาถึงขั้นนี้แล้วนี่หว่า
พยัญชนะบีบเจลก่อนป้ายลงมาที่ช่องทางด้านหลังของผม เคล้าคลึงปากทางอย่างใจเย็นและอ่อนโยน สายตาของมันจับจ้องมองผมตลอดเวลาเพื่อดูว่าผมพร้อมจะรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ และผมก็ทำเพียงแค่มองมันตอบ เม้มปากหอบหายใจ เผลอเกร็งตัวสลับกับผ่อนคลาย
กระทั่งไอ้นะเห็นว่าผมใจเย็นลงแล้ว มันถึงค่อยๆ สอดแทรกปลายนิ้วเข้ามาด้านในอย่างเชื่องช้าใจเย็น แต่แม้ว่ามันจะอ่อนโยนมากแค่ไหน ผมก็ยังรู้สึกเจ็บเสียดปนอึดอัดแปลกๆ อยู่ดี
“ไหวหรือเปล่าสระ”
ผมหอบอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ “อือ ไหว”
หนึ่งนิ้วกลายเป็นสองและสามไล่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่เสียดๆ ก็กลายเป็นรู้สึกวูบวาบอย่างน่าประหลาด กระทั่งปลายนิ้วแข็งแรงสะกิดเข้ากับจุดหนึ่งด้านใน ทำให้ผมเผลอหลุดเสียงร้องอกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ...
“อ๊า!” เราทั้งคู่ต่างพากันชะงัก ไอ้นะขยี้ที่จุดเดิมซ้ำและทำให้ผมบิดเร้าอย่างห้ามไม่ได้ “พอ อย่าจี้ดิ...วะ!”
“รู้สึกดีก็บอก”
“เออ!” ผมตอบรับ หน้าร้อนผ่าวอีกครั้ง “มัวแต่พูดมาก รีบๆ ทำเข้าดิ”
“ถ้ารีบก็ไม่สนุกสิ”
ไอ้นะก้มลงมาจูบผมอีกครั้งในตอนที่ถอนนิ้วออก ขาผมถูกรั้งให้อ้าออกกว้างกว่าเดิมเพื่อรอรับบางอย่างซึ่งใหญ่กว่า ไอ้นะยุกยิกอยู่กับการสวมใส่ถุงยาง กระทั่งเสร็จสิ้น ความร้อนผ่าวก็แตะที่ปากทางของผม ตัวตนแข็งขึงดุนดันเข้ามาทีละนิด แต่ทำให้ดวงตาผมพร่าเบลอไปชั่วขณะ
บรรยายความรู้สึกตอนนี้ไม่ออกเลยอะ มันจุกมาก ฮื่อ
“ไหวไหมสระ” ไอ้นะถามอีกครั้ง แช่กายเอาไว้แค่เพียงส่วนหัว มันไม่กล้าดันตัวเข้ามาให้ลึกไปมากกว่านี้เพราะกลัวผมเจ็บ และนั่นทำให้ผมโคตรจะรักมันเลย “อย่าโกหก พูดออกมาตรงๆ เลย”
ผมส่ายหน้า “นิดหน่อย แต่กูทนไหว”
“แน่ใจนะครับ?”
“อื้อ เข้ามา...อึก เถอะ ขยับสิ เร็วเข้า”
ผมเร่งเร้า และแฟนผมก็ดีใจหาย ยอมผลักดันตัวตนเข้ามาลึกขึ้นจนสุดกาย ความใหญ่โตของมันสอดลึกเข้ามาก่อนถอยห่าง ขยับเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจังหวะเนิบช้าจะกลายเป็นรัวแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเสียงหยาบโลนของเนื้อกระทบเนื้อที่สอดประสานไปกับเสียงครางสั่นพร่าแหบต่ำของสองเรา
ความรู้สึกดีโบยบินไปทั่วร่างของผม เสียวซ่านไปทั้งสรรพางกาย แม้เริ่มแรกจะอึดอัดชวนให้ไม่อยากไปต่อ แต่ในเวลาต่อมามันก็ช่างดีเหลือเกิน...ดีจนผมแทบบ้าตาย
ไอ้นะก็ยังเป็นไอ้นะ มันอ่อนโยนกับผมเสมอแม้ในตอนที่เอวสอบกระแทกกระทั้นเข้ามาเร็วแรง บดขยี้ความกระสันของผมจนได้แต่นอนหอบหายใจ หยัดสะโพกขึ้นตอบรับแรงกระทำอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“ดี ดีมากเลย” มันพูด โน้มลงมาจูบซับไปทั่วใบหน้าผม
ผมกอดเกี่ยวร่างกายอีกฝ่ายเอาไว้ จูบตอบกลับไปและกระซิบถ้อยคำที่วนเวียนในหัวอยู่ตลอดเวลาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกัน “รักมึง รักมึงไอ้นะ กูรักมึง”
ผมปลดปล่อยความต้องการออกมาจนเอ่อล้อเลอะเทอะ เผลอบีบรัดความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแน่น ได้ยินเสียงกัดฟันหอบครางของไอ้นะอยู่ข้างหู ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความอุ่นบางอย่างที่แผ่ซ่านอยู่ในตัว
เหงื่อซึมไปทั่วผิวกายเราสองคน เสียงกระซิบแผ่วพร่าดังขึ้นที่ข้างหู...
“มึงทำให้กูหลงใหลมึงไม่หยุดเลยสระ”
ผมเลิกคิ้ว เม้มปากยามเมื่ออีกฝ่ายถอนกายออกไป ก่อนเตรียมรับบทรักครั้งใหม่ เพราะไอ้นะรูดรั้งแก่นกายของตัวเองอีกครั้ง หวังปลุกเร้ามันให้กลับมาตื่นตัว...แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าครั้งเดียวมันไม่พอ
ไม่เหลือแล้วคนเมาที่ผมลากขึ้นมานอน มีแต่คนที่คิดจะมอบความรักให้ผมไม่รู้จบในค่ำคืนนี้
“กูก็หลงใหลมึงมากเหมือนกันแหละไอ้นะ”
_________________________________
ไม่หวือหวาเท่าไหร่ แต่อยากให้เห็นว่าเขารักกันแบบอบอุ่นอ่อนโยนนะคะ แฮ่ ใกล้จบแล้วสิ ใจหายเหมือนกันน้า อีกสามตอนจะพยายามเข็นมาให้ได้อ่านไวๆ ค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ //ส่งจุ๊บ