หลานคุณย่า ตอนพิเศษ วาเลนไทน์
[/size]
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ร้านเค้กเล็กๆ ของผมคราคร่ำไปด้วยคู่รัก เป็นบรรยากาศที่ดูแล้วสดชื่น มีความสุขไปกับเขาด้วย ผมทำเค้กมือเป็นระวิง น้องๆ ในร้านก็แทบจะไม่ได้พัก แต่คนที่ดูไม่ค่อยจะสบอา รมณ์ ก็คือผู้ชายตัวโตที่นังหน้ายักย์อยู่ข้างๆ ผมนี่แหละ จนมินที่ทำงานอยู่ข้างๆ ไม่กล้าจะคุยเล่นด้วยเลย ปกติคุณคิณจะขี้เล่น ทำให้น้องๆ ผ่อนคลาย ซื้อนู่นซื้อนี่มาฝากประจำ
"พี่พายสงสารคุณคิณจัง" เจ้าเด็กข้างๆ เอ่ยขึ้น
"สงสารเรื่องอะไร" ผมหันไปมองหน้าคุณคิณที่เอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์
"คุณคิณอยากไปเดทกับพี่รึเปล่าครับ จะกลับก่อนก็ได้นะ มินดูต่อให้เอง” ผมจะทิ้งให้น้องๆ ทำงานได้ยังไง ในเมื่อตัวเองเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องอยู่ช่วยกันสิ
"ไม่ๆ ทำต่อเลย ไม่ต้องห่วงพี่หรอก" ผมเดินเข้าไปหาคุณคิณที่นั่งหน้าเซ็งๆ เล่นโทรศัพท์
"เป็นอะไรครับหน้าบูดเชียว" ผมเดินเข้าไปจับมือคุณคิณเบาๆ คนตัวโตเงยหน้ามามองผมแค่แป๊บเดียว ก่อนจะก้มลงไปเล่นโทรศัพท์ต่อ
"เรามีเรื่องต้อยคุยกันนะครับ" ผมดึงมือเขาให้เดินตามออกไป "ฝากทำให้ก่อนนะหมูน้อย"
"ฮะ"
ผมจูงมือคุณคิณขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งมีห้องว่างอยู่อีกห้องถูกจัดให้เป็นห้องพักผ่อน ถ้าน้องๆ คนไหนไม่สบายก็ขึ้นมานอนได้
"จะไม่พูดกันหน่อยเหรอครับ" ผมดึงคุณคิณให้นั่งลงบนเตียงนอน ก่อนที่ตนเองจะแทรกเข้าไปนั่งบนตัก มือบางโอบคอคนหน้างอไว้หลวมๆ
"......."
"พายบอกแล้วไงว่าวันนี้เป็นวันทำเงิน ถ้าปิดร้านน้องๆ ก็จะไม่ได้พิเศษเยอะะแบบนี้" ร้านเค้กที่ไหนๆ เขาก็เปิดวันนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นเทศกาลพิเศษที่ทำเงินได้ดี แถมน้องๆ ในร้านยังได้ทิปจากลูกค้าเยอะอีกด้วย
"แค่เงินพิเศษ ผมจ่ายเองก็ได้" เสียงนี่ห้วนไปนะครับคุณคิณ
"อย่าพาลครับรู้ว่าบ้านรวย"
"ก็พายไม่ให้ความสำคัญกับผมนี่ ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันของคู่รัก" ท่าทางกระเง้ากระงอดนี่ไม่เข้ากันเลยกับคนตัวโต แต่ขี้ใจน้อย
"จะให้พายรักคุณวันเดียวใช่ไหม วันอื่นไม่รักก็ไม่เป็นไร" ผมแกล้งพูดกับคนที่ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กเลยครับ
"แต่วันนี้มันวันพิเศษไงครับ ก็อยากทำอะไรพิเศษๆ กับพายบ้างนี่นา" เขาเปลี่ยนสีหน้า ทำเสียงอ้อนผมแล้วครับคราวนี้
"คุณคิณทำตัวเหมือนเด็กเลย จะให้พายทำยังไงครับ บอกมาสิ" ถามความคิดเห็นเขาหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่ให้ความสำคัญ
"ไปดินเนอร์กันตอนเย็นสองคนนะครับ" ยิ้มบางๆ ให้กับผมเมื่อเสนอความคิดเห็น
"พายทำกับข้าวให้ทานทีคอนโดดีไหมครับ" ผมยื่นริมฝีปากบางๆ จูบที่ปลายคางคนขี้งอน เพื่อให้หายจากความน้อยใจ ผมย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับคุณคิณสักระยะแล้วหลังจากที่เราแต่งงาน
"ก็ได้" ตอบรับไปงั้นแหละคนเรา ไม่ได้เต็มใจใช่ไหม
"พายขอโทษที่ไม่มีเวลาให้คุณเลย" ผมยื่นหนาเข้าไปใกล้ ยืดตัวขึ้นนจุ๊บร่างแกร่งอีกที
"ไม่เป็นไรครับ แค่ได้อยู่แบบนี้กับพายก็ดีแล้ว" น้ำเสียงนี่น่าสงสารสุดๆ แล้วครับ ไม่รู้ว่าน้อยใจจริงๆ หรือแกล้ง เพราะปกติคุณคิณจะเป็นคนเจ้าเล่ห์
"คุณคิณน่ารัก"
"หึๆ น่ารักอะไรล่ะครับ ถ้าพายก็ว่าไปอย่าง" คุณคิณหอมแก้มผมแรงๆ หลายที ผมก็ไม่คิดจ ะห้ามหรอก ปล่อยให้เขาทำไปครับ สงสารคุณคิณจัง
"ออกไปข้างนอกกันครับ ถ้ายังอยู่แบบนี้อีก ผมต้องจับพายกินตอนนี้แน่ๆ เลย" สงสัยจะหายงอนขึ้นมานิ๊ดนึงแล้วมั้ง
"คุณคิณ" สายตาเจ้าเล่ห์จริงๆ เลยผู้ชายคนนี้
จนเวลาล่วงเลยเข้าช่วงเย็นลูกค้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลง แต่ผมบอกให้มินทำเค้กเพิ่มอีกนิดหน่อย เพราะไม่อยากปิดร้านดึก ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ผมก็หันไปดูคุณคิณตลอด เขาช่วยน้องๆ เสริฟด้วย ท่าทางที่คนตัวโตทำแม้ว่าจะไม่เงอะงะเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็ยังเก้ๆกังๆ อยู่ไม่น้อย ดูเหมือนว่าคนตัวโตจะเป็นที่สนอกสนใจของสาวๆ จริงๆ ทั้งที่แต่ล่ะคนมากับบรรดาหนุ่มๆ ของตนเองทั้งนั้น
จากที่ตอนแรกสงสารตอนนี้เริ่มจะหมั่นใส้แล้ว คนของเราก็เป็นอกเป็นใจยิ้มหน้าบานจนอยากจะเข้าไปดึงหูให้ยานสักที่ดีไหม แต่ก็ต้องอดทนครับเวลางาน เดี๋ยวลูกค้าตกใจ ผมยืนช่วยน้องๆ ตักเค้กเสริฟให้ลูกค้า
“สตรอเบอรี่ชีสเค้กหนึ่ง ช็อคโกแลตลาวาหนึ่ง แล้วก็น้ำสตรอเบอรี่ปั่น กับคาปูชิโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” เสียงบริกรหนุ่มดังขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คุณคิณตัวดีของผมนี่เอง
“หน้าบานไปรึเปล่า” ผมแอบแขวะคุณคิณไปที
“เปล่านี่ครับ ก็บริการลูกค้าจะให้ทำหน้าบึ้งได้ยังไง”
“ที่นั่งงอนทั้งเช้านี่คงไม่ได้อยากเดทกับพายแค่สองคนหรอก สงสัยอยากจะออกมาส่องสาว” คราวนี้ผมประชดคุณคิณครับ แต่สงสัยคนตัวโตจะร้อนตัวเลยรีบเข้ามาด้านในเคาเตอร์ วานให้สองไปเสริฟแทน
“รักพายขนาดนี้จะอยากมองใครที่ไหนล่ะ มองพายคนเดียวก็พอแล้ว” คุณคิณทำตัวน่ารักแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมมีทีท่าว่าจะเริ่ม
โกรธหรืองอนเขาจะง้อทันที ไม่ว่าตัวเองจะผิดหรือเปล่า แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมกลัวใครมาแย่งไปได้ไงล่ะ
“ครับๆ” ผมหันไปยิ้มให้คุณคิณเพราะไม่อยากให้เขานอยด์มากกว่านี้ วันนี้เขาก็คงผิดหวังมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“รักพายนะครับ” เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูจนผมหน้าร้อนผ่าว
“แหมๆ หวานกันจังเลยนะฮะ ไม่อายลูกค้าเลยว่างั้น” น้องบราวเอ่ยแทรกขึ้นมา ก่อนที่ผมกับคุณคิณจะหันไปดูลูกค้าว่ามีใครเห็นไหม แต่โชคดีที่มีฉากกั้น ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเห็นได้
“ถ้าจะหวานขนาดนี้กลับไปก่อนก็ได้นะคะ” เปรี้ยวนี่ถึงกับแซว ผมอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่คนข้างๆ นี่ยิ้มแป้น
“พี่พายกลับไปก่อนก็ได้ จะได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันไง” เด็กๆ ทุกคนลงความเห็นว่าให้ผมกลับก่อน เพราะสงสารคุณคิณ ผมก็เลยต้องจำยอม แต่ก็ไม่ลืมที่จะกำชับน้องๆ ให้เก็บของให้เรียบร้อย ไม่ให้กลับดึก หรือถ้าไม่มีรถก้เบิกเงินนั่งรถแท็กซี่ก็ได้ ส่วนเงินทิปค่อยให้เด็กๆ ทั้งสามคนมาแบ่งกันวันหลัง บราวนี่ มิน แล้วก็ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินส่วนนี้ น้องๆ จะเอามาหยอดรวมกันไว้ในกล่องทิป ไม่มาเถียงกันว่าคนไหนได้เยอะได้น้อยกว่ากัน เด็กทุกคนนิสัยดี น่ารัก
****************************
กลับถึงคอนโดก็เกือบสามทุ่ม แวะทานข้าวข้างนอกกันมา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นร้านหรู ดินเนอร์ใต้แสงเทียน แต่ผมก็มีความสุข ผิดแผนนิดหน่อยที่ตอนแรกว่าจะทำอาหารให้คุณคิณแต่มันดึก เราจึงแวะทานที่ร้านอาหารเลยง่ายดี
“อาบน้ำก่อนไหมครับพาย” คุณคิณเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนของเราสองคน
“ครับ คุณคินอาบพร้อมพายไหม” ผมถามออกไปแล้วครับ จากที่คิดอยู่นานว่าทำแบบนี้จะดีไหม ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมา น้อยครั้งมากที่เราสองคนจะอาบน้ำด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็จะโดนคุณคิณบังคับมากกว่า
“ล้อเล่นรึเปล่าครับ” ร่างสูงเดินมาหาผมด้วยความตกใจ
“จะอาบไหมครับ ถ้าไม่....” คนตัวโตเอ่ยสวนขึ้นทันทีเลยครับคราวนี้ไม่มีลังเลว่าได้ยินผิดหรือเปล่า
“อาบๆ ครับ” คุณคิณช้อนตัวอุ้มเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำ ก่อนที่จะผสมครีมอาบน้ำลงไปจนเกิดฟอง ผมมองการกระทำของคนที่ชอบเอาใจใส่ผมตลอดอย่างมีความสุข
“มาแช่ได้แล้วครับพาย”
“ครับ”
ผมเริ่มที่จะผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน นั่งหลับตาอย่างสบายอารมณ์ในอ่างที่น้ำอุ่นๆ ช่วยให้คลายความเมื่อยขบได้ดี
“นวดให้นะครับ” คุณคิณขยับมือมาจับที่ไหล่ผมทั้งสองข้าง ก่อนที่จะเข้ามานั่งซ้อนด้านหลัง มือหนาค่อยๆ นวดอย่างเบามือ จนผมเคลิ้ม
“สบายจังเลยครับ” ผมพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตา ไอร้อนจากตัวของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปถาม
“คุณคิณไมสบายรึเปล่าครับ ทำไมตัวร้อน” สายตาที่พราวระยับตอนนี้ทำให้ผมรู้แล้วว่าคิดผิดที่หันมาสบตากับเขา มือหนาจับมือบางของผมไปสัมผัสกลางกายที่กำลังค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นมาทีละน้อย
“ตรงนี้ไม่สบายครับ” มือหนายังบังคับให้มือของผมรูดขึ้นรูดลงไอ้หนอนน้อยที่กำลังกลายร่างป็นมังกรยักษ์ในไม่ช้า
“คะ..คุณคิณ” สัมผัสกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยชินสักที
“ได้ไหมครับ รักษาให้คิณหน่อย” เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหู ปลายลิ้นร้อนไล้วนลงมาตามซอกติ่งหู ขยับมาจนถึงสันกราม จนตอนนี้ร่างกายของผมก็เริ่มที่จะมีอาการไม่ต่างกัน
“ได้ไหม หือ..คนดี”
“อือ...ครับ” แค่คำตอบรับของผมก็เป็นสัญญาณให้คนตรงหน้าเดินหน้าปฏิบัติการปลิดวิญญาณผมต่อแล้วครับ
“อ๊ะ...อือ” ผมร้องครางออกมาเมื่อคุณคิณเริ่มสัมผัสส่วนกลางกายที่กำลังบ่งบอกว่าต้องการๆปลดปล่อยไม่ต่างกัน มือหนารวบกลางกายเราสองคนเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะขยับรูดรั้งให้เกิดความเสียว ปนกับความสุขสม ปากหนาก็ยังทำงานได้ดีประสานกับการทำงานของด้านล่าง
จูบหนักหน่วงสลับกับเบาราวกับปุยนุ่น ทำให้ผมแทบลอยคว้างกลางอากาศ รู้สึกดีจนยากที่จะอธิบาย ลิ้นร้อนเริ่มชอนไชไล่ลงมาตามไหปลาร้า ก่อนที่จะมาหยุดวนเวียนชิมควาหวายที่ตุ่มไตเม็ดเล็กสีหวาน
“อ่า...คุณคิณ” ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ไปแทบจะทุกรูขุมขน ผมได้แต่ครางเรียกชื่อคุณคิณอยู่อย่างนั้น มือหนาของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะมอบความสุขให้กับเราทั้งสองคน
“เรียกชื่อคิณสิครับคนดี ผมอยากได้ยิน อ่า...” คุณคิณเริ่มรูดรั้งแรงและเร็วขึ้นจนผมบิดกายเร่าเพราะความสะท้าน จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง
“คะ..คิณพายไม่หวะ...ไหวแล้ว” ร่างผมกระตุกสองสามครั้งก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มมือคุณคิน ส่วนคนตังโตก็ปลดปล่อยออกมาไม่ต่างกัน ผมเหนื่อยหอบยิ่งกว่าออกกำลังกายหนักๆ เสียอีก
“พายครับวันนี้ตามใจคิณได้ไหม” ผมเหนื่อยหอบซุกหน้าลงกับอกแกร่ง คุณคิณกอดผมไว้แน่น ปากหนาเริ่มซุกไซ้ตามซอกคอเรื่อยลงมาจนผมร้องห้ามแทบไม่ทัน
“ครับ แต่ไปที่เตียงได้ไหมพายเมื่อย” คุณคิณอุ้มผมไปล้างตัว ก่อนที่จะพามาที่เตียงนอน ตอนนี้ผมไม่มีแรงแม้แต่จะยืนได้แต่เกาะเกี่ยวคุณคิณไว้
“งั้นที่รักออนท็อปให้ผมหน่อยได้ไหม” ว่าอะไรนะ คุณคิณจะให้ผมออนท็อปเหรอ
“ไม่เอา พายทำไม่เป็น” ปฏิเสธออกไปทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองคนที่ขออะไรน่าอายขนาดนี้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่มีเลยที่ผมจะทำแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณคิณขอ ผมจะทำยังไงดี อายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นจริงๆนะ
“ไหนว่าจะตามใจคิณไงครับ พายไม่รักผมเลยเหรอ ทำไมมีแต่ผมคนเดียวที่อยากแสดงความรักกับพาย” คำพูดตัดพ้อที่ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“ก็ได้ แต่คุณต้องสอนพายนะครับ” ผมบอกเสียงเบา ก็คนมันอายนี่นา
“คนดีของคิณ” มือของผมเริ่มรูดรั้งแก่นกายแกร่งอีกครั้ง ก่อนที่จะครอบริมฝีปากบางลงไปตามที่คุณคิณบอก
“อย่างนั้นครับ อ่า....” ลิ้นร้อนเลียที่ส่วนปลายเจ้ามังกรยักษ์อย่างเงอะงะ แต่ผมก็พยายามทำให้คุณคิณพอใจ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากรูดเจ้ามังกรยักษ์ขึ้นลง จนคนตัวโตครางไม่หยุด มือหนาของคุณคิณเริ่มลากผ่านแนวสันหลัง เลื่อนต่ำลงมาที่สะโพกอวบ ก่อนที่จะขย่ำอย่างเต็มแรงจนผมครางประท้วง เงยหน้ามองคนที่ชอบทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ตลอดเวลา
นิ้วเรียวค่อยๆ สอดเข้าไปตามช่องทางคับแคบสีสวยอย่างใจเย็น จนผมอดไม่ได้ที่จะใช้ปากขยับรูดรั้งเจ้ามังกรยักษ์แรงๆ อีกครั้ง
“คิณ...พายเสียว ช่วยพายที” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ จนต้องเรียกร้องจากคุณคิณด้วยน้ำเสียงที่น่าอาย
“ช่วยยังไงครับคนดี” คุณคิณกวนผม รู้ว่าผมต้องการอะไรแต่ก็ยังให้พูดอะไรที่มันน่าอายแบบนี้
“คะ..คุณเข้ามาในตัวพายนะครับ” น่าอายที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มันทั้งเสียวและทรมานจนแทบจะทนไม่ไหว
“ทำเองซิครับคนดี อยากได้แบบไหน” ผมมองคุณคิณอย่างกระเง้ากระงอด แต่ก็ยอมขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมตรงหน้าท้องแกร่งของคนที่นอนยิ้มมีความสุขอยู่ใต้ร่างผม ก่อนจะค่อยจับความใหญ่โตของเขาชะโลมด้วยเจลหล่อลื่นด้วยมือสั่นๆ โดยมีสายตาหื่นกระหายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีผมมองอยู่
ผมยกบั้นท้ายกลมกลึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะสอดใส่เจ้ามังกรยักษ์เข้าไปได้แค่ส่วนหัว ผมก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบ เพราะมันแน่นจนผมไม่กล้าดันตัวเองเข้าไปครอบครองแก่นกายยักษ์
“ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ ไม่ต้องรีบ”เสียงคุณคิณตอนนี้ทำให้ผมรู้ว่าเขาอดทนกับความต้องการทางร่างกายมากแค่ไหน
“คะ...คิณเข้ามาทีเดียวเลยก็ได้พายไหว” ผมไม่กล้าทำเองต้องให้คุณคิณช่วย ไม่งั้นมันก็คงค้างคาอยู่แบบนี้ ยอมที่จะเจ็บครั้งเดียวเพื่อปลดปล่อยความต้องการของเราทั้งสองคน
“แต่พายจะเจ็บนะครับ”
“พายไม่เป็นไร.. นะครับ” พอผมเอ่ยออกมาแบบนั้น คุณคิณกลับแทงพรวดเข้ามาทีเดียวจนผมจุก
“อ่า....”
“อึกกก...” เสียงเราสองคนดังประสานกัน
“ขยับได้ไหวไหมครับ” มือหนาลูบสะโพกอวบเพื่อคลายความเจ็บ
ผมไมตอบแต่เริ่มขยับเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น ยิ่งผมเห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความต้องการของคุณคิณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งย่ามใจเพิ่มความแรงขึ้นอีก ทั้งเสียวแล้วก็ทรมานจนเหมือนใจจะขาด จนคุณคิณกระแทกสวนขึ้นมาอย่างสุดที่จะอดกลั้น
เราสองคนขยับกายสอดประสานกันจนผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว มันลึกกว่าทุกครั้ง แรงกระแทกที่เราทั้งสองคนส่งผ่านกันและกันทำให้ผมร้องครางออกมาอย่างไม่สามารถที่จะกลั้นเอาไว้ได้
“อึกกกก...อ่า” มือหนาจับเอวผมไว้ก่อนที่จะกระแทกจนสุดแรง ผมครางอย่างเดียวครับ ไม่ไหวแล้วคุณคิณทำผมแทบคลั่ง ผมเหมือนคนเสพติดเซ็กที่เขามอบให้ รู้สึกถึงความร้อนแรงจนไม่อยากจะหยุด
ร่างกายผมก็แทบจะรับไม่ไหว จนคุณคิณพลิกตัวผมให้ลงไปนอนที่ใต้ร่างแกร่ง เสียงหายใจหอบสลับกับเสียงครางของเราสองคน ดังอยู่ตลอดเวลา จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางของเราทั้งสองคน คุณคิณกระแทกรัวๆ อีกสองสามทีจนน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาโดนหน้าท้องแกร่ง ก่อนที่คุณคิณจะปลดปล่อยตามผมมาติดๆ
ผมเหมือนโดนสูบวิญญาณ ไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด แต่คุณคิณก็ยังไม่ยอมหยุด ความต้องการของเขาเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ผมนอนให้คุณคิณพลิกร่างกายผมได้ตามใจชอบเลยครับ มีหน้าที่แค่ครางอย่างเดียวจนไม่มีเสียง จนรอบสุดท้ายผมสลบไปเลย
ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ผมตั้งแต่ตอนไหน เสียงผมนี่แทบจะไม่มีแหบจนไม่คิดว่าเป็นเสียงของตนเอง แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ผมเรียกร้องจนน่าอาย ส่วนคุณคิณเองก็ตักตวงความสุขจากร่างกายผมจนเกือบเช้า
ผมนอนมองเพดานห้องอย่างไม่กล้าขยับ แม้ว่าเราจะมีอะไรกันบ่อยตามประสาคนรักกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะเร่าร้อนจนผมแทบลุกไม่ไหว จะโทษคุณคิณคนเดียวก็ไม่ได้ผมเรียกร้องเอง
แล้วตอนนี้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้เขาไปไหนแล้ว อยากให้ช่วยพยุงพาผมไปเข้าห้องตามแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ห้องก็เงียบจนผิดปกติ หรือว่าเขาจะไปทำงานตั้งแต่เช้า เพราะนี่ก็สายมากแล้ว แต่ร่างกายผมคงไม่เหมาะที่จะลุกไปร้านในวันนี้แน่นอน
ร่องรอยสีกุหลาบมีบ้างประปราย ตามอก คอ แล้วก็ต้นขา ยิ่งมองเห็นก็ยิ่งน้อยใจ ทำไมไม่อยู่ดูแลผมบ้าง หรือว่ามีงานด่วน ไม่ห่วงผมเลยใช่ไหม อาการน้อยใจเริ่มตีตื้นขึ้นมาจนน้ำตาแทบไหล พยุงร่างกายตัวเองยืนขึ้นอย่างยากลำบาก แค่ปลายเท้าเหยียบลงพื้นก็เจ็บแปลบไปถึงสันหลัง จนน้ำตาร่วง จากที่น้อยใจอยู่แล้ว ทำให้น้ำตาผมไหลรินออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียใจที่คุณคิณไม่อยู่ดูแล
พยายามก้าวขาอย่างช้าๆ เพื่อพยุงตัวเองให้ไปให้ถึงห้องน้ำ ก่อนที่มือผมจะเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ ขาเจ้ากรรมก็ดันอ่อนยวบ จนผมลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลพรากเลยครับคราวนี้ หลังจากที่พยายามไม่ให้มันรินไหลออกมาเสียนาน
“โอ้ย! ฮึกกกก....ฮือ” ผมร้องให้เสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามลุกขึ้นแต่ก็ไม่ไหว ได้แต่นั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้น เจ็บทั้งร่างกาย แล้วก็หัวใจ
เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าที่เต็มด้วยคราบน้ำตามองคุณคิณอย่างตัดพ้อ เขามองผมด้วยท่าทางตกใจ ก่อนที่จะวิ่งเข้ามาหา
“พายเป็นอะไรครับ ทำไมมานั่งร้องให้อยู่ตรงนี้”
“ไปไหน ฮึก...มา ฮืออออ” คุณคิณกอดผมไว้ พร้อมกับเช็ดน้ำตาให้กับผม รู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่คุณคิณไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับดันไม่หยุดไหล จนคุณคิณตกใจมากกว่าเดิม
“ไปโทรบอกน้องๆ ว่าพายไม่ได้เข้าร้าน แล้วก็โทรเคลียร์งานนิดหน่อยครับ” อ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณคิณทำให้ผมได้แต่ซุกหน้าไว้อย่างนั้น
“ฮึกกก....ฮือ”
“ทำไมร้องให้หนักแบบนี้ เจ็บมากเหรอครับ คิณขอโทษ” คุณคิณช้อนตัวผมขึ้นอุ้มก่อนที่จะหันมาถาม
“จะเข้าห้องน้ำใช่ไหมครับ” ผมได้แต่พยักหน้า พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ค่อยๆ หยุดลง
คุณคิณจัดการให้ผมทุกอย่าง อีกทั้งยังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ก่อนที่จะพาผมมานอนบนเตียงอีกครั้ง วันนี้ผมคงต้องนอนเป็นผักอย่างนี้ทั้งวัน
“ทานโจ๊กหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมอุ่นให้ก่อน ไปซื้อมาตั้งแต่เช้ากลัวว่าพายตื่นมาแล้วจะหิว” ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่คิดว่าคุณคิณไม่ห่วง คิดไปเรื่อยเปื่อย จนร้องให้บ้าบอคนเดียว
“มาแล้วคร้าบบบบ โจ๊กร้อนๆ ผมไปซื้อเจ้าอร่อยมาเลยนะครับเนี่ย เข้าแถวรอตั้งนาน” น้ำเสียงอบอุ่น กับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ทำให้ผม อยากจะโกรธให้กับความงี่เง่าของตนเอง
“ขอโทษ” ผมเอ่ยออกไปทั้งๆ ที่คุณคิณยังงงๆ อยู่
“เรื่องอะไรต้องมาขอโทษผมครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้พายเป็นแบบนี้” ผมค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง คุณคิณเอาหมอนรองหลังให้นั่งง่ายๆ
“ก็พายคิดว่าคุณคิณไปทำงาน ไม่อยู่ดูแลพายแล้ว” พูดเสียงอ่อยๆ ไม่กล้ามองหน้าคุณคิณ ที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจอาการของผมแล้ว
“จะไม่ดูแลเมียได้ยังไง เมียน่าสงสารขนาดนี้ฮึ” มือหนาเลื่อนมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู พร้อมกับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้
“คุณคิณ”
“ไม่ต้องทำหน้าหงอยแล้วครับ พายไม่ผิดสักหน่อย” เขานั่งลงบนเตียงนอนฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะเริ่มป้อนโจ๊กให้ผม มันทานไม่ค่อยลงเลยครับ เจ็บคอ แสบไปหมด
“อีกคำนะครับ” ผมเริ่มทำหน้าแหย จนคุณคิณต้องปลอบราวกับผมเป็นเด็กๆ
“คำสุดท้ายนะ” ผมอ้าปากรับแต่ก็ยังไม่วายที่จะต่อรอง
“ครับๆ คำสุดท้ายก็สุดท้าย ทานยังไม่ถึงครึ่งเลย แล้วก็ทานยานะครับ” คราวนี้บ่นกระปอดกระแปดแล้วครับที่ผมทานข้าวได้น้อย แต่คงไม่อยากบังคับ
ทานยาแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง โดยที่คุณคิณนั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง ผมไม่ได้หลับ นอนมองคนตัวโตที่ก้มหน้าอ่านเอกสาร เกี่ยวกับงานของเขาอยู่ข้างๆ
“คุณคิณครับ” เงยหน้าจากเอกสารมามองหน้าผม
“ทำไมไม่นอนพักครับ” คุณคิณหันมาตะแคงข้างใช้ศอกข้างหนึ่งค้ำยันที่นอนไว้ มืออีกข้างก็คอยลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา
“นอนไม่หลับ”
“แล้วเมื่อกี้เรียกทำไมครับ”
“พายรักคิณนะครับ” ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะบอกรักคุณคิณแบบนี้ เพราะผมรู้สึกกระดากอายเวลาที่พูด มันรู้สึกจั๊กจี้ คันยุบยิบในหัวใจชอบกล
“หึ หึ... กว่าจะบอกรักกันต่ละทีนี่ แทบลุ้นข้ามปีเลยนะครับ” เขาล้อผมครับ เป็นแบบนี้ทุกที นี่แหละอีกสาเหตุที่ผมไม่อยากจะพูดว่ารักเขาบ่อยๆ ชอบล้อจนผมเขิน
“พายจะไม่บอกอีกแล้วนะ ถ้ายังไม่เลิกล้อ”
“คิณก็รักพายครับ รักที่สุด มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกๆ วัน” เขาก้มลงมาจูบหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เราจะสบตากันยิ้มๆ
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ”
“เลยมาแล้วนี่” นิสัยไม่ดี ไม่อยากพูดดีๆ ด้วยแล้วนะ ทำไมเป็นคนแบบนี้
ความรักของเราสองคนก็เป็นแบบนี้แหละครับ ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว ไม่เคยต้องการอะไรไปมากว่านี้ แค่มีคุณคิณอยู่เคียงข้างทุกๆ วันก็มีความสุขที่สุดแล้ว
*****************************
ตอนพิเศษมาแล้ว สนุกรึเปล่าไม่รู้ แต่อยากแต่ง
เม้นให้ด้วยนะ สุขสันต์วันแห่งความรัก คนมีคู่ไม่รู้หรอก
จอกันตอนหน้านะคะ