เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 4
ห้างใหญ่ใจกลางเมืองที่เราเดินทางมาถึง วันนี้โชคดีที่ออกมาเร็วก่อนเวลาห้างเปิดที่จอดรถเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไรแถมยังได้ที่ที่ใกล้กับประตูเข้าออกของห้างอีกด้วย จูงมือไอ้หัวหอมเดินเข้ามาให้ห้างโดยมีไอ้ภาพเดินอยู่ข้างๆ
“ เราจะทำอะไรก่อน " ผมหันไปถามไอ้ภาพ
“ เอาเงินไปแลก กูดูค่าเงินวันนี้มาแล้ว ก็โอเคอยู่แลกได้แหละ " มันบอกผมก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นกระเป๋าให้มันโชคดีนะที่มีถุงผ้าอยู่ในรถ ไม่งั้นก็ต้องเดินหิ้วกระเป๋าเป้ไอ้หัวหอมไปมา ซึ้งมันแบ๋วเอามากๆ ไม่เข้ากับหน้าเอาซะเลย
ธนาคารเป็นที่แรกที่เราแวะเข้าเพื่อจัดการแลกเงินตราต่างประเทศนี้ให้เป็นเงินไทยให้เรียบร้อย ยอดเงินเจ็ดหลักต้นๆที่เกิดมาเพิ่งได้จับ ผมกับไอ้ภาพได้แต่เหลือบมองตากัน เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องเยอะ แต่แค่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้
“ ดูเหมือนเค้าไม่ใช่คนที่ไม่มีเงินจนต้องส่งลูกมาให้คนเป็นพ่อเลี้ยงเลยนะ " ภาพพยักหน้ารับ
“ เอาเงินไปฝากกันเถอะ " มันว่าผมก็จูงมือหัวหอมเดินตามไอ้ภาพไป ดูเหมือนมันวางแผนไว้แล้วว่าต้องแลกเงินธนาคารไหน แล้วต้องไปฝากธนาคารไหน " เราจะเอาเงินฝากเป็นชื่อใคร "
“ ชื่อมันไม่ได้เหรอ " ชี้ไปที่ไอ้หัวหอมอีกคนก็พยักหน้า
“ เราไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับมัน เอาจริงๆเราไม่สามารถที่จะส่งมันเข้าเรียนหรืออะไรเลย แล้วตามกฏหมาย ไอ้กาลิคมันเป็นคนต่างชาติแน่นอนว่ามันอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 90 วันเท่านั้น ตามกฏหมายอะนะ "
" 90 วัน! ไอ้เชี้ยย สามเดือนอะนะ จะบ้าเหรอ ถ้าเราหาพ่อแม่ให้ไอ้หัวหอมไม่ทัน มันไม่ต้องอยู่ที่นี่ในฐานะคนหลบหนีเข้าเมืองเลยเหรอวะ "
" แม่มันอาจจะมารับก่อนที่จะครบ 90 วันก็ได้ ก็เลยไม่กล้าส่งเอกสารอะไรมาให้เราเลย ส่งมาแค่เงิน "
“ ผู้หญิงบ้า " ผมบอกมันก็หัวเราะ ไอ้ภาพจัดการเปิดบัญชีฝากเงิน เราเอาเงินฝากไว้เป็นจำนวนเงินถ้วนๆ ส่วนเศษที่เหลือครึ่งแสนมันก็ยื่นให้ผม " ให้กูทำไม "
“ เอาไปซื้อของให้ไอ้กาลิค "
“ โอเค " พยักหน้ารับเก็บเงินใส่กระเป๋าไว้ ผมผ่อนหายใจออกมาตอนที่มองหน้าเด็กผู้ชายที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร กำลังขยับตุ๊กตาหมีเล่นไปมา แล้วจุ๊บลงที่จมูกก่อนดึงมากอดไว้
ท่าทางน่ารักที่ชวนให้ยิ้มก่อนที่มันจะเดินเข้ามาพิงตัวเองลงที่ระหว่างขาของผม ลูบหัวมันเบาๆ ด้วยความเอ็นดูเพราะไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง
“ อาขม " มันเงยหน้ามองผม
“ หื้ม ? “
“ หิวแล้ว "
“ แปปนึงนะ อาภาพยังทำเรื่องบัญชีไม่เสร็จ "
“ บัญชีคืออะไร ทำไมต้องทำด้วยละ แล้ว.. แล้วเราที่นี่ทำไม "
“ ที่นี่คือธนาคาร " ผมบอก คอยดูนะ ว่ามันจะต้องถามกูต่อไปอีกยาว
“ ธนาคารคืออะไร " มันเริ่มละ
“ ธนาคารก็ คือที่ที่เราเอาไว้ฝากเงิน ถ้าเรามีเงินเยอะๆ ใช้ไม่หมด ถ้าเก็บไว้ที่บ้านก็อาจจะมีคนมาขโมยเงินเราไป เราก็เลยต้องเอา มาฝากไว้ที่ธนาคาร พี่ๆที่ธนาคารก็จะดูแลเงินของเราให้ปลอดภัย เงินที่มึงเอามาก็เหมือนกัน ถ้าเก็บไว้ที่มึงมันจะอันตรายถูกมั้ย ภาพกับกูเลยต้องเอามาฝากไว้ ในที่ที่ไม่มีใครขโมยไปได้ "
“ แล้วทำไมต้องกลัวคนมาขโมยละ "
“ ก็คนไม่ดีชอบขโมยของไง ถ้าขโมยไปมึงก็ไม่มีเงินใช้ ต้องเก็บให้ดี " จบยัง จบความสงสัยยัง มันมองหน้าผมเอียงหัวไปมาเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจแล้วคิดว่า น่าจะยังไม่หมดความสงสัย
“ แล้วทำไมเค้าต้องเป็นคนไม่ดีละ พ่อแม่ไม่รักเหรอ " หลุดหัวเราะกับความคิดของมัน จะว่าไปก็สงสัยเหมือนกันว่าไอ้เลวๆในข่าวมันเป็นเติบโตมาแบบไหน ถึงกลายเป็นคนไม่ดี พ่อแม่ไม่รักมึงรึไง๊ หัวหอมกล่าว
“ ไม่ใช่พ่อแม่ไม่รักหรอก มันคงเป็นเหตุผลอื่น "
“ แล้วทำไม..”
“ แล้วมึงคิดว่า ทำไมคนขโมยของถึงไม่ดีละ " ผมถามมันก็นิ่งไปเหมือนไม่คิดว่าผมจะถามกลับ กูรู้วิธีจัดการไอ้คำว่าทำไมของมึงแล้ว ไอ้หัวหอม
“ ก็คนดีจะไม่ทำแบบนั้น " ผมพยักหน้ารับ ก็จริงของมัน " เค้าต้องเป็นลูกน้องของใครสักคนในแก้งค์ของผู้ร้าย "
“ ของผู้ร้ายยังไง "
“ ก็ในการ์ตูนไง ในการ์ตูนนะอาขมมันจะมีผู้ร้ายเป็นคนไม่ดี มาทำร้ายคนดีๆ แล้วก็จะมีคนเก่งๆ มาช่วยเอาไว้ได้ แล้วก็ผู้ร้ายนะจะมีบูกี้แมนสิงอยู่ในตัว บูกี้แมนคือคนไม่ดี เป็นคนที่ไม่น่ารัก "
“ อ่าห๊ะ อย่างงั้นเหรอ " พยักหน้ารับไปแบบนั้นอะ กูไม่เข้าใจ บูกี้แมนคืออะไรวะกูโตมาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้จักเลย แล้วจากเรื่องธนาคารมันมาถึงเรื่องไอ้บูกี้แมนนี่ได้ กูงง
“ อื้อๆ อย่างงั้น " มันพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมากอดผมไว้แน่น " อาขม หิวแล้ว "
“ กูก็หิวเหมือนกัน " ดึงมันขึ้นมานั่งตักก่อนจะโน้มตัวมันลงไปที่พื้นแล้วรีบดึงขึ้นมา " แฮ่! " อีกคนก็หัวเราะลั่น
“ ฮ่าๆ เอาอีก เอาอีก " โน้มลงไปที่พื้นอีกครั้งให้หัวมันใกล้ถึงพื้น ทำท่ากัดที่ท้องมันก่อนจะดึงขึ้นแบบรวดเร็ว " ฮ่าๆ อาขมมม "
“ หิวแล้ว หิวแล้ว กินพุงเด็กเลย "
“ อ่าาา อย่ากินหนู อย่ากินกาลิคน้าา " เสียงใสที่บอกผม โน้มมันลงไปที่พื้นอีกครั้งก่อนจะดึงมันขึ้นมาแล้วกอดไว้ ตอนที่รู้สึกมีใครบางคนกำลังจ้องมองผมอยู่ สบสายตากับไอ้ภาพที่ก็หลบสายตาไปทางอื่นทันทีตอนที่เห็นแบบนั้น
“ เสร็จยัง " ผมถามมันก็ พยักหน้ารับ
“ อีก ห้านาที " มันว่า
“ อีกห้านาทีเสร็จแล้ว เพราะงั้นขอกินพุงเด็กคำสุดท้าย คราวนี้จะกินเยอะๆเลย นี่แหน่ะ " โน้มมันลงไปจนจะทิ้งพื้นก่อนจะเหวี่ยงมันขึ้นมาแล้วหอมแก้มไปเสียเต็มฟอด ทำท่าเหมือนกัดไปตามตัวมันอีกคนก็เอาแต่หัวเราะ " งั่มๆ "
“ อาขมกินหนู อาขมกินกาลิค "
“ งั่มๆ " ขยับปากที่แก้มมันอีกคนก็เอียงหน้าหนีก่อนจะกอดผมไว้แน่นเหมือนจะบอกให้หยุด ไอ้ภาพที่ลุกเดินมามันยื่นสมุดธนาคารให้ผม
“ เสร็จละเอาไป "
“ ให้กูทำไมอะ มึงเก็บไว้สิ "
“ เก็บไว้ที่มึงน่ะดีแล้ว " มันบอก " เปิดบัญชีด้วยชื่อกู แต่สมุดบัญชีเก็บไว้ที่มึง กูไม่รู้ว่าเลขบัญชีอะไร กูถอนเงินไม่ได้อยู่แล้ว มึงเองไม่มีลายเซ็นกู มึงก็ถอนเงินไม่ได้ เพราะงั้นถ้าใครจะเอาเงินจากบัญชีนี้ก็ต้องยินยอมทั้งสองฝ่ายถูกมั้ย เก็บไว้ที่มึงอะ "
“ โอเค " รับสมุดบัญชีมาใส่กระเป๋าไว้ ไอ้ภาพก็ขยี้หัวเด็กน้อยที่กำลังซบอยู่ตรงอกผม
“ หิวยังมึง "
“ หิวแล้วครับ อาขมก็หิวแล้ว หิวจนต้องกินกาลิคเลย อาขมกินกาลิคตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ " มันชี้ไปตามตัวมัน ทั้งแก้ม ทั้งแขน
“ เหรอ อย่างงั้นเหรอ งั้นให้กูเอาคืนให้มั้ย " หัวหอมเงียบ มันเอียงหน้ามองภาพก่อนจะหันมองผม มันคงไม่เข้าใจคำพูดของภาพ แต่ผมก็เหมือนกัน ผมก็ไม่เข้าใจ
“ อะไรของมึง หิวจนเบลอเหรอสัด "
" ก็.." มันนิ่งไปตอนผมบอก ไอ้ภาพพยักหน้ารับเหมือนคนคิดคำอ้างไม่ออก " ก็คงงั้น หิวแล้ว กินกันดี กาลิคอยากจะกินอะไร "
“ กินของอร่อยๆ "
“ มันก็อร่อยทั้งนั้นอะ " ก้มลงบอกอีกคน ผมก้มองไปรอบๆ " มึงมีอะไรที่อยากจะแดกเป็นพิเศษมั้ย "
“ ไม่มี มึงอยากจะแดกอะไรก็แดกได้ทั้งนั้น "
“ ข้าวแกงกระหรี่มั้ย " ผมถามก่อนจะก้มมองไอ้หัวหอม " มึงเคยกินรึเปล่า ข้าวแกงกระหรี่อะ " ใบหน้ากลมส่ายหน้า
“ หนูไม่รู้ "
“ ทำไมมึงไม่กินไก่ทอดวะ พิซซ่างี้ ง่ายๆ "
“ มันไม่มีประโยชน์ "
“ มันไม่มีประโยชน์นะครับ " ไอ้หัวหอมพูดตามผม เอื้อมมือไปเขย่าเสื้อไอ้ภาพ มันย้ำ " อาภาพๆ มันไม่มีประโยชน์ "
“ เออ กูรู้แล้ว ไม่ต้องย้ำหรอกนะ เดี๋ยวก็กินตับเลย " คว้าไอ้ตัวเล็กไปอุ้ม มันหอมแก้มหัวหอมไปหลายทีติด เสียงโวยวายที่ดังอยู่แบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาตอนที่หยิบมือถือออกมาค้นหาร้านอร่อยๆ ที่มีประโยชน์ในร้านนี้ ก่อนจะเจอเข้ากับร้านที่ถูกใจ
" ไปกินข้าวห่อไข่กัน "
" เคยกินอีกมั้ย ข้าวห่อไข่น่ะ ห๊ะ ไอ้เตี้ย "
" ไม่เตี้ยยยย อย่าว่ากาลิค กาลิคแค่ยังเด็ก เลยตัวเล็กอยู่ " มันเถียงก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มไอ้ภาพเสียงฟอดใหญ่ " นี่แหน่ะ ทำโทษอาภาพเลย "
" โอยยยย มุกนี้ พ่อมึงตายไปเลยไอ้หัวหอมเอ้ย " ผมหันไปแซวไอ้ภาพที่มันนิ่งไปตอนโดนไอ้หัวหอมหอมแก้ม หน้าแดงๆของมันจ้องมองคนในอ้อมกอดก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มคืน " น่ารักจริงๆเลยไอ้หัวหอมเอ้ย " ขยี้หัวมันแรงๆด้วยความหมั่นไส้
เราเดินขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบน ตอนร้านข้าวห่อไข่ ร้านดังที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่เพราะห้างเพิ่งเปิด ผมมองซ้ายขวาหาโต๊ะนั่งที่ถูกใจ ไอ้ตัวเล็กก็พูดขึ้น
“ กาลิคอยากจะนั่งตรงนั้น ตรงนั้น " มันชี้ไปที่นั่งแบบญี่ปุ่นที่ต้องถอดรองเท้าขึ้นไปนั่ง " ตรงนั้นนะ นั่งตรงนั้นนะครับ "
“ ก็ได้ ก็ได้ " ไอ้ภาพตามใจตอนที่มันปล่อยหัวหอมลงบนพื้น มันก็วิ่งไปจับจองที่นั่งด้านในสุด มือเล็กๆตบที่ฟูกข้างตัวมัน
“ อาขมนั่งตรงนี้ นั่งข้างๆกาลิค นั่งตรงนี้นะ นั่งๆ "
“ ครับๆ นั่งครับผม " หย่อนตัวลงนั่งข้างมันอีกคนก็ดึงตัวเองเข้ามาใกล้ จะว่าไปมันก็เป็นเด็กที่พอสนิทด้วยแล้ว จะขี้อ้อนแล้วก็น่ารักมากเลย ไม่ได้ดื้อแล้วก็ซน งอแงเหมือนหลานผมเท่าไหร่ รายนั้นถ้าไม่ใช่พ่อแม่มัน ฝากใครเลี้ยงก็ไม่มีใครอยากจะเลี้ยงหรอก ทั้งดื้อทั้งซน พูดอะไรก็ไม่เคยฟังทั้งนั้น ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจก็เท่านั้น
“ กินอะไรกันดี " ไอ้ภาพว่าก่อนจะเอาเมนูมาเปิด ผมเปิดไปเรื่อยๆ ก่อนจะเจอกับเมนูข้าวห่อไข่สำหรับเด็ก
“ หัวหอมของมึงชุดนี้นะ น่ากินมั้ย "
“ อาขมให้หนูดูด้วย หนูจะดู " มือมันเอื้อมมาดึง
“ ไม่แย่งของจากมือผู้ใหญ่นะหัวหอม " ผมบอกมัน " มึงต้องขอก่อน ถ้าขอแล้วก็ต้องรอให้เค้าก่อน ไม่ดึงแย่งจากมือนะ "
“ ครับ อาขม อาขมให้กาลิคดูด้วยนะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมาใกล้ๆ มือที่กอดแขนผมคอยอย่างใจเย็น ผมก็เลื่อนเข้าไปใกล้
“ อะ ดูกันสองคนนะ " สายตาที่ตั้งใจดุของมันเหมือนไอ้ภาพเลย ถ้ามองจากมุมนี้แต่อย่าพูดไป เดี่ยวพี่แกจะใจเสียเอาเด็กไปทิ้งอีก " มึงกินแบบชุดเด็กนะ ดูสิ จานน่ารักอะ เป็นตัวการ์ตูน อังปังแมนด้วย "
“ ครับ แล้วอาขมจะกินอันไหน "
“ กินอันไหนดีเหรอ " ผมคิดตอนที่เปิดไปเรื่อยๆ " กินอันนี้ดีกว่า ข้าวห่อไข่แบบซอสมะเขือเทศท๊อปปิ้งทงคัตสึ "
“ กาลิคจะสั่งพี่คนขายให้อาขมเอง ให้กาลิคทำนะ "
“ สั่งให้ถูกนะมึง " บอกแบบนั้นคนอยากทำก็พยักหน้ารับ
“ แล้วอาภาพอยากจะกินแบบไหน กาลิคจะสั่งให้ "
“ อื้ม เอาเป็นข้าวห่อไข่ลาวาซอสมะเขือเทศ ท๊อปปิ้งโคโรเกะกุ้ง "
“ จำได้เหรอมึง " คนจะสั่งอาหารพยักหน้างึกงักผมก็ยกมือเรียกพนักงาน " สั่งอาหารครับ "
“ รับอะไรดีคะ "
“ กาลิคจะสั่งอาหารครับ พี่สาว " มันบอกพนักงานก็ยิ้มรับ
“ ได้เลยค่ะ หนุ่มน้อยรับอะไรดีจ๊ะ "
“ ของกาลิคอันนี้ครับ " มันเปิดไปที่เมนูของเด็ก นิ้วเล็กทีจิ้มลงไป เธอก็พยักหน้ารับ " แล้วก็ของอาขม.. " มันหันมองหน้าผม
“ หึ จำไม่ได้ละสิมึง " ส่ายหน้าไปมาผมผ่อนลมหายใจออกมาปากที่กำลังจะบอกมันก็ยื่นมาปิดปากผม
“ อาขมบอกกาลิค กาลิคจะสั่งให้นะ กระซิบตรงนี้ " ชี้ที่หูตัวเองอีกแหน่ะ
“ สั่งข้าวห่อไข่แบบซอสมะเขือเทศท๊อปปิ้งทงคัตสึ "
“ สั่งข้าวห่อไข่ ใส่ซอสมะเขือเทศใส่ทงคัตสึด้วยครับ "
“ ค่ะ "
“ อาภาพ อาภาพกินอะไร กระซิบตรงนี้ๆ " ชี้ที่หูอีกครั้งก่อนจะโน้มตัวไปหาไอ้ภาพที่ก็ก้มลงมาบอกมัน " ข้าวไข่ลาวาใส่ซอสมะเขือเทศ คาราโอเกะกุ้ง "
“ ไม่ใช่ คาโรเกะกุ้งเว้ย คาราโอเกะใครมันจะไปแดก ไอ้นี่ "
“ อันนั้นละครับพี่สาว " มันบอกพนักงานที่ก็ยิ้มรับ เธอกลั้นขำก่อนจะถามต่อ
“ ไม่ทราบว่ารับน้ำอะไรดีคะ "
“ รับน้ำอะไรดีคะ " หัวหอมทวนคำถามผมก็กระซิบบอกมัน " น้ำเปล่า น้ำแข็งสามแก้วครับ "
“ โอเคค่ะ ขอทวนเมนูก่อนนะคะ " เมนูที่ถูกทวนออกมาถูกต้อง เราพยักหน้ารับเธอก็เดินออกไป หัวหอมหันมาถามผม
“ อาขม อาขม กาลิคสั่งอาหารเองได้แล้ว "
“ ยังไม่ได้นะกูว่า เมื่อกี้มึงจะยังจะสั่ง คาราโอเกะให้ไอ้ภาพกินอยู่เลย " มันทำหน้างอตอนผมบอก
“ ได้ ผิดนิดเดียว " มันเถียงผมก็เอื้อมไปกอดมันไว้
“ หมั่นเขี้ยวมึงจริงๆเลย ให้ตายเถอะ "
“ หมั่นเขี้ยวคืออะไรเหรอ อาขม " มาอีกละ อีหนูทำไม กูว่ากูชักเกลียดคำนี้แล้วนะ
“ คือการที่เรารู้สึกอยากจะทำแบบนี้ " ผมก้มลงไปหอมแก้มมัน บี้จมูกกับแก้มกลมๆที่หัวเราะคิกคักชอบใจ " กับใครสักคน นั่นแหละเค้าเรียกว่าหมั่นเขี้ยว "
“ งั้นกาลิคนะ กาลิคก็หมั่นเขี้ยวอาขมเหมือนกัน " มันดึงตัวเองหอมแก้มผมไปเต็มฟอด
“ หัวหอมเอ้ย ใจกูบางไปหมดแล้ว " น่ารักจนอยากจะฟัดหลายๆที ทำไมมึงถึงช่างอ้อน ช่างพูด แล้วน่ารักน่าฟัดได้ถึงขนาดนี้ แม่มึงทิ้งเด็กน่ารักๆมาให้พวกกูได้ยังไง
“ ใจบาง ? “ มันพูดเสียงเบา " อาขมไม่สบายเหรอ ทำไมใจบาง "
“ เอ่อ..” คำนี้กูอธิบายไม่ค่อยถูกแล้ววะ จะบอกว่ามันคือศัพท์วัยรุ่น กูแม่งก็ต้องมานั่งอธิบายอีกว่า ศัพท์วัยรุ่นคืออะไร จะบอกว่ามึงน่ารักจนใจกูอ่อนแอ คือ กูต้องเป็นโรคแน่ๆในทางวิชาการอะนะ
“ ขอเสิร์ฟอาหารค่ะ " โชคดีไปไอ้ขมมึง ผมผ่อนลมหายใจโล่งอกออกมาเหมือนมีคนมาช่วยชีวิตยังไงอย่างงั้น
“ ของกาลิคมาแล้ว " จานอาหารรูปอังปังแมนน่ารักดึงความสนใจของมันออกไปได้ในทันที กาลิคที่สนใจกำลังสนใจในจานอาหารตัวเอง ไอ้ภาพก็ยกมือถือมาตรงหน้ามัน
“ ไหนถ่ายรูปหน่อย "
“ กาลิค ยิ้มหวานนนนนนนนน " มันพูดออกมาผมก็ยื่นช้อนให้มัน
“ อะช้อน กินได้เลย "
“ อาภาพ อาภาพถ่ายภาพอาขมด้วย " มันบอก ไอ้ภาพก็ยื่นมือถือมาตรงหน้าผม เอานิ้วจิ้มแก้ม ยิ้มหวานสู้กล้องไอ้หัวหอมก็ประท้วงขึ้นมาอีก " อาขม อาขมต้องบอกว่า ยิ้มหวานนนนนนนนน แบบนี้ด้วยนะ "
“ อะๆ ยิ้มหวานนนนนนนนนน " ผมหัวเราะก่อนจะหยิบมือถือมาจากไอ้ภาพ " มึงบ้างอะ พูดด้วยนะ ยิ้มหวานนนน "
“ ปัญญาอ่อน " มันบอก หัวหอมกับผมก็มองหน้ากัน
“ ปัญญาอ่อนคืออะไร "
“ มึงรีบทำ ไม่อย่างงั้นกูจะให้มึง ตอบคำถามในหัวข้อชุดปัญญาอ่อนทั้งหมดเลยนะ " ผมขู่อีกคนก็นิ่ง พลางถอนหายใจออกมา
“ อะ ยิ้มหวานนนนนนนน " ยิ้มเกร็งๆของหน้าซังกะตายได้อีก โถ่ น่าสงสารได้อีก พี่ภาพกู " กูกินได้ยัง ไอ้กาลิค "
“ อื้อ กินกันเลย "
กินอาหารเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็เดินออกจากร้านอาหารมาในโซนของเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าหลากหลายแบบแขวนเรียงรายแบบชนิดที่ชวนให้หยิบจับไปหมดทุกตัว ไอ้หัวหน้าที่เดินจูงมือผมอยู่ข้างๆผม มันมองขวามองซ้ายเหมือนตัวเองก็เลือกเสื้อผ้าได้แล้วเหมือนกัน
“ มึงดูราคาสิ " ไอ้ภาพหยุดอยู่ที่เสื้อตัวเองก่อนจะยื่นให้ผมดู เสื้อผ้าเด็กธรรมดาดูเบสิคราคา สองพันกว่าบาท ผมยิ้มแห้งๆให้มันที่หลุดหัวเราะออกมา " กูแม่งยังใส่ตัวละ สามร้อยเก้าเก้าเลย "
“ เอาไงดีวะ แพงอะ " ผมบอก มีเงินก็จริงแต่ไม่อยากจะไปสิ้นเปลืองกับอะไรพวกนี้เลยวะ รู้สึกว่ามันไม่คุ้ม เพราะอีกไม่กี่เดือนก็ตัวโตขึ้น เด็กตัวโตเร็วจะตาย
“ ซื้อแค่ที่จำเป็นสิ " หันมองภาพอีกคนก็หันมาอธิบาย " ซื้อของแพงเท่าที่จำเป็น เสื้อผ้าแพงๆก็ควรมีบ้าง สองสามชุดจะได้ใส่เวลาไปไหนที่สำคัญๆ แล้วก็ค่อยไปซื้อพวกใส่อยู่บ้านที่อื่น "
“ โอเคตามนั้นก็ได้ กูอยากจะซื้อรองเท้าผ้าใบเท่ๆให้หัวหอมสักคู่มึงว่าไง "
“ ก็แล้วแต่มึง " มันบอก " กางเกงขายาวสีดำตัวนั้นสวยวะ " มันชี้ไปผมก็พยักหน้ารับ ไอ้ภาพหยิบมาให้ผมที่ก็เอาไปทาบตัวหัวหอม
“ ต้องไปลองวะ จะได้รู้ว่าใส่ได้รึเปล่า " ผมพูดกับตัวเองก่อนจะเลือกเสื้อผ้าอีกสองสามชุดแล้วก้มลงบอกอีกคน
“ หัวหอมไปลองเสื้อผ้ากัน "
“ ครับ " มันเดินตามผมไปอย่างว่าง่าย ไอ้ภาพที่หย่อนตัวนั่งลงตรงหน้าห้องลองเสื้อผ้า
“ กูนั่งรอตรงนี้นะ "
“ อื้ม " พยักหน้ารับสั้นๆ จะว่าไปก็มีผู้ชายหลายคนกำลังนั่งรออยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมที่เข้ามาในห้องลองเสื้อกับไอ้หัวหอมตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เด็กคนอื่นๆที่กำลังจับลูกชายตัวเองลองเสื้อผ้าอยู่ยังไงอย่างงั้น " ฟิวลิ่งครอบครัวสุขสันต์มาเต็มเลยไอ้เหี้ย "
“ อาขม " หัวหอมเอ่ยเรียกผมที่ก็นั่งลงตรงหน้ามัน " กาลิคต้องใส่กางเกงเหรอ "
“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " มึงต้องลองนะ จะได้รู้ว่ากางเกงตัวนี้ใส่ได้รึเปล่า ใส่แล้วเท่ห์มั้ยจะได้ซื้อไง อะ ถอดกางเกงออกเลย " ผมจัดการใส่กางเกงขายาวให้มัน ไอ้เด็กนี่ก็แปลก ใส่เหี้ยอะไรก็ดูดีน่ารักไปหมด คิดสภาพว่าถ้าใส่ชุดบอลมันก็คงจะดูดีอีก แต่กับหัวหอมผมอยากจะให้มันแต่งตัวเท่ๆ ฮิปๆ ผมชอบอะไรแบบนี้ " ดูดีวะ อึดอัดมั้ย "
“ ไม่ครับ "
“ วิ่งออกไปให้อาภาพดูไป ว่าโอเครึเปล่า ถ้าอาภาพบอกว่าโอเคเราก็เอาตัวนี้ "
“ ครับ " มันวิ่งออกไปหาอีกคนอย่างกระตือรือร้น ผมได้ยินเสียงมันแว่วมาจากข้างนอก " อาภาพ อาขมให้กาลิคมาถามอาภาพว่า กาลิคใส่กางเกงตัวนี้แล้วหล่อรึเปล่า "
“ หล่อครับ " มันตอบก่อนเสียงวิ่งจะเปิดประตูลองเสื้อเข้ามา
“ อาขม อาภาพบอกว่าหล่อ "
“ โอเค งั้นก็เอาตัวนี้ แล้วก็ลองตัวนี้สิ " คราวนี้เป็นกางเกงยาวประมานหัวเข่าสีกรมท่า สีน้ำตาล แล้วก็ดำ จัดการลองมันทั้งหมด ถอดใส่จนคนโดนลองเริ่มงอแง
“ ไม่ใส่แล้วนะ กาลิคไม่อยากจะใส่แล้ว " มันพูดเสียงงอแงก่อนจะดึงตัวเองมากอดคอผม " กาลิคใส่ได้ กาลิคไม่ต้องลองหรอกอาขม "
“ ขี้เกียจแล้วละสิมึง "
“ ไม่อยากจะใส่แล้ว " มันว่า
“ งั้นลองเสื้อนี้อีกตัวนึง "
“ ไม่เอาแล้วววว กาลิคจะไปหาอาภาพ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะวิ่งออกไปทันที มือที่จะคว้ามันไว้ได้แค่คว้าลมเปล่าๆ ผมถอนหายใจ ก่อนจะเคว้าเอาเสื้อที่ลองแล้วเดินออกมาจากห้อง
“ มึง ยังลองไม่เสร็จเลยนะ ไอ้หัวหอม " ผมเอ่ยบอกกับไอ้ภาพที่หลุดหัวเราะออกมา ตอนที่ก้มลงมองหัวหอมที่ซุกอยู่ที่ระหว่างขามันแล้วกอดมันไว้
“ ใส่ด้ายยยยยยยย " มันลากเสียง
“ ไหนมึงซื้อไรบ้าง " ไอ้ภาพคว้าเสื้อที่ผมถือมาดู
“ กางเกงขายาวตัวนี้แล้วก็ กางเกงขาสั้นสองตัวเสื้อเชิ้ตตัวนี้ แล้วก็เสื้อตัวนอกอีกสองตัว " ผมพยายามซื้อสีที่พอใส่แล้วจะสามารถใส่ได้นานๆ แบบ เสื้อนอกก็เลือกสีดำธรรมดาเป็นทรงเหมือนเสื้อหนาวที่ใส่เที่ยวได้ อีกตัวก็สีขาวปักตัวเองเก๋ๆบนอกทรงคล้ายๆกัน ส่วนเชิ้ตก็เอาสีขาวปักลายแบรนด์หัวใจที่หน้าอก " แต่มันยังไม่ได้ลองเชิ้ตเลย "
“ มันใส่ได้แหละ " ไอ้ภาพบอกปัด พอเห็นเด็กอ้อนหน่อยแม่งก็จะไม่ให้ทำอะไรละ
“ ไม่ได้มึง มันแพง ถ้าใส่ไม่ได้ขึ้นมา เปลืองเงิน " ผมบอกมันก็จะย่อตัวลงสะกิดอีกคน " ไอ้หัวหอม หันมานี่ "
“ งื้ออออออ อาภาพ หนูไม่อยากใส่แล้ว " แหน่ะ รู้อีก ว่าต้องอ้อนใคร
“ ตัวเดียวเองมึงนะ มันแพงอะ ถ้าไม่ลองแล้วเกิดจะใส่ ใส่ไม่ได้เปลืองตังค์นะ นะ หัวหอมคนดีของอาขม นะ นะ น้า " ผมสะกิดเรียกมันไอ้ภาพก็หัวเราะ " หัวเราะเหี้ยไรมึง "
“ นะ นะ น้าา ของมึงอะ " มันว่า ก่อนจะพูดเสียงเบา " น่ารัก " ผมนิ่งไปตอนที่ได้ฟังทำไมถึงรู้สึกแปลกวะ ปกติมันก็ชมแบบนี้ไม่เห้นจะรู้สึกอะไร คงเพราะเมื่อก่อนไม่ได้พูดคำเดียวแบบนี้มั้ง มันมักจะมีคำอื่นมาด้วยแบบ ' ไอ้เหี้ยทำผมทรงนี้น่ารักวะ ' ' เออขม มึงแต่งตัวแบบนี้น่ารักวะ ' แต่พอฟังคำว่า น่ารัก สั้นๆนี่ ถึงกับไปไม่เป็นเลยกู " กาลิคให้อาขมลองเสื้อหน่อยสิ ตัวเดียวเอง นะ เสร็จละเดี๋ยวไปซื้ออีกร้านก็ไม่ต้องลองแล้ว "
“ จริงเหรอ " มันเงยหน้าขึ้นมองภาพ อีกคนก็พยักหน้ารับ
“ ถ้ามันลองอีก กูจะจัดการให้ "
“ จัดการยังไงเหรอ " มันถามไอ้ภาพก็คิดก่อนจะยิ้มแล้วก้มลงไปกระซิบอีกคน
“ ให้อาขมลองเสื้อหน่อยนะ "
“ ครับ " พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายผมก็เหล่
“ อะไรกันวะ "
“ ความลับ " ภาพพูดสั้นๆ ผมก็ส่ายหน้าไปมาไม่สนใจ จัดการลองเสื้อให้หัวหอมเรียบร้อย ใส่ได้ ดูดี ผมก็เดินไปจ่ายเงิน ไอ้หัวหอมที่วิ่งตามผมไปในตอนนั้น ระหว่างรอผมก็เหล่มองไอ้ภาพที่ยังนั่งอยู่ทีเดิมไกลจากเค้าเตอร์คิดเงิน
“ หัวหอม " ผมเอ่ยเรียกมันอีกคนก็เดินเข้ามาใกล้
“ ครับ "
“ เมื่อกี้อาภาพมึงบอกวาจะทำโทษอะไรกู "
“ บอกว่าจะทำแบบที่กาลิคทำ " มันว่าก่อนจะเอื้อมมือมาดึงเสื้อผม " อาขม มานี่สิ กาลิคจะทำให้ดู " ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆมันแล้วใส่ตอนนั้น มือเล็กๆก็ดึงคอผมเข้าไปกอด มันหอมแก้มไปเต็มฟอด " อาภาพจะทำโทษอาขมแบบนี้เลย "
ผมเข้าใจทุกอย่างที่มันพูดเลยในตอนนั้น การทำโทษของไอ้หัวหอมมันเป็นแบบนี้จริงๆ นั่นคือการหอมแก้มแรงๆไปเลยเต็มฟอด
“ อาขมกลัวมั้ย " ผมยิ้มกว้างออกมาตอนที่มันถาม ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหอมแก้มไอ้ตัวเล็กคืนไป ตอนที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผมพูดกับตัวเอง
“ ไอ้เหี้ยภาพจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอวะ หึ.. หลอกเด็ก "
...............................................................
อยากจะเขียนนิยายเรื่องนี้ ให้น่ารัก เข้มข้นนิดๆ ใสๆแบ๊วๆ มีความจริงบ้าง ความเท็จบ้าง ปะปนกันไป
อยากให้อ่านกันแบบสนุกๆ เนอะ
คลายเครียดจากนิยายเรื่อง #ฟานคีย์ ที่เครียดมาสักพักนึง
ป.ล. หัวหอมน่ารักกกกกกกกก ขี้อ้อน~ ชอบเด็กขี้อ้อน อ้อนให้ อาภาพ อาขม หลงรักกันไปเล๊ย~
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ หนมจะได้รี โปรโมตนิยายตัวเอง #มองอ่อน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่า