13
เมียเลือดเดือด & หลั๋วใจแคบ
-------------------------------------
เช้าที่ตื่นมามีคนตัวบางนอนขดซุกอยู่ในอก มันให้ความรู้สึกคันยุบยิบๆ ข้างในหัวใจจนหยุดยิ้มไม่ได้เลยให้ตายเถอะ
การมีเมียมันดีแบบนี้นี่เอง รู้งี้หลอกจับเด็กมาทำเมียตั้งนานแล้ว
เขานอนเท้าแขนมองเด็กน้อยที่หลับลึกอย่างไม่นึกเบื่อ ใครจะไปคิดว่าจากครั้งแรกที่เห็นแล้วชอบมากจนหาเรื่องระราน จะกลายเป็นพาตัวเองถล้ำลึกมาทั้งตัวทั้งหัวใจ
แถมยังเป็นการถล้ำลึกที่เขามั่นใจกว่าครั้งไหนๆ ว่าให้ตายยังไงก็ไม่คิดปีนจากหลุมที่ตกลงมาหนีไปไหน แต่อยากจะถล้ำลงไปให้มากกว่าเดิมเรื่อยๆ
คนตัวบางอาจคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรามันเร็วเกินไป แต่เขาที่เกิดมายังไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร คิดว่ามันช้าไปด้วยซ้ำ
หลายวันที่ผ่านมากับความมุ่งมั่นในการจีบน้อง เขาแทบไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก เพราะมันเป็นไปเองทำไปเองแบบนี้มีความสุขเวลาที่ได้ทำอะไรๆ ให้น้องมัน
ต่อให้ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าน้องจะเห็นใจ เขาก็คิดว่าตัวเองจะยังคงมีความสุขไม่เปลี่ยนเวลาที่ได้ทำอะไรๆ ให้
ตอนที่เห็นรูปน้องกับแฟนเก่าในถังขยะ ใจก็แอบเขวไปบ้างเหมือนกัน แต่พอคิดได้ว่าถ้ายังรักเท่าเดิม รูปคงไม่ถูกทิ้ง ค่อยใจชื้นมีแรงลุกขึ้นมาจีบน้องมันต่อ
แล้วก็ไม่ผิดหวัง ในที่สุดก็จีบน้องเป็นเมียได้สำเร็จ
“ขี้เซา ลุกมาแต่งตัวได้แล้ว”
เขายิ้มมองน้องต่ออีกนิด ค่อยยื่นหน้าไปหอมแก้มปลุก ถึงอยากจะนอนมองหน้าใสๆ ไปตลอดทั้งเช้า แต่พอคิดว่าฟ้าสว่างเมื่อไหร่ คนงานอาจผ่านไปผ่านมาในพื้นที่ส่วนตัวแล้วมาเห็นน้องเขา ก็ชักหวงขึ้นมา
อยากจะเก็บน้องซ่อนไว้ในห้องไม่ให้ใครมาเห็นเลยจริงๆ กลัวโดนแย่ง
“ยังไม่เช้าเลย ขอนอนต่ออีกนิดนะ” หลงงอแงทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา
“ได้ ถ้าให้พี่ต่ออีกยก”
ถ้าให้จริงก็เอาอยู่ เสียงน้องตอนนี้เซ็กซี่พอๆ กับตอนนอนอยู่ใต้ตัวเขาเลย
“พอแล้ว ปวดจะแย่”
หลงรีบลืมตาผลักเขาออกห่าง ยอมลุกขึ้นมาให้จับแต่งตัว หน้าตาไม่สบอารมณ์นัก คงเพราะถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น
“กลับไปนอนต่อที่บ้านนะ เดี๋ยวพี่นวดให้ นอนตรงนี้เดี๋ยวคนงานผ่านไปผ่านมา พี่ไม่อยากให้ใครเห็นหลงมาก...หวง”
“พอเลย เป็นแฟนกันแล้วไม่ต้องมาหยอดมาก”
ถึงจะงึมงำผลักเขาออกห่าง หน้าหลงก็แดงเหมือนทุกครั้งที่โดนผมหยอด และก็เหมือนทุกครั้งที่เขาอยากฟัดโคตรๆ แต่ติดที่ตอนนั้นยังจีบไม่ติด
แต่ตอนนี้...
“อื้อ มาเลียผมทำไมเนี่ย”
แค่เลียปากไปทีเดียว หลงก็ถลึงตาใส่ ผลักหัวเขาที่ซุกเข้าหาจนแทบหัวทิ่ม...จะเขินแรงไปไหน
“ก็หลงน่ารัก ถ้าไม่กลัวคนอื่นผ่านมาเห็น พี่จะจับกินอีกรอบจริงๆ ด้วย”
“หื่น”
ด่าแต่หน้าแดง ก็เป็นซะแบบนี้ ใครจะอดใจไหว
“หื่นแล้วชอบไหม”
“พอเลย...กลับกัน ผมง่วงอยากไปนอนต่อ”
“ครับ เจ้านาย”
เขาลากเสียงยาวรับคำ แล้วก็ได้เห็นหลงหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ
ดูเหมือนคำว่า ‘เจ้านาย’ จะไปจี้ให้น้องมันคิดไปถึงวันแรก ยอมรับว่าตอนเรียกเขาก็แอบคิดเหมือนกัน
พอปากกระตุกๆ จะยิ้มก็โดนหลงถลึงตาใส่ทั้งที่ยังหน้าแดง เขารีบยิ้มประจบ แล้วพาอีกฝ่ายขึ้นรถกลับบ้าน ปล่อยข้าวของกับเต็นท์ไว้ที่เดิม เผื่อรอบหน้าได้ใช้อีก
นอกสถานที่บ่อยๆ ก็เร้าใจดีเหมือนกัน
ตอนพวกเรากลับถึงบ้าน รถของป้านีที่ไม่กลับไร่มาเนอาทิตย์ นอกจากโทรมาสั่งฝห้ป้าคำปันให้คนขับรถเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนก็จอดที่โรงรถแล้ว
เขานึกเดาปฏิกิริยาตอนป้านีรู้ว่าได้หลานสะใภ้เป็นผู้ชายไม่ออก แต่ก็อยากจะเห็นเร็วๆ เลยเร่งจูงมือหลงที่ยังกลับมานั่งหลับมาในรถขึ้นเรือน
ฟ้ายังไม่สางแบบนี้ ปกติป้านีจะยุ่งง่วนอยู่ในครัวกับป้าคำปัน แต่วันนี้ต่างไปจากเดิมคงเพราะรู้ว่าเมื่อคืนเขากับหลงไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน เลยนั่งจิบชารออยู่ที่ระเบียง
“ป้านีกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เขาลากคนตัวบางเข้าไปใกล้ ยิ้มทัก ยังเห็นว่าสายตาป้านีหยุดที่มือเขาที่จับมือหลงไว้แว๊บหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมและเลยมายิ้มกว้างให้หลงที่ตัวแข็งค้างท่าทางเกร็งสุดๆ
“ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แล้วนี่ไปไหนกันมา”
“ไปค้างคืนที่ไร่มาครับ นี่หลง...รุ่นน้องนายเสือ แฟนผมเอง” ถ้าไม่กลัวหัวใจป้าจะวาย ก็อยากบอกอยู่หรอกว่าน้องเป็นเมียผม
“พี่สิงห์! ”
หลงตกใจกับคำแนะนำจนร้องลั่น หันมามองหน้าผมสลับกับป้า หน้างี้ซีดเชียว แต่ก็รีบยกมือไหวป้านีปลกๆ น้องคงกลัวว่าป้านีจะจะไม่ยอมรับเรื่องของเรา หารู้ไม่ว่าคุณป้าสุดสวยของเขาเป็นคนสมัยใหม่ที่เปิดกว้างมาก
“สิงห์อย่าทำน้องตกใจ” นั่นไงเพิ่งแนะนำจบ ป้าก็หันมาดุเขาเสียงขุ่นแล้ว
“ก็เรื่องจริง ผมเพิ่งล่อลวงได้สดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนเลย”
“พี่สิงห์! ”
หลงร้องลั่น หน้าแดงสลับซีด ตัวสั่นจนเขาชักรู้ตัวว่าทำเกินไป แต่ลองใครมีแฟนน่ารักอย่างเขา ก็ต้องอยากอวดทั้งนั้นล่ะ แต่น้องคงยังไม่พร้อมจริงๆ
“ไหนมาให้ป้าดูหน้าหน่อย”
ป้านีเองก็คงเห็นเหมือนกัน เลยส่งยิ้มอ่อนโยนสุดๆ พร้อมกับกวักมือเรียกหลงให้เข้าไปหา
“ไปเถอะ”
น้องเงยหน้าขึ้นขอความเห็น ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เขาเลยดันหลังเบาๆ ผลักให้ขยับเข้าไปหาป้านี
“ป้านี”
เสียงหลงสั่นมากตอนที่ส่งยิ้มให้ป้านีที่จับเนื้อจับตัวหมุนซ้ายหมุนขวา แล้วหยุดจ้องที่คอ เขาเห็นหลงยิ่งก้มหน้างุดเพราะรอยเก่ายังไม่หาย เมื่อคืนเขาก็เพิ่มรอยใหม่เข้าไปซะรอบคอ
“น้องตัวเล็ก อย่ารุนแรงกับน้องให้มากนัก”
นั่นไง สุดท้ายก็เป็นเขาที่โดนป้านีถลึงตาดุใส่จนได้
“ก็น้องน่ารัก ผมอดใจไม่ไหว”
“...” หน้าหลงที่ก้มต่ำเหมือนจะมุดต่ำลงไปอีก ท่าทางบอกชัดว่าอายจนโกรธไปแล้ว
เพียะ!
“แกล้งน้อง”
ป้านีไม่ดุเปล่ายังฟาดแขนเขาสุดแรง เจ็บแต่คุ้มเพราะเขาแอบเห็นหลงเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้าง ตางี้บอกชัดเลยว่าสะใจ
ฟาดเขาแล้วป้านีก็ดึงตัวหลงนั่ง ร้องสั่งเด็กในบ้านให้อุ่นนมมาให้หลง ส่วนเขาถูกปล่อยให้ยืนเป็นหมาหัวเน่า ฟังป้านียุหลงที่ท่าทางหายเกร็งแล้ว เวลาป้านียุก็พยักหน้ารับรัวๆ เข้ากันเหมือนเป็นป้าหลานแท้ๆ เลยทีเดียว
เห็นแฟนตัวเองเข้ากับญาติผู้ใหญ่ได้ ต่อให้จะถูกกันออกนอกวงก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ หลง นั่งฟังอย่างอารมณ์จนเหลือบเห็นเสือเดินกระแทกเท้าตึงๆ ขึ้นบ้านมาทั้งหน้างอง้ำเป็นม้าหมากรุก
“วันนี้มาเรือนใหญ่แต่เช้าเลย ใครไปบอกว่าป้านีกลับมา”
“ใช่ที่ไหนกัน เมื่อวานตอนป้าจะกลับยังเห็นอยู่ไร่นู่นเลย ไม่รู้ทะเลาะอะไรกับน้องปรีย์ ตอนป้ากลับมายังโดนถีบตกน้ำไปรอบหนึ่ง เมื่อคืนนอนอยู่ไร่นั้นใช่ไหมเสือ”
“ครับ”
“ถีบตกน้ำ”
เสือตอบเสียงขุ่น หันไปส่งสายตาจะกินเลือดกินเนื้อหลงที่หลุดหัวเราะงึมงำเบาๆ แต่ก็ได้ยินกันหมด
“ตัวดี เดี๋ยวเถอะ”
ดูท่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องอะไรกันมาก่อนแน่ น่าจะเกี่ยวกับที่เสือโดนเด็กปรีย์ถีบตกน้ำ พอหลงหัวเราะเสือก็ชี้หน้าคาดโทษ
เขาปัดมือเสือออกห่าง ส่งสายตาปราม นาทีนี้แฟนข้าใครอย่าแตะ!
“นั่น...มีปกป้องกันด้วย สรุปว่าใจอ่อนแล้ว?”
“ผมใจไม่แข็งเท่าเด็กบางคนหรอก น่าสงสาร คงต้องพยายามอีกนานเลยเนอะเฮีย”
บทหลงจะกวนตีนก็กวนตีนได้น่ารักสุดๆ เขาอมยิ้มมองสบตากับป้านี รู้ๆ กันอยู่ว่าเสือกับเด็กปรีย์มีซัมติงกัน แค่ไม่พูดออกไปเท่านั้น
“เออๆ ทำปากดีไป จริงๆ วันนี้ก็ว่างอยู่ ว่าจะแวะเข้าไปเอารถให้เด็กปากดีแถวนี้ สงสัยคงต้องปล่อยไว้สักปีค่อยไปเอาให้”
เสือไม่ตอบโต้แต่ยกเอาเรื่องรถอะไรสักอย่างขึ้นมาขู่ ท่าทางหลงกระตือรือร้นขึ้นมาจนเขาหูผึ่งตั้งใจฟังมากขึ้น
“รถผมเสร็จแล้วเหรอ เฮียพาผมไปเอาหน่อยนะๆ ”
“ไม่ หมั่นไส้เด็กปากดี ปล่อยไว้สักปีนั่นล่ะ”
“เฮีย”
“หลง! ”
เห็นหลงทำหน้าทำตาอ้อนเสือ เขาแทบจะหิ้วคอน้องมันกลับไปขังไว้ในห้อง ไม่ให้มาทำหน้าทำตาอ้อนใครนอกจากตัวเอง
ดุเรียกออกไปคำหนึ่ง หลงสะดุ้งทำหน้าเจื่อนขานรับเสียงเบา
“ครับ”
“ใช้คันที่ล้มมารึเปล่า”
“คะ...ครับ”
“อ้าว หลงรถล้มเหรอลูก แล้วเป็นยังไงบ้าง น้องเจ็บทำไมยังรุมแกล้งน้องอยู่อีก”
ก่อนเขาจะดุหลง ป้านีก็โวยวายขึ้น จับเนื้อจับตัวหลงหาแผลที่เริ่มตกสะเก็ดแล้ว ก่อนจะหันมาถลึงตาดุใส่พวกเราพี่น้อง
“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ แค่ถลอกนิดหน่อยเอง”
หลงยิ้มตอบเสียงอ่อน น้ำเสียงกับท่าทางเหมือนตอนท่เขาได้ยินเวลาคุยกับหม่าม้าไม่มีผิด ต่อให้ไม่ใช่ผู้ใหญ่ เขาฟังยังเคลิ้มเลย
“ครั้งที่แล้วถลอก แล้วถ้าครั้งหน้าเจ็บหนักกว่านี้ล่ะ” แต่เคลิ้มได้ไม่นานก็ต้องปรามน้องมันไว้ก่อน
“ผมคงไม่ซวยล้มบ่อยขนาดนั้นหรอก มือชั้นนี้แล้ว”
“พี่ไม่อนุญาตให้ขี่แล้ว อยากไปไหนก็บอกพี่จะไปส่ง ไม่งั้นวันหลังพี่จะสอนขับรถยนต์ จะไปไหนจะได้ขับไปเองได้”
“ผมไม่ชอบขับรถยนต์ ผมจะขับมอ’ ไซค์”
หลงชักเสียงแข็งแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ดูท่าแล้วคงจะดื้อตาใสอยู่เหมือนกัน
“สามคนฟังป้าก่อน หลงลูก...เราเพิ่งรถล้มยังเจ็บไม่หาย สิงห์คงเป็นห่วงไม่อยากให้ขี่รถตอนที่ยังไม่หายดี เอาเป็นว่าวันนี้ก็เข้าเมืองไปทั้งสามคนนั่นล่ะ เสือไปขี่รถน้องกลับไร่ ส่วนสิงห์ไปขับรถส่งน้องไปแล้วพากลับมา ไว้หายดีแล้วอีกสักพักค่อยขี่นะลูก”
“ครับ”
พอป้านีออกหน้า จากที่เสียงแข็งๆ หลงก็เสียงอ่อนพยักหน้าตอบรับอย่างจำยอม เขาแทบอยากจะยกนิ้วโป้งส่งให้ป้านีที่แอบยิ้มพยักหน้าส่งมาให้ แล้วอยากจะหันไปตบกะโหลกนายเสือสักทีสองที โทษฐานที่มาบอกเรื่องรถซ่อมเสร็จให้หลงต้องไปเสี่ยงกับหนังหุ้มเหล็กอีกรอบ
‘ผมขอโทษ’
เสือเหมือนจะรู้ตัว ขยับปากพูดไม่มีเสียง แต่ยังไงก็ไม่ทำให้เขาหายเคืองง่ายๆ ไว้มีโอกาสจะเอาคืนให้จำทางกลับบ้านเล็กไม่ได้เลย
---------------------------------------------
เพราะมีป้านีคอยควบคุม พอบ่ายคล้อยเขาเลยได้ทำหน้าที่พลขับขับรถให้หลงนั่งกอดอกน่าบึ้งมาข้างๆ ส่วนนายเสือที่นั่งประกบมาข้างหลังก็เสมอต้นไม้ใบหญ้าข้างทาง ลอยตัวเหนือปัญหาทุกทาง
เขาเองก็ไม่ค่อยอยากพูดอะไรมากตอนมีคนอื่นอยู่ด้วย ได้แต่ปล่อยให้หลงงอนเพราะถูกห้ามขี่รถไปก่อน
ถึงเสือจะแอบมากระซิบบอกแล้วก็เถอะว่าน้องมันดื้ออยู่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ขนาดที่ว่าปกติเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่บ้าน หม่าม้าสุดที่รักของน้องยังทนลูกอ้อนห้ามไม่ได้
แต่ห่วงก็คือห่วง จะให้เขาเปลี่ยนใจไม่ห้าม เขาทำไม่ได้จริงๆ
“หลงอยากแวะไหนก่อนไปอู่ไหม”
ถึงตั้งใจจะเคลียร์กันทีหลัง แต่เห็นหลงเอาแต่หน้าบึ้ง เขาก็ชักใจไม่ดี ถามออกไปเสียงอ่อน ยังได้ยินเหมือนเสียงเสือมันหลุดหัวเราะหึหึอยู่ข้างหลัง ต้องถลึงตาใส่มันผ่านกระจกมองหลังไปรอบหนึ่งมันถึงได้กลับไปทำตัวเป็นอากาศธาตุเหมือนเดิม
“ผมอยากไปอู่เลย”
พอเขาเสียงอ่อนใส่ หน้าบึ้งๆ ของหลงก็ดีขึ้นมาหน่อย เขาค่อยอารมณ์ดีพอจะถามเสือ
“อู่เดิมประจำใช่ไหมเสือ”
“อืม” เสือตอบรับเบาๆ แล้วเหมือนชะงักสบถออกมาลั่นรถ “เชรี่ย โลกจะกลมไปไหน”
“เจอใครเหรอ”
เขาเหลียวไปมองหน้าต่างฝั่งเสือที่นั่งฝั่งเดียวกับหลง หลงเองก็มองไปแล้วชะงักเหมือนกัน
ภาพที่พวกเราเห็นคือเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังถูกผู้ชายรุ่นเดียวกันนายเสือฉุดกระชากเข้าไปในคลินิกแห่งหนึ่ง
เพราะรู้สึกคุ้นๆ หน้าเด็กผู้หญิงที่ร้องห่มร้องไห้พยายามขืนตัวหนีคนนั้น เขาเลยชะลอรถตบไฟเข้าข้างทางแต่ยังไม่จอดซะทีเดียว
“น้ำริน!”
หลงร้องขึ้นมาได้คำหนึ่งก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออก ทำท่าจะกระชากประตูกระโจนลงรถทั้งที่รถยังไม่จอดสนิท
“หลง! จะทำอะไร”
หัวใจเขาร่วงลงไปกองกับพื้น แตะเบรกจนหัวเกือบทิ่มกันทั้งคันเพื่อจะคว้าแขนหลงไว้ไม่ให้ทำอะไรบ้าๆ อย่างการกระโดดลงรถ
“ปล่อย”
มันตวาดบอกเสียงเกรี้ยวกราดลบภาพเด็กน่ารักในใจเขาไปจนหมด เขาอึ้งตะลึงจนน้องมันกระชากแขนพุ่งลงจากรถตรงไปหาเด็กผู้หญิงที่กำลังโดนลากเข้าไปในคลินิกไม่สนใจเขาสักนิด
“ใครวะเสือ”
“น้ำริน แฟนเก่าหลง อย่าเพิ่งถามมากเลย จะต่อยกันแล้วนั่น”
เสือบอกแล้วเปิดประตูลงรถวิ่ง แต่ช้ากว่าเขาที่พุ่งลงไปตั้งแต่ได้ยินว่าไอ้คนที่ลากเด็กผู้หญิงจะต่อยหลงแล้ว
เราสองคนวิ่งยังไม่ทันถึง อย่าว่าแต่จะเอาตัวเข้ากันหลงไม่ให้ถูกต่อยเลย มังกรแคระของเขาสวมบทโหดซัดไอ้คนที่ลากแขนเด็กผู้หญิงจนล้มคว่ำ แล้วพุ่งเข้าไปกระทืบซ้ำไม่ยั้ง
“หน้าตัวเมีย ไหนมึงลองพูดอีกที...กูบอกให้พูด!” หลงเกรี้ยวกราดไม่หยุด ทั้งที่น้ำรินพยายามยื้อไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
มันเป็นหลงในมุมของเด็กผู้ชายเลือดร้อนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งเกรี้ยวกราดเพื่อแฟนเก่า เขายิ่งโคตรไม่อยากเห็น
“หลง พอแล้วรินขอ”
น้ำรินร้องไห้ฟูมฟายแทบจะยกมือไหว้ขอร้องหลงอยู่แล้ว
“ทำไมต้องขอร้องแทนมัน ทำไมต้องยอมมัน รินเป็นแม่เด็กนะ ถ้าพ่อเลวๆ มันไม่ยอมรับทำไมไม่บอกเรา เราไม่ได้ปล่อยมือจากรินเพื่อให้รินมาอยู่กับผู้ชายเชรี่ยๆ ที่คิดจะฆ่าได้แม้แต่ลูกตัวเองนะ”
“หลง”
“กูถึงได้บอกไงว่าอีนี่มันร่าน มันคบกับมึงแล้วยังมานอนกับกู แล้วจะให้กูแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กเป็นลูกกู มึงเองก็เถอะ มึงแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นลูกกูหรือลูกเมิง ไม่แน่นอกจากพวกเราแล้วมันก็อาจจะไปนอนกับใคร...”
“ไอ้เชรี่ย”
ปากหมาๆ ของคนที่โดนต่อยคว่ำยังไม่ทันได้พ่นคำพูดออกมาจบ หลงเหมือนยิ่งคลั่ง กระชากมือน้ำรินจนเสียหลักล้มแล้วพุ่งเข้าไปกระทืบมันไม่ยั้ง
“โอ๊ย”
“หลงพอก่อน น้ำรินแย่แล้ว”
ในตอนที่เขายืนอึ้ง เสือก็เข้าไปลากตัวหลงออกมาตวาดให้หันไปมองน้ำรินที่ล้มลงไปกุมท้องนิ่วหน้าร้องด้วยความเจ็บ
“ริน!”
เป็นอีกครั้งที่สีหน้าท่าทางหลงเปลี่ยนกลับเป็นห่วงใย แล้วก้มลงช้อนตัวน้ำรินอุ้มตะโกนบอกผมเสียงกร้าว
“พี่สิงห์พาผมกับรินไปส่งที่โรงพยาบาลที”
“เสือ นายพาไปที”
ให้เขาขับรถตอนนี้ บอกเลยเขาไม่มีน้ำใจนักกีฬาพอ ได้แต่ยื่นกุญแจรถส่งให้เสือที่รับไปแล้วพากันไปเปิดประตู
รถพุ่งออกไปนานแล้วแต่เขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหมือนโลกพลิกเปลี่ยนไปหมดกับหลงในมุมของเด็กผู้ชายบ้าเลือดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็นมุมที่พลิกเปลี่ยนไปเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่เขา
ไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ข้างถนนนานแค่ไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ปากหมาที่พาน้ำรินมาเข้าคลินิกทำแท้งคลานหนีไปตอนไหน
ตอนที่มาถึงไร่เพราะโทรให้นนท์รับตัวมาส่ง เขาก็ขอบคุณไปได้แค่สองสามคำแล้วพาตัวเองที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปที่เต็นท์ไร่ชาในมุมส่วนตัว นั่งอยู่กลางแดดจ้าตอนบ่ายสามก็ยังไม่รู้สึกว่ามันร้อนเท่าหัวใจตัวเองตอนนี้
อาจจะจริงอย่างที่หลงบอก เรื่องระหว่างเราเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป และก็เป็นเขาที่ไม่ยอมรอ พยายามตื๊อจีบน้องจนน้องใจอ่อน พอน้องได้กลับมาเจอแฟนเก่า แผลยังไม่ตกสะเก็ดดีมันก็เลยกลายเป็นแบบนี้
ที่เขาควรทำคือเว้นระยะ ปล่อยให้น้องได้มีเวลาคิดทบทวนเป็นจริงเป็นจังอีกสักครั้ง ถึงสุดท้ายคำตอบมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง มันก็ยังดีกว่าเป็นได้แค่คนคั่นเวลาระหว่างที่น้องมันยังสับสนในตัวเองอยู่
“พี่สิงห์”
เวลาผ่านไปจนเย็นย่ำ เสียงรถแล่นมาจอดข้างหลัง ไม่นานเสียงเสือก็เรียกอยู่ข้างหลัง เขายังนั่งพิงเต็นท์ไม่ได้เหลียวไปมอง มันเลยถามตรงเข้ากลางใจ “คิดเรื่องหลงอยู่เหรอ”
“อืม”
“จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรมากเลย ก็แค่น้องมันโมโหที่รู้ว่าแฟนเก่าตัวเองถูกผู้ชายคนใหม่บังคับให้ไปทำแท้ง เด็กน้ำรินนั่นคบซ้อนแล้วมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นจนท้องแต่มันไม่รับผิดชอบ ดีที่ผ่านไปเห็นก่อนถึงห้ามไม่ให้ทำแท้งได้ นี่ผมก็เพิ่งไปส่งเด็กนั่นที่หอมา หลงก็กลับมาพร้อมกับผมนะ เขาสองคนไม่ได้มีอะไรกันแล้ว แค่ห่วงตามประสาคนเคย...เคยเป็นเพื่อนกันน่ะ พี่สิงห์คงไม่ได้คิดใช่ไหม”
เสือเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างๆ พยายามอธิบายยืดยาว
“คิด” เขาถอนใจตอบกลับไปสั้นๆ
“คิดว่าอะไร”
“คิดว่าจะปล่อยน้องมันไปสักพัก”
เขาบอกอย่างที่ใจคิด กับเสือไม่เคยมีเรื่องอะไรปิดบัง เพราะถ้าขืนปิด เขาคงได้อกแตกตายอยู่คนเดียวแน่
“เฮ้ย เมื่อกี้พี่ได้ฟังผมพูดรึเปล่าเนี่ย”
“เพราะฟังไง ถึงคิดว่าจะปล่อย”
“ปกติพี่เป็นคนมีเหตุผลนี่ ทำไมรอบนี้ใจแคบนักวะ ก็แค่แฟนเก่าเจอกันป่ะ ต่อให้ไม่ใช่แฟนเก่าแต่เป็นเพื่อนผู้หญิง เป็นผมเห็นโดนลากเข้าไปขนาดนั้น ผมก็เข้าไปห้ามเหมือนกัน” เสือโวยวายลั่น
“ก็อาจจะจริง ฉันมันใจแคบ ทนไม่ได้ที่เห็นมันท่าทางปกป้องผู้หญิงคนอื่นขนาดนั้น ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นสายตาอาลัยอาวรณ์เวลาที่มันใช้มองแฟนเก่า แล้วยิ่ง...”
เขาก้มลงจ้องมือข้างที่ถูกหลงสะบัดออกขึ้น กำมันเข้าหากันแน่น
ตอนที่โดนสะบัดมือทิ้ง มันเหมือนหัวใจเขาก็โดนผลักทิ้งตามไปด้วย รู้สึกได้เลยว่าเวลาไม่กี่วันมันเทียบไม่ได้เลยกับห้าปีระหว่างเด็กสองคนนั้น
ก็แค่หึง...น้อยใจ แล้วก็อิจฉาโคตรๆ
มันมีหลายความรู้สึกสับสนปนเปกันไปหมด แต่ที่ชัดมากๆ คือชอบน้องมันมากถึงขั้นอยากครอบครองไว้คนเดียว ไม่อยากให้มีอดีตร่วมกับใครที่เขาไม่รู้ ไม่อยากให้มันคิดถึงและทำเพื่อใครที่ไม่ใช่เขา
ถึงจะรู้ว่าที่ตัวเองเป็นมันงี่เง่าสุดๆ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ เลยต้องพาตัวเองถอยห่างออกมาก่อนจะไปทำตัวงี่เง่าไม่เป็นผู้ใหญ่ใส่น้องมัน
“ฉันเองก็อยากได้เวลาเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่ทบทวนความรู้สึกตัวเองสักพักคงจะดี” เขาถอนใจยาว หลบเลี่ยงที่จะบอกความรู้สึกจริงๆ ออกไปทั้งหมด
“อย่างี่เง่านะพี่ ผมเอาใจช่วยเรื่องของพี่กับหลงอยู่”
เสือทำเหมือนเข้าใจ มันไม่พูดอะไรแต่ยื่นมือมาตบไหล่เขาเบาๆ เขาถอนใจพยักหน้าตอบรับ ไม่ได้พูดอะไรกับมันอีก
-------------------------------------------------
หวานกันมาทั้งเรื่องแล้ว มาขมต่อท้ายกันมั้งเนอะ ^ ^