Last Chance ║โอกาสสุดท้าย║
ผมกำลังยืนอยู่บนยอดตึก
สองเท้าเหยียบอยู่บนระเบียง
เหม่อมองท้องฟ้าและเมฆเบื้องหน้าที่ดูจะชัดเจนกว่าทุกวันโดยเฉพาะพระจันทร์ที่วันนี้เป็นพระจันทร์เต็มดวงซึ่งก็น่าจะเป็นฟูลมูนด้วยจากข่าวที่ได้ยินมาแว่วๆ ตอนเช้า
แสงสีนวลของมันสวยจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
ผมก้มมองพื้นเบื้องล่างก็อดหลงใหลอีกไม่ได้
มันงดงามราวกับภาพวาด
ถนนหนทางและรถราที่ดูยุ่งเหยิงเมื่อยามที่มองบนพื้นดินแต่เมื่อมองบนนี้กลับสวยเอามากๆ สีสันของมันทำให้ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวา
มันสวยมากจนผมอยากที่จะขยับเข้าไปใกล้มันให้มากกว่านี้...
เสียงลมหวีดหวิวดังเสียดหูทำให้เท้าที่กำลังจะเหยียบในบนอากาศชะงัก
คล้ายกับพวกมันกำลังตำหนิการกระทำของผม
ผมขมวดคิ้วมุ่นส่งเสียงหึใส่มันหงุดหงิด
ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม
ผมสูดหายใจลึกแต่อากาศที่เข้าปอดไปกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกสดชื่นสักเท่าไหร่
หน้าอกผมมันเจ็บแปลบไปหมด เหมือนกับว่ามันปฎิเสธออกซิเจนที่ผมรับเข้าไป
ไม่ไหว ร่างกายผมนี่มันน่ารำคาญชะมัด แค่ทำตัวตามสัญชาตญาณเพื่อเอาชีวิตรอด จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องทำให้ผมรู้เจ็บปวดมากขนาดนี้
แย่ แย่เกินไปแล้ว
ผมก้มมองพื้นเบื้องล่างอีกครั้ง
ระดับความสูงที่เหนือกว่าน้ำทะเลหลายร้อยเมตรดูจะไม่ใช่สิ่งที่จะมีไว้เฉยๆ
มันสูงมากเลยล่ะ สูงจนมองเห็นอะไรได้ไม่ชัดเลยสักนิด
"ฮึก"
ผมยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองงุนงง
ผมร้องไห้ทำไม..? ในเมื่อสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยากจะทำมาตลอด
ในเวลาระยะเวลาสิบกว่าปีไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงสถานที่นี้
สถานที่ที่ผมสามารถปลดปล่อยตัวเอง
สถานที่ที่เข้าใกล้กับสิ่งที่อยู่ในจินตนาการมนุษย์มากที่สุด
ผมไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะได้ไปสวรรค์ ผมไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้นนอกจากการหลุดพ้นจากความเจ็บปวด ความรู้สึกต่ำต้อยจากการอยู่เฉยๆ เฝ้ารอความตาย
ทุกคนเสียสละเพื่อผมมามากพอแล้วถึงเวลาที่ผมจะเสียสละเพื่อพวกเขาบ้างแล้ว
"…"
ผมก้าวขาไม่ออกไม่รู้ทำไมตัวเองถึงสะอื้นจนตัวโยน
อยู่ดีๆ ความรู้สึกเจ็บปวดก็จุกขึ้นมาที่ลำคอจนผมยืนแทบไม่อยู่
ผมลูบแขนตัวเองที่ยังคงมีร่อยรอยของเข็มน้ำเกลือและเลือดที่เกรอะกรัง
ความทรงจำภาพผู้คนที่ดูแลผมมาตลอดมันพยายามฉุดรั้งผมเอาไว้อย่างเต็มกำลัง
"ฮือ.."
ผมสะอื้น
พี่พยาบาลคนนั้นต้องโกรธมากแน่ถ้ารู้ว่าผมหนีออกมาจากโรงพยาบาลครั้งแรกเพื่อมาทำอะไรแบบนี้
แต่ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ กับสภาพของตัวเอง
ผมเป็นภาระมานานเกินพอแล้ว ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียสละเพื่อผมอีก กับโรคที่ไม่มีวันหายทำได้แค่ประคับประคองอาการไปเรื่อยๆ
"แค่ก"
เลือดกลุ่มหนึ่งเปรอะเสื้อผมจนชุ่ม
ผมกลอกตา มันเอาอีกแล้ว งอแงอีกแล้วร่างกายของผม
"พอกันที.."
ผมใช้หลังมือเช็ดปากที่ฟุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือด
หวังว่าที่แห่งนั้นจะต้อนรับผม
"เมฆ!!!!"
เสียงตะโกนดังลั่นอย่างฉุนเฉียวเรียกให้ผมกลับไปมอง
ผมส่งยิ้มเล็กๆ ให้ร่างคุ้นหน้าคุ้นตาผม
คนรักของผมเอง..
"คิดจะทำอะไร ลงมาเดี๋ยวนี้!!!"
ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาตอนนี้ซีดเผือด ผมเห็นร่างของเขาสั่นเทาจนน่ากลัว
จะว่าไปก็น่าประทับใจนะ ที่เขาหาผมเจอทั้งๆ ที่ผมเคยบอกเขาถึงสถานที่นี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและมันก็ผ่านไปหลายปีจนผมคิดว่าเขาลืมไปแล้วด้วย
แต่..เขากลับจำได้
"…"
ผมฉีกยิ้มให้เขาไม่พูดอะไร ผมจำได้ว่าเขาบอกว่ารอยยิ้มของผมทำให้โลกสดใส
"จะยิ้มทำไมวะ!!! ลงมา!!" เขาตะคอกดวงตาขึ้นสีแดงก่ำจนน่ากลัว
ผมย่นคอหวาดๆ เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่แฮะ จากคนที่ยิ้มยากอยู่แล้วตอนนี้แทบกลายเป็นปีศาจกระโจนเข้ามาบีบคอผมเลย
"...เปล่าประโยชน์" ผมยิ้มเศร้าๆ ให้เขา "พี่เสียเวลากับผมมามากเกินพอแล้ว"
ค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดเป็นคนรักผมที่จ่ายให้ เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดังในสังคม มีเงินเป็นฟ่อนๆ เอาไว้เปย์ผม เวลาผมอยากได้นู่นได้นี่เขาก็จะซื้อให้
แต่ยังไงสักวันมันก็ต้องมีวันหมด ค่ายาค่าพยาบาลที่ผมใช้มันไม่ใช่น้อยๆ เลยในแต่ละเดือน
"ไม่.."
ผมสะดุ้งเมื่อเห็นน้ำตาพี่เขา
"ลงมา เมฆ.. ลงมา"
พี่เขาสะอื้นจนตัวโยน
มันทำให้ผมเศร้าตามแต่ผมก็ยังคงยิ้มอยู่ พี่เขาชอบให้ผมยิ้ม ผมก็จะยิ้มเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน ผมกับพี่เขานี่สมัยตอนเรียนมหาลัยนี่ไม้เบื้อไม้เมากันมาก พี่เขาเป็นพี่ว้ากส่วนผมเป็นเด็กเฮี้ยวชอบปีนเกลียว บทสรุปคือได้กันเอง ตลกดี ผมชอบพี่เขานะ ชอบมากจนถึงตอนนี้ก็ยังชอบเหมือนเดิม
แต่อะไรๆ มันก็ควรจะมีขีดจำกัด
"ผมไม่อยากเป็นภาระพี่แล้ว"
ผมยิ้มแม้ว่าน้ำตาจะไหลอาบใบหน้า
"ผมทำให้พี่ทะเลาะกับพ่อ ผมผลาญเงินพี่ ผมทำให้พี่เสียเวลาเป็นสิบๆ ปีกับผมที่วันๆ นอนอยู่แต่โรงพยาบาล ผมคงจะเป็นคนรักที่เหี้ยที่สุดในโลกเลยว่ะ"
ผมรับไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ทำไมพี่เขาถึงยังสู้อยู่ผมไม่เข้าใจ ผมหมดหวังกับตัวเองไปตั้งนานแล้วแต่พี่เขาก็ยังเชื่อว่าผมจะหาย แต่ใครจะไปรู้จักผมนอกจากตัวผมเอง
ผมรู้ว่ามันไม่เคยดีขึ้นและมันจะไม่มีวันดีขึ้น
"ผมขอนะพี่... พี่พอเถอะ"
"ไม่เมฆ ไม่.."
พี่เขาพูดเสียงเครือผมเค้าความเป็นนักธุรกิจรูปหล่อที่มักจะขึ้นปกนิตยสารธุรกิจบ่อยๆ
"ไม่มีเมฆแล้วพี่อยู่ไม่ได้..."
ผมยิ้มบาง
"พี่อยู่ได้ เชื่อผมสิ ก่อนที่เราจะเจอกันพี่ยังอยู่ได้เลย"
ผมก้มมองพื้นเบื้องล่างในขณะที่ในหัวเริ่มได้ยินเสียงว่ารีบๆ ลงไปได้แล้ว
"ไม่!!! ผมสั่งให้คุณลงมา!!!"
เสียงตะคอกของพี่เขาเล่นเอาผมสะดุ้งจนเกือบตกจากระเบียงเข้ามาในตึก
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไปหมด
ทำไมกับแค่การกระโดดลงจากตึกนี่มันทำได้ยากนักนะ
"ทำไมพี่ต้องรักผมขนาดนั้น"
ผมหันไปถามพี่เขานิ่งๆ
เอาเข้าจริงผมก็รักพี่เขามากพอๆ ที่กับที่เขารักผมนั่นแหละ
ไม่อย่างนั้นผมจะทำแบบนี้เหรอ.. ลองคิดดูสิ ผมป่วยเขาก็ดูแลโดยไม่มีอะไรตอบแทน ผมรักพี่เขาก็จริงแต่ผมเจ็บปวดที่ผมทำอะไรเพื่อเขาไม่ได้สักอย่าง มันไม่เหมือนกับตอนที่ผมยังปกติ ผมในตอนนั้นชอบทำนู่นทำนี่มาเซอร์ไพรส์คนหน้านิ่งให้เปลี่ยนสีหน้าบ้างแต่ตอนนี้ผมทำมันไม่ไหวแล้ว..
เอาเข้าจริงแค่ยืนเฉยๆ ตอนนี้ผมยังขาสั่นเลย
ร่างกายผมมันแย่เกินเยียวยาแล้วถึงเวลาที่ผมควรจะจบมันสักที
"เมฆ.. ลงมาเหอะ พี่ขอร้อง" พี่เขาทรุดตัวลงบนพื้นเหมือนกลัวจนยืนไม่อยู่ ใบหน้าที่หลังๆ อมทุกข์ขึ้นเพราะอาการของผมตอนนี้บิดเบี้ยวจนผมทนมองไม่ได้
ผมร้องไห้
"ผมอยู่ได้ไม่นานหรอกพี่ ที่ผมยังอยู่ก็แค่รอเวลาเท่านั้น"
"เมฆ... ลงมา"
ผมฉีกยิ้มให้แต่ก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
"ผมรักพี่นะ"
ผมหยั่งเท้าลงไปในอากาศหนึ่งข้าง
ความรู้สึกหวาดกลัวจู่โจมเข้ามาก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความสงบ
ลมหายใจของผมสม่ำเสมอ
ผมหันไปมองพี่เขาที่มองผมโกรธๆ ทั้งน้ำตา
"เมฆ!!!!"
พี่เขาตะคอกด้วยเสียงที่ทั้งกราดเกรี้ยวและหวาดกลัว
ผมเงยหน้ามองพระจันทร์อีกครั้ง
"ผมเคยเชื่อนะพี่ว่าผมจะหาย.. แต่ผมเชื่อจนเลิกเชื่อไปตั้งนานแล้ว"
"เมฆ.."
พี่เขาเรียกผมเสียงแผ่ว
"กลับมาเถอะ"
"ถ้านั่นเป็นคำขอของพี่ ผมขอโทษที่ผมทำให้ไม่ได้"
ผมยิ้ม
"ตาผมขอบ้าง ผมขอให้พี่เจอคนดีๆ ไวๆ"
แปลกที่ผมรู้สึกจุกขึ้นมาถึงลำคอ
"ผมขอให้พี่เจอคนที่ดีกว่าผม แค่ก"
ผมสำลักเลือดอีกกลุ่มซึ่งคราวนี้ชุ่มแขนผมเลยทีเดียว
ผมหลับตาพยายามพูดต่อแต่รู้สึกถึงหัวใจที่สั่นเทาของตัวเอง การหายใจในแต่ละครั้งของผมดูจะยากเย็นขึ้นจนผมไม่อยากหายใจ
มันเจ็บมาก.. สงสัยยาแก้ปวดที่ผมกินมันจะหมดฤทธิ์ไปแล้วล่ะมั้ง
"ไม่.. เมฆ พี่ขอแค่เมฆคนเดียวก็พอแล้ว"
ผมสะดุ้งเมื่อเสียงอยู่ใกล้มากและพอลืมตาก็พบว่าพี่เขามายืนตรงหน้าผมแล้ว
"!!!!"
มือหนากระชากตัวผมกลับจนผมล้มทับพี่เขากลับเข้าฝั่งตึก
ผมปล่อยโฮดังลั่นพยายามตะเกียกตะกายกลับขึ้นไปแต่ก็แพ้แรงของคนปกติอยู่ดี
"พี่ปล่อยให้ผมตายเหอะ ผมไม่อยากอยู่แล้ว!!!"
ผมตะโกนเสียงแหบแห้ง
"ผมอยู่ก็เป็นภาระพี่จะให้ผมอยู่ทำไม ผมควรจะตายไปตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าป่วยแล้ว!!"
ผมไม่อยากเห็นใครต้องร้องไห้เพราะผมอีก
ไม่อยากเห็นอีกแล้ว..
มือหนาๆ ลูบหัวผมเหมือนปลอบประโลมเด็กที่กำลังขวัญเสีย
"ชู่ว.. ไม่ร้อง"
ผมตัวสั่น
"พี่จะให้ผมมีชีวิตทำไมวะ ในเมื่อผมอยู่ก็เหมือนตาย"
พี่เขากอดผมแน่นแล้วจูบผมเบาๆ ที่หน้าผากอย่างทะนุถนอม
"ถ้านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพี่ พี่ก็อยากดูแลเมฆให้ดีที่สุด"
ผมพูดอะไรไม่ออกสะอื้นฮักกอดพี่เขากลับ
เสียงลมหวีดหวิวหายไปแล้ว
ผมเหมือนเห็นอีกาตัวนึงเกาะอยู่ไม่ไกล มันเอียงคอไปมาจดจ้องผมนิ่งก่อนที่มันจะตีปีกบินพึ่บพั่บจากไป
แปลกดีที่ตึกสูงขนาดนี้มีอีกา... จะว่าผมเคยได้ยินว่าถ้าเห็นอีกาแล้วจะมีคนตาย
ผมหัวเราะในลำคอ
มันเดาถูกนะว่าจะมีคนตายแต่คนตายที่ว่านั่นมันคงไม่ตายวันนี้หรอก
ผมหลุดหาวหวอดออกมาครั้งนึงและหลับตาลง ปล่อยให้ตัวเองถูกอุ้มและพากันไปยังที่ของตัวเอง
สุดท้ายผมก็ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จและกลับมานอนเปื่อยที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือต้องเจอจิตแพทย์บ่อยขึ้นด้วย ผมถูกเข้าปรับสภาพจิตใจปรับยาเพิ่มโดสนู่นนี่นั่น
แต่ผมก็รู้ตัวอยู่ดีว่ามันไม่มีประโยชน์
ในเมื่อสายตาของผมยังจดจ้องอยู่ที่ระเบียงห้องอยู่เสมอ
"อย่ามอง"
พี่เขาเอ็ดเสียงดุเอาร่างใหญ่ๆ มันขวางสายตาผม
เขาชอบสู่รู้ไปหมดว่าผมคิดอะไรอยู่ในหัว เผลอๆ รู้ด้วยซ้ำว่าแผนครั้งต่อไปของผมคืออะไร
เพราะอาการของผมตอนนี้ทรุดหนักลงกว่าเดิมมาก..
"อยากตายมากรึไง?"
ผมหน้ายู่เมื่อถูกถามด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม น่ากลัวชะมัดเลย ผมถอนหายใจเบือนหน้าหนีเพราะมันแทงใจดำเกิน
"พี่จัดให้ได้นะ ตายคาเคียงแบบมีความสุขน่ะ"
ผมหลุดขำเฝื่อนๆ
"ถ้าพี่ไม่อายพยาบาลก็เชิญเลย"
ล่าสุดที่เรามีความสัมพันธ์กันมันก็จะสิบปีแล้ว จนผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่เขาอดทนได้ไงถึงตอนนี้
"ก็อยากอยู่"
พี่เขาลูบหน้าผมแล้วจูบเบาๆ ที่จมูก
แปลกที่น้ำตาผมไหลอีกแล้ว
"ไว้เราหายก่อน จะเอาให้ไม่ได้ลุกจากเตียงเลย"
ผมเบือนหน้าหนีพี่เขาแต่ก็ถูกมืออุ่นๆ ตามเช็ดน้ำตาให้อยู่ดี
ทำไมพี่เขาถึงยังเชื่อว่าผมจะหาย
ทั้งๆ ที่หมอก็บอกว่าผมโอกาสที่ผมจะหายมันน้อยมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าช่วงนี้อาการของผมแย่กว่าครั้งก่อนมากก็ยังทำตัวเหมือนปกติ ดูแลผมอย่างดีจนผมรู้สึกผิด
พี่เขากำลังหลอกตัวเองอยู่...
คืนนี้ผมนอนไม่หลับ
ผมทรุดตัวขึ้นมานั่งมองระเบียงเห็นคนรักของตัวเองนอนคู้ตัวอยู่บนโซฟากับผ้าห่มเน่าๆ ที่ผมซื้อให้เมื่อสิบปีที่แล้ว
ผมอ้าปากกว้างพยายามหายใจ อากาศในตอนนี้สำหรับผมราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย
เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าการหายใจเป็นสิ่งที่ยากและเจ็บปวดเหลือเกิน
ผมหันไปมองทางระเบียงรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงและบีบรัดแน่นจนน่ากลัว หัวสมองของผมอื้ออึงจนปวดไปหมด แม้แต่ตาของผมยังพร่าจนมองไม่เห็นอะไรไม่ชัดนัก
มันถึงเวลาแล้วใช่ไหม..?
ผมมองที่กดเรียกพยาบาลข้างกายแล้วเลือกที่จะเมินมันไป
ผมสูดหายใจลึกแม้มันจะเจ็บจนร้าวไปทั้งตัวแต่ผมก็ยังพยายาม ผมค่อยๆ พาตัวเองลงจากเตียงทั้งๆ ที่มีสิ่งที่ติดค้างบนตัวผมมากมาย สายน้ำเกลืออากาศสายอาหารบ้าบอคอแตกเยอะแยะไปหมดจนผมไม่รู้ว่าผมทนให้มันอยู่บนร่างกายผมได้ยังไง
ผมยอมรับว่าผมเจ็บมากกับการเคลื่อนไหวในแต่ละก้าวของร่างกายแต่ในที่สุดผมก็พาตัวเองมาหยุดที่ระเบียงได้
กา กา
ผมเปิดม่านและฉีกยิ้มให้เจ้าอีกาตัวเดิม มันเอียงคอไปมาแล้วส่งเสียงทักทายผมและใช้ปากจิกกระจกเหมือนชวนผมให้ออกไปหามัน แน่นอนว่าผมตอบรับคำชวนมันแน่ๆ
ผมสาวเท้าช้าๆ
ทีละก้าว.. ทีละก้าว
มาหยุดตรงหน้าคนรักผมไม่ใช่นอกระเบียง
ครั้งนี้ผมเลือกเขา
"ขอโทษ.."
เสียงของผมแหบพร่าจนเหมือนไม่ใช่เสียงมนุษย์
ผมหันไปยิ้มเศร้าๆ ให้เจ้าอีกาแล้วกระชับมือคนรักของผมแน่น
มันอุ่น.... ต่างจากมือของผมที่เย็นเฉียบและซีดราวกับซากศพ
ผมแนบหน้าลงกับฝ่ามือเขาแล้วหลุดยิ้ม
รู้สึกดีชะมัดเลย..
"...อือ"
เขาครางในลำคอแต่ก็ยังจมอยู่กับความฝัน
"ฮึก"
ผมหลุดสะอื้นออกมาคำนึงแล้วกลืนมันลงไป ผมจูบมือหลังเขาเบาๆ ครั้งนึงและผละออกมา ผมหยิบผ้าห่มที่ซื้อให้เขามาห่มให้เขาดีๆ
แปลกที่แค่จับผ้าห่มมันก็ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ซื้อมัน ตอนนั้นผมก็แค่นึกสนุกซื้อผ้าห่มลายคิตตี้ให้เขาเพื่อแกล้งแต่ใครจะไปรู้ว่าเขายังเก็บมันไว้อย่างดีจนถึงตอนนี้มันก็ยังดูใหม่และสะอาดอยู่
"ขอโทษนะ"
ผมฉีกยิ้มให้พี่เขาที่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของผม
"อึก"
หัวใจในอกบีบรัดแน่นจบผมทรุดตัวกองบนพื้น
มันเจ็บมากจนสติของผมแทบพร่าเลือน
ผมรู้ว่าถ้าตัวเองเผลอหลับไปครั้งนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้น..
แต่ผมก็หยุดมันไม่ได้
กา!!!!
อีกาตัวย่อมแผดเสียงพยายามเรียกผมทำให้ผมได้สติขึ้นมานิดๆ ผมหันไปยิ้มให้มันเชิงขอบคุณแล้วหยิบปากกาน้ำเงินที่วางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟาพอดีขึ้นมาเพื่อวาดรูปบางอย่างบนมือพี่ผา
"แค่ก!"
ยังไม่ทันวาดผมก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะไปทั่วซึ่งมันก็มาพร้อมกับความเจ็บปวดขั้นเลวร้ายที่สุดของผม ผมกัดฟันกรอดกำปากกาแน่นแล้ววาดรูป
♥ รัก
พี่ผาขอผมเป็นแฟนด้วยวิธีนี้
ผมเลยใช้วิธีแบบเดียวกันในการลา
"ผมรักพี่นะ พี่ผา"
ผมพูดสิ่งที่อยู่ในหัวตัวเองตลอดเวลาที่รู้จักกันมาทั้งที่น้ำตานองหน้า
"ขอบคุณที่ดูแลผมมาตลอด"
กา กา
ผมหันไปยิ้มกว้างให้อีกาที่ส่งเสียงดังกังวาน
ผมไม่รู้ว่าเจ้าอีกาตัวนี้เป็นยมทูตที่มารับผมหรือเปล่าแต่ผมก็ขอบคุณสำหรับความใจดีของที่ทำให้ผมได้ใช้โอกาสสุดท้ายในการคนที่ผมรักที่สุดในชีวิต
ตึง!
ดวงตาของผมพร่ามัวพร้อมๆ กับร่างของผมล้มฟาดลงกับพื้น
ก่อนที่สติจะหายไปจริงๆ หางตาของผมเห็นเจ้าอีกา มันเอียงคอไปมานิดๆ จ้องมองผม
ผมยิ้มให้มัน
"ขอบคุณนะ"
ผมไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจผมไหม
แต่ผมขอบคุณมันจริงๆ
และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้
END
-------------------------------
สำหรับคนที่เคยอ่านงานเก่าๆ จะรู้สึกว่ากลิ่นคล้ายเรื่องสเวนเลยค่ะ 55555 แอบคิดถึงฟีลเก่าๆ เลยเขียนอีก
ส่วนอีกาในเรื่องนี่ก็เป็นอีกาที่ชื่อขึ้นต้นด้วย ฟ ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ติดตามผลงานอื่นได้ที่ :
https://www.facebook.com/FoggyTime/