ตอนที่ 31
IAMUFRIEND : เออ หนึ่ง เดี๋ยวกลับมาจากเกาะล้าน เราพาวุ้นไปดูร้านได้เลย เสร็จแล้ว
IAMUFRIEND : พ่ออุตสาห์เร่งเขาให้เลยนะเนี่ย # สติกเกอร์หมีบราวน์โปรยกระดาษสี
ONE1 : ครับพ่อ เดี๋ยวผมแวะไปครับ
IAMUFRUEND : เดี๋ยวเดือนหน้าก็เปิดร้านได้เลย
ONE1 : ดีครับ ผมจะได้มีที่สิงที่ใหม่
IAMUFRIEND : สิงอยู่ได้นะลูก แต่อยู่สิงลูกพ่อตอนขายแล้วกัน เดี๋ยวจะไม่ได้ขาย
ONE1 : .. ครับ
กลิ่นสีใหม่ๆ เริ่มจะจางลงพอสมควร หน้าร้านจัดเป็นโมเดิร์นสีสว่างกระจกใสกั้นกึ่งผนังมีตัวอักษรตัวเขียนชื่อร้านให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยตัวอักษรแบบที่เขียนด้วยพู่กันตวัดลากยาว ทางเดินหน้าร้านเป็นพื้นกระเบื้องสีเทาเพื่อขับให้ร้านดูเด่นกว่าเดิม มีไม้พุ่มเล็กๆ ประดับตกแต่งอยู่ตามแนวทางเดินเล็กๆ ไม้เสียบด้วยดินปั้นรูปผีเสื้อถูกปักอยู่ตามกระถางต้นไม้
ภายในตกแต่งในลักษณะเดียวกันคือเน้นความเรียบง่าย นั่งแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายไม่สะทกสะท้านต่อการจราจรภายนอกที่บ้างครั้งก็เร่งรีบจนเกินไปของคนเมืองและหายใจแผ่วเบา ปล่อยให้ไอกาแฟฟุ้งส่งกลิ่นหอมไปทั่วร้านพร้อมกับกินขนมปังที่ยังคงอุ่นเพราะเพิ่งออกจากเตาร้อน
“ พี่หนึ่งพาผมมาร้านทำไมครับ ? ” วุ้นถามงงๆ เพราะนึกว่าพี่แกจะพากลับคอนโดที่ชักชวนนักชักชวนหนา นาฬิกาข้อมือที่มีอยู่ก็บอกกลายๆ ว่าควรเข้านอนได้แล้ว
“ มาเอาฤกษ์เอาชัยมั้งวุ้น ” หนึ่งเลิกคิ้วกวนๆ
“ ดีๆ ดิพี่ พามาทำไมเนี่ย วันก่อนก็เพิ่งแวะมาดูเองนะ ก็เหลือนิดๆ หน่อย ๆ ”
“ มาเถอะครับ ถือว่าเสี่ยขอร้อง ” หนึ่งถอนหายใจเดินลงจากรถไปก่อนเมื่อรถจอดได้เข้าที่
วุ้นมองตามพี่หนึ่งที่ลงจากรถไปก็ยังคงงงต่อไป
จะมาทำไม
แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ดูหน่อยแล้วกัน
ระหว่างที่วุ้นเดินเข้ามาในร้าน หนึ่งก็ชิงไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวนุ่มประเดิมเป็นคนแรกทันที เพราะสาเหตุที่พาวุ้นมาที่ร้านก็มีเหตุผลนั่นแหละ
หนึ่งเหลือบมองคนทั้งร้านของวุ้นที่มากระจุกกันตามเก้าอี้บ้างตามโซฟาบ้าง ผู้หญิงที่ชอบวิ่งปาดหน้าพนักงานคนอื่นอ้าปากหาวหวอดบิดซ้ายบิดขวาคลายความขี้เกียจ หนึ่งขมวดคิ้วกับท่าทางนั้นแต่ไม่ได้พูดอะไร
ส่วนคนอื่นๆ อย่างพี่เต้ก็นอนกรนคร่อกๆ ไปแล้ว พี่ออยดูจะตื่นที่สุดเพราะเป็นมนุษย์กลางคืนกำลังเมามันกับซีรีย์ตอนใหม่ปากพึมพำว่าหล่อ พี่มายด์นั่งอ่านนิยายที่พกมาด้วย
วุ้นก้าวเข้ามาในร้านก็ต้องชะงัก
เพราะทุกสายตาจับจ้องมาที่ตัวเองยกเว้นพี่เต้ที่หลับไปแล้ว
“ เอ่อ... ” วุ้นส่งเสียงอือออในลำคอ พูดอะไรไม่ออก หน้าซีดเผือด ในหัวนึกคำแก้ตัวอะไรไม่ออก
ไม่คิดว่าทุกคนจะอยู่ที่นี้
แปลว่ารู้หมดแล้วสิว่าเขาจะย้ายออก
วุ้นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“ มา—”
“ คร่อกกกกกกกก ”
พูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงกรนในลำคอดังขึ้นมาขัด
“ ฟี้ ~ ”
พี่จ๋าหันมองเจ้าของเสียงขวับ รู้สึกมือเท้าคันยิบๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะสถานภาพของพี่จ๋าคือลูกจ้างไม่ใช่นายจ้าง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องไปหางานใหม่ทำ พี่จ๋าเขย่าตัวพี่เต้จนหัวโยกขึ้นลงตะโกนแว้ดๆ “ กรนยังกับเป็นโรงสีเลย !! ตื่นมาได้แล้ว วุ้นมันมาแล้ววว ”
“ ฮะ ฮะ อะไร ” พี่เต้สะดุ้งตื่นหัวยุ่งเหยิงเหลือบไปเห็นวุ้นเป็นคนแรก “ อ้าว วุ้น หวัดดีๆ ร้านใหม่สวยดีและเฮียต้องหาคนใหม่มาแทน ฮือๆ ”
พี่จ๋าตีหลังพี่เต้ดังเพียะเบรกอารมณ์
“ จะมาบทโศกทำไมคะ เรามาแสดงความยินดีให้วุ้นค่ะ เฮียเต้ ” น้ำเสียงของพี่จ๋าเต็มไปด้วยความประชด
“ เอ้า เฮียเสียใจนี่หว่า ” พี่เต้ทำหน้าเซ็งหันไปหามายด์กับออยเป็นแนวร่วม “ เนอะ วุ้นออก ร้านเฮียจะอยู่ยังไง ”
“ ได้ข่าวว่าวันนี้มีคนมาสมัครแล้วนะ สวยด้วย ” พี่มายด์พูดพร้อมวางนิยายในมือบนโต๊ะหันไปยิ้มให้วุ้นที่ยังคงเหวอรับประทาน
“ ไม่ต้องคิดมากนะวุ้น พ่อวุ้น มาคุยเรื่องนี้กับพวกพี่แล้ว ” พี่จ๋ายิ้มให้วุ้น
เดือนก่อนที่ร้านวุ้นจะเสร็จ พ่อมิตรได้มาบุกร้านในตอนเย็นที่วุ้นกลับไปแล้วเพราะพี่หนึ่งมารับถึงที่ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ได้กลับเพราะมัวอ้อยอิ่งอยู่ที่ร้านอยู่
“ พ่อเป็นพ่อของวุ้นนะ ” พ่อมิตรพูดเสียงเคร่งเครียดแต่แววตาผ่อนลงเมื่อนึกถึงลูกชายตัวเองที่เพิ่งกลับบ้านไป
“ พ่อรู้ว่าไอ้วุ้นมันไม่กล้าบอกพวกเราหรอก ว่ามันจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ”
“ พวกลูกต้องเข้าใจมันหน่อย ก่อนที่มันจะมาทำงานที่นี้มันขายอยู่ที่ตลาด พ่อค่อนข้างห่วงมันที่ตื่นแต่เช้ามาอบขนมปัง นอนดึกๆดื่นๆ เกือบทุกวัน แล้วตอนนั้นพ่อว่าจะทำร้านให้มันเลยให้เลิกขายไป ”
“ คงจะว่าพ่อใจร้ายล่ะสิ ”
“ ไอ้วุ้นไม่ได้กลับไปตลาดนั้นอีกเลย มันไม่ได้ลาใครที่นั้นสักคน ”
“ พ่อคิดว่ามันจะทำแบบนี้อีกรอบกับพวกลูก ”
“ ไอ้วุ้นมันคนแบบนี้ ขี้เกรงใจ เงียบ ขี้สงสาร ”
“ มันไม่อยากให้คนอื่นเสียใจถ้ามันจะเลิก ”
“ มันเลือกที่จะหายไปเลย เงียบๆ ”
“ พ่อก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน ”
“ หวังว่าพวกลูกจะเข้าใจวุ้นมากกว่าพ่อนะ ”
วุ้นชะงักไปทันที
พ่อ ?
พ่อมาคุยเรื่องนี้ให้...
ดูเหมือนว่าผมจะรู้จักพ่อไม่ดีพอ
พ่อรู้เรื่องนี้ด้วย
วุ้นยิ้มแห้งๆ ตอบ “ ก็ดีแล้วล่ะครับ พี่จ๋า หาคนมาแทนผมได้ เกิดผมหายไปเงียบๆ คงจะยุ่งกับพอดีเนอะ ”
พี่จ๋ายิ้มมีเลศนัย “ แน่ะ ! นี่เราจะแอบหายไปเงียบๆ จริงด้วย เอาน่า วุ้น อย่าคิดมาก มีร้านของตัวเองก็ดีแค่ไหนแล้ว พ่อเขาอุตสาห์ทำให้เราก็ดูแลมันดีๆ ล่ะ ”
“ ครับ ”
“ ตอนแรกเห็นมาหน้านิ่งๆ นึกว่าจะโหดนะพ่อวุ้นน่ะ” พี่จ๋าแอบเมาท์พ่อมิตร
พี่เต้กระโดดเข้ามาร่วมวง
“ เออๆ ตอนแรกพี่โครตกลัวเลย นึกว่าพ่อวุ้นจะมาด่าร้านพี่ซะอีก ”
วุ้นยิ้มแหย
ลำพังผมเองเวลาอยู่บ้านยังกลัวๆ เลยครับ
แต่หลังๆ ตั้งแต่มีลูกเขยมา
เหมือนพ่อจะดูใจดีขึ้น
หรือไม่ก็อาจจะใจดีมาแล้วแต่แรก
แต่ผมไม่ได้สังเกตเอง
เพราะมัวแต่เงียบไม่ค่อยพูดคุยอะไรมากกับครอบครัว
มันเป็นบุคลิกไปแล้ว
ตอนนี้ผมคุยกับครอบครัวมากขึ้น สงสัยจะเพราะคนที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟาเงียบๆ
อยู่กับพี่หนึ่งไม่พูดมากไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
เจอแรกๆ เหมือนจะขรึม
ใครจะไปรู้ว่าข้างในเป็นแบบนี้
“ แต่ออยว่าลูกชายคนโตที่มาด้วย หล่อมากก ”
เดี๋ยวนะครับ
วุ้นสะดุ้ง
พี่เมฆงั้นเหรอ ?
“ เออ อันนั้นเจ๊ว่าแซ่บจริง ” พี่จ๋าเปลี่ยนสรรพนามตัวเองเพื่อการเมาท์ทันที
“ ชื่ออะไรหมอกๆ นะ หรือ ฝน ” พี่มายด์กลอกตาคิด
“ พี่เมฆครับ ” วุ้นเป็นคนตอบคำถามแทน
“ เออๆ หล่อมาก มีแฟนยัง ” พี่จ๋าถามอย่างมีความหวังเผื่อว่าตัวเองจะได้ลงจากคานทอง
วุ้นมองพี่จ๋าสักพักก่อนจะบอก “ มีแล้วครับ ”
“ เฮ้อออออ ”
เสียงถอนหายใจดังพร้อมกันถึงสามเสียง
“ ฮ้าววว เอาเหอะ เอาเป็นว่าถ้าคิดถึงจะปิดร้านมาบุกเลย ” พี่เต้หาวจนน้ำตาเล็ดยิ้มให้วุ้น
“ ครับ พี่เต้ ”
ถึงปากจะตอบแต่ในใจวุ้นยังคงอาวรณ์กับที่ร้านอยู่
จากคนที่เจอกันทุกวันเหลือเพียงนานๆ ครั้ง
เอาเหอะ มันเป็นเรื่องปกติ
วุ้นพยายามปลอบใจตัวเอง
รสชาติขนมที่พี่เต้ให้ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น
“ เออ ถ้าเจ๊มาร้าน อย่าลืมลดและแถมเยอะๆ นะ แล้วก็ถ้ามีหนุ่มหล่อแจ้งเจ๊ด้วย ” พี่จ๋าพูดอย่างมีจุดประสงค์แฝง
“ ครับๆ ถ้ามีดารามา เดี๋ยวผมจะโทรหาพี่คนแรกเลย ”
วุ้นเริ่มจะยิ้มออกกับคำพูดของพี่จ๋า
พี่จ๋าเป็นคนขี้เล่น ใจดี
อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเหมือนมีพี่สาวใจดี
“ เดี๋ยวพี่จะแวบมาเมาท์ด้วยบ่อยๆ ” พี่มายด์ยิ้มเดินมาหาวุ้น ยื่นที่ห้อยพวงกุญแจรูปวุ้นสีเขียวมีตาสีดำกลมโตให้กับวุ้น “ เอาไปห้อยไว้ห้อยคอ ลูกค้าจะได้เรียกถูก ”
พี่มายด์ที่หลังๆ วุ้นเพิ่งจะสนิทด้วย
เป็นเพื่อนที่นิสัยดี
ชอบเมาท์เวลาว่างกับวุ้น บางทีก็จับกลุ่มเมาท์กับพี่ออยอีกคน
เป็นอีกคนที่ชอบเอาของจุกจิกให้วุ้น
“ ครับ ”
วุ้นพลิกดูที่ห้อยไปมา ดวงตากลมโตกลับรอยยิ้มกว้างดูจะขัดกับวุ้นพอสมควร
แต่ก็น่ารักดี..
“ อย่าลืมพี่นะวุ้น ถ้าวุ้นไม่อยู่แล้วพี่จะเมาท์ซีรีย์กับใคร ” พี่ออยทำหน้าเศร้า
“ ก็มากินกาแฟที่ร้านผมสิพี่ ถ้าว่างๆ เอาซีรีย์มาเปิดดูในร้านก็ได้ผมไม่ว่าหรอก ”
พี่ออยเป็นพวกบ้าหนังบ้าซีรีย์
วุ้นก็เช่นเดียวกัน
ถ้าอยู่บ้านว่างๆ เงียบๆ คนเดียว
ก็ชอบหาซีรีย์สนุกๆ ดู
หลายเรื่องที่เคยดูเหมือนกับพี่ออย
สามารถนำเอามาต่อยอดคุยกันได้เวลาที่พี่ออยไม่หลับ
วุ้นคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำงานร้านนี้
เดิมทีวุ้นคิดว่านิสัยเงียบๆ คงจะคุยกับคนอื่นยากเพราะคิดเรื่องที่คุยไม่ออก แต่คิดไม่ถึงว่าพอมาอยู่ร้านนี้เขาจะเริ่มพูดมากกว่าแต่ก่อน
“ เออ งั้นกลับกันเหอะ เดี๋ยวเฮียไปส่ง ฮ้าววว ” พี่เต้หาวหวอด
“ อย่าทำรถคว่ำนะยะ ! ” พี่จ๋าแขวะ
“ ประกันยังไม่ได้ทำเลยอะ เฮีย ”
“ โอ้ยยย ไม่หลับหลอกน่า ”
พี่เต้พูดกลั้วหัวเราะก้าวผ่านวุ้น เอามือยีหัวด้วยความเอ็นดู
“ ไม่มีใครโกรธเราหรอกน่า วุ้น ”
คนอื่นๆ ที่ตามหลับเพียงแค่ส่งยิ้มให้วุ้นเท่านั้นไม่ได้ยีหัวเพิ่มเติม
เพราะแค่นี้ดูจะยุ่งเกินพอแล้ว
หนึ่งยิ้มให้เชิงลาไม่ได้พูดอะไร
เพราะไม่อยากแย่งซีนเจ้าภาพ
หนึ่งก้าวขายาวๆ มาหาวุ้นที่นอนบนโซฟาหลับตาลง
“ ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ พี่หนึ่ง ”
“ ทำไมล่ะ ? ”
“ ว่าผมจะได้มีร้านของตัวเอง เหมือนกับกำลังฝันอยู่ ”
“ ก็พ่อเราใจดีนี่ ”
“ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าพ่อจะใจดีขนาดนี้นะ ”
หนึ่งยิ้มบางก้มลงจูบเบาๆ บนขมับวุ้น
“ ใครๆ เขาก็รักเงียบๆ กันทั้งนั้นแหละ ”
รักแต่ไม่ได้แสดงมันออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
รักเพราะแต่ละคนไม่ค่อยพูด
รักแต่แสดงท่าทีแตกต่างจากที่คิด
แต่รวมๆ ยังไงก็เป็น “ รัก “ อยู่ดี
END
---------------------------------------------------
เชื่อว่าหลายๆ คนคงสะดุ้งว่า หะจบแล้วเหรอ 55555 ตอนแรกที่แล้วก็ไม่ได้แจ้งซะด้วย เอาเป็นว่าพลอตโดยรวมจบแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ให้การติดตามคอมเมนต์บวกเป็ดให้กำลังใจกันมาตลอดค่ะ
# มุมเมาท์จากนักเขียน
เรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นหลังจากคนเขียนเขียนอะไรไม่ออกเกือบเดือน แล้วไปเดินที่ตลาดเจอผู้ชายขายขนมซึ่งราคาเป็นมิตรและอร่อยมากๆ ( ขาประจำเลยทีนี้ ) แล้วตอนนั้นก็อยากเขียนถึงผู้ชายบุคลิกเงียบๆก็เลยได้เรื่องนี้ออกมาค่ะ แต่งไปแต่งมาไม่คิดว่าจะยาวถึง 31 ตอน ตกใจเบาๆ แต่ก็สนุกดีค่ะเขียนเพลินดี พี่หนึ่งเขาหลังๆ ลายเริ่มออกเยอะ
เพจนิยายเผื่อใครสนใจไลค์ไว้ฟังข่าวสารค่ะ >< :
https://www.facebook.com/FoggyTime ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ