บทที่ 7
"อือออออย่ากวน" ผมครางเสียงแผ่วพร้อมมุดผ้าห่มหลบมือสากที่ระรานแก้มผม เตียงนุ้มนุ่ม หลับสบายสุดๆ
"เร กูจะนอน" ยื้อยุดฉุดกระชากผ้าห่มจนท้ายที่สุดก็แพ้ ได้แต่พลิกตัวหันหลังให้ มีหรือมันจะรามือเพราะไอ้ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้มทำเอาผมตื่นเต็มตา หน้าเหน้อนี่แดงไปหมด
"เชี่ย!!! โอ๊ะ" คนจะหลับจะนอนกวนอยู่ได้ ผมลุกพรวดมาอาละวาดมัน แต่ถึงกับร้องลั่นเมื่อเจ็บร้าวไปทั้งก้นลามยันหลัง
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดและเดาเรื่องเมื่อคืนไปแบบนั้น น้องมีนผู้นี้หาได้เสียซิงตูดให้ใครไม่ แต่ที่เจ็บจะเป็นจะตายเพราะผมนอนตกเตียงเมื่อคืน เดือดร้อนเรต้องลากผมกลับขึ้นไปนอน ผมเป็นคนนอนดิ้นเผลอละเมอถีบมันไปหลายดอกสุดท้ายเลยโดนมันรวบกอดไว้เป็นหมอนข้างไม่ให้กระดุกกระดิก สมน้ำหน้ามัน เสือกบังคับให้ผมค้างด้วยเอง แต่ถ้าถามว่าทำไมผมยอมนอนค้างกลับมันละก็
เอิ่ม...เอ่อ...คือ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังแล้วกันเผื่อจะเข้าใจ
10 ชั่วโมงที่แล้ว สมองผมกำลังประมวลผลผิด ๆ ถูก ๆ เมื่อเรมันออกปากจะลบรอยจูบให้ คือ...คิดไม่ออกไงว่ามันจะใช้วิธีไหน แต่จำต้องผวาเมื่อจู่มันดึงผมไปนั่งบนตักแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ กูควรขัดขืนใช่ไหม หรืออยู่นิ่งๆ หรืออะไร
โว้ยยยยย! รวนไปหมดแล้วครับ ดวงตาสีน้ำเงินสงบนิ่งบวกกับรอยยิ้มบาง ๆ เชี่ย...หล่อวะ เหอ ๆ เป็นบ้าอะไรผม ไปชมผู้ชาย โดนเพื่อนบิ้วมากจนเบี่ยงเบนไปแล้วสิเรา
ตึก...ตัก...ตึก...ตัก รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นไวขึ้น มันต่างกับตอน้เรนจู่โจม ความรู้สึกในตอนนั้นคือผมตระหนกและอยากถีบมันไปไกลๆ ทีกับคนตรงหน้ามันไม่ใช่ ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันแต่กลับทำไม่ได้แม้แต่หลบตา ราวกลับโดนมันตรึงไว้ตรงนั้น
...มันชอบผมจริงหรอวะ...ถ้าจริง บอกไอ้มีนทีซิว่ามันเห็นเสน่ห์อะไรในตัวไอ้ผม ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง ทั้งชีวิตไม่เคยมีผู้ชายมาชอบเลยนะเว้ย
"เรนทำอะไรมึงบ้าง" มันถามขึ้น ต้องอธิบายหมดเลยหรอ ถึงน้องมีนจะเรื้อนจะเกรียนแค่ไหนน้องมีนก็มียางอายนะครับ ใครมันจะไปนั่งเล่าเหตุการณ์ตอนโดนผู้ชายกดได้วะ
"ว่าไง" เฮือก!ผมละแพ้สายตาดุๆ ของมันซะจริง
"มันดึงกูเข้าไปกอด" ผมสะดุ้งเมื่อไอ้เรรวบกอดผมแน่นขึ้นจนกลายเป็นนั่งคร่อมตักมันแทนสถานการณ์ล่อแหลมชะมัด
"แล้ว... มันก็ จ...จูบ"
จุ๊บ! ฉ่า...หน้าผมร้อนเมื่อจู่ ๆ เรก็จูบปากผมไปที
ช๊อค!!! ไอ้มีนช๊อค ผมพยายามผลักมันออก มึงแรงเยอะหรือกูไม่มีแรงวะ
"ปล่อยเว้ยยย!!! อย่ามาเล่นเหมือนน้องมึง กูไม่เล่าแล้ว กู อื้อ" ยังไม่ทันแหกปากก็โดนมันจับปิดปากด้วยปากไปเสียแล้ว จูบของมันเยือกเย็นเหมือนบุคลิก เชื่องช้าแต่มั่นคง ทำเอาผมที่ขัดขืนในทีแรกถึงกับคล้อยตาม เพราะริมฝีปากผมตอนนี้มันโดนละเลียดชิม ขบเม้ม บดเบียดชวนให้เคลิบเคลิ้มจนลิ้นร้อนแทรกเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"อืม..." เหมือนโดนสูบพลังงานไปจากร่างจนแทบทรงตัวไม่อยู่...แล้วผมจะเอาแขนคล้องคอมันเพื่อ!
พยายามตั้งสติบอกตัวเองว่ามันไม่ปกติที่ต้องมาจูบกับผู้ชาย แต่ไอ้ลิ้นชื้นๆ ที่ไล่ต้อนหยอกล้อในเรียวปาก ทำเอาสติกระเจิดกระเจิง รู้ตัวอีกทีเมื่อเรมันยอมถอยให้ผมได้พักโกยอากาศเข้าปอดก่อนจะได้ขาดใจตาย ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบใคร แต่ไอ้ท่อนไม้นี่มันจูบเก่งเกินไป
"ไม่เล่าแล้วได้ไหม" เล่าต่อแล้วมันทำตามหมดผมคงแย่แน่
"ไม่ต้องเล่า...เดี๋ยวเดาเอง"
ผมว่าเรมันจินตนาการล้ำเลิศไป รู้แล้วว่าเรียนศิลปะแต่ไอ้ที่มึงเดามันเกินกว่าที่น้องมึงทำเปล่าวะ
"อ๊ะ อย่ากัดกู" แง...น้องมีนน้ำตาจะไหล ลบรอยบ้านมึงสิครับ แม่งกัดซ้ำด้วย แล้วมึงจะทำเพิ่มทำม้ายยยยย
"อา...เสื้อ...อย่า อือ" ใครคราง ผมเปล่านะ แล้วไอ้ที่นอนราบบนโซฟาเนี่ยผมเมื่อยหรอก...ว่าแต่เฮ้ย! กระดุมถูกปลดจนหมดตั้งแต่เมื่อไร? ใบหน้าคมซุกไซ้ซอกคอชวนให้จั๊กจี้ ริมฝีปากร้อนๆ ทำเอาสะท้านในทุกสัมผัส ริมฝีปากร้อนนาบลงบนร่างนำพาให้ลมหายใจติดขัดยิ่งขึ้นเมื่อมันไล้ต่ำลงเรื่อยๆ พร้อมกับมือกร้านที่ลูบ้ไปตามตัว ความรู้สึกแปลกๆ เริ่มถาโถมจนทั้งร่างสั่นอย่างคุมไม่อยู่ ทั้งอารมณ์อย่างว่า ทั้งสับสน ทั้งกังวล มันไม่ได้รู้สึกดีแต่ก็ไม่ได้เกลียด
ไม่ พอแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้ "เร...พอแล้ว หยุด...ขอร้อง...หยุดสิวะ" ผมร้องเสียงดัง ้เรมันยอมหยุดแต่ไม่วายมองผมอย่างงุนงง ผมหลบตามันพลางหอบฮัก พยายามข่มใจตัวเองให้เต้นช้าลงแล้วตั้งสติ
"ชอบกูจริง ๆ เหรอ" มันไม่ตอบ แต่กลับพลิกผมให้ขึ้นมานอนบนตัวมันพร้อมกดหัวให้ซบลงบนอกแล้วลูบเบาๆ จนเริ่มสงบ
"มึงก็เป็นแบบเนี่ย ให้กูเดาเองตลอด" ชอบเงียบใส่ คิดแล้วโมโหเผลอทุบอกมันดังอั๊ก
"กูยังไม่รู้วะ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่ไอ้เรนบอกเท่าไหร่ มึงอาจจะเล่นๆ เหมือนที่ทำกับพี่ลูกแก้ว" ผมไม่ได้โง่หรอกว่าสองคนนั้นเขาหายไปไหนกัน
"หรือถ้ามึงชอบกูจริง กูควรตอบรับความรู้สึกมึงยังไง เพราะมึงก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ตอนนี้กูรู้สึกแบบไหนก็ยังอยากหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ มึงเข้าใจกูใช่ไหม"
"อืม" มันกอดผมแน่นขึ้น อุ่นดีจัง เอาเป็นว่าผมจะลองเปิดใจกับมันดูแล้วกัน แต่แบบ...จะอยู่แบบนี้อีกนานไหม เดี๋ยวคึกอีกผมจะซวยเอานะ
"เอ่อ จะกลับแล้ว ปล่อยเถอะ"
"นอนนี่แหละ" มันบอก ผมว่ามันแอบพูดเยอะกว่าปกตินะ
"คิดถึง อยากกอด" โดนไปอีกดอก แหงสิไม่เจอกันตั้งสามสี่วัน ว่าแต่...มึงใช่เรที่กูรู้จักแน่นะ
เฮ้อ...แล้วผมจะไปไหนได้ เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นตามนั้นแหละครับ...เห็นไหมว่าไม่มีอะไรเลย อิอิ
หลังจากโดนเรกวนจนไม่สามารถนอนต่อได้ผมจึงยอมลากสารร่างมาอาบน้ำตอนเกือบเที่ยง ชอบอ่างอาบน้ำห้องมันชะมัด ได้หลับตาแช่น้ำแล้วฟิน บ้านผมอยู่ริมโขงตอนเด็กว่ายเล่นประจำ ผมชอบเล่นน้ำแต่เด็กแล้วครับ ย่าบอกเหมาะกับชื่อผมไงเพราะ มีนแปลว่าปลา แต่พอย้ายมาอยู่ในเมืองก็เลยห่างหาย แต่ก็มีไปว่ายที่สระบ้างนานๆ ที
"
แว๊กกกกกกกก มึงเข้ามาได้ไง" ลืมตาทีแบบ**กรี๊ดดด!?** เมื่อคนที่ควรรออยู่ข้างนอกมันยืนหน้าสลอนพร้อมผ้าขนหนูในมือ คือ...ผมว่าผมล๊อคประตูแล้วนะ เชี่ยๆ จ้องเพื่อ!? กูอายเป็นนะ...แหนะยังจะมายิ้มมุมปาก
"เอาผ้ามาเลย" คว้าผ้ามาห่อตัวลวก ๆ พลางดันมันออกไปจากห้องน้ำ ปากมันไม่พูดแต่สายตามันเนี่ย เทะโลมผมได้ตลอด หน้ากลัวกว่าโดนแซวอีก
-♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ -
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องขณะที่ผมกำลังรื้อตู้เสื้อผ้าของเรเพื่อหาอะไรใส่ ได้เสื้อยืดสีขาวงิวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัดำที่คิดว่าเรน่าจะไม่ใส่นานแล้วและมันก็ดูหลวมน้อยสุดด้วย
"ว่าจังใด๋ครับ" ผมกดรับพร้อมกรอกเสียงทักทาย
"อยู่ไหนยะ พวกกูมาหาที่ห้องเงียบสนิท" เสียงเจ๊ดาดังเจื้อยแจ้วจากปลายสาย
"อยู่คอนโดเร"
"อ๋อ แล้วมันเป็นไงมั่ง ทำไมไม่มาเรียน" อีเจ๊ถาม
"ก็สบายดี เอ่อ มันไป..." ผมหันไปมองหน้ามันอย่างขอความเห็นแล้วพี่แกก็ชี้ไปที่รูปทะเลบนหนังสือหัวเตียง "ไปต่างจังหวัดมา" ตอแหลตามน้ำไป
"อ้อ..."
"แล้วเจ๊มาหาน้องมีนมีอะไรครับ คิดถึงเค้าหรอ"
"บ้านแกสิ จะชวนไปเดินเซ็น* อยากกินยากินิกุ" จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้ไปกินเลยนี่หว่า "งั้นไปเจอที่ห้างแล้วกัน อย่าลืมชวนสุดหล่อกูมาด้วยนะ"
*เซ็น=เซ็นทรัล "ครับเจ๊ ห่วงมันจังนะ ขอเป็นผัวเลยสิ" ผมแซว
"ไม่ละ อยากได้เป็นลูกเขยมากกว่า ไว ๆ จะเที่ยงแล้ว หิว! (มาช้ากูเหยียบ)" เสียงแก๊งสามช่าแทรกเข้ามา คงอยู่กันครบองค์ประชุม ผมวางสายจากเจ๊ดาสุดที่รักหันมาฟาดมือของเรที่กอดผมไว้หลวม ๆ พี่กับน้องติดสกินชิพพอกัน
"มึงไปไหม" มันพยักหน้า "ชวนน้องมึงด้วย" ไอ้เรคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์หาน้องมันก่อนที่เราจะพากันโดยสารรถของเรไปยังจุดหมาย
ไปถึงหน้าห้างพวกมันนั่งรอกันอยู่ตรงบันไดทางเข้า ้เรนมาถึงก่อนพวกผมอีกแต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับแก๊งนางฟ้า(พวกพี่ลูกแก้ว)ที่นั่งเมาท์มอยกันอย่างออกรสกับพวกกร ดูสนุกสนานดีแถมยังูสนอกสนใจแฝดน้องอย่างเต็มที่ เว้นเจ๊ดาไว้คนหนึ่งเพราะตอนนี้ดูจะหมั่นไส้คนสวยกว่าเต็มทน
"กว่าจะมาได้ พวกกูไส้แทบขาด" เจ๊ดาเหวี่ยง อารมณ์โมโหหิว
"แหมเจ๊ กว่าจะตื่นตั้งสิบเอ็ดโมง ใจคอจะไม่ให้อาบน้ำเลยหรือไง" ผมบอกพร้อมบีบๆ นวดๆ ไหล่เพื่อนสาวให้อารมณ์เย็นลง "ว่าแต่ พวกพี่ลูกแก้วมาด้วยได้ไงครับ"
"พี่ก็มาเดินช๊อปกันตามประสาแหละค่ะ เผอิญเจอเรน คิดว่าเป็นเรเลยเข้าไปทัก เลยรู้ว่าพวกเราจะนัดมาทานข้าวกันเลยขอแจมด้วย" พี่ลูกแก้วเล่าพร้อมยิ้มสวย ตอบ ผมแต่ตานี่มองไอ้เรเชียวนะ
เหตุผลที่แก๊งนางฟ้าเสนอตัวร่วมแจมคงไม่พ้นอยากเจอคนที่ยืนข้างผมนี่แหละ แถมมีไอ้แฝดน้องบวกเข้าไปเพื่อน ๆ พี่แกคงอยากทำความรู้จักจนตัวสั่น
"ไปกันเถอะ กูหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว" ไอ้ก้องโวยวายเราทั้งหมดจึงรีบเคลื่อนทัพ
"ไปกันเถอะจ๊ะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน" ดาวปีสองว่าพร้อมแทรกกลางมาคล้องแขนเรแล้วเดินนำไป...เหอะ! หน้าตาก็สวยไม่คิดว่าเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายขนาดนี้ แล้วผมจะไปแขวะเขาทำไม?
เดินวนรอบห้างสุดท้ายจึงพากันตั้งทัพที่ร้านยากินิกุ*เพราะร้านอื่นเต็มหมด ครั้นจะให้ยืนรอเจ๊ดาคงโมโหหิวจนกลายร่างขย้ำคอผมแน่ๆ ร้านนี้ใช่ว่าคนจะน้อย แต่ยังพอมีที่ว่างนั่นก็เพราะราคาที่สูงกว่าร้านอื่นหน่อยแต่เอาเถอะนานๆ กินที คิดซะว่าซื้อความสุข
*ยสกินิกุ=ปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น
พวกเราได้โต๊ะใหญ่กลางร้าน สองแฝดประจำการมุมขวาสุดตรงข้ามกัน ฝั่งเรถัดจากมันเป็นแก๊งนางฟ้า โดยที่แม่ดาวอักษรนั่งชิดจนแทบจะสิงอยู่แล้วครับ ส่วนผมนั่งถัดจากเรนข้างกันเป็นขุนแม่ดาที่รัก ภูผา ก้องและไอ้เตี้ยกร แต่ละคนคงหิวจัดเล่นสั่งกันรัวยิ๊ก จนเด็กเสิร์ฟกดบันทึกเมนูแทบไม่ทัน ไม่ช้าไม่นานเสบียงก็ถูกลำเลียงมาวางจนแน่นโต๊ะ ก่อนที่ต่างคนต่างลงมือย่างสิ่งที่ตัวเองอยากกิน
"เชี่ย! ก้อง กุ้งตัวนั้นของกู" ภูผาโวยเมื่อกุ้งลายเสือตัวโตลอยเข้าปากเพื่อนไปแล้ว
"ตัวนั้นก็ด้วย หยุดเฮ้ย" และแล้วการประลองยุทธ์ด้วยกระบี่ไม้คีบก็เริ่มขึ้น แต่จอมยุทธ์ทั้งสองหาได้มีผู้ชนะไม่ เมื่อนางมารดาหลาได้ซิวกุ้งตัวที่สองนั่นเข้าปากไปเป็นที่เรียบร้อย
"อีเจ๊!!!"
"ย่างใหม่สิยะ!!! ตีกันจะได้กินไหมค่ะ ใช่ไหมจ๊ะเรน"
"ใช่ครับคนสวย" เจ๊พูดถูก ย่างเลยตัวต่อไปผมเล็งอยู่ อิอิ
"เรนนี่น่ารักจัง ดูเฟรนรี่ดี คนละเรื่องกับพี่เลยเนอะ แต่ก็มีเสน่ห์คนละแบบ"
"ชมแบบนี้ เขินแย่ ถ้าน่ารักไม่ลองทำความรู้จักละครับ ผมยังว่างนะเออ" ปากมันบอกเขิน แต่เล่นขยิบตาให้เพื่อนพี่ลูกแก้วจนสามสาวฟินตายกันเป็นแถบ ส่วนไอ้กรที่ถูกเมินตอนนี้หูเริ่มดำเพราะมันเล่นบริการเพื่อน ๆ พี่ลูกแก้วอย่างเต็มที่ทั้งปิ้งทั้งย่างให้ กับหญิงละดี๊ดีแต่กับเพื่อนนะ...เฮ้อ!
"เรกินนี่ไหมจ้ะ" เสียงหวานออดอ้อนพร้อมเอาเนื้อชิ้นโตจ่อปาก ตามปกติผมต้องอิจฉามันแน่ๆ แต่ตอนนี้กลับหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก ป้อนกันเข้าไป ไอ้นี่ก็กินง่ายเกิน เขาเอาอะไรให้ก็แดกหมด ยัดๆ ให้ติดคอตายไปเลยนะ...แล้วผมจะเหวี่ยงมันทำไมวะ? มันก็นิ่งเฉยเป็นปกติอยู่แล้วนี่หว่า แต่แบบเฮ้อ...ปฏิเสธนะ มึงรู้จักไหม?
"โอ๊ะ ปากเลอะแล้ว มา ๆ ลูกแก้วเช็ดให้" อืมมมมม ครับ บริการดีอย่างกับศรีภรรยา เรมันยิ้มขอบคุณอีกฝ่ายแต่ทำไมผมถึงรู้สึกหน่วงๆ ก็ไม่รู้
เฮ้อเซง!...มองไปก็เลอะสายตา ดูสิตอนนี้แม่งไม่เห็นจะทำอะไรที่ดูเหมือนว่าชอบผมเลยซักนิด นัวกับพี่ลูกแก้วจนลืมผมแล้วมั้ง ไอ้ที่กอด จูบ ลูบ คลำกูเมื่อวาน ตกลงมึงจะเอาไง ล้อเล่นใช่ไหม แม่งรวมหัวอำผมชัวร์ ไอ้น้องหลอกว่าพี่มันชอบผม ส่วนพี่มันก็เล่นตามน้ำไปแน่ๆ สนุกใช่ไหมเปลืองเนื้อเปลืองตัวกูเนี่ย...เซงชิบ ไอ้สองตัวนี่น่าตบชะมัด
"มีนไม่กินหรอวะ"
"อ๊ะ...เออกินสิ เดี๋ยวกูรอย่างไง แหะๆ" ผมคงนั่งปรึกษากับปลาหมึกในถ้วยนานเกินไปเรนถึงหันมาสะกิดด แล้วผมก็ก้มลงเขี่ยหนวดหดๆ นั่นต่อ เริ่มอิ่มแล้วอะ
"เป็นไรวะดูเงียบ ๆ" เจ๊ดาเริ่มหันมาสนใจ เงียบหรอ บางทีผมอาจจะคิดเรื่องไอ้เรมากไป พอเถอะมันจะทำอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ แม้แต่หน้ายังไม่อยากมอง มึงก็ด้วยไอ้เรนเพราะพวกมึงหน้าเหมือนกันไง
"ขี้เกียจพูด ไม่มีอะไรหรอกเจ๊" ผมบอกปัด
"เหอ ๆ ผีเข้าหรอค่ะน้อง ปกติเห็นพูดมากจะตาย" เพื่อนพี่ลูกแก้วเจ้าเก่าเจ้าเดิมเลยครับ ชื่อน้ำหวานแต่ปากไม่หวานเอาซะเลย ปกติผมคงดิ้นเร่า ๆ หาเรื่องแถ แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์นอกจากยิ้มกวนตีนตอบ
"พี่เร" เรนเรียกพี่มันที่นั่งตรงข้าม "ผมว่า เล่นพอประมาณเถอะ" แล้วมันก็จ้องหน้ากันซักพักเหมือนคุยอะไรบางอย่างกันในใจ ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก
สังหรใจว่าภัยจะถึงตัว เมื่อจู่ ๆ ไอ้สองพี่น้องลุกขึ้นสลับที่นั่งกัน ทำเอางงกันทั้งโต๊ะโดยเฉพาะผมที่ถึงกับเหวอทันทีที่ไอ้เรนั่งลงข้าง ๆ เบียดผมซะชิด
"อะไรของมึง" ผมถามด้วยความงุนงงแต่มันไม่ตอบกลับเอามืออีกข้างมาจิ้มแก้มผมแล้วยิ้ม "สัด...ถามก็ตอบ อย่ามากวนตีน" ผมเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิ ไม่รู้ว่าพวกมันมาไม้ไหน
"เหอ ๆ แฟนมึงงอนแล้ว ง้อสิวะ" และแล้วเรนก็ทิ้งระเบิดลงกลางโต๊ะ
"
ฮะ! แฟน!!!!!!" แล้วทุกคนก็ร้องออกมาลั่นโต๊ะจนคนทั้งร้านมอง จากโมโหกูเริ่มจะอายแล้วไหมละ
"กูไปตกลงเป็นแฟนพี่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่"
"อ้าวแล้วที่อุส่าหนีไปนอนที่อื่นให้มึงอยู่กันสองต่อสองเนี่ย ยังไม่ได้กัน เอ้ย! เคลียกันอีกหรอ" สองต่อสอง มึงจงใจเอากูใส่พานถวายพี่มึงเรอะ ไอ้เพื่อนเลวววว
"เคลียอะไรละพี่มึงเป็นใบ้ไม่รู้เหรอ" ผมเถียงเสียงแผ่ว อยากจะแทรกแผ่นดินหลบทุกสายตาในตอนนี้ ปากมันเกือบใบ้แต่จูบโคตรเก่งเลย...เฮ้ย!!!หลงประเด็น
"สรุปยังไง เป็นหรือไม่เป็น" เจ๊ดาคาดคั้น
"ตอนนี้ยัง แต่เร็ว ๆ นี้ผมว่าไม่รอด" เรนตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ "จริงไหมครับพี่สะใภ้**"ฮึ่ยยยย!!!** ผมได้แต่ยกนิ้วกลางใส่ไอ้ตัวชงอย่างเดือดดาล
"กูว่าแล้ววววว กูเอาห้าบาทพอสินสอด จ่ายมาไอ้ลูกเขย" แม่คนที่สองผมยิ้มกว้าง ก่อนแบมือมาตรงหน้าเร แล้วมันก็บ้าจี้ควักเหรียญห้ามาจ่ายด้วยเอาสิ
"ยินดีด้วย ๆ" กรว่า
"เพื่อนกูขายออกแล้ว" ก้องทำหน้าดีใจอย่างสุดซึ้ง
"ปล่อยกูลุ้นตั้งนาน" แม้แต่ภูผาก็ยังมีส่วนร่วม ทำไมเพื่อนผมสนับสนุนกันจัง
"คือ...พี่งงไปหมดแล้ว" พี่ลูกแก้วที่เงียบอยู่นานเอ่ยถาม
"ก็ไม่มีอะไรครับ แค่พี่ผมชอบมีน กำลังดู ๆ กันอยู่ พี่คนสวยก็ตัดใจซะเนอะ หรือถ้าหาคนดามใจ ผมยินดีนะ"เรนเสนอตัว ไม่รู้พี่ลูกแก้วเข้าใจที่มันพูดไหม แต่สีหน้าเธอดูไม่ดีเอาซะเลย
"แล้วที่ผ่านมาคืออะไรละ" เธอยังคงทักท้วง
"ก็ไม่อะไรนี่ครับ ผมก็เห็นพี่เป็นฝ่ายเข้าหาพี่เรตลอด มันก็ไม่ได้บอกนิว่าสนใจ พี่แค่ทึกทักไปเองไม่ใช่เหรอ ปกติก็เห็นเก็บแต้มอยู่แล้ว สนใจเอาผมไปเพิ่มแต้มไหมครับ เก่งไม่แพ้พี่เลยนะ" ไอ้แฝดน้องพูดได้...แรง**!!!!**
"นี่เธอ" เอาแล้ว ๆ นางฟ้าเริ่มกลายเป็นซาตาน "ถ้าไอ้แว่นนั่นมันดีนักก็ตามสบายเถอะ" ว่าแล้วเธอก็คว้ากระเป๋าลุกจากโต๊ะ เดินออกไปเลย เพื่อนพี่ลูกแก้วอีกสามคนดูลังเลแต่ก็ยอมลุกตามออกไปติด ๆ
"อ่าว แล้วใครจะจ่ายค่าข้าวส่วนของพวกนั้นวะ" ไอ้กรบ่น
"น่า...กูรับผิดชอบเอง ไม่สิ พี่เร มื้อนี้เลี้ยงเลย พี่เป็นตัวต้นเหตุนะ" และแล้วมันก็โยนให้พี่ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับอย่างเต็มใจ กูละเบื่อคนรวย เอาละสถานการณ์กลับมาสงบและทุกคนก็ลงมือทานต่อ
"หึงหรอ" ยกเว้นผมที่ต้องหยุดมือเพราะคำพูดไอ้เร
"ใครหึงมึง...หลงตัวเอง" แล้วหน้ากูเนี่ยจะแดงทำซากอะไร
"ขอโทษ" ผมย่นคอหนีเมื่อมันกระซิบข้างหู ให้ตายสิตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาด้วยซ้ำ ไหนจะรอยยิ้มกว้าง ๆ นั่นเล่นซะทำอะไรไม่ถูกเลย
"กูบอกพวกมึงแล้ว เซนท์กูไม่เคยพลาด" เจ๊ดาว่า
"อะไรเจ๊"
"ก็เรื่องเรไง แบบมันติดมึงมาก มากเกินไป เลยเดาว่าต้องคิดอะไรกับมึงแน่มีน" มันอธิบาย
"เนี่ยพวกกูถึงกับพนันกันด้วยซ้ำ กู ไอ้ก้องกับภูผา พนันว่าใช่ ส่วนไอ้เตี้ยว่าไม่ อย่าเบี้ยวกูนะมึง เลี้ยงบิงซูพวกกูด้วย" ก้องมันเสริม
"เออดี เอากูไปพนันสนุกไหมละ" ผมแซะ นี่ผมไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียวใช่ไหมเนี่ย "กูเป็นผู้ชาย ยังจะคิดจับคู่กับผู้ชาย บ้าบอ"
"แล้วไงอะ สุดท้ายก็เป็นอย่างกูคิดไหมละ" เจ๊ดายิ้มล้อ เรหัวเราะเบา ๆ ผมเลยหันไปถลึงตาใส่มัน
"อ๊ะ ขอบคุณ" เรคีบกุ้งตัวโตที่แกะแล้วใส่ถ้วยให้ก่อนจะตามด้วยของกินอื่นๆ ทั้งอันที่มันให้เอง ทั้งอันที่ผมอยากกินแล้วชี้บอกมันหยิบมาให้ มันเอาใจผมเวอร์ จนโดนคนอื่นแซวไปหลายดอก นี่คงเป็นวิธีการง้อของมันสินะ จะพยายามเข้าใจแล้วกันเพราะมันไม่ค่อยปกติแบบคนอื่น มื้ออาหารผ่านไปแบบที่ผมเขินแทบแย่ แบบนี้ค่อยน่ารับพิจารณาหน่อยว่าไหมครับ
ตอนเย็นเรมาส่งผมที่หอตอนแรกมันจะค้างด้วยแต่มีงานด่วนเลยกลับไปก่อน ไม่ไหวครับอยู่ใกล้มันแล้วใจเต้นจนแทบวาย ผมขอเว้นระยะพักหัวใจซักหน่อยก็แล้วกัน
..................................
ตัวละครดาหลา หรือเจ๊ดา ไรท์ก็เอาตัวเองมาใส่อยู่หน่อย ๆ เพราะไรท์เคยอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้ชาย แล้วชอบจับพวกมันคู่กันเอง