T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)  (อ่าน 49600 ครั้ง)

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
แหม่บรรยายแบบคนบ้าๆก็ทำให้เค้าน้ำตาแตกเหมือนกันนะเนี่ย  ฮือๆฮึก  ไม่ว่าจะเป็นอิมหรือเป็นนัทแกก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ(สัก:ก็แน่สิเมียผมมีคนเดียว)  ขอบคุณคนแต่งที่มาแต่งต่อ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ฮ่าๆๆๆๆ ทำไมตอนนี้น้องบ้าเรากวนจังเลย

แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ

รอตอนหน้าจ้า


ปล.ดีใจที่มาต่อแล้ว

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                        ผมเป็นคนบ้า... แต่ผมว่าเขาเป็นลูกมาเฟีย...


   “แอ๊...  มำ มำ...”ผมหัวเราะเมื่อเห็นสุดที่รักของผมสาละวนอยู่กับเด็กตัวเล็กๆ...  ก็จะใครล่ะครับ  ลูกมันนั่นแหละ...  ใครเป็นแม่...  ถามโง่ๆ  ก็คนที่กำลังอุ้มไอ้เด็กตัวเล็กๆนั่นเอาไว้  กระผมนายอิม นายนัท  ไอ้บ้าสุดหล่อเจ้าเก่าเจ้าเดิมครับ...  วันนี้ผมจะยอมทำตัวไม่บ้าสักวัน  เพื่อที่ไอ้ที่รักของผมจะไม่ประสาทกินไปซะก่อน  แหม...  แต่สะใจดีจัง...
   “พ่อมึงนี้แม่ง...  สุดฤทธิ์จริงๆ  หาเรื่องให้กูได้ไม่เว้นวัน”เสียงมันบ่น   แค่ขอโทษ...  ที่มึงบ่นอ่ะ  พ่อกู!! แม้ที่มันพูดจะเป็นเรื่องจริง 100% ก็ตาม
   “เอาหน่า...  มึงไปชงนมมา...  เดี๋ยวเด็กก็งอแงมากกว่านี้หรอก...”ผมบ่น...  ไอ้เด็กตัวเล็กนี้ก็มองผมตาแป๋ว  อยากจับฟัดให้ชื่นใจ...  ว่าแล้วก็... 
   “งื้อออออ....   ม๊วฟ ม๊วฟ  น่ารักจริง  ลูกใครเอย...  อ่ะลูกเก๊าเอง  คิกคิก...  อ่ะน่ารักเนอะ  กิ้วๆ”ผมหยอกกับลูกเล่นไปเรื่อยๆ  อยากมีลูกสักคน  ถ้าผมมีมดลูกนะ...  แต่ก็ดีแล้วที่ไม่มีเพราะถ้ามี...  ลูกผมคงตั้งทีมฟุตบอลมาเจอกันเองได้  ก็นะ...  พ่อมันขยันทำประตูเกิ๊นนนนน....  อุ๊ย  เขิลลลล  เค้าพูดอะไรไปก็ไม่ยู้...  เก๊าบ้านะตะเอง  บ้ารักเด็กอ่า...
   “อิม...  เป็นบ้าไรวะ  นั่งทำหน้าเพ้อฝันอยู่ได้  ลูกมึงจะมุดเข้ากางเกงอยู่แล้ว  อยากกินไอติมเหรอลูก  หืม...  แท่งนั้นไม่อร่อยหรอก”มันอุ้มลูกขึ้นไปไว้เองก่อนจะฟัดแก้มนั้นจนผมกลัวมันช้ำ  ว่าแต่... ผมลืมว่ะ
   โป๊ก!!
   “ว่าไอติมกูไม่อร่อย  คืนนี้ถ้าแดกมีเตะแน่ไอ้สันขวาน...”ผมมะเหงกหัวมันดังโป๊ะ  ก่อนจะกอดอกทำหน้าเชิดปากรั้น...  อ่านในนิยายแจ่มใสมา  เขาว่ามันน่ารัก...  ผมนี่ชัก ชักอยากจะเห็น อยากจะเห็นผมตัวเป็นๆ  อยากจะเห็นเห็นคนน่าร๊ากกก  เออ...  ผมก็กล้าแปลงเพลงเนอะ...  มันอมยิ้มก่อนจะเอานมในขวดหยดลงบนหัวผม...
   “หิวนมเหรอ...  ถ้าลูกหลับเดี๋ยวให้กินนมนะ...  ทั้ง ‘นม’ ทั้ง ‘ไอติม’ เลย”มันเน้นคำ...  แหม่... ว่าแล้วก็หิว เห้ย!
   “หิวพร่องส์สิ!! ไปให้นมลูกเลย  หัวกูเลอะหมด...”ผมบ่นก่อนจะเตรียมตัวลุกไปสระผมใหม่...
   “ให้ลูกกินนมแล้วรีบๆกล่อมให้หลับ  ไม่เกิน10นาที...  ไม่งั้นกูไม่แดกนะ”ผมหันไปพูดส่งท้าย  มันหัวเราะก่อนจะตะเบ๊ะมือทั้ง5นิ้ว  โคตรปัญญาอ่อนสิให้ตาย...
   
   ผมสระผมที่เริ่มยาวประบ่า...  เหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกวัน  พออาบเสร็จผมก็เดินมาที่เตียงหยิบหนังสือเล่มใหม่มาอ่าน...  นิสัยรักการอ่านนี้ผมติดมาจากไหนไม่รู้นะ...  สงสัยตอนว่างๆผมคงไม่มีอะไรทำล่ะมั้ง...
   “ชู่ว์...  ลูกหลับแล้ว”สักอุ้มลูกมานอนในเปลเด็กที่พ่อผมจัดไว้ให้ 
   “อิม...  พรุ่งนี้วันสิ้นปีแล้วนะ...  จะไปไหนกันดี...”ครับ  วันที่วันที่30ธันวาคม...  หรือก่อนวันสิ้นปีหนึ่งวันนั่นเอง... 
   “ไปขอทานที่สะพายลอย...”ผมบอก...
   “มะเหงกสิ...  ขอแบบธรรมดาๆ  ไม่ต้องพิเศษแบบที่รักก็ได้นะ...”มันบอกจะมะเหงก  แต่ไอ้ที่ลงมาบนหัวผมน่ะ  ปากมันชัดๆ  ไอ้ขี้จุ๊!
   “ก็มันได้ตังค์เยอะดีอ่ะ...  ก่อนหน้านั้นก็ทำอยู่ประจำด้วย  มองพลุบนสะพานลอยสวยนะเว้ย!”ผมเถียง...  ยิ่งตอนมันสะท้อนบนถ้วยสแตนเลนนะ  สวยจริงจังอ่ะ  ใครไม่เคยไปลองซะ  ฟินมั่กๆ
   “ตังค์กูก็มี  จะไปขอคนอื่นทำไม  ให้เขาอยากทำบุญเขาทำกับคนที่ไม่มีจริงๆเถอะ”
   “ก็... ก็ทีไอ้ต๊อกยังทำได้เลย  เค้าขอมาได้เค้าก็เอาไปทำบุญต่อเหมือนกันแหละหน่า...  เค้า... เค้าเป็นพ่อค้าคนกลางไง”ผมยิ้มกับคำแก้ตัวของตัวเอง...  เทพจริง  ผมนี้ฉลาดมากๆ  เมียใครก็ไม่รู้...
   “ทำบุญกับหนังสือน่ะเหรอ...  แล้วตอนนี้ต๊อกกับพรตก็ไม่ได้มาขอทานแล้ว  เขาก็ไปทำงานทำการของเขานะ”แต่ผมลืมไป...  ผัวของไอ้อิมฉลาดกว่า...  ไอ้สักนั่นแหละไม่ต้องงง
   “จะว่าไปนะ...  ตอนนั้นมีอยู่ปีหนึ่ง...  จำได้แม่นเลย  กำลังขอทานอยู่นะ...  อยู่ดีๆก็มีคนมาขอเบอร์อ่ะ...  แลกกับตังค์20บาท...”ผมหัวเราะ  สักเริ่มทำหน้าบึ้งแล้วดึงผมเข้าไปกอด...
   “แล้วให้ไปรึเปล่า  หืม...”
   “ให้!”ผมพูดชัดถ้อยชัดคำ  สักทำหน้านิ่ง  ผมรู้...  มันกำลังจะกลายเป็นภูเขาไฟเตรียมประทุ  และผมควรรีบดับมันนะ  ถ้าไม่อยากเป็นแบบชาวปอมเปอีอ่ะ...
   “ให้เบอร์โรงบาลบ้าไปอ่ะ...  ก็บางทีเค้าก็ชอบไปอยู่ที่นั่นไง...”ซบๆอ้อนๆ ให้มันตบะแตก...  บางทีผมก็แทนตัวเองด้วยชื่อ  ด้วยกูมึงหรือแทนน่ารักๆแบบเค้ากับตะเอง...  อันหลังนี้ผมไปติดมาจากนิยายแจ่มใสเช่นเคย...  ก็เค้าบอกมันน่ารัก  ผมก็อยากน่ารักกุ๊กกิ๊ก ใสๆบ้างไรบ้าง...
   “ไอ้... ไอ้บ้าเอ๊ย!”มันรวบตัวผมไปกอดแน่นก่อนจะพลิกตัวผมลงด้านล่าง...
   “ก็บ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้วป่ะ...  มึงอ่ะบ้า ที่มาชอบคนบ้าอย่างกู”ผมเถียง...
   “ก็บ้าพอกันล่ะวะ...  ว่าแต่...  วันนี้อยากกินนมกับไอติมเท่าไรเอ่ย...”มันถามเสียงกระเส่า  ส่วนผมเหรอ...
   “อยากพ่องสิ...  จะเอาให้เด็กมันเห็นเหรอ...  รอไปวันนี้  กูอิ่ม  กูไม่หิว!!”มันหัวเราะแล้วเขี่ยแก้มผมเบาๆ  ก่อนจะหอมดังฟอดแล้วพลิกตัวลงไปนอนข้างๆ
   “ก็กะงั้นอยู่แล้ว  แต่ถามเฉยๆเผื่อฟลุ๊คไง”

     วันนี้วันสิ้นปี...  ผมกับไอ้สักวางแผนว่าจะไปเที่ยวใกล้ๆบ้าน...  ระหว่างรอดูพลุตอนเที่ยงคืน  ไม่อยากไปไกลครับ  กลับลำบาก...  ผมจัดของของไอ้ตัวเล็กไว้แบกเป้แล้วถือตะกร้าใส่ผ้าอ้อมกับขวดนมไปเก็บไว้ในรถ...  ส่วนสักก็กำลังทำตัวเป็นพ่อลูกอ่อน  หยอกเล่นกับเจ้าตัวเล็กไม่เลิก... 
   “สักๆ...  ไปได้แล้วไป...  เอาลูกมาเดี๋ยวกูอุ้มเอง...”ผมบอกแล้วย้ายตัวคนในอ้อมกอดของสักมาไว้ที่ตัวเอง...  ตาแป๋วจริงเว้ย! อยากขโมยมาเป็นลูกตัวเองจริงๆเลี้ยงก็ง๊ายง่าย... 
   “ไปได้แล้วอิม...  จ้องอย่างกับจะแดกหัวลูก...”สักว่า...  ผมเงยหน้าตวัดตาเขียวปั๊ดส่งให้หนึ่งที...  แม่ง!! เดี๋ยวกูหนีออกจากบ้านข้ามปีซะนี้!!
   “โอ๋ๆ...  ป่ะๆ  อย่าทำหน้างั้น  เดี๋ยวกูไม่พาออกจากบ้านซะนี่”มันหยิกแก้ม...  แก้มกูย้วยหมด! สู้แก้มลูกก็ไม่ได้ น่าร๊ากกกก (โหมดเพ้อลูก)
   “ตกลงไปถนนอักษะนะ...”มันทวน  ผมพยักหน้า...  จะว่าไกลก็ไกลแหละ  แต่มันก็อยู่โซนกรุงเทพฯ...  พวกผมวนรถเข้าไปในพุทธมณฑลมีสวดมนต์ข้ามปีด้วยนะ...  รถติดพอควร  วนไปดูแสงสีเสียงเสร็จพวกผมก็ขับรถหาที่สวยๆยืนชิวๆมองท้องฟ้า  แล้วก็จอดรถข้างทาง  ข้ามมาอยู่เกาะกลางถนน  ทายากันยุงให้ทั้งพ่อทั้งลูกรวมถึงตัวผมด้วย...  ตอนนี้อาจจำยังไม่รู้เวลา  บอกได้เลยว่า สี่ทุ่มแล้วครับ! ไฟสวยมากกกก....  คือใครไม่รู้ก็รู้ไว้ซะ  ถนนอักษะสวยที่สุดในกรุงเทพฯล่ะ...
   ผมเดินร่อนแบกตัวเล็กไปทั่ว  มีไอ้สักแบกกล้อง  ถ่ายบ้าบออะไรของมันไป  ผมก็ไม่รู้มัน...  มีแว้บๆไปถ่ายคู่ถ่ายคี่บ้าง...  ถ่ายคู่ก็ถ่ายผมกับลูก  หึหึ... ถ่ายขี้ เอ๊ย! คี่...  ก็ถ่ายสามคน พ่อพ่อลูก...  น่ารักซะไม่มี...
   “สัก...  เบื่อกูป่ะ”เรามานั่งพักครับ  สักปูเสื่อนั่งบนพื้นหญ้า  นอนมองดาวกอดเอวตัวเล็กไว้หลวมๆ...  ดาวเต็มท้องฟ้า... 
   “เบื่อ...”ผมหันไปมองมัน...  น้ำตาจะไหลว่ะครับ 
   “เบื่อที่รักมึงไม่เลิกสักที...”สาดดดด...  เตะผัวติดคุกป่ะครับ  เอาซะกูเฟลไปศูนย์จุดสองสามห้าเจ็ดเก้าวินาที... 
   “แล้วมึงยังไม่เบื่อกูใช่มั๊ย...”มันหันมาถามบ้าง...  พอผมทำท่าจะตอบแม่งก็เล่นชิงตอบขึ้นมาก่อน...
   “กูเป็นคนพามึงมา...  ต่อให้เบื่อมึงก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี  ถึงไปกูก็จะตามกลับมา โอเคตามนี้  งั้นมึงควรรักกูให้มากขึ้นกว่าเดิม...  ปีละ10เปอร์เซ็นต์ก็ยังดีนะ...”ผมหลุดหัวเราะ
   “ทำอย่างกับความรักเป็นเปอร์เซ็นต์หุ้นนะสัด!”ผมเริ่มลามไปกอดเอวก่ายขาไอ้คนที่นอนข้างๆ  ตัวเล็กยังคงคลานอยู่กับที่ เพราะผมจับเอวไว้มือหนึ่ง...  สงสารลูกนะ...  แต่งานนี้กูขอสวีทก่อน ฮาๆๆ
   “เปอร์เซ็นต์หุ้นกูยังกลัวแม่งตก...  แต่กูรู้ว่าถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์รักจากมึง...  กูมีแต่จะกำไร  เพราะแม่งจะเพิ่มขึ้นตลอดใช่มั๊ย...”อ้วกแปป...  เสี่ยวสลัด... แต่...
   “เออ!!!”หน้าร้อนครับ...  ไม่ชิน...  (จะเล่นมุกไม่เต๋อ ไม่เผือก ไม่เอ...  แต่สงสัยจะไม่ขำ)
   “หึหึ...  รักจริงคนนี้”มันยิ้มแล้วเอื้อมมือมาคว้า...  เอวตัวเล็กไปกอด...  สัด! ลูกกู...  อ้าว...  ตอนนี้มึงต้องกอดเมียมึงเซ่!!!
   “รักกูกอดลูก...  ไอ้ปลาแซลม่อนย่าง!”ผมด่า...  แล้วแม่งก็หัวเราะอีกอ่ะ  บ้านมึงชอบอ่านขายหัวเราะเหรอครับ...
   “ที่ด่านี่ให้กูเจ็บหรือมึงหิววะอิม...”
   “กูหิว!!”ยอมรับครับ  เย็นยังไม่ได้มีอะไรไปให้แบคทีเรียในท้องซัดเลย  ผมไม่ได้อยากกินนะ  แค่สงสารแบคทีเรียในท้อง  จริงจริ๊งงงงง!!!
   “หึหึหึ...  กูมีผลไม้กับแซนวิชใส่ไว้ในตะกร้าตัวเล็กอ่ะ...  หาเอาดิ...  ป้อนกูด้วยนะ...”สั่งครับ...  เดี๋ยวกูเอาส้อมจิ้มผลไม้จิ้มคอมึงซะนี่  อุ๊บส์...  คิดบาปตอนปีใหม่...  ผิดศีลข้อไหนไหมอ่ะ...
   “อิม...  อีกห้านาทีจะเที่ยงคืนแล้วนะเว้ย...”มันบอก  ผมเพิ่งจะดูนาฬิกา  เออว่ะ...  จริงด้วย  ทำไมตัวเล็กยังไม่ง่วงวะเนี่ย  ปกติสี่ทุ่มนี้สลบแล้วนะ...
   “มาๆมึง...  นอนดูพลุกันเร็ว...”มันตบที่ข้างๆตัว  ผมก็เอนตัวนอนพิงมัน  ตรงกลางมีตัวเล็กจ้องตาแป๋ว...  น่ารักชิหาย  อยากจับฟัดทั้งพ่อทั้งลูก...
   “ปีใหม่นี้...  กูจะรักมึงให้มากกว่าเดิม...  สัญญาว่าถ้ามึงหนีออกจากบ้านอีกกูจะตามหามึงให้เจอเร็วกว่าเดิมนะ...”เอาซะเสีย...  ผมหันไปมองมันตาเขียว...  อยากแปลงร่างเป็นฮัลค์ว่ะ...  ตอนนี้ตาเริ่มเขียวไปแล้วหนึ่ง...
   “งั้นกูสัญญา  กูจะหนีให้ไกลกว่าเดิม  มึงจะได้ฝึกฝีมือเยอะๆ”มันเบ้ปากแล้วตวัดเอวผมไปกอด...
   “จะให้ดีอย่าหนีออกไปเลยกูจะรักมึงกว่านี้อีกนิดเดียวเลย...”
   “ทำไมเพิ่มแค่นิดเดียววะ...?”ผมถาม  สงสัยครับ  เป็นคนช่างสงสัย  ใคร่รู้
   “เพราะต่อให้มึงจะหนีไม่หนี  กูก็รักมึงมากอยู่แล้วไง”เขิน! จบนะ... 
   “5...”ผมมองหน้ามัน...
   “4...”นับอะไร 
   “3...”มันค่อยๆดึงผมเข้าไปใกล้ๆ
   “2...”ผมหลับตา...  เสียงของมันชัดเจนอยู่ใกล้ตัว...
   “1...”ริมฝีปากมันแนบลงที่ปากของผม...  จูบบางๆที่ไม่มีการตอบโต้...  แต่แม่ง...  ทำไมกูเขินกว่าเวลามีอะไรกันอีกวะ...
   “สวัสดีปีใหม่ครับที่รัก...”แล้วปีนี้...  ก็จบด้วยการที่ผมกับมันจูบกันข้ามปี  มีแบ๊คกราวด์เป็นท้องฟ้ามีดำ  หลอดไฟสวยๆ  ดาวที่พอมองเห็นอยู่สิบกว่าดวง  และพลุสองสามลูก  หวีดโป้งอีกหลายๆนัด...
   “ถ้าดูแลไม่ดี...  ยิงตายห่านะปีนี้...”ผมตบแก้มมันเบาๆ  มันหัวเราะแล้วก้มมากัดจมูก...
   “ยิงให้ทะลุหัวใจเลยครับ  ยิงด้วยใจของมึงอ่ะ...”ผมเขิน...  เขินรับปีใหม่เลยครับ...  เขินอีกแล้ว...
   “แอ๊!!!”เหมือนตัวเล็กจะถูกละความสนใจนานไปถึงได้ร้องทะลุกลางปล้อง  ทำให้ผมกับสักเด้งตัวออกจากกัน  มองแล้วก็หัวเราะ...  ผมจับตัวเล็กมาอุ้มโยกๆไปมา  มีสักเก็บเสื่อเก็บกล้องแล้วก็ตะกร้าของของตัวเล็ก...  เราพากันเดินกลับไปที่รถ
   “อิม...  เรามีลูกกันสักคนดีมั๊ย...”สักถามระหว่างที่มันขับรถเตรียมกลับบ้าน...
   “อย่าเลยมึง...  สงสารลูก...  พ่อแม่งไม่มีใครดูแลได้ดีสักคน...  ทรมานเด็กว่ะ”ผมหัวเราะ...  คำตอบนี่จริงๆผมเคยคิดไว้ตอนอยากรับเด็กมาเลี้ยง  แต่ผมว่ามันคงไม่ดีเท่าไร  เพราะทั้งผมทั้งมันยังไม่มีใครพร้อมที่จะดูแลคนอื่น...
   “ดูแลกันเองให้ได้ก่อนเหอะวัน  ถ้าอยากเลี้ยงเด็กว่างๆเสาร์อาทิตย์ก็ไปเอามาจากพ่อกูก็ได้...”ผมบอก  ตัวเล็กหลับไปแล้ว...  พรุ่งนี้เช้าพ่อผมจะมาเอาคืน...  เลี้ยงมาสามวันแล้ว  แม่งเหมือนยังไม่พอเลยว่ะ  อยากเลี้ยงต่อ...
   “งั้นกูมีอีกวิธี...”สักเสนอ...  ผมหันไปมองหน้ามันด้วยหน้างงๆ 
   “มึงก็เอาลูกกูไปเลี้ยงในตัวมึงทุกคืนได้มั๊ยว่ะ  อย่างน้อยลูกเราก็ได้อยู่ด้วยกัน...”มันหัวเราะ  แต่ผมอยากถีบ!!
   “ทะลึ่งตั้งแต่ต้นปีเลยสัด!!”แต่ที่มันพูดก็น่าสนนะ... รึจะลองดีวะ...

-----------------------------------------------------------------------------------------------
+1ก่อนทอคล์นะ

สวัสดีปีใหม่ครับ  เกือบเข็นมาไม่ทันวันที่1

โชคดีวันปีใหม่และทั้งปีตลอดไปนะครับ^^

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
มาเม้นอันนี้อีก  สวัสดีปีใหม่คนแต่งคัฟ

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
หวานกันข้ามปีเลยคู่นี้

สวัสดีปีใหม่จ้าาาา :mew1:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
คนบ้านะคนบ้าทำไมน่ารักอย่างนี้

หวัดดีปีใหม่จ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
 :ling3: :katai4: :z10: ต่อไม่ได้ คิดไม่ออก ตัน //มาระบายแล้วคลานหายไป

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                             Line Play VS พรหมลิขิต ตกลงเราเจอกันเพราะ..?


   รู้จักLine Play มั๊ยครับ แอพเกมสกุลไลน์ที่ตัวละครโคตรน่ารักมุ้งมิ้งสุดๆบอกเลย...  ไอ้เจ้าเกมนี้แหละครับ  ผมเพิ่งติดมันเมื่อเดือนที่แล้ว ติดงอมแงมแบบไม่รู้ว่าผมจะหาตังไปแต่งห้องเพื่ออะไร  แพงแสนแพง จนบางทีผมก็รู้สึกว่าค่าเงินในเกมแม่งเฟ้อรึเปล่า ว่างๆผมก็อยากลองเอาเกมไปเข้าหลักเศรษฐศาสตร์ดูสักครั้ง...
   ผมลืมแนะนำตัวใช่มั๊ย  ผมอคิราห์ครับ ชื่อเล่นอคิน ชื่อเล่นกว่าคิน  และถ้าชื่อเล่นกว่านั้น... ไม่ต้องเรียกครับ  ผมไม่หันล่ะ! อายุอานามปีนี้ก็ปาไปสิบ... บวกสิบสาม  ยี่สิบสามเหนาะๆครับ  เพิ่งจะรู้สึกแก่ตอนแนะนำตัวนี่แหละ...  ผมสแคชเกมอย่างเมามันส์จิ้มใจจิ้มโน้นจิ้มนี่ไปเรื่อย  แม่งก็มีแต่ทำความสะอาดกับรดน้ำต้นไม้...  คือต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่าสเกลความสามารถทางเกมออนไลน์ผมเป็นศูนย์ ดอทองดอทเอ... อย่าถามครับ  เกมเกี่ยวกับอะไรผมยังไม่รู้เลย! เคยเล่นดราโก้นิอยู่สักหนึ่งครับ  แค่สองวัน... ผมก็บรรลุว่าความสามารถทางด้านนี้ผมควรจะปาแม่งทิ้งไปไกลๆก่อนจะอายคนอื่นเค้า... แล้วเกมLine Play มีดีอีกอย่าง... เวลาแรนด้อม มันจะไปโผล่ห้องคนต่างชาติได้ครับ  อันนี้ผมปลื้มสุด... เอาไว้ฝึกภาษาครับได้เพื่อนเกือบทั่วทุกทวีปล่ะ... อะไรนะครับ... ไม่เก่งภาษาอังกฤษ... ไม่ต้องเวรี่ครับ คนต่างชาติไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียว จริงๆคืออ่อนทั้งคู่แหละครับ คุยไปเถอะยังไงก็เข้าใจ หึหึ... ผมนี่พิมเละเทะครับ ก็เข้าใจโดยประมาณนะ คุยเรื่องเกมนานไปมั๊ย... ใครอยากเล่นไปโหลดเอาเองล่ะกันครับ

    Joker : Hello

   ผมมองคนที่เพิ่งตอบแชทกลับมา  คือผมชอบตัวอวตารกับห้องของเขาน่ะครับ  เลยแอดไป ไม่รู้หรอกว่าชาติอะไร  ส่วนใหญ่ก็ผู้หญิงเล่นกัน  ผู้ชายมีน้อยครับ  ผมมันส่วนน้อย...

    KinKinAkira : Hi! What u name?

    ย่อครับ... คือถ้ามันเป็นคำสากลก็ย่อเถอะครับ เสียเวลาพิมยาวๆ บางทีผมก็โคตรจะย่อ  ย่อจนอีกฝ่ายไม่รู้ว่าแม่งคืออะไรอ่ะ แล้วเป็นปัญหาต้องพิมอธิบายคำย่ออีก... 

    Joker : Im Joker , U?

    KinKinAkira :  Im Akin , Where r u live?

    Joker : Thailand , U?

     KinKinAkira :  U Thai? คนไทยเหรอครับ?

        Joker : ใช่ครับ  คุณเป็นคนไทยเหมือนกันเหรอ?

        KinKinAkira :  ครับ  ขอโทษที พอดีผมนึกว่าชาวต่างชาติน่ะ  อายุเท่าไรเหรอครับ?

      Joker : 25ครับ แล้วคุณล่ะ  ผมเรียกคุณว่าคินได้มั๊ย?

       KinKinAkira :  ผม23แล้วครับ  เรียกได้ครับ งั้นผมเรียกคุณว่าเกอร์นะครับ  ได้รึเปล่า?

      Joker : ตามสะดวกเลยครับ... ผมขอไลน์คินได้มั๊ย พอดีแชทในเกมไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ

      KinKinAkira :  ครับ... นี่ไอดีผมครับ

      ผมส่งคิวอาร์โค้ดไป... ข้อความขึ้นว่าถูกอ่านแล้ว สักพักก็มีไลน์ผมเด้งขึ้นมา

    Joker : หวัดดีครับ  ใช่คินรึเปล่าครับ

    KinKinAkira :  ใช่ครับ  เกอร์ใช่มั๊ย  เดี๋ยวผมแอดเป็นเพื่อนก่อนนะ...

   ผมเปิดดูรูปที่ตั้งเป็นหน้าโปรไฟล์  เกอร์ถือว่าหน้าตาโอเคเลยครับ... ไม่ได้หล่อแบบมากมาย  แต่ก็คติดว่ามีสาวๆหลายคนหมายปองนะ  ผมก็ใช่ย่อยนะครับ...  สาวตามจีบก็มีนะครับ  ไม่ค่อยหลงตัวเองครับ หลงแต่หน้าตา ฮาๆๆ

    Joker : คินเรียนที่ไหนเหรอ?

   KinKinAkira :  ที่ม. ‘…..’ น่ะ

     Joker : เฮ้ย! จริงดิ... ม.เดียวกันเลย  เราเพิ่งจบเมื่อสองปีที่แล้วเอง  เราอยู่คณะวิจิตรศิลป์  คินล่ะๆ

    KinKinAkira :  จริง!? คณะเดียวกันเลย  รหัสไรอ่ะ... เรา84

    Joker :  เฮ้ย! เรา 87 เสียดายว่ะ... อีกนิดเดียวเกือบได้เป็นปู่รหัสคินล่ะ....  เรียนเป็นไงมั่ง...  ใกล้จบแล้วนี่อย่างนี้  ปี4ใช่ป่ะ?

   คือเคยป่ะครับ...  พอแบบได้ไปเจอคนที่แม่งน่าจะเคยเจอกันเนี่ย มันจะคุบกันได้เป็นวรรคเป็นเวรทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้ากันอะไรงี้อ่ะ... ผมก็เป็นนะครับ  คุยกับเกอร์ไปเกือบๆสามชั่วโมงได้  ทั้งเรื่องเรียนเรื่องเพื่อนเรื่องอาจารย์... แล้วก็มีบ่นๆเรื่องงานไปเรื่อย  เกอร์ก็หัวเราะแล้วก็บอกแค่ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป... คือมันก็จริงครับ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่ตอนยังไม่ผ่านนี้ดิ  อยากจะทุบกะโหลกตัวเองมาป้ายงานซะให้รู้แล้วรู้รอด!  ห๊ะ! อะไรนะครับ ผมบ่นมากไป อยากรู้ว่าคุยอะไรกันงั้นเหรอ...  ขอโทษๆ  ก็ไม่มีอะไรครับ แค่เกอร์บอกว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปหาผมที่คณะตอนบ่าย  แลกเบอร์กันเรียบร้อย  เจ๋งปร้ะ!  กร๊ากๆๆ
   ว่าแล้วผมก็ไปสแคช เกมต่อ... เก็บตังเปลี่ยนชุดแต่งห้อง  ค่าเงินเฟ้ออีกแล้ววววว...  ของชิ้นล่ะเป็นหมื่น  ในเกมเหลือตังสามร้อย  น้ำตาจะไหล...

   เช้าวันรุ่งขึ้นกระผมนายอคิราห์ผู้ได้ชื่อว่ามาเช้าที่สุดในคลาสเรียนเวลาเก้าโมง...
   “เก้าโมงสี่สิบห้า...  มึงไม่มาตอนเลิกคลาสเลยล่ะครับไอ้เชี่ยคินเพื่อนรัก...”เสียงไอ้ฟรอยทำปากมุบมิบใส่ผม  ถามว่าแคร์...? ไม่ครับ  เรื่องปกติ คนหล่อทำอะไรไม่เคยจะผิด  ส่วนไอ้ฟรอย ผิดเต็มๆทุกประตูเพราะแม่งไม่หล่อ กร๊ากกกก...
   “เช็คชื่อยัง?”ผมกระซิบถามกลับ... มันส่ายหน้าก่อนจะรีบหันกลับไปเรียน อ.โหดครับ ไม่รู้ชีแกจะโหดไปไหน  กระซิบเบาๆยังโดนมองค้อนตาเขียวปั๊ด!
   พอตกบ่ายก็ถึงเวลา... ผมไปนั่งรอที่หน้าคณะ ไม่เกิน10นาทีครับ โทรศัพท์ผมก็สั่นครืดๆบนโต๊ะหินอ่อน...  พอเห็นสายคนโทรเข้า  ผมก็รีบกดรับทันที...
   “สวัสดีครับ”
   “ครับ  คินอยู่ตรงไหน  เรายืนอยู่หน้าคณะแล้วนะตรงหน้าต้นมะพร้าวน่ะ”ผมหันไปตามที่เสียงในโทรศัพท์บอก พอๆกับที่อีกคนหันมาสบตากับผมพอดี ปิ๊งๆๆ  ถรุ้ย! โมเม้นต์นี้เก็บไว้ใช้กับแฟนเถอะครับ ผมขอ...
   “เกอร์ๆ... ทางนี้ครับ”ผมโบกมือ  คนที่ยืนอยู่ใต้ต้นมะพร้าวยิ้มให้แล้วสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ข้างโต๊ะอีกด้านนะครับ...
   “รอนานรึเปล่าครับ...”เกอร์ยิ้ม... เอาจริงๆแบบไม่แถนะ  ผมว่าเกอร์เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเลยแหละ... ยืนอยู่ก็ดูมีประกายออร่าให้คนหันไปมองเหลียวหลังได้ไม่ยาก...  ผมยิ้มตอบแล้วส่ายหน้า
   “เลิกคลาสไม่ถึง10นาทีเลยครับ  แล้วเกอร์กินไรมายัง...  ไปกินโรงอาหารกันมั๊ย...”ผมชวน... คือเรื่องของเรื่อง ผมหิวครับ  ลืมกินข้าวเช้ามา...
   “เอาสิ...  เราคิดถึงอาหารคณะจะแย่ นำไปๆ”เกอร์ดันหลังผมปึกๆ...  ผมก็เดินนำไปครับ พอถึงโรงอาหารเราก็แยกกันไปสั่งไปซื้อ  ผมได้บะหมี่หมูต้มยำมะนาว ส่วนเกอร์เป็นข้าวผัดพะแนงครับ น่ากินโคตรๆ...
   “เกอร์ทำงานอะไรอยู่เหรอตอนนี้...”ผมเริ่มถาม  ใกล้จบแล้วผมยังหางานไม่ได้เลยครับ...
   “ก็เปิดบริษัทกับเพื่อนน่ะ...  ทำเกี่ยวกับพวกออกแบบอะไรพวกนี้แหละ...  แล้วคินคิดยังว่าจะทำอะไร”เกอร์ถามผมกลับ... 
   “ยังไม่รู้เลยอ่ะ...  ว่าจะดูไปก่อน”ผมตอบ...
   “อีก-เดือนก็จะจบแล้วนะ  รีบๆดูได้แล้ว  จะได้ไม่เสียเวลาไปหาที่สมัครงาน... เช็คข้อมูลไว้เนิ่นๆ  มีอะไรถามเราได้...  ถ้าช่วยได้ก็จะช่วยนะ”ผมยิ้มแทนคำขอบคุณ  เรากินข้าวกันเรื่อยๆและเกอร์ก็เสนอตัวขับรถไปส่งผมที่บ้าน...  ก็ดีเหมือนกัน...


---------------------------------------------------------------------------------------

จบตอน1 ไม่ใช่อะไร  แต่งยังไม่เสร็จ กร๊ากกกก....  เห็นเลขวันกับเดือนสวยเลยลงให้ก่อน... 

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
••••• ♥♥♥♥ ••••••

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
แล้วไงต่อจ๊ะ :z13:

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อนะคัฟ  พบรักกันในเกมนะคู่เนี๊ย 

ออฟไลน์ tonfair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โลกกลมหรือพรหมลิขิต อยากมีโมเม้นท์นี้บ้าง 555

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ต่อๆตอน2


        “เล่นเกมมานานแล้วเหรอ...”เกอร์ถามระหว่างขับรถ...
    “ก็ประมาณเดือนกว่าๆได้... แล้วเกอร์อ่ะ”
   “เกือบครึ่งปีแล้ว...  ก็ว่าไม่เคยเจอคินเลย”
    “คงเจอหรอก... แรนด้อมนะครับไม่ใช่เลือกตามที่อยู่น่ะ”ผมหัวเราะและเกอร์ก็หัวเราะตาม
   “กลับไปกดใจในเกมให้ด้วยนะ ตังเราจะหมดแล้ว”เกอร์บอกส่งท้ายระหว่างที่ผมกำลังจะลงจากรถ
   “เหมือนกัน  กดกลับให้ผมด้วยนะ ไปล่ะ ขับรถดีๆนะครับ”ผมปิดประตู๔ก่อนจะเดินขึ้นบันไดตึกไปที่ห้อง  พอถึงห้องก็นอนเกลือกกลิ้งตีพุงแปปๆก็หยิบโทรศัพท์มากดเข้าเกมline play มีแจ้งเตือนเกือบๆ30แจ้งเตือน  เป็นตอบกลับข้อความซะ15 อีกสิบห้าเป็นแจ้งเตือนคนกดใจให้ผม...  ผมกดเข้าไปที่อวตารของเกอร์แล้วกดใจกลับ... เงินเพิ่มขึ้นมาอีก10เหรียญ ซึ่งมันก็ยังไม่พอค่าอะไรอยู่ดี...  ผมทำเควสเกมไปเรื่อยๆ สักพักแชทไลน์ก็เด้งขึ้นมา

    Joker :  กลับถึงบ้านแล้ว ปลอยภัยสบายดีครับ! ^^

   KinKinAkira :  ดีมาก... กดใจให้แล้วนะ  อยากได้ของขวัญชิ้นใหม่อ่ะ ส่งให้หน่อยดิ...

    Joker :  แหม... ทำเหมือนตังเราเหลือเฟือ = = อยากได้อะไร?

   KinKinAkira :  ใจดีฝุดๆเลยยยยยยย  เอาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกที่เป็นเก้าอี้อ่ะ  ราคา 6000 มั้ง... *0*

    Joker :  ยังกล้าใช้คำว่ามั้งเหรอ...  แพงไปนะ... รอแปปล่ะกัน... -*-

   ผมส่งสติ๊กเกอร์หน้าดราม่าของเจมส์ไป  จากนั้นก็มีแจ้งเตือนเข้ามาในเกม  เช้ด! ส่งมาจริงๆด้วย... ฟินเฟ่อร์! อยากได้มาหลายวันล่ะ  แต่กิ๊ฟนี้ต้องให้คนอื่นส่งให้  มองชื่อคนส่ง  Joker(ตัวแสบขอมา)  เหย้ด! สร้างไอดีใหม่มาส่งให้เลยเรอะ... แต่ว่าตัวแสบนี้กล้าไปนะ...

   KinKinAkira :  ว่าผมตัวแสบเหรอ -*-

    Joker :  รึไม่จริง... ส่งของให้แล้วทำตัวงี้เหรอ เดี๋ยวปั๊ด!

    KinKinAkira :  โอ๋ๆสุดหล่อ... แล้วนี้วันๆไม่ทำงานทำการเหรอ  มีเวลานั่งเม้าท์เนี่ย

    Joker :  ถ้าทำคงไม่เห็นเราโผล่ไปที่คณะหรอกมั้ง? ไม่ทำสักวันงานไม่ละลายไปกับอากาศหรอกหน่า  มันก็ยังดองอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิมแหละ...

    KinKinAkira :  ชอบของดอง...?

    Joker :  ไม่ได้แพ้ท้องเฟ้ย! -*- ไอ้นี้ปีนเกลียว เตะแม่ม!

    KinKinAkira : 555555 โอ๋ๆ งอนๆ ง้อล่ะน้า...  งอนมากหน้าแก่เร็วนะ

   Joker :  ไม่เคยฟังเพลงนี้เหรอ.... ‘รักนะคะคนหน้าแก่ รักใช่ไหมคนหน้าแก่ รักนะจ๊ะคนหน้าแก่
รู้สึกว่าพี่จะเหมือนแฟนของแม่นะ รักนะคะคนไม่หล่อ คบได้ไหมมีแฟนไม่หล่อ รักนะคะคนไม่หล่อ
แต่เขาจะมองว่าพี่เป็นแฟนหรือพ่อนะ’ = =

   KinKinAkira :  55555555  เมื่อมั๊ยนั่น พิมซะยาว...

    Joker :  ไม่อ่ะ... ก็อปวางเอา

    KinKinAkira :  อุ๊ปส์! XD

   ผมคุยต่ออีกนิดหน่อยก็ขอตัวออกไปหาอะไรยัดลงท้องยามดึก... สงสัยมั๊ญครับ ผมคุยกับเกอร์ไปกี่นาที... เบ็ดเสร็จตั้งแต่เริ่มทักก็...  3 ชั่วโมง 54 นาทีครับ... นิดหน่อยไม่มาก... แต่ทำลายสถิติที่ผมคุยกับผู้หญิงไปหมดเลย  พยายามคิดว่าเพราะเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยแล้วกันนะ... แม้เรื่องที่คุยจะไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเลยก็เหอะ!
   “ป้า! คะน้าหมูกรอบจาน... พิเศษผัก พิเศษข้าว พิเศษหมู ราคาเท่าเดิมนะ!”เกือบได้ตะหลิวเป็นของแถม.... ผมหัวเราะก่อนจะไปนั่งรอที่โต๊ะ... ร้านนี้อยู่ใต้หอพักครับ ผมก็มากินบ่อยๆ คือร้านถัดไปมันห่างพอสมควร และผมก็หิวพอสมควร  ดังนั้นร้านใกล้ๆก็กินได้พอสมควร... ทำไมผมรู้สึกเหมือนผมกวนตีนผู้อ่านเนอะ... พลาดล่ะ...
   “เอ้า! คะน้าหมูกรอบ พิเศษข้าว พิเศษผัก พิเศษหมู แล้วก็พิเศษอากาศ!”ป้าแกวางจานดังเคร้ง... ผมสะดุ้งโหย่งเลยครับ  หันไปมองป้าแกแล้วยิ้มๆ
   “โธ่ป้า... คนมันจนจนที่ใจใช่ใบหน้า  คนมันไม่มีตังไม่มีในกระเป๋านะป้า... แฟ่บเลย...”ผมตบปุๆลงที่กระเป๋ากางเกง... ป้าแกยีหัวผมทีหนึ่งแล้วเดินไปทำอาหารอย่างอื่นต่อ... ฝากท้องตั้งแต่ปี1ยันใกล้จบ  ไม่สนิทก็ไปดาวอังคารเถอะครับ
   ผมตักผักเข้าปากคำใหญ่... ผู้ชายนะครับ จะกระมิดกระเมี้ยนแบบผู้หญิงก็ใช่ที่...  มีเวลาก็ซัดๆมันเข้าไปครับ  จัดพอประมาณหมดจานต่อน้ำเปล่าอีกสองแก้ว  แน่นเอี๊ยดถึงพรุ่งนี้เช้าเลย... พออิ่มแล้วหนังตาก็หย่อนจ่ายตังเดินตาปรือไปที่ห้อง  พอหัวผมถึงหมอนปั๊บ ผมก็ได้รับเทียบเชิญจากพระอินทร์ให้ไปเข้าเฝ้าทันที... คร่อก!

   ผมเดินอยู่ในเกมครับ... นี้ผมติดเกมจนฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนี้เลยเหรอ... แต่ห้องผมในฝันนี้สุดยอมอ่ะ... หรูสัด! ไม่เสียแรงที่เปลืองตังไปเยอะ  ผมวิ่งกระโดดจริงๆคือวิ่งแหละไปนอนบนเตียง ไปนั่งเก้าอี้ อาบน้ำ  ทำทุกอย่างที่ทำในห้องได้  และผมค้นพบว่าแม่ง... สนุกมาก! แต่พอเล่นสักพักผมก็อยากไปห้องคนอื่นไม่ใช่ใครครับ... ห้องเกอร์อ่ะแหละ  ห้องมันแนวและสวยมาก... มีสเก็ตบอร์ดด้วย เครื่องดนตรีครบชุด  แล้วพอผมคิดเท่านั้นแหละครับ...  ในเกมวาร์ปยังไงผมก็วาร์ปแบบนั้นเลย  หลับตาที ลืมตามาก็อยู่ในห้องที่ใฝ่ฝัน  มีเกอร์ยืนหน้านิ่งทักทายสามที่ภาษาตามที่เขาพิมไว้...  ผมวิ่งไปเล่นโน่นนี้ในห้อง  แต่มันไม่สนุกอ่ะครับเลยตะโกนให้เกอร์มาเล่นด้วย
   “สนุกมั๊ยนั่น”เป็นครั้งแรกที่เราคุยในเกม... เข้าใจครับว่าฝัน แต่แบบ... แปลกใจนิดๆนะ  นี่ผมอยากคุยกับเกอร์ขนาดนั้นเชียว
   “ก็สนุกดี  เกอร์แต่งห้องโคตรเจ๋ง ผมชอบนะ”ผมยิ้มแล้ววิ่งไปที่เตียงนอน... ชอบเตียงนี้อ่ะครับ แต่มันต้องหยอดตู้เสี่ยงดวงเอา  และดวงผมก็ยังไม่สามารถครอบครองมันได้...
   “เราก็ชอบเหมือนกัน”เกอร์บอก  ผมหันไปทำหน้างง
   “เกอร์แต่งเองแล้วเกอร์จะไม่ชอบได้ไง... พูดตลก...”ผมทำหน้าเบ้...  เกอร์ส่ายหน้า
   “เราไม่ได้หมายถึงห้องซะหน่อย”ผมมอง... ทำหน้าหมางงเป็นมั๊ยครับ ไม่เป็นก็ดูผมซะ กำลังทำเลย
   “เราอยากแต่งห้องใหม่...  มาช่วยหน่อยดิ... ดูในสต๊อกเฟอร์นิเจอร์เราก่อนก็ได้”ผมลองชะโงกดู... ให้สองคำ เยอะ-โคตร!! ไปหาตังมาจากไหน... แทบอยากจะไปกระโจนถาม
   “เกอร์จะเอาสไตล์ไหนอ่ะ”ผมหันไปถามเจ้าของห้องที่ยืนกอดอกมองผมอยู่
   “เอาสไตล์ที่คินชอบ... ถ้าคินชอบเราก็ชอบ”หมดคำพูดครับ... ผมเลือกของเลือกอะไรต่อมิอะไรมามิกซ์ให้ลงตัว เกิดเป็นห้องๆใหม่ที่ดูดีมีสไตล์และหรูหราพอสมควร... ผิดกับอวตารหน้านิ่งๆของเกอร์จริงๆให้ตาย...
   “ชอบมั๊ย...”เกอร์ถาม ผมหันไปมอง
   “ผมจัดผมก็ต้องชอบดิ”
   “งั้นก็ดีแล้ว  เพราะเราก็ชอบ... เหมือนกัน”เว้นเพื่อ...  มึงท่านเป็นคนในความฝันนะครับ  เว้นซะใจหายใจคว่ำหมด!
   “งั้นถ้าชอบก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ”
   “เฮ้ย!”ถอยห่างเกือบสามหลาเท่าที่ระยะในบ้านจะเอื้ออำนวย... ฝันนะครับ ท่องไว้ๆ แค่ฝันๆ... คิดอะไรอยู่เนี่ยผม
   “ก็ชอบเหมือนกันไง... ให้ใจไปแล้วไม่รู้เหรอ?”ถามแบบเศร้าๆทำเอาผมงง  คือถ้าให้ใจแปลว่าชอบแสดงว่าวันๆหนึ่งผมชอบแม่ง20คนเลยสินะ... ให้ทุกวัน  วันละ20คนไม่ซ้ำหน้า  จะซ้ำก็มีแต่เกอร์นี้แหละ
   “โอ๊ย! คุณคนในความฝันครับ...  จะเยอะไปมั๊ย....  ให้ใจแปลว่าชอบ  นี่มีคนมาชอบผมวันละสิบห้าสิบหกคนต่อวันเลยนะครับ  คิดเยอะไปป่ะ”ผมบ่น... ฝันผมนิ... ใครจะห้ามได้...
   
        “คิน...”
    “คิน!!”
    “อคินเว้ย!”
   “นายอคิราห์เว้ยยยยยย!!”
    “เชี่ย! เหี้ยตัวไหนตาย”ผมสะดุ้งแล้วมองไปรอบๆอย่างหวาดๆ
   “คำอุทานมึงนี่... น่าโดนตีนสัดๆ... เห็นหลับไม่ตื่นเลยถือโอกาสเข้ามาปลุก”เสียงที่ทำเอาผมหลอนไปเป็นระยะ...
    “เกอร์... ไม่ทำงานเหรอ”คือช็อคจนคิดคำถามไม่ออกอ่ะครับ  บอกเลยจากใจ
   “เออเนอะ... ยังอุส่าห์ห่วง  เดี๋ยวไป... ไปอาบน้ำได้แล้ว  ชุดนี้ตั้งแต่เมื่อวานจำได้... ซกมกจริง...”บ่นครับ... ได้ข่าวว่าปกติผมนี้อาบน้ำ3วันครั้ง... วันเดียวนี้ชิวๆ...
    “เมื่อกี้ฝันอะไรน่ะ... ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”ผมมองหน้าเจ้าของคำถามและเป็นเจ้าของต้นเหตุ...
   “ม่ายบอก...  แบร่!”ผมหยิบมือถือวิ่งเข้าห้องน้ำ กดเข้าเกมทันที...  ติดพันจากในฝันให้ตายดิ...
   “เชี่ย!!”ไม่ทันถึงห้านาทีผมก็วิ่งแจ้นออกมาหาเกอร์ที่นั่งรออยู่
    “อะไรเหรอ”ผมชี้ให้ดูที่จอเกม...
   “ใคร... ใครเปลี่ยนห้องเกอร์อ่ะ...”ผมละลักละล่ำถาม... คือจะไม่มายด์เลยครับ ถ้าห้องแบบนี้ไม่ใช่ห้องที่ผมฝันไว้เป๊ะๆอ่ะ...
    “อ้าว... จำไม่ได้เหรอ...”เกอร์เงยหน้ามองผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าว...
   “ไม่มีผู้ชายคนไหนคุยกันได้ทั้งวันหรอกนะ... หืม...”
   “ก็...  ก็... แม่ง! เกอร์ทำอะไรกับผมวะครับ!”ผมส่ายหน้า... ยังยอมรับความจริงไม่ได้
   “ไม่เอาหน่า...  แลกใจกันแล้วนะ  ดูแลใจกันหน่อยดิ”ผมหยุด...แล้วมองหน้าคนพูด...  ช่างกล๊าาาาา...
    “เจอกัน... สองวัน?”ผมถาม...
   “แค่สองวันก็รักได้... บ้านเราเรียกพรหมลิขิตนะ...”เกอร์บอก... ทำไมรู้สึกเลี่ยนๆ...
   “บ้านผมเรียกเกมline playเว้ย  ที่แรนด้อมไปเจออ่ะ!”ผมเถียง...  ก่อนที่เกอร์จะฉุดผมไปนั่งข้างๆ...
   “เอาหน่า... จะพรหมลิขิตหรือline play สุดท้ายปลายทางก็คือเรารักกันอยู่ดี...”ผมหันไปมองคนหน้ามึน...
    “นี้ข้ามขั้นไรป่ะ...  จีบก็ไม่มี  อยู่ดีๆก็พูดเองเออเอง... ผมไม่ใช่เกย์”
   “เราก็ไม่ใช่... แต่เดี๋ยวจะเป็นพร้อมคินเนี่ยล่ะ... ส่วนเรื่องจีบ... พรหมลิขิตแล้วช่างมันเหอะ  ข้ามขั้นแหละเร็วดี...  งั้นคบกันนะ ดีใจจัง หอมแก้มที...”แค่นั้นแหละครับ เสียงหอมดังฟอดสองฟอดติดกันจนผมสะดุ้ง
   “ถามความสมัครใจผมบ้างยังครับ คิดเองเออเองตลอด!”ผมเถียง  เกอร์ยิ้มนิดๆก่อนจะเขยิบมานั่งใกล้ผมอีกนิด  ซ้อนตักเลยมั๊ยครับ อยากจะร้องไห้...
   “ก็บอกแล้วว่าไม่ถาม...  รู้อยู่แล้วว่าต้องคบ...  งั้นเดียววันนี้ไปเดทกัน”ผมรีรอจับผมแบกไปโยนไว้ในห้องน้ำ แล้วผมทำไงเหรอครับ... อาบน้ำแต่งตัวสิถามได้...
   ระหว่างอาบน้ำไปผมก็คิดไป... ตกลงนี้ผมมีแฟนแล้ว แฟนผมชื่อโจ๊กเกอร์ ทำตัวมึนๆหน้าอึนๆอยู่หน้าห้อง  ใช้เวลาจีบผมทั้งสิ้นหนึ่งวันหนึ่งคืน แล้วก็โมเมว่าเป็นแฟน  แล้วที่ผมฝันคืออะไร... เอาสิ ชักงง... อยากไปถามคนด้านนอกนัก แต่ทำไม่ได้...  เพราะตัวเต็มไปด้วยฟองสบู่...
   “คิน...  ให้ไว... หิวข้าวแล้ว...”อ่อ... ผมลืมบอกอีกเรื่อง  แฟนผมเอาแต่ใจตัวเองที่สุดด้วย!


(จบเถอะ...)
--------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้ออกมาแบบมึนๆ  คือเข้าใจคินมันหน่อย  มันเจอบอกรักแบบมึนๆจะให้หวานหรือแกล้งบ้าใส่แบบนัทก็ใช่เรื่อง...  ดังนั้นจบแบบนี้ไปต่อในมโนเองแล้วกันเนอะ...

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
คนอ่านก็มึนๆจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 o13 รอเรื่อง/ตอนต่อไป

อยากเห็นเกอร์มึนก็นี้อ่ะ  :hao6:

กลับมาย้อนอ่านเรื่องเก่าๆกี่ทีก็มีความสุข ยิ่งเรื่องของนัทกับสักนี่โคตรชอบเลยอ่ะ
แต่ต๊อกพรตเรางงหน่อยๆ อยากอ่านย้อนอดีตต๊อกพรตว่ามันรักกันยังไง  :mew3:

เรื่องของภาวนากับที่หนึ่งนี่ทำเราเศร้าเลยนะ สงสารมาก
แต่เรื่องที่ทำให้เราร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยก็คือเรื่อง รักสุดท้าย... คือนิรันดร์
มาแนวเศร้าแต่พอเจอประโยค "รักกู ให้มากกว่าที่กูรักมึง" นี่น้ำตาไหลเลยอ่ะ  :hao5: :hao5:
แต่สุดท้ายก็จบแบบได้อยู่ด้วยกันถึงจะเป็นวิญญาณก็เถอะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ
ปั่นเรื่องต่อไปมาให้อ่านเร็วๆ :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2014 21:47:54 โดย IsDeer »

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                     囚牛 ใช่'รัก'รึเปล่า... ผมว่า'ใช่'นะ


   เคยมีตำนานกล่าวไว้ว่ามังกรคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินจีน ทุกคนต่างเคารพบูชา โดยจำแนกมังกรได้เป็น 9 จำพวก... อันประกอบไปด้วย  ปี้ซี่ ชือเหวิ่น ผูเหลา ปี้อั้น เทาเทีย หยาจื่อ  ซวนหนี เจียวถู และฉิวหนิว โดยมังกรแต่ละตัวจะมีความชอบที่แตกต่างกัน... จึงทำให้สถานที่ที่จะพบเจอมังกรแต่ละตัวนั้นมักจะไม่เหมือนกัน หากแต่แท้จริงแล้ว... มังกรทั้งเก้านั้นต่างก็คือพี่น้องที่กระจัดกระจายกันออกไป มังกรทั้งเก้านี้ต่างออกไปส่งต่อสายเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ยังดินแดนต่างๆทั่วชมพูทวีป... จนเวลาล่วงเลยผ่านมาหลายพันปี...

                           --------------------------------------------------------------------------------------
 
                                        ‘เรื่องราวของลูกหลานฉิวหนิว มังกรที่ชอบเสียงดนตรี...’

   เสียงดนตรีกระหึ่มดัง ร่างทั้งร่างโยกไหวไปต่างแรงอารมณ์มือข้างซ้ายจับคอร์ดกีต้าร์ไฟฟ้าก่อนจะใช้มืออีกข้างตวัดนิ้วขึ้นลงเพื่อทำให้เครื่องดนตรีในมือเกิดเสียง  เมื่อท่าทางที่แสนเท่ห์บวกกับรอยยิ้มที่กระชากใจสาวๆเบื้องล่าง ไม่น่าแปลกเลยสักนิดกับเสียงกรี๊ดและเสียงเรียกชื่อของเขาจะดังจนเกือบกลบเสียงดนตรีในผับใหญ่
   “มิวสิก!!!! อ๊ายยยยยย!!!!”เจ้าของชื่อโยกหัวตามจังหวะเพลงที่เริ่มเบาลง  หยดเหงื่อเกาะพราวตามท่อนแขนล่ำและเสื้อกล้ามแขนกุดสีดำ ที่โผล่รอยสักออกมาจากด้านหลังแขนเสื้อทั้งสองข้าง...
   “สวัสดีครับทุกคน... เจอกันอีกแล้วนะครับ ผมโอ้ครับ มือเบสพานครับ มือกลองซีเนียร์และคนสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย กีต้าร์ มิวสิกครับผม!!”สิ้นเสียงแนะนำตัวจากนักร้องนำเสียงกรี๊ดยิ่งกระหึ่มดังหลายเท่าจนคนที่ถือครองไมค์ต้องบอกให้ช่วยลดเสียงลง...
   “ครับผม... ขอบคุณทุกคนนะครับ ที่ผมบอกให้หยุดกรี๊ดเมื่อครู่ไม่ใช่อะไรนะครับ  แต่ผมจะบอกให้ทุกคนเก็บเสียงไว้กรี๊ดในค่ำคืนนี้กับเซอร์ไพรส์ของพวกเรา ผมขอมอบเวทีนี้ให้มิวสิกครับ!”จบคำเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นมาอีกระลอกจนเจ้าของเสียงกรี๊ดต้องปั้นหน้ายิ้มแล้วส่งเสียงทักทายแฟนๆในขณะที่เพื่อนๆในวงค่อยๆทยอยกันลงไปพักในห้องรับรอง
   “สวัสดีครับทุกคน... วันนี้ผมขอเล่นเพลงช้าๆสักเพลงนะครับ...”มิวสิกเปลี่ยนกีต้าร์ในมือเป็นกีต้าร์โปร่งก่อนจะเริ่มดีดมันไปช้าๆ...
   “ขอบคุณที่เธอให้ฉันเข้าไป เรียนรู้ในรักครั้งใหม่ อย่างน้อยก็ทำให้ฉันรู้ใจตัวเองว่าฉันรักเธอ...”มิวสิกปราดสายตากวาดมองไปรอบๆทุกคนกำลังสนใจเขา... สนใจในดนตรีที่เขาเล่นและเคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่เขาตั้งใจทำมัน... นั่นคือความสุขของเขา...
   “แม้ฉันไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ทุกอย่าง ก็รักนั้นไม่มีสมการเป็นสูตรสำเร็จให้ใครอยู่แล้ว
แต่ฉันเองก็ยังตั้งใจอยากลองให้รู้ไป...”เขาร้องมันไปเรื่อยๆ และส่งยิ้มไปให้แก่ทุกคน  ตั้งแต่เด็กเขาชอบที่จะเล่นดนตรี ชอบเสียงดนตรี ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์หรือเปล่า เพราะทั้งปู่และพ่อของเขาต่างก็ชอบเล่นดนตรีด้วยกันทั้งสิ้น มิวสิกเล่นดนตรีเป็นเกือบทุกชนิดทั้งไทยและเทศ แต่เครื่องดนตรีที่เขาเล่นหลักๆจะเป็นกีต้าร์ซะส่วนใหญ่  เพราะเขาสามารถพกพามันไปได้สะดวกและใช้ทำมาหากินได้บ่อยครั้ง... มิวสิกเล่นเพลงสมการไปเรื่อยๆจนจบเพลง เสียงตบมือและเสียงกรี๊ดกร๊าดตามมาเป็นระยะ  เขาขอตัวลงจากเวทีก่อนจะตามไปสมทบกับเพื่อนๆที่ห้องรับรอง ปล่อยให้ดีเจมาทำหน้าที่ของตนเองต่อไป...
   “ไงพวก... เอาซะสาวเสียงแหบเลยนะมึง...”โอ้ส่งเสียงหยอก  เขาได้แต่ยิ้มรับเพราะกำลังกระหายน้ำอย่างหนัก  หลังจากได้น้ำดื่มมาบรรเทาอาการแล้ว มิวสิกก็เดินมารวมกับเพื่อนๆที่
กำลังหารค่าตัวคืนนี้...
   “อ่ะนี่ของมึง”ซีเนียร์ดันกองเงินที่วางกองๆกันไว้ให้เขา  ซึ่งหลังจากคาดคะเนจำนวนของมันด้วยสายตาแล้ว เขาก็มองทุกคนที่เหลือ
   “กูได้มากกว่าคนอื่นอีกแล้วใช่มั๊ยวะ?  บอกให้หารเท่ากันไงมึง... ไอ้ซีเนียร์”เขาผลักหัวเพื่อนตัวเองที่คุมตำแหน่งหัวหน้าวงไว้อีกที  ซีเนียร์จิ๊ปากอย่างหงุดหงิด
   “ค่าเสียงกรี๊ดไงมึง  เอาๆไปเหอะ มึงอยากได้เปียโนหลังใหม่อยู่ไม่ใช่รึไง  และที่กูให้มากกว่า นี่ก็ไม่ได้มากกว่าพวกกูเท่าไรหรอก  อย่ามาทำตัวเป็นคนดี ไอ้สัด!”ซีเนียร์บ่นกลายๆ เขาเบ้ปากแต่ก็ยอมเก็บเงินเข้ากระเป๋าแต่โดยดี
   “เอาล่ะเสี่ยมิวสิก... พาพวกกระผมไปเลี้ยงข้าวเลยครับ! อย่าช้า!”เสียงพาน มือเบสประจำวงที่รอโอกาสอยู่นานพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบในห้วงจังหวะนึงที่ทุกคนต่างสนใจเงินในมือตนเอง  และนั่นทำให้อีกสามคนที่เหลือพร้อมใจกันส่งเสียงประสาน
   “ถุ้ย!!!”

   และมื้ออาหารยามดึกก่อนเข้าบ้านของทั้งสี่ก็คือก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยผับที่เปิดตั้งแต่ 1 ทุ่มยันถึงตี 2 เวลาผับปิด
   “เอ้า! บะหมี่ต้มยำสี่ชาม”เสียงเคร้งติดๆกันพร้อมกับกลิ่นน้ำซุปหอมฉุยจนทำเอาพวกเขาน้ำลายสอ ไม่ทันไรตะเกียบที่ถืออยู่ก็พุ่งลงไปจัดการเป้าหมายตรงหน้า  ไปถึงสิบหน้าทีเสียงของพานก็ดังขึ้น
   “ลุง บะหมี่ต้มยำอีกชามครับ”แล้วเจ้าของเสียงก็ลงไปโซ้ยบะหมี่ในชามต่อโดยไม่สนใจคนรอบข้างเช่นเคย...
   ปึก!
   แรงกระแทกจากด้านหลังที่ไม่เบานักทำให้มิวสิกยอมผละหน้าขึ้นจากชามก๋วยเตี๋ยวเพื่อฟังคำของโทษจากอีกฝ่าย
   “หึ! พวกนักดนตรีเฮงซวย...”แต่สิ่งที่ได้กลับทำให้เพื่อนของเขาอีกสามคนยืนขึ้นพร้อมกับโอ้ที่นั่งข้างๆเขากระชากคอเสื้อเชิ้ตที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่
   “มึงพูดอะไรวะไอ้หน้าอ่อน...”เสียงที่พยายามกดลงต่ำ โอ้เป็นคนที่นับถือในดนตรีมากและเขาไม่ชอบได้ยินใครมาว่าดนตรีที่เขารัก
   “ไอ้พวกดีแต่หน้าตา ใช้เป็นแต่กำลังไม่ใช้สมอง”เสียงนั้นยังดังไม่หยุดจนมิวสิกกลัวว่าโอ้จะทนไม่ไหวและซัดกับคนตรงหน้า... ใจเขาไม่ได้ห่วงโอ้เท่าไรหรอกเพราะตัวของมันบึกบึนพอกับเขาอยู่แล้ว  แต่คู่กรณีนี่สิ  ตัวเล็กกว่าโอ้เกือบครึ่ง  ไม่รู้ว่าเคยออกกำลังกายรึเปล่า  แถมแค่ถูกโอ้กระชากคอเสื้อก็ต้องยืนเขย่งเท้าเสียแล้ว  ถ้าเกิดโอ้ผลักมันขึ้นมาสักที  เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้ามันจะกระเด็นไปไกลถึงอีกฝั่งของถนน เขาก็ภาวนาให้โอ้ไม่ทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่าแล้วกัน...
   “มึง!!!”หมัดที่เงื้อค้างถูกหยุดด้วยเสียงๆหนึ่ง...
   “บะหมี่ต้มยำได้แล้ว... ถ้าจะชกไปโน่น... สถานีตำรวจ  ไปชกให้ตำรวจดูเลย  จะได้ไม่ต้องพังของร้านคนอื่น”ลุงเจ้าของร้านพูดเรียบๆดูท่าจะชินกับพวกนังเลงหรือวัยรุ่นขี้เมาที่ชอบมาต่อยตีกันบ่อยๆ  โอ้สะบัดข้อมือทิ้งร่างของคนตรงหน้าลงก่อนจะนั่งลงแล้วกินบะหมี่ของชามตนเองต่อ...
   “มีน้ำใจเหมือนกันนี่หว่า...”พูดเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง แต่มิวสิกที่อยู่ใกล้ดันได้ยิน เขาก็ไม่ได้ทำอะไรหันกลับไปสนใจบะหมี่ของตัวเองต่อ... เสียงลากเก้าอี้ครืดคราดก่อนที่เมนูในร้านจะถูกตะโกนสั่งออกไปจากคนด้านหลัง
   “เส้นเล็กเย็นตาโฟ ไม่เอาลูกชิ้นครับ”เขาหันไปมอง คนเมื่อกี้ยังไม่ยอมไปไหนอีก... กะจะอยู่รอให้ไอ้โอ้มันโมโหหันไปเอาก๋วยเตี๋ยวราดหรือไงนะ...  เขากับเพื่อนๆพยายามกินให้เสร็จเร็วๆ  อารมณ์ที่ดีดีถูกกลบมิดด้วยความอารมณ์เสียจากนักร้องนำในวง  ไม่นานค่าอาหารก็ถูกเคลียร์วางไว้บนโต๊ะแล้วทั้งสี่ก็เดินออกมา โอ้บ่นพึมพำไปตลอดทางจนซีเนียร์ต้องเตือนสติเพื่อนก่อนจะคลั่งตายขึ้นมาจริงๆ เมื่อถึงป้ายรถเมล์มิวสิกถึงรู้ตัวว่าทำโทรศัพท์มือถือตัวเองหายไป...
   “ให้กูโทรเข้าเครื่องมึงให้มั๊ย...?”พานยกมือถือตัวเองขึ้นถาม มิวสิกหยักหน้า พยายามตบกระเป๋ากางเกงและค้นกระเป๋าเป้ตัวเองจนทั่ว...
   “ไม่ต้องหาแล้วมึง คนเก็บได้เขารออยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวรีบกลับไปเอาไป...”เสียงพานบอกหลังจากคุยกับคนที่เก็บมือถือเขาได้สองสามคำ  มิวสิกเลือกที่จะร่ำลาเพื่อนๆที่ตรงนั้น เพราะเขาไม่อยากให้ใครมาเสียเวลาเดินไปเดินมาเพราะเขาเป็นต้นเหตุ
   “นายๆ”เสียงเรียกทันทีที่มิวสิกเดินไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิม  พร้อมๆกับแรงสะกิดที่ไม่หนักไม่เบา เขาหันไปตามแรงก่อนจะพบกับคนตัวเล็กที่หาเรื่องเขากับเพื่อนเมื่อครู่...
   “ของนายใช่มั๊ย... โทษนะที่เปิดดูโดยพลการ พอดีเห็นมันตกอยู่เลยจะหาเจ้าของ...”เสียงทุ้มต่ำพูดรัวๆก่อนจะยัดมือถือใส่มือของเขา
   “ไม่เป็นไร  ขอบคุณนะครับที่เก็บไว้ให้”มิวสิกก้มหัวนิดๆแทนคำขอบคุณก่อนจะหันหลังเดินกลับไปทางเดิม
   “เดี๋ยว!”มิวสิกเอี้ยวตัวกลับไปทางเดิมก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าเลิกลั่ก...
   “เอ่อ... ไม่มีอะไรหรอก  ขอโทษที่เรียกนะ”
   “ไปเดินเล่นกันหน่อยมั๊ย...”เป็นเขาเสียเองที่เรียกอีกฝ่ายให้ไปด้วยกัน  อาจเพราะหน้าตาที่ดูเหงาๆ หรือตัวเล็กๆที่กำลังสั่นน้อยๆ หรือเพราะเขาคือมิวสิก ผู้ที่ไม่ชอบเห็นคนดูถูกดนตรี  ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไรแต่เขาไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ มือแกร่งจับหมับเข้าที่ข้อมือแล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยลากอีกฝ่ายให้ปลิวตามมาอย่างไม่ยากเย็น
   “เฮ้ย! จะพาผมไปไหน ปล่อยเว้ย!”เสียงทุ้มที่ร้องตะแหง่วๆเหมือนแมวตัวน้อยทำเอาเขาหลุดขำมาไม่ได้...  มิวสิกอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ที่เขาเห็นผู้ชายที่เขากำลังลากอยู่เหมือนแมว  ทั้งๆที่คำๆนี้ควรใช้กับผู้หญิงด้วยซ้ำไป
   “นายชื่ออะไร”มิวสิกเริ่มเปิดประเด็นถาม
   “ซอง...”เสียงตอบกลับมาแผ่วเบา  เจ้าของชื่ออ้าปากแต่ตากลับจ้องไปที่ข้อมือของตัวเองที่ขึ้นรอยช้ำ ทั้งๆที่มิวสิกมั่นใจว่าเขาแทบไม่ได้ออกแรงบีบเลยด้วยซ้ำ 
   “ซอง... ซองจดหมาย ซองผ้าป่า หรือซองขาว”มิวสิกถามก่อนจะได้สายตาเขียวปั๊ดที่ตวัดส่งมาอย่างรุนแรง จนเขาอดหัวเราะไม่ได้
   “ซอง... Song ที่แปลว่าเพลงน่ะ”คำอธิบายที่ยาวขึ้นทำให้มิวสิกเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้น...
   “เอ๋... แปลกดีจังนะ  ชื่อคุณกับผมมีความหมายแปลว่าเพลงเหมือนกันเลย...”
   จบคำสนทนาเพียงแค่นั้นเมื่อไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นอีก  ระหว่างเขาทั้งคู่มีเพียงความเงียบ จนกระทั่งท้ายที่สุดแล้วคนที่อดรนทนไม่ไหวจึงหันมาตะโกนถาม...
   “คุณพาผมมาทำไม?  พามาแล้วก็เงียบ  ผมจะกลับแล้ว...”หลังพูดจบ ซองก็ตั้งท่าจะเดินออกไปแต่เสียงเพลงที่ดังจากปากทุ้มก็ทำให้เขาต้องชะงักค้างและหยุดฟัง...
   “เธอเป็นยังไงฉันอยากรู้... เพราะฉันดูเธอไม่ออก บางทีเธอเป็นเช่นหมอกขาว และบางคราวเธอเป็นเหมือนควัน ฉันนั้นชักไม่มั่นใจ...”มิวสิกหันมาจ้องหน้าซองและซองก็จ้องหน้าเขากลับ... ชั่วครู่หนึ่ง ดูเหมือนซองจะเป็นคนที่มีความอดทนได้ไม่นานนัก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปนั่งกับพื้นหญ้า โชคดีที่แถวนี้เป็นสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ทำให้น้ำค้างไม่แรงเท่าที่ควร...  มิวสิกนั่งลงข้างกันก่อนจะเริ่มเอ่ยปาก
   “เรามาเล่น 10 คำถามกัน... ผมเริ่มก่อนนะ คุณอายุเท่าไร”เหมือนอีกฝ่ายจะพอเข้าใจ เมื่อมิวสิกถามคำถามแรกไป อีกฝ่ายที่พร้อมก็ตอบแล้วสวนคำถามกลับมาทันที
   “28 คุณมายุ่งกับผมทำไม”
   “ผมสงสัยคุณ  คุณทำไมถึงไม่ชอบนักดนตรี”
   “ผมมีปมเกี่ยวกับดนตรี ทำไมคุณถึงเป็นนักดนตรี”
   “ผมชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก  ปมคุณใหญ่ถึงขนาดเกลียดนักดนตรีทุกคนเลยเหรอ”
   “ใช่  คุณต้องการอะไรจากผม”
   “ผมอยากให้คุณชอบดนตรี  คุณเล่าเรื่องปมให้ผมฟังได้มั๊ย”
   “ครอบครัวผมถูกพวกรถนักดนตรีที่เมาปาดหน้าจนรถคว่ำตายทั้งหมด  คุณพอใจหรือยัง”
   “ยัง... ตอนนี้คุณอยู่ตัวคนเดียวสินะ”
   “ใช่  ผมเกลียดคุณ”
   “ยินดีครับ ครบสิบคำถามพอดี  ขอบคุณนะครับที่ยอมเล่นกับผม”มิวสิกดึงหน้าเช็ดหน้าแล้วส่งให้อีกฝ่าย
   “เช็ดน้ำตาหน่อยครับ  ขอโทษทีที่ผมไปถามคำถามแทงใจดำคุณอย่างนั้น... แต่นักดนตรีไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นทั้งหมดหรอกนะ  คุณไม่น่าเหมารวมพวกเราทั้งหมด...”มิวสิกอธิบาย  ซองเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนจะพยักหน้ารับ
   “ผมรู้... แต่ผมทำใจไม่ได้  ผมไม่ได้อยากเกลียดพวกคุณ  แต่ผมอยากหาใครมารับผิดชอบในเรื่องนี้บ้างก็เท่านั้น...”ซองว่า  ที่จริงชื่อซองของเขา มันก็มาเพราะว่าแม่กับพ่อของเขาชอบฟังเพลงมาก  และตัวเขาเองก็ชอบฟังเพลงมากเช่นกัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทำให้เขาเลิกฟังเพลงเลิกไปที่ไหนที่มีดนตรี เพราะมันเหมือนกับการไปกระตุ้นความทรงจำแย่ๆขึ้นมาอีกครั้ง
   “ผมรับผิดชอบให้  ผมจะทำให้คุณเลิกเกลียดดนตรีแล้วกลับมาชอบดนตรีอีกครั้ง... คุณน่าจะรู้นะ ดนตรีช่วยเยียวยาจิตใจของเราให้ดีขึ้นไวกว่าอะไรทั้งนั้น...”ซองมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา... ก่อนจะหัวเราะเบาๆ...
   “ช่างผมเถอะ  เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ...  คุณไม่ต้องมารับผิดชอบหรอก  ผมอยู่ของผมแบบนี้แหละ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก...”
   “หลับตาลงนะ... นะคนดี  ขอให้เวลานี้เธอหลับและพักผ่อน กล่อมด้วยเพลงแห่งรัก... ให้เธอนอน แค่เพียงก่อน ที่ฟ้าจะสาง”มิวสิกดึงมีอีกคนไว้เบาๆก่อนจะร้องเพลงออกมาอีกครั้ง  อีกมือล้วงกระเป๋าเป้ข้างกายหยิบเม้าส์ออแกน มันเป็นเครื่องดนตรีชนิดเป่าเครื่องเล็กๆเขาชอบพกมันไปไหนมาไหนด้วยเสมอๆ เพลงๆเดิมถูกเปลี่ยนจากการขับร้องเป็นการบรรเลง... น้ำตาของซองไหลมากกว่าเดิมแต่มิวสิกก็ยังไม่หยุดเป่า... ปล่อยน้ำตาให้ไหลอยู่อย่างนั้นในขณะที่มือที่จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้ก็บีบให้กำลังใจไม่ห่าง...
   “หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเธอนั้นสำคัญแค่ไหน  หากเพียงเธอได้รู้ ว่ามีคนรักเธอมากมาย
หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเขานั้นยอมทำสิ่งใด  เพื่อให้เธอ ได้พบกับความสุขใจ”มิวสิกเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่จู่ๆก็เปล่งเสียงร้องเพลงออกมาทั้งๆที่เสียงสั่นเครือ... เสียงทุ้มๆที่สั่นดูน่าสงสาร  แต่มิวสิกกลับรู้สึกว่าคนตรงหน้าดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด...
   และในค่ำคืนนั้นเองสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความรู้สึกดีๆก็เกิดขึ้นกับคนสองคนที่ร้องเพลงด้วยกันไม่ห่าง... มีเพียงรอยยิ้ม เสียงดนตรีและเสียงร้องเพลงที่ขับกล่อมบรรยากาศโดยรอบ แซมด้วยเสียงแมลงตัวเล็กตัวน้อยที่พากันร้องส่งเสียงเป็นระยะๆให้ทั้งสองหยุดฟังและหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข...
   
   “ฮัดเช่ย!!”
   “ฮะๆ สมควร...  ไปร้องเพลงตากน้ำค้างทั้งคืน... ตัวก็แค่นี้  สมควรเป็นหวัด รีบกลับไปนอนพักแล้วอย่าลืมกินยานะ...”มิวสิกสั่งหลังจากที่ทั้งคู่ลงจากรถเมล์ในช่วงเช้ามืดเพื่อกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน
   “บ้านพี่อยู่แถวไหนอ่ะ  นี้มันแถวบ้านผมเลย”หลังจากผ่านไปครึ่งค่อนคืน ซองก็ได้รู้ว่าไอ้ผู้ชายตรงหน้าร่างสูงใหญ่นี้อายุน้อยกว่าตัวเองเกือบสามปี  หลังจากนั้นเขาเลยบังคับให้อีกฝ่ายเรียกเขาว่าพี่ตลอด
   “หลังนั้นอ่ะ หลังคาสีส้ม...”มิวสิกมองตามนิ้วมือที่ชี้ไปก่อนเขาจะอมยิ้มน้อยๆ...  หลังจากที่ส่งอีกฝ่ายถึงบ้านแล้วเขาก็เดินไปบ้านหลังถัดไป...
   “แล้วบ้านนายอยู่ที่ไหน”เหมือนซองจะเพิ่งนึกได้  แต่มิวสิกยิ้มแล้วชี้ไปในบ้านตรงหน้าที่อยู่ถัดจากบ้านของซองไปหนึ่งหลัง...
   “หรือว่ามันคือพรหมลิขิต ที่ใครมาขีดไว้  แต่ก็ทำให้หัวใจ ได้ใช้รักใครสักคน...”มิวสิกหันมายิ้มแบบที่สาวๆเรียกได้ว่าโคตรน่าหลงใหลให้กันคนที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านอีกหลังแล้วผิวปากเดินเข้าบ้านไปแบบชิวๆ ปล่อยให้ใครอีกคนยืนหน้าแดงเมื่อนึกถึงประโยคสุดท้ายก่อนที่เขาทั้งคู่จะเดินออกจากสวนสาธารณะเพื่อมาขึ้นรถเมล์...

   ‘ผมคิดว่าผมต้องรับผิดชอบพี่อีกเรื่องหนึ่งล่ะ’
   ‘เรื่องอะไรเหรอ?’
   ‘ก็ตอนนี้พี่อยู่คนเดียวใช่มั๊ย... ผมจะจีบพี่แล้วก็จะเป็นแฟนกับพี่ให้ได้  พี่จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้อีกแล้ว  พี่ว่าดีป่ะ?’
   ‘บ้า...’

   “บ้าไปกันใหญ่แล้วซอง... นายอายุ 28 ปีแล้วนะ  อย่าทำตัวเป็นวัยรุ่นที่เพิ่งโดนจีบครั้งแรกสิ”ซองตบหน้าตัวเองเบาๆก่อนจะไขกุญแจแล้วเดินเข้าบ้าน...
   “พี่ซอง”เสียงตะโกนจากชั้นสองของบ้านหลังข้างๆทำให้เขาอดเงยหน้าขึ้นไปมองไม่ได้  มิวสิกชะโงกหน้าออกมาหลังจากถอดเสื้อกล้ามออกไปแล้วและพาดผ้าขนหนูไว้บนบ่า
   “ที่ผมบอกว่าผมจะจีบพี่อ่ะ...  ผมพูดจรองนะ...  เตรียมตัวรอตอบรับความรักผมไว้เลยนะพี่”ตะโกนบอกจบก็ผลุบหายเข้าไปในห้องทิ้งให้อีกฝ่ายยืนหน้าเหวอสลับกับหน้าแดงอยู่อย่างนั้นไปอีกพักใหญ่
   “จะบ้าเหรอไง...”พึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมา จนเขาต้องรีบหันควับกลับไปมองที่บ้านหลังข้างๆอีกครั้ง  ผู้ชายวัยกลางคนกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อครู่เขาไม่ทันสังเกต... เขาเตรียมยกมือไหว้
   “แย่หน่อยนะ เจ้ามิวสิกนี่มันตั้งใจจะทำอะไรมันจะทำจริงจังตลอด  โดยเฉพาะเรื่องความรัก ถ้ามันรักใครมันก็จะรักจริงตลอด  เชื้อพ่อมันแรงน่ะ ฮาๆๆ”ว่าจบก็เดินเข้าบ้านไปทิ้งให้คนที่กำลังจะยกมือไหว้ยกมือค้างกลางอากาศพอๆกับปากที่ยังคงหุบไม่ลง...
   ‘คนบ้านนี้ นี่มัน...’
   ดูท่าเขาจะแพ้ทางผู้ชายบ้านนี้ทุกคนเลยแฮะ  โดยเฉพาะคนลูก... แล้วแบบนี้เขาจะทนไหวมั๊ยเนี่ย... ทนไม่รับรักเจ้าหมอนั่นน่ะ โอ๊ย! เครียด!!!

 --------------------------------------------------------------------------

TALK : คิดว่าจบมั๊ย... จบแล้วครับผม!

ไม่ต้องเรียกร้องเพิ่มเติมเพราะมีลูกหลานมังกรอีกแปดตัวรอคนเขียนอยู่...

เรื่องนี้ดูเรียบๆเนอะ คือสารภาพว่าไม่มีพล็อตอ่ะ  แถๆให้จบ  :z6:

อยากแต่งเรื่อยเปื่อยบ้าง... แต่มันก็ซึ้งนะ คนเขียนแอบซี๊ดน้ำมูกไปหลายที  :mew5:

เรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันนะครับ แต่จะเป็นลูกหลานมังกรเหมือนกันทั้ง9คน

มีพล็อตอยู่บางตัว  บางตัวก็ยังไม่มีพล็อตเลย...

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :-[ น่ารักดีแฮะ

รอมังกรอีกแปดตัว
เป็นกำลังใจให้จ้า

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
ผมจะเอามังกรอ่ะ จาอาวมางกร จาเอามางกร ผมจารอมางกรอีกแปดตัวน้าฮ้า

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                              ผมเป็นคนบ้า... แต่ผมว่าเขาเป็นลูกมาเฟีย
                                                                     สเปเชียล... สงกรานต์ของคนบ้า


               มือบางค่อยสอดนิ้วเข้าไปในไกปืน ตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะยิงเมื่ออีกฝ่ายขยับกาย เสียงลมหายใจดังจนรู้สึกได้  ใจของทั้งสองคนเต้นระรัวในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้าย... ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะตัดสินใจจบเกม...!

   ปิ้วๆๆ...
   
   ปืนฉีดน้ำกระบอกใหญ่พ่นน้ำใส่หน้าของอีกคนที่ยืนตั้งท่าอยู่ก่อนจะมีเสียงหัวเราะลั่นตามมา...
   “ฮาๆๆ  มึงแพ้แล้วสัก... บอกแล้วว่าเด็กแพทย์อย่างมึงจะมาชนะแชมป์ยิงปืนได้ไง กร๊ากกกกก”หัวเราะดังลั่นจนคนที่โดนน้ำพ่นใส่แอบอมยิ้ม... เจ้าตัวจะรู้มั๊ยน้อ... ว่าเขาไม่ได้คิดจะยิงเลย ทั้งๆที่มีเวลาตั้งนาน เพราะถ้ายิงปืนฉีดน้ำไปโดนอีกคนก่อนน่ะเหรอ... รับรองวันนี้คนโดนฉีดน้ำใส่ต้องเล่นน้ำทั้งๆที่หน้าบูดอย่างนั้นทั้งวัน  อย่างนั้นเขายอมโดนฉีดเล่นก่อนดีกว่า ถึงจะรู้ว่าต้องไปนั่งรถตากแอร์ต่อ... แต่เอาเถอะ! เพื่อเมียรัก ไอ้สักทนได้!
   “ไอ้บ้า! พวกกูอยู่ทางนี้โว้ยยยย!”เสียงโหวกเหวกจากอีกฟากถนนทำให้เจ้าของชื่อต้องหันไปมอง ต๊อกกับพรตพร้อมด้วยชุดลายดอกสีสดใสและปืนฉีดน้ำกระบอกโตเปลี่ยนลุคเจ้าของบริษัทกับเมียเจ้าของบริษัทไปเป็นหนุ่มทะเล้นน่ารักน่าจีบทั้งคู่... ไอ้บ้าหรือนัทลากแขนคนรักแล้ววิ่งข้ามถนนแบบไม่กลัวรถชน
   ปรี๊นนนน!!
   “รีบหาแม่งเหรอ เดี๋ยวโดนชนตายเข้าสักวัน ไอ้สัด!”เจ้าของรถที่เหยียบเบรกตัวโก่งเปิดกระจกออกมาตะโกนด่า  ส่วนคนโดนหน้าก้มหน้าลงนิดนึงแล้วเงยหน้ามองไปที่เจ้าของรถน้ำตาคลอ...
   “ฮือ... อะไรอ่ะ... ผมแค่... แค่จะรีบมาเล่นน้ำ แง๊!!”คนที่โดนร้องไห้ใส่ชะงักแล้วสถบเสียงดังก่อนจะปิดกระจกแล้วออกรถไปอย่างเร็ว...
   “ปัญญาอ่อนเหรอวะเนี่ย... แม่ง!”
   เมื่อรถเจ้าปัญญาขับผ่านไป  น้ำตาที่คลอหน่วยเมื่อครู่ก็เหมือนจะจางหายไปในพริบตาก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปกระโดดกอดเพื่อนรักทั้งสอง
   “ต๊อกเพื่อนรัก! พรตเมียรัก! ม๊วฟ!”คนแรกหันไปกอด แพอมาคนที่สองหลังจากกอดยังมีหอมแก้ม บวกกับการเรียกชื่อที่เหมือนจะมีการผิดพลาดทางเทคนิคทำให้สามีที่รักของทั้งคู่ต้องรีบแยกตัวทั้งสองคนออกจากกัน
   “ผิดประเด็นล่ะไอ้บ้า  เดี๋ยวกูแจกตีนให้แดกเลยนิ!”ต๊อกโวยวายแล้วถูแก้มคนรักของตัวเองแรง เหมือนมีขี้ไปแปะแก้มอีกคนก็ไม่ปาน 
   “แจกมากูแจกกลับนะสัด! เมียกู กูหวง... เดี๋ยวกลับบ้านเอาแอลกอฮอลล์ล้างปากด้วยนะครับ หืม... ปากสกปรกแย่เลย”สักพูดทีเล่นทีจริง ส่วนคนที่โดนกอดทั้งคู่ต่างหัวเราะคิกคักแล้วทำในสิ่งที่คนกอดไม่ทันคิด
   จุ๊บ!
   ต่างคิดต่างยื่นหน้ามาจูบปากกันเบาๆ ถึงจะเป็นจูบแบบเอาปากแตะๆกัน แต่คนที่ทั้งรักทั้งหวงทั้งคู่ก็แหกปากร้องประหนึ่งแฟนตัวเองไปได้เสียกับอีกฝ่าย...
   “พรตตตตตตตตต!!!!/อิ๊มมมมมมมม!!!”

   กว่าจะเคลียร์คนรักของตัวเองให้หานนอยด์ได้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งสี่คนตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรกินรอให้คนมาเยอะกว่านี้แล้วค่อยออกไปตะลุยเล่นถนนนี้ให้ทั่วทั้งสาย หลังจากตัดสินใจได้แล้วทั้งสี่คนก็เริ่มเดินหาร้านอาหารทั้งพวกเขาพอจะสิงอยู่ได้และมองเห็นบรรยากาศด้านนอกร้าน สุดท้ายก็ได้ร้านอาหารตามสั่งติดแอร์เย็นเฉียบที่มีคนในร้านไม่มากนักพอมีที่ให้พวกเขานั่งได้ หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยนัทกับพรตก็เอาแต่นั่งจิ้มโทรศัพท์จนสุดที่รักทั้งคู่ต้องลอบมองตากันแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว  เรื่องของเคะ เมะยุ่งยากส์...
   พอกินเสร็จอะไรเสร็จและผู้คนเริ่มออกมาเล่นน้ำสงกรานต์เต็มที่แล้ว สักก็เริ่มเก็บเงินโดยมื้อนี้มีแค่สองคนที่ต้องจ่าย... ก็คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าใคร... พอเสร็จแล้วทั้งหมดก็เดินเกาะกลุ่มกับไปขอเติมน้ำใส่ปืนพร้อมกับโดนแปะแป้งเล็กๆน้อยๆพอเป็นพิธี
   “แหงะ... แป้งเข้าปากอ่ะ สักกกก.... แป้งเข้าปากอ่ะ”ทำหน้าเบ้แลบลิ้นให้เห็นแป้งสีขาวๆที่ติดอยู่บนเล่น สักหันไปขอน้ำจากคนที่ยืนอยู่ที่ถึงมาขันนึงค่อยๆวักขึ้นไปเช็ดให้อีกคนอย่างทนุถนอมจนแป้งหมดก็หันกลับไปคืนขันน้ำโดยไม่ทันหันไปมองว่าหลังจากที่ทั้งสี่คนเดินออกไปแล้วนั้น ผู้หญิงที่อยู่แถวนั้นกรี๊ดกร๊าดกันไปกี่คน!
   กิจกรรมจากซุ้มเกมต่างๆที่จัดขึ้นเนื่องในวันสงกรานต์มีเยอะจนลายตา ทั้งสี่คนเล่นน้ำบ้างเดินไปเล่นเกมบ้างจนได้รางวัลมาสองสามชิ้น ซึ่งแต่ละเกมก็เล่นแบบขำๆเรียกเสียงฮาเสียงกรี๊ดจากสาวๆพอประมาณ
   “เอาล่ะค่ะ... งั้นทีนี้ให้แฟนของคุณเขียนลงไวท์บอร์ดนะคะว่าเจอคุณที่ไหน เชิญค่ะ!”เสียงพิธีกรประกาศ เกมนี้เป็นเกมง่ายๆที่สักกับต๊อกต้องทายให้ถูกว่านัทกับพรตเขียนอะไรลงบนไวท์บอร์ด  สำหรับต๊อกนั้นคงง่ายเพราะทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วพูดคุยกันมาตลอด แต่กับสักที่ต้องทายใจอาร์ตตัวพ่ออย่างนัทแล้วถือว่าเป็นงานยากพอตัว... เกมนี้มีเล่นทั้งหมด6คู่ เป็นชายหญิงสัก4คู่ อีก2คู่ก็นั่นแหละ... ตามที่เข้าใจ
   “ค่ะ... เขียนครบแล้วนะคะ แหม... คำตอบแต่ละคนก็ดูน่ารักดีนะคะ  งั้นเรามาเริ่มถามจากคนแรกเลย คุณเจอกับแฟนครั้งแรกที่ไหนคะ?”
   “ที่สวนสาธารณะครับ ผมเห็นเธอวิ่งอยู่... แล้วผมก็ถูกใจแบบแรกเห็นเลยครับ”ผู้ชายคนแรกตอบ มีเสียงกรี๊ดดังจากข้างล่างให้พออมยิ้ม
   “ผมเจอที่โรงพยาบาลครับ ตอนพาคุณแม่ไปหาหมด ก็เจอพยาบาลยิ้มสวนคนหนึ่งกำลังจูงเด็กเดินผ่านหน้าครับ เลยเดินตามแบบเพ้อๆไปเลย...”
   “เจอในเน็ตครับ ถูกใจเลยตามจีบ กว่าจะยอมมาเจอกันก็นานครับ”
   “เจอที่บ้านเพื่อนครับ น้องเพื่อนผมเอง ตอนจีบกว่าจะได้คบกันโดนหมัดเพื่อนไปหลายทีเลยครับ”
   “ผมเจอเขาที่ใต้สะพานลอยครับ เขากับเด็กคนนึง... ที่ตอนนี้กลายเป็นลูกผมไปแล้วล่ะครับ”
   “อ่า... ผมเจอที่ซอยมืดๆอ่ะครับ แฟนผมเขานั่งอ่านหนังสืออยู่ ส่วนผมเพิ่งกลับจากงานแต่งเพื่อน... ตอนเห็นไม่ได้ชอบนะครับ แต่พามาอยู่บ้านด้วยกันเลย”เสียงโห่ฮาดังทั้งทีที่สักพูดจบ เขาหันไปยักคิ้วให้ต๊อกที่ยืนขำอยู่ข้างๆ เพราะนึกถึงเวลาตอนนั้นกับที่นั่งโปรดของเพื่อนสนิทแล้วก็พอรู้สภาพอยู่... ไปจีบคนบ้า... ไม่สมองผิดปกติก็เป็นคนที่แปลกมากพอตัว
   “ค่ะ... ทีนี้หันมาดูคำตอบได้เลยค่ะ”พิธีกรบอกแล้วเดินไล่คำตอบไป ใครถูกก็มีเสียงเป่าปากขำกันไป ต๊อกกับพรตตอบเหมือนกันว่าใต้สะพานลอยเลยได้รอเล่นคำถามถัดไป ส่วนนัท...
   “เจอในฝันนะคะ.... ยังไงคะ ไปเจอได้ไงเอ่ย?”ไมค์ถูกจ่อไปที่ปากของคนที่ยืนยิ้มเผล่ แล้วค่อยๆกรอกเสียงพูดลงไป
   “ก็เขาเป็นคนในฝันของผม... ไม่เจอในฝันจะให้ไปเจอที่ไหนอ่ะครับ...”เสียงกรี๊ดจากสาวๆดังขึ้นเป็นเท่าตัว แต่แน่นอนว่าสักตอบผิดก็ต้องลงจากเวทีไปตามระเบียบรอต๊อกกับพรตอยู่ข้างๆเวที ที่กำลังเล่นคำถามข้อถัดไป...
   “เห็นผมในฝันจริงๆเหรอครับ หืม...”ระหว่างรอก็หันไปหยอกคนรักในอ้อมแขน แต่อีกคนกลับหันมาขมวดคิ้วจับหน้าของคนที่สูงกว่าพลิกไปมาซ้ายขวา
   “เอ... เหมือนจะไม่ใช่แฮะ ที่เห็นในฝันหล่อกว่านี้อ่ะ... สงสัยจะเป็นแฟนในอนาคตมั้ง...”ตอบแบบไม่ใส่ใจก่อนจะโดนฟัดแก้มจนเกือบช้ำแทนการยั่วโมโหคนขี้หึง
   “กลับบ้านเจอแน่ๆเลยอิม.... จะเอาให้ลืมคนในฝันไปเลย จำแต่คนนี้ล่ะ สามีทั้งในอดีต ปัจจุบันและในอนาคต... ลืมคนอื่นไปได้เลย”
   “คร้าบๆ หึงไปดิ... ใครจะชอบคนบ้ากัน ถ้าคนๆนั้นปกติอ่ะ หือ...”เสียงตอบรับพร้อมกับแรงตีเบาๆที่จ้นแขน สักโน้มคอลงมาแล้วงับหูแดงๆของอีกคนเบาๆ
   “ก็หวงอ่ะ... ดีนะที่เป็นคนบ้า ถ้าไม่บ้าสงสัยแฟนคนนี้จะต้องทั้งหึงทั้งหวงมากกว่า100เท่าแน่นอนเลย”คำตอบที่ได้คือใบหูที่แดงกว่าเดิมแล้วก็คนในอ้อมแขนที่กุมหน้างุดพยายามจะเอาตัวเองออกจากแขนของอีกฝ่ายให้ได้  ไม่นานต๊อกกับพรตก็ลงจากเวทีมาเพราะตอบผิดในข้อที่3 หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็พากันเดินต่อมาพร้อมกับปืนฉีดน้ำที่ว่างเปล่า... เพราะน้ำ2ในสามหมดไปกับการล้างหน้าให้กันและกันด้วยเพราะตลอดทางทั้งชายแท้ชายเทียมและหญิงแท้หญิงเทียมต่างพากันมาขอแปะแป้งจนไม่เห็นใบหน้าหล่อๆ สุดท้ายก็ต้องสละน้ำในกระบอกปืนมาล้างหน้าล้างตาก่อนจะได้กินแป้งเข้าไปจริงๆ...
   “เฮ้ย! ตรงนั้นมีดนตรีด้วยอ่ะ...”เสียงนัทร้องก่อนจะออกแรงฉุดกระชากทั้งแฟนทั้งเพื่อนให้ฝ่าฝูงคนเข้าไปอยู่ด้านหน้าของวงดนตรีที่มาแสดงสดให้แฟนเพลงดู
   “First Time? วงใหม่เหรอมึง ทำไมกูไม่เคยได้ยินชื่อ?”หันไปถามคนรักหลังจากอ่านชื่อวงจากป้ายไวท์นิ่วขนาดใหญ่บนเวที
   “อืม... เพิ่งดังเมื่อสองเดือนที่แล้วเองมั้ง....  ก็เล่นไม่ยอมดูทีวีเลย จะไปรู้เรื่องรู้ราวกับเขาได้ไงกัน หือ...”ยีหัวคนรักก่อนจะโยกตัวไปตามจังหวะเพลง  อีกมือโอบเอวไว้กันแฟนหลุดไปเต้นกับคนอื่น ซึ่งสักคนไม่ปลื้มแน่นอน เดี๋ยวกรี๊ดดังกระหึ่มทันทีที่เสียงเพลงจบซึ่ง1ในเสียงกรี๊ดนั่นก็คือในคนอ้อมแขน  ก็เนียนไปกับเขาได้นะคนนี้....
   “วู้!! มันส์มาก!!! เอาอีกๆๆๆ”ส่งเสียงเร่งจนคนที่กอดไว้ต้องหันไปส่ายหน้าอย่างระอาแล้วก็พบกับอีกคู่ข้างๆที่คนในอ้อมแขนอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน  ส่วนคนที่โอบกอดคนรักอยู่ก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วปลงๆ... จะ อเลิร์ทไปถึงไหนนะพวกนี้...
   “คร้าบผม... พักก่อนนะครับ พวกผมเหนื่อยกันแล้ว... ผมเอกนะครับ เผื่อใครจำกันไม่ได้ ไหนใครจำผมได้ขอเสียงหน่อยเร้ววววว....”มือกีต้าร์ประจำวงทำหน้าที่เป็น MC ประจำเวที เพื่อเอนเตอร์เทนแฟนๆ ระหว่างรอวงใหม่ขึ้นมาเตรียมเครื่องดนตรี
   “ไหนใครโสดขอเสียงหน่อย!!”
   “อ๊ายยยยยย!!!”
   “ไหนใครไม่โสดบ้าง”
   “กรี๊ดดดด!!!”
   “ไหนใครมีแฟนเป็นผู้ชายยยยยย!!!”
   “อ๊ายยยยยย!!!/วู้!!!! ผมคร้าบบบบบบ”
   เสียงคนที่เมามันส์ในอารมณ์ตะโกนตามเสียงสาวๆคนอื่นๆทำเอาสักอมยิ้มแล้วฉวยโอกาสหอมแก้มอีกฝ่ายแบบเต็มแรง จนโดนค้อนตาเขียวปั๊ด
   “อ้าวๆ คู่หน้าเวทีอ่ะครับ  หอมแก้มกันแบบนี้ผมอิจฉานะครับ  ขึ้นมาหอมให้คนอื่นดูบนเวทีหน่อยเร็ววววว!!!”เสียงคนบนเวทีเรียกให้คนที่เพิ่งขโมยหอมแก้มแฟนกับคนที่เพิ่งโดนขโมยหอมแก้มหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มเขิน โดนมีคนรอบๆมองแล้วช่วยกันตบมือเรียก...
   “เฮ้ย!/เฮ้ย!”เสียงอุทานดังประสานกันระหว่างสองหนุ่มเมื่อแทนทีนัทจะจูงมือสักขึ้นเวทีกลับหันมาลากเพื่อนสนิทของตนเองขึ้นไปแทน พรตที่โดนลากหันมาขยิบตาให้ทั้งคู่แล้ววิ่งตามนัทขึ้นไปบนเวที
   “สวัสดีคร้าบบบบ!!! แหม... เห็นด้วยเหรอครับ อุส่าห์แอบหอมไม่ให้ใครเห็นแล้วนะเนี่ย”นัทเอื้อมมือไปคว้าไมค์มากรอกลงไปอย่างร่าเริง  มีพรตหัวเราะอยู่ข้างๆ ไม่ถึงสามวิก็มีหนุ่มๆอีกสองคนขึ้นไปประกบข้างทั้งสองคนอีกที
   “อะ...อ้าว... อะไรครับเนี่ย หนุ่มๆขึ้นมาแย่งซีนผมทำไมครับเนี่ย...”เสียงโวยแบบขำๆจากMCหนุ่ม สักดึงไมค์มาจากแฟนตัวเองก่อนจะกรอกเสียงลงไป...
   “ขอโทษครับ เหมือนเมื่อกี้แฟนผมจะดึงขึ้นมาผิดคน ผมเลย้องขึ้นมาตามเองน่ะครับ”เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มหนักกว่าเดิมมีสาวหลายคนควักมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของทั้งสี่คนเต็มไปหมด คนบ้าที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็ทั้งยิ้มทั้งโบกมือประหนึ่งตัวเองเป็นดาราดังก็ไม่ปาน
   “อ่อครับ อ้าวๆ แล้วทางนั้นล่ะครับ? ขึ้นมาทำไมเอ่ย?”
   “ผมขึ้นมาตามแฟนผมลงครับ เพื่อนผมลากขึ้นมาผิด”ต๊อกเป็นคนรับไมค์ต่อจากสักเพื่อแก้ข้อสงสัยของ MC พรตหันหลังหลบสายตาทุกคนแล้วทุบอกอีกฝ่ายแก้เขินเบาๆ
   “อ๋อครับ... แหม หวานกันจังนะครับทั้งสองคู่เลย  ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว สาวคนไหนอย่างเห็นสองคู่นี้หอมแก้มกันบ้างครับ!”
   “กรี๊ดดดดด!!!/อ๊ายยยยยยย!!!”ทั้งเสียงทั้งมือยกกับให้พรึบจนมือกีต้าร์วง First timeต้องขอความร่วมมือให้ลดเสียงลดเพราะเสียงกรี๊ดนั้นกลบเสียงไมค์จนหมด
   “แหม่... สาวๆร้องเรียกกันมาขนาดนี้แล้ว  จัดให้ทุกคนดูคนละฟอดจะได้มั๊ยครับเนี่ย”หันไปมองอย่างยิ้มๆ  สักกวาดสายตามองทั่วเวทีก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนด้านหน้าที่ยังยืนเก็กท่าให้สาวๆถ่ายรูปจนไม่ทันสนใจรอบข้าง
   “กรี๊ดดดดดด!!!! น่ารักม๊ากกกกกกก”เสียงกรี๊ดกร๊ากโห่ฮาดังสนั่น นัทหันไปมองสักตาเขียวปั๊ดก่อนจะถอยหลบฉากไปซ่อนอยู่หลังคนตัวใหญ่กว่าแล้วเกาะชายเสื้อแน่นหมดมาดหนุ่มขี้เล่นที่เก็กท่าให้สาวๆถ่ายรูปเมื่อครู่จนหมด
   “เอาล่ะครับ  ทีนี้ก็มาถึงอีกคู่... ใครจะหอมใครดีครับเนี่ย...?”
   ฟอด!!
   ไม่ต้องตอบต๊อกชะโงกตัวไปหอมแก้มพรตที่กำลังทำหน้าปะหลับปะเหลือกกับคำถาม แล้วก็ได้แรงทุบเบาๆจากคนที่ถูกขโมยหอมแก้มโดยมีผู้คนมากมายเป็นสักขีพยาน
   “โห... หวานกันมากๆเลยนะครับเนี่ย สาวๆหลายคนคงทั้งอิจฉาทั้งเสียใจเลยนะครับเนี่ย ที่เสียทรัพยากรผู้ชายหล่อๆไปถึง4คนพร้อมๆกัน แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะนายเอกสุดหล่อคนนี้จะยอมพลีกายพลีหัวใจให้สาวๆทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแน่นอนครับ”เสียงกรี๊ดตอบรับจากสาวๆดังอีกครั้ง เอกหันไปขอของรางวัลเล็กน้อยจากทางทีมงานก่อนจะมอบให้ทั้งสี่คนแล้วเชิญลงจากเวที ระหว่างรับรางวัลก็มีสองคนที่ต้องรับสองครั้งเพราะแฟนๆของพวกเขายังไม่ยอมหายเขินและรีบชิ้งลงจากเวทีไปตั้งแต่ก่อนหน้ารับรางวัลแล้ว
   พอทั้ง4คนเล่นน้ำจนพอใจก็พากันไปล้างหน้าล้างตาให้แป้งที่เลอะออกไปให้หมด  ของรางวัลถูกเอาไปเก็บไว้ในรถจนหมดแล้วทั้ง4ก็พากันไปหาของกินยามเย็น โดยพยายามหลบเลี่ยงบริเวณที่มีการเล่นน้ำเยอะๆแล้วก็เดินหาซื้อของกินไปนั่งกินเล่นที่สะพานข้ามแม่น้ำที่มีวิวสวยๆ ลมพัดแรงเมื่ออยู่บนสะพานจนเสื้อผ้าเริ่มจะแห้งสนิท ลูกชิ้นปิ้ง ไข่นกกระทา ข้าวไข่เจียว กระเพาะปลาและขนมอื่นๆอีกมากถูกวางลงที่ข้างกาย  นัทหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปก่อนจะอักโซเชียลของตัวเองไปงัยบๆ เสียงเครื่องดนตรีเสียงพิธีกรที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆในงานยังคงดังมาให้ได้ยิน ที่แห่งนี้เหมือยอยู่คนละซีกกับถนนที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นที่มาเล่นน้ำ พรตหันมามองนัทยิ้มๆก่อนจะ...
   ฟอด!/ฟอด!
   “เอาคืนที่หอมแก้มบนเวที”พูดจบก็ซุกหน้าลงกับอกของคนรักทั้งคู่... เหลือแค่ต๊อกกับสักที่เงยหน้ามองกันแล้วหัวเราะพร้อมกันเบาๆ ให้ตายสิ... นับวันยิ่งน่ารักขึ้นทุกทีแล้วนะเนี่ย... แบบนี้พวกเขาจะกล้าไปมองคนอื่นได้ยังไงเนี่ย...
   “งั้นเดี๋ยวผมไปเอาคืนที่บ้านนะครับ ทำทำให้มีความสุขทั้งคืนเลย...”สักก้มไปพูดเบาๆ
   “ทะลึ่ง!!!”

   “เดี๋ยวกลับบ้านให้ก้อยไปนอนกับลุงค่อมนะคืนนี้”ต๊อกก้มไปบอกบ้าง
   “ไอ้บ้ากาม!!”

   แต่เอาเถอะ... จะพูดอะไรก็พูดไป สุดท้ายคืนนั้นก็ไม่มีใครได้นอนอยู่ดีแหละนะ...

-----------------------------------------

ขอโทษที่ไม่ได้ต่อเรื่องหลัก  :m15: สารภาพผิดเลย แบบว่ายุ่งมากกกกกก นั่งสรุปภาษาญี่ปุ่น50บท ยังไม่เสร็จด้วย หนีมาปั่นตอนพิเศษให้ก่อน  แถมฝีมือห่วยลงด้วย รู้สึกได้... ไม่ได้เขียนนาน ไม่ชินมือหัวไม่ลื่นเลย จะพยายามมาต่อเรื่องหลักให้ครบ9คู่นะครับผม  :z13: :z13: :z10:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao7: กริ๊วกร๊าว น่ารักที่ซู๊ดดดดดดดดด

อิจฉาคนที่ไปดูคอนเสิร์ทจังเลยยยยยยยยยยยย
ฟินกระจาย

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด