ตอนที่17
การเข้าค่ายวันแรกไม่มีอะไรมาก เนื่องจากกว่าจะไปถึงก็มืดแล้ว พวกพี่ให้เรากินข้าวและทำกิจกรรมสันทนาการก่อนแยกย้ายกันไปนอน ห้องนอนพี่เขาให้เลือกได้อิสระห้องละ5คน ผมกับเพื่อนจึงอยู่กับเพื่อนอีก2คน เมื่ออาบน้ำเสร็จผมก็นั่งมองนาฬิกา
ผมนัดพี่ปกไว้ตอน4ทุ่มเพราะผมอยากทำเควสรายวันและพี่เขาก็เป็นไม่กี่คนในค่ายที่แบกโน้ตบุคมาเนื่องจากต้องใช้ตัดต่อภาพและเสียงตั่งต่าง และโชคดีอีกต่อที่มันเป็นเครื่องเดียวกับที่ผมลงเกมเอาไว้เมื่อคราวก่อนนู้น เมื่อนาฬิกาบอกเวลา4ทุ่มตรงผมก็เดินแรดออกมาจากบ้านพัก
เนื่องจากยังไม่ได้เวลาเข้านอนกันผมเลยได้ยินเสียงพูดคุยดังลอดออกมาจากบ้านพักแต่ละหลังตลอดทาง กระทั่งผมมาถึงห้องพี่ปก เคาะประตูสักพักก็มีคนมาเปิด ทว่าคนที่ออกมานั้นทำให้ผมตกใจนิดหน่อย
“พี่รัก?”
“อ๊า ตินเหรอ ตินเหรอ รอแป๊ปนะรอแป๊ป!!”พี่เขาลนลานพูดก่อนจะรีบปิดประตู ผมได้ยินเสียงวุ่นวายมาจากด้านในสักพักประตูก็เปิดออก”แฮ่ๆ พอดีพี่เป็นเศษของปี2เลยต้องมานอนกับพวกพี่เจิญ แต่พี่คิดว่าจะไปเล่นกับเพื่อนก่อนได้เวลานอนแล้วค่อยกลับมา แฮ่ พี่ไปละนะ”
งงกับรีแอคชั่นเลิ่กลั่กของพี่เขานิดหน่อยแต่ผมก็ไม่ได้เก็บมาคิดอะไรมากมาย ใจตอนนี้มันอยู่ที่เกมหมดแล้ว
“พี่ปกกกก น้องมาหาแล้วววว”เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็พบว่าห้องของรุ่นพี่นั้นเล็กกว่าห้องของพวกเราปี1 แต่ก็นอนกัน4คนทำให้ดูไม่คับแคบเกินไปนัก ผมทักทายพี่อัพกับพี่เจิญเล็กน้อย ทั้งคู่ดูจะยุ่งกับการคิดมุกแกล้งน้องที่ฐานในวันพรุ่งนี้ ส่วนพี่ปกนั้นกำลังนอนเฉยๆแต่พอเห็นผมเขาก็หยิบโน้ตบุคออกมาเปิดให้
ผมล็อคอินเข้าแกมเงียบๆ หูก็แอบเงี่ยฟังไปด้วยว่ารุ่นพี่ทั้งสองวางแผนร้ายอะไรกันอยู่
“เอ้อ ติน เห็นประกาศรับสมัครแข่งเกม NAQ ยัง”พี่เจิญถาม
“เห็นแล้ว แต่ผมคิดว่ายังไม่สมัครดีกว่า การแข่งนี้มันต้องเล่นเป็นทีมแต่พวกเราเพิ่งมาจับกลุ่มกันความเข้าขากันก็น้อยแถมไอ้ล่ายังฝีมือผีเข้าผีออกอยู่”ผมตอบขณะที่มือยังควบควมตัวละครเกมของตนอยู่
พี่เจิญพยักหน้ารับรู้และหันไปคุยกับเพื่อนต่อ
คืองี้ พวกพี่2คนเข้าทีมมาไม่นานทำให้พวกเราแทบไม่ได้ซ้อมกันเลย ผมคิดว่ามันยังเร็วเกินไปจริงๆ อีกทั้งการเล่นของแต่ละคนยังไม่เข้าขากันผมจึงรอลงแข่งทัวร์นาเมนต์ที่มีการแข่งแบบ PVP(สู้ตัวต่อตัว) ดีกว่า ไหนจะพี่ปกที่ยังติดสัญญาคาราคาซังกับทีมเก่าอีก
“อ๊ะ จะว่าไปทีมเก่าพี่ปกนี่ทีมอะไรเหรอ”
“...”
เพราะเห็นว่าพี่เขาเงียบผมเลยคิดว่าไม่ได้ยิน ลงทุนกดหยุดเกมเพื่อหันไปมองแต่ดันโดนทำหน้าดุใส่ซะงั้น
แล้วคุณชายจะกริ้วอะไรเล่า!?
เล่นเกมต่อก็ได้ ไม่สนใจแล้ว เชอะ!
“เอ้อ แล้วเมื่อกี้พี่รักพยามซ่อนอะไรเหรอ”ใจบอกว่าจะเงียบแต่ปากดันอยู่ไม่สุข ผมถามเพราะเห็นว่าพี่เขาดูลนลานแปลกๆตอนเห็นหน้าผม
“มันกำลังเขียนจดหมายขอโทษน้องเทคที่มันไม่ได้ให้อะไรเลย”
“เห ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่ ต้องขอบคุณพี่เขาด้วยซ้ำ”
“รู้ด้วยเหรอ”
“อุ๊ย แฮ่ๆ ก็พอจะเดาได้”
“งั้นพรุ่งนี้กลางคืนมันก็โดนลงโทษสินะ หึ ไอ้เจิญ บทลงโทษคนที่โดนน้องจับได้คืออะไรนะ”
“กินน้ำมะระสูตรเข้มข้น“ประธานรุ่นตอบ
“ทำไมปีนี้ลงโทษเบาจังวะ”
“นี่แหละหนักหนาสาหัสสุดแล้ว น้ำที่กูเตรียมมามันขมกว่ามะระจริงเยอะนะมึง กูสำรวจมาแล้วว่าพวกปี2ไม่มีใครชอบกินมะระสักคน รุ่นกระจอกสัส ตายห่ากันเกลี้ยงแน่พรุ่งนี้”พี่เจิญผู้รอบคอบลงทุนทำโพลสำรวจความชอบมะระหัวเราะร้ายกาจ เป็นด้านมืดของพี่เจิญผู้ใจเย็นที่ผมไม่เคยเห็น
อา...พี่เขาเป็นสาย S สินะ
“ถ้าผมทายถูกพรุ่งนี้พี่รักก็ต้องโดนลงโทษน่ะสิ”
“แต่ถ้าปี1ทายไม่ได้ก็ต้องดื่มแทน”
อุ๊ย น้องตินขอโทษนะครับพี่รักคนดี ตินอยากให้พี่มีสุขภาพแข็งแรงเพราะฉะนั้นพรุ่งนี้พี่ควรดื่มน้ำผักเพื่อสุขภาพ
เมื่อตกลงกับตัวเองได้แล้วว่าพรุ่งนี้จะจับพี่เทคให้ได้แบบคาหนังคาเขาผมก็นั่งทำเควสของตัวเองต่อจนห้าทุ่มเศษๆก็เอ่ยปากขอตัวกลับห้องพัก เนื่องจากพรุ่งนี้รุ่นพี่นัดให้ไปรวมตัวแต่เช้ากลัวว่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ทว่าเมื่อผมเดินออกมาจากห้องพี่ปกกลับเดินตามออกมาด้วย
“หือ? พี่ปกจะไปไหน”ผมถามคนที่เดินมาด้วยกันอย่างงุนงง
“ไปส่ง”
“แค่นี้เอง ไม่ต้องก็ได้”
“แค่นี้เอง พี่ไปด้วยก็ไม่เห็นไปไร”
อื้อหือ เดี๋ยวนี้หัดยอกย้อนนะเรา เมื่อผมจนด้วยคำพูดก็เลยเดินต่อไปเงียบๆ ดวงไฟจากห้องพักหลายหลังปิดไปแล้วโดยเฉพาะของพวกปี1 แต่พวกพี่ปีสูงๆอย่างปี4นี่ยังโต้รุ่งดีดกีตาร์ร้องเพลงปาร์ตี้กันอยู่เลย
“ไม่อยากเข้าฐานเลยอ่ะ พวกพี่เตรียมแกล้งน้องแรงป่ะ”
“ของอย่างนี้ต้องโดนกับตัวถึงจะรู้”
“หูยยย แล้วตอนพี่ปกอยู่ปี1 พี่ปกคิดว่ามันโหดมั้ย”
“ปีนั้นบังเอิญป่วยเลยไม่ได้มา”
นะ นี่มันโดดชัด!! ผมมั่นใจว่าการป่วยครั้งนั้นคือป่วยการเมือง พี่แค่ไม่อยากมาค่ายเลยหาข้ออ้างอยู่บ้าน ผมมองตาพี่ผมก็อ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว ตอนที่พูดว่าตัวเองป่วยไม่มีใครที่ไหนเขาอมยิ้มน้อยๆอย่างภาคภูมิใจแบบนั้นหร๊อก
“ขี้โกง...”ผมงุบงิบบ่น คนข้างๆไม่ได้ยินเพราะเสียงโหวกเหวกของบ้านพักข้างๆดังแทรกออกมา
ที่พักที่พวกเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อครู่มีคนเปิดประตูออกมาครับ และคนคนนั้นก็ร้องทักเราสองคนแทบจะทันที
“พี่ปกกก น้องตินนน จะไปไหนกันเหรอ”พี่รักผู้เฟรนลี่เดินลัลล้ามาทางนี้
“น้องจะกลับห้อง”พี่ปกตอบสั้นๆ
“น้องจะกลับแล้วพี่ปกเกี่ยวไรด้วย อย่าบอกนะว่าเดินมาส่ง ใกล้แค่เนี๊ยะ ออกตัวแรงไปป๊ะถามจริ๊ง ฮ่าๆๆ น้องรักคนนี้ก็ไม่อยากเดินกลับคนเดียวเหมือนกัน พี่ปกให้น้องเดินไปด้วยได้มั้ย”ผมเข้าใจว่าพี่เขาแค่แกล้งถามไปอย่างนั้นไม่ได้คิดจะตามมาจริงๆเลยไม่ได้ตอบอะไร พอพี่ปกทำหน้าดุๆใส่พี่รักก็หูลู่หางตกเดินจากไปเองแบบเงียบๆ
เดินผ่านบ้านพักของไอ้รัมผู้ชั่วร้ายซึ่งออกมานั่งเล่นกีตาร์กินขนมอบกรอบกับน้ำอัดลมแล้วก็คิดว่าน่ารักดี ในค่ายทางการแบบนี้เขาไม่ให้เอาดื่มของมึนเมาพวกพี่แกก็รักษากติกาไม่ดื่ม เป็นข้อดีอันน้อยนิดของรัมแอนด์ชางแกงค์ของมันที่ผมหาได้นับตั้งแต่เปิดเทอมมา พี่แม็คเจ้าเก่าเงยหน้าขึ้นมาสบตากันวูบหนึ่งก่อนทางผมเองที่เบือนหน้าหนี รู้สึกเฟลหน่อยๆที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ก่อนนอน หวังว่าคืนนี้จะไม่ฝันร้ายนะ
งุ้ย พี่ปก อวยพรให้น้องฝันดีหน่อย
ผมพยามอ้อนขอคำว่าฝันดีนะจากอีกฝ่ายผ่านทางสายตาวิ๊บวั๊บ แน่นอนว่าพี่ปกคนตายด้านมองไม่เอา เมื่อพวกเราเดินมาถึงบ้านพักของผมพี่เขาก็ทำท่าจะเดินกลับไปแบบไม่ร่ำลากันสักคำ
“พี่ปก ฝันดี”
แรดมากอะไรมาก เกิดมาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับใครเลยให้ตาย แต่รู้ไงว่าถ้าผมไม่เปิดเกมก่อนคนปากหนักอย่างพี่ปกไม่มีทางพูดแน่ๆ ขนาดผมเปิดอ่อยไปขนาดนี้พี่แกยังทำแค่หันมาพยักหน้าแบบมึนๆและทำหน้าเหมือนจะเดินจากไปอีกครั้ง
ผมแทบทรุดอยู่ตรงประตูห้อง แค่คำว่าฝันดีก็ให้น้องไม่ได้หรือ
เกาะหนึบ
ยอมแพ้อะไรง่ายๆก็ไม่ใช่ตินตินสิ ผมอาศัยความหน้าด้านที่สั่งสมมาประมาณหนึ่งเดินตามไปเกาะชายเสื้อของอีกฝ่าย พี่เขาหันมาเลิกคิ้วเชิงถามว่ามีอะไรแต่ผมไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น เรื่องแบบนี้พี่ควรมีสมองและคิดได้เอง น้องจะไม่ปล่อยจนกว่าพี่จะพูด ยืนให้ยุงกัดกันอยู่ตรงนี้นั่นแหละ
“จะเอาอะไร หือ”พี่ปกไม่ได้ดึงมือผมที่เกาะชายเสื้อของเขาออก พี่ท่านเพียงแค่เอี้ยวตัวมานิดนึงและ...
และ...เอื้อมมือมาลูบหัวผม
“พรุ่งนี้ต้องทำกิจกรรมเยอะเลย รีบนอนเอาแรงเถอะ”พี่ปกไล่น้องอ่า ฮือออ
“เมื่อกี้สบตากับแม็ค ฝันร้ายแน่เลย ฮือๆ”น้ำเสียงตอแหลกับการร้องฮือๆแบบไม่มีน้ำตากลับมาอีกครั้ง ผมลงทุนใบ้ขนาดนี้หวังว่าพี่เขาจะรู้นะ
พอเห็นว่าพี่ปกทำหน้าแบบ‘อ้อ’เหมือนเจ้าตัวจะเข้าใจแล้วผมก็เลยยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“แล้วพี่ต้องทำยังไง ให้นอนกล่อมมั้ย”
มากไปโว้ยยยย
เส้นประสาทของผมค่อยๆปริร้าว คิดในใจว่าพี่ปกของคนดีของน้องง่าวได้ขนาดนี้เลยเหรอ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายก็ทำให้ผมรู้ว่าพี่เขาแค่แกล้ง
ออกแรงแค่นิดเดียวพี่เขาก็รวบตัวผมเข้าไปกอดได้แล้ว แม้จะงงๆอยู่แต่ผมก็ยอมให้อีกฝ่ายยืนลูบหลังเหมือนกำลังโอ๋เด็กน้อยไปเรื่อยๆ และในขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยกระซิบข้างหูว่า”ฝันดีนะ ตินของพี่”
วินาทีนั้นเองผมก็เข้าใจว่าการร้องขอคำว่าฝันดีจากผู้ชายคนนี้คือการกระทำที่โง่เขลา นอกจากคืนนั้นทั้งคืนผมจะไม่ได้ฝันสักเรื่องแล้วกว่าจะข่มตาหลับได้ยังแทบแย่ น้ำเสียงที่ดังอยู่ในระยะใกล้นั่นคอยรีเพลย์ซ้ำๆเหมือนมีคนอัดเทปมาเปิดกรอกหูผมทั้งคืน ผมนอนพลิกตัวเป็นไฮเปอร์อยู่แบบนั้นจนกระทั่งทนไม่ไหว ต้องงัดไม้ตายก้นหีบมาใช้ หยิบมือถือออกมาเปิดคลิปสอนแคลคูลัสของฝรั่งในยูทูปออกมานอนเปิดดู ในที่สุดความฟินทั้งหมดก็ถูกทลาย ผมหลับไปในนาทีที่5ของคลิป
ผมตื่นเป็นคนสุดท้ายในห้อง อาบน้ำด้วยสภาพกายหยาบอยู่ในห้องน้ำแต่กายละเอียดยังนอนอยู่บนฟูก เดินตามเพื่อนออกมากินข้าวแบบเบลอ รู้ตัวอีกทีเฌอก็เข้ามาช่วยจูงมือผม ขอเดาว่าเมื่อกี้ผมเผลอสัปหงกระหว่างเดิน
“ตินเอากาแฟมั้ย”นุ้งเฌอถามเมื่อเห็นว่าผมกินข้าวเช้าเสร็จแล้วและกำลังจะเข้าเฝ้าพระอินทร์อีกระลอก
“ขมอ่ะ ไม่ชอบ”ผมงัวเงียตอบ”เดี๋ยวเข้าฐานก็ตื่นเองแหละ”
จากการไปนั่งเผือกอยู่ในห้องของประธานรุ่นกับเฮดว้ากเมื่อคืนทำให้พอทราบกิจกรรมในวันนี้บางส่วน และแค่บางส่วนที่ว่าผมก็แทบกระอักแล้ว แต่ได้ยินHPก็แทบหมดหลอด ถ้าต้องปฏิบัติจริงผมคงขาดใจตั้งแต่ด่านแรก
หลังจากกินข้าวเสร็จพี่เขาก็เรียกเราเข้าห้องประชุม มีกิจกรรมสันทนาการเล็กๆน้อยๆเพื่อให้รุ่นน้องกระฉับกระเฉง แน่นอนว่ากิจกรรมพวกนี้มันทำให้ร่างกายของผมยิ่งอ่อนเปลี้ย พวกเนิร์ดแว่นทั้งหลายเองก็มีสภาพซังกะตายไม่ต่างกัน ผมนึกภาพวันที่พวกเราจะกลายเป็นพี่ว้าก พี่สันทนาการไม่ออกเลยจริงๆ
ทว่าเมื่อเริ่มเข้าฐานแรกผมก็ได้รู้ถึงสาเหตุการวิวัฒนาการจากชาวเนิร์ดสู่ชายถึก
ถ้าเปรียบกับเกม การเข้าค่ายนี้ก็คือเควสสำหรับเปลี่ยนอาชีพ
พวกเหล่าชาวเนิร์ดทั้ง10เดินตามพี่ปี2ประจำกลุ่มมายังฐานแรก นั่นก็คือการไต่สะพานเชือกผ่านบ่อน้ำ โดยพี่ปี3ประจำบ่อจะค่อยขย่มเชือกจากทั้งปลายสะพานและในน้ำ น้ำมันไม่ลึกเพราะพี่เขายืนกันได้แต่มันผีบ้ามากจริงๆ เพื่อนคนแรกถูกถีบออกไปเป็นหน่วยกล้าตาย พอมันเดินไปได้สองสามเก้าเชือกก็แกว่งยังกับโดนพายุเข้า พวกพี่ที่อยู่ในน้ำก็ช่วยกันว้ากแกล้งจนหน่วยกล้าตายแทบร้อง
“โฮกกกกกกกกกกกกกก”เสียงโอดครวญนี้มิใช่ของผม แต่เป็นของหมาล่าเพื่อนรัก
“กูกลัวความสูงงง”มันครางหงิงๆเดินอ้อมมาหลังผม พวกเรากำลังต่อคิวกันขึ้นสะพานเชือกอยู่นั่นแปลว่ามันกำลังโชว์แมนด้วยการให้ผมขึ้นไปก่อน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องขึ้นทุกคน ขนาดผู้หญิงพวกพี่แกยังไม่ละเว้น
“ไม่อยากตกน้ำ”ผมเปรยเสียงเรียบ
ผมไม่อยากเปียกตั้งแต่ฐานแรก กิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับน้ำก็มี
และพอผมว่าไม่อยากตกน้ำไอ้หน่วยกล้าตายคนแรกที่กำลังจะเดินไปถึงปลายสะพานก็ร่วงลงบ่อ เสียงน้ำกระเซ็นเรียกสายตาจากทุกคนในอาณาบริเวณ ผมทำได้เพียงเอ่ยคำว่าอาเมนในใจและภาวนาขอให้พระเจ้าคุ้มครองตัวผม
“เราขอไปก่อนนะ”ทว่าก่อนจะถึงคิวผมเจ้าตัวเล็กกลับแทรกนำขึ้นมา
พอรุ่นพี่เห็นว่าเฌอเดินไปใน 1ใน4ของสะพานแล้วก็ปล่อยผมให้เดินตามบ้าง
ผมอายคอนแท็คกับพี่ประจำฐานที่ยืนแช่อยู่ในน้ำ พี่แกกระตุกยิ้มให้หนึ่งทีก่อนเข้ามาเขย่าเชือกเป็นบ้าเป็นหลัง
“อ๊ากกกกกกกกกก”ร้องไปเถิด สถานการณ์แบบนี้ใครๆก็ร้อง ไม่มีอะไรน่าอาย
ผมเกาะเชือกที่ผู้ไว้ให้ใช้มือจับแน่น
กลัวแล้ววววว น้องกลัวแล้ววววววววววววว พี่ไม่ต้องบิวต์ โอยยยย
หมับ
ขณะที่ผมกำลังหลับหูหลับตากระดึ๊บไปข้างหน้าทีละ3มิลลิเมตรนั้นเองก็มีมือของใครมาคนเอื้อมมาจับมือของผมทำให้ผมลืมตาขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าน่ารักของเฌอลอยอยู่ใกล้ๆผมก็ยิ่งตกใจ นุ้งเฌอน่าจะเดินไปได้ครึ่งทางแล้วนี่ อย่าบอกนะว่าย้อนกลับมาหาผมอ่ะ
“ไม่ต้องกลัวนะ ไปด้วยกัน”นอกจากเฌอจะไม่มีการหวานหวั่นใดๆ คุณท่านยังสามารถฉีกยิ้มอย่างน่ารักได้อีก
อย่าตัดสินคนจากภายนอก
ขอย้ำอีกครั้ง
อย่าตัดสินคนจากภายนอก
ในขณะที่ไอ้หมาล่าเพื่อนรักโดนเขย่าจนตกสะพาน นุ้งเฌอก็จูงมือผมกระดึ๊บมาถึงปลายสะพานและขึ้นฝั่งได้โดยสวัสดิภาพ
-----------------------------
หม่าล่านี่เป็นเดือนมหาลัยแบบที่มีอยู่จริงในโลกใบนี้เลยค่ะ คือเดือนที่คนเห็นแล้วต้องถามย้ำว่าคนนี้เนี่ยนะเดือนมหาลัย!? 55555555