บทที่ 30
“...พาย” เพียงดินครางแผ่วเมื่อคนที่ยืนตรงหน้าคือคนที่เคยทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว
พะพาย... เธอคือคนที่เขารักมากที่สุดคนหนึ่ง หญิงสาวที่น่ารักและใสซื่อของเพียงดิน เพื่อนสมัยเรียนที่เลื่อนสถานะมาเป็นแฟน แต่สุดท้ายเขาก็โดนเธอสะบั้นรักอย่างโหดร้ายในวันรับปริญญา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ทั้งให้เพียงดินนั่งช้ำรักอยู่ในไร่อย่างเดียวดาย
เขาเคยหวังว่าจะมีคนที่รักจริงและสร้างครอบครัวกันในที่ดินผืนนี้ของเขาที่พ่อยกให้สานต่อ เพียงดินเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง เขาจริงจังและจริงใจ เขาพร้อมจะให้เต็มที่ถ้าคนนั้นพร้อมจะรับมัน เขาลืมพะพายไม่ได้ เธอคือคนที่เขาเพียรจีบเป็นนานปี เพียงดินรักเธอ และรักมาก เขาวาดฝันการสร้างครอบครัว และการที่มีเธออยู่เคียงข้างในทุกๆวัน แต่มันก็เป็นแค่ฝัน และราตรีก็เข้ามา
แรกเจอนั้นราตรีเป็นคนอ่อนหวาน เธอเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพียงดินไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอคือตัวแทนของพะพาย แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ ราตรีก็คือราตรี
สิ่งที่เพียงดินเกลียดที่สุดคือการโกหกและการทรยศหักหลัง และราตรีทำแบบนั้น เขาเพิ่งมารู้ว่าตัวเองไม่ได้รักราตรีเลย เขาแค่หลงเธอและคิดว่าเธอคือตัวแทนของพะพายก็แค่นั้น
เพียงดินเคยคิดว่าถ้าวันนึงพะพายกลับมา เขาก็พร้อมเสมอที่จะรับเธอเข้ามาอีกครั้ง เพราะเพียงดินไม่อาจลืมเธอได้
“สบายดีมั้ยดิน” หญิงสาวตรงหน้ายิ้มแล้วเอ่ยทักทาย ตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวขึ้นเวที เพียงดินเลยต้องมาอยู่ด้านหลังเวทีพร้อมกับคนอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าพะพายที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จนั้นก็อยู่ด้วย และที่สำคัญเธอเข้ามาหาเพียงดินก่อน นั่นทำให้ใจพ่อเลี้ยงหนุ่มเต้นระรัว
“สะ... สบายดี แล้วพายล่ะ” เพียงดินถามด้วยน้ำเสียงที่ติดประหม่า
“ก็เรื่อยๆนั่นแหละ แต่ช่วงนี้งานเยอะไปหน่อย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะดิน ดินเปลี่ยนไปเยอะเลย” สาวเจ้านั่งลงข้างๆเพียงดิน เธอยิ้มหวานให้เพียงดิน เพียงดินได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบไป
“พายก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ เราไม่ค่อยได้ดูละครน่ะ เลยไม่ค่อยได้รู้ข่าวพายเท่าไหร่” เพียงดินพูดออกไป ความประหม่าเริ่มลดลงเมื่อพะพายนั้นยังคงพูดคุยกับเขาเหมือนเดิม แต่มันก็ยังคงมีช่องว่างระหว่างเขาและเธออยู่ไม่น้อย
“เรื่องนั้นพายรู้อยู่แล้วน่า แล้วที่ไร่เป็นยังไงบ้างเหรอ แล้วมีแม่เลี้ยงมาดูแลพ่อเลี้ยงเพียงดินรึยังเนี่ย” พะพายเอ่ยแซว เพียงดินเงยหน้ามอง รอยยิ้มนั้นทำให้เขาแทบละลายอยู่ตรงนั้น
“ยังเลย” เพียงดินตอบออกไป พะพายยิ้มเล็กน้อย เพียงดินเองก็ยิ้มเช่นกัน
“ไอ้บ้า ไอ้พวกวิปริต ที่แท้ดินก็ไปมีคนใหม่เป็นไอ้หมอบ้านั่นเหรอ อี๋ น่าขยะแขยงที่สุด!” ราตรีโวยลั่นแล้วเดินลงส้นมาเรื่อยๆเพื่อมาหาเพียงดินที่หลังเวทีเพราะเธอรู้ว่าเพียงดินอยู่ที่นี่
สาวเจ้าลูกสาวนายอำเภอเดินฟึดฟัดเข้ามาที่เต้นขนาดไม่ใหญ่มากหลังเวทีแล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเพียงดินอยู่กับใครบางคน
“นังพะพาย!” ราตรีกำมือแน่น
พะพาย! แน่ล่ะ ใครก็ต้องรู้จักพะพายนางเอกคนสวย คนอื่นอาจจะรู้จักเธอในบทบาทของดาราสาวมากความสามารถแต่ราตรีกลับรู้จักเธอในฐานะแฟนเก่าของเพียงดิน และเธอก็รู้ด้วยว่าพะพายนั้นคือคนที่เพียงดินรักมากแค่ไหน มากขนาดที่ว่าเพียงดินไม่เคยรักเธอเลย และมองเธอเป็นตัวแทนของพะพาย
เรื่องนี้ราตรีรู้อยู่เต็มอกแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับเพียงดินในขณะที่คบกันอยู่เพราะเธอไม่อยากเสียเพียงดินไป แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็รั้งเพียงดินไว้ไม่ได้อยู่ดี
พะพายคือศัตรูที่แท้จริงของเธอ เพราะเพียงดินยังไม่มีวันลืมเธอได้ซักที
“ราตรีไม่ยอมหรอกนะคะดิน” ราตรีพูดแล้วหันหลังกลับ เธออยู่ที่นี่ต่อไม่ได้เพราะเธอกำลังจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และแน่นอนว่าเธอก็ไปหาเพียงดินไม่ได้อีกเช่นกันเพราะเธอไม่อยากเข้าไปโวยวายและอาละวาดเหมือนทุกครั้ง
พะพายพิเศษกว่าใคร ไม่เหมือนคนอื่นที่เธอแค่วีนแล้วจะออกไปจากชีวิตของเพียงดิน ราตรีทำแบบนั้นไม่ได้และยิ่งเพียงดินอยู่ตรงนั้นแน่นอนว่าภาพลักษณ์ของเธอต้องติดลบไปอีก แต่นี้เพียงดินก็เกลียดเธอมากพอแล้ว
ราตรีเดินอารมณ์เสียออกมาข้างนอกแล้วก็ต้องเจอกับเมฆาที่กำลังเปิดท้ายรถพยาบาลอยู่ นั่นยิ่งทำให้เธอโมโหเข้าไปอีก ทำไมคนที่มาวุ่นวายกับเพียงดินถึงได้เยอะแยะแบบนี้นะ
“นังคุณหนู” เสียงเรียกนั้นทำให้ราตรีสะดุ้งและตัวแข็งทื่อเมื่อเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคย
ร่างของราตรีหดเกร็งขึ้นมากะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวและยิ่งเกร็งเข้าไปอีกเมื่อร่างหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเมียคนสวยของไอ้พงศ์ หึหึ” เสียงทุ้มต่ำและร่างสูงผิวดำคร้ามแดดมายืนอยู่ตรงหน้าราตรีแล้วแสยะยิ้มอย่างน่าขยะแขยง ชายในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์นั้นทำให้ราตรีทำตัวไม่ถูก
“ไอ้ชาติชั่ว!” พอเธอตั้งสติได้ราตรีก็โพล่งออกมา ตรงนี้ค่อนข้างจะลับตาเล็กน้อยเพราะอยู่ด้านหลังเวที และยังใช้เป็นที่จอดรถแค่นั้น
“ชาติชั่วก็ผัวมึง เอาเงินมาซิ กูติดหนี้ที่บ่อนสามแสน และมึงต้องช่วยกู” พงศ์ขยับเข้าไปใกล้ราตรีแล้วขู่เสียงเหี้ยม
“ไม่!” เธอเองก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
“นี่มึงกล้าหือกูเหรออินังราตรี มึงอย่าลืมว่ากูเป็นอะไรกับมึง มึงอยากให้คนเค้ารู้เหรอว่ามึงมีผัวอย่างกู คุณหนูคนสวยลูกสาวนายอำเภอ อดีตคนรักพ่อเลี้ยงเพียงดิน มีผัวเป็นไอ้พงศ์ ฮ่าๆ” เสียงนั้นทำให้ราตรีเกลียด สาบานได้ว่าถ้าเธอมีมีดอยู่ในมือตอนนี้เธอจะไม่ลังเลที่จะใช้แทงคนตรงหน้าอย่างบ้าคลั่งแน่นอน
“หุบปากไปเลยนะไอ้นรก! ฉันไม่ให้แกหรอก ฉันให้แกมามากพอแล้ว และอย่าลืมว่าฉันเอาแกเข้าตารางได้เหมือนกัน” ราตรีว่า มือของเธอกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปข้างใน เธอโกรธและโมโหมาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้
“มึงลองดูสิ กูจะบอกให้คนเค้ารู้กันตอนนี้เลยก็ยังได้ เอาเงินมา” พงศ์กระชากกระเป๋าของราตรี
“ก็บอกว่าไม่ไง!” ราตรีกระชากกระเป๋ากลับและดึงอย่างสุดแรง
“เฮ้ย! มีเรื่องอะไรกันน่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับร่างเล็กในชุดกราวนด์สีขาวเดินวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พงศ์เห็นท่าไม่ดีเลยยอมปล่อยกระเป๋าของราตรี ทำให้ราตรีที่ยื้ออยู่เซและล้มลงไปกับพื้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” พงศ์ว่าแล้วรีบวิ่งออกไปอีกด้าน เป็นเวลาเดียวกับที่เมฆาวิ่งเข้ามาหาเธอ
“เป็นยังไงบ้างครับคุณราตรี” เมฆาพยายามประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้น ราตรีเซเล็กน้อยทำให้เธอต้องคว้าแขนเมฆาเอาไว้
“รองเท้า รองเท้าฉันหัก” ราตรีว่า รองเท้าส้นสูงของเธอหักไปข้างหนึ่งนั่นทำให้การทรงตัวของเธอไม่ค่อยดีนัก
เมฆาเห็นดังนั้นเลยประคองเธอไปที่รถพยาบาลที่เขาเปิดท้ายรถไว้ เมื่อมาถึงเขาก็ให้ราตรีถอดรองเท้าออกทั้งสองข้างแล้วก้มดูที่ข้อเท้าของเธอว่ามีบาดแผลอะไรหรือเปล่า
“เจ็บตรงไหนมั้ยครับคุณ” เมฆาถามด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บสิยะ!” เธอโวยลั่น เมฆาเห็นอย่างนั้นเลยจับที่ข้อเท้าของเธอและรู้มันแพลงนิดหน่อย นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหาหมออย่างเขา
เมฆาจัดการนวดให้ราตรีด้วยยาแล้วพันข้อเท้าเธอไว้ก่อนจะหารองเท้าแถวๆนั้นมาให้ เป็นรองเท้ายางที่เขาเอามาติดรถเองนั่นแหละ ราตรีมองตามอย่างแปลกใจ
“ใส่นี่ไปก่อนนะคุณ รองเท้าคุณมันพังไปแล้ว” เมฆายื่นรองเท้าให้ราตรี สาวเจ้ามองเมฆาอย่างแปลกใจ ปกติคนที่นี่ไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่ แต่เมฆากลับปฏิบัติกับเธอต่างออกไป
“ขอบใจ” ราตรีตอบกลับ ปกติเธอไม่ค่อยพูดแบบนี้กับใครเท่าไหร่ แต่เห็นเมฆาดีด้วยเธอเลยไม่อยากร้ายกลับ
“แล้วกับผู้ชายคนนั้นคุณรู้จักเค้าเหรอครับ” เมฆาถามย่างสงสัย เขาเห็นราตรียืนคุยอยู่นานสองนาน แต่ไม่ได้ยินว่าคุยอะไร ถ้าผู้ชายคนนั้นมีเจตนาจะขโมยกระเป๋าจริงๆคงกระชากแล้ววิ่งหนีไปนานแล้ว
“ไม่รู้จัก! ฉันไม่รู้จักมัน” ราตรีตะโกนลั่นแล้วลุกพรึบแต่เนื่องจากเท้ายังเจ็บอยู่เธอเลยเซ เมฆาคว้าแขนเธอเอาไว้แล้วก็ต้องสังเกตเห็นรอยเล็กที่จิกลงไปในอุ้งมือราตรี ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นรอยที่จิกเข้าหาตัวเอง
การที่จะกดเล็บตัวเองลงกับอุ้งมือมากขนาดนี้มันไม่น่าจะปกติ และอีกอย่างพอพูดถึงผู้ชายคนนั้นราตรีก็มีท่าทีสั่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด เอาเข้าจริงราตรีนั้นก็ไม่ได้แย่อย่างที่ใครเขาว่า แต่ทุกคนพยายามไม่เข้าใจเธอมากกว่า
ตอนนี้เมฆากำลังคิดว่าเธอเป็นผู้ป่วยทางจิตและปฏิบัติกับเธอแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นโรคจิตหรอกนะ
“ไม่รู้จักก็ไม่รู้จักครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณไปหาพ่อคุณเอง เดินไปเองคงไม่สะดวก” เมฆาเก็บกล่องยาเข้าไปข้างในแล้วพยุงให้ราตรีมายืนพิงรถข้างนอกก่อนจะปิดท้ายรถ
ราตรียอมเดินตามเมฆาอย่างว่าง่าย ตรงส่วนนี้เดินไปที่เวทีไม่ไกลเท่าไหร่ แต่มันก็ไกลพอที่จะทำให้ราตรีหงุดหงิดเพราะเธอทั้งเจ็บเท้าและยังกลัวพงศ์ไม่หาย มองไปหลังเวทีก็เจอเพียงดินคุยกับพะพายหน้ายิ้มแป้นอีก
ใช่สิ เธอลืมไปเลยว่าเมฆาคือกิ๊กใหม่เพียงดิน
“นี่นาย ดูนั่นสิ” ราตรีชี้ให้เมฆาดูเพียงดินที่กำลังนั่งคุยกับพะพายอยู่ในเต้นไกลๆ
“คุณพะพาย เธอน่ารักดีนะครับ” เมฆาตอบตามตรง พะพายน่ารักจริงๆนั่นแหละ
“น่ารักบ้าอะไร ยัยนั่นตอแหลชัดๆ แต่มันไม่สำคัญหรอก ฉันจะบอกอะไรให้นะหมอเมฆา ฉันรู้ว่าตอนนี้ดินกับนานกำลังคุยกันอยู่” ราตรีพูดอย่างเป็นต่อ เมฆาหันมามองหน้าเธอเล็กน้อย เขาไม่มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด เพียงแค่แปลกใจมากกว่าว่าราตรีรู้ได้อย่างไร
“แล้วยังไงครับ” นั่นน่ะสิ แล้วยังไงต่อ ราตรีจะทำอะไรเขา
“ฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันไม่ยอมแน่ และอีกอย่างดูนั่นสิ นังพะพายแฟนเก่ากิน ฉันรู้อยู่ตลอดแหละว่าดินไม่รักฉันหรอก แต่เอาฉันมาเป็นตัวแทนของนังนั่น คู่แข่งของนายไม่ใช่ฉันแต่เป็นนางตอแหลนั่นต่างหาก เหอะ!” ราตรีพูด
เมฆามองพะพายกับเพียงดินอีกรอบ ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันจริง และดูจากท่าทางของเพียงดินแล้วนั้นเขาดูมีความสุขไม่น้อย ต่างจากตอนอยู่กับราตรีอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
แฟนเก่าเพียงดินอีกแล้วเหรอ ทำไมไอ้พ่อเลี้ยงนี่แฟนเก่าเยอะจริง
“ทุกคนที่เข้ามามันก็แค่ทางผ่านและของฆ่าเวลาให้ดินรอนังพะพายแค่นั้นแหละ ดินรักมันมาก มากชนิดที่ว่าไม่มีใครแทนที่ได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าเลิกกันยังไง แต่ที่แน่ๆยัยนั่นตอแหล ฉันไม่รู้ว่าทำไมไม่มีใครเชื่อฉัน ฉันมองแค่แว้บเดียวก็รู้แล้ว ตอแหลเก่งขนาดนั้นเลยเล่นละครวะดังเปรี้ยง พวกผู้ชายมันดูผู้หญิงเสแสร้งตอแหลไม่ออกเลยหรือไง และดินก็ดันไปหลงมันหัวปักหัวปำอีก” ราตรียังบ่นไม่หยุด เมฆาคิดตาม
แค่ตัวแทนของพะพายอย่างนั้นเหรอ...
“นี่พาฉันกลับได้แล้ว ฉันเจ็บเท้าแล้ว จะยืนอีกนานมั้ย” ราตรีโวยวายนั่นทำให้เมฆาต้องละสายตาจากหลังเวทีแล้วพาเธอไปส่งที่หน้าเวทีซึ่งมีพ่อของราตรีอยู่ตรงนั้น
พอเจอหน้าบิดาเธอก็ตรงเข้าอ้อนทันทีพร้อมกับฟ้องเรื่องรองเท้าขาด เมฆาคืนรองเท้าให้เธอและยกรองเท้ายางนั้นให้เธอไป ท่านนายอำเภอขอบคุณเมฆาและดูชอบเมฆาไม่น้อยเลยทีเดียว
เมฆาเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วกลับไปที่รถอีกรอบเพื่อเอากล่องยาตามจุดประสงค์หลัก เขาขนกลับมาไว้ที่หน่วย แล้วนั่งทำงานต่ออย่างปกติ ทศพรถามว่าทำไมไปนานก็บอกว่ามีเรื่องนิดหน่อย
เมฆานั่งได้ไม่นานก็บนเวทีก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวเมื่อการแข่งไวน์เริ่มขึ้น เพียงดินพูดอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นทำให้เมฆามองเพลินไม่น้อย ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์อย่างแรงกล้า และเมฆาว่าตอนนี้เขาเองก็ชักหลงเข้าไปในดงเสน่ห์ของเพียงดินเข้าให้แล้ว
อย่าหักหลังความไว้ใจของฉันนะเพียงดิน
***************************************************************************
มีความคิดต่อได้แล้วค่ะว่าจะเอาไปในทิศทางไหน อาจจะมาอัพบ่อยขึ้น
ที่ช่วงนี้หายๆมึนๆยังงงๆอยู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปทางไหนดี และเราก็พบเส้นทางแล้วค่ะ
คุณหนูราตรีเธอไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นนะคะ เปิดใจรับเธอนิดนึงก็ได้
เมฆของเราจะนิ่งได้อีกนานมั้ย รอดูกันนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามอยู่ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ