ผมกับเบียร์มองหน้ากันด้วยสีหน้าว้าวุ่น
"เอาไงดีวะ"
มันส่ายหน้าจนปัญญา ทว่าขณะที่กำลังหันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตัวผมกลับถูกรวบกอดจากด้านหลังก่อนจะถูกยกขึ้นจนเท้าลอยเหนือพื้น!
"เฮ้ย!!!"
อารามตกใจทำให้รีบตะครุบจับมือคนแปลกหน้าที่อยู่บริเวณหน้าท้องของผมอย่างรวดเร็ว ทว่ายังไม่ทันได้ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากสภาพนี้ น้ำเสียงคุ้นหูกับสำเนียงแปร่งภาษาที่ดังอยู่ข้างหูก็ทำให้ชะงักกึก
“ขอบคุณที่มารับ”
และนั่น ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังฉวยโอกาส(?)กับผมตอนนี้อยู่เป็นใคร!
“ไอ้นิกซ์ มึงไปอุ้มมันไว้ทำไม ปล่อยมันลงเดี๋ยวนี้”
ไม่ทันได้เปิดปากด่า ไอ้เบียร์ก็พูดเสียงดังหน้ายุ่ง ครั้นจะเข้ามาช่วยผม ไอ้ฝรั่งตัวโตที่ดูเหมือนจะตัวโตกว่าเมื่อสามปีก่อนก็อุ้มผมขยับโยกหนีไอ้เบียร์อย่างสนุก
มันน่ะสนุก แต่ผมอะมึนหัว เดี๋ยวพ่ออ้วกใส่หน้าแม่งเลยนี่!
“I miss you”
เป็นอีกครั้งที่ผมนิ่งค้าง มือที่ซ้อนจับมือฝรั่งตัวโตเผลอบีบแน่น และยิ่งบีบแน่นเข้าไปอีกเมื่อสัมผัสแผ่วเบาประทับลงข้างแก้มด้านซ้าย!
ผมเบิกตาโพลง ขนแขนสมัครสมานพากันลุกพรึ่บ! โสตประสาททุกส่วนในร่างกายพากันหยุดทำงานเสียดื้อๆ....
“พอๆ มึงดูหน้าเพื่อนมึงดิ๊ ซีดยังกะไก่ต้มแล้วน่ะ”
เสียงไอ้เบียร์ลอยเข้าหูแล้วลอยผ่านไป ก่อนผมจะรู้สึกโคลงเคลง ภาพที่มองเห็นก็ไหวโยก หลังจากนั้นเท้าของผมก็สัมผัสกับพื้นมั่นคงไม่ลอยคว้างเหมือนเมื่อครู่
“อย่าซีเรียส มันแค่การทักทาย” เจ้าตัวว่างั้นก่อนใบหน้าโซนตะวันตกจะโฉบเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม ผมผงะถอยหลัง ..ยิ่งถอยคนตรงหน้าก็ยิ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนต้องใช้สองมือดันหน้ามันออกไปจนสุดแขนทว่าไอ้ฝรั่งถึกไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“คิด-ถึง-นะ-ครับ”
มันพูดช้าๆ ชัดๆทีละพยางค์ด้วยสำเนียงแปร่งหู ...ทำไมผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกม้อ!?
“ขอหอมอีกทีนะ”
เฮ้ย!!
คล้ายกับหาเส้นเสียงไม่เจอ คล้ายกับลืมวิธีเปล่งเสียง และเหมือนจะหลงลืมอาการห้ามปราม! ผมยืนนิ่งมองมันตาค้าง ทว่าก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะฝังลงแก้มผมในเสี้ยววินาที ร่างผมก็ถูกกระชากอย่างแรงพร้อมกับใบหน้าของมนุษย์ช่างม้อจะถูกยันออกไปไกลๆ
“ชักจะเยอะไปละ ไอ้ฝรั่งขี้นก”
ไอ้เบียร์ชี้หน้าคาดโทษไอ้ฝรั่งที่กำลังจึ๊ปากสบถหยาบด้วยภาษาบ้านเกิด ไอ้เบียร์ดึงผมเข้าไปใกล้ แขนหนักพาดมาที่ลำคอ ทิ้งน้ำหนักพิงตัวผมจนเกือบเซ
ไอ้ห่า สบายไปละ
“มึงก็อีกตัว ไปห่างๆกูเลย!”
ออกแรงยันไอ้มนุษย์รักสบายออกไปห่างๆ ก่อนจะยกมือลูบหน้าตัวเอง ตามด้วยการขยี้หัวแรงๆอย่างหงุดหงิดใจ ผมมองพวกมันสองคนสลับกันไปมาก่อนหยุดสายตาอยู่ที่เจ้าของเส้นผมสีอ่อน นี่แค่เจอหน้ามันไม่ถึงสิบนาทีผมยังเหนื่อยขนาดนี้ ทั้งเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ไม่รู้จะจัดการกับไอ้ฝรั่งตัวโตนี่ยังไง
ยิ่งเห็นริมฝีปากบางๆเผยยิ้มกว้างมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งหนักใจมากเท่านั้นจนต้องถอนหายใจออกมาดังๆ
เห็นผมนิ่งเข้าหน่อยคนที่สัญชาติแปลกแยกหนึ่งเดียวก็ตีเนียนสืบเท้าเข้ามาใกล้ก่อนเอนหัวลงมาหมายจะซบไหล่ ผมเหล่ตามองมันพลันขยับหนีในวินาทีที่มันเอนตัวลงมาสุดๆ ส่งผลให้ร่างใหญ่เกือบหน้าคะมำ
“ใจร้าย...”
เชี่ยเถอะ ใครไปสอนให้มันพูด ให้มันทำหน้าทำตาอย่างนี้ ไอ้เบะปากคว่ำท่าทางงอแงที่ขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกเนี่ย
“หยุด! ถ้ามึงโวยวายกูจะทิ้งมึงไว้ที่นี่” ผมชี้หน้ามันแล้วทำตาดุ!
“...”
ได้ผลชะงัดนักล่ะ เมื่อปากเบะๆที่กำลังจะงอแงปิดฉับทันควัน
ผมบอกไปหรือยัง ถึงแม้ไอ้นิกซ์มันจะพูดภาษาไทยไม่คล่องแต่ถ้าการฟังมันเข้าใจหมดนั่นล่ะ ใครนินทามัน นิกซ์รู้ นิกซ์เห็น นิกซ์เข้าใจ ดูอย่างตอนนี้ดิ ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมจนผมอยากจะหัวเราะออกมาดังๆกับสีหน้าของมัน
โคตรไม่เข้ากับหน้าตา ท่าทางเล้ย หึๆ
ผมรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น กลัวจะหลุดฟอร์มที่อุตส่าห์เก๊กไว้ ก่อนจะหลุบตามองบรรดาสัมภาระของมันก็ให้แปลกใจ ..มีเยอะกว่าที่คิด ทั้งกระเป๋าล้อลาก กระเป๋าถือใบโต ไหนจะเป้ที่มันสะพายหลังอีก ทำอย่างกับจะย้ายมาอยู่ถาวรอย่างนั้นล่ะ
“คราวนี้มึงจะอยู่ไทยกี่เดือนวะ” ไอ้เบียร์เป็นคนถามคำถามที่ผมเองก็นึกสงสัย
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าพอหันไปสบตากับมัน นัยน์ตาสีอ่อนคู่นั้นก็คล้ายกำลังสื่อความนัยอะไรบางอย่าง
มันไม่ตอบคำถามแต่กลับยักไหล่แล้วหยักยิ้มมุมปากอย่างที่คนมองมองแล้วรู้สึกว่าโคตรกวนตีน เห็นไอ้เบียร์เริ่มจะแง่งๆ ตั้งท่าจะกระโจนใส่ไอ้นิกซ์ ผมก็เลยรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม พูดแทรกทันที
“จะไปกันได้หรือยัง เดี๋ยวจะเย็นไปมากกว่านี้ ป่านนี้พ่อกับแม่มึงรอนานแล้ว”
เมื่อผมเปิดประเด็น ไอ้เบียร์ก็ชะงัก ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
“Let’s go!”
คนกระตือรือร้นสุดเห็นจะเป็นไอ้ฝรั่งตัวสูงที่ใส่เสื้ออวดเนื้อหนังมังสา เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงลายพรางระดับเข่า ผมสีอ่อนถูกเสยไปด้านหลังลวกๆ นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายสดใส รอยยิ้มกว้างๆนั่นก็ส่งมาได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“ไปก็ไปสิเว้ย มัวแต่ยิ้มให้กันแล้วมันจะถึงบ้านมั้ย”
ไอ้เบียร์แม่งโวยแล้วหันหลังเดินลิ่วๆไม่รอใคร ซึ่งผิดธรรมชาติของมันที่ค่อนข้างเป็นคนใจเย็น ผมก็ได้แต่ทอดถอนใจมองตามหลังเพื่อนหน่ายๆ สงสัยมันยังผูกใจเจ็บไม่หาย
เบียร์กับนิกซ์จะว่าไม่ถูกกันก็ไม่เชิง เบียร์เป็นโฮสฯนิกซ์ก็จริงอยู่ และด้วยนิสัยใจคอของพวกมันก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีหมดทุกเรื่อง แต่เพราะผู้หญิงเป็นเหตุแท้ๆเลยทำให้มันแง่งๆกันมาตั้งแต่ตอนนั้น สืบเนื่องมาจากแฟนสาวของไอ้เบียร์ที่อยู่ๆก็ดันไปหลงเสน่ห์ไอ้นิกซ์เข้า และไม่ใช่แค่เธอคนเดียว บรรดาผู้หญิงที่เข้ามาวอแวกับมัน ไม่ว่ามันจะเมินหรือไม่สนใจยังไงพวกเธอก็ไม่เคยย่อท้อ แต่พอไอ้นิกซ์ก้าวเข้ามาพวกเธอก็เบนเข็มไปหลงของนอกกันหมด คงเพราะเหตุนี้ล่ะมั้งที่ทำให้สองคนนี้กัดกันมาตั้งแต่ตอนนั้น โคตรไร้สาระอะ
หืม?
ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกร้อนๆที่มือ ..ก้มลงมองก็เห็นว่ามือของผมถูกไอ้คนข้างๆกำลังกุมอยู่
“จับทำไม”
ไม่คิดสะบัดออก เพราะแค่จับมือไม่ใช่เรื่องเสียหาย อีกอย่างผมก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดี แค่รู้สึกแปลกๆ และมีเสียงแย้งในหัวดังแว่วๆว่า ปล่อยให้มันจับมือต่อไปอย่างนี้ดีแล้วเหรอ?
“กลัวหลง”
เกือบจะพลั้งปากด่ากับข้ออ้างปัญญาอ่อน แต่ก็หุบปากฉับเมื่อเห็นแววตาอ้อนๆ(?)คู่นั้น ผมส่ายหัวเล็กน้อยอย่างเอือมระอา พลางก้าวขาตามแรงจับจูงของคนที่เดินล้ำหน้าหนึ่งก้าว ทว่ายิ่งสับฝีเท้าเดินจ้ำมากเท่าไหร่ผมก็เผลอบีบมืออีกคนแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
!!
..ผมนิ่วหน้า หยุดเดินกะทันหันเมื่ออยู่ๆก็รู้สึกเจ็บยอกบริเวณหน้าอกจนต้องยกมืออีกข้างขึ้นวางทาบแล้วกำเสื้อไว้ สายตากวาดมองซ้ายมองขวาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
อยู่ๆก็เจ็บ ..เจ็บจนขอบตาร้อนผ่าว
..อยู่ไหน
“Are you alright?”
ผมเงยหน้ามองเจ้าของประโยคคำถามนั้นท่าทีเลิ่กลั่ก เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงทอดมองมาจึงส่ายหน้าบอกมันว่าไม่ได้เป็นอะไร ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรงก่อนจะดันแผ่นหลังกว้างให้เดินนำต่อเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนคนข้างหน้าจะไม่ให้ความร่วมมือ มันหมุนกายหันมามองผมตรงๆ สีหน้าที่ส่อแววขี้เล่นแทบจะตลอดเวลา ตอนนี้กลับดูเคร่งเครียด
“อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้.. ได้ไหม”
“Okay”
คำตอบตกลงของมันทำให้ผมคลายใจ ผมละสายตาออกจากคนตรงหน้าแล้วมองรอบกายอย่างค้นหา
“Have you ever listened to this song?”
คำถามนั้นผ่านเข้ามาในหูและผ่านเลยไปโดยไม่สามารถดึงความสนใจจากผมได้ ทว่าไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นก็เป็นผมเองที่เบนสายตาหันมามองคนที่จับมือผมไม่ปล่อย มันกำลังยิ้มและเริ่มร้องเพลงออกมาโดยไม่อายสายตาคนรอบข้าง
“If you ever find yourself stuck in the middle of the sea
I'll sail the world to find you
If you ever find yourself lost in the dark and you can't see
I'll be the light to guide you
ถ้าเธอรู้สึกเหมือนติดอยู่กลางทะเล
ฉันจะข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อหาเธอ
ถ้าเธอหลงอยู่ในความมืด และมองหนทางไม่เห็น
ฉันจะเป็นแสงสว่างนำทางเธอเอง
Find out what we're made of
When we are called to help our friends in need
ลองค้นหาดูว่าเพราะอะไรพวกเราถึงมาอยู่ร่วมกันได้
ยามที่เพื่อนต้องการเราและเรียกให้เราไปช่วย
You can count on me like one, two, three
I'll be there and I know when I'm need
I can count on you like four, three, two
And you'll be there
'Cause that's what friends are supposed to do
, oh yeah, ooh, ooh”
เธอไว้ใจฉันได้เลย แค่นับ 1 2 3
ฉันก็จะไปอยู่ตรงนั้น เมื่อเธอต้องการ
และฉันก็ไว้ใจเธอได้ แค่นับ 4 3 2
เธอก็จะมาหาอยู่ตรงนี้ เพราะนั่นคือสิ่งที่เพื่อนควรจะทำ
“ร้องอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง”
ผมพูดทันทีที่เสียงทุ้มกังวานร้องจบท่อน นิกซ์มันทำหน้าเซ็งโลกก่อนจะถอนหายใจเฮือกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเฉย
ก็น่าแปลกดี หลังจากที่ฟังเพลงที่มันตั้งใจร้องให้ ใจของผมก็ค่อยๆสงบลง แม้จะไม่สามารถเรียกว่าปกติดีนัก แต่ก็ยังดีกว่าตอนแรกที่ร้อนรน ข้างในมันมีแต่คำว่าต้องหาเขาให้พบอัดแน่นเต็มไปหมด
ตอนนี้มันเบาบางลง ..จนผมสามารถบังคับสายตาตัวเองไม่ให้หันไปมองหาแผ่นหลังคุ้นตาได้
_______________________________________
TALK :: ตัดจบตอนกันดื้อๆอย่างนี้เลย 555
ตอนพีคหนักๆของเรื่องแต่งยากนะ ยากมากกก ทั้งอารงอารมณ์มาเต็ม กับตอนนี้ จิ๊บๆมากเลย ไม่มีอะไร แต่รู้สึกว่ายากกว่า =___=
สู้ต่อไป เย่
http://www.repeatmyvids.com/watch?v=Yc6T9iY9SOU&kmdom=youtubeแปะเพลง Count on me - Bruno Mars ที่นิกซ์ร้องให้ต้าฟัง เพลงน่ารักกกกก ชอบบ
วันนี้ย่องมาดึก ต้องนอนกันหมดแล้วแน่ๆเลยยย แต่รู้สึกว่าอยากลงเวลานี้ 55 อากาศกำลังเย็นสบาย (เกี่ยวไหม? -..-)
เรื่องรวมเล่มนะคะ ที่มีคนถามมาเกี่ยวกับตอนพิเศษ อิอิ เท่าที่คิดไว้... บอกเลยว่าไม่มี ไม่รู้จะเพิ่มตอนพิเศษยังไง
แต่ถ้าได้ทำจริง จะเขียน “เรื่องพิเศษ” ชื่อว่า “A boy วัยละอ่อน” เป็นเรื่องราวตอนน้องต้ายังเด็ก (เด็กมากกกกก) เหตุการณ์จะลากตั้งแต่น้องยังเตาะแตะๆจนมาถึงจุดเกิดเรื่อง
แปลกเนอะ ตอนห้าทุ่มก็ยังง่วงอยู่ พอเลยตีหนึ่งมาเท่านั้นล่ะ ตาสว่างอย่างกับนกฮูก ทุกวันนี้โดนแม่หาว่ารับจ๊อบพิเศษเป็นยามเหรอ 555
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าน้า จุ้บๆ
รักนักอ่าน.