มาไวอีกแล้วจ้า
มนต์รักทะเลใต้ [4]
“ช่วยด้วย.....ช่วยด้วย!!!” ร่างเล็กผอมบางวิ่งพรวดพราดหน้าตาตื่นเข้ามาในกระท่อม สุรสิงห์หันไปมองนาฬิกาน้ำทำเอง 3 ชั่วโมงเศษถึงวิ่งตาลีตาเหลือกมา เร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีก
“คุณ.....คุณ.......” นนทร์หอบแฮ่กๆหายใจไม่ทัน “ช่วย....ช่วย”
“ใจเย็น.....ใจเย็น” ร่างสูงลุกขึ้นกุมไหล่เขาไว้มั่น นนทร์ถึงรู้สึกดีขึ้น เลิกหายใจถี่กระชั้นได้เสียที เขาเงยหน้ามองใบหน้าที่ซ่อนใต้หนวดเคราครึ้ม
“ช่วยกันที เขา.....เขาโดนกับดัก ตัวห้อยอยู่ในป่า ผมเอาเขาลงมาไม่ได้ คุณไปช่วยเขาที นะ” นนทร์น้ำตาปริด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เขาดึงแขนอีกฝ่ายแรงให้ตามไปด้วย แต่สุรสิงห์ยังเฉยอยู่
“ใจเย็น เขาไม่เป็นไรหรอก เราคงตกใจสินะ....ข้างนอกเป็นไงล่ะคิดว่าอยู่ได้ไหม” สายตาคู่นั้นฉายแววไม่มั่นใจออกมาโต้งๆ ก่อนจะมองไปอื่นอย่างขายหน้าที่ไม่เอาไหนอย่างนี้ ปลายนิ้วเชยคางเขาขึ้นให้มองสบตาสีน้ำตาลเข้ม
“ไม่ต้องเสียความรู้สึกขนาดนั้นหรอก เพราะไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่แรกหรอก มันต้องอยู่นานๆถึงจะเป็น.....ฉันสอนให้เอาตัวรอดได้นะ”
นนทร์เห็นอีกฝ่ายเปิดประตูให้ความหวังเล็กน้อย เชื้อเชิญให้ก้าวเข้าหา “คุณจะสอนผมเหรอ”
“อืม...ไม่ยากหรอก” สุรสิงห์หันไปหยิบมีดพร้าที่ผนังมาเหน็บเอว “ฉันจะดูเพื่อนของเราให้ อยู่รอที่นี่ล่ะกัน อ้อ....ไหนๆก็อยู่แล้ว ช่วยทำความสะอาดครัวหน่อย เมื่อวานเรากับเพื่อนทำรกเอาไว้นะ”
ชายหนุ่มหันไปมองสภาพห้องครัวที่เละแทะด้วยฝีมือตัวเองกับกันย์ก็ยิ้มแหยงๆเขาหันกลับมา เจ้าของบ้านก็หายไปแล้ว หมอนี้เป็นใครกันนะ ทำไมถึงมาอยู่บนเกาะตามลำพัง คำถามนี้คงไม่มีใครตอบได้หรอก เขายืนมองไปรอบๆกระท่อมคิดว่ารอกันย์เฉยๆคงไม่มีประโยชน์ ทำความสะอาดอย่างที่ถูกไหว้วานดีกว่า
*************
“ช่วย....ด้วย....”
“นนทร์....นายอยู่ไหน”
“ช่วยด้วย....เจ็บไปหมดแล้ว ฮือ”
กันย์หมดเรี่ยวแรงไปกับการดิ้นรนและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตอนนี้ปวดหัวปวดหน้าไปหมดเลือดจะตกหัวตายไหมเนี่ย?? ทำไมนนทร์ไปนานจังเลย เขาเจ็บจะตายอยู่แล้ว
เป๊าะ!! เสียงกิ่งไม้หักดังทำให้เขาดีใจที่สุด
“นนทร์ๆ มาช่วยกูเร็วๆ เจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว”
“โอ้ ท่าทางยังแข็งแรงดีอยู่นี้” เสียงนั้น?? ไอ้บ้า ไอ้กร๊วกที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดนี่เอง กูเกลียดมึงชิบหายแล้วมึงเสือกมาทำไม!!! “เป็นไงบ้างล่ะ”
“ยังไม่ตาย”
“เห็นอยู่....”
“ปล่อยกูลงไปซะทีสิ เร็วๆเข้า”
“พูดจาให้มันดีกว่านี้หน่อย” สุรสิงห์เตือน
“ขอโทษครับ ช่วยปล่อยผมลงไปหน่อยได้ไหม” เขาว่าน้ำเสียงเดือดปุดๆ
“ค่อยน่าฟังหน่อย” เขาแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ค่อยๆหย่อนเชือกลงมาช้าๆ กันย์ลงลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย แต่พอเห็นข้อเท้าตัวเองแล้วต้องตกใจ มันกลายเป็นสีม่วงแล้ว
“ตายโหง...”
“ไม่ตายหรอก อีก 2-3 วันก็ดีขึ้นเอง” สุรสิงห์ดึงเชือกออก แล้วจับข้อเท้านวดคลึงแรงๆ
“โอ้ย เจ็บๆๆๆๆ ไอ้บ้า ไอ้....โอ้ยยยย”
“เลิกแหกปากเสียที มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นเสียหน่อย”
“ลองมาเป็นดูเองสิวะ จะได้ซึมเข้ากะโหลกมึงมั่ง” เขาตวาดแว้ดใส่
“หุบปาก เราจะปากเสียเกินไปแล้วนะ”
“กูจะใช้ปากยังไงก็เรื่องของกู มันหนักหัวมึงเรอะ โอ้ยย” กันย์ตกใจ ข้อเท้าเขาโดนทิ้งลงพื้นหญ้าแรงๆเจ็บจนต้องลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ขณะที่อีกฝ่ายเก็บเชือกมาวางกับดักเหมือนเดิม
“มึง....ไอ้”
“ปากเก่งนักก็ช่วยตัวเองไปล่ะกัน ฉันไปล่ะ”
“เห้อะ....นึกว่ากูง้อเรอะ มึง...”
“เลิกนอนอย่างนี้ดีกว่านะ ตามพื้นหญ้ามีปลิงเยอะ” เท่านั้นเองกันย์ก็เห็นตัวอะไรเป็นเส้นๆกำลังไต่ที่รองเท้า เขากระโดดดึ๋งขึ้นมาเต้นแรงเต้นกาใหญ่
“หย๋า.....ปลิงๆๆๆๆ....ช่วยด้วย” เขากระโดดอย่างลืมเจ็บก่อนจะโดดขึ้นขี่หลังสุรสิงห์ทันที
“ลงไป..”
“ไม่ๆๆๆ เอามันออกไปที” เขาดิ้นร่าๆ
“บอกให้ลงไปไง”
“ไม่เอา ช่วยด้วยเซ่”
“ช่วยเหรอ อ๋อ....ได้” ร่างสูงเดินออกจากพื้นที่ป่ามีร่างเล็กกว่าเกาะติดเป็นลูกลิงเลย เขาลงมาไม่ไกลก็ถึงริมหาด กันย์มัวแต่เอี้ยวตัวมองหาปลิงตามตัว เลยถูกจับโยนลงน้ำ ตูมมมม
“แว้กกกก” เขาทะลึ่งพรวดขึ้น ไม่ทันไรก็ถูกจับไหล่เอาไว้ทั้งสองข้าง
“ปลิงมันไม่ชอบน้ำทะเล เพราะงั้นต้องล้างหลายๆน้ำหน่อย” ว่าแล้วก็จับกดลงใต้น้ำที่ลึกไม่มาก แต่เพราะตกใจมากเกินไปทำให้ชายหนุ่มเอาแต่ดิ้นพราดๆยันตัวไม่ขึ้น
“ฮ่า!!!!......มึง” เขาชี้นิ้วใส่
“หายใจลึกๆ อีกทีหนึ่ง” ใบหน้าใต้หนวดเครานั้นแสยะยิ้มสะใจก่อนกดเขาลงอีกครั้งหนึ่ง
ปุ๋ง ปุ๋ง ปุ๋ง.....กันย์พ่นลมออกมาทางปาก หายใจไม่ออก อึดอัดจัง เขาจะหมดลมหายใจอยู่แล้วถึงถูกดึงขึ้นมา เขาหอบหายใจแฮ่กๆ ละล่ำละลั่กบอกทันที “พอแล้ว.....พอแล้ว”
“พอแล้วเหรอ แน่ใจนะ” กันย์พยักหน้าหงึกๆ “ดี.....แล้วจำไว้ด้วยว่า ที่นี่เป็นเกาะของกู มึงหลงมาก็ต้องสังวรด้วยว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน อยู่ที่นี่ห้ามขึ้นมึงกู เพราะคนที่พูดได้คนเดียวคือกูเท่านั้น เข้าใจหรือเปล่า”
เอ่อ...ทีมึงล่ะกูไม่ว่า แต่ทีกูมั่ง มึงก็อย่าโวยล่ะกัน กันย์นึกในใจเขาพยักหน้าเข้าใจ สุรสิงห์ถึงเลิกกดหันมาลากร่างเล็กขึ้นมานั่งบนผืนทราย
“กลับไปกระท่อมได้แล้ว กูไม่อยากเห็นคนตายบนเกาะนี้”
“ผมเดินไม่ไหว ขามันเจ็บ”
“เฮ่อ...ภาระชิบหายมึงเนี้ยะ” ชายหนุ่มบ่นก่อนเข้ามาดึงคนตัวเล็กกว่าให้ขึ้นขี่หลัง จมูกกันย์อยู่ใกล้ผมยุ่งเยิงยังกะรังนกแล้วนึกขยะแขยง แต่ไม่นานก็รู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นเหงื่อสะอาดไม่ใช่กลิ่นหมักหมมอย่างที่คิด สายตาเขาตกมาที่มือเกาะบ่าแข็งแรง เนื้อแน่นชิบเป๋งเลย...
“กัน...” นนทร์ขนขยะออกมากองข้างนอกพอเห็นหน้าเพื่อนก็ดีใจรีบมาหา “เป็นไงบ้าง”
“แค่ข้อเท้าเคล็ดเท่านั้น 2-3 วันก็หายแล้ว” สุรสิงห์บอก เขาวางกันย์ลงนั่งที่แคร่หน้ากระท่อม “เก็บกวาดเสร็จหรือยัง”
“เก็บเสร็จแล้วครับ เหลือล้างพื้นเสียหน่อยก็เรียบร้อย”
“อืม...ตอนนี้บ่ายแล้วต้องหาของกินเย็นนี้ นนทร์ว่ายน้ำเป็นไหม”
“เป็นครับ”
“งั้นตามมา พี่จะสอนจับปลาให้” อยู่ๆก็ปากหวานขึ้นมาเรียกตัวเองว่าพี่เฉยเลย สุรสิงห์หยิบสน๊อคเกิ้ลมาให้พร้อมฉมวกสามง่าม เขาจูงมือนนทร์ออกมาด้วย
“เอ๊ะ...แล้ว...??”
“ช่างเขาเถอะน่า” เขาว่าอย่างไม่สนใจ ปล่อยให้กันย์นั่งมองขบเคี้ยวฟันไม่สบอารมณ์อยู่คนเดียว ทั้งคู่ว่ายน้ำออกไปไม่ไกลสุรสิงห์ก็ดำลงไปใต้น้ำ นนทร์สวมสน๊อคเกิ้ลลองดูใต้น้ำ เขาร้องว้าวออกมาเลย
ใต้น้ำระดับ2-3 เมตรเต็มไปด้วยปะการังสีสันสดใสและปลาสวยๆแหวกว่ายเต็มไปหมด ว่าแหล่งดำน้ำที่เคยไปเที่ยวนักต่อนักแล้วยังเทียบที่นี่ไม่ได้เลย มันสวยจริงๆ ชายหนุ่มว่ายเล่นกับปลาอย่างสนุกสนานจนเห็นอีกคนกวักมือให้ลงมาที่โขดหินใหญ่ สุรสิงห์ยื่นเหล็กแหลมอันหนึ่งให้ก่อนชี้ให้แกะก้อนตะปุ่มตะปั่มบนหินดู เขาต้องออกแรงแซะสุดกำลังกว่าจะหลุดออกมาทั้งอัน
อ้า..... นนทร์ร้องลั่นตาโตด้วยความดีใจ หอยนางรมตัวเบ้อเร่อเลย เขารีบหยิบใส่ถุงตาข่ายที่เหน็บเอวสุรสิงห์ แถวนี้หอยเกาะเยอะแยะเต็มไปหมดแถมปูม้าอีก สองคนช่วยกันเก็บให้เร็วที่สุดก่อนลอยขึ้นหายใจ
“ฮ่า.....ฮะฮะ...หอยตัวเบ้อเร่อเลย”
“วันนี้โชคดีจริงๆ ได้ทั้งปู ทั้งปลากับปลาหมึกด้วย”
“เอ๊ะ มีปลาหมึกด้วยเหรอ อยู่ไหน ผมไม่เห็นเลย” อีกฝ่ายชูถุงตาข่ายให้ดู ได้ปลาหมึกกล้วยมาตัวหนึ่ง
“ข้างล่างแหละ อยากได้อีกไหม”
“อยากสิ ผมชอบกินปลาหมึกที่สุดเลย”
“งั้นจับอีกคนล่ะตัวเป็นไง”
“ได้ครับ” นนทร์รีบสูดลมหายใจดำดิ่งลงไปไล่จับปลาหมึกที่ว่องไว เขาว่ายไม่ทันแต่สุรสิงห์จับได้ทีเดียว 2 ตัวเลย พอได้แล้วก็ขึ้นไปเหนือน้ำ
“ขี้โกง เล่นรอดักเฉยๆนี่”
“เขาเรียกว่าใช้หัว ฮะฮ่า มื้อเย็นนี้หม้อไฟเป็นไง”
“หม้อไฟ ย้าฮู้....ผมชอบๆๆ” ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเพราะหมายถึงอาหารดีๆมีให้กินเพียบเลย อารามดีใจเขาโผเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น ด้วยความเคยชินนึกว่าอยู่กับกันย์เพื่อนสนิท พอนึกได้ก็รีบถอยแต่โดนดึงหน้าเอาไว้ สุรสิงห์อดไม่ได้ที่จะจูบนนทร์หวานๆสักที ข้างในบอกเขาว่านี่แหละสิ่งที่เขาโหยหา แม้จะปลีกตัวมาอยู่ตามลำพังด้วยข้ออ้างมากมายแค่ไหน แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาต้องการจริงๆคือคนที่อยู่เคียงข้างต่างหาก
รสจูบนี้ทำให้นนทร์ขนลุกเกรียวเสียววาบที่ท้องน้อยเพราะมันหวานเหลือเกิน และเต็มไปด้วยความเว้าวอนจนเผลอไผลแลกจูบตอบอย่างดุเดือด เขาชอบจูบนี้เหลือเกิน สองมือโอบกอดลูบไล้กันนัวเนียกลางน้ำและก่อนที่จะยั้งใจไม่อยู่ สุรสิงห์ถอนจูบเสียก่อน ต่างฝ่ายต่างมองสบตาคนหนึ่งนั้นสับสนแกมประหลาดใจตัวเอง ส่วนอีกคนนั้นไม่เลย เขาจูบเบาๆที่ปากย้ำให้รู้ว่าเขาต้องการอะไร
“คืนนี้....ให้พี่เอ็นดูอีกครั้งนะ” คำพูดกระซิบข้างหูทำเอานนทร์หน้าร้อนผ่าว นี่ถ้าอยู่ในเมืองกลางผับละก็ได้มีการต่อยปากแน่ เขาไม่สนตุ๊ด กระเทยหรอก แต่กับสุรสิงห์นั้นต่างออกไป เขาทำให้หวั่นไหว และตอนนี้มีคำพูดนุ่มหูกับปากอุ่นแนบที่ซอกคอเล็มเลียเนื้อหนังราวกับเป็นของหวาน ได้เป็นของชายแท้ที่แข็งแกร่งกว่ามันให้ความรู้สึกแบบนี้เองเหรอ
“นะครับ” เขาจูบเบาๆที่แก้มอีกที
“หนวด...”
“หื้อ??”
“หนวดพี่....จักกะจี้ ....ผมไม่ชอบ” ชายหนุ่มว่าเสียงสั่นเขินอาย เขาคิดหาข้ออ้างเอาตัวรอดได้ทุเรศมาก แต่ก็ว่าไปแล้ว สุรสิงห์มองตาปริบๆก่อนหัวเราะ เขาจูบแก้มอีกครั้งก่อนว่ายนำกลับไปที่หาด นนทร์ขึ้นมาก็เหนื่อยหอบแต่อีกคนยังเฉยไม่เห็นวี่แววเหนื่อยหรือหายใจแรงเลย
“แค่นี้ก็หอบแล้ว นี่นับว่ายังอึดไม่พอนะ” เขาขยี้ผมหนุ่มอายุน้อยกว่าซะกระจาย
“พูดได้สิ ตัวเองน่ะชินแล้วแท้ๆ ผมยังไม่เคยว่ายหน้าวิบากขนาดนี้ก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา”
“มาเถอะ เดี๋ยวพาไปดูผักต่อ”
“มีผักด้วยเหรอ” ชายหนุ่มตื่นเต้น คนๆนี้ทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอดเวลาเลย ต้องเดินเลยกระท่อมไปสักระยะก็มีแปลงผักปลูกเองเยอะแยะไปหมด สองคนช่วยกันตัดใส่มาเต็มตะกร้าเลย
“ทำไมไปนานจัง” กันย์เห็นหน้าเพื่อนก็ต่อว่า เขานั่งจ๋อมอยู่นานจนอาทิตย์ตกแล้วถึงหน้าทั้งคู่ นึกว่าตัวเองโดนทิ้งเสียแล้ว
“โทษที เก็บของเพลินไปหน่อย ดูสิมีทั้งผัก ทั้งของทะเลเยอะแยะเลย เดี๋ยวจะทำหม้อไฟกินกัน”
“ไปล้างน้ำก่อนไป้” สุรสิงห์สะกิดให้เข้าครัวกัน สองคนคุยหัวเราะกันสนุกปากปล่อยให้เขานั่งหง่าวอีกรอบแล้ว กันย์รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง ไร้ประโยชน์ ทำให้โกรธเพื่อนเหลือเกินทำไมทิ้งเขาไว้อย่างนี้นะ
อาหารเย็นคืนนี้นอกจากหม้อไฟทะเลแล้วยังมีหอยนางรมย่างเตาถ่านร้อนๆ เป็นที่สนุกสนาน ทีแรกกันย์นึกสมเพชที่กินของพื้นๆกระจอกอย่างนี้ แต่พอเห็นหอยนางรมตัวโตๆย่างทั้งเปลือกแล้วต้องตาโต น้ำในหอยเดือดปุดๆส่งกลิ่นหอม พอกัดแล้ว มันหวานฉ่ำ รสชาติดีขนาดที่เขาชอบกินบุปเฟ่ต์โรงแรมห้าดาวทุกวันยังไม่เคยได้ลิ้มรสแบบนี้เลย เขาทั้งดูด ทั้งเลียเปลือกหอยด้วยความเสียดาย เขาได้ตัวเดียวเอง ทั้งที่สองคนนั้นได้คนล่ะ2 ตัว
“อร่อยไหม”
“ครับ อร่อยที่สุดเลย” นนทร์ยิ้มดีใจก้มหน้าก้มตากินไม่มองสายตาอีกฝ่ายเลยที่แทบจะอยากกินเขาแทนมื้อเย็นนี่แล้ว สองหนุ่มอิ่มหนำสำราญกับมื้อเย็นกันสุดๆ ขณะที่สุรสิงห์เฉยๆเพราะกินอยู่ทุกวันจนเริ่มเบื่อแล้ว
“นนทร์ เสร็จแล้วเก็บล้างให้หน่อยนะ พี่จะไปอาบน้ำก่อน”
“ครับ”
“เชอะ...เก็บล้างให้หน่อยนะ พี่จะไปอาบน้ำ อยากจะอ๊วกเรียกตัวเองว่าพี่ได้ไม่อายปากเลย แก่เป็นลุงแล้วแท้ๆ ไอ้บ้ากาม” ลับหลังปุ๊ปกันย์ก็ก่นด่าทันที
“ไม่เอาน่า กัน”
“มึงยอมตามมันต้อยๆได้ไง มันว่าไงมึงก็ว่างั้นเลยนะ ครับๆๆอยู่ได้”
“กัน....อย่าว่างั้นสิ นี่บ้านเขานะ”
“แต่มันเป็นไอ้บ้ากาม”
“จะยังไงก็เถอะ เรื่องนี้ฉันไม่อยากพูดถึง นายก็จะไม่พูดใช่ไหม...ถ้าเรากลับไปได้นายจะไม่พูดถึงมัน” นนทร์ว่า นั้นเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว ใครจะไปพูดได้ล่ะว่าโดนตาลุงลามกข่มขืนเอา กันย์หน้าร้อนวาบเมื่อเผลอนึกถึงรสสัมผัสเร่าร้อนเมื่อคืน
นนทร์ล้างจานเสร็จในห้องน้ำยังไม่ออกมา เขาเหนียวตัวจะแย่แล้วเลยหิ้วถังน้ำจืดออกมาอาบน้ำหน้ากระท่อม ล้างคราบเกลือออกจากตัว
“นัน ตักน้ำให้กูถังสิ” กันย์ก็อยากล้างตัวเหมือนกัน เขาเดินกระเพลกมานั่งที่แคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อม เพื่อนเดินไปไม่ถึงห้องครัว เขาหยุดชะงักเมื่อเห็นในห้องน้ำออกมา แสงไฟจากตะเกียงส่องแสงต้องใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา ไม่เหมือนที่เคยเห็นมา
กันย์เห็นในกระท่อมเงียบเหลือเกินเลยลุกขึ้นมองลอดช่องระบายลมที่ประตู เขาหยุดกึกเหมือนได้สิ่งสิ่งแปลกประหลาด นนทร์ใจเต้นไม่เป็นส่ำกับชายหนุ่มหน้าตาดีกว่าที่คิด คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ที่ตลกคือรอยบาดที่ปลายคางเห็นได้ชัดเลย สุรสิงห์ยิ้มเก้อเขิน
“ไม่ได้โกนนานแล้ว เลยไม่คล่องเท่าไร”
นี่?? ทำเพื่อเขาหรอกหรือ นนทร์ไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงดี มัน....เหนือความคาดหมายจนได้แต่อึ้ง สุรสิงห์เข้ามาหา ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากกุมมือเขาไว้ แค่ดึงเบาๆ ร่างเล็กกว่าก็ตามไปอย่างว่าง่าย และประตูไม้ไผ่สานโทรมๆก็งับลงเบาๆ
กันย์ยืนมองตาปริบๆ เฮ้ยยยย....
เฮ้ยยยยย.....
เฮ้ยยยยย.....
(ติดตามตอนต่อไป ตอนหน้าncจ้า)