- 2 - ตอนนี้แต่ละคนจึงลอยคอคนละทิศละทาง ส่วนตัวเรือกลับตีลังกาพลิกคว่ำค่อยๆจมลงสู่ก้นทะเล เจ็ทสกี
ของพวกมันก็สภาพไม่ต่างกัน กำลังจมหายลงท้องน้ำ ฝ่ายมันทั้งคนขับและคนซ้อนพากันสละเรือพุ่งหลบออกไปคนละทาง
โดยไม่เป็นอันตรายเช่นกัน นั่นเป็นเพราะพวกมันคำนวณไว้แล้วว่าผลลัพธ์ต้องออกมาประมาณนี้ กลายเป็นกลุ่มที่เสียเปรียบ
และรอมัจจุราชมาเด็ดชีวิตคือมังกรและการ์ดทั้งห้าคน
สภาพของมังกรและลูกน้องเหมือนลูกไก่ในกำมือของมันไปแล้ว เพราะตอนนี้พวกมันยังใจเย็นขับเจ็ทสกี
สองลำที่เหลือกลับไปรับเพื่อนทั้งสองคนให้ซ้อนสามกันหน้าตาเฉย ไม่ได้รีบร้อนที่จะจัดการกับมังกรและการ์ดประจำตัว
เลยด้วยซ้ำ
“เจ้านายไม่เป็นไรใช่ไหม?” เสียงพยัคฆ์ตะโกนถาม ก่อนที่คนถูกเรียกจะยกมือให้สัญญาณว่าตนยังโอเคดีอยู่
“เจ้านายระวังตัวด้วยนะครับ” พูดจบเสื้อชูชีพของพยัคฆ์ก็หลุดออกจากร่าง เห็นเพียงแต่เสื้อที่ลอยโตงเตง
แต่ไร้ร่างเจ้าของเสื้อ นั่นแสดงว่าการ์ดมือหนึ่งดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำไปแล้ว ในขณะที่พวกมันเดินหน้าพุ่งตรงมายังมังกรแล้วตอนนี้
ซึ่งระยะห่างของลูกน้องที่จะช่วยมังกรนั้นแต่ละคนอยู่ไกลประมาณกิโลได้ ที่ยังสามารถมองเห็นกันอยู่เพราะไม่มีสิ่งกีดขวาง
มังกรยังคงใจเย็นล้วงเอากล้องส่องทางไกลขนาดจิ๋วขึ้นมาส่องดูเพื่อเตรียมรับมือพวกมัน แต่แล้วหัวใจ
กับพองโตเมื่อภาพที่ปรากฏในกล้องไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มมันเท่านั้น ด้านหลังห่างออกไปไม่ถึงกิโลกับมีวัตถุประหลาดที่โผล่มา
อย่างกะทันหัน ซึ่งพวกมันเริ่มไหวตัวแล้วเหมือนกัน
มังกรจำได้แม้จะเห็นเพียงชุดดำคลุมผ้าโพกศีรษะปิดหน้าจนมิดชิดโผล่แต่ลูกตาสองข้าง ชายผ้าโพกหัวปลิว
ไสวไปกับสายลมทะเล บวกกับท่ายืนค่อมตัวมาข้างหน้าสี่สิบห้าองศา เพื่อให้สามารถทรงตัวบนแผ่นกระดานโต้คลื่นซึ่งน่าจะมี
เครื่องยนต์ติดใต้ท้องกระดานเพราะมันแล่นมาด้วยความเร็วสูง แม้จะไม่มีสิ่งใดให้ยึดจับแต่ชายผู้นี้กับสามารถทรงตัวได้อย่าง
เหลือเชื่อ การคอนโทรลให้กระดานวิ่งอยู่เหนือผิวน้ำเป็นไปอย่างสง่างามจนทำให้คนมองตะลึงตาค้าง ไม่นับการบังคับให้
กระดานแผ่นเดียวที่ยืนอยู่วิ่งไปตามทิศทางที่ต้องการอย่างกับเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะร่างกายก็ไม่ปาน
“เปรี้ยงๆ!” เสียงปืนยิงเข้าใส่ ซึ่งตอนนี้พวกมันแบ่งกำลังออกโดยให้เจ็ทสกีลำหนึ่งหันหัวไปปะทะ
กับบุรุษชุดดำที่มาพร้อมกระดานโต้คลื่นติดเครื่องยนต์ โดยอีกลำยังคงพุ่งลิ่วเข้าหามังกรที่ลอยคออยู่
มังกรไม่มีเวลาสนใจบุรุษชุดดำอีกต่อไป มือจับปืนพกกระชับมั่นยกขึ้นเหนือผิวน้ำเล็งตรงไปยังเจ็ทสกี
ที่พุ่งดิ่งเข้ามา พร้อมกับกล้องส่องทางไกลช่วยให้ดึงระยะภาพของพวกมันชัดขึ้น ก่อนจะรัวกระสุนทีเดียวหมดแม็กเข้าใส่ทันที
“ปังๆๆๆ!” งานนี้ไร้ผล แม้จะรู้ว่าตนไม่สามารถยิงโดนใครเลยอุปสรรคมาจากคลื่นที่ปะทะร่างตลอดจน
กระดอนไปมาไม่หยุดนิ่ง แต่ไอ้คนซ้อนท้ายสุดกับกระเด็นตกน้ำเป็นที่เรียบร้อย นั่นเพราะฝีมือของสิงขรที่โผล่จากใต้น้ำห่าง
ไปราวยี่สิบเมตรยิงเข้าใส่มันจังๆ เพิ่งรู้ว่าการ์ดของมังกรแต่ละคนใช้วิธีของพยัคฆ์คือถอดเสื้อชูชีพหลอกพวกมันว่ายังลอยคอ
กันอยู่แต่ละจุด ความจริงต่างดำดิ่งหลบอยู่ใต้ท้องน้ำเพื่อรอจังหวะเก็บพวกมันทีหลัง นี่คงเป็นแผนสองที่พวกเค้ารู้กันอยู่
ก่อนแล้ว อาศัยหัวหน้าคือพยัคฆ์เป็นคนนำ ทุกคนรู้ดีว่านักฆ่าพุ่งเป้าแค่มังกรจึงอาศัยช่องโหว่นี้ทำกันสำเร็จ โดยแกล้งบาดเจ็บ
ลอยคอไม่ไหวติง ที่แท้มีแต่ชูชีพเปล่าไม่มีร่างคน
ถึงกระนั่นก็ไม่สามารถหยุดพวกมันให้พุ่งเข้าหามังกรอยู่ดี เพราะคนที่เหลือยังขับเจ็ทสกีทะยานต่อ
และแล้วมังกรก็ถูกยิงเข้าจนได้
“เปรี้ยงๆๆ!” ร่างกระตุกวูบเสียวแปล๊บตรงหัวไหล่ซ้ายกระสุนถากลึกพอสมควร นั่นเพราะโชคช่วย
ทำให้คลื่นที่ซัดใส่ร่างตลอดเวลาดันตัวไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่วิถีกระสุนของพวกมันจึงพลาดเป้าไป ก่อนที่ไอ้คนขับจะโดนพยัคฆ์
ซึ่งโผล่ขึ้นจากใต้น้ำขึ้นมายิงแสกหน้ามันไปเต็มๆ และไอ้คนซ้อนที่เหลือซึ่งเป็นคนยิงมังกรก็ถูกครรชิตส่องมันจากใต้น้ำไป
เรียบร้อยเช่นกัน เป็นอันว่าพวกมันทั้งสามคนดับชีวิตจมหายไปกับท้องทะเลด้วยฝีมือการ์ดของมังกร
ต้องยอมรับว่าการ์ดของมังกรที่พากันซ่อนตัวอยู่ใต้ผิวน้ำสามารถหลอกตาพวกมันด้วยเสื้อชูชีพเป็น
ผลสำเร็จ โดยยอมเสี่ยงใช้มังกรเป็นเป้าล่อให้พวกมันพุ่งความสนใจเข้าจัดการ
เหตุการณ์ยังไม่ยุติแค่นั้น แม้ปืนในมือของมังกรจะกระเด็นหายไปกับท้องทะเลแล้วก็ตาม แต่กล้องส่อง
ทางไกลยังคงทำหน้าที่ได้ดีด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียว ทำให้สามารถมองเห็นภาพระยะไกลกว่ากิโลอยู่ขณะนี้
มังกรอดยอมรับไม่ได้ว่าสุดยอดฝีมือตัวจริงคือเค้าคนนี้เอง เพราะนักฆ่าทั้งสามคนที่ตัดสินใจหันหัวเจ็ทสกี
หวังสกัดชายชุดดำซึ่งมังกรรู้ว่าคือ‘รามูน’กลับเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอย่างง่ายดายเพียงชั่วพริบตา ทั้งที่พวกมันสาดกระสุนรัวเข้าใส่
รามูนไม่ยั้ง แต่เจ้าตัวกลับบังคับกระดานโต้คลื่นติดเครื่องยนต์ความเร็วไม่ธรรมดา ด้วยลีลาท่าร่างพลิ้วไหวหลบหลีกฉวัดเฉวียน
อยู่บนคลื่นทะเลอย่างสง่างามปานนักกีฬาโอลิมปิก
และฉากอลังการของมัจจุราชเทพพระกาฬ ที่จัดการส่งพวกมันไปเข้าเฝ้ายมบาลก็สำแดงเดชขึ้น
เมื่อรามูนอาศัยแรงดันของคลื่นลอยตัวจากผิวน้ำทะยานสูงกว่าสี่เมตรพลิกตีลังกาโดยที่กระดานยังติดอยู่กับเท้าไม่มีหลุด
แถมยังเอามาใช้เป็นโล่กันกระสุนอีกต่างหาก สังเกตุจากประกายไฟซึ่งเกิดจากกระสุนยิงปะทะกระดานที่น่าจะหุ้มด้วยเหล็ก
พิเศษจนเกิดประกายไฟแลบออกมาให้เห็น
ก่อนที่ปืน 11 มม. ในมือมัจจุราชเทพพระกาฬจะยิงสวนในจังหวะม้วนตัวตีลังกาพากระดานโต้คลื่นลอยข้าม
เรือเจ็ทสกีของพวกมันด้วยท่าตีลังการาวดรอฟได้อย่างสวยงามจนน่าเหลือเชื่อ
“ปัง!..ปัง!..ปัง! อร๊าก!” ภาพที่เห็นผ่านเลนส์ชัดแจ๋ว ระหว่างลอยตัวกลางอากาศตีลังการาวดรอฟนั่น
รามูนยิงปืนออกมาสามนัดด้วยความเร็วที่จับภาพไม่ทันด้วยซ้ำว่าดึงปืนพกสั้นออกมาตั้งแต่ตอนไหน และทั้งสามนัดแม่นยังกับ
จับวางเจาะกลางกระหม่อมของมันสามคนจนเลือดสาดกระจายสมองสีขาวปลิวว่อนออกมาเหมือนภาพสามมิติยังกะอยู่ตรงหน้า
ของมังกรด้วยซ้ำ ถึงกลับสัมผัสได้กระทั่งกลิ่นคาวเลือดติดปลายจมูกกันเลย ก่อนที่ศพพวกมันจะร่วงลงทะเลไม่เหลือซาก
ตามพวกก่อนหน้าไปติดๆ
จังหวะที่สายตาเบิ่งกว้างอึ้งค้างอยู่นั่น มังกรลดกล้องออกจากลูกตาแทบไม่ทัน เมื่อเผลอสบเข้ากับแววตา
คมดุที่จ้องเขม็งมองมาจนรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของดวงตาคมดุยังกับเจ้าของลูกตาอยู่แค่ปลายจมูกห่างไม่ถึงคืบประมาณนั่น
ทำให้รู้ว่ามังกรกำลังจ้องเจ้าตัวอยู่ เลยต้องรีบลดกล้องหลบให้ไว ในขณะที่เริ่มปวดแผลตรงหัวไหล่ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
เพิ่งนึกขึ้นได้กลิ่นคาวเลือดที่ติดปลายจมูกเมื่อกี้ ที่แท้มาจากแผลโดนยิงตรงไหล่ขวาของตัวเองต่างหาก หาใช่รู้สึกจากภาพที่
เห็นเกือบกิโลเลยสักนิด
เหลียวมองรอบๆการ์ดแต่ละคนกำลังว่ายน้ำตรงเข้าหาตนเป็นจุดเดียวดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ความจริง
ตัวเองจะโดนยิงถากหัวไหล่เจ็บเอาเรื่อง แต่ก็ยังดีที่รอดชีวิตมาได้
พอถึงตอนนี้กล้ามเนื้อผ่อนคลายจากภาวะตึงเครียดก่อนหน้า บวกกับอาการปวดบาดแผลตรงหัวไหล่ซึ่งเลือด
ยังไหลไม่หยุด จนใบหน้าขาวใสกลายเป็นซีดไปแล้ว มังกรเลยตัดสินใจแหงนหน้าลอยคอหลับตานิ่งเพื่อลดความเจ็บทั้งที่
หัวคิ้วขมวดมุ่น สุดท้ายกลับสะดุ้งโหย่งลืมตาขึ้นทันทีทันใด เมื่อร่างกายถูกกระชากขึ้นจากผิวน้ำ
“โอ๊ะ!” หลุดปากสบถออกมาเพราะเจ็บแผลตรงหัวไหล่จนเผลอกัดกรามกรอด ต้องหุบปากสนิทเมื่อรู้ว่าใครเป็น
คนดึงร่างตัวเอง เหลือบมองช่วงแขนแข็งแรงที่สอดใต้รักแร้ลากเอาตนขึ้นมาพาดขวางบนเรือเจ็ทสกีอย่างกับมังกรเป็นกระสอบ
อะไรสักอย่าง คงไม่ต้องสงสัยว่าใครกล้าทำเช่นนี้ถ้าไม่ใช่ชายชุดดำนามว่า
‘รามูน’ มาตั้งแต่ตอนไหนมังกรไม่รู้ตัวสักนิดอย่างน้อยน่าจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเจ็ทสกี คงเพราะมังกรไม่รู้ว่า
ตนเพลียจากการเสียเลือดไม่น้อยที่คิดว่าแค่ปิดตาลงพัก แท้จริงสติจมดิ่งหลับไปแล้วด้วยซ้ำ จึงไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์
เลยต่างหาก
“หึ!” เสียงสบถในคออย่างไม่สบอารมณ์ของรามูน ทำให้มังกรหุบปากนิ่งไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจาก
ปากสีซีดแม้แต่คำเดียว ดันเผลอจ้องหน้าที่มีผ้าสีดำโพกตั้งแต่ศีรษะปิดมิดชิด ลืมตัวสบเข้ากับตาคมเข้มซึ่งวาวดุจ้องเขม็ง
ใส่ตามังกร จนคนถูกจ้องหนาวไปถึงไขสันหลังเลย สายตาคมที่แผ่รังสีอัมหิตอยู่ขณะนี้สามารถฆ่าคนได้เพียงชั่วพริบตา
เลยเชียวล่ะ
ส่วนคนชุดดำร่างใหญ่ที่ลากมังกรขึ้นมาพาดเทินอยู่บนเจ็ทสกี ก็ไม่พูดสักคำเช่นกัน นอกจากถือวิสาสะดึง
ชายเสื้อทำงานของมังกรออกจากเอวกางเกงโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของด้วยซ้ำ แล้วฉีกกระชากขาดออกเป็นชิ้นยาว ก่อนจะเอา
มาพันรอบบาดแผลตรงหัวไหล่เพื่อห้ามเลือดให้ ทุกการกระทำแม้จะไม่ได้รุนแรงมากนักแต่ก็ไม่ทะนุถนอมเล่นเอามังกรเม้มปาก
กัดฟันทนเจ็บไว้แน่น ไม่กล้าแม้แต่จะร้องออกมาซักเอ๊ะ ทั้งที่เจ็บจนเหงื่อซึมขมับ คนปกติคงน้ำตาเล็ดไปแล้วยิ่งมาเจอความ
เค็มของน้ำทะเลเข้าไปด้วย ไม่ชักกระแด่วๆ ก็อึดเหลือทน เหมือนมังกรตอนนี้ แม้จะหน้าซีดเม้มปากแน่นแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม
ร้องสักคำ
“เจ้านายเป็นอย่างไรบ้าง?” พยัคฆ์ที่ว่ายมาถึงก่อนใครเพื่อนเกาะขอบเจ็ทสกีเงยหน้าถามมังกรทันที
ก่อนพวกที่เหลือจะตามมาติดๆ
“......” เงียบสนิท นอกจากจะไม่ได้คำตอบจากปากของมังกรที่สะกดกลั้นความเจ็บอยู่ ยังได้รับสายตาดุจาก
คนรัดผ้ากระทั่งพยัคฆ์เองยังไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาอีกเลย คงเพราะรังสีอัมหิตและพลังการทำลายล้างที่แผ่จากร่างคนตรงหน้า
เชื่อว่าทุกคนสัมผัสได้โดยไม่ต้องพูดด้วยซ้ำ แค่ตาคมดุตวัดมองเท่านั้นทำเอาขนลุกไปเลย
ยังนึกขอบใจที่ชายผู้นี้ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อเจ้านาย เพียงแค่นั้นก็ถือว่าโชคช่วยมากแล้ว จึงไม่มีใครคิดจะ
เสี่ยงทำให้บุรุษร่างกำยำสูงใหญ่นัยน์ตาคมดุโมโหเป็นอันขาด เชื่อว่าต่างได้ประจักษ์ฝีมือของคนตรงหน้าเห็นมากับตา
กันแล้วทุกคน
“รีบพาไปทำแผลซะ” เสียงห้วนเข้มเชิงออกคำสั่ง พูดจบเจ้าตัวกระโดนลงไปยืนบนกระดานโต้คลื่น เพิ่งสังเกต
ว่าผูกเชือกติดกับท้ายเรือเจ็ทสกีเอาไว้ แสดงว่าเจ้าตัวขับเจ็ทมาโดยลากไอ้กระดานไฮเทคนี้มาด้วยพยัคฆ์ไม่รอให้บอกซ้ำ
ปีนขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ พร้อมพูดกับมังกรขึ้นว่า
“เจ้านายลุกขึ้นนั่งซ้อนท้ายผมไหวไหม?” มังกรไม่ตอบ พยายามยันตัวขึ้นเพื่อจะพลิกจากท่าพาดขวางลุกมา
นั่งคล่อมซ้อนท้ายพยัคฆ์ แต่เพราะความลื่นจากน้ำทะเลที่เปียกเบาะเจ็ทสกีทำให้ไถลกลับลงไปแอ่งแม่งในท่าเดิมอีก
จนกระเทือนบาดแผลเผลอซู๊ดปากออกมาจนได้
“อูย!” หลายคนเตรียมขยับจะเข้าไปช่วยเจ้านาย ทั้งที่ยังลอยคอกันอยู่ในทะเล แม้แต่พยัคฆ์ที่หันหลังมาหวัง
จะพยุงมังกร กลับช้ากว่าท่าร่างที่พลิ้วทีเดียวไปยืนคล่อมมังกรเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับอ้อมแขนแข็งแรงรวบกอดอุ้มเอาร่าง
สมส่วนที่นอนคว่ำขึ้นมาพิงออกหนา จนมังกรสัมผัสได้ถึงแผ่นหลังตนชิดอยู่กับอกล่ำและหน้าท้องแกร่งของคนอุ้ม หยุดชะงักนิ่ง
ไม่กล้าขยับสักนิด เหมือนมีพลังบางอย่างทำให้ไม่สามารถต่อต้านคนๆนี้ได้ ก่อนจะถูกยกให้นั่งคล่อมซ้อนท้ายของพยัคฆ์
ทุกการกระทำมังกรอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนชุดดำที่ไม่สามารถมองเห็นหน้าที่แท้จริงถึงแข็งแรงยกร่างตนยังกับยกตุ๊กตาหมี
สักตัวประมาณนั้น ทั้งที่ความจริงมังกรไม่ใช่ชายร่างเล็กบอบบาง ออกจะสมส่วนแข็งแรงด้วยซ้ำ
แล้วใบหน้าที่ซีดเผือดก็ให้ร้อนวูบขึ้นมา ในจังหวะที่ฝ่ามือใหญ่ถอนออกจากรักแร้ของมังกรดันสัมผัสเข้ากับ
หน้าท้องเนียนขาวที่แน่นไปด้วยกล้ามสวยเต็มๆ ถึงจะเพียงวูบเดียวแต่ความร้อนจากฝ่ามือกับทำเอามังกรเหมือนถูกไฟนาบ
ผิวเข้าให้ ถึงได้รู้ว่าบริเวณหน้าท้องตัวเองที่เสื้อถูกฉีกออกไปนั่น เผยหน้าท้องขาวจั๊วเกือบถึงลิ้นปี่ คิดในหัวยังไม่ทันไรเสื้อ
ชูชีพซึ่งลอยมาจากไหนไม่ทราบก็โป๊ะลงบนหน้ามังกรเต็มๆอย่างแม่น ท่ามกลางสายตาของการ์ดทั้งห้าคนที่ได้แต่อุทาน
เสียงขรม แต่ไม่มีใครกล้าขยับแม้แต่พยัคฆ์เองถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจต่อการกระทำของคนโยนสักนิดก็เถอะได้แต่เม้มปากนิ่ง
เพราะรู้ว่าตนไม่ใช่คู่มือคนๆนี้ ก่อนมังกรจะเป็นคนดึงเอาเสื้อชูชีพที่ปกหน้าออกด้วยตัวเองโดยใช้มือข้างที่ใช้งานได้นั่นแหละ
บรรยากาศอึดอัดมาคุตลอด แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกท่าทาง เหมือนมีบางอย่างกดดันทุกคนเอาไว้ อาศัยการ
นิ่งเป็นทางออก ปล่อยให้เจ้านายจัดการเอง
“ปิดท้องซะ!” สั่งเสียงเข้ม มังกรเองยังอดหงุดหงิดไม่ได้ที่ตนถูกคนตรงหน้าทำเหมือนเด็ก
ต่อหน้าลูกน้องด้วยสิกำลังจะอ้าปากปฏิเสธเพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องเอาอะไรมาปิด ตนก็ผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็ต้องหุบปาก
ลงยังไม่ทันได้พูด เมื่อคำสั่งแกมขู่ตามมาเหมือนประกาศิต
“อย่าให้ผมต้องไปปิดให้” ถึงลูกน้องแต่ละคนจะรู้ว่าบุรุษผู้มีรังสีอัมหิตตรงหน้ากำลังข่มขู่เจ้านายตนก็เถอะ
กลับไม่มีใครกล้าออกโรงปกป้อง เพราะสัมผัสได้ว่าคนผู้นี้ตึงมือเกินที่จะอวดเป็นพระเอก กระทั่งมังกรเองยังไม่กล้าแย้งสักคำ
พวกตนจึงได้แต่นิ่งปล่อยให้เจ้านายจัดการมังกรเลือกที่จะทำตามคือยอมเอาเสื้อชูชีพมาปิดท้องไว้ แล้วพูดขึ้นว่า
“ทำไมต้องปิดหน้า ลูกชายคุณเค้ามาอยู่กับผม ช่วยพาพี่หงส์มาพบเค้าหน่อย” มังกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
พร้อมกับสบตาคมดุโดยไม่คิดหลบอีก ความจริงตนคิดถึงหงส์ฟ้ามาก
“ฝากดูเค้าด้วย” พูดจบกระดานโต้คลื่นก็ติดเครื่องยนต์พร้อมกับทะยานออกไปทันทีโดยไม่รอให้มังกรหรือ
ใครๆได้ทันพูดไรต่อ ไปมาอย่างไม่มีวี่แวว แต่ที่แน่ๆนักฆ่าเทพพระกาฬหรือรามูนคนนี้คอยวนเวียนคุ้มครองมังกรไม่งั้นคงไม่โผล่
มาช่วยได้ทันในช่วงวิกฤต ยิ่งเป็นแบบนี้มังกรเองยิ่งต้องการไขปมปริศนา ซึ่งงงกับการกระทำของพี่เขย แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
เพราะไม่สามารถคุยอะไรในตอนนี้
พยัคฆ์ขับเจ็ทสกีพามังกรกลับเข้าฝั่งเพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนการ์ดที่เหลือรอเรือเร็วซึ่งอานนท์กับ
คงเทพขับมารับพวกเค้ากลับเข้าฝั่งเช่นกัน สินค้าบนเรือที่ตั้งใจจะขึ้นไปตรวจเป็นอันต้องพับเก็บไว้ก่อน ยังไงคงต้องรอสอง
สามวันเพราะเรือส่งสินค้ายังไม่ออกจากท่าจนกว่าจะทำเรื่องขนถ่ายกันเสร็จ ไว้ค่อยมาตรวจทีหลังก็ได้นั่นคือความคิดของมังกร
ที่ยังไม่ละความตั้งใจแต่แรก
สุดท้ายแล้วแม้จะได้พบกับรามูนอีกครั้ง แต่เหมือนพี่เขยของตนสร้างกำแพงและมีพลังบางอย่างทำให้ไม่
สามารถจับเข่าพูดคุยเหมือนคนทั่วไป คงต้องรออีกสักระยะ คิดว่ายังไงครั้งหน้าก็ต้องได้เจออีกแน่?
มาลงต่อให้แล้วก่อนนะคะตามสัญญา พรุ่งนี้ไม่ว่าง อัพอีกทีวันจันทร์เลยนะคะ ที่ 27 นี้นะคะ
ขอบคุณที่ยังรักกัน เพราะคนอ่านที่น่ารัก ที่รีไพฯทั้งคอมเม้นท์ ที่มีส่วนร่วม
จึงทำให้คนเขียนมุมานะเขียนงานออกมาได้เช่นนี้
Luk.
@@ ข่าวดี!!@@เปิดจองนิยายเรื่อง 'มนต์มาร'ตั้งแต่วันที่ 8 - 25 กุมภาพันธ์ 2555(ตอนนี้ยอดจองเหลืออีก 100 ท่านค่ะ?)จะได้รับผลงานการเขียนฉบับพ็อกเก็ตบุ็ค ของพี่วีจำนวน 10 ตอน ฟรี!พี่วีใช้ชื่อหนังสือพิเศษนี้ว่า
'แม่พระของวี' ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ไม่มีขาย ความหนาประมาณ 100 หน้าหาซื้อไม่ได้
การันตี ใครอ่านเรื่องนี้คุณต้องรักแม่และครอบครัวมากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน เป็นความอนุเคราะห์และอภินันทนาการพิเศษ
เพื่อไว้อาลัยให้กับคุณยาย คุณแม่ของพี่วีที่เพิ่งเสียไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา หนังสือเล่มนี้บรรยายความรักความผูกพัน
ของพี่วีกับคุณแม่ ที่พี่เค้าเคารพบูชายิ่ง
'แม่พระของวี' ปล.สำหรับมนต์มาร แถมตอนพิเศษ 5 ตอนในเล่มเท่านั้น สนใจส่งเมลล์มาลงชื่อจองพร้อมขอเลขลำดับการจองได้ที่
luxilove_19690แอด hotmail ดอท com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปค่ะ (รูปเล่ม และรายละเอียดจะเปิดตัวราววันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้)