บทที่ 19 ระเริงรักในวันฝนตก
"ฉิบ!!"
ในเวลายามเย็นวันนี้ มันช์เดินกลับบ้านกับพี่เติร์กด้วยกันเพราะรุ่นพี่จะไปนอนค้างที่ห้อง แต่ขิงดันขออาศัยกลับบ้านด้วย จึงทำให้ระหว่างการเดินทาง มีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ส่วนคนเดินตามหลังอย่างเติร์กได้แต่มองเพื่อนสองคนเดินด้วยกัน เติร์กเข้าใจดีว่ามันช์ค่อนข้างแคร์ขิง อาจเป็นเพราะขิงดูน่ารัก น่าทะนุถนอม จนบางครั้งบางคราวชวนน่าปกป้อง เพราะขิงมักทำตัวให้มันช์เป็นห่วง สังเกตจากทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน มันช์จะต้องเสริมเรื่องขิงระหว่างบทสนทนาเสมอ
เปรี้ยง!
ฟ้าแลบแปลบปลาบ ทั้งเสียงฟ้าร้องคำรามดังน่ากลัวจนมันช์และขิงสะดุ้งจนยกมือปิดหู มันช์หันมาบอกพี่เติร์กให้เดินไว ๆ เพราะเริ่มกลัวว่าฝนจะตกก่อนถึงห้อง จวบจนมาถึงปากซอย ฝนก็ตกลงมากระหน่ำ ทั้งสามหลบฝนตรงศาลารอรถ
"อีกนิดก็ถึงหอ จะลุยไหม มันช์?" เติร์กถาม มันช์ทำหน้าลังเล ก่อนก้มมองร่มในมือที่มันอาจหลบฝนได้แต่คงไม่ทั้งหมด แต่มันช์ตัดสินใจพยักหน้า กำลังจะหันไปลาขิง แต่อีกฝ่ายกลับยึดข้อมือมันช์
"ขิงไปด้วยได้ไหม? มันช์"
"....."
"ขิงยังไม่อยากกลับตอนนี้ กลัวรถติดครับ"
มันช์หันไปหาพี่เติร์กเหมือนขอความเห็น ฟากเติร์กยิ้มมุมปาก และพยักหน้า
"ขอบคุณนะ"
ทั้งสามยอมวิ่งฝ่าหยดฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาเป็นสาย จนถึงห้อง มันช์ก็ขอตัวอาบน้ำก่อนปล่อยให้ขิงอยู่กับพี่เติร์กสองต่อสอง ในขณะที่ขิงนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวบนเตียง เติร์กชำเลืองมองขิง ก่อนจะเดินออกไปยืนมองฝนตรงระเบียง เขากำซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงแน่น อยากสูบแต่เกรงใจเจ้าของห้องก็ว่าจะให้มันช์ออกมาก่อนค่อยขออนุญาต คนที่ยืนนิ่งเนิ่นนาน
"อ้ะ พี่เติร์กครับ พี่เติร์ก" เติร์กเดินเข้าไปข้างใน เห็นขิงเต้นเร่า ๆ แปลกประหลาด
"อะไร?"
"แมงมุมครับ แมงมุมอยู่ในเสื้อ"
เติร์กยืนมองสักพักก่อนจะเดินไปตบเบา ๆ ทั่วแผ่นหลัง เพื่อไล่หาสัตว์เจ้าปัญหา
"พี่ครับมันอยู่ในเสื้อ ผมกลัว"
เติร์กเงียบ ก่อนจะยอมสอดมือเข้าไปในเสื้อ สัมผัสแผ่นหลังที่เปียกชื้นแล้วลูบหลังจนทั่ว ก่อนดึงมือออก
"ไม่เห็นมีเลย โกหกหรื...อ"
"พี่เติร์กผมอาบน้ำเสร็จแล้วนะ"
มันช์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินออกมาในจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี ตอนที่พี่เติร์กดึงมือออกจากการล้วงเข้าไปในเสื้อขิง เติร์กหันไปยิ้มมุมปากและเดินไปหาคนที่หน้าบึ้ง เติร์กรู้ดีว่า มันช์คงงอน เขาจึงเดินไปใกล้แกล้งสูดดมกลิ่นกายแถวซอกคอแฟน
"หือออ...หอม"
"พี่ทำบ้าอะไร?" มันช์หดคอ มองพี่เติร์กสลับกับมองขิงที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง แล้วทันใดนั้น เติร์กดึงท้ายทอยมันช์มาจูบต่อหน้า ต่อตาขิง เติร์กบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันและผละมาลูบแก้มมันช์ พลันเหลือบมองขิง
"ขิง ตัวเปียกแบบนี้ ไปอาบน้ำสิ จะได้สดชื่น" เติร์กบอก ฟากขิงตอบเสียงนอบน้อม
"ไม่เป็นไรครับ พี่อาบก่อนเถอะครับ ผมยังไม่อยากอาบตอนนี้"
"คือพี่อยากอยู่กับมันช์สองคนน่ะ ถ้าขิงไม่อาบน้ำ จะกลับบ้านเลยไหม"
กึก
ขิงยืนอึ้งที่อยู่ ๆ พี่เติร์กก็ไล่กลับอย่างไร้ความเมตตา ปราณี
"พี่เติร์ก พี่พูดแรงไปนะ" มันช์ดุพี่เติร์กที่อีกฝ่ายใช้คำพูดไม่ถนอมน้ำใจขิงสักนิด
คนนอกอย่างขิงได้แต่ยืนเม้มปากแน่น ทำตัวไม่ถูก มันช์พลันเหลือบเห็นขิงทำหน้าจะร้องไห้ เขาจึงเดินไปหาขิง
"ขิง อย่าคิดมากกับคำพูดพี่เติร์กนะ เขาล้อเล่น"
"มันช์ กูไม่ได้ล้อเล่น"
มันช์ตวัดสายตาดุ ๆ ไปหาพี่เติร์กที่ทำไมพี่เติร์กต้องพูดชวนบรรยากาศเสีย ก่อนที่มันช์จะยิ้มแล้วบอก
"ขิงไม่อาบน้ำก็ไม่เป็นไร แต่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้นะ ของเราน่ะไปหยิบในตู้เสื้อผ้าเลย ฝนตกแบบนี้ เดี๋ยวเราต้มมาม่ากินร้อน ๆ กันดีกว่า"
มันช์ทิ้งตัวลงนั่งที่พื้น ต้มน้ำร้อนรอเวลา และในขณะที่ตระเตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยทั้งสาม เทผงปรุงรสจากซองไปพร้อม ๆ กัน ส่วนขิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่มันช์แนะนำ ในขณะที่ทุกการกระทำล้วนตกอยู่ในสายตาของเติร์กทั้งหมด
"มันช์ กูลงไปข้างล่างนะ" เติร์กบอก เพราะอึดอัด แต่ครั้นจะพูดอะไรไปอีกก็เกรงใจเจ้าของห้อง
"ไปไหน? ฝนตกอยู่นะพี่เติร์ก"
"......." เติร์กไม่ยอมตอบแฟน เขาแค่เดินออกไป ทำให้มันช์ใจไม่ดี ไม่รู้ว่าพี่เติร์กงอนกันหรือเปล่า ? ที่มันช์เลือกโอ๋ขิงมากกว่าการทำความเข้าใจในตัวพี่เติร์ก
"รีบขึ้นมานะครับ เดี๋ยวมาม่าอืด" มันช์บอกแฟนด้วยน้ำเสียงแผ่ว ๆ หลังจากพ้นตา ขิงพุ่งถลามากอด
"ขิงเป็นอะไร?"
"พี่เติร์กไม่ชอบขิงแน่เลย มันช์"
"ไม่หรอก คิดมากน่า" มันช์ชะงักมือพลางลูบหลังขิงช้า ๆ
"จริง ๆ นะ มันช์ แค่ขิงมาขออาศัยแปปเดียว มันหนักหนามากเลยเหรอ เขาถึงต้องพูดจากับขิงแบบนั้น" ขิงกัดปากสั่น ๆ จนมันช์มองด้วยแววตาเศร้า ไม่คิดว่า ขิงจะยึดถือในทุกคำพูดของพี่เติร์ก
"อย่าสนใจเลยนะ มากินมาม่ากันเถอะ น้ำเดือดแล้ว"
"มันช์" คนที่กำลังกดน้ำร้อนเติมลงถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชะงักตอนที่ขิงมาจับข้อมือ
"ว่า?"
"ตอนที่มันช์จูบกับพี่เติร์กเมื่อกี้ มันเป็นยังไงเหรอ?"
มันช์หน้าแดง ตอนที่ขิงถามเรื่องนั้น พอนึกก็เหมือนกับเป็นตัวกระตุ้นให้ใจเต้นแรงอีกครั้ง
"เขินเหรอมันช์ หน้าแดงมากเลย"
มันช์ก้มหน้า จับถ้วยบะหมี่พลิกไปมา
"ขิงอยากมีคนมาจูบขิงแบบนี้บ้าง" ขิงยังเป็นฝ่ายพูดคนเดียว จนกระทั่ง มันช์สงสัยกับคำบอกล่าสุด
"หือ? ขิงไม่เคย" มันช์เอียงคอถาม คนอย่างขิงน่าจะผ่านการคบแฟนมานับร้อยเห็นจะได้ ก็ขิงทั้งหน้าตาดี น่ารัก นิสัยก็ว่านอนสอนง่าย ใครเห็น ใครก็รัก
"อื้ม ทำไมมันน่าอายมากเลยใช่ไหม?" ขิงเม้มปาก พลางก้มหน้า
"เฮ้ย ไม่นะ ไม่เลย เราแค่สงสัย"
"ขิงอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ขิงขอลองจูบมันช์สักครั้งได้ไหม?"
"ไม่ได้หรอก เรามีแฟนแล้ว"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่เติร์กไม่ได้อยู่ตรงนี้สักหน่อย มันช์แค่สอนขิงเอง ขิงอยากรู้"
"ไม่ได้ ขิง เราไม่อยากให้พี่เติร์กโกรธ" มันช์ยังยืนหยัดคำเดิม
"แต่ตอนนี้ เราอยู่กันแค่สองคน ถ้าขิงไม่พูด มันช์ไม่พูด ใครจะรู้จริงไหม? แค่ครั้งเดียวเองนะมันช์"
การคะยั้น คะยอและพูดโน้มน้าวจิตใจ ทำให้มันช์เริ่มโลเล ยิ่งโดยเฉพาะคำว่า แค่ครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก มันปรากฎขึ้นมาในใจ มันช์นั่งนิ่งครุ่นคิด ถ้าคิดว่าการจูบกันเหมือนเล่นละคร พวกดารานักแสดงยังทำกันได้เลย ก็ลองทำแบบนั้นก็ได้มั้ง
มันช์เงียบ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาทางปาก เขาแค่เอื้อมมือไปแตะไหล่ขิง เลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ แต่ยังไม่ทันได้จูบเพราะมันช์เริ่มไม่โอเคที่ทำแบบนี้ แต่วินาทีนั้น ขิงเองที่จู่โจมเคลื่อนริมฝีปากมาประทับจูบกัน จนมันช์ตกใจ และยังไม่ทันเท่าไหร่ เสียงกึกกักตรงประตูหน้าห้องก็ดังและถูกเปิดออกกว้าง
"มึงทำอะไรวะ มันช์"
เฮือกกก!
มันช์ตกใจสุดขีด ผละออกห่าง
"ทำไม มันช์ถึงไม่ล็อคประตู" นั่นคือสิ่งที่ขิงบอกมันช์เสียงแผ่ว ๆ แล้วทำหน้าจะร้องไห้
มันช์ลุกพรวดไปหาพี่เติร์กที่ทำหน้าน่ากลัว
"พี่เติร์กมาม่าเสร็จพอดีเลย มากินด้วยกันนะ" มันช์จับข้อแขนพี่เติร์กแต่พี่เติร์กกลับบิดข้อมือออกแล้วพุ่งไปหาขิง ก่อนจะฉุดมือขิงให้ลุกขึ้น แม้การกระทำจะนุ่มนวลไม่ใช่การกระชาก ลากถู แต่สายตาใครเห็นก็ดูออกว่าไม่พอใจแค่ไหน
"พี่ลงไปดูเมื่อกี้ ฝนซาแล้ว ขิงกลับเลยก็ได้นะ" เติร์กบอกขิงพลันเหลือบมองมันช์ที่ยืนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้า ก้มหน้า กัดปากแน่น
"ผมไม่มีร่มครับ"
เติร์กเงียบ ก่อนจะผละไปหาของบางอย่าง เขากลับมาพร้อมร่มที่เดินมายัดมันใส่มือขิง พร้อมเงินจำนวนห้าร้อย
"พี่มีร่มครับ และพี่ให้เงินขึ้นแท็กซี่ด้วย กลับเหอะ ดึกดื่นอันตราย"
"พี่เติร์กไล่ขิงแบบนั้นได้ยังไง" มันช์ก็รู้นะว่าตัวเองผิด แต่เขาคิดว่ามันดูใจร้ายไปหน่อย ถ้าจะไล่ขิงกลับบ้าน ทั้ง ๆ ที่ฝนยังไม่หยุด เพราะมันช์เพิ่งได้ยินเสียงฟ้าร้องโครมครามดังสนั่นไปเมื่อสักครู่
"มึงไม่มีสิทธิ์มาเถียงกู ตอนนี้ คนนอกควรกลับไป เพื่อที่กูจะได้เคลียร์เรื่องของเรา"
ขิงชะงักตอนที่พี่เติร์กเน้นหนักกับคำพูดนั้น
"ถ้างั้น เดี๋ยวเราเดินไปส่งนะ ขิง" มันช์ลำบากใจ เพราะอีกคนก็เพื่อน อีกคนก็แฟน และส่วนหนึ่งมันช์ก็สงสารขิงที่ตอนนี้ร้องไห้ออกมาแล้ว
"มันช์อย่าให้กูพูดซ้ำ"
"ขอโทษนะ ขิง" มันช์มองเพื่อนด้วยแววตารู้สึกผิด ฟากขิงหันไปหาพี่เติร์ก
"ที่พี่เติร์กเห็น มันไม่มีอะไรจริง ๆ นะครับ แค่..." ขิงกำลังแก้ตัว
"ขอบคุณที่อธิบายครับ แต่ขิงไปเถอะ ปัญหานี้ เดี๋ยวพี่เคลียร์กับแฟนพี่เองดีกว่า" ทั้งสองไม่ได้เดินไปส่งขิงจริง ๆ ทิ้งให้ขิงเดินลงข้างล่างไปโดยที่ฝนยังตก ฟากเติร์กตวัดสายตาไปหามันช์ที่ยืนบีบอุ้งมือที่ประสานกันจนบิดเบี้ยว ก่อนจะเดินออกไปยืนตรงระเบียงเพื่อสูบบุหรี่โดยไม่สนใจเจ้าของห้องแล้ว ส่วนตัวมันช์เองก็เดินไปเปิดประตูที่กั้นกลางระหว่างพื้นที่ระเบียงกับพื้นที่ด้านใน เขายอมให้ฝนสาด เพียงเพราะอยากแอบมองพี่เติร์กอยู่ตรงนี้
มันช์รู้ว่าตอนนี้ เขามีความผิดติดตัว แต่เขาเองก็ไม่กล้าและไม่รู้จะต้องเริ่มอย่างไรดี มันช์อาจคิดน้อยไปหน่อย อย่างแต่ก่อน มันช์เคยอาบน้ำกับแบงค์หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ทำมาแล้ว แต่มันช์ลืมนึกไปว่า สมัยก่อนเขาไม่ได้มีแฟนเช่นตอนนี้
มันช์รู้สึกอิหลักอิเหลื่อ ทำตัวไม่ถูก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าและออกช้า ๆ ตัดสินใจขยับเท้าก้าวไปหาเพื่อและยืนซ้อนหลังพี่เติร์ก เอื้อมไปจับมือรุ่นพี่พลางเอนศรีษะซบไหล่กว้าง
"ผมขอโทษครับ พี่เติร์ก..."
"บอกกูได้ไหม? ทำไมกูต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นวะ มันช์?"
พี่เติร์กน้ำเสียงเยือกเย็นกว่าตอนแรก เขาไม่มีอาละวาดหรือตวาดแต่อย่างใด
"ขิงเห็นพี่กับผมจูบกันเลยอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ก็เลย..."
"แค่เหตุผลก็ไร้สาระแล้ว มึงก็เชื่อว่าขิงไม่เคยจูบคนอื่น ? และมึงก็ทำตามคำขอขิงง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มึงก็มีแฟนแล้วอย่างงั้นเหรอ?"
"....." มันช์ยืนสะอึก ไปต่อไม่ถูกได้แต่บีบมือพี่เติร์กแน่น
"มันช์ กูไม่อยู่แค่สิบนาที มึงยังทำแบบนี้...แล้วถ้า...."
"พี่เติร์ก ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ ผมไม่ได้คิดอะไรกับขิงจริง ๆ นะครับ" มันช์กลัวพี่เติร์กจะโกรธจนพาลเลิกกัน เขาสวมกอดพี่เติร์กจากด้านหลังแล้วย้ำซ้ำ ๆ
"กูยังเชื่อใจมึงได้ไหม?"
"ได้ครับ พี่เติร์กได้ ผมสัญญามันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
"โอเค ครั้งนี้กูให้อภัยเพราะกูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจเพื่อนมึง"
"ทำไมพี่เติร์กถึงพูดแบบนั้น"
"กูเหนื่อยจะตอบว่ะ มันช์" มันช์ยิ่งรู้สึกแย่ที่ได้ยินอย่างนั้น เขาไม่น่าพลาดทำเรื่องราวไม่ดีเลย
"ถ้างั้น เราไปกินมาม่ากันเถอะนะพี่ ผมทำไว้แล้วนะ"
มันช์ยิ้มตอนที่พี่เติร์กบอกให้มันช์เข้าไปก่อน และเดี๋ยวเขาจะเดินตามเข้าไป มันช์รีบเดินเข้ามานั่งตรงโต๊ะญี่ปุ่นและรอไม่นานพี่เติร์กก็เดินเข้ามานั่งที่พื้นด้วย
มันช์ยื่นถ้วยมาม่าไปให้พี่เติร์ก ต่างฝ่ายต่างกิน แม้ว่ามันช์จะชวนคุย แต่พี่เติร์กก็ถามคำ ตอบคำ จนมันช์เครียด เพราะไม่รู้จะหาทางยังไงทำให้พี่เติร์กอารมณ์ดีขึ้นได้
"ผมป้อนนะพี่" มันช์ใช้ส้อมม้วนเส้นมาม่าและยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่าย แต่พี่เติร์กกลับตอบแค่ว่า
"ไม่เป็นไร กูมีมือ กินเองได้" มันช์ขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เขากินไปได้ครึ่งถ้วยก็รู้สึกไม่อยากอาหาร มันช์น้ำตารื้นรู้สึกไม่ดีที่ผ่านไปแล้วเป็นชั่วโมงพี่เติร์กยังตึงใส่กัน ก็รู้ว่าผิด แต่มันช์ก็ยอมทิ้งขิงกลับบ้านคนเดียว ทั้ง ๆ ที่ไม่สบายใจไม่รู้ขิงจะเป็นอะไรหรือเปล่า มันช์อึดอัดและลำบากใจจนหลั่งน้ำตาและเอ่ย
"ผมขอโทษไปแล้ว ทำไมพี่เติร์กยังโกรธกันอีก ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ผมเครียดนะที่พี่เป็นแบบนี้"
ฟากเติร์กเงยหน้ามองคนที่ระเบิดความรู้สึกออกมาพร้อมหลั่งน้ำตาจนเติร์กตกใจ เติร์กลุกไปนั่งข้างมันช์แล้วกอดมันแน่น ๆ
"กูเพิ่งรู้ว่ากูได้ลูก ไม่ใช่แฟน ขี้แงเป็นที่หนึ่งเลยมึงเนี่ย!!"
"ก็พี่แม่ง!.. ผมแคร์พี่นะ แคร์พี่มาก พี่อย่าเป็นแบบนี้สิวะ ผมขอโทษ ผมรู้ ผมผิดแต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับขิงจริง ๆ" มันช์บอกในอ้อมกอดพี่เติร์ก พูดวนแต่เรื่องเดิม ๆ เพราะเครียดที่พี่เติร์กแสดงท่าทีเหินห่าง
"เพราะมึง คือ คนที่กูแคร์เหมือนกันไง มันช์"
มันช์เอื้อมมือไปกอดกลับกระชับแน่น
"ผมรักพี่นะ พี่เติร์ก"
เติร์กตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าคนที่ชอบเขินอาย จะกล้าบอกรักเขา เติร์กจูบมันช์เบา ๆ ก่อนผละมาด้วยรอยยิ้มละมุน
"กูไปอาบน้ำก่อน"
หลังจากพี่เติร์กอาบน้ำเสร็จ มันช์รีบไปประคบประหงม นั่งเป่าผมให้พี่เติร์กใช้มือสอดเข้ากลุ่มผมขยี้เบา ๆ แล้วปล่อยให้ลมพัดผ่าน รอเวลาให้ผมแห้ง และชะโงกหน้าไปจูบแก้มพี่เติร์กแผ่วเบา
"หายโกรธผมนะพี่"
"กูไม่ได้โกรธมึงแล้ว"
"จริงนะ"
"....."
เมื่ออีกฝ่ายเงียบ มันช์หน้าเสียและในระหว่างที่ทั้งสองนั่งเป่าผมกันอยู่หน้าพัดลม
'อร้าย'
'เชี่ยเอ้ย'
'โห่ อะไรวะ'
ไฟดับ
ไม่มีใครรู้ว่าการที่ฝนตกลงมาอย่างหนักจนทัศนียภาพด้านนอกพร่าเลือน จะส่งผลต่อการให้ไฟดับทั้งซอยหรือเปล่า? มันช์รีบลุกคลำควานไปคว้าไฟฉายกระบอกเล็กในลิ้นชักมาส่องหาเทียนไขที่ไม่รู้ว่าไปเก็บซุกไว้ไหน?
ในห้องและด้านนอกมีเพียงแสงไฟสลัว มันช์หาเทียนไขเจอจึงขอไฟแช็คจากพี่เติร์กจุดไฟจนได้แสงสว่าง เขานำไปปักตรงโต๊ะญี่ปุ่น และที่ระเบียงด้านนอก ยามนี้ รอบบริเวณมีเพียงแสงสว่างรำไรจากแสงเทียนบ้าง แสงของไฟฉายบ้าง เสมือนเราได้เห็นแสงดาวจำลองเคลื่อนต่ำลงมาเสมอตัว
และตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรให้ทำ เติร์กจึงขอมันช์ไปสูบบุหรี่อีกมวน แต่มันช์ก็เดินตามไปยืนเกาะลูกกรงเหล็ดดัดที่กั้นตรงระเบียง มองคนข้างกายด้วยแสงสว่างไม่มากนัก
"พี่หายโกรธผมชัวร์นะ" มันช์บอกตอนที่ดึงมือพี่เติร์กข้างที่ไม่ได้คีบบุหรี่มาวางทาบลงบนใบหน้า
"มันก็มีไม่กี่อย่างหรอกที่จะทำให้กูหายโกรธได้ร้อยเปอร์เซ็นต์"
"พี่บอกมาสิ ผมทำได้ ผมอยากให้พี่หายโกรธผมร้อยเปอร์เซ็นต์"
"แน่ใจ?"
"ครับ"
"หลับตาสิ"
เพียงแค่มันช์หลับตา เขาตกใจ ตอนที่สัมผัสได้ถึงริมฝีปากอีกฝ่ายแตะลงบนกลีบปากของเขาจนมันช์ได้กลิ่นนิโคตินจาง ๆ ที่ติดอยู่ริมฝีปากและลมหายใจอีกฝ่าย พี่เติร์กดูดดึงริมฝีปาก ก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ผสานเสียงจูบหวาน ๆ และแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางอื้ออึง ทั้งสองจูบกันตรงระเบียงท่ามกลางเสียงซ่า ซ่า ของสายฝน
ตอนนี้ มันช์และเติร์กต่างจูบดูดดื่มอย่างไม่กลัวว่าใครจะมาเห็น เพราะบรรยากาศทุกอย่างเป็นใจ เติร์กผละออกมาและบอก
"มันช์ กูยังไม่ง่วง ไฟก็มาดับ ถ้ากูขอมี..." เติร์กบอกพร้อมจูบแก้มสองข้าง และไล่มายังปลายจมูก
แค่คำบอกนั้น มันช์ก็รู้ความหมาย เขาใจเต้นตุบ ๆ เพราะไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน แถมมันช์กำลังจะได้ร่วมรักกับคนที่มันช์แอบรักมานาน ทุกอย่างมันประดัง ประเดเข้ามาในหัว จนทำให้มันช์ประหม่า หวั่นใจ และอาย มันช์คิดไปต่าง ๆ นานา ว่าจะออกมาดีไหม คนที่ประสบการณ์เรื่องเซ็กซ์เป็นศูนย์จะทำให้พี่เติร์กประทับใจได้หรือเปล่า แต่เพราะมันช์ก็รักพี่เติร์กจึงคิดว่าเวลานี้มันก็สมควร
"อืม"
.
.
.
.
"ฮื่อพี่เติร์ก สะ....เสียว.."
มันช์ส่ายสะบัดหน้าไปมาบนเตียงกว้าง เมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าไปใต้กางเกง กอบกุมส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนเอาไว้เต็มมือ จากนั้นก็รูดรั้งมันช้า ๆ แต่แทบขาดใจ ไม่เคยมีมือใครได้มาแตะของมันช์มาก่อน ยามนี้ แท่งร้อนกำลังถูกมือหนาของพี่เติร์กกำมันไว้แน่นจนมันช์บิดเบ้ใบหน้าด้วยความเสียว ไม่ว่ามือพี่เติร์กจะแตะ จะต้องส่วนไหน ก็ทำให้มันช์เสียววูบวาบไปได้ทุกที่ ยามนี้ เรียวขาบีบเข้าหากันแน่น ขยับถูไถอย่างหวังระบายความใคร่ที่ถูกรุ่นพี่กำลังปลุกปั่น
หมับ
“เฮ้ย! พี่เติร์ก”
ทันใดนั้น มันช์ตกใจอีกครั้ง เมื่อถูกพลิกให้นอนคว่ำ และถูกพี่เติร์กดึงสะโพกให้ยกขึ้นสูง บังคับให้ชันเข่า จนทำให้ช่องทางคับแคบปรากฏแก่สายตาชัดเจนเสียยิ่งกว่านอนอ้าขาท่าปกติ คนที่มีความอายจากการไร้เดียงสาทางด้านเซ็กซ์อยู่แล้วก็ยิ่งอายกว่าเก่า
"พี่เติร์ก..มะไม่เอาท่านี้ได้ไหม!"
มันช์อายมาก และเสมือนว่าการส่งคำขอร้องออกไปจะไม่เป็นผล เพราะ
เฮือก!
สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอนลายกราฟิกจนยับยู่ เมื่อรู้สึกถึงความร้อนชื้นที่ปาดเลียเข้าที่ประตูรัก ก่อนที่ปลายลิ้นพี่เติร์กจะ ตวัดเลียรอบ ๆ จนมันช์เผลอหลุดเสียงครางเพราะความเสียวกระสันแล่นปราดทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้า
มันช์พยายามห้าม แต่คนข้างหลังไม่ฟัง ทั้งยังดันปลายลิ้นเข้าไปด้านใน จนเขาดิ้นพล่าน ส่ายสะบัดหน้าไปมา หอบหายใจจนตัวโยนเพราะความเสียวสะท้านที่ได้รับ เรียวขาแยกออกกว้างด้วยตัวเอง สะโพกเล็กก็ขยับสะโพกรับลิ้นร้อนอย่างน่าไม่อาย
เขาไม่คาดคิดว่าพี่เติร์กจะยอมเลียตรงนั้น และยังไม่ทันเท่าไหร่ มันช์สะดุ้งสุดตัว เมื่อนิ้วเรียวกำลังสอดลึกเข้ามาจนสุดความยาว ใบหน้าแนบลงกับเตียงนอน สองมือก็ยิ่งขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น
เติร์กขยับปลายนิ้วเนิบนาบ ก่อนจะเพิ่มจังหวะหนักหน่วง ได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างที่ทำให้เขาแทบทนไม่ไหว เติร์กพรมจูบตามแนวกระดูกสันหลัง มองคนที่สะดุ้งทุกครั้งที่แตะริมฝีปาก
“พี่...พอ...พอแล้ว.มันเสียว.”
ได้ยินมันช์เอ่ยแบบนี้ทีไร หัวใจเติร์กก็ฟู่ฟ่องพร้อมรอยยิ้มประดับหน้า เขายังคงปรนเปรอทุกอย่างหวังให้อีกฝ่ายพึงพอใจ แต่ไม่นาน คล้ายความอดทนได้พังทลาย เมื่อแรงปรารถนาทะลุถึงเพดานความทนทาน เหลือไว้แค่ความอิสระของร่างกายที่ปล่อยไปตามหัวใจให้นำทาง
เติร์กรวบเอวอีกฝ่าย จับแท่งร้อนของตัวเองที่แข็งจัดดันเข้าสู่โพรงสวาทอันอ่อนนุ่มที่กำลังตอดรัดของเขาอย่างบ้าคลั่ง ของหวานอันล่อตา ล่อใจชวนให้พร้อมล่วงล้ำเข้าไปให้ไวที่สุด แม้ใจอยากจะกระแทกกระทั้นให้สุดแรง แต่หากทำเช่นนั้นก็เกรงว่าจากประทับใจจะกลายเป็นกลัวและขยาดไปอีกตลอดกาล
พั่บ พั่บ พั่บ
ความคิดมาก ความกลัวในตอนแรกของมันช์สลายหายไปทันทีที่ได้รับความเสียว ซาบซ่านแผ่ซ่านมาพร้อมกับความสุข และการเล้าโลมจากฝ่ามือใหญ่ ไหนจะริมฝีปากอุ่น ๆ ที่เชี่ยวชาญด้านการเล้าโลมจนคนที่ตัวแข็งดั่งหินในตอนแรกกลับผ่อนคลาย เมื่อร่างกายได้ถูกล่วงล้ำเข้ามาเพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่ง
ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใดที่จะ
ระเริงรักในวันที่ฝนตกและไฟดับ จนร่างทั้งสองชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ท่ามกลางแสงไฟจากเทียนไขที่ชวนสร้างความโรแมนติก เติมความหวานให้บรรยากาศแห่งการสุขสมของทั้งสองต่างสุขสันต์จากการรุนรานในพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน ผ่านการกระแทก กระทั้น รุกล้ำเข้าสู่ภายใน
ทั้งเจ็บและจุก แต่สุขและประทับใจ
"อ้ะ อ้าาาา พี่เติร์ก อ่าห์"
"มันช์ ซี้ดดดดอ่าห์!!"
และแล้ว ทั้งสองก็ถึงปลายทางของอารมณ์ เติร์กถอนแก่นกายออก ก่อนจะกอดมันช์จากด้านหลัง พรมจูบกลางแผ่นหลังไล่ขึ้นไปยังลาดไหล่ และจับมันช์พลิกมาเพื่อจูบแก้มเบา ๆ และเปลือกตาทั้งสองข้าง
"กูชอบนะ เวลามีอะไรกับมึง"
ฉ่าา
มันช์หน้าร้อนผ่าวยามที่อีกฝ่ายชมออกมา ทั้ง ๆ ที่มันช์ก็ไม่ประสีประสา แต่พี่เติร์กก็ยังชอบและสุขสมในการร่วมรักครั้งนี้ มันช์อมยิ้มก่อนบอก
"ผมก็ด้วย"
"เจ็บไหมมันช์"
"ก็นิด ๆ นะพี่"
เติร์กลูบวนแก้มก้นก่อนจะไล้ไปยังร่องรักของมันช์ ก่อนเอ่ยน้ำเสียงติดกังวล
"ของมึงบวม"
"พี่ไม่ควรพูดไหมวะ" มันช์ว่าและชกอกพี่เติร์กเบา ๆ แต่เติร์กกลับขำและฉวยข้อมือข้างที่ชกยกขึ้นมาจูบหลังมือ แล้วยิ้มมุมปาก
"กูเป็นห่วง"
"ทำไมพี่เก่งจัง ทำบ่อยเหรอ?" คนขี้เขินเปลี่ยนเรื่องบวกกับความสงสัย เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เติร์กถึงสามารถรู้จังหวะการสอดใส่ได้อย่างดีว่าจังหวะไหนควรรุก จังหวะไหนควรถอย
"ถามทำไมให้ทะเลาะ" เติร์กถามเพราะรู้ดีว่า ถ้าตอบออกไป มิวายได้บ้านพัง
ถามเพราะอยากรู้ แต่ความจริงก็ไม่ได้อยากฟังความจริงนักหรอก..
"ก็..."
"มันช์ วันนี้ มึงชอบไหม กูทำให้มึงถูกใจหรือเปล่า ?"
"ผมชอบครับพี่"
"อืม จำไว้แค่นั้นแล้วไม่ต้องถามอะไรอีก จากนี้ ไม่ว่าเซ็กซ์หรือเรื่องอะไร กูจะถนอมมึงและดูแลมึงให้ดีที่สุด เข้าใจไหม?"
ตอนนี้ มันช์รู้สึกดีที่อีกฝ่ายไม่เคยลดละเรื่องความชัดเจนต่อกัน
พี่เติร์กเป็นคนเสมอต้น เสมอปลายเสมอ
"ครับ"
"ไปอาบน้ำเหอะ เริ่มร้อนว่ะ"
"ครับ"
และแล้วพอรุ่นน้องลุกขึ้นถึงเพิ่งรู้ว่าช่วงล่างคงระบมแล้วแน่ ๆ มันช์คิดในใจ ในขณะที่ก้าวเชื่องช้ากว่าทุกที
ไม่เป็นไร ทำต่อไป เดี๋ยวก็ชิน ...(หรือเปล่าวะ?)
..........................................
หวานแหววท่ามกลางไฟดับ วู้ววววววว!
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า อ่านหมดจริง ๆ เป็นกำลังใจมาก ๆ ค่ะ
[/b]