ตอนที่ 28 : ยินยอม“พี่ภูมิแน่ใจเหรอครับว่าอยากให้ผมมานั่งทำงานที่นี่” มีคุณมองร่างสูงที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ วันนี้เขาเข้ามาที่ทำงานของภูริชพร้อมกับสองแฝด เพราะอีกฝ่ายนัดอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์เข้ามาคุยเรื่องการออกแบบ
“แน่ใจสิ” ภูริชยืนยันหนักแน่น เขาตั้งใจจะเปลี่ยนห้องประชุมที่อยู่ติดกับห้องทำงานของเขาให้กลายเป็นห้องทำงานของมีคุณ เจาะทะลุระหว่างสองห้องใหญ่ ปรับขนาดของห้องพักผ่อนให้กว้างขึ้นสำหรับแฝดและทำประตูเชื่อมถึงกันทั้งหมด
“ผมถามแล้วนะครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” มีคุณเปิดโอกาสให้ภูริชตัดสินใจใหม่อีกครั้ง
“ครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่ พี่อยากให้เสร็จวันนี้พรุ่งนี้เลยด้วย ติดว่าให้เข้ามาทำงานได้แค่เสาร์อาทิตย์”
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ เด็กๆ ยังไม่เข้าโรงเรียน”
“ไม่เข้าก็มาได้ รับรองว่าห้องพักผ่อนของลูกจะเหมือนอยู่บ้านทุกอย่าง” ภูริชตั้งใจทำห้องอย่างดีเพื่อให้ลูกชายสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้โดยไม่เบื่อ
“ก็ดีครับ” มีคุณคิดว่าดีเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะตกลงปลงใจควรได้รู้จักภูริชให้ดีก่อน เขาไม่เคยเห็นภูริชเวลาทำงาน ไม่เคยรู้จักตัวตนของภูริชระหว่างที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันที่บ้านหรืออยู่กับครอบครัว จะตัดสินใจทั้งทีมีคุณก็อยากศึกษาอีกฝ่ายให้ถี่ถ้วน
“พอห้องทำงานเสร็จแล้วคุนก็ออกมาทำงานพร้อมพี่ เอาฝ้ายมาด้วยจะได้คอยช่วยดูแลเด็กๆ”
“แต่ไม่ใช่ทุกวันนะครับ ผมไม่อยากให้แฝดอดอู้อยู่แต่ในห้อง”
“ตามใจคุนเลย พี่แล้วแต่ผู้ปกครอง”
“ครับ” มีคุณพยักหน้า เขาเลิกคุยหันมาสนใจโน้ตบุ๊คที่อยู่บนตักแทน มีคุณนั่งทำงานอยู่บนโซฟามุมห้อง มีสองแฝดนั่งเล่นอยู่บนพรมผืนใหญ่ที่ภูริชซื้อมาปูไว้ให้เผื่อในวันที่เด็กๆ มา
“คุนจะไม่ถามพี่หน่อยเหรอว่าแล้วแต่ผู้ปกครองพี่พูดถึงใคร” เจ้าของห้องทำงานยังคงเซ้าซี้ถาม
“ถามทำไมครับ พี่ภูมิไม่ได้หมายถึงผมเป็นผู้ปกครองแฝดเหรอ” มีคุณเงยหน้าขึ้นมองภูริช ทำสีหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องสงสัยหรือแปลกใจด้วย
“ไม่ใช่สิ พี่เป็นผู้ปกครองแฝดแต่คุนเป็นผู้ปกครองพี่ พี่ก็เลยต้องแล้วแต่คุน” คนพูดยิ้มพราย ปลื้มใจกับมุกที่ตัวเองคิด ต้องมุกแบบนี้ถึงจะซื้อใจคนถูกจีบได้
“ถามจริงๆ ครับ พี่ภูมิจีบสาวด้วยมุกแบบนี้ติดได้ยังไง” เสียงถอนใจเบาๆ และท่าทางของมีคุณคุ้นมาก เขาเห็นเจ้าตัวทำบ่อยๆ ตอนที่รู้สึกอิดหนาระอาใจปนขำกับการเล่นกันของแฝด
“ไม่เข้าท่าเหรอ” ภูริชถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“ไม่เลยครับ”
“คุนไม่หวั่นไหวสักนิดเลยเหรอ”
“อ่อนใจมากกว่าครับ”
“อ่า..พี่ทำงานดีกว่า” คนตัวโตรีบก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารที่ต้องเซ็น มีคุณยิ้มขำ เอ็นดูผู้บริหารทำตัวเป็นหนุ่มน้อยหัดจีบ ใครว่าเขาไม่หวั่นไหวแต่เรื่องอะไรจะแสดงออกให้อีกฝ่ายได้ใจ ถ้าจะกำราบกันมันก็ต้องทำตั้งแต่ตอนนี้
“เซอร์ไพรส์!!” มีคุณเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่ทำอยู่ เมื่อเสียงเปิดประตูห้องทำงานของภูริชดังขึ้นพร้อมกับร่างระหงที่ก้าวเข้ามา
“ขอโทษนะคะคุณภูมิ” เลขาของภูริชเดินตามเข้ามาติดๆ ด้วยสีหน้าตกใจ เธอพยายามรั้งให้นั่งรอเพื่อโทรรายงานให้ภูริชทราบก่อน แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ
“ไม่เป็นไรคุณนาว” ภูริชโบกมือให้เลขาออกไปได้
“ตามารับภูมิไปทานข้าวค่ะ” มีคุณมองหญิงสาวหุ่นนางแบบเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหาภูริช พ่อของแฝดรีบลุกขึ้นยืนก่อนที่หญิงสาวจะถึงตัว
“ตาน่าจะโทรหาผมก่อน”
“โทรมาภูมิก็ปฏิเสธตาอีกสิค่ะ” ท่าทางเง้างอนเต็มไปด้วยจริตจะก้าน มีคุณนั่งมองอย่างใจเย็น รอดูว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในห้องกันตามลำพัง
“คราวนี้ตาไม่ให้ภูมิปฏิเสธนะคะ ภูมิทำงานหนักไปแล้ว พักบ้างเดี๋ยวตาเอาใจภูมิเองค่ะ” ร่างระหงเจ้าของนามว่าตา หรือพิจิตรากอดแขนภูริชไว้แน่น โดยไม่สนว่าต้นแขนของอีกฝ่ายจะแนบอยู่หน้าอกของตนเอง
“ตาปล่อยก่อนครับ ผมมีคนอยากแนะนำให้รู้จัก” ภูริชพยายามดึงแขนออกอย่างสุภาพ เขาไม่อยากสะบัดเพราะเป็นการไม่ให้เกียรติเกินไป
ใครคะ” พิจิตราหันไปมองรอบๆ ก่อนยิ้มกว้างปล่อยแขนภูริชแล้วปรี่เข้ามาสองแฝด
“ตายแล้ว ทำไมน่ารักอย่างนี้” มีคุณอยากยกมือปิดหูหลานเพราะเสียงอุทานแหลมสูง คล้ายกำลังแสดงละครเวทีอยู่มากกว่าจะเป็นเสียงพูดของคนปกติ
“สวัสดีคุณน้าก่อนครับ” มีคุณเอื้อมมือไปแตะบนหลังเด็กชายภู สองแฝดรีบยกมือขึ้นไหว้ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย ดูน่ารักน่าชัง
“อุ๊ย! พี่ก็พอค่ะ มาค่ะขอพี่กอดหน่อย” มีคุณห้ามไม่ทันเมื่อหญิงสาวคว้าเด็กชายภูริวัจน์เข้าไปกอด
“ตาตกหลุมรักเด็กๆ แล้วสิค่ะภูมิ น่ารักเหลือเกิน” เด็กชายริชรีบลุกขึ้นยืน ขยับตัวจนชิดติดกับขาของน้าคุน เขามองเล็บสีแดงสดที่กอดอยู่รอบตัวพี่ชายด้วยสายตาหวาดๆ
“คุณน้าสวย” เด็กชายภูชมกลับ ยอมปล่อยให้คุณน้าคนสวยกอด
“อุ๊ยตายช่างพูด” พิจิตราบรรจงหอมแก้มเด็กชายเป็นรางวัล เรื่องของนิลยามีการพูดต่อๆ กันสนุกปากว่าที่ปลิวออกจากชีวิตภูริชเพราะรับเรื่องลูกไม่ได้ เธอจึงอยากแสดงออกให้ภูริชเห็นว่าเธอชอบลูกของเขามากและเข้ากับเด็กๆ ได้ดี เรื่องแบบนี้เธอไม่ยอมพลาดแน่นอน
“ภู ภู” เด็กชายริชเรียกพี่ชาย นิ้วเล็กๆ ชี้ไปที่แก้ม ลิปติกสีแดงสดติดเป็นรูปริมฝีปาก
“คนนี้ก็น่ารัก มาค่ะขอพี่กอดหน่อย” พิจิตราอ้าแขนที่กอดเด็กชายภูออก หวังให้แฝดน้องเดินเข้ามาหา แต่เด็กชายริชส่ายหน้าเบียดตัวเข้ากับขาของน้าชายหนักกว่าเดิม
“ตา” ภูริชแตะมือลงบนไหล่ของพิจิตราเพื่อให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืน
“ผมแนะนำให้รู้จักกันก่อนครับ นี่มีคุณเป็น..” ภูริชสบตามีคุณคล้ายต้องการถามว่าอยากให้เขาแนะนำว่าอย่างไร
“สวัสดีครับ ผมเป็นน้าของเด็กๆ ครับ” มีคุณวางโน้ตบุ๊คลงข้างตัวก่อนลุกขึ้นยืน
“ส่วนนี่...” ภูริชผายมือมาทางพิจิตราบ้างเพื่อแนะนำกลับ
“คุณพรรณิกาใช่ไหมครับ” มีคณพูดแทรกภูริชขึ้นมา สีหน้าของเขายิ้มแย้ม “ได้เจอตัวจริงเสียที ไม่รู้ว่าจำผมได้ไหมวันก่อนผมรับโทรศัพท์คุณพรรณิกาที่โทรมาชวนพี่ภูมิออกไปปาร์ตี้” มีคุณส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับหญิงสาวที่ยืนอยุ่ตรงหน้า
“ตัวจริงสวยกว่าที่พี่ภูมิชมเยอะเลยครับ”
“ภูมิคะ!!” ใบหน้าหญิงสาวสะบัดหันไปมองภูริชทันที ดวงตาที่แต่งแต้มสีสันโทนชมพูหวานดูไม่เข้ากับสีเขียวที่วาววับในดวงตา
“ไหนบอกตาว่าไม่ว่างงานยุ่งยังไงล่ะคะ ตาน้อยใจแล้วนะ” ภูริชหน้าเหวอหันไปมองตัวต้นเรื่องที่รีบเบือนสายตาหนีเขา เห็นชัดว่าเจ้าตัวกำลังซ่อนรอยยิ้มขำ ร้ายเหลือเกินนะมีคุณ
“อย่าน้อยใจผมเลยครับ” ใบหน้าคมคายยกยิ้มอ่อน “ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาให้เพื่อนคนไหนเลย อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด” ภูริชตวัดสายตามองมีคุณอย่างมีความหมาย
“เพื่อน..เพื่อนเหรอคะ” พิจิตราหน้าเสีย เมื่อเธอถูกเหมารวมว่าเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง
“ครับ ผมไม่ได้นัดเจอใครทั้งนั้น รับรองว่าเพื่อนทุกคนเท่าเทียมกัน ตาอย่าน้อยใจเลย”
“ค่ะ” พิจิตรากล้ำกลืนความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ “แล้ววันนี้...”
“ตาเลยต้องแวะมาเสียเวลา เอาไว้วันหลังผมนัดเลี้ยงขอโทษทีเดียวพร้อมกันทั้งกลุ่ม” คำปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยและไม่ให้โอกาสเธอยื้อทำให้พิจิตราเจ็บใจ เอาเถอะวันนี้เธอจะยอมกลับ ก่อนอื่นเธอต้องจัดการพรรณิกาให้พ้นทางเสียก่อน
“ภูมิไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ วันหลังตาแวะมาหาใหม่”
“ครับ แต่ยังไงตาโทรมาก่อนดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา” ภูริชตอบรับแบบสุภาพ
“ค่ะ ตากลับก่อนนะคะ” พิจิตราเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มภูริช ได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องอู้ เธอพยายามเดินออกจากห้องให้เฉิดฉายที่สุด ทั้งที่อยากทิ้งน้ำหนักปึงปังด้วยความโมโหมากกว่า นอกจากภูริชไม่สนใจเธอแล้วเธอยังมีคู่แข่งอีกหรือนี่
“พี่ไม่ได้หอมไม่ได้แตะต้องตัวเลย” ภูริชยกมือขึ้นสองข้างเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้มีคุณเห็น หลังรอจนพิจิตราปิดประตู้ห้องทำงานลง
“ใครเห็นคุณพ่อกับคุณพี่คนสวยหอมแก้มกันบ้างครับ” มีคุณนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลงพูดกับหลานๆ ที่นั่งลงบนพรมเหมือนเดิม
“ภูเห็น” “ลิดก๊ะเห็น” เด็กชายแยกไม่ออกว่าคำพูดแตกต่างกันอย่างไร ว่าใครหอมใคร เขารู้แต่ว่ามีการหอมกันเกิดขึ้น
“โธ่ มันไม่เหมือนกันนะคุน” ภูริชประท้วง เขายืนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นจะเหมือนกันได้อย่างไร
“เหมือนครับ ถ้าเราปล่อยให้อีกคนหอมหรือจูบก็แสดงว่าเราเต็มใจ ใครเป็นคนกระทำก็ไม่ต่างหรอกครับ เรียกว่ายินยอมพร้อมใจกันทั้งคู่” มีคุณมองคนเถียงไม่ออกด้วยสายตาเรียบนิ่ง รอว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
“ครับ” ภูริชทำคอตก เดินหงอยๆ กลับไปที่โต๊ะทำงาน”
“คุน”
“ครับ” มีคุณเงยหน้าขึ้นมอง เขานึกว่าภูริชคงไม่พูดอะไรแล้วจึงลงมือทำงานบ้าง
“ต่อไปพี่จะรักนวลสงวนตัวให้มากกว่านี้นะ” พรืดด มีคุณหลุดหัวเราะออกมา เมื่อคนพูดทำหน้าทำตาได้เจี๋ยมเจี้ยมมาก ภูริชยิ้มเมื่อเห็นมีคุณหัวเราะ ผิวปากเบาๆ อย่างมีความสุขระหว่างนั่งอ่านเอกสาร ในขณะที่มีคุณคิดในใจว่าตกลงผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรเขายังไม่รู้เลย
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
“ก่อนนอนต้องทำยังไงครับ” ภูริชป่องแก้มรอ เมื่อลูกชายทั้งสองหาวหวอด
“ราตรีสวัสดิ์ครับ” เด็กชายภูชะโงกหน้าหอมพ่อก่อนเป็นคนแรก โดยมีเด็กชายริชตามมาติดๆ “กู๊ดน้าย”
“ฝันดีครับ” ภูริชรอให้ลูกชายนอนลงจัดการห่มผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจรดริมฝีปากลงบนศีรษะเล็กของทั้งคู่
Rrrrr เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบาๆ ภูริชรีบหยิบขึ้นมาดู เขาเดินลงจากเตียงไปหามีคุณที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ
“คุนครับรับให้พี่หน่อย”
“พี่ภูมิรับเองสิครับ” มีคุณไม่เงยหน้าขึ้นมอง เขากำลังเร่งทำงานเพื่อให้ทันส่งลูกค้าในวันพรุ่งนี้
“รับไม่ได้ครับ”
“ทำไมครับ” มีคุณยอมเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ
“ก็พี่บอกคุนว่าจะรักนวลสงวนตัว” มีคุณหมั่นไส้คนทำหน้าอ่อนต่อโลก คว้าโทรศัพท์ที่ยังดังไม่หยุดมากดรับสายก่อนจะรบกวนการนอนของเด็กๆ ไปมากกว่านี้ โทรติดกันขนาดนี้ถ้าไม่รับคงดังไม่หยุด
“สวัสดีครับ”
“ใครน่ะ! ขอสายภูมิหน่อย”
“พี่ภูมิไม่สะดวกคุยครับ มีอะไรฝากไว้เดี๋ยวผมบอกให้”
“บอกว่าพรรณิกาโทรมา เดี๋ยวก่อน! คราวที่แล้วนายหรือเปล่าที่รับสาย ได้บอกภูมิให้ฉันไหมทำไมภูมิถึงไม่โทรกลับ” เสียงเหวี่ยงวีนไม่สบอารมณ์ คล้ายกับคนพูดเพิ่งไปทะเลาะกับใครมา
“ใช่ครับ แต่ผมบอกให้ตามที่แจ้งมาทุกอย่าง ส่วนทำไมพี่ภูมิไม่โทรกลับนั้นผมตอบแทนไม่ได้ อาจจะไม่ว่าง อาจจะลืม เอาไว้คุณถามเองกับเจ้าตัวดีกว่านะครับ ถ้าไม่มีอะไรฝากแล้วผมขอวาง”
“เดี๋ยว! อย่าเพิ่งวาง”
“ครับ”
“นายเป็นใครทำไมถึงรับโทรศัพท์ของภูมิบ่อยๆ” เสียงถามดังลอดโทรศัพท์ออกมา จนมีคุณต้องขยับออกห่างจากหู
“เป็นน้าชายของลูกพี่ภูมิครับ”
“อ๋อ ขอโทษทีนึกว่าเด็กในบ้าน” น้ำเสียงคนพูดอ่อนลง
“ไม่เป็นไรครับ”
“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ”
“พิจิตราแวะไปหาภูมิบ่อยไหม เคยเจอหรือเปล่า”
“เคยครับ”
“เมื่อไหร่!”
“วันนี้ครับ” มีคุณได้ยินเสียงบ่นพึมพำค่อนไปทางด่า สายตาของเขามองตามภูริชที่เดินห่างโต๊ะออกไป ธุระของตัวเองมาโยนให้เขาจัดการมันสมควรโดนไหม
“คุน” มีคุณสะดุ้งเมื่อภูริชเรียกเขาเสียงดัง รีบหันไปมองแฝดว่าสะดุ้งตื่นกันหรือไม่ โชคดีที่เด็กๆ หลับสนิท
“มานอนได้แล้วครับพี่ง่วง”
“อะไรน่ะ! เสียงใคร! เสียงภูมิหรือเปล่า”
“ครับ” มีคุณตอบรับเสียงเรียบ
“ภูมิเรียกใคร พิจิตราอยู่ที่นั่นเหรอ บอกมาเร็วๆ”
“เปล่าครับ ไม่ใช่และไม่อยู่ครับ”
“อย่าบอกว่านิลยากลับมาคืนดีกับภูมินะ”
“ไม่ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นใคร ภูมิเรียกใคร” มีคุณถอนใจยาวเมื่ออีกฝ่ายจิกถามเขาราวกับคนไม่มีมารยาท
“เรียกเมียครับ พี่ภูมิเรียกเมียไปนอนด้วย”
“เมีย!”
“ใช่ครับคุณพรรณิกาฟังไม่ผิด ตามนั้นนะครับ สวัสดีครับ” มีคุณกดวางสาย ผู้หญิงอะไรช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย สมัยนี้เขาไม่สอนสมบัติผู้ดีเรื่องการวางตัวให้หรืออย่างไร ถึงได้ตามจี้ตามจิกผู้ชายถึงขนาดนี้
“เมียครับ” มีคุณหันขวับไปตามเสียง ภูริชนั่งกึ่งนอนพิงหมอนอยู่บนเตียง ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ดวงตาวาบวับมาให้
“.....”
“คุณภรรยาครับ” เสียงเรียกยังดังไม่ลดละ แม้มีคุณจะก้มหน้าก้มตาทำงานทำมึนไม่ได้ยินเสียดื้อๆ
“มานอนได้แล้วครับ สามีง่วงแล้ว”
“หยุดครับ” มีคุณหมดความอดทนเอ็ดออกไปเบาๆ “ห้ามเรียกผมแบบนั้น”
“แต่คุนเป็นคนพูดเองพี่ได้ยิน”
“ผมพูดเพราะอยากตัดความรำคาญผู้หญิงของพี่ภูมิ วันหลังอย่าให้ผมเข้าไปยุ่งอีก”
“อืม วันหลังพี่จัดการเอง เมียอนุญาตให้บอกได้แล้วต่อไปสบายมาก ใครเข้ามาก็บอกว่ามีเมียแล้วจบ”
“อยากบอกอะไรก็เชิญครับ” มีคุณไม่สนใจ ยังไงก็ไม่มีใครรู้ว่าภูริชพูดถึงเขา
“วันนี้ใครพูดกับพี่ว่าถ้าเราปล่อยให้อีกคนจูบก็แสดงว่าเราเต็มใจ ใครเป็นคนกระทำก็ไม่ต่างกัน เรียกว่ายินยอมพร้อมใจกันทั้งคู่” ภูริชลุกจากเตียงนอน เดินช้าๆ ไปหามีคุณที่โต๊ะทำงาน
“ถ้าคุณปล่อยให้พี่พูดได้ตามสบายแปลว่าคุนเต็มใจ เรียกว่าเรายินยอมพร้อมใจกันทั้งคู่” มีคุณกลืนน้ำลายลงคอ รู้ว่าตัวเองพลาดท่าเข้าแล้ว
“นับตั้งแต่นี้...” ภูริชเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่เหนือศีรษะของมีคุณ “ยี่สิบเอ็ดนาฬิกาห้านาที พี่พ้นการทดลองงานสี่เดือนเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นสามีโดยอัตโนมัติ ราตรีสวัสดิ์ครับคุณภรรยา” จมูกโด่งจรดลงบนหน้าผากของมีคุณก่อนที่คนเจ้าเล่ห์จะเดินผิวปากหวือกลับไปที่เตียงโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเขา
มีคุณยกมือขึ้นแตะหน้าผาก ศึกนอกว่าหนักแล้วศึกในน่าจะหนักกว่า เสือทำตัวเป็นแมวอย่างไรก็ยังมีลายอยู่วันยังค่ำ
“คุน”
“.....”
“ขอบคุณครับที่เต็มใจให้พี่จูบ”
ยกนี้มีคุณแพ้ราบคาบ แต่อย่าคิดว่าเขาแพ้ตลอดไป บอกแล้วว่าเขาขอเวลาศึกษาอีกฝ่ายให้ดีก่อน รอให้เสือออกลายครบเมื่อไหร่ เขาจะจับถลกหนังเอามาทำเบาะรองนั่งให้ดู!!
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
ขอปูเรื่องนิด ตอนต่อไปจะมุ้งมิ้งขึ้นและเข้มข้นขึ้นด้วยในขณะเดียวกัน ^^
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin