พอดีต้องรีบไป......... อดแกล้งเลย
ขอความเห็นใจ รักนิคมากๆๆๆๆ นะคร๊าบบบบบบบบบ
.......................................................
ตอนที่ 14 โมโหหิวว้อย สะกดให้ถูก
“โมโหหึงขนาดนั้นเลยเหรอพี่”
“แกตกภาษาไทยรึเปล่าไอ้นกเอี้ยง โมโหหิวว้อย สะกดให้ถูก หิวกับหึง สะกดไม่เหมือนกัน เดี๋ยวพ่อจูนสมองให้ใหม่เลย”
ไอ้น้องนกเอี้ยงทำคอหดกับคำขู่อาฆาตเสียงเหี้ยมและอาวุธในมือของพี่รหัส เดินต๊อกๆตามหลังไอ้พี่นิคไปถึงซุ้มก็เห็นฝ่ายสวัสดิการกำลังยกข้าวกล่องเข้ามาพอดี เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ คนอะไรวะ โมโหหึง เอ้ย โมโหหิวน่ากลัวชะมัด ไอ้นกเอี้ยงนินทาพี่รหัสมันในใจ
“เฮ้ย ไอ้แม็ค หาอะไรมาให้กระเดือกหน่อยดิ๊ หิวสาดๆเลยว่ะ หิวจนหน้ามืดแล้วเนี่ย”
“หึงจนหน้ามืดมากกว่ามั้งพี่” ไอ้นกเอี้ยงมันยังวอน ผมเลยยกค้อนขึ้นขู่อีกรอบ
ไอ้คุณนิคหันไปตะโกนใช้เพื่อนเหมือนไอ้แม็คเป็นทาสในเรือนเบี้ย ไอ้นี่ก็ด้วยความที่ยังมีคดีความติดตัวเรื่องฟอร์เวิร์ดเมล์ เลยไม่กล้าอิดออด รีบลุกขึ้นไปแย่งชิงข้าวกล่องกับคนอื่นๆเอามาให้คุณชายเพื่อนรักอย่างว่องไว
“ใครไปกระตุ้นเชื้อบ้าไอ้คุณนิคขึ้นมาอีกวะ ไอ้นกเอี้ยง” ไอ้แม็คหันไปกระซิบสอบความถามไถ่จากน้องรหัสของเพื่อน
“พี่นิคบอกว่าโมโหหิว แต่เอี้ยงว่าพี่นิคโมโหหึงพี่เชนมากกว่า โอ้ย ทำร้ายสุภาพสตรี เอี้ยงจะฟ้องมูลนิธิปวีณา”
“อย่างแกมันต้องมูลนิธิช้างไทย ช้างสมองเสื่อมอีกต่างหาก บอกว่าไม่ได้หึงๆไม่เข้าใจรึไงวะ”
ไอ้นกเอี้ยงคลำหัวป้อยเพราะโดนพี่รหัสเอาขวดน้ำพลาสติคแถวๆนั้นเคาะกะโหลกไปหนึ่งที ความจริงมันก็ไม่เจ็บหรอก แกล้งร้องไปงั้นเอง ก็ใช้ขวดเปล่าๆมีแต่ลมข้างในจะไปเจ็บได้ยังไง อีกอย่างพี่รหัสมันตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นแล้ว ก็พี่แกเล่นซัดข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวไปสองกล่องรวดเดียวหมดเป็นชูชก กินจุอย่างกับมีหลุมดำในกระเพาะ
“มรึงไปพูดกับไอ้เชนอย่างนั้นไม่แรงไปหน่อยเหรอวะ”
ไอ้แม็คให้ความเห็น หลังจากไอ้น้องนกเอี้ยงตัวดีแปรพรรคไปเข้าพวกกับฝ่ายไอ้เชน เล่าเหตุการณ์ตอนองค์ลงสำแดงเดชของไอ้คุณนิคอย่างเมามันในอารมณ์
“ใช่ๆ เอี้ยงล่ะสงสารพี่เชนจริงๆไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อยู่ๆพี่นิคก็เอาระเบิดไปทิ้งลงกลางวงอย่างนั้น แล้วตอนที่พูดคำว่ารำคาญนะ หูย เอี้ยงล่ะไม่อยากจะบรรยาย พี่เชนงี้ตาลุกวาบๆแทบจะปล่อยแสงได้ คงทั้งโกรธทั้งน้อยใจพี่นิคน่าดูเลยล่ะ”
“พี่ว่าแกซิ่วไปเรียนนิเทศเถอะป่ะ เล่าได้เป็นตุเป็นตะเลยเว้ยไอ้นี่หนิ”
ผมเปิดกระป๋องโค้กขึ้นยกซด อิ่มหนำสำราญแล้วก็เลยเปิดศึกน้ำลายกับเพื่อนโดยมีไอ้น้องนกเอี้ยงน้องรหัสผู้แสนดีที่ไม่เคยจะเข้าข้างพี่มันเลยตั้งแต่ได้เห็นไอ้เชนในตำแหน่งสารถีของไอ้พี่นิคแล้วเกิดความคิดอยากให้พี่รหัสหน้าสวยของมันเข้าสู่วงการสีม่วงคู่กับไอ้เดือนคณะ คราวนี้มันก็ยังแปรพรรคไปรับหน้าที่คณะลูกขุนของไอ้แม็คอีก
“มรึงไม่อยู่ในเหตุการณ์มรึงไม่รู้หรอกไอ้แม็ค แมร่ง หน้าตาไอ้เชนมันกวนตรีนกุชิบ ไอ้หมาปิงปองก็ล้ออยู่ได้ รับมุกกันเนียนอย่างกับแก๊งค์สามช่ามาเอง พอไอ้ปิงปองมันบอกว่าไอ้เชนรักเดียวใจเดียวกับกุ ไอ้ห่ะนั่นก็ยอมรับแบบหน้าตาเฉย นั่นยังไม่น่าหมั่นไส้เท่าเรื่องนี้ ไอ้เชี้ยเชนนะ ทั้งที่ตัวเองนั่งทำตาเชื่อมใส่สาวนิเทศข้างๆ น้ำลายหยดแหมะๆ อย่างกับหมาเห็นกระดูกแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาแกล้งเออออกับไอ้ปิงปองว่ากุเป็นแฟนมันอีก เห็นแล้วหมั่นไส้ชิบ พูดแล้วก็แค้นมันว่ะ แมร่ง เห็นกุเป็นตัวตลก มีสาวรุมตอมให้หึ่งยังจะมาแหย่กุอีก”
เล่าไปก็โมโหปากหมาไป ยกน้ำอัดลมในกระป๋องขึ้นซดอีกครั้งพรวดเดียวหมด ซ่าจนแสบขึ้นจมูก
“เดี๋ยวๆ กุฟังแล้วงงว่ะ ตกลงมรึงโมโหใคร แล้วทำไมต้องโมโห” ไอแม็คมันโง่รึเปล่า เล่ามาตั้งนานยังไม่เก็ท
“โมโหพวกมันทั้งฝูงนั่นแหละ โดยเฉพาะไอ้ไส้เดือนเชน เห็นแล้วไม่ทักกันสักคำ เอาแต่เก๊กหน้าหล่อ ทำวางมาดสุขุมนุ่มลึกอวดสาวอยู่ได้ กุเลยเอาค้อนทุบคัทเอาท์แมร่งมันกลางวงเลย สะใจชิบ หิวก็หิว ง่วงก็ง่วง ยังจะมากวนตรีนกุอีก”
ไอ้แม็คทำหน้าเหวอ อ้าปากค้างน้อยๆ แล้วหันไปมองหน้าไอ้น้องนกเอี้ยงที่ยักคิ้วกวนๆส่งมาให้เพื่อนของพี่รหัสมัน ทำนองจะบอกว่า เห็นมั้ย...... เอี้ยงบอกแล้ว ถึงจะตกภาษาไทยแต่ก็ไม่ได้ไอคิวต่ำเตี้ยเรี่ยผิวดินถึงขั้นสะกดคำว่าหึงกับหิวผิดแน่
“ไอ้คุณนิคเอ้ย มรึงนะมรึง แล้วไปพูดว่ารำคาญไอ้เชนอย่างนั้นมันไม่เคืองแย่เหรอวะ”
“ช่างหัวมันสิ จะโกรธก็ช่างแมร่ง สมน้ำหน้า อยากแหย่กุดีนัก ถึงทีกุเอาคืนมั่งล่ะ”
ไอ้นิคหัวเราะสะใจได้แก้แค้นไอ้เชนเสียที เฮ้อ กินอิ่ม หายหิว นี่ถ้าได้นอนซักงีบก็คงเหมือนขึ้นสวรรค์
“ไอ้นิคไอ้แม็ค มรึงจะอ้อยสร้อยแด๊กข้าวอีกนานมั้ย อิ่มแล้วก็เร่งมือสิวะ กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย”
ไอ้พี่เจ๋งส่งเสียงเรียกอย่างกับเป็นหัวหน้าคนงาน ทำเอาสวรรค์ล่ม ต้องตัดใจจากเค้กช็อคโกแล็ตของไอ้น้องเอี้ยงที่ผมกำลังหมายตาจะแอบจิ๊กมากิน ก็ไอ้น้องรหัสตัวดีมันซื้อมาตุนไว้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วก็เพิ่งมาบอกว่ามีขนม ปล่อยให้ผมโมโหหิวตั้งนาน คิดแล้วก็ลุกขึ้นหยิบอาวุธคู่กายไปฟาดฟันกับโครงซุ้มประตูไม้ไผ่ต่อ
เสียงตอกตะปูโป๊กๆ ดังคลอไปกับเสียงคุยกันเฮฮาของพวกเพื่อนสาขาทำให้งานไม่น่าเบื่อจนเกินไป ผมกำลังเพลินกับการทำซุ้มประตูให้ฝ่ายเกมบิงโกอยู่แทบจะทำค้อนหล่นใส่หัวไอ้ปิ่น เมื่อจู่ๆมันก็เดินเข้ามาแผดเสียงใส่ลืมมาดดาวสาขาไปอย่างสิ้นเชิง
“ไอ้คุณนิค แกไปก่อวีรกรรมอะไรกับเชนของฉันไว้” จมูกไวจริงๆไอ้ดาวยั่วโมโห
“แล้วไอ้เชนของแกมันบอกว่าไงล่ะ รู้แล้วยังจะมาถามทำต๋อยไรอีก ไปๆอย่ามาเกะกะผู้ชายเขาจะทำงาน แถวนี้ตะปูเยอะด้วย เดินระวังๆหน่อยแล้วกัน”
นี่แหละครับไอ้นิคสุภาพบุรุษสุดแสน อิ อิ ก็แม่ผมอบรมมาดีนี่ ไอ้ปิ่นเลยลดเลเวลความโกรธลงแล้วเปลี่ยนเป็นถอนใจเฮือกๆ
“เชนจะโดนสาวนิเทศงาบไปก็เพราะแกมันกวนอย่างนี้แหละ ทำไมนะไอ้คุณนิค สมบัติคณะก็ต้องช่วยกันรักษาไว้สิ ผู้ชายหน้าตาดีๆคณะเรายิ่งหายากอยู่”
“นี่แกเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าไอ้ปิ่น สมบัติคณะมันต้องสาวๆสวยๆดิวะ ผู้ชายในคณะมีเป็นฝูงยั้วเยี้ยเต็มไปหมดอย่างนี้ทำไมจะต้องหวง ผู้หญิงสิวะ ผู้หญิง ผู้หญิงต่างหากที่เป็นสมบัติคณะ ผู้หญิงเท่านั้นที่สมควรจะจรรโลงไว้ในสังคมวิดวะของพวกเรา แต่ผู้หญิงที่ฉันว่านี่เว้นแกไว้คนนะ 55”
“ฮึ้ย คุยกับแกแล้วปวดตับ ไม่ได้ดั่งใจจริงๆ โธ่เว้ย”
ว่าแล้วไอ้ปิ่นมันก็หลุดแบ๊ว แมนแตก เดินปึงปังออกไป เออสิ เอาเข้าไป แต่ละคนนี่ไม่ได้จะเข้าข้างกุเลย หรือมันจะเป็นวันนั้นของเดือน ไอ้นิคเซ็ง หันไปเห็นสายตาพี่เจ๋งหัวหน้าคนงานมองมาเลยต้องรีบเร่งมือทำงานต่อ ไว้ค่อยถามแล้วกันว่าไอ้ปิ่นมันหงุดหงิดอะไรแน่
คืนนั้นพวกวิดวะคอมเลยโดนเกณฑ์แรงงานเยี่ยงทาสกันทั้งคืน ถึงขั้นนอนระเกะระกะกันที่คณะไม่เว้นแม้แต่ไอ้นิคทั้งที่ไม่ชอบไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหน ก็ถึงขั้นหมดแรงกระเพราไก่ไข่ดาว นอนกองเป็นซากศพซำเหมาอยู่กับไอ้แม็คไอ้ตะวัน พอตื่นมาก็ต้องรีบตาลีตาเหลือกกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วหัวซุกหัวซุนกลับมาเรียนต่อ เรียกว่าเร่งมือกันเต็มที่เพื่อให้ทันงานสำคัญวันมะรืนนี้โดยเฉพาะ
“ขวาหน่อยๆ เออๆ ยกขึ้นสูงๆอีกนิด เออๆได้แล้วๆ”
ไอ้ตะวันตะโกนสั่งงานไอ้คุณนิคที่กำลังเอาป้ายผ้าขึ้นไปแขวนมัดติดต้นมะขามเสียงดังลั่น สาเหตุที่ผมโดนใช้ให้ปีนต้นไม้เป็นลิงอย่างนี้ก็เพราะงานตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมตอนเด็กๆยังเป็นหัวโจกเด็กแถวบ้าน พากันไปปีนต้นตะขบอยู่เป็นประจำ เรียกว่ามีความชำนาญกว่าใครในนี้ทั้งหมด เลยอาสาช่วยไอ้ตะวันตามประสาคนดีมีน้ำใจ 55
“เสร็จแล้วก็ลงมาสิวะ เป็นลิงเหรอมรึง ห้อยต่องแต่งอยู่ได้”
“ก็ลองขึ้นมาเองบ้างสิวะ แมร่ง ทำไมมันสูงอย่างนี้ ทีตอนปีนขึ้นมาไม่เห็นมีไรเลย”
ขาขึ้นก็ตั้งหน้าตั้งตาปีนขึ้นมาอย่างเดียว แต่พอขาลง มองไปข้างล่าง ไหงมันสูงจนเสียววูบๆงี้วะ ทีเมื่อก่อนยังไม่เห็นเป็นไร โหนขึ้นโหนลงต้นไม้จนลิงยังอาย แต่ตอนนี้กลับหวิวๆ อูย สูงชะมัด สงสัยจะร้างราจากวงการทะโมนไปนาน
“มรึงไปหาบันไดมาให้หน่อยดิ๊ ไมมันสูงงี้วะ เฮ้ยๆๆๆๆ”
แหกปากได้แค่นี้ไอ้ลิงนิคก็มีอันต้องจุกแอ้ก เพราะมือที่คว้ากิ่งไม้ไว้หลุดวืด แล้วพริบตาเดียวผมก็ลงมานอนแอ้งแม้งคลุกฝุ่นอยู่โคนต้นมะขาม
“เฮ้ย ตายยังวะ” ดูปากเพื่อนที่รัก
“มรึงดิตาย อูย...เจ็บชิบหาย”
โชคยังดีที่ผมปีนลงมาจนถึงกิ่งด้านล่างสุดใกล้กับโคนต้นแล้วมือถึงคว้าพลาด เพราะถ้าตกลงมาตั้งแต่อยู่บนยอดไม้ เชื่อได้เลยว่าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่
“เป็นไงมั่งวะ ไปหาหมอมั้ยมรึง เผื่อจะให้หมอเอ๊กซเรย์สมองด้วย ปกติก็ไม่เต็มอยู่แล้ว”
ผมเลยเบิ้ดกะโหลกมันไปหนึ่งทีเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสมองยังทำงานสั่งการได้อย่างเป็นปกติ ก้มลงสำรวจเนื้อตัวก็พบบาดแผลเล็กน้อย ไม่หนักหนาสาหัสถึงขั้นต้องหามเข้าโรงหมอ แต่เสียอย่างเดียว เสื้อช๊อปของผมดันถูกกิ่งไม้เกี่ยวจนขาดผ่ากลางหลังขึ้นมาถึงคอเสื้ออย่างกับแฟชั่นฮิปปี้ แถมเปื้อนฝุ่นเปื้อนดินดำปี๋ ฮึ้ย คุณชายสะอาดรับไม่ได้ เลยลุกขึ้นถอดเสื้อโชว์กล้าม เดินกะเผลกๆกลับไปที่ซุ้ม
“ป๊าดดดดดดดดด ไอ้คุณนิค เดี๋ยวโดนข้อหาอนาจารหรอกมรึง พวกผู้หญิงจะเป็นตากุ้งยิงกันหมดแล้ว”
ไอ้แม็คตะโกน แล้วมรึงจะแหกปากทำแป๊ะไร ส่วนผู้หญิงที่มรึงว่าก็ไม่เห็นมีใครนอกจากรุ่นพี่สี่ห้าคนที่เถื่อนถึกบึกบึนเสียจนไม่แน่ใจความจริงเป็นผู้ชายปลอมตัวมารึเปล่า นอกนั้นก็มีไอ้ปิ่นที่ยังทำงอนต่อเนื่อง
“อนาจารที่ไหน แหกเนตรดูให้ชัดๆ หุ่นกุดีขนาดนี้เขาเรียกว่าเรือนร่างอันเป็นศิลปะว้อย กุว่าจะมายืมเสื้อมรึงเนี่ย เอาติดมาด้วยสักตัวมั้ยวะ กุตกต้นไม้ เสื้อขาดเป็นสองท่อนเลยเนี่ย ” แล้วโชว์ซากเสื้อให้มันดู
“วันนี้ไม่ได้เอามาว่ะ เดี๋ยวกุไปยืมคนอื่นให้มั้ย”
“ช่างเหอะๆ ทำงานของมรึงไป เดี๋ยวกุหาเอง”
ไม่ได้เกรงใจเพื่อนนะครับ ไอ้คำแบบนั้นไม่เคยมีในหัวอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากเอาเสื้อคนอื่นมาใส่สุ่มสี่ห้า เดี๋ยวเกิดติดขี้กลากกันมาล่ะจะยุ่ง ไอ้นิคเลยต้องเดินอวดหุ่นแมนๆ แผงอกที่ไม่ค่อยจะล่ำแต่ก็แลดูมีกล้ามเนื้อนิดๆ พอให้เป็นที่สิเหน่หาต้องตาต้องใจแก่ผู้พบเห็น เดินว่อนไปมาทั่วคณะ
“โวโฮ้ นี่พี่รหัสเอี้ยงหรือนายแบบเวทีไทยซุปเปอร์โมเดลคอนเทสต์กันแน่เนี่ย”
พอไอ้น้องนกเอี้ยงมันสังเกตเห็นก็ทำตาโตถลาเข้ามาใกล้ทำเสียงชื่นชม ดีมากน้องพี่ พูดอย่างนี้ค่อยสมกับเป็นพี่น้องรหัสกันหน่อย ไอ้นิคยิ้มถูกใจกับคำพูดของไอ้นกเอี้ยง แต่ก็โดนสกัดจุดหยุดอารมณ์หลงตัวเองจากไอ้เจี้ยบเสียก่อน
“ไอ้เอี้ยงเอ้ย นี่แกยังไม่ลาออกจากลัทธิบูชาไอ้นิคอีกหรือเนี่ย สมกับเป็นพี่น้องรหัสกันจริงๆ
บ้าพอกันทั้งคู่ เอ.....ว่าแต่ดูไปดูมาแกก็เหมือนนายแบบจริงๆนะ นายแบบอาหารหมาไง
หมาพันธุ์ดุ อุดมไปด้วยเชื้อวัวบ้าด้วย กร๊ากๆ”
“หนอย.... ทำเป็นพูดดีไปไอ้เจี้ยบ ไอ้นกเอี้ยง แกไปช่วยซับน้ำลายให้เพื่อนพี่หน่อยเร้ว ดูสิๆ มันเห็นกล้ามพี่นิคแล้วแทบจะลืมกล้ามไอ้เกมไปเลย วะฮ่าๆๆๆๆ จ้องตาเป็นมันเลยว้อย”
ผมหัวเราะเริงร่า กำลังอ้าปากจะเห่าไอ้เจี้ยบต่อเป็นโปรโมชั่นดูกล้ามนิคแถมหมาในปากไปเลี้ยงหนึ่งตัว แต่พอเห็นว่าพวกกรรมกรแบกหามที่กำลังขนทั้งโต๊ะทั้งเก้าอี้ตามไอ้เจี้ยบมาเป็นใครผมเลยหุบปากฉับ ไปดีกว่ากุ เหม็นหน้ามัน ชิ
“เดี๋ยวก่อนๆไอ้คุณนิค แล้วนั่นแกไปฟัดกับใครมาเสื้อผ้าไม่ใส่ มีแต่แผลอย่างนี้วะ”
ไอ้เจี้ยบถามเมื่อเห็นแผลถลอกแถวๆบั้นเอวไอ้นายแบบอาหารหมา
“ตกต้นมะขามหน้าตึกสองมาเสื้อมันเลยขาด ว่าจะไปหายืมเสื้อพี่เออยู่ แกเห็นพี่เอมั้ย โทรหาก็ไม่รับ”
“ไม่เห็นว่ะเห็นแต่พี่ป้อง อยู่ที่แคนทีนโน่น เพิ่งใช้ให้พวกปิงปองขนโต๊ะมาเนี่ย”
ไอ้เจี้ยบอธิบายแต่ผมไม่ใส่ใจจะฟังเรื่องไอ้พวกข้างบ้านเท่าไหร่ บอกขอบใจเจ้าแม่แล้วตั้งใจจะตามไปยืมเสื้อพี่ป้องที่แคนทีน แต่ไอ้พวกบอยแบนด์คงรู้สึกตัวแล้วว่าคุณชายข้างบ้านยังไม่หายโกรธ เลยต้องส่งเสียงง้อกันเสียหน่อย
“ไอ้คุณนิค กุมีเสื้อยืดติดมาด้วยในกระเป๋า เดี๋ยวกุให้ยื้มนะ มรึงอย่างอนนานดิ ทำหน้างอนานๆเดี๋ยวหมดสวยกันพอดี”
ไอ้ปิงปองฉีกยิ้มส่งมาให้ ตกลงมรึงจะง้อหรือจะยั่วให้กุโมโหยิ่งกว่าเดิมวะ
“มันเรื่องของกุ มรึงอย่าจุ้น”
ชั่วมั้ยล่ะครับไอ้นิค คนเขาอุตส่าห์พูดดีด้วยยังจะทำปากหมาใส่อีก ก็กุยังเคืองพวกมรึงอยู่นี่ ดังนั้นจงซวยกับหมาในปากกุไปตามอัธยาศัย ผมเลิกคิ้วท้าทายไอ้โย่งไส้เดือน เพราะมีมันคนเดียวนี่แหละที่ออกอาการคอแข็ง ทำท่าจะกบฏต่อคำด่าของผม และมันก็ทำจริงๆ
“ช่างมันไอ้ปอง ใครมันอยากจะโชว์หุ่นขี้ก้างไปทั่วคณะก็ปล่อยให้มันทำไป ไอ้พวกที่ในสมองคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองนี่ไม่ต้องไปเสวนาด้วยให้เสียเวลาเปล่าหรอกว่ะ ไปเถอะ เดี๋ยวต้องไปช่วยงานฝ่ายอื่นอีก”
โห เจ็บมั้ยล่ะครับไอ้คุณนิค โดนไอ้เปรตวัดกู้ตอกกลับซะหน้าหงาย จี๊ดเข้าใจดำไปเต็มๆ พูดแทงใจดำจริงๆ ของขึ้นว้อย
ไอ้น้องนกเอี้ยงเห็นพี่รหัสเริ่มเนื้อตัวสั่นเทิ้มเป็นเจ้าเข้าเพราะความโกรธ กลัวว่าองค์จะลงประทับอีกคราให้อุราได้สั่นไหว น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าโรงงานนิวเคลียร์ระเบิดเลยรีบคว้าแขนไอ้พี่นิคไว้พร้อมหันไปตัดพ้อต่อว่าคนที่มันอุตส่าห์เข้าข้างมาตลอด
“พี่เชนพูดงี้ได้ไง ก็ที่พี่นิคโกรธจนเป็นอย่างนี้เป็นเพราะใครกันล่ะ โธ่เอ้ย เอี้ยงไม่เชียร์พี่เชนแล้ว ไปเถอะพี่นิค คนเขาไม่อยากจะพูดด้วยเราก็ไม่ง้อหรอก สวยๆอย่างเราหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้เนอะ เชอะ”
ว่าแล้วมันก็สะบัดหน้า ทำท่าเป็นนางแบบแชมพูผมสลวยด้วยซันซิล โห ซาบซึ้งจริงๆว่ะ เพราะแกแท้ๆ องค์ท่านเลยยื่นใบลากระทันหัน วันนี้ไม่เข้ากะ ไอ้นิคแสนจะซาบซึ้งใจในตัวน้องรหัส ในที่สุดไอ้นกเอี้ยงมันก็ตาสว่างเลิกเข้าข้างคนอื่นเสียที ว่าแต่ไอ้คำว่า สวยๆอย่างเราหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้นี่มันแหม่งๆนะน้องนะ
ผมกับไอ้หน้าหล่อสบตาวัดใจกันอยู่ครู่หนึ่ง มันดูเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่ยอมพูด ถอนหายใจเฮือกใหญ่สีหน้าหงุดหงิด แล้วจู่ๆไอ้เชนก็ถอดเสื้อยืดของตัวเองออก จับสวมหัวฟุบใส่ให้คุณชายข้างบ้านเอาดื้อๆ เงียบ ไม่มีประโยคใดๆหลุดออกจากปาก ก่อนไอ้เชนจะเดินหน้าเก๊กเสื้อแสงไม่ใส่ยกเก้าอี้ออกไป อะไรของมรึงเนี่ย กุกำลังโกรธมรึงอยู่นะไอ้เชน จะง้อกุสักคำน่ะมีมั้ย แค่เสียสละเสื้อให้ตัวเดียวนี่คิดเหรอว่ากุจะซาบซึ้งจนหายโกรธ จำไว้เลยนะเว้ย ไม่พูดก็ไม่ต้องพูด กุจะแช่งให้มรึงใบ้แด๊กไปตลอดชาติเลย คิดแล้วก็โมโหปนโหวงๆในใจ นี่กุเป็นอะไรของกุวะเนี่ย โมโหที่มันไม่ง้อเหรอเนี่ย โธ่ว้อยยยยยยย วัยรุ่นเซ็ง
ไอ้นิคโมโหหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ พาลเตะข้าวของแถวนั้นระบายอารมณ์เหมือนเป็นจิ๊กโก๋คุมซอยท่ามกลางเสียงกรีดร้องของไอ้น้องนกเอี้ยง ในภาพความโรแมนติคผสมถ่อยเถื่อนของรุ่นพี่เดือนคณะ ตอนนี้มันหายเคืองพี่เขยมันแล้ว อ่ะนะ ก็พี่เชนเป็นแฟนพี่นิค ไอ้เอี้ยงก็ต้องเรียกพี่เชนว่าพี่เขยสิ ถึงจะถูก พี่เชนนะพี่เชน เท่เป็นบ้า นี่ถ้าไม่ใช่แฟนพี่นิค ล่ะเสร็จเอี้ยงแน่
...................................................
ฉบับรีไรท์