( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485162 ครั้ง)

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ตอนนี้ทำเซอร์ไพรส์มากกกกก
จิงออกมาแรกๆ คือ นางดี นางใสๆ
นางแค่ตามเพื่อน แต่ตอนนี้นะคือ
กลายเป็นเหมือนจิงเป็นผู้ชักใยอ่ะ
ที่พูดเรื่องแอบรักแฟนเพื่อนงี้ น่าจะเพราะเห็นสายตาของยีนส์กับบินอ่ะ แล้วพูดยุส่ง
คือถ้าเป็นไอ้พี่เจ คงจะตบไหล่แล้วบอกให้ทำใจออกห่างแฟนเพื่อน แต่นี่นางกลับยุส่งอ่ะ
แล้วเรื่องนมนี่อีก คือยุให้ยีนส์พูด เมดเสียใจ
ยีนส์ถูกเกลียด แต่นางไม่มีผลกระทบเพราะเป็นผู้ชมเท่านั้น
#ร้ายกาจ

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
สั้นๆคำเดียวเลย เพื่อนเหี้ย จิงนี่น่าจะอาการหนักเอาเรื่องเลยนะ สรุปสุดท้ายคนที่บินไปหาที่รังสิตคือจิงจ้าาาา กินรอบวงเลย อาจจะเจ็บใจที่บินบอกให้เลิกกันขาดๆเลยมายุให้ทะเลาะอีกแล้ว เป็นบ้าสินะจิง...  :angry2:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่านนนนนนน ลาสบอสคือจิงนี่เอง เสี้ยมมากอ่ะ เก็บกดอะไรมาจากที่บ้านแล้วมาลงที่เพื่องงี้เลยเหรอ :z3: เมดคิดถูกแล้วที่เลิกคบกับจิง  :katai1:

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โฮฮฮฮฮฮฮ เกมเปลี่ยน คนที่ร้ายยังไม่ใช่คนที่ร้ายที่สุด คิดว่ารักแต่ไม่รักที่สุด

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โหจิง เลวสุดเลยนี่หว่า

ออฟไลน์ Ampaiem33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จิงร้ายที่สุดในเรื่องเลย คอนยุให้คนตีกันส่วนตัวเอกทำตัวเป็นคนดี

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ้าวๆ หนูหนมมาหย่อนระเบิดต่อมอยากแล้วจากไป ทำให้คิดอีกแล้ว  :katai1:
ทำไมจิงเป็นคนแบบนี้ อะไรทำให้คิดร้ายๆกับเพื่อนตัวเองได้ ส่วนเอมก็กลับมาได้แล้ว มาเฉลยความลับที่ปกปิดไว้เสียที
แต่มาคิดเล่นๆ หรือจิงจะชอบเอม  :hao3:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เจอคนร้ายตัวจริงแล้วค่ะ คนที่คอยสอยอยู่ใต้ต้น
อยู่นี่ไง จิง เพื่อนคนดีที่อยู่เคียงข้างยีนส์มาตลอด

จิงแอบชอบบินมาตลอดใช่ไหม รอเวลาให้บินหันมา
ตอนนี้ก็คงสมใจแล้วหรือเปล่า เดาจากรอยที่เมดเห็นวันนั้น
ยีนส์ยังมีความยั้งคิด แต่จิงคือจัดเต็ม แบบนี้สินะ
เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แค่พูดแต่ไม่ได้ทำ
คนทำโดนก่อนเลย แล้วเมดก็เกลียดยีนส์มากกว่าจิง

ตอนแรก มองไม่ค่อยออกว่าจิงดีจริงไหม ที่ช่วยเคลียร์ให้
แต่ไม่ได้รู้สึกว่า จิงดีน่ะ มันมีความรู้สึกบางอย่างแอบแฝง

สุดท้ายคนที่โดนหลอกไม่ใช่ใคร ไม่ใช่เมดด้วย แต่เป็นยีนส์

บอกเลยจ้า แล้วพี่อาฟจะปกป้องน้องเมดเองนะ
อยากให้เมดรู้เหมือนกันว่าคนส่งนมเป็นใคร
เป็นรักนี้ที่ยาวนาน เมดรู้แล้วเมดจะยิ่งรักอาฟ
แล้วจะรู้ว่า อาฟทำไมรักเมดมากขนาดนี้

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เปิดตัวผู้ร้ายที่แท้จริง *0*

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มีเพื่อน แต่ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา ไม่มีความดี ก็พากันลงเหว  :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
บอกเลย

บอกเลย

เมดจะได้หายโง่

พวกแกก็จะได้ไม่เหลือใคร

เรื่องแดงออกมาพวกแกก็มีแต่

โดนรังเกียจทั้งสามคน

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เลวสุดคือจิงใช่ไหม แล้วจิงก็เป็นเมียเก็บของบินด้วยใช่หรือป่าว?

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เปิดความจริงออกมาแล้ว จิงคือลาสบอส จอมเสี้ยมอยู่นี่เอง

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พลิกสถดอะไรสุด จิงแม่งคนร้ายตัวจริงอ่ะ เลวได้อีก ทำไปทำไมวะ
เมดเจอบทสทดสอบหลายอย่างมากมายเกินไปจริงๆ
แต่นะพ่อนมชอคตัวจริง เมดจะได้รุ้ว่าที่จริงแล้วอาฟรักมันขนาดไหน หวังอย่างเดียวอย่าทะเลาะกันอีกละ อิชั้นปวดใจ เจ็บช้ำบ่อยๆไม่ไหว หวานๆกวนๆกันนะดีที่สุดแล้ว

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จิง เป็นตัวละครที่ทำให้เราพูดไม่ออกอะ ....

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คนที่ร้ายที่สุดคือจิงนี่แหละ ยุเก่ง

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
นั้นไงง
คนร้ายตัวจริง
อีจินนี่เองงง
ยีนต์ก้โง่เน้อ 55555

แต่ดีนะ ที่เมด ฉลาดแล้ว รอดูนะ ว่าจะทำไง เรื่องนมช๊อคโกแลต

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เอ้าาา จิงนี่ร้ายสุด หลอกใช้เพื่อนรึเปล่าเนี่ย หลอกให้ยีนส์ไปบอกความจริงเมด
คราวนี้ยีนส์ก็ไม่เหลือใครจริงๆ เพราะบินกับเมดก็จะเกลียดกัน ผลพลอยได้ บินก็คงโกรธยีนส์ไปด้วย
คราวนี้ก็ทางสะดวกสำหรับจิง

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านพาร์ทเมดเหมือนจิงจะเป็นคนอยากให้เพื่อนกลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่พออ่านพาร์ทนังยีนส์แล้ว เฮ้ย!นี้มันบ่างชัดๆเสี้ยมดีจริงๆ คือนางต้องการอะไรอยากให้เขาเลิกกันแล้วตัวเองจะได้เสียบเหรอสงสัยตั้งแต่ตอนคุยกับนังยีนส์ตอนแรกละคือนางเห็นใช่ไหมเลยยุอ่ะ เฮ้อ!อดีตเพื่อนเมดแต่ละคนต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างจริงตอนนี้เปิดเผยตัวตนของนังจิงใช่ป่ะอันนี้คือตัวตนจริงๆใช่ม่ะสงสารเมดอ่ะ :hao7:

ปล.ตอนแรกว่าจะไม่อ่านละ แต่เอาว่ะอยากรู้ว่านังนี้คิดอะไรอยู่ทนอ่านแล้วกันก็ยังอยากตบอยู่ดีอาจคูณสิบอ่ะบอกเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ก็คิดอยู่ว่าต้องจิงนี่แปลกๆ ที่แท้ก็คือบอสลับนี่เอง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รู้แล้วว่าใครเหี้ยที่สุด!

ออฟไลน์ nEwkoi29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารอาฟ ไม่รุ้ดิ จะว่าลำเอียงก็ได้ :o12: :sad4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จิง คนเหี้ย2019  :z6:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
omg เราเจอตัวร้ายที่สุดในเรื่องแล้วค่ะ


โอ้โห สุดยอดนักปั่นแห่งประเทศไทยเลยค่ะ


ทำไปเพื่ออะไรวะ เอาจริงๆ


รู้สึกตัวเองเป็น สาวโลกสวยวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์มาทั้ง หมด 45 ตอน

เพราะคิดว่า จิง ควรออกมายีนส์ได้แล้ว


โอ้โหหววววว


นี่หัวร้อนขึ้นมาเลย มันจะปั่นช่วยชาติหรือไง คนอะไรจะขนาดนั้น

ปั่นเมดไม่ขึ้นก็เลยมาปั่นยีนส์แทนสินะ


นางเป้นคนขี้อิจฉาเบอร์ใหญ่ไฟกระพริบไปเลย ดูดีในสายตาของทุกคน แต่คนอื่นรอบตัวเชี่ยสุดๆไปเลย

หัวขวด




ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 46


“ ครับ  สองวันเหรอ ก็มี แต่คงพอหยุดได้อยู่  อื้ม ครับ ครับ ” เสียงจริงจังของคนข้างกันที่กำลังพูดผ่านสายโทรศัพท์ชวนให้ผมที่กำลังเล่นไอแพตในระหว่างรถติดนี้เงยหน้าขึ้นไปมอง อาฟกดวางสายลงในตอนนั้น มันวางมือถือลงกับช่องเปิดประตูข้างตัว ก่อนจะหันมาบอกผม “ กูจะไปสิงคโปร์กับพ่อสองวันนะ ”

“ เหรอ ” พยักหน้ารับคำพูดนั้นก่อนจะนิ่งไป ความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจผมอย่างฉับพลัน  ราวกับว่าอยู่ๆหัวใจมันก็ตกลงจากที่สูงอย่างรวดเร็ว เป็นอาการชาที่ชวนให้เผลอยิ้มออกมาเพราะรู้สึกว่า ‘ อะไรมันจะขนาดนั้นวะ  ติดแฟนอ๋อมึง ไอ้เมด ’

“ เดี๋ยวกูจะให้ไอ้เดย์มารับมาส่งมึง เพราะมันไม่ต้องไป ”

“ เฮ้ย ไม่ต้องๆ ” หันไปโบกมือให้อีกคน “ กูจัดการชีวิตตัวเองได้ เดี๋ยวกูจะกลับไปนอนคอนโดตัวเองแล้วกัน ”

“ แล้วทำไมไม่อยู่คอนโดกู กลับไปทำไม ” อาฟหันมาถามด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจในสิ่งผมพูดหรือคิดสักเท่าไหร่ 

“ ก็คือกูเป็นคนนอกไง ” คิ้วเข้มนั้นขมวดกับคำตอบของผมที่ได้ยิน “ คือกูหมายถึงว่าเจ้าของคอนโดอย่างมึงไม่อยู่ แต่กูเป็นคนนอกดันมาอยู่แทน กูว่ามันแปลกๆ ”

“ กูจะให้โอกาสมึงพูดอีกที ” อาฟหันมาจ้องหน้าผม มันถามย้ำ “ มึงเป็นคนนอกเหรอ ”

“ ก็..”

“ แฟนกูไม่ใช่คนนอก หรือมึงไม่ใช่แฟนกู ”

“ ก็ใช่.. ” หมดปัญญาจะเถียงอะไรต่อ ได้แต่ยิ้มออกมากับอีกคนที่ก็มองออกไปตรงทางข้างหน้าเหมือนเดิม ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวเลยด้วยซ้ำว่าทำให้ผมหูแดงไปหมด อาฟขยับเกียร์ให้รถเคลื่อนไป  “ กูนอนคอนโดมึงก็ได้ แต่มึงไม่ต้องให้น้องเดย์มารับมาส่งกูหรอก ”

“ ทำไม ? ”

“ เกรงใจน้องไง น้องเดย์มันก็มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำ จะให้มันมารับมาส่งกูทำไมวะ รถกูก็มี กูขับไปผับเองก็ได้ แล้วคอนโดมึงก็ติดรถไฟฟ้าขนาดนั้น กูขึ้นรถไฟฟ้าไปเรียนเองสะดวกกว่า ไม่ต้องให้น้องเดย์มารับหรอก ”

“ ขับแบบมึง คืออยากจะไปฝากรอยไว้กับรถคันไหนอีกใช่มั้ย ถึงได้กล้าที่จะขับไปเอง ” อาฟหันมาเหล่มองกันด้วยสายตาเชิงดูถูก รอยยิ้มที่ยกยิ้มพลางส่ายหน้านั้น ผมนึกอยากจะสบถคำหยาบสักคำใส่มัน แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่นิ่งแล้วเปลี่ยนท่าทางให้ดูจริงจัง

“ มึงคิดว่ากูเป็นคนแบบนั้นเหรอ มึงคิดใช่มั้ยวะ ว่ากูจขับรถไปฝากรอยไว้บนรถคนอื่น แล้วสุดท้ายกูจะใจง่ายชอบเค้าแบบที่กูชอบมึง ” ถามด้วยเสียงคล้ายโกรธ ในตอนนั้นอาฟก็หันมามองก่อนจะถอนหายใจ มันหันกลับไปมองนอกหน้าต่างรถเหมือนเดิม คล้ายกับว่าสิ่งที่ผมพูดนั้น ช่างปัญญาอ่อนเกินว่าที่มันจะใส่ใจมองดู แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังพูดต่อไป ด้วยท่าทางที่คิดว่า นี่คืออาการของคนน้อยใจแบบสุดๆ  “ ทำไมมึงแม่งไม่เชื่อใจกูเลยวะ หรือมึงคิดว่าเจ้าของรถเค้าจะมาชอบกูแบบที่มึงชอบกู งั้นมึงก็คิดเหรอวะ ว่ากูจะชอบเค้ากลับแบบที่กูชอบมึงด้วยน่ะ ”

   คนฟังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา อาฟแค่ขับรถไปนิ่งๆแล้วจอดรถลงอีกครั้ง เพราะติดไฟแดงในแยกใหม่ เกียร์ถูกเปลี่ยนให้จอดนิ่ง ก่อนมือหนาจะดึงเบรคมือขึ้นมาแล้วดึงตัวเองเข้ามากระซิบข้างหูผม

“ ไม่ต้องแสดง มึงตอแหลไม่เนียนเมด ”

“ ไอ้สัด ” หลุดสบถออกไปก่อนจะถามยิ้มๆ “ เชื่อหน่อยสิวะ นี่กำลังเล่นบทน้อยใจที่มึงพูดหมาๆ แล้วไม่เชื่อใจในตัวกูอยู่ไง ”

“ ปัญญาอ่อน ” ว่าแบบนั้นก่อนจะโดนผลักหัวจนเกือบต้องเอนไปอีกทาง

“ แต่กูพูดจริงๆนะ ไม่ต้องไปรบกวนน้องเดย์หรอกมึง กูใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ แค่สองวันเอง ” ยิ้มกว้างให้อีกคนเพื่อเสริมความมั่นใจ แต่ทว่าก็ไม่มีคำตอบอะไรตอบกลับมา ราวกับเป็นคำบอกใบ้ที่ว่า ‘ สิ่งที่มึงร้องขอจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนไอ้เมด ’

จะว่าไปผมก็ไม่ค่อยชอบเลย เวลาที่โดนอีกฝ่ายดูแลในแบบที่เรียกว่า ‘ ดีเกินไป ’  อย่างงี้ ตั้งแต่เราคบกันมามันเป็นปกติที่เราจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ว่าจะไปเรียน กินข้าว หรือไปทำงาน อาฟทำหน้าที่ที่มันคิดว่า นี่คือส่วนของมันที่ต้องดูแลผมอย่างดี เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากในเรื่องของการขับรถ พาไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ก็มากไปหน่อยตรงที่ว่า ถ้าตัวมันไม่ว่างทำ มันก็จะส่งคนอื่นที่มันไว้ใจมาดูแลผมแทน

ทั้งๆที่ตัวผมก็บอกอยู่ตลอดว่า ‘ ไม่ต้อง กูทำเองได้ ’ แต่เหมือนคำพูดนั้นก็เป็นแค่คำพูดที่ผ่านเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาเท่านั้น ไม่ได้ทำให้อาฟหยุดสิ่งที่คิดจะทำเลยสักนิดไม่ว่าจะเป็นครั้งไหน แล้วการไปสิงคโปร์สองวันนี้ก็เช่นกัน

“ อาฟพรุ่งนี้มึงบินไฟล์ทกี่โมง ” เอ่ยถามคนที่ยังคงดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างไม่ใส่ใจที่จะจัดกระเป๋าแต่อย่างใด ทั้งๆที่เรากลับบ้านมาตั้งแต่สองทุ่ม แต่นี่สามทุ่มเข้าไปแล้วก็ยังไม่วี่แววว่าอีกคนจะทำอะไร ทั้งๆที่ผมเองตั้งแต่กลับมาก็อาบน้ำเสร็จไปแล้ว “ อาฟ มึงยังไม่จัดเสื้อผ้าเลยนะ มาจัดเสื้อผ้าก่อนสิวะ ”

“ จัดให้หน่อย ”

“ ไม่ มาจัดเอง กูไม่รู้ว่ามึงต้องเอาอะไรไปบ้าง ” บอกแบบนั้นอีกคนก็หันมามอง “ อะไร ”

“ มีชุดที่ใส่ไปชุดหนึ่ง ชุดไปงานวันเกิดเพื่อนพ่อเป็นสูทชุดหนึ่งใส่ตอนกลางคืน แล้วก็ชุดใส่กลับชุดหนึ่ง จบ ”

“ แล้วไม่เอาชุดนอนไปเหรอวะ ” เลิกคิ้วถามอีกคนก็นิ่ง “ แล้วกางเกงในละ  หรือมึงจะไม่ใส่กางเกงในเหรอ น้ำหอมจะเอาติดไปหน่อยมั้ย แล้วเอากลิ่นไหนไป  ของใช้ส่วนตัวอะ แล้วเข็มขัดด้วยมั้ย พาสสปอร์ตอีกอะ  ”

“ อื้ม มึงก็รู้ งั้นมึงจัด ”

“ K ” ด่าอีกคนออกไป ก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกย้ำ “ ของของมึง ก็มาจัดเอง เผื่อขาดเผื่อเหลืออะไรจะได้ไม่ต้องโทษกัน ”

“ จัดให้หน่อย ” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าโทนเสียงนี้ดูเหมือนจะอ้อนกันอยู่หน่อยๆ 

“ นี่อ้อนกูเหรอวะ ”

“ ประสาท ” บอกกันแบบนั้นก่อนเจ้าของสายตาคมจะหันมามองแล้วยิ้มให้กัน “ อ้อนเหี้ยอะไร กูแค่อยากจะใส่ชุดที่มึงจัดให้เหมือนทุกวันก็เท่านั้น ”

“ สัด ” สบถออกมาอย่างคนแพ้ก่อนจะพาตัวเองที่หน้าแดงจัดมายืนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ถอนหายใจออกมาช้าๆพยายามควบคุมจิตใจ แล้วในตอนนั้นอาฟก็ตะโกนมาจากในห้องนอน

“ จัดให้ด้วยนะ  ”

“ เออ ก็ยืนทำอยู่ให้นี่ไง เดี๋ยวกูก็ทำเป็นลืมกางเกงในแม่งเลย ” ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนชอบกวนตีนหลังจากที่บอกกลับไป ผมเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วในตอนที่ยืนคิดอยู่ว่าจะจัดยังไง อาฟก็เดินเข้ามาพอดี มันที่หยิบผ้าขนหนูเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ ผมก็หันไปถาม “ กูจัดไม่ถูกอะ มึงจะไปไหนบ้างวะ ”

“ เอาแบบที่มันเป็นทางการหน่อย กูต้องใส่ไปทำธุระ มีเจอพวกผู้ใหญ่หลายคน ”

“ งั้นเสื้อเชิ้ตแล้วกัน สีสุภาพหน่อย แล้วก็ใส่เสื้อคลุมทับสีเข้มไปอีกตัว ”

“ อื้ม ” พยักหน้ารับกันแค่นั้น อาฟก็เดินไปอาบน้ำส่วนผมก็จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กให้มันจนสุดท้ายมาเหลืออยู่แค่สูทสองตัวที่เลือกไม่ได้สักทีว่าจะเลือกตัวไหน “ นี่มึงยังไม่เสร็จอีกเหรอวะ ”

“ มึงไม่ได้อาบน้ำนานสัดอาฟ ” ผมบอกก่อนจะหันไปหามัน “ มึงจะใส่สูทสีดำ หรือ น้ำเงิน

“ สีดำ ”

“ โอเค งั้นเอาน้ำเงินไป ”

“ กวนตีนนะมึงไอ้เมด ” ผมหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังตอนที่อีกคนบอกแบบนั้น “ แล้วจะถามทำเหี้ยอะไร ”

“ ก็ถามดูไง มึงตอบสีอะไรออกมาก็แสดงว่ามึงใส่สีนั้นบ่อยสุด เพราะมึงมันพวกชอบเลือกใส่อะไรที่เคยชิน ” หันไปยักคิ้วให้ก่อนผมจะจัดการพับสูทตัวนั้นใส่กระเป๋า มันเป็นสูทสีน้ำเงินแบบมีเสื้อกั๊กอยู่ด้านใน

แอบจินตนาการไปว่าถึงตอนที่อีกคนใส่แล้วรู้สึกว่าน่าจะดูเป็นคุณชายหน่อย แม้หนังหน้าจะออกไปแนวของผู้ร้ายมากก็ตาม ผมจัดการเช็คทุกอย่างเป็นรอบสุดท้าย คิดว่าตัวเองไม่น่าจะลืมอะไรที่จำเป็นสำหรับอีกคน แล้วในตอนที่กำลังปิดซิปผมก็ถาม
“ นี่มึงจะเปิดเบอร์โทรต่างประเทศหรือเปล่า ”

“ ถามทำไม ” 

“ ก็ถ้าเปิด ตอนถึงที่นู้นแล้วก็อย่าลืมส่งข้อความมาบอกกูด้วยนะ แล้วตอนที่ไปงานก็อย่าลืมถ่ายรูปใส่สูทส่งมาให้กูดูด้วย กูอยากเห็นว่าเป็นไง แล้วก็อย่าลืมกิน..” คำพูดของผมหยุดชะงักไปในตอนที่โดนกอดจากด้านหลัง โดยคนที่คิดว่ากำลังแต่งตัวอยู่ แต่มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น หยดน้ำเล็กๆยังคงเกาะอยู่บนตัวของอาฟ ความเย็นจากผิวที่ได้สัมผัสชวนให้ผมหันไปมองดู แต่อีกคนก็พูดห้ามไว้

“ ไม่ต้องหันมา ”

“ อะไรของมึง ” พูดขึ้นมายิ้มๆแต่ตอนนั้นก็ได้แต่เงียบไปเพราะรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่ายที่แนบอยู่ตรงแผ่นหลัง “ อาฟ..”

“ กูว่าแม่งแปลกวะ ”

“ ยังไง อะไรแปลก ”

“ ทำไมอยู่ๆกูถึงไม่อยากไปก็ไม่รู้ ปกติทุกปีก็ไปตลอด บางทีปีหนึ่งก็ไปตั้งหลายครั้ง แต่หนนี้แปลก ” หยุดพูดไปครู่ใหญ่ผมได้ยินแต่เสียงของลมหายใจที่ผ่อนออกมา ก่อนจมูกคมจะก้มลงมาหอมกันที่ข้างแก้ม เอวที่กอดรัดนั่นแน่นขึ้นไปอีกระดับ อาฟบอกผม “ ทำไมตอนนี้กูรู้สึกไม่อยากไปเลยวะ มันอยากอยู่กับมึงมากกว่า ”

“ ติดกูแล้วไง ” ปากดีเอ่ยแซวทั้งๆที่ใจเต้นแรงไม่มีหยุด ผมได้ยินเสียงอาฟยิ้มก่อนจะตอบเสียงเบา

“ ท่าจะจริง ” ว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวผมให้หันมาเผชิญหน้ากัน จะว่าไปแล้วคนเราก็แปลกดี ตอนที่เค้ากวนตีนก็ไม่ชอบ แต่พอเค้าตอบตรงๆกลับทำตัวไม่ถูก ไปไม่เป็นเสียอย่างงั้น

เป็นวินาทีที่ทุกอย่างเหมือนถูกปิดไว้ ปากที่เคยขยับก็ได้แต่นิ่ง มีแต่สิ่งเดียวที่ยังเคลื่อนไหวได้ นั่นคือหัวใจที่เต้นแรงไม่มีหยุด ในตอนที่อาฟจ้องมองผม คำพูดที่บอกว่า ‘ ต้องการ ’ กันนั้น มันสื่อออกมาทางสายตาโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น แล้ววินาทีที่ผมค่อยๆหลับตาลงเพื่อตอบรับคำขอนั้น ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนจะบรรจงมอบจูบอย่างอ่อนโยนลงบนริมฝีปากผมที่เน้นย้ำมันอยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะผละออกมาจูบลงที่ข้างแก้ม แล้วไล่ต่ำลงไปที่ต้นคอ อาฟจูบมันจนเป็นรอยเล็กๆ ก่อนจะเลื่อนไปที่ลาดไหล่ เพื่อทำร่องรอยที่ใหญ่ขึ้นเพราะเป็นใต้ร่มผ้า

มือสอดเข้าไปในเสื้อนอนตัวที่ผมสวม ลูบไล้จากขอบกางเกงตัวที่ใส่ขึ้นไปด้านบนก่อนจะสะกิดยอดอกอย่างหยอกล้อจนทำให้ผมได้แต่หดเกร็งหน้าท้องของตัวเองกับความปั่นป่วนที่ชวนให้ต้องกัดริมฝีปากของตัวเองไว้ เพราะความต้องการที่เริ่มเพิ่มขึ้น อาฟไล่มือลงไปต่ำอีกครั้งผ่านแผ่นหลังจนถึงขอบกางเกงก่อนจะสอดมือเข้าไปด้านในนั้นแล้วจับก้มกลมด้วยมือทั้งสองข้าง ออกแรงบีบเบาๆ ผมก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา พลางเอ่ยเรียกชื่อของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา

“ อาฟ ”  ใบหน้าคมที่กำลังจูบอยู่ตรงต้นคอของผมดึงตัวเองขึ้นมาจูบที่ริมฝีปากอีกครั้งตอนที่ถูกเรียก จูบดูดดื่มถูกบรรเลงขึ้น ในตอนนั้นมือที่สัมผัสไปทั่วเรือนร่างถูกย้ายมาจับตรงเอวก่อนจะดึงให้ออกเดินจากที่ที่ยืนอยู่

ผมใช้จังหวะนั้นกอดรอบคอของอาฟไว้ ก่อนจะถูกดันให้นอนราบลงบนเตียงกว้าง มือหนาทำหน้าที่ของมันอย่างดีโดยการปลดเปลื้องเสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่บนเรือนร่างของผม เพื่อเปิดทางให้ริมฝีปากนั้นได้ไล่จูบไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ขอบขาด้านในก่อนที่มันโดนดึงให้งอเข่าตั้งชันขึ้นเพื่อเปิดรับส่วนอ่อนไหวที่แค่ปลดผ้าขนหนูผืนสีขาวที่คาดเอวนั้นออก มันก็พร้อมที่จะสอดใส่เข้ามา เพื่อเน้นย้ำทุกความรู้สึกของเราแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความรู้สึกที่เป็นทั้งความต้องการ ความทรมาน และก็ความสุข ในค่ำคืนนี้

 “ เมด กูจะไปแล้วนะ ” เสียงทุ้มที่ดังบอกอยู่ข้างหู แต่ผมกลับลืมตาตื่นมาในตอนที่โดนหอมแก้มเข้าอย่างแรงจนต้องยกมือขึ้นจับมันแล้วตัวเองพลิกตัวเองหนีไปอีกทาง

สันนิฐานว่าคงโดนหอมแก้มมามากกว่าหนึ่งครั้งในเช้านี้ แล้วแต่ผมไม่รู้ตัว เพราะการกระทำเมื่อคืนที่ชวนให้เพลียเอามากๆ สาบานเลยว่าถ้าทำได้ก็ไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาเลย แต่อาฟจะเดินทางแล้ว และพอคิดแบบนั้นเลยจำใจต้องดึงตัวเองขึ้นมานั่งทั้งๆที่ยังเจ็บช่วงล่างจนต้องค่อยผ่อนลมหายใจตัวเองออกมาเพื่อบรรเทาความเจ็บนี้

ผมโกยผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวเพราะความหนาวเย็นของแอร์ในห้องที่เปิดอนุหภูมิเกินพอดีจนดูเหมือนก้อนอะไรสักอย่าง เป็นท่าทางที่ชวนให้คนมองดูยิ้มอยู่แบบนั้นก่อนจะขยี้หัวกันแล้วเดินพาตัวเองเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เปิดประตูเอาไว้เพื่อให้มองเห็นกัน อาฟอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว และตอนนี้มันก็กำลังเซ็ตผมอยู่ เป็นการเซ็ตที่โคตรบรรจงกว่าทุกครั้งที่ผมเห็น จนเกิดคำถามที่อยู่ๆก็สงสัยขึ้นมา

“ ทำไมวันนี้มึงเซ็ตผมนานจังวะ ” เอ่ยถามมันอีกคนก็หันมามองยิ้มๆ

“ เผื่อได้แฟนใหม่เป็นแอร์ ”

“ อ๋อครับไอ้สัด ” ผมตอบรับมันอีกคนก็ได้แต่หัวเราะ “ มึงไม่กวนตีนกูสักวัน มึงไม่ตายนะบอกไว้ก่อน เผื่อมึงไม่รู้ ”

“ กวนตีนเหี้ยอะไรพูดจริง ” หันมายักคิ้วให้กันก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียงข้างกัน อาฟจูบลงที่ริมฝีปากของผม อาการตอแหลไม่เนียนเกิดขึ้นอีกแล้ว ผมที่ได้แต่ถอนหายใจยิ้มๆก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงอีกคนก็แค่ยกยิ้มก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวกัน

อาฟที่มองกันอยู่แบบนั้น เราไม่พูดอะไรกันอีก แล้วอยู่ๆผมก็เกิดความรู้สึกที่ชวนให้คิดว่า ก็แปลกดีเหมือนกันที่ผมไม่เคยหึงอาฟเลย ตั้งแต่คบกันมา มันไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงหรือผู้ชายที่ทำให้ผมรู้สึกโกรธเลยสักครั้ง และถึงมันจะพูดถึงคนอื่นยังไง คำพูดพวกนั้นก็จะเป็นแค่อาการกวนตีนของมันที่จะไม่เกิดขึ้นจริงแน่นอน มันน่าเหลือเชื่อที่ผมจะไว้ใจมันมากขนาดนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟนเจ้าชู้มาก่อน แต่ส่วนนึงก็คงเพราะการกระทำของมันด้วยละมั้ง การกระทำของอาฟมันทำให้ผมเชื่อใจ

“ ได้แล้วทิ้งเหรอสัด ” ผมถามตามเกมส์มันอีกคนก็แค่ยิ้มก่อนจะก้มลงมาจูบที่ปากกันอีกครั้ง เอาเข้าจริงก็โคตรเกลียดช่วงเวลาแบบนี้เลย แบบที่อีกคนจะไม่พูดอะไรเท่าไหร่ อาฟทำแค่มองตา ยิ้มให้กัน แล้วก็ก้มลงมาจูบ มันเป็นอะไรที่ชวนให้หัวใจผมเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้ มันไม่โอเคยเลยสักนิด “ แล้วนี่ใครมารับมึง ”

“ ไอ้เดย์ ”

“ แล้วพ่อมึงละ ”

“ ไอ้เดย์ ” อีกคนตอบย้ำ “ เมื่อคืนเดย์มันกลับไปนอนที่บ้าน เพราะต้องมาส่งพ่อที่สนามบินแล้วเดี๋ยวมันก็แวะรับกู ”

“ นี่น้องหรือคนขับรถ ”

“ เก็บมาเลี้ยงให้เป็นคนขับรถ ”

“ ฟ้องน้องเดย์แน่ ” ผมขู่แต่อีกคนก็แค่ลุกจากนั่งไม่ได้เถียงอะไรออกมาทั้งนั้น อาฟเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้งมันหยิบนาฬิกาขึ้นมาใส่ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางที่ผมจัดไว้ให้ออกมา “ ของไม่ครบก็ไม่ซื้อเอานะ เช่น กางเกงในที่กูไม่ได้ใส่ไปให้ ”

“ เอาตีนนาบปากสักทีมั้ยเมด มึงดูกวนตีนกูเก่ง ” ได้แต่เม้มริมฝีปากส่งไปให้ อาฟนั่งบนเตียงอีกครั้งก่อนจะหันมามองผม

“ มองอะไร ”

“ อยากพามึงไปด้วย ” คนตรงหน้าบอกก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาจับแก้มกัน มันบีบเบาๆด้วยสีหน้าที่ผมรู้สึกว่า อาฟพูดจริงแล้วตอนนี้มันก็กำลังงอแงสุดๆเพราะไม่อยากจะจากกันไปไหน “ แต่คิดว่าไม่น่าพอ ”

“ อะไรไม่น่าพอ ”

“ ไม่น่าจะยัดใส่กระเป๋าได้พอ โหลดใต้เครื่องใช้ใบ 30 นิ้ว ก็คงไม่ได้ น่าจะติดแก้ม ”

“ สัด ” ด่ามันแบบนั้นทั้งๆที่ก็ยังโดนดึงแก้มอยู่ ผมบ่นออกมาเบาๆ “ ไอ้เราก็คิดว่าแม่งไม่อยากไปเพราะไม่อยากห่างกัน ทีไหนได้ แค่มุขกวนตีนกู ”

“ แค่สองวันเองมั้ย ” อาฟบอกก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาจากในกระเป๋าหลังของกางเกง หน้าจอที่ฉายแสงวาบขึ้นมานั้น ผมเห็นมันกดอะไรสักอย่างก่อนจะยัดมือถือลงในกระเป๋าตามเดิม “ แต่กูคิดว่ามันคงเหมือนสองอาทิตย์สำหรับกูแน่ๆ ” ได้แต่เงียบตอนที่อีกคนพูดคำนั้น ผมยิ้มกว้างให้อาฟ

“ กูก็เหมือนกัน ” ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังโดนบอกว่า คิดถึง ทั้งๆที่มันไม่มีคำว่าคิดถึงก็ไม่รู้ เหมือนอาฟจะบอกว่า มันต้องคิดถึงผมมากจนสองวันที่ต้องไปยาวนานเหมือนสองอาทิตย์เลย “ แล้วอย่าเผลอตื่นขึ้นมาหอมแก้มพ่อเพราะคิดว่าเป็นกูนะอารยะ ”

“ พ่อกูไม่ได้แก้มอ้วนเหมือนมึงเมด ”

“ แก้มอ้วนเลยเหรอวะไอ้สัด ”

“ อื้ม ”

“ ว่ากูอีกแล้วนะ ” บอกด้วยเสียงโกรธๆแต่อีกคนก็แค่ยักคิ้วให้ก่อนจะยกนาฬิกาตรงข้อมือขึ้นมาดู

“ ไปละ แล้วเดี๋ยวไอ้เดย์ส่งกูเสร็จมันจะมารับมึงไปกินเข้าวแล้วก็ไปเรียนนะ ” ผมพยักหน้ารับ “ แล้วอย่าให้รู้ว่ามึงบอกมันว่าไม่ต้องมาเหมือนครั้งก่อน ”

“ บ้าน่า คิดมาก ” บอกปัดแบบนั้นอาฟก็แค่ยกยิ้ม แล้วพูดเสียงเบา

“ ไหนหลับตาหน่อย ”

“ ไม่ ” ผมปฎิเสธ “ อยากจะจูบกูก็จูบเลยไม่ต้องเขินหรอก เมื่อคืนมึงเล่นขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้จะมาเขินอะไรอีก ”

“ หน้าด้าน คือช่วยเขินกูหน่อยได้มั้ย ” หลุดยิ้มออกมากับท่าทางจริงจังของอีกคน ผมหันหน้าไปทางอื่นแล้วตอนที่หันมาอาฟก็จูบลงที่ริมฝีปากแล้วก็ข้างแก้ม “ อีกสองวันเจอกัน ”

“ ถึงแล้วส่งข้อความาบอกด้วยนะ แล้วขากลับอย่าลืมซื้อ irvins มาฝากกูด้วยนะ ”

“ เชี้ยอะไรอีก ”

“ หนังปลากรอบซอสไข่เค็มมันขายที่สนามบินเลย อย่าลืมซื้อนะ ไม่มีหนังปลาเอามันฝรั่งก็ได้ โอเคมั้ย ”

“ ตังค์ ” ยื่นมือออกมา ผมก็ยื่นมือไปให้มันจับก่อนจะดึงอีกคนเข้ามาจูบที่ริมฝีปาก ในตอนนั้นอาฟที่นิ่งอึ้งไปผมก็บอกมัน

“ จ่ายละ ”

“ ร้ายนักนะมึง ” บอกกันแบบนั้น อาฟถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะลุกเดินไปลากกระเป๋าออกจากห้องนอน ส่วนผมก็ลุกจากเตียงเดินไปส่งมันที่หน้าห้อง

“ เดินทางปลอดภัยนะ ถึงแล้วก็ส่งข้อความมาบอกด้วย แล้วห้ามเลื่อนไฟลท์กลับ ต้องกลับมาหากูเร็วๆนะมึง ”

“ อื้ม ” ผมโดนขยี้หัวจนยุ่งในตอนที่อาฟตอบแบบนั้นก่อนจะเดินออกไป

ปิดประตูลงก่อนจะพาตัวเองมานอนบนเตียงที่เดิมด้วยความรู้สึกที่แปลกไป อาจเพราะความเงียบที่คืบคลานเข้ามาสบทบกับความเหงาเลยทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ ข้างตัวที่ไม่มีกัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเรายังหัวเราะและพูดคุย พลิกตัวไปมองห้องแต่งตัวที่ไม่ใคร คอนโดที่เงียบยิ่งกว่าวันไหนๆ ในวินาทีต่อมานั้นผมดึงหมอนที่เจ้าของมันไม่อยู่เข้ามากอดไว้  ก็เคยคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนติดแฟน แต่ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าจริงๆมันเป็นแบบนั้นมั้ย

ครืน ครืน ครืน

เสียงโทรศัพท์ที่กำลังดังปลุกให้ผมที่เผลอหลับไปตื่นขึ้นมา เบอร์โทรเข้าฉายชื่อที่บันทึกไว้อยู่บนหน้าจอ ‘ throwup : DAY ’ ผมกดรับ

“ ครับ น้องเดย์ ”

“ สวัสดีครับนี่คือเสียงของผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก ”

“ ขอวางสาย ” ผมบอกอีกคนที่หัวเราะออกมาเสียงดังก่อนห้ามปรามกันไว้

“ เดี๋ยวววว พี่เมดแม่งอย่าเป็นคนน่ารักที่มักจะใจร้ายสิ ” เผลอถอนหายใจแล้วยิ้มออกมากับความปัญญาอ่อนของปลายสาย พี่น้องกันแท้ๆแต่ทำไมมันต่างกันนักวะ โคตรจะสงสัย “ น้องเดย์จะโทรมาถามพี่เมดว่า พี่เมดตื่นยังครับ ออกไปกินข้าวกันเถอะ ”

“ แล้วนั่นน้องเดย์อยู่ไหน ”

“ ห้องน้องแพมครับผม ” อีกคนบอก ผมก็ได้แต่ขมวดคิ้ว และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้เลยอธิบายออกมา “ ห้องสาวน่ะ ”

“ อ๋อออ ”

“ ประมานไม่เกิน 45 นาที น้องเดย์คงถึง แล้วนั่นพี่เมดอาบน้ำยัง  ”

“ ไม่ต้องมารับก็ได้น้องเดย์อยู่กับน้องแพมเถอะ เดี๋ยวพี่เมดไปกินที่มหาลัยทีเดียว แล้วก็จะเข้าเรียนเลย ”

“ ไม่ได้ๆ สัดพี่สั่งไว้ ไม่ทำตามเดี๋ยวมันฆ่าน้องเดย์อีก มาเถอะ ไปกัน อยากกินอะไร กินได้หมด พี่เมดเลี้ยงเอาบัตรสัดพี่รูดไปเลย ” ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟังอีกคนพูด เงยหน้าหันไปมองเวลาที่ตอนนี้ก็บอกเวลาสิบโมงพอดี

“ พี่เมดเกรงใจอะ ไม่ต้องมาหรอก  พี่เมดไม่บอกพี่อาฟแน่นอน น้องเดย์อยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ ”

“ ก็คืออยากจะไปกินข้าวกับพี่เมดไง ” อีกฝ่ายอ้อน “ อย่าดื้อน่า ยังไม่อาบน้ำใช่มั้ย อาบน้ำๆ เดี๋ยวไปรับ แค่นี้แหละครับพี่สะใภ้ ”

“ งั้นคิดของที่จะกินไว้เลยนะ ”

“ ครับผม ” กดวางสาย ในท้ายที่สุดก็ไม่สำเร็จผมควรคิดได้ว่าไม่เคยมีใครขัดคำสั่งไอ้อาฟได้สักคน เถอนหายใจออกมาเซ็งๆกับความขี้เกียจที่ลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ แต่ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่ลืมเปิดโปรแกรมไลน์ของตัวเองเพื่อดูแจ้งเตือนของแชทอันบนสุดที่ปักหมุดไว้ มันเป็นแชทของคนที่ตอนนี้เดินทางถึงสิงคโปร์แล้วเป็นที่เรียบร้อย

[ ถึงแล้ว กำลังจะไปโรงแรม ]

[ ถึงโรงแรมแล้ว กำลังจะออกไปคุยกับเพื่อนพ่อ ที่ภัตตาคารในโรงแรม ]

[ ถึงร้านอาหารแล้ว ]

“ กวนตีนกูอยู่เปล่าวะถามจริง ” ผมพูดกับตัวเองตอนที่เห็นสามข้อความนั้นของอีกคน แล้วถึงกับต้องส่ายหน้าที่มันก้รายงานกันถึงขั้นนั้น [ มึงไม่บอกด้วยอะ ว่าแดกอะไรบ้าง ]

[ กำลังพิมพ์ ]

[ K ] ส่งข้อความตอบกลับไปไม่ลืมส่งสติกเกอร์หน้าโกรธไปให้มันด้วย ส่วนอีกคนก็ส่งสติกเกอร์แมวน้ำที่มีคำว่า รัก ตอบกลับมาแต่ก่อนที่ผมจะพิมพ์แซวอะไรไป อาฟก็คืออาฟ

[ ส่งผิด ]

[ อ๋อจ้า เชื่อได้มากเลย ] ผมแซวมัน

[ เพิ่งตื่นใช่มั้ย ]

[ ใช่ กำลังจะไปอาบน้ำ เดี๋ยวน้องเดย์มารับไปกินข้าว ]

[ อื้ม ]

[ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา ] พิมพ์ตอบกลับไปแบบนั้น ก่อนที่วิดีโอคอลจะถูกโทรเข้ามาโดยอีกคน ผมกดตัดสายเพราะคิดว่าอาฟคงกดผิด [ โทรวิดีโอเข้ามาทำไม มึงกดผิดเหรอ ]

[ ก็มึงบอกจะอาบน้ำ ]

[ ไปตายนะไอ้สัด ] ส่งข้อความไปพร้อมสติกเกอร์หน้าโกรธ แต่เหมือนอีกคนจะไม่ฟังกัน อาฟยังโทรวิดีโอคอลเข้ามาเรื่อยๆ เป็นคนที่แม้ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังหาวิธีมากวนตีนกันได้อย่างไม่มีที่สุดจริงๆ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ผมเดินลงมาชั้นล่างของคอนโดหลังจากอาบน้ำเสร็จ ตรงลานจอดรถที่มีรถของผมกับอาฟจอดอยู่นั้น ตอนนี้มันมีรถเบ็นซ์ป้ายทะเบียนคุ้นตาคันนึงมาจอดอยู่ข้างๆกันด้วย ผมเคาะกระจกรถบอกคนด้านในก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง

“ กินอะไรกันดีครับที่รัก ” น้องเดย์ที่วันนี้ดูจากการแต่งตัวเหมือนไม่มีเรียนหันมาถามก่อนจะยักคิ้วให้ผมที่ก็ยิ้มให้น้อง ก่อนจะยกมือถือขึ้นมา

“ อัดเสียงไว้ละ เดี๋ยวส่งให้ไอ้อาฟฟัง ”

“ ที่รักของสัดพี่อาฟสุดที่รักของน้องเดย์ไง  ยังไงพูดไม่จบเฉยๆ ” น้องบอกขึ้นทันควันผมก็หัวเราะออกมาเสียงดังจนพิงกับเบาะที่นั่ง “ หัวเราะอะไรขนาดนั้น แกล้งน้องเดย์ปะพี่เมด ”

“ เออ แกล้ง ”

“ ร้ายนัก เดี๋ยวจับรักซะให้เข็ด ” เม้มริมฝีปากตอนที่พูดผมก็แต่ขมวดคิ้วก่อนจะถาม

“ แล้วตกลงจะกินอะไร ”

“ ราเมงมั้ย น้องเดย์อยากกิน มีร้านหนึ่งน้ำซุปกระดูกหมูโคตรเด็ด เดี๋ยวพาไปชิม ”

“ โอเค ได้เลย ” พยักหน้าบอกรับน้องอีกคนก็ถอยรถออกจากที่จอดทันที ผมถอนหายใจออกมาตอนที่คาดเข็มขัดนิรภัยน้องเดย์ก็หันมายิ้มให้

“ หงุดหงิดเหรอพี่เมด ”

“ เปล่านี่ ทำไมคิดงั้นวะ ”

“ ก็เห็นถอนหายใจ เลยคิดว่าไม่อยากจะให้น้องเดย์มารับหรือเปล่า แบบเกรงใจ แต่ก็ขัดสัดพี่ไม่ได้ อะไรทำนองนั้น ”

“ พี่เมดไม่ได้ถอนหายใจเพราะเรื่องนั้น ถอนหายใจเฉยๆนี่แหละไม่มีอะไรหรอก แต่ว่าพี่เมดก็คิดแบบที่น้องเดย์บอกนะ พี่เมดไม่อยากให้น้องเดย์มารับ พี่เมดเกรงใจ ”

“ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรสักหน่อยเปล่าวะ ” น้องบอกผม “ แค่มารับไปกินข้าว ไปส่งที่มหาลัยแล้วก็ไปรับกลับตอนเลิกเรียน ต่อด้วยกินข้าวเย็นแล้วก็มาทำงานที่ผับซึ่งก็ปกติน้องเดย์ก็มาอยู่แล้วอะ แล้วพอเลิกงานก็พากลับไปส่งคอนโด แค่นี้เอง ”

“ แค่นี้เองเหรอวะ แต่ทำไมพี่เมดไม่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแค่นี้เองเลยวะ คือรู้สึกว่า ตัวเองเหมือนเป็นคนที่ต้องถูกดูแลอยู่ตลอดเวลาอะ เหมือนคนที่พ่อแม่เลี้ยงแบบไข่ในหิน ใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวไม่ได้ ทั้งๆที่ว่า กูก็ทำได้นะ ก่อนจะคบมันพี่เมดไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด เมื่อก่อนนี้ไปซื้อของ กินข้าว ไปเรียน ก็ไปคนเดียวตลอด แต่ตอนนี้อะไรแบบนั้นคือลืมไปได้เลย คือพี่ชายน้องเดย์ดูแลพี่เมดจนจะเป็นง่อยอยู่แล้ว ”

“ ฮ่าๆ แต่มันก็ไม่เห็นแปลกที่จะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ ” น้องเดย์หันมาบอกผมก่อนจะยักคิ้วให้ “ ก็เมื่อก่อนพี่เมดไม่มีสัดพี่ พี่เมดก็ต้องดูแลตัวเอง ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้พี่เมดมีสัดพี่คอยดูแลแล้ว สัดพี่มันก็เข้ามาทำหน้าที่ของมัน ก็ไม่แปลกเปล่าวะ ”

“ ก็..” ผมไม่รู้จะเถียงอะไร มันก็จริงของน้อง บางทีสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวของผมในตอนนี้ มันก็เหมือนกับสิ่งที่บอกว่า ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว แล้วเค้าก็ชื่อ อาฟเตอร์ อารยะ คนที่ทำอะไรแบบนี้ให้กันเสมอ

“ รู้มั้ยว่าทำไมน้องเดย์ไม่อยากจะขัดใจสัดพี่เวลามันใช้ให้ทำอะไรให้มัน ”

“ ได้เงิน ” ผมตอบ น้องก็หัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ก็ขอไปแบบนั้นแหละพี่เมด ไม่ให้ก็ทำให้ แค่ไปรับไปส่งพี่เมดเอง ไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่หรอก พี่เจ หรือแม้แต่ไอ้อัยย์มันก็คิดแบบนั้น เพราะสัดพี่ไม่ใช่พวกที่ขอร้องคนอื่นด้วยละ มันมีแต่ทำให้คนอื่น ขออะไรมันถ้ามันให้ได้มันก็ให้ แล้วแบบนั้นเวลาที่มันขอให้ช่วยดูแลพี่เมดแทนมัน ทุกคนก็เลยอยากจะช่วยมัน ”

“ อื้ม ”

“ คนอย่างสัดพี่ถ้าไม่ไว้ใจมันไม่ให้เข้ามาใกล้พี่เมดหรอกจะบอกให้ มันรักพี่เมดมากนะ น้องเดย์ขอบอกเลยว่าทั้งชีวิตของมัน มันไม่เคยทำให้ใครแบบที่ทำให้พี่เมดเลย พี่เมดอาจจะมองรำคาญว่ะ อะไรจะขนาดนั้นวะ ทำไมต้องดูแลกูขนาดนี้ กูไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย กูทำได้เอง จะห่วงอะไรกันนักหนา แต่ว่า นี่มันก็คือความรักของสัดพี่ที่มีให้พี่เมดไม่ใช่เหรอวะ มันก็แค่อยากจะดูแลคนที่มันรักให้ดีที่สุดอะ แล้วตอนนี้พี่เมดก็แค่รับมันไปก็เท่านั้น ”

“ พูดไม่ออกเลยกู ” ผมได้แต่พูดคำนั้นออกมาเบาๆ ในตอนนั้นน้องเดย์ที่หันยกมือเก็กหล่อให้กันมันไม่ได้ชวนให้ผมขำแต่อย่างใด ก็คงจะจริงอย่างงั้น ทั้งหมดนี่คือความรักของอาฟที่มีให้ผม แล้วผมก็ควรรับมันไว้

“ แล้วอย่าบอกสัดพี่ว่าน้องพูดงี้นะ ”

“ เสียใจนะ อัดเสียงไว้แล้ว ” ทำทีเป็นยกมือถือขึ้นมาแกล้ง อีกคนก็หันมาจ้องแบบหาเรื่อง

“ กวนตีนกูละนะพี่สะใภ้ ”

“ ฮ่าๆ ” เราที่หัวเราะให้กันภายในรถที่เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านราเมงที่อีกคนบอกว่าเด็ด มันตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของเราเท่าไหร่นัก เป็นร้านขนาดกลางที่มาจากญี่ปุ่นแท้ๆ ผมกับน้องเดย์เลือกโต๊ะที่นั่งด้านในสุดของร้าน สั่งราเมงแบบน้ำซุปกระดูกหมูคนละที่พร้อมกับเกี๊ยวซ่าแล้วก็ของทอดอื่นมาเป็นจานกลาง

“ น้องเดย์มากินที่นี่บ่อยเหรอ ” ผมถามอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่อะ แต่เคยมากินครั้งหนึ่งกับสาว อร่อยดีเลยพาพี่เมดมาด้วย ”

“ สาวที่ว่าคือ น้องคนที่ชื่อแพมใช่มั้ย ”

“ ใช่แล้ว ” ท่าชี้นิ้วแบบถูกต้องนะครับถูกชี้มาทางผม “ แต่ว่าไม่ใช่แฟนนะเป็นแค่กิ๊ก ”

“ จริงอะ ”

“ จริง ” อีกคนพยักหน้ารับบอก “ น้องเดย์ไม่ชอบการผูกมัดอะพี่เมดเลยไม่มีแฟน แล้วแพมเองก็ไม่ชอบด้วย แบบนั้นเราก็เลยอยู่กันไปแบบ กิ๊กๆกันนี่แหละสบายใจดี ”

“ แปลกดี ”

“ แปลกตรงไหนวะ ”

“ ก็ไม่มีใครคิดที่จะจริงจังเลยเหรอ แบบว่า รู้สึกเกินกว่าสิ่งที่ตกลงกันไว้ อยู่กันมานานเท่าไหร่แล้วละ น้องเดย์กับน้องแพมน่ะ ”

“ ก็สักแปดเดือนแล้วมั้ง แต่ก็ไม่เห็นมีใครอยากจะเลื่อนขั้นมากกว่านี้ อีกอย่างน้องเดย์กับแพมมันก็เป็นแนวแบบ เพื่อนที่เอากันได้ อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ แต่ไม่หึงหวง ไม่วุ่นวาย แต่ถ้ามีคนที่อยากจะจริงจังด้วยเมื่อไหร่ เราก็แค่แยกทาง ”

“ เหรอ ” แต่คนเรามันจะมีเหรอวะ คนที่เค้าไม่รู้สึกอะไรแล้วเอากัน กอดจูบกันจะไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอวะ แต่มันก็คงมีมั้ง ไม่งั้นคงไม่มีวันไนท์สแตน แต่ว่านี่ก็มีอะไรกันตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ใช่วันไนท์เปล่าวะ แล้วคืออะไร งงกับคำว่า เพื่อนที่เอากันได้ แต่เพื่อนกันแม่งก็ไม่เอากันเปล่าวะ  ผมที่ได้แต่คิดอยู่คนเดียวในตอนนั้นน้องเดย์ที่เหล่มองมาก็ยิ้ม

“ เอาน่า อย่าสนใจเรื่องน้องเดย์เลย เรามานินทาสัดพี่กันดีกว่า ”

“ นินทาเรื่องไรวะ ” ผมถามอีกคนก็ยิ้ม


“ ก็มีอะไรบ้างที่พี่เมดอยากรู้อะ เดี๋ยวน้องเดย์จะเล่าให้ฟังหมดเลย ถ้ารู้นะ ”

“ เรื่องที่อยากรู้เหรอวะ ” ผมที่พยายามคิดถึงสิ่งที่อยากรู้ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้คำถามหนึ่ง “ รักครั้งแรกของอาฟเป็นไงวะ ”

“ ยากละ ” อีกคนหลุดสบถผมก็ถามกลับด้วยความสงสัย

“ ทำไมวะ ”

“ ก็ไม่มั่นใจว่าจะเรียกว่ารักครั้งแรกได้หรือเปล่า มันห้าสิบห้าสิบ แบบ มันมีความรักเหรอ ”

“ มันต้องมีสิ พี่อาฟเคยบอกพี่เมดว่ามี มันเล่าด้วยนะว่าหน้าเป็นยังไง ”

“ ยังไงๆ มันเล่าว่าไง ”

“ แล้วน้องเดย์ไม่เคยเห็นเลย ” อีกคนส่ายหน้าผมก็ได้แต่ยิ้ม “ ก็เล่าเป็นคนตัวสูง ขาว แล้วเวลายิ้มตาจะเป็นขีด แก้มตรงนี้ก็จะกลม ท่าทางเด็กๆ ดูหมวยๆ น่ารักๆ ”

“ พี่พูดมานั่นไม่ใช่พี่เมดเหรอวะ ”

“ บ้า จะใช่ได้ไงเล่า ”

“ เอ้า ก็ที่พูดมาพี่เมดชัดๆ แต่ถ้าไม่ใช่พี่เมด ก็แสดงว่าสเป็คไอ้สัดพี่แม่งก็ต้องแบบสไตส์พี่เมดอะ หมวยๆตี๋ๆกันไป ” น้องเดย์บอกในตอนนั้นอาหารที่เราสั่งก็ถูกยกมาเสิร์ฟพอดี บทสนาที่ผมอยากฟังต่อก็เป็นอันว่าต้องสะดุดลงเพราะอาหารตรงหน้าที่โชยกลิ่นหอมจนต้องหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่าย ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาเป็นลำดับต่อไปเพื่อชิมรสชาติ “ เป็นไง อร่อยมั้ย ”

“ อร่อยๆ โคตรเข้มข้นอะ ” ตอบแบบนั้นน้องเดย์ก็ชูกล้องมาทางผมที่ก็ชูสองนิ้วส่งไปให้อีกคน ที่ไม่บอกก็รู้ว่าคงส่งไปรายงานพี่ชายที่อยู่ต่างประเทศแน่นอน

“ ดีใจที่พี่เมดชอบ ”

“ แล้วเรื่องนั้นว่าไงต่อ ” ผมถาม “ รักครั้งแรกของไอ้อาฟที่ตอนแรกน้องเดย์บอกว่า ไม่มั่นใจว่ารักครั้งแรกหรือเปล่า ”

“ อ๋อ เพราะตอนนั้นน้องเดย์ไม่รู้ว่ามันอกหักหรือเปล่า แต่อาการมันนะโคตรเหมือนคนอกหักเลย ” อีกคนเล่าเปิดเรื่องอย่างออกรส
“ จำได้สัดพี่อยู่ม.หกมั้ง น้องเดย์ก็อยู่ม.สี่ ปกติกลับมาเราจะเล่นเกมส์ด้วยกัน แต่วันนั้นมันไม่พูดไม่จากับใครเลย เดินเงียบๆเข้าไปในห้องแล้วก็ไม่ออกมาอีกเลย เช้าตื่นขึ้นมามันก็ไปโรงเรียนปกติ แต่แม่งไม่คุยกับน้องเดย์จนคิดว่ามันโกรธอะ แต่พอไปถามเพื่อนมัน เพื่อนมันก็บอกว่า สัดพี่ก็มีอาการแบบเดียวกันนี้กับพวกพี่มันเหมือนกัน แล้วพอน้องเดย์ถามว่า อกหักหรือเปล่า มันก็แค่บอกว่า อกหักเหี้ยอะไรเค้ายังไม่รู้จักกูเลย น้องเดย์เลยสันนิฐานว่า คงไปชอบใครแล้วโดนตัดหน้าแหละ ความรักวัยรุ่นก็เงี้ยพี่เมด จะเฮิร์ทๆหน่อย ”

“ อยากรู้เลยว่าคนคนนั้นเป็นใคร ”

“ อยากรู้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะได้รู้หรอก อีกอย่างนะเรื่องมันก็นานมากแล้วอะ บางทีสัดพี่อาจจะลืมหน้าเค้าไปแล้วก็ได้ มันใส่ใจคนอื่นที่ไหนกัน ”

“ ใครจะรู้วะ รักครั้งแรกนะน้องเดย์ ไม่มีใครลืมได้หรอก ”

“ แบบพี่เมดปะ ? ” คำถามที่ทำให้สถานการณ์ในตอนนั้นเปลี่ยนไปแบบทันที ผมนิ่ง น้องเดย์เองก็ได้แต่เบิกตาขึ้นมา ก่อนจะยกมือไหว้ผม ในตอนที่คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นออกมา “ น้องเดย์ขอโทษพี่เมด น้องเดย์ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษครับ ”

“ ไม่เป็นไร ” ผมบอกอีกคนยิ้มๆ ก่อนจะส่ายหน้า “ พี่เมดไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆ ”

“ เหรอ ”

“ อื้ม ให้เล่ายังเล่าได้เลย ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วละ ตอนนี้ก็มีไอ้อาฟแล้ว แม่งก็แค่ความทรงจำอะ ”

“ เล่าได้จริงอะ อยากฟังนะ ”

“ จะฟังเรื่องอะไรละ ” ผมคีบเกี๊ยวซ่าเข้าไปในปากหลังจากที่ถามอีกคน น้องเดย์นั่งนึกอยู่สักพักก่อนจะหันกลับมาจ้องกัน

“ พี่เมดกับไอ้เชี้ยนั่นคบกันได้ไงวะ ” คำถามที่ทำให้ผมหวนนึกถึงวันเวลาเหล่านั้น ภาพของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงหลังโรงเรียนฉายขึ้นมาในสมอง แม้แต่ความรู้สึกใจเต้นแรงในวันนั้นผมก็ยังคงจดจำมันได้ดี ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ช่วงเวลานั้นก็ถูกจัดเป็นช่วงเวลาที่ดีอีกช่วงหนึ่งในชีวิตเสมอ

“ หลังเลิกเรียนตอนม.หก มันให้เพื่อนคนหนึ่งในชมรมมาถามชื่อเมดว่า ชื่ออะไร เรียนห้องไหน  ” น้องเดย์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าพยักหน้ารับ “ แต่ตอนนั้นก็ไม่มั่นใจหรอกว่าเป็นมัน แบบไม่กล้าเข้าข้างตัวเอง เพราะตอนที่คนคนนั้นมาถาม เค้าเดินข้ามถนนไปเจอบินแต่เหมือนจะไม่ได้ตั้งใจเจอมากกว่า มามั่นใจก็ตอนที่สารภาพรักนั่นแหละ ว่าเป็นมันที่มาถามชื่อตอนแรกแล้วก็ซื้อนมมาให้ด้วย ”
“ ซื้อนมจีบกันเหรอวะ ”

“ ประมานนั้น ” ผมบอก “ ตอนนั้นพี่เมดโดนเด็กที่โรงเรียนชนตอนที่จะดูดนมเข้าปากแล้วด้วยนะ โคตรเซ็งเลยตอนนั้นคิดว่าจะอดแดกละ แต่สุดท้ายก็เพื่อนของบินคนที่มาถามชื่อนี่แหละ ก็วิ่งเอานมขวดใหม่มาให้ เค้าบอกว่า ‘ เพื่อนเราชอบเมดอะ เพื่อนเราฝากมาให้ ’ แล้วก็ย้ำด้วยนะว่า ‘ อย่าทิ้งละ ’ ”

“ แล้วพี่เมดก็ถามตอนนั้นเหรอว่าเพื่อนมันเป็นใคร ”

“ ก็ถามแต่มันก็ไม่ตอบหรอก บอกแค่ว่า เพื่อนไม่ให้บอก เดี๋ยววันไหนให้บอกก็จะมาบอก ”

“ โคตรป๊อดเลย เป็นน้องเดย์บอกไปละ ชื่อเดย์ รูปหล่อ พ่อรวย พี่ชายปากหมา คบแล้วจะมีให้ทุกอย่าง ยกเว้นอนาคต ”    

“ ฮ่าๆ ” หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกับคำพูดและท่าทางเก็กหล่อของอีกคน   

“ ต่อๆ  แล้วตอนนั้นเป็นไง เขินเลยดิ ”

“ โคตรๆ ” ผมบอก “ หน้านี่แดงไปหมด เหมือนเลือดจากทุกส่วนในร่างกายขึ้นมากองอยู่ตรงหน้า แล้วหลังจากวันนั้นคนคนนั้นก็เอานมมาให้พี่เมดทุกวันเลย จะฝนตก แดดออก ก็เอามาให้ จะเลิกสายก็รอ พี่เมดเองก็ออกไปรอนมนั่นทุกวันเหมือนกันนะ มันเป็นอะไรที่แบบ จะว่ายังไงดีวะ สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขในทุกวันมั้ง อื้ม.. พูดอย่างงั้นก็ได้แหละ เพราะไม่ว่าวันนั้นจะเจอเรื่องแย่แค่ไหน หรือจะทะเลาะกับใครมา แต่พอคิดว่าตอนเย็นจะมีคนมาคอยเราอยู่ คนที่คอยซื้อนมให้เราทุกวัน คนที่คอยเป็นห่วงแล้วถามว่าวันนี้เราทำอะไร เป็นยังไงบ้าง ถึงจะได้ตอบแค่คำสั้นๆแต่มันก็ดีมากเลยนะ พี่เมดชอบความพยายามของเค้า ชอบความใส่ใจของเค้า เป็นครั้งแรกเลยที่ตกหลุมรักใครสักคนโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร ”

“ น่ารักจังว่ะ ”

“ แล้วบางวันที่ต้องไปยืนรอเค้าตรงหลังโรงเรียน พี่เมดก็เคยแอบคิดด้วยนะ ว่าเค้าอาจจะเป็นใครสักคนที่เดินอยู่แถวๆนั้นแล้วแอบมองเราอยู่ก็ได้ เป็นอะไรที่โคตรมีความสุขอะ เหมือนเค้าเป็นคนที่ทำให้พี่เมดรู้สึกอยากจะนอนเร็วๆ แล้วตื่นขึ้นมาเรียนในตอนเช้า เพื่อรอเวลาเย็นที่ต้องไปรอรับนมของเค้าก่อนกลับบ้าน เป็นทำให้วันจันทร์ถึงวันศุกร์ในตอนนั้นมีความหมายอะ ”

“ เขินเลยตัวกู ”

“ แต่ว่าพี่เมดก็จำไม่ได้แล้วนะ ว่ามันนานแค่ไหนที่เป็นอยู่แบบนั้น จนวันนึงที่พี่เมดคอยรับนมอยู่ปกตินี่แหละ ตอนนั้นก็เห็นคนส่งนมเดินถือนมมาแล้ว แต่ว่าบินก็เดินเข้ามาคว้านมจากมือเค้าไปเลย มันพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนแล้วก็ตรงมาหาพี่เมดเลย ”

“ ฉากสารภาพรักมาละ ”

“ อื้ม  ตอนนั้นมันก็บอกชอบ เป็นแฟนกันมั้ย ”

“ แล้วพี่เมดว่าไง เซย์เยสเลยสิท่า ”

“ ตอนนั้นก็ยังไม่มั่นใจนะ คือ เข้าใจมั้ยว่า ตอนแรกที่เห็นที่คิดว่ามาถามชื่อพี่เมดคิดว่าตัวเองคิดไปเอง แต่พอมันมายืนอยู่ตรงหน้าจริงๆก็ช็อคไปเหมือนกัน เพราะว่าบินตอนนั้นมันดังมาก เป็นนักบาสของโรงเรียนตรงกันข้ามด้วย เลยรู้สึกว่าไม่น่าใช่ จำได้ว่าพี่เมดถามมันเพื่อความแน่ใจด้วยนะ ”

“ ถามว่าไรวะ เรื่องนมน่ะเหรอ ”

“ อื้ม ก็ถามว่ามันเป็นคนที่ฝากนมมากับเพื่อนในพี่เมดทุกวันเลยเหรอ แล้วพออีกคนบอกว่าใช่เท่านั้นแหละ เข้าใจเลยว่าไอ้ความรู้สึกที่เค้าบอกว่าหัวใจเต้นแรงแทบทะลุอกมันเป็นยังไง แล้วพอโดนถามซ้ำว่า คบกันมั้ยก็เลยตอบตกลงไปเลยว่า คบจ้า ”

“ ฮ่าๆ ” 

เสียงหัวเราะที่ดังประสานขึ้นของเรา ชวนให้ผมคิดถึงความรู้สึกในวันนั้นที่จำกัดความได้สั้นๆว่า ‘ มีความสุขที่สุด ’ แม้ตอนนี้จะเป็นได้เพียงแค่ความทรงจำแล้วก็ตาม

“ แต่หลังจากคบกัน บินมันก็ดีได้ไม่ถึงปี แม่งก็เริ่มเหี้ยละ เหี้ยแบบ เหี้ยมากๆ ทั้งเจ้าชู้ เอากับผู้หญิงคนอื่น พาผู้หญิงไปเลี้ยงเหล้า ชอบด่าพี่เมดแบบ คือมันด่าจากไอ้อาฟนะ อาฟด่าแบบกวนตีน อันนี้ด่าแบบ ด่าจริงๆ ด่าเหมือนเราไม่ได้รักกัน ” ผมพูดยิ้มๆ “ แล้วก็ยังมีสารพัดเรื่องที่มันจะทำให้เสียใจ แล้วหนักสุดก็เรื่องนั่นแหละ เรื่องที่คุณก็รู้ว่าเรื่องอะไร ”

“ แล้วทำไมพี่เมดยังทนวะ ” น้องเดย์ถาม “ คือหมายถึงตอนที่ยังไม่รู้ว่ามันแอบเอากับเพื่อนสนิทอะ คือพี่เมดบอกว่า มันเหี้ยแบบ เหี้ยมากๆ  แต่ทำไมยังทนคบอยู่กับมันได้ตั้งนานวะ ”

“ ไม่รู้เหมือนกันวะ บางทีคงเพราะมันเคยเป็นความสุขของพี่เมดมั้ง ” ผมยิ้มให้คนตรงหน้า “ ก็ถึงแม้มันจะเหี้ยมากแค่ไหน แต่ในช่วงเวลาหนึ่งมันก็เคยเป็นคนที่ทำให้พี่เมดยิ้มได้ เป็นคนทำให้พี่เมดมีความสุข แล้วพอคิดว่าครั้งหนึ่งมันเคยพยายามบังคับเพื่อนให้เอานมมาให้พี่เมดได้ทุกวัน ไม่เคยลืมเลยสักวัน  พี่เมดก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า สักวันบินก็คงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั่นแหละ แต่นั่นเป็นความคิดที่โคตรโง่เลย พี่เมดน่าจะรู้ว่า สันดานแม่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ ”

“ ถามจริงๆนะ เกลียดมันมั้ย ไอ้เชี้ยนั่นนะ ”

“ เกลียดสิ  พี่เมดเกลียดสิ่งที่มันทำ เกลียดที่มันหักหลังกัน แล้วที่เกลียดที่สุดก็คือ มันไม่ได้แค่ทำลายความรักของพี่เมด แต่มันทำลายคำว่าเพื่อนของพี่เมดด้วย ” ผมบอกน้อง “ แต่ว่ามันก็ทำให้พี่เมดเข้าใจคำว่า puppy love นะ เป็นคนที่ทำให้ช่วงเวลาสั้นๆช่วงหนึ่งตอนม.หก มีความหมาย ”

“ พี่เมดดูเป็นคนที่มั่นคงในความรักมากเลยวะ ” น้องเดย์บอก “ นี่ถ้ามันไม่ไปนอนกับเพื่อนสนิทแล้วเห็นคาตาก็คงไม่เลิกกับมันหรอกใช่มั้ย ”

“ คงงั้นมั้ง พี่เมดว่า พี่เมดก็เหมือนคนโง่คนหนึ่งอะน้องเดย์ เรายึดติดกับคนคนหนึ่งเพราะเราคิดแบบเด็กๆ แบบในนิยายรักที่เราอ่าน ว่าเราจะรักเค้าตลอดไป แล้วเราก็คิดว่าถ้าเราอดทน เราก็จะฝ่าฟันทุกอย่างไปได้ เหมือนในละครที่พระเอกเหี้ยมากแต่สุดท้ายพอเค้าคิดได้ เค้าก็กลับมารักกับนางเอกตลอดไป แต่ว่านี่ชีวิตจริงมันไม่ใช่ละครเว้ย ชีวิตจริงคือ เมื่อคุณทำผิดพลาดมันมีสองทางหลังจากนั้นให้เลือก คือ กลับตัวเป็นคนใหม่ กับ ทำซ้ำอีกครั้งอย่างไม่กลัว แล้วบินก็เป็นแบบอย่างหลัง มันคิดแค่ว่า ‘ ไม่เป็นไร ไม่ว่ายังไง เมดก็รักกู ’ แต่มันคงลืมไปว่า ไม่ใช่ทุกความผิดที่จะถูกให้อภัย เพราะบางอย่างมันก็เกิดกว่าจะให้อภัยได้ ”

“ เพราะแค่ไอ้นมช็อกโกเล็ตขวดเดียวแท้ๆ ที่เสือกมาสร้างความทรงจำดีๆให้ยึดติดกับแม่งไว้ เหี้ยจริงๆ ”

“ มันไม่ใช่แค่นมช็อกโกเล็ตขวดเดียวหรอกนะน้องเดย์ ”

ในความรู้สึกผมมันเป็นเฉกเช่นนั้น นมช็อคโกเล็ต ไม่ใช่แค่นมช็อกโกเล็ตเท่านั้น แต่มันมีความรู้สึกที่ฝังติดมา นม กินเสร็จแล้วเราก็ทิ้ง แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือความรู้สึกมีความสุขที่ค่อยๆเติบโตขึ้น แล้วยึดครองหัวใจของผมไว้ ด้วยการฝังรากของมันลงเป็นความทรงจำที่ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ไม่มีทางลืม

ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งมันเคยทำให้ผมให้อภัยคนคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความทรงจำที่แม้แต่ตอนนี้ จะเกลียดกันแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยลืมได้เลยว่า ครั้งหนึ่ง มันก็เคยเป็นความสุขของผม

“ แต่ถ้าคิดในแง่ดี มันก็ดีนะที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น  ไม่งั้นตอนนี้พี่เมดก็ไม่หลุดพ้นจากไอ้เชี้ยนั่นหรอก แล้วก็ยังต้องเสียใจอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ ”

“ ก็จริงนะ ” ผมยิ้ม “ แล้วมันก็ทำให้พี่เมดเข้มแข็งขึ้นด้วย ”

“ แล้วก็ทำให้พี่เมดมาเป็นพี่สะใภ้ของน้องเดย์ ” น้องส่งทำมือรูปหัวใจมาให้ผมด้วยท่าที่ไอ้อาฟชอบบอกบ่อยๆว่ามันเหมือน ท่าขอบี้หัวนม

หลุดยิ้มออกมาในตอนนั้น เผลอคิดถึงคนไกลกันอีกแล้ว เวลาหวนคิดถึงอดีตเมื่อไหร่ เวลาที่นึกเสียใจ ก็ชอบคิดถึงหน้าของอีกคนแล้วคิดขึ้นมาว่า ดีแล้วที่เป็นแบบนี้ อย่างน้อยตอนนี้ก็ได้เจอสิ่งที่ดีกว่า เป็นความรู้สึกที่ถ้าอาฟอยู่ข้างๆ ผมก็คงจะเลื่อนตัวเข้าไปกอดมันไว้ ถึงจะโดนถามว่า ‘ เป็นเหี้ยอะไร ’ แต่มันก็มักจะกอดตอบกันทุกครั้งโดยไม่ถามหาเหตุผลอะไรอีก

ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์ตัวเองที่ไม่มีข้อความตอบกลับจากคนไกล มันคงยุ่งจนไม่ได้จับมือถือ ไม่ก็ทำธุระอยุ่กับพ่อแล้วไม่สามารถหยิบมือถือขึ้นมาดูได้ ในตอนนั้นกดส่งข้อความไปหามัน

[ คิดถึงคนทางนั้นจังเลยว่ะ ]

 จะว่าไปก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกที่อีกคนบอกว่า สองวันเหมือนสองอาทิตย์มันเป็นยังไง ก็คงประมานนี้ เป็นความรู้สึกที่ว่า เข็มนาฬิกาจะเดินช้ากว่าตอนที่เราอยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

“ บ่ายสี่โมงเจอกันนะพี่เมด น้องเดย์จะขับรถมาจอดตรงนี้นะ ” คนขับรถที่มาจอดส่งผมที่หน้าคณะบอก วันนี้ผมมาเรียนช่วงบ่ายสอง หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จ บวกด้วยการไปเดินซื้อขนมกินอีกนิดหน่อย ก็ได้เวลาที่อีกคนจะพาผมมาส่งที่มหาลัย

“ โอเคครับ แล้วนี่จะไปไหนต่อ ” หันไปถามน้องตอนที่ปลดเข็มขัดนิรภัย อีกคนก็แค่มองไปรอบๆ

“ คงไปหาร้านกาแฟ แล้วนั่งเล่นเกมส์แถวๆนี้แหละ ขี้เกียจไปไกล รถติด ”

“ โอเค งั้นเลิกเรียนพี่เมดส่งข้อความไปหานะ ”

“ ครับ ”

“ ตั้งใจเรียนนะพี่เมด อย่ามัวแต่คิดถึงสัดพี่ละ ”

“ โอเค ขับรถดีๆ ”

ปิดประตูรถลงผมก็หันหลังเดินเข้าตึกคณะทันที ภายในห้องที่นิสิตยังมากันมาครบ ผมเลือกที่นั่งที่ว่างก่อนจะนั่งลงแล้วหยิบไอแพตขึ้นมาเปิดเล่นเกมส์ที่โหลดไว้แก้เบื่อแบบไม่รู้จะทำอะไร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสายตาที่กำลังมองมาอยู่นานแล้ว ตอนนั้นผมสบสายตาเข้าจิงที่มองมา ในวินาทีนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่ามันกำลังมีอะไรที่อยากบอกผม อะไรสักอย่างที่ท่าทางมันก็ดูเหมือนกังวลใจอยู่ไม่น้อย

“ ไอ้จิงมองมึงทำไมวะเมด ” เสียงของเพื่อนที่นั่งข้างกันถาม ผมก็หันไปมองเธอก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่รู้เหมือนกันวะ ” ตอบแบบนั้นก่อนจะก้มลงเล่มเกมส์ต่อทำเป็นไม่สนใจ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์ประภาควิชาก็เดินเข้ามาเพื่อเริ่มทำการสอน

จากชั่วโมงเลื่อนเป็นสองจนถึงเวลาเลิกเรียน โชคดีที่วันนี้ไม่มีการสั่งงานอะไรจากอาจารย์เพิ่ม เพราะเท่านี้ก็รู้สึกปวดหัวกับเนื้อหาการเรียนที่ค่อนข้างยากจนรู้สึกเหมือนตัวเองจะไข้ขึ้นแบบฉับพลัน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะบิดคอไปมาเพราะความเมื่อยล้า ปิดหน้าจอไอแพตที่ใช้จดแทนสมุดลงก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความไปหาน้องเดย์หลังจากที่เรียนเสร็จแล้วพลางลุกขึ้นจากที่นั่ง

“ กลับแล้วเหรอเมด ” เพื่อนร่วมห้องถามผมที่ก็พยักหน้ารับก่อนจะยิ้ม

“ อื้ม กลับละ เจอกันนะ ”

“ จ้า ” โบกมือลาเพื่อนก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเรียน แต่ทว่าก็ต้องมาหยุดดูคนสองคนที่เหมือนจะทะเลาะกันอยู่ตรงริมทางเดินลงตึก ยีนส์ที่กำลังทำหน้าหัวเสียในตอนนั้น ผมเห็นมันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายกับจิงที่ก็จ้องมันอยู่ด้วยสายตาที่เอาจริงเอาจัง

ก็คงเป็นเรื่องที่เถียงกันแล้วความเห็นมันไม่ลงรอยกัน ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เรายังเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นเวลาที่มันสองคนทะเลาะกันก็ชอบทำหน้าเบื่อหน่ายใส่กันแบบนี้ คนหนึ่งคิดอีกแบบ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คิดอีกแบบ ส่วนผมเมื่อก่อนก็ได้เป็นคนกลางตลอด แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้ว

“ แล้วทำไมมึงถึงไม่บอก ถ้าแค่ไม่อยากจะทำร้ายความรู้สึกของเมด ถามจริงๆเถอะ มันไม่สายไปแล้วเหรอวะ มึงก็ทำร้ายความรู้สึกมันมาตลอด ยิ่งกว่านี้ก็เคย ” ขมวดคิ้วงงกับชื่อของตัวเองที่ไปอยู่ในบทสนานั่น หรือเพราะแบบนี้เลยทำให้จิงมองผมตอนที่เข้าไปในนั่งในห้องก่อนที่อาจารย์จะเข้าสอน

“ มันก็เพราะแบบนั้นแหละ กูถึงไม่อยากจะให้มันเสียความรู้สึกอีก ก็พอได้แล้วเปล่าวะ ลืมๆไปเถอะ อดีตก็คืออดีตรื้อฟื้นให้มันได้อะไรขึ้นมาวะมึง มันก็มีแค่เจ็บกับเจ็บไม่ใช่เหรอ ”

“ กูอยากด่ามึงว่าโง่ชิบหายสัดยีนส์ ” อีกคนบอกด้วยเสียงโกรธ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง “ จะเหลือเชื้อไฟไว้ทำไมวะ ”

ไม่เข้าใจ แต่ก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ผมไม่ได้อยากรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไปอยู่ในบทสนานั่น แต่สิ่งที่ผมอยากทำ ก็คือการที่เดินผ่านคนสองคนนั่นออกไปเพื่อลงไปยังชั้นล่าง เบื่อที่จะสืบเรื่องราวอะไรนั่นแล้ว อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมคิดแบบนั้นตอนที่สูดหายใจเข้าปอดไปลึกๆ ก่อนจะผ่อนออกมาแล้วก้าวเดินออกไปจากที่ที่ตัวเองยืน และในตอนที่กำลังจะเดินผ่านทั้งสองคนนั้น จิงก็คว้าแขนผมไว้

“ ไอ้จิง ”  ยีนส์เป็นคนทักขึ้นตอนที่เห็นอีกคนจับแขนผมไว้ คนโดนเรียกหันไปมองเพื่อนตัวเองก่อนจะหันมามองผมที่มองพวกมันสลับกัน

“ อะไรกันวะ กูไม่อยากจะยุ่งกับพวกมึงนะ ” คำพูดของผมไม่มีใครตอบอะไร เรียกว่ามันไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ มีแค่ยีนส์ที่ตอนนี้กำลังส่ายหน้าไปมาให้จิงที่ก็ถอนหายใจออกมา

“ กูจะไม่ให้เพื่อนกูโดนหลอกอีกแล้ว มันควรพอได้แล้ว กูจะบอกความจริงกับเมด ”

‘ ความจริงอะไรวะ ’ มันคือคำถามที่อยู่ในใจของผม ในตอนนั้นทุกอย่างดูอึดอัดไปหมด ผมหันมองคนสองคนที่จดจ้องกันอยู่ ไม่มีใครพูดอะไร แต่ทุกอย่างมันสื่อออกมาทางสายตาของคนทั้งคู่ ก่อนที่ยีนส์จะถอนหายใจออกมาอย่างแรงแล้วเอ่ยบอกปัด

" งั้นก็ตามใจมึงแล้วกัน คิดว่าดีก็ทำไปแล้วกันไอ้สัด " ประโยคที่อีกคนพูดก่อนจะเดินออกไปตรงทางเดินลงตึก ผมมองตามยีนส์จนอีกคนหายไปจากสายตาถึงจะหันมามองจิงที่ยังคงจับแขนผมอยู่ด้วยความรู้สึกงุนงง มันในตอนนั้นถอนหายใจออกมา ก่อนจะหลับตาลงราวกับหนักใจเหลือเกินที่พูดบางอย่างที่มันเรียกว่า ‘ ความจริง ’  กับผม มือเลื่อนจากแขนลงมาเป็นมือแล้วนิ่งอยู่แบบนั้นเป็นนาที

“ มีอะไร จะพูดก็รีบพูด ”

“ กูมีอะไรจะบอกมึงนะเมด ” สายตาของอีกคนในตอนนั้นบอกกับผมว่า สิ่งที่กำลังจะได้ยินต่อจากนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดี หัวใจของผมเร่งอัตราขึ้นด้วยความตื่นเต้น ฝืนกลืนน้ำลายที่ค้างอยู่ตรงคอลงไปก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ผมปลอบตัวเองในห้วงวินาทีสั้นๆนั่นว่า ‘ คงไม่มีอะไรที่น่าเสียใจไปมากกว่าการเห็นบินกับยีนส์เอากันอีกแล้ว ’

“ ว่ามาเลย ” แล้วตอนนั้นผมก็บอกอีกคนออกไป   

“ คือกูเพิ่งรู้ความจริงบางอย่าง ก่อนหน้านี้ยีนส์ห้ามกูไว้ไม่ให้บอกมึง เพราะมันอยากจะให้มึงเสียใจอยู่แบบนั้น แต่กูไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นอีกแล้ว กูอยากบอกมึง ถึงกูรู้ว่ามึงจะเสียใจ แต่กูก็ไม่อยากจะให้มึงเป็นคนโง่ในสายตาของไอ้ยีนส์หรือของไอ้บีนอีกต่อไป ” ผมขมวดคิ้วตอนที่มองหน้าอีกคนที่พูดออกมา จิงถอนหายใจ “ เมด ไอ้บินไม่ใช่คนที่ให้นมช็อคโกเล็ตกับมึงนะ วันนั้นมันโกหกมึง เพราะมันอยากจะให้มึงตอบรับรักมัน บินมันโกหกมึงเมด บินมันไม่ใช่คนคนนั้น บินไม่ใช่คนที่ให้นมนั่นกับมึง ” 

ไม่มีเสียงใดที่หลุดออกมาจากปากผม สายตาที่สั่นไหวไปมามีแต่ความรู้สึกที่ว่า ‘ ไม่จริงใช่มั้ยวะ ’ ดังก้องไปทั้งหู ผมไม่ได้ถามย้ำกับสิ่งที่อีกคนพูดว่าจริงหรือไม่จริง ผมได้แต่นิ่งแล้วรับรู้ถึงความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรงไปทุกส่วน ร่างกายของผมมันชา

“ เมด ” เสียงที่อีกคนเรียกไม่มีความหมายใดในตอนนั้น มีแต่คำพูดย้ำที่เหมือนมีดปักย้ำลงไปในใจผม “ ไอ้บินมันหลอกมึงมาตลอดเลยเมด มันหลอกให้มึงทนอยู่กับมันเหมือนคนโง่คนหนึ่งก็เท่านั้น ” ดึงมือตัวเองที่ถูกอีกคนจับไว้นั่นออก ผมหันหลังเดินออกจากตรงนั้น ก้าวขาออกมาไกลเรื่อยๆ น้ำตาเองในตอนนี้มันก็ไหลออกมาเรื่อยๆเช่นกัน “ ขอโทษ ” จิงพูดไล่หลังผมมา “ แต่กูไม่อยากจะให้มึงเสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว ”

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิด ‘ คงไม่มีอะไรที่น่าเสียใจไปมากกว่าการเห็นบินกับยีนส์เอากันอีกแล้ว ’ ตลอดมาผมคิดว่านี่คือความเสียใจที่สุดในชีวิตผม แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แล้ว ความเสียใจที่วินาทีนี้รู้สึกมันเหมือนจะมากกว่านั้น

ผมหวนคิดถึงความสุขของตัวเองในวันนั้น วันที่ยังไม่รู้ว่าเจ้าของความสุขในตอนเย็นของวันที่ไปรอรับทุกตอนม.หกเป็นใคร ผมที่เฝ้ารอเค้า แล้วเฝ้าฝันถึงเค้า แล้ววันหนึ่งผมก็ได้เห็นเค้ามายืนตรงหน้า เค้าที่ผมมอบตำแหน่งของคำว่ารักครั้งแรกไปให้อย่างเต็มใจ  และก็เป็นเค้า คนที่ผมเคยอดทนทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำให้เจ็บซ้ำแค่ไหน ก็ยังเป็นคนที่ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ‘ เค้าจะกลับมารักเรา เหมือนอย่างที่เค้าเคยทำอะไรให้เรามีความสุขเหมือนเดิม เหมือนวันที่ได้ให้นมช็อคโกเล็ตขวดนั้นกับผม ’ แต่ทว่าทุกอย่างมันไม่ใช่แบบนั้น บินไม่ใช่ใครคนคนนั้น แล้วตลอดเวลา ผมเองที่รักคนผิดมาตลอด

‘ เหมือนคนโง่คนหนึ่งก็เท่านั้น ’  ใช่ อย่างจิงบอก ไม่มีผิดเลย ผมเป็นแค่อะไรแบบนั้น

“ เมด ” เสียงที่เอ่ยเรียกผมตรงริมกำแพงทางลงไปชั้นล่าง คนที่ผมคิดว่าเดินจากไปแล้วแต่มันยังคงยืนอยู่ ยีนส์ยืนอยู่ตรงนั้นแต่ทว่ามันกลับไม่ได้ส่งสายตาสมเพชอะไรให้ผมทั้งนั้น แล้วนั่นก็ทำให้ผมยิ่งรู้เจ็บมากขึ้นไปอีก เพราะมันคือสิ่งที่บอกย้ำกันว่า จิงไม่ได้พูดโกหก

“ มึง ” เอ่ยเรียกอีกคนเสียงเบา ผมถามย้ำกับยีนส์ " จริงเหรอวะ  นี่เรื่องจริงเหรอวะ "

“ อื้ม เรื่องจริง ”

ในหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่าน เขียนไว้ว่า ‘ อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ย้อนกลับมา แต่ที่เรายังเสียใจอยู่กับอดีต นั่นก็เพราะว่า ความจริงที่เราเจ็บปวดอยู่ในปัจจุบัน มันทำให้เราคิดอยากเปลี่ยนแปลงอดีตอยู่เสมอ เปลี่ยน เพื่อหวังว่า เราจะได้ไม่ต้องพบพานกับความเสียใจแบบในวันนี้ ’

 แล้วตอนนี้ผมเองก็คิดแบบนั้น


มันไม่มีอีกแล้ว คนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความสุข  ทุกอย่างนั้นได้หายไปและหลงเหลือไว้เพียงแค่ ความทุกข์ทรมานที่ฝากฝังเอาไว้ในหัวใจของผม

....................................................................

ปวดหัวใจยังไงไม่รู้ หลังจากเขียนตอนนี้เสร็จ เราอึนไปเลย ปกติจะเขียนตอนต่อไปขึ้นต้นไว้นิดหน่อยเพื่อเป็นทิศทางตอนเขียนจริง แต่เราเขียนตอนนี้เสร็จ เราเขียนต่อไม่ได้เลย ทั้งๆที่ปกติเราเป็นพวกชอบบีบครั้นความรู้สึกแบบชนิดที่ว่า เจ็บเหรอ ก็จะบีบให้เจ็บกว่านี้ แต่ตอนนี้มันรู้สึกแบบ สงสารว่ะ แค่คิดว่าถ้าสมมุติ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เราจะรู้สึกยังไงกันวะ เป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะตั้งสติยังไงเลย เจ็บว่ะ

เจอกันตอนหน้านะคะ

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยน้า
ฝากแชร์ ฝากไลค์ด้วยย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมมี่ผู้ใสซื่อจ้า
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
สารภาพว่าลุ้นตั้งแต่บรรทัดแรกด้วยความหวาดหวั่นมากๆ ...

เมด รู้ว่าเสียใจนะ แต่จะทำอย่างไรให้มันดีขึ้นล่ะ ทุกข์ได้ สมเพชตัวเองได้ แต่ก็ต้องมีทางให้กับความรู้สึกของตัวเองนะ กอดตัวเอง คิดด้านบวก ต้องมีสติ อะไรก็ได้ในแง่ดีน่ะ แต่อย่าลืมนึกด้วยว่าจะกระทบอาฟอย่างไรด้วยนะ ...
เชื่อเหอะ อาฟเข้าใจ อาฟรักเมดนะ รักมากด้วย เดี๋ยวก็ต้องรีบกลับมา ...
ไม่นาน คงจะรู้ว่าต่างเป็นรักแรกของกันและกัน ... อาฟเมด หากันจนเจอ ...

เราแก้อดีตไม่ได้ แต่เราจัดการความรู้สึกของเราเองได้ ...
น้องเดย์อยู่ไหน รีบมาหาพี่เมดเลย ...
เอม กลับมาได้แล้ว นะ นะ ...

#มาต่อเลยได้ไหมคะ ต่อเป็นพิเศษ ศุกร์หน้ามันอีกนานมาก อึดอัดค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ความจริง เมด น่าจะโล่ง.......
ที่อะไรทุกอย่างของบิน มันไม่จริง มันหลอกทุกสิ่งอย่าง
แต่กลายเป็นเมด เสียใจซ้ำซ้อนเข้าไปอีก  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ความจริงของอาฟ น่าจะเผยตัวตนได้แล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:

อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด