ตอนที่4
เอเดรียนรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างมีโชคที่ไล่ตามกลิ่นหอมของเจ้าชายอเล็กเซียไป หากค่ำคืนนี้เขาไม่ตัดสินใจทำเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เขาเฝ้าคิดถึงบ้าง แค่จินตนาการภาพร่างเด็กหนุ่มนอนจมกองเลือดชายหนุ่มก็ปวดร้าวในอก
เอเดรียนไม่เคยจินตนาการถึงตัวเองที่เป็นเช่นนี้มาก่อน แทบไม่เคยคิดว่าเมื่อตนพบเจอคู่ฟ้าลิขิตจะเป็นเช่นไร พอได้มาประสบกับตัวเองบ้างแล้วถึงได้รู้รสชาติของความทรมานที่ผู้อื่นเคยได้รับ
ตอนที่เห็นอเล็กเซียพลาดท่า เป็นครั้งแรกเลยที่เขากระวนกระวายจนเกือบทำอะไรไม่ถูก หากเป็นโดยปกติแล้วคงจะไม่ลงมือฆ่านักฆ่าที่ลอบเข้ามา เป็นเรื่องปกติที่จะไว้ชีวิตเพื่อสืบหาความจริงหากคนร้ายไม่ชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้เสียทีเดียวว่านักฆ่านั้นถูกส่งมาจากที่ไหน
เอเดรียนมองดูเหรียญทองในมือที่ได้มาจากการแอบล้วงมานิดหน่อยจากร่างที่ตายสนิท เหรียญทองในมือเป็นเหรียญทองที่ใช้ทั่วไปในอาณาจักรไซปรัส
เอาทุกทางเลยสินะ
เอเดรียนแค่นยิ้มต่อแผนการทำลายอาณาจักรของพวกไซปรัส นอกจากจะบุกตีเมืองแล้วยังส่งคนมาฆ่าเชื้อพระวงศ์สร้างความระส่ำระสาย ต่อให้ถึงไม่สำเร็จก็ยังสร้างความหวาดกลัวให้ได้
ป่านนี้แล้วราชากับรัชทายาทคงรู้ตัวแล้วว่านักฆ่าที่ว่าเป็นนักฆ่าของพวกไซปรัส
ในยามนี้นั้นเอเดรียนมีความคิดที่อยากจะกลับไปเฝ้ายามเพื่อปกป้องอเล็กเซียจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้คนทั้งปราสาทคงจะตื่นตัวกันมากเป็นพิเศษ คงเป็นการยากที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ช่วงนี้พวกองครักษ์คงเข้มงวดมากกว่าเดิมและวางยามแน่นหนาขึ้น เมื่อคิดถึงข้อเท็จจริงเช่นนี้จึงวางใจขึ้นมาได้บ้าง
เอเดรียนกลับไปยังห้องของตนโดยมีทหารในปราสาทนำทาง เมื่อถึงห้องเขายังไม่นอนในทันทีได้แต่ครุ่นคิดถึงใบหน้าของเอเล็กเซียจนสุดท้ายก็เผลอหลับไป
หลังจากการลอบสังหารจากไซปรัสเมื่อสามวันก่อน ตอนนี้ท่านพ่อและท่านพี่เห็นว่าอเล็กเซียต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นหนาดังนั้นไม่ว่าจะไปไหนเขาจึงมีเหล่าองครักษ์ชั้นเลิศตามติดเป็นเงาถึงสามคน
อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะเข้าใจความคิดของท่านพ่อท่านพี่ แต่อเล็กเซียไม่เคยไปไหนมาไหนโดยมีคนตามติดเป็นเงาอย่างนี้แม้กระทั่งเวลาที่อยู่ในปราสาท เนื่องจากว่าแม้แต่ในปราสาทตอนนี้ยังกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยก็ได้แต่ต้องยอมทำใจยอมรับ
ช่วงนี้มีแต่เรื่องให้คิดจนปวดหัวไหนจะเรื่องนักฆ่าแล้วยังเรื่องของเอเดรียน เฟลเวเธอร์นั่นอีก อเล็กเซียนั้นยังติดใจเรื่องการปรากฏตัวอย่างผิดที่ผิดทางของชายผู้นั้นไม่เลิก คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก ดังนั้นจึงต้องหาคนที่จะปรึกษาได้
อเล็กเซียเดินทางไปหาไอแซคที่ที่ซ้อมรบพร้อมกับองครักษ์ที่ตามเป็นเงา เมื่อไปถึงที่นั้นเด็กหนุ่มพบว่าเจ้าชายรัชทายาทก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายกลับเดินตรงไปหาเพื่อนสนิททันที
“เจ้าพวกวูฟอะไรนั่นอาจจะคิดขโมยของมีค่าก็ได้นะ” ไอแซคเริ่มสันนิษฐานหลังจากฟังเรื่องที่เอล็กเซียเล่ามา
“จริงหรือ...เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ”
“ก็มันเห็นได้ชัดออกนี่นา พวกมันอยู่อย่างแร้นแค้นจะโลภมากก็ไม่แปลก” อเล็กเซียมีใจเอนเอียงเชื่อความคิดของไอแซค แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าจะไปดูถูกหรือใส่ความคนอื่นโดยไม่มีมูลไม่ได้เด็ดขาด
“อะไรกันเจ้าทำหน้าเหมือนลังเล นี่เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดอย่างนั้นหรือ” ไอแซคเริ่มจะไม่พอใจ
“ข้าไม่ได้ไม่เชื่อเจ้า แต่ข้าไม่อยากปรักปรำใคร”
“แล้วข้าปรักปรำตรงไหน เจ้านั่นมันเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากขโมย” เริ่มจะเห็นด้วยเพิ่มมากขึ้น มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะคิดเช่นนั้น การโผล่ผลุบแบบมีนัยยะเช่นนี้ไม่ใช่แค่เขาแน่ๆที่จะสงสัย ควรจะเตือนท่านพี่เอาไว้บ้างดีไหมนะ
ขณะที่คิดเช่นนั้นก็พบว่าในกลุ่มของทหารที่ซ้อมรบอยู่นั้นมีพวกวูฟปะปนอยู่มาก อเล็กเซียเห็นเอเดรียนซ้อมดาบอยู่กลับพวกทหารของอาณาจักร ท่านพี่ไม่เห็นบอกเขาเลยว่าจะนำพวกวูฟเข้ามาซ้อมรบร่วมด้วย
“อเล็กเซียดูเจ้าพวกนั้นสิ” ไอแซคสะกิดเรียก อเล็กเซียมองไปตามปลายนิ้วชี้ของไอแซคไปพบกับพวกทหารที่เริ่มแข่งพนันชกมวยกัน
“น่าสนุกเนอะ” อเล็กเซียได้แต่ยิ้มให้ไอแซค ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีความคิดพิเรนทร์อะไรอีก
“เจ้าจะเชื่อไหมว่าข้านะชกมวยเก่งมาก” อเล็กเซียนั้นไม่เคยเห็นไอแซคชกมวยมาก่อน ดังนั้นจึงอดแสดงสีหน้าแปลกใจออกไปไม่ได้
“ไม่เชื่อล่ะสิ” ไอแซคทำหน้างอ ชวนให้อเล็กเซียนึกอยากหยอกเย้าอีกฝ่ายดังนั้นจึงแกล้งดูถูกเพื่อนสนิทไปทั้งที่ใจไม่ได้คิดเช่นนั้น
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะโดนเขาชกจนร้องไห้มากกว่านะสิ” ตอนนี้ไอแซคยิ้มกว้าง รอยยิ้มซุกซนเจ้าเล่ห์ของไอแซค
อเล็กเซียเห็นแล้วตงิดในใจแปลกๆ
“ถ้าข้าชนะคนพวกนั้นได้เจ้าจะให้รางวัลข้าไหมล่ะ”
“รางวัลอะไร เจ้าจะเอาอะไร” ชักไม่ขอบมาพากลเสียแล้ว แต่เอล็กเซียยังยิ้มให้ไอแซค
“อะไรก็ได้ตามที่ข้าขอไง” ไอแซคแสยะยิ้ม อเล็กเซียได้แต่ถอนหายใจ เรื่องสนุกแบบบ้าๆของไอแซคอีกอย่างหนึ่งเขาไม่เอาด้วยเด็ดขาด
“ไม่เอาล่ะ คำขอของเจ้ามันกว้างเกินไป ข้าไม่เล่นด้วยดีกว่า” บอกไปตรงๆแต่ไอแซคไม่ยอมแพ้ยังยื่นข้อเสนอต่อไป
“เอาเป็นจูบซักครั้งดีไหมล่ะ ถ้าข้าชนะเจ้าพวกนั้นเจ้าต้องมอบจูบให้ข้าเป็นรางวัลเหมือนที่เจ้าหญิงมอบจูบให้อัศวิน”
“น่าสนุกดีนี่” อเล็กเซียและไอแซคพากันตกใจ เมื่อรัชทายาทธีโอปรากฏตัวแบบไม่ให้ซุ่มเสียง
“ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรที่ว่าสนุก” อเล็กเซียชักสังหรณ์ใจไม่ดี ไม่รู้ว่าท่านพี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่ามาแอบฟังเรื่องที่เขาพูดกับไอแซคตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอาอย่างนี้ดีไหมน้องพี่จัดเป็นงานแข่งอย่างเป็นทางการไปเลยนอกจากจะได้จุมพิตจากเจ้ายังจะได้เหรียญทองเป็นรางวัลอีกพันเหรียญ”
“ท่านพี่ล้อเล่นอะไรครับ”
“เอาน่าอเล็กเซีย เรื่องจูบนี่จูบทักทายตามธรรมเนียมไปก็ได้นี่ ที่สำคัญพี่อยากจะให้พวกทหารได้สนุกกันบ้างในเวลาตึงเครียดแบบนี้ เจ้าก็ถือว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงซักวันเถอะนะ” รัชทายาทตีมือที่ไหล่ของอเล็กเซียเบาๆพลางขยิบตาส่งมาให้ เด็กหนุ่มส่งสายตาค้อนควักใส่ไอแซคแต่อีกฝ่ายหารู้ตัวว่าผิดไม่
“เอาน่าอเล็กเซียแค่ข้าขนะก็พอใช่ไหมล่า”
“ใช่ๆๆ แค่ไอแซคชนะเท่านี้น้องพี่ก็ไม่ต้องหอมแก้มคนอื่นแล้วนะ” มองค้อนให้ท่านพี่ที่เอาแต่ใจด้วยอีกคน ต้องยอมตามเสียไม่ได้เพราะท่านพี่ตีกลองป่าวประกาศให้พวกทหารในค่ายมารวมตัวกัน หนึ่งในนั้นมีเอเดรียนกับพวกวูฟมารับฟังด้วย
พวกทหารเริ่มจะคึกคักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อการแข่งชกมวยที่เจ้าชายรัชทายาทจัดขึ้น อเล็กเซียได้ยินเสียงโห่ฮาว่านอกจากจะได้เงินแล้วยังจะได้จูบจากเจ้าชาย ท่าทางสนุกสนานของพวกทหารที่เอาแต่เคร่งเครียดกันมาหลายเดือน ทำให้เด็กหนุ่มคิดว่าอาจจะดีก็ได้ที่ท่านพี่จัดงานแข่งเช่นนี้ขึ้นมา ทว่ายังตะขิดตะขวงใจอยู่เช่นเดิมที่ต้องมอบจูบให้ผู้ชนะ
“ท่านพี่แค่หอมแก้มแค่นั้นนะครับ”
“แน่นอน อันที่จริงแค่ให้เจ้าหอมแก้มเพื่อเป็นสีสันในการแข่งเท่านั้น ผู้ชายที่ไหนเขาจะอยากจูบอยากได้หอมจากผู้ชายกันล่ะ บางทีผู้ชนะอาจจะขอยกเลิกไม่ให้เจ้าหอมแก้มก็ได้นา” รัชทายาทเอ่ยขำๆ อเล็กเซียฟังแล้วเกิดความคล้อยตาม จริงอย่างที่ท่านพี่พูดผู้ชายที่ไหนจะอยากให้ผู้ชายด้วยกันมาหอมแก้ม ถึงแม้จะแค่จูบทักทายก็ตามเถอะ คิดแล้วก็ถอนหายใจต้องยอมทำตามที่ท่านพี่ขอแกมบังคับอย่างเสียไม่ได้
การแข่งขันผ่านไปจนบ่ายแก่ๆ ตอนนี้พวกทหารดูจะสนุกสนานกับการแข่งขันอย่างมาก ส่วนอเล็กเซียนั้นนอกจากเอาใจช่วยให้ไอแซคชนะอย่างมุ่งมั่นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และไอแซคก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทว่าคู่แข่งคนสุดท้ายของไอแซคดันกลายมาเป็นเอเดรียน เฟลเวเธอร์เสียได้
อเล็กเซียนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะมีคนที่เก่งทั้งเชิงดาบและเชิงมวยอย่างเอเดรียนปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขา ยิ่งได้ดูการแข่งของเอเดรียนยิ่งหนักใจขึ้นทุกขณะ หากว่าไอแซคพ่ายแพ้ต่อเอเดรียนจริงเขาจำต้องหอมแก้มผู้ชายคนนั้น
พาลให้นึกไปถึงตอนที่ถูกปล้นจูบ ตอนนั้นถูกขโมยอย่างไม่เต็มใจ แค่นั้นก็ทำให้เขารู้สึกแย่พออยู่แล้ว ครั้งนี้กลับต้องเป็นคนมอบจูบให้คนผู้นั้นด้วยตัวเอง
ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องเข้ามาแข่งชกมวยในครั้งนี้ด้วยนะ อยากได้เงินหรอกหรือ หรือว่า......อยากได้จูบจากเขา
คิดถึงตรงนี้ก็เกิดความละอายขึ้นมา ใบหน้าของเอล็กเซียแดงก่ำ บ้าที่สุดไม่มีเหตุผลที่อีกฝ่ายจะอยากได้จุมพิตจากเขาเสียหน่อย
แต่หากจะคิดดูให้ดี ตอนที่เสนอว่าจะให้สิ่งของแทนคำขอโทษ อีกฝ่ายก็ปล้นจูบเขาไปแทนสิ่งมีค่า เคยได้ยินมาว่าพวกขุนนางมักจะมีชายบำเรอคอยสนองความใคร่ นอกจากนั้นผู้คนบางส่วนก็มีไม่น้อยที่รักชอบเพศเดียวกัน หรือว่า
เอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็เป็นคนแบบนั้น
ถ้าหากว่าคนผู้นั้นเกิดมีใจให้เขาจริงเขาคงต้องขอปฏิเสธ เขาไม่เคยคิดชอบพออีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นยังมีแต่ความไม่ไว้ใจต่อท่าทีหยาบคายที่อีกฝ่ายแสดงต่อเขา พอจุดประเด็นเรื่องรักๆใคร่ๆขึ้นมาก็พาลคิดไปว่าคืนนั้นที่เอเดรียนแอบเข้ามาในเขตต้องห้ามอาจจะเพราะแอบตามเขามาหรือเปล่า
หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อันตรายนัก เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถเอาไปปรึกษาท่านพี่ได้ แต่ถ้าเรื่องที่คิดอยู่นี้เป็นการคิดไปเอง เห็นทีว่านอกจากจะกลายเป็นการใส่ร้ายยังมีแต่ที่จะต้องเสียหน้าด้วยความอับอาย
เสียงระฆังดังขึ้นเป็นการเริ่มต้นการชก รู้ตัวอีกทีไอแซคกับเอเดรียนก็ขึ้นชกเสียแล้ว ไอแซคนั้นอาศัยที่ตัวเองว่องไวกว่าออกท่วงท่ามากมายทั้งยังหลบซ้ายป่ายขวาอย่างคล่องแคล่ว หลบการโจมตีของเอเดรียนได้หลายหมัด
น่าแปลกตอนที่ทะเลาะกันครั้งแรกกับไอแซคนั้นเอเดรียนเป็นคนที่ว่องไวมากแม้จะตัวโตกว่าคนปกติ แต่ตอนนี้กลับดูเชื่องช้ากว่าเดิม หรือว่าคนผู้นี้อาจจะเหนื่อยต่อการชกต่อเนื่องเสียแล้วกระมัง
เมื่อเห็นไอแซครัวหมัดอยู่ฝ่ายเดียวจนเอเดรียนได้แต่ปัดป้องคุมเชิง อเล็กเซียก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ครั้งนี้เด็กหนุ่มเดาว่าไอแซคต้องชนะเอเดรียนอย่างแน่นอน ทว่าจังหวะที่ไอแซคโถมตัวเข้าชกเต็มหมัด คนถูกชกกลับโยกหลบหมัดก่อนจะสวนหมัดเข้าที่แก้มของไอแซคเข้าเต็มๆ ไอแซคเซถลาลงพื้นในท่าจับกบ อเล็กเซียหน้าซีดเผือดไม่คิดว่าการต่อสู้จะจบเร็วแค่นี้
“ไอแซคลุกขึ้นยืนสิ” อเล็กเซียตะโกนเชียร์ โดยไม่มีใครคาดคิด ไอแซคที่ลุกขึ้นพรวดซัดเอาทรายเข้าตาของ
เอเดรียน เด็กหนุ่มเดาว่าเอเดรียนนั้นมองไม่เห็นแน่ๆเพราะทรายเขาตาไปเต็มๆ
“เฮ้อถึงแม้จะเป็นกลยุทธอย่างหนึ่งในการต่อสู้ก็เถอะ...แต่ก็นะพี่รู้สึกขัดใจอย่างไรไม่รู้”
ไม่แค่ท่านพี่เท่านั้นที่ขัดอกขัดใจ อเล็กเซียเองก็รู้สึกขัดใจเช่นกัน ในการประลองที่ยึดถือความขาวสะอาดแบบนี้ แต่ในเมื่อไม่มีกติกาห้ามไว้การกระทำของไอแซคจึงถือว่าไม่ผิด ตอนนี้เด็กหนุ่มเริ่มจะเห็นใจเอเดรียนขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
กระนั้นเหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่ใครๆคิด ทุกคนที่คิดว่าไอแซคต้องชนะแน่กลับต้องส่งเสียงฮือฮาเพราะคนที่ถูกจัดการจนลงไปกองกลับไม่ใช่คนที่มองไม่เห็น เอเดรียนนั้นถึงจะตามมืดบอดก็ยังตอบโต้หลบหลีกว่องไวมากเสียกว่าตอนลืมตาได้เสียอีก หมัดขวาที่ควงสว่านจนดูน่ากลัวนั้นถูกกระแทกเข้าที่หน้าท้องและใบหน้าของไอแซคจนจุกล้มลงไปนอนสลบเหมือดอย่างสวยงาม
เสียงเอาใจช่วยแซ่ซ้องยินดีดังกระหึ่มไปทั่ว พวกทหารรวมทั้งพวกวูฟต่างเข้าไปแสดงความยินดีต่อการชนะของเอเดรียน หัวใจของอเล็กเซียเต้นตุบๆเกิดความรู้สึกแปลกๆบางอย่างที่อธิบายไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ดูดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก ในตอนที่ชกชนะด้วยดวงตาที่มองไม่เห็นได้นั้น อเล็กเซียถึงกับชื่นชมและยอมรับในความเก่งกาจของชายหนุ่ม คนผู้นี้สมควรได้รับรางวัล ถึงแม้จะกระดากที่ต้องหอมแก้มก็เถอะ แต่จะถือว่าเป็นการให้รางวัลที่อีกฝ่ายได้ให้เขาเห็นการต่อสู้ที่งดงามซึ่งไม่ได้มีได้บ่อยครั้ง
“เอ้าๆ เอเดรียนมารับรางวัลเสียสิ” รัชทายาทธีโอมอบรางวัลเป็นเหรียญทองพันเหรียญให้เอเดรียนรับไป และยังไม่ลืมถามถึงเรื่องจุมพิต
“ว่าไงเอเดรียนอยากจะได้จุมพิตจากเจ้าชายหรือไม่” เจ้าชายรัชทายาทยิ้มกริ่ม อเล็กเซียสูดลมหายเจ้าเข้าปอดรอคอยคำตอบจากเอเดรียน
“การได้จูบจากเจ้าชายถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่งของข้าครับ” เจ้าชายรัชทายาทฟังแล้วก็หัวเราะ
ท่านพี่คงเห็นเป็นเรื่องขำขันและสนุก ไม่เพียงแค่ท่านพี่พวกทหารคนอื่นก็เห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยเช่นกัน ตอนนี้ท่านพี่กวักมือเรียกเขา อเล็กเซียเดินตรงไปหาเอเดรียน มีความลังเลว่าจะหอมที่แก้มซ้ายหรือขวาดี สุดท้ายก็เลือกที่แก้มขวาแล้วจูบลงไปแผ่วๆอย่างรวดเร็ว
ยิ้ม เอเดรียน เฟลเวอเธอร์ส่งยิ้มหวานๆมาให้เขา ทำเอาหัวใจของอเล็กเซียสะดุดลงชั่วแวบหนึ่ง เหตุใดคนผู้นี้ต้องยิ้มเช่นนี้ให้เขาด้วยนะ
“เอ้าในเมื่อเจ้าได้รับรางวัลครบแล้วนะเอเดรียน ข้ามีรางวัลส่วนตัวจากข้า เพราะข้าประทับใจในฝีมือของเจ้ามาก ข้าจะจัดงานเลี้ยงเหล้าให้พวกเจ้ากับคนในเผ่าแล้วกันนะ...ส่วนพวกทหารคนอื่นๆที่ร่วมแข่งขันไปรับเหล้าหนึ่งขวดจากคลังของปราสาทได้บอกว่าเป็นคำสั่งของข้า”
สิ้นคำของท่านพี่เหล่าทหารก็โห่ร้องด้วยความชอบใจ อเล็กเซียปลีกตัวไปเพื่อไปดูอาการของไอแซคที่นอนสลบอยู่ด้วยความเป็นห่วง
จะบอกว่าดีใจโครต คนเม้นเยอะมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช็ดน้ำตาแป๊บ
ตอนต่อไปกำลังเขียนอยู่ค่ะ แต่ว่าพรุ่งนี้ติดธุระคงงดลงหนึ่งวัน
เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ